The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

best practice ครูธนพล รร.นิกรวิทย์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by วิชาการ นิกรวิทย์, 2024-05-26 12:07:44

best practice ครูธนพล รร.นิกรวิทย์

best practice ครูธนพล รร.นิกรวิทย์

1


2 รายงานผลการดำเนินงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) การจัดการเรียนการสอน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ นายธนพล จันทร์ศรี ตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนนิกรราษฎร์บำรุงวิทย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ


3 คำนำ การจัดทำรายงานผลการดำเนินงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เรื่อง การจัดการเรียนการ สอน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งผู้รายงานได้ จัดการเรียนการสอน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มาอย่างต่อเนื่อง เริ่มตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 จนถึงปีการศึกษาปัจจุบัน และจัดทำขึ้นเป็นรูปเล่มตามแบบ รายงานเพื่อนำเสนอข้อมูลหลักฐานประกอบการนำเสนอเพื่อพิจารณาขอรับรางวัลวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ระดับเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 โดย นายธนพล จันทร์ศรีตำแหน่ง ครูผู้ช่วย โรงเรียนนิกรราษฎร์บำรุงวิทย์ โดยนำเสนอข้อมูลจัดเรียงเอกสารประกอบตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานผลการดำเนินงานวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) เล่มนี้ จะ เป็นประโยชน์สำหรับครู หรือผู้ที่สนใจ นำไปเป็นแนวทาง หรือปรับใช้ในการพัฒนานวัตกรรม หรือการจัดการ เรียนการสอนต่อไป ธนพล จันทร์ศรี


4 สารบัญ เรื่อง หน้า ความสำคัญของผลงาน 1 จุดประสงค์และขอบเขตของการดำเนินการ 2 กระบวนการดำเนินงาน 2 ผลการดำเนินงาน 3 ปัจจัยความสำเร็จ 4 บทเรียนที่ได้รับ 4 การเผยแพร่ 4 ภาคผนวก


5 แบบเสนอผลงาน ผลงาน นวัตกรรม/ วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ( Best Practice ) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 ปี2566 ชื่อผลงาน การจัดการเรียนการสอน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ ข้อมูลทั่วไป 1. ชื่อสถานศึกษา โรงเรียนนิกรราษฎร์บำรุงวิทย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 เลขที่ 1/1 ตำบลบึงบอน อำเภอหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี รหัสไปรษณีย์12170 โทรศัพท์หน่วยงาน 063-246-1059 , 098-549-6541 โทรสาร - E- mail [email protected] 2. ชื่อครูผู้สอนที่ส่งผลงาน 2.1 ชื่อ นายธนพล จันทร์ศรี โทรศัพท์มือถือ 099-914-1563 E-mail [email protected]


1 ข้อมูลการนำเสนอผลงาน นวัตกรรม/ วิธีการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ( Best Practice ) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 2 ปี2566 ชื่อผลงาน การจัดการเรียนการสอน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 1. ความเป็นมา และความสำคัญ 1.1 ความเป็นมาและสภาพของปัญหา การสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry) เป็นคำที่เราคุ้นเคยมานาน แต่การสืบเสาะหาความรู้นี้มีความหมาย ที่ลึกซึ้งมากกว่าการสังเกตและจดบันทึก มีความหมายมากกว่าวิธีการทางวิทยาศาสตร์และมีความหมาย มากกว่าการทำการทดลอง การสืบเสาะหาความรู้นอกจากจะต้องใช้หลักการ เหตุผล และข้อมูลที่ได้จากการ ทดลองแล้วยังต้องใช้จินตนาการ ความสร้างสรรค์และการลง ความเห็นร่วมกัน แม้ว่าคนเพียงคนเดียวสามารถ ค้นพบเรื่องที่ยิ่งใหญ่ได้แต่ ความก้าวหน้าทาง วิทยาศาสตร์ขึ้นอยู่กับคนกลุ่มใหญ่ที่ยอมรับความคิดเห็นนั้น ร่วมกัน การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์หมายถึงวิธีการที่หลากหลายที่นักวิทยาศาสตร์ใช้เพื่อศึกษาสิ่ง ต่างๆ ทางกายภาพในธรรมชาติและเสนอคำอธิบายสิ่งเหล่านั้นด้วยข้อมูลที่ได้จากการ ทำงานทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหาความรู้ยังหมายถึงกิจกรรมที่นักเรียนได้พัฒนาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคิดทาง วิทยาศาสตร์และเข้าใจว่านักวิทยาศาสตร์ศึกษาสิ่งต่างๆ บนโลกนี้ได้อย่างไร (National Research Council, 1996) การสืบเสาะหาความรู้ทางวิทยาศาสตร์ในห้องเรียน จึงหมายถึงการที่ผู้เรียนมีส่วนร่วมใน กิจกรรม และกระบวนการคิดที่หลากหลายคล้ายกับที่นักวิทยาศาสตร์ได้ดำเนินการศึกษาค้นคว้า เรื่องต่างๆ เพื่อให้ ความรู้เกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ทางกายภาพในธรรมชาติ การสืบเสาะหาความรู้ของนักวิทยาศาสตร์และการสืบเสาะหาความรู้ในห้องเรียน การสืบเสาะหา ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์และของนักเรียนมีความคล้ายคลึงกัน นักวิทยาศาสตร์เริ่มต้นการสืบเสาะหาความรู้ จากคำถามที่เกิดจากการสังเกตเห็นสิ่งที่ไม่ปกติหรือสิ่ง ที่ต้องการรู้แล้วนำประเด็นคำถามนั้นมาพิจารณาอย่าง รอบคอบและรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาอธิบาย สิ่งที่ต้องการรู้ นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์ใช้ความรู้เดิมของตน และการสำรวจตรวจสอบของ นักวิทยาศาสตร์คนอื่นๆ มาพิจารณาเพื่อยืน ยันคำอธิบายที่ตนค้นพบก่อน นำเสนอ สำหรับการสืบเสาะหาความรู้ในห้องเรียนมีส่วนคล้ายกับการสืบเสาะหาความรู้โดยนักวิทยาศาสตร์แต่ มีรูปแบบที่ หลากหลายทั้งการสืบเสาะหาความรู้แบบปลายเปิด (Opened Inquiry) หรือการสืบเสาะหา ความรู้แบบครูเป็นผู้กำหนดแนวในการทำกิจกรรม (Structured Inquiry) การสืบเสาะหาความรู้แบบ ปลายเปิดนั้นนักเรียนจะเป็นผู้ควบคุมการสืบเสาะหาความรู้ของตนเองตั้งแต่การสร้างประเด็น คำถาม การ สำรวจตรวจสอบและ อธิบายสิ่งที่ศึกษาโดยใช้ข้อมูลหรือหลักฐานที่ได้จากการสำรวจ ตรวจสอบ การประเมิน และเชื่อมโยงความรู้ที่เกี่ยวข้องหรือคำอธิบายอื่นเพื่อปรับปรุงคำอธิบายของ ตนและนำเสนอต่อผู้อื่น ส่วนการ สืบเสาะหาความรู้แบบครูเป็นผู้กำหนดแนวในการทำกิจกรรมนั้น ครูจะมีส่วนในการชี้นำนักเรียนมากกว่าการ สืบเสาะหาความรู้แบบปลายเปิด ในการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ในห้องเรียนขึ้นอยู่กับจุดประสงค์


2 การเรียนเรื่องนั้นๆ ดังนั้นครูสามารถจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ได้ทั้งแบบสืบเสาะหาความรู้แบบ ปลายเปิดและแบบกำหนดแนวในการทำกิจกรรมตามความเหมาะสม 2. จุดประสงค์/ เป้าหมาย จุดประสงค์ 2.1 เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้สูงขึ้น 2.2 เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์ 2.3 เพื่อพัฒนาการสืบเสาะหาความรู้ในห้องเรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีคุณภาพ สูงขึ้น เป้าหมายเชิงปริมาณ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 20 คน เป้าหมายเชิงคุณภาพ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565 มีผลสัมฤทธิ์ปลายปี รายวิชาวิทยาศาสตร์เกรด 3 ขึ้นไป ร้อยละ 75 นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีพัฒนาด้านการสืบเสาะหาความรู้ในห้องเรียน สูงขึ้น 3. กระบวนการ / ขั้นตอน 3.1 ขั้นวางแผน (Plan) แผนผังการสืบเสาะหาความรู้ ผู้เรียนมีส่วนร่วมในประเด็นคำถามทางวิทยาศาสตร์ หรือครูผู้สอนกำหนดประเด็นทางวิทยาศาสตร์ ผู้เรียนให้ความสำคัญ กับข้อมูลหลักฐาน ผู้เรียนสร้างคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ตามข้อมูล ผู้เรียนเชื่อมโยงคำอธิบายของตนกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ หรือคำอธิบายอื่นๆ ผู้เรียนสื่อสารและให้เหตุผล


3 3.2 ขั้นดำเนินการ (Do) 1) ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนตั้งประเด็นคำถามทางวิทยาศาตร์ (ใช้ในกรณีการสืบเสาะแบบปลายเปิด) ครูตั้งประเด็นทางวิทยาศาสตร์ (ใช้ในกรณีการสืบเสาะแบบปลายปิด คือกำหนดเรื่องที่จะเรียนตามบทเรียน) 2) ดำเนินการจัดกิจกรรมการสอน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ สำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยตั้งประเด็นคำถามทางวิทยาศาสตร์ให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการสืบเสาะหา ความรู้ และได้เรียนรู้ตามประเด็นหัวข้อนั้นๆ ด้วยตนเอง โดยครูจะคอยแนะนำและดูแลความเรียบร้อย 3) นักเรียนสามารถสร้างคำอธิบายเชิงวิทยาศาสตร์ตามประเด็นคำถาม 3.3 ขั้นติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผล (Check) 1) ประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2) รวบรวมสรุปผล 3.4 ขั้นพัฒนา แก้ไข /ปรับปรุง (Action) 1) นำผลการประเมินมาปรับปรุง แก้ไข ทบทวน และพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนให้ ถูกต้องและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น 4. ผลการดำเนินงาน 4.1 ผลที่เกิดตามจุดประสงค์ จากการที่ได้จัดการเรียนการสอน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบการสืบเสาะหาความรู้สำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 นั้นทำให้เกิดผลตามวัตถุประสงค์ ดังนี้ 4.1.1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ เกรด 3 ขั้นไป เกิน ร้อยละ 50 4.1.2 พัฒนาการจัดการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์ให้ผู้เรียนได้มีส่วนร่วมในการสืบเสาะหาความรู้ และเรียนรู้ด้วยตนเอง เกิดการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์14 ทักษะ ตามศตวรรษที่ 21 4.1.3 เพื่อให้ผู้เรียนมีความสนใจและมีความสุขในการเรียน เพราะการเรียนรู้โดยการสืบเสาะหา ความรู้เป็นเทคนิคการสอนที่ให้ผู้เรียนได้มีอิสระในการตั้งประเด็นคำถามทางวิทยาศาสตร์และเรียนรู้ด้วย ตนเองทำให้นักเรียนได้รับบรรยากาศการที่ท้าทาย และกระตุ้นให้ผู้เรียนใช้ศักยภาพและบูรณาการความรู้ที่ เกี่ยวข้องเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายของประเด็นคำถามทางวิทยาศาสตร์กระตุ้นให้ผู้เรียนประสานความ ร่วมมือกับผู้อื่นในกรณีที่ต้องพึ่งพาอาศัยหรือขอความช่วยเหลือจากผู้ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระตุ้นให้ผู้เรียนไม่ย่อ ท้อต่ออุปสรรค อีกทั้งช่วยให้ผู้เรียนมีแรงจูงใจใฝ่สัมฤทธิ์และเกิดความผูกพันในการเรียนรู้ ทำให้ผู้เรียนรู้จัก บริหารจัดการอารมณ์และการตอบสนองต่อสถานการณ์ต่างๆ อย่างเหมาะสม ได้ฝึกทักษะการคิดวิเคราะห์ การบูรณาการและสร้างกลยุทธ์เพื่อความสำเร็จ การสื่อสาร การทำงานร่วมกับผู้อื่น


4 4.2 ผลสัมฤทธิ์ของงาน จากที่ผู้รายงานได้จัดการเรียนการสอน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้สำหรับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2565 ถึงปีการศึกษาปัจจุบันนั้น ทำให้ได้รับรางวัลโรงเรียน คุณภาพมาตรฐานกิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กประถมศึกษา “บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย” 4.3 ประโยชน์ที่จะได้รับ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ได้มีการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยได้รับทั้งความรู้และทักษะกระบวนการ ทางวิทยาศาสตร์ ส่งผลให้มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์สูงขึ้น 5.ปัจจัยที่ทำให้ประสบผลสำเร็จ 5.1 กระบวนการจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ผู้รายงานมีการ เตรียมการสอน ทำให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน 5.2 นักเรียน ผู้ปกครอง ผู้บริหารสถานศึกษา และคณะครูให้ความร่วมมือและมีส่วนร่วมในการจัดการ เรียนการสอน 6.บทเรียนที่ได้รับ - นักเรียนเกิดความกระตือรือร้นและสนใจเรียนมากขึ้น - นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สูงขึ้น 7. การเผยแพร่/การได้รับการยอมรับ/รางวัลที่ได้รับ 7.1 การเผยแพร่ - เผยแพร่แก่คณะครูในโรงเรียน - เผยแพร่ให้กับครูในโรงเรียนต่าง ๆ ที่เข้าร่วมโครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ระดับประถมศึกษา 7.2 การได้รับการยอมรับ/ รางวัลที่ได้รับ - ได้รับรางวัล โรงเรียนคุณภาพมาตรฐานกิจกรรมวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กประถมศึกษา “บ้าน นักวิทยาศาสตร์น้อย” จากมูลนิธิสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา หมายเหตุ ผู้นำเสนออนุญาตให้ส่วนกลางดำเนินการเผยแพร่ผลงานเพื่อประโยชน์ทางการศึกษา


5 ภาคผนวก


6


7


8


9


Click to View FlipBook Version