ก
คำนำ
คมู่ ือการจดั กจิ กรรมการเรียนรคู้ า่ ยบูรณาการสนกุ จดั เต็มกับสะเต็มศึกษา ฉบับนีจ้ ดั ทำขึ้นเพ่อื ใช้
เป็นแนวทางในการจดั กิจกรรมการเรยี นรคู้ า่ ยบูรณาการสนกุ จดั เตม็ กับสะเต็มศกึ ษา ของศูนย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่อื
การศึกษาสระแก้ว รายละเอยี ดของคา่ ยสนุกจัดเต็มกับสะเต็มศึกษานน้ั ประกอบดว้ ยฐานการเรียนรู้ และ
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของแตล่ ะฐาน ซ่ึงแผนการจัดกิจกรรมการเรยี นร้พู ฒั นาขึ้นโดยใชร้ ูปแบบการจดั
กิจกรรมวิทยาศาสตร์ กศน. (ONIE SCI ACTIVITY MODEL) ทีเ่ นน้ การเรยี นรู้อยา่ งมสี ่วนร่วม ความรับผิดชอบ
ความคิดสร้างสรรค์ และคำนึงถงึ ผู้รบั บรกิ ารเป็นสำคัญ
ศนู ย์วทิ ยาศาสตรเ์ พ่ือการศึกษาสระแกว้ ขอขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกย่ี วข้องในการจดั ทำคู่มือการจดั
กิจกรรมการเรียนรูค้ า่ ยบรู ณาการสนุกจดั เตม็ กับสะเต็มศึกษา ฉบับนี้ และหวังเปน็ อย่างยิ่งว่า นอกจาก
ประโยชนข์ องผปู้ ฏบิ ตั งิ านของศูนยว์ ทิ ยาศาสตรเ์ พ่อื การศึกษาสระแก้วโดยตรงแลว้ จะเป็นประโยขนต์ อ่ ผู้ที่
สนใจ ให้เกดิ ความรู้ความเขา้ ใจกจิ กรรมการเรยี นรคู้ า่ ยทบี่ ูรณาการองค์ความรู้ทางดา้ นวทิ ยาศาสตรแ์ ละศาสตร์
ทเ่ี กย่ี วข้องเป็นอย่างดี
ข
สารบญั
คำนำ ........................................................................................................................................................ก
สารบญั .....................................................................................................................................................ข
แผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เรื่อง สเลอปี้.................................................................................................1
แนวคิด .................................................................................................................................................1
วตั ถปุ ระสงค์ .........................................................................................................................................1
เนอื้ หา ..................................................................................................................................................1
ขัน้ ตอนปฏิบัติกจิ กรรมของผ้รู ับบรกิ าร....................................................................................................2
ขั้นตอนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ..........................................................................................................3
กจิ กรรมที่ 1 เหตุใดจงึ ต้องเติมเกลือ .......................................................................................................4
กจิ กรรมท่ี 2 ปริมาณเกลือสำคญั อยา่ งไร.................................................................................................4
กจิ กรรมท่ี 3 ทำไมต้องเขย่า...................................................................................................................5
สอื่ วัสดอุ ุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู้.....................................................................................................6
การวัดและประเมนิ ผล ...........................................................................................................................7
บันทึกผลหลงั การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้..................................................................................................8
ใบความรสู้ ำหรับผูจ้ ัดกจิ กรรม ................................................................................................................9
ใบกิจกรรมที่ 1 เร่ือง เหตุใดจึงต้องเติมเกลือ .........................................................................................13
ใบกิจกรรมที่ 2 เรือ่ ง ปรมิ าณเกลอื สำคญั อย่างไร ..................................................................................14
ใบกจิ กรรมท่ี 3 เรือ่ ง ทำไมต้องเขยา่ .....................................................................................................15
กิจกรรมแบบทดสอบหลังเรียนเรื่อง สเลอปี้ ..........................................................................................16
กจิ กรรมการประเมินความพงึ พอใจของผรู้ บั บริการเร่ือง กิจกรรมการศึกษาตามอัธยาศยั ด้านสะเต็มศกึ ษา
(STEM EDUCATION).............................................................................................................................. 18
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เร่อื ง สเลอปี้
เวลา 2 ชวั่ โมง
แนวคดิ
สเลอป้ีหรือน้ำแขง็ เกล็ดหิมะ เป็นเครือ่ งดื่มหวานเยน็ ชนดิ หนึง่ หลกั การของการทำสเลอป้ี
เกี่ยวข้องกับการประยุกตใ์ ชค้ วามรเู้ ร่ือง สมบัตคิ อลลเิ กทฟี สภาวะเย็นยวดยงิ่ และปรากฏการณ์นิวคลีเอชัน
กล่าวคอื การทำสเลอปีเ้ ปน็ การทำใหข้ องเหลวเปลย่ี นสถานะเปน็ ของแข็งอย่างรวดเร็ว ณ อณุ หภมู ทิ ่ีต่ำกว่าจุด
เยือกแขง็ ของของเหลวนัน้ ๆ ซึ่งการลดอุณหภูมขิ องของเหลวใหต้ ่ำกว่าจุดเยือกแขง็ หรือการทำให้ของเหลวเกิด
สภาวะเย็นยวดยงิ่ อาจทำไดโ้ ดยนำของเหลวไปแช่ในภาชนะท่มี ีน้ำแข็งผสมเกลือซงึ่ มีอุณหภมู ิติดลบ จากน้นั ทำ
การรบกวนระบบของของเหลวทีส่ ภาวะเย็นยวดยิ่งเพ่อื กระตนุ้ ให้ของเหลวทเี่ ย็นยวดยงิ่ เกิดผลกึ ซง่ึ จะเปลย่ี น
สถานะจากของเหลวเปน็ เกล็ดน้ำแขง็ อยา่ งรวดเร็ว
วตั ถปุ ระสงค์
เม่ือสิ้นสดุ แผนการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้นแ้ี ล้ว ผู้รบั บริการสามารถ
1. อธบิ ายความร้เู รอื่ ง สมบัติคอลลเิ กทีฟ สภาวะเย็นยวดย่ิงและปรากฎการณ์นวิ คลีเอชนั ใน
กระบวนการทำสเลอป้ี
2. ออกแบบและทำสเลอป้ีภายใตว้ ัสดุอปุ กรณ์ เวลา และงบประมาณทกี่ ำหนด
3. ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ในการกำหนดราคาขาย คำนวณตน้ ทนุ กำไร
ในการทำสเลอป้ี
เนื้อหา
1. สมบตั ิคอลลเิ กทฟี
2. สภาวะเยน็ ยวดยง่ิ
3. ปรากฎการณน์ ิวคลีเอชนั
2
ขั้นตอนปฏบิ ตั กิ จิ กรรมของผ้รู ับบรกิ าร
กิจกรรมการทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง สเลอป้ี
คำช้ีแจง
ใหผ้ ู้รับบรกิ ารทำแบบทดสอบกอ่ นเรียน เรื่อง สเลอป้ี ซ่งึ มีข้อสอบท้ังหมด จำนวน 5 ขอ้ (เม่อื
ผ้รู บั บริการทำแบบทดสอบเสร็จเรยี บร้อยแล้ว ผรู้ ับบริการสามารถตรวจคำตอบได้ตามเฉลยคำตอบท้าย
กิจกรรม)
แบบทดสอบก่อนเรียน คะแนนทไ่ี ด้..................คะแนน
คะแนนทไี่ ด้เต็ม 5 คะแนน
เรอ่ื ง สเลอป้ี
คำชี้แจง
1.ให้ผรู้ ับบรกิ ารกาเครอื่ งหมาย x (กากบาท) หน้าข้อที่ถูกต้องเพยี งข้อเดียว
2. แบบทดสอบนี้ มีข้อสอบจำนวน 5 ขอ้ ขอ้ ละ 1 คะแนน
3. เมอื่ ผรู้ บั บรกิ ารทำแบบทดสอบเสร็จเรียบรอ้ ยแล้ว ผรู้ ับบรกิ ารสามารถตรวจคำตอบได้ตาม
เฉลยคำตอบทา้ ยกจิ กรรม
1. หลกั การของการทำสเลอป้ีเกยี่ วขอ้ งกับ การประยุกต์ใช้ความรูด้ า้ นในเรื่องใด
ก.สมบัติคอลลิเกทีฟ สภาวะเยน็ ยวดย่ิง และปรากฏการณ์นิวคลีเอชัน
ข.สมบตั ิคอลลิเกทฟี สภาวะเยน็ ยวดยิ่ง และความเข้มข้นของสารละลาย
ค. สภาวะเยน็ ยวดยง่ิ ปรากฏการณ์นิวคลเี อชัน และการทำนำ้ แข็งแห้ง
ง.สมบตั ิคอลลิเกทีฟ ความเข้มข้นของสารละลาย และการทำน้ำแขง็ แห้ง
2. การทำเครื่องด่มื แบบสเลอป้ีให้ได้มากทส่ี ุด ภายใตว้ ัสดุอปุ กรณ์ เวลา และงบประมาณ ที่กำหนด นกั เรยี น
ต้องใชอ้ งค์ความรู้ในข้อใด
ก. Science
ข. Mathematics
ค. Technology
ง. Engineering
3. สมบตั ิคอลลิเกทีฟ(Colligative properties) เปน็ สมบตั ิของสารละลายที่ข้ึนอย่กู ับความเข้มข้นของ
สารละลาย มีอะไรบา้ ง
ก. การเพิม่ ขึ้นของจดุ เดือด การลดลงของจดุ เยือกแข็ง การลดลงของความดันไอ และการเกดิ
ความดนั ออสโมตกิ
ข. การเพ่มิ ขึน้ ของจดุ เดือด การลดลงของจดุ เยือกแข็ง การลดลงของปรมิ าตร และการเกิดออสโม
ซสิ
ค. การเพมิ่ ข้ึนของจดุ เดือด การลดลงของจุดเยือกแข็ง และการลดลงของความดันไอ
ง. การเพ่ิมข้ึนของจดุ เดือด การลดลงของจุดเยือกแข็ง การเกิดนวิ คลเี อชัน และสภาวะเย็นยวดย่งิ
3
4. ขอ้ ใดไม่ใชก่ ารนำเอาความร้เู ก่ยี วกับสมบตั ิคอลลิเกทฟี ไปใชป้ ระโยชน์
ก. ศุภวุฒิเติมเกลือลงภายในถังไอศกรมี
ข. ท่ีบ้านพรภิตามีหมิ ะตกจำนวนมาก จึงนำเกลือไปโรยหิมะ
ค. อลินนำเกลอื ใสถ่ ว้ ยไปวางไวใ้ นตเู้ ย็นพรอ้ มไอศรีมรสมะนาว
ง. วิชชานภุ าพเตมิ เอทธิลีนไกคอลลงในเคร่อื งยนต์เพื่อป้องกันการแข็งตวั ของน้ำในเครื่องยนต์
5. การเพม่ิ ปริมาณเกลอื ในนำ้ แขง็ จะทำให้อุณหภมู ขิ องสารละลายเปน็ อยา่ งไร
ก. อุณหภูมิของสารละลายคงที่
ข. อุณหภมู ขิ องสารละลายสูงข้นึ
ค. อุณหภมู ิของสารละลายตำ่ ลง
ง. ไมม่ ีข้อใดถูก
ขัน้ ตอนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
ข้นั ตอนที่ 1 กจิ กรรมการเรยี นรู้ประสบการณ์ทางวทิ ยาศาสตร์ (S : Science Experience
Activity)
1. ผจู้ ัดกจิ กรรมทักทาย และแนะนำตนเองกับผูร้ ับบริการ รวมทง้ั ชี้แจงวตั ถุประสงค์ของฐานการ
เรยี นรู้ท่ี 9 เร่อื ง สเลอปี้ ไดแ้ ก่
(1) อธิบายความรู้เรอ่ื ง สมบัติคอลลเิ กทีฟ สภาวะเย็นยวดย่ิงและปรากฎการณน์ ิวคลเี อชันใน
กระบวนการทำสเลอปี้
(2) ออกแบบและทำสเลอป้ีภายใต้วสั ดุอุปกรณ์ เวลา และงบประมาณทกี่ ำหนด
(3) ใชค้ วามรู้ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการกำหนดราคาขาย คำนวณต้นทนุ
กำไร ในการทำสเลอป้ี
2. ผู้จัดกิจกรรมซกั ถามประสบการณเ์ ดิมของผูร้ บั บรกิ ารเกี่ยวกับเรอื่ งที่จะเรยี นรู้ โดยส่มุ
ผู้รับบริการจำนวน 3 - 5 คน ตามความสมัครใจ ให้ตอบคำถาม จำนวน 3 ประเด็น ดังน้ี
ประเดน็ ท่ี 1 “ทา่ น รู้จกั เคร่ืองดื่มสเลอปี้ หรือไม่”
ประเด็นท่ี 2 “ทา่ นคดิ ว่า มีปัจจยั ใดบา้ งท่ที ำให้เกิดเครอื่ งดื่มสเลอป้ี อธบิ ายพอสังเขป”
ประเดน็ ที่ 3 “ท่านคดิ วา่ การทำสเลอปเ้ี อาไปใช้ในชีวิตประจำวนั ไดอ้ ย่างไร”
3. ผูจ้ ดั กจิ กรรมและผ้รู บั บริการ แลกเปล่ียนความคดิ เหน็ และสรุปผลการเรียนรู้ร่วมกนั
ข้ันตอนที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรท์ ท่ี า้ ทาย (C : Challenge Learning Activity)
1. ผจู้ ดั กิจกรรมนำเข้าสู่บทเรียนโดยสมมุตสิ ถานการณ์ปัญหาว่า ถ้าผู้รับบริการจะเปิดร้านขาย
เครอื่ งดื่มในชว่ งกิจกรรมกีฬาสี ผู้รับบรกิ ารจะขายอะไรดีท่ีน่าจะไดร้ บั ความนยิ ม (แนวคำตอบ น้ำอัดลม กาแฟ
น้ำแข็งใส ไอศกรมี หลอด)
4
2. ผจู้ ัดกิจกรรมแบง่ ผู้รับบรกิ ารออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-10 คน แล้วสมมติสถานการณป์ ัญหา
เพ่อื ให้ผรู้ บั บริการแต่ละกลมุ่ ศึกษารายละเอียดและเงอื่ นไขของสถานการณป์ ญั หา ดงั นี้
“ชุมนมุ ธุรกิจของผูร้ ับบริการมีความเห็นว่าจะจัดต้ังรา้ นขายเครอ่ื งด่ืมใหก้ ับนักกีฬาและกองเชียรใ์ นวัน
แขง่ ขันกีฬาสีของโรงเรยี นซ่ึงจะจดั ขน้ึ ในช่วงฤดูร้อน จากการสำรวจพบวา่ ‘สเลอปี้ (Slurpee)’ เป็น
เครอื่ งด่ืมทผ่ี ู้รับบริการต้องการดืม่ เพื่อดบั กระหายมากท่สี ดุ ผรู้ ับบริการจงึ ได้รับมอบหมายจากสมาชกิ ใน
ชุมนุมธุรกจิ ใหอ้ อกแบบและหาวิธกี ารทำเครอ่ื งดม่ื ท่ีมลี ักษณะเหมือนสเลอปโี้ ดยใช้เคร่ืองมอื ทหี่ าได้
ง่ายและกำหนดราคาขายเพ่ือใหไ้ ดก้ ำไร”
3. ผจู้ ัดกิจกรรมและผ้รู บั บริการรว่ มกนั อภิปรายวา่ มีวธิ ีการใดบ้างทจี่ ะสามารถทำเคร่ืองด่มื ที่มี
ลกั ษณะเหมือนสเลอปโ้ี ดยใชเ้ ครือ่ งมือที่หาได้ง่าย (แนวคำตอบ นำนำ้ อดั ลมมาแชช่ อ่ งแข็งของต้เู ยน็ นำ
น้ำอดั ลมมาแช่ลงในน้ำแขง็ ผสมกบั เกลือเหมือนการผลติ ไอศกรีมหลอด ใชต้ ู้ทำสเลอป้ีอตั โนมัติ) ผู้จัดกิจกรรม
อาจให้ผู้รบั บริการแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อภิปรายว่า วิธกี ารที่ผ้รู ับบรกิ ารนำเสนอสามารถทำใหเ้ กิดสเลอปีข้ ึ้นได้
อยา่ งไร และเครื่องมือท่ีใชท้ ำสเลอปี้ตามวิธที ่ีผรู้ ับบรกิ ารนำเสนอมาน้นั มตี ้นทุนสงู หรอื ไม่ อยา่ งไร
4. ผู้จดั กิจกรรมนำเข้าสู่กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยช้ีแจงให้ผู้รับบริการเข้าใจหลักการและสามารถทำส
เลอปไี้ ด้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ ผู้รับบรกิ ารจะต้องทำการศึกษาปจั จัยต่าง ๆ ทีเ่ ก่ียวข้องกับการทำสเลอป้จี าก
กจิ กรรมการเรียนรู้ 3 กจิ กรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี
กจิ กรรมท่ี 1 เหตุใดจงึ ต้องเตมิ เกลือ
1. ผจู้ ดั กิจกรรมให้ผูร้ บั บริการแตล่ ะกลมุ่ อภปิ รายรว่ มกัน และคาดคะเนว่า อุณหภูมขิ อง
น้ำแขง็ และน้ำแข็งผสมเกลือ ทตี่ ั้งไว้ ณ อุณหภมู ิห้องวา่ จะมคี ่าเท่าใด โดยบันทึกตวั เลขจากการคาดคะเนลงใน
ใบกจิ กรรมท่ี 1
2. ผู้จัดกจิ กรรมแจกวสั ดุและอุปกรณ์ให้ผรู้ ับบริการเพือ่ ทำการทดลองซึ่งประกอบดว้ ยขวด
พลาสตกิ ทรงกระบอก 2 ใบ เทอร์มอมิเตอร์ 2 อัน ชอ้ น 1 อนั น้ำแขง็ และเกลือ
3. ผู้รับบรกิ ารแตล่ ะกล่มุ ทำการทดลองวดั อณุ หภมู ขิ องน้ำแข็ง และน้ำแขง็ ผสมเกลือ
(ใช้เกลอื จำนวน 2 ช้อน) ที่ตงั้ ไว้ ณ อุณหภมู ิห้อง จากน้นั บันทกึ ผลการทดลองลงในใบกิจกรรมที่ 1 แลว้ เปรียบ
เทยี บสงิ่ ท่ีผรู้ บั บรกิ ารทำนายกับผลทไ่ี ด้จากการทดลองวา่ เหมือนกนั หรือไม่ อยา่ งไร
4. ผู้รับบรกิ ารศกึ ษาใบความรู้ที่ 1 เรื่อง สมบตั ิคอลลเิ กทีฟ แลว้ ตอบคำถามในใบกจิ กรรมท่ี 1
5. ผจู้ ดั กิจกรรมและผ้รู บั บริการอภิปรายร่วมกันเพอ่ื เช่ือมโยงความรู้สมบตั คิ อลลเิ กทฟี
กับการทำสเลอป้ี
กจิ กรรมท่ี 2 ปรมิ าณเกลอื สำคัญอย่างไร
1. ผจู้ ัดกิจกรรมให้ผรู้ บั บริการร่วมกนั อภปิ รายว่า ปริมาณของเกลือท่เี ติมลงไปในถังน้ำแข็งมี
ผลต่ออณุ หภูมิของสารละลายเกลอื ในถงั น้ำแขง็ หรือไม่ อย่างไร จะทำการทดสอบสมมตฐิ านเหลา่ น้ไี ดอ้ ย่างไร
2. ผู้จัดกจิ กรรมแจกอปุ กรณใ์ ห้ผรู้ บั บริการเพ่ือทำการทดลองศึกษาผลของปรมิ าณเกลือใน
สารละลายท่ีมีต่ออุณหภมู ิของสารละลาย โดยวสั ดุและอปุ กรณ์ประกอบด้วยขวดพลาสตกิ ทรงกระบอก 1 ใบ
เทอร์มอมิเตอร์ 1 อนั ช้อน 1 อนั น้ำแขง็ น้ำ และเกลือ
5
3. ผูร้ บั บริการทำการทดลองโดยเตมิ น้ำเปล่าปริมาตรประมาณ 1/8 ของขวดพลาสติก
ทรงกระบอกจากนนั้ เติมน้ำแขง็ ลงไปให้ได้ประมาณ 1/2 ของขวดพลาสติกทรงกระบอกแล้ววดั อุณหภูมิของน้ำ
ผสมน้ำแข็ง จากน้ันเติมเกลือลงไป 1 ช้อน และวัดอณุ หภูมิทไ่ี ด้ แล้วจึงเติมเกลอื เพม่ิ ลงไปอกี 1 ช้อน และวัด
อณุ หภูมทิ ่ีได้ โดยให้บันทึกผลการทดลองลงในใบกจิ กรรมท่ี 2
4. ผจู้ ดั กจิ กรรมและผู้รับบริการร่วมกนั อภิปราย ตอบคำถาม และสรุปผลที่ได้จากการทดลอง
ในใบกิจกรรมที่ 2
5. ผ้จู ดั กิจกรรมและผูร้ ับบริการอภปิ รายร่วมกันเพอื่ เชื่อมโยงสมบัติคอลลิเกทีฟ
กิจกรรมท่ี 3 ทำไมต้องเขย่า
1. ผจู้ ดั กิจกรรมให้ผ้รู บั บรกิ ารรว่ มกันอภิปรายวา่ การเขย่าภาชนะทแ่ี ช่เครอ่ื งดม่ื ที่มีอุณหภมู ิ
ต่ำกว่าจดุ เยอื กแข็งเครื่องดื่มน้ันจะเกิดการเปลย่ี นแปลงหรือไม่ อย่างไร
2. ผู้จัดกจิ กรรมแจกอุปกรณใ์ ห้ผูร้ บั บรกิ ารสำหรบั ทำการทดลองเพื่อศึกษาผลของการรบกวน
การแขง็ ตวั ของของเหลวด้วยการเขยา่ ภาชนะ โดยวสั ดแุ ละอปุ กรณ์ประกอบด้วยขวดพลาสติกทรงกระบอก 2
ใบ ช้อน 1 อัน น้ำแข็ง น้ำอดั ลม และเกลือ
3. ผู้รบั บริการแตล่ ะกล่มุ ทำการทดลองโดยเติมน้ำแข็งลงในภาชนะ 2 ใบ ให้มีปรมิ าณเทา่ กนั
จากน้นั เตมิ เกลือจำนวน 2 ชอ้ น ลงไปในน้ำแขง็ ในภาชนะทงั้ สองใบ นำเคร่ืองดมื่ ลงไปแช่ลงในภาชนะทัง้ 2 ใบ
จากน้ันเขยา่ ภาชนะใบท่ี 1 เป็นเวลา 5 นาที สังเกตการเปล่ียนแปลงของเคร่ืองด่มื เปรียบเทียบกบั ภาชนะใบที่
2 ซ่งึ ไม่ได้เขย่า บันทกึ ผลการทดลองลงในใบกิจกรรมท่ี 3 จากนนั้ ให้ผู้รับบริการศึกษาใบความรู้ท่ี 2 เรื่อง
สภาวะเยน็ ยวดย่งิ
4. ผจู้ ดั กิจกรรมและผรู้ ับบริการร่วมกนั อภิปรายตอบคำถาม และสรปุ ผลทีไ่ ดจ้ ากการทดลอง ได้วา่
การนำน้ำอัดลมแชไ่ วใ้ นถงั น้ำแขง็ ผสมเกลือไวร้ ะยะเวลาหน่ึง แล้วเขย่าภาชนะ จะทำใหไ้ ดผ้ ลติ ภัณฑ์ท่เี ปน็
เกลด็ น้ำแข็งคล้ายกับสเลอปมี้ ากกวา่ การไมเ่ ขย่าภาชนะ เน่ืองจากการแชเ่ คร่ืองดื่มในภาชนะท่มี ีอุณหภูมิต่ำ
มาก ๆ จะทำใหเ้ ครื่องด่ืมอยู่ในสภาวะเย็นยวดยิ่ง เมอื่ เขยา่ จะเกิดปรากฏการณ์ทเี่ รียกว่า
นวิ คลเี อชนั ซึง่ จะทำใหเ้ คร่ืองดืม่ ก่อตวั เป็นเกลด็ น้ำแขง็ เลก็ ๆ
5. ผู้จดั กิจกรรมและผรู้ ับบริการอภิปรายรว่ มกันเพอ่ื เช่ือมโยงปรากฏการณ์ นวิ คลเี อชัน กับการ
ทำสเลอป้ี
5. ผจู้ ัดกิจกรรมทบทวนสถานการณ์ปัญหาในกจิ กรรมนี้อีกครง้ั ว่า ผรู้ บั บริการจะต้องผลิตเคร่อื งดื่ม
ที่มลี กั ษณะเหมือนสเลอปโ้ี ดยใชเ้ คร่อื งมือที่หาไดง้ ่ายและกำหนดราคาขายเพื่อใหไ้ ด้กำไร โดยเชอื่ มโยงความรทู้ ่ี
ผู้รับบรกิ ารไดร้ บั จากการทำกิจกรรมท่ี 1-3
6. ผู้จัดกิจกรรมกำหนดเงอ่ื นไขต้นทนุ เก่ยี วกับเครื่องดม่ื วัสดุและอุปกรณ์ทใี่ ชส้ ำหรบั การทำสเลอ
ปี้ โดยมีราคาดังนี้
• เครอื่ งด่ืม ราคาตามจริง/1 ขวด
• เกลือ ราคา 2 บาท/100 กรัม (1 ขดี )
6
• น้ำแข็ง ราคา 3 บาท/100 กรมั (1 ขดี )
7. ผู้จดั กิจกรรมอธิบายเง่ือนไขการทำสเลอปี้ ดงั นี้
• หลังจากทุกกลุม่ ไดร้ ับวัสดุอุปกรณเ์ รียบร้อยแลว้ จะเริ่มทำการผลติ พร้อมกัน โดยมี
ระยะเวลาทง้ั ส้ิน 15 นาที
• วดั ปริมาณสเลอปี้ท่ีผลิตได้
• กำหนดราคาขายสเลอปี้
8. ผจู้ ดั กิจกรรมให้ผ้รู ับบรกิ ารอภปิ รายรว่ มกันและเขยี นภาพรา่ งวิธีการทำสเลอป้ี
9. ผู้จดั กจิ กรรมให้ผู้รับบรกิ ารรว่ มกันวางแผนการทำสเลอปี้ และดำเนินการทำสเลอปี้ตามขน้ั ตอน
ทไี่ ดร้ ่วมกนั วางแผนไว้
10. ผจู้ ัดกจิ กรรมให้ผ้รู ับบริการกำหนดราคาขาย โดยพิจารณาจากต้นทุน และบนั ทึกลงในใบ
กิจกรรม
11. ผู้รบั บรกิ ารทำการวัดปริมาณสเลอป้ีทผ่ี ลติ ขน้ึ และบันทึกลงในตารางบันทึกผล
12. ผู้จดั กิจกรรมให้ผรู้ ับบริการแตล่ ะกล่มุ ประเมินผลงานของตนเอง รวมทง้ั ให้อภิปรายเพื่อ
ปรับปรงุ วธิ ีการทำสเลอปเี้ ช่น ถ้าตอ้ งการลดระยะเวลาในการทำสเลอป้จี ะทำได้อย่างไร หรอื ถา้ กลุม่ ใดไม่
สามารถทำ สเลอปี้ได้ใหร้ ว่ มกันอภิปรายเพื่อปรับปรุงแก้ไขวิธกี ารทำสเลอปี้อกี ครง้ั หนึ่ง
13. ผูร้ บั บริการแต่ละกลุม่ นำเสนอแนวคิดในการออกแบบและวิธีการทำสเลอป้ี โดยตอ้ งอธิบาย
องค์ความรู้ทนี่ ำมาใช้ในการออกแบบและทำสเลอปี้ พร้อมทงั้ วธิ ีการปรับปรงุ การทำสเลอป้ี ท้ังน้ีสำหรบั กลุ่มที่
ไมป่ ระสบผลสำเรจ็ ในการทำสเลอปี้ ใหน้ ำเสนอสาเหตุ รวมท้งั แนวทางในการปรบั ปรุงแกไ้ ขวิธกี ารดว้ ย
14. ผรู้ บั บรกิ ารแตล่ ะกล่มุ วิเคราะห์หาความเชื่อมโยง STEM (ใชห้ ลักการใดเข้ามาเกีย่ วข้อง)
S = ………………………………………
T = ………………………………………
E = ………………………………………
M = ……………………………………..
ผจู้ ัดกิจกรรมและผรู้ บั บริการแลกเปลี่ยนความคิดเหน็ และสรปุ สง่ิ ทไี่ ดเ้ รียนรู้รว่ มกัน
ขนั้ ตอนที่ 3 กจิ กรรมการสรุปผลการนำวทิ ยาศาสตร์ไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน (I : Implementation
Conclusion Activity)
1. ใหผ้ ูร้ ับบริการตอบคำถามในประเด็น“ท่านจะนำความรูเ้ รือ่ งสเลอป้ีไปประยุกต์ใช้ใน
ชวี ิตประจำวัน ครอบครัว ชุมชนสังคม ของท่านได้อยา่ งไร”
2. ผ้จู ัดกิจกรรมและผ้รู ับบริการสรุปสิ่งท่ไี ด้เรยี นร้ใู นคร้ังน้ีร่วมกัน
สอ่ื วัสดอุ ปุ กรณ์ และแหลง่ การเรียนรู้
1. ใบความรู้ท่ี 1 สมบัตคิ อลลิเกทฟี
2. ใบความรูท้ ี่ 2 สภาวะเย็นยวดยงิ่
7
3. วิดโี อหรอื ภาพแสดงขั้นตอนการทำสเลอปี้อย่างง่าย (ตวั อยา่ ง:
https://youtu.be/5T68TvdoSbI)
4. ขวดพลาสตกิ ใสแบบมีฝาปิดขนาดใหญ่
5. ขวดพลาสติกใสแบบมฝี าปิดขนาดเล็ก
6. แกว้ พลาสตกิ ใส
7. ถาดพลาสตกิ (สำหรบั รอง)
8. ช้อนพลาสตกิ
9. เครอ่ื งชั่ง
10. ผ้าเช็ดโต๊ะ
11. ถุงมือผา้
12. เทอร์มอมิเตอร์ (ชว่ งอุณหภูมิ -10 ํC - 100 ํC)
13. เกลือ
14. น้ำแขง็ บดหรือน้ำแข็งแบบหลอดเล็ก
15. เครอื่ งด่ืมประเภทต่าง ๆ เชน่ น้ำอดั ลม น้ำหวาน
16. น้ำเปลา่
17. กระดาษปร๊ฟู
18. ปากกาเคมี
การวดั และประเมินผล
สงั เกตกระบวนการมีส่วนร่วม ไดแ้ ก่ อภปิ ราย ตอบคำถาม
บันทึกผลการเรยี นรู้
8
บนั ทึกผลหลงั การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ผลการใชแ้ ผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
1. จำนวนเน้อื หากับจำนวนเวลา เหมาะสม ไมเ่ หมาะสม
ระบเุ หตผุ ล………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. การเรยี งลำดบั เนือ้ หากบั ความเขา้ ใจของผ้รู ับรกิ าร เหมาะสม ไม่เหมาะสม
ระบเุ หตผุ ล………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. การนำเข้าสบู่ ทเรยี นเนื้อหาแต่ละหวั ข้อ เหมาะสม ไม่เหมาะสม
ระบุเหตุผล………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
4. วิธกี ารจัดกจิ กรรมการเรียนรู้กับเน้ือหาในแตล่ ะข้อ เหมาะสม ไม่เหมาะสม
ระบเุ หตผุ ล………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
5. การประเมนิ ผลกบั วตั ถปุ ระสงคใ์ นแตล่ ะเนื้อหา เหมาะสม ไม่เหมาะสม
ระบเุ หตผุ ล………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ผลการเรยี นรูแ้ ละผู้รบั บรกิ าร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ของผจู้ กั จิ กรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ขอ้ เสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
9
ใบความรสู้ ำหรบั ผจู้ ดั กิจกรรม
เร่ือง สมบตั คิ อลลเิ กทีฟ (colligative properties)
สารละลายเป็นสารเนอ้ื เดยี ว เตรียมไดจ้ ากการผสมสารบรสิ ุทธ์ิตัง้ แต่ 2 ชนิดขึน้ ไปเข้าดว้ ยกนั
สมบัตคิ อลลเิ กทฟี (colligative properties) เป็นสมบัตขิ องสารละลายท่ีขน้ึ อยกู่ บั ความเข้มข้นของสารละลาย
ซึง่ มอี ยู่ 4 ประการ ดังนี้
1. การเพ่มิ ขึ้นของจุดเดือด (boiling point elevation)
2. การลดลงของจดุ เยอื กแขง็ (freezing point depression)
3. การลดลงของความดันไอ (vapor pressure lowering)
4. การเกดิ ความดันออสโมตกิ (osmotic pressure)
ในที่นจี้ ะกลา่ วถงึ รายละเอยี ดสมบัติคอลลิเกทฟี เฉพาะการเพม่ิ ขน้ึ ของจดุ เดือด และการลดลงของ
จุดเยอื กแขง็ โดยจดุ เดือดของสารละลายจะสงู กวา่ จดุ เดือดของตัวทำละลายบริสทุ ธิ์ สว่ นจุดหลอมเหลวหรอื จุด
เยือกแขง็ ของสารละลายจะต่ำกว่าจดุ หลอมเหลวหรือจุดเยือกแข็งของตัวทำละลายบริสุทธ์ิ ในกรณที ี่
สารละลายมีตวั ทำละลายไมแ่ ตกตวั เปน็ ไอออนและเปน็ สารที่ระเหยยาก การเพิ่มขึน้ ของจุดเดือดและการลดลง
ของจุดเยือกแข็งข้นึ อยู่กบั ความเข้มข้นของสารละลายกล่าวคือ สารละลายท่ีมีตวั ทำละลายชนดิ เดียวกัน และมี
ความเขม้ ขน้ ในหน่วยโมลต่อกิโลกรัม (โมแลล) เท่ากนั จะมีจดุ เดอื ดหรอื จุดเยอื กแข็งเท่ากนั ยกตวั อยา่ งเช่น
สารละลายทมี่ นี ้ำเป็นตวั ทำละลายและมคี วามเขม้ ข้น 1 โมแลล จะมจี ดุ เยือกแข็ง -1.86 ℃ และมีจดุ เดือด
100.51 ℃ สว่ นสารละลายท่ีมนี ้ำเป็นตวั ทำละลายและมคี วามเขม้ ขน้ 2 โมแลล จะมีจดุ เยือกแข็ง -3.72 ℃
และมีจดุ เดือด 101.02 ℃ ทัง้ นีต้ วั ละลายจะเปน็ สารใดกไ็ ด้
ผลต่างระหว่างจุดเดอื ดของสารละลายทม่ี ีความเขม้ ขน้ 1 โมแลล หรอื 1 โมลต่อกิโลกรัม กบั จุด
เดอื ดของตัวทำละลายบรสิ ุทธิ์จะมีค่าคงท่ี เรยี กวา่ คา่ คงท่ขี องการเพิ่มข้นึ ของจดุ เดือด (Kb) ของตวั ทำละลาย
ในทำนองเดียวกนั ผลตา่ งระหว่างจุดหลอมเหลวของสารละลายที่มีความเข้มข้น 1 โมแลล หรอื 1 โมลต่อ
กิโลกรัม กับจดุ หลอมเหลวของตวั ทำละลายบริสุทธ์กิ ม็ ีคา่ คงท่ี เรียกว่า คา่ คงท่ีของการลดลงของจุดเยือกแข็ง
(Kf) ของตัวทำละลายเนอื่ งจากการเพมิ่ ข้นึ ของจดุ เดือดเป็นปฏิภาคโดยตรงกับความเข้มข้นเป็นโมแลลของ
สารละลาย เขียนเป็นความสัมพนั ธ์ไดด้ ังนี้
ΔTb ∝ m
ΔTb = Kb m
เม่อื ΔTf = ผลต่างระหว่างจุดเดือดของสารละลายกับจุดเดือดของตัวทำละลายบรสิ ุทธิ์
m = ความเขม้ ข้นของสารละลายเปน็ โมแลลหรือโมลต่อกิโลกรัม
Kb = คา่ คงท่ีของการเพ่มิ ขึ้นของจุดเดือดของตวั ทำละลาย
ในทำนองเดียวกนั การลดลงของจดุ เยือกแขง็ ก็เป็นปฏภิ าคโดยตรงกบั ความเขม้ ขน้ เป็นโมแลลของสารละลาย
เขยี นเป็นความสมั พันธไ์ ดด้ ังน้ี
ΔTf ∝ m
10
ΔTf = Kf m
เมื่อ ΔTf = ผลต่างระหวา่ งจุดเยือกแข็งของตัวทำละลายบริสทุ ธ์กิ ับจดุ เยือกแข็งของสารละลาย
m = ความเขม้ ขน้ ของสารละลายเป็นโมแลลหรอื โมลต่อกิโลกรมั
Kf = คา่ คงทข่ี องการลดลงของจดุ เยอื กแข็งของตัวทำละลาย
ตัวอยา่ งจุดเดือด จดุ เยอื กแข็ง คา่ Kbและ Kf ของสารบางชนิดแสดงในตาราง
ตาราง จุดเดือด จุดเยือกแขง็ ค่าคงที่ของการเพ่ิมข้ึนของจุดเดอื ด และคา่ คงที่ของการลดลงของ
จุดเยือกแข็งของตวั ทำละลายบางชนิด
ตัวทำละลาย จดุ เดอื ด Kb จุดเยอื กแข็ง Kf
(℃) (℃/ ) (℃) (℃/ )
โพรพาโนน (C3H6) 56.20 1.71 - -
ไตรคลอโรมีเทนหรอื คลอโรฟอรม์ (CHCI3) 61.70 3.63 - -
เมทานอล (CH4O) 64.96 0.83 - -
เอทานอล (C2H6O) 78.50 1.22 - -
เบนซนี (C6H6) 80.10 2.53 5.50 4.90
แนฟทาลนี (C10H8) -- 80.55 6.98
นำ้ (H2O) 100 0.51 0.00 1.86
กรดแอซีตกิ (C2H4O2) 117.90 3.07 16.60 3.90
คารบ์ อนเตตระคลอไรด์ (CCI4) 76.54 5.03 -22.99 2.98
ค่า Kb และ Kf มหี นว่ ยเป็น ˚C/m เมอื่ m = molal หรอื ˚C/mol/kg หรอื เขียนเปน็ ˚Ckg/mol
จากข้อมูลในตาราง คา่ Kf ของเบนซีนเท่ากบั 4.90 องศาเซลเซยี สตอ่ โมแลล หมายความวา่ สารละลายท่มี ี
เบนซนี เป็นตวั ทำละลายเขม้ ข้น 1 โมแลล จะเยอื กแข็งที่อุณหภูมิต่ำวา่ จดุ เยือกแข็งของเบนซีน 4.90 องศา
เซลเซยี ส นน่ั คือ จดุ เยือกแขง็ ของสารละลายน้ีมคี า่ เทา่ กบั 5.50 – 4.90 = 0.60 ºC
สำหรับในกรณีท่สี ารละลายมีตวั ละลายแตกตวั เปน็ ไอออน การเพ่ิมข้ึนของจดุ เดือดและการลดลง
ของจุดเยือกแข็งจะแตกต่างจากสารละลายท่ีมตี ัวละลายไม่แตกตวั และระเหยยากดังที่ได้กล่าวแล้วข้างตน้
ตวั อยา่ งเช่น สารละลายเกลือแกง (NaCl) (แตกตัวใหโ้ ซเดยี มไอออน (Na+) และ คลอไรด์ไอออน (Cl-)) ความ
เข้มข้น 1 โมแลล จะมีจุดเดือดสูงกว่าและมจี ุดเยอื กแข็งต่ำกวา่ สารละลายน้ำตาลทราย (C12H22O11) ทม่ี ีความ
เข้มขน้ เท่ากนั ในทางการคา้ ได้นำความรู้เก่ียวกบั สมบัติคอลลิเกทฟี ไปใชป้ ระโยชน์ เช่น การรักษาอณุ หภมู ิของ
ถงั ไอศกรมี ใหม้ ีอณุ หภมู ิต่ำ โดยทวั่ ไปหากใส่เฉพาะน้ำแข็งอยา่ งเดยี วลงในถงั ไอศกรีม อุณหภมู ภิ ายในถงั จะอยู่
ที่ประมาณ 4 – 5 ℃ แต่เม่อื เติมเกลือลงไปจะทำให้อณุ หภมู ิภายในถงั ไอศกรมี ต่ำกวา่ 0 ℃ ส่งผลให้ไอศกรมี
คงตวั อยู่ไดน้ านและไม่หลอมเหลว ตวั อยา่ งการประยุกต์ใช้สมบัตคิ อลลเิ กทีฟอืน่ ๆ ที่พบ เชน่ ในบางประเทศมี
การใชเ้ กลอื โรยหิมะเพ่อื ทำให้หมิ ะเกิดการหลอมเหลว หรอื การเติมสารบางประเภทลงในเครือ่ งยนต์เพ่ือ
ป้องกันการแขง็ ตัวของน้ำในเครื่องยนต์
11
ใบความรู้ที่ 2 สภาวะเยน็ ยวดยิง่ (supercooled state)
เป็นทที่ ราบกนั ดีวา่ เมื่อลดอณุ หภมู ิของของเหลวจนถึงจุดเยือกแขง็ (freezing point) ของเหลวจะ
เปล่ยี นสถานะเป็นของแข็ง การเปลยี่ นสถานะของของเหลวดงั กลา่ วจะเกิดข้ึนได้ถ้าของเหลวนนั้ มอี นภุ าคของ
ของแขง็ เช่น ฝุน่ ละออง ปนอยกู่ ารเปลยี่ นสถานะของของเหลวเป็นของแข็งรวมท้ังการเกิดผลึก โมเลกุลของ
ของเหลวจะยึดเกาะกับอนุภาคของของแข็งซ่ึงทำหนา้ ที่เป็นแกนกลางหรือนวิ เคลียส (nucleus) แม้จะมี
อนุภาคของแขง็ ปนอยใู่ นของเหลวในปรมิ าณทน่ี ้อยมากการเปลย่ี นสถานะของของเหลวเปน็ ของแขง็ ทีจ่ ุดเยอื ก
แข็งสามารถเกิดขึ้นได้ ในกรณที ข่ี องเหลวมีความบรสิ ทุ ธ์มิ าก ๆ หรือสารละลายท่ี
ไมม่ ีอนภุ าคของของแขง็ ปนอยู่ แมจ้ ะลดอุณหภมู ิจนต่ำกว่าจดุ เยอื กแขง็ ของเหลวยงั มีสถานะเป็น
ของเหลว เรียกปรากฏการณ์น้ีวา่ สภาวะเย็นยวดยิ่ง (supercooled state) เช่น นำ้ มจี ุดเยอื กแขง็ ท่ี
อุณหภูมิ 0 ℃ ดังน้ัน นำ้ กลายเป็นน้ำแขง็ ที่อุณหภมู ิ 0 ℃ แต่หลายครง้ั ที่เม่ือนำนำ้ ด่ืมท่ีบรรจุในขวดพลาสตกิ ท่ี
ยงั ไมเ่ ปิดฝา ไปแชใ่ นช่องแชแ่ ข็งท่ีอุณภมู ิต่ำกวา่ 0 ℃ เปน็ เวลาหลายชั่วโมงน้ำยงั คงสถานะของเหลวเชน่ เดมิ ที่
เป็นเชน่ นี้เพราะในน้ำบรสิ ุทธไ์ิ ม่มีอนุภาคของของแขง็ ใหโ้ มเลกลุ ของน้ำยึดเกาะจากการศึกษาพบวา่ น้ำท่ี
บริสทุ ธมิ์ าก ๆ สามารถคงสถานะของเหลวได้จนถึงอุณหภมู ิ -40 ℃ จึงเปล่ยี นสถานะเป็นของแข็งอุณภมู ิท่ี
ของเหลวเยน็ ยวดยิ่งเปล่ียนเป็นของแขง็ ได้เองโดยไม่มีการรบกวนระบบเรียกว่า จดุ นวิ คลีเอชัน (nucleation
point)
ภาพท่ี 1 อุณหภมู สิ ารยวดยง่ิ ณ จุดเยอื กแขง็ (Tf) และอุณหภูมิ ณ จุดนวิ คลเี อชนั (Tc)
การรบกวนระบบของสารทเ่ี ย็นยวดยิ่ง (supercooled substances) จะทำให้สารทมี่ สี ถานะเป็นของเหลว
เปลย่ี นสถานะเป็นของแขง็ อย่างรวดเร็ว เรียกปรากฏการณ์นีว้ ่า นิวคลีเอชัน (nucleation) การรบกวนระบบ
ทีท่ ำใหเ้ กิดนวิ คลีเอชนั สามารถทำได้หลายวิธี เชน่ การหยอ่ นอนุภาคของแขง็ ลงในสารทีเ่ ยน็ ยวดยง่ิ อนุภาคท่ี
เป็นของแขง็ จะทำหน้าที่เปน็ แกนกลางใหโ้ มเลกุลของของเหลวยึดเกาะและกลายเปน็ ของแข็งหรือตกผลกึ
ทันทที ข่ี องเหลวเย็นยวดยิง่ มเี กลด็ ของแขง็ หรือผลึกแรกเกดิ ขน้ึ กระบวนการนิวคลเี อชนั จะเกดิ ขน้ึ ตอ่ เน่ืองและ
รวดเรว็ ทำให้ของเหลวเยน็ ยวดยงิ่ กลายเป็นของแขง็ ท้ังหมด
เน่ืองจากการเปลี่ยนสถานะของของเหลวเย็นยวดยิ่งเปน็ ของแข็งเกดิ ขึ้นอย่างรวดเร็ว ดังน้ัน
ของแข็งหรือผลกึ ทีเ่ กิดข้นึ จะจดั เรียงตวั ไดเ้ ปน็ ระเบียบนอ้ ยกวา่ เมื่อเปรียบเทียบกับการแขง็ ตวั ของของเหลว
ปกตทิ เี่ กิดขึน้ อยา่ งช้า ๆ ดังน้ันของแข็งท่ีเกดิ จากของเหลวเยน็ ยวดย่งิ จะมคี วามแขง็ น้อยกว่าของแขง็ ทเี่ กดิ จาก
การเปลีย่ นสถานะทจ่ี ุดเยือกแขง็ ปกติ
12
ในกรณขี องสารละลายทม่ี ีการอดั แก๊สลงในของเหลว เช่น เครื่องดื่มประเภทกรดคาร์บอนกิ เม่อื
เขยา่ สารละลายเย็นยวดยง่ิ ของสารประเภทน้ี จะมีฟองแก๊สเกิดข้นึ จำนวนมากซึง่ ฟองแก๊สทเี่ กดิ ขึ้นจะผสมและ
แทรกตัวอยู่ในโมเลกลุ ของของเหลวทำให้เม่ือเกิดการแขง็ ตัว สารทีไ่ ด้จะมลี ักษณะเป็นเกลด็ เล็ก ๆ และเกิดการ
จับตวั เปน็ ก้อนน้อยกว่าเคร่ืองด่มื ท่ีไมไ่ ด้อดั แกส๊ ลงไป
13
ใบกจิ กรรมท่ี 1 เรื่อง เหตใุ ดจงึ ตอ้ งเตมิ เกลือ
1. ตารางบนั ทึกผล อณุ หภูมิ (องศาเซลเซียส)
วัตถุ การคาดคะเน ผลจากการวัด
นำ้ แข็งบด
น้ำแขง็ บด และเกลอื
2. สรปุ ผลการทดลอง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. จุดเยือกแขง็ ของสารละลายท่ไี ดจ้ ากการเติมเกลือลงในน้ำแข็ง เป็นอย่างไรเมอ่ื เปรียบเทยี บกับ
จดุ เยอื กแขง็ ของน้ำ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
14
ใบกิจกรรมที่ 2 เร่ือง ปริมาณเกลือสำคัญอยา่ งไร
1. ตารางบันทกึ ผล
วัตถุ อณุ หภมู ิ (องศาเซลเซียส)
- นำ้ กับ น้ำแขง็ บด
- น้ำ, น้ำแขง็ บด และเกลือ 1 ช้อน
- นำ้ , น้ำแข็งบด และเกลอื 2 ช้อน
2. สรปุ ผลการทดลอง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
3. ถา้ เตมิ เกลือเพิ่มอีก 1 ชอ้ น จากการทดลองนี้ จะทำให้อุณหภมู ขิ องสารละลายเปน็ อย่างไร
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
15
ใบกิจกรรมที่ 3 เรอ่ื ง ทำไมตอ้ งเขยา่
1. ตารางบันทกึ ผล
วิธีการ ลักษณะของผลิตภณั ฑ์
- น้ำอดั ลมแชไ่ วถ้ ังน้ำแขง็ กับเกลอื
- น้ำอัดลมแช่ไวถ้ ังน้ำแข็งกับเกลอื ท่ีมกี ารเขยา่
2. สรุปผลการทดลอง
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. เพราะเหตุใด การเขย่าจงึ ทำใหผ้ ลติ ภณั ฑท์ ่ีได้จากการแช่น้ำอัดลมในถงั ท่ีมีอุณหภูมิต่ำกวา่ จุดเยอื กแขง็ มี
ลกั ษณะแตกต่างจากการไมเ่ ขยา่
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
16
กิจกรรมแบบทดสอบหลงั เรียนเรอ่ื ง สเลอปี้
คำชแ้ี จง
ให้ผรู้ ับบรกิ ารทำแบบทดสอบหลังเรยี นเรื่อง สเลอปี้ ซึ่งขอ้ สอบทัง้ หมดจำนวน 5 ขอ้
(เมอื่ ผรู้ บั บริการทำแบบทดสอบเสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ ผู้รับรกิ ารสามารถตรวจคำตอบได้ตามเฉลยคำตอบทา้ ย
กจิ กรรม)
แบบทดสอบหลงั เรยี น คะแนนทไ่ี ด้..................คะแนน
คะแนนทไี่ ด้เต็ม 5 คะแนน
เรอื่ ง สเลอป้ี
คำชแี้ จง
1.ใหผ้ รู้ บั บรกิ ารกาเครื่องหมาย x (กากบาท) หนา้ ข้อที่ถูกตอ้ งเพยี งข้อเดียว
2. แบบทดสอบนี้ มีข้อสอบจำนวน 5 ขอ้ ขอ้ ละ 1 คะแนน
3. เมอื่ ผรู้ ับบริการทำแบบทดสอบเสร็จเรียบรอ้ ยแลว้ ผรู้ ับบริการสามารถตรวจคำตอบไดต้ าม
เฉลยคำตอบทา้ ยกจิ กรรม
1) การทำเครอื่ งดื่มแบบสเลอปีใ้ ห้ได้มากทส่ี ดุ ภายใตว้ ัสดอุ ปุ กรณ์ เวลา และงบประมาณ ท่ีกำหนด นกั เรยี น
ตอ้ งใชอ้ งคค์ วามรใู้ นข้อใด
ก. Science
ข. Mathematics
ค. Technology
ง. Engineering
2) หลกั การของการทำสเลอปี้เกีย่ วข้องกับ การประยุกตใ์ ช้ความรู้ด้านในเร่ืองใด
ก.สมบัติคอลลเิ กทีฟ สภาวะเย็นยวดยิง่ และปรากฏการณ์นวิ คลีเอชัน
ข.สมบตั คิ อลลเิ กทีฟ สภาวะเย็นยวดย่ิง และความเข้มขน้ ของสารละลาย
ค. สภาวะเยน็ ยวดยิง่ ปรากฏการณน์ วิ คลีเอชนั และการทำน้ำแข็งแหง้
ง.สมบัติคอลลิเกทฟี ความเข้มขน้ ของสารละลาย และการทำนำ้ แขง็ แหง้
3) ข้อใดไม่ใช่การนำเอาความรูเ้ กีย่ วกบั สมบัตคิ อลลเิ กทฟี ไปใช้ประโยชน์
ก. ศุภวุฒิเตมิ เกลอื ลงภายในถังไอศกรีม
ข. ทีบ่ ้านพรภิตามีหิมะตกจำนวนมาก จงึ นำเกลือไปโรยหิมะ
ค. อลินนำเกลอื ใสถ่ ว้ ยไปวางไว้ในต้เู ยน็ พร้อมไอศรีมรสมะนาว
ง. วิชชานภุ าพเตมิ เอทธิลีนไกคอลลงในเครื่องยนต์เพ่ือป้องกนั การแขง็ ตวั ของน้ำในเครอื่ งยนต์
4) การเพ่มิ ปริมาณเกลือในนำ้ แข็งจะทำให้อณุ หภูมิของสารละลายเปน็ อยา่ งไร
ก. อณุ หภูมขิ องสารละลายคงที่
ข. อุณหภูมขิ องสารละลายสูงข้ึน
ค. อณุ หภูมิของสารละลายตำ่ ลง
ง. ไมม่ ขี ้อใดถูก
17
5) สมบัติคอลลเิ กทีฟ(Colligative properties) เปน็ สมบัติของสารละลายทข่ี ึ้นอย่กู ับความเข้มขน้ ของ
สารละลาย มอี ะไรบา้ ง
ก. การเพม่ิ ขน้ึ ของจดุ เดือด การลดลงของจดุ เยือกแข็ง การลดลงของความดนั ไอ และการเกดิ
ความดันออสโมตกิ
ข. การเพิม่ ขึน้ ของจุดเดือด การลดลงของจุดเยือกแขง็ การลดลงของปรมิ าตร และการเกิดออสโม
ซสิ
ค. การเพม่ิ ขึน้ ของจุดเดือด การลดลงของจุดเยือกแขง็ และการลดลงของความดนั ไอ
ง. การเพิ่มข้ึนของจุดเดือด การลดลงของจุดเยือกแขง็ การเกดิ นิวคลีเอชัน และสภาวะเย็นยวดยิ่ง
18
กจิ กรรมการประเมินความพึงพอใจของผรู้ บั บรกิ ารเรอ่ื ง กจิ กรรมการศกึ ษาตามอัธยาศยั ด้าน
สะเตม็ ศึกษา (STEM )EDUCATION
คำชแี้ จง
ให้ผ้รู บั บรกิ ารทำแบบประเมินความพงึ พอใจของผรู้ ับบรกิ ารกจิ กรรมการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ด้านด้าน
สะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION)
แบบประเมนิ ความพึงพอใจของผรู้ ับบรกิ าร
กิจกรรมการศึกษาตามอธั ยาศัย ด้านสะเต็มศึกษา (STEM EDUCATION)
ชอ่ื -สกุล ผูร้ ับบริการ.........................................................................................
ช่อื ฐานการเรยี นรู้........................................................ช่อื – สกลุ ผ้จู ัดกิจกรรม...................................................
วันท.่ี ...........เดอื น...........................พ.ศ................... เวลา..................น.
ความพึงพอใจที่มีตอ่ การจดั กิจกรรม
ประเดน็ ระดับความพงึ พอใจ
54321
1. กจิ กรรมตรงตามความถนัดและตอ้ งการของผู้รบั บริการ
2. ข้นั ตอนการทำกิจกรรมมีความชดั เจน
3. สอ่ื /วัสดุ/อุปกรณ์ทใี่ ชท้ ำกิจกรรมมคี วามเหมาะสม
4. ระยะเวลาที่ใช้ในการทำกจิ กรรมมีความเหมาะสม
5. ความรทู้ ไี่ ดร้ บั สามารถนำไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ติ จรงิ ได้
6. ผรู้ ับรกิ ารมคี วามสุข/สนกุ ในการทำกิจกรรม
ความพงึ พอใจในภาพรวมต่อการจดั กิจกรรม
ระดบั 5 หมายถึง ระดบั 4 หมายถึง ระดับ 3 หมายถึง ระดบั 2 หมายถึง ระดบั 1 หมายถึง
พึงพอใจมากท่ีสดุ พึงพอใจมาก พึงพอใจปานกลาง พึงพอใจน้อย พงึ พอใจน้อยที่สดุ
ความร้ปู ระสบการณ์ที่ได้รบั ความคิดเห็นเพิ่มเติม
.......................................................................... .........................................................................
.......................................................................... .........................................................................
.......................................................................... .........................................................................
.......................................................................... .........................................................................
.......................................................................... .........................................................................
.......................................................................... .........................................................................
.......................................................................... .........................................................................