44 การทําผาบาติก
บาติกพ้ืนส ี เปนลักษณะของผาบาติกชนิดหน่ึง ท่ีใชผาสีออนมาทําเปนผาบาติก
หรือนําผาขาวมายอมสีพ้ืนสีออน แลวจึงนําไปเขียนเทียนหรือพิมพเทียน ผาบาติกพ้ืนสี
มลี กั ษณะ ลายเสน นมุ นวลกวา ผา บาตกิ ทมี่ ลี ายเสน สขี าว แตค วามชดั เจนของเสน ไมเ ทา สขี าว
การทําบาติกพื้นส ี
ยอมผาดว ยสอี อ น ๆ เพอ่ื ทําเปนสีพนื้ เชน ยอ มสเี หลืองออ น สีชมพอู อน สมี ว งออน
สีฟา ออ น สีเขยี วออน หรอื ใชผา ทม่ี ีสอี อน ๆ ลางนาํ้ ใหสะอาด ผ่งึ ผา ใหแ หง นําไปพิมพเทยี น
หรอื เขยี นเทียน ซงึ่ เปน ลักษณะลายเสน หรือลวดลายโครงสรางเทียนท่ีนาํ มาพมิ พ ควรผสม
ใหมีความเหนียวมากกวาปกติ เพื่อใหเทียนยึดติดเน้ือผาไดดี ยอมผาในสีที่มีคาเขม เชน
สนี า้ํ เงนิ เขม แลว ลา งนา้ํ ใหส ะอาด นาํ ผา ไปแชน ํา้ โซดาไฟอยา งออ นเพอ่ื ทําใหเ ทยี นแตก ลา งนา้ํ
ใหส ะอาดนาํ ไปยอ มสนี า้ํ ตาลหรอื สอี นื่ ๆ ซงึ่ มคี า สอี อ นกวา สที ยี่ อ มครงั้ ที่ 2 สที ยี่ อ มครง้ั น ้ี ควรจะ
มคี วามเขม มากกวา สยี อ มครง้ั แรก การยอ มสสี ามารถยอ มไดม ากกวา 2 ครง้ั ในการยอ มแตล ะ
ครั้งตองทาํ ใหเทียนแตกกอนทุกครั้ง และลางผาใหสะอาดปราศจากน้ําโซดาไฟอยางออน
ท่ใี ชข จดั เทยี น ลอกเทยี นออกจากผาใหห มด ลางผาใหส ะอาด ควรแชผ า ในนํ้าสะอาด 1 คนื
จึงนาํ ผาไปผึ่งใหแ หง
บาติกลายหินแตก หมายถงึ ลวดลายท่ีเกดิ จากการสรางสรรค ซึง่ ในการทําใหเ กดิ
รอยแตกของเทยี นครงั้ แรก ๆ เกดิ จากความบงั เอญิ แตต อ มาเกดิ จากการ สรา งสรรคอ ยา งจงใจ
ของศลิ ปน ตลอดจนผผู ลติ งานบาติกท่ีตองการความแปลกตา สว นท่เี รยี กวา หินแตก คอื
เทยี นและสว นทท่ี ําใหผ ลงานมคี วามรสู กึ ทางประสาทสมั ผสั นมุ นวล แขง็ และหยาบ กระดา ง
หนกั เกิดจากเน้ือผา ถา เนื้อผาบางเบาผาท่สี ําเรจ็ ใหค วามรูสึกนมุ นวล ถา ผา เน้ือหนา เสน ใย
ไมเ รยี บสมาํ่ เสมอจะทาํ ใหด ผู า มนี ํ้าหนกั
การทาํ ผาบาตกิ ลายหนิ แตก มหี ลกั การงาย ๆ คอื รอยเทียนแตกในผา จะเปนรอย
ของสยี อม สจี ะติดในชอ งท่เี ทยี นแตกหรอื หลุดออกไป ดงั นนั้ ในการทําผาบาตกิ ลายหินแตก
มีวธิ กี ารทาํ 2 วธิ ี คอื
1. ลวดลายหินแตก เกิดจากสวนผสมของเทียน ซึ่งมีความเปราะมากกวา
ความเหนยี ว เกิดจากสว นผสมทม่ี อี ตั ราสวนของพาราฟนมากกวา ข้ผี ึง่ หรอื ยางสน เชน ขี้ผึ้ง
2 สว น พาราฟน 8 สวน หรอื พาราฟน 8 สวน ยางสน 1-2 สวน
การที่เทียนมีสวนผสมของข้ีผึ้งหรือยางสนนอย จะทําใหเทียนเปราะและ
แตกงาย เวลานาํ ไปยอมเพยี งแตบ บี ผา เบา ๆ เทยี นกแ็ ตกเปนรอย สยี อมจะซึมไปในรอยแตก
การทาํ ผาบาติก 45
2. ลวดลายหินแตก เกิดจากการกัดเทียนดวยโซดาไฟหรือทําใหเทียนแตก หัก
ดวยโซดาไฟ ซึ่งจะทําภายหลังจากการพมิ พเทียนหรือเขยี นเทียน ดวยเทียน ท่ีมีอตั ราสวน
ผสมของพาราฟน ยางสน หรือข้ีผึ้งในอัตราสวน 5:5 หรือ 6:4 จึงเอาผาไปแชในนํ้า
ทีม่ สี ว นผสมของโซดาไฟ โดยใชน า้ํ 23 ลติ ร โซดาไฟ 50 กรมั กวนโซดาไฟใหละลายใหห มด
แลวจึงนําผาลงแช เพื่อใหโซดาไฟกัดเทียนใหเปราะ ทําใหเทียนเกิดรอยแตก รอยหัก
จากน้ันจึงนําไปลางน้ําใหส ะอาด
การทําผา บาตกิ ลายหินแตก
ลงเทยี นบนผา นําไปยอ มสีนํ้าเงินเขม หรอื อาจใชสีอื่น เมือ่ ยอมเสรจ็ แลว นําไปลา งให
สะอาด ผง่ึ ใหแหง นาํ ผา ไปแชในน้ําทม่ี ีสวนผสมของโซดาไฟทค่ี อ นขางเขม ขน ถา ตองการ
ใหเทียนหักมาก ใหใชไมทุบผาใหเทียนแตกมาก ๆ เสร็จแลว ลางใหสะอาด นําผาไปยอม
สีนํา้ ตาลหรือสีอน่ื แลว ลา งน้าํ ใหส ะอาด และนาํ ผาไปยอมตอ อกี 2 - 3 สี เพือ่ ใหไดส หี ลายสี
เสร็จแลวทําความสะอาดผา ลอกเทียนออก ลางน้ําใหส ะอาดและผง่ึ ใหแ หง
ในการทาํ บาติกเทคนิคลายหินแตกน้ี สิ่งท่ีควรคํานึงก็คือ การเลือกใชสีท่ีเหมาะสม
เพราะเมือ่ สียอ มแตละส ี ยอ มทบั กันและผสมกนั แลว จะตอ งไดสีที่ดแี ละสวยงาม
การทําบาตกิ ลายหนิ แตก ขน้ั ตอนทส่ี ําคัญคือ การกดั เทียนและการทําใหเ ทียนแตก
ในการปฏบิ ัติการแตละครั้งตอ งลางผา ใหสะอาดทกุ ครั้งกอนที่จะนาํ ไปยอ มส ี
บาตกิ พน้ื สี บาตกิ ลายหนิ แตก
บาตกิ พน้ื ดาํ
ผลงานบาติกของ Leonard Thompson
ทม่ี า http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=d2d&month=04-2007&date=09&group
=13&gblog=5
46 การทําผาบาติก
กิจกรรมท ี่ 4
1. ใหท า นบอกวธิ ีการทาํ ผาบาตกิ ในแตละข้ันตอน
.....................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
.....................................................................................................
......................................................................................................
......................................................................................................
.....................................................................................................
......................................................................................................
2. ใหท า นทดลองทําผา บาติก กบั ผา ที่มีขนาดความกวา ง 12 น้วิ
ยาว 15 นิว้ จากน้นั นาํ ผาบาตกิ ทสี่ ําเร็จแลว ไปใหผ ปู ระเมนิ ผล
3 คน ตามหวั ขอ ตอ ไปน ี้ พรอมบันทึกคําแนะนาํ ที่ไดรับ
ก. ลวดลายทอ่ี อกแบบ
ข. ชน้ิ งานทสี่ าํ เรจ็ รูป
ค. ความสวยงาม
คนท่ี1 .......................................................................................
.....................................................................................................
คนที่2 .......................................................................................
.....................................................................................................
คนท่ี3 .......................................................................................
.....................................................................................................
ตอนท่ี 5
การจดั การและการตลาด
สาระสาํ คญั
การจําหนายช้ินงานของทําผาบาติก ซ่ึงเปนงานท่ีมี
ลักษณะเฉพาะตัว จะจําหนา ยไดด ีกับกลุมคนที่นิยมงานฝม ือ
และเห็นคุณคา การต้ังราคาขึ้นอยูกับลวดลาย การระบายส ี
และรปู แบบของงานบาตกิ เชน ผา พนั เสอ้ื ผา เชด็ หนา กรอบรปู
เปนตน
จุดประสงคการเรยี นรู เมือ่ ผเู รียนศึกษาตอนที่ 5 จบแลว สามารถ
1. อธิบายการจัดการและการตลาดเก่ียวกับการทาํ
ผาบาติกได
2. คดิ ราคาชนิ้ งานทสี่ าํ เร็จได
ขอบขา ยเนอ้ื หา
เรอื่ งที่ 5.1 การจดั การและการตลาด
เร่อื งท ่ี 5.2 การคิดราคาชน้ิ งานสําเรจ็
48 การทาํ ผาบาติก
เร่ืองท่ ี 5.1 การจดั การและการตลาด
การจัดการ
การจัดการท่ีดีตองมีการวางแผน( Planning) การวางแผนของการทําธุรกิจ คือ
เปา หมาย ซึ่งกาํ หนดไวส ําหรับระยะเวลาในอนาคตเมอ่ื กาํ หนดเปาหมายแลว แผนงานอืน่ ๆ
จะตองกําหนดขึ้นมาเพื่อความสาํ เร็จของเปาหมายท่ีตองการ เชน การทําธุรกิจผาบาติก
มีเปาหมายท่ีจะเพ่ิมผลผลิตเปนสองเทาของปจจุบันภายใน 3 ป ผูจัดการจะตองวางแผน
และกําหนดทางเลือกวาจะทําอยางไรกับธุรกิจของตนเพ่ือใหบรรลุเปาหมาย ซึ่งทางเลือก
อาจมหี ลายทาง เชน
1. ขยายกําลังผลติ ของงานท่ีทาํ อยูปจ จุบนั
2. หาสถานท่ีในการปฏบิ ัตงิ าน
3. ใชว ธิ จี างเหมาใหค นงานทาํ ให
หลังจากวเิ คราะหท างเลือกแลว ขน้ั ตอไป กจ็ ะตอ งกําหนดปจ จยั ทตี่ อ งดาํ เนินการ เชน
จัดหาสถานท่ ี กําหนดตัวผปู ฏบิ ัติ ระยะเวลา และการเงนิ
การจัดองคการ
การจดั การเรอื่ งคน เครือ่ งมอื เคร่ืองจักร วัตถดุ ิบ ใหท ํางานกนั อยา งมีประสิทธภิ าพ
หมายถึง การจัดแบงหมวดหมู ของงาน กําหนดหนาท่ี แบงออกเปนก่ี ฝาย กี่แผนก
มีบุคลากรกี่คน
การส่ังการ
หมายถึง การท่ีหัวหนามอบหมายงานใหผูรวมปฏิบัติการทํางาน หรืองดเวนการ
ปฏิบัติงาน การส่ังงาน ถาหัวหนางานมีความสามารถใหผูรวมงานปฏิบัติงานท่ีไดรับ
มอบหมายอยา งเต็มใจ จะทาํ ใหธ ุรกจิ ดําเนินไปอยา งมปี ระสทิ ธิภาพ
การควบคุม
คือ การบังคับหรือกํากับใหงานดําเนินสูเปาหมาย ผลงานท่ีไดตรงกับเปาหมาย
และวัตถุประสงคที่กําหนด ถางานที่ทาํ ไมต รงเปา หมาย เราสามารถปรบั ปรงุ แกไขไดท นั การ
การควบคุมจะมีประสิทธภิ าพสงู ขนึ้ ถา ไดมีการวางแผนและตง้ั มาตรฐานไวเ ปนการลว งหนา
การทาํ ผาบาติก 49
การตลาด
โดยสภาพความเปน จรงิ วงจรธรุ กจิ ทกุ อยา งจําเปน ตอ ง ดําเนนิ การสรา งผลผลติ ใหเ กดิ
ขนึ้ ทง้ั ในลักษณะการผลติ เลก็ ๆแบบครวั เรอื น หตั ถอุตสาหกรรม และลกั ษณะ การผลติ ทใี่ หญ
แบบอตุ สาหกรรม เม่อื มลี ักษณะการผลติ เกดิ ขึน้ กต็ อ งนําผลผลติ นนั้ ๆ ออกจําหนายจา ยแจก
ไปยังผูบรโิ ภค ซงึ่ บางคร้งั อาจเปน ในทองถนิ่ ภูมภิ าคอน่ื หรอื ประเทศอื่น
ความหมายของการตลาด คนสวนใหญทว่ั ไปจะมองไปในลกั ษณะของการขายของ
การขายสนิ คาและบรกิ าร รวมทง้ั การโฆษณาประชาสัมพันธ เพราะรบั รูสภาพความเปนไป
ในเรื่องการจําหนายสินคาจากประสบการณ ซึ่งความเขาใจเหลาน้ันถูกตองอยูมาก
เพราะถือไดวาเปนกิจกรรมดานการตลาดเหมือนกัน ฉะน้ันการตลาดคือ "การกระทาํ การ
ตา งๆดา นธุรกิจ ดวยการนําสินคาและบรกิ ารจากผผู ลติ ไปสูผบู ริโภคหรอื ผูใชจ นเกิดความ
พึงพอใจเพ่ื อบริการลูกคา และตอบสนองวัตถุประสงคตลอดจนเปาหมายสุดยอด
ของบรษิ ทั ผผู ลติ "
เรอื่ งท่ี 5.2 การคดิ ราคาชิ้นงานสําเรจ็
โดยทวั่ ไปผปู ระกอบธุรกิจขนาดยอ ม จะสังเกตเห็นไดวาลูกคา เม่ือตัดสนิ ใจซื้อสนิ คา
จะไมพิจารณาแตคุณภาพของสินคาแตอยางเดียว แตลูกคาจะเปรียบเทียบระหวางราคา
และคุณภาพของสินคาเพื่อเลือกซื้อสินคาท่ดี ีที่สดุ โดยเทยี บเคยี งกับคณุ ภาพของสนิ คา
การกําหนดราคาขายชิ้นงานท่ีสําเร็จ ควรกําหนดราคาใหมีปริมาณการขายมาก
และกําหนดราคาใหสูงพอ ท่ีจะใหผลกําไรในแงของคาบริการธุรกิจ ควรจะคิดใหคุมกับ
เวลาและวสั ดทุ ใ่ี ชไป การกาํ หนดราคาตองคดิ ถึงตน ทนุ ของสนิ คา คือราคาของสนิ คาท่ซี อื้ มา
เพื่อจําหนายตอเปนฐาน ถาหากวาธุรกิจกําหนดราคาต่ํากวาฐานนี้ จะตองตกอยูใน
ภาวะขาดทุนอยา งแนน อน แตบ างครง้ั ผปู ระกอบการธรุ กจิ ขนาดยอมตอ งการกาํ หนดราคาต่าํ
เพื่อดึงดูดลูกคาใหซื้อสินคา แตผูประกอบธุรกิจขนาดยอมจะตองแนใจวายอดขายสินคา
คมุ กบั ตน ทนุ ดําเนินงาน
การกําหนดราคาแบบบวกเพิ่มจากตนทุน(cost - plus pricing) ชิ้นงานสําเร็จรูป
จากการทาํ ผเาบาตกิ มลี กั ษณะพเิ ศษ เพราะเปน งานทใี่ ชค วามประณตี บรรจง และตอ งใชเ วลา
ในการผลิต จึงมิใชงานโหล การกําหนดราคาขายสามารถกําหนดในลักษณะขายปลีก
แตล ะชนิ้ โดยคาํ นงึ ถงึ ความยากงา ย ความซบั ซอนของลวดลาย และเวลาทใ่ี ชใ นแตละชน้ิ งาน
50 การทําผาบาติก
และราคาของตนทนุ คอื ผา สีระบายหรือสียอ ม พาราฟน ข้ผี ึง้ โซเดยี มซลิ เิ กตและเครื่องมือ
เคร่ืองใชอ่นื ๆทใ่ี ชในการทําผา บาตกิ การกําหนดราคาขายปลีกสว นใหญ ใชเปอรเซน็ ตของ
ราคาขาย
เปอรเซ็นตน ี้โดยปกติมักจะหมายถงึ สวนเพมิ่ ที่บวกจากราคาขายปลีก สวนเพม่ิ คือ
จํานวนซ่ึงมากพอท่ีจะคุมตนทุนดําเนินงานของธุรกิจบวกกําไรท่ีสมเหตุสมผล ซ่ึงจะ
ถูกนําไปบวกกับตนทุนของสินคา ยอดรวมท้ังหมดคือราคาขาย เปอรเซ็นตของสวนเพ่ิม
คํานวณไดจ ากสตู ร
สวนเพมิ่ = ราคาขาย - ตน ทนุ ของสินคา
ราคาขาย
ตัวอยาง
เราตองการขายเสื้อที่ทําจากผาบาติก 1 ตัว ซึ่งมีราคาตนทุน 200 บาท ผูขาย
มีความมัน่ ใจวา จะขายเส้อื บาตกิ ไดง าย ถา หากกําหนดราคาขายไว 400 บาท เราจึงตดิ
ราคาไว 400 บาท ในกรณนี ี้อตั ราสวนเพมิ่ คอื 50 % ของราคาขาย ( ราคาขาย- ตน ทุน) หรือ
200 บาท
สว นเพมิ่ = 400 - 200 = 200 = 50%
400 400
จากตวั อยางสวนเพิ่มที่กําหนดอยทู ี่ผูขายจะเปน ผกู าํ หนดจะเปน 50 % หรือ 80 %
ขนึ้ อยกู บั ชน้ิ งาน ลกั ษณะของงาน ความซบั ซอ นของงาน ตน ทนุ ในการผลติ ซงึ่ หมายถงึ วตั ถดุ บิ
แรงงาน คาใชจ า ยในการผลิต คา ใชจ ายในการขายและอนื่ ๆ
การทําผาบาติก 51
เมอื่ เราคดิ ราคาสนิ คาเรยี บรอ ยแลว ก็นําสนิ คา มาวางจาํ หนา ย เพอื่ เสนอขายสนิ คา
ผขู ายจะตอ งมวี ิธีการในเชิญชวนลูกคา มาซื้อ ซ่ึงมสี ่ิงท่ีควรจะตอ งพิจารณาในการเสนอขาย
สนิ คา ดงั นี้
1. การชักชวนมิใชการบังคับ พนักงานขายตองหาวิธีชี้แจงใหลูกคาทราบถึง
คุณภาพสินคา จนลูกคา พงึ พอใจ และใหล กู คาเปนคนตัดสนิ ใจเอง
2. การใหค วามรูแกล ูกคา เพ่อื ใหผซู ้อื รบั ประโยชนจ ากสนิ คา ทซี่ อ้ื อยา งเตม็ ท ี่
3. การสรางความพึงพอใจใหแกลูกคา โดยการเรียนรูถึงความตองการของลูกคา
จดั หาสนิ คาใหต รงกับความตอ งการ และใหเ กดิ ความพงึ พอใจแกลูกคา
กจิ กรรมที ่ 5
1. ใหทา นไปพบผปู ระสบความสําเรจ็ ในการประกอบอาชพี ในหมบู า น
หรอื ผสู นบั สนนุ การประกอบอาชพี ในทอ งถน่ิ นนั้ หรอื หนว ยงานภาครฐั
และเอกชน เพอื่ รบั คาํ ปรกึ ษา เกี่ยวกบั เรอ่ื งตา งๆ ตอไปน้ี
1. การจดั หาเงินทุนและวิธีการไดมาของเงนิ ทุน
2. การหาทําเลทตี่ ้ังทาํ อยางไร
3. การจดั หาวัสดุ-อุปกรณ เครอื่ งมือ เครอื่ งใช
4. การจดั หาดานแรงงานและคา ตอบแทน
5. ขนั้ ตอนการดาํ เนินงาน
6. ตลาดท่ีรับซือ้ ผลิตภณั ฑ
7. แหลงศึกษาดูงาน
52 การทาํ ผาบาติก
แหลง ความรทู ่คี วรศึกษาเพมิ่ เตมิ
แหลง ความรทู ท่ี า นสามารถศกึ ษาหรอื ฝกปฏบิ ัตเิ พมิ่ เติม คือ
1. ศูนยการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั อาํ เภอ
(ปจจบุ ันมกี ารเปด สอนวิชาศิลปะประดษิ ฐเกอื บทกุ แหง )
2. แหลง ฝก วชิ าขององคกรเอกชนทีเ่ ปด สอนในศูนยก ารคา
3. วิทยาลยั อาชวี ศกึ ษาท่มี อี ยเู กอื บทุกจงั หวัด
4. วทิ ยาลยั สารพัดชา ง
5. วทิ ยาลยั การอาชพี
การทําผาบาติก 53
รายการอางองิ
นันทา โรจนอุดมศาสตร . การทาํ ผา บาติก. พิมพค รง้ั ที่ 1 . กรุงเทพ : โอ.เอส. พรนิ้ ตงิ้ เอาส,
2536.
นิพัทธ จิตรประสงค. ธรุ กจิ เบือ้ งตน. คณะพาณิชยศาสตรแ ละการบญั ชี. มหาวทิ ยาลัย
ธรรมศาสตร, 2525.
ผุสดี รมุ าคม และเกศนิ ี วิฑรูชาต.ิ การบรหิ ารธรุ กิจขนาดยอ ม. คณะพาณชิ ยศาสตรแ ละ
การบัญชี. มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร, 2529.
ระวงั เนตรโพธแิ์ กว. ธรุ กิจเบ้อื งตน. กรงุ เทพฯ : สาํ นักพมิ พพิทกั ษอ ักษร, 2529.
อินเตอรเน็ต
โรงเรยี นศึกษาสงเคราะหธวชั บุรี . ส่ือมลั ตมิ เี ดีย การทาํ ผา บาติก. สบื คน ออนไลน
http://www.princess-it.org วนั ที่ 30 มถิ นุ ายน 2551
ภาพบาตกิ . สบื คน ออนไลน http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=d2d&month04-
2007&date=09&group= 13&gblog= 5 เมือ่ วนั ที ่ 2 กรกฎาคม 2551
คณะกรรมการผลติ และพฒั นาหลักสตู ร
การทําผาบาติก
ท่ีปรึกษา
นายประถม สมคั รพงศ
ผอู าํ นวยการสถาบนั พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ภาคตะวนั ออก
นางสาวสุรภ ี สกุลรัตน
รองผอู าํ นวยการสถาบนั พฒั นาการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ภาคตะวนั ออก
คณะกรรมการผลิตและพัฒนา
นางสาวบษุ ยา ปยารมย
ผูเรียบเรยี งเน้ือหา
นางสาวอรทยั ปานขาว
นักวัดผล
นางกัญญาทิพ เสนาะวงศ
นักเทคโนโลย ี
นางสาวสุปรดี า แหลมหลัก
บรรณาธิการและเลขานุการ