The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การผูกผ้าประดับอาคาร

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การผูกผ้าประดับอาคาร

การผูกผ้าประดับอาคาร

Keywords: การผูกผ้า,ผ้าประดับอาคาร

ชดุ วชิ า 

การผกู ผา ประดบั อาคาร 

หมวดวชิ า  คหกรรม 

ศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 
สาํ นกั บรหิ ารงานการศกึ ษานอกโรงเรยี น 

กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

คาํ นํา 

ในปจ จุบนั นยิ มใชผาผูกประดับอาคารในการจัดงาน  และมีพธิ กี ารตาง ๆ 
แทนการจัดดว ยดอกไมสด  เนื่องจากผาหาไดง ายสามารถอยูไดนาน โดยไมตอง 
เปลย่ี นใหมแ ละยงั มคี วามสวยงามดว ย  ดงั นน้ั จงึ เกดิ อาชพี การตกแตง อาคารดว ยผา  
ทท่ี าํ รายไดท่ีดใี หแกผทู ําเปน และมฝี ม ือ 

ศูนยการศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก  ซ่ึงมีจุดประสงคจะสงเสริม 
การประกอบอาชพี อสิ ระ  จงึ ไดจ ดั ทาํ ชดุ วชิ าการผกู ผา ประดบั อาคารขน้ึ   โดยมเี นอ้ื หา 
รายละเอียดกิจกรรมท่ีผูอานจะศึกษาและฝกปฏิบัติไดดวยตนเอง    จนมีทักษะ 
พอเพยี งทจ่ี ะนาํ ไปประกอบอาชพี ได 

ศูนยการศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก    หวังเปนอยางยิ่งวาชุดวิชา 
การผูกผาประดับอาคาร   สามารถทําประโยชนใหกับประชาชนที่สนใจได   และ 
ขอขอบคุณคณะกรรมการผลิตชุดวิชา   และคณะกรรมการพัฒนาและปรับปรุง 
หลกั สูตร ตลอดจนผูเกี่ยวของ ในการจัดทาํ ชดุ วชิ านที้ ุกทาน  ไว  ณ  โอกาสน้ ี

ศูนยการศึกษานอกโรงเรียนภาคตะวันออก

สารบัญ 

หนา  
คําแนะนาํ ในการใชช ดุ วชิ า ......................................................................................................... ก 
โครงสรา งชดุ วชิ าการผกู ผา ประดบั อาคาร .................................................................................... ข 
แบบทดสอบตนเองกอ นเรยี น ...................................................................................................... ค 
ตอนที ่ 1 ความรทู ว่ั ไปของการผกู ผา ประดบั อาคาร...................................................................... 1 

1.  ความเปน มา ............................................................................................................. 2 
2.  โอกาสทใี่ ช ................................................................................................................ 4 
3.  วสั ดอุ ปุ กรณ   และการเกบ็ รกั ษา .................................................................................. 6 
4.  องคประกอบของผลงาน .......................................................................................... 10 
ตอนท่ ี 2  รปู แบบของการผูกผา ประดับอาคาร .......................................................................... 13 
1.  การจบั จบี และประกอบดอก ...................................................................................... 14 
2.  การจบั จบี และประกอบเฟอ ง..................................................................................... 27 
3.  การจบั จบี และประกอบระยา ..................................................................................... 36 
ตอนท ่ี 3  การผสมผสานรปู แบบผลงาน .................................................................................. 42 
1.  การผูกผา  1  ผืน..................................................................................................... 43 
2.  การผกู ผา  2  ผนื   2  สี ............................................................................................ 45 
3.  การผูกผา   3  ผืน  3  สี ............................................................................................ 47 
ตอนท่ี  4  การจดั การในอาชีพ ................................................................................................. 48 
1.  ทนุ และการกาํ หนดราคา .......................................................................................... 49 
2.  การทาํ บญั ชรี บั -จา ย ................................................................................................. 51 
3.  การรบั จา งและรบั เหมาบรกิ าร ................................................................................... 54 
แบบทดสอบตนเองหลงั เรยี น .................................................................................................... 56 
เฉลยคาํ ตอบกอ นเรยี นและหลงั เรยี น ......................................................................................... 58 
แนวเฉลยกจิ กรรม ................................................................................................................... 58 
บรรณานกุ รม  ...................................................................................................................... 60

การผกู ผา ประดบั อาคาร  ก 

คาํ แนะนาํ การใชช ดุ วชิ า 

1.  ชดุ วชิ าการผกู ผา ประดบั อาคาร  เปน สอ่ื เอกสารชดุ วชิ า  จาํ นวน  4  ตอน ซงึ่ ผเู รยี นสามารถ 
ศกึ ษาหาความรไู ดด ว ยตนเอง  โดยผเู รยี นตอ งศกึ ษาโครงสรา งชดุ วชิ าใหเ ขา ใจ  แลว วางแผน 
การเรยี นใหเ หมาะสมกบั ตนเอง 
2.  ใหผ เู รยี นทาํ แบบทดสอบกอ นเรยี น  แลว ตรวจคาํ ตอบกบั คาํ เฉลยทใ่ี หไ ว   เพอ่ื ทราบพนื้ ฐาน 
ความร ู
3.  ควรศกึ ษาแนวคดิ   จดุ ประสงค  ขอบขา ยเนอื้ หาในแตล ะตอน  ใหเ ขา ใจเพอ่ื ทราบสาระสาํ คญั  
และจดุ เนน ในตอนนน้ั  ๆ 
4.  ผเู รยี นตอ งปฏบิ ตั ติ ามกจิ กรรมทกี่ าํ หนดให   จงึ จะเปน แนวทางในการนาํ ไปสกู ารเรยี นร ู และ 
ปฏบิ ตั จิ รงิ ได 
5.  ชดุ วชิ าการผกู ผา ประดบั อาคารไดแ ยกเปน ตอน ๆ ดงั นนั้   ผเู รยี นสามารถเรยี นรเู ฉพาะเรอ่ื ง 
เฉพาะตอนทต่ี นสนใจได 
6.  เมอื่ ศกึ ษาทกุ ตอนแลว   ทาํ แบบทดสอบหลงั เรยี น  เพอ่ื ตรวจสอบความกา วหนา   หากยงั ตดิ ขดั  
หรอื ยงั รไู มช ดั เจนในเรอื่ งใดใหก ลบั ไปทบทวนใหม

การผกู ผาประดบั อาคาร  ข

โครงสรา งชดุ วชิ า 
การผกู ผา ประดบั อาคาร 

แนวคดิ  

การผกู ผา ประดบั อาคารเปน การตกแตง สถานทใี่ หส วยงาม  สามารถนาํ ไปประกอบอาชพี  

ดว ยการรบั จา งได 

จดุ ประสงค 

เพอื่ ใหผ เู รยี นสามารถ 
1. ผกู ผา ประดบั อาคารได 
2.  ออกแบบผกู ผา ประดบั อาคารได 
3. ประกอบกจิ กรรมเปน อาชพี ได 

ขอบขา ยเนอื้ หา  (จํานวน 5 ชว่ั โมง) 
(จาํ นวน 15 ชว่ั โมง) 
ตอนท่ี 1 ความรทู วั่ ไปของการผกู ผา ประดบั อาคาร  (จาํ นวน 5 ชวั่ โมง) 
ตอนที ่ 2  รปู แบบของการผกู ผา ประดบั อาคาร  (จาํ นวน 5 ชวั่ โมง) 
ตอนท ่ี 3  การผสมผสานรปู แบบผลงาน 
ตอนท่ี 4 การจดั การในอาชพี  

การผกู ผาประดับอาคาร  ค

แบบทดสอบกอ นเรยี น 

เมอ่ื ศกึ ษาชดุ วชิ านจ้ี บแลว เพอ่ื ทดสอบความรคู วามเขา ใจของทา น  จงเลอื กทาํ เครอื่ งหมาย 

ü ทบั หวั ขอ ทถี่ กู ตอ งทสี่ ดุ เพยี งขอ เดยี ว 

1.  ปจ จบุ นั การจดั ตกแตง อาคารในพธิ ตี า ง ๆ นยิ มใชผ า แทนวสั ดธุ รรมชาต ิ เพราะอะไร 

ก.  ราคาถกู   ข.  หาซอื้ ไดง า ย 

ค.  ประหยัดเวลา  ง.  ถกู ทกุ ขอ  

2.  องคป ระกอบของผลงานการผกู ผา ประดบั อาคาร  ไดแ กข อ ใด 

ก.  ดอก  กา น  ใบ  ข.  ดอก  ใบ  กงิ่  

ค.  ดอก  เฟอ ง  ระยา   ง.  ดอก  ลาํ ตน   ใบ 

3.  ผา ชนดิ ใดทไี่ มน ยิ มใชส าํ หรบั การผกู ผา ประดบั อาคาร 

ก.  ผา ไนลอน  ข.  ผา อาซเิ ตท 

ค.  ผา โพลเี อสเตอร  ง.  ถกู ทกุ ขอ  

4.  ราชพธิ  ี หมายถงึ อะไร 

ก.  พธิ ที างศาสนา  ข.  พธิ ขี องพระมหากษตั รยิ  

ค.  พธิ ขี องชาติ  ง.  ถกู ทกุ ขอ  

5.  ระยา   หมายถงึ สว นใด 

ก.  สว นทห่ี อ ยยอ ยเปน ทาง  ข.  สว นทเี่ ชอ่ื มโยงระหวา งดอกตอ ดอก 

ค.  สว นทผี่ า ตา งสกี นั   ง.  ผดิ ทกุ ขอ  

6.  งานพธิ ใี ดเปน หนา ทข่ี องโยธา 

ก.  รฐั พธิ  ี ข.  ราชพธิ  ี

ค.  สาธารณพธิ  ี ง.  ถกู ทง้ั ขอ   ก  และ  ข 

7.  การใชธ งชาตจิ ดั ประดบั   ใชใ นพธิ ใี ด 

ก.  รฐั พธิ  ี ข.  ราชพธิ ี 

ค.  สาธารณพธิ ี  ง.  ถกู ทกุ ขอ  

8.  สผี า ทเ่ี หมาะใชก บั งานมงคล  คอื สอี ะไร 

ก.  ทกุ ส ี  ไมจ ํากดั วา เปน สใี ด  ข.  สดี าํ และสขี าว 

ค.  สอี อ นทกุ ส ี ยกเวน สดี ํา  ง.  สเี ขม ทกุ ส ี ยกเวน สดี าํ  

การผกู ผาประดับอาคาร  ง

9.  จดุ เรม่ิ ตน ของการทาํ ผลงาน  คอื ขอ ใด 

ก.  การจดั จบี ผา   ข.  การพบั ผา  

ค.  การมดั ผา   ง.  การรดี ผา  

10.  ผา ทถ่ี กู นาํ ไปใชแ ลว   ควรเกบ็ รกั ษาอยา งไร 

ก.  แยกสพี บั เกบ็ ใหเ รยี บรอ ย 

ข.  นาํ ไปตากแดดเพอื่ ฆา เชอ้ื โรค พบั เกบ็ ใหเ รยี บรอ ย 

ค.  นาํ ไปรดี ใหเ รยี บและพบั เกบ็ ใหเ รยี บรอ ย 

ง.  ซกั นา้ํ   ทาํ ความสะอาด  ตากใหแ หง   พบั และใชก ระดาษกนั ชน้ื หอ เกบ็ ใหเ รยี บรอ ย 

11.  ขอ ใดไมใ ชอ ปุ กรณท ใ่ี ชใ นการผกู ผา ประดบั อาคาร 

ก.  คอ น  ข.  ตะป ู

ค.  คมี ตดั ลวด  ง.  ตลบั เมตร 

12.  วสั ดทุ ใ่ี ชใ นการผกู ผา ประดบั อาคารไดแ ก 

ก.  ผา   เขม็   ดา ย  ข.  ผา   ลวด  เขม็ หมดุ หวั มกุ  

ค.  ผา   ดา ย  เขม็ หมดุ หวั มกุ   ง.  ผา   ลวด  เขม็  

13.  การกาํ หนดราคาคา จา ง  ควรพจิ ารณาจากเรอื่ งใด 

ก.  คา วสั ดทุ ใี่ ช  ข.  ระยะเวลาการทาํ งาน 

ค.  ความยาก-งา ยของงาน  ง.  ถกู ทกุ ขอ  

14.  ในการลงทกุ ประกอบธรุ กจิ   ขอ ใดไมน บั เปน ทนุ  

ก.  คา จา งลกู จา ง  ข.  คา เครอ่ื งมอื  

ค.  ความอาหารประจาํ วนั   ง.  คา พาหนะขนสง  

15.  ขอ ใดทมี่ คี วามจําเปน มากทสี่ ดุ สาํ หรบั ผปู ระกอบการดา นธรุ กจิ  

ก.  การตกแตง รา น  ข.  การทาํ บญั ชรี บั -จา ย 

ค.  การกาํ หนดเวลาซอื้ -ขาย  ง.  การหาแหลง เงนิ ทนุ  

ตอนที่  1 

ความรทู ว่ั ไปของการผกู ผา ประดบั อาคาร 

แนวคดิ  

การผูกผา ประดบั อาคาร  ผเู รยี นตองศกึ ษาเกยี่ วกับความเปนมา 
โอกาสทใ่ี ช  วสั ดอุ ปุ กรณท จี่ ําเปน   การเกบ็ รกั ษา  และองคป ระกอบของ 
รปู แบบผลงาน 

จดุ ประสงค 

เมอื่ ผเู รยี นศกึ ษาตอนที ่ 1 จบแลว   สามารถ 
1.  อธิบายประวัติความเปนมาในการผูกผาประดับอาคาร  และ 
โอกาสทใี่ ชไ ด 
2. เลอื กใชว สั ดแุ ละอปุ กรณไ ดถ กู ตอ งและเหมาะสม 
3. อธบิ ายและแยกแยะรปู แบบผลงานได 

ขอบขา ยเนอื้ หา 

1. ความเปน มา 
2. โอกาสทใ่ี ช 
3. วสั ดอุ ปุ กรณแ ละการเกบ็ รกั ษา 
4. องคป ระกอบของผลงาน

การผกู ผาประดบั อาคาร  2

1.  ความเปน มา 

ในอดีตการนําเอาวัสดุจากธรรมชาติมาใชในการประดับตกแตง 
นบั เปน ประเพณนี ยิ มทส่ี บื เนอื่ งกนั มาชา นาน  เนอื่ งดว ยวสั ดทุ เี่ ปน ทรพั ยากร 
ธรรมชาตินั้น  มีอยูอยางสมบูรณและงายตอการซื้อหาหรือจัดนํามาใช 
ราคาไมส งู   อกี ทงั้ ผปู ระกอบการ หรอื ชา งยงั สามารถทมุ เทกาํ ลงั  และเวลา 
ในการประดษิ ฐเ พอ่ื สรา งสรรคผ ลงานได  อยา งเตม็ ความสามารถ  แตเ มอ่ื  
สภาพทางสงั คมและเศรษฐกิจ   ไดมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม 
จงึ ทาํ ใหก ารซอ้ื หาวสั ดยุ ากลําบากขนึ้   ทง้ั ราคากส็ งู ขนึ้ ดว ย  ผปู ระกอบการ 
จงึ ตอ งดนิ้ รนแขง ขนั ทาํ งานแขง กบั เวลาทมี่ จี าํ กดั ในสภาพสงั คมอตุ สาหกรรม 
ไมใ ชสังคมเกษตรกรรมดงั แตก อน  การทจี่ ะทุม เทเวลาท้งั มวลใหก ับงาน 
กล็ ดนอ ยลง  ทําใหเ กิดภาวะบบี บงั คับ  ใหตอ งแสวงหาวสั ดทุ ดแทนวสั ด ุ
ธรรมชาต ิ ท่ีสามารถนํามาใชใหเ กดิ คณุ คาทใ่ี กลเ คยี งกัน  ซง่ึ เอื้ออาํ นวย 
ในดานความสะดวกสบายและรวดเร็ว   โดยเฉพาะอยางย่ิงไมตองระวัง 
ในการดแู ลรกั ษาผลงาน ใหค งสภาพดว ย 

ป จจุ บั นผ าเป นวั สดุ ที่ เข าม ามี บทบาทสําคั ญในงานพิ ธี หรื อ 
ราชพธิ กี ารตา ง ๆ  ทงั้ ในรปู แบบของโครงสรา งใหม  ๆ  เชน   ฉากและมา น 
หรอื ในรปู แบบของเครอื่ งประดบั ตกแตง เปน ระบายดอก  เฟอ ง  และระยา  
เปน ตน   ทง้ั นอ้ี าจเปน เพราะผามิใชว สั ดสุ น้ิ เปลือง  เมอ่ื เสร็จสนิ้ ประโยชน 
ใชสอยแตละคร้ัง    ก็สามารถนํามาทําความสะอาดและเก็บรักษาไวใช 
ในงานครั้งตอ  ๆ    ไปนานหลาย  ๆ  ครั้ง    ตางจากวัสดุธรรมชาติท่ีถูก 
นาํ มาดดั แปลงประดษิ ฐใ ชใ นการประดบั ตกแตง   เชน   ดอกไมส ด  ใบ  กง่ิ  
กา น  และลาํ ตน  เหลา นลี้ ว นมีขดี จํากดั ทางกายภาพ  การนํามาใชงาน 
จะอยไู ดภ ายในระยะเวลาจาํ กดั   สน้ิ เปลอื งคา ใชจ า ย  และตอ งคอยดแู ลรกั ษา 
อยา งสมาํ่ เสมอใหค งสภาพอยไู ด   นบั เปน ความยงุ ยากและสน้ิ เปลอื งกวา  
เมอื่ เทยี บกบั การใชผ า  

การผกู ผาประดับอาคาร  3

ผาเปนวัสดุสังเคราะหที่มีความคงทน    มีสีสันสวยงาม  และม ี
คุณสมบัติทางกายภาพดานอ่ืน  ๆ  ที่สามารถชดเชยวัสดุธรรมชาติได 
อยางสอดคลอ ง  และเหมาะสมกับสภาพปจจุบนั ดวย  ผาจึงจัดเปน วสั ดุ 
จาํ เปน ทถี่ กู นาํ มาใชแ ทนวสั ดธุ รรมชาต ิ  ดงั นนั้ การเรยี นรเู กยี่ วกบั โอกาสทใี่ ช 
การผกู ผา ประดบั อาคาร  การเลอื กใชส ใี หเ หมาะสมกบั งาน  จงึ มคี วามสาํ คญั  
ทชี่ า งตอ งเรยี นร ู  นอกจากนนั้ ยงั ตอ งมคี วามรเู กยี่ วกบั รปู แบบ  และเทคนคิ  
วิธีการผูกผาดวย   ชางจาํ เปนตองศึกษาและเรียนรูไว   เพื่อนําไปใชให 
สอดคลองและเหมาะสมกับสภาพ    ความตองการของผูวาจาง    อน่ึง 
การมีความรู  ความสามารถเพียงอยางเดียวก็ไมพอ    ชางยังตองหา 
ประสบการณเ สรมิ ดว ย 

กจิ กรรมที่  1 

จงอธิบายความเปนมาในการผูกผาประดับอาคาร   ตามความ 
เขา ใจของทา น 

.................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 

การผกู ผา ประดับอาคาร  4

2.  โอกาสทใี่ ช 

ชา งจาํ เปน ตอ งมคี วามรเู กยี่ วกบั พธิ  ี และงานตา ง ๆ  เพอ่ื จะไดเ ลอื กใช 
สีผา ในการจัดประดบั ไดเหมาะสม  กับโอกาสไดอยางเหมาะสมและถูก 
กาลเทศะ  เพราะความสามารถและฝม อื เพยี งอยา งเดยี วไมพ อ  ถา หากใชผ า  
ไมถ กู กาลเทศะอาจทาํ ใหผ ลงานทอ่ี อกมาไมส วยงามและไมม คี ณุ คา  

ประเภทของพธิ ี  แบง ออกเปน   3  พธิ  ี  ดงั น ้ี
ราชพธิ  ี หมายถงึ   พธิ ขี องพระมหากษตั รยิ ห รอื ราชวงศ   การจดั พธิ  ี

ตอ งมธี งชาตดิ ว ย  การจดั เปน หนา ทขี่ องงานโยธา 
รฐั พธิ  ี หมายถงึ   พธิ ขี องกระทรวง  ทบวง  กรม  กอง  ฯลฯ  การจดั พธิ  ี

จะเปน บคุ คลใดกไ็ ดท ม่ี คี วามสามารถหรอื จะเปน การจา งชา งเปน ผจู ดั  
สาธารณพธิ ี  หมายถงึ   พธิ ที เ่ี ปน สาธารณประโยชน   เชน   พธิ เี ปด  

สะพาน  พธิ เี ปด ถนน  ฯลฯ 

ประเภทของงาน  แบง ออกเปน   2  งาน  คอื  
งานมงคล เชน   งานแตง งาน  งานบวชพระ  งานทําบญุ ขน้ึ บา นใหม 

งานโกนผมไฟ 
งานอวมงคล  เชน   งานศพ 

การใชส  ี
การใชส  ี มคี วามสาํ คญั เพราะเปน สญั ลกั ษณบ ง บอกถงึ อารมณ  เชน  

สดใส  รนื่ รมย   และเศรา หมองได   ดงั นน้ั จงึ ควรคาํ นงึ ถงึ การใชส  ี ซงึ่ แบง ตาม 
ความเชอื่ ออกเปน  2 อยา ง  คอื  

ความเชอ่ื ของคนสมยั กอ นและปจ จบุ นั กเ็ ชอื่ เชน นี ้
1. งานมงคล ควรใชส สี ดใส  ใชไ ดท กุ สตี ามความเหมาะสม  ยกเวน  
สดี ํา 
2. งานอวมงคล สที ใี่ ชค วรเปน สดี าํ และขาว  ไมค วรใชส อี น่ื  ๆ 

การผกู ผาประดบั อาคาร  5

ความเช่ือตามความนิยมในแตละทองถิ่น  สีจึงไมถ ูกจํากดั วา 
จะใชก บั งานใดงานหนง่ึ   การใชส จี งึ ควรจดั ใหเ หมาะสมกบั ความนยิ มของ 
ทอ งถน่ิ นนั้  ๆ 

กจิ กรรมท่ี  2 

จงอธบิ ายการใชส ผี า ในการผกู ผา ประดบั อาคารในพธิ แี ละงานตา ง ๆ 
ตามทไี่ ดศ กึ ษา 

.................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 
.............................................................................................................. 

การผกู ผา ประดับอาคาร  6

3. วสั ดอุ ปุ กรณแ ละการเกบ็ รกั ษา 

1.  วสั ดอุ ปุ กรณ 
ความรทู วั่ ไปเกย่ี วกบั วสั ดอุ ปุ กรณใ นการผกู ผา ประดบั อาคาร มดี งั น้ ี
ผา คอื  วสั ดทุ เ่ี ปน ผนื ทาํ มาจากเสน ใยธรรมชาตแิ ละเสน ใยสงั เคราะห 

ซงึ่ แตล ะประเภทมคี ณุ สมบตั ทิ างกายภาพทเ่ี หมาะสมตอ การนาํ มาใชใ นการ 
สรา งงานตา งกนั   ดงั น้ ี

ผา เสน ใยธรรมชาต ิ นา้ํ หนกั   ยบั งา ย  จบั จบี คงรปู ไดถ าวร  มคี วาม 
มนั นอ ย  ใยผา ยดื หยนุ ตวั นอ ย  ไดแ ก   ผา ฝา ย  ผา ลนิ นิ   ผา ปา น 

ผา เสน ใยสงั เคราะห  มนี า้ํ หนักเบา   ผิวสมั ผัสออนนมุ   เรียบมนั  
สะทอนแสงไดด ี   ทาํ ใหดแู พรวพราวระยิบระยับ เหนียวและยดื หยุนไดด ี 
ไมยับงาย    แตจับจีบไมคอยอยูตัว    ไดแก    ผาไนลอน    ผาอาซิเตด 
ผา โพลเี อสเตอร   ผา ออรล อน  ผา ไฮเกรด 

ลวด ใชผ กู รดั ผา ใหค งรปู หลงั จบั จบี   จดั กลบี ประกอบดอกตลอดจน 
มดั แขวนประกอบเขา กบั โครงสรา งทต่ี กแตง นนั้  ๆ  การใชล วดแทนดา ยหรอื  
เชอื ก  เนอ่ื งจากสามารถรดั ไดโ ดยฟน เกลยี วเปน รอยพบั หรอื บดิ โดยตอ เนอ่ื ง 
เวลาแกะหรอื แกก ส็ ะดวกไมย งุ ยาก  ลวดทใี่ ชค วรมขี นาดของเสน พอเหมาะ 
ไมใหญจนแข็งยากแกการบิดงอ  หรือเล็กจนไมสามารถมัดผาใหคงรูป 
ลกั ษณะตามทตี่ อ งการได 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  7

ตะป ู  แบง ออกเปน   2  ประเภท  คอื   ตะปตู อกไมแ ละตะปตู อก 
คอนกรตี   ตะปทู งั้ 2 ประเภท  ใชต อกยดึ ตดิ อาคารตามอาคารทใี่ ช   เพอื่ ยดึ  
งานผา ใหแ ขวนตดิ กบั โครงสรา งทตี่ อ งการตกแตง นนั้  ๆ  ในกรณที ไ่ี มส ามารถ 
ใชล วดยดึ ตดิ กบั โครงสรา งได    ขนาดทใี่ ช 1 1/ 2  นวิ้   หรอื 2  นวิ้  

เขม็ หมดุ หวั มกุ   ใชส ําหรบั ยดึ ผลงานใหค งรปู   เชน   ยดึ กลบี ดอก 
ยดึ ระยา  

คอน  เปนอุปกรณใชสําหรับตอกตะปูใหยึดติดกับอาคารหรือ 
โครงสรา ง ทต่ี อ งการตกแตง นน้ั  ๆ 

คีมตัดลวด  เปนอุปกรณใชสําหรับตัดลวด    และคีบลวดบิด 
พนั เกลยี วใหก ระชบั ในกรณที ม่ี อื ไมส ามารถทาํ ได 

ตลับเมตร  เปนสายวัดสําหรับชางไมและชางอุตสาหกรรม 
ทําจากโลหะสาํ หรบั วดั ความยาวหรอื ความกวา งของโครงสรา งทจ่ี ะตกแตง  
และแบง เนอ้ื ทค่ี วามยาวหรอื ความกวา งใหเ ปน สว นยอ ยขนาดเทา  ๆ กนั  

2.  การเกบ็ รกั ษา 
วสั ดแุ ละอปุ กรณท น่ี ําไปใชใ นการผกู ผา ประดบั อาคารในแตล ะครงั้  

สามารถนาํ มาเกบ็ ไวใ ชใ นงานครงั้ ตอ ไปไดอ กี   ฉะนนั้ ชา งหรอื ผปู ระกอบการ 
จงึ จาํ เปน ตอ งมคี วามรเู กยี่ วกบั การบาํ รงุ รกั ษาวสั ดอุ ปุ กรณต า ง ๆ ใหค งสภาพ 
ทดี่ ไี วใ ชใ นครงั้ ตอ ไปโดยไมจ าํ เปน ตอ งซอื้ หาใหมท งั้ หมด  ดงั น ี้

ผา  เม่ือใชแลวมักมีรอยเปอนควรนําไปซักทําความสะอาด 
แลว ตากแดดใหแ หง   พบั เกบ็ ไว  โดยหากระดาษกนั นาํ้   หรอื พลาสตกิ หอ หมุ ไว 
กรณใี ชก ระดาษหอ ควรตดั เศษผา ตดิ ไวท ห่ี อ   เพอื่ จะไดห ยบิ สไี ดถ กู ตอ ง 

ลวด ควรเกบ็ สว นทไี่ มห กั งอ  ถาวรและมคี วามยาวพอสาํ หรบั ใชง าน 
ครงั้ ตอ ไปไดห ากลวดมรี อยโคง งอ  ใหใ ชไ ม 2 แผน   ประกบตวั ลวด  แลว คลงึ  
ลวดใหเ ปน เสน ตรง  รวบรวมลวดทง้ั หมดเปน กองมดั รวมไว   และเกบ็ ไวใ น 
กลอ งเครอื่ งมอื  

การผกู ผาประดบั อาคาร  8

ตะปู  เกบ็ ตวั ทไ่ี มห กั งอมาก  ใชค อ นตอกแตง ตะปใู หอ ยใู นสภาพ 
เสน ตรง  เกบ็ ใสก ลอ งสาํ หรบั เกบ็ ตะป ู

เข็มหมุดหัวมุก  เกบ็ ตัวท่ีไมหักงอ   ใชเศษผาหยอดนํ้ามันจักร 
เชด็ ทาํ ความสะอาดเขม็ หมดุ กนั สนมิ   แลว เกบ็ ใสก ลอ งพลาสตกิ ไว 

คอ น  คมี ตดั ลวด  และตลบั เมตร  เปน อปุ กรณท มี่ คี วามคงทน 
หากรจู กั ใชใ หถ กู วธิ แี ละเกบ็ ใหเ ปน ท ี่ กส็ ามารถเกบ็ ใชไ ดต ลอดไป  โดยไมต อ ง 
ซอ้ื หาใหมแ ลว เกบ็ รวมไวใ นกลอ งเครอ่ื งมอื  

กจิ กรรมท ี่ 3 

จงบอกวสั ดอุ ปุ กรณส าํ หรบั ใชใ นการผกู ผา ประดบั อาคาร  พรอ มทง้ั  
วธิ ใี ช 

............................................................................................................ 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 

การผกู ผาประดับอาคาร  9

กจิ กรรมท ่ี 4 

จงบอกวิธีเก็บรักษาวัสดุอุปกรณในการผูกผาประดับอาคาร 
ตามหวั ขอ ตอ ไปน ้ี

1.  ผา 
............................................................................................................ 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
2.  ลวด 
............................................................................................................ 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
3.  ตะปู 
............................................................................................................ 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
4. เขม็ หมดุ หวั มกุ  
............................................................................................................ 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 
.......................................................................................................................... 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  10

4.  องคป ระกอบของผลงาน 

องคป ระกอบของผลงานม ี 3  ประเภท  คอื   ดอก  เฟอ ง  และระยา  
เม่ือนํามาประกอบเขาดวยกันจะเปนรูปแบบผลงานลักษณะตาง  ๆ 
ตามแตช า งจะคดิ สรา งสรรคต ามจนิ ตนาการ 

ดอก  คือ   สวนที่สําคัญที่สุดขององคประกอบท้ังหมด   ฉะน้ัน 
การวางตาํ แหนงดอกโดยท่ัวไป   เนนใหโครงสรางท่ีประดับนั้นเดน และ 
สะดดุ ตา 

การกาํ หนดจดุ เนน ของดอก  มเี กณฑด งั น้ ี
สี  กรณที ใ่ี ชส เี ดยี วกนั ตลอด  ขนาดและรปู ทรงเหมอื นกนั   ดอกท่ ี
จะเนน ควรใชต งั้ แต 2 สขี นึ้ ไป 

ขนาด  กรณีสีผามีจํากัด   ดอกที่จะเนนควรใหมีขนาดใหญกวา 
ดอกรอง และมจี าํ นวนชน้ั มากกวา  1 ชน้ั ขน้ึ ไป 

การผกู ผาประดบั อาคาร  11

รูปทรง  ดอกทจี่ ะเนนควรมรี ูปทรงตางจากดอกรอง และดอกรอง 
ควรมรี ปู ทรงเหมอื นกนั  

สว นประกอบยอ ย  กรณขี องผา มจี าํ กดั   เวลาจาํ กดั   ดอกทจี่ ะเนน  
ควรเนนระยา ที่ตางกนั   และเนนดว ยเฟอ งอ่นื  ๆ เพอ่ื เสริมประกอบทําให 
ดอกหลกั เดน ขน้ึ  

เฟอง  เปนองคป ระกอบสวนหน่ึงของงานประดบั ตกแตงดวยผา  
มีลกั ษณะหอยโยงเปน สวน ๆ  ระยะแตละชว งเทา กนั ตามแนวความยาว 
ของผา   เฟอ งเปน องคป ระกอบรองจากดอกและระยา   สามารถชว ยแกป ญ หา 
ดา นตา ง ๆ ดงั น ้ี

แกปญ หาเร่ืองปรมิ าณเน้ือผา  เนอ่ื งจากการใชผ า จับดอกตอ งใช 
เนอื้ ผา ปรมิ าณมาก  การจบั เปน เฟอ งจงึ ชว ยประหยดั เนอื้ ผา ไดม าก 

แกป ญ หาเรอ่ื งเวลา  เนอ่ื งจากการทาํ เฟอ งตอ งกําหนดระยะเวลา 
ของเฟอ งเปน ความยาว  ไมย งุ ยากซาํ้ ซอ นในขนั้ ตอนการทาํ  และยงั ใชเ วลา 
นอ ยอกี ดว ย 

การผกู ผาประดบั อาคาร  12

การแกป ญ หาเรอ่ื งการซาํ้ ของรปู แบบ  เนอ่ื งจากเฟอ งมรี ปู ลกั ษณะ 
หลายรปู แบบ  มขี ้ันตอนการทาํ ตางกนั   จงึ สามารถเลือกใชใ หเหมาะสม 
กบั ปรมิ าณเสอ้ื ผา   เวลา  และระยะทางของโครงสรา งได 

แกปญหาพื้นท่ีวางสวนบนของโครงสราง  เนื่องจากเฟองเปน 
สว นประกอบทก่ี นิ พน้ื ทดี่ า นความยาวมาก  จงึ สามารถแกป ญ หาพน้ื ทว่ี า งของ 
โครงสรา งไดม ากกวา รปู ลกั ษณะอน่ื  ๆ 

ระยา   คอื สว นทหี่ อ ยยอ ยมลี กั ษณะเปน พว งหรอื พ ู  ใชค น่ั ประกอบ 
ระหวา งเฟอ งแตล ะชว ง  หรอื ใชเ สรมิ อยใู ตด อก  ระยา มลี กั ษณะและรปู แบบ 
ตา ง ๆ กนั   ดงั ภาพตอ ไปนี้ 

ตอนที ่ 2 

รปู แบบของการผกู ผา ประดบั อาคาร 

แนวคดิ  

การผกู ผา ประดบั อาคารมสี ว นประกอบหลายลกั ษณะ  ผเู รยี นตอ ง 
รูถึงความหมายขององคประกอบรูปแบบผลงาน    เพื่อจะไดเลือกใช 
องคป ระกอบเหลา นน้ั มาสรา งผลงานใหเ หมาะสมและสวยงาม 

จดุ ประสงค 

เมอ่ื ผเู รยี นศกึ ษาตอนที่ 2 จบแลว   สามารถ 
1. อธบิ ายและสาธติ วธิ กี ารจบั จบี ประกอบดอกแตล ะประเภทได 
2. อธบิ ายและสาธติ วธิ กี ารจบั จบี ประกอบเฟอ งแตล ะประเภทได 
3. อธบิ ายและสาธติ วธิ กี ารจบั จบี ประกอบระยา ได 

ขอบขา ยเนอ้ื หา 

1. การจบั จบี และประกอบดอก 
2. การจบั จบี และประกอบเฟอ ง 
3. การจบั จบี และประกอบระยา

การผกู ผา ประดบั อาคาร  14

1.  การจบั จบี และประกอบดอก 

การจบั จบี และประกอบดอก  เปน ขน้ั ตอนเรมิ่ ตน ในการทาํ รปู ลกั ษณ 
ของดอก    ซึ่งดอกเปนผลงานสําคัญ    เปนจุดสนใจของงานการผูกผา 
เราแบง ประเภทของดอกออกเปน ลกั ษณะตา ง ๆ ดงั นี ้

ดอกชน้ั เดยี ว  มี  2  แบบ  คอื  
1.  ดอกชน้ั เดยี วสเี ดยี ว 

2.  ดอกชนั้ เดยี วสลบั สี 

ดอกหลายชน้ั  
1.  ดอก 2  ชนั้  

1.1  ดอก  2  ชนั้   สเี ดยี ว 

การผกู ผา ประดับอาคาร  15

1.2  ดอก  2  ชนั้   2  ส ี

2.  ดอก 3  ชน้ั  
2.1  ดอก  3  ชนั้   สเี ดยี ว 

2.2  ดอก  3  ชนั้   3  สี 

การผกู ผาประดับอาคาร  16

จาํ นวนกลบี ดอก 
1. ดอกชน้ั เดยี ว  ดอกเลก็   จาํ นวนกลบี   4  กลบี  
ดอกใหญ   จํานวนกลบี   8  กลบี  
2. ดอกชนั้ เดยี วสลบั สี จาํ นวนกลบี   8  กลบี  
3. ดอก  2  ชน้ั   2  สี  กลบี ใน  จาํ นวนกลบี   4  กลบี  
กลบี นอก  จาํ นวนกลบี   8  กลบี  
4. ดอก  3  ชนั้   3  สี  กลบี ใน  จาํ นวนกลบี   4  กลบี  
กลบี กลาง  จาํ นวนกลบี   8  กลบี  
กลบี นอก   จํานวนกลบี   12  กลบี  

ขน้ั ตอนการจบั จบี   และประกอบดอก 
ดอกเกดิ จากการจบั จบี ผา ในแตล ะชว ง  และพบั ทบผา ทจี่ บั จบี แลว นนั้  

เปน รปู ลกั ษณะกลบี ดอกกลบี หนง่ึ ใชล วดมดั โคนกลบี   แลว จงึ เรม่ิ จบั จบี ผา  
ชว งถดั ไป  และพบั ทบใชล วดมดั โคนกลีบเปน กลีบท่ ี 2  ทําดงั นี้เรอื่ ยไป 
จนครบจํานวนกลีบดอกที่ตองการ   จึงรวบกลีบสุดทายเขาหากลีบแรก 
และใชล วดทเ่ี หลอื มดั รวมกนั อกี ครงั้   จะไดด อก  1 ดอก 

ขน้ั ที ่ 1  จบั จบี ปลายผา ทบไปทบมา 
จนหมดหนา ผา ตามความกวา ง ใชล วด 
มดั ปลายผา ทจี่ บั จบี   แลว ตดิ กบั อาคาร 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  17

ขนั้ ท่ ี 2  จับจบี ผา สว นท่ีถดั ไปทบไป 
ทบมาจนหมดหนาผา    พับทับผาท ่ี
จับจีบแลว  เปนรูปลักษณะกลีบดอก 
ใชล วดมดั โคนกลบี ดอก 

ขน้ั ท่ ี 3  จบั จบี ผา ในสว นทถ่ี ดั ไปทบไป 
ทบมาจนหมดหนาผาตามความกวาง 
พบั ผา ทจี่ บั จบี แลว   เพอื่ ทาํ กลบี ดอกท่ี 2 
ใชล วดมดั กลบี ท่ี  2  ตดิ กบั กลบี ที ่ 1 

ขนั้ ท่ ี 4  ในการทาํ กลบี ที่  3, 4, 5, 6, 7 
ทาํ เชน เดยี วกบั ขนั้ ที่ 3  ดงั นี้ 

กลีบดอกท่ ี 3  มัดติดกับ 
กลบี ดอกท ่ี 2 

กลีบดอกท่ี  4  มัดติดกับ 
กลบี ดอกท ่ี 3 

กลีบดอกท ่ี 5  มัดติดกับ 
กลบี ดอกที่  4 

กลีบดอกท ี่ 6  มัดติดกับ 
กลบี ดอกที ่ 5 

กลีบดอกที่  7  มัดติดกับ 
กลบี ดอกท่ ี 6 

การผกู ผาประดบั อาคาร  18

ข้ันท่ี  5  รวบกลีบสุดทายเขาหา 
กลบี แรก  ใชล วดสว นทเ่ี หลอื มดั รวมกนั  
ทง้ั หมด 

ข้ันท ่ี 6  คล่ีกลีบแตละกลีบและจัด 
รปู ดอกใหส วยงาม 

การผกู ผา ประดับอาคาร  19

การจดั ประกอบดอกผาชน้ั เดียวสลบั ส ี
เปน การจบั จบี ประกอบดอกดว ยผา   2  ผนื ตา งส ี  ขนั้ ตอนการทํา 

เชน เดยี วกบั การจบั จบี ประกอบดอกชนั้ เดยี วเพยี งแตเ พม่ิ ผา ทจี่ ะจบั อกี 1 ผนื  
ตา งสกี บั ผนื แรก  แลว มดั รวมกนั ในจดุ ทตี่ อ งการจดั ทง้ั 2 ผนื   และจบั จบี ดอก 
สลบั สกี นั ทลี ะผนื   แตล ะกลบี จะตอ งใชล วดมดั โคนทกุ ครง้ั   จนครบจาํ นวน 
กลบี ดอกสลับกนั ตามท่ีตองการ  จึงรวบกลีบสดุ ทายเขาหากลีบแรกและ 
ใชล วดมดั รวมกนั อกี ครงั้   จะไดด อกชนั้ เดยี วสลบั สตี ามทตี่ อ งการ  ขน้ั ตอน 
การทาํ ดงั น ี้

ขน้ั ท่ี  1  จบั จบี ปลายผา ผนื ที ่ 1  ทบไป 
ทบมาจนหมดหนาผาตามความกวาง 
ใชลวดมัดตํ่าจากปลายผาเล็กนอย 
ตรงจุดหลักที่ตองการ    ผืนท ่ี 2  ทาํ  
เชน เดยี วกบั ผนื ท ี่ 1 ใชล วดทม่ี ดั ผนื ท ี่ 1 
มดั เขา ดว ยกนั  

ขน้ั ท ่ี 2 จบั จบี ผา ผนื ที่ 2 ในสว นทถ่ี ดั ไป 
พับทบผาที่จับจีบแลวเปนรูปลักษณะ 
กลีบดอกท่ีตองการ    ใชลวดมัดโคน 
กลบี ดอก 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  20

ขนั้ ที่ 3 จบั จบี ผา ผนื ท่ี 1 ในสว นทถ่ี ดั ไป 
แลว พบั ทบผา ทจ่ี บั จบี แลว เปน รปู ลกั ษณะ 
กลบี ดอกใชล วดมดั โคนกลบี ดอก ตดิ กบั  
กลบี ดอกท ่ี 1 

ขนั้ ท ่ี 4  จบั จบี ผา ในสว นทถี่ ดั ไปของ 
ผนื ที่ 2 ทบไปทบมาจนหมดหนา ผา ตาม 
ความกวา ง  ใชล วดมดั ตดิ กบั กลบี ดอก 
ท ่ี 2

ขน้ั ที ่ 5  ทําเชนเดียวกบั การทํากลีบ 
ท ี่ 1  และกลบี ท่ ี 2  เพยี งแตใ หส ขี องผา  
สลบั กันไปดงั นี้ 

ผา ผนื ท่ ี 1  ทาํ กลบี ที่ 4  ผา ผนื ท่ ี
2  ทาํ กลบี ท่ี 5 

ผา ผนื ท่ ี 1  ทาํ กลบี ท่ี 6  ผา ผนื ที่ 
2  ทาํ กลบี ที่ 7 

ผา ผนื ที่  1  ทาํ กลบี ท่ี 8 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  21

ขนั้ ท ี่ 6 รวบกลบี สดุ ทา ยเขา หากลบี แรก 
ใชล วดมดั รวมกนั  

ขนั้ ท ี่ 7  คลก่ี ลบี แตล ะกลบี   และจดั ให 
เปน รปู ดอกไมท สี่ วยงาม 

การทาํ ดอก  2  ชนั้   2  สี 
เปนการจบั จบี ดอกดวยผา  2  ผืน   ช้ันในและช้ันนอกของดอก 

ตา งสกี นั   ขนั้ ตอนการทําเชน เดยี วกบั การทาํ ดอกชนั้ เดยี ว  เพยี งแตเ พมิ่ ผา อกี  
1  ผนื   ตา งสกี บั ผนื แรก  เพอื่ ทาํ กลบี ดอก  2  ชน้ั   2  ส ี  ใชล วดมดั รวมกนั  
ในจดุ ทต่ี อ งการทงั้   2  ผนื   เรมิ่ จบั จบี ดอกชนั้ ในดว ยผา ผนื ที ่ 1  จนครบ 
จํานวนกลบี ทตี่ อ งการ  แลว รวบกลบี สดุ ทา ยเขา กลบี แรกใชล วดมดั รวมกนั  
เปน ดอกชนั้ ใน  แลว จงึ นาํ ผา ผนื ท่ี 2 มาจบั จบี ดอกชน้ั นอก  ใหไ ดจ าํ นวนกลบี  
มากกวาจาํ นวนกลีบดอกชั้นในตามที่ตองการ    รวบกลีบสุดทายเขาหา 
กลบี แรกโดยใหโ อบรอบดอกชนั้ ใน  ใชล วดมดั โคนกลบี กจ็ ะไดด อก 2 ชนั้  2 
ส ี  ตามตอ งการ  ดงั นี้ 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  22

ขนั้ ท่ ี 1  นําผา ทเ่ี ตรยี มไวแ ลว   2  ผนื  
จบั จบี ผา ผนื ท่ี  1  ทบไปทบมาจนหมด 
หนาผาตามความกวา ง  ใชล วดมดั ต่ํา 
จากปลายผาเล็กนอยตรงจุดหลักท ่ี
ตอ งการ  และนําผา ที่  2  ทําเชน เดยี ว 
กบั ผนื ท่ ี 1  ใชล วดมดั ตดิ กบั ผนื ท่ ี 1 

ขน้ั ท่ ี 2 จบั จบี ผา สว นทถี่ ดั ไปของผนื     ท ี่
2  ทบไปทบมาจนหมดหนาผาตาม 
ความกวา ง  พบั ทบเปน กลบี ดอกชน้ั ใน 
ขนาดเทา ท่ีตองการ  ใชลวดมัดตดิ กบั  
จดุ หลกั  

ขนั้ ที่  3  จบั จบี ผา ผนื ที่ 2  ทาํ เชน เดยี ว 
กับขั้นที ่ 2  จนไดกลีบดอกครบตาม 
ตอ งการ   รวบกลีบสดุ ทา ยเขาหากลีบ 
ท ี่ 1  ใชล วดมดั รวมกนั  

การผกู ผา ประดบั อาคาร  23

ขน้ั ที ่ 4  ผา ผนื ท่ี  1  จบั จบี ผา สว นท่ี 
ถดั ไปทบไปทบมาจนหมดหนาผา ตาม 
ความกวา ง  พบั ทบเปน กลบี ท่ ี 1  ของ 
ดอกช้ั นนอก    ควรมีความยาวของ 
กลีบดอกมากกวากลีบดอกชั้นท ี่ 1 
ใชล วดมดั โคนกลบี  

ขน้ั ที่  5  จบั จบี ผา สว นทถ่ี ดั ไป  ทบไป 
ทบมาจนหมดหนาผาตามความกวาง 
พบั เปน กลบี ดอกเชน เดยี วกบั กลบี ที่  1 
ของดอกช้ันนอก   ทําเชนน้ีไปจนครบ 
กลบี ดอกทตี่ อ งการ  (8 กลบี )  มดั ดว ย 
ลวดใหต ดิ กนั  

ขน้ั ท ี่ 6  มดั กลบี ดอกชนั้ นอก  โอบรอบ 
โคนดอกชน้ั ในใชล วดมดั ตดิ กนั  

การผกู ผา ประดับอาคาร  24

ขั้ นท่ี  7  คล่ีกลีบดอกชั้นในกอน 
แลวจึงคลี่กลีบดอกช้ันนอก    แลวจัด 
ใหส วยงาม 

การจดั กลบี ดอก  3  ชน้ั   3  ส ี
เปน การจบั จบี ดอกดว ยผา   3  ผนื   เปน ดอก  3  ชน้ั   3  ส ี  คอื   ชนั้ ใน 

ชั้นกลาง    และชัน้ นอกของดอก  ขั้นตอนการทําเชน เดียวกบั การจับจีบ 
ประกอบดอก  2  ชน้ั   2  ส ี  เพยี งแตเ พมิ่ ผา อกี   1  ผนื   สตี า งกนั กบั ผา   2 
ผนื แรก  เพอื่ ทํากลบี ชนั้ นอกสดุ   เปน ดอก  3  ชน้ั   3  ส ี  แลว มดั รวมกนั  
ตรงจดุ ทต่ี อ งการทงั้   3  ผนื   แลว จบั จบี ดอกชนั้ ในดว ยผา ผนื ท ่ี 1  จํานวน  4 
กลบี   รวบกลบี สดุ ทา ยเขา มารวมกนั มดั ดว ยลวด  ตอ จากนน้ั จงึ ใชผ า ผนื ท่ี 2 
มาจบั จบี ทําเปน กลบี ดอกชน้ั ท่ ี 2  โดยใหขนาดของกลบี ดอกมคี วามยาว 
มากกวา กลบี ดอกชนั้ ที่  1  เลก็ นอ ย  จบั จบี เปน กลบี ทง้ั หมดจาํ นวน  8  กลบี  
แลวมดั รวมกันใหโ อบรอบกลีบดอกช้ันในสุด  ใชผ าผนื ท่ ี 3  จบั จีบเปน 
กลบี ดอกชน้ั ท่ี 3 ใหม คี วามยาวของกลบี มากกวา กลบี ดอกชน้ั ท่ี 2 เลก็ นอ ย 
จบั จีบเปนกลบี ดอกทั้งหมดจาํ นวน  12  กลบี    แลว มดั รวมกันโอบรอบ 
โคนกลบี ชนั้ ท่ี  2  กจ็ ะไดด อก  3  ชน้ั   3  ส ี  ตามตอ งการ  ดงั นี้ 

ขนั้ ท ี่ 1  นําผา ทเี่ ตรยี มไวท ง้ั   3  ผนื  
จับจบี ปลายผาผืนที ่ 1  ทบไปทบมา 
จนหมดหนา ผา ตามความกวา ง  ใชล วด 
มดั ตดิ กบั จดุ ทต่ี อ งการแลว นาํ ผา ผนื ท่ี 2 
และผนื ท่ี  3  มาทาํ เชน เดยี วกบั ผนื ท ่ี 1 
ดงั นี้ 

ผนื ที่  2  มดั ตดิ กบั ผนื ท่ี  1 
ผนื ท่ี  3  มดั ตดิ กบั ผนื ท่ ี 2 

การผกู ผา ประดับอาคาร  25

ขน้ั ท ี่ 2  ผา ผนื ท่ ี 3  จบั จบี ทบไปทบมา 
จนหมดหนา ผา   พบั ทบผา เปน กลบี ท่ ี 1 
ใชล วดมดั โคนกลบี  แลวเรม่ิ จบั จบี กลบี  
ท่ี 2, 3 และ 4  ทาํ เชน เดยี วกบั กลบี ท ่ี 1 
นาํ มามดั รวมกนั เปน ดอกชนั้ ใน 

ขน้ั ที่ 3 ใชผ า ผนื ท่ี 2 มาจบั จบี เชน เดยี ว 
กบั ผนื ท ี่ 1  เพอ่ื ทาํ เปน กลบี ดอกชนั้ ที่  2 
ขนาดความยาวของกลบี มากกวา ชน้ั ใน 
พอสมควรใชล วดมดั ติดกับจุดเรม่ิ   ทาํ  
กลีบที่  2  –  8  เชนเดียวกับกลีบท่ี  1 
แลวนํามามัดรวมกันโดยใชโอบรอบ 
กลบี ดอกชนั้ ใน 

ขน้ั ท ี่ 4  ใชผ า ผนื ท่ี 1 มาจบั จบี   เพอื่ ทาํ  
เปนกลบี ดอกช้ันนอก   ใหขนาดความ 
ยาว  ของกลีบดอกมากกวาชั้นท ี่ 2 
พอสมควร    ใชลวดมัดติดกับจุดเริ่ม 
ทาํ กลบี ที่  2 – 10  เชน เดยี วกบั กลบี ท ่ี 1 
แลว นาํ มามัดรวมกัน  โดยใหโอบรอบ 
โคนกลบี ดอกชน้ั ที ่ 2 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  26

ขั้นท่ ี 5  คลกี่ ลีบดอกของแตล ะข้ัน 
โดยคลี่ ต้ั งแต ชั้ นในสุดออกมาหาชั้ น 
นอกสดุ   แลว จดั ใหส วยงาม 

กจิ กรรมท ี่ 5 

หลงั จากผเู รยี นไดศ กึ ษาการจบั ผา ทาํ ดอกแลว  ใหผ เู รยี นปฏบิ ตั จิ รงิ  
จนเกดิ ทกั ษะ 

การผกู ผาประดบั อาคาร  27

2.  การจบั จบี และประกอบเฟอ ง 

การจับจบี และประกอบเฟอง   เปนสวนทจ่ี ัดประดบั ตกแตง ในรูป 
ลกั ษณะหอ ยโยงเปน ชว ง ๆ หรอื หอ ยโยงเปน ชว งระหวา งดอก ระหวา งระยา  
ทง้ั น ้ี  ขนึ้ อยกู บั วัสดุและเวลาเปน ตวั กําหนดรปู แบบแบง ประเภทของเฟอ ง 
ดงั น้ี 

1.  เฟอ งทอ งชา ง 

2.  เฟอ งเกลด็ ปลา 

3.  เฟอ งเชงิ สาน 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  28

ขน้ั ตอนการทําเฟอ งทอ งชา ง 
กอ นประกอบเฟอ งตอ งเรม่ิ ดว ยการจบั จบี กอ น 

ขน้ั ท่ี  1  จบั จบี ปลายผา ทบไปทบมา จน 
หมดหนา ผา  

ขนั้ ท ่ี 2 ใชล วดมดั ตดิ กบั อาคารใน     จดุ ท ่ี


ข้ันท ่ี 3  มือขวาจับผาสวนท่ีถัดไป 
เทา กบั ความกวา ง  สว นทจี่ ะยดึ ในชว งที่ 2 
มือซายจับจีบผา   ชวงลางใหกวา งกวา 
ชวงบนทบไปทบมา  จนถึงจุดท่ีมือขวา 
จบั รวบผา เขา ดว ยกนั  

การผกู ผา ประดบั อาคาร  29

ขนั้ ที่  4  ลวดมดั ตดิ กบั อาคารจดุ ท ่ี 2 

ขั้ นท ่ี 5  การทําชวงตอ  ๆ  ไปทํา 
เชนเดียวกับ  ชั้นท ี่ 3  –  4  จนหมด 
พนื้ ทอ่ี าคารทจ่ี ะตกแตง  

กจิ กรรมที ่ 6 

หลงั จากผเูรยี นไดศ กึ ษาวธิ กี ารทาํ เฟอ งทอ งชา งแลว ใหฝ ก ทาํ จนเกดิ ทกั ษะ 
จงึ ดกู ารทาํ  เฟอ งเกลด็ ปลาตอ ไป 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  30

ขน้ั ตอนการทาํ เฟอ งเกลด็ ปลา 

ขนั้ ท ี่ 1  ผา ผนื ท ่ี 1  จบั จบี ปลายผา  
ทบไปทบมาจนหมดหนา ผา  ใชล วดมดั  
ตดิ กบั อาคารในจดุ ท ่ี 2 

ข้ันท่ ี 2  จบั จีบผาสว นทถ่ี ดั ไปทบไป 
ทบมาจนหมดหนา ผา   เทา ความกวา ง 
ของชว งทจ่ี ะยดึ จากจดุ ท่ี 2 – 1 

ขน้ั ท ่ี 3  ใชล วดมดั ตดิ กบั จดุ ที ่ 1 

การผกู ผาประดับอาคาร  31

ข้ันท่ี  4  มือขวาจับผาสวนที่ถัดไป 
เทา ความกวา งของจดุ ทจี่ ะยดึ ในจดุ ท่ ี 3 
มอื ซา ยจบั จบี ผา ชว งลา งใหก วา งกวา ชว งบน 
ทบไปทบมาจนถงึ จดุ ทม่ี อื ขวาจบั รวมผา  
เขา ดว ยกนั  

ขนั้ ท ่ี 5  ใชล วดมดั ตดิ กบั จดุ ท ่ี 3 

ขน้ั ท ่ี 6 ทําเชน เดยี วกบั ขนั้ ท่ ี 2  ใชล วด 
มดั ตดิ กบั จดุ ท่ี  2 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  32

ขั้นที่  7  มือขวาจับผาสวนท่ีถัดไป 
เทา ความกวา ง  สว นทจี่ ะยดึ ในจดุ ที ่ 4 
มือซ้ือจับจีบผาชวงลางทบไปทบมา 
จนหมดหนาผา   จนถงึ จุดท่ีมือขวาจับ 
รวมผา เขา ดว ยกนั   ใชล วดมดั ในจดุ ท่ี 4 

ขนั้ ท่ี  8  การทําลําดบั ตอ ไป  วธิ ที าํ  
เชน เดยี วกบั ขน้ั ที่  6 – 7  ใหท าํ จนหมด 
อาคารทตี่ อ งการ 

กจิ กรรมท่ ี 7 

เมื่อผูเรียนไดศึกษาวิธีทําเฟองเกล็ดปลาแลว    ใหฝกปฏิบัติ 
ตามขน้ั ตอนตา ง ๆ หลาย ๆ ครงั้   จนมที กั ษะ 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  33

ขน้ั ตอนการทําเฟอ งเชงิ สาน 

ขนั้ ที่ 1 ผา ผนื ที่ 1 จบั จบี ปลายผา ทบไป 
ทบมาจนหมดหนาผาตามความกวาง 
ของผา  ใชล วดมดั ตดิ กบั อาคารในจดุ ที่ 2 

ขน้ั ท ี่ 2  ผา ผนื ที่  2  จบั จบี ปลายผา  
ทบไปทบมาจนหมดหน าผ าตาม 
ความกวางของผา    ใชลวดมัดติดกับ 
อาคารในจดุ ท่ี 3 

ขนั้ ท ่ี 3  จบั จบี ผา สว นทถ่ี ดั ไปของผา  
ผนื ท ี่ 1  ไปหาจดุ ท ่ี 1  ทบไปทบมา 
จนหมดหนา ผา ตามความกวา ง 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  34

ขั้นที ่ 4  ใชลวดมัดติดกับอาคารใน 
จดุ ท่ี 1 

ขั้นท่ี  5  จับผาสวนที่ถัดไปของผา 
ผนื ท่ี  1  ไปหาจดุ ท่ี  4  ทบไปทบมาจน 
หมดหนาผาตามแนวกวางแลวมัดติด 
กบั อาคารในจดุ ที่ 4 

ขนั้ ท่ี  6  มอื ขวาจบั ผา สว นทถ่ี ดั ไปของ 
ผา ผนื ที่ 2 ไปหาจดุ ท่ี 2 พบั ทบผา ทบไป 
ทบมาจนหมดหนาผาตามความกวาง 
ใชล วดมดั ตดิ กบั อาคารในจดุ ที่ 2 

การผกู ผา ประดบั อาคาร  35

ขนั้ ท ่ี 7  มอื ขวาจดั ผา สว นทถ่ี ดั ไปของ 
ผา ผนื ท ่ี 2  ไปหาจดุ ที ่ 5  หาแนวถว ง 
ของผาตามท่ีตองการ   ใหผาผืนท ่ี 2 
อยใู ตช ายผา ผนื ท่ ี 1  มอื ซา ยจบั จบี ผา  
ทบไปทบมาจนหมดหนา ผา ตามความกวา ง 
ใชล วดมดั ตดิ กบั อาคารในจดุ ที ่ 5 

ขนั้ ที่  8  ลําดบั ตอ ไปใหท ําดงั น ้ี
ผา ผนื ท่ี 1 ทาํ เชน เดยี วกบั      ขนั้ ท่ี 


ผาผืนท ี่ 2  ทําเชนเดียวกับ 

ขนั้ ท ี่ 7 
วิ ธี ทําให ทําสลั บกั นที ละผื น 

จนหมดอาคารทตี่ อ งการ 

ขน้ั ท่ ี 9  ทาํ เชน เดยี วกนั กบั การสานผา  
ผนื ท่ี 1 สลบั กนั ไปจนเตม็ พน้ื ทที่ ตี่ อ งการ 
ตกแตง  

กจิ กรรมท ่ี 8 

เม่ือผูเรียนไดศึกษาวิธีการทําเฟองเชิงสานแลว    ใหฝกปฏิบัต ิ
ตามขน้ั ตอน ตา งๆ  หลาย ๆครงั้  จนเกดิ ความชาํ นาญ 

การผกู ผา ประดับอาคาร  36

3.  การจบั จบี และประกอบระยา  

การจบั จบี และประกอบระยา   เปน สว นประกอบของรปู แบบผลงาน 
รองจากดอกและเฟอ ง  เชน   คน่ั ระหวา งเฟอ ง  สว นเสรมิ ใตด อก 

ประเภทของระยา  

1.  ระยา เดย่ี ว 

2.  ระยา   2  ส ี  ลดหลน่ั  

3.  ระยา ใตด อก 

การผกู ผาประดับอาคาร  37

ขนั้ ตอนการจบั จบี ระยา เดย่ี ว 

ขน้ั ที ่ 1  จบั จบี ปลายผาทบไปทบมา 
จนหมด  หนา ผา ตามความกวา ง  ใชล วด 
มดั ปลายผา ทจี่ บั จบี แลว ตดิ กบั อาคาร 

ข้ันท่ี  2  จับจีบผาในชวงถัดไปดวย 
มอื ขวา  มือซา ยประคองผาชว งพับผา 
ทบไปทบมาจนหมดหน าผ าตาม 
ความกวาง  ทบผาข้ึ นหาสวนท่ี มัด 
ครั้ งแรกใหความยาวตามตองการ 
ใชล วดมดั เขา  ดว ยกนั  

ขนั้ ท่ ี 3  คลผ่ี า ทจ่ี บี ออกใหห มด จะได 
ระยา ตามทต่ี อ งการ 

กจิ กรรมท ่ี 9 

หลงั จากผเู รียนไดศ ึกษาวธิ กี ารทาํ ระยา ครบทกุ ขนั้ ตอนแลว  ใหฝ ก  
ปฏบิ ตั หิ ลาย ๆ ครง้ั   จนเกดิ ความชาํ นาญ 

การผกู ผา ประดับอาคาร  38

ขนั้ ตอนการจบั จบี ประกอบระยา   2  ส ี  ลดหลนั่  

ขน้ั ที ่ 1  จบั จีบปลายผา ทบไปทบมา 
จนหมดหนา ผา ตามความกวา ง ลวดมดั  
ปลายผา ทจ่ี บั จบี แลว  

ข้ันท่ี  2  จับจีบผาในชวงถัดไปดวย 
มือขวา    มือซายประคองผาชวงลาง 
พั บผ า ทบไปท บม าจ นหม ดห น าผ า 
ตามความกวา ง  ทบผา ขน้ึ หาสว นทม่ี ดั  
ครง้ั แรก ใชล วดมดั เขา ดว ยกนั   ความยาว 
ของระยาสวนลางยาวตามที่ตองการ 
ใชล วดทมี่ ดั ครง้ั แรกมดั เขา ดว ยกนั  

ขนั้ ท่ี  3  จบั จบี ผา ในสว นทถ่ี ดั ไปดว ย 
มือขวา    มือซายประคองผาชวงลวง 
พับทบไปทบมาจนหมดหนาผาตาม 
ความกวางทบผาขึ้น    ใหแนวทบผา 
อยเู หนอื แนวระยา ชนั้ ลา งประมาณ2 นว้ิ  
ใช ลวดท่ี มั ดครั้ งแรกมั ดระย าชั้ นบน 
เขา ดว ยกนั  

การผกู ผาประดบั อาคาร  39

ขนั้ ท่ี 4 คลผี่ า ทจี่ บี ออกใหท ลี ะชน้ั  จดั ให 
ไดร ปู ลกั ษณะของระยา ใหส วยงาม 

กจิ กรรมที ่ 10 

ใหผ เู รยี นศกึ ษาและฝก ตามทกุ ขน้ั ตอน  จนเกดิ ทกั ษะความชาํ นาญ 
แลว จงึ ไปศกึ ษาการจบี ระยา ใตด อก 

ขนั้ ตอนการจบั จบี ประกอบระยา ใตด อก 

ขนั้ ที ่ 1  จบั จีบปลายผาทบไปทบมา 
จนหมดหนา ผา ตามความกวา ง ลวดมดั  
ปลายผา ทจ่ี บั จบี แลว  

ข้ันท ี่ 2  จับจีบผาในชวงถัดไปดวย 
มือขวา    มือซายประคองผาชวงลาง 
พับผา ทบไปทบมาจนหมดหนา ผา ตาม 
ความกวาง    ทบผาข้ึนหาสวนที่มัด 
ครงั้ แรก ใชล วดมดั เขา ดว ยกนั   ความยาว 
ของระยา ยาวตามทตี่ อ งการใชล วดทม่ี ดั  
ครงั้ แรกมดั เขา ดว ยกนั  

การผกู ผาประดบั อาคาร  40

ขนั้ ท่ ี 3  การทําดอก  จบั จบี ผา ในชว ง 
ถดั ไปดว ยมือขวา  มอื ซา ยประคองผา 
ชว งลา ง พบั ทบไปทบมาจนหมดหนา ผา  
ตามความกวา ง  พบั ทบผา ทจ่ี บั จบี แลว  
เปนลักษณะของกลบี ดอก   ใชลวดมดั  
ทโี่ คนกลบี ดอก 

ขน้ั ที่  4  จบั จบี ผา ในสว นทถี่ ดั ไป ทบไป 
ทบมาจนหมดหนาผาตามความกวาง 
ทบผา ทจี่ บั จบี แลว เพอ่ื ทาํ กลบี ดอกท ่ี 2 
ใชลวดที่มัดกลีบดอกแรกมัดทบกลีบ 
ดอกที ่ 2  เขา ดว ยกนั  

ขนั้ ท่ ี 5  ในการทาํ กลบี ดอกตอ ไป ทํา 
เชน เดียวกับขน้ั ท ่ี 3 – 5 แลว นํามามัด 
รวมกนั เชน เดยี วกบั การทาํ ดอก 

การผกู ผา ประดับอาคาร  41

ขั้นท่ ี 6  คลี่กลีบดอกและระยาให 
สวยงาม 

กจิ กรรมท ่ี 11 

ผเู รยี นฝก ปฏบิ ตั ติ ามแตล ะขน้ั จนกวา จะมคี วามชาํ นาญ แลว จงึ ผา น 
ไปศกึ ษาตอนที่ 3 

ตอนท ี่ 3 

การผสมผสานรปู แบบผลงาน 

แนวคดิ  

ชา งหรอื ผปู ระกอบการตอ งมคี วามคดิ สรา งสรรคแ ละมจี นิ ตนาการ 
ในการทํารูปแบบ  ผลงานเบ้ืองตนมาผสมผสานกนั ใหเกิดผลงานใหม ๆ 
โดยไมร จู บ  เพอ่ื ใชก บั งานตา ง ๆ ไดอ ยา งเหมาะสมและสวยงาม 

จุดประสงค 
เมอ่ื ผเู รยี นศกึ ษาตอนท่ี 3 แลว สามารถ 
1. อธบิ ายการทาํ ผลงานได 
2. เลอื กรปู แบบผลงานมาผสมผสานเขา ดว ยกนั ไดอ ยา งเหมาะสม 

และสวยงาม 

ขอบขา ยเนอื้ หา 

1. การผกู ผา   1  ผนื  
1.1  แบบเฟอ งตลอด  (เฟอ งทอ งชา ง, เฟอ งเกลด็ ปลา) 
1.2  แบบเฟอ งสลบั ระยา  
1.3  แบบเฟอ งสลบั ดอกมรี ะยา ใตด อก 

2. การผกู ผา   2  ผนื   2  สี 
2.1  แบบเฟอ งเกล็ดปลา 
2.2  แบบเฟอ งเชงิ สาน 
2.3  แบบเฟอ งทอ งชา งสลบั ดอกมรี ะยา ใตด อก 
2.4  แบบเฟอ งทอ งชา งสลบั ระยา   2  ชนั้ ลดหลนั่  

3. การผกู ผา   3  ผนื   3  ส ี
3.1  แบบเฟอ งสลบั ระยา   3  ชน้ั ลดหลน่ั  
3.2  แบบเฟอ งสลบั ดอกมรี ะยา ใตด อก


Click to View FlipBook Version