รายงานการติดตาม ร น รงการ ก ร ห ก ร แนวทางการเขียนหนังสือราชการ และการจดบันทึกรายงานการประชุม ร าง น 21 - 25 มีนาคม 2565 ในรูปแบบออนไลน์ ผ่านโปรแกรม Zoom นฝึกอบรม ำน กบริหารกลาง กร ป่าไม้
ก ำนำ การติดตามประเมินผลการน าความรู้จากการฝึกอบรม หลักสูตร “ระเบียบงานสารบรรณ และการเขียนหนังสือราชการ” ไปใช้ประโยชน์มีวัตถุประสงค์เพื่อติดตามการน าความรู้และทักษะที่ได้รับจาก การฝึกอบรมไปปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน และเพื่อติดตามประเมินผลความเหมาะสมของ เนื้อหาวิชา โดยมีระยะเวลาด าเนินการ ภายในระยะเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันสิ้นสุดการจัดฝึกอบรม ผู้ตอบ แบบสอบถามเป็นผู้ผ่านการฝึกอบรม จ านวน 300 คน และผู้บังคับบัญชาของผู้ผ่านการฝึกอบรม จ านวน 123 คน ผลการติดตามประเมินผลพบว่า มีการน าความรู้ที่ได้รับจากการเข้ารับการฝึกอบรมไปใช้ประโยชน์ ในการปฏิบัติงานเฉลี่ยอยู่ที่ 4.37 อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 91.19 ของผู้ผ่านการฝึกอบรมทั้งหมด มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการฝึกอบรมร้อยละ 100 ในทุกประเด็น ส่วนความคิดเห็นของผู้บังคับบัญชาในการน า ความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาหลังเข้ารับการฝึกอบรม พบว่า ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.45 ซึ่งอยู่ ในระดับมากที่สุด ในนามของส่วนฝึกอบรม ส านักบริหารกลาง ขอขอบคุณผู้ที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนที่ท าให้ การติดตามประเมินผลโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “ระเบียบงานสารบรรณและการเขียนหนังสือราชการ” ในครั้งนี้ส าเร็จลุล่วงได้อย่างดี โดยเฉพาะผู้บังคับบัญชา และผู้ผ่านการฝึกอบรมทุกท่านที่ให้ความร่วมมือ ในการตอบสอบถามการติดตามประเมินผล ส าหรับผลการติดตามประเมินผลโครงการดังกล่าว ในครั้งนี้ จะน าไปปรับปรุงและแก้ไขให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ฝึกอบรม ส านักบริหารกลาง 9 พฤษภาคม 2566
ข าร ค าน า................................................................................................................................................................ก สารบัญ ............................................................................................................................................................ข บทที่ 1 บทน า................................................................................................................................................1 ชื่อโครงการ..................................................................................................................................................1 หลักการและเหตุผล.....................................................................................................................................1 วัตถุประสงค์................................................................................................................................................1 บทที่ 2 ............................................................................................................................................................4 วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล.............................................................................................................................4 เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินผลโครงการ......................................................................................................4 การติดตามโครงการ.....................................................................................................................................4 การวิเคราะห์ข้อมูล......................................................................................................................................5 บทที่ 3 บทสรุปและข้อเสนอแนะ.................................................................................................................10 บทสรุป.....................................................................................................................................................10 ข้อเสนอแนะ (ผู้ผ่านการฝึกอบรม) ............................................................................................................10 ข้อเสนอแนะ (ผู้บังคับบัญชา)....................................................................................................................10 ภาคผนวก.....................................................................................................................................................11
1 1 บทน า รงการ หลักสูตร “ระเบียบงานสารบรรณและการเขียนหนังสือราชการ” ักการ งานด้านเอกสารถือเป็นงานที่มีความส าคัญ และมีความจ าเป็นส าหรับทุกองค์กร เนื่องจาก ในการปฏิบัติงานและการสื่อสารยังคงต้องใช้เอกสารในการติดต่อกันอยู่ ซึ่งการติดต่อสื่อสารที่เป็นทางการ มีหลายวิธี แต่ที่นิยมเป็นการแพร่หลายได้แก่การตอบโต้ หรือชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษร โดยจัดท าเป็นเอกสาร ที่เรียกว่า “หนังสือราชการ” ซึ่งสิ่งที่ส าคัญยิ่งคือการใช้ภาษาที่ดี ถูกต้อง ชัดเจน และสามารถบอกถึงวัตถุประสงค์ ของผู้เขียนได้อย่างตรงประเด็น เข้าใจง่าย จะช่วยในการติดต่อสื่อสารแก่ผู้ที่ต้องการติดต่อหรือผู้ที่เกี่ยวข้อง เกิดประสิทธิผล และช่วยประหยัดเวลาในการปฏิบัติงานได้ การเขียนหนังสือตอบโต้มิได้มีความหมายเพียง ตัวหนังสือและเอกสารเท่านั้น หากยังบ่งบอกถึงประสิทธิภาพในการท างานของบุคลากรและองค์กรนั้น ๆ ด้วย นอกจากนั้น องค์กรยังมีการด าเนินงานในรูปของคณะกรรมการหรือคณะท างานต่าง ๆ ซึ่งท าให้ต้องมีการจัด การประชุมร่วมกัน แต่ประสิทธิผลของการประชุมนั้น นอกจากจะขึ้นอยู่กับการจัดประชุม และการน าประชุมที่ ดีแล้ว สิ่งที่ส าคัญมากที่ไม่อาจมองข้ามคือ การเขียนรายงานการประชุมและจัดท าเป็นรายงานการประชุม ซึ่งผู้ที่มีหน้าที่ในการเขียนรายงานการประชุมได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพได้นั้น จะต้องอาศัย ทักษะหลายด้าน เช่น ทักษะการฟัง ทักษะการสรุปจับประเด็นส าคัญ และทักษะการถ่ายทอดประเด็นส าคัญ เหล่านั้นในรูปแบบของลายลักษณ์อักษรอย่างถูกต้อง ชัดเจน กระชับ และตรงประเด็น กรมปุาไม้จึงได้จัดโครงการฝึกอบรมหลักสูตร “ระเบียบงานสารบรรณและการเขียนหนังสือ ราชการ” ขึ้น เพื่อให้บุคลากรของกรมปุาไม้ ได้รับความรู้ ความเข้าใจในหลักการเขียนหนังสือราชการ หนังสือ โต้ตอบต่าง ๆ และการจดบันทึกรายงานการประชุมที่ถูกต้อง ชัดเจน กระชับ ตรงประเด็น และสามารถน า ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป ร ง 1. เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้รับความรู้และความเข้าใจในหลักการ วิธีการเขียนหนังสือ ราชการ และการเขียนรายงานการประชุมได้อย่างถูกต้อง 2. เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมได้ฝึกทักษะการฟัง จับประเด็น และสรุปสาระส าคัญในการประชุม ได้อย่างถูกต้อง ชัดเจน กระชับและตรงประเด็น 3. เพื่อให้สามารถน าความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการท างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 4. เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เข้ารับการฝึกอบรม เนื้อหาหลักสูตร 1. ระเบียบงานสารบรรณ และความรู้เกี่ยวกับหนังสือติดต่อราชการ 2. การเขียนหนังสือราชการที่ดี 3. การใช้ภาษาในหนังสือราชการและหนังสือโต้ตอบ 4. ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนรายงานการประชุม 5. การจับประเด็นและการเรียบเรียงประเด็น 6. รูปแบบและภาษาในการเขียนรายงานการประชุม
2 คุณสมบัติของผู้เข้าร่วมโครงการฝึกอบรม 1. ข้าราชการทุกระดับ ลูกจ้างประจ า พนักงานราชการ สังกัดกรมปุาไม้จ านวน 200 คน 2. ยังไม่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร แนวทางการเขียนหนังสือราชการและการจดบันทึก รายงานการประชุม 3. สามารถใช้งานโปรแกรม Zoom ได้ในระดับดี 4. มีความพร้อมในการฝึกอบรมรูปแบบออนไลน์ วิทยากร วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากส านักกฎหมายและระเบียบกลาง ส านักงานปลัดส านักนายกรัฐมนตรี และนายทองสุข พานทอง อดีตผู้อ านวยการส่วนอ านวยการ ส านักบริหารงานกลาง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ปุา และพันธุ์พืช และหัวหน้าฝุายสารบรรณ กรมปุาไม้ ระยะเวลาในการฝึกอบรม ระหว่างวันที่ 24 - 25 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08.30 – 16.30 น. และวันที่ 28 - 30 พฤศจิกายน 2565 เวลา 08.30 – 12.00 น. รูปแบบการจัดอบรม จัดอบรมในรูปแบบออนไลน์ ผ่านโปรแกรม Zoom โดยการบรรยายให้ความรู้การฝึกปฏิบัติ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และซักถามร่วมกับวิทยากร งบประมาณในการด าเนินการ แผนงานยุทธศาสตร์สร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน อนุรักษ์ ฟื้นฟู และปูองกันการท าลาย ทรัพยากรธรรมชาติ โครงการปูองกันรักษาปุา พัฒนาและเพิ่มพื้นที่สีเขียว กิจกรรมหลักอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีส่วนร่วม กิจกรรมพัฒนาศักยภาพบุคลากร งบด าเนินงาน 23,670 บาท (สองหมื่น สามพันหกร้อยเจ็ดสิบบาทถ้วน) มีรายละเอียดดังนี้ 1. ค่าวิทยากร 1.1 บุคลากรของรัฐ - ภาคบรรยาย (600 บาท x 1 คน x 9 ชั่วโมง) 5,400 บาท - ภาคปฏิบัติ (600 บาท x 2 คน x 3 ชั่วโมง) 3,600 บาท 1.2 ไม่ใช่บุคลากรของรัฐ (1,200 บาท x 1 คน x 9 ชั่วโมง) 10,800 บาท 2. ค่าอาหารอาหารกลางวัน (200 บาท x 6 คน x 2 มื้อ) 2,400 บาท 3. ค่าอาหารว่างและเครื่องดื่ม (35 บาท x 6 คน x 7 มื้อ) 1,470 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 23,670 บาท ความสอดคล้องต่อยุทธศาสตร์ขององค์กร มีความสอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์ การบริหารจัดการไปสู่ความเป็นเลิศ โดยมี เปูาประสงค์ คือเพื่อพัฒนาองค์กร บุคลากรให้มีศักยภาพ มีขีดสมรรถนะในการด าเนินงานตามแนวทาง การบริหารภาครัฐแนวใหม่ และสามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง เกณฑ์การผ่านการฝึกอบรม 10.1 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมต้องมีเวลาเข้ารับการฝึกอบรม ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของจ านวน ชั่วโมงฝึกอบรมทั้งหมด ตามที่ก าหนดในหลักสูตร
3 10.๒ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีคะแนนการท าแบบทดสอบหลังการอบรม ไม่ต่ ากว่าร้อยละ 70 ของคะแนนรวมทั้งหมด การประเมินผลโครงการ ประเมินผลหลังเสร็จสิ้นการฝึกอบรม โดยใช้แบบประเมินผล หรือการสังเกตพฤติกรรมของ ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 1. ผู้เข้ารับการอบรมได้รับความรู้และความเข้าใจในหลักการ วิธีการเขียนหนังสือราชการ และการเขียนรายงานการประชุมได้อย่างถูกต้อง 2. ผู้เข้ารับการอบรมได้ฝึกทักษะในการฟัง จับประเด็น และสรุปสาระส าคัญในการประชุมได้ อย่างถูกต้อง ชัดเจน กระชับและตรงประเด็น 3. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถน าความรู้ที่ได้รับไปประยุกต์ใช้ในการท างานได้อย่างมี ประสิทธิภาพ 4. ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้เข้ารับการฝึกอบรม ผู้รับผิดชอบโครงการ ส่วนฝึกอบรม ส านักบริหารกลาง กรมปุาไม้
4 2 การ รา วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล ให้ผู้ผ่านการฝึกอบรมตอบแบบติดตามผลภายหลังการฝึกอบรม โครงการฝึกอบรม หลักสูตร “ระเบียบงานสารบรรณและการเขียนหนังสือราชการ” และให้ผู้บังคับบัญชาแสดงความคิดเห็นต่อผลการ ปฏิบัติงานผู้ใต้บังคับบัญชาหลังจากผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว จากนั้นให้ส่งกลับมายังส่วนฝึกอบรม ส านักบริหารกลาง กรมปุาไม้ เครื่องมือที่ใช้ในการ ร น รงการ แบบติดตามผลภายหลังการฝึกอบรม โครงการฝึกอบรม หลักสูตร “ระเบียบงานสารบรรณ และการเขียนหนังสือราชการ” เพื่อติดตามประเมินผลการน าความรู้ จากการฝึกอบรมไปใช้ในการปฏิบัติงาน และการประเมินประสิทธิผลความคุ้มค่า ตลอดจนน าข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะ เพื่อพัฒนา ปรับปรุงและยกระดับ การจัดฝึกอบรมให้ดียิ่งขึ้นตามระบบการประกันคุณภาพ การติดตามโ รงการ การติดตามโครงการฝึกอบรม หลักสูตร “ระเบียบงานสารบรรณและการเขียนหนังสือราชการ” ได้เว้นระยะการด าเนินงานหลังจากฝึกอบรมตามหลักสูตรที่ก าหนด ประมาณ 3 เดือน เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรม ได้มีช่วงเวลาในการน าความรู้ที่ได้รับไปใช้ประโยชน์ จึงมีการติดตามประเมินผลโครงการ โดยใช้แบบสอบถามเพื่อ ส ารวจความคิดเห็นจากผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรดังกล่าว จ านวน 329 คน และได้รับการตอบกลับจาก ผู้ผ่านการอบรม จ านวน 300 คน สามารถสรุปผลการประเมินได้ดังนี้ เกณฑ์การให้คะแนน จ านวนระดับคะแนนที่ก าหนดไว้มี ๕ ระดับ ดังนี้ ความคิดเห็นระดับ ๕ = มากที่สุด ความคิดเห็นระดับ ๔ = มาก ความคิดเห็นระดับ ๓ = ปานกลาง ความคิดเห็นระดับ ๒ = น้อย ความคิดเห็นระดับ ๑ = น้อยที่สุด ระหว่างระดับ = ค่าสูงสุด – ค่าต่ าสุด จ านวนระดับชั้น = 5 – 1 = 0.8 5 ระดับคะแนนที่ได้ ระดับ ๑ (น้อยที่สุด) = ๑.๐๐ – ๑.๘๐ ระดับ ๒ (น้อย) = ๑.๘๑ – ๒.๖๐ ระดับ ๓ (ปานกลาง) = ๒.๖๑ – ๓.๔๐ ระดับ ๔ (มาก) = ๓.๔๑ – ๔.๒๐ ระดับ ๕ (มากที่สุด) = ๔.๒๑ – ๕.๐๐
5 การ รา 1. ส่วนที่ 1 ส าหรับผู้ผ่านการฝึกอบรม 1.1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ผ่านการฝึกอบรม าราง 1 : แ ด จำ แ จ าแ ต ศ เพศ ผู้ผ่านการฝึกอบรม ผู้ตอบแบบติดตาม จ านวน (คน) จ านวน (คน) ร้อยละของผู้ผ่านการฝึกอบรม ร้อยละของผู้ตอบแบบสอบถาม ชาย 86 80 24.32 26.67 หญิง 243 220 66.87 73.33 รวม 329 300 91.19 100.00 จากตารางที่ 1 ผลการประเมินพบว่า ผู้ให้ข้อมูลที่เข้ารับการฝึกอบรม จ านวน 300 คน คิดเป็นร้อยละ 91.19 ของผู้ผ่านการฝึกอบรมทั้งหมด เป็นเพศชาย จ านวน 80 คน คิดเป็นร้อยละ 24.32 ของผู้ผ่านการฝึกอบรวม หรือร้อยละ 26.67 ของผู้ตอบแบบสอบถาม และเป็นเพศหญิง จ านวน 220 คน คิดเป็นร้อยละ 66.87 ของผู้ผ่านการฝึกอบรวม หรือร้อยละ 73.33 ของผู้ตอบแบบสอบถาม 1.2 การติดตามผลโครงการฝึกอบรม ตารางที่ 2 : การน าความรู้ที่ได้รับจากการเข้ารับการฝึกอบรมไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงาน รายการประเมิน ค่าเฉลี่ย x แปลผล (ระดับ) 1. ท่านสามารถน าความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปใช้ในการพัฒนาตนเอง 4.43 มากที่สุด 2. ท่านสามารถน าความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปใช้ในการพัฒนาการ ปฏิบัติงาน 4.48 มากที่สุด 3. ท่านสามารถน าความรู้ที่ได้รับมาจากการอบรมไปใช้ในการพัฒนา หน่วยงานของท่าน 4.33 มากที่สุด 4. ท่านได้น าองค์ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปเผยแพร่หรือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างผู้ร่วมงาน 4.19 มาก 5. ท่านคิดว่าโดยภาพรวมท่านสามารถน าความรู้ที่ได้รับไปใช้ให้เกิด ประโยชน์ 4.42 มากที่สุด รวม 4.37 มากที่สุด จากตารางที่ 2 แสดงค่าเฉลี่ยการน าความรู้ที่ได้รับจากการเข้ารับการฝึกอบรมไปใช้ประโยชน์ ในการปฏิบัติงาน พบว่า ผู้เข้ารับการฝึกอบรมสามารถน าความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปใช้ในการพัฒนา การปฏิบัติงานมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.48 ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือผู้เข้ารับการฝึกอบรม สามารถน าความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปใช้ในการพัฒนาตนเอง มีค่าเฉลี่ย 4.43 อยู่ในระดับมากที่สุด และ น้อยที่สุดคือ ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้น าองค์ความรู้ที่ได้รับจากการอบรมไปเผยแพร่หรือแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ระหว่างผู้ร่วมงาน มีค่าเฉลี่ย 4.19 อยู่ในระดับมาก
6 1.3 ความคิดเห็นเกี่ยวกับการฝึกอบรม 1) ท่านสามารถน าความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการปฏิบัติงาน ได้ จ านวน 300 คน ไม่ได้ จ านวน 0 คน เพราะ - . 2) หลังจากเข้ารับการฝึกอบรม ความรู้ที่ได้รับสามารถช่วยท าให้ท่านปฏิบัติงานดีขึ้นหรือไม่ ดีขึ้น จ านวน 300 คน ไม่ดีขึ้น จ านวน 0 คน เพราะ - . 3) ท่านคิดว่าหลักสูตรนี้มีประโยชน์ต่อท่านหรือไม่ ได้ จ านวน 300 คน ไม่ได้ จ านวน 0 คน เพราะ - . ตารางที่ 3 : แสดงจ านวนความคิดเห็นเกี่ยวกับการฝึกอบรม ประเด็นศึกษา จ านวน ร้อยละ 1. น าความรู้ที่ได้รับไปใช้ในการปฏิบัติงาน 1.1 ได้ 300 100 1.2 ไม่ได้ 0 0 2. หลังจากเข้ารับการฝึกอบรม ความรู้ที่ได้รับสามารถช่วยท าให้ปฏิบัติงานดีขึ้น 2.1 ดีขึ้น 300 100 2.2 ไม่ดีขึ้น 0 0 3. หลักสูตรมีประโยชน์ต่อผู้เข้ารับการอบรม 3.1 มี 300 100 3.2 ไม่มี 0 0 จากตารางที่ 3 ผู้เข้ารับการฝึกอบรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการฝึกอบรม ในภาพรวมพบว่า หลังจากเข้ารับการฝึกอบรม ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้น าความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติงานและความรู้ที่ได้รับสามารถ ช่วยท าให้ปฏิบัติงานได้ดีขึ้น และเห็นด้วยว่าหลักสูตรนี้มีประโยชน์ต่อผู้เข้ารับการอบรม ทุกประเด็นที่กล่าวมา ข้างต้นมีผลออกมาร้อยละ 100 ของผู้ตอบแบบติดตามผลโครงการฝึกอบรม ท าให้ทราบว่าโครงการฝึกอบรม หลักสูตรนี้มีประโยชน์ต่อผู้เข้ารับการฝึกอบรมเป็นอย่างมาก 2. ส่วนที่ 2 ส าหรับผู้บังคับบัญชา 2.1 การติดตามผลโครงการฝึกอบรม ตารางที่ 4 : ความพึงพอใจของผู้บังคับบัญชาในการน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงาน รายการประเมิน ค่าเฉลี่ย x แปลผล (ระดับ) 1. สามารถน าความรู้ที่ได้รับมาใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ 4.45 มากที่สุด 2. สามารถน าความรู้ ความเข้าใจที่ได้รับมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานที่มีปัญหา และอุปสรรค 4.37 มากที่สุด
7 ตารางที่ 4 : ความพึงพอใจของผู้บังคับบัญชาในการน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงาน (ต่อ) รายการประเมิน ค่าเฉลี่ย x แปลผล (ระดับ) 3. เมื่อกลับมาปฏิบัติงานหลังจากการอบรม ผลการปฏิบัติงานเป็นที่ยอมรับ จากผู้ที่เกี่ยวข้อง 4.42 มากที่สุด 4. ท่านพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน 4.48 มากที่สุด 5. ท่านคิดว่าประโยชน์ที่ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านได้รับจากการอบรมใน หลักสูตรนี้บรรลุผลตามความคาดหวังของท่าน 4.49 มากที่สุด 6. หลักสูตรนี้คุ้มค่ากับเวลาและค่าใช้จ่าย 4.46 มากที่สุด 7. ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่านที่ผ่านการฝึกอบรมสามารถลดข้อผิดพลาดจาก การปฏิบัติงานได้ และปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น 4.48 มากที่สุด รวม 4.45 มากที่สุด จากตารางที่ 4 แสดงร้อยละความพึงพอใจของผู้บังคับบัญชาในการน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ ในการปฏิบัติงาน พบว่า ผู้บังคับบัญชามีความพึงพอใจในการน าความรู้ไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานของ ผู้ใต้บังคับบัญชาหลังเข้ารับการฝึกอบรมในภาพรวม มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.45 อยู่ในระดับมากที่สุด ซึ่งผู้บังคับบัญชา เห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชาได้รับประโยชน์จากการเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้บรรลุตามความคาดหวังมาก ที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.49 อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือเห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชาที่ผ่านการฝึกอบรม สามารถลดข้อผิดพลาดจากการปฏิบัติงานได้ และปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเห็นว่าผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ผ่านการฝึกอบรมพึงพอใจต่อการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา มีค่าเฉลี่ยเท่ากันอยู่ที่ 4.48 อยู่ในระดับ มากที่สุด หลักสูตรนี้คุ้มค่ากับเวลาและค่าใช้จ่าย ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.46 อยู่ในระดับมากที่สุด สามารถน าความรู้ที่ ได้รับมาใช้ในการปฏิบัติงานในหน้าที่ มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.45 อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อกลับมาปฏิบัติงานหลังจาก การอบรมผลการปฏิบัติงานเป็นที่ยอมรับจากผู้ที่เกี่ยวข้อง มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.42 อยู่ในระดับมากที่สุด และ สามารถน าความรู้ ความเข้าใจที่ได้รับมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานที่มีปัญหาและอุปสรรค มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.38 อยู่ในระดับมากที่สุด 2.2 ท่านได้ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของท่าน น าความรู้และทักษะที่ได้รับจากการฝึก อบรมไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงาน อย่างไรบ้าง (ตอบได้มากกว่า 3 ค าตอบ) โดยมีผู้บังคับบัญชา ได้แสดงความคิดเห็นให้ผู้ผ่านการฝึกอบรม จ านวน 280 คน 1) มอบหมายงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะ ที่ได้รับการฝึกอบรมไปปฏิบัติ จ านวน 271 คน คิดเป็นร้อยละ 96.78 2) ให้ค าปรึกษา แนะน า แนวทางการน าความรู้และทักษะที่ได้รับจาการฝึกอบรมไปปรับใช้ ในการปฏิบัติงาน จ านวน 234 คน คิดเป็นร้อยละ 83.57 3) กล่าวแสดงความชื่นในผลการปฏิบัติงาน ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับหลักสูตรการฝึกอบรม จ านวน 173 คน คิดเป็นร้อยละ 61.78 4) ไม่ได้ให้การสนับสนุนใด ๆ แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา จ านวน 0 คนคิดเป็นร้อยละ 0
8 5) อื่น ๆ (โปรดระบุ) - ให้ฝึกการร่างหนังสือราชการ และปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับการสรุปประเด็น สาระส าคัญจากเอกสารทางวิชาการ จ านวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 0.71 - ส่งเสริมให้พัฒนาทักษะความรู้ที่เกี่ยวข้องกับงานสารบรรณเพิ่มเติมจากสื่อต่าง ๆ เพื่อน ามาใช้ในการปฏิบัติงาน จ านวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 0.71 - สนับสนุนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาสมัครอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ของหน่วยงานอื่น ๆ จ านวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 1.78 ตารางที่ 5 : ผู้บังคับบัญชาได้ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้ใต้บังคับบัญชาน าความรู้และทักษะที่ได้รับจากการฝึกอบรม ไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานอย่างไร ประเด็นศึกษา จ านวน ร้อยละ 1. มอบหมายงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะ ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปปฏิบัติ 271 96.78 2. ให้ค าปรึกษา แนะน า แนวทางการน าความรู้และทักษะที่ได้รับจากการ ฝึกอบรมไปปรับใช้ในการปฏิบัติงาน 234 83.57 3. กล่าวแสดงความชื่นชมในผลการปฏิบัติงานในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับ หลักสูตรการฝึกอบรม 173 61.78 4. ไม่ได้ให้การสนับสนุนใด ๆ แก่ผู้ใต้บังคับบัญชา 0 0 5. อื่น ๆ 9 3.21 จากตารางที่ 5 แสดงจ านวนร้อยละความคิดเห็นเกี่ยวกับการน าความรู้และทักษะที่ได้รับจาก การฝึกอบรมไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงาน พบว่า ผู้บังคับบัญชาได้ส่งเสริม สนับสนุนให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาน าความรู้และทักษะที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปปรับใช้ให้เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติงานโดยได้ มอบหมายงานที่ต้องใช้ความรู้ ทักษะ ที่ได้รับจากการฝึกอบรมไปปฏิบัติจ านวน 271 คน คิดเป็นร้อยละ 96.78 ของผู้ผ่านการฝึกอบรมที่ผู้บังคับบัญชาแสดงความคิดเห็น ซึ่งมีผู้ผ่านการฝึกอบรมที่ผู้บังคับบัญชาแสดง ความคิดเห็น จ านวน 280 คน และมีผู้ผ่านการฝึกอบรมที่ผู้บังคับบัญชาไม่ได้แสดงความคิดเห็น จ านวน 49 คน 2.3 เพื่อเป็นการรองรับการปฏิบัติงานตามภารกิจของส านักงานฯ ท่านต้องการให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ของท่านเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรใด (โปรดระบุ) จากการตอบแบบติดตามผลภายหลังการฝึกอบรม พบว่า ผู้บังคับบัญชามีต้องการให้ ผู้ใต้บังคับบัญชาเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตร ดังต่อไปนี้ 1) หลักสูตรการด าเนินคดีและกฎหมายว่าด้วยการปุาไม้ 2) หลักสูตรการตรวจพิสูจน์เยื่อไม้ 3) หลักสูตรการสร้างแผนที่ด้วย ArcGIS Platform และโปรแกรม QGIS 4) หลักสูตรการฝึกอบรมระบบอากาศยานไร้คนขับ 5) หลักสูตรเสริมสร้างความรู้และทักษะในการด าเนินงานด้านการอนุญาต 6) หลักสูตรการจัดการปุาสู่ความยั่งยืน 7) หลักสูตรการวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติส าหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ 8) หลักสูตรการเขียนข้อเสนอโครงการวิจัยเพื่อรับทุนจากแหล่งต่าง ๆ 9) หลักสูตรการใช้ภาษาอังกฤษส าหรับการปฏิบัติงาน
9 10) หลักสูตรการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและ การบริหารพัสดุภาครัฐ 11) หลักสูตรระเบียบงานสารบรรณและการเขียนหนังสือราชการ 12) หลักสูตรการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ 13) หลักสูตรการใช้โปรแกรม Microsoft Office และ Microsoft Access 14) หลักสูตรการท างานเป็นทีม 15) หลักสูตรพัฒนาบุคลิกภาพและการพูดในที่สาธารณะ 16) หลักสูตรการออกแบบเว็บไซต์ 17) หลักสูตรการใช้คอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีมาช่วยในการปฏิบัติงาน 18) หลักสูตรการผลิตสื่อประชาสัมพันธ์ 19) หลักสูตรการสร้าง Infographic และการออกแบบ One page 20) หลักสูตรถ่ายภาพ 21) หลักสูตรภาวะผู้น าที่ดี 22) การพัฒนาในด้านการจัดท ารายงานและการจับประเด็น 23) อบรมเกี่ยวกับยุทธศาสตร์ต่าง ๆ 24) เทคนิคการน าเสนอผลงานด้วยโปรแกรม Power point
10 บทสรุปและข้อเสนอแนะ บทสรุป การติดตามประเมินผลโครงการฝึกอบรม หลักสูตร “ระเบียบสารบรรณและการเขียนหนังสือ ราชการ” มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการติดตามประเมินผลการน าความรู้ จากการฝึกอบรมไปใช้ในการปฏิบัติงาน และการประเมินประสิทธิผลความคุ้มค่า ตลอดจนน าข้อคิดเห็นข้อเสนอแนะ เพื่อพัฒนา ปรับปรุง และยกระดับ การจัดฝึกอบรมให้ดียิ่งขึ้นตามระบบการประกันคุณภาพ โดยมีระยะเวลาด าเนินการ ภายในระยะเวลา 90 วัน นับตั้งแต่วันสิ้นสุดการจัดฝึกอบรม ผู้ตอบแบบสอบถามเป็นผู้ผ่านการฝึกอบรม จ านวน 300 คน และ ผู้บังคับบัญชา จ านวน 123 คน สรุปผลการประเมินการติดตามประเมินผล ดังนี้ จากผลการประเมินพบว่า มีผู้ตอบแบบติดตาม จ านวน 300 คน เป็นเพศชาย จ านวน 80 คน คิดเป็นร้อยละ 26.67 และเป็นเพศหญิง จ านวน 220 คน คิดเป็นร้อยละ 73.33 พบว่า การน าความรู้ที่ ได้รับจากการเข้ารับการฝึกอบรมไปใช้ประโยชน์ในการปฏิบัติงานมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.37 อยู่ในระดับมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 91.19 ของผู้ผ่านการฝึกอบรมทั้งหมดมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการฝึกอบรมร้อยละ 100 ในทุก ประเด็น ส่วนความคิดเห็นของผู้บังคับบัญชาในการน าความรู้ไปใช้ในการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชาหลัง เข้ารับการฝึกอบรม พบว่า ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.45 ซึ่งอยู่ในระดับมากที่สุด ข้อเสนอแนะ (ผู้ผ่านการฝึกอบรม) 1. เห็นควรให้มีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมนี้ขึ้นเป็นประจ าอย่างต่อเนื่องทุกปีเพื่อทบทวนหลัก ปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามระเบียบ 2. เห็นควรให้มีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมนี้ในรูปแบบ onsite และครอบคลุมในทุกพื้นที่ เนื่องจากการฝึกอบรมในรูปแบบ online มักจะต้องท างานควบคู่ไปด้วย จึงท าให้ไม่มีสมาธิในการฝึกอบรมมาก เท่าที่ควร 3. เห็นควรให้เพิ่มเวลาในการฝึกปฏิบัติ เนื่องจากเป็นการฝึกอบรมในรูปแบบออนไลน์และมี เวลาในการฝึกปฏิบัติที่จ ากัด จึงท าให้ตอบข้อซักถามของผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ไม่ทั่วถึง และอาจท าให้เข้าใจ คลาดเคลื่อน ข้อเสนอแนะ (ผู้บังคับบัญชา) 1. เห็นควรให้มีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมนี้ขึ้นเป็นประจ าอย่างต่อเนื่องทุกปี 2. ต้องการให้มีการจัดหลักสูตรฝึกอบรมนี้ในรูปแบบ onsite เนื่องจากมีข้อจ ากัดในด้าน การสื่อสารระหว่างวิทยากรและผู้เข้ารับการฝึกอบรม 3. ต้องการให้ผู้ใต้บังคับบัญชาทุกคนเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ 4. ต้องการให้มีการเผยแพร่ความรู้ เช่น การผลิตเป็นสื่อ เพื่อให้ผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ ทบทวนความรู้ และให้ผู้สนใจที่ไม่ได้เข้ารับการฝึกอบรมได้ศึกษาและเรียนรู้ในเบื้องต้น
11 ภาคผนวก รายงานผลการฝึกอบรม โครงการฝึกอบรม หลักสูตร “ระเบียบสารบรรณและการเขียนหนังสือราชการ”
12
13