เมฆ
การจาแนกเมฆ
เมฆช้นั ตา
พบอย่สู ูงกวา่ ระดบั ผวิ โลกขนึ้ ไปไม่เกนิ 3กโิ ลเมตรซง่ึ เปน็ ชัน้
บรรยากาศที่มไี อน้าอยู่ในอากาศมากทสี ุด เมฆทพ่ี บได้แก่ เมฆสเตรตัส
เมฆสแตรโทควิ มูลัสและเมฆนมิ โบสเตรตสั เมฆในระดบั ตา่้ เปน็ เมฆท่ี
เกดิ ฝนและหมิ มะได้
เมฆชั้นกลาง
เกิดขน้ึ ทีร่ ะดบั สงู 3 – 6 กิโลเมตร พบเมฆแอลโตสเตรตสั ”
และเมฆแอลโตควิ มูลัส มลี กั ษณะเปน็ ละอองนา้ เล็กๆมสี ีขาว
บางครง้ั แตกเปน็ กอ้ นคล้ายดอกกระกล่้า
เมฆช้นั สงู
เกิดขนึ้ ท่ีระดบั ความสงู มากกวา่ 6 กิโลเมตร จนใกล้บรรยาศช้นั โทรโพพอส
ทม่ี ี่อณุ หภูมติ ้า่ และไอน้านอ้ ย พบเมฆซีรร์ สั เมฆซีรโ์ รควิ มูลสั และเมฆซีรโ์ รส
เตรตัสมองเหน็ ได้ หนา้ หนาวจะโปรง่ ใสเหน็ เปน็ เมฆสขี าวเป็นเส้นปุย คล้าย
เส้นใย
เมฆชนั้ ตา
(Low Cloud)
เกิดข้นึ ทีระดบั ตากว่า 2 กโิ ลเมตร
เมฆสตราตสั เมฆแผน่ บาง ลอยสงู เหนือพน้ื ไมม่ ากนกั เชน่ ลอยปก
คลมุ ยอดเขา มกั เกดิ ขน้ึ ตอนเชา้ หรอื หลงั ฝนตก
Stratus บางครงั้ ลอยต่ามลี กั ษณะคลา้ ยหมอก
เมฆสตราโตคิวมลู ัส
Stratocumulus เมฆกอ้ น ลอยตดิ กนั เป็นแพ ไมม่ รี ปู ทรงทช่ี ดั เจน มี
ชอ่ งวา่ งระหวา่ งกอ้ นเพยี งเลก็ น้อย มกั เกดิ ขน้ึ เวลาท่ี
อากาศไมด่ ี และมสี เี ทา เน่ืองจากลอยอยใู่ นเงาของเมฆ
ชนั้ บน
เมฆนมิ โบสตราตัส
Nimbostratus เมฆกอ้ น ลอยตดิ กนั เป็นแพ ไมม่ รี ปู ทรงทช่ี ดั เจน มี
ชอ่ งวา่ งระหวา่ งกอ้ นเพยี งเลก็ น้อย มกั เกดิ ขน้ึ เวลาท่ี
อากาศไมด่ ี และมสี เี ทา เน่ืองจากลอยอยใู่ นเงาของเมฆ
ชนั้ บน
เมฆชัน้ กลาง
(Middle Cloud)
เกิดข้นึ ทีระดับสงู 2 – 6 กิโลเมตร
เ(มAฆltอoลัcuโmตคuวิluมs)ูลัส
เมฆกอ้ น สขี าว มลี ักษณะคล้ายฝูงแกะ ลอยเปน็
แพ มชี อ่ งว่างระหวา่ งกอ้ นเลก็ นอ้ ย
เมฆอลั โตสตราตัส
(Altostratus)
เมฆแผน่ หนา ส่วนมากมักมสี เี ทา เนอ่ื งจากบังแสง
ดวงอาทติ ย์ ไม่ใหล้ อดผ่าน และเกิดขน้ึ ปกคลุม
ท้องฟ้าเป็นบรเิ วณกว้างมาก หรือปกคลุมทอ้ งฟ้า
ทงั้ หมด
เมฆชนั้ สูง
(High Cloud)
เกิดข้ึนทีระดับสงู มากกวา่ 6 กโิ ลเมตร
เมฆแผ่นบาง สีขาว เป็นผลึกน้าแข็ง ปกคลุมท้องฟ้าเป็นบริเวณกว้าง
โปร่งแสงต่อแสงอาทิตย์ บางคร้ังหักเหแสง ท้าให้เกิดดวงอาทิตย์ทรงกลด
และดวงจนั ทรท์ รงกลด เป็นรูปวงกลม สคี ลา้ ยรุ้ง
เมฆร้ิว สีขาว รูปร่างคล้ายขนนก เป็นผลึกน้าแข็ง มักเกิดขึ้นในวันที่มี
อากาศดี ท้องฟ้าเป็นสฟี ้าเขม้
เมฆสีขาว เปน็ ผลกึ น้าแข็ง มลี ักษณะเปน็ ริว้
คลื่นเลก็ ๆ มกั เกิดข้ึนปกคลุมท้องฟ้าบรเิ วณกวา้ ง
เมฆกอ่ ตวั ในแนวต้ัง
(Clouds of Vertical Development)
เกิดข้ึนทีระดับสงู มากกวา่ 6 กิโลเมตร
เมฆควิ มลู ัส
(Cumulus)
เมฆกอ้ นปกุ ปยุ สขี าวเป็นรปู กะหล่้า กอ่ ตวั ในแนวตัง้ เกดิ ข้ึนจาก
อากาศไม่มีเสถยี รภาพ ฐานเมฆเป็นสเี ทาเนอื่ งจากมีความหนามาก
พอท่จี ะบดบงั แสง จนทา้ ให้เกดิ เงา มกั ปรากฏใหเ้ ห็นเวลาอากาศดี
ทอ้ งฟา้ เป็นสฟี า้ เข้ม
เมฆคิวมูโลนิมบัส
(Cumulonimbus)
เมฆกอ่ ตัวในแนวตั้ง พัฒนามาจากเมฆคิวมลู ัส มีขนาดใหญ่มาก
ปกคลมุ พนื้ ทคี่ รอบคลุมท้ังจงั หวัด ท้าใหเ้ กิดพายฝุ นฟ้า หาก
กระแสลมชนั้ บนพัดแรง กจ็ ะทา้ ใหย้ อดเมฆรปู กะหลา่้ กลายเป็น
รปู ทัง่ ตเี หลก็ มาเป็นเมฆเซอโรสตราตัส หรือเมฆเซอรสั
ประโยชน์ของเมฆ
1.ควิ มูโลนมิ บัส โดยมคี วามสัมพันธก์ บั พายฟุ า้ คะนอง
และ อากาศท่มี ลี กั ษณะแปรปรวน ก่อตวั ขนึ้ จากไอนา้ ซง่ึ ได้รบั การ
นา้ พาพัดขน้ึ ด้านบนดว้ ยกระแสลมแรง
2.คิวมูลสั ลกั ษณะคลา้ ยเมฆเซอร์โรคิวมูลัสแตม่ ขี นาด
ใหญ่กว่า เป็นเมฆที่มขี นาดหนาและกอ้ นใหญ่มักกอ่ ตวั เหนือ
กระแสลมอยา่ งรวดเร็ว
3.นิมโบรสเตรตัส เป็นเมฆสเี ทาดา้ เปน็ แผ่น เปน็
แนวยาวแผ่กวา้ งฐานต้า่ ใกล้พื้นดนิ เป็นเมฆท่เี กดิ ฝนตก เรียกวา่
เมฆฝน แต่ไม่มฟี ้าแลบ ฟ้ารอ้ ง
4.เมเซอโรสเตรตัส
ทา้ ใหเ้ กดิ ดวงอาทิตย์ทรงกลดเปน็ สีร้งุ