๑๒๐ ปี
หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
พระราชประวัติ
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี มีพระนามเดิม
ว่า สังวาลย์ (ไม่มีนามสกุล เน่ืองจากพระราชบัญญัติขนาน
นามสกุลเร่ิมมีในปี พ.ศ. 2456) เสด็จพระราชสมภพเม่ือวัน
อาทติ ย์ที่ 21 ตุลาคม พ.ศ. 2443 ณ จังหวัดนนทบุรี เป็นบุตร
คนที่ 3 ในพระชนกชูและพระชนนีคา มีพระภคินี และพระ
เชษฐา 2 คนซึ่งได้ถึงแก่กรรมตั้งแต่เยาว์วัย คงเหลือแต่พระ
อนุชาออ่ นกว่าพระองค์ 2 ปี คอื คณุ ถมยา
ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
พระชนกชู มีอาชีพเป็นช่างทอง เป็นบุตรชายของ
คหบดี ชื่อ ชุ่ม แต่ไม่ทราบนามของมารดา ชุ่มมีเชื้อสายสืบมา
จากผู้ดีเก่าแถวตึกขาว มีนิวาสสถานอยู่ใกล้วัดอนงคาราม
ฝ่ังธนบุรี ส่วนพระชนนีคา มีมารดาช่ือผา แต่ไม่ทราบนามของ
บิดาพระชนนีคาเป็นสตรีที่รู้หนังสือซ่ึงหาได้ยากในสมัยน้ัน
จึงได้นาความรู้น้ีมาสอนสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
ด้วยพระอุปนิสัยที่ชอบการเรียนรู้ และการอ่านหนังสือตั้งแต่ยัง
ทรงพระเยาว์ พระองค์จึงทรงเป็นผู้ที่มีไหวพริบ และเฉลียว
ฉลาด
และเช่ือว่าเหล่าเครือญาติฝ่ายพระชนนีของสมเด็จ
พระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีเช้ือสายชาวเวียงจันทน์
เนื่องจากทางครอบครัวนิยมรับประทานข้าวเหนียว ในพระ
นิพนธ์ของสมเด็จพระเจ้าพ่ีนางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรม
หลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ซ่ึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับถิ่นฐานเดิม
ของครอบครวั คือ บา้ นชา่ งทอง ซึ่งตรงกบั ชุมชนชาวลาวด้านใต้
ของธนบรุ ี อันเป็นชุมชนชาวลาวทม่ี ีชื่อเสยี งด้านฝมี ือช่าง
ห้องสมุดประชาชนอาเภอไชยา
แต่ปจั จบุ นั ชมุ ชนลาวดงั กลา่ วได้ย้ายไปยงั “บา้ นตที อง” อยูร่ อบ
วัดสุทัศนเทพวรารามในปัจจุบัน ซ่ึงอาจเป็นไปได้ว่าเครือญาติท่ี
นิพนธ์นั้นอาจสืบเช้ือสายมาจากชาวลาวที่เคยในชุมชนบ้าน
ชา่ งทองก็เป็นได้
พระชนกชูได้ถึงแก่กรรมต้ังแต่พระองค์มีพระชนมายุ
3 พรรษา และพระชนนีคาถึงแก่กรรมเมื่อพระองค์มี
พระชนมายุเพียง 9 พรรษา หลังจากนั้นพระองค์ทรงอยู่ใน
ความอุปการะของป้าซ้วย พ่ีสาวของพระชนนีคา ซึ่งมีอาชีพ
รับจ้างม้วนบุหรี่ และทาขนมขาย วันหนึ่ง ญาติของครอบครัว
พระชนกชู มาแนะนาพระชนนีคา ให้นาสมเด็จพระศรีนคริน
ทราบรมราชชนนี ไปฝากคุณจันทร์ แสงชู ซ่ึงเป็นญาติและพระ
พ่ีเล้ียงใน สมเด็จพระราชปิตุจฉา เจ้าฟ้าวไลยอลงกรณ์
กรมหลวงเพชรบุรีราชสิรินธร พระเชษฐภคินีในสมเด็จพระมหติ
ลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และพระราชธิดา
ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับ สมเด็จพระ
ศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า เพื่อถวายตัว
เป็นขา้ หลวง ในขณะนั้นมีพระชนมายุเพยี ง 7-8 พรรษา
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอไชยา
การศกึ ษา
พระองค์เข้าศึกษาท่ี โรงเรียนศึกษานารี ได้ไม่นาน
พระองค์ก็ได้ถูกส่งไปศึกษาท่ีโรงเรียนสตรีวิทยา โดยประทับอยู่
บ้านคณุ หวน หงสกุล วัดมหรรณพาราม โรงเรียนเพ่ือประชาชน
สามัญแห่งแรก[21] พระองค์ทรงถูกเข็มเย็บผ้าตาฝ่าพระหัตถ์
ตอ้ งเข้ารับผา่ ตดั กบั พระยาดารงแพทยาคณุ (ฮวด วรี ะไวทยะ)
เมื่อปี พ.ศ. 2456 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราช
ชนนีทรงตัดสินพระทัยเข้าโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ และหญิง
พยาบาลแห่งศิริราช ตามคาชักชวนจากพระยาดารงแพทยกุล
หลังจากสาเร็จการศึกษา ทรงได้รับการคัดเลือกให้ไปทรงศึกษา
วิชาพยาบาลต่อที่ โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
สหรัฐอเมริกา พร้อมกับนางสาวอุบล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา
และสมเด็จเจ้าฟา้ ฯ กรมขุนสงขลานครินทร์
ห้องสมุดประชาชนอาเภอไชยา
พระองค์เข้าศึกษาที่ โรงเรียนศึกษานารี ได้ไม่นาน
พระองค์ก็ได้ถูกส่งไปศึกษาท่ีโรงเรียนสตรีวิทยา โดยประทับอยู่
บา้ นคุณหวน หงสกุล วัดมหรรณพาราม โรงเรียนเพ่ือประชาชน
สามัญแห่งแรก[21] พระองค์ทรงถูกเข็มเย็บผ้าตาฝ่าพระหัตถ์
ตอ้ งเข้ารับผา่ ตดั กบั พระยาดารงแพทยาคุณ (ฮวด วีระไวทยะ)
เม่ือปี พ.ศ. 2456 สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราช
ชนนีทรงตัดสินพระทัยเข้าโรงเรียนแพทย์ผดุงครรภ์ และหญิง
พยาบาลแห่งศิริราช ตามคาชักชวนจากพระยาดารงแพทยกุล
หลังจากสาเร็จการศึกษา ทรงได้รับการคัดเลือกให้ไปทรงศึกษา
วิชาพยาบาลต่อที่ โรงเรียนแพทย์มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
สหรัฐอเมริกา พร้อมกับนางสาวอุบล ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา
และสมเด็จเจา้ ฟา้ ฯ กรมขนุ สงขลานครนิ ทร์
ห้องสมุดประชาชนอาเภอไชยา
เม่ือไปเรียนต่างประเทศจาเป็นท่ีจะมีนามสกุลใน
หนังสือเดินทาง เม่ือขณะนั้นยังไม่มีนามสกุล จึงจาเป็นต้องมี
การหานามสกุลให้ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีจึงได้
ใช้นามสกุลของข้าราชบริพารที่มีนามสกุลคนหน่ึงซึ่งเป็น
เจ้ากรมของสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ คือ
ขุนสงขลานครินทร์ (หลี ตะละภัฎ) พระองค์จึงมีพระนามใน
หนังสือเดินทางว่า นางสาวสังวาลย์ ตะละภัฏ (มีพระราช
กฤษฎีกาใหใ้ ช้คานานามสตรี พ.ศ. 2460)
ต่อมา คุณถมยา พระอนุชาของสมเด็จพระศรีนคริน
ทราบรมราชชนนี เม่ือเจริญวัยแล้วได้ไปขอจดทะเบียนท่ีอาเภอ
ใช้นามสกุล "ชูกระมล" ถึงแม้ว่าสมเด็จพระศรีนครินทราบรม
ราชชนนีไม่เคยใช้นามสกุลชูกระมล ก็อยากจะถือว่าทรงเกิดมา
ในสกลุ น้ี
หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
อภิเษกสมรส
ขณะท่ีกาลังทรงศึกษาวิชาแพทย์ปีท่ี 1 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ
ก ร ม ขุ น ส ง ข ล า น ค ริ น ท ร์ ท ร ง พ บ แ ล ะ พ อ พ ร ะ ทั ย กั บ
นางสาวสังวาลย์ ด้วยมีพระศิริโฉมงดงาม พระอุปนิสัย และพระ
คุณสมบัติอ่ืน ๆ ดังนั้นสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์
จึงทรงมีลายพระหัตถ์กราบบังคมทูลสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกา
เจ้า พระราชมารดา ขอพระราชทานพระราชานุญาตหมั้นกับ
นางสาวสังวาลย์ ทั้งนี้สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม
พระบรมราชชนก ได้ทรงกล่าวกับสมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า
ไว้ ความว่า "สังวาลย์เป็นกาพร้า...แต่งงานแล้วก็มาใช้นามสกุล
หม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ได้เลือกเมียด้วยสกุลรุนชาติ ต้องเกิดเป็น
อย่างน้ัน ต้องเกิดเป็นอย่างน้ี คนเราเลือกเกิดไม่ได้ หม่อมฉัน
เลือกคนดี ทุกข์สขุ เป็นเร่ืองของหม่อมฉันเอง"
ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
พ.ศ. 2463 สมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์
เสด็จฯ กลับประเทศไทยเพ่ือถวายพระเพลิงพระบรมศพสมเด็จ
พระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง
จึงได้กราบบังคมทูลพระกรุณาขอพระราชทานพระบรมรา
ชานุญาตเสกสมรสตามกฎมณเฑียรบาล เมื่อได้รับพระราชทาน
พ ร ะ บ ร ม ร า ช า นุ ญ า ต จ า ก พ ร ะ บ า ท ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ม ง กุ ฎ เ ก ล้ า
เจ้าอยู่หัว นางสาวสังวาลย์จึงได้เดินทางกลับมา และเม่ือถึงวัน
ศุกร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2463 ได้มีพิธีอภิเษกสมรสที่วัง
สระปทุม นางสาวสังวาลย์จึงมีศักด์ิเป็น หม่อมสังวาลย์ และ
หลังจากได้อภิเษกสมรสแล้ว ทั้ง 2 พระองค์ได้ตามเสด็จด้วยกัน
ไปประพาสเมืองต่าง ๆ ในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา
ต่อมาสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมขุนสงขลานครินทร์ทรงไปศึกษาต่อท่ี
มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และสถาบันเอ็มไอที เมืองบอสตัน
ส่วนหม่อมสังวาลย์ เรียนหลักสูตรเตรียมพยาบาลท่ีวิทยาลัย
ซิมมอนส์ เมืองบอสตนั
ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
ประสตู ิพระราชธิดาและพระราชโอรส
หลังจากท้ัง 2 พระองค์ทรงจบการศึกษาแล้วจึงเสด็จ
ไปทกี่ รุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่งสมเด็จพระบรมราชชนนีได้
ประสูติพระราชธิดาพระองค์แรก เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ.
2466 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน
พระนามวา่ หมอ่ มเจ้ากัลยาณิวฒั นา มหิดล ซึ่งภายหลังทรงได้รับ
ก า ร ส ถ า ป น า พ ร ะ อิ ส ริ ย ศั ก ด์ิ เ ป็ น ส ม เ ด็ จ พ ร ะ เ จ้ า พี่ น า ง เ ธ อ
เจา้ ฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครนิ ทร์
หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2466 ท้ัง 2 พระองค์ได้เสด็จ
กลับเมืองไทยพร้อมด้วยพระราชธิดา เน่ืองจากพระบาทสมเด็จ
พระมงกฎุ เกลา้ เจา้ อยู่หวั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯให้
ส ม เ ด็ จ พ ร ะ บ ร ม ร า ช ช น ก ท ร ง ด า ร ง ต า แ ห น่ ง อ ธิ บ ดี ก ร ม
มหาวิทยาลยั ประทับอย่ไู ดป้ ระมาณ 20 เดือน ก็ประชวร แพทย์
จึงถวายคาแนะนาให้ประทับในที่อากาศเย็น ที่เมืองไฮเดลแบร์ก
สาธารณรัฐไวมาร์ (ปัจจุบันคือประเทศเยอรมนี) สมเด็จพระบรม
ราชชนนแี ละพระราชธดิ าจึงได้ตามเสด็จไปประทบั ดว้ ย
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีได้ประสูติพระ
ราชโอรสพระองค์แรก เมื่อวันท่ี 20 กันยายน พ.ศ. 2468
พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจ้าอยู่หัวพระราชทานพระนามว่า
หม่อมเจ้าอานันทมหิดล มหิดล ในวันที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ.
2468 พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต
สมเด็จพระบรมราชชนกเสด็จกลับกรุงเทพฯ เพียงพระองค์เดียว
เพ่ือถวายพระเพลิงพระบรมศพ และประทับอยู่จนถึงงานพระ
ราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยหู่ ัว
ในปี พ.ศ. 2469
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอไชยา
เม่ือวันที่ 5 ธนั วาคม พ.ศ. 2470 สมเด็จพระศรีนคริน
ทราบรมราชชนนีประสูติพระราชโอรสพระองค์ท่ี 2 ณ
โรงพยาบาลเมาท์ออเบิร์น เมืองเคมบริดจ์ สหรัฐอเมริกา ได้รับ
พระราชทานพระนามจากพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ว่า พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภูมิพลอดุลยเดช ระหว่างนี้สมเด็จ
พระศรีนครินทราบรมราชชนนีทรงดูแลพระโอรสธิดาอย่าง
ใกล้ชิดด้วยความรักและการอบรมส่ังสอนและทรงทูลเรื่องน้ีกับ
สมเด็จพระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า ความตอนหน่ึงว่า "ลูกของหม่อม
ฉัน หม่อมฉันรักดั่งดวงใจ...ถ้าได้ช่วยลูก ๆ ให้ได้รับการอบรม
และเล่าเรียนในสิ่งท่ีจะเป็นประโยชน์แก่บ้านเมืองได้แล้ว หม่อม
ฉันก็จะรู้สึกอ่มิ ใจเหมือนกัน“
ขณะท่ีสมเด็จพระบรมราชชนกทรงศึกษาวิชาแพทย์ปี
สุดท้ายอยู่ที่เมืองบอสตัน ประชวรโรคพระวักกะกาเริบและ
พระโรคหวดั แตก่ ็ยังทรงสามารถสอบได้ปริญญาแพทยศาสตร์ข้ัน
เกียรตินิยม แต่หลังจากสอบเสร็จ และประชวรพระโรคไส้ต่ิง
อักเสบ ท้ังสองพระองค์ได้พาพระราชโอรสธิดาเดินทางกลับ
ประเทศไทย โดยประทบั ทีพ่ ระตาหนกั ใหมส่ ร้างขึ้นในวังสระปทุม
ถนนพญาไท
หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
เมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2472 สมเด็จพระบรมราช
ชนกทรงรับเชิญเป็นแพทย์ประจาบ้านจากโรงพยาบาลแมคคอร์
มิก จังหวัดเชียงใหม่ ในเดือนต่อมาก็เสด็จกลับกรุงเทพมหานคร
หลังจากน้ันก็ทรงพระประชวรอยู่เป็นระยะเวลาประมาณ
4 เดือนก็เสด็จสวรรคต เมื่อวันท่ี 24 กันยายน พ.ศ. 2472
ทพี่ ระตาหนักใหม่ วังสระปทุม ในขณะท่ีสมเด็จพระบรมราชชนก
เสด็จสวรรคต สมเด็จพระบรมราชชนนีมีพระชนมายุเพียง 29
พรรษา ทรงต้องรับหน้าที่อบรมเล้ียงดูพระราชโอรสพระราชธิดา
ท้ังสามพระองค์ตามลาพัง จนเม่ือวันที่ 24 มิถุนายน
พ.ศ. 2475 คณะราษฎรก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็น
ระบอบประชาธิปไตย ที่มีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สมเด็จ
พระศรีสวรินทิราบรมราชเทวี พระพันวัสสาอัยยิกาเจ้า จึงทรง
แนะให้สมเด็จพระบรมราชชนนีพาพระราชนัดดาทั้ง 3 พระองค์
เสด็จไปศึกษาต่อที่เมืองโลซาน ประเทศสวติ เซอรแ์ ลนด์
ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
โครงการในพระราชดาริ
ด้านการศกึ ษา
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงก่อตั้งและ
จัดสร้างโรงเรียนตารวจตระเวนชายแดนตามท่ีห่างไกลและ
ทุรกันดาร จากพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ การมีโรงเรียนเป็น
การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตให้กับครอบครัวของตารวจตระเวน
ชายแดนท่ีอยู่ห่างไกลจากชุมชน เป็นการเพ่ิมโอกาสให้ชุมชน
ชาวเขาและชาวอพยพได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนภาษาและ
วัฒนธรรมไทย รวมถงึ การสร้างความผกู พันกับแผ่นดนิ ไทย
ห้องสมุดประชาชนอาเภอไชยา
ดา้ นการสาธารณสขุ และการพยาบาล
พระองค์ทรงสนพระทัยเกี่ยวกับทุกข์สุขของประชาชน
ชาวไทย และมีความห่วงใยต่อผู้เจ็บป่วยและด้อยโอกาส สมเด็จ
พระศรีนครินทราบรมราชชนนี จึงทรงให้ความสาคัญทางด้าน
การแพทยแ์ ละการพยาบาล พระองค์ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วน
พระองค์ให้แก่แพทย์ที่เป็นนักเรียนทุน เพื่อใช้เป็นเงินเบี้ยเล้ียง
ระหว่างเรยี น พระองคท์ รงมพี ระมหากรณุ าธิคุณจัดตง้ั หนว่ ยงาน
หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
เพื่อมอบทุนการศึกษาที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ
มหาวิทยาลยั มหดิ ล เพื่อเป็นทุนหมุนเวียนให้กับนักศึกษาแพทยท์ ่ี
ศึกษาอยู่ท่ีต่างประเทศ และพระองค์ยังทรงก่อตั้งสมาคม
พยาบาลไทย และทรงประทานพระราชทรัพย์ ในการจัดการ
ประชุมพยาบาลระดับชาติ เมื่อปี พ.ศ. 2503 และทรงริเร่ิม
ก่อสรา้ งโรงพยาบาลและวิทยาลยั พยาบาลหลายแห่งทั่วประเทศ
ในปี พ.ศ.2512 สมเดจ็ พระศรนี ครินทราบรมราชชนนี
ได้จัดต้ังหน่วยแพทย์อาสาข้ึน เรียกว่า หน่วยแพทย์อาสาสมเด็จ
พระบรมราชชนนี อันประกอบด้วย แพทย์ ทันตแพทย์ แพทย์
อาสา เภสัชกร และพยาบาล ท่ีมีความเสียสละให้การช่วยเหลือ
ประชาชนโดยไม่คิดค่าบริการ มุ่งให้บริการและรักษาผู้ป่วยที่อยู่
ห่างไกลจากโรงพยาบาลหรือสถานอนามัยต่าง ๆ ซ่ึงสถานที่บาง
แห่งตั้งอยู่บนดอย หน่วยแพทย์อาสา จะใช้เฮลิคอปเตอร์เป็น
พาหนะในการเดินทาง และในปี พ.ศ.2517 สมเดจ็ พระศรีนคริน
ทราบรมราชชนนี ได้พระราชทานเงินจานวน 1 ล้านบาท เพ่ือใช้
จัดตั้งมูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี
เพื่อใช้ในการเดินทางไปให้บริการรักษาประชาชนที่อยู่ห่างไกล
โดยไม่ตอ้ งกังวลเรือ่ งคา่ ใช้จา่ ย
ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
ดา้ นการอนรุ ักษท์ รพั ยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงสนพระทัย
ในความเป็นอยู่ของชาวเขาท่ีอาศัยอยู่บนดอย ห่างไกลจากความ
เจริญ ท่านทรงริเริ่มโครงการพัตนาดอยตุง ซ่ึงมีพื้นที่ทามาหากิน
ในป่าและบนเขา พระองค์ไม่ต้องการให้ผืนแผ่นดินถูกทาลาย
หรือประชาชนปลูกพืชผิดกฎหมาย จึงทรงแนะนาพืชผลและ
วิธีการเพาะปลูก ท่ีสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและ
ชุมชน อีกทั้งต้องไม่ทาลายทรัพยากรธรรมชาติท่ีมีอยู่ ปัจจุบัน
พ้ืนท่ีดอยตุงมีความอุดมสมบรูณ์ และสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
ชาวเขาอยา่ งน่าภาคภูมใิ จ
ห้องสมุดประชาชนอาเภอไชยา
ด้านสงั คมและสวัสดกิ าร
ส ม เ ด็ จ พ ร ะ ศ รี น ค ริ น ท ร า บ ร ม ร า ช ช น นี ท ร ง
พระราชทานพระราชทรัพย์ เป็นเงินจานวน 1 แสนบาท ในปี
พ.ศ.2515 เพื่อก่อต้ังมูลนิธิแม่ฟ้าหลวง เพื่อช่วยส่งเสริมรายได้
ให้กับชุมชนชาวเขา ปัจจุบันโครงการพัฒนาดอยตุงได้รับการ
ยอมรับว่าเป็นโครงการเสริมสร้างสังคมที่ย่ังยืน และช่วยพัฒนา
สภาพความเปน็ อยขู่ องประชาชนทีอ่ ยู่หา่ งไกล
ห้องสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
สวรรคต
สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมีพระอาการทาง
พระหทัยกาเริบและทรงเหนื่อยอ่อน คณะแพทย์ถวายการรักษา
เบ้ืองต้นที่วังสระปทุม จนกระทั่งวันท่ี 2 มิถุนายน พ.ศ. 2538
จึงเชิญเสด็จพระราชดาเนินเข้าประทับรักษาพระองค์ ณ ตึก 84
ปี โรงพยาบาลศิริราช ระหว่างการประทับรักษาที่โรงพยาบาล
คณะแพทย์พบว่าเกิดการติดเช้ือในกระแสพระโลหิต จึงได้ถวาย
พระโอสถปฏิชีวนะเพ่ิม ต่อมา มีพระอาการแทรกซ้อน มีการ
อักเสบที่พระอันตะ พระอันตคุณ (ลาไส้ใหญ่ ลาไส้เล็ก) และท่ี
พระปับผาสะ (ปอด) ข้างขวา คณะแพทย์ได้พยายามถวาย
การรกั ษาจนพระอาการทัว่ ไปดขี น้ึ บา้ ง
ห้องสมุดประชาชนอาเภอไชยา
เมื่อวันท่ี 17 กรกฎาคม สมเด็จพระบรมราชชนนีมี
พระอาการทรุดลง เน่ืองด้วยมีพระอาการแทรกซ้อนทางพระยก
นะ (ตบั ) และพระวักกะ (ไต) ไม่ทางาน พระหทัย (หัวใจ) ทางาน
ไม่ปกติ ความดันพระโลหิตต่าทาให้เกิดภาวะเป็นกรดในพระ
โลหิต คณะแพทย์ได้ถวายการรักษาความผิดปกติของระบบ
ต่าง ๆ รวมท้ังการฟอกพระโลหิตด้วยเคร่ืองไตเทียมและกรอง
สารพิษซึ่งเกิดจากภาวะผิดปกติของพระยกนะ แต่พระอาการ
ตั้งแต่เช้าจนเท่ียงของวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 คงอยู่ใน
ภาวะวิกฤต จนกระทั่ง เวลา 21:17 น. สมเด็จพระศรีนคริน
ทราบรมราชชนนีเสดจ็ สวรรคต รวมพระชนมายุ 94 พรรษา
หอ้ งสมดุ ประชาชนอาเภอไชยา
สานักนายกรัฐมนตรีประกาศให้สถานท่ีราชการ
รัฐวิสาหกิจ และสถานศึกษาทุกแห่งลดธงครึ่งเสา 3 วัน และให้
ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจไว้ทุกข์เป็นเวลา 15 วัน ต้ังแต่
วันท่ี 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ต่อมา ในวันที่ 24 สิงหาคม
พ.ศ. 2538 บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีมีบัญชาให้ขยาย
เวลาลดธงคร่ึงเสาต่อไปจนครบ 50 วัน เพ่ือให้สอดคล้องกับการ
แต่งกายไว้ทุกข์ถวาย โดยให้ลดธงคร่ึงเสาต่อไปจนถึงวันที่ 2
สงิ หาคม พ.ศ. 2538
พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจัดขึ้นเม่ือวันที่
10 มีนาคม พ.ศ. 2539 ณ พระเมรุมาศ สนามหลวง พระราช
สรีรางคารถูกเชญิ ไปบรรจุ ณ รงั ษีวัฒนา สุสานหลวง วัดราชบพิธ
สถติ มหาสีมารามราชวรวิหาร
ห้องสมุดประชาชนอาเภอไชยา
บรรณานุกรม
มติชนสดุ สัปดาห์. (2559). ย้อนชมภาพพระเมรุมาศ ‘สมเดจ็ ยา่ ’
ณ ทอ้ งสนามหลวง เม่อื 21 ปที แี่ ลว้ . คน้ เม่อื 19 ตลุ าคม
2563 จาก https://www.matichonweekly.com/
featured/article_16020
มลู นธิ ิกองทุนการกุศลสมเดจ็ พระศรีนครนิ ทราบรมราชชนนี.
(2562). แรงบนั ดาลใจสาคญั สมเดจ็ พระศรนี ครินทรา
บรมราชชนนี. คน้ เม่อื 19 ตลุ าคม 2563 จาก https://
tpmcf.org/ ประวัติมลู นธิ ิฯ/สมเดจ็ พระศรีนครินทราบร
/?lang=th
วิกิพีเดียสารานุกรมเสรี. (2563). สมเด็จพระศรีนครินทรา
บรมราชชนนี. ค้นเมื่อ 19 ตลุ าคม 2563 จาก https://
th.wikipedia.org/wiki/สมเด็จพระศรนี ครนิ ทราบรมราช
ชนนี
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอไชยา
๑๒๐ ปี
หอ้ งสมุดประชาชนอาเภอไชยา