The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rtongna, 2023-08-06 11:27:21

WI Ectopic preg

WI Ectopic preg

แนวทางปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยผู้ป่วยตั้งครรภ์นอกมดลูก กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช หน้า: 13 หน้า แนวทางปฏิบัติการพยาบาลเลขที่ : WI–NUR-OBG-002 ทบทวน : ทุกปี เรื่อง : แนวทางปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยผู้ป่วยตั้งครรภ์นอกมดลูก วันบังคับใช้ : 3 กรกฎาคม 2566 วันที่ปรับปรุง : 3 มกราคม 2566 แผนก : กลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยสูติ-นรีเวช แผนกที่เกี่ยวข้อง : หอผู้ป่วยนรีเวชและพิเศษหญิงรวม ผู้จัดทำ : นางรัตติการ์ เผือกพันธ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ผู้ทบทวน ................................................................ ( นางกนกัญจน์ ภาคภูมิ) หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยสูติ- นรีเวช ผู้อนุมัติ ............................ ............................. (นางมารยาท รัตนประทีป) หัวหน้าพยาบาล


1 แนวทางการปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยตั้งครรภ์นอกมดลูกที่ได้รับการผ่าตัด Ectopic pregnancy ตั้งครรภ์นอกมดลูก (Ectopic Pregnancy) คือภาวะที่ตัวอ่อนฝังตัวอยู่บริเวณอื่นที่ไม่ใช่โพรงมดลูกมักเกิดขึ้นบริเวณท่อนำไข่ (ปีกมดลูก) ทำ ให้ตัวอ่อนไม่สามารถเจริญเติบโตต่อไปเป็นทารกได้ดังนั้นเมื่อมีการตั้งครรภ์จึงควรฝากครรภ์และรับการตรวจตามนัดหมายจะมีอาการดังนี้ปวดท้องน้อย ปวดร้าวไปถึงบริเวณทวารหนักต้นขาหรือไหล่มีเลือดออกจากช่องคลอดหน้ามืดเป็นลมหรือมีภาวะช็อกสาเหตุของการตั้งครรภ์นอกมดลูก 1.ท่อนำไข่มีลักษณะผิดรูปทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถเคลื่อนที่ไปฝังตัวในโพรงมดลูกได้ท่อนำไข่ผิดรูปร่างมักเกิดจากสาเหตุดังนี้ ㆍอุ้งเชิงกรานอักเสบจากโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ทำให้มีพังผืดบริเวณท่อนำไข่ ㆍมีรอยแผลและพังผืดจากการผ่าตัด ㆍเคยมีประวัติการตั้งครรภ์นอกมดลูกมาก่อน ㆍการทำหมันหรือการแก้หมันหญิง 2.เกิดจากการใช้ยาและฮอร์โมน 3.เกิดความไม่สมดุลของฮอร์โมนในกระบวนการตั้งครรภ์ 4.คุณแม่ตั้งครรภ์เมื่อมีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปทำให้มีความเสี่ยงที่อวัยวะในระบบสืบพันธ์อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงหรือทำงานด้อย ประสิทธิภาพลง 1. วัตถุประสงค์ : : เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทางการพยาบาลใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการให้การพยาบาลผู้ป่วยตั้งครรภ์นอกมดลูกในหน่วยงาน : เพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมและปลอดภัยป้องกันภาวะแทรกซ้อนของโรค


2 2. ขอบเขต: : เอกสารฉบับนี้ใช้ครอบคลุมงานผู้ป่วยใน กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช : วิธีการปฏิบัติงานครอบคลุมการปฏิบัติการพยาบาลในระยะแรกรับ ระยะต่อเนื่อง และระยะจำหน่ายในการดูแล ผู้ป่วยตั้งครรภ์นอกมดลูก 3. คำนิยาม : : การตั้งครรภ์นอกมดลูก คือ การตั้งครรภ์ที่ตัวอ่อนมีการฝั่งตัวนอกโพรงมดลูกเช่น ท่อนำไข่ ปากมดลูก รังไข่และหน้าท้อง : ชื่อการผ่าตัดในผู้ป่วยตั้งครรภ์นอกมดลูก Total Abdominal hysterectomy คือ ผ่าตัดเอามดลูก ปากมดลูกออกผ่านทางหน้าท้อง Salpingectomy คือ การตัดท่อนำไข่ออกข้างใดข้างหนึ่ง Sal pingo- oophorectomy คือ การผ่าตัดเอารังไข่และท่อนำไข่ออกข้างใดข้างหนึ่ง Bilateral Sal pingo-oophorectomy คือ การผ่าตัดเอารังไข่และท่อนำไข่ออกทั้ง 2 ข้าง 4. เอกสารอ้างอิง : ธีระ ทองสง. (2559). นรีเวชวิทยา (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : ลักษมีรุ่ง ปริญญา ราชกิจ. (2560). การตั้งครรภ์นอกมดลูกในโรงพยาบาลลำปลายมาศ. วารสารการแพทย์ โรงพยาบาลศรีษะเกษ-สุรินทร์-บุรีรัมย์, 32(1), 33-42. พรทิพย์ จันทาทิพย์. (2563). การพยาบาลผู้ป่วยตั้งครรภ์นอกมดลูกที่มีภาวะช็อก. วารสารวิชาการ 5. หน้าที่ความรับผิดชอบ : แพทย์ : ตรวจวินิจฉัยรักษา พยาบาล : พยาบาลเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนของ Ectopic pregnancy เตรียมความพร้อมด้านร่างกายจิตใจ วิสัญญีพยาบาล : ตรวจเยี่ยม ประเมินผู้ป่วย หลังผ่าตัด 6. เป้าหมาย :


3 -ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะแทรกซ้อนก่อน หลังผ่าตัด -มีความพึงพอใจในการรักษาวันนอนรวมไม่เกินกำหนด -ไม่มีการ Readmit 7.ตัวชี้วัด ลำดับที่ ตัวชี้วัด เป้าหมาย 1 ร้อยละผู้ป่วย Rupture ectopic c Shockเข้าสู่ระบบ Fast Tract 100% 2 อัตราการวินิจฉัยครรภ์นอกมดลูกผิดพลาด/วินิจฉัยล่าช้า 0% 3 อัตราการเกิดภาวะShockหลังรับไว้ในการดูแล 2% 4 อัตราการเกิด Readmit 0% 5 LOS 3 วัน


4 แนวทางปฏิบัติการพยาบาลผู้ป่วยตั้งครรภ์นอกมดลูก การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6) ระยะแรกรับ -ผู้ป่วยและญาติสีหน้าวิตก กังวลเมื่อรู้ว่าตั้งครรภ์นอก มดลูก -ผู้ป่วยและญาติ สอบถามมีวิธีรักษา แบบไหนบ้าง 1.วิตกกังวลขาดความรู้ความ เข้าใจเกี่ยวกับโรคและการ ผ่าตัด ผู้ป่วยและญาติคลายกังวล เข้าใจแผนการรักษา 1.สร้างสัมพันธ์ภาพ พูดคุยและซักถาม พูดคุยและซักถามผู้ป่วยและญาติเพื่อ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและญาติบอก ความรู้สึกและความวิตกกังวล 2. ให้ข้อมูลเรื่องการผ่าตัดเร่งด่วนและ สาเหตุ เนื่องจากภาวะช็อกจากการ ตั้งครรภ์นอกมดลูกเพื่อให้เข้าใจการ ดำเนินของโรค และเพื่อป้องกัน ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรง 3. อธิบาย เหตุผลในการเตรียมความ พร้อมด้าน ร่างกายให้ผู้ป่วยและญาติ ทราบ ได้แก่ การเตรียมบริเวณผ่าตัด การใส่สาย สวนปัสสาวะ การเจาะเลือด การ งดน้ำแลอาหาร การให้สารน้ำและ ให้เลือด 1.ผู้ป่วยเข้าใจเข้าใจพยาธิ สภาพของโรคและความ จำเป็นที่ต้องผ่าตัด 2.ผู้ป่วยและญาติให้ความ ร่วมมือในการเตรียมความ พร้อมก่อนผ่าตัด 3.ผู้ป่วยและญาติคลายความ วิตกกังวล สีหน้าผ่อนคลาย ขึ้น


5 การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6) -ผู้ป่วยมีสีหน้าเศร้าหมองถาม ถึงเรื่องบุตรที่แท้งไปจากการ ตั้งครรภ์นอกมดลูก -ผู้ป่วยและญาติถามว่าจะมีบุตร ได้อีกหรือไม่ 2.เศร้าโศก เนื่องจากการ สูญเสียตั้งครรภ์ และตั้งครรภ์ นอกมดลูก ผู้ป่วยคลายความเศร้า เข้าใจ เรื่องโรคหลังจากการผ่าตัด 4. ให้ข้อมูลถึงการให้ยาระงับความรู้สึก ขณะผ่าตัด การให้ยาระงับ ปวดหลังออก จากห้องผ่าตัดและการดูแลเพื่อลดความ กังวลแก่ผู้ป่วยและญาติ 1.สร้างสัมพันธภาพโดยการแนะนำ ตัวเอง ยิ้มทักทาย สัมผัสแบบนุ่มนวล เพื่อให้เกิดความอบอุ่นใจ ไว้วางใจและ ให้ความร่วมมือ 2. เปิดโอกาสให้ระบายความรู้สึกและ ซักถามข้อสงสัยต่างๆ 3.อธิบายให้เข้าใจถึงพยาธิสภาพของการ ตั้งครรภ์นอกมดลูก 4. ส่งเสริมให้สมาชิกในครอบครัวให้การ ดูแลเอาใจใส่และให้กำลังใจ 5.ประเมินอารมณ์พฤติกรรมการดูแล ตนเองในการทำกิจวัตรประจำวัน 1.ผู้ป่วยคลายความเศร้าโศก สีหน้าสดชื่นยิ้มแย้มมากขึ้น 2.ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจ เรื่องโรคหลังผ่าตัด 3. ผู้ป่วยเข้าใจในทางเลือก ของเทคโนโลยีการเจริญ พันธุ์ในผู้ป่วยที่ไม่สามารถ ตั้งครรภ์ได้ด้วยวิธีธรรมชาติ


6 การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6) -สัญญาณชีพเปลี่ยนแปลง ผู้ป่วยดูซึมลง/กระสับกระส่าย -ผู้ป่วยมีอาการ ท้องอืด ตรวจ Sign abdomenมีGuarding, Tenderness เปลือกตาซีดหน้า ซีด Hct <30% -อัลตราซาวด์พบ free fluid and blood intraabdominal -Urine ออกน้อยกว่า 30 ml/hr 3.มีภาวะช็อกเนื่องจากเสีย เลือดในช่องท้อง เนื่องจากมี การแตกของท่อนำไข่ -ผู้ป่วยปลอดภัยจากภาวะ ช็อก 1. ประเมินอาการช็อก ได้แก่ เหงื่อออก ตัวเย็น กระสับกระส่าย ระดับความ รู้สึกตัวลดลง 2. วัดสัญญาณชีพทุก 15 นาที 3. งดน้ำและอาหารเพื่อเตรียมความ พร้อมก่อนผ่าตัด 4. ให้สารน้ำและเลือดทาง หลอดเลือด ดำตามแผนการรักษา 5. ใส่สายสวนปัสสาวะ/สังเกตสีและ ปริมาณของปัสสาวะซึ่งปัสสาวะควรออก มากกว่า30cc/hr. 6. ประเมินระดับความปวดและภาวะซีด 7. เจาะเลือด เพื่อตรวจหาหมู่เลือด CBC electrolyte Hct, Hb,ตามแผนการ รักษา 8. ให้ออกซิเจนCannula5lit/min 9. ประเมินค่าความอิ่มตัวของออกซิเจน ควรมีค่าไม่ต่ำกว่า 95 % -ถามตอบรู้เรื่อง ไม่มี อาการ กระสับกระส่าย เหงื่อไม่ ออก ตัวไม่เย็น ปัสสาวะ ออกมากกว่า 30ซีซี/ชั่วโมง


7 การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6) -ผู้ป่วยได้รับการดมยาสลบเพื่อ ระงับความรู้สึกขณะผ่าตัด 2.มีโอกาสเกิดภาวะแทรก ซ้อนภายหลังการผ่าตัดจาก การได้รับยาระงับความรู้สึก ผู้ป่วยไม่มีภาวะแทรกซ้อน จากการได้รับยาระงับ ความรู้สึก 1. ประเมินความรู้สึกตัวของผู้ป่วยหาก ซึมลง ปลุกไม่ตื่นให้รายงานแพทย์ทันที 2. ประเมินสัญญาณชีพเพื่อติดตาม อาการเปลี่ยนแปลงและให้การช่วยเหลือ ได้อย่างเหมาะสมและทันท่วงที 3. ประเมินภาวะ การขาดออกซิเจนเช่น หายใจตื้น เหนื่อยหอบ ปลายมือปลาย เท้าเขียว 4. เมื่อผู้ป่วยตื่นดีกระตุ้นให้ผู้ป่วยหายใจ เข้าออกลึกๆ (deepbreathing exercise) และไอ อย่างมีประสิทธิภาพ (effective cough) 5. กระตุ้นให้ผู้ป่วยเคลื่อนไหวร่างกาย ตามสภาพที่เหมาะสม 1. ผู้ป่วยตื่นดี ปลุกตื่นไม่มี เหนื่อยหอบ ไม่มีภาวะขาด ออกซิเจน 2. ระดับออกซิเจนในเลือด 95- 100 %


8 การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6) -ผู้ป่วยบอกปวด แผลผ่าตัด ประเมินระดับความปวด>5 คะแนน -คิ้วขมวด สีหน้าไม่สุขสบาย 3. ไม่สุขสบายเนื่องจากปวด แผลผ่าตัดหน้าท้อง -ผู้ป่วยทุเลาปวดแผลผ่าตัด 1. สังเกตอาการและสอบถาม ระดับ ความปวดด้วย numeric pain scale ทุก 4 ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการ ปวด ถ้า pain score มากกว่า 5 ดูแลให้ยา แก้ปวดตามแผนการรักษาของแพทย์ และประเมิน Sedation score รวมทั้ง เฝ้าระวังอาการข้างเคียงจากการให้ยา ได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียนกดการหายใจ ง่วงนอน และอาจเกิดการแพ้โดยมีผื่น ขึ้นที่ผิวหนัง 2.ประเมินสัญญาณชีพทุก 1-2 ชั่วโมง 3. จัดท่านอน Fowler position หรือ ท่านอนที่ผู้ป่วยสุขสบายเพื่อให้หน้าท้อง หย่อน 4. แนะนำเทคนิค Breathing exercise โดยหายใจลึก ๆ ยาว ๆหรือพูดคุยเพื่อ เบี่ยงเบนความสนใจกรณีpain score น้อยกว่า5คะแนน 1.อาการปวดแผลลดลงระดับ ความปวด<5คะแนน 2. ผู้ป่วยมีสีหน้าผ่อนคลายไม่มีคิ้ว ขมวดนอนหลับพักได้


9 การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6) -ผู้ป่วยมีแผลผ่าตัดบริเวณหน้า ท้อง 4. มีโอกาสติดเชื้อที่แผลผ่าตัด เนื่องจากผิวหนัง ถูกทำลาย จากการผ่าตัด -แผลผ่าตัดไม่ติดเชื้อ 1.ประเมินแผลผ่าตัด สังเกตอาการ ผิดปกติของแผลโดยการใช้หลักREEDA (R=redness=แดง,E=edemaบวม ,Ecchymosis=ลักษณะช้ำเลือด, D=dischargeมีหนองไหลออกจากแผล หรือไม่A=approximate,ลักษณะขอบ แผลเสมอกันหรือไม่) 2.ประเมินบันทึกสัญญาณชีพทุก4 ชั่วโมงเพื่อติดตามภาวะติดเชื้อ 3. แนะนำการปฏิบัติตัว การดูแลแผล ผ่าตัด 4. ดูแลความสะอาดร่างกายเพื่อส่งเสริม การหายของแผล 1.แผลผ่าตัดแห้งดีไม่มีบวม แดง ร้อน หรือ dischargeออก จากแผล 2. ผู้ป่วยไม่มีไข้ ชีพจรปกติ ไม่มี signs การติดเชื้อ


10 การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6 ) -ผู้ป่วยเคลื่อนไหวร่างกายหลัง ผ่าตัดลดลง-บ่นท้องอืด มีลมใน ท้อง 5. ท้องอืด เนื่องจากการ เคลื่อนไหว -ผู้ป่วยไม่มี อาการท้องอืด 1. ประเมินการทำงานของลำไส้โดยการ ฟัง Bowell sound ทั้ง 4 quadrants หลังผ่าตัด 24 ชั่วโมง 2. สังเกตและประเมินท้องอืดหลังผ่าตัด เช่น แน่นท้อง ท้องแข็งตึง 3. อธิบายสาเหตุของภาวะท้องอืด 4.กระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวร่างกาย โดยเร็วตามสภาพที่เหมาะสม 5. Step diet เมื่อ Bowell sound positive 6.แนะนำเกี่ยวกับอาหารที่ย่อยง่ายและมี กากใยสูง 7.รายงานแพทย์หากอาการไม่ดีขึ้นเพื่อ พิจารณาปรับแผนการรักษา 1. ผู้ป่วยไม่มีอาการท้องอืด สามารถผายลมได้ เรอได้ 2. ผู้ป่วยมีการเคลื่อนไหว ร่างกายหลังผ่าตัดมากขึ้น


11 การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6) ระยะจำหน่าย -ผู้ป่วยไม่ทราบ วิธีการดูแล ตนเอง และแผลผ่าตัดทาง หน้าท้อง -ขาดความรู้ในการปฏิบัติตัว เมื่อกลับบ้าน -ผู้ป่วยและญาติเข้าใจการ ปฏิบัติตนเมื่อหลังจำหน่าย กลับบ้าน 1.D=Diagnosis ให้ความรู้เรื่องโรค สาเหตุอาการ การปฏิบัติตัวที่ถูกต้อง 2. M = Medicine แนะนำการใช้ยาที่ ได้รับอย่างละเอียด 3. E=Environment คือช่วง 1-2 สัปดาห์แรกให้เดินไปมาระยะใกล้ๆ ค่อยๆ เพิ่มระยะทางขึ้นเรื่อยๆ ควร ออกกำลังกายเบาๆไม่ทำงานหนัก เป็น ต้นงดยกของหนักมากกว่า 5 กิโลกรัมใน 1 เดือนแรกหลังผ่าตัด 4.T=Treatment คือ 4.1 การดูแลหลังแผล ตัดไหมในวันที่ 7- 10หลังการผ่าตัดแล้วถ้าแผลไม่แยก สามารถอาบน้ำแบบใช้ฝักบัวหรือใช้ขัน ตักอาบน้ำหลีกเลี่ยง ลงแช่น้ำ 4.2 อาการปวด ถ้าปวดแผลให้ รับประทานยาแก้ปวดตามแผนการ รักษา 4.3 การดูแลช่องคลอด รักษาความ -ผู้ป่วยตอบคำถามเกี่ยวกับการ ปฏิบัติตนหลังจำหน่ายได้ ถูกต้องทุกข้อ


12 การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6 ) สะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์ควรทำความ สะอาดทุกครั้งหลังอุจจาระปัสสาวะและ ซับให้แห้งเพื่อป้องกัน การติดเชื้อไม่ เหน็บยาหรือสวนล้าง ช่องคลอด 4.4 งดการมีเพศสัมพันธ์6 สัปดาห์หลัง ผ่าตัดเพื่อป้องกันการบาดเจ็บและการ ติดเชื้อ 4.5 ภาวะเร่งด่วนที่ต้องมาพบแพทย์ ก่อนนัด เช่นไข้สูง ปวดท้อง และมีสิ่งคัด หลั่งทางช่องคลอดมีกลิ่นเหม็นและเมื่อ เกิดภาวะฉุกเฉิน-เลือดอกทางช่องคลอด มาผิดปกติ ใช้ผ้าอนามัยเกิน 3 –4 ผืน ต่อวัน-แผลผ่าตัดแยก เปียกน้ำปวดมาก มีเลือดหรือหนองซึม ขอบแผลบวมแดง ให้รีบมาพบแพทย์ทันที-ปัสสาวะไม่ออก และปัสสาวะบ่อย วันละหลายครั้ง 5. H= Health การวางแผนครอบครัว การคุมกำเนิดอย่างน้อย6-12เดือนการ ดูแลตนเองการบริหารร่างกายที่ เหมาะสมและวิธีการผ่อนคลาย


13 การประเมินปัญหาฯ (มาตรฐานที่1) การวินิจฉัยทางการพยาบาล (มาตรฐานที่2) การวางแผนการพยาบาล (มาตรฐานที่3) การปฏิบัติการพยาบาล (มาตรฐานที่1,4, 5, 6,7,8,9,10,11) การประเมินผล (มาตรฐานที่6 ) ความเครียด 6. O: Out patient การมาตรวจตามนัด จากสถานพยาบาลใกล้บ้านเช่นการตัด ไหม 7. D=Diet แนะนำให้รับประทานอาหาร ให้ครบ 5 หมู่และมีกากใยสูง เพื่อ ป้องกันอาการท้องผูก8. ให้คำแนะนำ เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์นอกมดลูกซ้ำ โดยการสังเกตอาการผิดปกติที่เกิดจาก โรคติดต่อ ทางเพศสัมพันธ์ เช่น ตกขาว มีกลิ่น เหม็น สีเหลืองปนหนองจำนวน มาก คันในช่องคลอดหากมีอาการ เหล่านี้ควรรับการรักษาตั้งแต่เริ่มแรก เพื่อ ป้องกันการอักเสบติดเชื้อที่อาจ ลุกลามไปยังท่อนำไข่จนทำให้ท่อนำ ไข่ ตีบตันหรือเกิดพังผืดอันเป็นสาเหตุของ การตั้งครรภ์นอกมดลูกได้


Click to View FlipBook Version