The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

Unit 3 Basic functions in business management

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รจนา มูลมะณี, 2019-06-05 02:54:52

Unit 3 Basic functions in business management

Unit 3 Basic functions in business management

๒๕๖๒

หน่วยท่ี 3
หน้าท่พี นื้ ฐานในการจัดการธุรกจิ เกษตร

ครูรจนา มูลมะณี
วทิ ยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีเชียงใหม่
04/06/62

24

หนา้ ทพี่ ้ืนฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

หน่วยท่ี 3
เรื่อง หน้าทีพ่ นื้ ฐานในการจดั การธุรกจิ เกษตร
1) องค์ประกอบในการประกอบธุรกจิ เกษตร
1.1 นักธุรกจิ เกษตร
ผปู้ ระกอบธุรกิจหรือนกั ธุรกิจ (Businessman) คือ บคุ คลผจู้ ดั ต้งั ธุรกิจและทาการบริหารจดั การ
ธุรกิจใหเ้ กิดความสาเร็จตามเป้ าหมายท่ีต้งั ไว้ ซ่ึงผปู้ ระกอบธุรกิจจะตอ้ งตดิ ต่อกบั บุคคลอ่ืนตลอดเวลาไม่วา่
จะเป็นลูกคา้ พนกั งานในองคก์ ารหรือหน่วยงานตา่ งๆ ท้งั ภาครัฐและเอกชนเพอ่ื ผลประโยชน์ต่อธุรกิจตน
ดงั น้นั ผปู้ ระกอบธุรกิจจึงตอ้ งมีคุณสมบตั ดิ งั น้ี
1. มีความเชื่อมนั่ ในตนเอง คอื มีความรูส้ ึกวา่ สามารถทาทุกอยา่ งท่ีตอ้ งการหรือทีอ่ ยากทาไดแ้ ละเมือ่
ทาแลว้ ประสบความสาเร็จก็จะรู้มีความเช่ือมน่ั ในตนเองมากข้ึน ซ่ึงการมคี วามเชื่อมนั่ ในตนเองน้ี ทาให้
นกั ธุรกิจสามารถทางานทุกอยา่ งดว้ ยความมน่ั ใจ อยากทาและมีความต้งั ใจในการทา ซ่ึงจะส่งผลใหเ้ กิดผล
งานออกมาดีตามทีต่ อ้ งการได้
2. มีความซ่ือสตั ยต์ อ่ ลูกคา้ ท้งั ดา้ นคาพดู และการกระทา สรา้ งสรรคผ์ ลงานที่ดีมีคุณภาพใหล้ ูกคา้ ได้
บริโภคแต่สิ่งทดี่ ีและมีความปลอดภยั ตอ่ ชีวติ
3. มีความกตญั ํูตอ่ ลูกคา้ และผมู้ ีบุญคุณอ่นื ๆ โดยการมอบแตส่ ิ่งดี ๆ ใหแ้ ก่ลูกคา้ และพฒั นาคุณภาพ
ของผลิตภณั ฑใ์ หด้ ีอยา่ งตอ่ เนื่อง
4. มีความยตุ ธิ รรมในการบริหารงานและตดั สินปัญหาต่าง ๆ ดว้ ยความยตุ ิธรรมในการใหโ้ อกาสแก่
ทุก ๆ ฝ่ายเท่าเทียมกนั
5. มีประสบการณ์ดา้ นธุรกิจ การมีประสบการณ์จะทาใหม้ ีขอ้ มลู ในการนามาวางแผนและบริหารงาน
ใหม้ ีประสิทธิภาพไดเ้ ป็นอยา่ งดี เพราะรูว้ า่ สิ่งใดควรปฏบิ ตั ิและส่ิงใดควรละเวน้ จึงจะทาใหก้ ารดาเนินธุรกิจ
บรรลุตามวตั ถุประสงคท์ ตี่ ้งั ไว้
6. มีความมนั่ ใจในตนเอง สามารถตดั สินใจไดท้ นั เวลา ทนั กบั เหตกุ ารณ์ต่าง ๆ และสามารถแกป้ ัญหา
ตา่ ง ๆ ไดด้ ี ยอ่ มทาใหไ้ ม่เสียโอกาสทองในการดาเนินธุรกิจ
7. มีความคิดริเริ่มสรา้ งสรรค์ ท้งั ดา้ นการบริหารและการจดั การทาใหธ้ ุรกิจมีวธิ ีการใหม่ ๆ หรือ
ผลงานใหม่ ๆ ที่มีคุณภาพดีข้ึนหรือมีประสิทธิผลมากข้นึ
8. มีความรอบรูเ้ กี่ยวกบั สภาพของตลาด เพราะเป็ นแหล่งขอ้ มูลสาคญั ในการนามาตดั สินใจใน

25

หนา้ ที่พ้นื ฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

กระบวนการผลิตและการจดั จาหน่าย เพอ่ื ธุรกิจจะไดป้ ฏบิ ตั ิหรือดาเนินธุรกิจใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาวะตลาด
และสงั คม

9. มีจรรยาบรรณในวิชาชีพ มีคุณธรรม จริยธรรม และมีความรับผดิ ชอบตอ่ องคก์ ารและสงั คม
รวมถึงปฏิบตั ติ อ่ บคุ คลและหน่วยงานที่เก่ียวขอ้ งดว้ ยการมีจรรยาบรรณท่ดี ี

นอกจากคุณสมบตั ิดงั กล่าวแลว้ ผปู้ ระกอบธุรกิจยงั ตอ้ งพฒั นาคุณสมบตั ิดงั ตอ่ ไปน้ีจึงจะส่งผลให้
ประสบผลสาเร็จในการทางานไดเ้ ป็นอยา่ งดี ไดแ้ ก่

1. มีความอดทนและขยนั หมน่ั เพยี รในการทางาน
2. มีความละเอียด รอบคอบในการทางาน
3. มีหลกั การและเหตผุ ลทีด่ ีในการตดั สินใจ
4. มีความตื่นตวั และตดิ ตามความเคล่อื นไหวในทกุ ๆ ดา้ นของสงั คม
5. มีจติ สานึกดี มีคุณธรรม
6. มีสุขภาพดี ร่างกายแขง็ แรง สดช่ืนแจม่ ใสในการปฏิบตั งิ าน
7. มีความฉลาดและรอบรู้ในทกุ ๆ ดา้ น ตอ้ งศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ เพอื่ นามาพฒั นาตนเองและ
ธุรกิจอยเู่ สมอ

26

หนา้ ทีพ่ ้นื ฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

1.2 ปัจจยั ในการดาเนินธุรกิจ

4M in Production Process ปัจจัยในกระบวนการผลติ 4 ด้าน

4M in Production Process ปัจจยั ในกระบวนการผลติ 4 ด้าน ในการผลิตจะมี ข้นั ตอนควบคุมการ
ผลิตเป็นส่ิงสาคญั เพอื่ ทีจ่ ะสร้างความเช่ือมน่ั ในผลผลิตท่ีไดใ้ ห้เกิดกบั ลูกคา้ ดงั น้นั ในกระบวนการผลิตจะ
เนน้ เรื่องของความสามารถในการควบคุมการผลิต โดยมีเป้ าหมายที่จะควบคุมใหก้ ารผลิตมีคุณภาพที่ดี มี
ความสม่าเสมอ สามารถผลิตสินคา้ ได้ตรงตามเป้ าหมาย ในการจดั การกบั ปัจจยั หรือตวั แปรในการผลิต
โดยทว่ั ไปแลว้ มกั จะใหค้ วามสาคญั กบั การควบคุมปัจจยั หลกั ท่ีสาคญั 4 กลุ่มไดแ้ ก่ Man, Method, Material
และ Machine หรือท่ีมกั นิยมเรียกว่า 4M เพราะปัจจยั เหล่าน้ีมีความสาคญั จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของ
การผลิตได้ รายละเอียดปัจจยั ในแต่ละกลุ่ม

1. ทรัพยากรมนุษย์ (Man) คอื คนงาน พนกั งาน หรือบุคลากรท้งั จากภายในและภายนอก ซ่ึงถือวา่
เป็นปัจจยั หลกั ท่ีสาคญั ท่ีสุด เพราะการผลิตหรือดาเนินการใดๆ จะตอ้ งเกิดข้ึนไดต้ อ้ งอาศยั คน ท้งั ในดาน
ความคดิ การวางแผน การดาเนินการ หรือจดั การทาใหเ้ กิดการผลิตหรือกิจกรรมทางธุรกิจทุกรูปแบบ การ
พฒั นาคนจึงเป็ นสิ่งสาคญั ทสี่ ุดเพอื่ ใหป้ ระสบความสาเร็จในการดาเนินธุรกิจการบริหารกาลงั คน ตอ้ งมีการ
พฒั นาคนดา้ นความรู้ ทกั ษะ และวางแผนการใชค้ นใหเ้ กิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลกบั งานใหม้ าก
ทีส่ ุด

27

หนา้ ที่พ้นื ฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

2. วิธีปฏบิ ตั ิงาน (Method) คอื วธิ ีการ ข้นั ตอน หรือขบวนการในการทางานหรือ กรรมวิธีการผลิต
ซ่ึงปัจจุบนั น้ีเป็นปัจจยั ทค่ี วรใหค้ วามสาคญั เป็นอนั ดบั ตอ่ มา เพราะความสาเร็จของการดาเนินกจิ กรรมน้นั
จะตอ้ งมาจากการปฏิบตั ิงานและข้นั ตอนของการผลิตหรือการดาเนินธุรกิจทีด่ ีตอ้ งมีการจดั การ การวางแผน
การติดตาม การตรวจสอบ และการควบคุมการผลิตหรือการดาเนินกิจกรรม โดยกาหนดใหม้ ีข้นั ตอนใน
การปฏบิ ตั ิงานที่ดีมีประสิทธิภาพ การบริหารวธิ ีปฏบิ ตั ิงาน ตอ้ งมีการพฒั นาข้นั ตอนการทางาน นาเอา
ความรู้เทคโนโลยใี หม่ และวางแผนขบวนการทางานใหด้ ี มีข้นั ตอนทไ่ี ม่ยงุ่ ยาก ประหยดั เวลาสามารถ
ตดิ ตามตรวจสอบไดง้ า่ ย และกระบวนการจดั การบริหารควบคุมเพอ่ื ใหง้ านท้งั หมดเป็ นไปอยา่ งมี
ประสิทธิภาพและเกิดผลดีตอ่ ธุรกิจมากทส่ี ุด

3. วสั ดุ (Material) คอื วสั ดุส่ิงของ วตั ถุดิบ ช้ินส่วนอะไหล่ ผลิตภณั ฑ์ บริการหรืออุปกรณ์อ่ืนๆ ซ่ึง
มีส่วนนามาใชใ้ นการผลิตสินคา้ เป็ นสิ่งที่สาคญั อนั ดบั ต่อมา เพราะทุกธุรกิจตอ้ งอาศยั ส่ิงท่ีไดใ้ นกลุ่มน้ี
มาใชใ้ นการผลิต ดงั น้ันตอ้ งรู้จกั บริหารจดั การวตั ถุดิบ ให้มีประสิทธิภาพสามารถมีเพียงพอในการผลิต
บริหารจดั การให้ได้ตน้ ทุนท่ีต่าในการผลิต และทาให้ธุรกิจได้ผลกาไรสูงสุด การบริหารวสั ดุ ในการ
ดาเนินงานว่าทาอยา่ งไรใหส้ ้ินเปลืองทรัพยากรในการผลิตให้น้อยที่สุด หรือการใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์คุม้
คา่ สูงสุด

4. เครื่องจักร (Machine) คอื เคร่ืองจกั ร เคร่ืองมือ เคร่ืองใชห้ รืออุปกรณ์อานวยความสะดวกในการ
ผลิต ในส่วนน้ีแมจ้ ะเป็นส่วนสุดทา้ ยของปัจจยั เนื่องจากหากพจิ ารณาในเร่ืองการผลิต จะสามารถทาไดแ้ ม้
จะมีเพยี งปัจจยั ใน 3 ส่วนแรก แต่การผลิตกอ็ าจจะยงั มีขอ้ จากดั ในเรื่องความสามารถ อาจไม่สามารถทาการ
ผลิตไดใ้ นปริมาณท่มี ากหากขาดเครื่องมือเครื่องจกั รมาช่วย เพราะปัจจยั ในกลุ่มน้ีจะเป็ นส่วนที่มาช่วยเติม
เตม็ ในส่วนทค่ี วามสามารถของมนุษยไ์ ม่สามารถทาไดเ้ ช่น ระยะเวลาทางานท่ีตอ่ เนื่อง ความถูกตอ้ งแม่นยา
ความเร็วในการผลิต ความสม่าเสมอท่ีเป็นมาตรฐาน หรือความทนทานในบางสถานการณ์ทีม่ นุษยท์ าไม่ได้
เช่น สภาพอากาศในท่อี ุณหภูมิสูงหรือต่า สภาพแวดลอ้ มอากาศท่มี กี ๊าซพษิ เป็ นตน้ ดงั น้นั จะเห็นวา่ หลาย
คร้งั ทีค่ วามสาเร็จในการผลิตจะตดั สินไดจ้ ากปัจจยั ในกลุ่มน้ี หรือกล่าวไดว้ า่ ใชป้ ัจจยั ในกลุ่มน้ีเป็ นตวั ทีใ่ ชช้ ้ี
ขาดความสาเร็จของงานไดเ้ ลย

การบริหารเครื่องจกั ร โดยใหม้ ีการใชเ้ คร่ืองจกั รใหเ้ กิดความคุม้ ค่า มีการควบคุมคุณภาพเครื่องจกั ร
การดูแลรกั ษา การปรบั ปรุงสภาพการทางานใหด้ ีอยเู่ สมอ เพอื่ ประสิทธิภาพและประสิทธิผลกบั งานใหม้ าก
ทส่ี ุด โดยเนน้ คุณภาพความเทีย่ งตรงสูง ใชเ้ วลานอ้ ย และมีคา่ ใชจ้ า่ ยนอ้ ยทส่ี ุด

จากทีก่ ล่าวมาจะเห็นไดว้ า่ ปัจจัยในกระบวนการผลติ (Factor in Production Process: 4M)

28

หนา้ ทพ่ี ้นื ฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

เร่ืองของคนถือเป็นปัจจยั ที่สาคญั ที่สุด ท่ีจะมีผลกบั การผลิต และปัจจยั ต่างๆ กจ็ ะมีความสาคญั มากนอ้ ย
ตามลาดบั ความเหมาะสมในแต่ละองคก์ ร ข้ึนอยกู่ บั ความตอ้ งการ ความสามารถ และการจดั การขององคก์ ร
เหล่าน้นั วา่ มีการบริหารจดั การที่ดีหรือไม่

จากการที่ปัจจยั 4M มีความสาคญั จะส่งผลกระทบต่อคุณภาพของการผลิตได้ ดงั น้ันบางคร้ัง
เราจะเห็นวา่ มีลูกคา้ บางราย มกั จะกาหนดใหผ้ ูผ้ ลิตตอ้ งมีการควบคุมการเปล่ียนแปลงในปัจจยั เหล่าน้ี โดย
เม่ือไหร่ทผ่ี ผู้ ลิตตอ้ งการเปล่ียนปัจจยั เหล่าน้ี จะตอ้ งทาการแจง้ ใหล้ ูกคา้ รับทราบและใหเ้ ขาอนุมตั ิก่อนจึงจะ
ดาเนินการผลิตได้
2. กระบวนการบริหารจดั การธุรกิจ

กระบวนการบริหาร มีความสาคญั ต่อการดาเนินงานของทุกกิจการ เพราะกระบวนการบริหาร

เป็นแนวทางทท่ี าใหง้ านบรรลุเป้ าหมาย หรือวตั ถุประสงค์

ทฤษฎีการบริหารจัดการ

ทฤษฎีกระบวนการบริหาร ของลูเธอร์ กูลิก และไลนอล อูริค( Luther Gulick & Lyanal Urwick)
ไดพ้ ฒั นาแนวคิดของ Taylor และ Fayol โดยเพิ่มหลกั การบริหารหรือกระบวนการบริหารที่ Fayol ใหไ้ ว้
อีกรวม 7 ประการ และได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายจนถึงปัจจุบนั เป็ นที่รู้จกั กันตามอักษรย่อว่า
“POSDCORB” (อ่านวา่ พอสดข์ อร์บ) กระบวนการบริหารจดั การ “POSDCORB” น้ีเป็นทย่ี อมรบั กนั อยา่ ง
กวา้ งขวางในการนาประยุกต์ใชใ้ นกระบวนการบริหารจดั การหน่วยงาน ประกอบไปด้วยหัวขอ้ ดังน้ี
POSDCOORB เป็นเทคนิคการบริหารงานบุคคล ประกอบดว้ ยวธิ ีการจดั การ 7 ข้นั ตอนดงั น้ี

1. การวางแผน (Planning : P) หมายถึง การจดั วางโครงการแผนการปฏบิ ตั ิงานและวธิ ีการ
ปฏิบตั ิงานไวล้ ่วงหนา้ วา่ จะตอ้ งทาอะไรบา้ งและทาอยา่ งไรเพือ่ ใหง้ านบรรลุเป้ าหมายที่วางไว้ เป็ นเทคนิค
กระบวนการบริหารที่สาคญั จาเป็ นตอ้ งทาเป็ นข้นั ตอนดว้ ยความประณีต ระมดั ระวงั มีความหมายสาคญั
ดงั น้ี

- การวางแผนเป็นการใชส้ ามญั สานึกอยา่ งมีเหตผุ ล
- การวางแผนเป็นการมองปัญหาทีม่ ีอยแู่ ละพยายามหาวธิ ีการแกไ้ ขปัญหาน้นั
- การวางแผนเป็นการหาทางเลือกทีด่ ีท่ีสุดในการปฏบิ ตั งิ านใดๆ ภายในเวลาท่ีกาหนด
- การวางแผนเป็นการจดั สรรทรัพยากรที่มีอยา่ งจากดั ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุด
- การวางแผนเป็นความพยายามตอ่ เนื่องในการปฏบิ ตั ิงานใหบ้ รรลุเป้ าหมาย
- การวางแผนเป็นการใชค้ วามรู้ความสามารถวนิ ิจฉยั เหตุการณ์ตา่ งๆ ในอนาคต
กจิ กรรมการวางแผน 6 กิจกรรม คอื

1. การกาหนดวตั ถุประสงค์
2. การกาหนดทางเลือก

29

หนา้ ท่พี ้นื ฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

3. การกาหนดวธิ ีการบริหารทรพั ยากร
4. การกาหนดวธิ ีการดาเนินงาน
5. การกาหนดวธิ ีการควบคุม

6. การกาหนดวธิ ีการประเมินผล

ข้นั ตอนในการวางแผน

1. ข้นั เตรียมการ เป็นการเตรียมขอ้ มูล บคุ ลากร ทรพั ยากร วตั ถุประสงค์ เป้ าหมายในการ

ดาเนินการ รวมท้งั สรุปผลการดาเนินงานทผี่ า่ นมา

2. ข้นั วเิ คราะหส์ รุป วเิ คราะห์ขอ้ มูล ขอ้ เทจ็ จริงต่างๆ

3. ข้นั ดาเนินการวางแผน กาหนดวา่ จะทาอะไร what อยา่ งไร how ใครทาบา้ ง who ที่ใหน where

และเม่ือใด when

4. ข้นั ประเมินผล เป็ นการสรุปผลการวางแผน เช่น บอกเวลาท่ีไดร้ ับท้งั ทางตรง และทางออ้ ม

ผลกระทบท่อี าจเกิดข้ึน สุดทา้ ยนาเสนอผมู้ ีอานาจอนุมตั ิ

2. การจัดองค์กร(Organizing : O)

หมายถึง การกาหนดโครงสรา้ งขององคก์ รหรือหน่วยงานการแบง่ ส่วนงาน การจดั สรรงาน

ตาแหน่งตา่ ง ๆ และกาหนดอานาจหนา้ ทีใ่ หช้ ดั เจน

องค์ประกอบในการจดั องค์กร

1. ภารกิจและวตั ถุประสงคข์ ององคก์ ร
2. ขอบข่าย ความรับผดิ ขอบของงานในองคก์ ร
3. สายการบงั คบั บญั ชา การเลื่อนไหลของสายงาน
4. จานวนบคุ ลากร หรือผรู้ บั ผดิ ชอบในแต่ละงาน แต่ละหนา้ ท่ี
5. การประเมินผลและการควบคุมงาน

ลกั ษณะองค์กรทม่ี คี วามสาคญั ในปัจจบุ ัน 2 ส่วน คอื

1. การจดั องคก์ รในภาคราชการ (Bureaucratic Section) ภาคราชการใหค้ วามสาคญั กบั

โครงสร้างการบริหาร การจดั ลาดบั ช้นั ของสายการบงั คบั บญั ชา ลาดบั ข้นั การตดั สินใจเป็นรูปเจดีย์ คือ
ผบู้ ริหารสูงสุดอยยู่ อดแหลมของเจดีย์ แลว้ มีผมู้ ีอานาจ ตามภารกิจ รองลงมาตามลาดบั จนถึงหน่วยปฏิบตั ิ

การดาเนินงานเนน้ ท่คี วามสาเร็จของงานเป็นประเด็นหลกั

30

หนา้ ท่พี ้ืนฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

2. การบริหารงานธุรกิจเอกชน (Privatic Section) ภาคธุรกิจเอกชนจะไม่ซบั ซอ้ นเหมือนภาค
ราชการ องคก์ ารจะมีปลายแหลมทย่ี อด แต่ฐานจะแยกเร็วกวา่ ของภาคราชการ เอกชนจะเนน้ ท่ภี าคบริการ
ความพอใจของลูกคา้ มากกวา่ ความสาเร็จของงาน ดงั น้นั การจดั องคก์ ารจงึ มีลกั ษณะเหมือนหมวดนกั รบ
ไทยโบราณ ผจู้ ดั การ หรือเจา้ ของกิจการอยบู่ นยอด และมีผปู้ ฏบิ ตั หิ รือรองผจู้ ดั การอยใู่ นข้นั รองลงมาไม่
มากนกั ส่วนผปู้ ฏบิ ตั นิ ้ีจะมีต้งั แต่รองผจู้ ดั การลงไป

3. การจดั ตัวบคุ คล (Staffing : S)
หมายถึง การบริหารงานดา้ นบคุ ลากร ไดแ้ ก่ การจดั อตั รากาลงั การสรรหา การเลื่อนข้นั การ

พฒั นาบุคลากร เลื่อนตาแหน่ง การส่งเสริมขวญั และกาลงั ใจ สวสั ดิการ การเสริมสร้างบรรยากาศในการ
ทางาน การประเมินผลการปฏิบตั ิงาน การจดั หาทรัพยากรดา้ นกาลงั คน คนถือเป็ นปัจจยั พ้นื ฐานที่สาคญั
มากทสี่ ุดในการประกอบธุรกิจ ผปู้ ระกอบธุรกิจจะตอ้ งจดั หาบุคคลท่ีมีคุณภาพ และเหมาะสมกบั ตาแหน่ง
งาน โดยใชห้ ลกั การ “จดั คนใหเ้ หมาะกบั งาน” (Put the right man in the right job) รวมท้งั เมื่อไดบ้ ุคลากรที่
มีคุณภาพและเหมาะสมกับงานแลว้ ผปู้ ระกอบธุรกิจยงั ตอ้ งรักษาบุคลากรดงั กล่าวให้ปฏิบตั ิงานอยกู่ บั
องคก์ รตลอดไปอยา่ งมีความสุข ในการจดั หาทรัพยากรดา้ นกาลงั คน ผปู้ ระกอบธุรกิจควรพจิ ารณาดงั น้ี

3.1 การวางแผนกาลงั คน ดา้ นจานวน คุณภาพและหนา้ ที่ความรับผดิ ชอบ

3.2 การสรรหากาลงั คน

3.3 การคดั เลือกและการบรรจุ

3.4 การฝึกอบรม

3.5 การประเมินผลการปฏิบตั งิ าน
3.6 การจ่ายคา่ ตอบแทนหรือเงินเดือนเพอ่ื เป็ นค่ายงั ชีพ ทดแดนการทางาน ถือเป็ นรางวลั สาหรบั
การทางาน การใหค้ า่ ตอบแทน เงินเดือน โดยยดึ ถือระบบคุณธรรม ดงั ตอ่ ไปน้ี
- หลกั ความสามารถ Competence ยดึ ผลงานตามความสามารถเหมาะกบั เงนิ คา่ ตอบแทน

หลกั ความเสมอภาค Equality ใหโ้ อกาสคนเสมอกนั ไม่เลือกช้นั วรรณะ
- หลกั ความมน่ั คง Security ถือวา่ การเขา้ ทางานในองคเ์ ป็นอาชีพอาชีพหน่ึง การกาหนด

คา่ ตอบแทน เงินเดือน ใหเ้ หมาะสมกบั การดารงชีวติ การเขา้ ออก จากงาน มีกฎหมาย กฎเกณฑร์ อบรับที่

ชดั เจน เป็นธรรม
- ความเป็นกลางทางการเมือง Political neutrality คอื การทางานไม่เกี่ยวขอ้ งกบั การเปล่ียนแปลง

ทางการเมือง หรือการเปล่ียนรัฐบาล

31

หนา้ ทพี่ ้ืนฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

- หลกั สาคญั ในการใหเ้ งินเดือน คือ งานมาก งานยาก รับผดิ ชอบสูงให้เงินเดือนสูง งานน้อย งาน
ไม่ยาก รับผิดชอบน้อย เงินเดือนน้อยงานทะเบียนประวตั ิหรือขอ้ มูลบุคลากร เป็ นงานธุรการของบุคคล
ขอ้ มูลการเขา้ มาทางานของบุคลากร ต้งั แต่ขอ้ มูลส่วนตวั การศึกษา การทางาน การเล่ือนตาแหน่ง การ
พฒั นาศึกษาอบรม เงินเดือน งานขอ้ มูลทะเบียนประวตั มิ ีความสาคญั มาก คนทอ่ี อกจากงานเพอ่ื ไปทางาน
หนา้ ทต่ี าแหน่งใหม่หากไดร้ ับคารับรองหรือหลกั ฐานการผ่านงานเดิมมาดว้ ย มกั ไดร้ ับการพจิ ารณาว่าเป็ น
ผูม้ ีประสบการ มีความชานาญต่างๆ ตามที่หน่วยงานตอ้ งการงานประเมินผลการปฏิบตั ิงานหรือการ
พิจารณาความดีความชอบ การประเมินความดีความชอบของบุคคลเป็ นวิธีการสาคญั ท่ีทาใหก้ ารทางาน
มีประสิทธิภาพธรรมชาตขิ องคน เมื่อทางานไปยอ่ มเกิดความเฉ่ือยเม่ือไดร้ ับการประเมินผลเป็ นระยะและ
ไดข้ วญั กาลงั ใจยอ่ มทาใหเ้ กิดประสิทธิภาพยงิ่ ข้ึนงานวนิ ยั และการดาเนินงานทางวินยั เป็ นกิจกรรมสาคญั
ในการควบคุมพฤตกิ รรมของบุคคลไม่ใหท้ าความผดิ แบบแผน ธรรมเนียมปฏิบตั ิขององคก์ ร เป็ นภารกิจ
สาคัญของผูบ้ ริหารในการสอดส่องดูและความประพฤติ การรักษาวินัยของบุคลากรในองค์กรให้
ดาเนินงานตามวตั ถุประสงค์ เป้ าหมายขององคก์ รทว่ี างไว้ ถา้ มีบุคคลละเมิดตอ้ งดาเนินการตามแบบแผน
ตามสมควร

- สวสั ดิการ ประโยชน์เก้ือกลู และสิทธิประโยชน์ การใหอ้ อกจากราชการ และการรบั บาเหน็จ
บานาญ ขา้ ราชการ พนกั งานองคก์ รเอกชน มีขอ้ ตกลง ขอ้ กาหนด อายใุ นการทางาน เป็ นขอ้ กาหนด
ขอ้ ตกลงกอ่ นการทางาน หรือการจา้ งงาน การออกจากงานเป็นบทสุดทา้ ยของการบริหารงานบุคคล การ
ออกจากงานมี 2 กรณีที่สาคญั

- ออกตามประสงคพ์ นกั งาน เช่น ลาออก
- ออกเพราะความตอ้ งการของหน่วยงาน เช่น เกษยี ณอายุ ยบุ เลิกตาแหน่ง หรือทาผดิ

4. การอานวยการ (Direction : D)
หมายถึง การวนิ ิจฉยั สง่ั การ ควบคุม บงั คบั บญั ชา การควบคุมการปฏิบตั ิงาน และควบคมุ ดูแล

การปฏบิ ตั ขิ องผบู้ ริหารในฐานะหวั หนา้ หน่วยงานเพอ่ื ใหก้ ารดาเนินงานขององคก์ รบรรลุวตั ถุประสงค์
เป้ าหมาย หรือ แผนทวี่ างไว้ กิจกรรมอานวยการทส่ี าคญั จาแนกไดด้ งั น้ี

- การประสานงาน (Coordinating)
- การตดั สินใจและสง่ั การ (Decision Makinh)
- การสงั่ งาน (Oder)
- การติดตามดูแลกากบั และใหค้ าปรึกษา (Supervising & Guiding)

32

หนา้ ทพี่ ้นื ฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

- การสร้างขวญั กาลงั ใจ และแรงจูงใจ (Moral and Motivating)
- การใชภ้ าวะผนู้ า (Leadership)
- การสรา้ งมนุษยส์ มั พนั ธ์ (Human Relation)
- การจดั ระบบส่ือสารและการสร้างเครือขา่ ย (Net Work and Communicatin)
- การมอบหมายงานและการมอบอานาจหนา้ ท่ี (Take Oder & Delegating)
- การส่งเสริมกิจกรรมอื่นๆ (Supporting)

5. การประสานงาน (COORDINATING : Co)
หมายถึง การจดั ระเบียบวิธีการทางานเพอื่ ใหผ้ ปู้ ฏิบตั ิรู้ถึงวตั ถุประสงค์ และรายละเอียดของ

งานจนสามารถปฏิบตั ิหนา้ ท่ีในลกั ษณะงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย งานมีการรอ้ ยรดั ตอ่ เน่ืองกนั จนเสร็จส้ิน
ภารกิจของหน่วยงานทีไ่ ดร้ ่วมกนั วางไว้ มีลกั ษณะสาคญั ดงั น้ี

1. การประสานงานเป็นกระบวนการหน่ึงในการบริหาร หมายถึง เป็ นกิจกรรมท่ีเกิดข้นึ ต้งั แต่
การวางแผน เรียกประสานแผน เพอ่ื ใหค้ นวางรูปแบบการทางานตามความรู้ความสามารถ เรียกวา่
ประสานคน และประสานความเขา้ ใจทางความคดิ เรียกประสานงานความคิด โดยเรียกการประสาน
ท้งั หมด วา่ การประสานงาน

2. การประสานงานเป็นหนา้ ทข่ี องผบู้ ริหาร หรือผจู้ ดั การ
3. การประสานงานเป็นเรื่องเก่ียวกบั การแสวงหาความร่วมมือ
4. การประสานงานเป็นเรื่องเกี่ยวกบั การติดตอ่ สื่อสาร
5. การประสานงานจะเป็ นกิจกรรมที่อยใู่ นทุกข้นั ตอนของการทางาน
6. การประสานงานเป็นเร่ืองทเ่ี ก่ียวกบั การสื่อสมั พนั ธ์
วตั ถุประสงคข์ องการประสานงาน

- ลดความขดั แยง้ ระหวา่ งผปู้ ฏิบตั กิ บั องคก์ ร
- ช่วยใหเ้ กิดความร่วมมือในการปฏิบตั ิงาน
- เกิดประสิทธิภาพ ประหยดั แรงงาน เวลา และวสั ดุอุปกรณ์
วธิ ีการประสานงานทีส่ าคญั
- การจดั ทาแผนผงั กาหนดหนา้ ทีก่ ารงานของหน่วยงาน แผนภมู ิ ป้ ายทะเบียน เป็ นตน้
- จดั ทาความสง่ั กาหนดหนา้ ท่ชี ดั เจน
- ต้งั คณะกรรมการ ตามแผนงาน

33

หนา้ ท่พี ้นื ฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

- ทาแผนปฏบิ ตั ิงาน และแผนควบคุมการปฏบิ ตั งิ าน
- การกาหนดส่งงาน
- การระบกุ ารจดั สรรงบประมาณ การจดั กิจกรรม การควบคุมกิจกรรม
- การจดั ประชุม สมั มนา การกระจายข่าว

หลกั การคดั เลือกผทู้ ี่เหมาะสมในการทาหนา้ ท่ีประสานงาน

1. เป็ นผทู้ เี่ ขา้ ใจภารกิจองคก์ รเป็ นอยา่ งดี
2. เป็ นผมู้ ีวฒุ ิภาวะ น่าเชื่อถือ เป็ นผใู้ หญ่
3. เป็นผมู้ ีความรับผดิ ชอบสูง
4. เป็นผมู้ ีความสามารถในการสรา้ งมนุษยส์ มั พนั ธ์
5. เป็ นผมู้ ีศลิ ปะในการพดู โนม้ นา้ วใจคน

6. การควบคุมงาน (CONTROLLING: C)

การควบคุมงาน หมายถึง การดาเนินการในการกากบั ดูแลการดาเนินงานตา่ งๆ เพอื่ ใหเ้ ป็ นไป

ตามแผนงานทว่ี างไว้ การควบคุมงานมลี กั ษณะเป็ นการกาหนดเกณฑ์ หรือ เป้ าหมายของการปฏบิ ตั งิ านไว้

ล่วงหนา้ แลว้ เปรียบเทยี บกบั ผลการปฏิบตั งิ านท่ีปรากฏในดา้ นต่างๆ ดงั น้ี

- ดา้ นปริมาณ (Quantity)
- ดา้ นคุณภาพ (Quality)
- ดา้ นเวลา (Time)
- ดา้ นงบประมาณ หรือตน้ ทุน (Budget or Cost)

วธิ ีการควบคุมงานใหม้ ีประสิทธิภาพ

- กาหนดเกณฑม์ าตรฐาน หรือเป้ าหมายการปฏิบตั ิงานในลกั ษณะที่ทา้ ทาย
- จดั ระบบติดตอ่ ส่ือสารใหท้ วั่ ถึง Net work ใหม้ ีการประสานงานสอดคลอ้ งต่อเน่ือง สามารถ

รายงานกิจกรรมไดท้ นั ท่วงที
- ควรใชว้ ธิ ีการควบคุมงานตามแผนงานบริหาร จุดประสงคเ์ ป็ นตวั ช้ีนา M.B.O.
- ควรใชว้ ธิ ีการควบคุมงานแบบง่ายๆ ไม่ซบั ซอ้ น เห็นผลชดั เจนตามจุดสาคญั
- ใหก้ าลงั ใจอยา่ งเหมาะสมและสม่าเสมอ
- พยายามป้ องกนั พฤตกิ รรมของผปู้ ฏบิ ตั ิงาน ใหเ้ ป็นไปในเชิงบวก สรา้ งสรรค์

กิจกรรมควบคุมงานที่สาคญั

1. กาหนดแผนผงั แผนภมู ิควบคุมงาน ชดั เจน

2. ใชง้ บประมาณเป็นตวั ควบคุมงาน

34

หนา้ ท่พี ้ืนฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

3. ควบคุมโดยกาหนดเป้ าหมาย วตั ถุประสงค์

4. ควบคุมงานโดยใชห้ อ้ งปฏิบตั กิ าร

ปัญหาท่พี บบอ่ ยในการควบคุมงาน

- การจดั ระบบงานขาดประสิทธิภาพ
- การไม่ใหค้ วามสาคญั ของการควบคุมงานของผบู้ ริหาร
- ขาดความรู้ เทคนิคทเี่ หมาะสมในการควบคุมงาน
- ขาดหลกั เกณฑ์ มาตรฐานในการควบคุมงาน
- ขาดการร่วมมือของผปู้ ฏิบตั ิงาน
7. การรายงานผลงาน (REPORTING: R)

การรายงานผลงาน หมายถึง การทผ่ี มู้ ีหนา้ ท่เี สนอผลของงาน หรือกิจกรรม ใหผ้ บู้ ริหาร หรือ
ผรู้ ่วมงานไดท้ ราบ ซ่ึงมีลกั ษณะสาคญั 2 ลกั ษณะ

- รายงานขณะปฏิบตั ิงาน ถือเป็นการรายงานตามข้นั ตอนการปฏิบตั งิ าน ซ่ึงกาหนดไวใ้ น
แผนปฏิบตั ิงาน การรายงานจะรายงานดว้ ยวาจาหรือลายลกั ษณ์อกั ษรกไ็ ด้ ในปัจจบุ นั น้ีมีการรายงานการ
ปฏบิ ตั งิ านของธุรกิจสู่สาธารณชนภายนอกใหร้ บั ทราบผลการปฏิบตั ิงาน เช่น รายงานผา่ นสื่อมวลชน เพอื่
สร้างภาพลกั ษณ์ท่ีดีต่อสาธารณะชน

- การรายงานเม่ือสิ้นสุดแผนงาน เป็นการรวบรวมผลการดาเนินงานท้งั หมดแลว้ นามาสรุปรายงาน
ผลการดาเนินงาน

สิ่งที่จาเป็นควรเนน้ พเิ ศษในการรายงาน
1. รายงานเป็นกระบวนการ (INPUT PROCESS OUT PUT)
2. รายงานการใชท้ รพั ยากร มีการใชท้ รพั ยากรอะไรไปบา้ ง มีปัญหาอุปสรรคอยา่ งไร
3. รายงานเกี่ยวกบั ผลที่เกิดข้นึ
4. รายงานเก่ียวกบั ผลกระทบทีเ่ กิดข้นึ (Feed Back) เป็นการรายงานในภาพรวม

8. งบประมาณ (BUDGETING:B)
หมายถึง การมองที่การจดั หา จดั ทา และบริหารงบประมาณ ใหเ้ กิดประโยชน์สูงสุดต่อองคก์ ร

งบประมาณ (Budget) หรือตน้ ทุน (Cost) คือ เงินหรือทรัพยส์ ินของที่ใชใ้ นการดาเนินงานขององคก์ ร
หมายถึงทุนในการดาเนินงาน แบ่งลักษณะงบประมาณได้ 2 ภาคคืองบประมาณภาคราชการ

35

หนา้ ทีพ่ ้ืนฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

(Bureaucratic Budgeting) จดั สรรจดั ทาโดยกระทรวงทบวงกรมต่างๆ ไปตามความจาเป็ นโดยจดั สรรตาม
แผนงานโครงการงบประมาณของภาคเอกชน ( Private Budgeting) เป็นทนุ ที่บริษทั หา้ งร้าน ไดม้ าจากการ
ระดมทุน เช่น หุ้น เงินกู้จากแหล่งธุรกิจ หรื ออาจมาจากทุนส่วนตัวการบริหารจัดสรรมาจาก
คณะกรรมการตามแผนงานทคี่ ณะกรรมการไดก้ าหนดนโยบาย หรือกลยทุ ธไ์ ว้

งบประมาณ ถือเป็นปัจจยั สาคญั ในการบริหาร การดาเนินงานตอ้ งอาศยั เงนิ งบประมาณ ส่วน
ราชการ ไม่สามารถผลิตไดเ้ อง เช่น เงนิ เดือน การก่อสรา้ ง รถยนตพ์ าหนะตา่ งๆ จาเป็ นตอ้ งจดั หาดว้ ยเงิน
งบประมาณท้งั สิ้น
3. ผู้บริหารจดั การองค์กรธุรกจิ เกษตร

การดาเนินกิจกรรมต่างๆ ทางธุรกิจในองคก์ ารจาเป็ นตอ้ งอาศยั บุคลากรมาดาเนินกิจกรรมต่างๆให้
สาเร็จลุล่วงตามวตั ถุประสงคข์ ององคก์ าร บุคลากรท่ีทาหน้าที่ในการบริหารจดั การในองคก์ ารน้นั มีหลาย
ระดบั มีการแบ่งงานตามโครงสร้างขององคก์ าร ผทู้ ่ีมีหน้าที่และรับผดิ ชอบในตาแหน่งงานทางบริหารซ่ึง
ทาหนา้ ทีใ่ นการบริหารจดั การองคก์ าร กค็ อื ผบู้ ริหารองคก์ าร องคก์ ารโดยทว่ั ไปจะแบ่งระดบั ของผูบ้ ริหาร
ออกเป็น 3 ระดบั ไดแ้ ก่ ผบู้ ริหารระดบั สูง ผบู้ ริหารระดบั กลางผบู้ ริหารระดบั ตน้ โดยมีรายละเอียดดงั น้ี

(1) ผบู้ ริหารระดบั สูง มีหนา้ ท่ใี นการกาหนดนโยบาย เป้ าหมาย และแผนงานสาคญั ของ
องคก์ าร ผบู้ ริหารระดบั สูงถือวา่ เป็ นผนู้ า ขององคก์ ารที่จะนา องคก์ ารไปสู่เป้ าหมายทตี่ อ้ งการ

(2) ผบู้ ริหารระดบั กลาง มีหนา้ ท่ใี นการรับนโยบาย และเป้ าหมายจากผบู้ ริหารระดบั สูงไปสู่
การปฏบิ ตั ิเพอ่ื ใหอ้ งคก์ ารประสบความสาเร็จซ่ึงมกั จะมีหน่วยงานระดบั ล่างรองรับการทางานอีกระดบั หน่ึง

(3) ผบู้ ริหารระดบั ตน้ มีหนา้ ที่กาหนดแผนระดบั ปฏิบตั ิงาน ซ่ึงไดจ้ ากแผนการดา เนินงาน
จากผบู้ ริหารระดบั กลาง จึงจะเป็ นหน่วยงานปฏิบตั งิ าน หน่วยงานน้ีจะดูแลหน่วยงานยอ่ ยตา่ งๆขององคก์ าร
4. กระบวนการจัดการองค์กรธุรกจิ เกษตร

กระบวนการจดั การ (Management Process) ประกอบดว้ ยการดาเนินกิจกรรม 4 ข้นั ตอนดว้ ยกนั ไดแ้ ก่
4.1. ข้นั ตอนการวางแผน (Planning) เป็ นข้นั ตอนแรกของกระบวนการจดั การ แบ่งออกได้

เป็น 3 ข้นั ตอนท่สี าคญั คอื
(1) การวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มขององคก์ าร โดยการวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มท้งั ภายใน

และภายนอกองคก์ าร หรือท่ีเรียกว่า SWOT Analysis ในการวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มภายในเป็ นการ
วเิ คราะห์จดุ แขง็ และจดุ อ่อนของการองคก์ าร ส่วนการวิเคราะห์สภาพแวดลอ้ มภายนอก เป็ นการวเิ คราะห์

36

หนา้ ท่ีพ้นื ฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

โอกาสและอุปสรรคท่ีเกิดข้ึนนอกองคก์ าร เช่น ภาวะเศรษฐกิจ ไดแ้ ก่อตั ราดอกเบ้ีย อตั ราแลกเปลี่ยนของ
เงินตรา เงินเฟ้ อ เป็นตน้ หรือภาวะทางการเมือง ทางกฎหมาย ทางสงั คม และทางเทคโนโลยี เป็นตน้

(2) กาหนดทิศทางขององคก์ าร เป็ นการกาหนดทศิ ทางขององคก์ ารใหส้ อดคลอ้ งกบั
สภาวะแวดลอ้ ม เพื่อเป็ นแนวทางใหก้ บั องคก์ ารในการดาเนินทางให้บรรลุผลสาเร็จ ซ่ึงประกอบดว้ ยการ
กาหนดวสิ ยั ทศั น์ พนั ธกิจ และเป้ าหมายขององคก์ าร

(3) กาหนดแผนงานขององคก์ าร คอื กิจกรรมหรือวธิ ีการทีก่ าหนดข้ึนเพอื่ ใหก้ าร
ดาเนินงานบรรลุเป้ าหมาย ซ่ึงตอ้ งสอดคลอ้ งกบั เป้ าหมายและพนั ธกิจขององคก์ าร อนั ไดแ้ ก่ แผนกลยทุ ธ์
แผนยทุ ธวธิ ี และแผนปฏิบตั กิ าร

4.2 ข้นั ตอนการจดั การองคก์ าร (Organizing) เป็ นข้นั ตอนท่ี 2 ของกระบวนการจดั การ
การจดั องคก์ ารจะประกอบดว้ ยกิจกรรมท่ีสาคญั คือ การกาหนดภาระงานที่สอดคล้องกบั กลยทุ ธ์ของ
องคก์ าร การออกแบบโครงสรา้ งองคก์ าร การแบ่งอานาจหนา้ ที่ และการประสานงาน

4.3 ข้นั ตอนการช้ีนา (Leading) การดาเนินงานขององคก์ ารทกุ องคก์ ารจะอยภู่ ายใตค้ วาม
ดูแลรับผิดชอบของผูบ้ ริหารองคก์ าร ซ่ึงจะเป็ นผูน้ าในการบริหารงานไปสู่เป้ าหมายท่ีกาหนดไวก้ าร
บริหารงานจะเป็ นไปในทศิ ทางใดข้ึนอยกู่ บั การช้ีนาของผบู้ ริหาร ผบู้ ริหารซ่ึงเป็นผนู้ าขององคก์ ารจะตอ้ งมี
ภาวะผนู้ าและสามารถจงู ใจใหบ้ ุคคลากรในองคก์ ารเกิดผลปฏบิ ตั ิงานอยา่ งมีประสิทธิภาพ

4.4 ข้นั ตอนการควบคุมองคก์ าร (Controlling) เป็ นการควบคุมการดาเนินงานต่างๆ ภายใน
องคก์ ารใหเ้ ป็นไปตามเกณฑม์ าตรฐานท่ีกาหนดไว้ผลลพั ธข์ องกระบวนการควบคุมทีด่ ีทาใหส้ ามารถวดั ผล
งานไดแ้ ม่นยา ผูบ้ ริหารองคก์ ารจะตอ้ งกาหนดมาตรฐาน และวิธีประเมินผลงานเพ่อื ใหค้ วบคุมไปอยา่ งมี
ประสิทธิภาพหากมีปัญหาเกิดข้ึนกส็ ามารถแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง ผลการควบคุมจะถูกนาไปเป็ นขอ้ มูล
ยอ้ นกลบั สาหรับวางแผนตอ่ ไป ซ่ึงประกอบไปดว้ ยข้นั ตอนตา่ งๆ 4 ข้นั ตอน ไดแ้ ก่

ข้นั ตอนที่ 1 การกาหนดมาตรฐานของงาน
ข้นั ตอนที่ 2 การวดั ผลงาน
ข้นั ตอนท่ี 3 เปรียบเทียบผลงานกบั มาตรฐานที่กาหนด
ข้นั ตอนที่ 4 การประเมินผลและแกไ้ ข

37

หนา้ ท่ีพ้ืนฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

รูปท่ี 4.1 ภาพตัวอย่าง กระบวนการจดั การองค์กรธุรกิจเกษตร

การวางแผน การจัดองค์การ
1. SWOT Analysis 1. การกาหนดภาระงาน
2.กาหนดทศิ ทางองคก์ าร 2.ออกแบบโครงสร้างองคก์ าร
3.กาหนดแผนงาน 3.แบง่ อานาจหนา้ ท่ี

การวางแผน การชีน้ า
ข้นั ตอนท่ี 1 กาหนดมาตรฐานของงาน 1. ภาวะผนู้ า
ข้นั ตอนที่ 2 การวดั ผลงาน 2.การจงู ใจ
ข้นั ตอนท่ี 3 เปรียบเทียบผลงานกบั มาตรฐานท่กี าหนด 3.ผลงาน
ข้นั ตอนที่ 4 การประเมินผลและแกไ้ ข

กิจกรรมที่3
1. ใหน้ กั ศกึ ษาบอกองคป์ ระกอบในการประกอบธุรกิจเกษตร
2. จาแนกปัจจยั ในการดาเนินธุรกิจได้
3. อธิบายทฤษฎีกระบวนการบริหารของลูเธอร์ กลู ิก และไลนอล อูริค ได้
4. ใหน้ กั ศกึ ษาออกแบบแผนผงั กระบวนการจดั การองคก์ รธุรกิจเกษตรตามหลกั การของตนเอง

38

หนา้ ที่พ้นื ฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

ใบงานที่ 3

หน่วยที่ 3 เรื่อง หน้าทพ่ี ืน้ ฐานในการจดั การธุรกจิ เกษตร
…………………………………………………………………………………………………………….

จุดประสงค์การเรียนรู้
1. บอกหนา้ ท่พี ้นื ฐานที่สาคญั ของกระบวนการจดั การบริหารธุรกิจได้
2. เอาเทคนิคการจดั การบริหารธุรกิจมาใชป้ ระยกุ ตใ์ นการทางานได้

จุดประสงค์ด้านคณุ ธรรมและจริยธรรมของนักศึกษา
1. ดา้ นมนุษยส์ มั พนั ธ์ ในการมีส่วนร่วม รับฟังคนอ่ืน เป็นผนู้ าและผตู้ ามที่ดี
2. ดา้ นความรับผดิ ชอบ ตอ่ ส่วนรวมและส่วนบคุ คล คอื การตรงตอ่ เวลา เขา้ หอ้ งเรียนทนั เวลา การ

ส่งงานตามกาหนด ความสะอาดและถูกตอ้ งของผลงาน
3. ดา้ นความมีวนิ ยั ในตนเอง ความซื่อสตั ยส์ ุจริต แตง่ กายถูกตอ้ งตามระเบยี บ
4. ดา้ นความรูแ้ ละทกั ษะวชิ าชีพ มีความสานึกดีในการจดั การธุรกิจเกษตรในทกุ เร่ืองทเ่ี ก่ียวขอ้ ง

วสั ดุ เครื่องมอื และอปุ กรณ์
1. กระดาษ A4
2. ตวั อยา่ งองคก์ ารธุรกิจบริษทั รุ่งเรืองการเกษตรจากดั
3. แบบประเมินผลงานท่ีมอบหมาย
4. เอกสารประกอบการสอน

ข้นั ตอนการปฏิบัตงิ าน
1. ใหผ้ เู้ รียนแบง่ กลุ่ม 4-5 คน/กลุ่ม
2. ส่งตวั แทนมารบั ใบงานท่ี 3 และกรณีตวั อยา่ งธุรกิจ ไปดาเนินการทางานใหเ้ สร็จตามคาสง่ั

ภายใน 1 ชวั่ โมง
3. ส่งตวั แทนนาผลงานมาเสนอหนา้ ช้นั เรียน
4. ส่งรายงาน ตามรูปแบบรายงานทถี่ ูกตอ้ งสมบรู ณ์
5. ประเมินผล

แหล่งค้นคว้า
1. หนงั สือเอกสารประกอบการสอนวชิ าการจดั การธุรกิจเกษตร
2. ทางอินเตอร์เน็ต
3. หนงั ส่ือและตาราเกี่ยวกบั การบริหารจดั การทว่ั ไป

39

หนา้ ทีพ่ ้ืนฐานในการจดั การธุรกิจเกษตร

กรณตี วั อย่างธุรกจิ

บริษัท รุ่งเรืองการเกษตรจากัด
นายกลว้ ยไม้ โกมาซุม เป็ นนกั ธุรกิจชาวปักษใ์ ต้ ประกอบอาชีพทาธุรกิจผลิตป๋ ุยเคมี จาหน่าย คา้ ส่ง
และปลีกทวั่ ประเทศ โดยการจดั ต้งั โรงงานผลิตป๋ ยุ เคมีภายใตย้ หี่ อ้ ทางการคา้ ตราป๋ ุยรุ่งเรือง มีป๋ ุยสูตรต่าง ๆ
ใหล้ ูกคา้ เลือกไปใชไ้ ดม้ ากมาย แลว้ แต่เกษตรกรจะนาไปใช้ ไม่วา่ จะ เป็ นป๋ ุยเกี่ยวกบั ไมผ้ ล สาหรับพืชผกั
หรือป๋ ุยสาหรับนาขา้ ว ซ่ึงมีส่วนแบ่งในตลาดป๋ ุยไม่น้อยกว่า 30 % ของผูผ้ ลิตป๋ ุยท้งั หมด ปัจจุบนั นาย
กลว้ ยไม้ กาลงั ทาการวเิ คราะหศ์ ึกษาดา้ นการตลาดและ คุณภาพของผลิตภณั ฑป์ ๋ ยุ ตวั ใหม่ออกมา ดว้ ยเหตุผล
ท่ีวา่ รัฐบาลและผบู้ ริโภคเองกาลงั รนณรงค์ รักษาสิ่งแวดลอ้ ม คนื ธรรมชาติให้แก่พ้ืนดิน ปรับปรุโครงสร้าง
ของดินและลดตน้ ทุนในการผลิต ผบู้ ริโภคจะไดบ้ ริโภคผลผลิตท่ีปลอดภยั ปลอดสารเคมี จึงเน้นท่ีจะ
นาเสนอผลิตภณั ฑป์ ๋ ยุ ตวั ใหม่ ออกมาวางขายในทอ้ งตลาด เป็นป๋ ุยชีวภาพ ภายใตส้ ูตรตา่ ง ๆ ให้เกษตรกรได้
เลือกใช้
บริษทั รุ่งเรืองการเกษตร จากดั ก่อนท่จี ะเจริญเติบโตไดอ้ ยา่ งปัจจุบนั น้ี เริ่มมาจากการ ดาเนินงานใน
รูปแบบธุรกิจเจา้ ของคนเดียว มีโรงงานขนาดเล็กผลิตจาหน่ายเฉพาะในจงั หวดั และ จงั หวดั ใกลเ้ คียงมี
คนงาน ท้งั ส้ิน 50 คน ต่อมากิจการเจริญกา้ วหนา้ ไดจ้ ดทะเบียนจดั ต้งั เป็ น รูปแบบบริษทั จากดั มีโรงงาน
ผลิต10 กวา่ โรงงาน ใชเ้ ครื่องจกั ร เครื่องมือการผลิตทที่ นั สมยั มี พนกั งานในปัจจุบนั ท้งั สิ้น 400 คน
ในฐานะที่นกั ศึกษาไดศ้ กึ ษาในเรื่องรูปแบบธุรกิจและกระบวนการบริหารธุรกิจมาแลว้ จง นาองค์
ความรู้ทเี่ รียนมาช่วยนายกลว้ ยไม้ โกมาซุม ถา้ ตนเองเป็ นผบู้ ริหารจะทาอยา่ งไร ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. จะนาเอากระบวนการบริหารจดั การธุรกิจ มาใชอ้ ยา่ งไรไดบ้ า้ ง
2. และจะนาเอาเทคนิคในการบริหารจดั การใด มาใชก้ บั บริษทั ดงั กล่าว


Click to View FlipBook Version