The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present Perfect Tense
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านต๊าพระแล จังหวัดพะเยา
โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI)
ปีการศึกษา 2564
ครูกชพร อินธนู

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ppamkodchapron, 2022-09-19 08:18:20

นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ CAI เรื่อง Present Perfect Tense

การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present Perfect Tense
ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านต๊าพระแล จังหวัดพะเยา
โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI)
ปีการศึกษา 2564
ครูกชพร อินธนู

บทที่ 4

ผลการวิเคราะห์ข้อมูล

การวิจัยการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present Perfect
Tense ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตาพระแล จังหวัดพะเยา โดยใช้บทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI) ผู้วิจัยได้นาเสนอผลการวิจยั ดงั นี้

สัญลกั ษณท์ ีใ่ ชใ้ นการวิเคราะห์ข้อมูล
เพื่อให้เกิดความเข้าใจตรงกันในการส่ือสารข้อมูล ผู้วิจัยได้กาหนดความหมายของ

สญั ลักษณ์ในการวิเคราะห์ขอ้ มลู ไว้ ดังนี้
n แทน จานวนนกั เรยี นในกลุ่มตวั อย่าง
M แทน คะแนนเฉลี่ย
S.D. แทน สว่ นเบีย่ งเบนมาตรฐาน
t แทน ค่าสถติ ิใน t-distribution
*p แทน มีนยั สาคญั ทางสถิติระดบั 0.05

การเสนอผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล
ในการวิเคราะห์ขอ้ มูลผวู้ ิจัยได้เสนอ 2 ตอน ดังต่อไปนี้
ตอนที่ 1 ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนดา้ นไวยากรณ์ เรือ่ ง Present Perfect Tense ก่อนเรียนและ

หลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านไวยากรณ์
ภาษาอังกฤษ(Computer Assisted Instruction: CAI)

ตอนที่ 2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ดา้ นไวยากรณ์ภาษาองั กฤษ (Computer Assisted Instruction: CAI) เรื่อง Present Perfect Tense

41

ผลการวิเคราะหข์ อ้ มูล
ตอนที่ 1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present Perfect Tense ก่อนเรียนและหลัง
เรียนของนกั เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตาพระแล โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
ดา้ นไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ(Computer Assisted Instruction: CAI)

ตาราง 1 ผลการวิเคราะห์การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present
Perfect Tense ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตาพระแล
โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ(Computer Assisted Instruction:
CAI)

การทดสอบ n M S.D. t p

ก่อนเรียน 8 7.13 2.094 3.940 0.006
หลงั เรียน 8 15.38

*p ≤0.05

จากตาราง 1 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present
Perfect Tense ก่อนเรียนและหลังเรียนของนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตาพระแล
โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (Computer Assisted
Instruction: CAI) พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉล่ียก่อนเรียนคิดเป็น 7.13 คะแนน และ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนคิดเป็น 15.38 คะแนน แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ดา้ น
ไวยากรณ์ เรื่อง Present Perfect Tense ของนกั เรยี นสงู กว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ
ทีร่ ะดับ .05

42

ตอนที่ 2 ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้าน
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (Computer Assisted Instruction: CAI) เรื่อง Present Perfect Tense

ตาราง 2 ค่าเฉลย่ี ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านไวยากรณ์
ภาษาอังกฤษ (Computer Assisted Instruction: CAI) เรื่อง Present Perfect Tense

ข้อ รายการประเมิน M S.D. ระดับความพงึ

พอใจ

1 บทเรียนมีความนา่ สนใจ และดงึ ดดู 4.38 0.52 มาก

2 การแบ่งหัวข้อของเนอื้ หาชัดเจนไมส่ ับสน 4.25 0.71 มาก

3 การนาเสนอเนือ้ หาง่ายต่อการทาความเข้าใจ 4.25 0.46 มาก

4 ปรมิ าณเนือ้ หากาลังดี ไมม่ าก ไมน่ ้อยเกินไป 4.63 0.52 มาก

5 สว่ นนาเข้าบทเรียนมีความเร้าใจและน่าสนใจ 4.50 0.53 มาก

6 สสี ันของบทเรียน และความสวยงามบทหน้าจอ 3.88 0.99 มาก

7 ตวั อักษรชดั เจน อ่านง่าย 4.38 0.74 มาก

8 เสยี งเพลงประกอบเหมาะสม 4.13 0.83 มาก

9 วิดที ัศน์ถา่ ยทอดไดช้ ัดเจน เข้าใจง่าย และ 3.88 0.99 มาก

น่าสนใจ

10 แบบฝึกท้ายหน่วยน่าสนใจ และเลอื กตอบง่าย 3.88 1.36 มาก

11 ระยะเวลาในการศึกษาบทเรียน 4.00 0.76 มาก

12 ท่านไดค้ วามรเู้ รือ่ ง Present Perfect เพิ่มข้นึ 4.50 0.53 มาก

หลงั จากศึกษาผ่านบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย

สอน

รวม 4.22 0.63 มาก

จากตาราง 2 พบว่า ความพึงพอใจที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้าน
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เรื่อง Present Perfect Tense ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มี
ค่าเฉลีย่ อยู่ในระดบั มาก เมื่อพิจารณาข้อคาถามเป็นรายข้อพบว่า ข้อทีม่ คี ่าเฉลีย่ สงู สุด 3 อันดับ
แรกคือ ข้อที่ 4 ปรมิ าณเนือ้ หากาลงั ดี ไมม่ าก ไมน่ ้อยเกินไป (M=4.63, S.D.=0.52) รองลงมา
คือ ส่วนนาเข้าบทเรียนมีความเร้าใจและน่าสนใจ และได้ความรู้เรื่อง Present Perfect เพิ่มขึ้น

43

หลังจากศึกษาผ่านบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (M=4.50, S.D.=0.53) และบทเรียนมีความ
น่าสนใจ และดึงดูด และตัวอักษรชัดเจน อ่านง่าย (M=4.38, S.D.=0.52 และ S.D.=0.54
ตามลาดับ)

บทที่ 5

บทสรุป

การวิจยั เรือ่ ง การพัฒนาผลสัมฤทธิท์ างการเรียนด้านไวยากรณ์ เรือ่ ง Present Perfect
Tense ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตาพระแล จังหวัดพะเยา โดยใช้บทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI) ซึ่งสรปุ เป็นข้ันตอนได้ดังนี้

1. สรุปผลการวิจัย
2. อภิปรายผลการวิจัย
3. ข้อเสนอแนะ

สรปุ ผลการวิจยั
การวิจัยครงั้ นี้ สรปุ ผลการวิจัยได้ดังนี้
1. ผลการวิเคราะห์การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present

Perfect Tense ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตาพระแล
โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ(Computer Assisted Instruction:
CAI) พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉล่ียก่อนเรียนคิดเป็น 7.13 คะแนน และผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนหลงั เรียนคิดเป็น 15.38 คะแนน แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present
Perfect Tense ของนักเรียนสงู กว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติทีร่ ะดับ .05

2. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้าน
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (Computer Assisted Instruction: CAI) เรื่อง Present Perfect Tense
พบว่า ความพึงพอใจที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เรื่อง
Present Perfect Tense ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก เมื่อ
พิจารณาข้อคาถามเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด 3 อันดับแรกคือ ข้อที่ 4 ปริมาณ
เนือ้ หากาลังดี ไมม่ าก ไมน่ ้อยเกินไป (M=4.63, S.D.=0.52) รองลงมาคือ สว่ นนาเข้าบทเรียนมี
ความเร้าใจและน่าสนใจ และได้ความรู้เรื่อง Present Perfect เพิ่มขึ้นหลังจากศึกษาผ่าน
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (M=4.50, S.D.=0.53) และบทเรียนมีความน่าสนใจ และดึงดูด
และตัวอกั ษรชัดเจน อ่านง่าย (M=4.38, S.D.=0.52 และ S.D.=0.54 ตามลาดับ)

45

อภิปรายผลการวิจยั
จากการวิจัยเรื่อง การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present

Perfect Tense ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตาพระแล จังหวัดพะเยา โดยใช้
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (Computer Assisted Instruction: CAI) ผู้วิจัยได้นาผลการวิจัย มา
อภิปรายผลดงั นี้

1. ผลการวิเคราะห์การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านไวยากรณ์ เรื่อง Present
Perfect Tense ก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านตาพระแล
โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ(Computer Assisted Instruction:
CAI) พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉล่ียก่อนเรียนคิดเป็น 7.13 คะแนน และผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนหลงั เรียนคิดเป็น 15.38 คะแนน แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ในการเรียนรู้ด้านไวยากรณ์ เรือ่ ง Present
Perfect Tense ของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05 สอดคล้องกับ
งานวิจัยรภิพร, สรพล และสมโภชน์ (2561) ทีไ่ ด้ศึกษาการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเพื่อ
พัฒนาความสามารถด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผลการวิจัยพบว่า คะแนนเฉลี่ยก่อนและหลงั เรียนแตกต่างกนั < p .05 โดย M หลงั เรียนเท่ากับ
38.00 และ M ก่อนเรียนเท่ากบั 16.33 นกั เรยี นมีระดบั ความพึงพอใจต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์
ช่วยสอนอยู่ในระดับดีมาก โดยมี M เท่ากับ 4.85 และ SD เท่ากับ 4.21 และ 9.85 ตามลาดับ

2. ผลการศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้าน
ไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ (Computer Assisted Instruction: CAI) เรื่อง Present Perfect Tense
พบว่า ความพึงพอใจที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ เรื่อง
Present Perfect Tense ของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเฉล่ียอยู่ในระดับมาก เมื่อ
พิจารณาข้อคาถามเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉล่ียสูงสุด 3 อันดับแรกคือ ข้อที่ 4 ปริมาณ
เนือ้ หากาลังดี ไมม่ าก ไมน่ ้อยเกินไป (M=4.63, S.D.=0.52) รองลงมาคือ สว่ นนาเข้าบทเรียนมี
ความเร้าใจและน่าสนใจ และได้ความรู้เรื่อง Present Perfect เพิ่มขึ้นหลังจากศึกษาผ่าน
บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน (M=4.50, S.D.=0.53) และบทเรียนมีความน่าสนใจ และดึงดูด
และตัวอักษรชัดเจน อ่านง่าย (M=4.38, S.D.=0.52 และ S.D.=0.54 ตามลาดบั ) สอดคลอ้ งกบั
อภิรดี จีนครา้ ม และคณะ (2559) ได้ศึกษาการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยเรียนภาษาองั กฤษ
เพือ่ พฒั นาทกั ษะดานการฟัง-พดู ในการเตรียมความพร้อมเข้าสปู่ ระชาคมอาเซียนของนักเรียน
ระดับประถมศึกษาโรงเรียนชุมชนบ้านแม่ปุ ตาบลแม่ปุ อาเภอแม่พริก จังหวัดลาปาง ผลวิจัย
พบว่า 1) นักเรียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยเรียนภาษา มี
คะแนนเฉล่ียของการสัมภาษณ์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ร้อยละ 24.62 2) นักเรียนชั้น

46

ประถมศึกษาปีที่ 6 ทีเ่ รียนดว้ ยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยเรียนภาษา มีผลสัมฤทธิท์ างการเรียน
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และ3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยบทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยเรียนภาษาในระดับมาก

ข้อเสนอแนะ
ขอ้ เสนอแนะในการน๊าผลการวิจยั ไปใช้
1. ผู้สอนวิชาภาษาอังกฤษควรดาเนินการวิจัยในชั้นเรียนด้วยตนเอง เพื่อเข้าใจถึง

ปัญหาทีเ่ กิดขนึ้ และสามารถหาแนวทางแก้ไขปญั หานน้ั ได้
2. ผู้วิจัยควรเข้าไปศึกษาพฤติกรรมของกลุ่มตัวอย่างและสร้างความคุ้นเคยด้วยการ

เปน็ ผชู้ ่วยสอนในช้ันเรียน หรือเข้าไปชว่ ยสอนกลุ่มตวั อย่าง
ข้อเสนอแนะในการวิจยั ครั้งตอ่ ไป
1. การวิจยั ครงั้ นีม้ ีขอ้ จากัดดา้ นความสามารถในการพฒั นาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วย

สอนโดยของผู้จัดทา ดังน้ันในการวิจัยคร้ังต่อไปควรควรมีการพัฒนาความสามารถด้านการ
พฒั นาส่อื ให้มากขึน้

2. ด้วยเหตุว่างานวิจัยคร้ังนี้ใช้โปรแกรม PowerPoint ในการพัฒนาและผลิตบทเรียน
คอมพิวเตอร์ช่วยสอน คร้ังต่อไปควรลองพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนด้วยโปรแกรม
อืน่ ๆ เพือ่ ประสทิ ธิภาพที่ดีข้นึ ของบทเรียน

2. ควรเพิ่มจานวนของกลมุ่ ตวั อย่าง เพือ่ ประสทิ ธิภาพของงานวิจยั
3. ควรเพิ่มแผนการจัดการเรียนรู้ และจานวนคาศัพท์ที่ใช้วิจัย เพื่อใช้ในการพัฒนา
นักเรยี นให้มีประสทิ ธิภาพการเรียนรู้มากข้นึ

บรรณานกุ รม

48

บรรณานกุ รม

กมลรัตน์ หลา้ สุวงษ์. (2541). จติ วิทยาการศึกษา. พิมพ์ครงั้ ที่ 2. กรุงเทพฯ : ศรีราชา.
กรมวิชาการ, กระทรวงศกึ ษาธิการ. (2546). หลักสตู รการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช

2542 และที่แกไ้ ขเพิม่ เติม (ฉบบั ที่ 2) พุทธศักราช 2545. กรงุ เทพมหานคร :
องค์การรบั ส่ง สนิ ค้าและพัสดภุ ณั ฑ์ (ร.ส.พ.).
กิตติธัช อิ่มวฒั นกลุ . (2553). ความพงึ พอใจของประชาชนที่มีตอ่ การใหบ้ รกิ ารด้าน
โครงสรา้ งพืน้ ฐานของ องคก์ ารบริหารส่วนตา๊ บลในเขตอา๊ เภอโนนไทย จังหวดั
นครราชสีมา โครงงานหลกั สตู รวิศวกรรมศาสตร, มหาบัณฑิตสาขาวิศวกรรมโยธา,
สานักวิชาวิศวกรรมศาสตร์,มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี.
ขนิษฐา ชานนท. (2532). เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กบั การเรียนการสอน.กรุงเทพฯ: ซีเอด็ ยเู คชน่ั .
ครรชิต มาลัยวงศ์. (2532). การใช้ไมโครคอมพิวเตอรช์ ่วยในการสอน. กรุงเทพ : ไอ.ซี.ซี.
อินเตอรชัน่ แนลจากัด (มหาชน).
ชลวิภา เฟื่องกาญจน์. (2547). การใช้กจิ กรรมแผนผงั ความคิดเพอ่ื เพม่ิ พูนความสามารถ
ทางภาษาอังกฤษและทักษะการคิดของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ 3.
มหาวิทยาลยั เชียงใหม่, เชียงใหม่.
ชวาล แพรัตกลุ . (2524). เทคนิคการวัดผล. พิมพ์ครั้งที่ 6. กรงุ เทพฯ : วัฒนาพาณิช.
ชยั พร วิชชาวธุ . (2540). ความจ๊ามนุษย.์ กรงุ เทพฯ : ชวนพิมพ์.
ณัฐวุฒิ กิจรุ่งเรอื ง. (2545). นักเรยี นเป็นส๊าคญั และการเขียนแผนการจัดการเรยี นรขู้ อง
ผสู้ อนมืออาชีพ. กรุงเทพฯ: สถาพรบุ๊คส์.
ดวงกมล คาเอี่ยม. (2540). การพัฒนาบทเรยี นคอมพิวเตอร์ ชว่ ยสอนค๊าศัพท์
ภาษาองั กฤษสา๊ หรับคนตาบอด. วิทยานิพนธ์ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต. สาขา
เทคโนโลยีทางการศึกษา, บณั ฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยบูรพา.
ทักษิณา สวนานนท์. (2530). คอมพิวเตอรเ์ พอ่ื การศึกษา. กรงุ เทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภา.
นิตยา ชุ่มจติ ต์ และคณะ. (2550). การพฒั นาหนงั สืออ่านประกอบสามิติ กลมุ่ สาระการ
เรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ชดุ My holiday ทีส่ ่งเสริมผลสมั ฤทธิ์
ทางการเรยี นของนกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 1. มหาวทิ ยาลัยพะเยา, พะเยา.

49

นิศากร แสงสว่าง. (2015). ผลการใชส้ ื่อคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยสอน ภาษาองั กฤษทีเ่ นน้ นทิ าน
คณุ ธรรมเพ่อื สง่ เสรมิ ความสามารถในการอ่านภาษาองั กฤษและความตระหนักรู้
ด้านคณุ ธรรมส๊าหรบั นักเรยี นช้ันประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรยี นสกลวิทยา อา๊ เภอ
สามพราน จงั หวดั นครปฐม. Veridian E-Journal, Silpakorn University (Humanities,
Social Sciences and arts), 8(2), 788-803.

น้าผงึ้ มีนิล. (2545). ผลของการใชเ้ ทคนิคผังกราฟฟิกในการเรยี นการสอนวิชาโครงงาน
วิทยาศาสตรก์ บั นักเรยี นภาพชีวิตทีม่ ีต่อการใช้ระเบียบวิธีการทางวิทยาศาสตร์
และความสามารถในการทา๊ โครงงานวิทยาศาสตรข์ องนักเรยี นชัน้ มธั ยมศึกษา
ตอนต้น. วิทยานพิ นธ์ ค.ม. (การศึกษาวิทยาศาสตร)์ . กรงุ เทพฯ: บัณฑิตวิทยาลัย
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั . ถ่ายเอกสาร.

บปุ ผชาติ ทฬั หิกรณ. (2544). E-Learning: เพ่อื การเรยี นรูที่เนน้ นักเรยี นเป็นศนู ย์กลาง.
ไอที ปรทิ ัศน์. ปที่ 9 ฉบับที่ 5 (พฤษภาคม 2544)

บญุ สืบ พนั ธด์ ี. (2537). การพัฒนาบทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนวิชาชีววิทยาระดับ
มัธยมศึกษาตอนปลาย. วิทยานิพนธทศ.ม. สาขาเทคโนโลยีทางการศึกษา บัณฑิต
วิทยาลยั มหาวิทยาลยั ศรีนครนิ ทรวิโรฒประสานมติ ร.

ผดุง อารยวิญญู. (2527). ไมโครคอมพิวเตอร์เพือ่ การศึกษา. กรงุ เทพฯ : ซีเอ็ดยเู คชน่ั .
พรพิไร ทองหยอด. (2538). การทดลองใช้คอมพิวเตอรช์ ่วยสอนที่ใหผ้ ลยอ้ นกลับเปน็

ข้อความและเป็นรปู ภาพในการสอนภาษาอังกฤษเทคนิค. วิทยานิพนธ์ ค.ม.
กรงุ เทพฯ : สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ.
พรสวรรค์ สปี ้อ. (2550). สุดยอดวิธีสอนภาษาองั กฤษ. กรงุ เทพฯ : อกั ษรเจริญทัศน์.
พตั รสุดา ขาวผ่อง. (2561). การพัฒนาชุดกจิ กรรมไวยากรณภ์ าษาอังกฤษ โดยการเรยี นรู้
แบบก๊ากับตนเองของนกั เรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ ศ.ม.
มหาวิทยาลยั ธรุ กิจบัณฑิตย์.
ไพรินทร์ พึง่ พงษ์. (2556). การพัฒนาผลสมั ฤทธิท์ างการอา่ นและเขียนสะกดค๊าที่มีสระ
ประสมของนกั เรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้ยทุ ธวิธีพหุปัญญาแผนผัง
ความคิดและแบบฝึกเสริมทักษะ. มหาวิทยาลยั ศิลปากร, กรุงเทพฯ.
ไพศาล หวังพานิช. (2543). การวัดและประเมินผลระดับอดุ มศึกษา. กรงุ เทพมหานคร:
ทบวงมหาวิทยาลยั .
ยืน ภ่วู รวรรณ. (2537). อินเทอร์เนต็ ส๊าหรบั ผเู้ รม่ิ ต้น. กรงุ เทพฯ : ซีเอ็ดยเู คช่ัน

50

เยาวดี วิบูลย์ศรี. (2540). การวัดผลและการสรา้ งแบบสอบสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ :
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.

เยาวมาลย์ ไสยวรรณ. (2537). การพัฒนาชุดการเรยี นด้วยตนเองเพอ่ื การพฒั นาทักษะ
ทางคณิตศาสตร์ในระดับประถมศึกษาปีที่ 3. มหาวิทยาลยั ศรีนคินทรวิโรฒ,
กรุงเทพฯ.

รภิพร สุริยะรตั นพรหม,สรพล จิระสวัสดิ์ และสมโภชน์ พนาวาส. (2562). การใช้บทเรยี น
คอมพิวเตอร ช่วยสอนเพ่อื พัฒนาความสามารถด้านไวยากรณ์ภาษาอังกฤษของ
นักเรยี น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6. วารสาร วิชาการ บณั ฑิต วิทยาลยั สวนดสุ ิต, 15(1),
161-174.

ระวิวรรณ ศรีคร้ามครัน. (2552). เทคนิคการสอน. กรงุ เทพฯ : มหาวิทยาลยั รามคาแหง.
วชริ าภรณ์ เยี่ยมแสง, สมปอง ศรีกัลยา, & อเนก ศิลปนลิ มาลย์. (2556). การใช้ผงั ความคิด

และวิจยั ปฏิบัตกิ ารในการพฒั นาผลสัมฤทธิท์ างการอ่านเพอ่ื ความเข้าใจ
ภาษาองั กฤษ ของนกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรยี นขามแก่นนคร. วารสาร
มหาวิทยาลยั ราชภัฏมหาสารคาม (มนษุ ยศาสตร์ และ สงั คมศาสตร์) (Rajabhat Maha
Sarakham University Journal), 7(3), 237-250.
วรรณวิมล จงจรวยสกุล. (2559). ภาวการณม์ ีงานท๊าของผสู้ ๊าเร็จการศึกษาจากวทิ ยาลยั
ราชพฤกษป์ ีการศกึ ษา 2555-2556. Journal of Humanities and Social Sciences,
Rajapruk University, 2(3), 51-60.
วสนั ต์ อติศพั ท์. (2530). คอมพิวเตอรช์ ่วยสอน. ศึกษาศาสตร์, 3(8), 17-27.
วิมลรตั น์ สุนทรโรจน์. (2544). เอกสารประกอบการสอนวิชา การพฒั นาการเรยี นการ
สอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
วิมลรัตน์ สนุ ทรโรจน์. (2545). เอกสารประกอบวิชา 05067030 พฒั นาการเรยี นการ
สอน. มหาสารคาม: มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สมนึก ภัททิยธนี. (2560). การพัฒนาตัวชีว้ ดั และแนวทางส่งเสรมิ การพัฒนาตนใหร้ อบรู้
ของนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 สังกดั สา๊ นกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาสรุ นิ ทร์
เขต 3. Journal of Educational Measurement Mahasarakham University, 23(1), 3-
10.
สมบรู ณ์ ตนั ยะ. (2545). การประเมินทางการศึกษา. กรุงเทพฯ: สวุ ีริยสาล์น.

51

สมหมาย เปียถนอม. (2551) ความพงึ พอใจของนักศึกษาในการไดร้ ับการบริการจาก
มหาวทิ ยาลัย ราชภฏั นครปฐม. นครปฐม : มหาวิทยาลยั ราชภัฏนครปฐม.

สมศกั ดิ์ สนิ ธุระเวชญ์. 2542. มงุ่ สู่นกั เรยี นภาพอยา่ งมืออาชีพ. กรงุ เทพฯ: วฒั นาพานิช.
สนั ทนา สุธาดารตั น์. (2531). ภาษาสาสตรส์ ๊าหรับครู (พมิ พค์ รั้งที่ 1). กรุงเทพฯ:

มหาวิทยาลยั รามคาแหง
สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา. (2560). แผนการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2560-2579.

กรงุ เทพฯ: พริกหวานกราฟฟิค.
สาลี รักสทุ ธี. (2544). เทคนิควิธีการจดั การเรยี นการสอนและเขียนแผนการสอน โดยยึด

นกั เรยี นเป็นส๊าคัญ. กรงุ เทพฯ : พัฒนาศึกษา.
สกุ รี รอดโพธิท์ อง. (2541). เอกสารประกอบการอบรมบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ่วยสอน.

กรงุ เทพฯ:
ศูนยเทคโนโลยีการศึกษาคณะครศุ าสตรจุฬาลงกรณมหาวิทยาลยั .
สชุ ญา พุ่มสวย. (2559). การพัฒนาบทเรยี นคอมพิวเตอร์ชว่ ยสอนค๊าศพั ทภ์ าษาอังกฤษ

ส๊าหรับนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นชลบุรี "สขุ บท". Silpakorn
University Journal, 9(3), 1040-1041.
สุไร พงษ์ทองเจริญ. (2526). วิธีสอนภาษาองั กฤษส๊าหรบั ผเู้ รม่ิ เรยี น. กรงุ เทพฯ : ประมวล
ศิลป์.
อภิรดี จีนครา้ ม และคณะ (2559). การใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอรช์ ว่ ยเรยี นภาษาอังกฤษ
เพ่อื พัฒนาทกั ษะด้านการฟัง-พดู ในการเตรยี มความพร้อมเข้าส่ปู ระชาคม
อาเซียนของนักเรยี นระดบั ประถมศึกษาโรงเรยี นชุมชน บ้านแม่ปุ ตา๊ บลแม่ปุ
อา๊ เภอแม่พริก จังหวดั ลา๊ ปาง. Lampang Rajabhat University Journal, 5(1), 83-97.
อรพันธุ ประสิทธิรตั น. (2530). คอมพิวเตอร์เพ่อื การเรยี นการสอน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ
: คราฟแมนเพรส.
อาภรณ์ ใจเที่ยง. (2546). หลักการสอน. กรุงเทพฯ: โอเดยี นสโตร์.
อาภาภรณ์ ใจเทีย่ ง. (2540) หลกั การสอน. พิมพ์คร้ังที่ 2. กรุงเทพฯ : โอเดยี นสโตร์.
เอกรินทร์ ส่มี หาศาล. (2545). กระบวนการจัดทา๊ หลักสตู รสถานศึกษา แนวคิดสปู่ ฏิบตั .ิ
กรงุ เทพฯ: บุ๊คพอยท์.
Alessi, Stephen M., & Trollip, Stanley R. (1985). Computer-Based Instruction.
Englewood, New Jersey : Prentice-Hall.

52

Atkinson, R.C. and Shiffrin, R.M. (1997). The Psychology of Learning and motivator:
Advances in Research and Theory. New York: Academic.

Celce-Murcia, M., & Hilles, S. (1988). Techniques and Resources in Grammar
Teaching.

Dickins, P. M. R., & Woods, E. G. (1988). Some criteria for the development of
communicative grammar tasks. Tesol quarterly, 22(4), 623-646.

Ellis, R. (1997). SLA research and language teaching. Oxford University Press, 198
Madison Avenue, New York, NY 10016-4314.

Flood, J., & Lapp, D. (1988). Conceptual mapping strategies for understanding
information texts. The Reading Teacher, 41, 780-783.

Folse, K. S. (2004). The underestimated importance of vocabulary in the foreign
language classroom. CLEAR news,8(2), 1-6.

Good, Carter V. (1973). Dictionary of Education. New York: McGraw-Hill Book.
Gronlund, N. E. (1993). How to make achievement tests and assessments. Allyn &

Bacon.
Lado, R. (1996). Language Leaning Teaching and Learning English. New York :

McGraw - Hill.
Marshall, G. (1997). Repositioning class: Social inequality in industrial societies.

Sage.
Otto, F. (2015). Computer-assisted instruction (CAI) in language teaching and

learning. Annual review of applied linguistics, 1, 58-69.
Prenis, John. (1977). Running Press Glossary of Computer Terms. Dissertation

Abstracts International 49, 4 : 780-A.
Splittgerber, Fred L. (1979). Computer-Based Instruction : A Revolution in the

Making. Educational Technology 19, 1 : 20-26.
Wallace, C. (2007). Vocabulary: The key to teaching English language learners to

read. Reading Improvement, 44(4), 189-194.

ภาคผนวก

ภาคผนวก ก รายนามผู้เชีย่ วชาญ

1. ดร.จีรัชญพ์ ัฒน์ ใจเมือง ผู้อานวยการสถานศึกษา
2. นางสาวแสงเดอื น สาคร โรงเรียนบ้านตาพระแล จังหวดั พะเยา
3. นางสาวพทั ยา พิทกั ษ์โพธิท์ อง ครูประจาวิชาภาษาอังกฤษ
โรงเรียนบ้านตาพระแล จงั หวัดพะเยา
หวั หน้ากลุ่มบริหารวิชาการ
โรงเรียนบ้านตาพระแล จงั หวัดพะเยา

ภาคผนวก ข แผนการจดั การเรยี นรู้

56

ภาคผนวก ค ตวั อย่างบทเรยี นคอมพิวเตอรช์ ว่ ยสอนคา๊ ศพั ทภ์ าษาองั กฤษ

58

59

60

61

62

63

64

65

66

67

68

69

70

71

72

73

74

ภาคผนวก ง ผลการตรวจสอบคณุ ภาพเครือ่ งมือในการวิจัย

ตาราง 3 ค่าความสอดคลอ้ งของเคร่อื งมือวิจยั

ข้อที่ ผลคะแนนจากผู้เช่ยี วชาญ รวม ค่า IOC สรปุ ผล
R1 R2 R3
3 1 ใช้ได้
แผนการเรียนรู้ 3 1 ใช้ได้
3 1 ใช้ได้
1 1 11 3 1 ใช้ได้
3 1 ใช้ได้
2 1 11 3 1 ใช้ได้
3 1 ใช้ได้
3 1 11 3 1 ใช้ได้

4 1 11 3 1 ใช้ได้
3 1 ใช้ได้
5 1 11 3 1 ใช้ได้
3 1 ใช้ได้
6 1 11 3 1 ใช้ได้

7 1 11 3 1 ใช้ได้
3 1 ใช้ได้
8 1 11 3 1 ใช้ได้
3 1 ใช้ได้
สอ่ื คอมพิวเตอร์ช่วยสอน 3 1 ใช้ได้
3 1 ใช้ได้
1 1 11 3 1 ใช้ได้

2 1 11

3 1 11

4 1 11

5 1 11

แบบทดสอบก่อนและหลังเรียน

1 1 11

2 1 11

3 1 11

4 1 11

5 1 11

6 1 11

7 1 11

76

ข้อที่ ผลคะแนนจากผู้เชย่ี วชาญ รวม ค่า IOC สรุปผล
R1 R2 R3
3 1 ใช้ได้
8 1 11 3 1 ใช้ได้
9 1 11 3 1 ใช้ได้
10 1 1 1 3 1 ใช้ได้
11 1 1 1 3 1 ใช้ได้
12 1 1 1 3 1 ใช้ได้
13 1 1 1 3 1 ใช้ได้
14 1 1 1 3 1 ใช้ได้
15 1 1 1 3 1 ใช้ได้
16 1 1 1 3 1 ใช้ได้
17 1 1 1 3 1 ใช้ได้
18 1 1 1 3 1 ใช้ได้
19 1 1 1 3 1 ใช้ได้
20 1 1 1
แบบสอบถามความพึงพอใจ 3 1 ใช้ได้
1 1 11 3 1 ใช้ได้
2 1 11 3 1 ใช้ได้
3 1 11 3 1 ใช้ได้
4 1 11 3 1 ใช้ได้
5 1 11 3 1 ใช้ได้
6 1 11 3 1 ใช้ได้
7 1 11 3 1 ใช้ได้
8 1 11 3 1 ใช้ได้
9 1 11 3 1 ใช้ได้
10 1 1 1 3 1 ใช้ได้
11 1 1 1 3 1 ใช้ได้
12 1 1 1

77

หมายเหตุ +1 หมายถึง ข้อคาถามมคี วามสอดคลอ้ งตรงกับวัตถปุ ระสงค์การเรียน
เกณฑ์ 0 หมายถึง ไมแ่ นใ่ จข้อคาถามนนั้ สอดคลอ้ งกบั วตั ถปุ ระสงค์
-1 หมายถึง ข้อคาถามน้ันไมม่ ีมีความสอดคลอ้ งตรงกบั วตั ถปุ ระสงค์

การเรียน

1. ข้อคาถามที่มคี า่ IOC ตั้งแต่ 0.50-1.00 มคี ่าความเทีย่ งตรง ใช้ได้
2. ข้อคาถามที่มีค่า IOC ต่ากว่า 0.50 ต้องปรบั ปรุง ยังใช้ไม่ได้

ภาคผนวก จ ผลการวิเคราะห์ขอ้ มูล
ตาราง 4 ผลการทดสอบวดั ผลสัมฤทธิท์ างการเรียนรู้กอ่ นและหลงั เรียน

คนที่ ผลการทดสอบวัดผลสมั ฤทธิท์ างการ ผลการทดสอบวัดผลสมั ฤทธิ์
เรยี นรกู้ อ่ นเรยี น ทางการเรยี นรหู้ ลงั เรยี น
20
15 15
2 10 4
37 17
4 12 17
55 19
66 17
75 14
87

79

ตาราง 5 ผลการวิเคราะห์ขอ้ มลู ทางสถิติ

Paired Samples Test

Paired Differences

95% Confidence
Interval of the

Difference

Std. Std. Error Lower Upper t Sig. (2-
Mean Deviation Mean -13.201 df tailed)

Pair Pretest - - 5.922 2.094 -3.299 - 7 .006
1 Posttest 8.250 3.940

ภาคผนวก ฉ บันทึกข้อความขออนุญาตจัดทา๊ วิจยั

ภาคผนวก ช บนั ทึกข้อความขอความอนเุ คราะหป์ ระเมินคา่ ดัชนคี วามสอดคลอ้ ง

82

83

ประวตั ิผ้วู ิจยั

ชือ่ นามสกลุ ประวัติผวู้ ิจัย
วนั เดือน ปี เกดิ
ทีอ่ ยูป่ จั จบุ นั กชพร เนตรทอง
ประวตั ิการศึกษา 17 กรกฎาคม 2538
33/1 หมู่ 4 ตาบลบา้ นใหม่ อาเภอเมือง จังหวดั พะเยา
พ.ศ.2557
ศิลปศาสตรบัณฑิต ศศ.บ. (ภาษาองั กฤษ)
พ.ศ.2557 มหาวิทยาลยั พะเยา
การศึกษาบณั ฑิต กศ.บ (ภาษาอังกฤษ)
ประวัติการท๊างาน มหาวิทยาลัยพะเยา
2562 – ปจั จบุ นั
ครผู ู้ช่วย โรงเรียนบ้านตาพระแล


Click to View FlipBook Version