The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การทำผ้าบาติก สถาบัน กศน.ภาคตะวันออก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

การทำผ้าบาติก

การทำผ้าบาติก สถาบัน กศน.ภาคตะวันออก

Keywords: ฺBatic

44  การทําผาบาติก 

บาติกพ้ืนส ี เปนลักษณะของผาบาติกชนิดหน่ึง  ท่ีใชผาสีออนมาทําเปนผาบาติก 
หรือนําผาขาวมายอมสีพ้ืนสีออน  แลวจึงนําไปเขียนเทียนหรือพิมพเทียน  ผาบาติกพ้ืนสี 
มลี กั ษณะ ลายเสน นมุ นวลกวา ผา บาตกิ ทมี่ ลี ายเสน สขี าว แตค วามชดั เจนของเสน ไมเ ทา สขี าว 

การทําบาติกพื้นส ี
ยอมผาดว ยสอี อ น ๆ เพอ่ื ทําเปนสีพนื้  เชน ยอ มสเี หลืองออ น สีชมพอู อน สมี ว งออน 
สีฟา ออ น สีเขยี วออน หรอื ใชผา ทม่ี ีสอี อน ๆ  ลางนาํ้ ใหสะอาด ผ่งึ ผา ใหแ หง นําไปพิมพเทยี น 
หรอื เขยี นเทียน ซงึ่ เปน ลักษณะลายเสน หรือลวดลายโครงสรางเทียนท่ีนาํ มาพมิ พ ควรผสม 
ใหมีความเหนียวมากกวาปกติ  เพื่อใหเทียนยึดติดเน้ือผาไดดี ยอมผาในสีที่มีคาเขม เชน 
สนี า้ํ เงนิ เขม  แลว ลา งนา้ํ ใหส ะอาด นาํ ผา ไปแชน ํา้ โซดาไฟอยา งออ นเพอ่ื ทําใหเ ทยี นแตก ลา งนา้ํ  
ใหส ะอาดนาํ ไปยอ มสนี า้ํ ตาลหรอื สอี นื่  ๆ ซงึ่ มคี า สอี อ นกวา สที ยี่ อ มครงั้ ที่ 2 สที ยี่ อ มครง้ั น ้ี ควรจะ 
มคี วามเขม มากกวา สยี อ มครง้ั แรก การยอ มสสี ามารถยอ มไดม ากกวา 2 ครง้ั  ในการยอ มแตล ะ 
ครั้งตองทาํ ใหเทียนแตกกอนทุกครั้ง  และลางผาใหสะอาดปราศจากน้ําโซดาไฟอยางออน 
ท่ใี ชข จดั เทยี น ลอกเทยี นออกจากผาใหห มด ลางผาใหส ะอาด ควรแชผ า ในนํ้าสะอาด 1 คนื  
จึงนาํ ผาไปผึ่งใหแ หง 

บาติกลายหินแตก หมายถงึ  ลวดลายท่ีเกดิ จากการสรางสรรค ซึง่ ในการทําใหเ กดิ  
รอยแตกของเทยี นครงั้ แรก ๆ เกดิ จากความบงั เอญิ  แตต อ มาเกดิ จากการ สรา งสรรคอ ยา งจงใจ 
ของศลิ ปน ตลอดจนผผู ลติ งานบาติกท่ีตองการความแปลกตา  สว นท่เี รยี กวา   หินแตก   คอื  
เทยี นและสว นทท่ี ําใหผ ลงานมคี วามรสู กึ ทางประสาทสมั ผสั นมุ นวล  แขง็   และหยาบ  กระดา ง 
หนกั เกิดจากเน้ือผา ถา เนื้อผาบางเบาผาท่สี ําเรจ็ ใหค วามรูสึกนมุ นวล ถา ผา เน้ือหนา เสน ใย 
ไมเ รยี บสมาํ่ เสมอจะทาํ ใหด ผู า มนี ํ้าหนกั  

การทาํ ผาบาตกิ ลายหนิ แตก มหี ลกั การงาย ๆ คอื  รอยเทียนแตกในผา  จะเปนรอย 
ของสยี อม สจี ะติดในชอ งท่เี ทยี นแตกหรอื หลุดออกไป ดงั นนั้  ในการทําผาบาตกิ ลายหินแตก 
มีวธิ กี ารทาํ   2  วธิ  ี   คอื  

1.  ลวดลายหินแตก  เกิดจากสวนผสมของเทียน  ซึ่งมีความเปราะมากกวา 
ความเหนยี ว  เกิดจากสว นผสมทม่ี อี ตั ราสวนของพาราฟนมากกวา ข้ผี ึง่ หรอื ยางสน เชน  ขี้ผึ้ง 
2  สว น  พาราฟน  8  สวน  หรอื   พาราฟน   8  สวน  ยางสน  1-2 สวน 

การที่เทียนมีสวนผสมของข้ีผึ้งหรือยางสนนอย  จะทําใหเทียนเปราะและ 
แตกงาย เวลานาํ ไปยอมเพยี งแตบ บี ผา เบา ๆ เทยี นกแ็ ตกเปนรอย สยี อมจะซึมไปในรอยแตก

การทาํ ผาบาติก  45 

2.  ลวดลายหินแตก เกิดจากการกัดเทียนดวยโซดาไฟหรือทําใหเทียนแตก หัก 
ดวยโซดาไฟ ซึ่งจะทําภายหลังจากการพมิ พเทียนหรือเขยี นเทียน  ดวยเทียน ท่ีมีอตั ราสวน 
ผสมของพาราฟน  ยางสน  หรือข้ีผึ้งในอัตราสวน  5:5  หรือ  6:4  จึงเอาผาไปแชในนํ้า 
ทีม่ สี ว นผสมของโซดาไฟ โดยใชน า้ํ 23 ลติ ร โซดาไฟ  50  กรมั  กวนโซดาไฟใหละลายใหห มด 
แลวจึงนําผาลงแช  เพื่อใหโซดาไฟกัดเทียนใหเปราะ  ทําใหเทียนเกิดรอยแตก  รอยหัก 
จากน้ันจึงนําไปลางน้ําใหส ะอาด 

การทําผา บาตกิ ลายหินแตก 
ลงเทยี นบนผา  นําไปยอ มสีนํ้าเงินเขม หรอื อาจใชสีอื่น เมือ่ ยอมเสรจ็ แลว  นําไปลา งให 
สะอาด ผง่ึ ใหแหง   นาํ ผา ไปแชในน้ําทม่ี ีสวนผสมของโซดาไฟทค่ี อ นขางเขม ขน ถา ตองการ 
ใหเทียนหักมาก  ใหใชไมทุบผาใหเทียนแตกมาก ๆ  เสร็จแลว ลางใหสะอาด   นําผาไปยอม 
สีนํา้ ตาลหรือสีอน่ื  แลว ลา งน้าํ ใหส ะอาด  และนาํ ผาไปยอมตอ อกี 2 - 3 สี เพือ่ ใหไดส หี ลายสี 
เสร็จแลวทําความสะอาดผา ลอกเทียนออก ลางน้ําใหส ะอาดและผง่ึ ใหแ หง  

ในการทาํ บาติกเทคนิคลายหินแตกน้ี สิ่งท่ีควรคํานึงก็คือ  การเลือกใชสีท่ีเหมาะสม 
เพราะเมือ่ สียอ มแตละส ี ยอ มทบั กันและผสมกนั แลว จะตอ งไดสีที่ดแี ละสวยงาม 

การทําบาตกิ ลายหนิ แตก ขน้ั ตอนทส่ี ําคัญคือ การกดั เทียนและการทําใหเ ทียนแตก 
ในการปฏบิ ัติการแตละครั้งตอ งลางผา ใหสะอาดทกุ ครั้งกอนที่จะนาํ ไปยอ มส ี

บาตกิ พน้ื สี  บาตกิ ลายหนิ แตก 

บาตกิ พน้ื ดาํ  

ผลงานบาติกของ  Leonard Thompson 
ทม่ี า http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=d2d&month=04-2007&date=09&group 
=13&gblog=5

46  การทําผาบาติก

กิจกรรมท ี่ 4 

1.  ใหท า นบอกวธิ ีการทาํ ผาบาตกิ ในแตละข้ันตอน 
..................................................................................................... 
...................................................................................................... 
...................................................................................................... 
..................................................................................................... 
...................................................................................................... 
...................................................................................................... 
..................................................................................................... 
...................................................................................................... 

2.  ใหท า นทดลองทําผา บาติก กบั ผา ที่มีขนาดความกวา ง 12 น้วิ  
ยาว 15 นิว้  จากน้นั นาํ ผาบาตกิ ทสี่ ําเร็จแลว ไปใหผ ปู ระเมนิ ผล 
3 คน  ตามหวั ขอ ตอ ไปน ี้  พรอมบันทึกคําแนะนาํ ที่ไดรับ 
ก.  ลวดลายทอ่ี อกแบบ 
ข.  ชน้ิ งานทสี่ าํ เรจ็ รูป 
ค.  ความสวยงาม 

คนท่ี1 ....................................................................................... 
..................................................................................................... 
คนที่2 ....................................................................................... 
..................................................................................................... 
คนท่ี3 ....................................................................................... 
..................................................................................................... 

ตอนท่ี 5 

การจดั การและการตลาด 

สาระสาํ คญั  

การจําหนายช้ินงานของทําผาบาติก  ซ่ึงเปนงานท่ีมี 
ลักษณะเฉพาะตัว จะจําหนา ยไดด ีกับกลุมคนที่นิยมงานฝม ือ 
และเห็นคุณคา  การต้ังราคาขึ้นอยูกับลวดลาย  การระบายส ี
และรปู แบบของงานบาตกิ  เชน   ผา พนั   เสอ้ื  ผา เชด็ หนา  กรอบรปู  
เปนตน 

จุดประสงคการเรยี นรู เมือ่ ผเู รียนศึกษาตอนที่ 5 จบแลว สามารถ 

1.  อธิบายการจัดการและการตลาดเก่ียวกับการทาํ  
ผาบาติกได

2.  คดิ ราคาชนิ้ งานทสี่ าํ เร็จได 

ขอบขา ยเนอ้ื หา 

เรอื่ งที่  5.1  การจดั การและการตลาด 
เร่อื งท ่ี 5.2  การคิดราคาชน้ิ งานสําเรจ็  

48  การทาํ ผาบาติก 

เร่ืองท่ ี 5.1  การจดั การและการตลาด

การจัดการ 

การจัดการท่ีดีตองมีการวางแผน(  Planning)  การวางแผนของการทําธุรกิจ  คือ 
เปา หมาย ซึ่งกาํ หนดไวส ําหรับระยะเวลาในอนาคตเมอ่ื กาํ หนดเปาหมายแลว  แผนงานอืน่ ๆ 
จะตองกําหนดขึ้นมาเพื่อความสาํ เร็จของเปาหมายท่ีตองการ เชน   การทําธุรกิจผาบาติก 
มีเปาหมายท่ีจะเพ่ิมผลผลิตเปนสองเทาของปจจุบันภายใน  3  ป ผูจัดการจะตองวางแผน 
และกําหนดทางเลือกวาจะทําอยางไรกับธุรกิจของตนเพ่ือใหบรรลุเปาหมาย  ซึ่งทางเลือก 
อาจมหี ลายทาง เชน  

1.  ขยายกําลังผลติ ของงานท่ีทาํ อยูปจ จุบนั  
2.  หาสถานท่ีในการปฏบิ ัตงิ าน 
3.  ใชว ธิ จี างเหมาใหค นงานทาํ ให 
หลังจากวเิ คราะหท างเลือกแลว ขน้ั ตอไป กจ็ ะตอ งกําหนดปจ จยั ทตี่ อ งดาํ เนินการ เชน  
จัดหาสถานท่ ี กําหนดตัวผปู ฏบิ ัติ ระยะเวลา และการเงนิ  

การจัดองคการ 

การจดั การเรอื่ งคน เครือ่ งมอื  เคร่ืองจักร วัตถดุ ิบ ใหท ํางานกนั อยา งมีประสิทธภิ าพ 
หมายถึง  การจัดแบงหมวดหมู ของงาน  กําหนดหนาท่ี  แบงออกเปนก่ี ฝาย  กี่แผนก 
มีบุคลากรกี่คน 

การส่ังการ
หมายถึง  การท่ีหัวหนามอบหมายงานใหผูรวมปฏิบัติการทํางาน  หรืองดเวนการ 

ปฏิบัติงาน  การส่ังงาน  ถาหัวหนางานมีความสามารถใหผูรวมงานปฏิบัติงานท่ีไดรับ 
มอบหมายอยา งเต็มใจ จะทาํ ใหธ ุรกจิ ดําเนินไปอยา งมปี ระสทิ ธิภาพ 

การควบคุม 

คือ  การบังคับหรือกํากับใหงานดําเนินสูเปาหมาย  ผลงานท่ีไดตรงกับเปาหมาย 
และวัตถุประสงคที่กําหนด ถางานที่ทาํ ไมต รงเปา หมาย เราสามารถปรบั ปรงุ แกไขไดท นั การ 
การควบคุมจะมีประสิทธภิ าพสงู ขนึ้  ถา ไดมีการวางแผนและตง้ั มาตรฐานไวเ ปนการลว งหนา 

การทาํ ผาบาติก  49 

การตลาด 

โดยสภาพความเปน จรงิ  วงจรธรุ กจิ ทกุ อยา งจําเปน ตอ ง ดําเนนิ การสรา งผลผลติ ใหเ กดิ  
ขนึ้  ทง้ั ในลักษณะการผลติ เลก็ ๆแบบครวั เรอื น หตั ถอุตสาหกรรม และลกั ษณะ การผลติ ทใี่ หญ 
แบบอตุ สาหกรรม เม่อื มลี ักษณะการผลติ เกดิ ขึน้ กต็ อ งนําผลผลติ นนั้ ๆ ออกจําหนายจา ยแจก 
ไปยังผูบรโิ ภค ซงึ่ บางคร้งั อาจเปน ในทองถนิ่ ภูมภิ าคอน่ื หรอื ประเทศอื่น 

ความหมายของการตลาด คนสวนใหญทว่ั ไปจะมองไปในลกั ษณะของการขายของ 
การขายสนิ คาและบรกิ าร รวมทง้ั การโฆษณาประชาสัมพันธ  เพราะรบั รูสภาพความเปนไป 
ในเรื่องการจําหนายสินคาจากประสบการณ  ซึ่งความเขาใจเหลาน้ันถูกตองอยูมาก 
เพราะถือไดวาเปนกิจกรรมดานการตลาดเหมือนกัน  ฉะน้ันการตลาดคือ  "การกระทาํ การ
ตา งๆดา นธุรกิจ ดวยการนําสินคาและบรกิ ารจากผผู ลติ ไปสูผบู ริโภคหรอื ผูใชจ นเกิดความ
พึงพอใจเพ่ื อบริการลูกคา และตอบสนองวัตถุประสงคตลอดจนเปาหมายสุดยอด
ของบรษิ ทั ผผู ลติ " 

เรอื่ งท่ี  5.2  การคดิ ราคาชิ้นงานสําเรจ็

โดยทวั่ ไปผปู ระกอบธุรกิจขนาดยอ ม จะสังเกตเห็นไดวาลูกคา  เม่ือตัดสนิ ใจซื้อสนิ คา 
จะไมพิจารณาแตคุณภาพของสินคาแตอยางเดียว  แตลูกคาจะเปรียบเทียบระหวางราคา 
และคุณภาพของสินคาเพื่อเลือกซื้อสินคาท่ดี ีที่สดุ  โดยเทยี บเคยี งกับคณุ ภาพของสนิ คา 

การกําหนดราคาขายชิ้นงานท่ีสําเร็จ  ควรกําหนดราคาใหมีปริมาณการขายมาก 
และกําหนดราคาใหสูงพอ  ท่ีจะใหผลกําไรในแงของคาบริการธุรกิจ  ควรจะคิดใหคุมกับ 
เวลาและวสั ดทุ ใ่ี ชไป  การกาํ หนดราคาตองคดิ ถึงตน ทนุ ของสนิ คา  คือราคาของสนิ คาท่ซี อื้ มา 
เพื่อจําหนายตอเปนฐาน  ถาหากวาธุรกิจกําหนดราคาต่ํากวาฐานนี้  จะตองตกอยูใน 
ภาวะขาดทุนอยา งแนน อน แตบ างครง้ั ผปู ระกอบการธรุ กจิ ขนาดยอมตอ งการกาํ หนดราคาต่าํ  
เพื่อดึงดูดลูกคาใหซื้อสินคา  แตผูประกอบธุรกิจขนาดยอมจะตองแนใจวายอดขายสินคา 
คมุ กบั ตน ทนุ ดําเนินงาน 

การกําหนดราคาแบบบวกเพิ่มจากตนทุน(cost  -  plus  pricing)  ชิ้นงานสําเร็จรูป 
จากการทาํ ผเาบาตกิ มลี กั ษณะพเิ ศษ เพราะเปน งานทใี่ ชค วามประณตี  บรรจง และตอ งใชเ วลา 
ในการผลิต  จึงมิใชงานโหล  การกําหนดราคาขายสามารถกําหนดในลักษณะขายปลีก 
แตล ะชนิ้ โดยคาํ นงึ ถงึ ความยากงา ย  ความซบั ซอนของลวดลาย และเวลาทใ่ี ชใ นแตละชน้ิ งาน 

50  การทําผาบาติก 

และราคาของตนทนุ  คอื  ผา  สีระบายหรือสียอ ม พาราฟน  ข้ผี ึง้  โซเดยี มซลิ เิ กตและเครื่องมือ 
เคร่ืองใชอ่นื ๆทใ่ี ชในการทําผา บาตกิ  การกําหนดราคาขายปลีกสว นใหญ  ใชเปอรเซน็ ตของ 
ราคาขาย 

เปอรเซ็นตน ี้โดยปกติมักจะหมายถงึ  สวนเพมิ่ ที่บวกจากราคาขายปลีก สวนเพม่ิ คือ 
จํานวนซ่ึงมากพอท่ีจะคุมตนทุนดําเนินงานของธุรกิจบวกกําไรท่ีสมเหตุสมผล  ซ่ึงจะ 
ถูกนําไปบวกกับตนทุนของสินคา  ยอดรวมท้ังหมดคือราคาขาย  เปอรเซ็นตของสวนเพ่ิม 
คํานวณไดจ ากสตู ร 

สวนเพมิ่   =  ราคาขาย - ตน ทนุ ของสินคา  
ราคาขาย 

ตัวอยาง 
เราตองการขายเสื้อที่ทําจากผาบาติก  1  ตัว  ซึ่งมีราคาตนทุน  200  บาท  ผูขาย 

มีความมัน่ ใจวา  จะขายเส้อื บาตกิ ไดง าย   ถา หากกําหนดราคาขายไว  400 บาท เราจึงตดิ  
ราคาไว 400 บาท ในกรณนี ี้อตั ราสวนเพมิ่ คอื 50 % ของราคาขาย ( ราคาขาย- ตน ทุน) หรือ 
200 บาท 

สว นเพมิ่   =  400 - 200  =  200  =  50% 
400  400

จากตวั อยางสวนเพิ่มที่กําหนดอยทู ี่ผูขายจะเปน ผกู าํ หนดจะเปน 50 %  หรือ 80 % 
ขนึ้ อยกู บั ชน้ิ งาน ลกั ษณะของงาน ความซบั ซอ นของงาน ตน ทนุ ในการผลติ ซงึ่ หมายถงึ  วตั ถดุ บิ  
แรงงาน คาใชจ า ยในการผลิต คา ใชจ ายในการขายและอนื่ ๆ 

การทําผาบาติก  51 

เมอื่ เราคดิ ราคาสนิ คาเรยี บรอ ยแลว   ก็นําสนิ คา มาวางจาํ หนา ย เพอื่ เสนอขายสนิ คา 
ผขู ายจะตอ งมวี ิธีการในเชิญชวนลูกคา มาซื้อ  ซ่ึงมสี ่ิงท่ีควรจะตอ งพิจารณาในการเสนอขาย 
สนิ คา  ดงั นี้

1.  การชักชวนมิใชการบังคับ  พนักงานขายตองหาวิธีชี้แจงใหลูกคาทราบถึง 
คุณภาพสินคา จนลูกคา พงึ พอใจ และใหล กู คาเปนคนตัดสนิ ใจเอง 

2.  การใหค วามรูแกล ูกคา  เพ่อื ใหผซู ้อื รบั ประโยชนจ ากสนิ คา ทซี่ อ้ื อยา งเตม็ ท ี่
3.  การสรางความพึงพอใจใหแกลูกคา  โดยการเรียนรูถึงความตองการของลูกคา 
จดั หาสนิ คาใหต รงกับความตอ งการ และใหเ กดิ ความพงึ พอใจแกลูกคา 

กจิ กรรมที ่ 5 

1.  ใหทา นไปพบผปู ระสบความสําเรจ็ ในการประกอบอาชพี ในหมบู า น 
หรอื ผสู นบั สนนุ การประกอบอาชพี ในทอ งถน่ิ นนั้  หรอื หนว ยงานภาครฐั  
และเอกชน เพอื่ รบั คาํ ปรกึ ษา เกี่ยวกบั เรอ่ื งตา งๆ ตอไปน้ี 

1.  การจดั หาเงินทุนและวิธีการไดมาของเงนิ ทุน 
2.  การหาทําเลทตี่ ้ังทาํ อยางไร 
3.  การจดั หาวัสดุ-อุปกรณ  เครอื่ งมือ เครอื่ งใช 
4.  การจดั หาดานแรงงานและคา ตอบแทน 
5.  ขนั้ ตอนการดาํ เนินงาน 
6.  ตลาดท่ีรับซือ้ ผลิตภณั ฑ 
7.  แหลงศึกษาดูงาน

52  การทาํ ผาบาติก 

แหลง ความรทู ่คี วรศึกษาเพมิ่ เตมิ

แหลง ความรทู ท่ี า นสามารถศกึ ษาหรอื ฝกปฏบิ ัตเิ พมิ่ เติม คือ 
1.  ศูนยการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาํ เภอ 

(ปจจบุ ันมกี ารเปด สอนวิชาศิลปะประดษิ ฐเกอื บทกุ แหง ) 
2.  แหลง ฝก วชิ าขององคกรเอกชนทีเ่ ปด สอนในศูนยก ารคา 
3.  วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาท่มี อี ยเู กอื บทุกจงั หวัด 
4.  วทิ ยาลยั สารพัดชา ง 
5.  วทิ ยาลยั การอาชพี  

การทําผาบาติก  53 

รายการอางองิ

นันทา  โรจนอุดมศาสตร . การทาํ ผา บาติก.  พิมพค รง้ั ที่ 1 . กรุงเทพ : โอ.เอส. พรนิ้ ตงิ้  เอาส,  
2536. 

นิพัทธ  จิตรประสงค.  ธรุ กจิ เบือ้ งตน. คณะพาณิชยศาสตรแ ละการบญั ชี. มหาวทิ ยาลัย 
ธรรมศาสตร, 2525. 

ผุสดี รมุ าคม และเกศนิ  ี วิฑรูชาต.ิ การบรหิ ารธรุ กิจขนาดยอ ม. คณะพาณชิ ยศาสตรแ ละ 
การบัญชี. มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร, 2529. 

ระวงั  เนตรโพธแิ์ กว.  ธรุ กิจเบ้อื งตน.  กรงุ เทพฯ : สาํ นักพมิ พพิทกั ษอ ักษร, 2529. 

อินเตอรเน็ต 

โรงเรยี นศึกษาสงเคราะหธวชั บุรี . ส่ือมลั ตมิ เี ดีย การทาํ ผา บาติก.  สบื คน ออนไลน 
http://www.princess-it.org วนั ที่ 30 มถิ นุ ายน 2551 

ภาพบาตกิ . สบื คน ออนไลน http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=d2d&month04- 
2007&date=09&group= 13&gblog= 5 เมือ่ วนั ที ่ 2  กรกฎาคม  2551 

คณะกรรมการผลติ และพฒั นาหลักสตู ร 
การทําผาบาติก 

ท่ีปรึกษา 

นายประถม  สมคั รพงศ 
ผอู าํ นวยการสถาบนั พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ภาคตะวนั ออก 

นางสาวสุรภ ี  สกุลรัตน 
รองผอู าํ นวยการสถาบนั พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ภาคตะวนั ออก 

คณะกรรมการผลิตและพัฒนา 

นางสาวบษุ ยา  ปยารมย 
ผูเรียบเรยี งเน้ือหา 
นางสาวอรทยั   ปานขาว 
นักวัดผล 

นางกัญญาทิพ  เสนาะวงศ 
นักเทคโนโลย ี

นางสาวสุปรดี า  แหลมหลัก 
บรรณาธิการและเลขานุการ


Click to View FlipBook Version