เมฆเป็นชื่อของ
ผู้ชายหรือผู้หญิง
- ซาโบเตน -
คำนำ
เรื่องนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาวิชาภาษาไทยเกี่ยวกับการคิด เขียน
วิเคราะห์ โดยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านพี่น้องตระกูลแซ่หลี้ที่แสดง
แนวคิดของตนเองในเรื่องความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เพื่อสื่อ
ให้ผู้อ่านได้ให้ความสำคัญของทั้งสองเพศนั้นได้อย่างเท่าเทียม และผู้
แต่งหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เรื่องสั้นเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ให้กับผู้อ่าน
จึงขอขอบคุณไว้ ณ ที่นี้
จัดทำโดย
นางสาวรุจลดา สาระแสน เลขที่14 ชั้นม.6/1
19 ธันวาคม 2564
21:56 นาฬิกา
ถึงผู้อ่านสุดที่รัก
เด็กนักเรียนชายวัยมัธยมปลายอย่าง ‘เมฆ’ ส่วนสูงแตะร้อยเจ็ดสิบสี่ตาม
มาตรฐานชายไทย น้ำหนักหกสิบเป๊ะตามเกณฑ์ ไม่ผอมและไม่อ้วนจนเกินไป
ผมสีน้ำตาลอมแดงคล้ายสีน้ำอัดลมยี่ห้อดังไว้ทรงผมตามกฎระเบียบของ
โรงเรียนนั่นก็คือทรงรองทรงสูงยอดฮิตของเด็กมัธยมปลาย ลักษณะหน้าตาที่
เป็นรูปไข่ถอดแบบมาจากมารดาผู้ให้กำเนิดรับเข้ากับตาชั้นเดียวที่ส่งต่อมาจาก
บิดาผู้มีเชื้อสายจีนติดมาแต่กลับพูดจีนไม่ได้แม้แต่คำเดียว
เมฆใช้ชีวิตอย่างเด็กผู้ชายธรรมดาทั่วไป เรียน กลับบ้าน และมีนัดเที่ยวกับ
กลุ่มเพื่อนบ้างเป็นบางครามันเรียบง่ายและธรรมดามาตลอด จนกระทั่งเขาได้
เดินทางสู่รั้วมหาลัยที่ขึ้นชื่อในเรื่องระบบพี่และน้องกลุ่มเพื่อนที่เคยสนิทกันก็ต้อง
แยกกันไปเรียนในสิ่งที่ตัวเองอยากเรียน โชคดีที่ทุกคนได้เรียนในสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝัน
ไม่มีการบังคับเรียนใดๆทั้งสิ้น
คณะหรือสาขาที่ได้หลวมตัวเข้ามาเรียนแล้วอย่างสาขาภาพยนตร์ เหตุผลที่
เลือกเรียนสาขาข้างต้นของเพื่อนร่วมสาขาแต่ละคนต่างออกมาดูดีและน่าสนใจ
จนทำให้เด็กผู้ชายสูงร้อยเจ็ดสิบกว่าอย่างเมฆต้องพยายามบีบตัวให้เล็กที่สุดเท่า
ที่จะรอดสายตาของอาจารย์สวมแว่นไว้หนวดมีอายุตรงหน้า
“นายมธุรากูล ทำไมถึงเข้ามาเรียนสาขานี้”
มธุรากูลหรือก็คือเมฆนั่นเอง เขาภูมิใจในชื่อนี้มากดีใจที่อากงเป็นคนตั้ง ถ้าป๊า
ตั้งนี่ไม่น่ารอดจากชื่อเมฆาชื่อซ้ำจำหน้าไม่ได้แน่ๆ คิดเพลินถึงที่มาของชื่อตัวเอง
ไม่ทันไรก็ต้องมาให้ความสนใจของผู้ที่เอ่ยคำถามมาก่อนหน้า จะให้เขาตอบไปได้
อย่างไรว่าชอบดาราไทยคนหนึ่งที่มีชื่อเสียงเป็นอย่างมากเลยอยากที่จะมีโอกาส
พบเจอ คิดแล้วก็ได้แต่ลูบหน้าตนเอง จนอาจารย์เริ่มคิ้วขมวดเพ่งสายตามองมา
ที่เขา
“เอ่อ.. คือผมเคยเห็นเบื้องหลังการออกกอง ละ..แล้วเห็นว่ามันน่าสนใจ เลย
อยากจะเข้ามามีส่วนร่วมตรงนั้นครับ!”
โฮกกก ได้แต่ร้องในใจเพราะคำตอบที่ตอบไปน่ะ ลอกเพื่อนมาเป็นแผ่น ป่านนี้
เจ้าของคำตอบมองนายมธุรากูลคนนี้ตาเขียวปั๊ดแล้วมั้ง
ร่างสูงโปร่งเดินทอดขาออกนอกชั้นเรียนเมื่อคาบนี้ได้หมดเวลาลง เมฆเดินตัว
ลีบหลบฝูงซอมบี้นักศึกษาที่ต่างเหนื่อยกับการนั่งเรียนมาทั้งวันไปยังสถานที่รับ
น้องภารกิจสุดท้ายก่อนที่จะได้กลับหอไปนอนสักที
“เมฆ!!”
เอาจริงๆถึงจะพ้นเพื่อนๆสุดกวนไป ผมก็ไม่พ้นพี่ชายที่คลานตามกันมาคนนี้ไป
ได้เลย ร่างสูงชะลูดของพี่ชายแท้ๆยืนโบกมือหยอยๆหน้ารถเก๋งคันเก่งของพี่มัน
ที่รักนักรักหนา พลาสติกที่แถมมากับตัวรถมันก็ยังไม่แกะออก
“อะไรเล่า จะเรียกทำไมดังๆเนี่ยเฮียหวิน”
“อย่าเรียกชื่อนี้ดิตี๋ เฮียอายคนอื่นเขา”
เฮียหวินหรือหวินพี่ชายแท้ๆของผม ที่มาของชื่อก็ไม่มีไรเลย เมฆในภาษาจีน
แต่ป๊าพูดจีนไม่ได้สักคำเฮียสุดที่รักก็ต้องรับพรจากป๊าสุดหล่อไปนะ ไม่รู้ทำไม
ต้องทำหน้าเหม็นเบื่อก็ไม่รู้ เรียกชื่อนี้ทีไรจากหน้าหล่อๆกลายเป็นหน้าหมาทันที
เลย ป๊าออกจะอัจฉริยะด้านการตั้งชื่อ
สองขาของเด็กที่เพึ่งขึ้นปีหนึ่งป้ายแดงก้าวไปหาพี่ชายหน้าคล้ายบิดาก่อนจะ
ชกเบาๆไปที่หน้าอกอย่างหยอกเย้าและเดินขึ้นรถเก๋งคันสีขาวไปอย่างอารมณ์
เสีย เขาล่ะหมั่นไส้ส่วนสูงของพี่คนนี้จริงๆ รู้งี้ไม่น่าแอบแบ่งนมไปให้เลยจริงๆ
“ตี๋ ดูดิเนี่ย รับน้องทีไรตีกันทุกที”
คนบนเตียงสีน้ำเงินเข้มขนาดกลางพอนอนได้สองคนที่อาจจะไม่เบียดกันถ้าเฮีย
มันไม่ได้ตัวใหญ่ขนาดนี้กับท่านอนหงายเอนตัวพิงหัวเตียงที่แสนจะสบายแต่หน้า
ไม่ได้สบายสักนิด หน้าเป็นหมาอีกละ เอ่ยปากเรียกน้องชายเพียงคนเดียว
ภายในห้องให้มาสนใจข้อความในอุปกรณ์เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เรียกกันว่าไอแพด
ก่อนจะเบี่ยงหน้าจอให้เห็นถึงข้อความกลุ่มที่ตอบโต้กันอย่างดุเดือด
“เขาทะเลาะอะไรกันอะเฮีย”
“หัวหน้าฝ่ายระเบียบอะตี๋ วันนี้มันแกล้งน้องปีหนึ่งแรงไป”
“สาขาเฮียหรอ”
“ใช่ เพื่อนเฮียที่เป็นผู้หญิงมันเลยค้านจะเป็นแทน”
“แปลว่าที่ทะเลาะกันฝ่ายนั้นไม่ยอมแน่เลย”
เมฆเลิกชะเง้อมองหน้าจอไอแพดที่แสนจะแสบตาก่อนจะขยับนั่งท่าขัดสมาธิ
ยอดฮิตเงยหน้าขึ้นพูดคุยกับคนหน้าเหมือนหมาตรงหน้า
“อือ.. มันมีคนเถียงกันไงว่าหน้าที่ตรงนี้ควรจะเป็นผู้ชาย”
“บ้าบอ ฝ่ายระเบียบก็แค่ต้องคอยตรวจระเบียบต่างๆ ไม่เห็นจำเป็นต้องใช้แรง
เลย”
“เฮียก็ว่างั้น เพื่อนเฮียมันก็เก่งแค่มันเป็นผู้หญิงทำไมต้องสองมาตรฐานก็ไม่รู้”
คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของคนตัวใหญ่(เพราะเขาแบ่งนม
ให้)ก่อนจะฉุกคิดถึงความเหลื่อมล้ำที่ตั้งแต่เมฆจำความได้เขาก็พบเจอได้หลาก
หลายเหตุการณ์
“เฮียว่าถ้าสมมติ ประเทศเราไม่มีความเหลื่อมล้ำ ผู้ชายจะยังลุกให้ผู้หญิงนั่งอยู่
มั้ยอะเฮีย”
“อันนั้นเฮียมองว่าเป็นการให้เกียรติอะ คือถ้าตี๋จะไม่ทำก็ได้ แต่เฮียทำนะ เขาเป็น
เพศที่ไม่ได้ถึกเท่าเราอะ”
“ได้ไงตี๋ก็จะทำ”
สองพี่น้องเสี้ยวจีนที่ส่วนสูงห่างกันหลายเซนติเมตรจนแทบจะดูเหมือนว่าเป็น
พ่อลูกที่แสนจะสนิทสนมต่างแลกเปลี่ยนความคิดกันอย่างเพลิดเพลินจนเข็ม
นาฬิกาที่สั้นที่สุดชี้เลขสิบเอ็ด บ่งบอกว่าอีกไม่กี่นาทีก็จะเปลี่ยนเป็นวันใหม่ ฝั่งคน
พี่ที่รู้สึกตัวก่อนเมื่อเวลาล่วงเลยมาอย่างยาวนาน
“ไปอาบน้ำนอนได้แล้วตี๋”
“เลดี้เฟิสเลยเฮีย”
“เดี๋ยวจะตีให้ พี่เป็นพี่เว้ยไปก่อนเลย!”
“ค้าบๆ แหย่เล่นเองหน่า”
ด้วยรักและหมั่นไส้ความสูงของเฮีย
มธุรากลูล แซ่หลี้
ป.ล. พอเฮียให้เขาไปอาบน้ำก่อน แล้วพออาบช้าก็มาบ่นดูดิคนเรา ให้อาบก่อนก็
ไม่ไป บอกเป็นพี่ ให้น้องก่อนๆ
ข้อคิดที่ได้
ความเสมอภาคควรเกิดกับทุกเพศทุกวัย
ไม่ได้มีเพียงเพศชายที่ควรเป็นผู้นำ และไม่
ได้มีเพียงเพศหญิงที่ใส่กระโปรงได้
ขอบคุณค่ะ