บทที่ 2 ประเภทของการจัดน าเที่ยว ตามพระราชบัญญัติธุรกิจน าเที่ยวและมัคคุเทศก์ พ .ศ.2535กล่าวถึงธุรกิจน าเที่ยวว่า หมายถึง การประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดหรือการให้บริการหรืออ านวยความสะดวกเกี่ยวกับ การเดินทาง สถานที่พัก อาหาร ทัศนาจร และหรือมัคคุเทศก์ให้แก่นักท่องเที่ยว ธุรกิจ จัดน าเที่ยว จึงเป็ นธุรกิจที่ต้องจัดการเตรียมความพร้อมให้กับนักท่องเที่ยวในการเดินทางเพื่อการท่องเที่ยวไป ในสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเป็ นการพักผ่อน หรือเพื่อความสนุกสนานเพลิดเพลิน เพื่อการศึกษา หรือ สนองตอบ ตามวัตถุประสงค์ของนักท่องเที่ยว โดยธุรกิจจัดน าเที่ยวจะ มีการจัดยานพาหนะ สถานที่ท่องเที่ยว ที่รับประทานอาหาร จัดหาที่พัก มีมัคคุเทศก์คอยให้ความสะดวก ซึ่งการ จดัเตรียมสิ่งต่าง ๆ ใหพ้ร้อมดงักล่าวจา เป็นอยา่งยงิ่ที่ตอ้งคา นึงถึงความตอ้งการของนกัท่องเที่ยว ที่นบัวนัจะมีความหลากหลายมากข้ึน ซ่ึงจะส่งผลให้รูปแบบการจัดน าเที่ยวของบริษัทน าเที่ยวใน ปัจจุบันมีความหลากหลายตามไปด้วย ต่อไปน้ีจะกล่าวถึงประเภทของการจัดน าเที่ยวซึ่งด าเนินการโดยธุรกิจจัดน าเที่ยว แต่ จะไม่กล่าวรวมถึงประเภทของการจัดน าเที่ยวโดยสถานประกอบการรัฐวิสาหกิจ เช่น การรถไฟ แห่งประเทศไทย หรือบริษัทสายการบิน การจัดน าเที่ยวโดยทั่วไป การจัดน าเที่ยว โดยทวั่ ไปสามารถจ าแนกได้เป็ น 2 ลักษณะใหญ่ ๆ คือจัดน าเที่ยวตาม ความต้องการของนักท่องเที่ยวและจัดตามรายการน าเที่ยวที่ได้เตรียมไว้แล้ว 1. การ จัดน าเที่ยวตามความต้องการของนักท่องเที่ยว การน าเที่ยวแบบน้ีจะกา หนด งบประมาณรายการต่าง ๆ ให้สนองตอบตรงความต้องการของกลุ่มนักท่องเที่ยวให้มากที่สุด ต้อง สามารถ สร้างความประทับใจ โดยจัดให้มีกิจกรรมสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของกลุ่ม นักท่องเที่ยว 2. การ จัดน าเที่ยวตามรายการน าเที่ยวที่เตรียมไว้แล้ว แบ่งเป็ น 2 ประเภท คือ 2.1 Collective Tour คือ การจัดน าเที่ยวที่บริษัทน าเที่ยวเป็ นผู้ก าหนด รายการ นา เที่ยวท้งัหมดเป็นแบบเหมาจ่าย (Package Tour) โดยมีก าหนดวันเวลาเดินทาง มีการจัดเตรียม ยานพาหนะ โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยว ตลอด จนเส้นทางการเดินทาง และแจ้ง
32 ราคาขายแลว้โฆษณาประชาสมัพนัธใ์หล้กูคา้ที่สนใจเลือกซ้ือรายการจดันา เที่ยวแบบน้ีอาจ เรียกว่ารายการน าเที่ยวส าหรับขายหน้าร้าน (ทัวร์หน้าร้าน) 2.2 Incentive Tour คือ การจัดน าเที่ยวเพื่อเป็ นรางวัลแก่พนักงานโดยที่ลูกค้าหรือ นักท่องเที่ยวจะเป็ นผู้มีส่วนร่วมในการ ก าหนดความต้องการในบางเรื่องหรือ อาจทุกเรื่อง เช่น สถานที่ท่องเที่ยว วันเวลา เดินทาง โรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ฯลฯ โดยที่บริษัทน าเที่ยว จะเป็ น ผู้ด าเนินการจัดลงรายการ ต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับ ความต้องการ เวลา และงบประมาณที่ ลูกค้ามี การจดันา เที่ยวแบบน้ีโดยมากนกัท่องเที่ยวมกัใหผ้จู้ดันา เที่ยวจดัหากิจกรรมระหว่างการเดินทาง ด้วยเช่น จัดให้มีกิจกรรมวอล์ก แรลลี่ ( Walk Rally) จัดให้มีงานรื่นเริง ร้องเพลงคาราโอเกะ (Karaoke)จัดให้มีกิจกรรมมอบรางวัลให้แก่พนักงาน เป็ นต้น การจัดน าเที่ยวที่เป็ นสากล แบ่งออกได้ 3 ประเภท คือ 1. การจัดน าเที่ยวในประเทศ (Domestic Tour) เป็ นการจัดน าเที่ยวที่ให้นักท่องเที่ยว ในประเทศ และนกัท่องเที่ยวต่างประเทศที่มีถิ่นพา นกัอยใู่นประเทศไดท้ ่องเที่ยวตามแหล่ง ท่องเที่ยวต่าง ๆ ภายในประเทศ โดยบริษัทน าเที่ยวจะเป็นผจู้ดัการท่องเที่ยวท้งัหมด นบัต้งัแต่การ จัดรายการน าเที่ยว ติดต่อที่พัก ร้านอาหาร และยานพาหนะ ตลอดจนจัดหามัคคุเทศก์ การจัดน าเที่ยวอาจจะเป็ น ลักษณะไปเช้า เย็นกลับ หรือจัดในช่วงวันหยุดสุด สัปดาห์ หรือจัดตามเทศกาลวันหยุดยาวต่าง ๆ ส่วนใหญ่นิยมจัดน าเที่ยวโดยรถโค้ช หรืออาจจัด นา เที่ยวโดยรถตูห้รือรถส่วนตวัในกรณีที่มีลกูคา้นอ้ย หรือตอ้งไปในสถานที่ๆ เป็นถิ่นที่เขา้ถึง ล าบากเป็ นภูเขาต่างๆ หรืออาจจัดไปกลับโดยเครื่องบินและ ต่อด้วยการใช้รถโค้ชน าเที่ยวตาม แหล่งท่องเที่ยว ทา ใหไ้ม่เสียเวลาเดินทาง แต่ราคาค่าบริการก็จะแพงข้ึน นอกจากน้ียงัอาจจดัเป็น รายการน าเที่ยวแบบเหมาจ่าย (Package Tour) หรือจัดตามความต้องการของลูกค้าก็ได้ ปัจจุบัน บริษัทน าเที่ยวไทย ได้จัดน าเที่ยวภายในประเทศกันมาก เนื่องจากจัดง่าย ไม่ต้องมีตัวแทนใน ต่างประเทศ แต่เนื่องจากมีทรัพยากรแหล่งท่องเที่ยว สถานประกอบการผู้ผลิตต่าง ๆ ก็มีอยู่จ ากัด โดยเฉพาะหน้าเทศกาลท่องเที่ยว ท าให้มีการแข่งขันกันสูงในเรื่องการขาย บริษัทน าเที่ยวต่าง ๆ จึงพยายามหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ๆ ภายในประเทศมาเป็ นจุดขาย (ไกรสีห์ ชาญณรงค์, 2534) 2. การจัดน าเที่ยวเข้าประเทศ (Inbound Tour) เป็ นการจัดน าเที่ยวให้ชาว ต่างประเทศเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศ โดยบริษัทน าเที่ยวในต่างประเทศ จะติดต่อผ่าน สาขาหรือตวัแทนจดัจา หน่ายทอ้งถิ่น (Local Agent) ประจ าประเทศไทย ตวัแทนจา หน่ายทอ้งถิ่น
33 ก็จะทา หนา้ที่เป็นตวัแทนจดัการท่องเที่ยวภาคพ้ืนดิน (Land Arrangement)ให้กับบริษัทน าเที่ยว ต่างประเทศ การจดันา เที่ยวน้ีสามารถทา ได้2 วิธี คือ 2.1 จัดตามความต้องการของบริษัทน าเที่ยวต่างประเทศ 2.2 บริษัทน าเที่ยวในประเทศจัดเสนอขายบริการหรือรายการ ท่องเที่ยวต่าง ๆ ไป ยังบริษัทน าเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งอาจได้แก่ 2.2.1 จัดเป็ นรายการน าเที่ยวยอดนิยมต่าง ๆ 2.2.2 จัดเป็ นรายการน าเที่ยวส าหรับกลุ่มที่สนใจพิเศษเฉพาะเรื่อง 2.2.3 จัดโปรแกรมน าเที่ยวส าหรับโอกาสพิเศษ หรือเทศกาลส าคัญ ๆ เช่น งานลอยกระทงที่สุโขทัย งานเทศกาลอาหารทะเลที่ภูเก็ต หรือมหกรรม งานพืชสวนโลก ที่ เชียงใหม่ เป็ นต้น 2.2.4 จัดรายการน าเที่ยวก่อนหรือหลัง ( Pre Tour or Post Tour) งานประชุม ที่จดัข้ึนในประเทศไทย 2.2.5 จดัโปรแกรมใหน้กัท่องเที่ยว ไดม้ีโอกาสสมัผสักบัสิ่งแวดลอ้มทอ้งถิ่น เช่น เยี่ยมชมชีวิตความเป็ นอยู่ของชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ทางภาคเหนือ 2.2.6 จัดตามความต้องการขององค์กรหรือหน่วยงาน ส าหรับเป็ นรางวัล ให้กับพนักงาน หรือเพื่อศึกษาดูงาน 2.2.7 จัดบริการรับส่ง (Transfer In, Transfer Out) การจดันา เที่ยวประเภทน้ีบริษทันา เที่ยว ในประเทศจะจัดการท่องเที่ยว ในด้าน ต่าง ๆ ให้บริษัทน าเที่ยวจากต่างประเทศ ขณะที่อยู่ในประเทศ โดยจัดหายานพาหนะรับส่ง ระหว่างสนามบินกับโรงแรม และพานักท่องเที่ยวต่างประเทศไปยังแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ติดต่อ ที่พักตามแหล่งท่องเที่ยว จัดการเรื่องอาหาร ให้มีความหลากหลายตลอดเวลาที่อยู่ในประเทศ จัด มคัคุเทศกใ์หร้่วมเดินทางไปกบัคณะ ตลอดจนการพาไปซ้ือของที่ระลึกโดยรายการท่องเที่ยวจะ เป็นไปตามกา หนดที่ตกลงกนัไว้สิ่งสา คญัของบริษทันา เที่ยวที่ตอ้งคา นึงถึงในการท่องเที่ยว ประเภทน้ีคือ ประสิทธิภาพในการจดัการและมคัคุเทศกต์อ้งมีคุณภาพ สามารถพูดภาษาของ นักท่องเที่ยว หรือสามารถพูดภาษากลางที่ใช้สื่อสารกับนักท่องเที่ยวได้เป็ นอย่างดี ควรมีความรู้ กว้างขวางเกี่ยวกับประเทศไทย เพื่อเป็ นการสร้างศรัทธา และความเชื่อถือให้กับนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ 3. การจัดน าเที่ยว ไปต่าง ประเทศ (Outbound Tour) เป็ นการจัดน าเที่ยวที่ น า นักท่องเที่ยวในประเทศออกไปท่องเที่ยวยังต่างประเทศ โดยบริษัทน าเที่ยว ในประเทศจะติดต่อ ผ่านบริษัทน าเที่ยวในต่างประเทศ (Local Agent) ซึ่งเปรียบเสมือนเป็ นตัวแทนทางการท่องเที่ยว
34 ในต่างประเทศ (Land Arrangement) ให้กับบริษัทน าเที่ยวในประเทศ และจะเป็ นผู้รับผิดชอบใน การจัดน าเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวขณะที่ท่องเที่ยวอยู่ในต่างประเทศ เช่น นักท่องเที่ยวชาวไทยไป เที่ยวประเทศสหรัฐอเมริกาหรือประเทศอิตาลีก็จะมีตวัแทนของบริษทันา เที่ยวประเทศน้นัๆ คอยต้อนรับและ น าเที่ยวในขณะที่อยใู่นประเทศน้นัๆ ตวัอยา่ง อีกลักษณะหนึ่ง เช่น บริษัทน า เที่ยว A ในไทย ให้บริษัทน าเที่ยว B ในประเทศอังกฤษเป็ นตัวแทนจัดน าเที่ยวไปยังประเทศ สเปน หรือโปรตุเกสซึ่งเป็ นประเทศที่สาม แบบน้ีก็สามารถเรียกไดว้่า เป็นการจดันา เที่ยวแบบ Outbound Tour ได้เช่นกัน การจดันา เที่ยวประเภทน้ีบริษทันา เที่ยวไทยจะเป็นผรู้ับผดิชอบใน ด้านการท าการตลาด การส่งเสริมการขาย ส่วนการจัดการท่องเที่ยวในประเทศที่เป็ นจุดหมาย ปลายทางน้นับริษทัตวัแทนในต่างประเทศจะเป็นผจู้ดัการท้งัหมด (พวงบุหงา ภูมิพานิช, 2539) การจัดน าเที่ยวโดยแบ่งตามขนาด แบ่งออกได้เป็ น 2 ประเภท ได้แก่ 1. Foreign Independent Tour or Free Independent Travelers (F.I.T.) เป็ นการ จัดน าเที่ยวส่วนบุคคล หรือครอบครัวเป็ นการจัดน าเที่ยวส าหรับผู้ที่ต้องการเดินทางท่องเที่ยวตาม ล าพัง ไปยังจุดหมายปลายทางที่ตนต้องการและมีอิสระในการเดินทาง โดยมากเป็ นการจัด นา เที่ยวใหก้บัลกูคา้ต่างประเทศ อาจมีท้งัลกัษณะที่ลกูคา้จดัการเดินทางดว้ยตนเองโดยซ้ือบริการ ท่องเที่ยวของบริษทันา เที่ยวขณะพา นกัอยใู่นประเทศไทย หรือลกูคา้ที่ซ้ือบริการผา่นบริษทั น าเที่ยวในประเทศของตนก็ได้ ถ้าเป็ นการเดินทางภายในประเทศของตนเอง มักเรียกว่า Domestic Independent Tour (D.I.T.) การจดันา เที่ยวแบบน้ีไม่จา เป็นตอ้งมีรายการนา เที่ยวจดัไวเ้ป็นตารางเวลาที่ แน่นอน โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการเดินทางไปต่างประเทศ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็ นคนมีฐานะดีพอที่จะ จา้งใหบ้ริษทันา เที่ยวจดัการเดินทางท่องเที่ยวใหต้ามความตอ้งการของตน ท้งัน้ีเพื่อความ สะดวกสบาย สามารถยืดหยุ่นรายการได้ตามความต้องการ การจัดการของบริษัทน าเที่ยว จะ วางแผนตระเตรียมการล่วงหน้า ซึ่งลูกค้าจะมีการปรึกษาหารือกับบริษัทน าเที่ยวถึงรายการน า เที่ยว โดยระบุว่าต้องการไปเที่ยวที่ไหน มีงบประมาณเท่าไรรวมถึงระดับของโรงแรมที่ต้องการ การขนส่งระหว่างเมืองเป็ นอย่างไร ตลอดจนการเข้าชมสถานที่ส าคัญ ๆ โดยที่ลูกค้าส่วนมาก ต้องการมีส่วนร่วมในการจัดรายการน าเที่ยว และหลังจากที่ทราบความต้องการของลูกค้าแล้ว ผู้จัดน าเที่ยวต้องเขียนรายการน าเที่ยวคร่าว ๆ เสนอให้ลูกค้าดูก่อน ซึ่งต้องครอบคลุมในเรื่องชื่อ โรงแรม วัน เวลา ยานพาหนะ การเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยว พร้อมการก าหนดราคาค่าบริการ
35 ด้านการท่องเที่ยวที่แน่นอน หรืออาจ จัดให้มีรายการน าเที่ยวยอดนิยมไว้เ พื่อให้ลูกค้าได้เลือก หลากหลายรายการก็จะเป็นการดียงิ่ 2. Group Inclusive Tour (G.I.T.) คือการจัดน าเที่ยวเป็ นกลุ่มให้กับนักท่องเที่ยวที่ ตอ้งการเดินทางกบับริษทันา เที่ยวโดยการจดันา เที่ยวแบบน้ีอาจแยกไดเ้ป็น 2 ประเภท คือกรุ๊ปจัด หรือทัวร์จัด และกรุ๊ปเหมาหรือทัวร์เหมา กรุ๊ปจัดหรือทัวร์จัด (โดยมากคือรายการน าเที่ยวที่ขายหน้าร้าน)คือการจัดน าเที่ยว ใน ลกัษณะเป็นหม่คูณะต้งัแต่9 คนบ้าง 15 คนบ้าง 40คนบา้งหรือมากกว่าน้ี ให้กับลูกค้า หรือ นักท่องเที่ยวที่มาซ้ือรายการน าเที่ยวจากหน้าร้าน โดยบริษัทจะจัดโปรแกรมท่องเที่ยวแบบต่าง ๆ (Package Tour)ไวใ้หเ้ลือกตามความตอ้งการในราคาที่ต่างกนัต่างระยะเวลากนัส้นับา้งยาวบา้ง ทวั่ทุกภูมิภาคของประเทศหรือของโลกตลอดฤดูกาลโดยมากจะจัดขายส าหรับ นักท่องเที่ยว ที่มา จากที่ต่างกัน ลูกค้าทุกคนต่างมาซ้ือรายการนา เที่ยว โดยอาจเลือกรายการน าเที่ยวในช่วงเวลาที่ ตนว่าง หรือเลือกซ้ือรายการน าเที่ยวที่ตนต้องการ และรอวันเดินทางท่องเที่ยวไปพร้อมกัน การ เดินทางของทัวร์จดัน้นันกัท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะไม่รู้จกักนัมาก่อน จึงจา เป็นอยา่งยงิ่ที่มคัคุเทศก์ ตอ้งทา ใหก้ารเดินทางของกลุ่มน้ีประสบความราบรื่น ซ่ึงพนกังานขายจะตอ้งมีคา แนะนา ที่ดีใหแ้ก่ ลูกค้าด้วย เช่น ลูกค้าที่ต้องการเดินทางไปเที่ยวคนเดียวก็ควรได้รับค าแนะน าถึงการเดินทางไปกับ คณะทัวร์ที่มีผู้อื่นไปเที่ยวด้วย ควรให้ค าแนะน าเรื่องที่พัก การนัดแนะ พบเจอตามจุด ต่าง ๆ โดยเฉพาะในวันเดินทาง เป็ นต้น ส่วนกรุ๊ปเหมาหรือทัวร์ เหมา คือ การจัดน าเที่ยวให้กับลูกค้าหรือนักท่องเที่ยวที่ ต้องการเดินทางเฉพาะหมู่คณะของตน เราอาจเรียกการจดันา เที่ยวลกัษณะน้ีว่า Incentive Group หรือ Charter Groupโดยมากมักเป็ นการจัดน าเที่ยวเพื่อสมนาคุณลูกค้า หรือจัดเพื่อให้รางวัลแก่ พนักงานในองค์กร หรือจัดเพื่อการไปศึกษาดูงาน โดยผู้จัดน าเที่ยวจะรับฟังความต้องการจาก ตัวแทนหรือหัวหน้ากลุ่มของลูกค้าหรือ นักท่องเที่ยว โดยเขาอาจให้บริษัทน าเที่ยวลองเสนอ รายการจัดน าเที่ยวต่าง ๆ มาให้ดู หรือลูกค้า อาจระบุความต้องการในเรื่องที่พัก ร้านอาหาร วัน เวลาเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว ที่เข้าชมตลอดจนกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ ตามที่ต้องการ บริษัท น า เที่ยวมีหนา้ที่ที่จะตอ้งตอบสนองความตอ้งการเหล่าน้นั ใหไ้ดม้ากที่สุด ท้งัน้ีนักท่องเที่ยวอาจมี งบประมาณในจ านวนจ ากัดมาให้บริษัทช่วยจัดดู บริษัทก็ต้องเสนอราคาสินค้ารายการน าเที่ยว ของตนไป โดยบริษทันา เที่ยวตอ้งสามารถจดับริการใหไ้ดต้ามคุณภาพหรือกา ลงัซ้ือที่ นักท่องเที่ยวมี ลูกค้าบางกลุ่มอาจต้องการบริการที่ดีมาก ( Luxury) บางกลุ่มอาจต้องการการ บริการแบบปานกลาง (Standard) หรือแบบธรรมดา ๆ (Economy)
36 อนึ่งการจัดน าเที่ยวให้กรุ๊ปเหมาหรือทัวร์เหมา น้ี ควรมีจ านวนนักท่องเที่ยวไม่น้อย กว่า 10- 15 คน เพื่อประโยชน์ในการต่อรองราคากับสถานประกอบการ และการคิดราคาขาย ยงิ่ ถา้มีปริมาณลกูคา้มากผจู้ดัก็จะยงิ่สามารถต่อรองราคากบัสถานประกอบการต่าง ๆ ไดม้ากข้ึนตาม ไปด้วย โดยในการท่องเที่ยวทางบริษัทจะจัดผู้น าเที่ยวมืออาชีพไปด้วยกับคณะนักท่องเที่ยว การ จดันา เที่ยวแบบเป็นกลุ่มน้ีสามารถจดัไดห้ลายราคา ข้ึนอยกู่บังบประมาณของลกูคา้เป็ นส าคัญ การจัดน าเที่ยวตามวิธีการ สามารถแบ่งได้เป็ น 4 ประเภท ได้แก่ 1. การจัดน าเที่ยวแบบเหมาจ่าย (Package Tour) เป็ นลักษณะการจัดทัวร์ส าหรับหมู่ คณะอาจต้งัแต่ 5- 10 คนข้ึนไปหรือมากกว่าน้นัอาจเป็นการ ท่องเที่ยวในหมู่เพื่อนสนิท หรือ ญาติมิตรในครอบครัว นอกจากน้ีการจัดน าเที่ยวแบบเหมาจ่ายอาจสามารถจัด ในรูปแบบของการ ประชุม สัมมนา ดูงาน ส าหรับโรงงาน ห้างร้าน บริษัท หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจต่าง ๆ โดย การจัดจะค านึงถึง ราคาที่พอเหมาะกบังบประมาณที่ลกูคา้มีนอกจากน้ียงัสามารถรับจัดทัวร์ สา หรับกลุ่มที่สนใจเฉพาะเรื่อง เช่น ทวัร์ปีนเขา ดา น้า ดูปะการัง ดูนกล่องแก่งถ่ายภาพ ฯลฯ เป็นการจดันา เที่ยวที่รวมค่าใชจ้่ายในการเดินทาง เป็นค่าที่พกัค่าพาหนะและค่าอาหารบางม้ือ หรือทุกม้ือไวด้ว้ยกนันกัท่องเที่ยวจะเป็นผกู้า หนดโปรแกรมการท่องเที่ยว สถานที่ที่น่าสนใจใน การเข้าชม หรือก าหนดวิธีการเดินทางกันเอง ซึ่งจะมีอิสระในการท่องเที่ยวและพักผ่อน หรือทาง บริษทัอาจจดัเตรียมรายการไวเ้รียบร้อยพร้อมเสนอขาย ท้งัน้ี บริษัทน าเที่ยวจะเป็ นผู้ท าหน้าที่ ติดต่อธุรกิจผลิตสินค้าบริการท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยท าเป็ นรายการน าเที่ยวแบบเหมาจ่าย และคิดราคาเป็ นแบบเหมาจ่าย ซ่ึงเป็นราคาที่ถกูกว่าการซ้ือสินคา้บริการที่แยกทีละประเภท และ ในบางคร้ังนกัท่องเที่ยวอาจมีความตอ้งการซ้ือสินคา้บริการรวมหมดทุกอยา่งแบบเหมาจ่าย เบ็ดเสร็จหรือที่เรียกเป็ นภาษาอังกฤษว่า “ออล อินคลูซีพ ทัวร์” (All Inclusive Tour) ซึ่งมีการจัด พาหนะในการเดินทางท่องเที่ยว ที่พักแรม อาหารเครื่องดื่ม มัคคุเทศก์น าเที่ยว และกิจกรรม บนัเทิงต่าง ๆ การซ้ือแบบน้ีนกัท่องเที่ยวจะไดร้ับบริการที่พร้อมสรรพมากกว่า การจัด แบบ Package Tour แต่ท้งัน้ีความเขา้ใจของคนทวั่ ไปน้นัคา ว่าPackage Tour จะหมายถึงการรวมสินค้า บริการไวท้้งัหมดแลว้ซ่ึงในความเป็นจริงอาจไม่ใช่เนื่องจากบางคร้ังPackage Tour อาจหมายถึง การรวมสินคา้บริการต้งัแต่สองชนิดข้ึนไป เช่น อาจมีตวั๋เครื่องบินกบัที่พกั 1 คืน ก็ถือว่าเป็ น Package Tour ได้แล้ว แต่ถ้าต้องการซ้ือสินคา้บริการรวมหมดทุกอยา่งแบบเหมาจ่ายเบ็ดเสร็จจริง ๆ ก็จะเรียกว่า All Inclusive Tour ท้งัน้ีการจัดน าเที่ยวแบบเหมาจ่าย สามารถแบ่งออกได้เป็ น 3 ประเภท คือ
37 1.1 ทัวร์น าเที่ยวเหมาจ่ายอิสระ (Independent Package Tour) เป็ นการจัดน าเที่ยว ส าหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการอิสระในการท่องเที่ยวเอง มีการเลือกซ้ือสินคา้บริการ จากบริษัท น าเที่ยวตามที่ตนตอ้งการเช่น ตวั๋พาหนะเดินทาง ที่พกัแรม การบริการรับส่งสนามบิน โดยเป็น การเลือกซ้ือสินคา้ดงักล่าวอยา่งใดอยา่งหน่ึง หรือหลายอย่างจากบริษัทน าเที่ยว แต่จะไม่รวม สินค้าบริการท้งัหมดเหมือน Package Tour หรือ All Inclusive Tour การเที่ยวแบบเหมาจ่ายอิสระ น้ีส่วนมากจะไม่มีผู้น าเที่ยวร่วมเดินทางไปด้วย นักท่องเที่ยวต้อง ศึกษาข้อมูลอื่น ๆ ด้านการ ท่องเที่ยวเอง ในการท่องเที่ยวแบบน้ีนกัท่องเที่ยวจะตอ้งคา นวณงบประมาณในการท่องเที่ยว ล่วงหน้าจะช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในการท่องเที่ยว 1.2 ทัวร์น าเที่ยวเหมาจ่ายพร้อมบริการ (A Hosted Tour) เป็ นการจัดน าเที่ยวที่ นกัท่องเที่ยว ซ้ือสินคา้หรือบริการในราคาเหมาจ่าย ณ จุดหมายปลายทางแต่ละแห่ง (Destinations)โดยจะมีตัวแทนของธุรกิจน าเที่ยว (A Host or Representative Officer) คอยบริการ ต้อนรับให้ค าแนะน าปรึกษา หรือจัดเตรียมการท่องเที่ยวไว้ให้ ลกัษณะการนา เที่ยวแบบน้ี นักท่องเที่ยวมักเลือกใช้บริการน าเที่ยวเฉพาะจุดที่ใดที่หนึ่ง อาจไม่ได้ใช้บริการเต็มรายการ เนื่องจากอาจมีเวลาจา กดัหรือมีความสนใจเฉพาะจุดเท่าน้นั 1.3 ทัวร์น าเที่ยวเหมาจ่ายพร้อม “มีเพื่อนเดินทาง ” (An Escorted Tour) ค าว่า “เพื่อนเดินทาง” (Escort) หมายถึง บุคลากรของบริษัทธุรกิจน าเที่ยวที่เดินทางไปพร้อมกับกลุ่ม ทัวร์ อาจจะเป็ นการเดินทางไปด้วยตลอดเส้นทางจนเดินทางกลับถึงจุดหมาย หรืออาจเดินทางไป ยังจุดหมายปลายทาง (Destination) ในลักษณะของการเป็ นหัวหน้าทัวร์ เมื่อถึงปลายทางแล้วก็ มอบกลุ่มนักท่องเที่ยวใหอ้ยใู่นความดูแลของมคัคุเทศกท์อ้งถิ่นหรือตวัแทนบริษทันา เที่ยวทอ้งถิ่น ท้งัน้ีไม่ว่าจะเป็นมคัคุเทศกท์อ้งถิ่น หรือ “เพื่อนเดินทาง” (Escort) ท้งัสองจะต้องเป็ นผู้ที่มีความรู้ ความชา นาญในทอ้งถิ่นที่นา เที่ยวเป็นอยา่งดี และจะต้องมีความรู้ความสามารถในด้านการบริการ การจัดการน าเที่ยวด้วย ส าหรับบริษัทน าเที่ยวที่จัดน าเที่ยว แบบเหมาจ่าย หลายบริษัท มักใช้กลยุทธ์การ ต้งั ราคาไม่ให้สูงมาก แต่นักท่องเที่ยวต้องเสียค่าใช้จ่ายอื่น ๆ บางอย่างเอง เช่น ค่าเข้าชมบางที่ ค่า ภาษีสนามบิน ค่าท าวีซ่า (Visa) บางบริษัทจะระบุไว้ในรายการน าเที่ยวตรง ๆ ว่ารายการไหนต้อง เสียเงินเพิ่ม ผใู้ดไม่ต้องการเขา้ร่วมชมก็จะไม่ตอ้งเสียค่าใชจ้่ายเพิ่ม การจดัให้เลือกนอกเหนือจาก รายการที่ก าหนดไว้ (Optional Tour) แบบน้ีมีประโยชน์ต่อผู้จัดน าเที่ยว ที่มีงบประมาณ ในการ ลงทุนน้อย หรือตอ้งการใชก้ลยทุธเ์รื่องการขายในราคาที่ถกูท้งัน้ีการจดันา เที่ยวดงักล่าวอาจมี ข้อดีส าหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเวลาพักผ่อน เนื่องจากมีเวลาเป็ นการส่วนตัว มาก นอกจากน้ี การจดันา เที่ยววิธีน้ีสามารถจดัรายการนา เที่ยวโดยใชย้านพาหนะไดห้ลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น เครื่องบิน รถไฟ รถโคช้หรือเรือรวมถึงการนงั่รถราง หรือรถไฟใตด้ิน เป็ นการจัดสินค้ารายการ
38 น าเที่ยวเพื่อวางขายหน้าร้าน ใหล้กูคา้ไดเ้ลือกซ้ือตามรายการที่ตนสนใจมากที่สุด จะขายไดม้าก หรือนอ้ยก็ข้ึนอยกู่บัรายการนา เที่ยวน้นั ว่าอยู่ในความสนใจของลูกค้ามากน้อยแค่ไหน 2. การจัดน าเที่ยวแบบเบ็ดเสร็จ (Inclusive Tour)การจดันา เที่ยวแบบน้ีจะคลา้ยกบั การจัดรายการน าเที่ยวแบบเหมาจ่าย (Package Tour) เพียงแต่การจัดน าเที่ยวแบบเบ็ดเสร็จ จะเป็ น การจดันา เที่ยวที่มีกา หนดการนา เที่ยวต้งัแต่ออกเดินทางจนถึงการเดินทางกลบัที่แน่นอน มี เส้นทางเดินทาง สถานที่ท่องเที่ยว ที่พัก ระยะเวลาเดินทาง โดยบริษัทอาจจัดโปรแกรมท่องเที่ยว ไว้หลากหลายอาจเป็ น 3 วัน 5 วัน 7 วัน 10 วัน หรือ 15 วัน มีให้เลือกมากมายหลายรูปแบบ แต่ละ โปรแกรมจะระบุราคาจา นวนวนัเดินทางวนัเริ่มตน้และวนัสิ้นสุดการเดินทาง ที่พกัแรม สถานที่ ท่องเที่ยว ชัดเจน ลูกค้าไม่สามารถเปลี่ยนแปลงแก้ไขได้ และจะมีผู้น าเที่ยวติดตามไปด้วย นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลได้โดยตรงกับพนักงานขาย หรือบริษัทอาจส่ง วารสารการท่องเที่ยวใหก้บัสมาชิกทุกปีหรือทุกเทศกาล การจดันา เที่ยววิธีน้ีเป็นการจดันา เที่ยว ที่ บริษัทน าเที่ยวได้จ่ายค่า มัดจ ายานพาหนะในการเดินทาง ค่าที่พัก ไว้ล่วงหน้าเรียบร้อยแล้ว แต่ การจดัแบบน้ีจะมีความเสี่ยงสูง เพราะถา้มีคนซ้ือนอ้ยก็ออกเดินทางไม่ได้ ต้องยกเลิกโปรแกรม น้นัๆ ไป หรือถา้ยงัตอ้งการจดัเดินทาง บริษทัก็จา ตอ้งรับผดิชอบ ค่าใช้จ่ายในส่วนที่หายไป ใน การจดัคร้ังน้นัๆ (Reilly, R. 1991) 3. การจัดน าเที่ยวเพื่อเป็ นรางวัล (Incentive Tour) เป็ นการจัดน าเที่ยวให้กับ หน่วยงาน หรือพนักงานของหน่วยงาน เพื่อเป็ นโบนัส รางวัล หรือค่าตอบแทนในความส าเร็จ ให้กับบุคคล (Coltman, M. 1989) เป็ นการให้รางวัลที่สามารถท าธุรกิจการค้าหรือยอดขายได้ตาม เป้าที่กา หนดไว้ท้งัน้ีเพื่อเป็นสิ่งดึงดูดใจใหพ้นกังานเกิดความขยนัขวนขวาย หรือไดค้วาม ภูมิใจในผลสา เร็จของงานที่ผา่นมา โดยใหร้างวลัคือการไดท้ ่องเที่ยวการจดันา เที่ยววิธีน้ีบริษทั หรือหน่วยงานของลูกค้าจะเป็ นผู้ก าหนดงบประมาณ ระยะเวลา และจุดหมายปลายทางของการ ท่องเที่ยว ลูกค้ากลุ่มนี่จะมีอ านาจการต่อรองสูงเนื่องจากมีปริมาณลูกค้าอยู่ในมือมาก ผู้จัด น าเที่ยวจะต้องเข้าถึงผู้มีอ านาจในการตัดสินใจของหน่วยงานเพื่อประโยชน์ในการได้งานจาก ลกูคา้กลุ่มน้ีซึ่งบริษัทน าเที่ยวจะจัดโปรแกรมน าเที่ยวตามความต้องการ หรือตามวัตถุประสงค์ ขององคก์ร ลกูคา้กลุ่มน้ีถือว่าเป็นลกูคา้ที่มีศกัยภาพที่ทา เงินใหก้บับริษทันา เที่ยวเป็นอยา่งมาก ดงัน้นักลุ่มบุคคลหรือลูกค้าประเภทน้ีจึงถือว่าเป็นกลุ่มพิเศษที่บริษทันา เที่ยวตอ้งใหค้วามสนใจ ในการติดต่อเพื่อนา เสนอขายบริการ การจดันา เที่ยววิธีน้ีนบัว่ามีความเสี่ยงนอ้ยเพราะเป็นการจดั น าเที่ยวตามความต้องการขององค์กร สามารถตรวจสอบได้ ลูกค้าหรือนักท่องเที่ยว มีจ านวนมาก ผจู้ดัหรือบริษทัทา งานในลกัษณะเหนื่อยเพียงคร้ังเดียวก็จบงาน เนื่องจากถา้ตกลงกนัไดทุ้กอยา่ง
39 กับผู้มีอ านาจตัดสินใจหรือตัวแทนของลูกค้าทุกอย่างก็จบ ไม่ต้องตกลงรายการกับลูกค้าทีละคน เหมือนทัวร์ขายหน้าร้าน อีกท้งัการจดันา เที่ยวแบบน้ีบริษัทน าเที่ยวสามารถเรียกขอเงินมัดจ าเพื่อ น ามาด าเนินการก่อนได้ ทา ใหเ้ชื่อมนั่ว่าบริษทัจะมีรายไดจ้ากการจดัการท่องเที่ยวคร้ังน้ีอยา่ง แน่นอน และในปัจจุบนัการจดันา เที่ยวเพื่อเป็นรางวลัน้ีกา ลงัไดร้ับความนิยมอยา่งมากเพราะ หน่วยงานต่าง ๆ เห็นคุณค่าของการให้รางวัลแก่พนักงานของตนด้วยการให้ท่องเที่ยวเป็ นการ ตอบแทน บริษทัหรือผจู้ดันา เที่ยวก็ชอบการจดันา เที่ยวแบบน้ีเช่นกนัเนื่องจากเป็นการจดัที่มี ความเสี่ยงนอ้ยกว่าการจดัแบบขายทวัร์หนา้ร้าน ถึงแมว้่าไม่มีลกูคา้กลุ่มน้ีบริษทัก็ไม่เสียหาย อะไร ทางตรงข้ามหากเป็ นเป็ นทัวร์ขายหน้าร้านแต่กลับขายไม่ได้ก็จะมีผลกระทบต่อบริษัททันที 4. การจัดน าเที่ยวแบบเช่าเหมาล า (Charter Tour) การจัดน าเที่ยวแบบเช่าเหมาล า เป็ นที่นิยมแพร่หลายโดยเฉพาะ การจัดน าเที่ยวระหว่างประเทศ โดยบริษัทน าเที่ยวจะเช่าเหมา เครื่องบินท้งัลา เพื่อรับนกัท่องเที่ยวจากจุดหมายปลายทางหน่ึงไปยงัจุดหมายปลายทางหน่ึง จา นวนนกัท่องเที่ยวจะตอ้งมีปริมาณมากพอที่จะเช่าเหมาเครื่องบินท้งัลา ได้แต่ทางบริษัทน าเที่ยว จะตอ้งมนั่ใจว่าสามารถหานกัท่องเที่ยวไดม้ากพอกบัการเช่าเหมาลา เครื่องบิน การจดันา เที่ยวโดย การติดต่อเช่าเหมาเครื่องบินท้งัลา จะไดร้าคาค่าตวั๋ถกูกว่าการซ้ือจากเที่ยวบินประจา มากเพราะ บริษัทน าเที่ยวจะ เหมาเครื่องบิน ท้งัลา อีกท้งัยงัสามารถเลือกวนัเวลาบินไดม้ากกว่าโดยจะขอ ยกตัวอย่างการจัดน าเที่ยวแบบเช่าเหมาล า เช่น นักท่องเที่ยวจากประเทศอังกฤษหรือประเทศ เยอรมนีเช่าเหมาเครื่องบินท้งัลา เป็นเที่ยวบินพิเศษเดินทางมาท่องเที่ยวยงัจงัหวดัภูเก็ต หรือ จงัหวดัเชียงใหม่ท้งัไปและกลบัซ่ึงบริษทันา เที่ยวในต่างประเทศจะตอ้งติดต่อกบับริษทันา เที่ยว ในไทยให้จัดการท่องเที่ยวภายในประเทศให้ ดงัน้นัการจัดการส าหรับรองรับนักท่องเที่ยวจ านวน มากน้ีจา เป็นตอ้งมีการวางแผนเตรียมการ และจดัการอยา่งมีประสิทธิภาพ (พวงบุหงา ภูมิพานิช, 2539) เพราะนนั่หมายถึงคนจา นวนมากอาจเป็นร้อยหรือเป็นพนัคน การเตรียมการเรื่องที่พัก ร้านอาหาร ยานพาหนะ แหล่งเข้าชมต่าง ๆ จึงไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย หากไม่มีการวางแผน เตรียมการล่วงหน้าเป็ นเวลานาน ๆ ก็จะท าให้เกิดปัญหาตามมาอย่างมากมาย การจดัน าเที่ยวตามวตัถุประสงค ์ จะมีลกัษณะคลา้ยกบัการจดันา เที่ยวโดยทวั่ ไป คือ สามารถแบ่งได้เป็ น 2ลักษณะ ได้แก่ การจัดน าเที่ยวตามวัตถุประสงค์ของบริษัท กับการจัดน าเที่ยวตามวัตถุประสงค์ของ นักท่องเที่ยว ซึ่ง ระยะเวลา 4-5 ปี หลังที่ผ่านมา บริษัทน าเที่ยวมักให้ความส าคัญในการจัดน า เที่ยวตามวตัถุประสงคเ์พิ่มมากข้ึน เนื่องจากปัจจุบันความหลากหลายทางการท่องเที่ยวมีมาก
40 นักท่องเที่ยวแต่ละคนแต่ละกลุ่มมีความชอบที่ไม่เหมือนกันจึงเป็ นการเสี่ยงที่บริษัทจะจัดน าเที่ยว ตามวัตถุประสงค์ของบริษัทอยู่เรื่อยไป โดยที่ไม่ใส่ใจต่อวัตถุประสงค์หรือความต้องการของกลุ่ม ลูกค้า ต่อไปน้ีเป็นการยกตวัอยา่งกลุ่มนกัท่องเที่ยวที่มีวตัถุประสงคใ์นการท่องเที่ยวที่ หลากหลายความต้องการ ได้แก่ - ท่องเที่ยวพิพิธภัณฑ์ ค่ายทหาร แหล่งประวัติศาสตร์ เป็ นการจัดน าเที่ยวแก่ผู้ที่ ชอบเยี่ยมชมอดีตสมรภูมิหรือ สนามรบ พิพิธภัณฑ์ หรือ ชมกิจกรรมแบบ ผาดโผน ที่เน้นความ สนุกสนานและการพักผ่อน - ท่องเที่ยวฮนันีมนูเริ่มเป็นที่นิยมจดั กันมากในระยะหลังเพราะคู่สมรสใหม่ หรือเก่า นิยมเดินทางท่องเที่ยวเพื่อฉลองการสมรส หรือฉลองครบรอบวันสมรสในต่างประเทศ สถานประกอบการด้านที่พัก เรือส าราญต่าง ๆ จะเสนอรายการพิเศษให้คู่ฮันนีมูน โดยการจัด รายการจะมีความหลากหลายใหเ้ลือก นบัต้งัแต่ล่องเรือ จนถึงเดินป่าผจญภยั - ท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติ เป็ นการเดินทางท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวที่เป็ น ธรรมชาติพร้อมไดศ้ึกษาชีวิตความเป็นอยขู่องสิ่งที่มีชีวิต ที่น่าสนใจ เช่น ศึกษาวงจรชีวิตของ แมลง การเจริญเติบโตของพืชต่าง ๆ ศึกษาดูนกชนิดต่าง ๆ เป็ นต้น - ท่องเที่ยวถ่ายภาพ โดยบริษัทน าเที่ยวอาจจัดให้บริการส าหรับผู้ที่สนใจถ่ายภาพ โดยบริษทันา เที่ยวจะจดัรายการใหส้มัผสักบัสิ่งแวดลอ้มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นพืชพรรณไม้หรือ สัตว์ต่าง ๆ ตลอดจนทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยอาจมีรายการล่องเรือชมสัตว์ ต้นไม้ หรือธรรมชาติ หรือสถานที่ที่เป็ นซากปรักหักพังทางประวัติศาสตร์ อาจต้องมีการเตรียมอุปกรณ์หรือจัดฉาก เพื่อให้ลูกค้าได้มีโอกาสได้เลือกถ่ายภาพตามจุดที่ตนสนใจ และได้ท่องเที่ยวในเวลาเดียวกัน - ท่องเที่ยวเดินชม อาจเป็นการเดินชมจากตวัเมืองไปตามทางข้ึนภูเขาเพื่อชม ธรรมชาติหรือเดินชมเมืองตามจุดต่าง ๆ ที่สา คญัอาจมีมคัคุเทศกค์อยบรรยายการจดัแบบน้ียงั ไม่แพร่หลายในประเทศไทย นอกจากการเดินป่ า ที่จัดให้ในหมู่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ - ท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนหย่อนใจ เช่น ทัวร์ทะเล พักผ่อนชายหาด - ท่องเที่ยวเพื่อศาสนา เช่น ทัวร์ทอดกฐิน ทัวร์วัด พิธีฮัจย์ที่เมืองเมกกะ ประเทศ ซาอุดิอาระเบีย - ท่องเที่ยวเชิงวิทยาศาสตร์ เช่น ดูสุริยุปราคา ศึกษาพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ทาง ทะเล หรือศึกษาท้องฟ้ าดาราศาสตร์ - ท่องเที่ยวเพื่อเล่นหรือชมการแข่งขันกีฬา เช่น เอเชี่ยนเกมส์ โอลิมปิ ค - ท่องเที่ยวเพื่อการซ้ือของ เช่น เที่ยวฮ่องกง สิงคโปร์เป็นตน้
41 - การท่องเที่ยวเชิงนิเวศ(Eco Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวอย่างมีความรับผิดชอบ ในแหล่งธรรมชาติที่มีเอกลกัษณ์เฉพาะทอ้งถิ่น และแหล่งวฒันธรรมที่เกี่ยวเนื่องกบัระบบนิเวศ โดยมีกระบวนการเรียนรู้ร่วมกนัของผทู้ี่เกี่ยวขอ้ง ภายใตก้ารจดัการสิ่งแวดลอ้มและการท่องเที่ยว อยา่งมีส่วนร่วมของทอ้งถิ่น เพื่อมุ่งเนน้ ใหเ้กิดจิตสา นึกต่อการรักษาระบบนิเวศอยา่งยงั่ยนื เช่น จัด ให้มีการเดินป่ าศึกษาธรรมชาติการดา น้า ศึกษาแนวปะการังไปพร้อมๆ กบัไดช้่วยกนั ปลกูแนว ปะการัง - การท่องเที่ยวเชิงผจญภัย ( Adventure Tourism) เป็ น การท่องเที่ยวที่น า ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้มที่สวยงามมาเป็นองคป์ระกอบในการจดักิจกรรมท่องเที่ยวที่ทา้ทาย ความสามารถ มีความตื่นเต้น เกิดความแปลกใหม่และท้าทายประสบการณ์ ประกอบกับเป็ นการ ฝึ กความช านาญทักษะของร่างกาย เช่น การปี นเขาและหน้าผา ล่องแก่ง เดินป่ า ดังภาพที่ 2.1, 2.2 และ 2.3 เป็ นต้น ภาพที่ 2.1 การท่องเที่ยวเชิงผจญภัยด้วยการปี นหน้าผา
42 ภาพที่ 2.2 พายเรือล่องแก่ง ผจญภัยไปกับธรรมชาติ ภาพที่ 2.3 เดินป่ าศึกษาธรรมชาติ
43 - การท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการขายสู่พ้ืนที่ ( Agent Educational Trip : AET) มี ความหมายเหมือน หรือคล้ายกับ Familiarization Trip (FAM Trip) คือ การเดินทางเพื่อสร้าง ความคุน้เคยกบัแหล่งท่องเที่ยวหรือสิ่งอา นวยความสะดวกดา้นการท่องเที่ยวเพื่อส่งเสริมการขาย สู่พ้ืนที่หรือบริการน้นัๆ ส่วนใหญ่จะไดร้ับการสนบัสนุนค่าใชจ้่าย การเดินทางจากผู้ผลิต เช่น บริษัทสายการบิน โรงแรม ผปู้ระกอบธุรกิจท่องเที่ยวในพ้ืนที่หรือคณะกรรมการส่งเสริมการ ท่องเที่ยวของพ้ืนที่น้นัๆ - การท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม ( Agro Tourism) เป็ นการท่องเที่ยว ในแหล่ง ทรัพยากรท่องเที่ยวที่มีกิจกรรมให้กับนักท่องเที่ยวได้ศึกษา หรือเข้าร่วมการเกษตรเป็ นหลัก เพื่อ ก่อให้เกิดความพึงพอใจแก่นักท่องเที่ยว เช่น สร้างรายได้แก่เกษตรกร และมีการจัดการผลกระทบ ที่เกิดข้ึนอยอู่ยา่งเป็นระบบ เช่น จัดน าเที่ยวไปยังฟาร์มโชคชัย ไร่ทองสมบูรณ์ เป็ นต้น - การท่องเที่ยวแบบทางเลือก ( Alternative Tourism) เป็ นรูปแบบของการ ท่องเที่ยวที่พยายามหลีกเลี่ยงผลกระทบทางลบ แต่จะส่งเสริมให้ผลในทางบวกต่อสังคม วฒันธรรม และสิ่งแวดลอ้ม มกัจะมีลกัษณะคือ มีนกัท่องเที่ยวจา นวนนอ้ยเดินทางเพียงคนเดียว หรือเดินทางเองโดยอิสระ ในกลุ่มเล็ก ๆ หรือประกอบกิจกรรมกันในกลุ่มเล็ก ๆ อยู่ในความ ควบคุม มีกฎเกณฑ์ขณะเดียวกนัก็มุ่งใหค้นในทอ้งถิ่นซ่ึงเป็นเจา้ของวฒันธรรมไดร้ับ ประสบการณ์จากการเดินทางไปเยือนของนักท่องเที่ยว และยังคงรักษาค่านิยม ตลอดจนยังคง ด าเนินชีวิตในสังคมของตนที่สืบทอดกันมาเอาไว้ด้วย - การดูนก ( Bird Watching) เป็ นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศรูปแบบหนึ่ง ส าหรับประเทศไทย แหล่งดูนกที่ส าคัญของประเทศไทย มักอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติและเขต รักษาพันธุ์สัตว์ป่ า เช่น อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็ นแหล่งชมนกที่ดี ที่สุดแห่งหนึ่ง มีนกนานาพันธุ์ถึง 300 ชนิด เป็ นต้น - การดูผเีส้ือ( Butterfly Watching) เป็ นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศรูปแบบ หน่ึงในประเทศไทย แหล่งชมผเีส้ือที่ดีของไทยเช่น ทุ่งใหญ่นเรศวร หว้ยขาแขง้และอุทยาน แห่งชาติเขาสามร้อยยอด เป็ นต้น - การปี นหน้าผา (Cliff Climbing) เป็ นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงผจญภัยรูปแบบ หนึ่งที่ท้าทาย ตื่นเต้น ประกอบกับการได้ฝึ กความช านาญทักษะของร่างกาย แหล่งปี นเขาและหน้า ผาที่ส าคัญในประเทศไทย ได้แก่ หน้าผาบริเวณอ่าวไร่เล อ่าวพระนางจังหวัดกระบี่ - การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ( Conservation Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวไปยัง สถานที่ท่องเที่ยวที่มีความด้งัเดิม มีเอกลกัษณ์เฉพาะถิ่น เพื่อชื่นชมและ ได้ความเพลิดเพลิน ได้ ความรู้ความเข้าใจต่อสภาพธรรมชาติสังคม วัฒนธรรม และวิถีชีวิตของคนในทอ้งถิ่นบนพ้ืนฐาน
44 ของการมีจิตสา นึกต่อการอนุรักษค์ุณค่าของสภาพแวดลอ้ม และชุมชนในทอ้งถิ่นได้มีส่วนร่วมใน การจัดการการท่องเที่ยว - การท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตคนในทอ้งถิ่นโดยพกักบัชาวบา้น ( Home Stay Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่งของการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ (Ecotourism) มักท าควบคู่กับ การท่องเที่ยวในชนบท (Rural Tourism) โดยนักท่องเที่ยว จะพักร่วมกับเจ้าของบ้านโดยมีการ แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม มีการเรียนรู้ แลกเปลี่ยนความรู้ความคิดซึ่งกันและกัน โดยเจ้าของบ้านจะ จดัที่พกัและอาหารใหก้บันกัท่องเที่ยว ท้งัน้ีนกัท่องเที่ยวจะตอ้งจ่ายค่าบริการแก่เจา้ของบา้น ซึ่ง แนวคิดพ้ืนฐานของ Home Stay น้นัเจา้บา้นจะถือว่านักท่องเที่ยวที่มาพักเป็ นแขกของบ้าน มิใช่ เป็ นนักท่องเที่ยว (Be a Guest Just a Tourist) เช่น การท่องเที่ยว Home Stay ที่เกาะยาวน้อย จังหวัดพังงา, ที่บ้านสลักเพชร เกาะช้าง จังหวัดตราด เป็ นต้น - การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม (Culture Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวซึ่งมีจุดสนใจ อยู่ที่วัฒนธรรมความเป็ นอยู่ของผู้คน ตลอดจนแหล่งโบราณสถาน ประเพณี และศิลปะแขนงต่าง ๆ ยกตัวอย่าง เช่น การเที่ยวชมงานประเพณีของราชสา นกัและประเพณีพ้ืนบา้น อาทิประเพณี ลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ ประเพณีแข่งเรือยาว ประเพณีผีตาโขน เป็ นต้น - การท่องเที่ยวดา น้า (Diving Tourism) เป็ นการจัดน าเที่ยวส าหรับผู้ที่สนใจท้อง ทะเลไดม้ีโอกาสเขา้ร่วมกิจกรรมน้ีซ่ึงบริษทันา เที่ยวจะจดัเตรียมอุปกรณ์ดา น้า ใหพ้ร้อม พร้อมมี การสอนเทคนิคการดา น้า ก่อนลงไปดา น้า จริง การดา น้า เป็นกิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ประเภทหนึ่ง ซึ่งจ าแนกออกเป็ น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือการดา น้า ต้ืน (Snorkeling Diving หรือ Skin Diving) และการดา น้า ลึก(Scuba Diving) สา หรับการดา น้า ลึก นกัดา น้า จา เป็นตอ้งผา่นการ อบรมและไดร้ับบตัรอนุญาตดา น้า จากสถาบนั PADI (Professional Association of Diving Instruction) หรือ สถาบัน NAUI (National Association of Underwater Instructors) เสียก่อน ดังภาพที่ 2.4 และ 2.5
45 ภาพที่ 2.4การดา น้า ต้ืน ภาพที่ 2.5การดา น้า ลึก ที่มา : นิตยสาร Trips, 2548 หน้า42
46 - การท่องเที่ยวเชิงทัศนศึกษา ( Educational Tourism) เป็ นการท่องเที่ยว ที่เน้น การศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องราวของแหล่งท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็ นด้าน วัฒนธรรม ชุมชน ทอ้งถิ่นหรืออื่น ๆ รูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ได้ในการไปในต่างพ้ืนที่โดยมักมี การน าชมสถานที่ต่าง ๆ จากผู้เชี่ยวชาญด าเนินการบรรยายให้ความรู้อย่างมีระบบ หรือการได้ เรียนท าอาหาร ฝึ กหัดมวยไทยเป็ นต้น - การท่องเที่ยวเชิงชาติพันธุ์ (Ethnic Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวที่มีจุดสนใจอยู่ที่ เอกลักษณ์ลักษณะเฉพาะทางวัฒนธรรมที่เน้น วิถีชีวิตความเป็ นอยู่ หรือประเพณีของสังคมใด สังคมหนึ่ง นักท่องเที่ยวสามารถศึกษาและเรียนรู้ถึงวัฒนธรรมประเพณีวิถีชีวิตของกลุ่มชนหรือ ชาติพนัธุม์นุษยท์ ี่แตกต่างกนัรวมท้งัเรื่อง ราวของพิธีกรรมต่าง ๆ เช่น พิธีแต่งงาน พิธีเผาศพ ความเป็นอยดู่้งัเดิมของชุมชน การเยยี่มเยอืนพวกชาวเขาเผา่ต่าง ๆ เป็นตน้ - การท่องเที่ยวในรูปแบบการใช้ชีวิตในฟาร์ม (Farm Tourism) เป็ นรูปแบบหนึ่ง ของการท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม (Agro Tourism) ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับการ กสิกรรม การเล้ียงสตัว์การประมงรวมท้งักิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการท าฟาร์ม (Farm Stay) โดยนักท่องเที่ยวจะมีลักษณะบ้านพักอยู่ในฟาร์ม และพักในฟาร์มร่วมกับเจ้าของฟาร์ม และได้ เรียนรู้การประกอบอาชีพ และร่วมท ากิจกรรมในฟาร์มได้ โดยต้องจ่ายค่าที่พักและค่าอาหาร ใหก้บัเจา้ของฟาร์ม เป็นการสร้างรายไดใ้หก้บัทอ้งถิ่น การท่องเที่ยวแบบน้ีบางคร้ังเรียกว่า Farm House - การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Health Tourism) เป็ นรูปแบบการท่องเที่ยวที่ ผสมผสานโดยใช้แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ หรือแหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ เป็ นองค์ประกอบในการจัด กิจกรรมเพื่อรักษาสุขภาพ เนน้กิจกรรมสา คญัที่มีวตัถุประสงคเ์พื่อปรับปรุงฟ้ืนฟสู ุขภาพของ ลูกค้า เช่น การพักแรมในรีสอร์ทที่มีบริการรักษาสุขภาพ การท่องเที่ยวที่มีโปรแกรมรับประทาน อาหารชีวจิต อาหารมังสวิรัติ การฝึ กออกก าลังกาย การท าสมาธิ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพใน ประเทศไทยมีสองประเภท ได้แก่ การท่องเที่ยวเชิงบ าบัดรักษาสุขภาพ (Health Healing) เป็ นการ ท่องเที่ยวที่ผนวกรายการที่มีการทา กิจกรรมบา บดัหรือฟ้ืนฟสู ุขภาพ และอีกประการคือการ ท่องเที่ยวเชิงส่งเสริมสุขภาพ (HealthPromotion) เป็ นการท่องเที่ยวไปในแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ และพักในโรงแรม หรือรีสอร์ท หรือศูนย์สุขภาพ และได้ร่วมท ากิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ ณ สถานที่น้นัๆ จดัข้ึน เช่น การนวดแผนไทย บริการอาบน้า แร่บริการสุคนธบา บดั (การบ าบัดด้วย กลิ่น) ปัจจุบนัการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพน้ีกา ลงัไดร้ับความนิยมอยา่งมากในประเทศไทยเนื่องจาก นกัท่องเที่ยวหนัมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากข้ึน ประกอบกบั ประเทศไทยมีอุปกรณ์ทางการแพทยท์ ี่ ทันสมัย มีแพทย์ที่มีประสบการณ์ มีแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย มีที่พักที่หลากหลาย และยัง ผนวกการบริการเชิงสุขภาพไวด้ว้ยมากมาย อีกท้งัคนไทยมีอธัยาศยัดีราคาค่าบริการต่าง ๆ
47 สมเหตุสมผลเหตุผลเหล่าน้ีทา ใหก้ารท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศไทยเป็นที่ยอมรับจากชาว ต่างประเทศ จนท าให้หน่วยงานภาครัฐโดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยได้ให้ความส าคัญต่อ ตลาดกลุ่มน้ีจึงไดป้ระชาสมัพนัธด์ึงดูดนกัท่องเที่ยวจากทวั่ โลกใหเ้ขา้มาใชบ้ริการเพิ่มมากข้ึน - การท่องเที่ยวในรูปแบบการใช้บริการสปา (Spa Tourism) ความหมายของสปา (Spa)แรกเริ่มคา ว่าสปาคือชื่อเมืองเลก็ๆ ในประเทศเบลเยยี่ม เมืองสปามีแหล่งธรรมชาติมีบ่อน้า ร้อนที่ผคู้นหลงั่ ไหลไปแช่น้า ร้อนกนัมาต้งัแต่สมยัคริสตศตวรรษที่ 17 เป็ นต้นมา เมื่อสปาได้รับ ความนิยมจึงไดข้ยายไปทวั่ โลกการเดินทางท่องเที่ยวจึงเป็นไปเพื่อวตัถุประสงคใ์นการเขา้ไปมี ส่วนสัมผัสกับกิจกรรมของสปาในรูปแบบต่าง ๆ ที่ขยายออกไปในแต่ละประเทศ ในแต่ละ โรงแรม แต่ละศนูยส์ ปาไดค้ิดคน้บริการสปาในรูปแบบใหม่ๆ นอกเหนือจากการแช่น้า ร้อน ใน ยโุรปส่วนใหญ่คา ว่าสปาจะหมายถึงการไดไ้ปนอนแช่น้า ร้อน น้า พุร้อน เพื่อการผอ่นคลาย ความเครียด วิธีการที่ส าคัญคือการใช้วารีบ าบัดประกอบกับการนวดเพื่อลดความปวดเมื่อย ต่อ มาสปาไดม้ีพฒันาการข้ึนเรื่อย ๆ มีการทา สปาเพื่อฟ้ืนฟสู ุขภาพและความงาม ในประเทศไทย โรงแรมโอเรียลเต็ลเป็นผเู้ริ่มตน้หากเป็นรีสอร์ทสปาก็มีชีวาศรมที่ถือว่าเป็นสปาเพื่อสุขภาพ แห่งแรกในประเทศไทย ท้งัน้ีการท่องเที่ยวแบบสปาอาจแบ่งไดส้ามลกัษณะคือรีสอร์ท สปา (Resort Spa)จะเน้นสถานที่พักผ่อนและการนวดโดยเฉพาะ รีทรีต สปา ( RetreatSpa) เป็ นสปา เพื่อฟ้ืนฟสู ุขภาพ มีการใชว้ารีบา บดัช่วยและฝึกโยคะจะเขม้งวดเรื่องประเภทอาหารและปริมาณ การรับประทานอาหาร ปรับโภชนาการเป็ นหลัก และเดย์ สปา (Day Spa) เน้นเรื่องความงามโดย ใช้เวลาไม่มากนัก ไม่ต้องปรับเรื่องโภชนาการ - การท่องเที่ยวทางอวกาศ (Space Tourism)คือ การท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่สุด อยา่งหน่ึงของโลกเป็นการท่องเที่ยวไปในยานอวกาศเพื่อไดส้มัผสัสภาวะไร้น้า หนกั นักท่องเที่ยวจะได้ล่องลอยในอวกาศโดยแรงของตัวเอง ได้เห็นวิวทิวทัศน์ที่แปลกใหม่ในอวกาศ เช่น ภาวทศันอนัเวิ้งวา้งของพ้ืนผวิขรุขระบนดวงจนัทร์ไดใ้ชช้ีวิตเหมือนนกับินอวกาศ ซ่ึงตอ้ง อยใู่นภาวะการควบคุมท้งัอุณหภูมิแรงดึงดูด คลื่นรังสีคลื่นความร้อน ตวัอยา่งของยานอวกาศน้ี เช่น ยานคังโค มารุ( Kankoh-Maru) สูง 24 เมตร ที่ร่วมทุนระหว่างบริษัทคาวาซากิ เฮฟวี่ อินดสัทรีส์และกลุ่ม แจเปนีส ร็อคเก็ต โซไซต้ีในประเทศญี่ปุ่น เพียบพร้อมดว้ยเครื่องใช้ อุปกรณ์ครบครันส าหรับผู้โดยสาร 50 คน นอกจากน้ียงัมีบริษทัในสหรัฐอเมริกาไดเ้ริ่มดา เนินการ เรื่องน้ีเช่น บริษทัโรตารี่บริษทัไพโอเนียร์ร็อคเก็ตเพลน และบริษทัเคลลี่สเปซ แอนด์ เทคโนโลยีโดยไดพ้ฒันายานอวกาศชนิดใหม่ราคาถกูข้ึนมาเรื่อย ๆ คาดว่าอีกไม่กี่ปีจะมียาน อวกาศที่ไดร้ับการพฒันาอยา่งเต็มรูปแบบไดอ้อกใหบ้ริการเพื่อการท่องเที่ยวสา หรับลกูคา้ทวั่ ไป - การท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ (Historical Tourism) เป็ นการเดินทางท่องเที่ยว ไปยังแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ เพื่อชื่นชมและเพลิดเพลินในสถานที่
48 ท่องเที่ยวไดค้วามรู้มีความเขา้ใจต่อประวตัิศาสตร์และโบราณคดีในทอ้งถิ่นบนพ้ืนฐานของความ รับผิดชอบ และมีจิตส านึกต่อการรักษามรดกทางวัฒนธรรมและคุณค่าของสภาพแวดล้อม โดยที่ ชุมชนในทอ้งถิ่นมีส่วนร่วมต่อการบริหารจดัการการท่องเที่ยวการท่องเที่ยวเชิงประวตัิศาสตร์น้ี อาจมีลักษณะการ จัดรายการ ตามเส้นทางท่องเที่ยวตามรอยประวัติศาสตร์ ที่ส าคัญ เช่น ทัวร์ เส้นทางศิลปะขอม ตามรอยพ่อขุนเม็งราย เพื่อให้เป็ นที่น่าสนใจเฉพาะ เป็ นต้น - การท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา (Litho Tourism) หรือศิลาสัญจร เป็ นการท่องเที่ยว ในแหล่งธรรมชาติที่เป็นลกัษณะลานหิน อุโมงคโ์พรงถ้า ลอด ถ้า หินงอกหินย้อย หน้าผาสูง เพื่อ ดูความงาม ดูภูมิทัศน์ที่มีความแปลก ดูการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก ศึกษาธรรมชาติของหิน ประเภทต่าง ๆ และซากฟอสซิลไดค้วามรู้มีประสบการณ์ใหม่บนพ้ืนฐานการท่องเที่ยวอยา่ง รับผดิชอบ มีจิตสา นึกต่อการรักษาสภาพแวดลอ้ม โดยประชาชนในทอ้งถิ่นมีส่วนร่วมต่อการ จัดการท่องเที่ยว ดังภาพที่ 2.6, 2.7 ภาพที่ 2.6การท่องเที่ยวศึกษาถ้า (ถ้าเลเขากอบ)
49 ภาพที่ 2.7 การท่องเที่ยวเชิงธรณีวิทยา (ลานหินปุ่ ม ภูหินล่องกล้า) - การท่องเที่ยวเชิงนิเวศทางทะเล (Marine Ecotourism) เป็ นการท่องเที่ยวอย่างมี ความรับผดิชอบในแหล่งธรรมชาติทางทะเลที่มีลกัษณ์เฉพาะถิ่น และแหล่งวฒันธรรมที่เกี่ยวขอ้ง กับระบบนิเวศทางทะเล โดยมีกระบวนการเรียนรู้ร่วมกันของผู้เกี่ยวข้อง ภายใต้การจัดการ สิ่งแวดลอ้มและการท่องเที่ยวอยา่งมีส่วนร่วมของทอ้งถิ่น เพื่อมุ่งใหเ้กิดจิตสา นึกต่อการรักษา ระบบนิเวศอยา่งยงั่ยนื (ธเนศ ศรีสถิต, 2545) - การท่องเที่ยว ในชนบท ( Rural Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวที่นา พ้ืนฐาน ธรรมชาติของชนบทมาเป็ นจุดสนใจของนักท่องเที่ยว ซึ่งมีหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ การ ท่องเที่ยวในแบบฟาร์ม (Farm Tourism) การท่องเที่ยวเชิงเกษตรกรรม (Agro Tourism) ซึ่งเป็ นที่ นิยมมากในประเทศแถบยโุรป และเริ่มนิยมในเอเชียโดยเฉพาะประเทศไทยเป็นการสร้างรายได้ ใหก้บัทอ้งถิ่น เพราะนกัท่องเที่ยวตอ้งจ่ายค่าที่พกัใหก้บัเจา้ของฟาร์ม หรือซ้ือสินคา้ที่ผลิตใน ฟาร์ม ท้งัยงัมีการจดัที่พกัใหก้บัเยาวชนที่ตอ้งการท่องเที่ยวแบบประหยดัการท่องเที่ยวชนบท ท าให้นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้ถึงประสบการณ์และมีชีวิตความเป็ นอยู่ แบบชนบท ได้เรียนรู้ เกี่ยวกบัธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ม เช่น ที่หมู่บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช - การท่องเที่ยวแบบยงั่ยนื ( Sustainable Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวที่อยู่บน พ้ืนฐานของขีดความสามารถของธรรมชาติชุมชน ขนบธรรมเนียม ประเพณีวฒันธรรม วิถีชีวิตที่ มีต่อกระบวนการท่องเที่ยว มีความตระหนักดีต่อการมีส่วนร่วมของประชากร ชุมชน
50 ขนบธรรมเนียม ประเพณี วัฒนธรรม วีถีชีวิต ที่มีต่อกระบวนการท่องเที่ยว ประชาชนทุกส่วน ได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการท่องเที่ยวอย่างเสมอภาค - การท่องเที่ยวแบบเดินป่ า (Trekking Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวในลักษณะที่ ตอ้งเดินเขา้ไปในป่าเพื่อศึกษาธรรมชาติศึกษาสตัวป์่า พืชพนัธุต์ ่าง ๆ การท่องเที่ยวเดินป่าน้ีอาจมี กิจกรรมท่องเที่ยวอื่น ๆ ประกอบอีกมากเช่น การเที่ยวน้า ตกการดูนกการส่องสตัว์เป็นตน้ - การท่องเที่ยวทางน้า ที่ใชเ้รือแคนู(Sea Canoe Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวโดย ใช้เรือแคนูในการท่องเที่ยวเป็นลกัษณะการเที่ยวทางน้า ที่ตอ้งอาศยัพ้ืนที่น้า ที่นิ่งพอควรเพื่อ สามารถพายเรือชมความงามและชมทัศนียภาพของเกาะแก่ง ผาหินต่าง ๆ โดยเฉพาะทางทะเล หรือทางแอ่งน้า ต่าง ๆ ดงัภาพที่2.8 ภาพที่ 2.8 พายเรือแคนู
51 ภาพที่ 2.9 การล่องแพ - การท่องเที่ยวแบบล่องแพ (Jungle Raft Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวโดยใช้แพ เป็ นพาหนะ ซึ่งการล่องแพในประเทศไทยปัจจุบันที่นิยมมี 2 แบบ คือ แพยางและแพไม้ไผ่ แพ ยาง นิยมใช้ล่องในสายน้า ที่ไหลเชี่ยว มีระดับของแก่งหินเป็นช้นัๆ เพื่อความสนุกตื่นเต้นในการ ล่อง พร้อมกบัไดช้มความงามของธรรมชาติสองฝั่งทางดว้ย ส่วนแพไม้ไผ่ นิยมล่อง ในสายน้า ที่ ไหลเอื่อยเพื่อชมความงามของสองฝั่งริมน้า ดังภาพที่ 2.9 - การท่องเที่ยวแบบล่องไพร (Safari Tourism) เป็ นการท่องเที่ยวที่ได้รับความ นิยมเป็ นอย่างมากโดยเฉพาะประเทศแถบแอฟริกา มีลักษณะคือการใหน้กัท่องเที่ยวไดน้งั่รถเขา้ ไปในพ้ืนที่ที่เป็นอุทยานฯ หรือป่าเขาหรือสวนสตัวข์นาดใหญ่และไดน้งั่รถวนดูชีวิตของสตัวป์่า ชนิดต่าง ๆ บางที่อาจจดัใหช้มไดท้ ้งักลางวนัและกลางคืนที่เรียกว่าไนท์ ซาฟารี (Night Safari) นอกเหนือจากที่กล่าวมาการท่องเที่ยวยังมีรูปแบบต่าง ๆ ที่หลากหลายอีกมาก ยากที่ จะกล่าวไดห้มด การท่องเที่ยวที่จดัแบ่งตามวตัถุประสงคน์ ้ีจะจดัข้ึนโดยคา นึงถึงความชอบส่วน บุคคลหรือกลุ่มบุคคล ดังที่เราจะเห็นว่าการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่ ๆ จะเกิดข้ึนมากมายและมี ลกัษณะที่แปลก ๆ มากข้ึน เช่น Dentist Tourism คือ การท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวมีวัตถุประสงค์ หลักเพื่อมาท าฟันเป็ นประการส าคัญ เนื่องจากการทา ฟันในประเทศของตนน้นัราคาแพงมากจึง ตอ้งไปทา ในต่างประเทศเช่น ที่ฮงัการีการทา ฟันน้นัมีราคาถกูกว่าประเทศเพื่อนบา้นอยา่ง
52 ออสเตรียถึง 4 เท่า คนในออสเตรียจึงนิยมมาท่องเที่ยวท าฟัน และถือโอกาสได้ท่องเที่ยว ใน ฮังการีไปในตัว การจัดน าเที่ยวตามลักษณะช่วงเวลา การจดันา เที่ยวลกัษณะน้ีจะนิยมจดัโดยคา นึงถึงสถานที่จุดหมายปลายทางที่จะไปและ เวลาที่มีส าหรับการท่องเที่ยว ได้แก่ 1. การจัดน าเที่ยวครึ่งวัน ( Half Day Tour) เป็ นการจัดน าเที่ยวที่มีช่วงเวลาในการ ท่องเที่ยวส้นัเพียง 5 - 7 ชวั่ โมง เช่น อาจออกจากที่พกั 08.00 น. เพื่อไปท่องเที่ยว และกลับถึงที่พัก 14.00 น. เป็ นการจัดน าเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่ใกล้ ๆ ที่ส าคัญซึ่งอาจอยู่ใกล้ที่พักของ นกัท่องเที่ยวการจดันา เที่ยวลกัษณะน้ีนิยมขายหรือจดัใหก้บันกัท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวดว้ยตวัเอง ซ่ึงอาจเลือกซ้ือรายการนา เที่ยวคร่ึงวนัน้ีเมื่อเห็นว่าตนมีเวลาว่างและสนใจที่จะไปเที่ยวยงัสถานที่ น้นัๆ 2. การจัดน าเที่ยวเต็มวัน ( One Day Tour) เป็ นการจัดน าเที่ยวที่มีช่วงเวลาในการจัด ท่องเที่ยวต้งัแต่เชา้จรดเยน็คือประมาณ 10 - 12 ชวั่ โมง เช่น อาจออกจากที่พกั 07.00 น. เพื่อไป ท่องเที่ยวและกลับถึงที่พัก 17.00 น. เป็ นการจัดน าเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่ใกล้ ๆ หรือไม่ไกลจากที่พกัของนกัท่องเที่ยวมากนกัการจดันา เที่ยวลกัษณะน้ีนิยมขายหรือจดัใหก้บั นักท่องเที่ยวที่มาท่องเที่ยวด้วยตัวเองเช่นเดียวกับการจัดน าเที่ยวครึ่ งวัน บางคร้ังมีนกัท่องเที่ยว เพียง 1 - 2 คนบริษัทก็สามารถจัดน าเที่ยวได้แล้ว อนึ่งการจัดน าเที่ยวครึ่ งวัน และการจัดน าเที่ยวเต็มวัน โดยมากจะเป็ นรายการน าเที่ยว ที่บริษัทน าเที่ยวมักเสนอขายหน้าร้าน บางรายการสามารถออกเดินทางได้ทุกวัน วันละหลายเวลา แต่บางคร้ังบริษทันา เที่ยวก็อาจมีขอ้จา กดัเรื่องจา นวนลกูคา้ที่มาซ้ือรายการนา เที่ยวของตนอาจไม่ มากพอต่อการจดันา เที่ยวในคร้ังน้นัๆ หรืออาจไม่คุม้ตน้ทุนในการจดันา เที่ยว หลายบริษทัจึง ร่วมกันท าข้อตกลงกันทางธุรกิจซึ่งอาจอยู่ในรูปของชมรมหรือสมาคม ที่จะส่งนักท่องเที่ยวหรือ ลกูคา้ของตนร่วมเดินทางท่องเที่ยวไปกบันกัท่องเที่ยวที่ซ้ือรายการนา เที่ยวมาจากบริษทันา เที่ยว อื่นเป็ นลักษณะของทัวร์จอย ( Tour Join) กล่าวคือในการเดินทางท่องเที่ยวคร้ังน้นัๆ จะมี นกัท่องเที่ยวที่ซ้ือรายการนา เที่ยวผา่นบริษทันา เที่ยวจากหลายบริษทันนั่เอง ซ่ึงวิธีการน้ีปัจจุบนั ไดร้ับความนิยมแพร่หลายไม่ใช่เฉพาะการจดันา เที่ยวคร่ึงวนัและการจดันา เที่ยวเต็มวนัเท่าน้นัยงั รวมไปถึงการจัดน าเที่ยวแบบเหมาจ่าย (Package Tour) อีกด้วย
53 3. การจัดน าเที่ยวมากกว่า 1 วัน ( Tour Around) เป็ นการจัดน าเที่ยวที่มีช่วงเวลาใน การท่องเที่ยวมากกว่า 1 วัน คือต้องมีการค้างคืนระหว่างการเดินทางท่องเที่ยว อย่างน้อย 1 คืน เป็ นการจัดน าเที่ยวในแหล่งท่องเที่ยวหรือสถานที่ค่อนข้างมีระยะทางไกลต้องใช้เวลาในการ เดินทางนานจึงต้องมีการค้างคืน เช่น รายการ Around North Thailand Tour (3 Night 4 Day) คือ การจัดน าเที่ยวภาคเหนือ 3 คืน 4 วัน เป็ นต้น การจัดน าเที่ยว แต่ละคร้ังไม่ว่าจะจดัโดยวิธีใดก็ตาม ควรคา นึงถึงการจดัใหไ้ด้ ท่องเที่ยวในลกัษณะต่อไปน้ีดว้ย เนื่องจากเป็นการท่องเที่ยวพ้ืนฐานที่นกัท่องเที่ยวคาดหวงัว่าจะ ได้รับ ได้แก่ 1. เที่ยวชมเมือง (City Tour) ได้แก่ การเที่ยวชมสภาพแวดล้อมภายในตัวเมือง เยี่ยม ชมสถานที่ส าคัญ ๆ ของเมือง เช่น พิพิธภัณฑ์ อนุสาวรีย์ วัด โบสถ์ วัง เป็ นต้น การจัดน าเที่ยว ลกัษณะน้ีจะมีมคัคุเทศกท์อ้งถิ่น เป็นผบู้รรยายภายในรถ เพื่อให้ทราบประวัติความเป็ นมาของสิ่ง ดังกล่าวและสภาพสองข้างทางที่รถผ่านไม่ว่าจะเป็ นอาคาร ร้านค้าย่านส าคัญ ๆ โบราณสถานที่ สา คญัของตวัเมือง การจดันา เที่ยวลกัษณะน้ีจะใชเ้วลาระยะส้นัอาจเป็น ช่วงเช้าหรือ ช่วงบ่าย กรณีที่จัดเป็ นกลุ่ม เมื่อถึงเมืองตามรายการจะมีการเที่ยวในเมืองอาจใหล้กูคา้ไดน้งั่อยบู่นรถ ท า ใหท้ราบว่าเมืองน้นัมีสถานที่สา คญัอะไรบา้งรูปร่างหนา้ตาเป็นอยา่งไรศนูยก์ารคา้และแหล่งซ้ือ ของ โบสถ์ ที่ส าคัญมีอะไร ลักษณะสถาปัตยกรรมของอาคารสถานที่ บริษัทน าเที่ยวอาจจดันา เที่ยวในลกัษณะน้ีไวบ้ริการนกัท่องเที่ยวที่เดินทางตาม ล าพัง เป็ นการเปิ ดโอกาสให้นักท่องเที่ยวสามารถเลือกไปสถานที่ต่าง ๆ ได้ในเวลาอันจ ากัดที่ ตนเองมี บางบริษัทอาจด าเนินธุรกิจเฉพาะการจัดน าเที่ยวในตัวเมือง ซึ่งจะใช้เวลาไม่เกิน 5- 6 ชวั่ โมง ส่วนการจดัเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวในเมืองใกลเ้คียงน้นั ระยะเวลาในการจัดอาจเต็มวัน 2. เที่ยวทัศนศึกษาแบบเช้าไปเย็นกลับ (Sightseeing Tour หรือ Excursion Tour) ได้แก่ การเที่ยวชมสถานที่ หรือภูมิทัศน์ที่มีจุดเด่นทางการท่องเที่ยวตามธรรมชาติ หรือที่มนุษย์ สร้างข้ึนที่อยใู่นเมืองหรือเขตรอบนอกตัวเมือง เช่น ภูเขา ชายหาด เมืองเก่า พระราชวัง ปราสาท โบราณหรือหมู่บ้านชาวเขา รวมถึงการท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น ไปชมการแข่งขนักีฬาไปท่องเที่ยวซ้ือ ของหรือชมการแสดง เป็ นต้น ซึ่งในขณะเดินทางไปตามแหล่งท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวจะมี โอกาสเพลิดเพลินกับทิวทัศน์สองข้างทางที่ผ่าน บางประเทศจดันา เที่ยวลกัษณะน้ีมกัเนน้ขาย ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาตามล าพัง ซึ่งจะรวมกิจกรรมเที่ยวชมเมืองด้วย และอาจจัดไปยัง
54 เมืองที่ใกล้เคียงโดยใช้เวลาส าหรับการท่องเที่ยวแบบเชา้ไปเยน็กลบัคือใชเ้วลาท้งัวนัสา หรับการ ท่องเที่ยว(Excursion Tour) สา หรับลกูคา้ที่ไปกบับริษทันา เที่ยวเป็นกลุ่ม การจดัการท่องเที่ยวลกัษณะน้ีเป็นที่ นิยม เพราะลูกค้าจะได้ชมทิวทัศน์ และได้ความรู้เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ความเป็ นมาของเมืองที่ เยี่ยมชมในเวลาเดียวกัน ซึ่งการจัดอาจจะเป็ นการเดินทางผ่านและแวะชมสถานที่ส าคัญ ๆ แล้ว เดินทางต่อไปอีกเมืองหน่ึงแลว้พกัคา้งคืนที่เมืองน้นัก่อนจะออกเดินทางต่อไปในวนัรุ่งข้ึน ท้งัน้ี ข้ึนอยกู่บัผจู้ดัรายการดว้ยว่าจะคา นึงถึงระยะทางและแหล่งท่องเที่ยวที่สา คญัๆ อะไรบา้ง 3. เที่ยวแหล่งบันเทิงยามราตรี(Night Tour) ได้แก่ การเที่ยวชมความงามของแสง สียามราตรีและท่องเที่ยวกลางคืนตามสถานบันเทิงเริงรมย์ต่าง ๆ เช่น การรับประทานอาหารค ่า พร้อมชมการแสดง ชมละคร ชมการแสดงโชว์ต่าง ๆ เช่น การแสดงโชว์ ภูเก็ตแฟนตาซี หรือที่ สยามนิรมิต หรือฟังคอนเสิร์ต เที่ยวไนต์คลับ ดิสโก้เธค ชมการแสดงทางวัฒนธรรม หรือเข้า ร่วมงานเทศกาลประเพณีที่จัดในยามค ่าคืน เป็ นต้น เป็ นการใช้ชีวิตในยามราตรีหาความ สนุกสนาน และบางคร้ังก็อาจไดร้ับความรู้ความเพลิดเพลินไปในเวลาเดียวกนั ส าหรับลูกค้าที่ไปกับบริษัทน าเที่ยวเป็ นกลุ่ม บริษัทน าเที่ยวอาจจัดน า เที่ยว กลางคืนในลักษณะให้รับประทานอาหารค ่าพร้อม ชมการแสดงทางวัฒนธรรม หรือล่องเรือ ชม แม่น้า พร้อมรับประทานอาหารค่า และชมความงามของเมืองที่เต็มไปดว้ยแสงสีสองฟากฝั่ง หรือ หลังรับประทานอาหารค ่าแล้วพาชมคาบาเร่ต์ (Cabaret) ดูสุนัขแข่ง ( Greyhound) ชมละคร หรือ บัลเลต์ (Ballet) เป็ นต้น นอกจากน้ีการจดันา เที่ยวยามค่า คืนยงัรวมไปถึงการไปชมพระอาทิตยข์้ึน ณ หนา้ผา หรือจุดที่สวยงาม หรือการพาไปนงั่รถรางเพื่อชมสวนสตัวแ์ละชีวิตสตัวก์ลางคืน (Night Safari) 4. เที่ยวซื้อของ (Shopping Tour) หรือที่รู้จกักนัว่าช็อปปิ้ง ทัวร์ ได้แก่ การจัดน า เที่ยวเพื่อไปยงัจุดหมายปลายทางที่เนน้การซ้ือของตามเมือง หรือแหล่งซ้ือของที่ส าคัญ ๆ เช่น ฮ่องกง สิงคโปร์ ไม่ว่าจะเป็ นของใช้ อุปโภค บริโภค หรือของที่ระลึก และของฝาก ท าให้ นกัท่องเที่ยวไดม้ีโอกาสศึกษาถึงวิธีการทา การผลิตสินคา้พ้ืนเมือง งานศิลปหตัถกรรมของทอ้งถิ่น น้นันกัท่องเที่ยวก็จะไดร้ับความรู้ในกระบวนการผลิตควบคู่กบัการไดส้ินคา้ที่ถกูใจ สา หรับ นกัท่องเที่ยวไทยการไดซ้้ือของถือว่าเป็นกิจกรรมสา คญัที่ขาดไม่ได้เพราะนิสยัคนไทยเป็นคน โอบออ้มอารีเอ้ือเฟ้ือเผอื่แผ่ เมื่อเดินทางท่องเที่ยว ย่อมต้องมีของฝากส าหรับญาติมิตรเพื่อนฝูง ดว้ยเหตุน้ีบริษทันา เที่ยวไทยจะมีรายการใหน้กัท่องเที่ยวไดม้ีโอกาสซ้ือของเป็นระยะ ๆ ตามเมือง หรือย่านการค้าที่มีชื่อ เช่น ปารีส ลอนดอน (พวงบุหงา ภูมิพานิช, 2539)ถ้าเป็ นประเทศไทยใน
55 เขตกรุงเทพฯ ยา่นซ้ือสินคา้ที่ระลึกไดแ้ก่นารายณ์ภณัฑ์แถว ราชด าริ สวนจตุจักร ตลาดโบ๊เบ๊ ร้านจิลเวอรี่ (Jewelry) ต่าง ๆ แถวถนนศรีอยุธยาหรือถนนสุขุมวิท ส่วนในย่านต่างจังหวัด เช่น ตลาดไนท์บาซาร์ จังหวัดเชียงใหม่ CO-OP จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็ นต้น ภาพที่ 2.10 นงั่กระเชา้ไฟฟ้าชมธรรมชาติและตวัเมือง ภาพที่ 2.11 เที่ยวทิวทัศน์สวยงามแปลกตาต่างประเทศ
56 ภาพที่ 2.12 เที่ยวชม เล่นน้า ตก ภาพที่ 2.13 สิ่งก่อสร้างเชิงโบราณสถาน ประวตัิศาสตร์งานฝีมือที่วิจิตรพิศดาร ภาพที่ 2.14 การท่องเที่ยวประเพณีสงกรานต์
57 สรุป จากที่กล่าวมาท้งัหมดน้ีเห็นไดว้่าประเภทของการจดันา เที่ยวมีหลากหลายลกัษณะ การจดันา เที่ยวโดยทวั่ ไปมกัจะแบ่งเป็นการจดัตามความตอ้งการของนกัท่องเที่ยว หรือจดัตาม รายการที่ผู้ประกอบการได้เตรียมการไว้แล้ว ส่วนการจัดน าเที่ยวที่เป็ นสากลจะเน้นการน าเที่ยว ภายในประเทศ การน าเที่ยวเข้าประเทศและการน าเที่ยวไปต่างประเทศ หากจะมองตามขนาดของ การจัดน าเที่ยว ก็สามารถจัดน าเที่ยวตามจ านวน การจัดน าเที่ยวเฉพาะส่วนบุคคลหรืออาจเป็ น กลุ่มหรือหมู่คณะ ส าหรับการท่องเที่ยวตามวิธีการก็จะแบ่งเป็ นการจัดในลักษณะแบบเหมาจ่าย แบบเบ็ดเสร็จ จัดแบบให้เป็ นรางวัล และจัดแบบเช่าเหมาล า การจัดน าเที่ยวอีกลักษณะที่ก าลังเป็ น ที่นิยมอย่างมาก ได้แก่ การจัดตามวัตถุประสงค์ของนักท่องเที่ยวซึ่งจะมีมากมายหลายลักษณะซึ่ง การจดัตามวตัถุประสงคน์ ้ีนบัวนัก็จะมีความแปลกใหม่หลากหลายมากข้ึนตามความตอ้งการของ นักท่องเที่ยว และการจัดน าเที่ยวแบบสุดท้ายคือการจัดน าเที่ยวตามลักษณะของช่วงเวลา ซึ่งเป็ น การจัดน าเที่ยวที่ค านึงถึงเวลาในการจัดน าเที่ยวเป็ นส าคัญ เช่น การจัดน าเที่ยวครึ่ งวัน การจัดน า เที่ยวเต็มวนัและการจดันา เที่ยวมากกว่าหน่ึงวนั โดยในบางคร้ังการจดันา เที่ยวในหน่ึงรายการอาจ มีการรวมลักษณะของการจัดน าเที่ยวหลาย ๆ ประเภทมาอยู่ในรายการท่องเที่ยวเดียวกันก็ได้ โดย การจัดน าเที่ยวจะแยกประเภทให้เบ็ดเสร็จขาดไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันความต้องการของ นกัท่องเที่ยวมีความหลากหลายมากข้ึน นกัท่องเที่ยวมีสื่อต่าง ๆ ที่จะเอ้ือใหเ้ขาไดเ้ดินทาง ท่องเที่ยวดว้ยตวัเองมากข้ึน นกัท่องเที่ยวมีความฉลาดในการท่องเที่ยวมากข้ึน ผจู้ดัรายการนา เที่ยวจึงต้องทราบแนวทางในการวางแผนจัดน าเที่ยวแต่ละประเภท แล้วน ามาปรุงแต่งให้เกิดความ เหมาะสมมากที่สุดจึงจะก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทุกฝ่ ายทุกคน ส่วนมากแล้วการจัดน าเที่ยว แต่ละคร้ังมกัจดัใหค้รอบคลุมลกัษณะต่าง ๆ คือมีท้งัการชมเมือง ชมสถานที่สา คญัๆ ที่มนุษย์ สร้างข้ึน หรือที่ธรรมชาติสร้างสรรคไ์วเ้ป็นจุดเด่น มีการเที่ยวชมแหล่งบนัเทิงยามค่า คืน ตลอดจนใหน้กัท่องเที่ยวไดซ้้ือของฝากของที่ระลึกจากทอ้งถิ่นน้นัดว้ยเสมอ ………….. Land Operator เค้ามีอะไรให้ท ากันบ้าง และเป็นอย่างไร ? ๐ ให้บริการกับลูกค้าของเรา ลูกค้าของเรา คือ บริษัททัวร์ทั้งหลายที่มีอยู่นั ่นเอง เราไม่ได้ติดต่อกับคนเดินทางค่ะ เราท าอะไร ? ๐ ด้านการบริการกับลูกค้า เราเสนอราคาตามความต้องการของบริษัททัวร์ที่ขอเข้ามา เช่น จัด เส้นทางการเดินทาง จะไปท่องเที่ยวที่ไหน นอนที่ไหน โรงแรมระดับไหน จะทานอาหารอะไร อย่างไร จะไปเที่ยวที่ไหนบ้าง รวบรวมความต้องการที่อยากได้มา แล้วเราจะคิดราคาให้ ตกลง
58 ราคาได้ ก็จะจองให้ จัดการให้เสร็จสรรพ บริษัทที่เป็น Land Operator แบบนี้ มีต าแหน่งงาน หรือลักษณะงานอย่างไร ท าอะไรมั ่ง ? ๐ มี Land Operator ที่เมืองไทยหลายตลาดนะคะ เช่น ตลาดยุโรป อเมริกา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน เกาหลี อินเดีย ฯลฯ ขนาดเล็กใหญ่ของบริษัทต่างกัน Land บางแห่งท าเฉพาะ Inbound หรือ Outbound .. บริษัทของฉันท าทั้ง Inbound และ Outbound ส านักงานที่กรุงเทพฯ น่ะ มีอะไรให้ท า ? ๐ แผนก Sale และ Quotation - ท ารายการและราคาขึ้นต้นกับเอเย่นต์ (บริษัททัวร์)สรุปราคา ปิดการขาย ตกลงกันได้แล้ว ก็ ส่งงานต่อให้แผนก Operation ๐ แผนก Operation - ฝา่ยปฎบิตักิารทที่า การจองทุกอยา่งทแี่ผนก Sale ตกลงกบัลกูคา้ไว้ปญัหามนัจะมาเกดิก็ ขั้นตอนนี้หล่ะ ค าพูดที่ว่า " เซลลค์อืความฝนั โอเปอเรชนั่คอืความจรงิ " คือค าพูดเล่นๆ ที่พวก เราคุยกันเอง แต่มันจริงอย่างนั้น เพราะขั้นตอนแรกที่เซลล์ท า เราเรียกว่า Based ว่าวันนั้นๆ จะไปไหนบ้าง โรงแรมระดับ 4 ดาวนั้นๆ ร้านอาหารจีน/ไทย/ท้องถิ่น จะเที่ยวที่ไหนบ้าง แล้ว ทั้งหมดที่จะใช้ มีราคาขายตามนั้น แต่สิ่งต่างๆ ยังไม่ได้จองทั้งสิ้น จนกว่าจะถึงมือ Operation พอเริ่มจอง อ้าว! มันไม่ได้อย่างที่อยากจะให้เป็นเย๊อะมากกกก ก็ต้องมาดูว่าจะต้องท าอะไร อย่างไร .. - Operation ท างานกับใครบ้าง - ติดต่อกับลูกค้า (บริษัททัวร์นั ่นแหละ) กับเมืองนอก เรามีออฟ ฟิดอยู่ในแต่ละประเทศเหมือนกัน เช่น ไปอิตาลี เราก็จะติดต่อให้ Rome Office จองและจัดการ สิ่งที่ต้องการในอิตาลี แต่เรามีแผนกรถ และ แผนกโรงแรมอยู่ในลอนดอนที่เป็นส านักงานใหญ่ ๐ แผนก Hotel Negotiator - เริ่มเป็นงานด้าน Inbound บ้างแล้วค่ะ .. Negotiiator คือ คนที่ติดต่อกับโรงแรมในประเทศ ไทย และรอบๆ ขวานทองของเรา แถบอินโดไชน่า เพื่อท า Contract Rate ต่อปี มีการไปเยี่ยม โรงแรม ส ารวจสภาพโดยรวม ห้องพัก ล๊อบบี้ ฯลฯ ตกลงเงี่อนไขราคาที่ต้องใช้กันตลอดปีหรือ ช่วงเวลานึง .. Negotiators ที่ออฟฟิดนี้ สาวสวยทั้งนั้น บุคลิกดี มาดดี และวาจาเป็นเอก .. น่าอิจฉาเวลาไป Inspect โรงแรม ได้เดินทางเยอะ และพักโรงแรมทุกระดับฟรีอีกต่างหาก ส่วนมากก็จะท า Contract กับโรงแรม 3-5 ดาวเป็นส่วนใหญ่
59 ๐ แผนก Hotel Data -อีกคนที่ร่วมเดินทางไปกับ Negotiator เพื่อเก็บข้อมูลของโรงแรมทุกอย่าง มาใส่ข้อมูลใน ระบบเพื่อเป็นฐานข้อมูลว่า โรงแรมนั้นๆ กี่ดาว ห่างจากสนามบินแค่ไหน ใกล้อะไร มีกี่ห้อง มี อะไรน่าสนใจ ลักษณะห้องเป็นแบบไหน ตกแต่งอย่างไร .. คนเขียนข้อมูลของโรงแรมลง ฐานข้อมูลของบริษัท ๐ แผนก Hotel Reservation - จองโรงแรมตามที่ลูกค้า (บริษัททัวร์) ต้องการ ไม่ว่าจะเป็น Group Booking หรือ FIT Booking FIT คือการจองห้องส าหรับลูกค้าเดี่ยวๆ จ านวนห้องแต่ละ 1 Booking จ านวนคนน้อยกว่า 10 คน แผนกนี้จะติดต่อกับโรงแรมโดยตรง ได้ผลอย่างไร ก็จะผ่านไปให้แผนก Operation ติดต่อ กับลูกค้าเอง ๐ แผนก Services & Tour Co-Ordinator - Services จะเป็นคนที่ติดต่อกับ Supplier เพื่อท าจองและคอนเฟิร์มทุกอย่างให้กับลูกค้า ได้ แล้วจะส่งผลไปให้แผนก Operaton ไปคุยกับลูกค้าต่อเอง เช่น บริษัทรถ ร้านอาหาร สถานที่ ท่องเที่ยวต่างๆ ไกด์ท้องถิ่น ส่วน Tour Co-Ordinator คือ คนที่ประสานงาน รับเรื่อง และ อา นวยความสะดวกใหก้บักรุ๊ปเวลาทอี่าจจะมปีญัหาอะไรกต็ามระหวา่งการเดนิทางจะรบัหน้า ด่านจากหัวหน้าทัวร์ แล้วตามเรื่องกับภายในองค์กรแต่ละแผนกที่เกี่ยวข้อง . ๐ แผนก Data - ติดต่อกับ Supplier เพื่อท า Contract เช่น บริษัทรถ ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ไกด์ ทอ้งถนิ่นอกจากตดิต่อไดร้าคามาแลว้ตอ้งมาป้อนขอ้มลูเขา้ไปในเครอื่งเป็นฐานขอ้มลูทดี่งึ ราคาไปใช้ ดึงรายละเอียดของแต่ละอย่าง ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ๐ ยังมีแผนกอื่นๆ อีกนะคะ แผนกบัญชี แผนกคอมพิวเตอร์ แผนกบุคคล ฯลฯ คุณสมบัติของคนที่ท างานกับ Land Operator มีอะไรบ้าง ? ๐ ภาษาอังกฤษในการเขียน อ่าน พูด แบบสื่อสารได้ไม่ผิดสาร ถึงแม้บางแผนกจะติดต่อกับ ลูกค้า ในเมืองไทยก็ตาม แต่เอกสารที่เราใช้ในบริษัท และติดต่อสื่อสารกันภายในองค์กร แต่ละออฟ
60 ฟิดสาขาในต่างประเทศ และส านักงานใหญ่ เป็นภาษาอังกฤษทั้งหมดทุกแผนก ก็ใช่ว่าต้องเก่ง ภาษาอังกฤษมากๆ ซะทั้งหมดทุกคน ทุกแผนกนะคะ .. ภาษาอังกฤษของฉันก็พอสื่อสารแบบ ไม่ให้มันผิดสารได้แค่นั้นน่ะค่ะ คุยกับเมืองนอกได้ คุยกับเจ้านายรู้เรื่อง เพราะเจ้านายเป็นคน อังกฤษ .. แต่ถ้าเป็นคนที่ท างานฐานข้อมูลอย่างแผนก Data / Hotel Data ต้องเขียนเป็นเรื่อง เป็นราวมาก (ขนาดนี้ฉันไม่สามารถค่ะ) ข้อมูลที่เขียนนั ่น ใช้ดูกันทุกๆ ออฟฟิดที่เรามีสาขาอยู่ ทั้งหมด รวมทั้ง information บางอย่าง ใช้ส่งให้ลูกค้าด้วย .. ที่นี่เลยจะสัมภาษณ์ทั้งไทยและ อังกฤษ ดูทั้งพูดและเขียนไปคราวเดียวกัน ๐ ท างานภายใต้แรงกดดันได้ (ดี) โดยเฉพาะแผนก Sale กับ Operation -แผนก Sale จะได้รับแรงกดดันจากลูกค้า -แผนก Operation ก็จะได้รับแรงกดดันจากลูกค้าเช่นกัน เพราะต้องประสานงานต่อจากเซลล์ แต่จะมีความกดดันจาก Local Office แต่ละประเทศที่ต้องท างานด้วย เมื่อจองโรงแรม รถ ร้านอาหาร ยังมีความกดดันจากเวลา ที่เป็นเส้นตายก าหนดไว้ว่าต้องเสร็จวันไหน เวลาไหน พลาดหล่ะ เป็นเงิน หรือความเสียหายเป็นลูกโซ่กันเลย .. ลูกค้าที่ติดต่อด้วยมักจะเป็นเจ้าของบริษัททัวร์มาคุยเอง โอ๊ยยย บางท่านอยู่ในวงการมา 20- 30 ปีแล้ว คุยกับคนที่มีประสบการณ์มาเยอะๆ ทั้งดีและกดดัน ท้าทายดีนะ แต่ก็ท าให้เครียดไม่ น้อย ๐ รักงานบริการ ถ้าจะต้องติดต่อลูกค้า มันต้องรักงานบริการอยู่แล้ว ถ้าไม่รักหรือมีใจที่อยากจะบริการใคร ท างานบริการให้ได้ดีล าบากนะคะ ๐ ช่างเจรจาและเป็นนักต่อรองเก่ง ๆ คุณสมบัตินี้เหมาะกับการเป็น Hotel Negociator และ Data ค่ะ เพราะต้องเป็นคนไปท า Contract เพื่อให้ Product ดีๆ และราคาไม่แพง :P ๐ ละเอียดรอบคอบ คุณสมบัติเพิ่มส าหรับหลายแผนกเลยค่ะ อย่าง Hotel Data / Data คนที่ต้อง input contract ลง ในฐานข้อมูล ผิดหละเป็นเรื่องเลย ท าให้เซลล์เอาราคาผิดมาขายลูกค้าได้ แผนก Hotel Reservation , Operation อันนี้ต้องละเอียดโดยเนื้องานอยู่แล้ว เกี่ยวกับ Deadline ต่างๆ กับ โรงแรม กับ Supplier และต้องดูรายการทัวร์ อาหาร การจัดการรายการท่องเที่ยวให้มันเป็นไป ได้อย่างดีที่สุด
61 ๐ อึด!! งานหนักนะ แต่เป็นช่วงๆ แล้วแต่ Peak Season ปีนึงจะว่างจาก Peak ที่ไม่ต้องกลับดีกๆ ดื่นๆ สัก 4-5เดือน