The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

best 5w1h เสาวนีย์ พวงผกาสมบูรณ์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by maprang.momo, 2022-05-11 04:19:40

best 5w1h เสาวนีย์ พวงผกา

best 5w1h เสาวนีย์ พวงผกาสมบูรณ์

แบบนาเสนอวิธีปฏิบตั ิที่เปน็ เลศิ
(Best Practice)

ช่อื ผลงาน “การจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พื่อพฒั นา
ทักษะการอา่ นจับใจความตามเทคนคิ บันได ๖ ขนั้

วิชาภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖”
โรโรงงเเรรยี ยี นนอบุบ้าลนรนาชาธอาดุ นมี

สาสนากั นงกัานงเาขนตเพขน้ืตทพ่กี ืน้ าทรศก่ี กึ าษราศมึกัธษยามปศรกึ ะษถามอศุบลกึ รษาาชสธรุานิ ีทอรา์นเาขจตเจ๒ริญ
สานกั งาสนคานณกั ะงการนรมคกณาระกการรรศมึกกษาารขกั้นาพรน้ื ศฐกึ านษากขรน้ัะทพรืน้ วฐงศานึกษาธกิ าร

นางเสาวนีย์ พวงผกา

ตาแหน่ง ครู



คำนำ

เอกสารฉบับนี้จัดทาข้ึนเพอื่ นาผลงานเสนอขอรบั การประกวดแข่งขนั นวตั กรรมการบริหารจัดกจิ กรรม
การเรียนการสอนภายใต้นโยบาย 3 สร้าง สรา้ งโอกาส สร้างคุณภาพ สรา้ งคณุ ธรรม การจัดกิจกรรมการเรยี นรู้
เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความตามเทคนิคบันได 6 ข้ัน วิชาภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียน
บ้านนาอุดม ตาบลไผ่ อาเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ สังกัดสานกั งานเขตพื้นที่ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต ๒ โดย
ผู้จัดทา ไดร้ วบรวม สรปุ ผลงานตามหัวขอ้ การประเมินพรอ้ มแนบหลักฐานเอกสารอ้างอิงไว้ดว้ ยแล้ว

เอกสารประกอบเพื่อขอรับการประเมินฉบับนี้เสร็จสมบูรณ์ได้ด้วยความร่วมมือของนักเรียนโรงเรียน
บ้านนาอุดม ผู้อานวยการโรงเรียน ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนบ้านนาอุดม ตาบลไผ่
อาเภอรัตนบุรี จังหวัดสุรินทร์ ที่ได้ชว่ ยรวบรวมข้อมูลต่างๆ ทาให้สะดวกต่อการจัดทาเอกสารฉบับน้ี หวังเป็น
อย่างยิ่งว่าเอกสารฉบับน้ีคงจะอานวยความสะดวกให้แก่คณะกรรมการประเมิน ในการพิจารณา ตรวจสอบ
คณุ สมบตั ขิ องครูผู้เขา้ รับการประเมนิ ต่อไป

เสาวนีย์ พวงผกา

สำรบญั ข

เรอื่ ง หนำ้

คานา ข
สารบัญ 1
ความสาคญั ของผลงาน 3
จุดประสงค์และเปา้ หมาย ของการดาเนินงาน 4
กระบวนการผลติ ผลงาน หรือขน้ั ตอนการดาเนนิ งาน 5
ผลการดาเนนิ การ/ประโยชนท์ ี่ได้รบั 6
ปจั จยั ความสาเรจ็ 6
บทเรยี นที่ได้รบั 6
การเผยแพร่/การได้รบั การยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ
ภำคผนวก

ภาคผนวก ก ชุดกิจกรรม
ภาคผนวก ข ภาพกจิ กรรม

แบบนำเสนอ Best Practice

สำนกั งำนเขตพน้ื ทีก่ ำรศกึ ษำประถมศึกษำสรุ นิ ทร์ เขต 2
ประเภทผลงำน ( ) ผบู้ ริหำร
ประเภทผลงำน () ครู กลุ่มสำระกำรเรียนรภู้ ำษำไทย
ขอ้ มูลท่ัวไป

1. ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนบ้านนาอดุ ม อาเภอรตั นบุรี จังหวดั สุรนิ ทร์ เครือขา่ ย
โรงเรยี นรตั นบุรี 4

2. ชอื่ ครูผู้สอน นางเสาวนยี ์ พวงผกา
3. เรอื่ งท่สี อน การจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพฒั นาทักษะการอา่ นจับใจความ ตามเทคนคิ บันได 6
ขัน้ วชิ าภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 6

1. ควำมสำคญั ของผลงำน
1.1 เหตุผล ความจาเป็น ปัญหาหรือความต้องการท่จี ะทาผลงาน/นวตั กรรม
สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขั้นพื้นฐำนได้ กำหนดกลยุทธ์พัฒนำคุณภำพและ

มำตรฐำนกำรศึกษำเพื่อเร่งรัด ส่งเสริม และพัฒนำให้หน่วยงำนในสังกัดนำนโยบำยสู่กำรปฏิบัติ โดยมีกลยุทธ์

และจุดเน้นท่ีสำคัญหลำย ๆ ด้ำน รวมท้ังพัฒนำกำรอ่ำนกำรเขียน และกำรยกระดับผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียน

ภำษำไทยส่งเสริมให้นักเรียนระดับช่วงชั้นที่ ๑ อ่ำนออกเขียนได้ ระดับช่วงช้ันที่ ๒ เป็นต้นไป อ่ำนคล่องเขียน

คล่อง ใช้ภำษำไทยอย่ำงมีประสิทธิภำพ เพ่ือกำรเรียนรู้สำระกำรเรียนรู้อื่น เพ่ือกำรศึกษำต่อในระดับที่สูงขึ้น

และเพื่อกำรสื่อสำร สื่อควำมคิดได้ตำมเจตนำรมณ์ บรรดำประเทศท่ีพัฒนำแล้ว และประเทศท่ีกำลังพัฒนำ

ขณะน้ีต่ำงเน้นให้หนังสือเป็นส่วนหน่ึงของชีวิต เสมือนเป็นปัจจัยท่ีห้ำของกำรดำรงชีวิตของพลเมือง โดย

ส่งเสริมให้เด็กของตน สนใจและใช้เวลำว่ำงเพื่อกำรอ่ำนทั้งท่ีบ้ำนและที่โรงเรียน ให้อ่ำนหนังสือหลำกหลำย

ประเภท ทั้งที่เปน็ ภำษำแม่และภำษำตำ่ งประเทศเพรำะประจักษ์ว่ำหำกพลเมืองในประเทศมีควำมสำมำรถใน

กำรอำ่ น รจู้ กั เลอื กนำควำมรแู้ ละควำมคดิ ไปพฒั นำตนแล้ว ประเทศก็จะเจรญิ รุ่งเรือง

สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ได้กาหนดนโยบาย 3 สร้าง สร้าง
โอกาส สรา้ งคุณภาพ สรา้ งคุณธรรม ในการจัดการเรียนรู้ให้แก่ผู้บรหิ าร คณะครู ได้นาไปใช้ในการจัดการเรยี น
การสอนโดยเน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญ สูก่ ารพัฒนาคณุ ภาพผู้เรียนตามวิสัยทัศน์ “สร้างโอกาส สร้างคนดี มีความรู้
สสู่ งั คมอยา่ งยง่ั ยืน”

จากการประเมินความสามารถในการอ่านและการเขียนรายวิชาภาษาไทยของนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านนาอุดม จานวน 10 คน พบว่านักเรียนไม่สามารถสรุปใจความสาคัญจาก
เรื่องท่ีกาหนดให้ได้ นักเรียนส่วนใหญ่สรุปใจความโดยคัดลอกใจความเดิม และหาคาสาคัญของเร่ืองจากการ
อ่านได้ไม่ตรงประเด็น อ่านแล้วไม่สามารถตอบคาถามได้ ไม่เข้าใจเรื่องที่อ่าน จึงทาให้จับใจความของเรื่อง
ไม่ได้ ผู้เรียนขาดทักษะการฝึกฝนการอ่านจับใจความ ขาดกระบวนการคิดวิเคราะห์ไม่มีการเชื่อมโยงเน้ือหา



ทาให้เนื้อหาและใจความสาคัญไม่เชื่อมโยงต่อเนื่องกัน ผู้เรียนจดจาเนื้อหาได้ในระยะเวลาส้ัน ๆ ส่งผลให้จับ
ใจความของเรื่องไม่ได้ทาให้การอ่านไม่มีความหมาย ไม่มีประโยชน์เพราะไม่รู้เร่ืองหรือได้สาระจากเร่ืองท่ีอ่าน

1.2 แนวทางแกป้ ญั หา
สรา้ งชดุ กิจกรรมการเรียนร้เู พอ่ื พฒั นาทกั ษะการอา่ นจับใจความตามเทคนิคบันได 6 ข้นั

1.3 แนวคดิ หลกั การสาคัญทีเ่ กีย่ วข้องกับผลงานหรอื นวัตกรรม
การจัดการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 เป็นการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ เน้นให้

ผเู้ รียนสร้างความรู้ใหม่โดยใช้กระบวนการทางปัญญา (กระบวนการคิด) กระบวนการทางสังคม (กระบวนการ
กลุ่ม) และผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์และมีส่วนร่วมในการเรียนสามารถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ โดยครูบีบทบาท
เป็นผู้อานวยความสะดวก การอ่านและการเขียนถือว่าเป็นทักษะท่ีสาคัญอย่างย่ิง การอ่านจะช่วยให้เกิดการ
สะสมคา ข้อความ ข้อมลู ความรู้ มีประสบการณ์กว้างขวางซ่ึงเป็นท่ีมาของการเขียนได้ดี คนทอ่ี ่านมากจึงเขียน
หนงั สอื ไดด้ ี การอา่ นและการเขียนจงึ มคี วามสมั พันธ์กนั

การอ่านจับใจความนับว่าเป็นหัวใจของการอ่าน เป็นการอ่านเพื่อทาความเข้าใจในเนื้อเร่ือง
เขา้ ใจจุดมุ่งหมาย สาระสาคัญ ของเรอ่ื งที่อ่านไดถ้ ูกต้อง ความคดิ เห็นที่ผ้เู ขียนต้องการแสดงต่อผู้อา่ นตลอดจน
วินิจฉัยคุณค่าทีต่ นเองอ่านได้อย่างมเี หตุผล ซึ่งตอ้ งอาศยั กระบวนการคดิ และประสบการณ์เดมิ ทีผ่ ู้อ่านมีอยูเ่ พ่ือ
ใชใ้ นการคาดเดาความหมายจากเนื้อเร่อื งทอ่ี ่าน สาหรับการอ่านจบั ใจความให้ง่ายและรวดเร็วอาจมีการสารวจ
ช่ือเรื่องรายละเอียดคร่าว ๆ การตั้งจุดมุ่งหมายในการอ่านให้ชัดเจนการมีความสามารถทางภาษาโดยเฉพาะ
ทักษะในการแปลความหมายของคา ประโยคและข้อความต่าง ๆ ในเรื่องให้เข้าใจอย่างถูกต้อง การมี
ประสบการณ์เก่ียวกับ เรื่องที่อ่านจะทาให้เข้าใจและจับใจความเร่ืองที่อ่านได้ง่ายขึ้น ท่ีอ่านจับใจความของ
เร่ืองที่อา่ นได้มากยอ่ มมีโอกาสรับรเู้ ร่อื งราวได้ดีกว่าผู้ท่ีไม่สามารถจบั ใจความของเร่ืองที่อ่านได้ การจับใจความ
อย่างมีประสิทธิภาพช่วยให้ผู้อ่านร้แู ละเข้าใจเรื่องราวต่าง ๆ ที่อ่านได้ผู้อ่านจึงสามารถนาความรู้ทไี่ ด้ไปพัฒนา
ตนเอง

กำรจัดกำรเรียนรู้แบบ Active Learning เป็นกระบวนการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีส่วน
ร่วมในชนั้ เรียนสร้างปฏสิ มั พันธ์ระหว่างครูผู้สอนกับผู้เรียนม่งุ ให้ผู้เรียนลงมอื ปฏบิ ตั ิ โดยมีครเู ปน็ ผู้อานวยความ
สะดวกสร้างแรงบันดาลใจให้คาปรึกษา ดูแล แนะนา จดั วิธีการเรียนรู้และแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลายให้ผู้เรียน
ได้เรียนรู้อย่างมีความหมายสร้างองค์ความรู้ได้มีความเข้าใจในตนเองใช้สติปัญญา คิด วิเคราะห์สร้างสรรค์
ผลงานมีสมรรถนะสาคัญ มีทักษะวิชาการ ทักษะชีวิต บรรลุเป้าหมายการเรียนรู้ตามระดับช่วงวัย(สานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาชนั้ พ้ืนฐาน. 2562 : 4) ลักษณะของการจัดการเรียนรแู้ บบ Active Learning มีดังนี้

1. เป็นการพัฒนาศักยภาพการคิด การแก้ปัญหา และการนาความรู้ไปประยุกต์ใช้เรียนมีส่วนร่วมใน
การจัดระบบการเรียนรู้ และสรา้ งองคค์ วามร้โู ดยมปี ฏิสัมพันธ์รูปแบบของความร่วมมือ

2. เปิดโอกาสใหผ้ เู้ รียนมีสว่ นรว่ มในกระบวนการเรียนรสู้ ูงสุด
3. เป็นกิจกรรมท่ใี ห้ผู้เรียนบรู ณาการข้อมลู ข่าวสาร สารสนเทศ สู่ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์
4. ผ้เู รียนได้เรียนรู้ความมีวนิ ยั ในการทางานร่วมกบั ผ้อู น่ื
5. ความรูเ้ กดิ จากประสบการณ์ และการสรปุ ของผ้เู รียน



6. ผู้สอนเป็นผู้อานวยความสะดวกในการจัดการเรียนรู้ เพ่ือให้ผู้เรียนเป็นผู้ปฏิบัติด้วยตนเอง
(สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาชั้นพนื้ ฐาน. 2562 : 5)
2. จุดประสงคแ์ ละเป้ำหมำยของกำรดำเนนิ งำน

2.1 จุดประสงค์
2.1.1. เพ่ือพัฒนาการจัดการเรียนรดู้ ว้ ยเทคนคิ บันได 6 ข้ัน
2.1.2 เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาภาษาไทย โดยใช้

เทคนิคบันได 6 ขนั้
2.1.3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนท่ีมีต่อการจัดการเรียนรู้การอ่านจับใจความ

วชิ าภาษาไทย โดยใช้เทคนิคบันได 6 ข้นั
2.2 เป้ำหมำยนักเรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ 6 จำนวน 10 คน
2.2.1 เป้ำหมำยเชงิ ปริมำณ
- นกั เรียนชั้นประถมศึกษาปที ี่ 6 จานวน 10 คน
2.2.2 เป้ำหมำยเชิงคุณภำพ
- นักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 จานวน 10 คน มที ักษะการจับใจความสาคญั
- นกั เรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 6 มผี ลสัมฤทธ์ิวิชาภาษาไทยสูงขน้ึ
- นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนด้วย

เทคนคิ บันได 6 ขั้น



3. กระบวนกำรผลิตผลงำน หรอื ขั้นตอนกำรดำเนนิ งำน
3.1 ข้นั ตอนกำรดำเนินงำน FLOW CHART

FLOW CHART

ศึกษาสภาพปจั จบุ ัน ปญั หาและความต้องการ P
ประชุม ปรึกษา หารือ สร้างความตระหนักให้กบั บคุ ลากร

ดาเนนิ การสร้างนวตั กรรม D
ดาเนินการจัดกจิ กรรมตามจุดประสงค์

ผู้บริหารควบคมุ นิเทศ กากบั ติดตาม C
ครูผสู้ อนรายงานผลการดาเนินงาน

ประเมนิ ผล และดาเนนิ การอย่างตอ่ เนื่อง A

3.1.1 สารวจปญั หาในการพัฒนา / ปญั หาที่พบและตอ้ งการพฒั นาใหด้ ขี ้ึน
3.1.2 ศกึ ษา / วเิ คราะหส์ ภาพปญั หาและความตอ้ งการของนกั เรียนท่ีมปี ญั หาการสรปุ ใจความ
3.1.2 ศึกษา / วิเคราะห์สภาพปัญหาและความต้องการของนักเรียนที่มีปัญหาด้านการจับใจความ

สาคญั
การพัฒนาทักษะการอ่านจบั ใจความสาคัญดว้ ยเทคนิคบนั ได 6 ขั้น ได้ใช้วงจรการบริหารงานคุณภาพ

PDCA โดยดาเนนิ การดังนี้
ข้ัน P (PLAN) การวางแผน ร่วมกันศึกษาและวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน ปัญหา ความต้องการ และ



กาหนดรูปแบบการพัฒนาคุณภาพการศึกษาตามนโยบายของผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาสุรินทร์ เขต 2 ภายใต้นโยบาย 3 สร้าง สร้างโอกาส สร้างคุณภาพ สร้างคุณธรรม และเลือกใช้
รูปแบบในการพัฒนาคุณภาพท่ีเหมาะสม โดยใช้ชุดกิจกรรมการพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความตามเทคนิค
บันได 6 ขนั้

ข้ัน D (DO) ขั้นปฏิบัติกิจกรรมตามแผน ดาเนินการจัดกิจกรรมตามวัตถุประสงค์ ในการพัฒนาการ
จดั การเรยี นรู้ตามเทคนคิ บันได 6 ขน้ั วิชาภาษาไทย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 ดงั นี้

ข้นั ที่ 1 การอา่ นเร่อื งให้จบ ตัง้ คาถาม 5W1H
ข้นั ท่ี 2 การหาคาสาคัญ (Key Words)
ขั้นท่ี 3 การตดั ส่วนขยายใจความสาคญั
ขั้นที่ 4 การเติมคาเชอื่ มหาสว่ นขยายใจความสาคัญ
ข้นั ที่ 5 การสงั เกตคาเชอื่ มแสดงความขดั แยง้
ขน้ั ท่ี 6 การหาใจความสาคญั ไดท้ กุ บทอา่ น
ข้ัน C (Check) ข้ันการติดตาม ผู้บริหารควบคุมการนิเทศ กากับติดตาม ครูผู้สอนรายงานผลการ
ดาเนินงาน กากับติดตามอย่างจริงจังและต่อเน่อื ง โดยมีการตรวจสอบและประเมินผลหลังการจัดกิจกรรมทุก
ครั้ง
ขั้น A (Action) ขั้นพัฒนาและปรับปรุง ประเมินผลและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นาผลการประเมินการ
จัดกิจกรรมทาเป็นข้อมูลสารสนเทศ เพื่อทบทวน และหาแนวทางปรับปรุงให้ดียิ่งข้นึ พัฒนางานอย่างตอ่ เน่ือง
มีการจดั กจิ กรรมส่งเสริม และพัฒนานักเรยี นตามศักยภาพ พรอ้ มท้งั สรุปผลและเผยแพร่ประชาสัมพนั ธ์ต่อไป

4. ผลกำรดำเนนิ กำร/ประโยชนท์ ่ไี ดร้ บั
4.1 ผลกำรดำเนนิ กำร
- นักเรียนมีทักษะในการอา่ นจบั ใจความ
- นักเรียนมีผลสัมฤทธิท์ างการเรียนวิชาภาษาไทยสงู ข้นึ
- นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนการสอนทักษะการอ่านจับใจความตามเทคนิค

บนั ได 6 ขัน้
4.2 ประโยชนท์ ่ีได้รับ
- การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ทาให้เกิดการเปล่ียนแปลงในการเรียนรู้กับนักเรียน

นกั เรยี นไดฝ้ ึกทกั ษะการคดิ การแลกเปล่ียนเรียนรู้ การทางานร่วมกัน
- เสริมสร้างความสามัคคี ความร่วมมือในหมู่คณะครู ผู้บริหาร และผู้ปกครอง

นกั เรยี น
- คุณภาพตามมาตรฐานการศกึ ษาดา้ นผูเ้ รยี นมีคณุ ภาพสูงข้ึน
- โรงเรียนเป็นท่ียอมรับของชุมชนและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ในการพัฒนาคุณภาพ

นักเรยี นมากยง่ิ ขึ้น



5. ปัจจยั ควำมสำเร็จ
5.1 ผู้บริหารโรงเรียนให้ความสาคัญและเอาใจใส่กับการดาเนินงาน พร้อมส่งเสริมสนับสนุนให้การ

ดาเนนิ งาสาเร็จบรรลุผล
5.๑ คณะครูใหค้ วามร่วมมือในการดาเนินกิจกรรมตา่ ง ๆ
5.๒ นักเรยี นใหค้ วามรว่ มมอื และมสี ่วนรว่ มในการดาเนนิ กิจกรรมตลอดระยะเวลา
5.๓ ชุมชนและผู้ปกครองมีส่วนร่วมในการส่งเสริมการพัฒนาการอ่านการเขียนภาษาไทยและ การ

เรียนของบตุ รหลาน

6. บทเรยี นทีไ่ ด้รับ (Lesson Learned)
6.1 การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอนดว้ ยเทคนคิ บนั ได 6 ขน้ั
6.2 การปฏิบัติงานที่เป็นระบบมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจน ได้รับการสนับสนุน ส่งผลให้งานบรรลุตาม

เป้าหมาย
6.3 ค้นพบรปู แบบและวิธีการจัดการเรยี นรู้ทเ่ี หมาะสมกับความหลากหลายของผเู้ รียน
6.4 นาความรู้และประสบการณ์ในการจัดกิจกรรมการอ่านจับใจความตามเทคนิคบันได 6 ข้ัน มา

พัฒนาและปรับปรงุ ให้มีคณุ ภาพอย่างต่อเนื่อง

7. กำรเผยแพร่ / กำรไดร้ ับกำรยอมรับ / รำงวัลทไ่ี ดร้ บั
7.1 กำรเผยแพร่ผลงำน
- ประชาสัมพันธก์ ิจกรรมหน้าเสาธง
- เผยแพรผ่ ลงานใหก้ บั คณะครใู นโรงเรียนท่สี นใจ
- เผยแพรผ่ ลงานผา่ นส่อื ออนไลนช์ ่องทาง Facebook, Google sites
7.2 กำรไดร้ บั กำรยอมรับ
- คณะครู ผู้ปกครอง นักเรยี นมีความพึงพอใจตอ่ การพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น
- นักเรยี นมผี ลสัมฤทธิท์ างการเรยี นหลังเรยี นเพิ่มขึน้
- นักเรยี นมผี ลสัมฤทธ์ิทางการเรียนตามคา่ เป้าหมายท่ีกาหนดไว้
- นักเรียนมผี ลการทดสอบระดับชาติ (O – NET) สงู ขึน้
7.3 รำงวัลที่ได้รับ
- ได้รับรางวลั ครูดีเด่นด้านการจดั การเรยี นการสอนวิชาภาษาไทย โดยมีผลคะแนน

การทดสอบระดับชาติ (O-NET) ปีการศึกษา 2560 เฉล่ียร้อยละ 60.00 สูงกว่าระดับชาติ เป็นอันดับท่ี 4
ของเขตพืน้ ทีก่ ารศกึ ษา

- ได้รับรางวัลครูผู้สอนนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 วิชาภาษาไทย ท่ีมีผลการทดสอบ
ระดบั ชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) ปกี ารศึกษา 2562 สูงกว่าค่าเฉล่ยี ระดบั ประเทศ

- ได้รับรางวัลครูผู้สอนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 วิชาภาษาไทย ท่ีมีผลการทดสอบ



ระดบั ชาติขน้ั พืน้ ฐาน (O-NET) ปกี ารศึกษา 2563 สูงกว่าค่าเฉล่ยี ระดับประเทศ
- ไดร้ ับคดั เลือกเปน็ ครผู สู้ อนดีเดน่ กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาไทย เน่อื งในวนั ครู

อาเภอรัตนบรุ ี ประจาปี 2564

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ผลงานนักเรยี น


ภำคผนวก


ภำคผนวก ก ชุดกิจกรรม

๑๐

ใบกิจกรรมบันไดขั้นท่ี 1 อ่ำนเรอื่ งให้จบ คน้ พบ 5W1H
นิทำนเร่อื ง สองสำวใช้กับไก่

แม่เฒา่ คนหนงึ่ อาศยั อยกู่ บั สาวใชส้ องคน ท้ังสองมีหนา้ ทเี่ ก็บกวาด เช็ด
ถูและจัดเก็บข้าวของให้เป็นระเบียบ เช้ามืดของทุกวัน ไก่ท่ีแม่เฒ่าเล้ียงไว้จะ
ส่งเสียงขันเตือนให้นางต่ืนมาปลุกสาวใช้ให้ลุกมาทางานบ้าน สาวใช้ท้ังสอง
รู้สึกไม่พอใจท่ีตนไม่ได้หลับนอนอย่างสบาย “เป็นเพราะเจ้าไก่ตัวน้ันแน่ ๆ ที่
คอยปลุกแม่เฒ่าทุกเช้าแบบนี้เราต้องช่วยกันกาจัดมันแล้วล่ะ” ว่าแลว้ ท้ังสอง
ก็วางแผนฆ่าเจ้าไก่ แต่เหตุการณ์กลับไม่เป็นอย่างท่ีสาวใช้คิด เพราะเมื่อไม่มี
เจ้าไก่ตัวนั้นแล้ว แม่เฒ่ากลับย่ิงกังวลกว่าเดิมว่าสาวใช้ท้ังสองจะตื่นสายและ
ทาความสะอาดบ้านไม่ทัน นางจึงตื่นขึ้นมาปลุกสาวใช้ให้ทางานบ้านกลางดึก
ของทกุ คืนแทน

๑๑

คำช้ีแจง ให้นักเรยี นอ่านนิทานท่กี าหนดให้ แลว้ ตง้ั คาถามพรอ้ มตอบคาถามโดยใช้เทคนิค 5W1H

1. คาถาม (Who)
คาตอบ

2. คาถาม (What)
คาตอบ

3. คาถาม (Where)
คาตอบ

4. คาถาม (When)
คาตอบ

5. คาถาม (Why)
คาตอบ

6. คาถาม (How)
คาตอบ

ช่ือ ช้นั เลขที่

๑๒

ใบกจิ กรรมท่ี 2 อ่ำนเรอื่ งให้จบ คน้ พบ 5W1H

คำชแี้ จง อา่ นเรื่องนิทานปลาดาว แลว้ ตอบคาถาม

นทิ ำนเรอื่ งปลำดำว
เช้าวันหนึ่ง ชายชราลงไปเดินเล่นที่ชายหาด เมื่อกวาดสายตาไปบนหาดทรายสีขาวท่ี
ทอดยาวสุดลูกหูลูกตา เขาก็มองเห็นปลาดาวนับพันตัวนอนเกยตื้นอยู่ ปลาดาวพวกน้ีคงถูกพัด
พามาช่วงที่น้าขึ้นและพอตอนน้าลงมันคงว่ายกลับลงไปไม่ทัน จึงมานอนแอ้งแม้งอย่างที่เห็น
แสงจากพระอาทิตย์เริ่มร้อนแรงข้ึนเรื่อย ๆ อีกไม่ก่ีช่ัวโมงปลาดาวท้ังหลายกจ็ ะแห้งตาย ขณะท่ี
ชายชรากาลังนึกสงสารปลาดาวผู้โชคร้ายเหล่านั้น เขาก็มองเห็นเด็กผู้ชายคนหน่ึงกาลังก้ม ๆ
เงย ๆ หยิบปลาดาวเขวี้ยงลงไปในทะเล ขายชราจึงเดินไปใกล้ ๆ แล้วเอ่ยว่า "ทาอะไรอยู่รึเจ้า
หน"ู "ผมกาลงั ช่วยชวี ติ ปลาดาวอยูค่ รับ" "เอาจรงิ เหรอ หาดน้ยี าวมากนะปลาดาวก็มีเป็นพันเป็น
หม่ืนตัว เธอจะไปช่วยมันทันได้อย่างไรรู้ตัวรีเปล่าว่าสิ่งที่เธอทามันแทบไม่มีความหมายอะไร
เลย" เด็กชายคนน้ันยิ้มให้ชายชรา กัมลงหยิบปลาดาว ชูมันขึ้นมา แล้วพูดว่า "มีสิครับ อย่าง
นอ้ ยมนั ก็มคี วามหมายกับปลาดาวตัวน้ี"แล้วเด็กผู้ชายก็เขว้ียงปลาดาวตัวนั้นลงทะเลไป ก่อนจะ
กม้ ลงไปเกบ็ ปลาดาวขนึ้ มาอีกตัว "แลว้ กต็ ัวน้ี...แล้วกต็ วั นี.้ ..แล้วก็ตัวน้.ี .!!

คำถำม คำตอบ
1. ตัวละครสำคัญในนิทำนเรือ่ งนี้คือใคร (Who)
2. ตวั ละครสำคัญในเรอื่ งทำอะไร (What)
3. สำนทที่ ่ีปรำกฏในเรือ่ งคอื ท่ใี ด (Where)
4. เหตกุ ำรณ์ในเรอื่ งเกดิ ข้นึ เวลำใด (When)
5. เพรำะเหตใุ ดตัวละครสำคญั จึงทำพฤติกรรมนัน้ (Why)
6. ผลจำกกำรท่ตี ัวละครสำคญั ทำพฤตกิ รรมน้นั ส่งผล
อย่ำงไร (How)

๑๓

ใบกิจกรรมที่ 3 อำ่ นเร่ืองให้จบ คน้ พบคำสำคัญ (Key Word)

1. พริกเปน็ พชื ที่อุดมด้วยวติ ามินชี ซึง่ จาเปน็ ต่อการบารงุ ผิวพรรณ เอ็นและกระดูก พริกข้ีหนูหรือพริกข้ีฟ้าดิบ
หั่น ๑ ถ้วยตวง (ประมาณ ๑0 ช้อนโต๊ะ) ใหว้ ิตามินเท่ากับปริมาณที่ร่างกายควรได้รับในแต่ละวัน ถ้าเป็นพริก
แดงจะมีวิตามนิ ซมี ากกว่าน้ีถึง ๒ เท่า
คำถำม คำสำคญั ในย่อหนำ้ น้ตี รงกับข้อใด

๑. พืช วติ ามนิ
๒. วติ ามนิ พรกิ
๓. พรกิ วิตามนิ ซี
๔. วติ ามนิ ชี พริกขีห้ นู

๒. การหัวเราะจะกระตุ้นกล้ามเน้ือให้ผ่อนคลาย ทาให้การหายใจเข้าออกดีขึ้น ช่วยนวดอวัยวะ ภายในอย่าง
หวั ใจและปอด ส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันในร่างกาย ทาให้อดทนต่อความเครยี ดได้มากขึ้น ลดอาการเจ็บปวดทา
ให้ระบบต่าง.ๆ ในร่างกายทางานได้อย่างสงบ ช่วยให้การย่อยอาหารดีขึ้น ช่วยกระตุ้นอารมณ์ผ่อนคลายและ
บรรเทาอาการเจ็บปวดภายในร่างกาย นอกจากน้ีการหัวเราะยังช่วยเร่งความเร็วกระบวนการเยียวยาใน
ร่างกาย ช่วยเพ่ิมการไหลเวียนของโลหิตในร่างกาย ช่วยลดความเครียด ความโกรธ และความหดหู่เพิ่ม
ออกซเิ จนในเลอื ดอีกดว้ ย
คำถำม ข้อใดคอื คำสำคญั ในยอ่ หน้ำนี้

๑. สรรพคณุ ชว่ ย
๒. อวัยวะ อารมณข์ นั
3. ร่างกาย การหวั เราะ
๔. การหัวเราะ ประโยชน์

๓. ขา้ วแช่เปน็ วฒั นธรรมทางอาหารทีไ่ ทยรับมาจากคนมอญ สมัยรัชกาลที่ ๑ มอญเขา้ มาอยูใ่ นดนิ แดนสยามใน
ฐานะผู้ร่วมกู้ชาติ ซ่ึงเป็นที่มาของตันตระกูลคชเสนีในปัจจุบัน ชาวมอญ มปี ระเพณีส่งข้าวแช่ในช่วงสงกรานต์
ช่วงกอบกู้เมืองในสมยั รชั กาลที่ 2 กม็ ีพธิ ีสง่ ข้าวแชก่ นั วัฒนธรรมนี้จึงเริ่มแพรห่ ลายตง้ั แต่นั้นมา
คำถำม ขอ้ ใดไม่ใชค่ ำสำคัญในย่อหนำ้ นี้

๑. ข้าวแช่
2. คนมอญ
๓. สงกรานต์
๔. วัฒนธรรม

๔. คาร์โบไฮเดรตเป็นสารอาหารที่สาคัญที่สุดในบรรดาสารอาหารที่ให้พลังงานแก่ร่างกาย จากสัดส่วนของ
พลังงานท่ีได้จากอาหารท้ังหมดใน 2 วัน จะมีคาร์โบไฮเดรตประมาณร้อยละ ๔0 - ๘o ซ่ึงจะสูงกว่าท่ีได้จาก
ไขมันและโปรตีน สาหรบั การกินข้าวของคนไทย สัดสว่ นของข้าว กจ็ ะมากกว่ากับขา้ ว กรณีเช่นน้สี อดคลอ้ งกับ

๑๔

หลักวชิ าการท่วี ่าพลังงานท่ไี ด้จากอาหารนั้น ควรมาจากคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก รองลงมาคือไขมันและโปรตีน
คำถำม ข้อใดไมใ่ ช่คำสำคัญในย่อหน้ำน้ี

๑. อาหาร
๒. พลงั งาน
๓. สารอาหาร
๔. คารโ์ บไฮเดรต

5. การทาอะไรแต่พอดีน้ันออกจะยากอยู่หน่อยเหมือนการตักน้ามาหนง่ึ ชันใหญ่แล้วนามากรอกใส่ขวดให้พอดี
น้นั ยาก เพราะตอ้ งมีหกมีบ่ามีขาดมีเกินอยู่บ้างเป็นธรรมดา น้าก็เหมือนผู้ให้ ขวดก็เหมือนผู้รับ น้ามากไปขวด
เลก็ ไปกใ็ สไ่ ด้ไมพ่ อดี น้านดิ เดียวขวดใหญ่ไปกใ็ ส่ไม่พอดีอกี เหมอื นกัน ดว้ ยเหตนุ ี้น้ากบั ขวดจึงต้องพอดกี ัน
คำถำม ขอ้ ใดไมใ่ ช่คำสำคญั ในยอ่ หนำ้ นี้

๑. น้า
๒. ผใู้ ห้
๓. ผู้รบั
๔. ความพอดี

๑๕

ใบกิจกรรมท่ี 4 “แขง่ ขันเรียงถ้อยร้อยใจควำม”

ขอ้ ควำม
1. เพรำะกำรอำ่ นหนังสอื มใิ ช่จะอ่ำนเฉพำะหนงั สือทำงวิชำกำรหรือหนงั สอื เรยี นเท่ำน้ัน

2. ยงั แฝงข้อคดิ และสำระไว้อกี ด้วย 3. หำกแตย่ ังรวมถึงกำรอ่ำนหนังสอื นวนิยำย สำรคดี และกำร์ตูน

4. เพรำะกำรอำ่ นหนงั สือจะทำให้ผูอ้ ่ำนไดร้ ับควำมรู้ 5. นอกจำกนั้นยงั ให้ควำมสนุกเพลิดเพลนิ ไดอ้ ีกดว้ ย

6. ทำให้มีควำมคดิ ทีก่ ว้ำงไกล ทันโลก ทันเหตกุ ำรณ์ 7. กำรอำ่ นหนงั สอื มปี ระโยชน์มำก

8. ซง่ึ หนงั สือเหล่ำน้นี อกจำกจะให้ควำมสนุกสนำนเพลิดเพลนิ แล้ว

1. ใหน้ ักเรียนเรยี งลาดบั ข้อความที่กาหนดใหเ้ ป็นยอ่ หนา้ ที่ถกู ต้องสมบูรณ์

2. ให้นักเรียนเขยี นใจความสาคญั ของย่อหน้าโดยใช้หลักการบันได 6 ขนั้

3. ให้นกั เรยี นบอกวธิ กี ารจับใจความสาคัญวา่ ใช้ข้ันใดของหลักการบนั ได 6 ข้ัน

๑๖

ใบกิจกรรมที่ 5 “จบั ใจควำมในบทอ่ำนท่ีหลำกหลำย”
ข้อควำม

(๑) การใช้ยานัตถุว์ ิธีแรก คอื ใช้สอดเข้าไปอุดไว้ในจมูก (๒) การจะใช้ยาสอดต้องบดยาให้เป็นผงและ
ทาเป็นครีมหรือเป็นก้อน (๓) หรืออาจใช้ผ้าขาวบางห่อตวั ยาไว้ (๔) (หรืออาจทาเป็นยาน้า ใช้สาลชี ุบแลว้ สอด
เข้าไปในจมูก (๕) การสอดยาเขา้ โพรงจมูกมีผลในการฆ่าเชื้อ ละลายเสมหะและแก้บวม (๖) ท่ีสาคัญมักใช้กับ
อาการปวดศีรษะและเป็นโรคท่ีจมูก (๗) ขณะเดียวกันก็ใช้แก้โรคมาลาเรียและโรคดีซ่านก็ได้ (๘) วิธีที่สองคือ
การสูดเข้าจมูก (๙) เป็นการสูดเอายาผงเข้าไป ทาให้ตัวยาติดอยู่กับสารเหลวในจมูก (๑๐) เป็นวิธีรักษาเยื่อ
จมูกท่ีดี (๑๑) เนื่องจากตัวยาที่ใช้วิธีสูดเข้าไปนี้มักมีส่วนผสมของเครื่องหอม (๑๒) ซ่ึงมีผลต่อการกระตุ้นเยื่อ
จมูก (๑๓) ดังน้ันจึงอาจจามได้ (๑๔) ส่วนการคม (๑๕) คือ การบดยาใหเ้ ป็นผง แล้วต้มหรือตาหรือเผาเพื่อให้
เกดิ กลนิ่ (๑๖) เป็นวิธีรักษาดว้ ยกลนิ่ (๑๙) ถ้าเปรียบเทยี บกบั การสดู แล้ว (๑๘) การดมเพยี งต้องการกลิน่ ไม่ทา
ให้จาม (๑๙) วธิ ดี มกล่ินเหมาะกบั เดก็ เลก็ หรอื ทารกมากกว่าวิธีอนื่

(ดัดแปลงจาก ช่งจิ้งตง. (๒๕๕๘). Traditiona Chinese Medicine แพทแผนจีนต้านโรค. กรุงเทพ.)

1. ใหน้ ักเรยี นเขียนใจความสาคัญของย่อหนา้ โดยใชห้ ลักการบนั ได 6 ข้ัน

2. ใหน้ กั เรียนบอกวิธีการจับใจความสาคญั วา่ ใชข้ ัน้ ใดของหลักการบนั ได 6 ข้ัน

๑๗

ใบกจิ กรรมที่ 6 “จบั ใจควำมในบทอ่ำนท่ีหลำกหลำย”

คำถำม จากข้อมลู ท่ีกาหนดให้ ข้อใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ ง
1. ความเชอ่ื เกยี่ วกบั การกนิ ช็อกโกแลตมที งั้ ความเชื่อทถี่ ูกและผิด
2. การรับประทานช็อกโกแลตเปน็ ประจาจะช่วยลดความดนั โลหติ สงู
3. ชอ็ กโกแลตเปน็ ผลิตภัณฑท์ ่มี าจากโกโกแ้ ละมีใหเ้ ลอื กหลายรูปแบบ
4. การชงชอ็ กโกแลตไม่จาเปน็ ตอ้ งใส่น้าตาลเพราะในช็อกโกแลตมีน้าตาลอยแู่ ลว้

๑๘

คำถำม จากข้อมูลทีก่ าหนดให้ บคุ คลใดควบคมุ เกรลิน ฮอรโ์ มนได้ดีทสี่ ดุ
1. ชลธีนอนหลับในเวลากลางวนั หลงั จากรบั ประทานอาหารและปรับเวลาเขา้ นอนในเวลากลางคืนให้

เร็วขน้ึ
2. สายธารรับประทานสลัดผักและผลไม้ตามฤดูกาลในมื้อกลางวันและออกกาลังกายโดยการว่ายน้า

หลงั จากเลิกงาน
3. นทีด่ืมนมพร่องมันเนยแทนน้าเปล่าและงดรับประทานขนมหวานที่มีส่วนผสมของเนยที่ทามาจาก

นมววั และนมแพะ
4. วารีรัตน์เปล่ียนการรับประทานอาหารจากเช้า กลางวัน และเย็นมาเป็นรับประทานอาหารหลัง

ก่อนพระอาทติ ย์ข้ึนและหลงั พระอาทิตย์ตก

๑๙

ใบกจิ กรรมที่ 8 “จับใจควำมในบทอ่ำนท่ีหลำกหลำย
หลำกหลำย”

จงสรุปใจควำมสำคัญของบทอ่ำนต่อไปน้ี เขียนด้วยตัวบรรจงครึ่งบรรทัดโดยใช้ภำษำไทย
มำตรฐำน (ภำษำไทยกลำง) ควำมยำวไม่เกิน ๓ บรรทดั

รำ่ งกำยมนุษย์มีนำ้ เปน็ องค์ประกอบหลัก ในแต่ละเซลล์จะมีนำ้ เป็นองค์ประกอบรอ้ ยละ ๖๐ ในสมอง
มี น้ำเป็นองคป์ ระกอบร้อยละ ๘๕ และในเลอื ดมนี ้ำเปน็ องคป์ ระกอบร้อยละ ๙๒

กำรดื่มน้ำอย่ำงถูกตอ้ งและเหมำะสมจะส่งผลดีต่อร่ำงกำย เช่น ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่งสดใส ชว่ ยปอ้ งกัน
กำรเกิดร้วิ รอย ชว่ ยป้องกันไม่ให้ผวิ แห้งกร้ำน ช่วยใหด้ วงตำสดใส ช่วยปรับสมดุลในร่ำงกำย ทำให้เซลล์ตำ่ ง ๆ
ในร่ำงกำยไม่ขำดน้ำและทำงำนได้อย่ำงเป็นปกติ ช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่ำงกำยให้คงท่ี ช่วยสร้ำงภูมิคุ้มกันท่ี
และปอ้ งกันเชอ้ื โรคต่ำง ๆ ทจ่ี ะเข้ำส่รู ่ำงกำยได้อีกด้วย อำจกล่ำวได้ว่ำ น้ำก็คือยำวิเศษดี ๆ นี่เอง อย่ำงไรก็ตำม
กำรได้รับน้ำปริมำณมำกเกินไปจะทำให้ไตทำงำนหนักข้ึน ทำให้เลือดเจือจำง แรงดันในกำรดูดซึมของ
สำรอำหำรสู่เซลล์น้อยลง ปริมำณน้ำในเซลล์เพิ่มข้ึนทำให้เซลล์บวมน้ำ กอ่ ให้เกิดภำวะน้ำเป็นพิษ จะเห็นได้ว่ำ
กำรด่มื นำ้ มำกจนเกนิ ไปกก็ อ่ ใหเ้ กดิ โทษไดเ้ ชน่ เดียวกนั

กำรดื่มน้ำอย่ำงถูกวิธีคือกำรด่ืมน้ำอุณหภูมิปกติ ไม่ร้อนมำกหรือเย็นจัด และควรดื่มน้ำอย่ำงน้อยวัน
ละ ๘ แก้ว โดยด่ืมในช่วงเวลำท่ีเหมำะสม เช่น ด่ืมหลังต่ืนนอนประมำณ ๒ แก้ว หลังจำกนั้นควรด่ืมก่อนมื้อ
อำหำรประมำณ ๑ ชั่วโมง และจบิ ทกุ ๆ ๕ - ๑๐ นำทีตลอดวนั

๒๐
ภำคผนวก ข ภำพกจิ กรรม

๒๑
ประชุม วำงแผน ปรกึ ษำหำรือ วเิ ครำะหส์ ภำพปัญหำ
วำงแผนกำรแก้ไขปัญหำ ดำเนินกำรสรำ้ งนวัตกรรม

๒๒
ดำเนินกำรใชน้ วตั กรรมทักษะกำรอำ่ นจับใจควำมด้วยเทคนคิ บันได 6 ขน้ั

๒๓

นิเทศ ตดิ ตำม ประเมนิ ผลกำรใชน้ วตั กรรม
ชุมชนและผู้ปกครองมีสว่ นร่วมในการสง่ เสริมการพฒั นาการอา่ นการเขียนภาษาไทยและ การเรยี นของบตุ ร

หลาน

๒๔
ผลทเ่ี กิดจำกกำรใชน้ วัตกรรม

๒๕

๒๖

โรงเรยี นบา้ นนาอดุ ม

สานักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศกึ ษาสุรินทร์ เขต ๒
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร


Click to View FlipBook Version