ละครยุคแรก ละครยุคกลาง
-ละครยุคกรีก (250 ปีก่อน พ.ศ. การละครที่จัดขึ้นในโบสถ์
– พ.ศ. 250) เกี่ยวกับศาสนา
-ละครยุคโรมัน (พ.ศ. 250 เเละศีลธรรม
– พ.ศ. 1000)
วิวัฒนาการละคร
ตะวันตก
ละครฟื้ นฟูศิลปวิทยาการ ละครสมัยใหม่
-อินเตอร์เมทซี (Intermezzi) -ละครแนวสัจจนิยม แนวธรรมชาตินิยม
-โอเปรา (Opera) -ละครแนวต่อต้านสัจจนิยม
-ละครสัญญลักษณนิยม
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18 -ละครเอ็กซ์เปรสชั่นนิส
-ละครเพื่อสังคมหรือละครเอพิค
1.ละครยุคกรีก
250 ปีก่อน พ.ศ. – พ.ศ. 250
ละครกรีกถือกำเนิดขึ้นประมาณ 800 – 700ปีก่อนคริสตกาล โดยเริ่ม
จากการประกวดการร้องรำทำเพลงเป็นหมู่ เรียกว่าดิธีแรมบ์ กลุ่ม
คนที่แสดงดิธีแรมบ์ เรียกว่าคอรัส จากนั้นดิธีแรมบ์ก็เปลี่ยนแปลง
ไปในรูปแบบการแสดงละคร ทำการสนทนาตอบโต้กันระหว่างตัว
ละครและกลุ่มคอรัส
ละครยุคแรก
ในปี 534 ก่อนคริสตกาล มีละครของเธสพิสใช้นักแสดงเพียงคน
เดียว เล่นทุกบทที่มีอยู่ในละครเรื่องนั้น โดยใช้การเปลี่ยน
หน้ากาก
500 ปีก่อนคริสตกาล ถือว่าเป็นยุคทองของการละครกรีก มีการ
ประกวดเขียนบทละครและจัดการแสดงละค น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18
ละครยุคกรีกที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในปัจจุบันมี 2 ประเภท
1.ละครโศกนาฏกรรม 2.ละครสุขนาฏกรรม
แสดงให้เห็นชีวิตตัวละคร ละครยุคแรก เป็นละครที่ให้ความรู้สึก
ตัวเอก ที่มีความน่ายกย่อง ตลกขบขัน เพราะความ
สรรเสริญ แต่ต้องดิ้นรน บกพร่องของมนุษย์ เป็น
ต่อสู้กับอำนาจของชะตา เรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัย
กรรมซึ่งเทพเจ้าเป็นผู้ นั้น ซึ่งเกี่ยวกับการเมือง
ลิขิต โดยจะต่อสู้อย่างถึงที่ สงครามและสันติภาพ
สุด มักนำโครงเรื่องมา ทัศนะเกี่ยวกับศิลปะในแง่
จากมหากาพย์อีเลียด และ ต่างๆ การแสดงจะใช้ลีลา
โอดิสซี เกินจริง เนื้อเรื่องจะชนะ
อุปสรรคทุกสิ่ง จบแบบมี
ความสุข
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18
2.ละครยุคโรมัน
พ.ศ. 250 – พ.ศ. 1000 รับอิทธิพลจากละครของกรีกอย่างมาก และได้มีละครชนิด
ใหม่เกิดขึ้น นำละครสมัยกรีกมาปรับปรุงเพื่อแสดงในงานบวงสรวงเทพจูปิเตอร์
และเทพเจ้าชาวโรมันอีกนับหลายองค์ ละครสมัยโรมันมักใช้ฉลองความมั่นคง
และอำนาจของมนุษย์
ละครยุคแรก
นักเขียนที่มีชื่อเสียงในยุคโรมันคือเซเนกา ผู้เป็นต้นแบบละครโศกนาฏกรรม รูปแบบ
ละครมักมีเรื่องราวเหตุการณ์เป็นปม คลายปมและบทสรุป เกี่ยวกับเหตุการณ์
ความเครียดแค้นและสิ่งเหนือธรรมชาติ เช่นแม่มด
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18
ประเภทละครยุคโรมันมี 4ประเภท
1.ละครโศกนาฏกรรม 2.ละครสุขนาฏกรรม
ได้รับอิทธิพลจากตำนานกรีก ได้ ละครยุคแรก นำแบบอย่างมาจาก
มีนักเขียนบทละครชาวโรมัน ชื่อ ละครสุขนาฏกรรมของ
เซเนกา ได้เขียนบทละคร เรื่อง กรีก เนื้อเรื่องเน้น
ราวเกี่ยวพันกับเหตุการณ์รุนแรง ความสนุกสนานตลก
เช่น การฆ่าตัวตาย การฆ่าคน ขบขัน มีการแสดงที่
อย่างทรมาน เป็นต้น เกินจริง ใช้ท่าทางตัว
ความพยาบาทอาฆาตแค้น มัก ละครแทนคำพูด
ปรากฏเป็นเหตุจูงใจที่สำคัญของ
ตัวละคร
มีเรื่องราวของภูตผีปีศาจ สิ่ง
เหนือธรรมชาติ
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18
ประเภทละครยุคโรมันมี 4ประเภท
3.ละครแพบูลาอาเทลลานา 4.ละครแพนโทมายม์
เป็นละครตลกสั้นๆ ใช้ตัวละคร ละครยุคแรก เป็นการร่ายรำที่มีความ
ที่ไม่ลึกซึ้งและมีลักษณะซ้ำกัน หมายโดยใช้นักแสดง
ทุกเรื่อง ใช้เรื่องราวชีวิตใน คนเดียว ซึ่งเปลี่ยน
ชนบทของชาวบ้านสามัญ บทบาทโดยการเปลี่ยน
มายม์ (Mime) เป็นละครสั้นๆ หน้ากาก มีพวกคอรัส
ตลกโปกฮา ไม่มีการสวม เป็นผู้บรรยายเรื่องราว
หน้ากาก แสดงเรื่องราวที่ผิด มักเป็นเรื่องราวที่
ทำนองคลองธรรม เช่น การ เคร่งเครียดและได้จาก
คบชู้ ตำนานปรัมปรา
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18
(พ.ศ. 1400 – พ.ศ. 1900) การละครในโรมันถึงยุคเสื่อม เป็นเวลากว่า 300 ปี จนกระทั่ง
ประมาณ พ.ศ.1400 คริสตจักรทำให้ละครกลับมาฟื้ นตัวด้วยการเริ่มจัดการแสดงเป็น
ฉากสั้นๆ ประกอบเรื่องราวจากพระคัมภีร์ไบเบิล การแสดงจัดขึ้นในโบสถ์ เรื่องราวที่
แสดงเกี่ยวกับพระเยซู และเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล เช่น วันคริสต์มา
ละครยุคกลาง
พ.ศ.1700 เริ่มมีการแสดงนอกโบสถ์ แสดงโดยภาษาท้องถิ่น มีฆราวาสและสมาคมอาชีพ
ต่างๆ เป็นผู้จัดการแสดง โดยได้รับการสนับสนุนจากคริสตจักร การแสดงจะแสดงทั้งบนเวที
ที่อยู่กับที่และเวทีที่เคลื่อนที่ได้ เวทีที่อยู่กับที่ มีหลายลักษณะ
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที18
ละครยุคกลางมี 2 ประเภท
1.ละครศาสนา 2.ละครฆราวาส
เป็นละครที่แสดงในวัด 1)ละครพื้นเมือง แสดงเรื่องราว
เพื่อประกอบพิธีทาง การผจญภัยของวีรบุรุษที่มีชื่อ
ศาสนา เมื่อละครมาแสดง เสียง เน้นความสนุกสนานและ
นอกวัด ก็ยังคงใช้เรื่องราว ละครยุคกลาง การต่อสู้เช่นโรบินฮูด เป็นต้น ใช้
ในพระคัมภีร์ไบเบิล เรียก นักแสดงสมัครเล่น แสดงในเทศ
ว่ามิสตรีเพลย์ ละครมิระ กาลใหญ่ๆ
เคิลเพลย์ แสดงเรื่องราว 2)ละครฟาร์ส (Farce) เป็นละคร
ชีวิตของนักบุญและผู้พลี ตลกที่ไม่เกี่ยวกับศาสนาและไม่
ชีพเพื่อศาสนา และละคร ได้มุ่งผลทางการสั่งสอนศีลธรรม
มอแรลลิตีเพลย์ แสดง แสดงให้เห็นสันดานดิบของ
มนุษย์
เรื่องราวของคนธรรมดา 3)ละครอินเทอร์ลูด ละครที่แสดง
สามัญที่ต้องต่อสู้กับทาง คั่นระหว่างงานเลี้ยงฉลอง มีทั้ง
เลือกระหว่างความดีและ เรื่องน่าเศร้า และเรื่องตลก แต่ไม่
ความชั่ว เกี่ยวกับศาสนาและการสอนศีล
ธรรม
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18
ละครศาสนา ละครฆราวาส
ละครพื้นเมือง
ละครยุคกลาง
ละครฟาร์ส
ละครอินเทอร์ลูด
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที18
(พ.ศ. 1900 - 2100)ยุคฟื้ นฟูศิลปวิทยาในอิตาลีหรือยุคเรอเนซองส์
เป็นยุคที่มีผลต่อการสร้างโรงละคร การวางรูปเวที การจัดวางฉาก
การประพันธ์บท และการจัดการแสดงละคร
ละครยุคฟื้ นฟู
ศิลปวิทยาการ
รูปแบบละครในยุคเรอเนเซองส์นี้ ส่วนใหญ่จัดการแสดงเพียงฉาก
เดียว แต่เป็นฉากที่ใหญ่โตมโหฬาร วิจิตรพิสดาร การแต่งกายหรูหรา
มีขบวนแห่ที่ยิ่งใหญ่
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18
ประเภทละครยุคฟื้ นฟูศิลปวิทยาการมี2ประเภท
1.อินเตอร์เมทซี 2.โอเปร่า
เป็นการแสดงสลับฉาก มักเป็น ละครยุคฟื้ นฟู การรวมเอาดนตรี การ
เรื่องราวจากตำนานกรีกและ ศิลปวิทยาการ ขับร้อง และระบำ เข้า
โรมัน มีการใช้ดนตรีและระบำ มาไว้ในเรื่องราวที่ผูก
เป็นส่วนประกอบสำคัญ การ ขึ้นเป็นละคร โอเปรา
แสดงสลับฉากนี้อาจอยู่เป็น นั้นนิยมใช้การจัดฉาก
เอกเทศ ไม่เกี่ยวกับละครที่ หรูหรา
แสดงอยู่ก็ได้
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18
(พ.ศ. 2418 - 2490)ในภาวการณ์ทางการเมืองและเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังอยู่ใน
ภาวะยุ่งเหยิงจากการปฏิวัติมีผลต่อเนื่องมาถึงผู้คนในเมือง กรรมกรใน
ชนบทอพยพเข้ามาเมืองใหญ่ ความอดอยากและอัตราของอาชญากรรมพุ่ง
สูงขึ้น
ละครสมัยใหม่
แนวความคิดเพ้อฝันแบบละครไม่สมจริงไม่สอดคล้องกับเหตุการณ์ที่เป็นอยู่
ศิลปะการละครเริ่มเปลี่ยนแปลงมาสู่การแสวงหาความเป็นจริงมากขึ้น จึงเกิด
ละครในรูปแบบใหม่ ที่ละทิ้งธรรมเนียมเดิมขึ้น
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล
เลขที18
ละครสมัยใหม่มี 2 ประเภท
1. ละครแนวสัจจนิยมและแนวธรรมชาตินิยม 2.ละครแนวต่อต้านสัจจนิยม
รูปแบบบทละครสมจริงและ ละครสมัยใหม่ 1.ละครสัญญลักษณนิยม เป็น
ธรรมชาติ ไม่บิดเบือน ตรงไป ละครที่ใช้วัตถุหรือการกระทำ
ตรงมาอย่างเป็นกลาง และ เพื่อให้เข้าใจสัจธรรมที่ไม่อาจ
เที่ยงธรรมที่สุด สะท้อนความ จับต้องได้ เช่น ความตาย
จริงของสังคมในยุคนั้น การ 2.ละครเอ็กซ์เปรสชั่นนิสม์ มุ่ง
ดำเนินเรื่องจะพัฒนาไปอย่าง แสดงความรู้สึกมากกว่าแสดง
สมเหตุสมผล คำพูด ฉาก และ ให้เหมือนจริง เป็นละครที่เสนอ
เครื่องแต่งกาย พิถีพิถันเลือก ความเป็นจริงตามความคิดของ
มา เพื่อให้สอดคล้องกับลักษณะ ตัวละคร
ของตัวละคร ตัวละคนมีความ 3.ละครเพื่อสังคมหรือละครเอ
เท่าเทียมกว่าแต่ก่อนที่ตัวเอก พิค เป็นละครที่กระตุ้นความ
มักเป็นคนรวยสมบูรณ์พร้อม สำนึกทางสังคม นำไปสู่การ
ถูกปรับเปลี่ยนเป็นตัวเอกอยู่ใน เปลี่ยนแปลงแก้ไขสังคมให้ดีขึ้น
สถานะใดก็ได้ เช่น ขอทาน
คนใช้
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที18
1.ละครแนวสัจจนิยมและแนวธรรมชาตินิยม 2.ละครแนวต่อต้านสัจจนิยม
ละครสัญญลักษณนิยม
ละครสมัยใหม่
ละครเอ็กซ์เปรสชั่นนิสม์
ละครเพื่อสังคมหรือเอพิค
น.ส.กุลธิดา ชนะกุล เลขที่18
สมัยน่านเจ้า สมัยอยุธยา
วิวัฒนาการละครไทย
สมัย สมัย สมัย
สุโขทัย กรุงธนบุรี รัตนโกสินทร์
สมัยน่านเจ้า สมัยสุโขทัย
ละครเรื่อง นามาโนราห์ เป็นการแสดงที่เน้นหนักไปทาง ศิลปะ
เป็นนิยายของพวกชาวไต แห่งการละเล่นพื้นเมืองประเภทรำและ
ระบำามากกว่า
สมัยน่านเจ้าที่มีปรากฏอยู่คือ ได้มีการกำหนดแบบแผนของโขน ละคร
การแสดงจำพวกระบำ เช่น และฟ้อนรำขึ้น
-ระบำหมวก สมัยนี้ไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับการละคร
-ระบำนกยูง มากนัก
สันนิษฐานว่ามีในสมัยนี้คือเรื่องมโนราห์
วิวัฒนาการของละครไทย
สมัยอยุธยา
เดิม ที่เล่นเป็นละครเร่ จะแสดงตามพื้นที่ว่างโดยไม่ต้องมีโรงละคร เรียกว่า ละครชาตรี ต่อมาได้มีการวิวัฒนาการ เป็นละครรำ เรียก
ว่า ละครใน ละครนอก โดยปรับปรุงรูปแบบ ให้มีการแต่งการที่ประณีตงดงามมากขึ้น
ละครชาตรี ละครนอก ละครใน
การแสดงละครชาตรีแบ่งเป็น ๓ ส่วน ส่วน ละครรำแบบหนึ่ง พัฒนาจาก เป็นละครที่แสดงในวัง ได้นำวิธี
ที่ ๑ พิธีกรรมเริ่มประมาณเก้าโมงเช้าเป็น ละครชาตรี เดิมตัวละครเป็นชาย การเล่นเดินเรื่องอย่างละครนอก
ล้วน ภายหลังมีทั้งหญิงชาย มี มาให้เหล่าระบำในพระราชฐาน
พิธีทำโรงบูชาครู โหมโรงร้องเชิญสิ่ง บทเจรจา แสดงพลิกแพลงนอก แสดง โดยนำบทที่เคยแสดงโขน
ศักดิ์สิทธิ์ให้มาปกป้องคุ้มครองการแสดงรำ เรื่องได้ บางครั้งติดจะหยาบโลน คือเรื่องรามเกียรตื์ และอุณรุท
ถวายมือซึ่งเป็นการรำเชิญเครื่องสังเวยให้ แสดงวรรณคดีได้ทุกเรื่อง ยกเว้น มาแสดงโดยนางในราชสำนัก จึง
เทวดามารับสินบนประกาศโรงและรำซัด เรื่องที่ละครในใช้แสดง เรียกว่าละครนางใน หรือละคร
ข้างใน ต่อมาเรียกสั้นๆ ว่า ละคร
ชาตรี ส่วนที่ ๒ การแสดงละครต่อจาก
พิธีกรรมในภาคเช้าจบด้วยพิธีลาเครื่อง ใน
สังเวยแล้วพักเที่ยงจากนั้นแสดงละครต่อไป
จนถึงเวลาประมาณสี่โมงเย็นจึงปิดการ
แสดงและส่วนที่ ๓ พิธีลาโรง
วิวัฒนาการละครไทย
สมัยธนบุรี
พระเจ้าตากสินมหาราชทรงรวบรวมศิลปิน
บทละครที่เหลือมาประราชนิพนธิ์บทละคร
เรื่องรามเกียรติ์ 5ตอน
ตอนหนุมานเกี้ยวนางวานรินทร์
ตอนท้าวมาลีวราชว่าความ
ตอนทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด
ตอนพระลักษมณ์ถูกหอกกบิลพัท
ตอนปล่อยม้าอุปการ
สมัยรัตนโกสินทร์
มารยาทในการรับชม
1 . ปิ ด เ ค รื่ อ ง มื อ สื่ อ ส า ร
2 . ไ ม่ ส่ ง เ สี ย ง ดั ง ร บ ก ว น ผู้ อื่ น
3 . ง ด รั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร แ ล ะ
เ ค รื่ อ ง ดื่ ม ทุ ก ช นิ ด
หลักการชมการแสดง
นาฏศิลป์และละคร
หลักในการชม
ศึ ก ษ า ค ว า ม รู้ พื้ น ฐ า น เ กี่ ย ว กั บ รู ป แ บ บ ป ร ะ เ ภ ท แ ล ะ ช นิ ด
ข อ ง ก า ร แ ส ด ง ที่ ช ม ร ม
ห า ข้ อ มู ล เ กี่ ย ว กั บ เ รื่ อ ห า ก า ร แ ส ด ง ต ล อ ด จ น ส ถ า น ภ า พ
ข อ ง ผู้ ม า ช ม
เ มื่ อ ก า ร แ ส ด ง จ บ ค ว ร ใ ห้ ป ร บ มื อ เ พื่ อ ใ ห้ เ กี ย ร ติ นั ก แ ส ด ง
มี อ า ร ม ณ์ ร่ ว ม ค ล้ อ ย ต า ม ไ ป กั บ บ ท ข อ ง นั ก แ ส ด ง
น . ส . ศิ ร ป ร ะ ภ า ลี ล ะ ว า ณิ ช ย์
ม . 4 / 1 1 เ ล ข ที่ 3 3
วิเคราะห์องค์ประกอบและรูปแบบ หลักการวิจารณ์การ
พร้อมทั้งศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ แสดงนาฏศิลป์
ทั้งแบบมาตรฐานและแบบบ้้ าน
การบรรยาย
เ ป็ น เ อ ก ภ า พ เ ป็ น ก า ร พู ด ห รื อ เ ขี ย น ที่
มี ค ว า ม เ ป็ น อั น ห นึ่ ง อั น เ ดี ย ว กั น ส า ม า ร ถ รั บ รู้ ห รื อ เ ห็ น แ ล ะ รู้ สึ ก
ค ว า ม ง ด ง า ม ข อ ง ก า ร ร่ า ย รำ ถึ ง สิ่ ง ที่ นั ก แ ส ด ง จ ะ สื่ อ ไ ด้
ค ว า ม ถู ก ต้ อ ง ข อ ง ท่ า รำ ลี ล า ท่ า เ ชื่ อ ม
แ ล ะ ค ว า ม คิ ด ริ เ ริ่ ม ส ร้ า ง ส ร ร ค์
หลักการวิจารณ์การ การวิจารณ์โครงเรื่อง
แสดงละคร เหตุการณ์ต่างที่เกิดขึ้นใน
ละครชัดเจนหรือไม่
โ ค ร ง เ รื่ อ ง
แ บ่ ง อ อ ก เ ป็ น 3 ต อ น ความน่าสนใจของจุดพีค ตอนจบ
- ต อ น ต้ น เหตุการณ์ต่างๆ
ปู พื้ น ฐ า น ใ ห้ ผู้ ช ม ท ร า บ ที่สำคัญคือความน่าติดตามมาก
วั น , เ ว ล า , ส ถ า น ที่ แ ล ะ ก า ร ก ร ะ ทำ น้อยแค่ไหน
ข อ ง ตั ว ล ะ ค ร
น.ส. ศิรประภา ลีละวาณิชย์ ม.4/11 เลขที่ 33
แนวคิดที่เป็นแก่นของเรื่อง ตัวละคร บทบาท และการสร้าง
- เ รื่ อ ง จ ะ ดำ เ นิ น ไ ป ถึ ง ต อ น จ บ
อ ย่ า ง ไ ร
- แ น ว คิ ด ข อ ง ตั ว ล ะ ค ร แ ต่ ล ะ ตั ว เ ป็ น
ยั ง ไ ง
- ไ ด้ ป รั ช ญ า อ ะ ไ ร บ้ า ง
- ใ ช้ ใ น ชี วิ ต จ ริ ง ไ ด้ มั้ ย
- บ ท เ จ ร จ า ค ติ คำ ค ม ที่ น่ า จ ด จำ ที่
ส า ม า ร ถ ใ ช้ ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จำ วั น ไ ด้ บ้ า ง
เ นื้ อ เ รี ย บ ฉ า ก แ ล ะ ตั ว ล ะ ค ร มี ค ว า ม
ส อ ด ค ล้ อ ง กั น มั้ ย
ตั ว ล ะ ค ร เ ป็ น ผู้ ส ร้ า ง แ ล ะ ดำ เ นิ น เ ห ตุ ก า ร ณ์ ภาพที่เห็น
ต า ม โ ค ร ง เ รื่ อ ง
โ ด ย ใ ช้ บ ท เ จ ร จ า ก า ร ก ร ะ ทำ แ ล ะ พ ฤ ติ ก ร ร ม - ฉ า ก ที่ เ ห็ น ก า ร แ ส ด ง แ ล ะ อ ง ค์
ซึ่ ง ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ บุ ค ลิ ก ลั ก ษ ณ ะ นั้ น ๆ ป ร ะ ก อ บ ต่ า ง ๆ เ ป็ น ยั ง ไ ง
ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ตั ว ล ะ ค ร แ ล ะ
บ ร ร ย า ก า ศ มั้ ย
- ฉ า ก , อุ ป ก ร ณ์ แ ล ะ เ ค รื่ อ ง
แ ต่ ง ก า ย ต่ า ง ๆ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ
ยุ ค กั บ ส มั ย มั้ ย
- ตั ว ล ะ ค ร ที่ แ ส ด ง เ รื่ อ ง นี้ แ ส ด ง
ไ ด้ ตี บ ท แ ต ก ห รื อ มั้ ย
น.ส. ศิรประภา ลีละวาณิชย์ ม.4/11 เลขที่ 33
คุณภาพด้านการแสดง ลีลาในการเคลื่ อนไหว
ถูกต้องตามแบบแผน
หลักเกณฑ์ที่ใช้ในการประเมินคุณภาพของการแสดง
การนำเสนอการแสดงต้องชัดเจนในเรื่องประเภท -
ผู้แสดงมีเอกลักษณ์ในการเครื่องไหวร่างกาย -นำหลักแห่งความสมดุลมาใช้ โดยใชี้เวที
ลักษณะการแสดงมีความงาม ทั้งในระดับพื้นฐานและมาตรฐาน เป็นจุดศูนย์กลางตำแหน่งของผู้แสดง
ผลงานควรมีประโยชน์ให้คุณค่าต่อสังคมทั้งในด้านสติปัญญา อารมณ์และจิตใจ ให้มีสัดส่วนจำนวนเท่ากัน ไม่ควรไปรวม
กลุ่มอยู่ด้านใดด้านหนึ่งจนมากเกินไป
หลักการประเมินคุณภาพ -มีการเคลื่อนไหว การแปรแถวมีความ
ของการแสดงนาฏศิลป์และละคร หลากหลายไม่น่าเบื่อ
หลักการประเมินการแสดงนาฏศิลป์
เป็นศิลปะการแสดงแขนงหนึ่งที่ใช้ในการเคลื่ อนไหวและ
จัดระเบียบร่างกายของมนุษย์อย่างมีจังหวะ ลีลาให้เกิด
ภาษาท่าทางที่สามารถสื่อความหมายแทนภาษาพูด
ดนตรี การขับร้อง ท่วงทำนอง จังหวะของเพลง
เครื่องแต่งกาย และลีลาในการเคลื่อนไหววต้องมี
ความสอดคล้องสััมพันธ์กัน
น.ส. ศิรประภา ลีละวาณิชย์ ม.4/11 เลขที่ 33
คุณภาพด้านการแสดง วรรณกรรม
การประเมินคุณภาพด้านการแสดง
งานประพันธ์ที่เป็นเรื่องราวโดยใช้ภาษาเป็นสื่อ ให้ผู้ชมการ
จะต้องประเมินจากบุคคลที่เกี่ยวข้องในการแสดง แสดงเกิดจินตนาการหรืออารมณ์
เช่น ผู้กำกับการแสดงจะต้องมีความคิดสร้างสรรค์ในการเลือกบท
จิตรกรรม
ละคร เลือกตัวละครในการแสดงหรือผู้แสดงจะต้องมี
บุคลิกลักษณะเหมาะสมกับเนื้อเรื่อง ศิลปะการวาดหรือวาดภาพที่แสดงความรู้สึกและถ่ายทอด
เรื่องราวต่างๆ การตกแต่งฉากละครให้วิจิตรงดงามตาม
ประเมินคุณภาพการแสดง
สถานการณ์ในบทละคร
ประติมากรรม
ศิลปะการปั้ น การแกะสลัก และการหล่อรูปต่างๆ มีลักษณะ
เป็นนูนต่ำ นูนสูง หรือภาพลอยตัว
คุณภาพด้านองค์ประกอบของการแสดง สถาปัตยกรรม
การประเมินคุณภาพด้านการแสดงจะต้องคำนึงถึงองค์ประกอบต่างๆ ที่ ศิลปะแห่งการก่อสร้างในงานนาฏศิลป์ ได้แก่ การสร้าง
เกี่ยวข้องกับการแสดงเพื่อที่จะประเมินคุณภาพได้อย่างถูกต้อง องค์ประกอบ ฉากและเวทีการแสดง โดยฉากการแสดง หมายถึง
ที่เกี่ยวข้องกับการแสดงมี ดังนี้ การจำลองสถานที่ตามสถานการณ์ของเรื่องราวในการ
แสดงนาฏศิลป์ ที่จะช่วยกำหนดสถานที่ บ่งชี้ยุคสมัย
นาฏกรรม ดนตรี
งานที่เกี่ยวกับการรำ การเต้น การแสดงท่าทาง หรือ เสียงที่ประกอบกันเป็นทำนองเพลง หรือเครื่องบรรเลงที่มีเสียงดัง ทำให้
การแสดงที่ประกอบขึ้นเป็นเรื่องราวในละครหรือโขน รู้สึกเพลิดเพลินหรือเกิดอารมณืรัก โศกเศร้า รื่นเริงได้ตามทำนองเพลง
ซึ่งจะประกอบด้วยลีลาการแสดงของนักแสดงหรือตัว
ดยดนตรีที่ใช้ประกอบในการแสดงนาฏศิลป์แ
ละคร ละละครนั้น มีทั้งเครื่องดนตรีประเภท ดีด สี ตี เป่า
นาย ปัณณวิชญ์ รองวัง ม.4/11 เลขที่ 1