The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by สุภัสสร ศรีบุญธรรม, 2024-02-06 02:59:00

ขั้นตอนและวิธีการถอดบทเรียน

ครูเนส

แนวคิด ขั้นตอนและวิธีการของการถอดบทเรียน สมพร อินทร์แก้ว ภัคนพิน กิตติรักษนนท์ กรมส ุขภาพจิต กระทรวงสาธารณส ุข


วิธีการประมวลความส าเร็จของการด าเนินงาน และได้แนวทางการพัฒนางาน การน าเสนอผลงาน การระดมสมอง การวิจัยประเมินผล การแลกเปลย ี ่ นเร ี ยนร ้ ู การถอดบทเรียน


กระบวนทศ ั น ์ หลก ัในการแสวงหาความร ้ ู ความจร ิ ง กระบวนทัศน์เชิงปริมาณ กระบวนทศ ั น ์ เช ิ งค ุ ณภาพ 1. ความจริงแท้จับต้องได้ วัดได้ 2. ความจริงต้องมีหนึ่งเดียวและเป็น สากล 3. ความจร ิ งแทส้ ามารถแยกระหวา ่ งผ ู ้ ศึกษาและปรากฎการณ์ที่ศึกษา 4. ความสัมพันธ์ของปรากฎการณ์เป็น แบบเหตุผล 1. ความจร ิ งเป็ นส ิ่งท ี่เก ิ ดจากการรับรู้ ตีความเชิงพัฒนาการ ของผู้ที่ เก ี่ยวขอ ้ ง 2. ไม ่ ม ี ความจร ิ งสากลแต ่ ม ี ความจร ิ ง ตามบริบท 3. ความจร ิ งเป็ นส ิ่งท ี่เก ิ ดจาก ปฏ ิ สัมพนัธ ์ ระหวา ่ งผศ ู ้ึ กษากบัส ิ่งท ี่ ศ ึ กษาไม ่ สามารถแยกกนัได ้ 4. ความสัมพันธ์ของปรากฎการณ์เป็น ปฏ ิ สัมพนัธ ์ ต ่ างคนต ่ างกา หนด


การถอดบทเรียน 1. ผลลพ ั ธ ์ ตามเป้ าหมายท ี ่ กา หนดไว ้ 2. เหตุผล / เหตุปัจจัยที่เป้ าหมายบรรลุหรือไม ่ บรรล ุ 3. บทเรียน (ความรู้ / การเรียนรู้) ที่ได้ 4. แนวคิดการพัฒนางานในอนาคต 25% 25% 50%


บทเรียน ( ความร ้ ู / การเร ี ยนร ้ ู) ที่ได้ จากการถอดบทเรียน ส่วนที่ 1 สะท ้ อนค ุ ณค ่ าของงาน ส่วนที่ 2 วธ ิีปฏ ิ บ ั ตข ิ องผ ้ ู ทอ ี ่ ย ่ ู หน้างาน ส่วนที่ 3 จ ุ ดแขง ็ ทเ ี ่ ป็ นปั จจ ั ยความส าเร็จ ที่น าไปเป็ นแนวทางด าเนินงาน โครงการทเ ี ่ กย ี ่ วข ้ องกบ ั กล ่ ุ มเป้ าหมาย


วต ั ถ ุ ประสงค ์ การถอดบทเร ี ยน • เพื่อทราบผลการด าเนินงาน • เพื่อเป็ นแนวทางในการปรับปรุงงาน • เพ ื ่ อลดความผด ิ พลาดซ ้ า • เพ ื ่ อต ่ อยอดความสา เร ็ จท ี ่ เก ิ ดข ้ึ น


การถอดบทเร ี ยนบนพ ้ ื นฐานของการแลกเปล ี ่ ยนเร ี ยนรู้ -ได ้ ความร ้ ู /ได ้ การเร ี ยนร ้ ู -ได้มิตรไมตรี -ได้ก าลังใจ / แรงบันดาลใจ -ได้เครือข่าย


แหล ่ งเกบ ็ ความร ้ ู ในองค ์ กร (คล ั งความร ้ ู) สมองของพนักงาน เอกสาร(กระดาษ) เอกสาร(Electronic) Knowledge Base (IT) 42% 26% 12% 20% สมองของพนักงาน เอกสาร (กระดาษ) ฐานข ้ อม ู ลความร ้ ู(Knowledge Base ,IT) เอกสาร (Electronic) Source: Survey of 400 Executives by Delphi


Characteristics of Knowledge ความรู้ที่ชัดแจ้ง (ความรู้เด่นชัด) Explicit กฎ ระเบียบ คู่มือ แผนปฏิบัติการ ระบบ CPG, CareMap Tacit ทักษะ ประสบการณ์ พรสวรรค์ สัญชาตญาณ ความคิดริเริ่ม •Documented •Codified •Archived •Not Documented •Difficult to identify ความรท ้ ู ี ่ ฝั งอยใ่ ู นคน (ความรู้ซ่อนเร้น) KM : ร.พ.ศิริราช


• วิชาการ หลักวิชา • ทฤษฎี (Theory) ปริยัติ • มาจากการสังเคราะห์ วิจัย ใช้สมอง (Intellectual) • เป็ นกฎเกณฑ์ วิธีการ ข ้ นัตอนท ี่ผา่นการพิสูจน ์ • ภูมิปัญญา เคล็ดวิชา • ปฏิบัติ (Practice) ประสบการณ์ • มาจากวิจารณญาณ ใช้ปฏิภาณ (Intelligent) • เป็ นเทคนิคเฉพาะตัว เป็ นลูกเล่นของแต่ละคน Explicit K. + Tacit K.


ความร ้ ู ท ่ ฝีั งอย ่ ู ในคน (Tacit Knowledge) ( 1 ) ( 2 ) ( 3 ) อธิบายได้ แต ่ ย ั งไม ่ ถ ู กน าไปบ ั นทก ึ อธิบายได้ แต่ไม่อยากอธิบาย อธิบายไม่ได้ Tomohiro Takahashi ความร ้ ู ท ่ ชีั ดแจ ้ ง (Explicit Knowledge)


วงจรสร ้ างความร ้ ู(Knowledge Spiral : SECI Model) ( อ้างอิงจาก : Nonaka & Takeuchi ) Socialization Externalization Internalization Combination ความรู้ที่ชัดแจ้ง (Explicit Knowledge) ความร ้ ู ท่ชีัดแจ ้ ง (Explicit Knowledge) ความร ้ ท ู ี่ฝังอย่ใ ู นคน (Tacit Knowledge) ความร ้ ท ู ี่ฝังอย่ใ ู นคน (Tacit Knowledge)


Socialization การแบ ่ งปั นและสร ้ างความร ู ้ จาก Tacit Knowledge ไปส ่ ู Tacit Knowledge โดยแลกเปล ี ่ ยนประสบการณ ์ ตรงของผท ู ้ี ่ ส ื ่ อสารระหวา ่ งกน ั


Externalization การสร ้ างและแบ ่ งปั นความร ู ้ จากการแปลง Tacit Knowledge เป็ น Explicit Knowledge โดยเผยแพร ่ ออกมาเป็ นลายลก ั ษณ ์ อก ั ษร


Combination การแบ ่ งปั นและสร ้ างความร ู ้ จาก Explicit Knowledge ไปส ่ ูExplicit Knowledge โดยรวบรวมความรู้ประเภท Explicit ที่เรียนรู้ มาสร้าง เป็ นความรู้ประเภท Explicit ใหม ่ ๆ


Internalization การแบ ่ งปั นและสร ้ างความร ู ้ จาก Explicit Knowledge ไปส ่ ู Tacit Knowledge โดยมก ั จะเก ิ ดจากการน าความรู้ที่เรียนรู้มาไปปฏิบัติจริง


หลักการส าคัญในการแลกเปลี่ยนเรียนร ้ ู - พ ู ดในส ิ ่ งทท ี ่ า โดยเน ้ นพ ู ดถง ึ ความส าเร ็ จ - เน้นการปฏิบัติจริง - ใช ้ กจ ิ กรรมกล ่ ุ ม/กระบวนการกล ่ ุ ม - ภายใต้บรรยากาศเป็ นมิตร อิสระ เท่าเทียม - ปรารถนาดี ยอมรับ ให้เกียรติ - ฝึ กร ั บฟั งคนอน ื ่ ร ้ ู จ ั กช ื ่ นชมและให ้ กา ลงใจั - ปล่อยตัวตามสบาย ท าจิตใจให้กว้าง


การจัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ - ต้องชัด * ชัดในประเด็นที่อยากรู้ * ชัดในประเด็นที่จะแลกเปลี่ยน - ต ้ องต ่ าง * เร ื ่ องเด ี ยวกน ั และต ่ างในว ิ ธ ีปฏ ิ บต ัิ - ต้องเจาะลึก * เพ ื ่ อให ้ เข ้ าใจบร ิ บท ว ิ ธ ี ค ิ ด เทคน ิ ค ความสม ั พน ั ธข ์ องว ิ ธ ี การและผลลพ ั ธ ์


ประเด็นที่ถอดบทเรียน ตัวชี้วัดโครงการ •ร้อยละ 95 ของกล ุ่มเป้ าหมายทไี่ด ้ กา หนดไว ้ได ้ รับการคดักรองโรคต ิ ตด ่ อทางเพศสัมพนัธ ์(STI) •ร้อยละ 80 ของกล ุ่มเป้ าหมายทไี่ด ้ รับการคดักรองSTI ได้รับการตรวจหาการติดเชื้อเอชไอวี


แบบฟอรม ์ เร ื ่ องเล ่ าประสบการณ ์ ประเดน ็ เร ื่องเล ่ า ผ ้ ู ป่ วย ทม ี งาน ญาตผ ิ้ ู ป่ วยการทา งาน ชื่อเรื่องที่เล่า เรื่องเล่า........................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. ......................... เล่าโดย.................................................... กล ่ ุ มงาน/ฝ่ าย.................................................... หน่วยงาน.................................................... เบอร์โทรศัพท์.................................................... E-mail address............................................................


แบบฟอรม ์ เร ื ่ องเล ่ าประสบการณ ์ ประเดน ็ เร ื่องเล ่ า ผ ้ ู ป่ วย ญาตผ ิ้ ู ป่ วย ทม ี งาน งาน ชื่อเรื่องที่เล่า เรื่องเล่า........................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. ........................ ............................................................................................................................. ......................... เล่าโดย.................................................... กล ่ ุ มงาน/ฝ่ าย.................................................... หน่วยงาน.................................................... เบอร์โทรศัพท์.................................................... E-mail address............................................................


พันธกิจ / นโยบาย ประเดน ็ ย ุ ทธศาสตร ์ ท ี่..... เป้ าประสงค์ เป้ าประสงค์ เป้ าประสงค์ งาน A งาน B งาน C KPI KPI KPI กระบวนงาน B1 ช ุ ดความร ้ ู ส าคญ ั ของ กรมส ุ ขภาพจ ิ ต กระบวนงาน B2 กระบวนงานB3 KB11 KB12 KB21 KB31 KB32 KB33 IT CoP


งานบริการจิตเวช เข้าถึง ประเมิน K1 การวางแผน จ าหน่าย K2 การท างานกับ เครือข่ายในพื้นที่ K3 การป้ องกันญาติ ทอดทิ้ง K4 ปฏิบัติการส่ง ต ่ อผ ู้ป่ วย วางแผน/ด ู แล การรักษา จ าหน่ายและ ด ู แลต ่ อเน ื่อง กระบวนงาน งาน ความร ้ ู ส าคญ ั


ขอบเขตความรู้ที่ควรจัดการ 1.ความร ู ้ เช ิ งเน ้ ื อหาสาระ(Content) 2.ความรู้เชิงการจัดการ (Management) 2.1 การทา งานกบ ั เคร ื อข ่ าย(partnership) 2.2 การบูรณาการงานในและนอกระบบสาธารณสุข (System) 2.3 การจัดท าข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย (Policy)


สิ่งที่เพื่อนเราร ้ ู สิ่งที่เพื่อนเราไม ่ ร ้ ู ส ิ ่ งทเ ี ่ ราร ้ ู 1 ทบทวนความรู้และพัฒนาเป็น BEST Practices 2 แบ ่ งปันและพัฒนา ความร ู ้ ร ่ วมกนั สิ่งที่เราไม่ร ้ ู 3 เปิ ดใจเรียนรู้และ ยกระดับความรู้ 4 แสวงหาความรู้จากภายนอก การแลกเปลย ี ่ นเร ี ยนร ้ ู


Shared Vision Knowledge Sharing Action • ให้ Share “เร ื ่ องเล ่ า” ไม ่ใช ่ Share“ความค ิ ด” • เป็ น Storytelling ไม ่ใช ่ Problem-solving ไม ่ใช ่ Planning • Share แล้วต้องLearn Learn แล้วต้อง Lead (น า) ... น าส ่ ก ู ารกระทา ... น าส ่ ภ ู าพท ี ่ ต ้ องการ ข้อควรระวังในการท า Knowledge Sharing (KS)


อุปสรรคของการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ - ไม ่ พด ู ไม ่ คย ุ - ไม ่ เปิ ด ไม ่ รบ ั - ไม ่ปรบ ั ไม ่ เร ี ยน - ไม ่ เพ ี ยร ไม ่ ทา


คุณกจ ิ ค ุ ณอา นวย ค ุ ณลข ิิ ต คุณกจ ิ คุณกจ ิ คุณกจ ิ คุณสังเกต


หลักการส าคัญส าหรับ “คุณอ านวย”(Facilitator) - สรา ้ งบรรยากาศท ี ่ ผอ ่ นคลาย เป็ นกน ั เอง ม ี ความเป็ นอ ิ สระ เท ่ าเท ี ยมกน ั ชื ่ นชมกน ั และกน ั - ให้ความส าคัญกับ “คณ ุ ก ิ จ” ทุกคนโดยเสมอภาค - กระต ้ น ุ ให ้ ม ี การถ ่ ายทอดความรท ้ ู ี ่ ฝั งล ึ กออกมา - บร ิ หารเวลา


ทักษะที่ควรมีส าหรับ “คุณอ านวย”(Facilitator) -ทักษะการฟัง - ทักษะการถาม - ทก ั ษะการค ิ ดเช ิ งระบบ - ทักษะการสังเกต / ไวต ่ อท ่ าท ี ของสมาช ิ กกล ่ ม ุ - ทักษะทางภาษา


หลักการส าคัญส าหรับ “คณ ุ ล ิ ข ิ ต”(Note taker) - จดตามท ี ่ได ้ ย ิ น / ไม ่ ต ี ความ / สังเคราะห์ / ว ิ เคราะห์ - ใช ้ ภาษาของผเ ้ ู ล ่ าเร ื ่ อง - ให ้ ความสา คญ ั กบ ั เร ื ่ องเล ่ าด ี ๆ / คา พด ู ท ี ่ ก ินใจ - น าประเด็นที่ได้จากการสกัดความรู้จากเรื่องเล ่ าข ึ น ้ Flip Chart เพ ื ่ อให ้ สมาช ิ กทก ุ คนเหน ็ และว ิ เคราะห ์ ร ่ วมกน ั


ทักษะที่จ าเป็ นส าหรับ “คณ ุ ล ิ ข ิ ต” (Note taker) - จบ ัใจความและบน ั ท ึ กเป็ นเร ื ่ องเล ่ า - การสกัดประเด็นเป็ นขุมความรู้ (ฟั ง ค ิ ด และเข ี ยน) - ความรู้ ความเข้าใจสาระของเรื่องที่บันทึก - ทักษะด้านภาษา - ทก ั ษะด ้ านคอมพ ิ วเตอร ์


หลักการส าคัญส าหรับ “คณ ุ ก ิ จ” -เป็ นการเล ่ าความสา เรจ ็ / ความภาคภม ู ิใจ ในอด ี ต / ประสบการณ์การแก้ไขปัญหา - เล ่ าเร ื ่ องตามความเป็ นจร ิ ง / เห็นภาพ / บร ิ บท - ฟังด้วยความตั้งใจ - สามารถถามเพ ื ่ อให ้ เก ิ ดความชด ั เจนไม ่ใช ่ เพ ื ่ อโต้แย้ง


ทักษะที่ควรมีส าหรับ “คณ ุ ก ิ จ” -ทักษะการฟัง - ทักษะในการพูด - ทก ั ษะในการค ิ ดเช ิ งบวก - ทก ั ษะในการน าความร ้ แ ู ละว ิ ธ ี การใหม ่ ๆ ไปทดลอง - ทักษะการสังเกต วัดหรือนับ เพื่อบันทึกผลการ ทดลอง - ทักษะในการจดบันทึก “ขม ุ ความร ้ ู และแก ่ นความรู้” สา หรบ ัไว ้ใช ้ งานและพฒ ั นาต ่ อเน ื ่ อง


การเล่าเรื่อง (Story telling) 1. เป้ าหมาย ให ้ ผ ้ ู ม ี ความร ้ ู จากการปฏ ิ บ ั ต ิ(ค ุ ณกิจ) ปลดปล ่ อยความร ้ ู ทฝี ่ ั งลก ึ อย ่ ู ใน - ส่วนลึกของจิตใจ (ความเชื่อ) - ส่วนลึกของสมอง (ความคิด) - ส่วนลึกของร่างกาย (การปฏิบัติ) ออกมาเป็ นคา พ ู ดและท ่ าทาง


2. วิธีการและขั้นตอน 2.1 ก าหนด “หัวปลา” หมายถึง ประเด็นเป้ าหมายของ การประช ุ มแลกเปลย ี ่ นเร ี ยนร ้ ู 2.2 กล ่ ุ มเลก ็ ไม ่ เกน ิ 10 คน 2.3 สมาช ิ กกล ่ ุ มเป็ นผ ้ ู ปฏ ิ บ ั ต ิ(ค ุ ณกจ ิ) 2.4 Fa ดา เน ิ นการประช ุ ม และสร ุ ปประเดน ็ เป็ นระยะ ๆ Notetakerจดประเด็นและ บันทึก “ข ุ มทร ั พย ์ ความร ้ ู ” (Knowledge Assets) เพอ ื ่ การบรรล ุ ห ั วปลา


2.5 สมาชิกเล่าเรื่องเกี่ยวกับความส าเร็จของตนตาม “หัวปลา” 2.6 สมาช ิ กล ่ ุ มคนอน ื ่ ช ่ วยกน ั “สกัด” หรือ “ถอด” ความร ้ ู เพอ ื ่ การบรรล ุ ห ั วปลาออกมา ค ุ ณลข ิ ต ิ เขย ี นขน ึ ้ กระดาน Flip chart ให้ได้เห็นทั่วกัน และแก้ไขตกแต่ง ได้ง่าย


2.7 วิธีการเล่าเรื่อง - เล่าเพียงประเด็นเดียวต่อ 1 เรื่อง ใช้เวลา 2-3 นาที - เล ่ าเร ื ่ องตามความเป็ นจร ิ งให ้ ข ้ อม ู ลดบ ิ การกระท า ความคิด ความเชื่อ เห็นชีวิต/ความสัมพันธ์ เห็นภาพ ไม่ตีความ


2.8 วิธี “สกด ั ความร ้ ู จากการปฏ ิ บ ั ต”ิ เม ื ่ อแต ่ ละคนเล ่ าเร ื ่ องเสร ็ จ ประธานกล ่ ุ ม ขอให้สมาชิกตีความว่าเรื่องดังกล่าวบอกอะไร เก ี ่ ยวก ั บความร ้ ู เพ ื ่ อการบรรล ุ “หัวปลา” ที่เป็ น ความร ้ ู เพอ ื ่ การปฏ ิ บ ั ต ิ


ผ ้ ู ตค ี วามคนท ี ่ 1 เสนอการตีความของตน เลขาน ุ การกล ่ ุ มเขย ี นขน ึ ้ กระดาน Flip chart เมอ ื ่ ครบท ุ กคน ช ่ วยกน ั สร ุ ปข ุ มทร ั พย ์ ความร ้ ู (ขึ้นรอบใหม่ ตามที่มีเวลา) จ ั ดหมวดหม ่ ู ข ุ มทร ั พย ์ ความร ้ ู ได ้ แก ่ นความร ้ ู เพอ ื ่ บรรล ุ “หัวปลา” ที่ก าหนด


ขั้นตอนการถอดบทเรียน • เล ่ าประสบการณ ์ จากว ิ ธ ี การทา งาน • เปร ี ยบเท ี ยบว ิ ธ ี การทา งานจร ิ งกบ ั แผนงานท ี่วางไว ้ • ระบุผลงานที่ได้รับจากการด าเนินงาน(ท ้ ง ั เช ิ งปร ิ มาณและค ุ ณภาพ) • ระบ ุ ปั จจย ั แห ่ งความสา เร ็ จ • เสนอว ิ ธการทา งานท ี่ด ี กวา ่ เด ิ ม • ระบ ุ อ ุ ปสรรคและการแกไ้ ขท ี่ไดผ ้ ลและเหต ุ ท ี่ทา ใหก ้ ารปฏ ิ บต ัิ งานไม ่ ประสบความส าเร็จ • แนวทางการพัฒนา


ทักษะที่จ าเป็ นในเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 1. การเล ่ าเร ื ่ อง 2. การฟัง 3. การค ิ ด 4. การถาม 5. การสกัด 6. การจดบันทึก 7. การประมวลและร้อยเรียง


เคร ื ่ องมอ ืในการเร ี ยนร ้ ู - dialogue - Sucess Story Technique (SST) - Storytelling - deep listening - Appreciation Inquiry (AI) - การตีความ - AAR


การฟัง • ไม ่ สนใจฟั งผ ้ ู สนทนา (Ignoring) • ฟังแบบเสแสร้งฟัง (Pretending) • ฟังแบบเลือกสิ่งที่อยากฟัง (Selective listening) • ฟังแบบตั้งอกตั้งใจฟัง (Attentive listening) • ฟังแบบเข้าอกเข้าใจ (Empathic listening) Source: ดร. ยุวดี เกตสัมพันธ์


การฟั งอย ่ างละเอย ี ดล ่ ุ มลก ึ (Deep Listening) • ละวางภาพลักษณ์ อ านาจ การครอบง า • กา หนดสมาธ ิไวท ้ี่การฟั งท ้ ง ั หมด วางความร ู ้ส ึ กไวท ้ี่ห ู ท ้งสองข้าง และ ั บริเวณกลางหน้าอก • ไม ่ ด ่ วนสร ุ ป ไม ่ ว ิ พากษว ์ิ จารณ ์ คา พด ู ความค ิ ด และผพ ู ้ ด ู • ฟั งโดยไม ่ ตอ ้ งไปใหค ้ ุ ณค ่ าวา ่ ด ีไม ่ ด ี น ่ าเช ื่อหร ื อไม ่ น ่ าเช ื่อ แต ่ ละคนฟั ง เพ ื่อใหไ้ ดย ้ น ิ ท ้ ง ั ความหมาย( meaning) ท ี่แทจ ้ ร ิ งท ี่แต ่ ละคนสื่อและ ความหมายที่คลี่ (unfold) ออกมาจากการสนทนาของกล ุ ่ ม • “วาง” ชุดความคิดของเรา 2 ลก ั ษณะ ค ื อ ความค ิ ดโตแ ้ ยง ้ กบ ั ความค ิดที่ จะไปต ่ อยอดหร ื อความร ู ้ส ึ กด ี ๆ ท ี่คนอ ื่นค ิ ดเหม ื อนเรา • ตระหนก ั ต ่ อจ ุ ดยน ื อ ื่นและการเขา ้ ถ ึ งไดไ้ ม ่ ท ้ ง ั หมด


กิจกรรมที่ 3 ด ู ด ี ๆ มปี ระโยชน ์ 1. ดูคลิป VDO 2. แบ ่ งกล ุ ่ ม 3 – 4คน อภ ิปรายประเดน ็ ต ่ อไปน ้ ี 2.1 ว ิ ธ ี ทา งานท ี่ยง ุ ่ ยากใหส้ า เร ็ จและเป็ นท ี่ประทบ ัใจ 2.2 สมรรถนะของคนทา งานท ี่ยง ุ ่ ยาก 2.3 ว ิ ธ ี การเล ่ าเร ื่องท ี่ด ี ทา อยา ่ งไร


เรื่องเล่า • ม ิใช ่ การเล ่ าเร ื่องในอด ี ตเท ่ าน ้ น ั • ตอ ้ งม ี การอธ ิ บายเหต ุ การณ ์ และเง ื่อนไขท ี่เก ิ ดข ้ึ น • คา อธ ิ บายน ้ น ั ม ี ค ุ ณค ่ าในการนา ไปปฏ ิ บต ัิ • ก ่ อใหเ ้ ก ิ ดการเร ี ยนร ู ้ อน ั นา มาซ่ึ งการปร ั บว ิ ธ ี ค ิ ดและว ิ ธ ีท างานที่ สร ้ างสรรคแ ์ ละม ี ค ุ ณภาพมากข ้ึ น


เป้ าหมายของการเล่าเรื่อง ใหผ ้ ม ู ้ี ความร ู ้ จากการปฏ ิ บต ัิปลดปล ่ อยความร ู ้ ท ี่ฝั งล ึ กอยใ่ ู น ส ่ วนล ึ กของจ ิ ตใจ (ความเชื่อ) ส ่ วนล ึ กของสมอง (ความคิด) ส ่ วนล ึ กของร ่ างกาย(การปฏิบัติ) ออกมาเป็ นคา พด ู และท ่ าทาง ภายใตบ ้ ร ิ บทท ี่หลากหลาย ท ้ งในเชิง ั ประเดน ็ เน ้ ื อหา ตว ั ละครท ี่เก ี่ยวขอ ้ ง กระบวนการดา เน ิ นงานและผลที่ ได้ ซึ่งมีลักษณะของความจ าเพาะสูง เป็ นบทเรียนส าหรับการค ิ ดต ่ อ มากกวา ่ การทา ซ ้ า ไดใ้ นทน ั ท ี


เรื่องเล่าเร้าพลัง ในการถ ่ ายทอดประสบการณ ์ ม ี แนวทางกวา ้ งๆ ดง ั น ้ ี • ควรเล ่ าใหเ ้ ห ็ นกลยท ุ ธในการทา งาน มากกวา ่ ท ี่จะบอกเล ่ าก ิ จกรรมวา ่ ทา อะไร • เร ื่องเล ่ าควรม ี ตว ั ละครเป็ นตว ั เด ิ นเร ื่อง • เร ื่องเล ่ าควรม ี บร ิ บทในขณะท ี่เก ิ ดการพฒ ั นา เช ่ น ปั ญหาความท้าทาย ลก ั ษณะเฉพาะ ปั จจย ั เอ ้ ื อ • เร ื่องเล ่ าควรม ี คา พด ู ความค ิ ดเห ็ น การกระทา ท ี่เก ิ ดข ้ึ นจริง มองเห็นเป็ น รูปธรรมที่ชัดเจน


Click to View FlipBook Version