แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 5
สาระการเรยี นรู้ วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รายวชิ า วทิ ยาศาสตร์ ม.3
ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 2 พันธกุ รรม เรือ่ งโครโมโซม ดเี อ็นเอ และยนี เวลา 3 ชั่วโมง
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชี้วดั
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ว 1.3 เข้าใจกระบวนการและความสำคญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม
สารพันธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่มีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความ
หลากหลายทางชวี ภาพและวิวฒั นาการของส่ิงมชี วี ิต รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้
ประโยชน์
ตวั ชว้ี ัด
ว 1.1 ม.3/1 อธบิ ายความสัมพันธร์ ะหว่าง ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซม โดยใชแ้ บบจำลอง
2. จดุ ประสงค์การเรยี นร้สู ู่ตัวชว้ี ดั
2.1ความรู้ (K)
อธิบายความสมั พันธ์ระหว่าง ยีน ดีเอน็ เอ และโครโมโซมได้
2.2 ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ (P)
สรา้ งแบบจำลองเพ่ือแสดงความสัมพนั ธ์ระหว่างยนี ดเี อน็ เอ และโครโมโซมได้
2.3 คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
มีความซ่ือสัตย์ ใฝ่เรยี นรแู้ ละมุง่ มนั่ ในการทำงาน
3. สาระสำคญั
ลักษณะทางพันธุกรรมของสิ่งมีชีวิตสามารถถ่ายทอดจากรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่งได้ โดยมียีนเป็น
หน่วยควบคุมลักษณะทางพันธุกรรม ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซมมีความสมั พันธ์กัน โดยยีนเป็นส่วนประกอบ
ของโครโมโซม โครโมโซมอยูใ่ นนิวเคลยี สของเซลล์
4. สาระการเรียนรู้
4.1 ความรู้ (K)
อธบิ ายความสัมพันธ์ระหว่าง ยีน ดีเอ็นเอ และโครโมโซมได้
4.2 ทักษะท่สี ำคญั (P)
สร้างแบบจำลองเพ่ือแสดงความสมั พนั ธ์ระหว่างยนี ดเี อน็ เอ และโครโมโซมได้
4.3 คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) (เฉพาะที่เกดิ ในหนว่ ยการเรยี นร้นู ้)ี
รักชาติ ซอื่ สัตย์สจุ รติ มีวินยั
ใฝ่ความรู้ อยู่อย่างพอเพียง ม่งุ ม่นั ในการทำงาน
รักความเป็นไทย มีจติ สาธารณะ
5.สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน(เฉพาะทเ่ี กดิ ในหนว่ ยการเรียนรู้น)้ี
ความสามารถในการสื่อสาร ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ปัญหา ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ทกั ษะของผู้เรยี นในศตวรรษท่ี 21 (3R 8C 2L) (จดุ เนน้ สกู่ ารพัฒนาคุณภาพผเู้ รียน)
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน(เฉพาะทีเ่ กิดในหน่วยการเรียนรนู้ ้)ี
R1– Reading (อ่านออก)
R2– (W)Riting (เขียนได)้
R3 – (A)Rithmetics (คิดเลขเปน็ )
C1 - Critical Thinking and Problem Solving (ทักษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและ
ทกั ษะในการแกป้ ัญหา)
C2 - Creativity and Innovation (ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรคแ์ ละนวัตกรรม)
C3 - Cross-cultural Understanding (ทักษะดา้ นความเข้าใจต่างวัฒนธรรม ตา่ งกระบวนทัศน์
C4 - Collaboration, Teamwork and Leadership (ทักษะด้านความร่วมมือ การทำงานเป็น
ทมี และภาวะผูน้ ำ)
C5 – Communications, Information and Media Literacy (ทกั ษะด้านการสอ่ื สารสารสนเทศ
และรู้เท่าทนั ส่ือ)
C6 - Computing and ICT Literacy (ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศและ
การส่ือสาร)
C7 - Career and Learning Skills (ทกั ษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้)
C8 – Change (ทักษะการเปล่ียนแปลง)
L1 – Learning (ทกั ษะการเรียนรู้)
L2 – Leadership (ทกั ษะความเปน็ ผู้นำ)
7. การบรู ณาการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
ความพอประมาณ ความมเี หตุผล การมภี มู คิ ุ้มกัน เงือ่ นไขความรู้ เงื่อนไขคุณธรรม
- รูจ้ ักบรหิ ารเวลาใน - แบง่ งานและหนา้ ที่ - มกี ารวางแผนการ - อธิบาย - มงุ่ มน่ั ตัง้ ใจทำงาน
ผเู้ รียน การทำกจิ กรรม ตามความสามารถ ทำงานอย่างรอบคอบ ความสัมพันธ์ระหวา่ ง ที่ได้รับมอบหมาย
- ทำกจิ กรรมไดเ้ ต็ม ด้วยความสามัคคีจน ยีน ดเี อน็ เอ และ ด้วยความอดทน
ศกั ยภาพของตนเอง ทำให้งานสำเรจ็ ลุล่วง โครโมโซมได้ และซือ่ สัตย์
-วเิ คราะหแ์ ละจัด - จัดกิจกรรมการ - มกี ารวางแผนและ - ศกึ ษาเรื่องลักษณะ - รักและเมตตาต่อ
กจิ กรรมให้ เรียนการสอน วธิ ีการ เตรียมการสอนเพอื่ ทางพันธุกรรม และ ศษิ ย์
เหมาะสมกบั สอน ส่ือ การวัดและ จัดกิจกรรมการ อธิบายความสมั พนั ธ์ - รบั ผิดชอบ ตรงตอ่
ระดับช้ันและเวลา ประเมินผลให้ เรยี นรใู้ หต้ รงตาม ระหว่าง ยีน ดีเอน็ เอ เวลา
ของนักเรียน สอดคล้องกบั ตัวชว้ี ัด แผนการจัดการ และโครโมโซม
ผู้สอน - ออกแบบวิธกี ารวดั เน้ือหา มาตรฐานการ เรียนรู้
ประเมนิ ผลใหต้ รง เรียนรู้ และสาระการ - วางแผนตดิ ตาม
ตามมาตรฐานและ เรยี นรู้ และประเมนิ ผลการ
ตวั ช้วี ดั ทำงานของนักเรียน
เป็นระยะ ๆ อยา่ ง
ต่อเน่ือง
8. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน (หลกั ฐาน / ร่องรอยแสดงความรู้)
1. แบบจำลองแสดงความสัมพันธร์ ะหว่างยีน ดีเอน็ เอ และโครโมโซม
2. ใบงานที่ 4 ยนี ดีเอน็ เอ และโครโมโซม
9. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
ข้นั นำ
1. ครูนำเข้าสู่กิจกรรม “พอ่ แมห่ นอู ยูไ่ หน” โดยกจิ กรรมมรี ายละเอียดสถานการณ์ ดังน้ี
เด็กคนหนึ่งได้พลัดหลงกับพ่อและแม่ของเขา นักเรียนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าในการตามหาคนที่
หายไป จงึ ตอ้ งหาพอ่ และแมข่ องเด็กเหลา่ นี้ใหเ้ จอโดยเรว็ หากนกั เรียนกลมุ่ ใดหาเจอแลว้ ให้ยกมอื ขนึ้ เพ่ือตอบ
เดก็ คนท่ี 1 ผหู้ ญิงคนท่ี 1 ผหู้ ญิงคนท่ี 2 ผหู้ ญงิ คนที่ 3 ผู้หญงิ คนท่ี 4
เดก็ คนท่ี 1 ผชู้ ายคนที่ 1 ผูช้ ายคนที่ 2 ผ้ชู ายคนที่ 3 ผชู้ ายคนท่ี 4
เด็กคนที่ 2 ผ้หู ญงิ คนที่ 1 ผูห้ ญิงคนท่ี 2 ผู้หญิงคนท่ี 3 ผู้หญงิ คนท่ี 4
เด็กคนท่ี 2 ผ้ชู ายคนที่ 1 ผู้ชายคนที่ 2 ผชู้ ายคนท่ี 3 ผู้ชายคนท่ี 4
เฉลย : เด็กคนที่ 1 มีแมห่ มายเลข 4 และพอ่ หมายเลข 2, เดก็ คนท่ี 2 มแี มห่ มายเลข 3 และพ่อหมายเลข 2
3. ครูใชค้ ำถาม ต่อไปนี้ เมอื่ นกั เรียนยกมือขึ้นเพือ่ ตอบ
- เพราะเหตุใดนักเรียนจึงคิดว่าหมายเลข.... และหมายเลข....จงึ เปน็ พ่อและแมข่ องเดก็ คนน้ี
- เพราะเหตุใดหมายเลขอนื่ ๆ จงึ ไมใ่ ช่พ่อและแมข่ องเดก็ คนนี้
- ลักษณะต่าง ๆ ที่นักเรียนกล่าวมานั้นถูกส่งผ่านจากคนรุ่นหนึ่งไปยังอีกคนรุ่นหนึ่งได้
อย่างไร ลักษณะดังกล่าวนั้นเรียกว่าอะไร (ถูกส่งไปด้วยหน่วยพันธุกรรมลักษณะต่าง ๆ ที่ส่งไป เรียกว่า
ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม)
- จากกิจกรรมลักษณะใดบ้างท่ีถ่ายทอดจากพ่อแม่ส่ลู ูก
- นอกเหนือจากในกจิ กรรมยังมีลกั ษณะใดบา้ งที่ถ่ายทอดจากพอ่ แม่ไปสลู่ ูกหลานได้
5. นักเรยี นและครรู ่วมกันสรปุ เกยี่ วกบั ลกั ษณะทางพันธกุ รรม
ลักษณะทางพันธุกรรม (genetic character) คือ ลักษณะของสิ่งมีชีวิตที่ควบคุมโดยยีน (gene) ซึ่ง
สามารถถา่ ยทอดจากรุ่นหนึง่ ไปยังอกี ร่นุ หน่ึงได้ เช่น จาก พอ่ – แม่ ไปส่ลู กู หลาน โดยอาศยั เซลล์สบื พันธุ์ เป็น
ส่ือกลางในการถ่ายทอด เช่น การมสี ันจมูก , สีผวิ , ลักษณะของตา เป็นต้น
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมเกิดการแปรผันได้ 2 แบบ คือ 1 ลักษณะทางพันธุกรรมท่ีแปรผนั แบบต่อเน่ือง
คือลักษณะทางพันธกุ รรมท่ีสามารถเปลยี่ นแปลงได้ อนั เนือ่ งมาจากสิ่งแวดล้อมภายนอก เชน่ สีผิว สติปัญญา
ความสูง เป็นต้น และ 2 ลักษณะทางพันธุกรรมที่แปรผันแบบไม่ต่อเนื่องเป็นลักษณะทางพันธุกรรมที่ไม่
สามารถเปลีย่ นแปลงได้ เชน่ หมเู่ ลือด สนั จมกู เปน็ ตน้
ขน้ั สอน
1. ครูใหน้ กั เรยี นสังเกตภาพต่อไปน้ี และใช้คำถามดงั น้ี
ภาพท่ี 1 ภาพท่ี 2
สิง่ ท่ฉี ันมเี หมอื นกนั สิ่งท่ฉี นั ตา่ งกัน
- มจี ำนวน 23 คู่ โดยที่ ค่ทู ่ี 1-22 เหมอื นกัน - คู่ท่ี 23 มีลักษณะท่ีตา่ งกนั โดยคู่ท่ี 23 ของภาพที่
- มีการเรียงขนาดจากใหญ่ไปเล็ก 1 น้นั จะมีขนาดเท่ากัน ส่วนคู่ที่ 23 ของภาพท่ี 2
- มีลกั ษณะคล้ายปลาทอ่ งโกห๋ รือตวั X แท่งหน้าจะมีขนาดใหญ่กว่าแท่งท่ี 2
- ภาพ 2 ภาพนี้คอื ภาพของอะไร (แนวคำตอบ: โครโมโซม)
- ถ้าภาพที่ 1 เป็นโครโมโซมเพศหญิง และภาพที่ 2 เป็นโครโมโซมเพศชาย นักเรียนจะรู้ได้
อยา่ งไร (สังเกตจากโครโมโซมคทู่ ี่ 23 ที่ต่างกัน)
- แสดงว่าโครโมโซมค่ทู ่ี 23 จะทำหน้าทีอ่ ะไร (แนวคำตอบ: ทำหนา้ ท่ใี นการกำหนดเพศ)
2. ครอู ธิบายเพม่ิ เตมิ
โครโมโซมนรี้ ปู ร่างของโครโมโซมของมนษุ ย์ โดยโครโมโซมในรา่ งกายมนุษยม์ ีทงั้ หมด 46 แท่งหรือ 23
คู่ แบง่ เป็น 2 ประเภท คือ
1. ออโตโซม (auto some) เป็นโครโมโซมที่ควบคุมลักษณะต่าง ๆ ของร่างกายยกเว้น
ลกั ษณะทีเ่ กีย่ วกบั เพศอยู่ในเซลล์ เพศชายและเพศหญงิ จะมอี อโตโซมเหมือนกนั มี 22 คู่
2. โครโมโซมเพศ (sex chromosome) เป็นโครโมโซมที่ทำหน้าที่ควบคุมหรือกำหนดเพศ
ได้แก่ โครโมโซม X และ โครโมโซม Y ซึ่งจะแตกต่างกันในแต่ละเพศโดยในเพศหญิงมีโครโมโซมเพศแบบ XX
และเพศชายมีโครโมโซมเพศแบบ XY และโครโมโซม Y มีขนาดเล็กกว่าโครโมโซม X มากซึ่งมีอยู่ 1 คู่ คือคู่ท่ี
23
3. นกั เรียนศึกษาตารางดงั ตอ่ ไปนี้ และครใู ช้คำถามดงั น้ี
สิ่งมชี วี ิต จำนวนโครโมโซม
ในเซลล์รา่ งกาย (แทง่ ) ในเซลลส์ ืบพันธ์ุ (แท่ง)
ถั่วลันเตา 14 7
หัวหอม 16 8
ขา้ วโพด 20 10
กลว้ ย 22 11
แมลงหว่ี 8 4
สุนัข 78 39
วัว 60 30
ลิง 48 24
มนษุ ย์ 46 23
- จากตารางขา้ งตน้ นักเรยี นสังเกตอะไรไดบ้ ้าง
• สงิ่ มีชวี ติ แตล่ ะชนดิ มจี ำนวนโครโมโซมไม่เทา่ กนั
• จำนวนโครโมโซม ไม่เกี่ยวข้องกับขนาดของส่ิงมชี ีวิต
• โครโมโซมเซลล์สบื พนั ธจ์ุ ะเป็นครง่ึ หน่ึงของโครโมโซมเซลลร์ ่างกาย
- เพราะเหตใุ ดโครโมโซมเซลล์สืบพนั ธ์ุจึงมีจำนวนเปน็ ครง่ึ หนงึ่ ของโครโมโซมเซลลร์ า่ งกาย
4. ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ
เม่อื เซลลส์ บื พันธ์ุซ่ึงมีโครโมโซม 23 แทง่ จากพอ่ และจากแม่ มารวมกันในกระบวนการปฏสิ นธิ ไซโกต
(Zygote) หรือเซลล์ใหมท่ ่ีได้จะมีจำนวนโครโมโซม 46 อีกครงั้ หน่ึง ซ่งึ เทา่ กบั จำนวนโครโมโซมในเซลลร์ ่างกาย
ตามปกติ
5. นกั เรียนศกึ ษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของโครโมโซม ดีเอ็นเอ และยีน เพม่ิ เตมิ จากแหล่งการเรียนรู้
ต่าง ๆ เชน่ หนงั สือ อินเตอรเ์ น็ต เป็นต้น และตอบคำถามในใบงานที่ 4 โครโมโซม ดีเอน็ เอ และยีน
6. ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ ภายในนวิ เคลยี สมเี ส้นใยขนาดเลก็ พนั กนั เรยี กว่า โครมาทิน (chromatin) หรอื
เส้นใยโครมาทนิ (chromatin fiber) เมอ่ื เซลล์เรม่ิ แบง่ เซลล์ เส้นใยโครมาทินจะหดตัวเปน็ โครโมโซม ซงึ่ แต่ละ
โครโมโซมจะประกอบด้วยแขนหรือรยางค์ 2 ข้าง แต่ละข้างเรียกว่า โครมาทิด (chromatid) และมีจุดเชื่อม
ตดิ กัน เรียกวา่ เซนโทรเมียร์ (centromere) ซง่ึ โครงสร้างพ้ืนฐานของโครโมโซมประกอบด้วยดีเอ็นเอและยีน
ดังภาพ
7. นักเรียนสร้างแบบจำลองความสัมพันธข์ องโครโมโซม ดีเอ็นเอ และยีน โดยแบ่งเป็นกลุ่ม กลุ่มละ
5-6 คน จากน้ันนำเสนอหน้าชนั้ เรียน
ขัน้ สรปุ
1. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรปุ เกีย่ วกับความสัมพนั ธ์ของโครโมโซม ดีเอน็ เอ และยีน
10. สื่อการสอน
1. สไลด์คอมพวิ เตอร์ เรือ่ ง “ยีน ดเี อ็นเอ และโครโมโซม”
11. แหล่งเรยี นรใู้ นหรอื นอกสถานที่
1. อนิ เตอรเ์ นต็
2. หนงั สอื เรยี น
12. การวัดและประเมินผล
เปา้ หมาย วธิ ีการวดั และ เคร่ืองมอื เกณฑ์การประเมิน
1. อธบิ ายความสัมพันธ์ ประเมนิ ผล - คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ระหวา่ ง ยนี ดีเอ็นเอ และ 7-10 คะแนน ผ่าน
โครโมโซมได้ (K) - ตรวจใบงานท่ี 4 - ใบงานที่ 4 0-6 คะแนน ไมผ่ า่ น
ความสมั พันธร์ ะหว่าง ความสัมพนั ธ์
ยีน ดีเอ็นเอ และ ระหวา่ ง ยนี ดี
โครโมโซม เอน็ เอ และ
โครโมโซม
12. การวัดและประเมนิ ผล (ตอ่ )
เปา้ หมาย วิธกี ารวดั และ เครอื่ งมอื เกณฑ์การประเมิน
ประเมินผล
2. สร้างแบบจำลองเพ่ือแสดง - ตรวจแบบจำลอง - แบบจำลอง - คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งยนี ดี ยนี ดเี อน็ เอ และ ยีน ดเี อ็นเอ 5 - 10 คะแนน ผ่าน
เอน็ เอ และโครโมโซมได้ (P) โครโมโซม และโครโมโซม 0 - 4 คะแนน ไม่ผา่ น
- สงั เกตการตอบ - แบบประเมนิ - ตามเกณฑก์ ารประเมนิ แบบบันทกึ พฤตกิ รรม
คำถามของนักเรยี น การตอบคำถาม การตอบคำถาม
3. มีความซ่อื สัตย์ ใฝ่เรียนรู้ - สังเกตการณ์ทำงาน - แบบประเมิน เกณฑ์การให้คะแนน
และมุง่ มน่ั ในการทำงาน (A)
กลุ่ม กิจกรรม พฤตกิ รรมการ พฤติกรรมหรือผลงานดี ให้ 3 คะแนน
สรา้ งแบบจำลองเพื่อ ทำงานกลุม่ พฤตกิ รรมหรือผลงานปานกลาง ให้ 2 คะแนน
แสดงความสมั พันธ์ พฤตกิ รรมหรอื ผลงานพอใช้ ให้ 1 คะแนน
ระหว่างยนี ดีเอน็ เอ พฤตกิ รรมทีไ่ ม่ปฏบิ ตั ิงานหรือไมม่ ีผลงาน ถือวา่
และโครโมโซม ปรับปรงุ ให้ 0 คะแนน
ระดับคุณภาพคะแนน
คะแนน 10 - 12 = ดมี าก
คะแนน 7 - 9 = ดี
คะแนน 3 - 6 = พอใช้
คะแนน 0 - 2 = ปรับปรงุ
13. กิจกรรมเสนอแนะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
14. บันทกึ ผลการเรยี นรู้ และขอ้ เสนอแนะ
ผลการจัดการเรียนรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปญั หา อุปสรรค
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
แนวทางแกไ้ ขปญั หา อุปสรรค / ขอ้ เสนอแนะ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชือ่ .............................................................
(นางสาวนนั ทนา บญุ ชู)
ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย
แบบบันทึกพฤติกรรมการตอบคำถาม
คำช้แี จง : ให้ครผู ู้สอน ทำเครื่องหมาย ลงในตาราง เมื่อนกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ มีส่วนร่วมในการตอบคำถาม
คำถามที่ให้ผเู้ รียนมีส่วนรว่ มอภิปราย กลุม่
1 2 3 4 5 6 7 8 9 10
ขั้นนำ
ขนั้ สอน
ขัน้ สรุป
• อ่นื ๆ
รวม
การประเมนิ
*กลุ่มทีม่ ีสว่ นร่วมในการตอบคำถามมากกวา่ 2 คำถาม ถือว่าผ่าน
** บนั ทึกในช่องประเมิน ทำเครือ่ งหมาย / หากนักเรยี นกลุ่มนั้นผา่ นการประเมนิ
แบบประเมินพฤตกิ รรมการทำงานกลุม่
สมาชกิ ภายในกลุม่
1................................................................................... 2....................................................................................
3 .............................................................................. 4.....................................................................................
5. ...............................................................................
คำชีแ้ จง ให้ทำเคร่อื งหมาย/ในช่องที่ตรงกับความเป็นจรงิ
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
พฤตกิ รรมหรือผลงานท่ีชัดเจนถือวา่ ดีให้ 3 คะแนน
พฤตกิ รรมหรือผลงานเทยี บเท่าคนท่วั ไปถอื ว่าปานกลางให้ 2 คะแนน
พฤตกิ รรมหรอื ผลงานตำ่ กว่าคนทัว่ ไปถอื ว่าพอใช้ให้ 1 คะแนน
พฤติกรรมทีไ่ ม่ปฏิบตั งิ านหรือไม่มีผลงาน ถอื วา่ ปรับปรุง ให้ 0 คะแนน
ท่ี รายการพฤตกิ รรม คณุ ภาพการปฏบิ ัติ ไมป่ ฏบิ ตั ิ
ดี ปานกลาง พอใช้ ปรับปรุง
1 มคี วามตัง้ ใจทำงาน 321
2 มีการแบง่ หน้าทอี่ ยา่ งเหมาะสมและสมาชกิ ทำ 0
ตามหน้าทีท่ กุ คน
3 มกี ารให้ความชว่ ยเหลือกนั
4 ผลงานเสร็จทนั ตามกำหนดเวลา
รวม
ลงช่อื ......................................ผปู้ ระเมิน
............/............/..........
ใบงานที่ 4 โครโมโซม ดีเอน็ เอ และยีน
คำชแี้ จง : ตอบคำถามเกย่ี วกับโครโมโซม ดีเอน็ เอ และยีน
1. จงยกตวั อย่างลักษณะทางพันธกุ รรมทถ่ี ่ายทอดโดยยีนบนโครโมโซม
............................................................................................................................. ......................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................................................
...................................................................................................................................................................................................................
2. โครโมโซม คืออะไรอะไร
............................................................................................................................. ......................................................................................
............................................................................................................................................................ .......................................................
3. จงอธิบายรูปรา่ งของโครโมโซม
............................................................................................................................. ......................................................................................
.................................................................................................................................................... ...............................................................
4. โครโมโซมมนษุ ย์ชายและหญงิ เหมอื นหรือแตกต่างกนั อยา่ ไร vvv
............................................................................................................................. ......................................................................................
.......................................................................................................................................................................... .........................................
...................................................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................................................
5. จงยกตวั อยา่ งลกั ษณะทางพนั ธกุ รรมที่ถา่ ยทอดโดยยีนบนโครโมโซม
............................................................................................................................. ......................................................................................
............................................................................................................................. ......................................................................................
...................................................................................................................................................... .............................................................
...................................................................... ............................................................................................................................. ................