The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เทคนิคการผลิตทุเรียนนอกฤดู

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

เทคนิคการผลิตทุเรียนนอกฤดู

เทคนิคการผลิตทุเรียนนอกฤดู

เทคนคิ การผลิตทเุ รยี นนอกฤดใู หม คี ณุ ภาพ  41

การซอยดอกที่มากเกินไปออก 

ในการตดั แตง ดอกระยะลกู กระดมุ - หวั กาํ ไล ไดก าํ หนดใหไ วร ะยะ1ศอกตอ ดอก 1พวง 
ในดอก  1  พวง  จะมีดอกประมาณ  10  -  300  ดอก  ซึ่งถือวามีปริมาณมากเกินความจําเปน 
ถาเราไมซอยดอกทิ้ง  จะมีผลทําใหดอกเล็กและเบียดกันแนนเกินไป  จะแยงอาหารกันและ 
ถาปลอยท้ิงไวจนกระท่ังดอกบาน  ซ่ึงดอกทุเรียนจะบานจนหมดพวงใชเวลานาน  4  -5  วัน 
และในทส่ี ดุ กจ็ ะหลดุ รว งไปจนหมดพวง หลงั กลบี ดอกรว งหมดแลว ภายใน 3 วนั  

ในทํานองเดียวกนั สมมตุ ิวาเจา ของสวนกําหนดใหต น ทุเรยี นมลี กู 70 จดุ (พวง) และ 
แตล ะพวงมดี อกถงึ 300 ดอก จะมดี อกบนตน ทเุ รยี นถงึ 21,000 ดอก 

ในการซอยดอกแตล ะพวง  ชาวสวนควรใชม อื ฉกี หรอื ของมคี มตดั ขวั้ ดอกทต่ี ดิ กบั ทอ งกงิ่  
โดยใหดอกเหลือเพียงพวงละ 8 -10 ดอก ซึ่งเม่ือดอกเหลอื   8 -10 ดอกตอพวงจะชวยใหดอกม ี
การเจรญิ เติบโตด ี สมํา่ เสมอและไลเ ลีย่ กนั  ขนาดของดอกใหญ  กานข้ัวดอกอวบอว น จะสง ผลให 
เปน ดอกทมี่ คี ณุ ภาพ   เพอื่ การผสมเกสรและการปฏสิ นธเิ ปน ผลทเุ รยี นตอ ไป 

พวงดอกท่ยี ังไมไดซอย 

พวงดอกทซ่ี อยแลว  

เปรยี บเทยี บพวงดอกทย่ี งั ไมไ ดซอย และพวงดอกทช่ี อยดอกแลว  

เทคนคิ การผลติ ทเุ รยี นนอกฤดใู หมคี ณุ ภาพ  42

จะทราบไดอยางไรวาดอกไหนของพวงจะติดลูก 

จากประสบการณของผูเช่ียวชาญเนื้อหา  ท่ีไดดําเนินการตัดแตงดอกมาทุกระยะ 
ตามข้ันตอนและวิธกี ารทแี่ นะนาํ ในชดุ วิชาน ี้ เราสามารถที่จะบอกไดวา ดอกไหนในแตล ะพวง 
จะตดิ ลกู และเมอื่ เจรญิ เตบิ โตเปนลกู แลว เปนผลทุเรียนทม่ี คี ณุ คา ทางการตลาดกลา วคอื  มพี เู ตม็ 5 พู 
และรปู ทรงไดม าตรฐานของแตล ะพนั ธุ 

ดอกทจ่ี ะตดิ ลกู  คอื  ดอกทมี่ กี า นขว้ั ดอกอวบใหญแ ละอยใู นเสน แนวตรงทอี่ ยตู ดิ กบั  ทอ งกงิ่  
ซงึ่ ดอกทเุ รยี นทอี่ ยใู นตาํ แหนง นมี้ อี ยู2 -3 ดอก จะมเี ปอรเ ซน็ ตก ารตดิ ผล และอยรู อดดกี วา ดอกอนื่  ๆ 
ในทสี่ ดุ ดอกพวงนก้ี จ็ ะเจรญิ เตบิ โตเปน ผลเรว็  สมบรู ณ   เราจะเลอื กลกู ทดี่ ที ส่ี ดุ ไว  เพยี ง1-2 ลกู  เทา นนั้  

พวงดอก 8 -10 ดอก และดอกทตี่ ดิ ลกู  

การจดั การเสรมิ ทจ่ี ะชว ยใหด อกตดิ ผลดขี น้ึ  

เมื่อตนทุเรียนผานการตัดแตงดอกมาอยางดีแลว    การเจริญของดอกจะเขาสูระยะ 
หวั กาํ ไล ซงึ่ ระยะเวลาตงั้ แตเ กดิ ตาดอกจนถึงระยะหวั กาํ ไล เปน เวลานาน 40 -45 วนั  จากรปู ทรง 
ของดอกท่ีมีลักษณะกลมปอมจะเจริญเปนทรงดอกยาวขึ้น  เน่ืองจากการเจริญเติบโตของ 
กานดอกเกสรตัวผู กานดอกเกสรตัวเมียและกลีบดอก  เพื่อเปนการเสริมใหสวนประกอบ 
ของดอกชวยทําหนาท่ี ในขบวนการถายเทละอองเกสรไดอยางสมบูรณ  โดยการฉีดพน 
ธาตุอาหารเสริมแกดอกทุเรียน  คือ ธาตุแคลเซียมและโบรอน  โดยฉีดพนท่ีชอดอกในระยะ 
หวั กําไลถงึ กอ นดอกบานจาํ นวน 1 - 2  ครงั้  

เทคนคิ การผลิตทเุ รยี นนอกฤดใู หม ีคณุ ภาพ  43

ระยะดอกตองสงเสริมใหมีรากตะขาบและรากขนออนมากดวย 

สบื เนอื่ งจากในชว งของการเตรยี มความพรอ มใหแ กต น ทเุ รยี น เพอ่ื กระตนุ ใหต น ทเุ รยี น 
เกิดการสรางตาดอกนั้น มีผลทําใหรากตะขาบและรากขนออนฝอ  มีลักษณะอาการแหงดํา 
ไมสามารถดูดซึมธาตุอาหารจากดินได  เม่ือมีดอกเกิดขึ้นมากมายรากตะขาบและรากขนออน 
ก็จะเกิดข้ึนใหมดวย แตจะเกิดข้ึนชาและมีจํานวนนอย  ชาวสวนจําเปนตองชวยสงเสริมให 
มรี ากตะขาบ และรากขนออนในจํานวนท่มี ากขน้ึ   ดวยวธิ กี ารใชสารฮวิ มคิ แอซิดจํานวน 1 ลติ ร 
ผสมนา้ํ สะอาด  200  ลติ ร ผสมปยุ ยเู รยี สูตร 46 - 0 - 0 อตั รา 100 - 200 กรมั  แลวฉดี พน ใตท รงพุม 
ตน สปั ดาหละ 1 คร้งั  รวม 3 ครง้ั  

การควบคมุ นาํ้ ระยะกอ นดอกบาน - ดอกบาน 

ตนทุเรียนท่ีอยูในระยะเล้ียงดอกมีความตองการนํ้ามาก ดอกท่ีตองการน้ํามาก  คือ 
ดอกระยะหัวกาํ ไล ซงึ่ ลกั ษณะดอกจะพองโตขยายตัวอยางรวดเรว็  ดอกระยะหวั กําไลตอ งการน้ํา 
ประมาณ 5 - 6 มลิ ลเิ มตรตอ วนั  หมายความวา  พนื้ ทใี่ ตท รงพมุ 1 ตารางเมตรจะตอ งการนาํ้ 5 - 6 ลติ ร 
ตอ วนั  

การสงั เกตวาใหน้ําแกตนทุเรยี นพอเพียงหรือไม  ใหดจู ากการถางตัวของดอกทเุ รียน 
ซงึ่ แบง ออกเปน 3 ลกั ษณะ คอื  

1.  ถา งตวั นอ ย ก็หมายถงึ  ใหน ้ํานอ ย 
2.  ถา งตวั ปานกลาง กห็ มายถงึ  ใหน า้ํ พอด ี
3.  ถางตัวมาก  หรือดอกสวนใหญของกลุมดอกถางตัวออกเหมือนรูปคร่ึงวงกลม 
กห็ มายถงึ  ใหน ํา้ มาก 

ภาพเปรยี บเทยี บลกั ษณะของดอก กบั หนา ปด นาฬกิ าตอ การใหน าํ้  

เทคนคิ การผลติ ทเุ รยี นนอกฤดูใหมีคณุ ภาพ  44

กอนดอกบานตองลดปริมาณนํ้าลง 

เมอื่ การเจรญิ เตบิ โตของดอกเรมิ่ เปลย่ี นรปู รา งจากดอกทรงหวั กาํ ไล เปน ทรงยาวแสดงวา  
ใกลร ะยะเวลาทดี่ อกจะบานแลว  

การใหน ํ้าชว งนม้ี คี วามสําคญั ตอ การติดผลของทุเรยี นเปน อยา งยงิ่  ถา ฝนตก หรือใหนํา้  
มากเกินไป ดอกจะหลุดรวงมาก  ฉะนั้นชาวสวนควรจะใหนํ้าระยะนี้เพียง  3  ลิตรตอพื้นท่ี  1 
ตารางเมตรตอ วนั   ถา ปลกู ทเุ รยี น  ระยะปลกู ทเุ รยี นระยะปลกู 8 x 8 เมตรเทา กบั พนื้ ที่64 ตารางเมตร 
ตองใหน้ําจํานวน 64 x 3 เทา กับ 192 ลติ รตอตน ตอวนั  และควบคุมปริมาณนา้ํ ใหอ ยูใ นปริมาณน ้ี
ไปจนถงึ ดอกบานและกลบี ดอกรว ง เกอื บหมดทง้ั ตน  จงึ เพม่ิ นา้ํ แกต น เทา จาํ นวนปกติ 

กลมุ ดอกบานพรอ มผสม  กลมุ ดอกระยะหวั กาํ ไล 

การเปรยี บเทยี บรปู ดอก 

สังเกตลักษณะการเกิดใบใหม 

ตน ทุเรยี นจะเกิดการสรา งใบใหมทกุ  ๆ ชว งระยะเวลา 60 -70 วัน ถาสภาพแวดลอม 
เหมาะสม ตน ทเุ รยี นจะสรา งใบใหม  เพอ่ื สรา งความสมดลุ ในตน ทเุ รยี น การเกดิ ใบใหมจ ะมาชดเชย 
ใบแกท รี่ ว งเพราะหมดอาย ุ  ใบทร่ี ว งกอ นกาํ หนด   ใบทเ่ี สยี หายเพราะถกู แมลงทาํ ลาย และใบทเ่ี สยี หาย 
เพราะมนษุ ยห รอื สตั วอ นื่  ๆ 

ทเุ รยี นในฤดมู กั จะเกดิ ใบออ นหลงั จากดอกบานแลว ประมาณ 30-40 วนั  หรอื ลกู ทเุ รยี น 
มขี นาดเทาหัวแมมือ ถาใบออ นมมี าก  ยอดละ 5 -7 ใบ จะสง ผลใหทเุ รยี นสลัดลูกท้งิ อยางมากมาย 
แตถ า ใบออ นมนี อ ย  ยอดละ 2 -3 ใบ  กไ็ มก ระทบกระเทอื นตอ ลกู  

เทคนคิ การผลิตทเุ รยี นนอกฤดใู หม ีคณุ ภาพ  45

แตก ารผลติ ทเุ รยี นนอกฤด ูโดยการใชส ารพาโคลบวิ ทราโซล โอกาสทตี่ น ทเุ รยี นจะแตก 
ใบออ นนนั้  คอ นขา งจะยาก เพราะถกู ยบั ยงั้ ไว 

การสงั เกตวา สารพาโคลบวิ ทราโซลเสอ่ื มฤทธแ์ิ ลว  คอื  มลี กั ษณะดงั ตอ ไปน ี้
1.  ใบทเุ รยี นจะออ นตวั หรอื ไมก รอบ 
2.  ตน ทเุ รยี นแตกใบใหมป ระปราย 
3.  ใบทแี่ ตกมาใหมม จี าํ นวนนอ ยและขนาดเลก็  จํานวน2 -3ใบตอ ยอด 
4.  มกี ารแตกกง่ิ ภายในทรงพมุ  
ถาตนทุเรียนมีการแตกก่ิงในทรงพุม  เชน  กิ่งนํ้าคาง  กิ่งกระโดง  ก็ควรเลี้ยงไวเพื่อ 
สนบั สนนุ ใหต น ทเุ รยี นผลติ ฮอรโ มนจบิ เบอเรลลนิ ใหแ กต วั เอง และเปน การเตรยี มความพรอ มของ 
การเจรญิ เตบิ โตทสี่ รา งกง่ิ กา นสาขาตอ ไป เมอ่ื เกบ็ เกยี่ วผลผลติ หมดแลว  
เทคนคิ และวธิ กี ารปฏบิ ตั  ิเชน นม้ี สี ว นชว ยไดอ ยา งมาก จากสาเหตตุ น โทรมหลงั เกบ็ เกย่ี ว 
ผลผลติ ชาวสวนควรชว ยบํารงุ ตน  เพอื่ ฟน สภาพตน ภายหลงั การเกบ็ เกย่ี วกลา วคอื  ภายในระยะเวลา 
6 เดือนหลังเก็บเก่ียวผลผลิตกจ็ ะสามารถสรา งการเจริญเติบโตของพมุ ตน ใหส มบูรณ เขา สูส ภาพ 
ความพรอ มทจ่ี ะผลติ ทเุ รยี นนอกฤด ูโดยใชส ารพาโคลบวิ ทราโซลไดใ นปต อ ไป 

เทคนคิ การผลติ ทเุ รียนนอกฤดใู หมีคณุ ภาพ  46

กิจกรรม 

ใหท า นปฏบิ ตั กิ ารจัดการทช่ี วยสง เสรมิ การตดิ ผลแกต น ทเุ รยี นในสวนของ 
ทา นทผี่ ลติ ทเุ รยี นนอกฤด ูพรอ มบนั ทกึ ผลการปฏบิ ตั ติ ามรายการตอ ไปนอ้ี ยา งละเอยี ด 
ก.  การตดั แตง ดอกระยะตาปู - ระยะเหยยี ดตีนหนู 

-  ตดั แตง ดอกในวนั ท.่ี...............เดอื น............................................พ.ศ....................... 
-  ปรมิ าณของดอกหลงั ตดั แตง คงเหลอื ....................................เปอรเ ซนตข องตน  
-  ตดั แตง ดอกโดยวธิ .ี.................................................................................................... 
-  ตดั แตง ใหแ ตล ะพวงหา งกนั .................................................................................... 
ข.  การตดั แตง ดอกระยะลกู กระดมุ - ระยะหวั กาํ ไล 
-  ตดั แตง ดอกในวนั ท.ี่...............เดอื น........................................พ.ศ........................... 
-  ตดั แตง ดอกโดยวธิ .ี..................................................................................................... 
-  ตดั แตง ใหแ ตล ะพวงหา งกนั .................................................................................... 
-  ตดั แตง แลว เหลอื ดอกประมาณ.................................เปอรเ ซนต ของตน ทเุ รยี น 
-  ซอยดอกทม่ี มี ากเกนิ ไปออกเมอื่ วนั ท.ี่..............เดอื น.....................พ.ศ................. 
-  เมอ่ื ซอยดอกแลว เหลอื ดอกพวงละประมาณ.................................................ดอก 
ค.  การฉดี พน อาหารเสรมิ  
-  ฉดี พน อาหารเสรมิ ในวนั ท.่ี...............เดอื น..............................พ.ศ........................ 
-  ชอื่ การคา ของอาหารเสรมิ ทฉี่ ดุ  คอื .......................................................................... 
-  ธาตอุ าหารเสรมิ ทฉี่ ดี ไดแ กธ าต.ุ ............................................................................... 
-  ปรมิ าณอาหารเสรมิ ทฉ่ี ดี พน ในแตล ะตน ประมาณ.............................................. 
ง.  การเรง รากตะขาบและรากขนออ น 
-  ปฏบิ ตั กิ ารเรง เพมิ่ รากในวนั ท.่ี...........เดอื น...........................พ.ศ......................... 
-  ปฏบิ ตั กิ ารโดยวธิ .ี...................................................................................................... 

...................................................................................................................................... 

เทคนคิ การผลิตทเุ รยี นนอกฤดใู หม คี ณุ ภาพ  47

จ.  การใหน ้ํา 
-  เรม่ิ ขน้ึ นาํ้ เมอ่ื วนั ท.ี่............เดอื น....................................พ.ศ................................... 
-  สน้ิ สดุ การขนึ้ นาํ้ เมอื วนั ท.ี่...........เดอื น..............................พ.ศ.............................. 
-  ดอกระยะหวั กาํ ไลใหน าํ้ ประมาณ............................................ลติ รตอ ตน ตอ วนั  
-  กอ นดอกบานใหน า้ํ ประมาณ.....................................................ลติ รตอ ตน ตอ วนั  

ทดสอบความรูทานอีกแลวนะ 

จงทาํ เครอื่ งหมาย (ü) หนา ขอ ความที่เห็นวาถกู  และเครอื่ งหมาย (û) หนา  

ขอ ความทเี่ หน็ วา ผดิ  
(............... )  1.  การวางแผนตดั แตง ดอกทผ่ี ดิ พลาดและลา ชา เกนิ ไป จะทําให 

ตน ทเุ รยี นโทรม หลงั เกบ็ เกยี่ วผลผลติ  
(............... )  2.  การตดั แตง ดอกระยะตาป ูจะกาํ หนดใหด อกแตล ะพวงหา งกนั  

ประมาณ1 ศอก 
(............... )  3.  การตดั แตง ดอกออกจะชว ยใหด อกทเ่ีหลอื มคี วามสมบรู ณ เจรญิ เตบิ โตด ี
(............... )  4.  ดอกทจี่ ะตดิ ลกู คอื  ดอกทมี่ กี า นขวั้ ดอกอวบใหญแ ละอยใู นแนวตงั้ ฉาก 

กบั ทอ งกงิ่  
(............... )  5.  การฉดี พน ธาตอุ าหารเสรมิ ประเภทแคลเซยี มและโบรอน แกต น ทเุ รยี น 

จะชว ยใหด อกตดิ ผลดขี นึ้  
( ...............)  6.  สารฮวิ มคิ แอซดิ และปยุ ยเู รยี ชว ยใหเ กดิ รากตะขาบและรากขนออ น 
(............... )  7.  ตน ทเุ รียนทอี่ ยใู นระยะเลย้ี งดอกจะตอ งการนา้ํ นอ ย 
(............... )  8.  ในระยะทที่ เุ รยี นมลี กู ออ นขนาดเทา หวั แมม อื  ถา ทเุ รยี นแตกใบออ นมาก 

จะสง ผลใหท เุ รยี นสลดั ลกู ทง้ิ มาก 
(............... )  9.  การผลติ ทเุ รยี นนอกฤด ูโดยใชส ารพาโคลบวิ ทราโซล จะทําใหท เุ รยี น 

แตกใบออ นคอ นขา งมาก 
(............... )  10.  ในระยะทท่ี เุ รยี นตดิ ผลออ นทเุ รยี นจะแตกกงิ่ ในทรงพมุ  ควรเลย้ี งไว 

ไมค วรตดั ทงิ้  

ตอนที่ 5 

การจดั การเพ่ือปรมิ าณ 
และปรับปรงุ คณุ ภาพผลผลิต 

แนวคดิ  

1.  การใสปุยตนทุเรยี นในระยะติดลูก มีผลตอลกั ษณะภายนอกและภายในของผล 
ทเุ รยี น 

2.  การตดั แตง ผลทเุ รยี นทดี จี ะทําใหผลทเุ รยี นทเ่ี หลอื อยสู มบรู ณเ จริญเตบิ โตเรว็  และ 
มคี ณุ คา ทางการตลาด 

3.  การสาํ รวจขอมูลทางดานการตลาดมสี วนชวยในการตัดสนิ ใจดานการจําหนาย 
ผลผลติ  

เมอื่ ศกึ ษาเรอ่ื งนแ้ี ลว ทา นสามารถ 

1.  บอกสตู รปยุ ทใ่ี สต น ทเุ รยี นในระยะตดิ ผลได 
2.  ปฏบิ ตั กิ ารใสป ยุ แกต น ทเุ รยี นไดถ กู ตอ ง 
3.  ปฏบิ ตั กิ ารตดั แตง ผลทเุ รยี นไดถ กู ตอ ง 
4.  บอกแหลง ขอ มลู ทางการตลาดของทเุ รยี นนอกฤดไู ด

เทคนคิ การผลติ ทเุ รียนนอกฤดใู หมีคณุ ภาพ  49

การใสป ุยเคมรี ะยะตดิ ผล 

เมอื่ ดอกทเุ รยี นไดร บั การผสมเกสร และปฏสิ นธสิ มบรู ณแ ลว กจ็ ะเจรญิ เตบิ โตเปน ผลออ น 
จํานวน 3 -8 ผลตอ 1 พวงทกุ ๆ ระยะ1 ศอก ในระยะนค้ี วรใสป ยุ เคมสี ตู ร 12-12 -17(2) จํานวน 1 -1.5 
กโิ ลกรมั ตอ ตน  ผสมสารฮวิ มคิ แอซดิ จํานวน 30 -40 ซซี ี คลกุ เคลา ใหท วั่ แลวหวานลงดนิ ใตท รงพมุ  
โดยใสป ยุ ใหเ สรจ็ ทกุ ตน ภายใน1 วนั และใสต ดิ ตอ  กนั สปั ดาหล ะ 1ครงั้  รวม 7ครงั้  และเมอื่ ผลอายไุ ด 
60  วัน  ใหใสปุยเคมีสูตร  0  -0  -50  อัตรา  1.5  -2  กิโลกรัมตอตน  โดยใหนํ้าใตทรงพุมกอน 
แลว หวา นปยุ แลว ใหน า้ํ ตามอกี ครง้ั  

การตดั แตง ผล 

การตดั แตง ผลทด่ี แี ละถกู ตอ ง จะสง เสรมิ ใหผ ลทเี่ หลอื อยเู ปน ผลทส่ี มบรู ณเ จรญิ เตบิ โตเรว็  
มคี ณุ คา ทางการตลาด และรวมทงั้ เปน การลดการแยง ชงิ อาหารของผลทเุ รยี นดว ย 

การตดั แตง ผลครงั้ แรกใหต ดั ผลดงั ตอ ไปนอ้ี อก คอื  
-  ผลเลก็ กวา ปกตใิ นกลมุ ผลเดยี วกนั  
-  ผลรปู ทรงแปว (ไมค รบพ)ู  
-  ผลบดิ เบยี้ ว 
-  ผลทก่ี า นขว้ั ผลไมอ วบอว น 

และเมอ่ื ตดั แตง ผลระยะนเ้ี สรจ็ แลว ใหเ หลอื ผลไวจดุ ละ 3 -4 ผล 

การไวผ ลออ นหลงั ตดั แตง ผล 
ใหเ หลือจดุ ละ 3 -4 ผล 

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดูใหม ีคณุ ภาพ  50

เมอื่ ผา นการตดั แตง ผลครงั้ แรกแลว เหลอื ไวจ ดุ ละ3-4 ผล เมอ่ื ผลอายไุ ด60 วนั  ควรตดั แตง  
อกี ครง้ั  โดยใหท ง้ั กงิ่ มผี ลออ นเจรญิ เตบิ โตอยทู กุ ระยะ 1 ศอก กต็ ดั แตง ใหเ หลอื จดุ ละ 1 ผล แตถ า เปน  
กง่ิ ใหญแ ละมผี ลออ นเจรญิ เตบิ โตอยจู ดุ เดยี ว กใ็ หเหลอื ผลไว 2 -3 ผล 

และครงั้ สดุ ทา ยของการตดั แตง ผลใหเ ลอื กผลทเี่ จรญิ เตบิ โตชา กวา เพอ่ื น ๆ ผลหนามแดง 
ผลกนั จบี  ผลหวั หลมิ  ผลทรงแปว หรอื บดิ เยวออกใหห มด ใหเ หลอื ไวแ ตผ ลทรงทตี่ อ งการ โดยทงั้ ตน  
จะเหลอื ผลประมาณ 35 -70 ผล 

การไวผ ลทกุ ๆ 1 ศอก 
จํานวน 1 ผล เมือ่ อายไุ ด 50 -60 วนั  

การรกั ษาและสนบั สนนุ คณุ ภาพของผลผลติ ทําไดด งั น้ี 

1.  การใหอ าหารเสรมิ ทางใบ การผลติ ทเุ รยี นนอกฤดู จาํ เปน ตอ งใหอ าหารเสรมิ ทางใบ 
เพราะผลจะเจรญิ เติบโตชา กวาทเุ รียนในฤด ู การใหอาหารเสริมแกต น ทุเรยี นเปนระยะ ๆ โดยเนน 
ชนิดของอาหารเสริมที่มีคารโบไฮเดรทเปนองคประกอบหลักฉีดพนแกตนทุเรียนตามอาย ุ
ของผล ในสปั ดาหท ่ี 5,6,7,8 และ 9 รวม 5 ครงั้  

2.  การปอ งกนั และกําจัดศตั รพู ชื ทําไดโ ดยการฉดี พนสารเคม ี เพอ่ื ปอ งกันและกําจัด 
ศัตรูพืชเปนระยะ  ๆ โดยเลือกใชสารเคมีใหตรงและถูกตองในการกําจัดแมลงชนิดน้ัน  ๆ 
นอกจากการใชส ารเคมแี ลว  ปจจบุ นั ยังมีการคิดคน การใชส มุนไพรเพื่อใชในการไลแ มลง 
หรอื กาํ จดั แมลง เพอื่ เปน การลดผลกระทบของสารเคมที มี่ ตี อ รา งกายมนษุ ยแ ละสภาพแวดลอ มดว ย 

เทคนคิ การผลติ ทเุ รียนนอกฤดใู หม ีคณุ ภาพ  51

สมนุ ไพรมหี ลายชนดิ  ซง่ึ แตล ะชนดิ มสี รรพคณุ ในการกาํ จดั แมลแตล ะชนดิ แตกตา งกนั ไป 

ดงั นี ้

ตวั ยาสมนุ ไพรสาํ หรบั เพลยี้ ไรแดง  เพลยี้ ไกแ จ  เพลยี้ แปง   เพลย้ี หอย  ฯลฯ 

สตู รที่ 1  ยาฉนุ   1/2  กโิ ลกรมั   นาํ้ ตาล  1  กโิ ลกรมั  

ตะไครห อม  1  กโิ ลกรมั   จลุ ทิ รยี   1  ลติ ร 

สาบเสอื   1  กโิ ลกรมั   นาํ้   10  ลติ ร 

การใช  นาํ วตั ถดุ บิ ทตี่ าํ แลว มาหมกั ไว 7 วนั   ใชน าํ้ ยา 1/2 ลติ ร  ฉดี พน 7 วนั ตอ ครงั้  

สตู รท่ี 2  หางไหล  1  1/2  กโิ ลกรมั  

นา้ํ   10  ลติ ร 

การใช  ใชเ คย่ี วทบุ ใหแ หลก  แชน า้ํ 1 คนื     ใชน าํ้ ยา 1 ลติ ร  ผสมนา้ํ 20 ลติ ร  ฉดี พน  

7 วนั ตอ ครงั้  

สตู รท่ี 3  ยาฉนุ   1/2  กโิ ลกรมั   ขา   1  กโิ ลกรมั  

เมด็ สะเดา  1/2  กโิ ลกรมั   ตะไครห อม  1  กโิ ลกรมั  

นาํ้ ตาล  1  กโิ ลกรมั   จลุ ทิ รยี   1  ลติ ร 

นาํ้   10  ลติ ร 

การใช  นาํ วตั ถดุ บิ ทตี่ าํ แลว มาหมกั ไว 7 วนั   ใชน าํ้ ยา 1/2 ลติ ร  ผสมนา้ํ 20 ลติ ร  ฉดี พน  

7 วนั ตอ ครงั้  

สตู รที่ 4  หนอนตายอยาก  1  กโิ ลกรมั   บอระเพด็   1  กโิ ลกรมั  

กระทกรก  1  กโิ ลกรมั   นาํ้ ตาล  1  กโิ ลกรมั  

จลุ ทิ รยี   1  ลติ ร  นา้ํ   10  ลติ ร 

การใช  นาํ วตั ถดุ บิ ตาํ ใหแ หลกแลว หมกั ไว 7 วนั ขนึ้ ไป ใชน า้ํ ยา 1/2 ลติ ร ผสมนา้ํ 20ลติ ร 

สตู รท่ี 5  นาํ้ สม สายชู  1  กโิ ลกรมั   เปลอื กแค  1  กโิ ลกรมั  

หางไหล  1  กโิ ลกรมั   ตะไครห อม  1  กโิ ลกรมั  

นา้ํ ตาล  1  กโิ ลกรมั   จลุ ทิ รยี   1  ลติ ร 

นา้ํ   10  ลติ ร 

หรอื สม , มะนาว, สม โอ, มะขาม  อยา งละ 1กโิ ลกรมั   เทา ๆกนั   รวม 3 กโิ ลกรมั  

การใช  นาํ วตั ถดุ บิ ตาํ ใหแ หลกแลว หมกั ไว 7 วนั   ใชน า้ํ ยา 1/2 ลติ ร  ผสมนา้ํ 20 ลติ ร  ฉดี พน  

7  วนั ตอ ครง้ั  

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดใู หมีคณุ ภาพ  52

วธิ ผี สมตวั ยาสมนุ ไพร สําหรบั ฆา หนอนกระท,ู หนอนชอนใบ, หนอนหนงั เหนยี ว, 

หนอนใย,หนอนใต,หนอนเจาะอเมรกิ นั   ฯลฯ 

สตู รท่ี 1  ฟา ทะลายโจร  1  กโิ ลกรมั   เปลอื กแค  1  กโิ ลกรมั  

หางไหล  1  กโิ ลกรมั   ตะไครห อม  1  กโิ ลกรมั  

นา้ํ ตาล  1  กโิ ลกรมั   จลุ ทิ รยี   1  ลติ ร 

นาํ้   10  ลติ ร 

การใช  นาํ วตั ถดุ บิ   สบั หยาบๆแลว หมกั ไว 7 วนั   ใชน าํ้ ยา 1/2 ลติ ร  ผสมนา้ํ 20 ลติ ร  ฉดี พน  

7  วนั ตอ ครงั้  

สตู รที่ 2  โทงเทง  1  กโิ ลกรมั   สาบเสอื   1  กโิ ลกรมั  

หนอนตายอยาก  1  กโิ ลกรมั   นา้ํ ตาล  1  กโิ ลกรมั  

จลุ ทิ รยี   1  ลติ ร  นา้ํ   10  ลติ ร 

การใช  นาํ วตั ถดุ บิ มาตาํ แลว หมกั ไว 7 วนั   ใชน าํ้ ยา 1/2 ลติ ร  ผสมนาํ้ 20 ลติ ร  ฉดี พน  

7 วนั ตอ ครง้ั  

สตู รท่ี 3  สะเดา  1  กโิ ลกรมั   ยาฉนุ   1  กโิ ลกรมั  

กระทกรก  1  กโิ ลกรมั   นาํ้ ตาล  1  กโิ ลกรมั  

จลุ ทิ รยี   1  ลติ ร  นา้ํ   10  ลติ ร 

การใช  นาํ วตั ถดุ บิ มาสบั หยาบๆแลว หมกั ไว 7 วนั   ใชน าํ้ ยา 1/2 ลติ ร  ผสมนาํ้ 20 ลติ ร  ฉดี พน  

7 วนั ตอ ครงั้  

เทคนคิ การผลติ ทเุ รียนนอกฤดใู หม คี ณุ ภาพ  53

ประเภทสมุนไพรใชในการกาํ จัดแมลง/ศัตรูพืช

สมนุ ไพรทม่ี ีรสขม ฆา เชอื้ แบคทเี รีย ปอ งกนั แมลง 

- ฟา ทะลายโจร  - บอระเพ็ด  -  สะเดา 

- หญา ใตใ บ  -  โทงเทง

สมนุ ไพรทมี่ รี สฝาด แกเ ชอื ร าโรคพชื  

- เปลอื กแค  - เปลอื กมงั คดุ   - ใบฝรงั่  

- ใบทบั ทมิ   - ขมนิ้

สมนุ ไพรทมี่ รี สเปรยี้ ว ไลแ มลง 

- เปลอื กสม   - มะกรดู   - มะนาว 

- นํ้าสม สายช ู - นา้ํ มะขาม

สมุนไพรประเภทเมาเบ่ือ ฆาหนอนเพลยี้ แมลงอืน่ ๆ 

-  หางไหล  - ยาสบู   - ขอบชะนาแดง-ขาว 

- ใบนอ ยหนา   - หนอนตายอยาก  - สลดั ได 

- พญาไรใ บ  - แสยก  - เมด มะกลํ่า

สมนุ ไพรหอมระเหยไลแ มลง เปลย่ี นกลนิ่ ตนพืช 

- ตะไครห อม  -  สาบเสือ  - โหระพา  กระเพรา  ผกั ช ี

- กระทกรก  - ผกั แพรวแดง  - สาบแรง สาบกา 

- ขา  

วิธกี ารหมกั สมนุ ไพรทนี่ ยิ มใช   มี 2 วธิ  ี  คือ 

1. หมักภายใน 24 ช่วั โมง  ไมเ กนิ   48 ชวั่ โมง 

สมนุ ไพรสด 3 กโิ ลกรัม นา้ํ 10 ลติ ร  หรอื สมนุ ไพรแหง 2 กโิ ลกรัม นํา้ 10 ลติ ร 

2. หมกั ภายใน 1 สปั ดาห   สําหรบั ฉดี พน  

สมนุ ไพรสด 3 กิโลกรัม กากน้ําตาล 1 กโิ ลกรมั   จลุ นิ ทรีย 1 ลติ ร  น้ํา 10 ลติ ร  นํา้ ยา 

1 ลิตร ผสมน้ํา 20 ลิตร สําหรบั ฉดี พน 7 วนั ตอครงั้  หรือน้ํายา 1 ลติ ร ตอนํ้า 200ลติ ร  ใชร าดตนไม 

7 วนั ตอ ครง้ั   หรือเดอื นละ 1 คร้ัง 

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดูใหมคี ณุ ภาพ  54

การจดั การดา นตลาด 

อนง่ึ ในป  พ.ศ. 2542 – 48  ดร.ทรงพล  สมศร ี  นกั วชิ าการเกษตร 8 ว  จากสถาบนั  
วิจัยพืชสวน    กรมวิชาการเกษตร    ไดทําการศึกษาและผสมขามพันธุทุเรียนลูกผสมในอนาคต 
วตั ถปุ ระสงคเ พอื่  ใหไ ดท เุ รยี นพนั ธลุ กู ผสมทมี่ คี ณุ ภาพดแี ละมีคณุ ลกั ษณะตา ง ๆ ตามความตอ งการ 
ของตลาด  และขยาย ชว งเวลาของการขายผลผลติ   เชน  

1.  เปน พนั ธทุ สี่ ามารถเกบ็ เกย่ี วไดใ นชว งตน ฤด ู กลางฤด ู และปลายฤดู 
2.  เปน พนั ธทุ เุ รยี นลกู ผสมทม่ี ฃี ณุ ภาพดแี ละผลผลติ สงู  
3.  หาพนั ธทุ เุ รยี นเพอื่ การแปรรปู  
ไดส ายพนั ธทุ เุ รยี นแนะนําในอนาคต 3 สายพนั ธ ุ
พนั ธจุ นั ทบรุ ี  1  เปน ลกู ผสมระหวา งพนั ธแุ ม  (  ) ชะนี  X  พนั ธพุ อ   (  )  หมอนทอง 
พนั ธจุ นั ทบรุ ี 1  ไดร บั ความสนใจมากทสี่ ดุ   เปน ทเุ รยี นทม่ี รี ปู ทรงไดม าตรฐานสง ออก  ตามทกี่ รม 
วชิ าการเกษตรประกาศไวเ มอื่ ป 2541 ลกั ษณะภายในเนอื้ มสี เี หลอื งนวล  เนอ้ื สวยแหง ละเอยี ดเนยี น 
เนอ้ื ไมเ ละ  ถงึ แมว า เมอ่ื ปรงิ หลดุ ไปแลว 2 – 3 วนั เนอื้ ยงั แหง อย ู  ทเี่ ดน เปน พเิ ศษ  คอื   เปน ทเุ รยี น 
ลกู ผสมทม่ี กี ลน่ิ นอ ยมาก  ลกั ษณะของเนอ้ื ใกลเ คียงกบั พนั ธหุ มอนทอง  แตเ มลด็ ไมล บี และรสชาต ิ
ไมห วานจดั   มอี ายกุ ารเก็บเกย่ี วสนั้   ผลจะแกแ ละเกบ็ เกยี่ วได  ระหวา ง 99 – 110 วนั   ดอกจะบานชว ง 
เดอื นธนั วาคม – มกราคม  และเกบ็ เกยี่ วผลผลติ ไดใ นชว งเดอื นมนี าคม – เมษายน  ซง่ึ เปน ชว งตน ฤด ู
ของทเุ รยี นในเขตพนื้ ทภ่ี าคตะวนั ออก  ลกั ษณะภายนอกของผลมพี ทู ส่ี มบรู ณ  กา นของผลยาว  ทําให 
มแี นวโนม จะขยายตลาดทเุ รยี นในสหรฐั อเมรกิ าไดเ พมิ่ ขน้ึ  
พนั ธจุ นั ทบรุ ี 2 เปน ลกู ผสมระหวา งพนั ธแุ ม (  ) ชะนี X พนั ธพุ อ (  ) พวงมณ ี ลกั ษณะ 
ภายในเนอ้ื จะมสี เี หลอื งเขม   รสชาตหิ วานมนั  เนอ้ื เหนยี วละเอยี ดและมกี ลน่ิ ออ น อายกุ ารเกบ็ เกยี่ วสน้ั  
ระหวา ง 91– 100 วนั   หลงั จากดอกบาน  ดอกจะบานชว งเดอื นธนั วาคม – มกราคม  เกบ็ เกยี่ วผลผลติ  
ไดใ นชว งเดอื นมนี าคม– เมษายน  ตดิ ผลดกี วา พนั ธชุ ะนี 
พนั ธจุ นั ทบรุ ี 3 เปน ลกู ผสมระหวา งพนั ธแุ ม ( ) ชะนี  X  พนั ธพุ อ (  ) พวงมณ ี ลกั ษณะ 
ภายในเนื้อมสี ีเหลืองสม สวยสะดุดตา  รสชาติหวาน  มีกลิน่ คอนขางแรง  เม่ือปริงหลุดจากข้ัว 
จะไดก ลน่ิ คลา ยพนั ธชุ ะน ี ตลาดทสี่ าํ คญั ไดแ ก  ตลาดประเทศมาเลเซยี   และสงิ คโปร 

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดใู หม คี ณุ ภาพ  55

การแกป ญ หาทเุ รยี นราคาตกตา่ํ การปลกู ทเุ รยี นพนั ธจุ นั ทบรุ ี 1 , 2  และ  3  และทเุ รยี น 
ลกู ผสมหมอนทองกบั พวงมณี (เนอื้ ละเอยี ดเนยี น  เนอ้ื เหนยี ว  สสี วยสดรสชาตไิ มห วานจดั   คณุ จรวย 
พงษช พี   หรอื ดํา  นาํ้ หยด) เปน อกี ทางเลอื กหนง่ึ ในการแกป ญ หาราคาทเุ รยี นตกตา่ํ ไดใ นอนาคต 

การตลาดเปน เรือ่ งสําคัญอยา งย่งิ  สําหรบั การผลติ ทุเรียนนอกฤด ู เมอื่ ผลทเุ รียนอายุได 
ประมาณ 100วนั  ชาวสวนควรสาํ รวจขอ มูลการตลาดของทุเรยี นในตลาดทอ งถ่นิ  ตลาดกรงุ เทพฯ 
และตลาดตา งประเทศ เพอื่ ใชเ ปน แนวทางในการตอ รองราคากบั พอ คา ตอ ไป 

การเก็บเก่ียวผลผลิต 

ขอ ควรพจิ ารณาในการเกบ็ เกยี่ วควรคาํ นงึ ถงึ ความแกข องผลเปน หลกั คอื  ทเุ รยี นนอกฤด ู
จะแก  สกุ ชา กวา ทเุ รยี นในฤดปู ระมาณ7-15 วนั  ฉะนน้ั ถา เปน ถา เปน พนั ธชุ ะนคี วรเกบ็ เกย่ี วเมอื่ อายไุ ด 
125 -135วนั และพนั ธหุ มอนทองควรเกบ็ เกย่ี วเมอื่ อายไุ ด 135 -140 วนั  

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดใู หมีคณุ ภาพ  56

กจิ กรรม 

ใหทานปฏิบัติการจัดการปรับปรุงคุณภาพของตน ทเุ รียนเพ่ือเพ่ิมผลผลิต 
ทุเรียนในสวนของทานที่ในการผลิตทุเรียนนอกฤดู  พรอมบันทึกผลการปฏิบัต ิ
ตามรายการตอ ไปนอ้ี ยา งละเอยี ด 

ก.  การใสป ยุ เคม ี
-  ใสป ยุ เคมเี มอื่ วนั ท.ี่...........เดอื น...........................................พ.ศ........................ 
-  ใสป ยุ ครง้ั แรกเมอ่ื ผลทเุ รยี นมอี าย.ุ ...............................................................วนั  
-  ใสป ยุ สตู ร....................................จาํ นวน..................................กโิ ลกรมั ตอ ตน  
-  จาํ นวนทใี่ สป ยุ ...............................................................................................ครง้ั  
-  ใสป ยุ ครงั้ ท่ี2เมอ่ื วนั ท.ี่........เดอื น.......................................พ.ศ........................ 
-  ใสป ยุ สตู ร........................................จาํ นวน..............................กโิ ลกรมั ตอ ตน  

ข.  การตดั แตง ผล 
-  ตดั แตง ผลครงั้ แรกเมอื่ วนั ท.ี่............เดอื น............................พ.ศ...................... 
-  ลกั ษณะของผลทตี่ ดั ออก..................................................................................... 
....................................................................................................................................... 
-  เหลอื ผลทต่ี ดั แตง ผลครงั้ แรก............................................................................. 
-  ตดั แตง ผลครง้ั ท่ี2 เมอ่ื วนั ท.่ี........เดอื น.............................พ.ศ.......................... 
-  ตดั แตง ผลครง้ั ท่ี3 เมอื่ วนั ท.่ี........เดอื น.............................พ.ศ.......................... 
-  เหลอื ผลหลงั จากตดั แตง ผลแลว ประมาณ.......................................ผลตอ ตน  

ค.  การใหอ าหารเสรมิ  
-  ใหอ าหารเสรมิ ชอ่ื ................................................................................................ 
-  อตั ราของอาหารเสรมิ ทใ่ี ห. ................................................................................ 
-  ใหอ าหารเสรมิ จาํ นวน.................................................................................ครงั้  

ง.  การปอ งกนั กาํ จดั ศตั รพู ชื  
-  ฉดี พน สารเคมเี มอื่ วนั ท.่ี.........เดอื น....................................พ.ศ........................ 
-  ชอ่ื การคา สารเคมที ฉ่ี ดี พน .................................................................................. 
-  อตั ราสว นผสมทฉี่ ดี พน ....................................................................................... 

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดใู หมคี ณุ ภาพ  57

รูมากแคไหนเอย! 

จงทาํ เครอื่ งหมาย (ü) หนา ขอความทีเ่ หน็ วา ถกู  และเครอ่ื งหมาย (û) หนา  

ขอ ความทเ่ี หน็ วา ผดิ  
(............... )  1.  ใสป ยุ เคมสี ูตร 16 -16 -16 เมอื่ ผลทุเรียนมอี ายุ 60 วนั  
(............... )  2.  ปยุ เคมีสตู ร 0 -0 -50 จะชว งสงเสรมิ คณุ ภาพของเนอื้ ทเุ รยี น 
(............... )  3.  ควรไวผ ลใหม าเพอ่ื จะไดข ายไดเ งนิ มากตามไปดว ย 
(............... )  4.  ตดั แตงใหผ ลของทเุ รยี นหา งกันอยา งนอ ย 1 เมตร 
(............... )  5.  การใหอ าหารเสรมิ ทางใบควรมธี าตคุ ารโ บไฮเดรทเปน  

องคป ระกอบหลกั  
(............... )  6.  ทเุ รยี นทม่ี ผี ลเลก็  รปู ทรงแปว  บดิ เบยี้ ว ควรตดั ทง้ิ  
(............... )  7.  การใหอ าหารเสรมิ ทางใบ การกาํ จดั ศตั รพู ชื จะชว ยใหไ ด 

ผลผลติ ทส่ี มบรู ณ 
(............... )  8.  การสาํ รวจราคาตลาดชว ยเพมิ่ รายไดใ หแ กช าวสวน 
(............... )  9.  ทเุ รยี นนอกฤดจู ะแกส กุ เรว็ กวา ทเุ รยี นในฤดู 
(............... )  10.  ทเุ รยี นนอกฤดพู ันธชุ ะน ี ควรเกบ็ เกยี่ วเมอ่ื อายไุ ด 125 -135 วนั  

พนั ธหุ มอนทองเกบ็ เกย่ี วเมอื่ อายุ 140 -150 วนั  

เทคนคิ การผลติ ทเุ รยี นนอกฤดใู หม ีคณุ ภาพ  58

ตรวจสอบตนเองหลังเรียน 

เมื่ อทานศึกษาชุดวิชาเทคนิคการผลิตทุเรียนนอกฤดูใหมีคุณภาพจนจบแลว 
ทา นลองทาํ แบบประเมนิ ตนเองหลงั เรยี นดวู า       มคี วามร ูความเขา ใจอยใู นระดบั ใด 

โดยกาเครอ่ื งหมายกากบาท (û) ขอ ทถ่ี กู ทสี่ ดุ เพยี งขอ เดยี ว 

1.  ทเุ รยี นในฤดขู องภาคตะวนั ออกจะแกส กุ พรอ มจาํ หนา ยไดใ นเดอื น 

ก.  ก.พ. - เม.ย.  ข.  พ.ค. - ก.ค. 

ค.  ส.ค. - ต.ค.  ง.  พ.ย. - ม.ค. 

2.  ตน ทเุ รยี นทเี่ หมาะในการผลติ ทเุ รยี นนอกฤด ูควรมอี าย ุ

ก.  9 - 15 ป  ข.  15 - 17 ป 

ค.  18 - 20 ป  ง.  21 - 25 ป 

3.  ฮอรโ มนจบิ เบอเรลลนิ มบี ทบาทหนา ท่ี 

ก.  ยบั ยงั้ การเจรญิ เตบิ โตของพชื   ข.  สรา งการเจรญิ เตบิ โตทางกง่ิ กา นสาขา 

ค.  ชว ยในการแตกตาดอก  ง.  ชว ยใหท เุ รยี นมผี ลกลมสวยงาม 

4.  ในชดุ วชิ าเทคนคิ การผลติ ทเุ รยี นนอกฤด ู แนะนาํ ใหใ ชส ารคลั ทารท ม่ี คี วามเขม ขน เทา ไร 

ก.  5 %  ข.  10% 

ค.  15%  ง.  20% 

5.  ตวงสารคัลทารจ ํานวน 180 -200 ซซี  ี ผสมกบั นํา้ สะอาดเทา ใด เพอื่ ฉดี พนทตี่ น ทเุ รยี น 

ก.  10 ลติ ร  ข.  15 ลติ ร 

ค.  20 ลติ ร  ง.  25 ลติ ร 

6.  ภายหลงั ฉดี พน สารพาโคลบวิ ทราโซลแลว 30 วนั  ควรใสป ยุ เคมสี ตู ร 

ก.  60 -0 -0  ข.  8 -24 -24 

ค.  15 -15 -15  ง.  0 -0 -60 

7.  การตดั แตง กง่ิ ครง้ั ท่ี2 จะหา งจากครง้ั แรกประมาณ 

ก.  3 -4 เดือน  ข.  4 -5 เดอื น 

ค.  6 -7 เดือน  ง.  9 -10 เดอื น 

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดูใหม คี ณุ ภาพ  59

8.  ขอ ใดไมใ ชด อกทค่ี วรปลดิ ทงิ้  

ก.  ดอกทอี่ ยกู บั กงิ่ เลก็   ข.  ดอกทอี่ ยโู คนกงิ่  

ค.  ดอกทอ่ี ยปู ลายกงิ่   ง.  ดอกทอ่ี ยบู นกงิ่ ออ น 

9.  การตดั แตง ดอกในระยะลกู กระดมุ  ควรเวน ชอ งหา งระหวา งพวงเทา ใด 

ก.  1คบื   ข.  1ศอก 

ค.  2ศอก  ง.  1 วา 

10.  เมอ่ื ตน ทเุ รยี นไดร บั นา้ํ มาก จะมผี ลทาํ ให 

ก.  ดอกทเุ รยี นถา งตวั นอ ย  ข.  ดอกทเุ รยี นถา งตวั พอด ี

ค.  ดอกทเุ รยี นถา งตวั เปน ครงึ่ วงกลม  ง.  ดอกทเุ รยี นถา งตวั เปน วงกลม 

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดใู หม ีคณุ ภาพ  60

เฉลยการตรวจสอบตนเองกอ น-หลงั เรียน  5.  ง 
10.ข 
เฉลยการตรวจสอบตนเองกอนเรียน 
5.  ค 
1.  ง  2.  ง  3.  ข  4.  ค  10.ค 
6.  ข  7.  ข  8.  ง  9.  ง 

เฉลยการตรวจสอบตนเองหลงั เรยี น 

1.  ข  2.  ก  3.  ข  4.  ข 
6.  ข  7.  ค  8.  ข  9.  ข 

ตอนที่ 1  เฉลยกจิ กรรม 

1.1  9-15 

1.2  เขม ออกดาํ และเปน มนั  

1.3  ทรงปร ามคิ  

2.1  ความสมบรู ณข องตน  

2.2  ความสมดลุ ของฮอรโ มนพชื ในตน ทเุ รยี น 

3.1  การสง เสรมิ ใหท เุ รยี นแตกใบออ นใหเ รว็ ทสี่ ดุ  

3.2  การรกั ษาใบออ นทแ่ี ตกมาแลว ใหส มบรู ณแ ละมอี ายทุ ยี่ าวนาน 

3.3  ควบคมุ การแตกใบออ นแตล ะชดุ ใหเ หมาะสม 

3.4  สง เสรมิ ใหด นิ บรเิ วณโคนตน แหง เรว็ ขน้ึ  

4.1  ตาป ู

4.2  เหยยี ดตนี หนู 

4.3  คราดใบและถอนวชั พชื ออกจากโคนตน ใหห มด 

เทคนคิ การผลติ ทเุ รยี นนอกฤดใู หม ีคณุ ภาพ  61

4.4  ฮวิ มคิ แอซดิ  
4.5  1,000 
4.6  46 -0 -0 
4.7  300 -500 
4.8  200 
5.1  15 -15 -15 
5.2  16 -16 -16 
5.3  3 -4 
5.4  46 -0 -0 
5.5  1 
6.1  46 -0 -0 
6.2  1 - 1.5 

ตอนท่ี 2 5.  ข 

1.  ค  2.  ข  3.  ง  4.  ข  5.  ü 
6.  ค  7.  ค  10.û 

ตอนที่ 3 5.  ü 
1.  û  2.  û  3.  û  4.  ü  10.ü 
6.  û  7.  û  8.  û  9.  ü 
5.  ü 
ตอนที่ 4 10. ü 

1.  ü  2.  û  3.  ü  4.  ü 

6.  ü  7.  û  8.  ü  9.  û 

ตอนที่ 5
1.  û  2.  ü  3.  û  4.  û 
6.  ü  7.  ü  8.  ü  9.  û 

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดูใหมคี ณุ ภาพ  62

ขอ เสนอแนะและกิจกรรมตอ เนอื่ ง 

หลังจากทท่ี า นไดผา นการประเมินผลความรูตามชุดวิชานคี้ รบถวนแลว  ทานจะไดรับ 
ประโยชน  ดงั น้ี

1.  มคี วามรคู วามเขา ใจในเนอ้ื หาวชิ า สามารถนาํ ความร ูทไี่ ดร บั นไ้ี ปผลติ ทเุ รยี นนอกฤด ู
ใหม คี ณุ ภาพ ไดถ กู ตอ ง 

2.  เผยแพรห รอื อธบิ ายเนอ้ื หาจากชุดวชิ านใี้ หก บั ผสู นใจอนื่  ๆ ไดถ กู ตอ ง 

เพอื่ ใหท า นไดร บั ความรคู รบถว นยงิ่ ขนึ้  และนําไปใชไ ดอ ยา งแทจ รงิ  ขอใหท า นไปศกึ ษา 
เพมิ่ เตมิ จากผรู ดู งั ตอ ไปน ี้

1.  ดร.  หิรัญ หิรัญประดิษฐ ศูนยวิจัยพืชสวนจันทบุรี ตําบลตะปอน  อําเภอขลุง 
จงั หวดั จนั ทบรุ ี 

2.  นายสุขวัฒน จันทรปรรณิก ศนู ยว จิ ยั พชื สวนจันทบรุ  ี ตําบลตะปอน อาํ เภอขลงุ  
จงั หวดั จนั ทบรุ ี 

3.  นายประภทั รพงศ   เวชชาชีวะ   อําเภอขลุง   จงั หวดั จนั ทบุรี 
4.  นายสมจนิ ต    ปาละกลู    ตาํ บลสองสลึง   อาํ เภอแกลง   จงั หวดั ระยอง 
5.  นายประยงค    คุณาวฒุ  ิ   ตําบลกองดนิ    อาํ เภอแกลง   จังหวดั ระยอง 
6.  นายนวิ ฒั น   พนชวั่    อําเภอเมือง   จงั หวดั ระยอง 
7.  สวนสภุ ัทราแลนด    อาํ เภอบา นคา ย   จงั หวัดระยอง 

เทคนคิ การผลติ ทเุ รยี นนอกฤดใู หมีคณุ ภาพ  63

บรรณานกุ รม 

ดาํ รงศกั ด ์ิ ชมุ แสงพนั ธ.   สมนุ ไพรไลแ มลง. (อดั สาํ เนา), 2548. 
ทรงพล  สมศร.ี ทเุ รยี นพนั ธจุ นั ทบรุ เี พอื่ ขยายตลาดในยโุ รปและอเมรกิ า : เสน ทางกสกิ รรม. 

ชมรมเผยแพรค วามรทู างการเกษตร. พจิ ติ ร:โรงพมิ พ บรษิ ทั  ศรเี มอื งการพมิ พ 
จาํ กดั , 2550. 
สถาบนั วจิ ยั พชื สวน  กรมวชิ าการเกษตร. เอกสารวชิ าการ เรอื่ ง  การพฒั นาการใชส าร 
คลั ทารก บั การผลติ ทเุ รยี นนอกฤด.ู กรงุ เทพฯ, 2533. 
สถาบนั วจิ ยั พชื สวน  กรมวชิ าการเกษตร.  เอกสารวชิ าการ เรอ่ื ง  เทคโนโลยกี ารผลติ ทเุ รยี น 
กอ นฤดใู หค ณุ ภาพ. กรงุ เทพฯ, 2541. 
สาํ นกั งานสง เสรมิ การเกษตรภาคตะวนั ออก  กรมสง เสรมิ การเกษตร.เอกสาร 
วชิ าการ เรอ่ื ง ทเุ รยี นภาคตะวนั ออก. ระยอง , 2534. 

เทคนคิ การผลติ ทเุ รยี นนอกฤดูใหมีคณุ ภาพ  64

คณะกรรมการ 
ชดุ วชิ า เทคนิคการผลิตทเุ รียนนอกฤดใู หมคี ุณภาพ 

ประธานกรรมการ 

วา ท ่ีร.ต. สนิ   รองโสภา 

ผอู าํ นวยการศนู ยการศึกษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

ผเู ช่ียวชาญเน้ือหา 

นายไพฑรู ย  ปฏบิ ตั ิ 

นกั วชิ าการเกษตร สํานกั งานเกษตรจังหวดั ระยอง 

กรรมการวดั ผล 

นางสนุ นั ท  นาหลวง 

ศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

กรรมการเทคโนโลยี 

นายกฤต  รงั สมิ นั ตวุ งศ 

ศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

บรรณาธกิ าร 

นางสาวสปุ รดี า  แหลมหลกั  

ศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

เลขานกุ าร 

นายอดลุ   เทยี่ งสนุ ทร 

ศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

เทคนคิ การผลิตทเุ รียนนอกฤดใู หมีคณุ ภาพ  65

ชดุ วชิ า 
เทคนคิ การผลติ ทเุ รยี นนอกฤดใู หมคี ณุ ภาพ 

คณะกรรมการพัฒนาและปรับปรุงหลักสูตร 

ทป่ี รกึ ษา 

นายประถม  สมคั รพงศ 
ผอู าํ นวยการศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

นางสาวสรุ ภ ี สกลุ รตั น 
รองผอู าํ นวยการศนู ยก ารศกึ ษานอกโรงเรยี นภาคตะวนั ออก 

คณะกรรมการพฒั นาและปรบั ปรงุ  

นายไพฑรู ย  ปฏบิ ตั  ิ
นกั วชิ การเกษตร  สาํ นกั งานเกษตรจงั หวดั ระยอง 

ผเู ชยี่ วชาญเนอื้ หา 
นายณฐั วฒุ  ิ พลอยอรา ม 
นกั วชิ าการเกษตร 8ว 
สาํ นกั สง เสรมิ และพฒั นาการเกษตรเขตที่3จงั หวดั ระยอง 

ผเู ชย่ี วชาญเนอ้ื หา 
นายอดลุ   เทย่ี งสนุ ทร 

ผเู ขยี น 
นางสาวบษุ ยา  ปย ารมย 

นกั เทคโนโลย ี
นางกลุ ธดิ า  รตั นโกศล 
บรรณาธกิ ารและเลขานกุ าร 


Click to View FlipBook Version