Adverb
กริยาวิเศษณ์
KRU.BENZ
Adverb คืออะไร?
Adverb หรือ กริยาวิเศษณ์คือคำที่ขยายคำกริยา และคำคุณศัพท์ที่มี
ลักษณะคล้ายๆ กับคำวิเศษณ์ในภาษาไทย แต่ในภาษาอังกฤษนั้น
คำวิเศษณ์จะเป็นกริยาวิเศษณ์เท่านั้นไม่มีการแยกย่อยได้เยอะแยะเหมือนภาษา
ไทยบ้านเราเลยรับรองว่าเรียนได้ง่ายๆ จำได้นานไม่ยากนะคะ
KRU.BENZ
โดยปกติแล้วคำกริยาวิเศษณ์ แบ่งออกได้ 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
1. Simple Adverbs = คำกริยาวิเศษณ์ทั่วไป
2. Interrogative Adverbs = คำกริยาวิเศษณ์คำถาม
3. Relative(Conjunction) Adverbs = คำกริยาวิเศษณ์เชื่อมประโยค Simple
Adverb คือ กริยาวิเศษณ์ที่ใช้ขยายกริยา ขยาย รายละเอียดจะมีดังต่อไปนี้
KRU.BENZ
KRU.BENZ
ตำแหน่งของ Adverb
1. หน้า V. = [S + Adv + V]
ยกตัวอย่างเช่น
– Jim suddenly realized that he forgot to bring the financial report.
2. ระหว่าง V. = [S + V + Adv + V]
ยกตัวอย่างเช่น
– will surely finish (Future Simple)
– had greatly improved (Past Perfect)
3. หลัง V. = [S + V + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
– Employment levels are unlikely to rise significantly before the end of next year.
KRU.BENZ
4. หลัง O. = [S + V + O + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
– She reads quickly.
– She reads (the contract) quickly.
5. หน้า Adj. = [Adv + Adj + N]
ยกตัวอย่างเช่น
– Ben is an extremely responsible employee.
6. ระหว่าง BE กับ Adj. = [BE + Adv + Adj]
ยกตัวอย่างเช่น
– Online sales are relatively easy to track.
KRU.BENZ
7. หน้า Adv. = [V + Adv + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
– Helen screamed extremely loudly when she fell down the stairs.
8. ใน Passive = [S + V + V.3 + Adv]
ยกตัวอย่างเช่น
– The product should be checked thoroughly before being sent.
9. ใน To-Infinitive = [To + Adv + V.infinitive]
ยกตัวอย่างเช่น
– Rita planned to quickly finish the task by tomorrow.
KRU.BENZ
หน้าที่ของกริยาวิเศษณ์คืออะไร?
1. ขยายคำกริยา
บอกให้รู้ว่า ทำที่ไหน ทำเมื่อไหร่ ทำอย่างไร ทำบ่อยแค่ไหน เช่น
• He came here yesterday. เขา มา ที่นี่ เมื่อวานนี้
– here เป็น adverb บอกให้รู้ว่า มา ที่ไหน
– yesterday เป็น adverb บอกให้รู้ว่า มา เมื่อไหร่
• He walks slowly. เขา เดิน อย่างช้าๆ
– slowly เป็น adverb บอกให้รู้ว่า เดิน อย่างไร
• He always walk to school. เขา เดิน ไปโรงเรียน เสมอ
– always เป็น adverb บอกให้รู้ว่า เดิน บ่อยแค่ไหน
KRU.BENZ
2. ขยายคำคุณศัพท์ และขยายกริยาวิเศษณ์เอง
บอกให้รู้ว่าอยู่ใน ระดับไหน หรือเน้นย้ำว่าแค่ไหน เช่น
• The fire is very hot. ไฟ ร้อน มาก
– hot เแปลว่า ร้อน เป็นคำคุณศัพท์ขยาย fire
– ส่วน very เป็น Adverb ขยายคำว่า hot บอกให้รู้ว่า ร้อนแค่ไหน
• I like it very much. ผม ชอบ มัน มาก มาก
– much เแปลว่า มาก เป็นคำกริยาวิเศษณ์
– ส่วน very ก็เป็น Adverb ขยายคำว่า much บอกให้รู้ว่า มากแค่ไหน
KRU.BENZ
ประเภทของคำกริยาวิเศษณ์ (Kinds of Adverb)
Simple adverb แบ่งเป็นหมวดเล็ก ๆ ได้ 6 หมวด คือ
1. Adverb of Time
คือ กริยาวิเศษณ์บอกเวลาใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นเมื่อไหร หรือ เกิดขึ้นหรือยัง” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอ
บ่อยได้แก่
Now /nau/ ตอนนี้ During /ˈdjuəriŋ/ ในช่วง
So far /səu faː/ จนบัดนี้ Finally /ˈfaɪ.nəl.i/
Yesterday /ˈjestədi/ เมื่อวาน Early /ˈəːli/ ท้ายที
Today /təˈdei/ วันนี้ Just /dʒast/ สุด
Tomorrow /təˈmorəu/ พรุ่งนี้ Recently /ˈriː.sənt.li/
Already /oːlˈredi/ แล้ว Still /stil/ แต่เช้า
ไม่นาน After /ˈaːftə/
Lately /ˈleɪt.li/ มานี้ เพิ่งจะ
ไม่นาน
มานี้
ยังคง
KRU.BENZ
หลัง
ยกตัวอย่างเช่น:
– I saw him yesterday. แปลว่า ฉันเห็นเขาเมื่อวาน เราจะเห็นว่าในคำถามมีคำถามเกี่ยวกับเรื่อง
เกิดขึ้นเมื่อไหร่ และได้คำตอบคือ เมื่อวาน
– I will go shopping tomorrow. แปลว่า ฉัน จะ ไป ชอปปิ้ง พรุ่งนี้ ก็เช่นกับตัวอย่างที่หนึ่งนะคะ
ในคำถามมีคำถามเกี่ยวกับเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่ และได้คำตอบคือ พรุ่งนี้
– I’ve already done my home work. แปลว่า ฉันทำการบ้านของฉันแล้ว เราจะเห็นได้ว่า
เรื่องเกิดขึ้นหรือยัง ตอบ เกิดแล้ว
– I haven’t done my homework yet. แปลว่า ฉันยังไม่ได้ทำการบ้าน ของฉันแล้ว เราจะเห็นได้ว่า
เรื่องเกิดขึ้นหรือยัง ตอบ ยัง
KRU.BENZ
2. Adverb of Place
กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่ ใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นที่ไหน” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่
กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่ (Adverb of Place) ความหมาย กริยาวิเศษณ์บอกสถานที่ (Adverb of Place) ความหมาย
Here /hiə/ ที่นี่ Everywhere /ˈev.ri.weər/ ทุกที่
There /ðeə, ðə/ ที่นั่น Above /əˈbav/ เหนือ
Behind /biˈhaind/ ข้างหลัง Below /bəˈləu/ ใต้
Near /niə/ ใกล้ Into /ˈintu/ ไปใน
Far /faː/ ไกล Inside /inˈsaid/ ข้างใน
Away /əˈwei/ ห่าง Outside /ˈautsaid/ ข้างนอก
Back /bӕk/ กลับ Out /aut/ นอก
Nowhere /ˈnəuweə/ ไม่มีที่ใด In /in/ ใน
KRU.BENZ
ยกตัวอย่างเช่น:
– Please come here. แปลว่า กรุณามาที่นี่ ในนั้นคำถามคือที่ไหน ได้คำตอบคือ ที่นี่
– Go there please. แปลว่ากรุณาไปที่นั่น คำถามคือ ที่ไหน ได้คำตอบ ที่นี่
– Please come inside. แปลว่ากรุณา มา ข้างใน คำถามคือ ที่ไหนได้คำตอบ ข้างไน
KRU.BENZ
3. Adverb of Frequency
คือกริยาวิเศษณ์บอกความถี่ห่าง ใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นบ่อยแค่ไหน” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่
กริยาวิเศษณ์บอกความถี่ห่าง ความหมาย กริยาวิเศษณ์บอกความถี่ห่าง ความหมาย
(Adverb of Frequency) (Adverb of Frequency)
เสมอ มักจะไม่
Always /ˈoːlweiz/ โดยปกติ Rarely /ˈreə.li/ ไม่เคย
Usually /ˈjuː.ʒu.ə.li/ บ่อยๆ Never /ˈnevə/ ทุกวัน
Often /ˈofn/ เป็นปกติ Daily /ˈdeili/ ทุกเดือน
Normally /ˈnɔː.mə.li/ เป็นบาง Weekly /ˈwiː.kli/ ทุกเดือน
โอกาส Monthly /ˈmʌn.θli/ ทุกปี
Occasionally /əˈkeɪ.ʒən.əl.i/ บางครั้ง Yearly /ˈjɪə.li/
Sometimes /ˈsʌm.taɪmz/
KRU.BENZ
ยกตัวอย่างเช่น:
– He always runs in the morning. แปลว่า เขาวิ่งตอนเช้าเสมอ ในนั้นคำถามคือ บ่อยแค่ไหน
ได้คำตอบคือ เสมอ
– The bill is paid monthly. แปลว่า บิลถูกจ่ายทุกเดือน ในนั้นคำถามคือ
บ่อยแค่ไหน ได้คำตอบคือ ทุกเดือน
– I sometimes read grammar books. แปลว่า บางครั้งผมอ่านหนังสือไวยากรณ์
ในนั้นคำถามคือ บ่อยแค่ไหน ได้คำตอบคือ บางครั้ง
KRU.BENZ
KRU.BENZ
4. Adverb of Manner
คือกริยาวิเศษณ์บอกอาการ ใช้บอกการกระทำว่า “เกิดขึ้นอย่างไร” คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่
กริยาวิเศษณ์บอกอาการ ความหมาย กริยาวิเศษณ์บอกอาการ ความหมาย
(Adverb of Manner) (Adverb of Manner)
อย่างเร็ว อย่างช้า
Fast /faːst/ อย่างเร็ว Slowly /ˈsləʊ.li/ อย่างสุขุม
Quickly /ˈkwɪk.li/ อย่างสวยงาม, Calmly /ˈkɑːm.li/ อย่างสุภาพ
อย่างไพเราะ Politely /pəˈlaɪt.li/ อย่างมีเมตตา
Beautifully /ˈbjuː.tɪ.fəl.i/ อย่างระมัดระวัง Kindly /ˈkaɪnd.li/ อย่างแย่
อย่างดี Badly /ˈbæd.li/ อย่างเงียบๆ
Carefully /ˈkeə.fəl.i/ อย่างประณีต Quietly /ˈkwaɪət.li/
Well /wel/
Neatly /ˈniːt.li/
KRU.BENZ
ยกตัวอย่างเช่น:
– He runs very fast. แปลว่า เขาวิ่งอย่างเร็วมากในนั้นคำถามคืออย่างไรตอบอย่างเร็ว
– She sings beautifully. แปลว่า หล่อน ร้องเพลง อย่างไพเราะ ในนั้นคำถามคืออย่างไร
ตอบอย่างไพเราะ
– We speak louldly. แปลว่า พวกเรา พูด อย่างดัง ในนั้นคำถามคืออย่างไร ตอบ อย่าง
ดัง
– They cry quietly. แปลว่า พวกเขา ร้องให้ อย่างเงียบๆ ในนั้นคำถามคือ อย่างไร
ตอบ อย่างเงียบ
KRU.BENZ
5. Adverb of Quantity
คือ กริยาวิเศษณ์บอกปริมาณมากน้อย คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่
กริยาวิเศษณ์บอกปริมาณมากน้อย ความหมาย กริยาวิเศษณ์บอกปริมาณมากน้อย ความหมาย
(Adverb of Quantity) Adverb of Quantity)
เกือบ
Many /ˈmeni/ มากมาย Nearly /ˈnɪə.li/ เกือบ
Very /ˈveri/ มาก Almost /ˈoːlməust/ พอ
Too /tuː/ เกินไป Enough /iˈnaf/ อย่างยิ่ง
Quite /kwait/ ค่อนข้าง Extremely /ɪkˈstriːm.li/ อย่างสม
Rather /ˈraːθə/ ค่อนข้าง บูร
Completely /kəmˈpliːt.li/
KRU.BENZ
ยกตัวอย่างเช่น:
– He has too much money to give me. แปลว่า เขามีเงินมากเหลือเกินที่จะให้ผม ในนั้น too
เป็น Adverb ไปขยาย much จึงวางไว้หน้า much
– I had almost finished my meal when he came in. แปลว่า ผมเกือบจะทานอาหารเสร็จแล้ว
เมื่อเอาเข้ามาข้างใน ในนั้น almost เป็น Adverb ไปขยายกริยา finished
– He walked very quickly to school yesterday. แปลว่า เขาเดินเร็วมากไปโรงเรียนเมื่อวานนี้
ในนั้น Very เป็น Adverb ไปขยายคำกิริยาวิเศษณ์ คือ Quickly
KRU.BENZ
6. Adverb of Affirmation or Negation
คือ กริยาวิเศษณ์บอกการรับหรือปฏิเสธ คำกริยาวิเศษณ์ที่มักจะเจอบ่อยได้แก่
กริยาวิเศษณ์บอกการรับหรือปฏิเสธ ความหมาย กริยาวิเศษณ์บอกการรับหรือปฏิเสธ (Adverb ความหมาย
(Adverb of Affirmation or Negation of Affirmation or Negation
บางที
Yes /jes/ ใช่ Perhaps /pəˈhaps/ อาจ
No /nəu/ ไม่ Probably /ˈprɒb.ə.bli/ แน่นอน
Not /not/ ไม่ Indeed /inˈdiːd/ อย่าง
ไม่ใช่ Definitely /ˈdef.ɪ.nət.li/ แน่นอน
not at all เลย เห็นได้
แน่นอน Obviously /ˈɒb.vi.əs.li/ ชัด
Surely /ˈʃɔː.li/ แน่นอน
Certainly /ˈsɜː.tən.li/
KRU.BENZ
ยกตัวอย่างเช่น:
– He did not come here. แปลว่า เขายังไม่มาที่นี่เลย
– Surely you are mistaken. แปลว่า แน่นอนคุณเป็นฝ่ายผิด
– Perhaps she will tell you the truth. แปลว่า บางทีหล่อนจะบอกความจริงให้คุณทราบ
– It is, indeed, a hard case.แปลว่า มันเป็นเรื่องที่ยากจริงๆ
KRU.BENZ
Interrogative Adverb กริยาวิเศษณ์คำถาม
Interrogative Adverb แบ่งเป็นหมวดเล็ก ๆ ได้ 6 หมวด
KRU.BENZ
1. บอกเวลา (Time) แปลว่า “กริยาวิเศษณ์ถามเวลา” หมายถึง คำกริยาวิเศษณ์ที่นำมาขยายกริยา เพื่อถามถึงเวลาว่า
“นานเท่าไร” หรือ “เมื่อไร”
Interrogative Adverb ความหมาย
กริยาวิเศษณ์ บอกเวลา
When เมื่อไร
How long นาน
เท่าไร
How soon นานไหม
ยกตัวอย่างเช่น:
When will he come here again? Next Year . แปลว่า เมื่อไหร่เขาจะมาที่นี่อีก? ปีหน้า
How long have you been here? For five years . แปลว่า คุณได้มาอยู่ที่นี่นานเท่าไรแล้ว? เป็นเวลา 5 ปีแล้ว
KRU.BENZ
2. บอกสถานที่ (Place) กริยาวิเศษณ์ถามสถานที่ หมายถึง คำกริยาวิเศษณ์ที่นำมา
ใช้ขยายกริยา เพื่อถามสถานที่ เท่าที่ปรากฏเห็นและใช้กันบ่อยก็ได้แก่ where ที่ไหน,
และจะวางไว้ต้นประโยคเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น:
Where does he live? แปลว่า เ ขาอยู่ที่ไหน?
He lives in Bangkok. แปลว่า เขาอยู่ในกรุงเทพฯ
KRU.BENZ
3. บอกจำนวน (Frequency ) กริยาวิเศษณ์ถามถึงความถี่หรือจำนวนครั้ง หมายถึงคำหรือกลุ่ม
คำที่ไปขยายกริยาถามถึงระยะเวลาหรือจำนวนครั้ง และตำแหน่งวางจะอยู่ต้นประโยคเสมอ
ได้แก่ คำต่อไปนี้ คือ How often
ยกตัวอย่างเช่น:
How often does she come here? แปลว่า หล่อนมาที่นี่บ่อยไหม? (หมายถึงกี่ครั้ง)
How many books has he? Ten. แปลว่า เขามีหนังสือมากเท่าไร? 10 เล่ม
KRU.BENZ
4. บอกกริยาอาการ (Manner) กริยาวิเศษณ์ถามถึงกริยาอาการ หมายถึงคำที่ไปขยายกริยา
เพื่อถามถึงอาการของการกระทำหรือพฤติกรรมนั้น ๆ ว่า เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ได้แก่คำ
ว่า How อย่างไร และตำแหน่งอาจจะอยู่ต้นประโยคเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น:
How do you do this? แปลว่า คุณทำสิ่งนี้ได้อย่างไร
How does she come here? แปลว่า หล่อนมาที่นี่ได้อย่างไร
KRU.BENZ
5. บอกปริมาณ (Adverb of Quantity) กริยาวิเศษณ์ถามถึงปริมาณหรือความมากน้อย หมายถึง
คำหรือกลุ่มคำที่ไปขยายกิริยาในประโยค เพื่อถามถึงจำนวนหรือปริมาณของสิ่งนั้น ได้แก่คำ
ว่า How much มากเท่าไร How far ไกลเท่าไร และก็เช่นกันตำแหน่งก็อยู่ต้นประโยคเสมอ
ยกตัวอย่างเช่น:
How much do you pay? แปลว่า คุณจ่ายมากเท่าไร
How much is it? แปลว่า ราคาเท่าไร?
KRU.BENZ
6. บอกเหตุผล (Reason)
กริยาวิเศษณ์ถามถึงเหตุผล หมายถึง คำที่ไปขยายกริยาเพื่อถามถึงเหตุผลของการกระทำอันนั้น ๆ
ว่าเป็นอย่างไร ได้แก่ Why ทำไม และวิธีใช้วางไว้ต้นประโยคอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น:
Why do they go to Hong Kong every day? แปลว่า ทำไมพวกเขาจึงไปฮ่องกงทุก ๆ วัน?
Why doesn’t she love you? แปลว่า ทำไมหล่อนจึงไม่รักคุณ?
KRU.BENZ
Conjunctive Adverb กริยาวิเศษณ์ที่ใช้เป็นคำเชื่อม
Conjunctive Adverb แบ่งออกเป็นชนิดย่อย ๆ ได้ 6 ชนิด
KRU.BENZ
1. Conjunctive Adverb of Time
เป็นสันธานวิเศษณ์ บอกเวลา หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค
และขยายกริยาเพื่อบอกเวลา ได้แก่ when เมื่อไร
ยกตัวอย่างเช่น:
Can you tell me when he will arrive here?
แปลว่า คุณบอกผมได้ไหมว่าเมื่อไรเขาจะมาถึงที่นี่
KRU.BENZ
2. Conjunctive Adverb of Place
สันธานวิเศษณ์ บอกสถานที่ หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค
และขยายกริยาเพื่อบอกสถานที่ ได้แก่คำว่า where ที่ไหน
ยกตัวอย่างเช่น:
This is where is stayed last year.
แปลว่า นี้คือสถานที่ที่ผมมาพักอยู่เมื่อปีกลายนี้
KRU.BENZ
3. Conjunctive Adverb of Frequency
สันธานวิเศษณ์ บอกความถี่ หมายถึง คำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค
และขยายกริยาเพื่อบอกความถี่หรือจำนวนครั้ง
ได้แก่คำว่า How often บ่อยไหม กี่ครั้ง
ยกตัวอย่างเช่น:
I asked him how often he had gone there.
แปลว่า ผมถามเขาว่า เขาไปที่นั้นบ่อยไหม
KRU.BENZ
4. Conjunctive Adverb of Manner
สันธานวิเศษณ์ บอกกิริยาอาการ หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่ทั้งเชื่อม
ประโยคและขยายกริยาเพื่อบอกอาการของพฤติกรรม หรือการกระทำ
อันนั้น ๆ ว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ได้แก่ How อย่างไร
ยกตัวอย่างเช่น:
My father knows how I shot the tiger
แปลว่า คุณพ่อของผมรู้ดีว่า ผมยิงเสือตัวนี้ได้อย่างไร
KRU.BENZ
5. Conjunctive Adverb of quantity
สันธานวิเศษณ์ บอกปริมาณ หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค
และขยายกริยาเพื่อบอกปริมาณมากน้อยได้แก่ คำว่า How long นาน
เท่าไร How far ไกลเท่าไร
ยกตัวอย่างเช่น:
No one knows how long she will live with him.
แปลว่า ไม่มีใครทราบหรอกว่า หล่อนจะอยู่กับเขานานเท่าไร
KRU.BENZ
6. Conjunctive Adverb of reason
สันธานวิเศษณ์ บอกเหตุผล หมายถึงคำที่ไปทำหน้าที่เชื่อมประโยค
หน้า–หลังให้กลมกลืนกัน และขยายกริยาในประโยค
ยกตัวอย่างเช่น:
Panya did not know why she cried.
แปลว่า ปัญญาไม่ทราบเลยว่า ทำไมหล่อนจึงร้องไห้
KRU.BENZ
ความผิดพลาดที่มักจะเจอบ่อยเมื่อใช้ Adverb
สับสนในการใช้ Adjective กับ Adverb วิธีการจดจำก็คือ
Adj. = Adjective คำคุณศัพท์ หรือคำวิเศษณ์ ใช้สำหรับขยายคำนาม
Adv. = Adverb คำกริยาวิเศษณ์ ใช้สำหรับขยายคำกริยา หรือคำคุณศัพท์
คำ adjective ส่วนมากทำให้กลายเป็น adverb โดยการเติม –ly ต่อท้าย แต่ก็ไม่เสมอไป
KRU.BENZ
ยกตัวอย่างให้เห็นภาพง่ายๆ ดังนี้
[slow] (adj.) / [slowly] (adv.) ช้า / อย่างช้า
• He is a slow walker. เขาเป็นคนเดินที่ช้า
[slow] เป็น adj. เพราะขยาย walker (n.)
• He’s a person who walks slowly. เขาเป็นคนเดินช้า
[slowly] เป็น adv. เพราะขยาย walks (v.)
KRU.BENZ
กลุ่มกริยาวิเศษณ์ที่มีความหมายเหมือนกัน
1 โดยสิ้นเชิง: totally, entirely.
2 อีกต่อไป: anymore.
3 ค่อนข้าง: quite, rather, pretty.
4 ดังนี้: thus
5 เลย: at all.
6 แทบจะไม่: seldom, hardly, rarely, barely, scarcely.
7 ระมัดระวัง: carefully, cautiously, thoroughly,
meticulously, elaborately
8 รวดเร็วทันใจ: immediately, promptly, urgently, quickly,
swiftly, rapidly.
9 อย่างเพียงพอ: adequately, sufficiently KRU.BENZ
10 ค่อนข้างมาก: relatively, quite
1 1 มาก/ที่สุด: highly, extremely, very, really KRU.BENZ
12 สมบูรณ์: fully (+verb), absolutely (+adj), completely
(+adj), extensively (+ verb/adj)
13 ทันใดนั้นไม่คาดคิด: dramatically, suddenly,
unexpectedly
14 โดยเฉพาะอย่างยิ่ง: Especially, specifically
15 เร็ว หรือทันที: shortly, soon, right after/before, briefly
16 ปัจจุบัน: currently, recently, lately, already, still
17 บ้าฃที่: occasionally, sometimes
18 ขั้นตอนแรก: firstly, initially, primarily, originally
19 โดยปกติ/สม่ำเสมอ: frequently, regularly, usually, often,
consistently
20 อย่างแน่นอน: surely, definitely, absolutely, by all
means.
ตัวอย่างประโยค
• Surely I will come back.แปลว่า ฉันจะกลับมาแน่นอน
• You will win definitely. แปลว่า คุณจะต้องชนะแน่นอน
• It’s absolutely possible. แปลว่า มันเป็นไปได้แน่นอน
• If you want to use the telephone,by all means do. แปลว่า ถ้าคุณอยากใช้โทรศัพท์แน่นอนคุณ
ใช้ได้
KRU.BENZ