The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

หลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

หลักสตู รโรงเรียนวงั โปง่ พทิ ยาคม พทุ ธศกั ราช 2562 (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560) 36

๖. สบื คน้ ขอ้ มูล อธบิ ายโครงสร้างทีใ่ ช้ในการแลกเปลีย่ นแก๊ส และกระบวนการแลกเปลี่ยนแกส๊ ของ
มนุษย์
๗. อธิบายการทำงานของปอด และทดลองวดั ปริมาตรของอากาศในการหายใจออกของมนษุ ย์
๘. สบื ค้นข้อมูล อธบิ าย และเปรยี บเทียบระบบหมนุ เวียนเลือดแบบเปิดและระบบหมนุ เวยี นเลอื ด
แบบปิด
๙. สงั เกต และอธิบายทิศทางการไหลของเลอื ดและการเคล่ือนท่ขี องเซลล์เม็ดเลือดในหางปลา และ
สรุปความสัมพันธ์ระหว่างขนาดของหลอดเลอื ดกับความเร็วในการไหลของเลอื ด
๑๐. อธบิ ายโครงสร้างและการทำงานของหวั ใจ และหลอดเลอื ดในมนุษย์
๑๑. สงั เกต และอธิบายโครงสรา้ งหวั ใจของสตั ว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม ทิศทางการไหลของเลอื ดผา่ นหวั ใจ
ของมนษุ ย์ และเขยี นแผนผงั สรุป การหมุนเวียนเลือดของมนษุ ย์
๑๒. สืบคน้ ขอ้ มูล ระบคุ วามแตกต่างของเซลลเ์ มด็ เลือดแดง เซลลเ์ ม็ดเลอื ดขาว เพลตเลต และ
พลาสมา
๑๓. อธบิ ายหมู่เลือดและหลกั การใหแ้ ละรับเลอื ดในระบบ ABO และระบบ Rh
๑๔. อธิบาย และสรุปเกี่ยวกบั ส่วนประกอบและหน้าท่ขี องน้ำเหลือง รวมทัง้ โครงสรา้ งและหน้าทีข่ อง
หลอดนำ้ เหลือง และต่อมน้ำเหลอื ง
๑๕. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ าย และเปรยี บเทียบกลไกการตอ่ ตา้ นหรอื ทำลายส่งิ แปลกปลอมแบบไม่จำเพาะ
และแบบจำเพาะ
๑๖. สืบค้นข้อมูล อธบิ าย และเปรียบเทยี บการสร้างภมู คิ มุ้ กันก่อเองและภมู คิ ุม้ กันรับมา
๑๗. สืบค้นข้อมูล และอธิบายเกี่ยวกับความผิดปกติของระบบภูมิคุ้มกันท่ีทำให้เกิดเอดส์ ภูมแิ พ้ การ
สรา้ งภูมติ ้านทานตอ่ เนอื้ เยอ่ื ตนเอง
๑๘. สืบค้นข้อมูล อธิบาย และเปรียบเทยี บโครงสรา้ งและหน้าที่ในการกำจัดของเสียออกจากรา่ งกาย
ของฟองน้ำ ไฮดรา พลานาเรีย ไสเ้ ดอื นดิน แมลง และสตั ว์มกี ระดกู สันหลงั
๑๙. อธบิ ายโครงสรา้ งและหนา้ ที่ของไต และโครงสรา้ งท่ใี ช้ลำเลียงปสั สาวะออกจากร่างกาย
๒๐. อธิบายกลไกการทำงานของหนว่ ยไต ในการกำจัดของเสยี ออกจากร่างกาย และเขียนแผนผังสรุป
ขนั้ ตอนการกำจัดของเสียออกจากร่างกายโดยหน่วยไต
๒๑. สบื ค้นขอ้ มูล อธิบาย และยกตัวอยา่ งเกย่ี วกับความผิดปกติของไตอนั เนื่องมาจากโรคต่าง ๆ
๒๒. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบาย และเปรยี บเทียบโครงสร้างและหนา้ ที่ของระบบประสาทของไฮดรา พลานา
เรีย ไส้เดอื นดนิ กุ้ง หอย แมลง และสัตว์มีกระดูกสันหลงั
๒๓. อธบิ ายเกี่ยวกับโครงสรา้ งและหน้าท่ีของเซลลป์ ระสาท
๒๔. อธิบายเก่ียวกบั การเปลีย่ นแปลงของศกั ยไ์ ฟฟ้าทีเ่ ยอื่ หุ้มเซลล์ของเซลล์ประสาท และกลไกการ
ถา่ ยทอดกระแสประสาท
๒๕. อธบิ าย และสรุปเกยี่ วกับโครงสร้างของระบบประสาทสว่ นกลางและระบบประสาทรอบนอก

กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์

หลักสูตรโรงเรียนวงั โปง่ พทิ ยาคม พุทธศักราช 2562 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560) 37

๒๖. สบื คน้ ข้อมูล อธบิ ายโครงสร้างและหนา้ ที่ของส่วนต่าง ๆ ในสมองส่วนหนา้ สมองสว่ นกลาง
สมองสว่ นหลัง และไขสนั หลัง
๒๗. สืบคน้ ข้อมูล อธบิ าย เปรียบเทยี บ และยกตวั อยา่ งการทำงานของระบบประสาทโซมาตกิ และ
ระบบประสาทอัตโนวัติ
๒๘. สืบคน้ ขอ้ มูล อธิบายโครงสร้างและหนา้ ท่ีของ ตา หู จมกู ลน้ิ และผวิ หนงั ของมนุษย์ ยกตวั อยา่ ง
โรคต่าง ๆ ที่เก่ยี วข้อง และบอกแนวทางในการดแู ลป้องกนั และรกั ษา
๒๙. สังเกต และอธิบายการหาตำแหนง่ ของจุดบอด โฟเวยี และความไวในการรับสมั ผัสของผิวหนงั
๓๐. สบื ค้นข้อมูล อธิบาย และเปรยี บเทียบโครงสรา้ งและหนา้ ทขี่ องอวัยวะท่ีเก่ยี วขอ้ งกบั การเคลอ่ื นท่ี
ของแมงกะพรนุ หมกึ ดาวทะเล ไสเ้ ดอื นดิน แมลง ปลา และนก
๓๑. สืบค้นขอ้ มูล และอธบิ ายโครงสร้างและหน้าท่ีของกระดกู และกลา้ มเน้อื ทีเ่ กี่ยวข้องกบั การ
เคลอ่ื นไหวและการเคล่ือนท่ีของมนษุ ย์
๓๒. สังเกต และอธิบายการทำงานของข้อตอ่ ชนิดต่าง ๆ และการทำงานของกล้ามเนอ้ื โครงร่างท่ี
เกยี่ วข้องกบั การเคลอื่ นไหวและการเคลอื่ นท่ขี องมนษุ ย์
๓๓. สืบค้นขอ้ มูล อธิบาย และเขยี นแผนผงั สรุปหน้าท่ีของฮอรโ์ มนจากต่อมไร้ทอ่ และเนอ้ื เย่ือ ท่สี ร้าง
ฮอร์โมน
๓๔. สบื ค้นขอ้ มูล อธบิ าย เปรยี บเทียบ และยกตัวอย่างพฤตกิ รรมท่ีเปน็ มาแต่กำเนิดและพฤติกรรมท่ี
เกดิ จากการเรียนรขู้ องสัตว์
๓๕. สบื ค้นข้อมูล อธิบาย และยกตัวอยา่ งความสัมพันธ์ระหว่างพฤตกิ รรมกบั ววิ ฒั นาการของระบบ
ประสาท
๓๖. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ าย และยกตวั อยา่ งการสอื่ สารระหวา่ งสตั ว์ท่ีทำใหส้ ัตว์แสดงพฤติกรรม

รวมทง้ั หมด ๓๖ ผลการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์

หลกั สูตรโรงเรียนวงั โปง่ พิทยาคม พุทธศักราช 2562 (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช 2560) 38

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเติม ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 5
รายวิชา ชวี วทิ ยา 3 ภาคเรียนที่ 1
จำนวน 60 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น รหสั วชิ า ว30243
จำนวน 1.5 หน่วยกิต

ศึกษาเก่ียวกบั การดำรงชวี ติ ของพืช โครงสร้างและหน้าทขี่ องพืชดอก เนอื้ เยอ่ื พืช อวัยวะและ
หน้าที่ของอวัยวะของพืชจากราก ลำต้น และใบ การแลกเปล่ียนแก๊สและการคายน้ำของพืช การ
ลำเลยี งนำ้ ของพืช การลำเลียงสารอาหารของพืช และการลำเลียงอาหารของพชื ศึกษาการสังเคราะห์
ด้วยแสงของพืชการค้นคว้าท่เี ก่ียวข้องกับการสังเคราะห์ดว้ ยแสง กระบวนการสังเคราะห์ด้วยแสง โฟ
โตเรสไพเรชัน กลไกการเพม่ิ ความเขม้ ข้นของคาร์บอนไดออกไซด์ในพืช C4 และพืช CAM ปัจจัยบาง
ประการท่ีมีผลต่ออัตราการสังเคราะห์ด้วยแสง รวมทั้งการปรับตัวของพืชทางด้านโครงสร้างของใบ
ทิศทางของใบ และการจัดเรียงใบของพืชเพื่อรับแสง ศึกษาการสืบพันธุ์ของพืชดอกและการ
เจริญเติบโต วัฏจักรชีวิตและการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศของพืชดอกท่ีเกี่ยวข้องกบั โครงสร้างของดอก
และการสร้างสปอร์ เรณูถุงเอ็มบริโอ การสร้างเซลล์สืบพันธ์ุและการปฏิสนธิ ผลและเมล็ด และการ
งอกของเมล็ด การสืบพันธุ์แบบไม่อาศัยเพศของพืชดอกและการขยายพันธุ์พืช รวมท้ังการวัดการ
เจริญเติบโตของพืช ศึกษาสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืชและการตอบสนองของพืชต่อ
ส่ิงแวดล้อม การนำความรู้เกี่ยวกับพืชมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน โดยใช้กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การทดลอง
การอภิปราย การอธิบาย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการ
ตัดสินใจ ส่ือสารสิ่งท่ีเรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม
คณุ ธรรม และคา่ นิยม

ผลการเรยี นรู้
๑. อธบิ ายเกี่ยวกับชนดิ และลกั ษณะของเนื้อเยือ่ พืช และเขียนแผนผังเพือ่ สรปุ ชนิดของเน้ือเย่ือพืช
๒. สงั เกต อธิบาย และเปรียบเทยี บโครงสร้างภายในของรากพืชใบเลยี้ งเดย่ี วและรากพืชใบเล้ียงคู่จาก
การตัดตามขวาง
๓. สังเกต อธิบาย และเปรียบเทยี บโครงสร้างภายในของลำต้นพชื ใบเล้ยี งเดยี่ วและลำต้นพชื ใบเล้ยี งคู่
จากการตัดตามขวาง
๔. สงั เกต และอธบิ ายโครงสรา้ งภายในของใบพชื จากการตดั ตามขวาง
๕. สบื ค้นข้อมูล สงั เกต และอธบิ ายการแลกเปลย่ี นแก๊สและการคายนำ้ ของพืช
๖. สืบคน้ ข้อมูล และอธิบายกลไกการลำเลยี งนำ้ และธาตอุ าหารของพชื
๗. สืบค้นขอ้ มูล อธบิ ายความสำคญั ของธาตุอาหาร และยกตวั อยา่ งธาตอุ าหารที่สำคัญทม่ี ีผลตอ่
การเจริญเติบโตของพืช

กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์

หลกั สูตรโรงเรยี นวังโปง่ พิทยาคม พทุ ธศกั ราช 2562 (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช 2560) 39

๘. อธบิ ายกลไกการลำเลียงอาหารในพชื
๙. สืบค้นข้อมูล และสรุปการศกึ ษาทีไ่ ดจ้ ากการทดลองของนักวทิ ยาศาสตร์ในอดีตเกีย่ วกับ
กระบวนการสงั เคราะหด์ ว้ ยแสง
๑๐. อธิบายขน้ั ตอนทเ่ี กิดขนึ้ ในกระบวนการสังเคราะห์ดว้ ยแสงของพืช C3
๑๑. เปรยี บเทียบกลไกการตรงึ คารบ์ อนไดออกไซด์ในพชื C3 พชื C4 และ พืช CAM
๑๒. สบื ค้นขอ้ มูล อภิปราย และสรปุ ปัจจัยความเข้มของแสง ความเข้มขน้ ของคาร์บอนไดออกไซด์
และอณุ หภูมิ ท่มี ีผลตอ่ การสงั เคราะหด์ ว้ ยแสงของพืช
๑๓. อธิบายวัฏจักรชีวติ แบบสลบั ของพืชดอก
๑๔. อธิบาย และเปรียบเทยี บกระบวนการสรา้ งเซลล์สบื พันธุ์เพศผู้และเพศเมียของพชื ดอก และ
อธิบายการปฏสิ นธิของพืชดอก
๑๕. อธบิ ายการเกดิ เมล็ดและการเกิดผลของพืชดอก โครงสรา้ งของเมล็ดและผล และยกตวั อยา่ งการ
ใช้ประโยชนจ์ ากโครงสรา้ งต่าง ๆ ของเมลด็ และผล
๑๖. ทดลอง และอธบิ ายเกีย่ วกบั ปัจจยั ตา่ ง ๆ ทีม่ ีผลตอ่ การงอกของเมล็ด สภาพพักตัวของเมลด็ และ
บอกแนวทางในการแก้สภาพพกั ตวั ของเมลด็
๑๗. สืบคน้ ขอ้ มูล อธบิ ายบทบาทและหน้าท่ีของออกซิน ไซโทไคนนิ จบิ เบอเรลลิน เอทิลนี และกรด
แอบไซซิก และอภปิ รายเกีย่ วกับการนำไปใชป้ ระโยชนท์ างการเกษตร
๑๘. สบื คน้ ข้อมูล ทดลอง และอภิปรายเก่ียวกับส่ิงเรา้ ภายนอกที่มผี ลต่อการเจรญิ เติบโตของพืช

รวมทัง้ หมด ๑๘ ผลการเรยี นรู้

กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์

หลกั สูตรโรงเรยี นวังโปง่ พิทยาคม พทุ ธศกั ราช 2562 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560) 40

กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ คำอธบิ ายรายวชิ าเพ่ิมเติม ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5
รายวิชา ชวี วิทยา 4 ภาคเรยี นท่ี 2
จำนวน 60 ช่วั โมง/ภาคเรียน รหัสวชิ า ว30244
จำนวน 1.5 หน่วยกิต

ศกึ ษาเกี่ยวกบั พันธศุ าสตร์และวิวฒั นาการ การถา่ ยทอดทางพันธกุ รรม การศกึ ษาพันธุศาสตร์
ของเมนเดล กฏของความน่าจะเป็น กฏแห่งการแยกและกฏแห่งการรวมกลมุ่ อยา่ งอสิ ระ การผสมเพ่ือ
ทดสอบ ลักษณะทางพันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของพันธุศาสตร์เมนเดล ศึกษาเก่ียวกับยีนและ
โครโมโซมการถ่ายทอดยีนและโครโมโซม การค้นพบสารพันธุกรรม โครโมโซม องค์ประกอบทางเคมี
ของ DNAโครงสร้างของ DNA สมบัติของสารพันธุกรรม มิวเทชัน ศึกษาเก่ียวกับพันธุศาสตร์และ
เทคโนโลยีทางDNA พันธุวิศวกรรม การวิเคราะห์ DNA และการศึกษาจีโนม การประยุกต์ใช้
เทคโนโลยีทาง DNA ความปลอดภัยของเทคโนโลยีทาง DNA และมุมมองทางสังคมและจริยธรรม
ศึกษาเกี่ยวกับวิวฒั นาการหลักฐานที่บ่งบอกถึงวิวัฒนาการของส่ิงมีชีวิต แนวคิดเก่ียวกบั วิวัฒนาการ
ของสิง่ มีชีวิต พันธศุ าสตร์ประชากร ปจั จยั ที่ทำให้เกิดการเปลีย่ นแปลงความถ่ขี องแอลลีล กำเนดิ ของส
ปชี ีส์ และวิวัฒนาการของมนษุ ย์ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้
การสืบค้นข้อมูล การสังเกตการวิเคราะห์ การทดลอง อภิปราย การอธิบาย และสรุป เพื่อให้เกิด
ความรู้ ความคิด ความเข้าใจมีความสามารถในการตัดสินใจ สอ่ื สารส่ิงท่ีเรียนร้แู ละนำความรู้ไปใช้ใน
ชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คณุ ธรรม และคา่ นิยม

ผลการเรยี นรู้
๑. สบื คน้ ขอ้ มูล อธิบาย และสรุปผลการทดลอง ของเมนเดล
๒. อธิบาย และสรุปกฎแหง่ การแยก และกฎแห่งการรวมกลมุ่ อยา่ งอสิ ระ และนำกฎของเมนเดลน้ี ไป
อธบิ ายการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธุกรรมและใช้ในการคำนวณโอกาสในการเกิดฟีโนไทป์และจีโน
ไทปแ์ บบตา่ ง ๆ ของรุ่นF1 และ F2
๓. สบื ค้นข้อมูล วเิ คราะห์ อธบิ าย และสรุปเกี่ยวกับการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรม ที่เป็นสว่ น
ขยายของ พันธศุ าสตรเ์ มนเดล
๔. สืบคน้ ขอ้ มูล วเิ คราะห์ และเปรยี บเทียบลักษณะทางพันธกุ รรมที่มีการแปรผันไมต่ ่อเน่ืองและ
ลกั ษณะทางพนั ธุกรรมท่มี ีการแปรผนั ตอ่ เนื่อง
๕. อธบิ ายการถ่ายทอดยนี บนโครโมโซม และยกตวั อย่างลกั ษณะทางพนั ธุกรรมทถ่ี กู ควบคมุ ดว้ ยยีน
บนออโตโซมและยนี บนโครโมโซมเพศ
๖. สบื ค้นข้อมูล อธิบายสมบตั แิ ละหน้าทข่ี องสารพันธกุ รรม โครงสร้างและองค์ประกอบทางเคมีของ
DNA และสรปุ การจำลอง DNA

กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์

หลักสูตรโรงเรียนวังโปง่ พิทยาคม พุทธศกั ราช 2562 (ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560) 41

๗. อธบิ าย และระบุขัน้ ตอนในกระบวนการสงั เคราะหโ์ ปรตนี และหนา้ ทข่ี อง DNA และ RNA แต่ละ
ชนิดกระบวนการสงั เคราะห์ โปรตนี
๘. สรปุ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสารพนั ธกุ รรม แอลลีล โปรตีน ลักษณะทางพนั ธกุ รรม และเช่ือมโยงกับ
ความรเู้ รอื่ งพันธุศาสตรเ์ มนเดล
๙. สืบค้นขอ้ มูล และอธบิ ายการเกดิ มิวเทชัน ระดบั ยีนและระดบั โครโมโซม สาเหตุการเกดิ มิวเทชนั
รวมท้ังยกตัวอย่างโรคและกลมุ่ อาการทเ่ี ป็นผลของการเกิดมวิ เทชนั
๑๐. อธิบายหลกั การสรา้ งสิ่งมีชวี ิตดัดแปรพันธกุ รรมโดยใช้ดเี อน็ เอรีคอมบิแนนท์
๑๑. สืบคน้ ขอ้ มูล ยกตวั อย่าง และอภิปรายการนำเทคโนโลยีทางดีเอน็ เอไปประยุกตใ์ ช้ทัง้ ในด้าน
สงิ่ แวดล้อม นติ วิ ิทยาศาสตร์ การแพทย์ การเกษตรและอุตสาหกรรม และข้อควรคำนึงถึงดา้ นชวี จรยิ
ธรรม
๑๒. สืบคน้ ข้อมูล และอธบิ ายเกีย่ วกบั หลักฐานท่ีสนบั สนุนและข้อมลู ท่ีใชอ้ ธิบายการเกิดววิ ฒั นาการ
ของสิ่งมชี วี ิต
๑๓. อธบิ าย และเปรียบเทยี บแนวคิดเกย่ี วกบั ววิ ัฒนาการของส่งิ มีชีวติ ของฌอง ลามารก์ และทฤษฎี
เกยี่ วกับววิ ัฒนาการของสง่ิ มีชีวติ ของชาลส์ ดารว์ ิน
๑๔. ระบุสาระสำคัญ และอธิบายเงือ่ นไขของภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิรก์ ปจั จัยทีท่ ำใหเ้ กดิ การ
เปลย่ี นแปลงความถี่ของแอลลลี ในประชากร พร้อมทั้งคำนวณหาความถข่ี องแอลลีลและจโี นไทปข์ อง
ประชากร โดยใชห้ ลักของฮาร์ดี-ไวนเ์ บริ ก์
๑๕. สืบคน้ ขอ้ มูล อภิปราย และอธบิ ายกระบวนการเกิดสปีชีสใ์ หมข่ องส่ิงมชี ีวิต

รวมท้งั หมด ๑๕ ผลการเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์

หลักสูตรโรงเรียนวงั โปง่ พทิ ยาคม พทุ ธศักราช 2562 (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศักราช 2560) 42

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 6
รายวิชา ชีววิทยา 5 ภาคเรยี นที่ 1
จำนวน 60 ชั่วโมง/ภาคเรียน รหสั วชิ า ว30245
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศกึ ษาเก่ียวกบั ความหลากหลายทางชีวภาพและความยงั่ ยืนของสิ่งแวดล้อม ความหลากหลาย
ของส่ิงมีชีวิต การศึกษาความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต กำเนิดของชีวิต อาณาจักรของส่ิงมีชีวิตความ
หลากหลายทางชีวภาพในประเทศไทย การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพ ศึกษาเก่ียวกับ
ประชากร ความหนาแน่นและการแพร่กระจายของประชากร ขนาดของประชากร รูปแบบการเพิ่ม
ของประชากร การรอดชีวิตของประชากร ประชากรมนุษย์ ศึกษาเกี่ยวกับมนุษย์กับความยั่งยืนของ
ส่ิงแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ประโยชน์ ปัญหาและการจัดการ หลักการอนุรักษ์
ทรัพยากรธรรมชาติ และชนิดพันธุ์ต่างถ่ินที่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม โดยใช้กระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์ กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกต การวิเคราะห์ การ
ทดลองการอภิปราย การอธบิ าย และสรุป เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มคี วามสามารถใน
การตัดสินใจส่ือสารสิ่งที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม
คณุ ธรรม และค่านิยม

ผลการเรยี นรู้
๑. อภิปรายความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ และความเช่ือมโยงระหว่างความ
หลากหลายทางพนั ธกุ รรม ความหลากหลายของสปีชสี ์ และความหลากหลายของระบบนิเวศ
๒. อธิบายการเกิดเซลลเ์ รม่ิ แรกของสิ่งมีชวี ิตและวิวัฒนาการของสงิ่ มีชีวิตเซลล์เดยี ว
๓. อธิบายลักษณะสำคัญ และยกตวั อย่างส่งิ มีชีวิตกลุ่มแบคทีเรีย ส่ิงมีชีวติ กลุ่มโพรทิสต์ ส่ิงมีชีวิตกลุ่ม
พืช สิ่งมีชีวติ กลุม่ ฟังไจ และส่งิ มีชวี ิต กลมุ่ สตั ว์
๔. อธบิ าย และยกตัวอย่างการจำแนกสิ่งมีชีวิตจากหมวดหมู่ใหญ่จนถงึ หมวดหมู่ย่อย และวิธกี ารเขียน
ช่อื วิทยาศาสตร์ในลำดบั ขั้นสปีชีส์
๕. สร้างไดโคโทมัสคียใ์ นการระบสุ งิ่ มีชีวิตหรือตัวอย่างท่กี ำหนดออกเป็นหมวดหมู่
๖. วเิ คราะห์ อธิบาย และยกตัวอย่างกระบวนการถ่ายทอดพลงั งานในระบบนิเวศ
๗. อธิบาย ยกตัวอย่างการเกดิ ไบโอแมกนิฟิเคชัน และบอกแนวทางในการลดการเกดิ ไบโอแมกนิฟิเค
ชนั
๘. สืบค้นข้อมูล และเขียนแผนภาพ เพื่ออธิบายวัฏจักรไนโตรเจน วัฏจักรกำมะถัน และวัฏจักร
ฟอสฟอรัส
๙. สืบค้นข้อมูล ยกตัวอย่าง และอธบิ ายลักษณะของไบโอมที่กระจายอยตู่ ามเขตภมู ิศาสตรต์ ่าง ๆ บน
โลก

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์

หลกั สตู รโรงเรยี นวังโปง่ พิทยาคม พทุ ธศักราช 2562 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560) 43

๑๐. สืบคน้ ข้อมูล ยกตัวอย่าง อธบิ าย และเปรียบเทยี บการเปล่ียนแปลงแทนท่ีแบบปฐมภูมิ และการ
เปลี่ยนแปลงแทนทแ่ี บบทตุ ยิ ภูมิ
๑๑. สบื ค้นขอ้ มลู อธบิ าย ยกตวั อยา่ ง และสรุปเกย่ี วกับลักษณะเฉพาะของประชากรของสิง่ มีชวี ิตบาง
ชนดิ
๑๒. สืบค้นข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ และยกตัวอย่างการเพิ่มของประชากรแบบเอ็กโพเนนเชียล
และการเพมิ่ ของประชากรแบบลอจสิ ตกิ
๑๓. อธิบาย และยกตวั อยา่ งปจั จัยที่ควบคุมการเตบิ โตของประชากร
๑๔. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาการขาดแคลนนำ้ การเกดิ มลพิษทางน้ำ และผลกระทบท่ีมีต่อ
มนุษยแ์ ละสงิ่ แวดล้อม รวมทั้งเสนอแนวทางการวางแผนการจัดการน้ำและการแก้ไขปัญหา
๑๕. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหามลพิษทางอากาศ และผลกระทบท่ีมีต่อมนุษย์และ
ส่งิ แวดลอ้ ม รวมทง้ั เสนอแนวทางการแกไ้ ขปัญหา
๑๖. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหาที่เกิดกับทรัพยากรดิน และผลกระทบที่มีต่อมนุษย์และ
ส่งิ แวดล้อม รวมท้งั เสนอแนวทางการแก้ไขปญั หา
๑๗. วิเคราะห์ อภิปราย และสรุปปัญหา ผลกระทบที่เกิดจากการทำลายป่าไม้ รวมท้ังเสนอแนวทาง
ในการปอ้ งกันการทำลายปา่ ไม้และการอนรุ กั ษ์ป่าไม้
๑๘. วเิ คราะห์ อภิปราย และสรปุ ปัญหา ผลกระทบท่ีทำใหส้ ัตวป์ ่ามีจำนวนลดลง และแนวทางในการ
อนุรกั ษส์ ตั ว์ป่า

รวมทง้ั หมด ๑๘ ผลการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

หลักสูตรโรงเรยี นวงั โปง่ พทิ ยาคม พทุ ธศักราช 2562 (ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช 2560) 44

กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ คำอธิบายรายวิชาเพิ่มเตมิ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6
รายวชิ า ชีววทิ ยา 6 ภาคเรียนที่ 2
จำนวน 60 ชวั่ โมง/ภาคเรยี น รหสั วิชา ว30246
จำนวน 1.5 หนว่ ยกิต

ศึกษาวเิ คราะห์ ระบบนเิ วศ ความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพันธ์ในระบบนิเวศ

การถา่ ยทอดพลงั งานและการหมนุ เวยี นสารในระบบนิเวศ ความหนาแน่นการแพร่กระจาย ขนาด
รปู แบบการเพมิ่ และการรอดชีวิตของประชากร ประเภทของทรัพยากรธรรมชาติ การใชป้ ระโยชน์
และการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ โดยใช้กระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การ

สำรวจตรวจสอบ การสบื คน้ ขอ้ มลู และการอภปิ รายขอ้ มลู เพ่อื ให้เกดิ ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ
สามารถสือ่ สารส่ิงท่ีเรยี นรู้ มีความสามารถในการตดั สนิ ใจ นำความรูไ้ ปใช้ในชวี ิตประจำวัน มจี ติ

วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และคา่ นิยมท่เี หมาะสม
ผลการเรยี นรู้

๑. ศึกษา วิเคราะห์และอธบิ ายความหลากหลายของระบบนเิ วศ

๒. ศึกษา วิเคราะหแ์ ละอธบิ ายความสมั พนั ธใ์ นระบบนิเวศ
๓. ศึกษา วิเคราะหแ์ ละอธบิ ายการถา่ ยทอดพลังงานและการหมนุ เวียนสาร

๔. ศกึ ษา วเิ คราะห์และอธบิ ายการเปลี่ยนแปลงแทนทข่ี องระบบนิเวศ
๕. ศกึ ษาคน้ คว้าความหมายของคำศพั ท์ที่เก่ียวข้องกับระบบนิเวศ
๖. ศึกษา วเิ คราะห์และอธิบายความหนาแน่นและการแพร่กระจายของประชากร

๗. ศึกษา วิเคราะห์และอธบิ ายขนาดของประชากร
๘. ศกึ ษา วเิ คราะห์และอธิบายรปู แบบการเพม่ิ ประชากร

๙. ศกึ ษา วเิ คราะห์และอธิบายการรอดชีวิตของประชากร
๑๐.ศกึ ษาคน้ คว้าความหมายของคำศพั ท์ที่เกี่ยวขอ้ งกบั ประชากร
๑๑.ศึกษา วิเคราะห์และอธบิ ายประเภทของทรัพยากรธรรมชาติ

๑๒.ศกึ ษา วิเคราะหแ์ ละอธิบายการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ
๑๓.ศกึ ษา วิเคราะห์และอธบิ ายหลักการอนรุ ักษ์ทรพั ยากรธรรมชาติ

๑๔.ศึกษาค้นควา้ ความหมายของคำศพั ท์ท่ีเกี่ยวข้องกับมนษุ ยก์ บั ความย่งั ยนื ของสิง่ แวดล้อม
รวมท้ังหมด ๑๔ ผลการเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์

หลกั สตู รโรงเรียนวงั โปง่ พทิ ยาคม พุทธศักราช 2562 (ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560) 45

กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์ คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
รายวชิ า โลกดาราศาสตร์ฯ 1 ภาคเรียนท่ี 1
จำนวน 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน รหสั วชิ า ว30261
จำนวน 1.0 หน่วยกิต

ศกึ ษาเก่ียวกับวิทยาศาสตร์โลก กระบวนการเปล่ียนแปลงของโลก ใช้ความรเู้ ร่ืองสมบัติทาง

กายภาพและทางเคมีในการจำแนกแร่และหิน ศึกษาการหาอายุทางธรณีวทิ ยา ตารางธรณีกาล และ
กลมุ่ หินท่ีสำคัญของประเทศไทย ศึกษาธรณโี ครงสรา้ งจากแนวแตก แนวเล่ือน หรอื แนวโค้งทเ่ี กดิ จาก
ความเค้นดึง ความเค้นบีบอัด และความเค้นเฉือน แปลความหมายของแผนที่ภูมิประเทศ แผนที่

ธรณีวิทยา และแผนท่ีอื่นๆ หาเส้นช้ันความสูง ประยุกต์ความรู้เก่ียวกับแผนท่ีไปใช้ประโยชน์ใน
ชีวิตประจำวัน ศึกษาแหล่งทรัพยากรพลงั งานทรัพยากรโลหะ และทรพั ยากรอโลหะ ประยุกต์ความรู้

เรือ่ งทรัพยากรไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบตา่ งๆศึกษาเกี่ยวกบั แผ่นดนิ ไหว สึนามิ แผน่ ดินถลม่ แผ่นดิน
ทรุด หลุมยุบ น้ำท่วม และภัยแล้ง ทำความเข้าใจธรรมชาติของธรณีพิบัติภัยเพ่ือเตรียมพร้อมรับ
สถานการณ์ โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ข้อมูล การ

สังเกต การวิเคราะห์ การอภิปราย การอธิบายและสรุป เพื่อให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มี
ความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารส่ิงที่เรียนรู้และนำความรู้ไปใช้ในชีวิตของตนเอง มีจิต

วทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งเน้นความเป็นไทยควบคู่กับ
ความเปน็ สากล

ผลการเรยี นรู้
๑. อธิบายการแบง่ ชัน้ และสมบัติของโครงสร้างโลกพรอ้ มยกตวั อย่างข้อมลู ที่สนับสนนุ

๒. อธิบายหลักฐานทางธรณวี ทิ ยาท่สี นบั สนุนการเคลื่อนท่ขี องแผน่ ธรณี
๓. ระบุสาเหตุและอธิบายแนวรอยต่อของแผ่นธรณีที่สัมพันธ์กับการเคลื่อนที่ของแผ่นธรณีพร้อม
ยกตัวอยา่ งหลกั ฐานทางธรณวี ิทยาท่พี บ

๔. วิเคราะหห์ ลกั ฐานทางธรณีวทิ ยาที่พบในปัจจบุ นั และอธบิ ายลาํ ดบั เหตุการณท์ างธรณวี ทิ ยา
ในอดตี

๕. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิดและปัจจัยท่ีทําให้ความรุนแรงของการปะทุและ
รปู ร่างของภูเขาไฟแตกต่างกัน รวมท้ังสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและนําเสนอแนวทางการ
เฝา้ ระวงั และการปฏิบตั ิตนให้ปลอดภยั

๖. อธบิ ายสาเหตกุ ระบวนการเกดิ ขนาดและความรนุ แรง และผลจากแผ่นดินไหว รวมทั้งสืบคน้ ขอ้ มูล
พน้ื ที่เส่ียงภัย ออกแบบและนาํ เสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบตั ติ นให้ปลอดภยั

๗. อธิบายสาเหตุกระบวนการเกิด และผลจากสึนามิรวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นท่ีเสี่ยงภัย ออกแบบและ
นาํ เสนอแนวทางการเฝ้าระวังและการปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภัย
๘. ตรวจสอบ และระบชุ นดิ แร่ รวมทง้ั วิเคราะห์สมบัตแิ ละนําเสนอการใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรแร่ท่ี

เหมาะสม
๙. ตรวจสอบ จําแนกประเภท และระบชุ อื่ หินรวมทงั้ วเิ คราะห์สมบัตแิ ละนําเสนอการใชป้ ระโยชน์ของ

ทรพั ยากรหนิ ท่เี หมาะสม
๑๐. อธิบายกระบวนการเกดิ และการสาํ รวจแหล่งปโิ ตรเลยี มและถ่านหนิ โดยใชข้ ้อมูลทางธรณีวทิ ยา

กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์

หลักสูตรโรงเรียนวงั โปง่ พทิ ยาคม พุทธศักราช 2562 (ฉบบั ปรบั ปรงุ พุทธศักราช 2560) 46

๑๑. อธิบายสมบตั ิของผลิตภัณฑ์ทีไ่ ด้จากปโิ ตรเลียมและถ่านหิน พร้อมนําเสนอการใช้ประโยชน์อยา่ ง
เหมาะสม
๑๒. อ่านและแปลความหมายจากแผนที่ ภูมปิ ระเทศและแผนทธ่ี รณีวิทยาของพื้นที่ ท่ีกําหนดพร้อม
ท้ังอธบิ ายและยกตัวอยา่ ง การนาํ ไปใช้ประโยชน์

รวมทั้งหมด ๑๒ ผลการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์

หลกั สูตรโรงเรยี นวงั โปง่ พิทยาคม พุทธศกั ราช 2562 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) 47

กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ คำอธบิ ายรายวิชาเพ่มิ เตมิ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4
รายวชิ า โลกดาราศาสตร์ฯ 2 ภาคเรียนที่ 2
จำนวน 40 ชวั่ โมง/ภาคเรียน รหสั วชิ า ว30262
จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ

ศึกษาองคป์ ระกอบของอากาศ ช้ันบรรยากาศ การหมุนเวยี นของระบบลมของโลก ปัจจัยการ

เกิดลม แบบจำลองการหมุนเวียนของระบบลมของโลก การหมุนเวียนของน้ำในมหาสมุทร การแบ่ง
ช้นั น้ำในมหาสมุทร เมฆและการเกิดเมฆ เสถียรภาพของอากาศ แนวปะทะอากาศ พายุฝนฟ้าคะนอง
ทอร์นาโด พายหุ มุนเขตรอ้ น การเกิดมรสมุ อทิ ธิพลของมรสมุ ตอ่ ประเทศไทย ร่องมรสมุ ปรากฏการณ์

เอลนีโญ และลานีญา ปรากฏการณ์เรือนกระจก คลื่นความร้อน การตรวจอากาศ ขั้นตอนในการ
พยากรณ์อากาศ วิธีการพยากรณ์อากาศ แผนท่ีอากาศ แสงและสมบัติทางแสง สีของท้องฟ้า รุ้ง

อาทติ ย์ทรงกลด จันทร์ทรงกลดและมิราจ โดยใชก้ ระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ กระบวนการสบื เสาะ
หาความรู้ การสืบค้นข้อมูล การสังเกตการวิเคราะห์ การอภิปราย การอธิบายและสรุป เพื่อให้เกิด
ความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ สื่อสารสิ่งที่เรียนร้แู ละนำความรู้ไปใชใ้ น

ชวี ิตของตนเอง มจี ติ วิทยาศาสตร์ จริยธรรมคณุ ธรรม และค่านยิ มทถ่ี ูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งเน้นความ
เป็นไทยควบค่กู ับความเปน็ สากล

ผลการเรยี นรู้

๑. อธิบายปัจจัยสําคัญที่มีผลต่อการรับและคายพลังงานจากดวงอาทิตย์แตกต่างกันและผลท่ีมีต่อ

อุณหภูมอิ ากาศในแตล่ ะบรเิ วณของโลก

๒. อธิบายกระบวนการท่ที ําใหเ้ กิดสมดลุ พลังงานของโลก

๓. อธิบายผลของแรงเน่ืองจากความแตกต่างของความกดอากาศ แรงคอริออลิส แรงสู่ศนู ย์กลางและ

แรงเสยี ดทานท่ีมตี อ่ การหมนุ เวียนของอากาศ

๔. อธิบายการหมุนเวียนของอากาศตามเขตละติจูดและผลทีม่ ีต่อภูมอิ ากาศ

๕. อธิบายปจั จยั ท่ีทาํ ใหเ้ กิดการแบ่งชั้นนํา้ ในมหาสมทุ ร

๖. อธิบายปัจจัยท่ีทําให้เกิดการหมุนเวียนของน้ําในมหาสมุทรและรูปแบบการหมุนเวียนของน้ําใน

มหาสมุทร

๗. อธบิ ายผลของการหมุนเวียนของนาํ้ ในมหาสมุทรทีม่ ีต่อลักษณะลมฟา้ อากาศ สิ่งมชี ีวิต

๘. อธบิ ายความสมั พันธ์ระหวา่ งเสถยี รภาพอากาศและการเกดิ เมฆ

๙. อธิบายการเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆและลกั ษณะลมฟา้ อากาศท่เี ก่ียวข้อง

๑๐. อธิบายปัจจัยต่างๆ ท่ีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงภูมิอากาศของโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูล

สนบั สนุน

๑๑. วิเคราะหแ์ ละอภิปรายเหตุการณ์ที่เป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก และนําเสนอแนว

ปฏบิ ัติของมนษุ ยท์ มี่ สี ่วนชว่ ยในการชะลอการเปลย่ี นแปลงภูมอิ ากาศโลก

๑๒. แปลความหมายสญั ลักษณ์ลมฟ้าอากาศบนแผนทอี่ ากาศ

๑๓. วิเคราะห์และคาดการณ์ลักษณะลมฟ้าอากาศเบื้องต้นจากแผนที่อากาศและข้อมูลสารสนเทศ

อืน่ ๆ เพื่อวางแผนในการประกอบอาชีพและการดาํ เนินชวี ิตให้สอดคลอ้ งกับสภาพลมฟา้ อากาศ

รวมทง้ั หมด ๑๓ ผลการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์

หลกั สูตรโรงเรยี นวงั โปง่ พทิ ยาคม พุทธศักราช 2562 (ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศักราช 2560) 48

กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์ คำอธบิ ายรายวชิ าเพิม่ เติม ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6
รายวชิ า โลกดาราศาสตร์ฯ 3 ภาคเรียนท่ี 1
จำนวน 40 ชว่ั โมง/ภาคเรียน รหสั วชิ า ว30263
จำนวน 1.0 หน่วยกติ

ศึกษาพิกัดของดาวบนทรงกลมฟา้ ตามพิกดั ขอบฟ้า พิกดั เส้นศูนยส์ ูตรฟ้า และพิกัดสุริยะวิถี

เวลาสุริยคติและเวลาดาราคติ แบบจำลองของระบบสุริยะ การเคลื่อนที่ปรากฏของดาวเคราะห์และ
มมุ ห่างกฎเคพเลอร์และแรงโนม้ ถ่วงที่ทำให้ดวงอาทิตย์และบริวารอยู่เป็นระบบ ศึกษาการกำเนิดดาว
ฤกษ์ การแผ่พลังงานและค่าดัชนีสีของดาวฤกษ์ โชติมาตรปรากฏและโชติมาตรสัมบูรณ์ ศึกษา

วิวัฒนาการของดาวฤกษ์ระบบดาวคู่ กระจุกดาว กาแล็กซี และกระจุกกาแล็กซี การขยายตัวของเอก
ภพโดยใช้กฎของฮับเบิล ศึกษาหลักการทำงานของกล้องโทรทรรศน์แบบต่างๆ ศึกษากำลังแยก

กำลังขยาย และกำลังรวมแสงของกล้องโทรทรรศน์ ศึกษาการสังเกตการณ์ทางดาราศาสตร์และ
อุปกรณ์สังเกตการณ์ในช่วงความยาวคลื่นต่างๆโดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ กระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้ การสืบคน้ ข้อมูลการสงั เกต การวิเคราะห์ การอภปิ ราย การอธบิ ายและสรุป เพอ่ื ให้

เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ มีความสามารถในการตัดสินใจ ส่ือสารสงิ่ ท่ีเรยี นรู้และนำความรู้ไป
ใช้ในชีวิตของตนเอง ดูแลรักษาส่ิงมีชีวิตอื่น เฝ้าระวังและพัฒนาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน มีจิต

วิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่ถูกต้องเหมาะสม โดยมุ่งเน้นความเป็นไทยควบคู่กับ
ความเป็นสากล

ผลการเรยี นรู้
๑. อธิบายการกาํ เนดิ และการเปล่ียนแปลงพลังงานสสาร ขนาดอุณหภมู ิของเอกภพหลังเกิดบกิ แบงใน
ชว่ งเวลาตา่ ง ๆ ตามวิวฒั นาการของเอกภพ
๒. อธิบายหลักฐานท่ีสนับสนุนทฤษฎีบิกแบงจากความสัมพันธ์ระหว่างความเร็วกับระยะทางของ
กาแลก็ ซีรวมท้ังขอ้ มลู การค้นพบไมโครเวฟพื้นหลงั จากอวกาศ
๓. อธิบายโครงสร้างและองค์ประกอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก และระบุตําแหน่งของระบบสุริยะ
พร้อมอธบิ ายเชื่อมโยงกับ การสงั เกตเหน็ ทางชา้ งเผือกของคนบนโลก
๔. อธิบายกระบวนการเกิดดาวฤกษ์โดยแสดงการเปลี่ยนแปลงความดัน อุณหภูมิขนาดจากดาวฤกษ์
ก่อนเกิดจนเป็นดาวฤกษ์
๕. อธิบายกระบวนการสร้างพลังงานของดาวฤกษ์และผลท่ีเกิดข้ึน โดยวิเคราะห์ปฏิกิริยาลูกโซ่
โปรตอน-โปรตอน และวฏั จักรคาร์บอนไนโตรเจน ออกซิเจน
๖. ระบุปัจจัยท่สี ่งผลต่อความส่องสวา่ งของดาวฤกษ์และอธบิ ายความสัมพันธ์ระหวา่ งความส่องสว่าง
กบั โชติมาตรของดาวฤกษ์
๗. อธิบายความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งสีอณุ หภมู ผิ ิวและสเปกตรัมของดาวฤกษ์
๘. อธิบายวิธีการหาระยะทางของดาวฤกษ์ด้วยหลักการแพรัลแลกซ์พร้อมคํานวณหาระยะทางของ
ดาวฤกษ์
๙. อธิบายลําดับววิ ัฒนาการท่ีสัมพันธ์กับมวลตั้งต้นและวิเคราะห์การเปล่ียนแปลงสมบัติบางประการ
ของดาวฤกษใ์ นลาํ ดับวิวัฒนาการ จากแผนภาพเฮริ ซ์ ปรุง-รสั เซลล์

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์

หลักสตู รโรงเรยี นวังโปง่ พิทยาคม พทุ ธศักราช 2562 (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560) 49

๑๐. อธิบายกระบวนการเกิดระบบสุริยะการแบ่งเขตบริวารของดวงอาทิตย์และลักษณะของดาว
เคราะหท์ เี่ อือ้ ตอ่ การดํารงชวี ิต
๑๑. อธิบายการโคจรของดาวเคราะหร์ อบดวงอาทิตยด์ ว้ ยกฎเคพเลอร์และกฎความโน้มถว่ งของนิวตัน
พร้อมคาํ นวณคาบการโคจรของดาวเคราะห์
๑๒. อธบิ ายโครงสร้างของดวงอาทิตย์การเกดิ ลมสรุ ิยะ พายุสุริยะ และวิเคราะห์นาํ เสนอปรากฏการณ์
หรือเหตุการณ์ทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ผลของลมสรุ ิยะ และพายสุ รุ ิยะทีม่ ีตอ่ โลกรวมทัง้ ประเทศไทย
๑๓. สร้างแบบจําลองทรงกลมฟ้าสังเกตและเช่ือมโยงจดุ และเส้นสาํ คัญของแบบจําลองทรงกลมฟา้ กับ
ท้องฟา้ จริง และอธบิ ายการระบุพกิ ัดของดาวในระบบขอบฟา้ และระบบศูนยส์ ตู ร
๑๔. สงั เกตท้องฟ้า และอธบิ ายเส้นทางการขึน้ การตกของดวงอาทิตยแ์ ละดาวฤกษ์
๑๕. อธิบายเวลาสุริยคติปรากฏ โดยรวบรวมข้อมูลและเปรียบเทียบเวลาขณะท่ีดวงอาทิตย์ผ่านเม
ริเดยี นของผ้สู งั เกตในแต่ละวัน
๑๖. อธิบายเวลาสุริยคติปานกลาง และการเปรียบเทยี บเวลาของแต่ละเขตเวลาบนโลก
๑๗. อธิบายมุมหา่ งที่สัมพันธ์กับตําแหน่งในวงโคจร และอธิบายเชื่อมโยงกับตําแหน่งปรากฏของดาว
เคราะหท์ ่สี ังเกตไดจ้ ากโลก
๑๘. สืบค้นข้อมูล อธิบายการสํารวจอวกาศ โดยใช้กล้องโทรทรรศน์ในช่วงความยาวคล่ืนต่าง ๆ
ดาวเทียมยานอวกาศสถานีอวกาศและนําเสนอแนวคิดการนําความ รู้ทางด้านเทคโนโลยีอวกาศมา
ประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจาํ วันหรอื ในอนาคต
๑๙. สืบค้นข้อมูล ออกแบบ และนําเสนอกิจกรรมการสังเกตดาวบนท้องฟ้าด้วยตาเปล่าและ/หรือ
กลอ้ งโทรทรรศน์

รวมทง้ั หมด ๑๙ ผลการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์

หลกั สตู รโรงเรียนวังโปง่ พิทยาคม พทุ ธศักราช 2562 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศักราช 2560) 50

กลุม่ สาระการเรยี นรูว้ ิทยาศาสตร์ คำอธิบายรายวชิ าเพมิ่ เติม ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6
รายวิชา โลกดาราศาสตรฯ์ 4 ภาคเรียนที่ 2
จำนวน 40 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น รหสั วิชา ว30263
จำนวน 1.0 หนว่ ยกิต

ศกึ ษา อธิบาย วิเคราะห์ การเกิดเมฆ ลมฟ้าอากาศ แปลความหมายสัญลักษณ์ลมฟ้าอากาศ
บนแผนท่อี ากาศ คาดการณล์ ักษณะลมฟ้าอากาศเบื้องตน้ จากแผนที่อากาศและข้อมูลสารสนเทศ เพ่ือ
วางแผนในการประกอบอาชีพและการดำเนนิ ชีวติ ให้สอดคล้องกับสภาพลมฟา้ อากาศ

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสบื เสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การสืบค้น
ขอ้ มลู การอภิปรายและการทดลอง

เพ่ือให้เกิดความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่งิ ที่เรียนรู้ มีความสามารถในการ
ตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวันมีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมที่
เหมาะสม ตามแนวคิดหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

ผลการเรยี นรู้
1. อธบิ ายความสมั พนั ธ์ระหว่างเสถียรภาพ อากาศและการเกิดเมฆ
2. อธิบายการเกิดแนวปะทะอากาศแบบต่าง ๆ และลกั ษณะลมฟา้ อากาศทเี่ กี่ยวขอ้ ง
3. อธิบายปัจจัยต่าง ๆ ที่มีผลต่อ การเปล่ียนแปลงภูมิอากาศของโลก พร้อมยกตัวอย่างข้อมูล
สนับสนนุ
4. วเิ คราะห์ และอภิปรายเหตุการณ์ท่ีเปน็ ผล จากการเปลยี่ นแปลงภมู ิอากาศ และนำเสนอแนวปฏิบัติ
ของมนษุ ย์ท่มี สี ว่ นช่วย ในการชะลอการเปลย่ี นแปลงภูมิอากาศโลก
5. แปลความหมายสญั ลักษณ์ลมฟ้าอากาศ บนแผนทีอ่ ากาศ
6. วเิ คราะห์ และคาดการณ์ลกั ษณะลมฟา้ อากาศเบ้ืองต้นจากแผนทอี่ ากาศและข้อมูลสารสนเทศ เพื่อ
วางแผนในการประกอบอาชีพและการดำเนินชวี ติ ใหส้ อดคล้องกับสภาพลมฟา้ อากาศ

รวมทง้ั หมด 6 ผลการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์

หลักสตู รโรงเรยี นวงั โปง่ พิทยาคม พุทธศกั ราช 2562 (ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศักราช 2560) 51

คำอธิบายรายวิชาเพมิ่ เติม (หลกั สตู รทวิศกึ ษา)

กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

รายวชิ า สารและสมบัตขิ องสาร รหัสวิชา ว30227 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4/2

จำนวน 40 ชว่ั โมง/ภาคเรยี น จำนวน 1.0 หน่วยกติ ภาคเรียนท่ี 1

ศึกษาวิวัฒนาการของแบบจำลองอะตอม อนุภาคมูลฐานของอะตอม เลขมวล เลขมวล

และมวลไอโซโทป การจดั เรยี งอิเล็กตรอนในอะตอมของธาตุบางชนิด ตารางธาตุ สมบัติความเป็น
โลหะและอโลหะของธาตุตามตารางธาตุ พันธะเคมี การเกิดปฏิกิริยาเคมี พลังงานกับการ
เกิดปฏิกิรยิ าเคมี อัตราการเกิดปฏิกริ ิยาเคมี ปจั จยั ท่ีมีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกริ ิยา ปฏิกริ ิยาเคมีใน

ชีวิตประจำวัน การเกิดและแหล่งปิโตรเลียม การแยกแก๊สธรรมชาติ การกล่ันนำ้ มันดิบเช้ือเพลิงใน
ชีวิตประจำวันการเกิดปิโตรเลียม พอลิเมอร์ธรรมชาติและพอลเิ มอร์สงั เคราะห์ การสังเคราะหพ์ อลิ

เมอร์ โครงสร้างและสมบัติของพอลิเมอร์ ผลิตภัณฑ์จากพอลิเมอร์ คาร์โบไฮเดรต ลิพิด โปรตีน
และกรดนิคลีอิก

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบคน้ ขอ้ มลุ สำรวจตรวจสอบ ทดลอง วิเคราะห์

อภปิ รายและสรุปผล เพอ่ื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเข้าใจ ความสามารถในการสอ่ื สาร การคิด
การแก้ปัญหา การใช้เทคโนโลยี เกี่ยวกับธาตุและสารประกอบ ปฏิกิริยาเคมี สารชีวโมเล กุล

ปโิ ตรเลียม และพอลเิ มอร์
นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน มีความซ่ือสัตย์สุจริต ใฝ่เรียนรู้ มุ่งมันในการ

ทำงาน มีจิตวทิ ยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรมและค่านยิ มทเี่ หมาะสม

ผลการเรยี นรู้

1. สบื ค้นขอ้ มูลและอธบิ ายโครงสร้างอะตอม และสญั ลกั ษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ
2. วเิ คราะหแ์ ละอธิบายการจดั เรยี งอิเล็กตรอนในอะตอมความสัมพันธ์ระหว่างอิเล็กตรอนใน
ระดบั พลงั งานนอกสุดกบั สมบัติของธาตุและการเกิดปฏกิ ริ ิยา

3. อธิบายการจัดเรียงธาตุและทำนายแนวโน้มสมบตั ิของธาตุในตารางธาตุ
4. วิเคราะหแ์ ละอธบิ ายการเกิดพันธะเคมใี นโครงผลึกและในโมเลกลุ ของสาร

5. สืบคน้ ข้อมูลและอธิบายความสัมพนั ธร์ ะหว่างจุดเดือด จุดหลอมเหลวและสถานะของสาร
กับแรงยดึ เหนย่ี วระหว่างอนภุ าคของสาร

6. ทดลอง อธบิ าย และเขียนสมการของปฏกิ ิรยิ าเคมีทวั่ ไปที่ในชวี ิตประจำวนั รวมท้งั อธบิ าย

ผลของสารเคมีที่มตี ่อสิ่งมชี ีวิตและส่งิ แวดล้อม
7. ทดลองและอธิบายอัตราการเกิดปฏิกิริยาเคมี ปจั จัยที่มีผลต่ออัตราการเกิดปฏิกิรยิ าเคมี

และนำความรู้ไปใช้ประโยชน์
8. ทดลองและอธบิ ายองค์ประกอบ ประโยชน์ และปฏิกิริยาบางชนิดของ คาร์โบไฮเดรต
9. ทดลองและอธิบายองค์ประกอบ ประโยชน์ และปฏิกริ ิยาบางชนดิ ของไขมนั และน้ำมัน

10. ทดลองและอธิบายองค์ประกอบ ประโยชน์ และปฏิกิริยาบางชนิดของโปรตีนและกรด
นิวคลีอกิ

11. สืบค้นข้อมูลและอธิบายการเกิดปิโตรเลียม กระบวนการแยกแก๊สธรรมชาติ และการ
กล่ันลำดับส่วนนำ้ มนั ดิบไปใชป้ ระโยชน์รวมท้ังผลของผลติ ภัณฑต์ ่อส่ิงมีชวี ิตและสิง่ แวดลอ้ ม

กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์

หลักสูตรโรงเรียนวังโปง่ พทิ ยาคม พทุ ธศักราช 2562 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช 2560) 52

12. สืบค้นข้อมูลอภิปรายการนำผลิตภัณฑ์การแยกแก๊สธรรมชาติและการกล่ันลำดับส่วน
น้ำมนั ดิบไปใช้ประโยชนร์ วมท้งั ผลของผลิตภณั ฑต์ ่อสิ่งมชี วี ติ และสิ่งแวดล้อม

13. ทดลองและอธบิ ายการเกดิ พอลิเมอร์ สมบตั ิของพอลเิ มอร์
14. อภปิ รายการนำพอลิเมอร์ไปใช้ประโยชน์ รวมทั้งผลที่เกิดจากการผลิตและใช้พอลิเมอร์
ต่อสิง่ มีชวี ติ และส่งแวดลอ้ ม

กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์

หลักสูตรโรงเรียนวงั โปง่ พิทยาคม พทุ ธศกั ราช 2562 (ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช 2560) 53

คำอธบิ ายรายวิชาเพ่ิมเติม (หลักสูตรทวศิ ึกษา)

กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์

รายวิชา โครงงานวิทยาศาสตร์ รหัสวชิ า ว30228 ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 4/2

จำนวน 40 ชัว่ โมง/ภาคเรียน จำนวน 1.0 หนว่ ยกติ ภาคเรียนท่ี 2

ศึกษา วิเคราะห์ ทดลอง และอภิปรายความหมายและประเภทของโครงงานวิทยาศาสตร์
การวิเคราะห์โครงงานวิทยาศาสตร์ ศึกษาค้นคว้าเอกสาร สำรวจสภาพแวดล้อมในท้องถิ่น อัน

นำไปสู่การระบุช่ือเรอ่ื งหรือปัญหาสำหรับทำโครงงานวิทยาศาสตร์ ค้นคว้าเอกสารท้ังด้านทฤษฎีและ
เทคนิคปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับโครงงานท่ีทำ รวบรวมข้อมูลเบื้องต้น ออกแบบการทดลอง วาง

แผนการดำเนินงาน ทำการทดลอง การเขยี นเคา้ โครงย่อของโครงงานวิทยาศาสตร์ การทำโครงงาน
วิทยาศาสตร์และการเขียนรายงานโครงงานและ การจดั แสดงโครงงานวิทยาศาสตร์

โดยใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ การสำรวจตรวจสอบ การ

สบื คน้ ขอ้ มลู และการอภปิ ราย
เพ่ือให้เกิด ความรู้ ความคิด ความเข้าใจ สามารถส่ือสารส่ิงที่เรียนรู้ มีความสามารถใน

การตัดสินใจ นำความรู้ไปใช้ในชีวิตประจำวัน มีจิตวิทยาศาสตร์ จริยธรรม คุณธรรม และค่านิยมท่ี
เหมาะสม

ผลการเรียนรู้
๑. บอกหรอื อธิบายความหมายของโครงงานวทิ ยาศาสตรไ์ ด้
๒. บอกหลักการและจุดมุ่งหมายในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์ได้

๓. บอกหรืออธิบายคณุ ค่าของการทำโครงงานวิทยาศาสตรไ์ ด้
๔. อธิบายลกั ษณะของโครงงานวิทยาศาสตร์แต่ละประเภท และจำแนกประเภทของโครงงาน

วทิ ยาศาสตรไ์ ด้
๕. บอกหรอื อธบิ ายแนวทางในการเลอื กหวั ขอ้ เรือ่ งในการทำโครงงานได้
๖. อธบิ ายหลกั การต้งั ช่อื โครงงาน สามารถต้งั ช่อื โครงงานวิทยาศาสตร์ได้

๗. อธบิ ายความสำคญั ของเอกสารท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั โครงงานได้
๘. บอกแหล่งความรทู้ ่ใี ช้ในการศกึ ษาค้นคว้าประกอบการทำโครงงานได้

๙. บอกสว่ นประกอบเค้าโครงย่อของโครงงาน เขยี นเค้าโครงยอ่ ของโครงงานได้
๑๐.จดั ทำโครงงานวิทยาศาสตรต์ ามความถนัดและความสนใจกลุม่ ละ 1 โครงงานได้
๑๑. เขยี นรายงานประกอบการทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ได้

๑๒. นำเสนอและจัดแสดงผลงานในรูปแบบการนำเสนอปากเปล่า หรือ นิทรรศการของ
โครงงานได้

๑3. ระบุปญั หาจากชวี ติ ประจำวันเพอื่ นำไปสกู่ ารทำโครงงานวิทยาศาสตร์
14. สืบค้นข้อมูลประกอบการทำโครงงานวิทยาศาสตรจ์ ากแหล่งขอ้ มูลท่ีหลากหลาย และมี
ความนา่ เช่อื ถือ

15. วเิ คราะห์ปัญหา วางแผนการทดลอง
16. ทำงานเป็นกลุ่มมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ในการแสดงความคิดเห็น การออกแบบหรือ

ดดั แลงการทดลอง ตลอดจนวัสดุอปุ กรณ์ในการทำโครงงานวิทยาศาสตร์
17. ทำโครงงานวทิ ยาศาสตร์ตามความถนดั และสนใจกล่มุ ละโครงงาน

กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์

หลกั สตู รโรงเรยี นวังโปง่ พิทยาคม พทุ ธศักราช 2562 (ฉบับปรบั ปรุง พุทธศักราช 2560) 54

18. เขยี นรายงานประกอบการทำโครงงานวิทยาศาสตรไ์ ด้
19. นำเสนอและจัดแสดงผลงานในรปู แบบการนำเสนอปากเปลา่ หรือ นิทรรศการ

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์


Click to View FlipBook Version