หมวดวชิ า เกษตรกรรม
รูปตน สละ
รูปดอกสละ รูปผลสละเปนพวง
กรมการศึกษานอกโรงเรียน
กระทรวงศึกษาธิการ
หมวดวชิ า เกษตรกรรม
1. การปอ งกนั และกาํ จัดศัตรูทเุ รยี นโดยวธิ ผี สมผสาน
2. การบรรจุหบี หอ และตลาดทเุ รยี น
3. สละผลไมทองในอนาคต
4. การผลติ ตนพนั ธุสละเพ่อื จาํ หนาย
5. การจัดการเล้ียงพอแมพ ันธตุ ะพาบนํา้
6. การผลิตตะพาบน้ําเพื่อการคา
7. การผลิตแมงกะพรุนแหง
8. การผลิตมังคุดเพื่อการคา
ชุดวชิ า
สละผลไมทองในอนาคต
หมวดวิชา เกษตรกรรม
รหสั ....
ศูนยการศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก
กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
ชุดวชิ า
สละผลไมทองในอนาคต
คณะท่ีปรึกษา อธิบดกี รมการศึกษานอกโรงเรยี น
ผเู ชยี่ วชาญพิเศษกรมการศึกษานอกโรงเรยี น
1. ดร.รุง แกวแดง ผอู ํานวยการศูนยก ารศึกษานอกโรงเรยี น
2. ดร.บญุ เลิศ มาแสง ภาคตะวันออก
3. นายบุญสง คูวรากุล
คณะกรรมการชุดวิชา ประธาน
ผเู ชยี่ วชาญเนือ้ หา
1. นายทวีป ร่นื รมย ผเู ขยี น
2. นายทวปี ร่นื รมย นักเทคโนโลย ี
3. นายทวีป รื่นรมย นักวัดผล
4. นายสัญชยั รอบรู บรรณาธิการ
5. นางสาวสมทรง นลิ นอย เลขานุการ
6. นางสาวสรุ ตั นา บูรณะวทิ ย
7. นายอดุล เทีย่ งสนุ ทร
พิมพครง้ั ท/่ี เดอื น/ป
ISBN......
พมิ พท โี่ รงพมิ พ/
สาํ นกั พิมพ................................สถานที่ตั้งเลขท่ี........โทร.........
สงวนลิขสทิ ธิ์โดยกรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น กระทรวงศกึ ษาธิการ
จํานวนพิมพ.........ราคา........บาท
ทําสวนผลไมในประเทศไทย จําเปนตองคํานึงถึงสภาวะดิน
ฟาอากาศ โรค และแมลง รวมทง้ั การดแู ลรกั ษา ซง่ึ ปจ จบุ ันนใี้ นภาค
ตะวันออก ผลไมท ม่ี ีชื่อเสียง ไดแก ทเุ รยี น เงาะ มังคุด กระทอน
เปน ตน แตผ ลไมท กี่ ลา วมาจําเปน ตอ งมแี หลง นา้ํ ทสี่ มบรู ณ ตองการความเอาใจ
ใสในการดูแลรักษามากมาย สิ้นเปลืองตนทุนในการผลิตปละมาก ๆ และ
เมื่อถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยว ก็มักจะประสบปญหาเนื่องจากผลผลิตมีราคาถูก
สละเปนผลไมท น่ี ยิ มปลกู กันมากในภาคตะวนั ออก เพราะเปน ผลไมท่ีไมตอ ง
ดูแลรักษามากมายนัก อีกท้ังผลผลิตที่ออกมาก็ขายไดในราคาสูงกวาผลไม
ชนิดอื่น ๆ อกี ทั้งตนทุนที่ใชในการผลิตก็ตา่ํ จงึ นบั ไดวา สละตองเปน ผลไม
ทองในอนาคตอยา งแนน อน
ชดุ วิชานี ้ มงุ เนนใหช าวสวนไดรถู งึ วิธีการผลิตสละท่ถี ูกตอง ตามหลกั วชิ าการ
และขายผลผลิตไดในราคาท่สี ูง เพอื่ เปนการเพม่ิ รายไดใ หกบั ครอบครัว
กรมการศกึ ษานอกโรงเรียน ขอขอบคณุ คณะกรรมการผลิตชุดวชิ า ตลอดจนผู
เกี่ยวของในการจัดทาํ ชุดวิชาน้ีทุกทาน และหวังเปนอยางยิ่งวา ชุดวิชานี้จะ
สามารถอํานวยประโยชนใ หกบั ชาวสวนและผสู นใจเปนอยางดี
(นายรงุ แกว แดง)
อธบิ ดกี รมการศกึ ษานอกโรงเรยี น
คําแนะนําการใชชุดวิชา หนา
แบบทดสอบกอนเรยี น ก
โครงสรา งของชุดวิชา ข
ตอนที่ 1 สภาพภมู ิอากาศและพ้นื ทป่ี ลูกสละ ค
1
เรอื่ งท่ี 1 สภาพภมู อิ ากาศที่เหมาะสมกับสละ 2
เร่ืองท่ี 2 พ้นื ทีป่ ลูกสละในภาคตะวนั ออก 2
ตอนที่ 2 การปลูกสละ 5
เร่ืองที่ 1 วิธกี ารปลกู สละ 6
เรอ่ื งที่ 2 การเตรียมพน้ื ท่ีปลกู สละ 7
เร่อื งท่ี 3 ประเภทของการปลูกสละ 8
ตอนท่ี 3 การดแู ลรักษาสละ 11
เรอ่ื งที่ 1 การดแู ลรกั ษาสละกอ นใหผล 12
เรอ่ื งท่ี 2 การดูแลรกั ษาสละหลงั ใหผล 15
ตอนท่ี 4 การปอ งกันและกําจัดศัตรูสละ 18
เรอ่ื งที่ 1 โรคของสละ 19
เรอ่ื งที่ 2 แมลงสาํ คัญท่ที าํ อันตรายตอสละ 22
เรอ่ื งที่ 3 สัตวศตั รขู องสละ 25
ตอนท่ี 5 การเก็บเกีย่ วและการตลาด 28
เร่อื งที่ 1 ลักษณะผลสละท่เี กบ็ เกี่ยวได 29
เรอื่ งท่ี 2 การตลาดสละ 31
แบบทดสอบหลงั เรยี น 33
แนวเฉลยกิจกรรม 34
แหลง ความรแู ละเอกสารท่คี วรศึกษาเพิ่มเตมิ 35
บรรณานุกรม 36
ก
1. ชดุ วชิ า สละผลไมท องในอนาคต เปน สื่อประกอบดว ยเอกสารชดุ วชิ า
จํานวน 5 ตอน
2. ชุดวชิ านีจ้ ดั ทําขึน้ สําหรบั ผมู อี าชีพทาํ สวนสละหรือผสู นใจทวั่ ไป
3. ขบวนการเรียนการสอนในชุดวชิ าน ี้ เปนไปตามความสามารถของแตละ
บุคคล เพราะทานตอ งศึกษาหาความรูดว ยตัวทานเอง
4. ควรศกึ ษาโครงสรา งของชุดวชิ านี้ใหเ ขาใจเสียกอ น เพอื่ จะไดท ราบจดุ เนน
และขอบขา ยเน้ือหาของชุดวิชา
5. เพอื่ ใหร แู ละเขา ใจยง่ิ ขนึ้ ทา นตอ งปฏบิ ตั ิตามกจิ กรรมทก่ี าํ หนดไวใ นชดุ วชิ า
น้ีทุกกจิ กรรมอยา งละเอียด
6. กอนที่ทานจะไปพบผรู ู ทา นควรศึกษาลักาณะนิสัย ใจคอของผูรเู สียกอ น
เพอ่ื หาวธิ ีการทีด่ ีที่สดุ ในการพบแตล ะครงั้
7. ทา นตอ งทาํ การประเมินผลกอ นศึกษาชดุ วชิ า และหลังแตล ะตอน พรอ มทงั้
ประเมนิ ผลตามแบบทดสอบหลังเรยี น แลว ตรวจสอบกับแนวเฉลยท่ใี หไ ว
8. ทา นควรหาความรเู พมิ่ เติมจากแหลง ความรูตาง ๆ ท่ใี หไวท า ยชุดวชิ าน้ ี
ข
แบบทดสอบกอนเรียน
ใหผ เู รียนกาเครอื่ งหมาย û ทบั ตวั อกั ษรขอ ท่ีถกู ทสี่ ดุ
1. สละเปน ไมผ ลทขี่ น้ึ ไดด ใี นสภาพอากาศใด
ก. เย็นจัด ข. รอ นชน้ื
ค. ผนตกหนักและหนาว ง. รอนสลับกับอากาศหนาวจดั
2. พ้นื เพด้ังเดมิ ของพืชสกุลสละชอบข้ึนในพ้ืนทีแ่ บบใด
ก. หัวไรป ลายนา ข. ขางแมน้ําลาํ คลอง
ค. บนพื้นทปี่ าเขา ง. ชายหาดทะเล
3. สละ (เนนิ วง) มีปลกู มากที่จงั หวดั ใด
ก. ระยอง ข. จันทบรุ ี
ค. ตราด ง. ปราจีนบุรี
4. สละเหมาะสาํ หรับผลกู เปนพชื แซมของพืชหลักอะไร
ก. ยางพารา ข. สม
ค. องนุ ง. มะปราง
5. ถา ปลูกสละเปน พืชเดย่ี วระยะท่ีเหมาะสมคือ
ก. ระยะ 3 X 3 เมตร ข. ระยะ 4 X 4 เมตร
ค. ระยะ 5 X 5 เมตร ง. ระยะ 8 X 8 เมตร
6. หลุมท่ีขุดไวเพือ่ เตรียมปลกู สละควรมีขนาดใด
ก. 50 X 50 X 50 ซม. ข. 1 X 1 X 1 เมตร
ค. 1.5 X 1.5 X 1.5 เมตร ง. 2 X 2 X 2 เมตร
7. อัตราสว นระหวา งตน ตัวเมียตอตน ตัวผทู ี่ใหการผสมเกสรตดิ ผลดคี อื
ก. ตัวเมยี 5 ตนตอตวั ผู 1 ตน ข. ตวั เมยี 8 ตนตอ ตัวผู 1 ตน
ค. ตัวเมีย 10 ตน ตอ ตัวผู 1 ตน ง. ตัวเมีย 13 ตน ตอ ตัวผู 1 ตน
8. การตดั ทางใบจะทาํ เมื่อใด
ก. ฤดูหนาว ข. ฤดูแลง
ค. ปลายฤดูฝน ง. กลางฤดูแลง
9. ปุยสตู รใดท่ใี ชก บั สละชวงอายุ 1-4 ป
ก. 15-15-15 ข. 16-20-0
ค. 0-0-46 ง. 8-24-24
10. ฤดูกาลใดเหมาะสาํ หรับปลูกสละ ข. ฤดูหนาว
ก. ฤดูแลง
ค. ปลายฤดูฝน ง. ตนฤดูฝน
ค
สาระสําคัญ
สละเปนพืชท่ปี ลกู และดูแลรักษาไดงาย มโี รคและแมลงรบกวนนอย ใหผ ล
ผลติ สูง จําหนา ยไดราคาด ี เปนที่ตอ งการของตลาด
จุดประสงค
1. รสู ภาพและพืน้ ท่ปี ลูกสละได
2. ปลูกสละใหเ จรญิ เติบโตได
3. ดแู ลรกั ษาสวนสละไดอยา งถูกตอง
4. ปองกันและกาํ จัดศัตรูของสละได
5. เก็บเก่ียวและจาํ หนายสละได
ขอบขายเนื้อหา
ชุดวชิ าน้ี ใชเ วลาเรียน 30 ชว่ั โมง จาํ นวน 1 หนวยการเรยี น ประกอบดวยเนอ้ื หา
วิชา 5 ตอน ดงั น ี้
ตอนท่ี 1 สภาพภูมอิ ากาศและพ้ืนทป่ี ลูกสละ (จาํ นวน 3 ชัว่ โมง)
ตอนที่ 2 การปลูกสละ (จํานวน 7 ชั่วโมง)
ตอนท่ี 3 การดแู ลรักษาสละ (จํานวน 8 ชว่ั โมง)
ตอนท่ี 4 การปอ งกนั และกําจัดศัตรูสละ (จาํ นวน 6 ชัว่ โมง)
ตอนที่ 5 การเกบ็ เกีย่ วและการตลาด (จํานวน 6 ชั่วโมง)
สาระสําคัญ
สละเปนไมผลที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศรอนช้ืน
มีพน้ื ที่ปลูกมากในภาค ตะวันออก
จุดประสงค
1. บอกสภาพภูมอิ ากาศทเ่ี หมาะสมกับการปลูกสละ
ได
2. บอกพื้นท่ปี ลูกสละในภาคตะวนั ออกได
ขอบขายเนื้อหา
เรอื่ งท่ี 1 สภาพภูมอิ ากาศทเ่ี หมาะสมกับสละ
เรอ่ื งท่ี 2 พืน้ ทปี่ ลกู สละในภาคตะวนั ออก
2
เรื่องที่ 1 สภาพภูมิอากาศที่เหมาะสมกบั สละ
1. สละเปน ไมผ ลทขี่ ึน้ ไดด ีในสภาพความชื้นสูง มีตนไมปกคลมุ
2. มฝี นตกชกุ พอประมาณ
3. มลี มพดั ไมร ุนแรง
4. พ้นื เพดั้งเดิมของพืชตระกูลน้ีจะชอบขึ้นบนปา เขา
เร่อื งที่ 2 พื้นทป่ี ลกู สละในภาคตะวันออก
มีการปลูกสละเปนไมผลเพื่อการคามากในภาคตะวันออก 3 จังหวัด คือ
ระยอง จนั ทบุรีและตราด
จังหวดั ระยอง มีระกาํ และ สละ (ไมมหี นาม) พน้ื ทีท่ ี่มีระกาํ มากอยูเ ขตอาํ เภอ
แกลง, อาํ เภอบานคาย, กง่ิ อําเภอเขาชะเมา ซึ่งเดมิ สว นใหญไ มมีการปลูก เพราะ
เปน ระกาํ ปา แตม กี ารดแู ลรกั ษาเปน อยา งด ีแตใ นปจ จบุ นั นเี้ รมิ่ มกี ารปลกู บา งแลว
สละ (ไมมหี นาม) มกี ารปลกู นอ ย จะพบอยตู ามหัวไรปลายนาในเขตอําเภอเมอื ง
สละ (เนนิ วง) มีการปลูกกันนอยมาก
จงั หวดั จนั ทบรุ ี มกี ารปลูกระกาํ ในแถบอาํ เภอเมอื ง และอาํ เภอทาใหม สวนแถบ
อําเภอมะขาม และอําเภอโปง นาํ้ รอ น จะมีการปลูกและดูแลรกั ษาในลกั ษณะ
ของระกาํ ปา มีการปลกู แซมยางพาราบา ง สละ (ไมมหี นาม) มนี อ ยมากจะมี
ปลูกตามหัวไรปลายนา ในเขตอําเภอทาใหม สละ (เนนิ วง) จะมปี ลกู ทค่ี าย
เนินวง อําเภอเมอื ง และอําเภอขลงุ
จังหวัดตราด มีการปลูกดูแลรักษาระกําปา ในเขตอําเภอเขาสมิง สวนสละ
(ไมม หี นาม)นยิ มหลกู เปน สว นใหญ ในเขตอําเภอเมอื ง โดยมกี ารดแู ลรกั ษาสวน
อยางด ี สละ (เนนิ วง)
มีการปลูกนอย แต
ปจจุบัน น้ี ก็เริ่ มปลูก
กนั มากขนึ้
เมื่อป พ.ศ. 2537 พบ ภาพ แปลงปลูกสละขนาดใหญ
วาจันทบุรมี ีพน้ื ที่ปลกู
ประมาณ 2,893 ไร
และตราด มพี นื้ ทปี่ ลูก
2,149 ไร
3
กิจกรรมท ่ี 1
ใหผเู รียนไปพบผูรแู ลว ปรกึ ษา เรอ่ื งสภาพภมู ิอากาศทเี่ หมาะสมกับสละ พรอ ม
กบั สาํ รวจพืน้ ท่ปี ลกู สละในทองถ่นิ ของตนเองแลวบันทึกตามรายการทีใ่ หไ ว
วันท่.ี .....................เดอื น.........................................................พ.ศ.........................
ผรู ชู ่อื ......................................................................................................................
ท่อี ย.ู .......................................................................................................................
สภาพภูมิอกาศท่เี หมาะสมกับสละ........................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
ระกํามพี ้ืนทปี่ ลกู ประมาณ.................................................................................ไร
สละ (ไมม ีหนาม) มพี ืน้ ท่ีปลูกประมาณ............................................................ไร
สละ (เนนิ วง) มีพ้ืนทีป่ ลกู ประมาณ..................................................................ไร
กิจกรรมท ี่ 2
ใหผ เู รยี นรวมกลมุ แลว อภปิ รายถงึ เรอ่ื ง พนั ธสุ ละทน่ี ยิ มปลกู แลว สรปุ บนั ทกึ ผล
การอภิปรายตามรายการท่ีใหไ ว
สรปุ บันทึกผลการอภปิ รายกลมุ
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
4
กิจกรรมที่ 3
จงทําเครอ่ื งหมาย ü หนา ขอ ที่ถูก และเครอื่ งหมาย û หนา ขอท่ีผดิ
1. สละเปน ไมผ ลทข่ี ้นึ ไดด ใี นสภาพอากาศรอ นช้นื
2. สละ (ไรหนาม) ชอบข้นึ ในสภาพอากาศเยน็ จัด
3. ดั้งเดิมแลวสละชอบขึ้นตามปลายนา
4. มกี ารปลูกสละ (เนินวง) มากทจี่ งั หวัดตราด
5. ปจจุบนั นี้ จงั หวัดชลบุรมี ีพนื้ ที่ปลกู สละมากท่สี ุด ในภาคตะวนั ออก
5
สาระสําคัญ
สละเปนไมผลท่ี ปลูกเปนพืชเดี่ ยวในแปลงใหญ หรือ
ปลูกแซมพชื อ่ืนก็ได โดยตน พนั ธุท่ีนาํ มาปลกู ไดมา จากการ
ขยายพันธุ ดวยเมลด็ หนอ หรือลําตน
จุดประสงค
1. อธิบายวิธีการปลูกสละได
2. ปฏบิ ตั ิการเตรียมพ้ืนทป่ี ลกู สละได
3. บอกประเภทของการปลกู สละได
ขอบขายเน้ือหา
เรื่องที่ 1 วธิ กี ารปลกู สละ
เร่อื งที่ 2 การเตรียมพืน้ ทป่ี ลูกสละ
เรื่องที่ 3 ประเภทของการปลกู สละ
6
เร่อื งท่ี 1 วธิ ีการปลูกสละ
1.1 ปลกู เปน พชื แซม
1.2 ปลกู เปน พชื เดยี่ ว
1.1 ปลูกเปนพืชแซม
ในการปลกู สละเปน พืชแซมน้นั ตอ งปลูกไปพรอม ๆ กบั พชื หลกั น้ัน ๆ โดย
ปลูกสลับแถวกัน ซงึ่ จะทาํ ใหส ละเจริญเตบิ โตไปพรอม ๆ กบั พืชหลักนนั้ ใน
ชว งระหวางการปลกู ในป 1-3 แตหลังจากนั้นพชื หลักก็จะโตสงู คลมุ ตน สละ
จึงทาํ ใหสละไดรมเงา แตถาหากปลูกสละเม่ือพืชหลักโตแลวจะมีผลทําให
สละโตชา เนอื่ งจากไดร บั แสงแดดนอยไมเพยี งพอตอการสงั เคราะหแสง จึงทาํ
ใหท างใบสละยาวกวาปกติ เมือ่ ทางใบยาวชลดู จะทาํ ใหห ักลมไดง าย ถา มกี าร
ใชปุยเรงการเจริญเติบโตมากกจ็ ะยิง่ ทาํ ใหกาบใบหักงายยิ่งขึ้น
พืชหลักที่เหมาะสมสาํ หรบั ปลูกสละเปนพชื แซม ไดแ ก ยางพารา สะตอ หรือ
ไมอ่ืน ๆ ท่ีมีทรงพุมไมทึบมากนัก เพื่อใหแสงแดดสองลงมาถึงตนสละ
การปลูก สละเปนพืชแซมตองปลูกใหอยูระหวางแถวของพืชหลัก เชน
ปลกู สละแซม ระหวางแถวของยางพารา
ตนสละทป่ี ลกู แซมพชื อื่น
7
1.2 ปลูกเปนพชื เด่ียว
สละสามารถปลูกเปนพืชเด่ียวในแปลงใหญไ ด เพื่อสะดวกในการดูแลรักษา
ระยะปลกู ขึน้ อยกู ับความตอ งการของแตล ะคน ถาหากวาปลกู ถี ่ เม่ือสละโต
ข้ึนก็จะทําใหดูแลรกั ษาลําบาก แตถาปลูกหางเกินไปก็จะทําใหเปลืองเนื้อท่ ี
ระยะปลูกท่นี ยิ มกนั ในปจจบุ ัน คือ ระยะ 6 X 4 เมตร หรือ ระยะ 5 X 5 เมตร
ตนสละทป่ี ลกู เปน พชื เดย่ี ว
เรอ่ื งท่ี 2 การเตรยี มพ้ืนทปี่ ลูกสละ
2.1 การไถเตรียมดิน
ควรมีการไถเตรียมพื้นท่ี เพอ่ื กําจัดวัชพชื และปรับพื้นท่ ี ในกรณที ี่เปนพนื้ ทต่ี ่ํา
ควรมีการไถเพ่ือยกรองปองกันนํ้าทวมขัง การไถเตรียมดิน ควรทาํ 2 คร้ัง
คร้ังแรกเปนการไถเพ่อื เปด หนา ดนิ และกลบั พลิกหนาดนิ การไถคร้ังที่ 2 เปน
การไถพรวนเพื่อยอยเม็ดดิน การไถพรวนควรทาํ ในขณะท่ีดินมีความช้ืนพอ
สมควร
2.2 การขุดหลุม
เมอื่ มกี ารไถเตรียมดินเรยี บรอ ยแลว ก็ทาํ การจัดระบบระหวา งแถวและตน เสร็จ
แลว กข็ ดุ หลมุ เพ่ือปลกู หลมุ ทข่ี ุดมขี นาด 50 X 50 X 50 เซนติเมตร
8
2.3 การเตรียมดินปลูก
เมื่อขุดหลุมเรียบรอยแลว นําปุยคอกหรือปุยหมักประมาณ 1 ปบ นํามา
คลุกเคลา กับดนิ ท่ ี ขุดจากหลมุ แลว นาํ สวนทค่ี ลุกเคลาแลวกลับใสไ ปในหลมุ
กอนใสสวนผสมท่ีหลุมใหรองกนหลุมดวยรอคฟอสเฟต ประมาณคร่ึง
กระปองนม เพราะรอคฟอสเฟตจะชวยใหรากสละเจริญเติบโตและแข็ง
แรงดีย่งิ ข้ึน
เร่อื งที่ 3 ประเภทของการปลกู สละ
3.1 ปลูกสละโดยใชต นพันธุจากเมล็ด
เม่อื เตรียมหลมุ ปลูกเสรจ็ แลว ก็ใชตนที่เพาะไดจ ากเมลด็ ทมี่ ีทางใบ 5-10 ใบ มา
ปลกู หลมุ ละ 3-4 ตน โดยหา งกันประมาณตน ละ 1 คืบ เม่ือปลกู ตนสละเสร็จ
แลว ก็ใชดินกลบใหแนน และใหสงู กวา ปากหลุมเลก็ นอ ย เพื่อปอ งกันการยบุ
ตวั ของดิน เสรจ็ แลวรดน้ําใหชมุ เม่อื ปลกู ไป แลว ประมาณ 4-5 ป สละกจ็ ะ
เริ่มออกดอก โดยจะมที ั้งตนตวั ผูและตัวเมีย ใหตดั ตนตัวผทู ิ้ง โดยเหลืออัตรา
สวน ตัวผู 1 ตน ตอ ตวั เมยี 5 ตน จะทําใหต ดิ ผลด ี
3.2 การปลกู สละโดยใชตนพันธุจากหนอ
ตน พันธุจากหนอซง่ึ ไดจากหนอ ทีแ่ ยกจากตน ตวั เมีย ฉนน้ั เมือ่ นําหนอ มาปลกู
ก็จะเปน ตวั เพศเมยี และมลี ักษณะเหมือนตน แมท ุกประการ ฉนนั้ ในการปลกู จะ
ตองปลูกตนจากหนอ 5 หลุม แลว สลบั ดว ยการปลกู จากเมลด็ 1 หลุม เพอ่ื ชวย
ในการผสมใหติดลกู ดีข้ึน
3.3 การปลูกโดยใชตนพันธุจากลาํ ตน
การปลกู วิธีน้ีกโ็ ดยการใชตน พนั ธุท ข่ี ยายพันธุจ ากลําตน ลักษณะการปลูกและ
วธิ กี ารปลกู เหมอื นกบั การปลูกโดยใชตน พนั ธจุ ากหนอทุกประการ
ฤดกู าลทเี่ หมาะสมในการปลกู พืชตระกูลสละ คอื ตน ฤดูฝน จะทําใหส ละเจริญ
เติบโตไดดี และเม่ือปลูกเสร็จแลว จําเปนตองทํารมเงาเพื่อบังแดดและลม
หลงั จากปลูกเสรจ็ แลว ควรใชหญา แหง หรอื ฟางแหง มาคลุมโคน เพอ่ื เปนการ
รักษาความช้ืนในดิน
9
กิจกรรมท่ี 4
ใหผเู รียนปฏบิ ตั กิ ารปลกู สละตามวธิ กี ารทไี่ ดศกึ ษาจากชุดวชิ านี้ แลว บนั ทกึ ผล
การปฏบิ ัติตามรายการท่ีใหไว
1. วิธกี ารปลูกสละ..............................................................................................
...............................................................................................................................
2. ขนาดหลมุ ปลกู ..............................................................................................
...............................................................................................................................
3. พนั ธุข องสละที่ปลกู .......................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
4. การไถเตรียมดนิ .............................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
5. การเตรยี มดนิ ปลูก..........................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
6. ประเภทของการปลูก.....................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
7. จํานวนตนสละท่ีปลูก...............................................................................ตน
8. ขอเสนอแนะ..................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
10
กจิ กรรมที ่ 5
จงทําเครอื่ งหมาย ü หนาขอทีถ่ ูก และเครอ่ื งหมาย û หนา ขอทผี่ ดิ
........1. สละเหมาะสาํ หรบั ปลกู เปน พชื แซมในสวนยางพารา
........2. ควรปลกู สละแซมยางพาราโดยปลกู สละสลับกบั ยางพารา ไปจนตลอด
ความยาวของแถวปลูก
........3. ในการปลูกสละเปน พืชแซมตอ งปลกู สละไปพรอม ๆ กับพชื หลัก
........4. ปจ จุบนั นิยมปลกู สละเปน พชื เดย่ี วโดยปลูกระยะ 2 X 2 เมตร
........5. ในการปลกู สละควรมีการไถเตรยี มดนิ 2 คร้งั
........6. หลมุ ที่ใชปลูกสละควรมีขนาด 50 X 50 X 50 เซนติเมตร
........7. การปลูกสละตอ งรองกนหลมุ ดวยร็อคฟอสเฟต เพือ่ ชวยใหร ากเจรญิ
เติบโตและแข็งแรง
........8. การปลูกสละท่ีใชต นพนั ธุจ ากเมลด็ จะตอองมที างใบ 5 - 10 ใบ
........9. การปลูกสละจากเมล็ดจะมีทงั้ ตนตวั ผูและตัวเมียตองตัดตนเพศผูท้ิง
ให เหลอื อัตราเพศผู 1 ตน ตอตัวเมยี 10 ตน
....... 10.การปลกู สละท่ีใชต น พันธจุ ากหนอหรือลาํ ตน จะทําใหไดส ละท่ีเปน
เพศเมียเทา น้ัน
11
สาระสําคัญ
การดแู ลรกั ษาสละในระยะกอ นใหผ ลและระยะหลงั
ใหผลท่ีดีและถูกตอง จะเปนการประหยัดตนทุน
และชว ยเพ่ิมผลผลติ
จุดประสงค
1. ปฏิบัติการดแู ลรกั ษาสละกอ นใหผลได
2. ปฏิบัติการดูแลรกั ษาสละหลังใหผลได
ขอบขายเน้ือหา
เร่ืองท่ี 1 การดแู ลรักษาสละกอ นใหผล
เรื่องที่ 2 การดแู ลรกั ษาสละหลงั ใหผล
12
เรอื่ งที่ 1 การดแู ลรกั ษาสละกอ นใหผล
1.1 การปองกันและกําจัดวัชพืช
การกาํ จดั วชั พชื ในชว งทต่ี นยังเล็กอย ู มักจะใชจ อบถากหญา แลว นําไปคลมุ โคน
ตน กอ นท่จี ะทําการใสปุย ในชว งตน ฝนและปลายฝน หรือใชม ีดดายหญาเขา
คลุมโคนตน วัชพืชที่ควรจะ ระวัง คือวัชพืชที่ขึ้นเปนเถา โดยเถาจะไปพัน
กานและใบ โดยเฉพาะใบออนที่อยูปลายยอดสุด ทําใหยอดไมคล่ีออกจึง
สงั เคราะหแ สงไมไ ได ถา พบตอ งตดั ออกและแกส ว นเถาทพี่ นั ยอดออกทนั ท ีและ
ทําการขดุ หัวเถาทิง้ เพอ่ื ไมใ หเจริญเติบโตตอไป
การใชส ารเคมกี าํ จัดวชั พืช ไมแ นะนําใหใช หากมคี วามจาํ เปน กใ็ ชโดยระมัด
ระวงั โดยเฉพาะสารเคมกี าํ จดั วัชพืชในกลมุ ของพาราครอท ซึง่ สารเคมีใน
กลุมน้ีจะทําลายสว นท่ีเปน ส ี เขียวของพชื เหตุท่ตี องระวงั เน่อื งจากกา นและใบ
ของพืชสกลุ สละมีสเี ขียว ถา เกิดมกี ารใชโ ดยไม ระมัดระวงั สารเคมกี ระเด็นไป
ถูกกานและใบจะทาํ ใหตายได
1.2 การตัดทางใบ
การตัดทางใบ เปนส่งิ ทจ่ี ําเปน เชน กัน ปกตพิ ชื สกลุ สละจะแตกใบออ น
ประมาณ 8-12 ใบ ใน 1 ป และใบท่ี แตกกอนก็จะแก
ไมสามารถที่จะปรุงอาหารได ดังน้ันการตัดแตงทางใบ จึงตองตัดทางใบ
ที่มีสีเหลือง การตัดควรตัดใหชิดลาํ ตน ใหมากท่ีสุด เมื่อตัดแลวใหนาํ ทางใบ
มาตัดเปนทอนส้ั น ๆ นําไปคลุมโคนตน ฤดู ท่ี ควรทําการตัดแตงกานใบ
ควรเปน ชว งปลายฤดูฝน กระทําปละ 1 ครั้ง
ภาพ ชาวสวนขณะตัดทางใบ
13
1.3 การใหน ้ํา
การใหน าํ้ หลังจากปลูกพชื สกุลสละไปแลว เมอ่ื ตนฤดูฝน เมอื่ ยา งเขา ฤดูแลง ก ็
ตองใหน้ํา ถาไมใหนํ้าพืชที่ปลูกจะชงักการเจริญเติบโต ใบเหลืองเห็นได
ชดั เจน การใหน ํ้ากระทําได หลายวธิ ี เชน ใชส ายยาง หรอื ใชการใหน ํ้าแบบ
มินสิ ปรงิ เกอร จะประหยดั น้ําไดม ากกวาสายยาง แตลงทุนสูง ปกติถาหาก
เกษตรกรปลกู พชื สกลุ สละจาํ พวกระกาํ หรอื สละไมม หี นาม สวนใหญจ ะใหน า้ํ
แบบสายยาง เพราะลงทุนตอ ไรตา่ํ คุมกับการลงทุน เนอื่ งจากราคาผลผลิตที ่
ขายไดตํ่า สวนการปลูกพืชสกุลสละประเภทสละ (เนินวง) เกษตรกรมักจะ
ใหน า้ํ ในระบบมนิ สิ ปรงิ เกอร ถงึ แมก ารลงทนุ จะสงู กวา กค็ มุ คา เมอ่ื เปรยี บเทยี บ
กับราคาท่ีขายไดตอ กโิ ลกรมั คอ นขา งสงู
1.4 การใสปยุ
การใสปยุ พชื สกุลสละในระยะเร่ิมปลกู ถึงปที่ 4 ควรใชปยุ สูตรเสมอ เชน
15-15-15 หรือ 16-16-16 โดยอัตราท่ีใสคํานวนจากอายุของตน โดยเอา 2
ไปหารอายุของตนสละ เชน สละอาย ุ 4 ป เอา 2 ไปหารได 2 ก็ใส ปุย 2
กิโลกรมั ตอ ตน ตอป โดยแบงใส 2 ครง้ั ๆ ละเทา ๆ กัน ใสช วงตนฝนและ
ปลายฝน โดยหวานปุยใตทรงพุมตนใหท่ัว และควรมีการใสปุยคอกหรือปุย
อินทรีย ในอตั ราตนละ 1-2 ปบ
ชาวสวนขณะใหป ยุ แกตนสละ
14
กิจกรรมท ี่ 6
ใหผ เู รยี นปฏบิ ัตกิ ารดแู ลรกั ษาสละกอ นใหผ ลในสวนของตนเอง แลว บันทึกผล
การปฏิบัติตามรายการทีใ่ หไ ว
1. การปองกันและกาํ จัดวัชพืช
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
2. การตัดทางใบ
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
3. การใหน้ํา
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
4. การใสป ยุ
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
15
เรื่องที่ 2 การดแู ลรกั ษาสละหลังใหผ ลแลว
2.1 การปองกันและกําจัดวัชพืช
เมือ่ เราปลกู พชื สกลุ สละมาเปนเวลา ประมาณ 4 ป สละก็จะแตกกานและทาง
ใบปกคุลมเตม็ พ้ืนท่ี จงึ มผี ลทําใหว ัชพืชขน้ึ นอย แตถ า หากมีวัชพืชมากกด็ าย
หญาแลว เอาหญาท่ีดายน้ันคลุมโคนตน
2.2 การตัดทางใบ
พืชสกุลสละจะแตกใบออนอยตู ลอดเวลา และจะมีใบแกอ ยตู ลอด ฉนน้ั จาํ เปน
ตอ งตดั ใบทแ่ี กท ง้ิ โดยตดั ในชว งปลายฤดฝู น โดยตดั ใหช ิดกบั ลําตนใหม ากทส่ี ดุ
ขณะตัดทางใบก็ตัดแตง ทะลาย และทาํ ความสะอาดโคนตน ไปดวย
2.3 การใสป ุยและใหนา้ํ
การใสป ยุ ใหใชปุยสตู รเสมอ เชน 15-15-15 หรอื 16-16-16 โดยใชในอตั ราเชน
เดียวกับการปฏิบัติการใสปุยชวงสละยังไมใหผล จากน้ันควรใสปุยอินทรีย
อตั รา 3-4 ปบตอตน โดยใสปุยอินทรยี ใ นชว งเก็บผลแลว คอื ปลายฤดูฝน
การใหน ้าํ จะตอ งใหน ํ้าอยา งพอเพียงและสมํ่าเสมอ เพอื่ ใหผ ลโต สมบรู ณ ไมล ีบ
ควรใหน า้ํ 3-5 วนั ตอ คร้งั
16
2.4 การชวยผสมเกสร
ตอ งมกี ารชว ยผสมเกสรพชื สกลุ สละ เพราะวา ตน ทเี่ ปน เพศเมยี กจ็ ะมเี ฉพาะเกสร
เพศเมียอยางเดียว การชวยผสมเกสรโดยการใชดอกเพศผูท่ีบานเต็มท่ีแลว
ไปแตะ ท่ดี อกเพศเมยี ซงึ่ ดอกเพศเมยี ใน 1 ทะลาย จะบานไมพ รอ มกนั ฉนนั้
ในดอก ตัวเมีย 1 ทะลาย ตองนําดอกเพศผูไปผสม ประมาณ 3 วัน ระยะ เวลาท ่ี
เหมาะสาํ หรับการผสม คือ ชวง 07.00-12.00 น. เพราะดอกสละจะบานใน
ชวงเชา
ชาวสวนขณะผสมเกสร
2.5 การคลมุ ผล
สละทีใ่ หผ ลโตแลว จาํ เปน ตองคลุมผลเพื่อปองกันสตั วแ ทะเล็ม เชน กระรอก
หนู ฉนั้นตองคลุมผลไวดวยกระสอบปุย โดยจะคลุมผลในชวงกอนผลสุก
ประมาณ 2 เดือน เมื่อคลมุ ผลแลว จะทาํ ใหผลมสี สี วยสดนารับประทานเปน ท ่ี
ตองการของตลาด
17
กิจกรรมท่ ี 7
ใหผ เู รยี นปฏบิ ัตกิ ารดแู ลรกั ษาสละหลังใหผลในสวนของตนเอง แลวบนั ทกึ ผล
การปฏิบัตติ ามรายการท่ีใหไว
1. การปองกันและกําจัดวัชพืช.......................................................................
...............................................................................................................................
2. การตัดทางใบ.............................................................................................
...............................................................................................................................
3. การใสปุยและใหนํ้า....................................................................................
...............................................................................................................................
4. การชวยผสมเกสร.......................................................................................
...............................................................................................................................
5. การคุมผล....................................................................................................
..............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
กจิ กรรมท ี่ 8 จงทําเครอ่ื งหมาย ü หนาขอทีถ่ กู และเครื่องหมาย û หนาขอ ที่ผิด
........1. สละเปนพืชทีท่ นแลง ฉนั้นไมจ ําเปน ตอ งใหน า้ํ ก็สามารถเจรญิ เติบโต
และใหผลผลิตไดด ี
........2. การใสป ุยสละอายุ 1-4 ป ควรใชปยุ สูตร 16-0-0 เปนสูตรหลัก
........3. การใสปุยสละควรใสในชวงตน ฤดูฝนและปลายฤดูฝน
........4. สละจะมีใบแกอ ยตู ลอดเวลา ฉน้นั ตองตัดใบแกท ้ิงในชว งปลายฤดูฝน
........5. ในการตัดทางใบควรตดั ตรงสวนกลางของทางใบเทาน้ัน
........6. การใสปุยสละหลงั เกบ็ เกย่ี วแลว ใชปยุ สตู ร 15-15-15
........7. ระยะเวลาทเี่ หมาะสมสําหรับการชวยผสมเกสรคอื เวลา 07.00-12.00 น.
........8. สละเปน พชื ทมี่ ีทงั้ ดอกเพศผแู ละเพศเมียอยูใ นตนเดยี วกัน
........9. สละเมอื่ ตดิ ผลแลว จะตอ งใหน าํ้ อยา งสมํา่ เสมอประมาณ 3-5 วนั ตอ ครง้ั
.......10. ปยุ อนิ ทรยทใี่ สใ หก บั ตนสละ ควรใสในชว งปลายฤดฝู น
18
สาระสําคัญ
การทาํ สวนสละเพื่อใหไดผลดีตองมกี ารปองกัน และ
กําจดั โรคแมลง และสตั วศ ัตรูสละดว ย
จุดประสงค
1. ปฏิบัติการปอ งกนั และกําจัดโรคของสละได
2. ปองกันและกาํ จัดแมลงท่ีสาํ คัญของสละได
3. ปองกันและกําจัดสัตวศ ัตรูสละได
ขอบขายเนื้อหา
เร่อื งท่ี 1 โรคของสละ
เรือ่ งที่ 2 แมลงสําคญั ที่ทําอนั ตรายตอสละ
เรอ่ื งที่ 3 สตั วศ ัตรูของสละ
19
เร่อื งที่ 1 โรคของสละ
โดยปกติแลว พืชสกลุ สละมกั จะไมมีโรครบกวนมากนัก แตก ็มีโรคท่ีพบได
บอ ย ๆ ไดแก
1.1 โรคผลเนา
สาเหตุ เกิดจากเช้อื รา
อาการ ระยะแรกหลังจากผลไดร ับเช้ือโรคแลว จะเรมิ่ มีอาการชาํ้ ตอมาจะเนา
และลุกลามขยายไปทั่ วท้ั งทะลาย มักจะเกิดในชวงท่ี มีฝนตกชุก ซึ่ งมี
ความช้นื แฉะ ท่บี รเิ วณโคนตน สละ
การปองกันกําจัด การปองกันท่ีดีทําไดโดยการตัดทางใบสม่ําเสมอ เพ่ือให
ตนโปรงมีอากาศถายเทไดสะดวก และตองพยายามระวังอยาใหผลเกิดแผล
หรือ รอยชํา้ เพ่ือปองกนั ไมใ หเช้ือราเขาสูผลได และควรหมั่นตรวจดูผลสละ
วา มีโรค หรอื ไม ถา พบโรคควรใชยากาํ จดั เชอื้ ราฉดี พน
โรคผลเนา
20
1.2 โรคยอดเนา แหง
สาเหตุ เกิดจากเชือ้ โรคทีท่ ําใหเกิดโรคใบรว งในยางพารา
อาการ ยอดสละทแี่ ตกมาใหม ๆ หลังจากไดรบั เชอ้ื โรคแลว จะมอี าการเนาแหง
ใบไมค ล ี่ มกั จะเกดิ ในฤดูฝน โรคน้ีจะไมท ําใหต นสละตายแตก ็มีผลทาํ ใหส ละ
ชงักการเจรญิ เติบโตได
โรคยอดเนา แหง
21
กิจกรรมที่ 9
ใหผ เู รยี นปฏบิ ตั กิ ารปอ งกนั กาํ จดั โรคของสละในสวนของตนเอง แลว บนั ทกึ ผล
การปฏิบตั ติ ามรายการทีใ่ หไ ว
โรคที่พบในสวนสละ...........................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
ลกั ษณะอาการ.......................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
การปองกนั กําจัด...................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
22
เรอื่ งที่ 2 แมลงสําคัญทีท่ าํ อนั ตรายตอสละ
2.1 ดวงงวงและดวงแรด
ดว งแรด ดวงงวง
เปนดวงชนิดเดียวกับที่ทําลายมะพราว โดยดวงแรด จะกัดกินแทะเปลือก
บริเวณ ยอดและกาบใบใหเปนแผล แลว ดว งงวงก็จะเขา ไปวางไข เจาะกิน
เขาไปในยอด และลําตน ทําใหยอดและลาํ ตน เนาตายในที่สุด
การปองกนั กาํ จดั
ดวงแรด
- ทาํ ความสะอาดบรเิ วณสวนไมใ หม แี หลง ขยายพันธโุ ดยเฉพาะซากกอง
ปุยหมกั จะตองไ มก องท้งิ เกนิ 3 เดือน เมื่อเกิน 3 เดือน ควรเกลี่ยใหกระจาย
- ใชเช้อื ราเขียวใสในแหลง ทีต่ วั หนอนอยูจะทําลายทกุ ระยะการเจริญเติบโต
- ใสลูกเหม็นบริเวณกาบรอบ ๆ ยอดออน ตนละ 6-8 ลกู เพือ่ ขับไลด ว งแรด
- ใสทรายในซอกกาบ
ดวงงวง
ใชส ารฆา แมลงประเภท คลอรไ พรฟิ อส เชน ลอรส แบน 40% E.C. อตั รา 20 ซซี ี
ตอน้ํา 20 ลิตร ฉีดพน 2 ฃร้ัง หางกัน 14 วัน และหยุดการใชสารเคม ี
กอ นการเกบ็ เกย่ี ว 15 วนั
23
2.2 เพลยี้ ไฟ
เปนแมลงที่จะเขาไปทําลายชอดอก ซ่ึงจะทาํ ใหการติดผลนอย ผลท่ีติดไม
สมบรู ณ
การปองกันกาํ จัด ใหฉดี พนสารเคมชี นดิ ดูดซึมท่บี ริเวณดอก ในชวงกอนดอก
บานและหลงั ดอกบาน โดยฉดี ประมาณ 2-3 คร้งั
เพลยี้ ไฟ
2.3 หนอนใย
ม ี 2 ชนิด
1. ตัวเล็ก
2. ตัวใหญ
โดยหนอนใยทาํ ลายดอก, ผลออ น ชักใยคลมุ และกดั กนิ
การปองกนั ทําความสะอาดตน เมือ่ พบใยก็ทําลายใยทิง้ หรอื ใชส ารดดู ซมึ ฉีด
พน
24
กิจกรรมท่ี 10
ใหผูเรียนสาํ รวจแมลงที่ทาํ อันตรายตอสละในสวนของตนเอง แลวปฏิบตั ิการ
ปอ งกนั กาํ จดั พรอมบนั ทึกผลการปฏบิ ัติตามรายการทใ่ี หไว
วนั เดอื น ป ท่สี าํ รวจ............................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
แมลงที่สํารวจพบ..................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
อาการของตนสละทถี่ ูกแมลงทาํ ลาย.....................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
วิธกี ารปองกนั กําจดั แมลง.....................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
ผลของการปฏิบัติการปองกันกําจดั แมลง.............................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
25
เรอ่ื งท่ี 3 สัตวศ ัตรขู องสละ
สัตวศัตรทู ี่สาํ คัญในการทําลายผลสละ ไดแก หนู กระรอก กระแต โดยสัตว
เหลาน้ีจะทําการกัดกินผลในชวงผลเร่ิมสุก
หนู กระรอก กระแต
การปอ งกนั กาํ จดั
ทาํ ความสะอาดบรเิ วณแปลง
อนรุ กั ษส ตั วศ ตั รธู รรมชาต ิ เชน งสู งิ เหยยี่ ว นกเคา แมว ฯลฯ
หอยทาก กดั กนิ ดอกและผล
การปอ งกนั กาํ จดั
เกบ็ ทาํ ลายหรอื นําไปบดทาํ ปยุ หมกั
ใชเ หยอ่ื พษิ ลอ
วชั พชื ทส่ี าํ ฃญั และการปอ งกนั กาํ จดั
วชั พชื ทพี่ บในสวนสะละ แบง ออกไดเ ปน 2 พวกใหญ ๆ ฃอื
วชั พชื ใบแคบ เชน หญา ตา หญา ตนี กา หญา ตนี นก เปน ตน
วชั พชื ใบกวา ง เชน สาบเสอื ผกั โขม เปน ตน
การปอ งกนั กาํ จดั
ใชแ รงงานหรอื เฃรอื่ งจกั รตดั วชั พชื เหนอื ระดบั ผวิ ดนิ
ใชว สั ดคุ ลมุ ดนิ ไดแ ก เศษซากวชั พชื ทางใบสละ จะชว ยลดการงอกวชั พชื
การใชส ารเคมี
26
กิจกรรมที่ 11
ใหผูเรียนสํารวจสัตวศัตรูพืชในสวนสละของตนเอง แลวปฏิบัติการปองกัน
กาํ จดั พรอมบันทกึ ผลการปฏบิ ตั ติ ามรายการทีใ่ หไ ว
วัน เดือน ป ทส่ี าํ รวจ............................................................................................
สัตวศ ัตรูทสี่ าํ รวจพบ.............................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
ลกั ษณะอาการของสละท่ีถกู สัตวศัตรูทาํ ลาย.......................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
วิธกี ารปอ งกนั กําจัดสัตวศ ัตรูสละ.........................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
ผลของการปฏิบัตกิ ารปองกันกาํ จดั สัตวศตั รูสละ................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
27
กจิ กรรมท่ี 12
จงทาํ เคร่ืองหมาย üหนาขอความท่ถี กู และเคร่ืองหมาย û หนา ขอ ความท่ีผิด
.........1. สละเปนไมผลที่พบวามกั จะตดิ โรคไปจากสวนทุเรียน
.........2. โรคผลเนาของสละมักจะเกิดข้ึนในชวงท่ีมีฝนตกชกุ
.........3. โรคผลเนา ของสละมีสาเหตมุ าจากเช้ือแบคทเี รีย
.........4. การปองกนั โรคผลเนาทําไดโ ดยการตดั ทางใบใหโปรง
.........5. โรคใบรว งในยางพารา เปนสาเหตทุ ําใหเ กดิ โรคยอดเนา แหง ในสละ
.........6. โรคยอดเนาแหงมกั จะเกดิ ข้ึนในฤดูฝน
.........7. โรคยอดเนาแหง ถา เกิดแลวจะมผี ลทําใหตนสละตายได 100%
.........8. ถาพบตนสละท่ีถกู ดวงทาํ ลายมากวิธที ี่ดี คอื ตอ งเผาทําลายตนสละ
ทง้ั ตน
.........9. ตองฉีดพน สารเคมีชนดิ ดดู ซมึ เพอ่ื อปอ งกันเพลย้ี ไฟ ในระยะกอนและ
หลังดอกสละบาน
........10.นกฮกู นกขุนทอง นกหวั ขวาน ถอื วาเปนสตั วศ ัตรูสละท่สี าํ คัญ
28
สาระสําคัญ
การเก็บเก่ียวสละท่ีดีและถูกตอง จะสงผลให
จาํ หนา ยสละไดในราคาสูง
จุดประสงค
1. อธิบายลักษณะผลสละที่ตองเกบ็ เกี่ยวได
2. บอกวิธีการจําหนายสละได
ขอบขายเน้ือหา
เร่ืองท่ี 1 ลกั ษณะผลสละที่เก็บเกยี่ วได
เรื่องท่ี 2 การตลาดสละ
29
เรื่องที่ 1 ลักษณะผลสละท่ีเกบ็ เก่ียวได
การเกบ็ เกีย่ วผลสละเพอื่ จาํ หนา ยใหก ับลกู คา นนั้ ชาวสวนสละจะตองพจิ ารณา
จากสงิ่ ตาง ๆ ดังตอ ไปน ี้
1. นบั อายุผล ซงึ่ วธิ นี สี้ ว นใหญช าวสวนมกั จะไมทํากนั จะทํากนั เฉพาะนกั วชิ า
การ โดยวธิ นี จ้ี ะเริ่มนบั ตง้ั แตด อกบาน จนถงึ ผลสุกแก จะใชระยะเวลา 7 เดือน
2. การบีบผล ผลสละท่ีสุกแกเต็มท่ีแลว จะมีลักษณะเม่ือบีบดู ผลจะน่ิม
เปลือกฟู
3. ดสู ผี วิ ผลสละที่แกส กุ จะเปล่ยี นสผี วิ จากสีน้ําตาล เปน สแี ดง
4. การชิม เปนวธิ ีสดุ ทายท่ีปฏิบัติ ถาชิมดูแลว รสชาดหวานกแ็ สดงวาตัดไป
จาํ หนายได
โดยทวั่ ๆไปแลว ในการตดั สละไปจาํ หนา ยเราจะใชวธิ กี ารดูสละท่ีแกหลาย ๆ
วิธปี นกนั ไป ในการตดั สละ จะตอ งตดั สละเปนกระปุก ๆ ไป เพราะสละ 1
ทะลาย จะสุกไมพรอ มกนั โดยสละกระปกุ สุดทา ยจะสุกกอนเพราะ ดอกจะ
บานกอ น
ผลสละทแ่ี กสกุ
พรอ มเก็บจําหนา ย
30
กจิ กรรมท่ี 13
ใหผูเรยี นศกึ ษาวีดทิ ัศน เร่อื งการเก็บเก่ยี วผลสละ แลวสรปุ บันทึกเนอ้ื หาสาระ
จากวีดทิ ศั นอ ยางละเอียด
สรุปเนื้อหาสาระจากวีดิทัศน. ...............................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
31
เร่ืองที่ 2 การตลาดสละ
การจําหนายผลของพืชสกุลสละ
จะมี 3 ลักษณะ คอื
1. เกษตรกรชาวสวนสละเก็บจากสวนของตนเอง
แลว นําไปจําหนา ยท่ตี ลาดใน อําเภอ หรอื จังหวดั ในทอ งถ่นิ ของตนเอง
2. มีพอคาคนกลางเขา ไปซื้อผลผลิตจากสวนโดยตรง แลวนําไปจําหนายท่ ี
ตลาดในทองถน่ิ หรอื ตา งจงั หวดั
3. วางจาํ หนายขา งถนน โดยเกษตรกรชาวสวนจะตดั ผลสละ มาวางขาย
พรอ มกับผลไมชนิดอน่ื ที่ขา งถนน โดยทาํ แผงรานขายขา งทางถนน วิธนี จ้ี ะ
ขายได ราคาดี
การจําหนา ยสละ
32
กจิ กรรมท่ี 14
ใหผ เู รยี นสํารวจตลาดจาํ หนา ยสละในทอ งถนิ่ ตลาดในระดบั อาํ เภอ ตลาดระดบั
จังหวดั ของตนเองพรอ มบนั ทึกผลการสํารวจตามรายการที่ใหไว
วนั เดอื น ป ท่ีสาํ รวจ............................................................................................
ผลจากการสาํ รวจตลาดทองถนิ่
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
ผลจากการสาํ รวจตลาดระดบั อาํ เภอ
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
ผลจากการสาํ รวจตลาดระดับจังหวัด
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
...............................................................................................................................
33
แบบทดสอบหลงั เรยี น
ใหผ เู รียนกาเครอ่ื งหมาย û ทบั ตัวอักษรขอ ทีถ่ กู ที่สดุ
1. สละจะแตกใบออนใน 1 ป จาํ นวนก่ีใบ
ก. 4 - 6 ใบข. 8 - 12 ใบ
ค. 12 - 14 ใบ ง. 14 - 16 ใบ
2. สละอายุ 6 ป ควรใสป ยุ จํานวนเทาใด ในรอบปนั้น
ก. 2 กโิ ลกรมั ข. 3 กโิ ลกรมั
ค. 4 กิโลกรัม ง. 5 กโิ ลกรัม
3. สละหลงั ใหผลผลติ แลว ควรใชป ุยสตู รใด
ก. 16-20-0 ข. 0-0-60
ค. 16-16-16 ง. 8-24-24
4. ระยะเวลาใดเหมาะสาํ หรบั ชว ยผสมเกสรของสละ
ก. 07.00 - 12.00 น. ข. 12.00 - 16.00 น.
ค. 16.00 - 20.00 น. ง. 20.00 - 24.00 น.
5. การคลมุ ผลมีประโยชนอ ยา งไร
ก. ปองกนั หน ู ข. ปอ งกนั กระรอก
ค. ทาํ ใหผ ลมสี ีสวย ง. ถูกทุกขอ
6. โรคผลเนามีสาเหตมุ าจากเชอ้ื อะไร
ก. รา ข. แบคทเี รีย
ค. ไวรสั ง. โปรโตซัว
7. โรคผลเนามกั จะเกิดในฤดูกาลใด
ก. ฤดูแลง ข. ฤดูหนาว
ค. ฤดูฝน ง. กลางฤดูหนาว
8. โรคยอดเนา แหง ในสละเกิดจากเชอื้ ใด
ก. เชอ้ื โรคใบหงิกในยางพารา ข. เชื้อโรคใบรว งในยางพารา
ค. เชอ้ื โรคใบไหมใ นทเุ รยี น ง. เชอื้ โรคยอดเนา ในทเุ รยี น
9. เพล้ยี ไฟจะไปทาํ ลายสว นใดของสละ
ก. ใบ ข. ยอด
ค. ชอดอก ง. กาบใบ
10. ผลสละทกี่ ินไดต องมีอายตุ ้ังแตด อกบานถงึ แกนานเทาใด
ก. 5 เดือน ข. 6 เดือน
ค. 7 เดอื น ง. 8 เดอื น
เฉลยแบบทดสอบกอ นเรยี น 34 4. ก 5. ค
9. ก 10. ง
1. ข 2. ค 3. ข
6. ก 7. ก 8. ค 4. û 5. û
แนวเฉลยกิจกรรม 3. û 4. û 5. ü
9. û 10. ü
กิจกรรมท่ี 3 3. ü
8. ü 4. ü 5. û
1. ü 2. û 9. ü 10. ü
3. ü
กจิ กรรมที่ 5 8. û 4. ü 5. ü
9. ü 10. û
1. ü 2. ü 3. û
6. ü 7. ü 8. ü
กิจกรรมท่ี 8
1. û 2. û
6. ü 7. ü
กิจกรรมท่ี 12
1. û 2. ü
6. ü 7. û
เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น
1. ก 2. ข 3. ค 4. ก 5. ง
6. ก 7. ค 8. ข 9. ค 10. ค
35
แหลง ความรแู ละเอกสารทค่ี วรศกึ ษาเพ่มิ เติม
1. นายทวีป รืน่ รมย นกั วิชาการเกษตร 6 สํานักงานการเกษตรภาคตะวันออก
จังหวัดระยอง โทร. 038-611578
2. นายไพฑรู ย ปฏิบตั ิ นักวิชาการเกษตร 6 สาํ นักงานเกษตรจงั หวัดระยอง
โทร. 038-611202
3. สํานักงานเกษตรจงั หวดั จนั ทบุรี โทร. 039-
4. สาํ นกั งานเกษตรจังหวัดตราด โทร. 039-
5. สาํ นักงานเกษตรจงั หวดั ระยอง โทร. 038-611202
36
สําหรับนกั ศกึ ษา ประชาชน และทานท่สี นใจชดุ วิชาอาชีพ
ป 2538 กรมการศกึ ษานอกโรงเรยี น ไดผ ลิตชดุ วชิ าอาชพี รนุ ท ่ี 1
จาํ นวน 136 ชุดวิชา ในสาขาวชิ าพชื ไมผล สตั วน า้ํ จดื สัตวน้าํ เค็ม
ตัดเย็บเสอ้ื ผา ดัดผม เสรมิ สวย การถนอมอาหาร การประกอบอาชีพ การปน
การจกั สาน การหลอ การพมิ พ การประดิษฐ
ทุกชดุ วชิ าเขยี นโดยผเู ชย่ี วชาญ และผมู ชี อื่ เสยี งในสาขาออาชีพนน้ั ๆ โดยเฉพาะ
ทั้งในสวนกลางและระดับภาค ทา นสามารถเรียนรูและเขาใจไดง าย แนะนาํ
วธิ กี ารขั้นตอนตาง ๆ ครบถว น ทา นสามารถปฏบิ ัตไิ ดดวยตนเอง จนยดึ เปน
อาชพี ได
ศูนยการศึกษานอกโรงเรียนจังหวัด หรือ
ศูนยบริการการศึกษานอกโรงเรียนอาํ เภอทุกอําเภอ
37
ทวปี รน่ื รมย. สถานการณก ารผลติ และการตลาดพชื สกลุ ระกําในภาคตะวนั ออก,
เอกสารประกอบการประชุมสมั มนาแถลงผลงานประสานงานวจิ ยั
และสง เสรมิ การเกษตร, ระยอง: สํานกั งานการเกษตรภาคตะวนั ออก,
2536.
ศูนยวิจัยพืชสวนจนั ทบุรี. พชื สกลุ ระกํา, จนั ทบุรี: ศูนยว จิ ยั พชื สวนจันทบุร,ี
2536.
พนัส บรู ณศิลปน . เทคนคิ การปลกู สละของอนิ โดนีเซยี , วารสารกสิกร 5
(กันยายน-ตุลาคม), 2537.
ผลสละเปน ทลาย
ตนสละเปน สวนสวยงาม