The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by teacherji19281928, 2021-05-23 11:10:56

เนื้อหา1





ค ำน ำ



สำรบัญ





ค ำน ำ .................................................................................................................................. ก

สำรบัญ ............................................................................................................................... ข

ที่มำและควำมส ำคัญ ............................................................................................................. 1

วัตถุประสงค์ของกำรวิจัย ....................................................................................................... 2


ประชำกรที่ใช้ในกำรวิจัย ........................................................................................................ 2

ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ ...................................................................................................... 2

ประชำกร ............................................................................................................................. 3

เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย ......................................................................................................... 3

ขั้นตอนในกำรสร้ำงเครื่องมือ ............................................................................................. 4

กำรเก็บรวบรวมข้อมูล .......................................................................................................... 4

กำรวิเครำะห์ข้อมูล .............................................................................................................. 4

สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล ............................................................................................. 5

1



ทมำและควำมส ำคัญ
ี่
การจัดการศึกษาส าหรับผที่มีความต้องการพิเศษเป็นการให้โอกาสได้รับการพัฒนาศักยภาพ และให้
ู้
ความเสมอภาคทางการศึกษาเช่นเดียวกับคนทั่วไป ดังทบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย พ.ศ.
ี่






2550 ไดกลาวถึงความเสมอภาคกันทางการศกษา และพระราชบัญญัต การศกษาแห่งชาต พ.ศ. 2542 แก้ไข
ี่
ี่


เพิ่มเตม (ฉบับท 2) พ.ศ. 2545 และแก้ไขเพิ่มเตม (ฉบับท 3) แก้ไขเพิ่มเตม 2553 มาตรา 10 ก าหนดไว้ว่า


การจัดการศึกษาต้องจดให้บุคคลมีสิทธิและโอกาส เสมอกันในการได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12
ี่



ั่


ปีทรัฐตองจดให้อย่างทวถึงและมีคณภาพ โดยไม่เก็บคาใชจาย (สานักงานคณะกรรมการการศกษาแห่งชาต.







2553) นอกจากนี้พระราชบัญญัต การจดการศกษาสาหรับคนพิการ พ.ศ. 2551 ไดก าหนดสทธิและหน้าท ี่







ั้





ทางการศกษาว่า คนพิการ มีสทธิไดรับการศกษาโดยไม่เสยคาใชจายตงแตแรกเกิด หรือพบความพิการจน

ตลอดชีวิต พร้อมทั้งได้รับเทคโนโลยีสิ่งอ านวยความสะดวก สื่อ บริการและความช่วยเหลืออื่นใดทางการศกษา





เลอกบริการทางการศกษา สถานศกษา ระบบและรูปแบบการศกษาโดยคานึงถึงความสามารถ ความสนใจ
ความถนัดและความตองการจาเป็นของบุคคลนั้น รวมไปถึงได้รับการศกษาที่มีมาตรฐาน และประกันคณภาพ










การศกษา รวมทงการจดหลกสตร กระบวนการเรียนรู้ การทดสอบทางการศกษาทเหมาะสมสอดคลองกับ
ี่
ั้






ความตองการจาเปนของคนพิการแตละประเภทและบุคคล มาตรา 8 ในพระราชบัญญัตดงกลาวก าหนดไว้ว่า








สถานศกษาในทกสงกัดจดทาแผนการจดการศกษาเฉพาะบุคคล โดยให้สอดคลองกับความตองการจาเป็น






พิเศษของคนพิการ และตองมีการปรับปรุง แผนการจดการศกษาเฉพาะบุคคลอย่างน้อยปีละครั้ง ให้
สถานศึกษาในทุกสังกัดจัดสภาพแวดล้อม ระบบสนับสนุน การเรียนการสอน ตลอดจนบริการเทคโนโลยี

ิ่

ื่
สงอ านวยความสะดวก สอ บริการและความชวยเหลออื่นใดทางการศกษาทคนพิการสามารถเข้าถึงและใช ้

ี่
ู้
ประโยชน์ได และก าหนดให้สถานศกษาหรือหน่วยทเกี่ยวข้องสนับสนุนผดแลคนพิการและประสานความ

ี่


ร่วมมือจากชมชนหรือนักวิชาชพเพื่อให้คนพิการไดรับการศกษาทกระดบ หรือบริการทางการศกษาท ี่







สอดคล้อง กับความต้องการจ าเป็นของคนพิการ (กระทรวงศึกษาธิการ, 2551: 4)







จากรัฐธรรมนูญและพระราชบัญญัตการจดการศกษาดงกลาวทาให้เห็นถึงความสาคญของ การให้


ี่
โอกาสทางการศกษาทเทาเทยมกันโดยไม่เลอกปฏิบัต ประกอบกับการศกษาในสมัยใหม่ในปัจจบัน คอใน







ี่
ศตวรรษท 21 ทเน้นให้ผเรียนต้องมีทกษะเพื่อการดารงชวิตทามกลางความเปลยนแปลง ดงนั้นการสนับสนุน
ี่




ี่

ู้




ี่
ู้


ให้ผทมีความตองการพิเศษไดเรียนรวมกับเดกปกต จะสงผลตอการพัฒนาศกยภาพของผทมีความตองการ

ี่

ู้
ู้




พิเศษและเพิ่มทกษะการดารงชวิตอยู่กับสงคมปกตซึ่งรวมไปถึงการมีปฏิสมพันธ์กับผอื่น ความสามารถในการ



ท างานในทมที่มีความหลากหลาย ที่ผู้เรียนที่มีความบกพร่องจะต้องเผชิญเมื่อถึงวัยท างาน
ั่


ี่
เป็นทยอมรับกันโดยทวไปว่าการวิจยเป็นเครื่องมือสาคญในการพัฒนาและแก้ปัญหา การ


ดาเนินงานทกสาขา และเป็นพื้นฐานสาคญของการพัฒนาประเทศ รวมทงเป็นเครื่องชน าสงคม ผไดรับ


ู้
ั้


ี้


ี่






การศกษาจงเปนบุคลากรทมีคณภาพและเปนกาลงสาคญในการพัฒนาประเทศให้เจริญ ก้าวหน้าเทยบเทา



นานาอารยประเทศ เนื่องจากการวิจัยเป็นกระบวนการที่จะน ามาซึ่งข้อค้นพบใหม่ ๆ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์หากมี

การนาผลการวิจยทคนพบมาใชจะเป็นประโยชน์ตอวงการการศกษา อย่างมาก โดยในพระราชบัญญัต ิ



ี่


2


การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 หมวด 4 มาตรา 24 (5) ระบุให้ใช การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้
ู้
ู้


และมาตรา 30 ระบุให้ผสอนทาวิจยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับผเรียน (สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาแห่งชาติ. 2542) การวิจัยจึงเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาการศึกษามากขึ้น


ู้
ดงนั้นผวิจยจงมีความสนใจทจะสงเคราะห์งานวิจัยเกี่ยวกับการการจดการเรียนรวม โดยผล ทไดจาก



ี่

ี่
การสังเคราะห์งานวิจัยจะเป็นประโยชน์ส าหรับโรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา ครู และหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนผ ู้
ที่เกี่ยวข้องกับการดูแลนักเรียนพิการเรียนรวม สามารถน าข้อมูลผลการสังเคราะห์ ไปเป็นแนวทางในการพัฒนา


ระบบการจดการเรียนการสอน การพัฒนารูปแบบการจดการเรียนรวม ในสถานศกษา และเพื่อประโยชน์ท ี่

ส่งผลต่อนักเรียนพิการเรียนรวมต่อไป

วัตถุประสงค์ของกำรวิจัย



เพื่อสงเคราะห์งานวิจยเกี่ยวกับการการจดการเรียนรวม การบริหาร และการพัฒนารูปแบบในการ
ด าเนินการจัดการเรียนรวม ปี พ.ศ. 2558 – 2560 ในด้านระเบียบวิธีวิจัย ผลการวิจัย และ การน าผลการวิจย

ไปใช้ประโยชน์





ประชำกรที่ใช้ในกำรวิจัย




ประชากรทใชในการวิจัย ไดแก่ รายงานการวิจัยเกี่ยวกับการจดการเรียนรวม การบริหาร และการ

ี่
พัฒนารูปแบบในการด าเนินการจัดการเรียนรวม ปี พ.ศ. 2558 – 2560 จ านวน 13 เรื่อง


ประโยชน์ที่คำดว่ำจะได้รับ


ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการสังเคราะห์งานวิจัยครั้งนี้ คือ
ี่



ผลจากการสงเคราะห์ สามารถเป็นข้อมูลและแนวทางของสานักงานเขตพื้นทการศกษา




ประถมศกษานครศรีธรรมราช เขต 1 ในการน ามาเป็นข้อมูลประกอบในการชวยเหลอดแลโรงเรียน ใน
สังกัดด้านการจัดการเรียนรวม

3












































ประชำกร



ี่



ประชากรทใชในการวิจย ไดแก่ รายงานการวิจยเกี่ยวกับการจดการเรียนรวม และการพัฒนารูปแบบ
การจัดการเรียนรวมในสถานศึกษาและส านักงานเขตพื้นที่ ปี พ.ศ. 2558 – 2560 จ านวน 13 เรื่อง

เครื่องมือที่ใช้ในกำรวิจัย

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นแบบตรวจสอบรายการเพื่อสรุปการวิจัย ที่ผู้วิจัยสร้าง
ขึ้นมี 2 ตอน ได้แก่

ตอนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานของงานวิจัย

4

ตอนที่ 2 วิธีการวิจัย ได้แก่






2.1 ดานแบบแผนการวิจย ไดแก่ สดสวนแบบแผนการวิจย สดสวนกรอบแนวคดในการ



วิจัย

2.2 ด้านเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ สัดส่วนเครื่องมือที่ใชในการวิจัย สัดส่วนวิธีการหา
คุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
2.3 ด้านประชากรเป้าหมายในการวิจัย ได้แก่ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย เทคนิค
การสุ่มกลุ่มตัวอย่าง

ขั้นตอนในกำรสร้ำงเครื่องมือ

ี่



ู้
ี่
เครื่องมือทใชในการวิจยครั้งนี้ เป็นแบบตรวจสอบรายการเพื่อสรุปการวิจย ทผวิจยสร้างขึ้น โดยมี

ขั้นตอนในการสร้างเครื่องมือดังต่อไปนี้

1. ศกษาเอกสารเกี่ยวกับข้อมูลพื้นฐานของการวิจยเพื่อเป็นแนวทางในการก าหนดประเดน


ส าหรับสังเคราะห์งานวิจัยที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนรวม รูปแบบและการพัฒนา
2. เลือกประเด็นที่เหมาะสมกับการด าเนินการวิจัยของผู้วิจัย ซึ่งแบ่งเป็น 2 ตอน
ตอนที่ 1 ข้อมูลพื้นฐานของงานวิจัย
ตอนที่ 2 วิธีการวิจัย ได้แก่






2.1 ดานแบบแผนการวิจย ไดแก่ สดสวนแบบแผนการวิจย สดสวนกรอบแนวคดใน



การวิจัย




ี่





2.2 ดานเครื่องมือทใชในการวิจย ไดแก่ สดสวนเครื่องมือทใชในการวิจย สดสวน

ี่
วิธีการหาคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล
2.3 ด้านประชากรเป้าหมายในการวิจัย ได้แก่ ประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการวิจย

เทคนิคการสุ่มกลุ่มตัวอย่าง
3. สร้างแบบตรวจสอบรายการเพื่อสรุปการวิจัย

กำรเก็บรวบรวมข้อมูล
1. ศึกษางานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับการจัดการเรียนรวม ปี 2558 – 2561 จ านวน 13 เรื่อง
2. ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน ประกอบด้วย ชื่อเรื่อง ชื่อผู้วิจัย ปีที่พิมพ์เผยแพร่ และศึกษาระเบยบวิธีวิจย



ประกอบดวย สดสวนแบบแผนการวิจย สดสวนกรอบแนวคดในการวิจยสดสวนเครื่องมือทใชในการวิจย




ี่







สัดส่วนวิธีการหาคณภาพเครื่องมือทใช้ในการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง

ี่

ในการวิจย เทคนิคการสมกลมตวอย่าง การวิเคราะห์ข้อมูลและการสรุปและอภิปรายผลการวิจย จาก

ุ่

ุ่
วิทยานิพนธ์ แล้วบันทึก ข้อสรุปลงในแบบตรวจสอบรายการ เพื่อสรุปงานวิจัย
3. สรุปงานวิจัยที่ท าการเก็บรวบรวมข้อมูล 13 เล่ม

กำรวิเครำะห์ข้อมูล
1. การสังเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของงานวิจัย โดยจ าแนกตามปีที่พิมพ์เผยแพร่ ซึ่งใช้สถิต ิ

5

การแจกแจงความถี่และร้อยละ









2. การสงเคราะห์ระเบียบวิธีวิจย ประกอบดวย สดสวนแบบแผนการวิจย สดสวนกรอบแนวคดในการ
ี่

วิจัย สัดส่วนเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย สัดส่วนวิธีการหาคุณภาพเครื่องมือทใชในการวิจัย สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์
ข้อมูล ประชากรและกลุ่มตัวอย่างในการวิจัย เทคนิคการสุ่มกลมตัวอย่าง การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์
ุ่
ข้อมูล และการสรุปและอภิปรายผลการวิจัย ซึ่งใช้การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) โดยการน าเนื้อหา

ี่


ทเกี่ยวกับระเบียบวิธีวิจยทบันทกไว้ใบแบบตรวจสอบรายการมาจดประเภท (Sort) เป็นหมวดหมู่ตามหัวข้อ
ี่

จากนั้นจึงสังเคราะห์เนื้อหาในแต่ละชุด โดยใช้สถิต การแจกแจงความถี่และร้อยละ

สถิติที่ใช้ในกำรวิเครำะห์ข้อมูล
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ การแจกแจงความถี่และร้อยละ
ี่



1. ความถี่ (Frequency) คือ การแจงนับจ านวนของสิ่งทเราตองการศึกษาว่ามีจานวนเทาใด



ี่


ั้
2. ร้อยละ (Percentage) คอ การเปรียบเทยบจานวนทตองการหากับจานวนทงหมดท ี่

ก าหนดให้เป็น 100 นิยมเรียกว่า เปอร์เซ็นต์ ใชสญลกษณ % การใชสตรในการคานวณหาคาร้อยละมีดงนี้








(ไพศาล วรคา. 2555 :104)


Click to View FlipBook Version