The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by ยุพิน ตุงไธสง, 2019-10-24 02:42:39

รวม

รวม

ID PLAND

นางยุพิน ตุงไธสง
ครูชาํ นาญการพิเศษ
โรงเรียนพุ ทไธสง อําเภอพุ ทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์
สาํ นักงานเขตพืนทีการศึกษามัธยมศึกษาเขต 32

แผนพัฒนาตนเองของข้าราชการครู
(ID PLAN : INDIVIDUAL DEVELOPMENT PLAN)

----------------------------------------------------------------------

ส่วนท่ี 1 ขอ้ มลู ส่วนบุคคล

ชอ่ื นางยุพิน ตุงไธสง
ตาแหน่ง ครู .วิทยฐานะ ชานาญการพเิ ศษ
วุฒิการศึกษา............................................................................................................................. ..........
O ปรญิ ญาตรี หรอื เทียบเทา่ วิชาเอก วทิ ยาศาสตรท์ ว่ั ไป
O ปริญญาโท หรือเทยี บเทา่ วชิ าเอก หลกั สูตรและการสอน
O ปรญิ ญาเอก หรือเทยี บเท่า วิชาเอก..........................................................................................
O อื่น ๆ (โปรดระบุ)..........................................................................................
เข้ารบั ราชการวนั ที 16 เดือน ธนั วาคม พ.ศ. 2534 ณ โรงเรียนเจริญศลิ ปศ์ กึ ษา “โพธ์ิคาอนสุ รณ์”
อาเภอเจริญศลิ ป์ จ. สกลนคร สงั กัด กรมสามัญศึกษา
อายุราชการจนถงึ ปจั จุบัน 26 ปี 7 เดอื น
เงนิ เดอื น อันดบั คศ 3 อตั ราเงนิ เดือน 49,878 บาท

สถานท่ที างาน โรงเรียนพทุ ไธสง อาเภอพุทไธสง จงั หวัดบรุ ีรมั ย์ สานักงานเขตพนื้ ที่การศกึ ษามธั ยมศึกษา
เขต 32
ท่ีอยู่ทีส่ ามารถตดิ ต่อได้

79 บ้านชาติ หมู่ 11 ตาบลพทุ ไธสง อาเภอพทุ ไธสง จังหวัดบรุ รี ัมย์ 31120

1.งานในหนา้ ทท่ี ร่ี บั ผิดชอบ

1. กลุ่มสาระทสี่ อน วทิ ยาศาสตร์ ช้ัน ม. 1 จานวน 12 ชัว่ โมง / สัปดาห์
2. กลุ่มสาระทส่ี อน วทิ ยาศาสตร์ ช้ัน ม. 2 จานวน 6 ช่วั โมง / สัปดาห์
3. กลุ่มสาระทส่ี อน วทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ม. 3 จานวน 1 ชั่วโมง / สัปดาห์

2
2. กิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น

1. ลกู เสอื – เนตรนารี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 จานวน 1 ชวั่ โมง/สปั ดาห์
2. โฮมรูม ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3/1 จานวน 1 ชั่วโมง / สัปดาห์
3. ชมุ นุม สหกรณ์ จานวน 1 ชัว่ โมง/สปั ดาห์
4. กิจกรรมลดเรยี นเพ่ิมรู้……. จานวน…….ชั่วโมง/สัปดาห์
5. สวดมนต์ ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3/1 จานวน 1 ช่ัวโมง/สปั ดาห์
6. PLC จานวน 5 ชั่วโมง/สปั ดาห์
7. ลงพน้ื ท่ี ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 3/1 จานวน 5 ช่วั โมง/สปั ดาห์

3. งานพเิ ศษท่ีไดร้ ับมอบหมาย
1. งานสหกรณร์ ้านคา้ โรงเรียนพุทไธสง ทาหน้าทเี่ ปน็ ประธานสหกรณ์ โดยดแู ลกิจการสหกรณ์
2. งานอยู่เวรยามในวันหยดุ ราชการ
3. งานเวรประจาวนั

ผลงาน ท่ีเกิดจากการปฏบิ ัติหนา้ ท่ีในตาแหนง่ ปจั จุบนั (ย้อนหลัง 5 ป)ี

1.ผลทเ่ี กิดจากการจดั การเรยี นรู้
ได้ดาเนินการจัดกจิ กรรมการเรียนร้ใู หแ้ กน่ กั เรียน โดยรว่ มกบั คณะครจู ดั ทาหลกั สตู รสถานศกึ ษา

ระดับมัธยมศึกษา วิเคราะหห์ ลักสูตร จดั ทาแผนการจดั การเรยี นรแู้ ละนาแผนการจดั การเรียนรไู้ ปใชใ้ นการจัด
กิจกรรมการเรียนการสอน มีการวดั และประเมินผลตามสภาพจริง โดยมกี ารวดั และประเมินผลทคี่ รอบคลมุ
ทุกดา้ น ซ่ึงไดแ้ ก่ ด้านความรู้ ด้านทักษะกระบวนการและด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ท้งั นีเ้ พ่ือส่งสง่
พัฒนาการของนักเรยี นทง้ั 4 ด้าน ไดแ้ ก่ ดา้ นร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปญั ญา รวมท้งั การปลกู ฝงั
คุณธรรมจริยธรรม เพื่อให้นักเรียนมพี ัฒนาการท่ดี ี มีคุณลักษณะท่พี ึงประสงค์ มกี ารบนั ทึกหลังการจัด
กจิ กรรมเพอื่ ปรับปรงุ การเรยี นการสอน

2. ผลทเี่ กิดจากการพัฒนาวิชาการ
ผลท่ีเกิดจากการพัฒนาตนเองดา้ นวชิ าการ ส่งผลให้นกั เรียนเรยี นไดผ้ า่ นเกณฑ์การประเมนิ และมผี ล

การทดสอบระดับชาตใิ นวิชาวิทยาศาสตร์ได้คะแนนสงู กว่าระดบั ประเทศ ดา้ นการพฒั นาคุณธรรม
จริยธรรม สง่ ผลใหน้ กั เรียนมีคุณธรรมจรยิ ธรรม มีความเอือ้ เฟื้อเผอื่ แผ่ และมีจิตอาสา ซึง่ เกดิ ผลเป็นที่
เป็นท่ยี อมรับต่อชุมชนและหนว่ ยงานตา่ งๆ

3

3. ผลที่เกิดกับผเู้ รียน
จากการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอนทีเ่ นน้ ผู้เรยี นเป็นสาคญั โดยใหน้ กั เรยี นไดฝ้ ึกปฏิบตั จิ รงิ มี

กระบวนการเรยี นรู้ทีห่ ลากหลาย นกั เรียนได้ฝึกทกั ษะกระบวนการตรงตามตัวช้ีวดั มีการสอดแทรกคุณธรรม
จรยิ ธรรม การฝึกการมวี นิ ัยในตนเองและรับผิดชอบงานอย่เู ป็นประจา ส่งผลใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ทักษะ
กระบวนการและมีคุณธรรมจรยิ ธรรมอนั พึงประสงค์ต่อครอบครัว โรงเรียนและชุมชน ผูเ้ รยี นสามารถนา
ความรูไ้ ปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั สามารถอยู่ในสังคมไดอ้ ย่างมีความสขุ

4. ผลทเ่ี กดิ กับสถานศกึ ษา
จากการที่สถานศึกษาวางแผนเพ่ือพัฒนาผู้เรียนอย่างมเี ปา้ หมาย มีทศิ ทางทีแ่ นน่ อน โดยจดั หลักสตู รใหม้ ี

การพัฒนาผู้เรยี นทุกๆดา้ น นักเรยี นไดร้ ่วมกิจกรรมตามโครงการและแผนพฒั นาตา่ งๆที่ทางโรงเรียนจดั ทาขน้ึ
อยา่ งเป็นรูปธรรม โดยมีการร่วมมือกันจากทุกๆฝา่ ยในโรงเรยี น ส่งผลใหเ้ ปน็ ท่ยี อมรับของผปู้ กครองและ
ชมุ ชน

5. ผลที่เกดิ กับชุมชน
จากการท่ีสถานศึกษาได้รว่ มกจิ กรรมตา่ งๆกับชุมชน โดยเฉพาะกิจกรรมสาคญั เกี่ยวกบั

พระมหากษัตริย์ ศาสนา วัฒนธรรม ประเพณีตา่ งๆ ส่งผลให้มคี วามรัก สามัคครี ะหวา่ งโรงเรยี นกบั
ชมุ นมุ ทาให้การดาเนินงานต่างๆในโรงเรยี นดาเนินไปด้วยความราบร่นื

4

รายละเอียดการพัฒนาตนเอง

อนั ดับ สมรรถนะ วิธกี าร / ร
ความสาคัญ ทจี่ ะพัฒนา รปู แบบการพฒั นา

1 การจัดการเรียนการสอน 1.เข้าอบรมสัมมนาตามท่ี ต
หลกั สูตรทต่ี ้องการอบรม หนว่ ยงานต้นสังกดั หรือ กา
หนว่ ยงานอน่ื ๆจดั ขน้ึ
2. ศกึ ษาดงู านโรงเรยี น
ตน้ แบบเพ่ือนามาพัฒนา
ตนเอง
3. แลกเปลย่ี นเรียนร้กู บั
บคุ ลากรในโรงเรียน
4. ศึกษาเอกสาร ผลงาน
ทางวชิ าการจากตารา
วารสารและวจิ ัยต่างๆ

4

ระยะเวลาในการพฒั นา การขอรับการสนับสนนุ ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะไดร้ บั
จากหนว่ ยงาน
เรม่ิ ต้น สนิ้ สดุ
ตลอดปี ตลอดปี สพฐ/โรงเรียน ตนเองเป็นผมู้ ีคุณภาพ ได้รบั
ารศึกษา การศกึ ษา การพฒั นาไปในทางทด่ี ีขน้ึ
สง่ ผลและเกดิ ประโยชน์ต่อ
ผูเ้ รียนและโรงเรียน

5

อนั ดบั สมรรถนะ วิธีการ /
ความสาคญั ทจี่ ะพฒั นา รูปแบบการพัฒนา

2. วินัย คุณธรรม จริยธรรมและ 1.เข้ารับการอบรมด้านคุณธรรม

จรรยาบรรณวิชาชพี จริยธรรมอยา่ งน้อยปลี ะ 1 ครั้ง

หลักสูตรท่ตี ้องการอบรม 2.ประพฤติปฏิบัติตนและดารงชีว

โดยยดึ ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง

3. รักและศรัทธาในวิชาชีพของ

ตนเอง โดยมวี ินยั ในตนเอง

3. ดา้ นการดูแลชว่ ยเหลือ 1.เขา้ อบรมด้านวินยั และ

นกั เรียน จรรยาบรรณครู

1.วนิ ัยและจรรยาบรรณครู 2.จดั ทาเอกสารธุรการช้ันเรียนให

2.ระบบดูแลช่วยเหลอื นกั เรยี น เปน็ ปจั จบุ ัน

3.จัดระบบดแู ลชว่ ยเหลือนกั เรยี น

และนาข้อมูลไปใช้ในการพฒั นา

ผู้เรียน

5 ประโยชน์ท่ีคาดว่าจะ
ระยะเวลาในการพัฒนา การขอรับการ ไดร้ บั
เริ่มตน้ สิ้นสุด สนบั สนุนจาก
หน่วยงาน ตนเองเปน็ ผมู้ ีคุณธรรม
ตลอดปี ตลอดปี สพฐ/โรงเรยี น จริยธรรม มีวินยั มี
การศึกษา การศกึ ษา ความรับผิดชอบและมี
ความกา้ วหนา้ ใน
วิต วิชาชพี


ตลอดปี ตลอดปี สพฐ/โรงเรียน ผูเ้ รียนได้รบั การดแู ล
การศึกษา การศึกษา อยา่ งใกล้ชดิ และตรง
ห้ ตามความต้องการ



ประวตั กิ ารเขา้ รบั การพัฒนา (ในรอบ 5 ปี ทผี่ ่านมา)

ลาดบั ที่ เรอ่ื ง หนว่ ยงาน จานวนชวั่ โมง หมายเหตุ
คา่ ยหว้ากอ จ. 21
1 วิทยากรจัดกิจกรรมคา่ ยวิทยาศาสตร์ ประจวบคีรขี ันธ์ 12
สถาบนั พัฒนา 14
11-13 ม.ี ค. 2558 คุณภาพวิชาการ 14
7
2 อบรมเชิงปฏิบตั กิ ารหลักสูตรบรหิ าร มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ 7
ชยั ภมู ิ 14
การศึกษาเพอ่ื เพ่ิมพนู ศักยภาพผ้เู รยี น
สพม.32 15
30 ม.ค.2559 7
บรษิ ทั อักษร เอ็ด 18
3 ออกแบบการเรียนรู้แบบห้องเรียนกลบั ดา้ น ดเู คชั่น จากดั มหาขน
ปี 2560
เพ่อื พัฒนาทักษะแห่งศตวรรษท่ี 21 โรงเรียนพทุ ไธสง
ปี 2561
14-15 ก.ย. 2560
โรงเรียนพุทไธสง
4 อบรมเชิงปฏบิ ัติการ การจดั ทาแผนการ 2561

จัดการเรยี นรู้ วิจยั ในช้นั เรยี นและประกนั มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั
บุรรี มั ย์ 2561
คณุ ภาพ 26-27 ต.ค. 2559 15-16 ก.ย.2561
สพม.32
5 การบูรณาการการจัดารเรียนรูเ้ ชิงรุกดว้ ย
สสวท. รว่ มกับ สพฐ.
รปู แบบสะเต็มศึกษา 2 ก.ย. 2560

6 อบรมเชงิ ปฏบิ ัติการ การพัฒนาศักยภาพครู
เพือ่ พัฒนาโรงเรียนคุณธรรม
21 มี.ค. 2561

7 การอบรมเชิงปฏิบตั ิการเร่ืองการพัฒนา
หลกั สตู รสถานศึกษาตามเปา้ หมายหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขัน้ พื้นฐาน พ.ศ.2551
(ปรับปรงุ 2560) 17-18 ก.พ.2561

8 การพัฒนาทักษะกระบวนการวิจัยแบบ
โครงงานฐานวจิ ยั เพื่อบรู ณาการกับการ
จดั การเรียนการสอนในสถานศึกษา

9 การจดั การเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ดว้ ย
ภาษาองั กฤษเพื่อส่งเสริมผู้เรียนใหม้ ที กั ษะ
แห่งศตวรรษท่ี 21 วันที่ 21 ก.ค. 2561

10 การพัฒนาครสู ะเต็มศกึ ษาด้วยระบบ
ทางไกล โครงการบูรณาการสะเต็มศกึ ษา
ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย เรอื่ งแล่นให้
ไกลไปใหถ้ ึง 28-30 เม.ย.61

สว่ นที่ 2 ความต้องการในการพัฒนา

1. หลักสูตรใดทีท่ า่ นต้องการพัฒนา
การสอนที่ทาให้นกั เรยี นมคี วามคงทนในการเรยี นรู้

2. เพราะเหตใุ ดท่านจึงต้องการเขา้ รบั การพัฒนาในหลักสูตรน้ี
เมอื่ มีความคงทนในการเรยี นรู้ นักเรียนจะสามารถนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวันได้

3. ทา่ นคาดหวงั สิง่ ใดจากการเข้ารบั การพัฒนาในหลกั สูตรนี้
นกั เรยี นมีความคงทนในการเรียนร้แู ละประสบผลสาเรจ็ ในการเรยี นรู้

4. ทา่ นจะนาความรจู้ ากหลักสูตรไปพัฒนาการสอนของทา่ นอย่างไร
สอนให้นกั เรียนเกิดความคงทนในการเรียนรู้ โดยสอนสิ่งที่มีความหมายสาหรับนักเรียน เม่อื นกั เรียนมี
ความคงทนในการเรียนรจู้ ะสามรถนาความรู้ไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาวันได้ เช่น นาไปสอบแขง่ ขัน
หรือนาไปประยุกต์ใชใ้ นการประกอบอาชีพได้

ลงช่อื …………………………………………
(นางยุพิน ตงุ ไธสง)
ผ้จู ดั ทาแผนพัฒนาตนเอง

ความเหน็ ของผู้บังคบั บัญชา
…………………………………………………………………
………………………………………………………………….
……………………………………………………………………
ลงชือ่ ……………………………………………….

(นายประชยั พรสงา่ กุล)
ตาแหน่ง ผอู้ านวยการโรงเรยี นพทุ ไธสง


Click to View FlipBook Version