งานวิจยั ในช้นั เรียน
การศกึ ษาพฤติกรรมเร่อื งไมส่ ง่ งาน /การบา้ นของนักศึกษาระดบั ประถม
กศน.อาเภอพระสมทุ รเจดีย์
ช่ือผูว้ ิจัย
นางอภชิ าต์ บญุ สด
ครูอาสาสมัครการศึกษานอกโรงเรียน
ศนู ย์การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยอาเภอพระสมทุ รเจดีย์
สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวดั สมทุ รปราการ
การศึกษาพฤติกรรมเร่อื งไมส่ ่งงาน /การบา้ นของนกั ศกึ ษาระดับประถม กศน.อำเภอพระสมทุ รเจดีย์
ชอื่ งานวิจัย การศึกษาพฤตกิ รรมเร่อื งไม่สง่ งาน /การบ้านของนักศึกษาระดบั ประถม กศน.
ชื่อผ้วู จิ ัย อำเภอพระสมุทรเจดยี ์
นางอภิชาต์ บุญสด
บทคดั ยอ่
การศึกษาวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักศึกษาระดับประถมศึกษา กศน.อำเภอพระ
สมุทรเจดีย์ ผู้วิจัยได้จัดทำแบบสอบถามเพื่อศึกษาสาเหตุของ การไม่ส่งงาน / การบ้านของนกั ศึกษาจำนวน
10 ข้อ โดยให้นักศึกษาเรียงลำดับสาเหตุการไม่ส่งงาน / การบ้านตามลำดับที่มากที่สุดจนถึงน้อยที่สุดจาก
ลำดับ 1 – 10 และไดท้ ำการนำผลของแต่ละสาเหตุ มาหาคา่ รอ้ ยละ แล้วนำขอ้ มูลมาวิเคราะห์และหาข้อสรุป
พร้อมทั้งนำเสนอในรูปของตารางประกอบ คำบรรยาย เพ่อื ศกึ ษาพฤติกรรมของนกั ศกึ ษาในเรื่องการไม่ส่งงาน
/ การบา้ น ผลการศกึ ษาปรากฏวา่ จากการศึกษาและวเิ คราะห์แบบสอบถามเพอ่ื ศึกษาพฤติกรรมเร่ือง การไม่
ส่งงาน / การบ้าน ของนักศกึ ษาระดับประถมศึกษา กศน.อำเภอพระสมทุ รเจดีย์ แสดงให้เห็นว่า สาเหตุ ของ
การไม่ส่งงาน / การบา้ น ลำดับที่ 1 คือ ไมม่ ีเวลาในการทำการบ้าน ติดเกมส์ คน ที่เลือกเปน็ สาเหตอุ ันดับท่ี 1
จำนวน 3 คน คิดเป็น รอ้ ยละ 60
สารบัญ หน้า
บทที่ 1
บทคดั ย่อ 1
1 บทนำ 2
2
ความเป็นมาและความสำคญั ของปัญหา
วัตถุประสงค์ของการวจิ ัย 3
ขอบเขตการวจิ ยั 5
คำนิยามศพั ท์เฉพาะ
2 เอกสารและงานวจิ ยั ทีเ่ ก่ียวข้อง 7
ทฤษฎกี ารเรียนรู้กลุ่มพฤตกิ รรมนยิ ม 7
กรอบแนวคิดในการศึกษา 7
3 วิธดี ำเนนิ การศกึ ษาค้นคว้า 7
ประชากรและกลุม่ ตวั อย่าง
เคร่อื งมือทใี่ ช้ 9
ขน้ั ตอนในการสร้างเครือ่ งมือ 9
การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู
4 การวิเคราะห์ข้อมลู 11
ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูลทั่วไป 11
ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู พฤติกรรม 11
5 สรปุ ผลอภปิ รายผลและข้อเสนอแนะ
สรุปผลการวิจยั
อภปิ รายผล
ข้อเสนอแนะ
บทที่ 1
บทนำ
ที่มาและความสำคญั ของปญั หา
จากการจัดการเรียนการสอนของนักศกึ ษาระดับประถมศึกษา ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2563 พบว่า
นักศึกษาไม่ส่งงาน / การบ้าน จำนวน 5 คน เนื่องจากการเรียนการสอนแบ่งคะแนนออกเป็นสองส่วน คือ
คะแนนเก็บระหว่างภาค ซึ่งคิดเป็น 60 คะแนนทั้งหมด และคะแนนสอบปลายภาค ซึ่งคิดเป็น 40 คะแนน
ดังนั้นการทำใบงานและแบบทดสอบส่งครู ของนักศึกษาจึงเป็นเรื่องท่ีสำคัญมากในการเรียนการสอนเพราะ
นอกจากจะมคี ะแนนในสว่ นของใบ งานและการบ้านแลว้ เปน็ การประเมินความรู้ ความเขา้ ใจในบทเรียนของ
นักศึกษาว่ามีมากน้อยเพียงใดอีกทั้งยังเปน็ การวัดพฤติกรรม ความรบั ผิดชอบของนกั ศกึ ษาได้อีกทางหนึ่ง ถ้า
หากนักศกึ ษาไม่ไดท้ ำใบงานทีค่ รแู จกให้นักศึกษากจ็ ะ ขาดคะแนนเก็บในสว่ นน้ันและครูกไ็ มส่ ามารถประเมิน
ความร้คู วามเขา้ ใจของนักศกึ ษาได้ ในชว่ งแรกของการสอน ครูไดใ้ ช้ใบงานและใบความรู้แจกให้กับนกั ศึกษาทุก
คน โดยที่ใบงานและใบความรู้ที่แจกให้นักศึกษาเก็บเป็นของตนเอง จากการจัดการเรียนการสอนในระดับ
ประถมศึกษา กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์ พบวา่ นักศึกษาบา้ งคนไมส่ ง่ งาน / การบ้านตรงตามกำาหนด ซึง่ ทำ
ให้ครูผสู้ อนไม่สามารถวัดความรู้ หรือติดตาม ความก้าวหน้าของนกั ศกึ ษาได้ ดังนนั้ ผ้วู ิจัยซ่ึงในฐานะท่ีเป็นท้ัง
ครผู สู้ อนและครูประจำวิชาเห็นความสำคญั ของปญั หาดังกล่าว จึงได้ทำการวิจัยเพือ่ การศึกษาพฤติกรรมเรื่อง
ไม่ส่งงาน /การบ้านของนักศึกษาระดับประถม กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์ เพื่อนำมาเป็น ข้อมูลในการ
แก้ปัญหาของนักศกึ ษาในเรอื่ งการไม่สง่ งาน / การบ้านตอ่ ไป
สมมติฐานการวิจัย
จัดทำแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมเรื่องไม่ส่งงาน /การบ้านของนักศึกษาระดับประถม กศน.
อำเภอพระสมุทรเจดยี ์ เพื่อนำผลจากการวิจยั มาเกบ็ เปน็ ขอ้ มลู เพือ่ แก้ไข ปญั หาในการไมส่ ง่ งาน / การบา้ น
วัตถปุ ระสงคข์ องการวจิ ัย
1. เพื่อศกึ ษาสาเหตขุ องการไม่ส่งงาน / การบา้ น ของนักศกึ ษาระดบั ประถม กศน.อำเภอพระสมุทร
เจดยี ์
2. เพอื่ รวบรวมขอ้ มลู สำหรับการแกป้ ัญหาการไม่ส่งงาน / การบา้ นของนกั ศกึ ษา
1
ประโยชน์ทคี่ าดวา่ จะไดร้ ับ
1. ทราบถึงพฤติกรรมและสาเหตุของการไม่ส่งงาน/การบา้ นของนักศกึ ษาระดับประถม กศน.อำเภอ
พระสมทุ รเจดยี ์
2. ได้แนวทางใน การแก้ปัญหาการเรยี นการสอน
ตัวแปรทีศ่ ึกษา
1. แบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมเรื่องการไม่ส่งงาน /การบ้านของนักศึกษาการศึกษา
ระดบั ประถม กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์
2. ระดับคะแนนเฉลี่ยของแบบสอบถาม
นยิ ามศพั ท์เฉพาะ
1. การบ้าน หมายถงึ งานหรือกิจกรรมท่ีครูมอบหมายใหน้ ักศึกษาได้ท านอกเวลาเรยี นเพ่ือ เป็นการ
ฝึกทกั ษะค้นคว้าหาความรู้เพม่ิ เตมิ และใช้เวลาวา่ งให้เกิดประโยชน์
2. งาน หมายถงึ แบบฝกึ หัดทีค่ รใู ห้ในชวั่ โมงเรียน แบบฝกึ หดั ที่ครูให้เป็นการบา้ น ใบงาน รวมถึงการ
ทำงานเป็นกลุม่ และช้ินงาน
3. ใบงาน หมายถึง แบบฝึกหัดท่คี รใุ ห้ทำในช่ัวโมงเรยี นหรอื ให้เปน็ การบ้าน
ขอบเขตของการวิจยั
1. ในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เป็นการสร้างแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมเรื่องการไม่ส่งงาน /
การบ้านของนักศึกษาระดับประถม กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์ โดยใช้ข้อความที่คาดว่าจะเป็นสาเหตุ ของ
การไม่สง่ งาน / การบ้าน จำนวน 10 ข้อ และได้กำหนดขอบเขตของการวจิ ัยไว้ดงั นี้
1. ประชากร ประชากรท่ใี ช้ในการศกึ ษา คอื นกั ศกึ ษาระดับประถมศกึ ษา กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์
จำนวนห้องเรียน 1 ห้อง จำนวนนักศกึ ษา 5 คน
2. แบบสอบถามที่ใช้ในการศึกษา เป็นเป็นแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมของนักศึกษาระดับ
ประถมศกึ ษา กศน.อำเภอพระสมุทรเจดยี ์ ในเรือ่ งการไมส่ ง่ งาน / การบา้ น จำนวน 10 ข้อ
2
บทที่ 2
เอกสารและงานวจิ ยั ทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
เพอ่ื เปน็ พนื้ ฐานในงานวิจยั เร่อื ง การศึกษาพฤติกรรมเรื่องไม่ส่งงาน /การบ้านของนกั ศึกษา
ระดบั ประถม กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ผู้วจิ ยั จงึ ศึกษาเอกสารและงานวิจัยทเ่ี กี่ยวขอ้ ง โดยเสนอตาม
ลำดบั หวั ข้อดงั น้ี
1. ความหมายของพฤติกรรม
2. ความหมายของการบ้าน
3. แนวคดิ ทฤษฏีท่ีเกย่ี วขอ้ งกับการบ้าน
พฤตกิ รรม ( Behavior )
พฤตกิ รรม หมายถึง ปฏกิ ิรยิ าหรอื กจิ กรรมทกุ ชนดิ ของสิ่งมชี วี ติ แมว้ ่าจะสงั เกตไดห้ รือไมก่ ็ ตาม เช่น
คน สตั ว์ มนี กั พฤตกิ รรมศาสตรบ์ างคนได้ให้ความหมายไวว้ า่ พฤติกรรมมีความหมาย กวา้ งขาวงครอบคลมุ ไป
ถงึ พฤตกิ รรมของสิ่งที่ไม่มชี ีวิตดว้ ย เช่น การไหลของน้ำ กระแสลมทีพ่ ดั การปลิวของฝนุ่ ละออง เป็นตน้ ส่ิงท่ี
กล่าวมาเป็นการเคลื่อนไหว ของสงิ่ ไม่มชี วี ติ แตม่ ีการเปลย่ี นแปลงจากลกั ษณะหน่ึงไปยังอีกลกั ษณะหน่ึง เลย
ถอื วา่ คลา้ ย ๆ กับ เป็นปฏกิ ิริยาหรอื เป็นกจิ กรรมท่ปี รากฏออกมาจากสงิ่ นนั้ จึงนับว่าเป็นกจิ กรรมดว้ ย
พฤตกิ รรมภายนอก ( Overt Behavior )
พฤติกรรมภายนอก หมายถึง ปฏกิ ริ ิยาของบคุ คลหรือกิจกรรมของบุคคลทปี่ รากฏออกมา ใหบ้ ุคคลอืน่
ได้เห็น ท้ังทางวาจาและการกระท าทา่ ทางอนื่ ๆ ทป่ี รากฏออกมาใหเ้ หน็ ได้ พฤติกรรมที่ ปรากฎออกมาให้เห็น
ภายนอกนัน้ เปน็ สิง่ ทีค่ นมองเหน็ ตลอดเวลา เป็นปฏกิ ิยาที่คนเราได้แสดงออกมา ตลอดเวลาของการมีชวี ติ ถ้าล
าดับต้งั แต่ต่นื นอนจนกระทัง่ นอนหลบั จะเหน็ ว่าไดแ้ สดงพฤตกิ รรม ออกมาตลอดเวลา พฤติกรรมภายนอกที่
แสดงออกมามคี วามสำคัญมาก โดยเฉพาะอยา่ งย่งิ ถ้าสังคมใดที่ ประเมนิ คุณภาพของคนวา่ เปน็ คนดี มีระเบยี บ
วินยั สภุ าพ ซอื่ สัตย์ ทารุณ เปน็ ตน้ ลว้ นแต่ ประเมินคณุ ภาพของพฤติกรรมภายนอกทั้งสนิ ถา้ ไม่แสดงออกมา
สังคมกไ็ มท่ ราบวา่ บุคคลนั้นเปน็ คน อยา่ งไร พฤตกิ รรมทคี่ นแสดงออกมาใหเ้ หน็ ภายนอกจึงนับว่าเปน็
องค์ประกอบท่ีสำคญั เก่ยี วกับ ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งบุคคลในสังคม สังคมชอบตัดสินคนด้วยพฤตกิ รรม
ภายนอก ดังนนั้ พฤตกิ รรม ทเ่ี ราเห็นไดท้ ราบอาจไมใ่ ช่พฤตกิ รรมท่แี ท้จริงของเขา และไมใ่ ช่ตวั ตนท่ีแทจ้ ริง คือ
การกระท าไม่ ตรงกับความคิดความรู้สึก บางคนอาจสวมหนา้ กากเข้าหากัน หรือแสดงไปตามบทบาทท่ีเขา
เป็น บางครัง้
3
พฤติกรรมภายใน ( Covert Behavior )
พฤตกิ รรมภายใน หมายถึง กิจกรรมภายในทเ่ี กดิ ขึ้นในตวั บคุ คล ซ่ึงสมองท าหนา้ ท่ี รวบรวม สะสม
และส่งั การ ซ่งึ เปน็ ผลจากการกระท าของระบบประสาทและกระบวนการ เปล่ยี นแปลงทางด้านชีวเคมีของ
ร่างกาย พฤติกรรมภายในมที ้งั รปู ธรรมและนามธรรม ทเ่ี ปน็ รปู ธรรมคนอื่นจะสังเกตเหน็ ไม่ได้แตจ่ ะใช้
เคร่ืองมือทางการแพทยท์ ดสอบได้ สมั ผัสได้ เช่น การเต้น ของหัวใจการหดและการขยายตัวของกล้ามเน้ือ
การสบู ฉีดโลหติ ไปเลย้ี งรา่ งกาย เปน็ ต้น ทเ่ี ปน็ นามธรรมได้แก่ ความคดิ ความรู้สกึ เจตคติ ความเชื่อ ค่านยิ ม
ซ่งึ จะอยใู่ นสมอง ของคน บุคคลภายนอกไมส่ ามรถจะมองเห็นได้ หรอื สัมผัสไดเ้ พราะไมม่ ตี วั ตน และจะทราบ
วา่ เขา คิดอย่างไรกต็ อ่ เม่อื เขาแสดงออกมา เช่น การแสดงอาฆาตมาดร้าย ใช้คำพูดข่มขู่ พฤตกิ รรมภายในจะมี
เหมือนกันหมดทุกวยั ไม่วา่ เดก็ หรือผูใ้ หญ่ เพศชาย เพศหญิง หรอื ตา่ งเช้ือ ชาติ สว่ นท่จี ะแตกตา่ งกันจะอยู่กับ
จำนวน ปรมิ าณหรอื คุณภาพเทา่ นัน้ พฤติกรรมภายในมคี วามสำคญั ต่อคน เป็นคุณสมบัตทิ ่ีทำให้คนเหนือกว่า
สตั ว์ คนมีแนวคดิ ที่ มรี ะบบและคาดการณ์ในส่งิ ตา่ ง ๆ ในอนาคตได้ ในทางตรงกันข้ามอาจสืบ เนอ่ื งมาจาก
การขาดการเลย้ี งดแู ละอบรมจากครอบครัวหรือในทางตรงกันขา้ มอาจสบื เนือ่ งมาจาก การขาดการเลี้ยงดู
อบรมจากครอบครัว จงึ ทำใหม้ ีปญั หาอย่มู าก ในแต่ละช่วงของชีวติ จะมพี ฒั นาการปรบั เปลย่ี นหรือ
เปลย่ี นแปลงพฤตกิ รรมไปบ้างโดยเฉพาะ อย่างยิง่ ตอ้ งปรบั พฤติกรรมใหเ้ ขา้ กบั ขนบธรรมเนยี มประเพณแี ละ
วัฒนธรรมของชมุ ชนนัน้ ๆ
ความหมายของการบา้ น
กูด๊ ( Good , 1973 : 224 ) กลา่ ววา่ การบา้ น หมายถงึ งานทีค่ รูมอบหมายใหน้ กั ศึกษา
กลบั ไปท าท่ีบ้าน เพอ่ื ทบทวนความรูท้ ่เี รียนไปแล้ว และเป็นการฝกึ ทักษะ การใชก้ ฎ หรอื สตู รต่างๆ ทีเ่ รียนไป
แลว้
จินตนา ใบกาซูยี ( 2531 : 40 ) กล่าวถึงการบ้านไวว้ ่า หมายถึง ส่งิ จ าเปน็ ทเี่ ดก็ ทกุ ช้ัน
จะตอ้ งปฏบิ ัติ ท าให้เด็กร้จู ักวนิ ัย รจู้ ักควบคุมตนเอง มีความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง แบง่ เวลาเป็น และรู้จักเรยี น
ดว้ ยตนเอง
จนั ทนา คุณกิตติ ( 2532 : 14 ) กลา่ วถึงการบ้านไวว้ ่า หมายถงึ งานหรอื กจิ กรรมทีค่ รู มอบ
หมายใหน้ กั ศึกษาทำนอกเวลาเรียนปกตติ ามข้อกำหนดท่ีตกลงรว่ มกันระหวา่ งครกู ับนักศึกษา เพื่อให้นักศึกษา
ไดค้ ดิ ค้นควา้ ทบทวนความรู้ทเี่ รยี นไปแลว้ เพ่ือฝึกทกั ษะหรอื เตียมสูท่ เรยี นใหม่ ตลอดจนเพ่อื ส่งเสรมิ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี นของนักศกึ ษา
4
แนวคดิ ทฤษฏที เ่ี ก่ียวขอ้ งกับการบ้าน
วตั ถปุ ระสงค์ของการบ้าน
สแตรง ( Strang , 1960 อ้างถึงใน สขุ ดี ตงั้ ทรงสวสั ดิ์. 2533 : 9 ) กล่าวถึงวตั ถุประสงค์ ของการ
มอบหมายการบ้านไว้ดงั น้ี
1. เพื่อชว่ ยกระตุ้นให้นกั ศึกษามีความพยายาม ความคิดรเิ รมิ่ ความเป็นอิสระ มโี อกาสใช้ ความคดิ
ของตนเอง
2. ส่งเสริมให้นกั ศึกษาใชเ้ วลาว่างจากการเรียนในโรงเรยี นให้เป็นประโยชน์
3. เพื่อเพิ่มพนู ประสบการณท์ ่ีได้รบั จากโรงเรียนโดยท ากจิ กรรม
4. สนบั สนนุ การเรียนร้โู ดยมีการเตรยี มตวั ฝกึ ปฏบิ ัติ
กระทรวงศึกษาธิการ ( 2539 : 3 ) ไดก้ ล่าวถึงวัตถปุ ระสงค์ของการบา้ นไว้ดังนี้
1. เพอ่ื เพิ่มทกั ษะและประสบการณ์จากสงิ่ ที่ได้เรียนรูม้ าแล้ว
2. เพ่ือใหร้ ูจ้ ักศกึ ษาคน้ ควา้ ด้วยตนเอง
3. เพื่อให้รู้จกั ตนเองเก่ยี วกบั ความถนัด ความสามารถ ความสนใจและข้อบกพรอ่ งในการ เรยี นวิชา
นน้ั ๆ
4. เพอ่ื ให้เกิดความเชอ่ื มัน่ ในสง่ิ ท่ีเรียนรู้และทำให้กลา้ ตดั สินใจ
5. เพือ่ พัฒนาความคดิ สรา้ งสรรค์
6. เพอ่ื ให้มวี ินยั รกั การทำงาน มคี วามรบั ผดิ ชอบและรู้จักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์
7. เพอ่ื ปลูกฝงั คุณธรรม รจู้ ักเสียสละ ชว่ ยเหลอื สังคมและทำงานเปน็ หม่คู ณะได้
8. เพื่อให้ครแู ละผ้ปู กครองสามารถสนบั สนุน และชว่ ยเหลอื ในข้อบกพร่องต่าง ๆ ของ นักศึกษาที่เกดิ
จากการเรยี นการสอนได้
ประเภทของการบ้าน สำอาง สีหาพงษ์ ( 2531 : 43 - 47) แบ่งการบา้ นออกเปน็ 3 ประเภท คอื
1. ภาคความรู้ คือ การบ้านที่เป็นเรือ่ งทกั ษะ ความรู้ ความคดิ เชน่ การศึกษาคน้ คว้าทำ รายงาน การ
หาข่าว ทำแบบฝกึ หดั การตอบคำถาม การเติมคำ การอา่ นหนงั สือเพมิ่ เติม
2. ภาคปฏบิ ัติ คือ การบ้านท่ที ำดว้ ยมือเพื่อก่อใหเ้ กิดความชำนาญและประสบการณ์ เชน่ การทำ
กระบวยตกั น้ำ การจัดนทิ รรศการ การตอนกิ่งไม้ การทดลองต่าง ๆ เป็นต้น
3. ประเภทให้ประโยชนส์ าธารณะ เชน่ การชว่ ยงานโรงเรยี น การเขา้ รว่ มกิจกรรมชมุ นมุ และการเขา้
ร่วมกจิ กรรมสาธารณะประโยชน์ เปน็ ต้น
5
ประโยชน์ของการบ้าน
การบ้านมีประโยชนห์ ลายประการดังนค้ี อื ( กระทรวงศกึ ษาธกิ าร , 2539 : 9 )
ก. ต่อนักศกึ ษา
1. ไดพ้ ฒั นาแนวคิดอยา่ งต่อเนอื่ งและสม่ าเสมอ
2. ได้ศกึ ษาคน้ คว้าด้วยตนเอง ซึง่ เปน็ ปัจจยั ส าคัญทช่ี ว่ ยให้เด็กเชอ่ื ม่ันในความสามารถของ ตนเอง
ปลกู นสิ ยั ใหร้ กั เดก็ และพยายามค้นคว้าหาความรู้ และความกา้ วหน้ามาสู่ตนเอง
3. ไดส้ ารวจและพฒั นาตนเองในด้านความรู้ ความถนดั ความสามารถ และความสนใจ
4. ใชเ้ วลาให้เกิดประโยชน์ ซง่ึ เปน็ การสร้างนิสัยท่ดี ใี ห้กับนักศึกษา
5. ปลูกฝงั ความมรี ะเบียบ ความรับผิดชอบและความเสยี สละ รูจ้ ักแบ่งเวลาเพือ่ พัฒนา ตนเอง ร้วู ่า
เวลาไหนควรท าอะไร ล าดับกจิ กรรมกอ่ นหลัง วางแผนงานเป็นไปในแต่ละวัน
ข. ตอ่ ผู้ปกครอง
1. ลดความวิตกกังวลในเรอื่ งความประพฤติของบตุ รหลาน
2. ทราบพฒั นาการและข้อบกพรอ่ งทางการเรียนของบุตรหลาน
3. เกดิ ความสมั พนั ธ์ทีด่ ีระหว่างผู้ปกครอง ครู และนกั ศึกษา
ค. ตอ่ ครูผูส้ อน
1. ชว่ ยเสริมให้แผนการสอนของครเู ป็นระบบและครบถว้ น
2. เป็นเครือ่ งมอื ช่วยจ าแนกความแตกต่างของนักศกึ ษาเพื่อก าหนดวิธีสอนให้เหมาะสมกบั นกั ศกึ ษา
3. ทราบผลการเรยี นรู้ของนักศึกษาได้อย่างต่อเน่ือง
6
บทท่ี 3
วธิ ดี ำเนนิ การวิจัย
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยการศึกษาพฤติกรรมเรื่องไม่ส่งงาน /การบ้านของนักศึกษาระดับประถม
กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์ โดยใช้ แบบสอบถามเพื่อหาสาเหตุของการไม่ส่งงาน / การบา้ นตามกำหนด ผ้วู จิ ัย
ไดว้ างแผนการดำเนินการศึกษา สร้างแบบสอบถาม โดยใช้ข้อความที่ คาดว่าจะเป็นสาเหตุของการมาส่งงาน /
การบา้ นตามกำหนด และได้ดำเนนิ การซ่งึ มรี ายละเอยี ดเปน็ ขน้ั ตอนดังนี้
ประชากร
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นของนักศึกษาระดับประถมศึกษา กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์
จำนวน 5 คน
เคร่อื งมอื ที่ใช้ในการวจิ ยั
1. แบบสอบถาม
ขั้นตอนการดำเนินการวิจยั ในครัง้ น้ี
วิเคราะห์สาเหตุของการไม่สง่ งาน / การบา้ น ของนกั ศกึ ษา โดยการหาคา่ รอ้ ยละ
ข้นั ดำเนินการ ในการวิจัยครั้งนี้
ผวู้ จิ ยั ได้มกี ารดำเนนิ การดงั นี้
3.1 นำแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมการไม่ส่งงาน / การบ้านตามกำาหนดของนักศึกษา
ระดับประถม กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จำนวน 5 คน เพื่อหาสาเหตุของการไม่ส่งงาน / การบ้านตามกำ
หนดและทำการ บนั ทึกคะแนน
3.2 ดำเนนิ การหาค่าร้อยละของแตล่ ะข้อสาเหตุ
7
ข้นั วเิ คราะห์ขอ้ มูล
4.1 วเิ คราะห์ขอ้ มูล
- วิเคราะหผ์ ลจากคะแนนทไ่ี ด้จากการทำแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรม
4.2 สถิตทิ ใ่ี ช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มูล
4.2.1 การหาค่ารอ้ ยละ
ค่ารอ้ ยละ = X x 100
N
เมื่อ X = คะแนนทไี่ ด้
N = จำนวนนักศึกษาท้ังหมด
8
บทท่ี 4
ผลการวจิ ยั
จากการศึกษาวิจัยในชั้นเรียนครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาพฤติกรรมการไม่ส่งงาน / การบ้าน
ตามกำาหนดของนกั ศกึ ษาระดับประถม กศน.อำเภอพระสมทุ รเจดยี ์ เพ่ือนำผลการวิจยั มา เกบ็ เป็นข้อมูลเพ่ือ
หาสาเหตุ และนำไปแกไ้ ขปัญหาในการเรียนการสอนและเพ่อื ให้นักศึกษาเห็น ความสำคญั ของการส่งงานและ
การบ้าน โดยใช้แบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมจำนวน 10 ข้อ โดยกลุ่มตัวอย่างซ่ึงเป็นของนักศกึ ษาระดบั
ประถมศึกษา กศน.อำเภอพระสมทุ รเจดยี ์ จำนวน 5 คน โดยสามารถวเิ คราะห์ ผลได้ดงั น้ี
ผลการประเมนิ แบบสอบถามของนกั ศึกษาในเรอ่ื งการไม่สง่ งาน/การบ้านตามกำหนด เกย่ี วกับการหา
สาเหตุทไี่ ม่สง่ งาน การบา้ นของของนกั ศกึ ษาระดบั ประถม กศน.อำเภอพระสมทุ รเจดยี ์
ตาราง 1 ผลการประเมินแบบสอบถามของนักศึกษาถึงสาเหตุที่ผู้เรียนไม่ส่งงาน / การบ้าน ตาม
กำหนด
สาเหตขุ องการไม่ส่งงาน / การบ้าน ลาดบั ท่ี รอ้ ยละ
1. การบ้านมากเกินไป
2. ใบงานแบบทดสอบยากทาไม่ได้
3. ไม่มีเวลาทาทาโอท/ี ทางาน 1 60
4. ให้เวลาน้อยเกนิ ไป
5. ช่วยเหลอื งานผ้ปู กครอง
6. ลมื ทา
7. ติดเกมส์ 2 40
8. ไมน่ ่าสนใจ
9. ไมม่ ีคนคอยให้คาปรึกษา
10.ไมเ่ ข้าใจคาสงั่
9
สาเหตุของการไม่สง่ งาน / การบ้าน ลำดับท่ี 1. ไมม่ เี วลาทำทำโอท/ี ทำงาน รอ้ ยละ 60 ลำดบั ที่ 2 ติด
เกมส์ รอ้ ยละ 40
จากตารางที่ 1 แสดงใหเ้ หน็ ว่าการตอบแบบสอบถามของนักศึกษาในเรื่องสาเหตุของการไม่ สง่ งาน /
การบ้านตามกำหนด โดยทำการเรียงลำาดับจากสาเหตุที่นักศึกษาที่นักศึกษาคิดว่าเป็น สาเหตุที่สำคัญที่สุด
จนถงึ สาเหตุทีน่ ้อยทส่ี ดุ ตามลำดับดังตอ่ ไปนี้
1. ไมม่ เี วลาทำทำโอท/ี ทำงาน อยู่ในลำดับที่ 1 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 60 ( 3 คน)
2. ตดิ เกมส์ อยู่ในลำดับท่ี 2 คดิ เป็นรอ้ ยละ 40 ( 2 คน)
10
บทท่ี 5
สรปุ ผล อภปิ รายผล และข้อเสนอแนะ
สรุปผลการศกึ ษาวิจัย
จากการศกึ ษาและวิเคราะห์แบบสอบถามเพ่อื ศึกษาพฤตกิ รรมการไม่สง่ งาน / การบ้านตามกำาหนด
ของนักศึกษาระดับประถม กศน.อำเภอพระสมุทรเจดยี ์ แสดงให้เห็นว่า สาเหตุของการไม่ ส่งงาน / การบ้าน
ตามกำหนด สาเหตุของการไม่ส่งงาน / การบ้าน ลำดับที่ 1. ไม่มีเวลาทำทำโอที/ทำงาน คิดเป็นร้อยละ 60
และลำดับท่ี 2 ตดิ เกมส์ คิดเปน็ รอ้ ยละ 40 โดยคดิ จากนกั ศกึ ษา 5 คน
อภปิ รายผลการศึกษาวิจัย
จากการสร้างแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมการไม่ส่งงาน / การบ้านตามกำหนดของนักศึกษา
ระดับประถม กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์ ในคร้ังนสี้ ามารถอภิปรายผลได้ดังนี้ พบว่าแบบสอบถามเพ่ือศึกษา
พฤติกรรมของศึกษาพฤติกรรมการไม่ส่งงาน / การบ้านตามกำหนดของนักศึกษาระดับประถม กศน.อำเภอ
พระสมุทรเจดีย์ตามกำหนด ได้ทำให้ทราบถงึ สาเหตุทสี่ ำคัญมากท่สี ุด จนถึงสาเหตทุ ี่ นอ้ ยที่สดุ ในการไมส่ ่งงาน
/ การบ้านตามกำหนด คอื ไมม่ ีเวลาทำทำโอท/ี ทำงาน และติดเกมส์
ขอ้ เสนอแนะ
1. ในการสร้างแบบสอบถามเพื่อศึกษาพฤติกรรมการไมส่ ่งงาน / การบ้านตามกำหนด อาจจัดทำกับ
นักศึกษาระดบั ประถมศึกษา กศน.อำเภอพระสมุทรเจดีย์ เพื่อเป็นการศึกษาในภาพรวมเพราะการวจิ ัยครัง้ นี้
กล่มุ ตัวอยา่ งเป็นเพียงนกั ศึกษาระดบั ประถม เทา่ นน้ั ซ่งึ อาจจะไดผ้ ลการวิจยั ทแี่ ตกต่างกันก็ได้
2. ในการวิจัยครั้งต่อไปอาจเจาะจงทำการวิจัยกลุ่มนักศึกษาในระดับชั้นอื่น ๆ ต่อไป และ อาจแยก
หัวขอ้ เปน็ รายวิชาต่าง ๆ เพ่ือให้ได้ข้อมูลท่ีละเอยี ดข้นึ ซงึ่ จะได้นำผลการทดลองทไี่ ด้ไปแก้ไข ปัญหาในการไม่
ส่งงาน / การบา้ นตามกำหนดของนกั ศึกษาต่อไป
11
แบบสอบถามเพอื่ ศึกษาพฤติกรรมเรอ่ื งการไม่สง่ งาน / การบา้ นของนกั ศกึ ษาระดับประถมศึกษา
กศน.อำเภอพระสมุทรเจดยี ์
คำชีแ้ จง :
1. แบบสอบถามฉบับนี้สรา้ งขึ้นเพือ่ ให้ทราบถงึ สาเหตุท่ผี ู้เรียนไมส่ ่งงาน / การบ้าน
2. แบบสอบถามฉบับนี้ มี 2 ตอน
ตอนท่ี 1 ขอ้ มลู เก่ียวกบั ผูต้ อบ
ตอนที่ 2 ข้อมลู เกยี่ วกบั สาเหตุท่ไี มส่ ง่ งาน / การบ้านของผเู้ รียน
ตอนที่ 1 ขอ้ มลู ทวั่ ไปของผู้ตอบ เพศ ……………อายุ ………….ปี ……….………….
ตอนท่ี 2 : ความคดิ เหน็ ของผู้ตอบทมี่ ีตอ่ การไมส่ ง่ งาน / การบ้าน
คำชี้แจง : แบบสอบถามนี้ จัดทำขึ้นเพื่อสอบถามสาเหตุของการไม่ส่งงาน / การบ้านของผู้เรียน โปรดอ่าน
ข้อความดว้ ยความรอบคอบและใส่หมายเลขตามหัวขอ้ ที่นักศกึ ษาคิดว่าเปน็ สาเหตุของการ ไม่ส่งงานการบ้าน
โดยเรียงลำดับจากสาเหตทุ สี่ ำคญั ที่สดุ จนถึงสาเหตุทีน่ อ้ ยม่ีสดุ ตามล าดับ 1 – 10
สาเหตุของการไม่ส่งงาน / การบ้าน ลำดบั ที่
1. การบ้านมากเกนิ ไป
2. ใบงานแบบทดสอบยากทาไมไ่ ด้
3. ไม่มีเวลาทาทาโอท/ี ทางาน
4. ให้เวลาน้อยเกนิ ไป
5. ชว่ ยเหลอื งานผ้ปู กครอง
6. ลมื ทา
7. ตดิ เกมส์
8. ไมน่ ่าสนใจ
9. ไม่มีคนคอยให้คาปรึกษา
10.ไม่เข้าใจคาสงั่
ข้อเสนอแนะ
.........................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................
ขอบคุณท่ีให้ความร่วมมือ
นางอภิชาต์ บุญสด
12