๔๘
เจา้ คนนไี้ ซร้ เฒา่ คิดในใจ
รกั คนราศี โฉมงามหนกั หนา
รูปโฉมโสภา จะมีปญั ญา
พกั ตราคมสนั
กูอับปญั ญา
พศิ ดูเจา้ ฟ้า เจา้ คนนี้มา
จงึ พราหมณ์เฒ่านน้ั ท่ีวา่ จะบอกทัน
พักตราคมสัน
หนมุ่ นอ้ ยสะคราญ เข้ามาปราศรัย
เชอ้ื วงศ์พงศ์เผา่
เจา้ มาแตไ่ หน ดรู ากุมาน
เจา้ มาแตไ่ หน
พราหมณ์คนน้ีไซร้ ลูกเตา้ ของใคร
ชะรอย225อาจารย์ บอกไปจงพลัน
เจา้ บอกด้วยพลัน
พระคดิ ในใจ
บอกแก่วรรณพราหมณ์ เจรจาคมสนั
ขา้ ปน่ิ ธรณี ของพระทรงธรรม์
ลาพระภมู นิ ทร์ วา่ จะมาเรยี นศิลป์ไชย
ได้ฟงั ผู้ท้าว จงึ พระโฉมงาม
วทิ ยาอาคม โดยใจถวนิ
จะเรยี นศิลปไ์ ชย เป็นเจ้าแผ่นดนิ
มาเรยี นศลิ ปไ์ ชย
225 ชะรอย หมายถงึ เหน็ จะ, เหน็ ทีจะ, ท่าจะ, บางที
อนั พราหมณ์ผูเ้ ฒา่
จงึ กลา่ วปราศรัย
อุดมเลิศไตร
ไปอย่ดู ว้ ยกนั
๔๙
จะเล้ยี งเจา้ ไว้ ตวั ข้านีไ้ ซร้
รำ่ เรยี นศิลปไ์ ชย เป็นลกู บญุ ธรรม
ไตรเพท226ทง้ั นนั้ ไปอยู่ด้วยกนั
เรียนธรรมทั้งหลาย
ได้ฟังพราหมณ์เฒ่า
ขา้ มาแตไ่ กล เม่อื นั้นพระเจ้า
เรยี นธรรมท้งั หลาย แย้มยม้ิ ภปิ ราย227
โดยใจขา้ หมาย
พาพระราชา ข้าขออาศยั
คร้นั มาถงึ เรือน
ตาพราหมณบ์ อกให้ วรรณพราหมณ์ฤทธา
ลนิ ลาคลาไคล
เปน็ ลาภของเรา ร้องเตือนทันใจ
ได้บุตรบญุ ธรรม แกน่ างภรยิ า
หน่อนามกษัตรา
วันนีห้ นาเจ้า
ไดเ้ ล้ยี งเจา้ หนอ่ ไท มากมายนักหนา
เปน็ บตุ รบุญธรรม เลศิ ลำ้ โลกา
รำ่ เรยี นศิลปไ์ ชย มาแตเ่ มอื งไกล
คร้ันได้ฟังความ อันตวั ของเรา
มีความยินดี ...(ขาดหาย)...
ไดพ้ ระทูนหัว เลศิ ล้ำจะมีไหน
จะไดแ้ ทนตวั
นางเมียวรรณพราหมณ์
นางย้ิมแยม้ หัว
ทนี ้ีบุญตวั
มาเป็นบญุ ธรรม
226 ไตรเพท หมายถงึ ช่ือคมั ภีรศ์ าสนาพราหมณ์ในสมัยพระเวท มี 3 คัมภีร์ คอื ฤคเวท ยชรุ เวท สามเวท
227 ภิปราย หมายถึง อภปิ ราย มีความหมายว่า พูดชแ้ี จงแสดงความคดิ เห็น
๕๐
ชื่อไรโฉมงาม นางจงึ ไถ่ถาม
จงึ พระหนอ่ ไท เจ้าจงบอกพลัน
ซื่อของดีฉนั บอกใหพ้ ราหมณ์น้นั
ชือ่ สุวรรณทกุมาร
ผวั เมียสองเฒ่า
จงึ สั่งข้าไท รจู้ กั ช่ือเจา้
โภชนาอาหาร เร่งมาช่ืนบาน
เร็วไวอยา่ นาน
อย่ใู นครัวไฟ จดั แจงแต่งมา
............จม่ี ีมัน228
เสรจ็ แลว้ มิช้า บรรดาขา้ ไท
ตกแต่งโภชนา
เสวยโภชนาหาร สารพนั โอชา
ค่อยอยูส่ บาย ยกมาครบครนั
พระองค์ทรงธรรม์
เจ้าสวุ รรณทกมุ าร
ปัญญาสามารถ เสร็จแลว้ ด้วยพลัน
วิทยาอาคม มาได้หลายวนั
เรยี นได้ขึน้ ใจ ร่ำเรียนศิลป์ไชย
เรียนจบไตรเพท เรยี นศลิ ปศาสตร์
เรียนไดเ้ ทา่ ไร จำไดข้ ึ้นใจ
ปญั ญาพระองค์ อดุ มเลศิ ไกร
จำไดม้ น่ั คง
จึงพระภเู บศ
มิไดล้ ืมหลง
จำได้มนั่ คง
เลิศลำ้ โลกา
228 คณะผ้จู ดั ทำไมท่ ราบว่าหมายถงึ สง่ิ ใดเนอ่ื งจากมีคำทขี่ าดหายไป
๕๑
พราหมณ์เฒา่ บอกให้ จะเรียนส่ิงไร
เรยี นจบครบครนั สนิ้ พุงส้นิ ท่า
เรียนพระคาถา สารพันวิชา
จบสรณาคมน์229
เจา้ มีปญั ญา
จบชนิ 230วิทยา วรรณพราหมณ์จึงวา่
ปัญญาอดุ ม เลศิ ล้ำอดุ ม
จบสรณาคมน์
พระสุวรรณทกุมาร จะให้แทนตวั
ยอมใหพ้ ราหมณเ์ ฒ่า
เฒ่ายิ้มแยม้ หวั ไดฟ้ ังอาจารย์
เจ้ายิ้มแยม้ หวั
ธูปเทียนแตง่ ไว้ เอาเขา้ ถวายตวั
จะถวายตัวเจา้ จึงสั่งภรยิ า
ใหแ้ ทนตัวขา้
ให้หาดอกไม้
เหน็ ว่าจะได้ ดอกไมน้ านา
ธูปเทยี นดอกไม้ พระเฝ้าพงั งา
จึงพราหมณ์เฒ่าน้ัน เฝา้ ท้าวทกุ วัน
ใหพ้ ระภมู ี เมียพราหมณ์ดีใจ
อาบนำ้ ทาแป้ง ประทานรางวัล
รูปทรงทา้ วไท แต่งไดค้ รบครัน
ดูฤกษ์ทนั ใจ
229 สรณาคมน์ หมายถงึ การยึดเอาเป็นทีพ่ ่งึ ที่ระลึก
230 ชิน ในท่นี ี้หมายถงึ ชอ่ื ศาสนาหน่งึ ในอนิ เดยี คร้นั ได้ฤกษ์ดี
แต่งตวั ทนั ใจ
แตง่ หน้ากนั ไร
งามยิง่ เทวา
๕๒
หม่ แพรพุดดวง นุง่ ผ้าพ้ืนม่วง
จงึ ตาพราหมณ์เฒา่ เห็นงามรจนา
พอทา้ วเบญจา พาเจา้ เข้ามา
เสด็จออกจากทันใจ
บังคมก้มเกล้า เมื่อนัน้ พราหมณ์เฒ่า
ขา้ ขอถวาย ทูลถวายหน่อไท
แก่พระภวู ไนย ลกู สาวทรามวยั
สมเดจ็ ราชา
เบญจาธิราช บัดนัน้ พระบาท
วา่ ลูกวรรณพราหมณ์ ประพาสชงคา
ศรีศักดล์ิ ัคนา โฉมงามพอตา
เปน็ ...(ขาดหาย)...เอน็ ดู
รปู ทรงงามนกั เสยี ดายตำ่ ศักด์ิ
นรลักษณ์231พักตรา อรชรเฉดิ ฉาย
เป็นลูกเขยกู เปน็ หน้าเอน็ ดู
เห็นจะควรกนั
ออกมามิได้ คดิ แต่ในใจ
พระคิดจะให้ หมายพระกระสนั
เจา้ ปกครองกัน หนอ่ ไทจอมขวัญ
กบั พระบตุ รี
จงึ พระราชทาน คิดแลว้ ภบู าล
เงนิ ทองเสอ้ื ผ้า ใหแ้ ก่โฉมศรี
ให้แกพ่ ันปี232 เงนิ ตรามากมี
เจา้ สวุ รรณทกุมาร
231 นรลักษณ์ มากจากคำวา่ นร มีความหมายว่า ผู้ชาย ซึ่งถา้ เปน็ หญิงจะใชว้ า่ นรี หรือนารี กับคำว่า ลกั ษณะ ซงึ่ มี
ความหมายวา่ สมบัตเิ ฉพาะตัว ซึ่งมารวมกันกจ็ ะหมายถึง ชายท่มี ลี ักษณะเฉพาะตัว แต่เหตุท่ใี ส่ทณั ฑฆาตกเ็ พือ่ ให้อ่านออก
เออ้ื สมั ผัส
232 พนั ปี เป็นศัพท์โบราณ ซึ่งมีความหมายว่า พระเจา้ แผน่ ดนิ แตป่ ัจจบุ ันหมายถงึ คำเรียกพระราชชนนวี า่ สมเด็จพระพันปี
๕๓
เอามาจากคลงั เงินตราสิบหา้ ชั่ง
วรรณพราหมณ์น้ันไซร้ ใหเ้ อาบน่ าน
ถวายภูบาล ดีใจใครจะปาน
เสรจ็ แลว้ ทูลลา
ผัวเมยี สองเฒ่า
ดีเนอ้ื ดีใจ มาถึงเรอื นแลว้
สมความปรารถนา ชืน่ ชมหรรษา
ไดฟ้ งั จินดา
เจ้าไดป้ ระทาน สองราดใี จ
ใหท้ า้ วทงั้ สอง
สองเฒา่ เกบ็ ไว้ เจ้าสุวรรณทกมุ าร
มากมายเท่าใด
เฝา้ ท้าวเจรจา เงินทองกองใหญ่
เย็นเช้าเข้าเฝ้า ดีใจหนักหนา
เฝา้ ท้าวทุกวัน
เมอื่ นน้ั ราชา
กาพยย์ านี 11 เปน็ นจิ ทกุ วัน
เมอ่ื นน้ั ทา้ วเบญจา เจ้าไม่เดียดฉันท์
เปน็ นริ ันดร
ชอ่ื เจา้ ประทุมเกสร
ดวงหนา้ คอื วงเดอื น มธี ิดางามบวร
เป็นสาวแท้สิบหา้ ปี
รปู ทรงนางเทวี ใครจะเหมอื นในโลกี
รปู ร่างอยา่ งนมิ ิต ย่งิ นารเี มืองสวรรค์
ช้ันดุสิตไม่เทียมทัน
พระกรของเจา้ นัน้ คอื ด่ังงวงไอยรา
พระโอษฐค์ ือชาติแต้ม เมอื่ ยิม้ แย้มเจรจา
ดง่ั ในตามฤคี
พระเนตรทั้งซา้ ยขวา ดงั เกสรประทุมศรี
ขนตาเจ้างามงอน งามมศี รีดง่ั ปรางคท์ อง
พระปรางคน์ างเทวี
๕๔
เตา้ นมเจา้ ครดั เครง่ งามปลงั่ เปลง่ อยู่ทั้งสอง
น้องเอย๋ ตูมตั้งดังบัวทอง งามเรืองรองรจนา
คอื แมงทบั ปีกภุมรา
เกศาเจ้าดำขลับ หน้าเปน็ นวลยวนใจชาย
คิ้วโกง่ สดุ หางตา ประดับแกว้ อยูพ่ รายพราย
เจา้ ข้นึ อยปู่ ราสาททอง
ปราสาททำด้วยแก้ว นางธดิ าคอยเยี่ยมมอง
นางนอ้ งผ้โู ฉมฉาย เจ้าเดินมาผ่านแกล233ชยั
นางนงเยาว์ต้องตดิ ใจ
วนั หน่ึงน้นั เล่าหนา นางจะใครเ่ สน่หา
จงึ เหน็ พระทอง เหตุไรพลัดจากเมอื งมา
ความเสนห่ าบังเกิดมี
แล้วเหน็ รปู พระเจ้า ใหฟ้ ุง้ ซ่านดว้ ยโลกี
มีความพิสมยั จนสุดเนตรไมเ่ ห็นองค์
นางนอ้ งแก้วเร่งพิศวง
หรอื ว่าหนอ่ กษรั ิย์ นางโฉมยงเข้าท่นี อน
โฉมยงเจ้าสงกา234 รอ้ นดังไฟมาสุมขอน
ถอนใจใหญไ่ ม่เจรจา
ไฟราค235หากเผาพลาญ พระกำนัลท้งั ซา้ ยขวา
แลดพู ระโฉมศรี นางฉายาให้งวยงง
ใหพ้ ลุ่งพลา่ นดงั เพลิงลน
สดุ ตาเจ้าแลแลว้ ตกจากองค์ไม่รตู้ วั
แลไปไมเ่ หน็ องค์ นางอรทยั เจา้ เมามวั
มวั คดิ ถึงคำนึงใน
จะนอนบห่ ่อนได้ จะออกปากแก่ใคร
คิดถึงพระภธู ร นางใคร่ครวญอยู่ไปมา
ด้วยความรักพระราชา
ลืมเลน่ ดว้ ยสาวสรร ไม่รวู้ า่ อยแู่ หง่ ไร
ลืมสรงพระคงคา
คำนงึ ถึงภูบาล
สไบเจา้ เคยทรง
เอนนอนถอนใจใหญ่
เคลิ้มไปไม่รตู้ ัว
อกระหอ้ ยลำบาก
ใครรูอ้ ดสูใจ
รำพงึ คะนงึ นัก
รำจวน236คร่ำครวญหา
233 แกล หมายถงึ หนา้ ต่างพระตำหนกั หรอื ตำหนกั ท่ไี ม่มซี ีก่ รง
234 สงกา หมายถงึ ความสงสัย
235 ราค หรอื ราคะ หมายถงึ ความกำหนัดยนิ ดใี นกามารมณ์, ความใคร่
236 รำจวน หมายถงึ รัญจวน คอื ความป่นั ป่วนใจ
๕๕
พ่ีเลีย้ งอันอย่งู าน เห็นเยาวมาลย์รำคาญใจ
วนั หน่งึ นางทรามวัย เยีย่ มแกลชัยเห็นกุมาร
เหตใุ ดเลา่ เจ้ารำคาญ
พีเ่ ลี้ยงจึงวา่ เล่า ไมส่ พั ยอก239กำนลั ใน
จึงไม่สรง237สนาน238 ตรงเขา้ ท่ถี อนใจใหญ่
จงึ มิเลา่ ใหพ้ ฟ่ี งั
ไมเ่ ล่นดว้ ยสาวศรี ...(ขาดหาย)...ให้คลมุ้ คลง่ั
ประสงคส์ ง่ิ อันใด ดงั ตัวน้องเป็นสตรี
อยา่ อาลัยด้วยเอาที
น้องน้ี...(ขาดหาย) ไม่มีทจ่ี ะเห็นใคร
จะเล่าใหพ้ ีฟ่ งั ไม่ควรท่ีจะไว้ใจ
ช่วยอาลัยได้แต่คราน้ี
มเิ ลา่ จะเข้าใจ พท่ี ้ังสามก็ควรที
ความทุกขใ์ นครงั้ นี้ ใชต่ วั พจี่ ะลว่ งรู้
วา่ ฉะนเี้ ลา่ นา่ อดสู
วภิ าวา่ ขา้ นี้ พอแจ้งอยใู่ นนำ้ ใจ
ไม่ให้รูก้ ็แลว้ ไป ...(ขาดหาย)..กะไรได้
ส้ินสงสยั ไม่มีทุกข์
จึงเจ้าจะเล่าความ จะน่ังนอนก็สาสขุ
ขา้ เจา้ เล่าเสียที อยา่ กระตกุ พ้นทกุ ขใ์ จ
ดว้ ยนิ่มนวลนางอรทยั
นางหนึ่งวา่ พเ่ี จ้า ประสมแล้วก็ผดิ ไป
จะรกู้ ลับมิรู้ บรรทมเถิดจะตรอมใจ
ได้นอนบ้างใหส้ ำราญ
ไมพ่ อใจร่วมคดิ จะกลอ่ มใหเ้ กษมสนั ต์
วา่ แลว้ ก็แลว้ ไป พระผ้กู มุ ารงามโสภา
สาวสาวใดเห็นโศกสรรหา
หายท้งั ความเดอื ดรอ้ น ทต่ี รงหน้าพระบัญชร
เพื่อนมว้ ยไม่ช่วยทกุ ข์
คดิ มากน็ ่าสรวล
มองเหน็ อยู่แววแวว
เจา้ ว่าไม่ปรารมภ์ 240
ได้นอนเอนกายให้สบายใจ
ศรีศรสี วัสดีจำเริญใจ
ปางก่อนมีนทิ าน
ทรงโฉมประโลมโลก
วนั หน่ึงเจา้ เดนิ มา
237 สรงหมายถงึ อาบนำ้ ,รดนำ้
238 สนาน หมายถงึ การอาบนำ้
239 สพั ยอก หมายถงึ หยอกเยา้
240 ปรารมภ์ หมายถงึ วติ ก, รำพึง, ครนุ่ คดิ
๕๖
พระพักตรน์ วลบเ่ ศร้า คลาคลงึ เคล้าสโมสร
นอ้ งข้าไดแ้ นบนอน ดงั จันทรเคยี งสุริยา
นา่ หัวเราะเป็นนกั หนา
เป็นพญามาล้าง…(ขาดหาย)... ไม่ใชใ้ บให้เปลืองทาง
เรือใหญจ่ ะไปค้า จะผพุ งั ปว่ ยการ
สร้างไวเ้ ปล่าสำเพาเอย
จะยับอยกู่ ับฝงั่ ฟงั พ่ีเลี้ยงกล่าวเฉลย
ทางไกลไม่ใชใ้ บกลาง ย้มิ แยม้ เผยซึ่งวาจา
นับดาวได้ในเวหา
เมอื่ น้นั นางเน้ือเกลี้ยง คิดข้นึ มาน่าอายใจ
เศร้าสร้อยค่อยเสบย พเี่ อน็ ดชู ว่ ยแก้ไข
กลัวพายใุ หญจ่ ะพดั พา
พี่เจา้ ผรู้ ว่ มใจ ลงทีก่ ลางพระคงคา
ไมค่ วรมาเจรจา แต่ตวั ข้ายังขัดสน
ใบและสายเรียว241เป็นยนต์
กระนห้ี รือวา่ ไมร่ ู้ เปน็ พนกั งานสิน้ ท้ังนั้น
จะใหน้ ้องใช้ใบ พจิ ารณาสาวสวรรค์
จะสมความปรารถนา
เกลือกว่าจะอับปาง ออกจากเฝา้ พระราชา
ไมถ่ ึงฝ่ังกระมงั หนา จะพบเจา้ อภิปราย
ฟงั พเ่ี ลย้ี งยิม้ แย้มพราย
พีเ่ จา้ เปน็ คนท้าย พี่จึงถามพระงามดู
พเี่ ปน็ ทง้ั ต้นหน242 มาแต่ไหนจะใครร่ ู้
วา่ เมื่อคำ่ ใหม้ าหา
พ่ีเล้ยี งจงึ ทูลมา คอ่ ยบ่ายเบย่ี งลนิ ลามา
เคยสรา้ งมาด้วยกนั ที่หนา้ วังมิทนั นาน
จงึ พระเจ้าจากสถาน
เพลาพรุ่งนเี้ ชา้ พอตรงหนา้ นางวภิ า
จะคอยเจา้ ออกมา พระนเรนผูเ้ รืองศรี
มาพดู เลน่ กอ่ นเปน็ ไร
เม่อื นน้ั นางเนอ้ื เกลีย้ ง
แม้นพบพระโฉมฉาย
ให้รู้ว่าช่ือไร
จงบอกพระโฉมตรู
พอรูพ้ ระพ่ีเลีย้ ง
มาคอยพระราชา
เพลาออกจากเฝ้า
ลินลามามินาน
วิภาแลเห็น
พเ่ี ชิญพระภมู ี
241 สายเรยี ว หมายถงึ สายสำหรับรัง้ ใบเรือ
242 ตน้ หน หมายถงึ ผ้คู วบคุมทศิ ทาง ตำแหน่งของเรือ
๕๗
เมอื่ น้ันพระราชา ฟังวภิ าเจา้ ปราศรัย
สมเด็จพระภวู ไนย จึงปราศรัยดว้ ยวาจา
จึงเรยี กพม่ี าหา
ฉันใดนางเทวี จงบอกข้าให้เข้าใจ
กังวลสง่ิ ไรหนา จึงบา่ ยเบ่ยี งดว้ ยกลใด
เจ้าแกล้งใชใ้ ห้มาหา
เมอ่ื น้นั นางพ่ีเลีย้ ง พระภธู รชอ่ื ไรหนา
ว่านางทรามวัย ใคร่รู้จกั ภวู ไนย
ว่าท้งั น้ียังสงสยั
ให้ถามนามกร นางผใู้ ดแกลง้ ใจจง
ดว้ ยว่านางฉายา จะบอกเจ้าด้วยใจจง
ชื่อประทมุ เกสร
พระตอบนางเทวี ใหม้ าหาพระภูธร
ขอถามทรามวยั พระภูธรเจา้ ชอ่ื ไร
นางน้องแกว้ ผ้ทู รามวัย
พ่ีเล้ยี งจึงวา่ เล่า ว่าเมอื่ ค่ำให้มาหา
รปู หล่อวรองค์ ฟังพีเ่ ล้ียงกลา่ ววาจา
บอกชอื่ ขา้ เปน็ บาลี
ผูเ้ ปน็ พระธดิ า ทา้ วบุญมากแซมเกศี
ให้ถามนามกร ใหค้ ิดเอาตามชอบใจ
อยา่ ปดิ ไว้เจ้าพอี่ า
แม้นพระบอกชอ่ื แลว้ อยา่ นิทราใหห้ ลับใหล
สง่ั มาถึงทา้ วไท ฟังพาทีกด็ ใี จ
เขา้ ในวังมิได้ชา้
เมอ่ื น้ันพระเน้อื เกลีย้ ง ทูลอรทยั แจง้ กิจจา
ย้ิมแย้มอยู่ไปมา บอกชอื่ มาเปน็ บาลี
ทา้ วบุญมากแซมเกศี
ผ้เู ฒ่ามักใส่ปาก ปญั ญามใี หค้ ดิ เอา
ชือ่ ข้าเปน็ บาลี เห็นมิผิดดังใจเรา
อนั แซมกลา่ วคือทองคำ
อนั ว่าทวาร243ชัย
เมอ่ื คำ่ จะไปหา
เมื่อน้ันนางวิภา
จงึ ลาพระทรามวัย
ว่างเปลา่ กเ็ ขา้ ไป
เมื่อค่ำจะไปหา
ผู้เฒา่ มักใส่ปาก
บอกชอื่ มาเป็นบาลี
นางเจา้ จึงคิด
ไดช้ ือ่ แห่งพระเจ้า
243 ทวาร หมายถงึ ประตู
๕๘
ร้จู กั ช่อื พระเจา้ นางหนมุ่ เหน้าเร่งกระสนั
รจู้ กั ชื่อสวุ รรณ ไดช้ อื่ แล้วตอ้ งติดใจ
นางนอ้ งแกว้ เรง่ ครวญหา
เวลาย่ำค่ำลงแล้ว ว่าเมอ่ื ไหร่จึงจะมา
คอยหาพระภวู ไนย ถึงยามสองจงึ ไคลคลา
จึงเขา้ มาถึงทวาร
เมอ่ื นัน้ จงึ พระทอง จึงทา้ วพิษฐาน
รำพงึ คำนึงหา มาชว่ ยเปิดทวารา
จงึ ทา้ วไทพิษฐาน
จะเขา้ กไ็ ม่ได้ มาช่วยเปดิ ทะวารา
พระไชยในไพรศาล ถงึ พระทยั มฤี ทธา
สำแลงแต่งองค์มาทนั ใจ
มาข้าจะกล่าวบทไป นำภบู าลเจ้าเข้าไป
พระไชยในไพรศาล ชห้ี ้องใหพ้ ระภมู ี
หอ้ งนางอยู่ที่ตรงน้ี
มาขา้ จะกล่าวบทไป ตัวเรานี้จะลาไป
มีจิตคดิ เมตตา อันตรธาน244บัดเดย๋ี วใจ
พระภูวไนยจึงเข้ามา
จึงเปิดพระทวาร พระแลไปตามช่องฝา
ครน้ั มาถงึ พระทวารปราสาทชัย พระราชาเกษมสนั ต์
โฉมตรูกลิ้งกลางวัน
บอกแกโ่ ฉมตรู ไดเ้ หน็ แลว้ ต้องติดตา
เขา้ ไปเถดิ พระภมู ี ไมห่ วาดหว่ันมนั ตรึงตรา
พ่มี าแล้วเจ้าไปไหน
บอกแลว้ มิทนั นาน ว่าจะเปิดทวารชยั
กลับกลายสูญหายไป จงึ ปิดไว้มันตรงึ ตรา
ไปสงั่ กใู ห้มาหา
คร้ันถึงทวารชัย หลับตากรนบนเตียงนอน
เหน็ องคก์ ัลยา แลไปเหน็ อยู่รองรอง
แล้วชกั ผ้าคลมุ หวั นอน
เทยี นยามอันตามเห็น
พระพกั ตรค์ ือดวงจันทร์
จึงผลกั ทวารชยั
จงึ ร้องดว้ ยวาจา
นดั แนะใหพ้ มี่ า
แล้วคดิ เป็นไฉน
ใครหนอชา่ งแสนรู้
มาแล้วทำมารยา
หลบั จริงหรือทำเล่น
ครนั้ แล้วทำย้ิมย่อง
244 อันตรธาน หมายถึง ลับไป, สญู หายไป
๕๙
บัดนน้ั นางเทวี เหน็ ภูมีจะเดอื ดร้อน
นางประทมุ เกสร เจ้าจงึ กลา่ วซ่งึ วาจา
ข้ึนมาใยผดิ เวลา
ชายนมี้ าแตไ่ หน ชา่ งเจรจาพาโล245ไล
ตัวใครไปนัดมา มาทำออ้ นอย่หู รือไร
บน่ พีไรรำคาญหู
ยามดกึ คนจะนอน ใหผ้ ้ใู หญ่มาขอสู่
อย่าอย่เู รง่ ลงไป ทำจู่ลู่246อยไู่ ม่เกรงใจ
ทง้ั สองรานั้นเปน็ ใหญ่
แมน้ ว่ารักนอ้ งไซร้ ลำเนา247เหน็ อยู่ไกลพ่อ
พ่อแม่น้องยงั อยู่ …(ขาดหาย)…
เห็นวา่ เจา้ ไม่เป็นตัว
บดิ าและมารดา ไดฟ้ ังว่ายิม้ แยม้ หัว
พ่อแม่ท่านยกให้ จะไว้ลาย248เมือ่ ภายหลงั
เหน็ วิเศษกว่าตวั ยัง
ชา่ งมาพูดความเบา จะทำเล่นให้หนำใจ
แม้นรถู้ ึงทา่ นทา้ ว ว่าจะเปดิ ประตไู ว้
จงึ ปดิ ไว้มนั ตรึงตรา
เม่ือนนั้ พระราชา นางเยาวมาลยไ์ ด้เมตตา
ถึงตายไมค่ ดิ ตัว หวังจะฝากซ่งึ ไมตรี
นางจอมขวัญจงึ ปรานี
ตวั ตายกต็ ามเหตุ เอน็ ดรู ับด้วยรา
อย่าขบั 249พ่ีไมฟ่ งั นางอรทัยตั้งสจั จา
ได้สร้างมาแต่กอ่ นไกล
นดั แนะใหพ้ ่ีมา อยา่ ใหแ้ คล้วคลาดกนั ไป
แล้วคิดเปน็ ไฉน มใิ ช่คูอ่ ย่าเผยผาย
ประตูหอ้ งเปดิ ง่ายดาย
จึงเปดิ พระทวาร จึงเผยออกจงเรว็ พลัน
เสียแรงพม่ี าหา
เจา้ อย่าคดิ เดยี ดฉนั ท์
สตู้ ายไมห่ นี
นางคดิ แตใ่ นใจ
เดชะด้วยบญุ ญา
เคยสร้างดว้ ยกันแลว้
จงเปิดออกด้วยไว
ถา้ คูด่ ้วยนอ้ ง
ถ้าน้องค่ดู ว้ ยชาย
245 พาโล หมายถึง แสร้งพดู ใสค่ วามไมจ่ ริงใหค้ นอืน่
246 จู่ลู่ หมายถงึ วูว่ าม
247 ลำเนา หมายถงึ แนว, แถว, แถบ, ถนิ่
248 ไวล้ าย หมายถึง แสดงความกลา้ หาญ
249 ขบั หมายถงึ ไล,่ บงั คบั ใหไ้ ป
๖๐
เจ้าสวุ รรณทกมุ าร ฟงั นางคราญเรง่ กระสัน
ครัน้ แลว้ พระทรงธรรม์ เสยี่ งดว้ ยโพธิสมภาร
มาดว้ ยนางแลว้ ชา้ นาน
แตก่ อ่ นเป็นคู่สร้าง เปดิ ออกได้ดังใจหมาย
ขอใหพ้ ระทวาร ผลักทวารออกง่ายดาย
จงึ ผนั ผายเขา้ หอ้ งใน
เจ้าสุวรรณทกมุ าร แนบนางนอ้ งผูท้ รามวยั
เปิดด้วยใจหมาย บนแท่นทองอันผ่องศรี
จงึ ผลกั ไสพระภูมี
ทา้ วน่งั บนเตียงทอง ทำเลน่ ไปไม่กลัวเกรง
เชยชมนางอรทัย นอ้ งอยา่ วา่ ใหค้ ร้นื เครง
อยา่ งคร้ืนเครงนา่ อายใจ
เม่ือนนั้ นางทรามวยั พี่ชายมาขออาศัย
จะร้องข้ึนให้มี ให้อาศัยด้วยสมพอง
องคต์ ัวพี่คือหงสท์ อง
รักเจ้าพ่ีมาหา ตัวหงสท์ องอันพอใจ
ดว้ ยว่าแตก่ นั เอง ช่างพาทีจะมนี ยั
แล้วทิ้งไวไ้ ด้ความอาย
ตัวเจา้ คอื ศาลา เปน็ ผหู้ ญงิ ซ่ือตอ่ ชาย
ทา้ วนอ้ งอย่าตดั ใจ ใจนอ้ งซอ่ื ต่อผัว
แมน้ ใครรกั ไมค่ ิดตัว
ตวั เจ้าคือสระศรี ไมต่ ิดตัวน้องเลยหนา
บา่ ยหน้ามาหานอ้ ง ยอ่ มสบั ปลับ250เจรจา
ทำเหนิ หา่ งเริดร้าง251ไป
นางตอบพระภูมี ชง่ั พาทีจะมีไหน
ลวงลอ่ แตพ่ อได้ จึงทา้ วไทมวี าจา
ได้สรา้ งแลว้ แต่ก่อนมา
ตัวนอ้ งย่อมใจจรงิ ด้วยพยี่ าจะหนา่ ยหนี
แมน้ ตายจะส้ตู าย ใครจะเหมือนในโลกี
พ่ีจะอยเู่ ปน็ ค่คู รอง
เป็นหญิงความจรงิ นกั
สตู้ ายตายตามผัว
ใจชายมักกลอกกลบั
ได้แลว้ ไมน่ ำพา
พระตอบเสาวนีย์
ทราบทรวงในดวงใจ
ตวั พีก่ ับนอ้ งแกว้
พระนอ้ งอยา่ สงกา
ดวงหนา้ คอื วงเดือน
ตายดว้ ยมว้ ยเปน็ ผี
250 สบั ปลับ หมายถงึ กลับกลอกเชอื่ ไมไ่ ด้
251 เรดิ รา้ ง หมายถึง คอ่ ยๆ เหินหา่ งและทอดทงิ้ ไป
๖๑
วา่ พลางทางเชยชม เลน่ เต้านมเจ้าทง้ั สอง
ตมู ต้งั ดงั บัวทอง จูบแกม้ นอ้ งทง้ั ซา้ ยขวา
เม่ือนนั้ นางทรามวัย ทำผลกั ไสดว้ ยมารยา
พระองค์จงเมตตา งดกอ่ นอย่าหนุ หัน252
พระองค์จะหยิกหยอก เปน็ ภายนอกนางจอมขวัญ
ภายในไวส้ ำคัญ ทำฉนั น้ันงดก่อนรา
สิง่ น้ีนะพระเอ๋ย น้องมิเคยพระราชา
ควรได้ไปเม่อื หน้า ตัวของข้ายังเกรงกลัว
ไดฟ้ งั นางฉายา พระราชายม้ิ แยม้ หวั
พวกน้องอย่าเกรงกลวั ประเวณี253ความสงสาร
กลา่ วมาใหป้ รากฏ คอื หน่งึ มดกนิ นำ้ ตาล
อดไดใ้ คร่จะปาน .............(ขาดหาย).............
.............(ขาดหาย)............. .............(ขาดหาย).............
.............(ขาดหาย)............. .............(ขาดหาย).............
(ตน้ ฉบับส่วนปลายขาดหาย)
252 หุนหัน หมายถึง ทำโดยรวดเรว็ ไม่ยง้ั คิด
253 ประเวณี หมายถงึ การเสพสงั วาส
๖๒
หนา้ ปลาย
กาพยส์ ุรางคนางค์ 28
(ต้นฉบบั ส่วนต้นขาดหาย)
.............(ขาดหาย).............
.............(ขาดหาย)............. .............(ขาดหาย).............
.............(ขาดหาย)............. ....(ตวั หนังสอื ไม่ชดั เจน)....
... (ไมช่ ัดเจน)...ลาตาย คอยอยูเ่ ถดิ รา
ทกุ ขถ์ งึ มเหสี ทกุ ข์ถงึ ชนนี
ทุกข์ถึงราชบุตร ทกุ ขถ์ ึงบิดา
ทุกขถ์ งึ อาตมา รักสดุ เสนห่ า
คดิ น่าใจหาย
ไม่มีความสขุ ทั้งหา้ กองทุกข์
พระทรงโศกา ... (ไมช่ ัดเจน)...254ฝันหาย255
น้ำตาบว่ าย
คิดนา่ ใจหาย
แกอ่ กกเู อย๋
เจา้ สุวรรณทกมุ าร โอ้นา่ สงสาร
จะ... (ไมช่ ดั เจน)...256หน้าไป
เอน็ ดทู รามเชย ซบพักตรบ์ ่เงย
ไมเ่ หน็ หน้าใครเลย
บเ่ สบย257นำ้ ตา
กาพย์ยานี 11 พาพระบาท259จะไคลคลา
เม่อื นั้นเพชฌฆาต258 ไปฆ่าเสียท่นี อกเมือง
จะเอาพระราชา260
254 คณะผจู้ ดั ทำสันนษิ ฐานวา่ คำทีไ่ ม่ปรากฏใหเ้ ห็นชดั เจนนา่ จะอ่านได้ว่า โทษทณั ฑ์ ซึง่ คำว่า โทษ หมายความวา่ ความไม่ดี,
ความชว่ั สว่ นคำว่า ทณั ฑ์ มคี วามหมายว่า โทษทีเ่ น่อื งดว้ ยความผดิ กพ็ อจะทำใหค้ ณะผูจ้ ัดทำสันนิษฐานวา่ น่าจะอ่านไดว้ า่
โทษทัณฑ์ ซ่ึงมีความหมายท่ีแสดงถึงการกระทำความผดิ อันจะทำใหเ้ กดิ ความทกุ ข์ ความเสยี ใจ
255 คณะผูจ้ ดั ทำสนั นิษฐานวา่ คำวา่ ฝันหาย เพี้ยนมาจากคำวา่ ขวญั หาย ซ่งึ คำวา่ ขวญั หาย มคี วามหมายวา่ ตกใจ, ใจหาย
256 คณะผู้จัดทำสนั นษิ ฐานว่า คำทไ่ี มป่ รากฏใหเ้ ห็นชดั เจนนา่ จะอา่ นได้ว่า บา่ ย จะไดค้ วามวา่ จะบา่ ยหน้าไป คำวา่ บ่ายหน้า
มคี วามหมายว่า หนั หน้า
257 เสบย อ่านว่า สะเบย แปลวา่ สบาย
8 เพชฌฆาต หมายถึง เจา้ หน้าท่ีประหารชวี ิตนักโทษที่ต้องคำพพิ ากษา
259 พระบาท ในทน่ี ห้ี มายถึง สุวรรณทกมุ าร
260 พระราชา ในท่นี ้ีหมายถึง สุวรรณทกุมาร
๖๓
คร้นั ออกนอกเมอื งแลว้ อกพระแกว้ 261เจา้ แคน้ เคือง
สมเดจ็ พระบญุ เรอื ง262 รำพึงคิดแต่ในใจ
เหน็ วา่ ในคร้ังน้ี จะมพิ น้ ความบรรลยั
หงสท์ อง263อนั สกุ ใส เราผูกไวต้ น้ พฤกษา
ว่าแกอ่ งครกั ษ์ ตวั เราจะมรณา
ไม่คิดแกช่ วี า ถงึ จะตายกต็ ามกรรม
งามหลายหลากยอ่ มทองคำ
หงส์ทองอนั ค่ามาก เราจะให้สู264ทั้งหลาย
ฟงั พระบาทเจ้าภปิ ราย
ตัวตายกต็ ามกรรม
เมื่อนน้ั นายเพชฌฆาต วา่ หงส์ทองอย่ไู หนหนา
เราผกู ไว้ปลายพฤกษา266
จงึ ถามพระฤาสาย265 ใหร้ าชาเจา้ นำไป
พระเจ้าจึงบอกไป
นำเพชฌฆาตมาทนั ใจ
เพชฌฆาตผใู้ จกล้า ชบ้ี อกใหม้ ิไดช้ ้า
บนตน้ ไทร267ใหญส่ าขา
เมือ่ น้ันจงึ พระบาท หาปัญญาสูทั้งหลาย
คร้ันถงึ ตน้ พระไทร แลขน้ึ ไปดว้ ยใจหมาย
หงสท์ องเราผูกไว้ จงึ ปีนปา่ ยขึ้นไปพลัน
จะเอาก็เอารา ตกตะลึงอยงู่ กงนั
เพชฌฆาตเป็นนายใหญ่ ขึน้ มือสั่นตกลงมา
ขน้ึ ไมไ่ ด้เป็นหลายครา268
เห็นหงสง์ ามเฉิดฉาย สดุ ปญั ญาจะขนึ้ ไป
ข้ึนไปได้หน่อยหนงึ่ เทพ269ยบุ ลเขา้ ดลใจ
ข้ึนไม่ได้หวั ลงมา
ใจคอให้อาวรณ์
คร้ันแลว้ กลบั คืนไป ขนึ้ ไมไ่ ด้สดุ ปญั ญา
เอาลงมาจงเรว็ ไว
รกั หงสเ์ ป็นหนักหนา ปล่อยพระทอง271ออกทนั ใจ
แตข่ ึ้นไปหลายคน บนตน้ ไม้เอาหงส์ทอง
ใหก้ ลัวตัวสนั่ ไป
เพชฌฆาตจึงวา่ ไป
เจา้ ข้นึ ไปอยา่ ช้า
จงึ เปลอ้ื งซงึ่ จำจอง270
ว่าเจ้าจงข้นึ ไป
261 พระแกว้ ในทนี่ ี้หมายถึง สุวรรณทกมุ าร
262 พระบญุ เรอื ง ในท่ีน้ีหมายถงึ สวุ รรณทกมุ าร
263 หงส์ทอง ในที่น้ีหมายถึง พาหนะของสุวรรณทกมุ าร
264 สู หมายถงึ ทา่ น เป็นสรรพนามบรุ ษท่ี 2
265 พระฤาสาย ปจั จบุ ันใชค้ ำวา่ พระฤาษี
266 พฤกษา หมายถงึ ตน้ ไม้
267 ไทร หมายถึง ชื่อตน้ ไมใ้ นสกลุ Ficus วงศ์ Moraceae มหี ลายชนดิ
268 ครา หมายถงึ คร้ัง, คราว, หน
269 เทพ หมายถึง เทวดา
270 จำจอง หมายถึง ใส่ตรวนหรอื เครือ่ งพันธนาการขงั ไว้ในคกุ ในตะราง
271 พระทอง หมายถึง คำแทนชอ่ื เจ้านาย
๖๔
เจ้าข้ึนไปอย่าชา้ เอาลงมาบดั เดียวดล
เม่ือน้นั พระจมุ พล ยม้ิ ในใจอยไู่ ปมา
ขอจงเทพไท ครง้ั นีไ้ ซร้ไดเ้ มตตา
จะขน้ึ บนพฤกษา มารบั ข้าดว้ ยฉับไว
วา่ แลว้ พระบุตรา272 มิทันชา้ จงึ คลาไคล
ปนี ป่ายรา่ ยขึ้นไป พระภูวไนย273เจ้าแกลง้ ทำ
ผาดโผนตกว่าตามกรรม
ทำเป็นจะพลดั 274ตก ว่าตามกรรมไม่เวรา275
เห็นภูวไนยเจ้าข้ึนมา
ตกลงมผิ ลักซ้ำ
เมื่อนั้นจึงพระไทร276 ลงมารบั ดว้ ยฉับไว
จงึ พระแกว้ ร้องลงไป
มีจิตคดิ เมตตา เรว็ อย่าชา้ จงกลบั ไป
เจ้าขน้ึ ไปไดแ้ ลว้
รอ้ งข้ึนมาด้วยเรว็ ไว
เพชฌฆาตทงั้ ซา้ ยขวา277 กูจะโคน่ ตน้ ไมล้ ง
เพชฌฆาตฟังท้าว278วา่
รอ้ งลงมาดว้ ยใจจง
มิลงมาหรือไร ……………(ขาดหาย)…………….
อกผะผ่าว279คืออคั คี
พระฟงั เพชฌฆาตว่า
สูโคน่ ต้นไมล้ ง จะคิดอา่ นประการใด
................(ขาดหาย)................
เพชฌฆาตไดฟ้ งั ท้าว
................(ขาดหาย)................
ตวั เราสิ้นทงั้ นี้ จะคดิ อา่ นประการใด
บดั นีป้ ล่อยนักโทษ จะบรรลัย280ดว้ ยอาชญา281
ชาวเราให้โงเ่ หลือ ตัวของเราน่ีแหละหนา
พวกเราทง้ั น้ไี ซร้ ชาวเราอาอยา่ ร้อนใจ
จึงผนั ผาย282เข้าในวงั
................(ขาดหาย)................ เขา้ ในเมืองพระพารา283
คนนึงจึงว่าเรา
จะทูลท้าวราชา
เพชฌฆาตท้งั สี่นาย
พากันมาทนั ใจ
272 พระบุตรา หมายถงึ บุตร ลูกชาย
273 พระภวู ไนย หมายถงึ พระเจ้าแผน่ ดิน
274 พลดั หมายถึง พลาด หลุด หรือหล่นไปจากที่ใดท่ีหน่ึง โดยไม่ได้ตงั้ ใจ
275 เวรา ปัจจบุ ันใชค้ ำวา่ เวร ซง่ึ หมายถึง ความพยาบาท ความปองรา้ ย
276 พระทยั หมายถงึ ใจ
277 เพชฌฆาตทัง้ ซา้ ยขวา จากวรรคข้างตน้ ไมส่ มั ผัสกบั วรรคอ่ืน
278 ท้าว หมายถึง ผ้เู ป็นใหญ่ พระเจ้าแผ่นดิน
279 ผ่าว หมายถึง อาการท่รี สู้ กึ คลา้ ยคลึง
280 บรรลยั หมายถึง ฉิบหาย วอดวาย ยอ่ ยยับ มอดม้วย
281 อาชญา หมายถงึ อำนาจ
282 ผนั ผาย หมายถงึ กลับไป เดินไป
283 พระพารา หมายถงึ เมอื ง
๖๕
บดั นั้นจึงพระบาท เพชฌฆาตน้นั กลบั มา
จึงลาไท้เทวา ชกั หงส์มาในเวียงชัย284
จึงผันผายเขา้ วงั ใน
เพชฌฆาตทั้งสีน่ าย ทลู ภวู ไนยมิไดช้ ้า
ถวายบังคมไท285 จะมาให้มรณา286
ให้ท้าวทราบบาทบงสุ์287
นกั โทษนนั้ เราไซร้ หงส์ทองน้นั กฉ็ าบลง
ขอทูลพระราชา ............(ขาดหาย).................
ทอดพระเนตรบนเวหา
ยกดาบขึน้ จะฟนั มิใชว่ ่าแกล้งทูลสาร
ฉวยดาบไปด้วยโดยจง อยา่ ไว้ใจพระภูบาล290
จะอลหมา่ น291ทงั้ พารา
แล้วพาพระภเู บศ288
ให้เห็นประจักษ์289ตา ทอดพระเนตรแลมา
ขอจงภวู ไนย เหน็ พระจุมพล
เหน็ ว่าจะรำคาญ
บอกท้าวเบญจา
กาพยบ์ ัง 16
เจา้ เมอื งไพจิตร
เมื่อนน้ั จงึ ท้าวเบญจา
มชิ า้ ก็เห็นหงสย์ นต์ จะให้บรรลยั
รอ่ นอยู่ในกลางเวหน พระทยั ไหวหว่นั
ชักยนต์อย่บู นเวหา
ตัวสน่ั เทาเทา
พระองคจ์ ึงร้องลงมา
ตวั ขา้ ใช่ลูกปุโรหิต292
ขา้ นลี้ กู ทา้ วอาทิตย์
ตวั ข้ามาเรยี นศิลปไ์ ชย
ควรหรอื ทา้ วไทไมถ่ ามไถ่
ครัง้ น้จี ะไดเ้ ห็นกัน
ท่านทา้ วเบญจาทรงทัณฑ์
พระองค์ตัวสั่นอยู่เทาเทา
ดูราแสนตราตาขาว
พระบาทกก็ ลัวนกั หนา
284 เวยี งชยั หมายถงึ เมอื ง
285 ไท หมายถึง ผูเ้ ป็นใหญ่
286 มรณา ปจั จุบันใชค้ ำวา่ มรณะ หมายถึง ความตาย
287 บาทบงส์ุ หมายถึง ละอองเท้า
288 พระภเู บศ หมายถึง พระราชาผ้เู ปน็ ใหญ่
289 ประจักษ์ หมายถึง กระจ่าง แจ่มแจ่ง เข้าใจ
290 พระภูบาล หมายถึง พระเจ้าแผ่นดิน
291 อลหม่าน หมายถึง ชลุ มุน วุ่นวาย แตกต่ืน
292 ปุโรหติ หมายถงึ พราหมณท์ ป่ี รึกษาของพระมหากษตั รยิ ใ์ นทางนติ ิ คือ ขนบธรรมเนยี มจารตี ประเพณี
๖๖
ร้องเชญิ สมเด็จราชา เชญิ เจา้ ลงมา
จะใหเ้ จ้าครองไอศวรรย2์ 93 น้องสาวถดั นัน้
เจ้าเปิดไพชยนต์ 294
ใหเ้ จ้าท้ังสองครองกัน แลเหน็ ภมู ี
จะแถมให้อกี สักสองคน ร้องเชิญภูธร296
ชกั หงส์ลงมา
นางประทุมเกสรร้อนรน เจ้าประทมุ เกสร
สิงหบญั ชร295ไชยศรี ชักหงสท์ องยนต์
นางน้องทรงครรภ์
เม่ือนั้นจงึ นางเทวี จงทราบบาทา
เมียรักเจ็บครรภ์
ใจนางจะขาดอยรู่ อนรอน จึงพระราชา
จงึ นางประทุมเกสร จงึ เขา้ อาศยั
เห็นนางโศกา301
ลงมารับเมยี ด้วยรา
เม่ือนน้ั จงึ พระราชา
กต็ รงเข้าหนา้ บัญชร
มารับเมียสายสมร297
บงั อรเขา้ ในหงสย์ นต์
เมอ่ื นั้นจึงพระจุมพล
ไปบนอากาศผาดผนั
ค่อยคลายหายทกุ ขโ์ ศกศัลย์
ครรภ์ใหญ่พอถว้ นสบิ เดือนโดยตรา
ทลู พระนางแกร่ าชา
เมื่อนน้ั นางนอ้ งมาเจ็บครรภ์
ชกั หงส์ลงไปเรว็ พลัน
…(ขาดหาย)… กพ็ น้ ปัญญา
จอมจักรฟังอัครชายา298
ชักหงสล์ งมาทนั ใจ
ร่อนลงท่กี ลางพงไพร299
ใตร้ ่มไมก้ ฤษณา300
เมอ่ื นั้นจงึ พระราชา
พระองค์เจา้ มาตกใจ
293 ไอศวรรย์ หมายถึง ความเป็นเจ้าเป็นใหญ่ ความเป็นพระเจ้าแผ่นดนิ อำนาจ
294 ไพชยนต์ หมายถงึ ปราสาททว่ั ไปของหลวง
295 สงิ หบัญชร หมายถงึ หน้าตา่ งของผูเ้ ป็นด่งั ราชสีห์ คือ หนา้ ต่างปราสาทของพระจา้ แผน่ ดนิ
296 ภธู ร หมายถึง พระราชา
297 สายสมร หมายถงึ หญงิ ทีร่ ัก
298 อคั รชายา หมายถึง ตำแหนง่ มเหสีรอง
299 พงไพร หมายถงึ ป่า
300 กฤษณา หมายถงึ ไม้หอมชนิดหนึ่ง มสี ดี ำ
301 โศกา หมายถงึ ร้องไห้
๖๗
จึงปลอบเมยี รักทรามวยั 302 อุตสา่ ห์แข็งใจ
นอ้ งรกั อยา่ ไดโ้ ศกา ช่วยเมยี ด้วยรา
กลงิ้ เกลอื กเสอื กไป
เมียรกั เจบ็ หนกั ราชา ตกใจใช่กด็ ี
อย่าใหเ้ มยี มว้ ยบรรลยั จึงอา่ นคาถา
เป่าลงทันใจ
นางนาฏเพยี งจะขาดใจตาย ปกเกลา้ เกศา
อรทยั ไม่เปน็ สมประดี ออกมาง่ายดาย
เหมือนพระบิดา
เม่อื นัน้ จึงพระภูม3ี 03 ลูกน้อยโฉมยง307
กลัวเทวี304จะมรณา บิดามารดา
นางคิดปรารมภ์308
พระคดิ ในใจราชา ไปหาอคั คี
วา่ สะเดาะ305ทันใจ ได้ฟังทรามวยั
เม่ือน้นั จุมพล
สามคาบเจ็ดคาบฉบั ไว
ทใ่ี นพระเกตเุ กศา
เดชะคณุ พระศาสดา
ปอ้ งกนั อย่าให้อนั ตราย
ยามปลอดคลอดลกู ชาย
เปน็ ชายก็งามโสภา
โลหิตไม่คิดราชา
ฉายาเจ้าเรง่ พิศวง306
นางจงึ ชำระพระองค์
ให้เจา้ สระสรงคงคา
ความรกั พระราชบตุ รา
สองราเจ้ามาเชยชม
แลว้ ให้ลูกน้อยเสวยนม
จะใคร่ได้ผงิ อัคคี309
จึงวา่ แก่สามี
เมียนี้จะใคร่ผงิ ไฟ
เมือ่ นน้ั จึงพระภวู ไนย
บดั ใจก็ขน้ึ หงส์ยนต์
แลว้ ชักข้ึนบนเวหน
เจา้ แลไปเห็นเภตรา310
302 ทรามวยั หมายถึง หญงิ วยั รุน่
303 พระภมู ี หมายถึง พระเจา้ แผ่นดนิ
304 เทวี หมายถงึ นางกษตั ริย์
305 สะเดาะ หมายถึง ทำให้หลุดออกมาด้วยคาถาอาคม
306 พิศวง หมายถงึ ประหลาดใจ แปลกใจอยา่ งสงสยั
307 โฉมยง หมายถงึ รปู รา่ งงามสงา่
308 ปรารมภ์ หมายถงึ วิตก รำพงึ ครนุ่ คดิ
309 อคั คี หมายถึง ไฟ
310 เภตรา หมายถึง เรือ
๖๘
ชกั หงสก์ ต็ รงลงมา คร้ันถงึ เภตรา
ราชาฉวยเอาดุ้น311ไฟ จงึ วางดุ้นไฟ
..............(ขาดหาย).................
ไดแ้ ลว้ พามาทันใจ ………………(ขาดหาย)……………
บัดใจก็ไหม้ใส่หงส์
ตกลงในคงคาลัย
................(ขาดหาย)....................
..............(ขาดหาย)...................
………………(ขาดหาย)………………………..
สุรางคนางค์ 28 ..............(ขาดหาย)..................
...............(ขาดหาย).................
............(ขาดหาย)..................
.............(ขาดหาย)................. ................(ขาดหาย)................
ช่วยเอาข่าวไป บอกท้าวดว้ ยรา
เจ็ดวนั ยังค่ำ แต่พระว่ายนำ้
เหน็ แต่ฝูงปลา
บ้างผุดบ้างวา่ ย
หอ้ มล้อมเจ้าฟ้า ท่ีในคงคา
มิให้อันตราย
มาช่วยป้องกัน ฝูงปลาท้งั น้ัน
แหง่ พระโฉมฉาย
หอ้ มล้อมทรงธรรม์
กลัวพระโฉมฉาย ปอ้ งกันปลารา้ ย
เจา้ จะตกใจ
คำนงึ ถงึ นาง ว่ายพลางครวญพลาง
กบั ลูกสายใจ312
เจา้ จะคอยท่า
พระรำ่ ร้องไห้ วา่ มาหาไฟ
อยูใ่ นกลางชล
ใชใ้ บแลน่ มา ยังมีเภตรา
พาณิช313แลน่ มา ในกลางทะเลวน
ว่ายอยู่กลางชล เห็นพระจมุ พล
คนเดียวเอกา314
311 ดนุ้ หมายถงึ ทอ่ น
312 สายใจ หมายถึง คนที่รกั
313 พาณชิ หมายถงึ พ่อคา้
314 เอกา หมายถงึ หน่ึง คนเด่ียว โดดเดี่ยว
๖๙
โดดพลนั วุน่ วาย .......(ขาดหาย)...........
ดรู าชาวเรา อยใู่ นคงคา
ทอดสมอรอทา่ รับเอากอ่ นรา
ลงสดั จองไป
เลงลัยสดั จอง
รบั เอาทา้ วไท มาถึงพระทอง
เภตราทนั ใจ จึงกลับเข้ามา
ขน้ึ บนเภตรา สง่ ใหท้ ้าวไท
สำราญพระทัย315
ถามพระราชา
ดูน่าสงสาร จงึ นายเภตรา
จึงอย่ทู ใี่ น วา่ มาแตไ่ หน
เหตุการณฉ์ ันใด
บอกนายสำเภา กลางพระคงคา
ทา่ นทา้ วอาทิตย์
ตวั เรานหี้ นา เม่อื น้นั พระเจ้า
แต่หนหลังมา
ขอลาทรงฤทธ์ิ316 เปน็ พระบิดดา
มาดว้ ยหงสท์ อง ชื่อสุวรรณทกมุ าร
มาพบอาจารย์
อยู่เมอื งไพจติ ร
จงึ ได้อรทยั บิตเุ รศ317ชาญสมาน
นางมีครรภ์เลา่ อนั งามโอฬาร
มาคลอดลูกยา ในเมอื งเบญจา
จงึ ชักหงสย์ นต์ อยเู่ รียนศิลปไ์ ชย
ไฟไหมส้ ายหงส์ พระราชธดิ า
จึงตัวขา้ ไซร้ พาเจ้าหนีมา
อยู่ในกลางไพร
315 บทประพันธ์ดังกลา่ วมจี ำนวนวรรคเกิน มีทงั้ หมด 8 วรรค
316 ฤทธิ์ หมายถึง อำนาจ ความเจริญ ความสำเรจ็ คลอดแล้วบดั ดล
317 บิตเุ รศ หมายถึง พ่อ มาหาฟืนไฟ
ตกลงทันใจ
ต้องวา่ ยคงคา
๗๐
ไดฟ้ ังพระเจา้ จงนายสำเภา
ร้วู า่ หนอ่ กษตั ริย์ มีใจเมตตา
จงึ แตง่ โภชนา318 พรากพลัดเมอื งมา
มาถวายภมู ี
เล้ยี งพระภวู ไนย
พระเรง่ รำพึง นายสำเภาผู้ใหญ่
อย่รู มิ พฤกษา สมเดจ็ ราชา
คิดถึงชายา
คอยหาไม่เห็น คอ่ ยทา่ ภวู ไนย
โอพ้ ระทูลกล่าว
เปน็ เหตสุ งิ่ ใด แตเ่ ช้าจนเยน็
เป็นเหตุส่งิ ไร
คอยพระภธู ร เจา้ เป็นฉนั ใด
มืดคำ่ ลงแลว้ จึงไม่เหน็ มา
มาถงึ ลูกยา
เย็นลงรอนรอน
นวลนางเทวี จนเขา้ สนธยา
เจา้ กลวั สิงหส์ ตั ว์ นางแก้วเมยี อา
แต่กนั แสง320ให้ ไว้ในกลางไพร
เจา้ เกิดมาแล้ว เทย่ี งคืนราตรี
โอ้พระลูกรัก ครวญคร่ำร่ำไร
ไม่เห็นบิดา ที่ในชัฏไพร 319
อยูร่ ิมพฤกษา
ไปไดเ้ จด็ วนั
แมน่ ้คี อยทา่ โอพ้ ระลกู แกว้
เก็บแต่ผลไม้ ไมเ่ หน็ บิดา
หลากนักเจ้าแม่อา
เกดิ มาอาลยั
บิดาเจ้านนั้
จะเป็นฉนั ใด
หาพระภวู ไนย
กนิ เปน็ อาหาร
318 โภชนา หมายถงึ อาหาร
319 คำวา่ ชัฏไพร ตน้ ฉบบั ชัฏพลันไมม่ คี วามหมายจึงเปลี่ยนเปน็ ไพร
320 กนั แสง หมายถึง ร้องไห้ ใชว้ ่า ทรงพระกนั แสง หรือ ทรงกนั แสง
๗๑
จะน่ังรอ้ งไห้ ตวั กนู ไี้ ซร้
จะเท่ียวค้นหา เห็นไม่เป็นการ
คิดแล้วนางคราญ ในปา่ ไพรสาณฑ์
ให้ลูกเสวยนม
นวลนางน้องแกว้
โอ้แก้วแม่อา เจา้ เสวยนมแลว้
เชญิ เจ้าบรรทม กลอ่ มใหบ้ รรทม
เจา้ อย่าปรารมภ์
ผูกผ้าบรรจง ท่ีร่มพฤกษา
ทำขวญั ให้เจ้า
แลว้ ใส่เปลผ้า จงึ เอาธำมรงค์321
ของพระบิดา
นวลนางนอ้ งแก้ว พระเพราพงั งา322
จงึ ยอกรไหว้ เอชาให้นอน
ขอฝากผู้บงั อร325
คร้นั วา่ หลบั แล้ว
ทต่ี น้ พระไทร เจ้าบทจร323
ขอฝากลกู ไว้ เทพไทส้ งิ ขร324
จงช่วยรกั ษา ลูกข้าดว้ ยรา
นวลนางน้องแก้ว ขอฝากเจ้าไว้
เที่ยวหาท้าวไท จงได้เมตตา
จึงนางโฉมฉาย ใตต้ น้ กฤษณา
อยา่ ใหอ้ นั ตราย
321 ธำมรงค์ หมายถงึ แหวน
322 พงั งา หมายถึง สวย นางงาม ฝากพระลกู แก้ว
323 บทจร หมายถึง เดนิ ไปด้วยเท้า จึงเสด็จผันผาย
324 สงิ ขร หมายถึง ยอดเขา เพยี งขาดใจตาย
325 บังอร หมายถงึ เดก็ ๆ ทก่ี ำลงั นา่ รัก ตะโกนเรียกหา
สุดเสียงเมียแลว้ ๗๒
เหน็ แตต่ ้นไม้
หาพระราชา โอพ้ ่อดวงแก้ว
เจ้าฟายนำ้ ตา326
ใจนอ้ งคร่ำครวญ นางไหค้ รวญหา
ใจนอ้ งเปน็ ทกุ ข์ ในปา่ พงไพร
ในอกหมกไหม้
โอ้ดอกลำดวน327
รา้ งแล้วมาหา่ ง ครวญหาสายใจ
หนใดไดพ้ บ ทุกข์ถงึ ภูวไนย
พ้นจากผวั ตน ไมเ่ หน็ จมุ พล
เศร้าสรอ้ ยคอยเปล่า เห็นดอกรกั 328รา้ ง
หายไปไกลไกล ห่างนอ้ งกลางหน
สายใจใจหาย พบพระจมุ พล
ตนไมส่ บาย
หลงอยู่ในดง
หนา้ นอ้ งหมองไหม้ เหน็ โศกโศกเศร้า
หาผวั ผวั ข้า เปล่าใจใจหาย
ไกลแล้วนะฤาสาย
กำจาย332พรายพรัด หายไปไมม่ า
แต่นอ้ งเรียกหา
โอพ้ ระคณุ เอ๋ย โอด้ อกกาหลง329
ดงไมก้ ฤษณา
ไมเ่ หน็ ภวู ไนยนอ้ งไหค้ รวญหา330
ข้าไมพ่ บเลย
โอด้ อกกำจัด331
แล้วนะพระเอย
หาอยเู่ บยเบย333
เมยี ไม่...(ขาดหาย)...
326 ฟายน้ำตา หมายถึง เอามอื เชด็ น้ำตาท่ีอาบน้ำอยู่
327 ดอกลำดวน หมายถงึ ช่อื ไม้ต้น ดอกคล้ายดอกนมแมวแตม่ ีขนาดใหญก่ วา่
328 ดอกรัก หมายถึง ไมพ้ ุ่มขนาดเล็ก ดอกมีสีขาวหรือม่วง มรี ยางคเ์ ปน็ คล้ายมงกฎุ
329 ดอกกาหลง หมายถึง ชอื่ ไมพ้ ุ่มชนิดหนึ่ง ปลายใบหยกั เว้าลกึ ดอกใหญ่สขี าวออกเปน็ ชอ่
330 จำนวนคำเกิน
331 ดอกกำจัด หมายถงึ ไม้ยืนตน้ เนอ้ื ออ่ นขนาดกลาง ลำต้นส่วนยอดมหี นามแหลมคม
332 ดอกกำจาย หมายถงึ เป็นพรรณพุม่ รอเลื้อย ลำตน้ และกา้ นใบมีหนามแหลมแข็งและโคง้ คลา้ ยหนามกหุ ลาบ
333 เบย หมายถึง บ่อย
๗๓
หาพระราชา แตน่ ้องเรียกหา
ตะโกนเรียกหา ไม่มาพบพาน
เจ้าเยาวมาลย์334 มาเปน็ ช้านาน
ไม่วายน้ำตา
กาพย์ยานี 11
กล่าวถงึ พรหมทตั จอมกษตั ริยป์ น่ิ โลกา335
แสนเสนาก็มากมี
ครองขัณฑเสมา336 ด้วยสมุ ณฑามเหสี
ท้าวครองพระพารา พระภูมเี ป็นยศธรรม
งามเรอื งรองดูเฉิดฉนั
เป็นป่ินพระบรุ 3ี 37 เปน็ ผาสุกทุกราตรี
มีทงั้ ปราสาททอง ครองนครพาราณศรี
รำพงึ คดิ แต่ในใจ
พระสนมหม่นื หกพนั เร็วอย่าชา้ พระทรามวัย
สมเดจ็ พระภูธร เราจะไปพนาลี
เรง่ เกณฑก์ นั ใหท้ นั ที
วนั หน่ึงพระภูมี รับสั่งท้าวแล้วออกมา
จึงสั่งแก่เสนา แปดตำรวจเรง่ ตรวจตรา
กองอาชาผูก้ ล้าหาญ
กะเกณฑ์พลไกร เคร่ืองสัประยทุ ธ์338ทกุ ประการ
ให้พร้อมในสามวนั อันชำนาญในดงดอน
อีกหน้าไม้ธนูศร
เสนาและมนตรี เป็นกองหน้าพระราชา
หมายกะเกณฑ์ทกุ หมวด ลว้ นกำแหงหมอู่ าสา
รกั ษาองค.์ ..(ขาดหาย)...
กรมชา้ งกรมมา้ เกณฑ์ถ่ถี ว้ นงามเฉดิ ฉาย
ศาสตราแลอาวธุ แห่หน้าช้างพระราชา
ให้เกณฑเ์ อาหมู่พราน
หลาว339แหลน340และเพนชยั
ถวายกับกองมอญ
เกณฑ์ทหารปนื แดง
ตามเสด็จหมรู่ าชา
กรมวังตั้งกระบวน
ตำรวจท้งั ส่ีนาย
334 เยาวมาลย์ หมายถงึ หญงิ สาวสวย
335 โลกา หมายถึง โลก
336 ขันฑสีมา หมายถงึ เขตแดน
337 พระบุรี หมายถึง เมือง
338 สปั ระยทุ ธ์ หมายถึง รบ รบพงุ่ ชิงชยั กนั
339 หลาว หมายถงึ ไมท้ ีเ่ ส้ยี มแหลม เปน็ อาวุธสำหรบั แทง
340 แหลน หมายถงึ เคร่อื งมือใชแ้ ทงปลา ทำด้วยเหลก็ กลมยาว ปลายแหลม มดี ้ามยาว
๗๔
ขุนช้างแตง่ ช้างตน้ 341 สายยันสกนธ์342ลว้ นดารา
พหู่ ้อยทง้ั ซ้ายขวา ล้วนดารา343งามสกุ ใส
ยอ่ มตวั ตราอาชา344ใน
ขุนมา้ ก็แตง่ มา้ มาแต่งรถมิทันนาน
ขนุ รถเรง่ รถให้
จงึ เสนากราบทูลสาร
เสรจ็ แล้วมิทันช้า เสร็จแล้วพระราชา
เกณฑ์หมพู่ ลทหาร โองการตรสั แก่โหรา345
บดั นัน้ ทา้ วพรหมทตั ดฤู กษ์ลาใหจ้ งดี
พรุ่งน้จี ะยาตรา346 ก้มกราบกล่าวทูลภูมี
จึงตามโหราผเู้ ฒ่า จะมลี าภอนั พงึ ใจ
ฟงั โหรามาทลู ไข
ยกไปในพร่งุ น้ี พรุ่งนไ้ี ซรจ้ ะยาตรา
เมอื่ น้ันพระราชา
เชยชมนอ้ งเสนห่ า
สั่งแกเ่ สนาใน พระผ่านฟา้ 347เข้าทสี่ รง
ทรงภษู า349งามบรรจง
สงั่ แลว้ เข้าสู่ห้อง ทรงสังวาล350ตระการตา
ครัน้ ร่งุ เสด็จออกมา อนั เลศิ ล้นงามพอตา
ทางสรงสคุ นธา348 ประดับดว้ ยแกว้ มณี
เครอ่ื งประดบั สำหรบั องค์ อันบรรจงงามมีศรี
ทับทรวงแลกณุ ฑล351 เขา้ ทเ่ี สวยโภชนา
กรรเจียก352ทงั้ ซา้ ยขวา แลว้ ลินลาศขึ้นเกยชาลา
คอยรับเสด็จพระภบู าล
สอดใส่ธำมรงค์
ขึ้นเกยชัยมทิ นั นาน
เสรจ็ แล้วพระภมู ี เสด็จทรงไอยรา353
เสวยแลว้ จงึ พระบาท เคล่อื นพหล354โยธา
ใหโ้ ยธาโหเ่ อาชยั
รพ้ี ลโยธา
ช้างต้นประทบั ไว้
สมเดจ็ พระภบู าล
พระองค์ทรงเครอ่ื งตน้
ยงิ ปนื ขนึ้ สามครา
341 ช้างต้น หมายถงึ ช้างทรงของพระมหากษตั ริย์
342 สกนธ์ หมายถึง กอง
343 ดารา หมายถงึ ดาว ดวงดาว
344 อาชา หมายถึง มา้
345 โหรา หมายถึง โหร
346 ยาตรา หมายถงึ เดนิ เดนิ เป็นกระบวน
347 ผ่านฟ้า หมายถงึ กษตั รยิ ์
348 สคุ นธา หมายถึง เครอ่ื งหอม
349 ภูษา หมายถึง เคร่ืองน่งุ หม่ ผ้าทรง
350 สังวาล หมายถึง สร้อยเครอื่ งประดับชนิดหน่งึ ใช้คล้องเฉวียงบ่า
351 กุณฑล หมายถงึ ตุ้มหู
352 กรรเจียก หมายถงึ เครือ่ งประดับหูมีรูปเป็นกระหนก
353 ไอยรา หมายถงึ ชา้ ง
354 พหล หมายถึง กองทับใหญ่
๗๕
ออกจากพระนคร พระภธู รเขา้ พงไพร
ชมนกทปี่ า่ ใหญ่ จับต้นไม้อยเู่ รียงรนั
นกหก355จบั หางไหล356 หงสย์ นต์จับไม้กะทังหนั 357
นกเขา359ขันคาคบั แค360
วายุภกั ษ์358จบั สพุ รรณ กา363จับปรง364เซง็ แซ่
กะลิง361จบั กาหลง362 นกคบั แค367จบั แคทราย
นกยงู ทอง369บนิ ผนั ผาย
หม่แู ก365จบั พงุ แก366
นกกระเรยี น368มาเวยี นรอ้ ง แลว้ ผนั ผายบินไปมา
นกแกว้ 370จบั แก้วกลาย แล้วบินว่อนขนึ้ เวหา
ทิ้งทดู 371จับทิ้งถ่อน372 หมนู่ กคลาจบั โคคลาน374
นกกาเหวา่ 377จบั กระวาน378
กาจับต้นตมู กา373 เขา380ขานจับคนั ทรง381
นกเปลา้ 375จับกง่ิ เปล้า376
เสียงกึกก้องในทอ้ งดง
นางนวล379จับอย่นู าน
ทใี่ นดงหิมวนั ต์
โพระดกจับโพร้อง
สาลกิ า382จับกาหลง
355 หก หมายถงึ ชอ่ื นกปากขอขนาดเล็ก ปากหนา หวั โต ตวั สเี ขยี ว หางส้ัน
356 หางไหล หมายถึง ช่อื ไม้เถาชนดิ หนึ่งใชท้ ำยา
357 กะทังหัน หมายถงึ ชอื่ ไมต้ น้ ขนาดกลางถงึ ใหญ่ ดอกสขี าว ผลเลก็ รปู ไข่
358 วายุภกั ษ์ หมายถึง นกกนิ ลม
359 นกเขา หมายถึง ชื่อเหยีย่ ว มีสนี ้ำตาลมีหลายตลอดตวั อกสนี ้ำตาลลายกระขาว
360 คับแค หมายถงึ ชอื่ นกขนาดเล็ก เป็นนกเป็ดนำ้ ท่ีเล็กท่สี ุดในประเทศ ปากสั้น รปู รา่ ง อ้วนป้อม
361 กะลิง หมายถงึ ชือ่ นกปากขอ ตวั ขนาดไลเ่ ล่ยี กบั นกแขกเต้า ปากสแี ดง หัวสเี ทา ตวั สเี ขียว หางยาว
362 กาหลง หมายถึง ชือ่ ไม้พมุ่ ชนิดหน่งึ ปลายใบหยกั เวา้ ลึก ดอกใหญ่ สขี าว
363 กา หมายถึง ช่ือนกขนาดกลาง ปากใหญ่หนาแบนขา้ ง ตาสีดำ ตวั สีดำ
364 ปรง หมายถึง ช่ือพรรณไมใ้ นกลุ่มพชื เมล็ดเปลือย ลำต้นรปู ทรงกระบอก สีดำขรขุ ระ
365 แก หมายถงึ ช่อื นกขนาดกลาง รปู ร่างคล้ายกาแต่ตวั เล็กกว่า ขนตามลำตวั สดี ำบางตอนมีสีเทาปน
366 พงุ แก หมายถงึ ชือ่ พ่มุ ไม้ ผลคลา้ ยกุ่มบก กินได้และใชท้ ำยาได้
367 คบั แค หมายถงึ ชอ่ื นกเป็ดน้ำ ตัวเลก็ ปากสดี ำ แบน ขาส้นั
368 กระเรียน หมายถึง ชือ่ นกขนาดใหญ่ หัวและคอลักษณะเป็นปมุ่ หยาบสีแดงสด
369 นกยงู หมายถึง นกขนาดใหญ่ มี ขนหางยาวและมีแวว เพอ่ื ใช้รำแพนใหต้ วั เมียสนใจ
370 นกแกว้ หมายถงึ นกปากงุ้ม ตวั สเี ขียว ปากแดง อย่รู วมกันเป็นฝูง
371 ทงิ้ ทูด หมายถงึ ชื่อนกชนดิ หนง่ึ ในจำพวกนกทดึ ทือ
372 ทิ้งถอ่ น หมายถึง ชื่อไม้ตน้ ขนาดใหญ่ ใบมนๆ เล็กๆ ดอกสเี หลอื ง เปลอื กใชท้ ำยาได้
373 ตมู กา หมายถงึ ชื่อไมต้ น้ 2 ชนดิ คอื ตูมกาขาวหรือมะต่งึ เมล็ดไม่เปน็ พิษ และตมู กาแดงหรือแสลงใจ เมลด็ เปน็ พษิ
374 โคคลาน หมายถึง ชอื่ ไมเ้ ถาชนดิ หนงึ่ ใชท้ ำยาได้
375 เปลา้ หมายถงึ ช่อื นกขนาดเลก็ ลำตัวสีเขียว แต่ละชนิดมสี ีแตกตา่ งกันท่ีหน้าอกและช่วงไหล่
376 เปลา้ หมายถงึ ชื่อไม้ต้นขนาดเล็ก ใบใช้ทำยา
377 กาเหวา่ หมายถงึ ช่อื นกกลางชนดิ หนึง่ ตวั เลก็ กว่ากา ตาแดง หางยาว ตัวผสู้ ีดำ ตัวเมียสนี ำ้ ตาล
378 กระวาน หมายถงึ ช่อื ไม้ลม้ ลกุ ชอบข้ึนในป่าดิบชืน้ ผลคอ่ นขา้ งกลม สนี วล มี 3 พู ใชป้ รุงอาหารและทำยา
379 นางนวล หมายถงึ ช่ือนกขนาดกลาง ปลายปากเป็นปากขอ ตวั ใหญ่ สขี าวเทา ปีกกวา้ ง
380 เขา หมายถงึ ชือ่ นกขนาดกลาง ปากส้ันปลายโคง้ เลก็ น้อย ขนลำตวั สีเทา
381 คนั ทรง หมายถึง ช่อื ไมพ้ มุ่ ดอกสเี หลือง ยอดออ่ นกินได้ ใชท้ ำยา
382 สาลิกา หมายถึง ชือ่ นกขนาดเลก็ ปากสแี ดง มีแถบสดี ำคาดตา ตวั สเี ขียว
๗๖
นกกวัก383จับนางกวัก384 นกกระทา385ปักแลว้ ขันขาน
อัญชนั จับชิงชนั 386 นกนวลจันทรจ์ ับจนั นอน
นกกะลาง389แลสลอน
นกยาง387จับยอดยาง388 อยเู่ รียงเรียงเคียงคกู่ นั
จบั เคล้าแล้วเขา้ นอน
มาจบั เชยพนมสวรรค์
หมนู่ กพญาเสวย มีในช้ันอรญั วา
รำแพนจบั รำพัน มาจับโกวดิ ารา
มีหม่กู ุลาโห จบั พฤกษาอย่ไู สว
หมมู่ ฤคาวง่ิ ไสว
ปกั ษมี นี านา
พระชมสัตวใ์ นปา่ บา้ งเล่นไล่กันมา
ทั้งมหงิ ส์391และเลียงผา392
โดดเต้นเล่นพงไพร มีในป่าอยูม่ ากมาย
ทักกระทอนรสงิ ห3์ 90 เทีย่ วกนิ โป่ง393เล่นดนิ ทราย
สีดินทรายมาแตไ่ กล
โคกระทงิ สิงหรา
ร้องเซง็ แซ่อย่ใู นไพร
พระชมหมชู่ า้ งโขลง ทั้งกำกวม396แลเผอื กเนยี ม
พลาย394พัง395สิ้นท้งั หลาย แล..(ขาดหาย)....จะเทยี ม
พนี่ ายทง้ั หลายแม่ เห็นงามเอ่ียมดโู สภา
ทองแดงสีหมอ้ ใหม่ ถงึ ตน้ ไม้กฤษณา
ทัง้ สีชมพูนชุ ท้าวใหต้ ้ังพลบั พลาชัย
สดี อ397คลอกับเนียม398 กำหนดไดถ้ ึงเจด็ วนั
ประทับร้อนหยดุ โยธา400
ชมแล้วประพาสไป
หอมระรืน่ ชืน่ วญิ ญา
ประพาส399มาในไพร
ชมสมเด็จพระทรงธรรม์
383 กวกั หมายถึง ชอ่ื นกขนาดกลาง ลำตัวสั้น รปู รา่ งป้อม ขาและน้ิวยาว ลำตวั สีขาว
384 นางกวกั หมายถึง ช่อื ไมล้ ้มลุกมหี วั ใตด้ นิ ดอกสขี าว กลนิ่ หอมในตอนเย็น
385 กระทา หมายถงึ ชือ่ นกขนาดเล็ก ลำตัวกลม ขนลายเปน็ กระ ปีกและหางส้ัน
386 ชิงชัน หมายถงึ ชอ่ื ไม้ตน้ เนอ้ื ไมแ้ ข็ง แกน่ สแี ดงเขม้ ถงึ สีมว่ งแก่
387 ยาง หมายถงึ ชื่อนกขนาดกลาง ปากยาวแหลม ตวั สีขาว บางชนดิ สดี ำ น้ำตาล หรือเขยี ว ขายาว
388 ยาง หมายถงึ ชือ่ ไมต้ ้นขนาดใหญ่
389 กะลาง หมายถงึ ชือ่ นกกลางหลายชนิด ลำตัวอ้วนป้อม หากนิ เปน็ ฝูงตามพ้ืนดิน
390 นรสิงห์ คนท่เี ก่งกล้าดุจราชสหี ์
391 มหิงส์ หมายถงึ ควาย
392 เลยี งผา หมายถงึ ชือ่ สตั ว์เลี้ยงลกู ด้วยนม เปน็ สตั วเ์ คย้ี วเอ้ือง รปู รา่ งคลา้ ยแพะ ขนสีดำ
393 โปน หมายถึง นนู ย่ืนออกนอกแนวทอ่ี ยู่ตามปกติ
394 พลาย หมายถึง เรยี กชา้ งตวั ผู้ วา่ ชา้ งพลาย
395 พัง หมายถงึ เรียกช้างตวั เมยี วา่ ชา้ งพัง
396 กำกวม หมายถึง นกขนปีกสีเขียว ปากแดง กินกงุ้ และปลา
397 สดี อ หมายถึง ชื่อเรยี กช้างตัวผูท้ ไ่ี มม่ ีงาหรืองาสน้ั
398 เนยี ม หมายถึง เรยี กงาช้างทใ่ี หญแ่ ต่ส้ันและมักช้ตี รงว่า งาเนยี ม, เรียกช้างทม่ี งี าเช่นน้ัน วา่ ช้างงาเนียม
399 ประพาส หมายถึง ไปตา่ งถ่นิ หรอื ต่างแดน
400 ยทุ ธโยธา หมายถึง งานช่างท่ีเกย่ี วกับทหาร
๗๗
ท้าวหยุดรีพ้ ลไว้ ในดงไม้กฤษณา
หอมระรื่นชนื่ วญิ ญา ลมพัดมาหอมชื่นใจ
พระเสดจ็ ยรุ ยาตร401 ดว้ ยพระบาทประพาสไป
ไดย้ ินเสียงรอ้ งไห้ ท่ตี น้ ไมก้ ฤษณา
เป็นฟูก402อยูใ่ ตพ้ ฤกษา
ท้าวทอดพระเนตรดู เหน็ ทารกก็หลากใจ403
ท้าวเสด็จจะเข้ามา เจ้ากุมารนี้ลกู ใคร
อกเอยนา่ สงสาร หลากแกใ่ จเปน็ หนักหนา
มาท้ิงไว้กลางไพร ชะรอย404องคก์ ษัตรา
อีกทง้ั ผ้ารัดกมั พล405
ท้าวเหน็ ธำมรงค์ ทงิ้ ลูกไวใ้ นไพรสณฑ์
เห็นท้ังพระภูษา ท้ิงลกู อยเู่ อกา
เหตุการณเ์ ปน็ ไฉน เลีย้ งลกู ไว้เป็นลูกยา
หรอื วา่ มาวายชนม์406 รับกมุ ารมาทันใจ
อย่าเลยจะเอาไป เราจะกลบั เข้าเวียงชัย
ตรสั ให้เสนา เลิกพลไกรเขา้ พารา
จากไพรสาณฑม์ ิไดช้ า้
ทา้ วส่ังใหย้ กทัพ
อย่าช้าจงเรว็ ไว ถึงพาราเข้าทันใจ
เสด็จยุรยาตรเข้าวังใน
ยกพลทวยทหาร
รบั เรง่ ตะเบงมา มารบั เสด็จพระภูมี
พเ่ี สดจ็ ไปพนาลี407
ประทบั กบั เกยมาศ พ่นี ไี้ ดก้ มุ ารา
สุมณฑาเจ้าทรามวยั
ให้นางคราญสมุ ณฑา
ท้าว...(ขาดหาย)... รบั เอาเจา้ ยอดสงสาร
เทีย่ วเลน่ ในปา่ ไพรศรี
เจา้ น่ารักใครจะปาน
จงึ เอาพระกมุ าร นางนงคราญ408เจ้ายินดี
...(ขาดหาย)...นางฉายา ความรกั ใครแ่ สนทวี
พนิ จิ ดูพระพกั ตร์ รักดง่ั ลูกในอทุ ร
ความรกั พระกมุ าร ให้ทรามชมเจา้ สายสมร
ลกู เตา้ เจา้ หาไม่ ไมอ่ ทุ ธรณม์ ารอ้ นรน
จบู กอดพระภมู ี
สั่งให้หาแม่นม
พ่เี ล้ียงนง่ั สลอน
401 ยรุ ยาตร หมายถึง เดนิ
402 ฟูก หมายถงึ เบาะ ท่ีนอน
403 หลากใจ หมายถงึ แปลกใจ ประหลาดใจ
404 ชะรอย หมายถงึ เห็นจะ เห็นทีจะ ทา่ จะ
405 กัมพล หมายถงึ ผา้ ทอด้วยขนสัตว์
406 วายชนม์ หมายถงึ ตาย วายชวี ติ
407 พนาลี หมายถงึ ทางปา่
408 นงคราญ หมายถึง นางงาม สาวงาม
๗๘
ปอ้ นขา้ ววนั ละสามชาม แล้วอาบนำ้ วนั ละหน
เมื่อน้ันพระจุมพล ทำขวญั พระกมุ าร
ขวญั แลว้ จงึ ใหพ้ ร ทรามบงั อรมทิ นั นาน
ให้นามพระภูบาล ช่อื ทรงฤทธิก์ ฤษณา
เสรจ็ แลว้ มิทันนาน ด้วยพระเยาวมาลยเ์ ลยี้ งรกั ษา
สบายหลายวนั มา เจ้ากฤษณาค่อยสำราญ
จะเท่ยี วหาพระภบู าล
จะกลา่ วถงึ ฉายา
เทีย่ วไปในไพรสาณฑ์ ไมพ่ บแล้วเจา้ กลบั มา
เจ้าจะคอยพระมารดา
คิดถงึ พระลกู น้อย
คิดพลางนางกลบั มา ไมพ่ บลูกกต็ กใจ
พระลกู ขา้ มาหายไป
โอ้กรรมแลว้ แลหนา ทำไฉนนะอกอา
นางนาฏแทบขาดใจ
กลง้ิ เกลือกเพ้ียงมรณา
นางทอดตวั ลงเสอื ก นางโศกาถงึ ลกู ชาย
ทมุ่ ทอดพระกายา
เม่อื น้นั นางชายา
พิลาป (สรุ างคนางค์ 28) เพยี งจะขาดใจตาย
แคล้วแม่มาหาย
ใหร้ กั พังงา ใตร้ ม่ พฤกษา
โอก้ รรมแลว้ แล
นางทอดตวั ตาย พลัดจากผัวแล้ว
ค่อยคลายวญิ ญา
ไม่เหน็ ลูกแกว้ มาหายในปา่
บัดนีล้ กู ชาย เล่าได้ทำไว้
ชะรอยเวรา
โอพ้ ระลกู แกว้
จากอกแมแ่ ล้ว ทกี่ ลางพงไพร
แม่ร้องไห้หา เพยี งเลอื ดตาไหล
เจา้ เพอ่ื นเขญ็ ใจ จากอกมารดา
มาได้เจ็ดวนั เจ้าออกจากครรภ์
จากลูกจากผวั เปน็ กรรมเวรา
แลว้ แก้วกัลยา409 โอ้ตัวกอู า
โศกาสลบไป
409 กลั ยา หมายถงึ นางงาม
๗๙
เจา้ วรเทวี ค่อยไดส้ มประดี
โอต้ วั อาเหน็ รำพึงในใจ
จะอยูไ่ ปใย ว่าจะบรรลยั
ทนเวทนา
แลว้ คดิ ละหอ้ ย
ไปเที่ยวหาไฟ ให้รกั ลกู น้อย
ใหเ้ มยี นหี้ นา ถึงพระราชา
เมยี ไม่เหน็ มา
จากนวลนอ้ ง..(ขาดหาย).. เป็นหมา้ ยแตส่ าว
พลัดพรากจากกนั
จะรอดหรอื เหน้า สว่ นตวั พระพลัด
เปน็ หมา้ ยแตส่ าว
ไห้รกั ลกู แก้ว แตห่ นุ่มกบั สาว
ทงั้ หลายกนิ ขา้ ว แกอ่ กเมยี รา
โอพ้ ระลกู ยา
ไห้รักผวั แลว้
จงึ นางฉายา รญั จวน410ครวญหา
เที่ยวหาลูกยา เจา้ กินน้ำตา
นางร่ำร้องไห้ ใครพาเจา้ ไป
กลางเถอ่ื น412เกลือ่ นกล่น รำพงึ ไปมา
ชะรอยกษัตริย์ เจา้ คอ่ ยคลาไคล411
พานพบลกู ขา้ น้ำตาลามไหล
ถึงพระลกู ยา
เจ้าประทมุ เกสร
เห็นแลว้ นางงาม เห็นรอยตนี คน
เดินพลางทางให้ รอยช้างรอยม้า
ประพาสในปา่
410 รญั จวน หมายถงึ ปัน่ ป่วนใจ จึงพาเอาไป
411 คลาไคล หมายถึง เดินไป เคลอ่ื นไป
412 เทนิ หมายถงึ เนนิ ดนิ ท่พี ูนข้นึ ไปตามยาว แมแ่ พ้แน่นอน
อกร้อนคอื ไฟ
เจา้ ตามรอยไป
รำ่ ไรเดนิ มา
๘๐
เหมอื นคนเป็นฝี โอ้ตัวกวู า่
ชายคนหนง่ึ เล่า เจบ็ ปวดหนักหนา
ยงิ ซ้ำจำฆา่ จึงเอาปนื ยา
ปม้ิ 413มาบรรลัย
มาจากผวั เจา้
ทกุ ข์เป็นสองเทา่ เหมอื นครง้ั น้เี ลา่
ครวญพลางทางให้ จากลูกหลายใจ
สรอ้ ยเศร้าพระทยั
เจา้ มไิ ดเ้ สวย รำ่ ไรโศกา
นำ้ นมแม่เอย๋
ป่านนี้ลกู ยา โอพ้ ระลูกเอ๋ย
นมพระมารดา
เห็นตน้ ลำดวน เรง่ ไหลออกมา
เหน็ ตน้ โศกเศรา้ จะเสวยนมใคร
รำ่ พลางทางไห้
เดินพลางทางครวญ
เหน็ ตน้ เต่ารา้ ง414 รญั จวนพระทัย
เหมอื นร้างห่างเจา้ เปลี่ยวเปลา่ หวั ใจ
โอพ้ ระราชา แขง็ ใจเดินมา
น้ำตาไหลตก ………(ขาดหาย)………..
นกพรากจากคู่ รา้ งไวเ้ อกา
จากอกเมียไป คู่เคล้าเมยี อา
ป่านนเี้ ป็นไฉน
เหมอื นเมียมาจาก
พลัดพรากจากผวั เหน็ แตเ่ น้อื นก
อยู่ในไพรเขียว คดิ ถึงภวู ไนย
เหมอื นจากภวู ไนย
แต่ตนคนเดยี ว
เหน็ นกจากพราก
ไม่...(ขาดหาย)...เหลียว
แต่ตัวคนเดยี ว
คนเดียววงั เวง
413 ป้ิม หมายถึง เกอื บ จวน แทบ
414 เตา่ ร้าง หมายถงึ ชอื่ ปาล์ม 2 ชนิด ตน้ คลา้ ยหมาก ผลเปน็ ทะลาย
๘๑
แจว้ เจ้ือยเรอื่ ยไป จักจัน่ 415รอ้ งใน
กระทา416ขนั ก้อง ในไพรครนื้ เครง
นกกะราง417กางเขน418 ร้องท้ากันเอง
เอนเกลา้ ไปมา
จับพงดงออ้ ย
เมยี คอยหาเจา้ ยางเจ้าตัวนอ้ ย
เหมือนนกคอยปลา อยู่คอยมองปลา
คเู่ คลา้ เมียอา
คาบเหยอ่ื บนิ มา คอยเปล่าเศรา้ ใจ
กลิ้งเกลอื กเสือกรอ้ ง
เหมอื นข้ารอ้ งหา นางนกสาลิกา419
คนพาลกู ไป
กาเหว่าเร่ารอ้ ง น้ำตาไหลนอง
โพระดกเสยี งใส ถงึ พระลูกยา
หสั นยั น์ไก่ฟา้ 421
ไก่ขนั สน่นั กอ้ ง
พลิ กึ กึกกอ้ ง กึกกอ้ งในป่า
นกเอยี้ ง422อีแอน่ 423 รอ้ งในพนาวา420
ฝงู นกระวงั ภยั ในปา่ พงไพร
บินเร่ร่ำรอ้ ง
ในทอ้ งปา่ ใหญ่
นกขนุ เผน่ ตาไล่
กาสาระวังนาง
415 จักจนั่ หมายถงึ ชือ่ แมลง ลำตัวยาว หวั และอกกวา้ ง ปกี มี 2 คู่ มปี ากชนิดเจาะดดู
416 กระทา หมายถึง ชื่อนกขนาดเล็ก ว่ึงเปน็ วงศ์เดยี วกับไก่ฟา้ ตวั กลม ขนลายเปน็ จุดกระๆ ปกี และหางสนั้
417 กะราง หมายถงึ ช่ือนกขนาดกลาง ลำตวั อว้ นปอ้ ม หากินเปน็ ฝงู ตามพน้ื ดิน
418 กางเขน หมายถงึ ชื่อนกชนดิ หนึ่ง ตวั ขนาดนกปรอด สว่ นบนลำตวั สดี ำ สว่ นลา่ งต้งั แตห่ นา้ อกลงไปสีขาวหมน่
419 สาลกิ า หมายถงึ ชอื่ นกขนาดเลก็ ปากสแี ดง มีแถบสดี ำคาดตา ตัวสีเขยี ว ขนปลายปีกสีนำ้ ตาล
420 พนาวา หมายถึง ป่า
421 ไกฟ่ า้ หมายถงึ ชอื่ นกขนาดกลางหลายชนิดหลายสกลุ ตัวขนาดไลเ่ ล่ียกบั ไก่บ้าน ปากสัน้ แข็งแรง ปลายแหลมโค้งเลก็ นอ้ ย
422 นกเอยี้ ง หมายถงึ ช่ือนกขนาดกลาง รูปรา่ งอ้วนป้อม หางสั้น
423 อแี อน่ หมายถึง ชือ่ นกขนาดเลก็ ตวั สีนำ้ ตาลหรือดำ ปลายปกี แหลม
๘๒
นกจิบ426นกจาบ427 นกคมุ่ 424นกคาบ425
นกกระเตน็ 430ฝงู พิราบ428นกยาง429
หสั นยั อยใู่ นกลาง นกยูงเลน่ หาง
กลางไพรพฤกษา
เจ้าค่อยดำเนนิ
ออกจากพงไพร ชมพลางทางเดนิ
พอพระสุรยิ า ตามรอยโยธา
ใกล้ถึงพารา
นางรำ่ รอ้ งไห้ ใกล้คำ่ ลงรอนรอน
จะเขา้ สนธยา
สงสารสายสมร ยากท่จี ะอาศัย
เทย่ี วไปเขจร
พบสวนมาลา เราเรง่ อาวรณ์
จงึ เขา้ ไปมา รอ้ งไหร้ ่ำไร
นางยกมอื ไหว้
แล้วรำ่ ไรเดินมา
เห็นนางโฉมฉาย นางคอ่ ยดใี จ
ปราศรัยไถ่ถาม ยายตาถามไถ่
ว่านางฉายา เฒ่าทงั้ สองรา
เล่าร้องคดี เมอ่ื นน้ั ตายาย
อันตวั ของขา้ จึงมวี าจา
ข้ากับท้าวไท ด้วยความเสน่หา
เจา้ มาแต่ไหน
จงึ นางเทวี
สองเจา้ ทันใจ
มาแต่เมอื งไกล
มาด้วยหงส์ยนต์
424 นกคุ่ม หมายถงึ ช่ือนกขนาดเลก็ หลายชนดิ ตวั กลม หางส้ัน หากินตามพืน้ ดนิ
425 นกคาบ ในทนี่ ีค้ ณะผู้จัดทำสันนิษฐานวา่ นา่ จะหมายถึง นกขาบ หรอื นกตะขาบ
426 นกจบิ ปัจจุบนั ใช้คำวา่ นกกระจบิ หมายถึง ชือ่ นกขนาดเล็ก ปากเลก็ บางปลายแหลมตรง ขายาวเรยี วเล็ก
427 นกจาบ ปจั จุบันใชค้ ำวา่ นกกระจาบ หมายถึง ชอ่ื นกขนาดเล็ก ปากหนารปู กรวย ปลายหางมน ขนหวั ละขนตัวลาย
428 พิราบ หมายถึง ชือ่ นกขนาดกลาง รปู รา่ งลคา้ ยนกเขาแตข่ นาดใหญก่ วา่ ส่วนใหญ่ตัวสีเทาอมฟา้ อาศรยั อย่เู ปน็ ฝงู
429 นกยาง หมายถงึ ชื่อนกขนาดกลางหลายชนิด ปากยาวแหลมตรง ส่วนใหญ่ตัวสีขาว
430 กระเตน็ หมายถงึ ช่อื นกขนาดเล็กถึงขนาดกลางหลายชนดิ
๘๓
มาในเวหา ขา้ น้คี รรภม์ า
ชักหงสล์ งมา เจบ็ ท้องกลางหน
จึงคลอดลูกตน ในปา่ ไพรสนฑ์
ใต้ตน้ กฤษณา
ขา้ หลากแก่ใจ
คอยทไี่ หน ท้าวไปหาไฟ
ไมเ่ ห็นกลบั มา ไม่เห็นทา้ วมา
เจด็ วนั แลว้ หนา
ผูกเปลลกู แก้ว ข้าเพยี งขาดใจ
ขา้ เทีย่ วไปหา
กลับมาทนั ใจ ไม่เห็นมาแล้ว
ไว้ใตต้ ้นไม้
ท่ใี นไพรสนฑ์ หาพระทรามวัย
จึงรูว้ า่ คน ไมเ่ หน็ ลูกยา
จึงตามมาหา
เหน็ รอยรี้พล
ชลเนตรเจ้าไหล มากมายหนักหนา
ทั้งยายทง้ั ตา พาลูกตนมา
จงึ ปลอบเยาวมาลย์ ลูกรกั ทรามวัย
สมเด็จท่านท้าว เลา่ พลางทางไห้
ไปพิพาส431ไพร คือทอ่ ธาร
มาถงึ พารา เห็นนา่ สงสาร
เจ้าอย่าโศกา
เจ้าอยู่กบั ยาย
พานางขึ้นไป ยายจะบอกเจา้
จงึ ใหแ้ จ่มจัน พรหมทัตราชา
ไดก้ มุ ารมา
ทา้ วแตง่ ทำขวญั
ว่าแก่โฉมฉาย
เถิดหนาแจม่ จัน
บนเรือนด้วยพลนั
เสวยชนาหาร432
431 พิพาส คณะผู้จดั ทำสนั นษิ ฐานวา่ อาจจะหมายถึง คำว่า ประพาส ซึง่ หมายถึง ไปตา่ งถน่ิ หรอื ต่างแดน
432 ชนาหาร ในที่นี้ หมายถงึ โภชนาหาร
๘๔
รักนางฉายา ทัง้ ยายท้งั ตา
ใหเ้ จา้ นทิ รา คือดงั ลกู หลาน
นางนาฏเยาวมาลย์ ในราตรกี าล
นอนสำราญใจ
กาพย์ยานี 11
จึงยายเฒ่าเก็บดอกไม้
ครนั้ วา่ เมอื่ ร่งุ เชา้ เข้าไปถวายทุกวันวาน
เคยรอ้ ยพวงมาลัย รบั ดอกไมม้ าด้วยพลนั
ตัวดีฉันจะรอ้ ยแทน
เมอ่ื นน้ั นางหนอ่ ไท ตัวแม่ยายเห็นไมแ่ คลน
ว่าแม่แกง่ กงัน นางรอ้ ยแทนยายมาลา
เห็นงามหลากเป็นหนกั หนา
แล้วจึงเอาไปถวาย สลบั ลายเป็นลายกล
รางวัลเปน็ อันแมน่ ทำเปน็ เศยี รแลกำพล
แกมจงกล435แนบเนยี นกนั
รอ้ ยเป็นพญานาค ดซู บั ซอ้ นงามเฉิดฉัน
เอาดอกโยทะกา433 เห็นแดงฉานทำเป็นตา
มาเกีย้ วแกมมะลลิ า439
รูปรอยเจา้ รอ้ ยเรยี น ประดับแนมไว้แกมกัน
เอาดอกนลิ ุบล434 ตูมเปน็ แถวแยกเขีย้ วขนั
แกมดอกกนั ทลิกา443
หงอนไก4่ 36ทำเป็นหงอน กาละเม็ดงามหนกั หนา
ดอกบานมริ ้โู รย437น้ัน สง่ ใหเ้ รว็ พลนั
รับเอามาขมขี มัน
จึงเอาดอกนางแย้ม438 แมช่ ่างร้อยงามหนักหนา
ทับทิมเปน็ พิมพา
มะล4ิ 40ทำเขย้ี วแก้ว
สารภี441มะลวิ ัลย์442
สนสรอ้ ย444รอ้ ยเปน็ เกล็ด
รอ้ ยแล้วมิทันชา้
เมอ่ื นน้ั ยายมาลา
จึงว่านางจอมขวัญ
433 โยทะกา หมายถงึ ชื่อพรรณไม้ มดี อกสขี าวนวล มลี ายสชี มพู
434 นลิ บุ ล หมายถึง บวั ขาบ
435 หมายถึง บวั สาย
436 หงอนไก่ ชอื่ ไมล้ ้มลกุ ช่อดอกสแี ดง ลักษณะคลา้ ยหงอนของไก่
437 บานไม่รู้โรย หมายถงึ ชื่อไม้ล้มลกุ ชนิด ลำตน้ คอ่ ยข้างแขง็ แตกแขนงเป็นพุม่ เล็กๆ ใบเดย่ี วออกตรงขา้ มกัน
438 นางแย้ม หมายถงึ ช่ือไม้พุ่ม ใบออกตรงข้าม
439 มะลลิ า หมายถึง ช่ือไม้พมุ่ ดอกสขี าว กลนิ่ หอม
440 มะลิ หมายถึง ช่อื ไมพ้ ุ่ม ดอกสขี าว กลนิ่ หอม
441 สารภี หมายถึง ชอื่ ไมต้ ้น ดอกสีขาว กลน่ิ หอม ใช้ทำยาได้
442 มะลวิ ัลย์ หมายถึง พรรณไมเ้ ถา มีดอกสีขาว มกี ลิ่นหอมออ่ น แฉกกลบี เลีย้ งยาวกวา่ มะลิ
443 กันทลิกา ปัจจบุ ันใชค้ ำวา่ กรรณิการ์ หมายถงึ ช่อฟา้ กลบั บวั ดอกไม้
444 สนสร้อย หมายถึง ไมข้ นาดยอ่ ย ใบเลก็ ๆ เปน็ เส้นๆ คลา้ ยเขม็ ห้อยหัวลง
๘๕
ยายเฒา่ กแ็ ตง่ ตัว จึงหวีหัวแล้วนงุ่ ผา้
เอาแป้งละลายทา ยายมาลาก็เข้าไป
ส่ังผัวใหอ้ ยู่เรือน แล้วจึงเตอื นนางทรามวัย
ว่าแล้วกเ็ ข้าไป ถึงวังในพระราชา
เข้าเฝา้ พระฤาสาย จงึ ถวายพวงมาลัย
สมเดจ็ พระราชา เจา้ รบั เอาพวงมาลัย
งามหนักหนากส็ งสยั
พศิ ดพู วงมาลา
งามกะไรเปน็ หนักหนา
ผิดมอื ยายมาลยั ตวั ของใครร้อยมาลา
จึงถามยายมาลัย
ยายบอกมาใหเ้ ขา้ ใจ
ร้อยเองหรอื ไรหนา ทูลราชาด้วยฉับไว
เม่อื นน้ั ยายมาลา หลานขา้ เจา้ รอ้ ยมาลาเขา้ มา
ช้ันวา่ พวงมาลยั หลานยายเฒา่ ดีหนักหนา
รอ้ ยมาลาทีใ่ นวัง
ท้าวจึงตรัสว่าเล่า
ใหเ้ อาตวั เข้ามา ทูลพระเจา้ โดยใจหวงั
มิไดข้ ัดพระโองการ
บดั นน้ั จงึ ยายเฒ่า ตัวมนั เองกพ็ กิ าร
จะเอาไปในวงั
เปน็ ขเี้ รอ้ื นส้นิ ทัง้ ตน
แตว่ ่าเป็นนักเลง พูดแก้ไขด้วยเลห่ ก์ ล
ขอทลู พระภูบาล ว่าเสยี ดายด้วยโรคา
ยายเฒ่าป้องปิดไว้ เงนิ คราน้นั สามสิบหา้
ทง้ั ผ้าผอ่ นและแพรพรนั
เมอื่ นั้นพระจุมพล
ท้าวจึงให้รางวัล หลานออเจ้าชา่ งคมสนั
เป็นขีเ้ รื้อนสิน้ ทงั้ ตน
ให้หลานยายมาลา
สง่ ทุกวนั อย่าขดั สน
ท้าววา่ แกย่ ายเฒ่า เจ้ากฤษณาทกุมาร
เสียดายแตเ่ จา้ น้นั ก้มกราบเกล้าลาภูบาล
ให้ร้อยต่างต่างกัน ไปอุทยานมิทันช้า
จะให้นฤมล วา่ ท่านทา้ วเหน็ มาลา
เม่อื นน้ั ยายเฒ่า เจ้าเขา้ ไปไวใ้ นวงั
เปน็ พยาธอิ ยรู่ ุงรัง
ได้รับพระราชทาน ประทานมาใหเ้ ทวี
ครน้ั ถึงบอกเจา้
ตวั ของขา้ ไมใ่ ยดี
จะเอาตวั ฉายา กว่าจะพบพระลกู ยา
ยายทลู ว่านางนาฏ
ข้าฝากไวท้ ั้งสองรา
เอาเงินสบิ หา้ ช่งั ทงั้ สองราก็ดีใจ
เจา้ อตุ ส่าหร์ อ้ ยมาลยั
นางจึงมีวาจา
ขอฝากแตเ่ ทวี ใหส้ ายใจชมทกุ วนั
เงนิ ทองท้งั นีไ้ ซร้
เม่อื นนั้ ยายกบั ตา
เม่อื นน้ั นางฉายา
รอ้ ยแลว้ ส่งเขา้ ไป
๘๖
ชวนวา่ กฤษณา จำเริญมางามเฉิดฉัน
อายขุ องเจา้ น้ัน สิบหกขวบงามโสภา
ท้าวรักใคร่เป็นหนกั หนา
พรหมทัตภูวไนย ให้บญั ชาแก่มนตรี
จะใหเ้ ป็นฝ่ายหนา้ มชี งคามนตรี
ไปแจง้ เหตทุ ุกหัวเมือง
คดิ แล้วส่ังเสนา แตง่ ธิดามานองเนอื ง
แตง่ ตราพระราชสหี ์ แต่งธิดามาถวาย
รับชงคาแลว้ ผันผาย
ท้งั รอ้ ยเอด็ พญา ให้นกั การด้วยฉับไว
ส้ินทั้งร้อยเอด็ เมือง แลว้ แยกยา้ ยรายกนั ไป
ท้งั รอ้ ยเอด็ นครา
เม่ือน้นั จึงเสนา เอาราชสารมทิ นั ช้า
เร่งกันแตง่ กฎหมาย ทั้งร้อยเอ็ดพระบุรี
เห็นทอ้ งตราพระราชสหี ์
นกั การแตง่ กฎหมาย แต่งบุตรีมาถวาย
ไปถงึ พระเวียงชัย งามโสภาดเู ฉดิ ฉาย
แกส่ มเดจ็ พระราชา
เมือ่ น้นั นายนักการ โองการตรัสมทิ ันชา้
สั่งใหแ้ กพ่ ระยา ใหเ้ ลอื กเอาตามชอบใจ
รบั โองการของท้าวไท
ทงั้ รอ้ ยเอ็ดพระยา ทง้ั รอ้ ยเอด็ พระธดิ า
คร้นั ร้ซู ึง่ คดี พระทรามวัยทลู บิดา
ตัวลูกยาไม่ชอบใจ
ทงั้ รอ้ ยเอด็ พระธิดา จะเอามาครองกรงุ ไกร
จงึ เอามาถวาย ขอทา้ วไททราบบาทา
เม่อื นัน้ พรหมทัต จึงมีชงคา
แก่เจ้ากฤษณา
ผู้ดีเข็ญใจ
กฤษณาทกุมาร
จงึ เรยี กนางทรามวยั บา้ นนอกคอกนา
เจ้าไม่ชอบน้ำใจ เศรษฐถี ว้ นคน
นวลนางทงั้ นห้ี นา
ไมต่ อ้ งในลกั ขณา
ลกู รกั ไมช่ อบใจ
กาพยฉ์ บัง 16
เมื่อน้นั พรหมทัตราชา
ส่งั แกเ่ สนาทนั ใจ
ใหเ้ ก็บลูกสาวชาวกรุงไกร
ตามบุญของใครเถิดหนา
ในเมืองนอกเมอื งเก็บเอามา
ชาวป่าชาวสวนทว่ั ทง้ั เมอื งคน
คหบดไี พรพ่ ล
ใหเ้ ลอื กเอาตามใจ
๘๗
เสนารบั ส่งั ภวู ไนย ออกมาทันใจ
ไปเก็บเอาลูกสาวชาวเมือง ดำแดงขาวเหลือง
เทย่ี วเก็บเอามา
ลกู ลาวลกู มอญนองเนอื ง ชาวเหนอื ชาวใต้
สดุ แตเ่ ป็นสาวเอามา กฤษณาโฉมยง
เจ้าไม่พอใจ
ลูกสาวชาวตลาดนานา แก่พระทรงธรรม์
ท้ังผดู้ เี ข็ญใจ ขอทูลราชา
อำมาตย์เรง่ ไป
เก็บท้ังลกู จีนลูกไทย ลนลานวิ่งมา
บดั นี้ทรงธรรม์
ชาวไร่ชาวนาป่าดง ตาแก่ตกใจ
เอามาถวายพระองค์ ลนลานวง่ิ มา
ยายเฒ่าจึงถวาย
พระองคก์ ไ็ ม่พอใจ ตายายมาลา
หมดสนิ้ ทั้งเมืองเวยี งชยั ว่านางเทวี
โฉมงามเลิศลน้
บอกใหก้ ลบั ไปด้วยพลนั ข้าเฒา่ รกั ษา
ข้าเฒ่าถวาย
อำมาตย์จงึ กราบทลู พลัน
ว่าแต่หลานยายมาลา
รูปรา่ งนางงามพอตา
พระองค์จงทราบพระทัย
จงึ มโี องการทันใจ
หายายมาลยั เข้ามา
อำมาตย์ถวายบงั คมลา
มชิ ้าก็ถึงสวนขวญั
จึงเลอื กเอาไปดว้ ยพลนั
ให้หายายเฒา่ เขา้ ไป
เม่อื นนั้ จงึ ยายมาลัย
ฉวยได้ผ้าห่มแลว้ ก็ออกมา
อำมาตยพ์ ายายมาลา
ยายเฒ่ามาลาหอบแทบตาย
คร้นั ถึงจึงเฝ้าฤาสาย
แกพ่ ระราชา
ท่านท้าวจึงมวี าจา
พาเฒ่าข้รี ้ายบดั สี
ปดเปล่ามาเลา่ คดี
เจ้าเปน็ ขเ้ี รอ้ื นท้งั ตน
เขาบอกว่านริ มล
ใครเห็นเปน็ ทำขวัญตา
ยายเฒ่าจงึ รับบัญชา
หายแล้วจะเอามาถวาย
รปู รา่ งนางงามเฉิดฉาย
พระกฤษณาพระภมู ี
๘๘
เมื่อนั้นพระจักรี ช่นื ชมยนิ ดี
ภูมีจึงให้ประทาน แล้วจึงประทาน
ห่มผ้าดอกคำ
ตารางผา้ อย่างโบราณ ตรัสส่งั มนิ าน
อกี ทง้ั ผา้ หม่ ดอกคำ ไปรบั ฉายา
ตกแต่งเครือ่ งทรง
ยายเฒ่าจึงลุกขน้ึ รำ สคุ นธมาลา
ทั้งฟันก็หักนมยาน สำหรบั นางทรง
บอกนางฉายา
เม่ือน้ันจึงพระภูบาล เจ้าค่อยคลายใจ
ชาวในซ้ายขวา
ให้จัดพนกั งานซา้ ยขวา สคุ นธมาลัย
ให้จัดวอ445ทองรจนา ทรงสังวาลครัน
แลว้ จะลินลา
อีกท้งั ผา้ ไตรเครอ่ื งทรง ครน้ั ถงึ วงั ใน
ชาววงั รับส่งั พระองค์ พศิ ดูนางคราญ
ใครจะเทียมทัน
อีกท้ังสังวาลรจนา
ผ้าต้นงามโสภา
ท้ังน้ำกุหลาบอาบองค์
วรวงทองอนั งามเยน็ ระยง
เสรจ็ แลว้ กพ็ ากนั มา
ครน้ั ถงึ จงึ ยายมาลา
วา่ ท้าวให้รับเขา้ ไป
เม่ือนัน้ จึงนางทรามวยั
จะไดพ้ บพระลกู ยา
คดิ แล้วนางจึงออกมา
ชวนกนั เขา้ มาปราศรัย
ให้เจ้าสรงน้ำดอกไม้
เครื่องหอมกระแจะจนั ทน์446
ผา้ ตน้ งามเฉดิ ฉนั
นำ้ มันบำรงุ โทสา
งามฉัตรเพียงจะบาดตา
เข้าสวู่ อทองทันใจ
ชาวแมแ่ หห่ อ้ มไสว
ขึน้ เฝา้ สมเด็จภบู าล
เมื่อนน้ั พรหมทัตฉายฉาน
งามยง่ิ นารเี มอื งสวรรค์
งามพระพักตรค์ ือจันทร์
ควรท่จี ะครองเวยี งชยั
445 วอ หมายถึง ยานที่มีลักษณะเป็นรปู เรือนหลงั คาทรงจว่ั สำหรับเจ้านายหรอื ขา้ ราชการฝ่ายในนง่ั มคี านรบั อยู่ขา้ งใตค้ ูห่ นง่ึ
ใชค้ นหาม
446 กระแจะ หมายถึง ผงเคร่อื งหอมต่างๆ ทีป่ ระสมกันสำหรับทา เจิม โดยปรกติมีเคร่ืองประสม คือไม้จันทน์ จงึ เรยี กวา่
กระแจะจนั ทน์
๘๙
เพง่ พิศเร่งต้องติดใจ ด้วยโฉม...(ขาดหาย)...
พสิ มัยในองคน์ งคราญ ไกรพบจบสถาน
ในแผ่นยังดินดอน
ประเสรฐิ เลิศโลกสงสาร ลวงกไู วไ้ ด้
ไมป่ านโฉมนางบงั อร ท่ีเฒ่าแสนดล
แลว้ คดิ อา่ นใจ
รา่ งอยา่ งเทพอปั สร ลกู รกั สงสาร
บห่ อ่ นจะเปรียบอรทัย เห็นพระมารดา
ท้าวโกรธแกย่ ายมาลยั ไม่รูว้ า่ มารดาไท
ว่าเป็นข้เี รอ้ื นทั้งตน จึงกราบทลู พระบิดา
จะควรทคี่ รองพารา
ตวั กไู มร่ ้แู ยบยล
มันแชง่ แกล้งเบยี ดบงั นาง ควรครองพระบุรี
นางหน่อไทผโู้ ฉมศรี
ทา้ วพิศวงหลงใหล
ท้าวไทจงึ มโี องการ ท้าวจึงมีพระชงคา
ส่ังเสนาและมนตรี
ตรสั กฤษณากุมาร ใหค้ รองพระพารา
มาดยู ายมาลา
เคร่ืองเลน่ นนั้ ทกุ ภาษา
เมอ่ื นนั้ จงึ เจา้ กฤษณา ทง้ั โขนนงั่ แลฆอ้ งกลอง
กฤษณาเจ้าชอบพระทยั
ทงั้ ระบำแลเทพช่วง
กาพ์ยานี 11 ใหถ้ ถี่ ว้ นทกุ ประการ
ทง้ั พราหมณช์ พี ฤฒาจารย์448
ส่วนว่าเจา้ กฤษณา
ให้รักให้พอใจ อุปภิเษกเจ้าสองทรามวัย
ชวนกนั มาอวยพรชยั
อันวา่ นางองคน์ ้ี
ควรเป็นอัครฉายา อยเู่ ป็นสุขทกุ วนั วาน
ลกู รักมาชอบใจ
ชอบใจนางเทวี
.........(ขาดหาย)........
อภเิ ษกเจา้ สองศรี
สมโภช447ท้งั เจด็ วนั
ใหแ้ ต่งกันเข้ามา
ละครแลมอญรำ
เครอื่ งเลน่ สน้ิ ทั้งปวง
ครัน้ ว่าได้ฤกษด์ ี
พรอ้ มกันมทิ นั นาน
คร้ันแลว้ มิทนั ชา้
ให้เจา้ สองทรามวยั
447 สมโภช หมายถงึ งานเลย้ี ง, งานฉลองในพธิ มี งคลเพ่ือแสดงความยินดรี ่าเรงิ
448 พฤฒาจารย์ หมายถงึ อาจารย์ผ้เู ฒา่ , พราหมณผ์ เู้ ฒ่า
ใหค้ รองพระพารา ๙๐
โรคาอย่ามาพาน
พระชนมาจงยืนนาน
พรเดชจงฟุ้งเฟือ่ ง ทง้ั ...(ขาดหาย)...อยา่ ไดม้ ี
ร้อยเอด็ พระบุรี ใหล้ ือเลือ่ งทัง้ กรงุ ศรี
มาก้มเกล้าถวายพร
หม่มู ารปจั จามติ ร จงกลวั ฤทธ์พิ ระภธู ร
พระเดชฤาขจร ทุกทุกเมอื งเล่อื งลอื ชา
โองการตรสั แกฉ่ ายา
สมเด็จท้าวพรหมทตั ให้ไปอยูป่ ราสาทจันทร์
ลาภธู รแล้วผายผนั
ชาวในทง้ั ซา้ ยขวา ตามจอมขวัญเข้าวงั ใน
นางประทมุ เกสร งามเรอื งรองงามสุกใส
ไปอยู่ตามตำแหนง่ กัน
พระสนมนางกำนัล ครนั้ เพลาเขา้ สรุ ยิ น
นางขนึ้ ปราสาททอง พระจุมพลเสดจ็ มา
จึงพระแกว้ เจ้าลนิ ลา
พระสนมกรมใน เสด็จลินลามาทนั ใจ
เปิดใบดาลน้ันเขา้ ไป
เม่ือนน้ั เจ้ากฤษณา ม้าแมล่ กู จะเจรจากนั
คิดถงึ นางนิรมล อ้อนกนิ นมแมด่ ว้ ยพลนั
อย่าเพิง่ กนิ นะลูกยา
เพลายามหน่งึ แล้ว บ่รจู้ กั พระมารดา
มาหานางฉายา ทำมิจฉาด้วยพระชนนี
ฟังมา้ นน้ั ม้าพาที
จงึ พลักพระทวาร พระภมู เี จ้ากลับมา
พระทองเจา้ ไคลคลา
เทวาเข้าดลใจ มาถึงตรีอศั จรรย์
ลูกมา้ มาเชยชม กินนมแมด่ ้วยพลัน
แม่แพะนนั้ ห้ามลูกตน
แม่วา่ อัศจรรย์ ลูกชายโหดชั่วทรพล
ลูกคนโหดเห้ียมหนกั เมือ่ คดิ มาน่าบัดสี
...(ขาดหาย)... เป็นสิน้ ที
ควรหรอื พระลกู ยา พระภมู เี จา้ กลบั มา
พระโฉมงามเจ้าไคลคลา
พระกฤษณาจันทร์ แมวแม่ลูกมาพาที
ยามนีม้ ิสดู้ ี วอนกินนมแม่ดว้ ยดี
อย่า...(ขาดหาย)...กนิ หนาลกู อา
ยามวา่ ถงึ ยามสอง ไมเ่ คยเห็นแต่กอ่ นมา
พระเจ้าจึงเขา้ มา ทำมิจฉาด้วยแม่ตน
มีแพะแม่ลกู ...(ขาดหาย)...
แพะจงึ เจรจากัน
........(ขาดหาย).........
จะมาหาแมต่ น
ฟงั แพะเจรจากัน
ยามนีม้ สิ ดู้ ี
ครั้นดกึ ถงึ ยามสาม
เจ้าเสดจ็ ถงึ ปรางคป์ รา
แมล่ กู ทง้ั สองสม
แม่แมวจึงพาที
นิ่งอย่คู อยดเู ลน่
ลกู รกั จักมาหา
๙๑
พระฟงั แมวพาที พระมจี ติ คิดฉงน
ยามนี้มิชอบกล อัปมงคลเปน็ หนกั หนา
ดว้ ยสัตวม์ ันพาที พระภูมเี รง่ สงกา
ด้วยสัตวเ์ จรจา วา่ ลูกยากบั แมต่ น
สงสยั พระทยั นกั พระช่างหลากคดิ ฉงน
หรอื ว่านิรมล เจา้ นีเ้ ป็นพระมารดา
จึงจะร้แู จ้งคดี
จำจะไปถามดู
คดิ ขนึ้ มานา่ รำคาญ
ด้วยสตั ว์น้นั มีวาจา ค่อยบทจรมทิ ันนาน
ยามส่พี ระภธู ร
ผลกั ทวารเขา้ ไปพลนั
ฝงู สัตว์ไม่สนั ถาร พระภูมีใจกระสนั
ข้นึ นัง่ บนแทน่ ที ว่านางนนั้ เปน็ มารดา
ยงั ไม่รู้ท่ีสำคญั เจ้าบังอรมีวาจา
บอกขา้ น้องให้เข้าใจ
นางประทุมเกสร
ขอถามพระมารดา ขา้ พเจา้ คดิ สงสัย
ประหลาดใจเปน็ หนักหนา
ขอพระองค์จงบอกเรา จอมกษัตริยป์ ่นิ โลกา
พระองคน์ ี้เป็นไฉน
เอามาเล้ยี งเปน็ บุญธรรม
ไมเ่ หมอื นทา้ วพรหมทัต พระภูมอี ยา่ อมึ อำ
หรือว่าพระราชา บอกข้านอ้ ยให้แจ้งใจ
ขอพระบอกคดี มวี าจาบอกทรามวยั
พระองคไ์ ดต้ ัวขา้ มา
..............(ขาดหาย)...............
เมือ่ นนั้ เจ้ากฤษณา ใต้ต้นไมก้ ฤษณา
ช่อื กฤษณาพระกุมาร
ทา้ วไปพพิ าสไพร
จงึ มริ ู้ซ่งึ อาการ
ได้มาแตป่ า่ ใหญ่ ใหบ้ นั ดาลเมือ่ จะมา
จงึ ให้พระนามขา้ นางม้าน้ันเจรจา
ข้านยี้ ังเดก็ อยู่ มาถึงตรึกอัศจรรย์
สงสัยใครจะปาน ตัวข้าน้ีคดิ ไหวหวั่น
มาถงึ ทวารพลัน จงึ ....(ขาดหาย)...นางวิมาลา
ห้ามลกู ตนวา่ อย่า
พระ...(ขาดหาย)...ท่ีน้นั มา เอาแมต่ นทำเมยี ขวัญ
นางแพะจึงพาที
สัตวท์ ้งั นีว้ ่าเหมือนกัน
มาจากทีอ่ ัศจรรย์ นางยงั เป็นฉันใด
มากลา่ วอนุสนธิ
มีวาจาไปทนั ใด
อย่าลกู คนจะเข้าหา ใช่อื่นไกลคือมารดา
ทองรอ้ ยชั่งเจา้ แม่อา
ข้าน้ีได้ยนิ เนอ้ื ความ
เปน็ น่าอศั จรรย์ ดว้ ยบดิ ามาทางบน
นางฟังพระลกู ยา
คือตวั ข้านไี้ ซร้
จะเล่าใหเ้ จา้ ฟัง
แมท่ รงครรภเ์ จ้าออกมา
๙๒
…ขาดหาย)...บนกลางหน ชกั หงสย์ นต์รอ่ นลงมา
.............(ขาดหาย)............... .............(ขาดหาย)...............
ชักยนตล์ งอาศยั ใตต้ น้ ไมก้ ฤษณา
จึงคลอดพระลูกยา แลว้ บดิ าไปหาไฟ
ไมเ่ ห็นกลบั มา พระมารดาจงึ ร่ำไร
คอยหาพระภวู ไนย แมน่ ้ีไซร้ไห้โศกา
ใต้ตน้ ไมก้ ฤษณา
แมล่ กู ...(ขาดหาย)...เล่าไซร้
ไม่พบท้าวที่ในไพร
แม่นีไ้ ปเทย่ี วหา หาลกู ยาทีร่ ม่ ไทร
แม่นีจ้ งึ กลับมา
เห็นรอยพลโยธา
ไมเ่ หน็ พระทรามวยั แมน่ ตี้ ดิ ตามมา
แมจ่ ึงรวู้ า่ คน .............(ขาดหาย)...............
พาพบสองเฒ่าเข้าอาศัย ครา่ วนำ้ ตาลงลามไหล
กนั แสงให้อย่ไู ปมา
เล่าพลางทางโศกา
สวมกอดยอดอาลยั ก้มกราบกรานกับบาทา
เจา้ โศกาให้ร่ำไร
กฤษณาพระกมุ าร ทรมารนานเหลือใจ
รู้จกั วา่ มารดา
ลกู นไ้ี ซรไ้ ม่รตู้ ัว
จากมาลกู ช้านาน คอยลกู น้อยนเ้ี มามวั
จนลกู เตบิ ใหญ่ มาเปน็ องคพ์ ระมารดา
แมเ่ จา้ ละห้อย ขออยา่ ไดม้ เี วรา449
ขอโทสาแลว้ ร่ำไร
.............(ขาดหาย)...............
ลูกนอ้ ยขออภยั อย่าโศกาวนุ่ วายไป
จะเลา่ ถงึ บดิ า
กราบลงกบั บาทา
กล้นั โศกไว้อย่าโศกา
จงึ ทลู แกม่ ารดา ทา้ วจะมาหายาหยี
เมอื่ ความทัง้ นไ้ี ซร้ เจ้านอบนบพระชนนี
พระแมอ่ ยา่ ร้องไห้ ทำอยา่ งอัครฉายา
เกลอื กร้ถู ึงบดิ า ไมใ่ หใ้ ครมาสงกา
กลางคืนทำคำรบ เจ้าแกล้งเอาเนอ้ื ความไว้
ค่อยผ่องแผ่วในพระทยั
กลางวนั พระพนั ปี ไมใ่ ห้ใครมาสงกา
ปิดงำเนอ้ื ความไว้
ล่อลวงพระบิดา
แมล่ กู พบกันแล้ว
ค่อยนิ่งคอ่ ยอยไู่ ป
449 เวรา ปจั จุบนั ใชค้ ำว่า เวร หมายถงึ ผล ผลกรรม
๙๓
สรุ างคนางค์ 28 เรื่องนย้ี กไว้
ถงึ นายเภตรา
จะกล่าวบทไป เตม็ ทอ้ งนาวา
บรรทุกสงิ่ ของ คันทารวสิ ยั
ออกจากพารา
.............(ขาดหาย)............... .............(ขาดหาย)...............
.............(ขาดหาย)............... .............(ขาดหาย)...............
.............(ขาดหาย)...............
ใชใ้ บเล่นมา ในกลางชลธาร
กาพยย์ านี 11
ครัน้ เห็นหวานคลานเคล้ากนั .............(ขาดหาย)...............
.............(ขาดหาย)............... .............(ขาดหาย)...............
ฝงู หญิงในโลกา อนั เกิดมาในแผ่นดิน
ลางหญงิ มิเคยกนิ พบรถแลว้ หวานเอาใจ
ว่าพลางทางแนบนอ้ ง เจ้าทั้งสองรว่ มพสิ มยั
กามกวนใหย้ วนใจ ย่อมหลงใหลใหด้ ้วยเร็วรา
สองสมเชยชมชิด ร่วมสนิทเสน่หา
ยียวนปว่ นไปมา ดัง่ คงคาอันลามไหล
เมื่อตอ้ งพายพุ ัด คลน่ื ซัดครืนเครงไป
ครนื ครนั้ อยหู่ ว่นั ไหว กระทบฝง่ั อยวู่ งั เวง
พระพายชายพัด ต้องเปน็ ท้องอยคู่ ร้ืนเครง
ครนั้ แลว้ กห็ ายเอง ทง้ั สองเจ้าไกลฤดี
ครั้นแล้วนางทรามวัย จงึ บงั คม...(ขาดหาย)...
.............(ขาดหาย)............... .............(ขาดหาย)...............
.............(ขาดหาย)............... .............(ขาดหาย)...............
.............(ขาดหาย)............... .............(ขาดหาย)...............
(ต้นฉบับสว่ นปลายขาดหาย)