The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานมหัศจรรย์ของใบไม้ป.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Roserin Jehloh, 2023-09-16 04:45:23

โครงงานมหัศจรรย์ของใบไม้ป.1

โครงงานมหัศจรรย์ของใบไม้ป.1

ค ำน ำ รางงานการจัดท าโครงงานวิทยาศาสตร์ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้จัดท าโครงงาน เรื่อง มหัศจรรย์ของใบไม้ จัดท าขึ้นเพื่อศึกษาเรื่องราวและสิ่งต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรา ที่นักเรียนสนใจ ได้ทดลอง ปฏิบัติกิจกรรมโดยใช้ กิจกรรมการทดลองทางวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมพัฒนาการ ให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ ได้จากการสังเกต การตั้งสมมติฐานการทดลอง การสืบเสาะ และการออกแบบแบบบันทึกกิจกรรม นักเรียน รู้จักคิดแก้ปัญหาจากสิ่งที่เรียนรู้ได้ตามวัยของเด็กโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และสามารถน า ประสบการณ์ที่ได้จากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ในเหตุการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตประจ าวันได้ การจัดท าโครงการในครั้งนี้ ผู้จัดท าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัดท าเอกสารฉบับนี้ มีข้อมูลที่เป็น ประโยชน์ต่อผู้ที่สนใจในการจัดประสบการณ์ทดลองวิทยาศาสตร์ในระดับต่อไปเป็นอย่างดี โรงเรียนบ้านป่างาม สำรบัญ ข ก


เรื่อง หน้ำ ค ำน ำ ก สำรบัญ ข โครงงำนงำน มหัศจรรย์ของใบไม้ 1 ชื่อโครงงำน 1 ผู้จัดท ำโครงำน 1 ที่ปรึกษำโครงงำน 1 ระยะเวลำในกำรจดักิจกรรม 1 ที่มำและควำมส ำคัญของโครงงำน 1 รำงงำนโครงกำรรู้แบบวัฏจักรกำรสืบเสำะ 2 ค ำถำมที่ 1 ใบไม้มีรูปร่ำงอย่ำงไร 2 ขั้นที่ 1 ตั้งค าถามเกี่ยวกับปรากฎการณ์ธรรมชาติ 2 ขั้นที่ 2 รวมรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน 3 ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ 3 ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย 4 ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล 7 ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล 8 ผลพัฒนาความสามารถของนักเรียน 8 ค ำถำมที่ 3ใบไม้มีลำยไหม 10 ขั้นที่ 1 ตั้งค าถามเกี่ยวกับปรากฎการณ์ธรรมชาติ 10 ขั้นที่ 2 รวมรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน 10 ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ 11 ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย 14 ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล 14 ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล 15 ผลพัฒนาความสามารถของนักเรียน 16 ชื่อโครงงำน มหัศจรรย์ของใบไม้ ชื่อผู้จัดท ำโครงงำน นักเรียนชั้นประถมศึกษำปี ที่ 1 โรงเรียนบ้ำนป่ ำงำม 1


ส ำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกระถมศึกษำสงขลำ เขต 3 จ ำนวน 3 คน 1. ด.ช.นะบีล หมะแก 2. ด.ญ.กัสตูรี อิทธิศักดิ์ 3. ด.ญ.อัญญารัตน์ ชูตุ้ง ชื่อครูที่ปรึกษำ นางสาวรสรินทร์ เจ๊ะเล๊าะ นางสาวชนกวรรณ แก้วเพ็ชร และ นางสาวฝารีด๊ะ หลีเจริญ ระยะเวลำในกำรจัดท ำ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ถึง 13 กุมภาพันธ์ 2566 (ระยะเวลา 10 วัน) ที่มาของโครงงาน (วันที่ 6 กุมภาพันธ์2566) จากที่นักเรียนทำกิจกรรมบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อยระดับประถมศึกษา เรื่องลายนิ้วมือ แล้วนักเรียนสงสัย ว่านอกจากลายนิ้วมือแล้ว ยังมีอะไรบ้างที่มีลายเหมือนลายนิ้วมือของเราบ้าง เด็กๆ ตอบว่า ใบไม้ ดอกไม้ ก้าน กล้วย แต่นักเรียนส่วนใหญ่สนใจเรื่องของใบไม้ ครูสนทนากับเด็กเรื่อง ใบไม้ ส่วนประกอบของใบไม้มีอะไรบ้าง ใบไม้เกิดขึ้นได้อย่างไร และถามเด็กๆ ว่า บริเวณใดบ้างที่มีใบไม้หน้าโรงเรียน ข้างสนามเด็กเล่น หลังโรงเรียนและ บริเวณสวนหย่อมในโรงเรียน ครูจึงพาเด็กๆ เดินสำรวจใบไม้บริเวณต่างๆ ตามที่เด็กบอกพร้อมทั้งเก็บใบไม้คนละ ชนิดมาเป็นตัวอย่างแล้วสังเกตดู และถามเด็กๆ ว่า ครู : ใบไม้ที่เด็กสังเกตมีลักษณะอย่างไร นะบีล : ใบไม้มีสีเขียวเข้ม สีเขียวอ่อน และสีเหลือง อัญญา : มีรูปร่างไม่เหมือนกัน กัสตูรี : มีใบกลม ใบยาว ใบรีๆ ใบที่มีหยัก เป็นแฉกๆ ครู : เด็กๆ มีข้อสงสัยหรือมีคำถามที่อยากรู้อะไรบ้างเกี่ยวกับใบไม้ อัญญา : เราจะเอาสีออกจากใบไม้ได้อย่างไร นะบีล : เราจะเอาใบไม้ไปทำอะไรได้บ้าง กัสตูรี : ทำอย่างไรเราถึงจะเห็นลายของใบไม้ นะบีล : ใบไม้มีสีอะไรบ้าง ครู : เด็กๆ มีคำถามอีกไหมที่อยากรู้ เด็กตอบไม่มี ครูสนทนาร่วมกับเด็กๆ และสรุปคำถามที่ เด็กอยากรู้ โดยนักเรียนจดบันทึก ซึ่งได้คำถามที่เด็กอยากรู้ 5 คำถาม ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามเกี่ยวกับปรากฏการณ์ธรรมชาติ(วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566) 2


จากการที่เด็กไปสำรวจใบไม้ในบริเวณโรงเรียน สังเกตใบไม้บริเวณรอบๆ โรงเรียน เมื่อกลับเข้าห้องเด็กๆ จึงสนทนาร่วมกัน และมีคำถามที่เด็กๆ สงสัยเกี่ยวกับใบไม้ 5 คำถาม ดังนี้ คำถามที่ 1 ใบไม้มีรูปร่างอย่างไรบ้าง คำถามที่ 2 ใบไม้ไปทำอะไรได้บ้าง คำถามที่ 3 ใบไม้มีลายไหม คำถามที่ 4 จะเอาเส้นบนใบไม้ออกมาได้อย่างไรบ้าง คำถามที่ 5 เราจะเอาสีออกจากใบไม้ได้อย่างไร จากคำถามที่เด็กอยากรู้ 5 คำถาม เด็กและครูสนทนาร่วมกันเพื่อเลือกคำถามที่จะนำมาสำรวจตรวจสอบ โดยให้เหตุผลประกอบ ซึ่งเด็กเห็นว่า ต้องการเลือกคำถามที่ 1 ใบไม้มีรูปร่างอย่างไรบ้าง เพราะจะได้รู้จักใบไม้และ จะได้ไปสังเกตใบไม้ที่บ้านของตนเองได้อีก และคำถามที่ 3 ใบไม้มีลายไหม เพราะเด็กๆเคยเห็นลายของใบไม้ที่อยู่ บนเสื้อผ้า กระเป๋า เลยอยากรู้เพิ่มเติมว่ามีใบอะไรบ้างที่สามารถนำมาพิมพ์ลายได้คำถามที่ต้องการนำมาหา คำตอบ คือ 1. ใบไม้มีรูปร่างอย่างไรบ้าง 2. ใบไม้มีลายไหม โดยจะทำการสำรวจตรวจสอบ คำถามที่ 1 คือ “ใบไม้มีรูปร่างอย่างไรบ้าง” เด็กตั้งคำถามที่เด็กอยากรู้ คำถามที่เด็กอยากรู้


คำถามที่ 1 ใบไม้มีรูปร่างอย่างไรบ้าง จุดประสงค์ 1. เพื่อศึกษารูปร่างของใบไม้ 2. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ฝึกการสังเกต การทดลอง ลงมือปฏิบัติคิดค้นหา คำตอบด้วยตนเอง และบอกขั้นตอนการทำโครงงานได้ 3. เพื่อให้เด็กทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ 4. เพื่อให้เด็กนำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน (วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2566) เด็กสนทนาร่วมกัน โดยให้เด็กเล่าประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับชนิดของใบไม้ ครู : เด็กรู้จักใบไม้อะไรบ้าง และมีรูปร่างอย่างไร นะบีล : ใบยาวๆ รีๆ เป็นรูปหยักๆ ใบกลมๆ กัสตูรี : มีสีเขียวเข้ม สีเขียวอ่อน สีเหลือง สีแดง สีชมพู อัญญารัตน์ : สีชมพู สีแดง เป็นใบของต้นโกศล เด็กๆ สนทนาต่อเนื่องว่า ใบไม้ที่นักเรียนรู้จัก มีรูปร่างเหมือนกันหรือไม่ แตกต่างกันอย่างไรและได้ ทบทวนคำถามที่เด็กอยากรู้ คือ “ใบไม้มีรูปร่างอย่างไรบ้าง” ครูให้เด็กคาดคะเนคำตอบ ครูใช้คำถามถามเด็กๆ ให้ ร่วมกันคิด และตกลงว่า กลุ่มตนเองจะคาดคะเนว่าอย่างไร จากคำถามดังนี้ “เด็กๆ คิดว่าใบไม้มีรูปร่างอย่างไร บ้าง” ให้เด็กๆ นำเสนอการคาดคะเน นะบีล ใบยาว ใบเล็ก มีหยักๆ ใบใหญ่ กัสตูรี ใบแหลม ใบยาว มีแฉก ใบเล็ก ใบมีรูปร่างเหมือรูปหัวใจ อัญญารัตน์ ใบมีรูปร่างเหมือผีเสื้อ ใบโค้งเหมือนวงกลม มีขีดที่ข้างในใบไม้ ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ (วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566) เด็กๆ สนทนากันในกลุ่ม โดยใช้คำถาม “มีวิธีการหาคำตอบโดยวิธีใดบ้าง ถึงจะทราบว่าใบไม้มีรูปร่าง อย่างไรบ้าง” กัสตูรีบอกว่า เราน่าจะนำใบไม้จากโรงเรียนและบ้านมาสังเกตที่ห้องเรียน นะบีล บอกว่า เราไปสำรวจรอบๆ บริเวณโรงเรียน อัญญารัตน์บอกว่า กลับไปถามพ่อแม่ที่บ้านแล้วมาเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟัง 3


เด็กๆ ร่วมกันสรุปวิธีการหาคำตอบ ใบไม้มีรูปร่างอย่างไรบ้าง ดังนี้ 1. นำใบไม้จากบ้านและโรงเรียนมาสังเกตที่ห้องเรียน 2. ไปสำรวจรอบๆ บริเวณโรงเรียน 3. กลับไปถามพ่อแม่ที่บ้านแล้วมาเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟัง เด็กๆ ออกแบบวิธีบันทึกผลการนำเสนอผลงาน “เมื่อได้รับความรู้เรื่องใบไม้มีรูปร่างอย่างไรแล้ว เด็กๆ มี วิธีการบันทึกผลอย่างไรบ้างๆ ” อัญญารัตน์ : ไปเล่าให้พ่อแม่ ครู ฟัง แล้วจดบันทึก นะบีล : วาดรูปลงในกระดาษ แล้วระบายสีตามชนิดใบไม้ เด็กๆ สรุปตามวิธีการที่เด็กๆ ร่วมกันออกแบบ เตรียมวัสดุ อุปกรณ์กำรทดลอง วัสดุ อุปกรณ์ 1. ใบไม้ 2. แว่นขยาย ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย (วันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2566) เด็กๆ ไปหาคำตอบโดยเด็กๆ ไปเก็บตัวอย่างใบไม้ของจริง รอบๆ บริเวณโรงเรียน สำรวจและเก็บตัวอย่างใบมัมเบอร์รี่ สำรวจและเก็บตัวอย่างใบตีนเป็ด 4


เด็กสำรวจและเก็บตัวอย่างใบเตย เด็กสำรวจและเก็บตัวอย่างใบโกศล เด็กสำรวจและเก็บตัวอย่างใบคะน้า เด็กสำรวจและเก็บตัวอย่างใบผักบุ้ง 5


เมื่อได้ใบไม้มาแล้ว นักเรียนนำใบไม้กลับมาให้ครูช่วยเขียนชื่อใบไม้ให้ แล้วก็บันทึกผลโดยการวาดรูปใบไม้ จากการหาคำตอบ เด็กๆ ร่วมกันสรุปว่า ใบไม้มีหลายแบบหลายรูปร่าง เช่นมีใบแหลม ใบหยัก ใบโค้ง ใบ ใหญ่ ใบเล็ก ใบหนา ใบบาง ใบโกศล ใบมัลเบอรี่ ใบคะน้า ใบตีนเป็ด ใบเตย ใบผักบุ้ง 6


ขั้นที่ 5 บันทึกข้อมูล (วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2566) ตำรำงบันทึกค ำพูดเด็กระหว่ำงกำรท ำโครงงำน บันทึกค ำพูดเด็กๆ จำกกำรสังเกตกำรเปลี่ยนแปลงในกำรทดลอง ระหว่างการท าโครงงาน ชื่อกลุ่ม สิ่งที่สังเกต ใบโกศล ลักษณะ ใบมัน แข็ง มีสีแดง ใบตีนเป็ด ลักษณะ มีใบยาว ปลายแหลม ใบแข็ง หนา ใบเตย ลักษณะใบ เรียวยาว ใบมัน แข็ง ใบคะน้า ลักษณะใบมัน บาง มีหยักรอบใบ มีลายจุดทั่งใบ ใบมัลเบอรี่ ลักษณะใบมัน บาง มีหยักรอบใบ คล้ายหัวใจ ใบผักบุ้ง ลักษณะใบบาง มีสีเขียวเข้ม มีหยักรอบใบ เด็กๆ บันทึกผลตามวิธีการที่ออกแบบไว้ คือ วาดรูปใบไม้แล้วนำมาเล่าให้เพื่อนฟัง นำผลงาน ไปติดโชว์ หน้าห้องเรียน ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปรายผล (วันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2566) วาดภาพรูปร่างของใบไม้ที่เก็บมา 8 7


เด็กๆ ร่วมกันสนทนาถึงคำถามที่เด็กอยากรู้ “ใบไม้มีรูปร่างอย่างไรบ้าง” เด็กๆ ทบทวนโดยการออกมา เล่าว่า “เด็กๆ หาคำตอบได้โดยวิธีการอย่างไร” และได้ผลการศึกษาอย่างไร ครูจดบันทึกคำพูดเด็ก จากการที่เด็กๆ หาคำตอบว่า “ใบไม้มีรูปร่างอย่างไรบ้าง” สรุปว่า ใบมัมเบอรี่ : มีใบเหมือนหัวใจ รอบในมีหยักๆ ใบตีนเป็ด : มีใบยาว ปลายแหลม ใบแข็ง หนา ใบโกศล : มีใบยาว ปลายแหลม ใบแข็ง หนา มีสีสัน สีแดง สีเขียว สีส้ม ใบเตย : ใบเรียวยาว ปลายแหลม มีสีเขียวเข้ม ใบผักบุ้ง : มีใบโค้ง แหลมด้านล่าง ใบบาง ใบคะน้า : ใบโค้งมน มีหยัก ใบใหญ่ ใบกรอบ ใบแข็ง มีสีเขียวเข้ม นอกจากนี้ ครูได้ถามเด็กๆ เพิ่มเติมว่า จากการที่พวกเราปฏิบัติกิจกรรมจนได้คำตอบว่า “ใบไม้มีรูปร่าง อะไรบ้าง” เด็กๆ ยังมีคำถามที่อยากรู้อีกหรือไม่ เด็กๆ ยกมือ ให้เด็กๆ ถามว่าอยากรู้อะไร นะบีล : ใบไม้มีหนามหรือไม่ครับ อัญญา : ใบไม้สามารถนำไปทานได้หรือไม่ค่ะ กัสตูรี : ใบไม้มีลายไหมค่ะ ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 2.1 ทักษะการสังเกต - การบอกรูปร่างสิ่งที่สังเกตด้วยประสาทสัมผัสต่างๆ เช่น การหยิบ จับ สัมผัสใบไม้ชนิดต่างๆ 2.2 ทักษะการวัด - วัดและเปรียบเทียบความยาว ความสูงของใบไม้ได้ 2.3 ทักษะการแยกประเภท - เปรียบเทียบสิ่งที่คาดคะเนกับผลการทดลองว่าเหมือนหรือต่างกัน 2.4 ทักษะการคำนวณ - เด็กได้คำนวณปริมาณของใบไม้ในแต่ละกิ่งว่ามีจำนวนเท่ากันหรือไม 2.5 ทักษะการพยากรณ์หรือการคาดคะเนคำตอบ - นักเรียนสามารถคาดคะเนคำตอบที่ตัวเองคิดว่าใบไม้จะมีรูปร่างเหมือนกันหรือไม่ 2.6 ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา - นักเรียนสามารถบอกใบไม้ที่เก็บจากต้น กับใบไม้ที่ทร่วงหล่นเอง จะมีสีที่ต่างกัน 9


2.7 ทักษะการจัดกระทำและสื่อความหมายข้อมูล - นักเรียนสามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกตระหว่างการทดลองได้โดยอธิบายและการวาดภาพ 2.8 ทักษะการลงความคิดเห็นข้อมูล - นักเรียนสามารถแสดงความคิดเห็นหรือให้เหตุผลเพิ่มเติมเองได้ คำถามที่ 3 ใบไม้มีลายไหม ขั้นที่ 1 ตั้งคำถามที่อยากรู้ (วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2566) 10


จากการที่เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องใบไม้มีรูปร่างหลายแบบ และได้คำตอบว่า ใบไม้มีหลายรูปร่าง ลักษณะ เช่น ใบยาว ใบกลม มีหยักๆ มีรูปรีๆ ครู : เด็กๆ สนใจอะไรเกี่ยวกับใบไม้ นะบีล : สีของใบไม้ อัญญา : ขนาดของใบไม้ กัสตูรี : ลายของใบไม้ ครูจึงถามเด็กๆ ว่า แล้วเด็กๆ อยากรู้เรื่องอื่นอีกไหม เด็กๆ บอกว่าหนูอยากเห็นลายของใบไม้ว่าแต่ละใบ มีรูปร่างและลายเหมือนกันไหมค่ะ ดังนั้นจึงตกลงว่าจะทดลองใบไม้ชนิดไหนมีลายบ้าง โดยจะใช้วิธิการทดลอง ด้วยการพิมพ์ใบไม้ลงบนผ้า จุดประสงค์ 1. เพื่อศึกษาลายของใบไม้ 2. เพื่อศึกษาสีของใบไม้ 3. เพื่อให้เด็กมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ 4. เพื่อพัฒนากระบวนการท างานร่วมกับผู้อื่น ขั้นที่ 2 รวบรวมความคิดและข้อสันนิษฐาน (วันที่ 13 มีนาคม 2559) เด็กๆ สนทนาร่วมกัน โดยใช้คำถามให้เด็กเล่าประสบการณ์เดิมเกี่ยวกับรูปร่าง ลักษณะของใบไม้ชนิด ต่างๆ ครู : เด็กๆ เคยเห็นใบไม้มีรูปร่าง ลักษณะอย่างไรบ้าง นะบิล : เป็นเส้นยาวๆ คล้ายดาบ กัสตูรี : ใบรีๆ ยาว เหมือนใบมะม่วง อัญญา : ใบที่มีรอยหยักๆ เป็นรูปหัวใจ เหมือนใบมัมเบอรี่ นะบีล : ใบมีสีม่วงและเขียวผสมกัน เหมือนใบฤษีผสม เด็กๆ คาดคะเนคำตอบ และให้ไปหาใบไม้ที่ตนเองสนใจมาจากบ้าน “เด็กๆ คิดว่าใบไม้ชนิดไหนที่เรา สามารถนำมาพิมพ์ลายได้” เด็กๆ นำเสนอความคิดเห็น ดังนี้ อัญญา ใบฤษีผสม ใบเตย 11


กัสตูรี ใบโกศล ใบสาบเสือ นะบีล ใบมัมเบอรี่ ใบตีนเป็ด จากการสนทนา เด็กๆ ได้คาดคะเนคำตอบตามความคิดของตนเอง เด็กๆจึงได้ไปสืบค้นหาวิธีการทดลอง ว่าจะทำให้ “ใบไม้จะมีลายออกมาจะสวยงามได้อย่างไร” ขั้นที่ 3 ทดสอบและปฏิบัติการสืบเสาะ (วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566) จากการค้นหารายจากอินเตอร์เน็ตให้องเรียน เด็กๆ สนใจลายจากใบไม้เป็นกระบวนการพิมพ์ผ้าด้วย ใบไม้“Ego Print” และโครงสร้างจากใบไม้สู่ผ้า เด็ก ๆ เตรียมใบไม้เพื่อทำการทดลอง (ครูอาจจัดหาของเพิ่มเติม เพื่อให้เหมาะกับการทดลอง) เด็กๆ ร่วมกันจัดทำสถานที่และจัดเตรียมอุปกรณ์ ดังนี้ เตรียมวัสดุ อุปกรณ์กำรทดลอง 1. ใบเตย 2. ใบมัมเบอรี่ 3. ใบสาบเสือ 4. ใบโกศล 5. ใบฤษีผสม 6. ใบชบา 7. ผ้าขาว 8. ถุงดำ 9. เชือกฝาก 10. พลาสติกแรปอาหาร 11.น้ำส้มสายชู 12. เบคกิ้งโซดา 13. สารส้ม 14. หม้อสำหรับนึงผ้า 15. สบู่ ขั้นตอนการทำโครงงาน 1. ผ้าขาวบางที่ซักแล้ว 2. นำผ้าไปแช่ใน น้ำสมสายชู เบคกิ้งโซดา สารส้ม ที่ผสมไว้แล้ว 3. เตรียมใบไม้ ให้พร้อม 4. นำใบไม้มาวางบนผ้าขาวที่เตรียมไว้ 5. นำถุงดำมาวางกับผ้า แล้วม้วนผ้าให้แน่น 6. นำเชือกมามัดผ้าใหแน่น 7. นำแร็ปพันอีกครั้ง เพื่อเก็บความชื้น 8. แล้วนำไปนึง 20 นาที 9. เสร็จแล้วแกะเชือก ถุงดำ และใบไม้ออก 10. ตากให้แห้ง วิธีดำเนินการ 1. เด็กๆ นำผ้าสีขาว ไปซักด้วยน้ำสะอาด แล้วบิดให้หมาดๆ 12


2. เด็กๆ นำ น้ำส้มสายชู เบคกิ้งโซดา และสารส้ม ผสมเข้าด้วยกัน 3. เด็กๆนำใบไม้ที่เตรียมไว้ มาวางบนผ้าขาว นำถุงดำมาวางทับบนผ้า แล้วม้วนผ้าให้แน่น มัดด้วยเชือก นำแร็ปอาหารมาห่ออีกครั้งเพื่อเก็บความชื้นไว้ 4. นำใบไม้ที่ห่อแล้วไปนึง ประมาณ 20 นาที แล้วนักเรียนคาดคะเนคำตอบว่าใบไม้ที่นักเรียนนำมาทดลอง จะมีลายของใบไม้ลงบนผ้าไหม 13


5. เด็กๆ นำใบไม้ที่นึงแล้ว แกะเชือก ถุงดำออกม แล้วสังเกตการเปลี่ยนแปลงไป หรือไม่ อย่างไร ตรงกับการ คาดเดาหรือไม่ ครูจดบันทึกคำพูดของเด็กๆ 6. เด็กๆ ร่วมกันสรุปองค์ความรู้ที่ ได้จากการทดลอง ขั้นที่ 4 สังเกตและบรรยาย (วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566) 14


การทำใบไม้พิมพ์ลาย เด็กๆ ได้เรียนรู้กระบวนการทั้งทางศิลปะ และทางวิทยาศาสตร์ มีความเข้าใจ เกี่ยวกับสารที่เป็นสื่อในการจับสีและลายของใบไม้ที่ลงไปสู่เนื้อผ้ามี น้ำส้มสายชู เบคกิ้งโซดา และสารส้ม เมื่อ นำมาผสมกัน จะทำให้เกิดฟองสีขาวขึ้น ซึ่งเป็นสารที่ช่วยในการเปลี่ยนสี และการทำให้สีของใบไม้ติดทนนาน และ ความ เป็น กรด และ ด่าง ที่พิมพ์ลงไปบนผ้า และใบไม้แต่ละชนิดให้ลายและสีต่างกัน เด็กๆ ได้เรียนรู้เรื่องของใบไม้ ที่นำมาทดลอง สีของใบไม้ ลายของใบไม้ และรูปร่างลักษณะของใบเมื่อเรา นำผ้าไปแช่ในสารที่ช่วยในการจับสี และเมื่อใบไม้โดนความร้อนจากที่เด็กๆ นำไปนึง 20 นาที และนำมาแกะดู ใบไม้ก็จะเปลี่ยนสี และลายของใบไม้ก็จะติดลงไปบนผ้า แต่มีใบไม้ที่มีลักษณะที่เป็นใบมัน แข็ง ใบไม้จะไม่เกิดการ เปลี่ยนแปลงสีของใบ และลายของใบ จะไม่ติดลงไปบนผ้า ขั้นที่ 5 บันทึกผล (วันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566) เด็กๆ สังเกตการทดลอง และบันทึกสิ่งที่สังเกตในแบบบันทึก ดังนี้ ตำรำงบันทึกค ำพูดเด็กระหว่ำงกำรท ำโครงงำน บันทึกค ำพูดเด็กๆ จำกกำรสังเกตกำรเปลี่ยนแปลงในกำรทดลอง ระหว่างการท าโครงงาน ชื่อกลุ่ม สิ่งที่สังเกต ผลกำรทดลอง ใบโกศล ลักษณะ ใบมัน แข็ง มีสีแดง ลายติดที่ผ้าด้านเดียว ใบฤษีผสม ลักษณะ ใบมีเนื้อบาง มีหยัก รอบใบ สีม่วง สีเหลือง ลายติดทั้งสองด้าน ใบเตย ลักษณะใบ เรียวยาว ใบมัน แข็ง ลายไม่ติด ใบชบา ลักษณะใบมัน บาง มีหยัก รอบใบ มีลายจุดทั่งใบ ลายออกทั้งสองด้าน ออกสีเขียว เข้ม ใบมัมเบอรี่ ลักษณะใบมัน บาง มีหยัก รอบใบ คล้ายหัวใจ ลายออกทั่งสองด้าน แต่ลายไม่ ชัด ออกเป็นสีเหลือง ใบสาบเสือ ลักษณะใบบาง มีสีเขียวเข้ม มีหยักรอบใบ ลายออกทั่งสองด้าน ออกเป็นสี เหลือง จาการท ากิจกรรม “ลายของใบไม้” เด็กร่วมกันสรุปองค์ความรู้ จากการสังเกตการ ทดลอง บอก ขั้นตอนการทดลอง และสรุปได้ว่า “ลายของใบไม้” ตรงกับการ คาดคะเนของเด็กๆ ขั้นที่ 6 สรุปและอภิปราย (วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2566) โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่องลายของใบไม้เป็นกระบวนการพิมพ์ผ้าด้วยใบไม้ “Ego Print” และ โครงสร้างจากใบไม้สู่ผ้า เด็กๆ ร่วมกันสนทนาถึงคำถามที่เด็กอยากรู้“ลายของใบไม้” ครูให้เด็กทบทวนโดยการให้ 15


เด็กออกมาเล่าวิธีการหาคำตอบว่าได้มาอย่างไร และผลการศึกษาเป็นอย่างไร บันทึกผลการทดลองที่เด็กเขียนไว้ ประกอบการนำเสนอ เด็กๆ สรุปต่อไปโดยใช้คำถามว่า ใบไม้ชนิดใดที่ติดลายบนผ้ามากที่สุด เด็กๆ ตอบ ใบไม้ที่มี ลายติดที่ผ้ามากที่สุด คือ ใบฤษีผสม ใบสาบเสือ ใบชบา ใบมัลเบอรี่ และใบที่มีลายของใบออกเพียงด้านเดียวคือ ใบโกศล และใบที่ไม่มีลายของใบออกสีเลยคือ ใบเตย เด็กร่วมกันสรุปองค์ความรู้ จากการสังเกตการทดลอง บอกขั้นตอนการทดลอง และสรุปได้ว่า “ใบไม้ สามารถนำมาพิมพ์ลายบนผ้าได้” ตรงกับการคาดคะเนของเด็กส่วนใหญ่ ครูจึงถามต่อเนื่องว่า “ใบไม้อะไรที่มีลายสวยที่สุด” เด็กๆ บอกว่า ใบฤษีผสม เพราะมีลักษณะรูปร่างมี ลายหยัก และเนื้อของใบบาง มีสีเข้ม และสีสวยที่สุด ผลการพัฒนาความสามารถของนักเรียน ผลการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ผลการบันทึกการทดลอง 16


2.1 ทักษะการสังเกต - สังเกตการเปลี่ยนแปลงของวัสดุ ส่วนผสม และลักษณะของใบไม้ 2.2 ทักษะการวัด - เปรียบเทียบสิ่งที่คาดคะเนกับผลการศึกษาว่าเหมือนหรือต่างกัน 2.3 ทักษะการแยกประเภท - นักเรียนสามารถแยกสีและลายของใบไม้ได้ 2.4 ทักษะการค านวณ - เด็กได้เรียนรู้การค านวณปริมาณของน ้าที่ใช้ในการไปทดลอง 2.5 ทักษะการพยากรณ์หรือการคาดคะเนค าตอบ - นักเรียนสามารถคาดคะเนค าตอบที่ตัวเองคิดว่าใบไม้ชนิดใดสามารถติดที่ผ้าได้หรือไม่ 2.6 ทักษะการหาความสัมพันธ์ระหว่างสเปสกับสเปส และสเปสกับเวลา - นักเรียนสามารถบอกได้ว่าเมื่อเราน าผ้าไปนึง กับ ไมนึง สีของใบไม้จะเปลี่ยนหรือไม 2.7 ทักษะการจัดกระท าและสื่อความหมายข้อมูล - เด็กสามารถสรุปผลสิ่งที่สังเกตระหว่างการทดลองได้โดยอธิบายขั้นตอนได้ 2.8 ทักษะการลงความคิดเห็นข้อมูล - เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมโดยใช้ความคิดเห็นส่วนตัวได้ว่า เป็นเพราะเหตุใด ใบไม้แต่ละชนิดมีลายไม่เหมือนกัน


Click to View FlipBook Version