The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการสอนประวัติศาสตร์ป.6

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by mild_nartlada_26, 2022-11-07 20:44:57

โครงสร้างและแผนการสอนประวัติศาสตร์ป.6

โครงสร้างและแผนการสอนประวัติศาสตร์ป.6

ข้ันสอน

ขนั้ สารวจคน้ หา

3. นกั เรยี นรวมกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความรูเ้ รอื่ ง พระราชกรณยี กจิ
สาคัญของสมเดจ็ พระบวรราชเจา้ มหาสุรสิงหนาท จากหนงั สือเรยี นหรอื บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ตามประเดน็
ที่กาหนดให้ ดงั นี้

1) ดา้ นการสรา้ งความม่ันคงแก่บ้านเมอื ง
2) ดา้ นศาสนาและวฒั นธรรม
แล้วบนั ทึกความรู้ทไ่ี ด้จากการศกึ ษาลงในแบบบันทกึ การอ่าน
4. นักเรยี นแต่ละกลุ่มร่วมกนั อภิปรายและสรปุ ประเด็นสาคญั เพือ่ ใหเ้ กดิ ความเขา้ ใจที่ตรงกนั

ขน้ั อธิบายความรู้

. 5. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปเกย่ี วกบั พระราชกรณียกจิ ของสมเดจ็ พระบวรราชเจ้ามหาสรุ สิงหนาท
6. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ นกั เรยี นสามารถนาคุณความดีของสมเดจ็ พระบวรราชเจา้ มหาสรุ สิงหนาทไป

ปรับใช้ในวยั ของนกั เรียนไดอ้ ยา่ งไร
8. นกั เรียนแต่ละคนตอบคาถามในใบงานท่ี 2.7 เร่ือง นายบญุ มา เมือ่ ทาเสร็จแลว้ ให้สมาชิกแตล่ ะคนผลัดกันอธิบายคาตอบ

ให้เพือ่ นคนอ่นื ๆ ในกลุม่ ฟัง เพื่อให้มคี วามเขา้ ใจกระจา่ งชดั เจน

ข้ันสรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ

9. ครสู ุ่มเรียกตัวแทนแต่ละกลมุ่ ออกมานาเสนอคาตอบในใบงานที่ 2.7 กลุ่มละ 1-2 ข้อ ตามความเหมาะสมซ่งึ อาจจะซา้ ข้อ
กัน เพอ่ื ให้ไดแ้ นวคาตอบทห่ี ลากหลาย ครตู รวจสอบความถกู ต้อง

ขัน้ ตรวจสอบผล

10. ครูวดั และประเมนิ ผลนักเรยี นจากการสรุปองคค์ วามรู้และจากการทาใบงานที่ 2.7
11. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรียนคิดวา่ “พระยาเสอื ” เป็นพระนามที่มคี วามเหมาะสมกับสมเด็จพระ
บวรราชเจา้ มหาสุรสงิ หนาทหรือไม่ เพราะอะไร

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ วธิ กี ารวดั ผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์
1. อธิบายพระราชประวตั ิของ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 70% ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
ความร้คู วามเข้าใจ (K) สมเด็จพระบวรราชเจา้ มหา การประเมนิ
สรุ สิงหนาทได้ (K) ใบงานที่ 2.7
ทักษะ / กระบวนการ (P) 2. อธบิ ายพระราชกรณียกจิ 70% ขึน้ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์
สาคญั ของสมเด็จพระบวรราช แบบสังเกตพฤติกรรมการ การประเมนิ
คุณลกั ษณะนสิ ัย (A) เจ้ามหาสุรสิงหนาทได้ (P) ทางานรายบคุ คล
3. มีวินยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ใน 70% ขึน้ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์
การทางาน (A) การประเมนิ

7. ส่ือ / แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียน ประวัตศิ าสตร์ ป.6
2) บทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวตั ิศาสตร์ ป.6 บรษิ ัท เพลยเ์ อเบลิ จากดั
3) ใบงานท่ี 2.7 เรอ่ื ง นายบญุ มา

7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมดุ
2) อินเทอร์เน็ต

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ………………………………………………………ครผู สู้ อน ลงชื่อ………………………………………………………ฝ่ายวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงช่ือ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

ใบงานที่ 2.7
เรอ่ื ง นายบญุ มา

คาช้แี จง ให้นักเรียนตอบคาถามตอ่ ไปนี้
1. เรื่องราวของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท เกิดขึ้นในรัชกาลใด
2. พระนามเดมิ ของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาทมีชือ่ ว่าอะไร
3. เมอื่ ครั้งทีเ่ สยี กรงุ ศรอี ยุธยาให้แก่พม่า สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสงิ หนาท ไดเ้ ข้าร่วมกองทพั กับใคร
4. ในสมยั ท่ีสมเดจ็ พระเจา้ ตากสนิ ทรงขน้ึ ครองราชย์ สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสงิ หนาท ได้รบั บรรดาศักด์เิ ป็นอะไร
5. สมเดจ็ พระบวรราชเจา้ มหาสรุ สิงหนาททรงเป็นแมท่ พั ในการทาสงครามทส่ี าคัญใดบา้ ง
6. เพราะเหตใุ ด พมา่ จึงเรียกพระนามของสมเดจ็ พระบวรราชเจา้ มหาสรุ สิงหนาทว่าพระยาเสอื
7. พระกรณียกจิ ทีส่ าคัญด้านศาสนาและวฒั นธรรมของสมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสุรสิงหนาท ได้แกอ่ ะไรบา้ ง จง
ยกตวั อย่าง

8. สมเดจ็ พระบวรราชเจา้ มหาสุรสิงหนาท ไดต้ ้ังกองโจรเพอ่ื สู้กับพมา่ ขึ้น 3 กองโจร โดยแต่งต้ังใหใ้ ครทาหนา้ ทใ่ี ดบา้ ง

9. สมเด็จพระบวรราชเจ้ามหาสรุ สงิ หนาท ได้ทรงใชก้ ลอบุ ายใดลวงข้าศึกว่ากองทพั ไทยมีกาลงั พลและอาวธุ เป็นจานวนมาก

สัปดาหท์ ่ี 12

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท…่ี ……..… /…………….. ชือ่ ผ้สู อน……………………………………………………

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาป่ที ี่ 6 จานวน 1 คาบ

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 ประวัติและผลงานของบุคคลสาคญั ในสมยั รัตนโกสนิ ทร์

เรือ่ ง พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจา้ อย่หู ัว

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ใิ จและธารงความเปน็ ไทย
ตวั ชว้ี ดั ป.6/3 ยกตวั อยา่ งผลงานของบุคคลสาคญั ดา้ นตา่ งๆ สมยั รตั นโกสินทร์

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ เจ้าอยู่หวั ทรงมีพระราชกรณยี กิจท่สี าคญั ทง้ั ด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ด้านการ

ปรับปรุงประเทศ ด้านเศรษฐกิจ ด้านศาสนา สงั คม และวัฒนธรรม

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. อธบิ ายพระราชประวตั ิของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ (K)
2. อธิบายพระราชกรณยี กจิ สาคญั ของพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนร้ทู ้องถนิ่
พจิ ารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
ผลงานของบุคคลสาคญั ทางด้านต่างๆ ในสมัย
รตั นโกสินทร์ เช่น
พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบท่ี 1

ข้นั นา

ขนั้ กระตุน้ ความสนใจ

1. ครูนาพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาให้นักเรียนดูแล้วสอบถามนักเรียนว่า บุคคล
ในภาพท่านน้ีเปน็ ใคร และมคี วามสาคัญตอ่ ชาตไิ ทยอย่างไร

2. ครูอธิบายเพม่ิ เตมิ จากคาตอบของนกั เรียนเกยี่ วกับพระราชประวตั ิของพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวโดยสังเขป
เพื่อให้นักเรียนเกดิ ความเข้าใจมากขึน้

ข้นั สอน

ขน้ั สารวจค้นหา

3. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1) แบ่งหน้าที่กันศึกษาความรู้เร่ือง พระราชกรณียกิจ
สาคัญของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 จากหนังสือเรียนหรือบทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite
ในประเดน็ ต่อไปน้ี

- คนที่ 1 ศึกษาความร้เู รอ่ื ง ด้านความสมั พันธ์กับตา่ งประเทศ
- คนท่ี 2 ศกึ ษาความรเู้ รื่อง ด้านการปรบั ปรุงประเทศ
- คนที่ 3 ศกึ ษาความรู้เรือ่ ง ด้านเศรษฐกจิ
- คนท่ี 4 ศกึ ษาความรเู้ รอื่ ง ดา้ นศาสนา สังคม และวฒั นธรรม

ขนั้ อธบิ ายความรู้

. 4. เมื่อนักเรียนแต่ละคนศึกษาความรู้ท่ีได้รับมอบหมายจนเข้าใจแล้วให้กลับมารวมกลุ่มเดิม (4 คน) แล้วผลัดกันอธิบาย
ความรใู้ หส้ มาชิกคนอ่นื ๆ ภายในกลมุ่ ฟัง เพ่อื ใหเ้ กิดความเขา้ ใจทตี่ รงกัน

5. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ การทาสนธิสัญญาเบาวร์ งิ สง่ ผลดแี ละผลเสียตอ่ ประเทศไทยอยา่ งไร
6. นกั เรยี นแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 2.8 เร่ือง พระราชกรณียกจิ สาคญั ของรัชกาลที่ 4 แลว้ นาสง่ ครู

ข้ันสรุป

ขนั้ ขยายความเข้าใจ

7. ครูถามนักเรียนว่า จากพระราชกรณียกิจของรัชกาลที่ 4 ในด้านต่างๆ ส่งผลต่อประเทศในปัจจุบันอยา่ งไร ให้แต่ละกลุ่มช่วยกันอภิปราย

แสดงความคดิ เหน็ แลว้ ส่งตัวแทนกลุม่ ออกมานาเสนอหน้าชัน้ เรียน

ขัน้ ตรวจสอบผล

8. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เก่ียวกับพระราชกรณียกิจสาคัญของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รชั กาลที่ 4

9. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ เพราะเหตใุ ด เศรษฐกิจในสมยั รชั กาลที่ 4 จงึ เติบโตข้ึนมา

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวดั และประเมนิ วธิ ีการวดั ผล เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์
1. อธิบายพระราชประวัติของ ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 70% ขึน้ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) พระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา้ การประเมนิ
เจ้าอยูห่ วั ได้ (K)
ทกั ษะ / กระบวนการ (P) 2. อธบิ ายพระราชกรณียกจิ ใบงานท่ี 2.8 70% ขึ้นไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
สาคญั ของพระบาทสมเดจ็ พระ การประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) จอมเกล้าเจ้าอยูห่ ัวได้ (P)
3. มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ใน แบบสังเกตพฤติกรรมการ 70% ข้ึนไปถือว่าผ่านเกณฑ์
การทางาน (A)
ทางานกลุ่ม การประเมิน

7. สือ่ / แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น ประวตั ิศาสตร์ ป.6
2) บทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวัติศาสตร์ ป.6 บริษัท เพลยเ์ อเบิล จากัด
3) บัตรภาพ
4) ใบงานท่ี 2.8 เรอ่ื ง พระราชกรณียกจิ สาคัญของรชั กาลท่ี 4
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมดุ
2) อินเทอร์เน็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ ………………………………………………………ครูผสู้ อน ลงชอ่ื ………………………………………………………ฝา่ ยวิชาการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอ่ื ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

ใบงานที่ 2.8

เรอื่ ง พระราชกรณียกิจสาคัญของรัชกาลท่ี 4

คาชี้แจง ให้นักเรียนเขยี นแผนผงั ความคิด สรปุ พระราชกรณียกจิ สาคญั ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว รชั กาลท่ี 4

ดา้ นความสมั พันธก์ ับต่างประเทศ ด้านการปรับปรงุ ประเทศ

พระราชกรณียกจิ สาคญั ของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยหู่ ัว

ดา้ นเศรษฐกิจ ด้านศาสนา สังคม และวฒั นธรรม

สปั ดาหท์ ี่ 13

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท…่ี ……..… /…………….. ชอื่ ผ้สู อน……………………………………………………

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปที่ ี่ 6 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ประวัติและผลงานของบุคคลสาคญั ในสมยั รัตนโกสินทร์

เร่ือง พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกล้าเจา้ อยู่หัว

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มีความรกั ความภูมใิ จและธารงความเป็นไทย
ตัวชว้ี ัด ป.6/3 ยกตวั อย่างผลงานของบุคคลสาคญั ดา้ นต่างๆ สมยั รตั นโกสินทร์

2. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด
พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงเปน็ พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซ่ึงพระองค์ทรง

มพี ระราชกรณยี กจิ ที่สาคญั กบั ชาตไิ ทยหลายดา้ นในการพฒั นาใหท้ ดั เทียมกบั ชาตติ ะวนั ตกและ เพือ่ รกั ษาอธิปไตยของชาตไิ ว้

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายพระราชประวตั แิ ละพระราชกรณยี กิจสาคญั ของพระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยูห่ ัวได้ (K)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรูท้ ้องถิ่น
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ผลงานของบคุ คลสาคัญทางดา้ นตา่ งๆ ในสมัย
รตั นโกสินทร์ เช่น
พระบาทสมเดจ็ พระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว

5. กิจกรรมการเรียนรู้ คาบท่ี 1
ขัน้ นา

ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครูสมุ่ เรยี กนักเรียน 2-3 คน ออกมาเล่าเกี่ยวกับพระราชประวัตขิ องพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่
5 ตามความรู้เดมิ ของนักเรียน

2. ครูสนทนากับนักเรียนว่า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 มีความเกี่ยวข้องกับพัฒนาการของไทย
อย่างไร

3.นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิดการรับวัฒนธรรมตะวันตกเข้ามาในประเทศไทยส่งผลดีและผลเสียต่อคนไทย
อยา่ งไร

ขั้นสอน

ขนั้ สารวจคน้ หา

4. ครูใหน้ กั เรียนกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 1) รว่ มกันศกึ ษาความรู้เรือ่ ง พระราชกรณียกจิ สาคัญของ

พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอยูห่ ัว รชั กาลที่ 5 จากหนงั สือเรยี นหรือบทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หรอื

หอ้ งสมดุ ในประเดน็ ต่อไปน้ี

1) ด้านการปกครอง 2) ดา้ นกฎหมายและการศาล

3) ดา้ นสงั คมและวัฒนธรรม 4) ดา้ นการศึกษา

5) ดา้ นเศรษฐกจิ และสังคม 6) ด้านการปรบั ปรงุ บ้านเมอื ง

แล้วบันทกึ ความร้ทู ีไ่ ดจ้ ากการศึกษาลงในแบบบันทกึ การอ่าน

5. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มอธบิ ายความรรู้ ว่ มกนั ในสาระสาคญั และชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งประกอบ ในกรณที ม่ี คี วามสงสยั ให้

สอบถามครผู สู้ อน

ข้ันอธบิ ายความรู้

6. สมาชกิ แตล่ ะกลุม่ ช่วยกันทาใบงานที่ 2.9 เรอื่ ง พระราช-กรณียกจิ สาคัญของรัชกาลท่ี 5 โดยแบ่งหนา้ ทก่ี นั ปฏบิ ัติ ดงั นี้
- สมาชกิ คนที่ 1 เขียนคาตอบขอ้ ที่ 1 แลว้ ส่งไปยงั สมาชกิ คนท่ี 2

- สมาชิกคนที่ 2 อ่านคาตอบของสมาชิกคนท่ี 1 ตรวจสอบความถูกต้องและเขียนเพิ่มเติมให้สมบูรณ์ แล้วส่งต่อ
ใหส้ มาชกิ คนที่ 3

- สมาชกิ คนท่ี 3 อ่านคาตอบของสมาชิกคนท่ี 2 ตรวจสอบความถูกตอ้ งและเขียนเพ่ิมเติมให้สมบูรณ์ แล้วส่งต่อ
ให้สมาชกิ คนท่ี 4

- สมาชกิ คนที่ 4 อา่ นคาตอบของสมาชิกคนที่ 3 ตรวจสอบความถกู ต้องและเขียนเพิ่มเติมให้สมบรู ณ์
7. สมาชกิ แต่ละคนในกลุม่ จะหมุนเวยี นเปลี่ยนหนา้ ท่ีกันในการตอบคาถาม จนครบทกุ ข้อ

ข้นั สรปุ
ขั้นขยายความเข้าใจ

6. ครเู ฉลยคาตอบในใบงานที่ 2.9 แล้วใหน้ ักเรียนแตล่ ะกล่มุ ตรวจคาตอบและแกไ้ ข
7. ครูชมเชยนกั เรยี นกล่มุ ทีต่ อบไดถ้ กู ต้องทกุ คาถาม
8. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิดเพราะเหตุใด คนไทยจึงถวายพระราชสมัญญานาม แด่พระบาทสมเด็จพระ
จุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวว่า “พระปิยมหาราช”(เพราะพระองค์ทรงมีพระกรุณาธิคุณต่อประชาชนชาวไทยและประเทศไทยอย่างใหญ่
หลวง ซึ่งพระปยิ มหาราช หมายถึง ทรงเป็นท่ีรักยิ่งของ ปวงชนชาวไทย)

ขั้นตรวจสอบผล

9. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เกี่ยวกับพระราชกรณียกิจสาคัญของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
รัชกาลท่ี 5

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมิน วธิ ีการวดั ผล เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์
1. อธิบายพระราชประวัตแิ ละ 1. ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 70% ข้ึนไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์
ความร้คู วามเขา้ ใจ (K)
พระราชกรณียกิจสาคัญของ การประเมิน
ทกั ษะ / กระบวนการ (P)
พระบาทสมเดจ็ พระ
คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A)
จุลจอมเกล้าเจา้ อยหู่ ัวได้ (K)

2. คดิ วิเคราะห์ การตอบคาถาม ใบงานท่ี 2.9 70% ข้ึนไปถือว่าผา่ นเกณฑ์

กระบวนการกลมุ่ การประเมิน

(P)

3. มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ใน 3. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ 70% ข้นึ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

การทางาน (A) ทางานรายบคุ คล การประเมนิ

7. สอื่ / แหล่งการเรียนรู้
7.1 สือ่ การเรียนรู้
1) หนังสือเรียน ประวัตศิ าสตร์ ป.6
2) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวัตศิ าสตร์ ป.6 บริษัท เพลยเ์ อเบลิ จากัด
3) ใบความรู้ เร่อื ง พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู ัว
4) ใบงานที่ 2.9 เรอ่ื ง พระราชกรณยี กิจสาคญั ของรัชกาลท่ี 5
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมดุ
2) อนิ เทอรเ์ นต็

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ………………………………………………………ครูผสู้ อน ลงชอื่ ………………………………………………………ฝ่ายวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอื่ ………………………………………………………ผู้บรหิ าร
(……………………………………………………)

ใบงานท่ี 2.9
เร่ือง พระราชกรณยี กจิ สาคัญของรัชกาลท่ี 5

คาช้ีแจง ให้นักเรยี นเขียนสรปุ เกย่ี วกบั พระราชกรณยี กิจของพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อย่หู ัว รชั กาลท่ี 5 ใน
ประเด็นท่กี าหนด

1. ดา้ นการปกครอง 2. ดา้ นกฎหมายและศาล 3. ดา้ นสงั คมและวฒั นธรรม

4. ด้านการศกึ ษา 5. ดา้ นเศรษฐกิจและการคลงั 6. ด้านการปรับปรุงบา้ นเมอื ง

สปั ดาหท์ ี่ 14

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นท…ี่ ……..… /…………….. ชื่อผู้สอน……………………………………………………

กล่มุ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษาศาสนาและวัฒนธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปี่ที่ 6 จานวน 1 คาบ

หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ประวตั แิ ละผลงานของบุคคลสาคญั ในสมยั รัตนโกสินทร์

เรือ่ ง บุคคลสาคัญสมยั รัตนโกสินทร์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชีว้ ัด
มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ใิ จและธารงความเป็นไทย

ตัวชว้ี ัด ป.6/3 ยกตัวอย่างผลงานของบุคคลสาคัญด้านต่างๆ สมยั รตั นโกสินทร์

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
บคุ คลสาคญั ของไทยในสมยั รัตนโกสินทร์ ล้วนมีผลงานสาคัญในการสรา้ งชาตไิ ทยให้มคี วามเจริญร่งุ เรือง ดังน้ันคนรุ่น

ปจั จุบนั จงึ ควรนาตัวอยา่ งที่ดขี องบคุ คลสาคญั มาเปน็ แบบอยา่ งในการดาเนินชวี ติ

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. ยกตัวอยา่ งผลงานของบคุ คลสาคัญในดา้ นต่างๆ สมัยรตั นโกสินทรไ์ ด้ (K)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรียนรู้ทอ้ งถน่ิ
พิจารณาตามหลกั สตู รของสถานศึกษา
ผลงานของบุคคลสาคญั ทางดา้ นตา่ งๆ ในสมัย
รตั นโกสินทร์

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1

ขน้ั นา

ขน้ั กระต้นุ ความสนใจ

1. ครูทบทวนความรเู้ ดมิ เกย่ี วกับบคุ คลสาคญั สมยั รัตนโกสินทร์ทน่ี กั เรียนไดศ้ ึกษาไปแล้ว
2. ครูอธิบายให้นักเรียนฟังว่า เราสามารถนาตัวอย่างที่ดีของบุคคลสาคัญสมัยรัตนโกสินทร์มาเป็นแบบอย่างในการใช้ชีวิต
และการศึกษาค้นคว้าประวัติบุคคลสาคัญสมัยรัตนโกสินทร์นั้น เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจประวัติศาสตร์ในสมัยน้ีซึ่งนักเรียน
สามารถนาวิธีการทางประวัตศิ าสตรม์ าใช้ได้

3. นักเรียนแต่ละกลุ่ม (กลุ่มเดิมจากแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1) ร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง บุคคลสาคัญสมัยรัตนโกสินทร์
จากหอ้ งสมดุ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ โดยครูเปิดโอกาสให้นกั เรยี นไดซ้ ักถามขอ้ สงสัย เพอ่ื ใหส้ ามารถนาไปปฏิบตั ิ ได้จรงิ

ขั้นสอน

ข้ันสารวจคน้ หา
4. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ วางแผนการทางาน และแบง่ หนา้ ท่ใี หก้ บั สมาชกิ แต่ละคนตามความเหมาะสม
5. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มสืบคน้ ข้อมลู ตามประเด็นทก่ี าหนดจากหอ้ งสมุดหรือแหลง่ ข้อมูลสารสนเทศ แล้วบันทึกผล

ขนั้ อธิบายความรู้

6. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาผลการสบื คน้ ขอ้ มลู จากแหลง่ ขอ้ มลู ตา่ งๆ มาเปรยี บเทยี บ วเิ คราะห์ และประเมนิ ผลจากขอ้ มลู ทีไ่ ด้
รวบรวมมา

ขน้ั สรุป
ข้ันขยายความเข้าใจ

7. นักเรียนแต่ละกลุ่มนาผลสรุปจากการเปรียบเทียบ วิเคราะห์ และประเมินผลจากข้อมูลที่ได้รวบรวมมาตีความและ
สงั เคราะห์ว่า ข้อมูลทีไ่ ดม้ คี วามน่าเช่อื ถอื ถูกต้องตามเหตุการณม์ ากกว่ากนั แล้วบนั ทกึ ข้อมลู

ขน้ั ตรวจสอบผล

8. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มนาขอ้ มูลทีส่ งั เคราะหแ์ ลว้ มาจดั ทาแผ่นพบั เร่ือง ผลงานของบุคคลสาคญั สมยั รตั นโกสินทร์
9. นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานาเสนอผลงานแผ่นพับ เร่ือง ผลงานของบุคคลสาคัญสมัยรัตนโกสินทร์ หน้าชั้น
เรียน
10. ครูและนักเรียนร่วมกันบอกประโยชน์ท่ีได้รับจากการศึกษาเกี่ยวกับผลงานของบุคคลสาคัญสมัยรัตนโกสินทร์ และนา
ตัวอย่างทดี่ ขี องบุคคลเหลา่ น้นั มาเปน็ แบบอยา่ งในการดาเนนิ ชวี ติ ประจาวนั

11. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรยี นประทบั ใจบคุ คลสาคญั สมยั รตั นโกสนิ ทร์ทา่ นใด เพราะเหตใุ ด

6. การวัดและประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ วิธกี ารวดั ผล เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์
1. ยกตัวอยา่ งผลงานของบคุ คล 1. ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 70% ขึ้นไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
ความรู้ความเข้าใจ (K)
สาคญั ในดา้ นตา่ งๆ สมยั การประเมิน
ทักษะ / กระบวนการ (P)
รตั นโกสนิ ทรไ์ ด้ (K)
คณุ ลักษณะนสิ ัย (A)
2. คิดวิเคราะห์ การตอบคาถาม 2. ทาแบบฝกึ หดั 70% ขึน้ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์

กระบวนการกลุ่ม การประเมนิ

(P)

3. มีวนิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ ม่งุ มนั่ ใน 3. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ 70% ขนึ้ ไปถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์

การทางาน (A) ทางานรายบคุ คล การประเมนิ

7. สอ่ื / แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน ประวตั ศิ าสตร์ ป.6
7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องสมุด
2) อินเทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ ………………………………………………………ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ………………………………………………………ฝ่ายวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงช่อื ………………………………………………………ผบู้ รหิ าร
(……………………………………………………)

สปั ดาหท์ ี่ 15

โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท…่ี ……..… /…………….. ช่อื ผูส้ อน……………………………………………………
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ ี่ 6 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 3 ภมู ิปัญญาไทยในสมยั รัตนโกสินทร์
เรอ่ื ง ภูมปิ ัญญาสมยั รตั นโกสนิ ทร์ ด้านอักษรศาสตร์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ใิ จและธารงความเป็นไทย

ตวั ช้ีวดั ป.6/4 อธิบายภมู ิปัญญาไทยทส่ี าคัญสมัยรตั นโกสนิ ทรท์ นี่ า่ ภาคภูมิใจและควรค่าแก่การอนรุ ักษไ์ ว้

2. สาระสาคัญ / ความคิดรวบยอด
ในสมัยรัตนโกสินทร์ได้มีการสร้างสรรค์ภูมิปัญญาไทย ด้านอักษรศาสตร์ซึ่งเป็นมรดกตกทอดท่ีน่าภาคภูมิใจและควรค่าแก่

การอนรุ กั ษ์

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายภมู ิปญั ญาไทยดา้ นอกั ษรศาสตร์ท่ีสาคญั สมยั รตั นโกสินทร์ได้ (K)

4. สาระการเรยี นรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถิ่น
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
ภูมปิ ญั ญาไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ เช่น ศิลปกรรม
วรรณกรรม

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1

ขนั้ นา

ขนั้ กระต้นุ ความสนใจ

1. ครนู าภาพตัวละครจากเร่อื งพระอภยั มณี มาให้นักเรยี นดูและตอบคาถาม ในประเดน็ ดงั น้ี
- นกั เรยี นรู้จกั ตวั ละครเหลา่ นห้ี รอื ไม่ มาจากวรรณคดเี รอ่ื งใด
- ใครเป็นผู้ประพันธ์วรรณคดีเรอ่ื งนี้

2. ครูอธิบายเชื่อมโยงให้นักเรียนเข้าใจว่า วรรณคดีเร่ืองพระอภัยมณีนี้ เป็นวรรณคดที ี่เกิดข้ึนในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น
โดยมีกวีเอกสุนทรภ่เู ปน็ ผู้ประพนั ธ์

ขน้ั สอน

ขนั้ สารวจค้นหา

3. ครใู ห้นกั เรียนแตล่ ะคนศกึ ษาความรเู้ รื่อง ภูมิปัญญาสมยั รตั นโกสินทร์ ดา้ นอกั ษรศาสตร์ จากหนงั สอื เรยี นหรอื บทเรียน
คอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หรอื หอ้ งสมดุ หรือแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ แล้วบันทึกความรูท้ ่ีได้จากการศึกษาลงในแบบบันทกึ
การอา่ น

4. นกั เรยี นจบั คกู่ บั เพอ่ื นแลว้ ผลัดกนั อภปิ รายความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษา จากนน้ั ให้แต่ละครู่ ว่ มกนั อภิปรายผลงานด้านอกั ษร
ศาสตรท์ ่โี ดดเดน่ ในแตล่ ะรัชกาล

5. นกั เรยี นแตล่ ะคนทาใบงานท่ี 3.1 เร่ือง ภมู ปิ ญั ญาสมัยรัตนโกสนิ ทร์ ด้านอักษรศาสตร์

ขน้ั อธบิ ายความรู้

6. นกั เรยี นแตล่ ะคชู่ ว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ งของคาตอบในใบงานท่ี 3.1 และอธบิ ายแสดงเหตผุ ลกรณีทค่ี วามคิดเหน็ ยงั
ไม่ตรงกันจนได้ข้อสรุปทีช่ ดั เจน

ขน้ั สรุป
ขั้นขยายความเข้าใจ

7. ครูเฉลยคาตอบในใบงานที่ 3.1 แล้วให้นักเรียนแต่ละคู่ตรวจสอบความถูกต้องของใบงาน แก้ไขปรับปรุงในกรณีท่ีไม่
ถูกตอ้ ง และเพม่ิ เตมิ คาตอบให้มคี วามสมบรู ณ์ย่ิงขน้ึ

ขน้ั ตรวจสอบผล

8. ครสู ุ่มนักเรียน 2-3 คู่ ออกมาเลา่ ผลงานดา้ นอักษรศาสตร์ในสมัยรตั นโกสินทร์ทช่ี นื่ ชอบ พร้อมบอกเหตุผล
9. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิดวรรณกรรมสามารถบอกเล่าเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ของชาติไทยได้อย่างไร
จงอธิบาย
10. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรุปความรเู้ รือ่ ง ภูมปิ ญั ญาสมัยรตั นโกสนิ ทร์ ดา้ นอกั ษรศาสตร์

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมิน วิธกี ารวัดผล เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมินผล
จดุ ประสงค์
1. อธิบายภูมปิ ัญญาไทยดา้ นอักษร 1. ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 70% ข้นึ ไปถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
ความรคู้ วามเข้าใจ (K)
ศาสตรท์ ่สี าคญั สมยั รตั นโกสนิ ทร์ได้ การประเมิน
ทกั ษะ / กระบวนการ (P)
(K)
คุณลกั ษณะนสิ ยั (A)
2. คดิ วิเคราะห์ การตอบคาถาม 2. ทาแบบฝกึ หัด 70% ขนึ้ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

กระบวนการกลมุ่ (P) การประเมนิ

3. มวี นิ ยั ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มัน่ ใน 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการ 70% ขึ้นไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์

การทางาน (A) ทางานรายบุคคล การประเมนิ

7. สอื่ / แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สอ่ื การเรียนรู้
1) หนงั สอื เรยี น ประวตั ศิ าสตร์ ป.6

2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวตั ศิ าสตร์ ป.6 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั

3) บตั รภาพ
4) ใบงานท่ี 3.1 เรอ่ื ง ภูมปิ ัญญาไทยสมยั รตั นโกสนิ ทร์ ดา้ นอกั ษรศาสตร์
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) อินเทอร์เน็ต

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ………………………………………………………ครผู สู้ อน ลงชื่อ………………………………………………………ฝ่ายวิชาการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………………………ผบู้ รหิ าร
(……………………………………………………)

คาชีแ้ จง ใบงานที่ 3.1
เรอื่ ง ภูมปิ ัญญาไทยสมยั รัตนโกสินทร์ ดา้ นอักษรศาสตร์

ให้นกั เรียนจับค่ชู ่อื บคุ คลสาคัญกับผลงานด้านอกั ษรศาสตร์ใหส้ มั พันธ์กนั

พระบาทสมเดจ็ พระราชพิธีสบิ สองเดือน
พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช สามก๊ก

(ร.1) มัทนะพาธา
ศกนุ ตลา
พระบาทสมเด็จ ไกลบา้ น
พระพทุ ธเลศิ หล้านภาลัย บทละครเรอ่ื งอณุ รุท
ชมุ ชนพระบรมราชาธบิ าย
(ร.2) อเิ หนา
ไกรทอง
พระบาทสมเด็จ
พระจอมเกล้าเจา้ อย่หู ัว

(ร.4)

พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกลา้ เจ้าอยหู่ ัว

(ร.5)

พระบาทสมเด็จ
พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยหู่ วั

(ร.6)

สัปดาห์ที่ 16

โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรียนท…่ี ……..… /…………….. ชอ่ื ผูส้ อน……………………………………………………
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษาศาสนาและวฒั นธรรม ชั้นประถมศกึ ษาปที่ ี่ 6 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 ภมู ิปญั ญาไทยในสมัยรัตนโกสินทร์
เร่ือง ภูมปิ ัญญาสมยั รัตนโกสินทร์ ด้านศิลปกรรม

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วฒั นธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภูมใิ จและธารงความเปน็ ไทย

ตวั ช้วี ดั ป.6/4 อธิบายภูมิปัญญาไทยท่สี าคญั สมยั รัตนโกสนิ ทร์ที่น่าภาคภมู ใิ จและควรคา่ แก่การอนรุ ักษ์ไว้

2. สาระสาคญั / ความคิดรวบยอด
ในสมัยรัตนโกสินทร์ไดม้ ีการสร้างสรรค์ภูมิปญั ญาไทย ดา้ นศิลปกรรมซ่ึงเปน็ มรดกตกทอดที่น่าภาคภูมิใจและควรค่าแก่การ

อนุรกั ษไ์ ว้

3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายภูมปิ ญั ญาไทยดา้ นศิลปกรรมทสี่ าคญั สมัยรตั นโกสนิ ทร์ได้ (K)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่ิน
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
ภูมปิ ญั ญาไทยสมยั รัตนโกสินทร์ เชน่ ศิลปกรรม
วรรณกรรม

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ 1

ขนั้ นา

ขนั้ กระตุน้ ความสนใจ

1. ครูนาภาพวัดราชโอรสาราม มาใหน้ กั เรียนดแู ล้วตั้งคาถามให้นกั เรยี นตอบ ในประเดน็ ดงั นี้
- นกั เรยี นรู้จกั สถานทแ่ี หง่ นห้ี รอื ไม่
- สถานท่ีแหง่ น้มี คี วามสาคญั อยา่ งไร

2. ครูอธิบายเชอ่ื มโยงใหน้ ักเรียนเข้าใจว่า ศลิ ปกรรมในสมัยรตั นโกสนิ ทร์นนั้ มคี วามงดงาม และมีเอกลักษณอ์ ันโดดเดน่

ขัน้ สอน

ข้ันสารวจค้นหา
3. ครแู บง่ นักเรยี นเป็นกลมุ่ กล่มุ ละ 4 คน คละกันตามความ สามารถ คอื เกง่ ปานกลางค่อนขา้ งเก่ง ปานกลางคอ่ นข้างอ่อน

และอ่อน
4. สมาชิกแต่ละกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้เร่ือง ภูมิปัญญาสมัยรัตนโกสินทร์ด้านศิลปกรรม จากหนังสือเรียนหรือบทเรียน

คอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หรือห้องสมดุ จากนนั้ นาความรูท้ ี่ไดจ้ ากการศึกษามาบันทกึ ลงในแบบบนั ทึกการอา่ น

ข้ันอธบิ ายความรู้

5. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั อธบิ ายความรู้ท่ีได้จากการศึกษาค้นคว้าเก่ียวกับภูมิปญั ญาสมัยรัตนโกสินทร์ ดา้ นศิลปกรรมแล้ว
สรุปเป็นประเด็นสาคัญ

6. นักเรียนตอบคาถามกระตนุ้ ความคิดถ้าชาวต่างประเทศต้องการให้นักเรียนพาเที่ยวชมศิลปกรรม สมัยรัตนโกสินทร์
นกั เรยี นจะพาไปสถานทใ่ี ด เพราะเหตุใด

ข้ันสรปุ
ขัน้ ขยายความเขา้ ใจ

7. สมาชิกแตล่ ะกลุ่มนาความรู้ท่ีไดจ้ ากการศึกษามาเป็นพน้ื ฐานในการทาใบงานที่ 3.2 เรื่อง ภูมปิ ัญญาสมยั รัตนโกสินทร์
ด้านศิลปกรรม เพอ่ื เป็นการขยายความรู้ความเข้าใจให้กระจ่างชัดเจนขึ้น

ขน้ั ตรวจสอบผล

8. ตัวแทนกลมุ่ ออกมานาเสนอผลงานในใบงานที่ 3.2 ครูตรวจสอบความถกู ต้องและใหข้ อ้ เสนอแนะเพ่มิ เตมิ

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวดั และประเมิน วธิ กี ารวัดผล เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมินผล
จดุ ประสงค์
1. อธบิ ายภูมปิ ัญญาไทยด้าน 1. ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 70% ขึ้นไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์
ความรู้ความเข้าใจ (K)
ศลิ ปกรรมที่สาคญั สมัยรัตนโกสนิ ทร์ การประเมิน
ทักษะ / กระบวนการ (P)
ได้ (K)
คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A)
2. คิดวเิ คราะห์ การตอบคาถาม 2. ใบงานท่ี 3.2 70% ขึน้ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์

กระบวนการกลุม่ (P) การประเมนิ

3. มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มน่ั ใน 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการ 70% ขน้ึ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์

การทางาน (A) ทางานรายบุคคล การประเมิน

7. สื่อ / แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สือเรียน ประวัตศิ าสตร์ ป.6
2) บทเรียนคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวตั ศิ าสตร์ ป.6 บริษัท เพลย์เอเบลิ จากัด
3) บัตรภาพ
4) ใบงานที่ 3.2 เร่อื ง ภูมิปัญญาสมยั รัตนโกสนิ ทร์ ด้านศิลปกรรม
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งสมดุ
2) อินเทอรเ์ นต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ………………………………………………………ครูผสู้ อน ลงชื่อ………………………………………………………ฝ่ายวิชาการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชื่อ………………………………………………………ผบู้ รหิ าร
(……………………………………………………)

คาชี้แจง ใบงานที่ 3.2
เรอื่ ง ภมู ิปัญญาสมัยรตั นโกสนิ ทร์ ด้านศลิ ปกรรม

ใหน้ ักเรียนติดภาพภูมิปัญญาไทยสมยั รตั นโกสินทร์ ด้านศลิ ปกรรม ที่นกั เรียนสนใจมา 1 ภาพ แลว้ ตอบคาถาม
ตอ่ ไปนี้

(ติดภาพ)

ท่มี า :
1. ภาพนค้ี ือภาพอะไร
2. มคี วามสาคญั อยา่ งไร

สปั ดาหท์ ี่ 17

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท…่ี ……..… /…………….. ช่ือผู้สอน……………………………………………………
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปท่ี ่ี 6 จานวน 1 คาบ
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 3 ภูมิปญั ญาไทยในสมยั รัตนโกสินทร์
เรอื่ ง ภมู ปิ ัญญาสมยั รัตนโกสินทร์ ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเป็นมาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย มีความรกั ความภมู ิใจและธารงความเป็นไทย

ภูมิปัญตญัวชาี้วสัดมัยปร.ัต6น/4โกอสธินิบทายรภ์ มู ดปิ ้าัญนญกาาไทรยแทพสี่ ทาคยัญแ์ สผมนัยรไตัทนยโกสนิ ทร์ทนี่ ่าภาคภมู ิใจและควรค่าแกก่ ารอนุรักษไ์ ว้

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด

ในสมัยรตั นโกสินทรไ์ ดม้ กี ารสรา้ งสรรค์ภูมปิ ญั ญาไทย ดา้ นการแพทย์แผนไทยซ่ึงเปน็ มรดกตกทอดทีน่ า่ ภาคภูมใิ จและควร

คา่ แกก่ ารอนุรักษไ์ ว้

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธิบายภูมิปญั ญาไทยด้านการแพทย์แผนไทยท่ีสาคญั สมัยรัตนโกสินทรไ์ ด้ (K)

4. สาระการเรียนรู้

สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู อ้ งถิน่
พิจารณาตามหลักสตู รของสถานศกึ ษา
ภมู ปิ ญั ญาไทยสมยั รัตนโกสินทร์ เช่น ศลิ ปกรรม
วรรณกรรม

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1

ขน้ั นา

ขน้ั กระตุน้ ความสนใจ

1. ครูนาภาพฤๅษีดดั ตน มาใหน้ ักเรียนดู แลว้ สนทนากบั นกั เรียนว่า ฤๅษเี กีย่ วข้องกับภูมปิ ัญญาไทยสมยั รัตนโกสนิ ทรด์ ้าน
การแพทยแ์ ผนไทยอยา่ งไร

2. ครสู ่มุ เรยี กนกั เรียน 2-3 คน ออกมาแสดงความคิดเห็นหน้าช้นั เรยี น โดยครคู อยเสนอแนะเพ่ิมเตมิ ในสว่ นท่ีบกพรอ่ ง

ขนั้ สอน

ขน้ั สารวจคน้ หา

3. สมาชิกกลุ่มเดิม (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) รว่ มกนั ศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง ภมู ิปญั ญาสมยั รัตนโกสนิ ทร์ ดา้ นการแพทย์
แผนไทย จากหนังสือเรียนหรอื บทเรียนคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite หรือหอ้ งสมุด ตามประเดน็ ทกี่ าหนด ดังนี้

1) ภมู ปิ ญั ญาดา้ นการแพทย์แผนไทย สมยั รชั กาลท่ี 1
2) ภูมปิ ญั ญาดา้ นการแพทย์แผนไทย สมัยรัชกาลท่ี 2
3) ภมู ปิ ญั ญาดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย สมัยรชั กาลที่ 3
4) ภมู ิปญั ญาดา้ นการแพทย์แผนไทย สมัยรัชกาลท่ี 5
4. นกั เรยี นนาความรู้ทไ่ี ดจ้ ากการศึกษามาบนั ทกึ ลงในแบบบนั ทึกการอ่าน
ขน้ั อธบิ ายความรู้
5. สมาชิกแตล่ ะกลุ่มร่วมกนั ทาใบงานท่ี 3.3 เรอื่ ง ภมู ปิ ญั ญาสมัยรัตนโกสินทร์ ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย โดยให้สมาชิกแต่
ละคนเลอื กสรปุ ความรู้เกยี่ วกับภมู ปิ ัญญาดา้ นการแพทย์แผนไทย คนละ 1 รัชกาล
6. สมาชกิ แตล่ ะคนผลัดกันเลา่ ผลงานของตนใหส้ มาชิกคนอน่ื ภายในกลุ่มฟังทีละคน แบบเล่าเรื่องรอบวง แล้วใหส้ มาชกิ คน
อน่ื ช่วยเพิ่มเติมในสว่ นท่ไี ม่สมบรู ณ์
7. สมาชิกแต่ละกลุ่มรว่ มมอื กันตรวจสอบความถกู ต้องของผลงาน

ขน้ั สรุป

ขั้นขยายความเข้าใจ
7. ครูให้ตัวแทนของแต่ละกลุ่มออกมานาเสนอผลงานในใบงานท่ี 3.3 หน้าชั้นเรียน ครูตรวจสอบความถูกต้องและให้

ข้อเสนอแนะ
8. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิดถ้านักเรียนต้องการศึกษาแหล่งภูมิปัญญา ด้านการแพทย์แผนไทยในสมัย

รัตนโกสินทร์ นักเรียนจะศึกษาได้จากทใี่ ดบา้ ง

ขน้ั ตรวจสอบผล
9. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรเู้ กย่ี วกบั ภมู ปิ ญั ญาไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์ ด้านการแพทย์แผนไทย

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมิน วธิ ีการวดั ผล เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมินผล
จุดประสงค์
1. อธิบายภมู ปิ ัญญาไทยดา้ น 1. ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 70% ขึน้ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์
ความรู้ความเขา้ ใจ (K)
การแพทย์แผนไทยที่สาคญั สมยั การประเมนิ
ทกั ษะ / กระบวนการ (P)
รัตนโกสนิ ทร์ได้ (K)
คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A)
2. คดิ วิเคราะห์ การตอบคาถาม 2. ใบงานท่ี 3.3 70% ขนึ้ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์

กระบวนการกลุ่ม (P) การประเมนิ

3. มวี ินัย ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งม่นั ใน 3. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ 70% ขนึ้ ไปถือว่าผ่านเกณฑ์

การทางาน (A) ทางานรายบุคคล การประเมนิ

7. สื่อ / แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่อื การเรียนรู้
1) หนังสือเรยี น ประวตั ศิ าสตร์ ป.6
2) บทเรยี นคอมพิวเตอร์ Smart L.O. LMS Lite ประวตั ศิ าสตร์ ป.6 บรษิ ัท เพลยเ์ อเบลิ จากดั
3) บัตรภาพ
4) ใบงานท่ี 3.3 เรอ่ื ง ภูมิปัญญาสมัยรตั นโกสนิ ทร์ ด้านการแพทยแ์ ผนไทย
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องสมดุ
2) อินเทอร์เนต็

8. กจิ กรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ………………………………………………………ครูผสู้ อน ลงช่ือ………………………………………………………ฝ่ายวิชาการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอ่ื ………………………………………………………ผ้บู รหิ าร
(……………………………………………………)

ใบงานท่ี 3.3
เรอ่ื ง ภูมปิ ัญญาสมัยรตั นโกสินทร์ ด้านการแพทย์แผนไทย

คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นสบื ค้นข้อมลู เกีย่ วกบั ภูมปิ ญั ญาไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ ด้านการแพทย์แผนไทย ในรัชกาลตา่ งๆ ตามท่ี
กาหนด
รัชกาลที่ 1

รัชกาลท่ี 2

รัชกาลท่ี 3

รัชกาลที่ 5

สัปดาหท์ ี่ 18

โรงเรยี นขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท…ี่ ……..… /…………….. ชือ่ ผูส้ อน……………………………………………………
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันประถมศกึ ษาป่ีท่ี 6 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 3 ภมู ปิ ัญญาไทยในสมัยรัตนโกสินทร์
เรื่อง การอนรุ ักษ์ภูมิปัญญาสมยั รตั นโกสนิ ทร์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตัวช้ีวดั

ภูมปิ ญั มญาตารสฐมานยั รสัตน4.โ3กสเขิน้าทใจรค์ วดา้ามนเปก็นามรแาขพอทงชยาแ์ ตผไิ นทยไทวยัฒนธรรม ภมู ิปญั ญาไทย มคี วามรกั ความภมู ใิ จและธารงความเป็นไทย

ตัวชี้วัด ป.6/4 อธบิ ายภูมปิ ัญญาไทยท่สี าคัญสมยั รัตนโกสนิ ทร์ทนี่ า่ ภาคภมู ใิ จและควรค่าแกก่ ารอนุรักษไ์ ว้

2. สาระสาคญั / ความคดิ รวบยอด
ในสมยั รัตนโกสนิ ทรไ์ ดม้ กี ารสร้างสรรค์ภูมปิ ัญญาไทย ซง่ึ เป็นมรดกตกทอดทีน่ า่ ภาคภมู ใิ จและควรคา่ แก่การอนรุ กั ษไ์ ว้จนถงึ

ปัจจบุ ัน ทง้ั ดา้ นอกั ษรศาสตร์ ด้านศลิ ปกรรม และดา้ นการแพทย์แผนไทย

3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธบิ ายภูมิปัญญาไทยทสี่ าคญั สมัยรตั นโกสนิ ทรไ์ ด้ (K)
2. เสนอแนวทางในการอนุรักษ์ภูมปิ ัญญาไทยสมัยรตั นโกสินทร์ได้ (P)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่ิน
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง
ภูมิปญั ญาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ เชน่ ศลิ ปกรรม
วรรณกรรม

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี 1

ขนั้ นา

ข้นั กระตนุ้ ความสนใจ

1. ครูให้นักเรียนดูภาพภูมิปัญญาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ประเภทต่างๆ ท้ังด้านอักษรศาสตร์ ด้านศิลปกรรม และด้าน
การแพทยแ์ ผนไทย

2. ครูให้นักเรียนช่วยกันจาแนกประเภทของภูมิปัญญาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ และให้ช่วยกันวิเคราะห์ความสาคัญของภูมิ
ปญั ญาไทยในแต่ละประเภท

3. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันอภิปรายว่า นักเรียนมีแนวทางในการอนุรกั ษ์ภูมิปญั ญาไทยอย่างไรบ้าง

4. นักเรียนตอบคาถามกระตุ้นความคิดนักเรียนคิดว่า ภูมิปัญญาไทยประเภทใดท่ีมีความสาคัญต่อวิถีชีวิตของคนไทย
อยา่ งไร

ข้ันสอน

ข้นั สารวจค้นหา

5. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันกาหนดจุดประสงค์ในการวางแผน การสืบค้นข้อมูลและแบ่งหน้าท่ีความรับผิดชอบให้สมาชิกแต่
ละคน
ขัน้ อธบิ ายความรู้

6. นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันค้นคว้าข้อมูลความรู้เก่ียวภูมิปัญญาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ จากหนังสือเรียน หรือห้องสมุด
ตามประเด็นท่กี าหนด ดงั น้ี

1) ภูมิปัญญาไทยดา้ นอักษรศาสตร์ สมัยรัตนโกสินทร์
2) ภูมิปญั ญาไทยดา้ นศิลปกรรม สมยั รตั นโกสินทร์
3) ภมู ิปญั ญาไทยดา้ นการแพทย์แผนไทย สมยั รตั นโกสนิ ทร์
4) การเสนอแนะแนวทางในการอนุรกั ษ์ภูมปิ ัญญาไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์
3. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุ่มปฏบิ ัติหนา้ ท่ีตามทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย

ข้นั สรุป

ขนั้ ขยายความเขา้ ใจ
7. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มนาข้อมูลท่ีค้นคว้ามาเล่าให้สมาชิกในกลุ่มฟัง แล้วช่วยกันวิเคราะห์และคัดเลือกข้อมูลมาสังเคราะห์

และประเมินค่า เพ่อื นามาจดั ปา้ ยนิเทศ
8. ตัวแทนกลุ่มออกมานาเสนอผลงานป้ายนเิ ทศหน้าช้นั เรยี นครตู รวจสอบความถกู ตอ้ งและใหข้ อ้ เสนอแนะ
9. ครูสนทนากบั นกั เรยี นเก่ียวกับแนวทางในการอนุรักษ์ภมู ปิ ัญญาไทย เพ่ือให้นักเรยี นนาไปปฏิบตั ใิ นชีวิตประจาวัน
10. ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละคนทากจิ กรรมตามตวั ชีว้ ัด : กิจกรรมที่ 3.4 จากแบบวัดฯ เปน็ การบา้ น

ขั้นตรวจสอบผล
12. ครูและนักเรยี นร่วมกันสรปุ ความรู้เรอื่ ง ภมู ปิ ัญญาสมัยรตั นโกสินทร์

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมนิ วิธกี ารวัดผล เครือ่ งมือวดั เกณฑ์การประเมินผล
จดุ ประสงค์
1. อธบิ ายภมู ิปญั ญาไทยท่ี 1. ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 70% ขน้ึ ไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
ความรคู้ วามเขา้ ใจ (K)
สาคญั สมัยรัตนโกสนิ ทร์ได้ (K) การประเมนิ
ทกั ษะ / กระบวนการ (P)
2. เสนอแนวทางในการอนรุ กั ษ์ 2. แบบฝกึ หดั 70% ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่านเกณฑ์
คุณลักษณะนสิ ัย (A)
ภูมปิ ญั ญาไทยสมัยรตั นโกสินทร์ การประเมนิ

ได้ (P)

3. มีวินัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ใน 3. แบบสังเกตพฤติกรรมการ 70% ขึ้นไปถอื วา่ ผ่านเกณฑ์

การทางาน (A) ทางานรายบคุ คล การประเมิน

7. ส่ือ / แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน ประวัตศิ าสตร์ ป.6
2) บตั รภาพ
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องสมุด
2) อนิ เทอรเ์ น็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่อื ………………………………………………………ครูผสู้ อน ลงช่ือ………………………………………………………ฝา่ ยวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงชอ่ื ………………………………………………………ผบู้ รหิ าร
(……………………………………………………)

บตั รภาพ



ภาพตวั ละครจากเร่อื งไกรทอง ภาพแผน่ หินอ่อนจารึกตาราแพทยแ์ ผนโบราณ

ภาพสลกั บานประตหู น้าต่างวดั สทุ ศั น์เทพวราราม ภาพหนังสือพระราชพิธีสิบสองเดือน

สปั ดาห์ท่ี 19-20

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้

ภาคเรียนท…่ี ……..… /…………….. ชือ่ ผู้สอน……………………………………………………
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษาศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปท่ี ี่ 6 จานวน 2 คาบ
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 3 ภมู ปิ ัญญาไทยในสมยั รตั นโกสินทร์
เรื่อง การศกึ ษาภมู ิปัญญาสมยั รัตนโกสนิ ทร์

1. มาตรฐานการเรยี นรู้ / ตวั ชว้ี ดั
มาตรฐาน ส 4.3 เข้าใจความเปน็ มาของชาตไิ ทย วัฒนธรรม ภูมปิ ญั ญาไทย มีความรักความภูมิใจและธารงความเปน็ ไทย
ตัวชีว้ ดั ป.6/4 อธบิ ายภูมปิ ัญญาไทยทสี่ าคัญสมยั รตั นโกสินทร์ทน่ี า่ ภาคภูมใิ จและควรค่าแกก่ ารอนุรักษ์ไว้

2.ภสมูาริปะัญสาญคาัญสม/ยั ครวัตานมโคกิดสรินวบทยรอ์ ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย

ภูมิปญั ญาในสมัยรัตนโกสินทร์เปน็ สง่ิ ท่ีมคี ุณคา่ และน่าภาคภูมิใจ ดังนนั้ จึงควรอนุรกั ษใ์ ห้คงอยู่ตลอดไป

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
1. อธบิ ายภมู ิปัญญาไทยสมยั รตั นโกสนิ ทรไ์ ด้ (K)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
สาระการเรียนร้แู กนกลาง
ภูมิปญั ญาไทยสมยั รตั นโกสินทร์ เช่น ศิลปกรรม
วรรณกรรม

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ 1

ขัน้ นา

ขนั้ กระตุ้นความสนใจ

1. ครูสนทนากับนักเรียนเก่ียวกับภูมิปัญญาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ แล้วให้นักเรียนช่วยกันยกตัวอย่างภูมิปัญญาด้านอักษร
ศาสตร์ ด้านศิลปกรรม และด้านการแพทย์แผนไทย เพอ่ื ทบทวนความรเู้ ดมิ

2. ครูใหน้ กั เรยี นรว่ มกันกาหนดประเด็นทจ่ี ะไปศกึ ษาเก่ียวกบั ภมู ิปัญญาไทยสมยั รตั นโกสินทรโ์ ดยสรุปเป็นแผนผังความคดิ
3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ นักเรยี นจะมสี ่วนรว่ มในการรักษาภูมปิ ัญญาไทยไดอ้ ยา่ งไร

ข้ันสอน

ขั้นสารวจคน้ หา
4. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันวางแผนในการศึกษาภูมิปญั ญาไทยสมัยรัตนโกสินทร์ ตามประเดน็ ต่อไปนี้
1) กาหนดวตั ถุประสงคข์ องการศึกษา
2) กาหนดสถานทใ่ี หไ้ ด้ประโยชน์ตามวตั ถุประสงค์
3) กาหนดวนั ทเี่ หมาะสม
4) กาหนดการเดินทางและการใชพ้ าหนะ
5) เอกสารขอ้ มูลเบ้ืองตน้ เพอื่ เปน็ พ้นื ฐานในการศกึ ษานอกสถานท่ี
6) กิจกรรมระหว่างศึกษานอกสถานท่ี
7) วธิ ีการวดั และประเมนิ ผล

ขน้ั อธิบายความรู้
5. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 10 คน ตามความสมัครใจ มีครูที่ปรึกษาประจากลุ่ม ซ่ึงอาจเป็นครูผู้สอนในกลุ่มสาระการ

เรียนรู้สังคมศึกษาหรือเปน็ ทมี งานในการพานักเรยี นไปศึกษานอกสถานท่ี (นอกเวลาเรียน)
6. ครูพานกั เรยี นไปยงั สถานทท่ี ่ีตอ้ งการศกึ ษาภมู ปิ ญั ญาสมยั รตั นโกสนิ ทร์
7. ครูแจกใบงานท่ี 3.4 เรื่อง การศึกษาภูมปิ ัญญาสมัยรัตนโกสินทร์ เพื่อให้นักเรียนบันทึกข้อมูลในการศึกษาค้นควา้ ตาม

ประเดน็ ท่กี าหนดโดยมคี รเู ป็นผ้ดู แู ลการดาเนินกจิ กรรมและดูแลความประพฤติ

คาบที่ 2

ขัน้ สรปุ

ขน้ั ขยายความเขา้ ใจ
8. ครูช่วยเสนอแนะให้นักเรียนได้ศึกษาข้อมูลความเป็นมาของภูมิปญั ญาไทยสมัยรัตนโกสินทร์เพิ่มเติมตามความเหมาะสม

เพื่อใหน้ ักเรียนได้รับประโยชนจ์ ากการศกึ ษานอกสถานที่

ขน้ั ตรวจสอบผล
9. นักเรียนแต่ละคนในกลุ่มนาข้อมูลท่ีบันทึกในใบงานที่ 3.4 มาอภิปรายร่วมกัน จากน้ันนาเสนอใบงานหน้าช้ันเรียนครู

ตรวจสอบความถกู ตอ้ งและใหข้ ้อเสนอแนะเพิ่มเติม
10. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ นกั เรียนคดิ วา่ การอนรุ กั ษภ์ ูมิปญั ญาไทยมีประโยชนต์ ่อประเทศชาตอิ ย่างไร

6. การวดั และประเมนิ ผล

การวัดและประเมิน วิธกี ารวัดผล เครอื่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
จุดประสงค์
1. อธิบายภมู ิปัญญาไทยสมัย 1. ประเมนิ การนาเสนอผลงาน 70% ข้ึนไปถือว่าผา่ นเกณฑ์
ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) รตั นโกสนิ ทร์ได้ (K)
การประเมิน
ทักษะ / กระบวนการ (P) 2. คิดวเิ คราะห์ การตอบคาถาม
กระบวนการกลุม่ (P) 2. ใบงานที่ 3.4 70% ขน้ึ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์
คณุ ลักษณะนสิ ยั (A) 3. มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มนั่ ใน
การทางาน (A) การประเมิน

3. แบบสังเกตพฤตกิ รรมการ 70% ขนึ้ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์

ทางานรายบุคคล การประเมิน

7. สื่อ / แหลง่ การเรียนรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สอื เรียน ประวัตศิ าสตร์ ป.6
2) ใบงานท่ี 3.4 เรอ่ื ง การศกึ ษาภมู ปิ ัญญาสมยั รตั นโกสนิ ทร์

7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งสมุด
2) อนิ เทอร์เน็ต

8. กิจกรรมเสนอแนะ
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................
...............................................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ………………………………………………………ครูผสู้ อน ลงช่อื ………………………………………………………ฝ่ายวชิ าการ
(……………………………………………………) (……………………………………………………)

ลงช่ือ………………………………………………………ผ้บู รหิ าร
(……………………………………………………)

ใบงานที่ 3.4
เรือ่ ง การศึกษาภมู ิปญั ญาสมยั รัตนโกสินทร์

คาชแ้ี จง ให้นักเรยี นบนั ทกึ ขอ้ มลู ตามหัวขอ้ ท่กี าหนดให้
ตอนที่ 1
1. สถานทท่ี ่ีไปทศั นศึกษา คอื
2. ทีต่ ้ังของสถานที่
ตอนที่ 2
1. ภูมิปัญญาสมัยรัตนโกสินทรด์ า้ นอกั ษรศาสตร์ ได้แก่

2. ภมู ิปญั ญาสมัยรตั นโกสนิ ทร์ด้านศลิ ปกรรม ไดแ้ ก่

3. ภมู ปิ ัญญาสมัยรัตนโกสินทร์ดา้ นการแพทย์แผนไทย ไดแ้ ก่

4. ข้อมูลทไ่ี ดจ้ ากการศึกษาภมู ปิ ัญญาสมัยรัตนโกสินทร์ ไดแ้ ก่

ตอนที่ 3
 แนวทางในการดูแลรกั ษาภมู ปิ ญั ญาสมยั รัตนโกสินทร์ มดี งั นี้


Click to View FlipBook Version