มหาชาติ
หลังจากสมเด็จพระสมั มาสัมพุทธเจ้าทรง
แสดงยมกปาฏิหารย์ ทาให้พระประยูร
ญาติละทฐิ ยิ อมถวายบงั คม กบ็ งั เกิดฝน
โบกขรพรรษ พระภกิ ษุทงั้ หลายจงึ ได้
ทลู ถามพระพุทธเจ้า พระพุทธองคต์ รัส
เลา่ ว่า ฝนชนดิ นเี้ คยตกมาแล้วในอดตี
พระองคจ์ งึ ทรงแสดงธรรมเรอ่ื งมหา
เวสสนั ดรชาดก หรอื เรื่องมหาชาติ
ท้ัง ๑๓ กณั ฑ์ ตามลาดบั
กัณฑ์ท่ี ๑ กัณฑ์ทศพร
กล่าวถึงพระนางผุสดีเทพกัญญาเป็นเป็น
พระชายาของพระอินทร์ไดถ้ งึ คราวต้องจตุ จิ าก
สวรรค์ จงึ ได้ขอพรจากพระอินทร์ ๑๐ ประการ
นางจึงขอให้นางได้เป็นพระอคั รมเหสีของ
พระราชากรงุ สพี ี มคี วามงามทางกาย
เพียบพร้อม แม้กระทัง่ ระหวา่ งทรงครรภ์ และ
ขอใหม้ ีพระราชโอรสทมี่ บี ารมีชื่อเสยี งเลอื่ งลอื
ไปทวั่ สุดท้ายขอใหไ้ ดม้ ีโอกาสช่วย จากนัน้
นางก็ไดล้ งมาเกดิ ในโลกมนษุ ย์ และไดเ้ ปน็ พระ
มเหสขี องพระเจา้ กรุงสญชัย และมพี ระราชโอรส
คือ พระเวสสนั ดร
กัณฑ์ที่ ๒ กัณฑ์หิม
พานต์
พระเวสสันดร เปน็ ผมู้ ีบญุ ญาบารมี และ
จิตใจใฝใ่ นการใหท้ าน จนครั้งหน่ึงพราหมณเ์ มอื
งกลงิ ครัฐ ๘ คน มาทลู ขอพญาช้างปัจจยั นาคอนั
เป็นช้างค่บู า้ นค่เู มอื งทาให้เมืองอุดมสมบูรณ์จาก
พระเวสสันดรเพื่อฝนตกบ้านเมืองของพวกตน
พระเวสสนั ดรก็พระราชทานให้ ทาให้ชาวเมอื ง
แคน้ เคืองใจพากันประทว้ งทูลพระราชบิดาให้
เนรเทศพระเวสสนั ดรออกไปจากเมือง
กัณฑ์ที่ ๓ ทานกัณฑ์
พระนางผสุ ดีไปทลู วิงวอนขอโทษพระ
เจ้ากรุงสญั ชัยให้ทรงลดหย่อนผ่อนโทษแตไ่ ม่
สาเร็จ จากนนั้ พระเวสสันดรทรงขอบาเพญ็ มหา
ทาน เรยี กว่า "สัตตสดกมหาทาน" แลว้ ทูลลา
พระชนกชนนี ทรงขนึ้ ราชรถเวียนรอบเมือง มี
พราหมณ์ ๔ คนมาทลู ขอมา้ และราชรถพระองค์
กเ็ ปลอื้ งปลดพระราชทานให้
กัณฑ์ท่ี ๔
กัณฑ์วนประเวศน์
พระเวสสันดร พระนางมัทรี พระชายา
พรอ้ มพระราชโอรส ธิดา ชาลี กณั หา เสด็จม่งุ สู่
ป่าเขาครี ีวงกต โดยอาศัยไมตรีจติ มติ รกษัตรยิ ์
เมืองเจตราชทูลระยะทาง จนกระท่ังถึง ทงั้ ส่ี
พระองคท์ รงเปล่ียนเคร่ืองทรงเป็นนงุ่ หม่ ของ
นกั บวชบาเพญ็ พรตอยใู่ นนัน้ กษตั รยิ เ์ จตราช
แตง่ ตงั้ พรานเจตบุตรเป็นผู้อยคู่ อยพิทักษร์ ักษา
สวัสดภิ าพของพระเวสสันดร
กัณฑ์ท่ี ๕ กัณฑ์ชูชก
กล่าวถงึ พราหมณ์ชูชก ได้เร่ร่อนขอทาบ
แลว้ นาเงนิ ไปฝากเพื่อนไว้ แต่เพ่อื นกน็ าเงนิ ไป
ใช้จนหมด เมอ่ื ชชู กไปทวงจงึ ไม่มีจะให้ จึงยก
นางอมติ ตดาธดิ าสาวให้แทน นางปฏิบตั ติ ่อสามี
ดี จนเปน็ เหตุใหพ้ ราหมณีเพ่อื นบา้ นพากนั อิจฉา
ด่าวา่ ตบตี เลยไมย่ อมทางานนอก และแนะให้
เฒ่าชูชกไปทลู ขอสองกุมารมาเปน็ ข้าทาสรบั ใช้
กัณฑ์ท่ี ๖ กัณฑ์จุลพน
ชูชกจึงเดินทางไปเขาวงกต พบพรานเจต
บุตร ชชุ กใชก้ ลอบุ ายหลอกวา่ เปน็ ราชทตู ของ
พระเจา้ กรงุ สัญชัย พร้อมชกู ลักพริก กลกั ขงิ
เสบยี งกรังท่นี างอมติ ตดาจดั หาให้ วา่ เปน็ พระ
ราชสาสน์ ของพระเจา้ กรุงสญั ชยั จนพรานเจต
บตุ รหลงเชอื่ จึงชี้บอกทางใหไ้ ปจนถึงอาศรมบท
ของพระอัจจตุ ฤาษี
กัณฑ์ที่ ๗ กัณฑ์มหาพน
ชูชกเดนิ ทางไปพบพระอัจจตุ ฤาษี ได้
หลอกลวงพระฤาษีให้หลงกลว่าเป็นกัลยาณมิตร
ของพระเวสสนั ดร จนไดพ้ กั ค้างคนื กับพระฤาษี
รุ่งข้นึ พระฤาษไี ด้ใหก้ ินผลไม้ และชใ้ี หช้ มเขา
ลาเนาไพรพรอ้ มบอกระยะทางสภาพปา่ และ
หนทางทจ่ี ะไปส่เู ขาวงกตให้แกช่ ูชก
กัณฑ์ท่ี ๘ กัณฑ์กมุ าร
ชชู กเดนิ ทางถงึ อาศรมของพระเวสสันดร
ไดห้ ยดุ พักผอ่ นทีค่ าคบไม้ ๑ ราตรี รุง่ ขึ้นเมือ่
นางมัทรีเข้าปา่ หาผลไม้แลว้ ชูชกจึงเข้าเฝา้ ทลู
ขอพระชาลแี ละกณั หา ก็ทรงประทานให้ สอง
กุมารได้ยนิ จึงตกใจกลัวหนีไปซอ่ นตัวอยใู่ นสระ
พระเวสสนั ดรไดข้ อร้องให้ทัง้ สองพระองค์
ออกมา แล้วชชู กก็นาท้ังสองพระองคไ์ ป
กัณฑ์ที่ ๙ กัณฑ์มัทรี
กล่าวถงึ พระนางมทั รเี ข้าป่าหาผลไม้
แล้วเจอเหตกุ ารณม์ หัศจรรยต์ า่ ง ๆ จึงเดนิ ทาง
กลบั อาศรม กเ็ กดิ พายุใหญ่ มดื ครึ้มไปท่ัว
บรเิ วณ อีกทงั้ ยังมีสิงหส์ าราสตั ว์ร้าย มา
ขวางทางไว้ เมื่อมาถงึ อาศรมได้ทราบความ ทา
ให้พระองค์เสียพระทัยมาก จนสลบไป หลงั จาก
ฟืน้ คืนสติกลบั มา พระนางก็อนโุ มทนากับพระ
เวสสนั ดรด้วย
กัณฑ์ท่ี ๑๐
กัณฑ์สกั กบรรพ
กล่าวถงึ พระอนิ ทร์ เกรงวา่ จะมีผ้มู าขอ
พระนางมทั รีไปอกี จักไม่มีผ้ปู รนนิบัตพิ ร
เวสสนั ดร พระโพธิญาณจกั เปน็ อนั ตราย จึงได้
แปลงเป็นพราหมณช์ ราลงมาขอ เมื่อได้แล้วไม่
เอาไป กลับถวายคนื แก่พระเวสสันดร โดยห้าม
ประทานนางแกผ่ ูใ้ ดอีก พร้อมทง้ั ประสาทพร ๘
ประการ ใหแ้ กพ่ ระเวสสันดร แลว้ จงึ เสดจ็ กลบั สู่
สวรรค์
กัณฑ์ที่ ๑๑
กัณฑ์มหาราช
ด้านชชู กได้พาสองกมุ ารหลงทางไป
จนถงึ เมืองสีพี จนกระทั่งได้พบกับพระเจ้าปพู่ ระ
เจ้าย่า จงึ รบั ส่งั ใหไ้ ถถ่ อนตัวทั้งสองพระองค์
และพระราชทานเลยี้ งอาหารชน้ั ดีแก่ชชู ก ชชู ก
ไมม่ ีวาสนาเพราะบรโิ ภคมากเกินไป เป็นเหตุถึง
แก่ความตาย พระเจา้ สญชยั ทรงทราบเรอ่ื ง
รบั ส่งั ใหเ้ ตรียมกองทัพไปรับสองพระองค์
กัณฑ์ท่ี ๑๒
กัณฑ์ฉกษัตรยิ ์
พระเจ้ากรงุ สญั ชัยและจตุรงคเสนา
เดินทางไปถงึ เขาวงกต กษัตริย์ทัง้ ๖ พระองค์
ได้มาพบกันในกลางปา่ โดยมิไดค้ าดฝนั ก็ทรง
วิปโยคโศกศลั ย์จนถงึ วิสญั ญภี าพสลบลง ฝน
โบกขรพรรษบนั ดาลตกลงมาใหท้ รงฟ้นื แลว้ พา
กันขอลุโทษและทูลอาราธนาให้ลาผนวช
กัณฑ์ท่ี ๑๓ นครกัณฑ์
พระเวสสนั ดรเมื่อลาผนวชแลว้ ทรงสงั่
ลาพระอาศรม รบั พระราชทานเคร่ืองทรง
กษัตริย์ แลว้ เสดจ็ กลบั ไปขน้ึ ครองราย์เมืองสีพี
ทาให้ไพรฟ่ า้ เสนาอามาตยม์ สี ุขสงบกันทว่ั ทั้ง
แคว้นดว้ ยความร่มเยน็ เป็นสขุ ชาวเมอื งตา่ งก็
หมั่นถอื ศีลบาเพญ็ กุศลตามสตั ย์อธษิ ฐานของ
พระเวสสันดร กษตั ริย์เมอื งกลิงคราฐกน็ าชา้ ง
ปัจจัยนาเคนทรม์ าถวายคนื เพราะบ้านเมอื งมี
ฝนตกต้องตามฤดกู าลแล้ว พระเวสสนั ดรกท็ รง
อย่ใู นทศพิธราชธรรม จนพระชนมายุ ๑๒๐
พรรษา จงึ สวรรคตแล้วไปปรากฏอุบัติเป็นท้าว
สันดุสติ เทพบุตร บนสวรรค์ชนั้ ดุสิต