เส้นทางจากเกษตรกร สู่ผู้ประกอบการส่งผักขึ้นห้าง กรณีศึกษา : สวนผักยายปาว รศ.ดร.ไกรเลิศ ทวีกุล รศ.ดร.สุภาภรณ์ พวงชมภู รศ.ดร.ชุลีมาศ บุญไทย อิวาย สิงหาคม 2566
ก คำนำ สวนผักยายปาว เป็นสวนผักเกษตรกรต้นแบบ Young Smart Farmปลูก ผักปลอดสารพิษ ด้วยการกางมุ้งแบบมองโกลขนาดใหญ่เน้นปลูกผักอินทรีย์ ได้ รับรองคุณภาพมาตรฐาน GAPและมาตรฐานอินทรีย์ จากกรมวิชาการเกษตรและมี การชักชวนตั้งกลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษบ้านหนองหญ้าข้าวนกจนได้รับการขึ้น ทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนปลุกผักปลอดสารบ้านหนองหญ้าข้าวนก โดยมี“คุณ ประสิทธิ์ พันธุ์โบว์ “ เป็นประธานพร้อมได้นำระบบให้น้ำอัตโนมัติ Smart Farm มา ใช้งาน ของสวนและกลุ่ม ในการดำเนินงานของสวนผักยายปาวดังกล่าวได้ขับเคลื่อนการปลูกผักของ ตนเองและของกลุ่ม โดยส่งตลาดชุมชนตลาดในห้าง และจำหน่ายหน้าแปลงจาก ความสามารถของสวนผักยายปาวและของกลุ่มที่สามารถผลิตผักได้อย่างมีคุณภาพ ทำให้มีหลายผุ้ประกอบและห้างสรรพสินค้ารวมทั่งโรงงานแปรรูปอาหาร ได้ ประสานงานเข้ามาให้ผลิตผักคุรภาพส่งให้ แต่ต้องมีโรงล้าง โรงบรรจุ ที่ผ่าน มาตรฐานGMP และมีรถห้องเย็นในการขนส่งผักเท่านั้น ในกรณีดังกล่าว ทางสวนผักยายปาว ได้สร้างโรงล้าง โรงบรรจุขึ้นมาจน ผ่านมาตรฐาน GMPและได้จัดหารถห้องเย็นในการขนส่งผักเข้าห้างและโรงงานแปร รูปอาหาร โดยได้ประสานงานกับสถาบันการเงินซึ่งในช่วงดังกล่าวทางโครงการวิจัย ได้ร่วมขับเคลื่อนและเตรียมตัวในการเข้าสู่สถาบันการเงินและได้รับอนุมัติสินเชื่อมา ดำเนินงานกิจกรรมต่างๆดังกล่าว ในเอกสารถอดบทเรียนสวนผักยายปาวเล่มนี้ได้นำเสนอข้อมูลตั้งแต่ แรกเริ่มของการทำสวนผัก การสร้างเครือข่ายการลงทุน ทรัพย์สิน การเชื่อมต่อกับ สถาบันการเงิน และรูปแบบกลไกการเงินของสวนผักยายปาว รศ.ดร.ไกรเลิศ ทวีกุล รศ.ดร.สุภาภรณ์พวงชมภู รศ.ดร.ชุลีมาศ บุญไทย อิวาย สิงหาคม 2566
ข สารบัญ หน้า 1. ความเป็นมา 1 2. สี่อย่างที่ตัดสินใจทำสวนผักปลอดสารพิษ 3 3. ผู้นำของสวนผักยายปาว 4 4. แนวความคิดในการทำสวนผักยายปาว 5 5. เครือข่ายผลิตผักปลอดสารพิษ 6 6. ผักที่ปลูกได้ทั้งปีและการผลิตต่อเดือนของสวนผักยายปาว 12 7. แหล่งน้ำและระบบการให้น้ำของสวนผักยายปาว 12 8. หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ 13 9. สินทรัพย์ของสวนผักยายปาว 15 10. สถาบันการเงินที่ประสานงานในการขอสินเชื่อ 16 11. จากเกษตรกรก้าวสู่ผู้ประกอบการรายย่อย 17 12. ทำไมจึงสนใจขอรับสินเชื่อจาก ธกส. 21 13. แผนต่อไปในอนาคตที่สอดคล้องกับช่วงเวลา 24 14. รูปแบบกลไกการเงินของสวนผักยายปาว 25
ค สารบัญภาพ หน้า ภาพที่ 1 สวนผักยายปาวและตาดิด 3 ภาพที่ 2 ยายคำปาว คะสุวรรณ์ เจ้าของแบรนด์ สวนผัก ยายปาว 4 ภาพที่ 3 คุณประสิทธิ์ พันธุ์โบว์ และคุณศศิธร คะสุวรรณ สองคู่ขวัญสู่ผู้ประกอบการธุรกิจผัก 5 ภาพที่4 ป้ายชี้บอกทางไปสวนผักยายปาว 6 ภาพที่ 5 เครือข่ายผลิตผักปลอดสารพิษ 7 ภาพที่ 6 พื้นที่ปลูกวิสาหกิจชุมชนผักปลอดสารพิษ 7 ภาพที่ 7 สมาชิกวิสาหกิจชุมชนผักปลอดสารพิษ 8 ภาพที่ 8 ศูนย์มีชัยบ้านพร้อมมูลนิธิโคคา โคลา ประเทศไทย และมหาวิทยาลัยขอนแก่นให้การสนับสนุน 9 ภาพที่ 9 ระบบการให้น้ำของสวนผักยายปาวและสมาชิก วิสาหกิจชุมชน 13 ภาพที่ 10 ระบบน้ำที่หน่วยงายต่างๆให้การสนับสนุนกลุ่ม ปลูกผักและสวนผักยายปาว 14 ภาพที่ 11 โรงล้างผักผ่านมาตรฐาน GMP 15 ภาพที่ 12 ถุงบรรจุผักที่ห้าง Makro เห็นชอบ 16 ภาพที่ 13 รถห้องเย็นส่งผักขึ้นห้าง 16
ง สารบัญภาพ (ต่อ) หน้า ภาพที่ 14 สถาบันการเงินที่สวนผักยายปาวประสานงานใน การขอสินเชื่อ 17 ภาพที่ 15 จดทะเบียนพานิชย์ 18 ภาพที่ 16 การบรรจุผักส่ง Marko 20 ภาพที่ 17 แผงตลาดจริงหน้าร้าน Tops ใน Central Khon-Kaen 20 ภาพที่ 18 หัวหน้าโครงการวิจัยไปพบผู้บริหาร ธกส. ระดับ จังหวัดขอนแก่น 22 ภาพที่ 19 คุณประสิทธิ์ พันธุ์โบว์ ร่วมนำเสนอแนวทางกลไก การเงินใหม่ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ขอนแก่น 22 ภาพที่ 20 ทีมงานผู้บริหารธนาคารออมสินและที่ปรึกษา โครงการวิจัยลงพื้นที่ให้คำปรึกษา 23 ภาพที่ 21 น้ำบาดาลพร้อมระบบสูบน้ำด้วย Solar cell 25 ภาพที่ 22 รูปแบบกลไกการเงินของสวนผักยายปาวในการ เข้าถึงสถาบันการเงิน 26
1 ถอดบทเรียนกลไกการเงินใหม่ของสวนผักยายปาว บ้านหนองหญ้าข้าวนก ต.หนองแวง อ.พระยืน จ.ขอนแก่น 1) ความเป็นมา สวนผักยายปาวเกิดจากความรักและความสุขของ คุณยาย คำ ปาว คะสุวรรณ์ ที่ได้ปลูกผักปลอดสารไว้ทานในครอบครัว เหลือจาก รับประทานก็นำไปจำหน่ายในตลาดชุมชน พร้อมรวมกลุ่มผลิตผักปลอด สารพิษในหมู่บ้าน จนมีชื่อเสียง ได้มึตลาดและผู้ซื้อเข้ามาในชุมชน โดยมี พ่อดิด คะสุวรรณ์ เป็นคนช่วยปลูกและดูแลการผลิต พร้อมมีลูกเขย คือ คุณประสิทธิ์ พันโบ เป็นผู้ประสานเครือข่ายและทำการตลาด ขณะที่ลูก สาว คือนางสาวศศิธร คะสุวรรณ์เป็นผู้บริหารด้านการเงิน การลงทุนและ ระบบบัญชี ก่อนหน้านี้ คุณประสิทธิ์ พันธุ์โบว์และ คุณศศิธร คะสุวรรณ์ได้ ทำงานของภาคธุรกิจเอกชน ที่โรงงานแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ทำงานได้ช่วงเวลาหนึ่ง และภรรยา คือ คุณศศิธร คะสุวรรณ์ได้เปลี่ยนที่ ทำงานใหม่ใกล้บ้าน ทั้งคู่จึงได้ลาออก และหวลกลับบ้านเกิด ที่บ้านหนอง หญ้าข้าวนก ตำบลหนองแวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น โดยคุณประสิทธิ์ พันธุ์โบ ลูกเขย คุณยายคำปาว ได้เห็นชุมชนใน ละแวกนี้ปลุกผักปลอดสารพิษเยอะ จึงมองเห็นการเชื่อมโยงสู่ตลาด เริ่ม ประสานกับตลาดให้กับเกษตรกร และรวมกลุ่มได้จัดตั้งเป็นวิสาหกิจ ชุมชนผลิตผักปลอดสาร และแปลงใหญ่ พร้อมเชื่อมโยงกับหน่วยงาน ต่างๆให้ลงมาช่วยขับเคลื่อนการผลิต การจัดการ และการตลาด รวมถึง
2 การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตของสวนผักยายปาว และกลุ่มสมาชิก วิสาหกิจชุมชน โดย นางคำปาว คะสุวรรณ์ เกษตรกรผู้ริเริ่มปลูกผักปลอดสาร ในครัวเรือน ได้ให้ข้อมูลว่า สวนผักยายปาว เริ่มต้นจากการที่ยายปาว ชอบปลูกผัก ไว้กินในครอบครัวเหลือกินก็ขายในตลาดชุมชน ลูกสาวกับ ลูกเขยมองว่ามันสามารถสร้างเป็นอาชีพหลักได้ จึงเริ่มปรึกษากันว่าจะ ปลูกผักทั้งได้ผลผลิตตลอดปียังไง เพื่อสามารถขายได้ตลอดทั้งปี ด้วยผัก จากสวนผักยายปาวเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้า เพราะผักกรอบ หวาน อร่อย และปลอดสารพิษ ในปี 2561 ลูกเขยกับลูกสาวจึงได้ติดต่อหาตลาดเพื่อขายผักที่ ห้างสรรพสินค้าเทคโก้โลตัส พร้อมทั้งขอใบรับรองมาตรฐานผัก GAP จาก สำนักวิจัยและพัฒนาที่ 3 ขอนแก่น จึงเริ่มมีการส่งผักให้กับทาง ห้างสรรพสินค้า เทสโก้โลตัส และหลังจากนั้น ห้าง Tops Supermarket ได้เปิดตลาดจริงใจ ใน เซ็นทรัลขอนแก่น จึงสมัครขอเข้าร่วมโครงการขาย สินค้ากับ ตลาดจริงใจ ในปี 2562 และทำการขายตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา
3 ภาพที่ 1 สวนผักยายปาวและตาดิด 2) สี่อย่างที่ตัดสินใจทำสวนผักปลอดสารพิษคือ 1. ความสุขสุขที่ได้ทานผักที่ปลูกเอง สุขที่เห็นลูกค้าชื่นชอบและ ทานผักที่ปลูกจากสวนและสมาชิก 2. ครอบครัวการได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันของคนในครอบครัว การได้ช่วยกันทำการเกษตร ได้วางแผนการทำเกษตรร่วมกัน
4 3. รายได้จากการที่ทุกคนในครอบครัวช่วยกันทำการเกษตร ก่อให้เกิดรายได้เพิ่มขึ้นจากการปลูกข้าวปลูกอ้อยโรงงานและรายได้นี้ทำ ให้ครอบครัวมีพออยู่พอกินพอใช้ 4 . กระจายรายได้ให้เกิดขึ้นในชุมชนให้ชาวบ้านมีรายได้เสริม และบางครอบครัวเป็นรายได้หลัก ลดปัญหาความยากจนในชุมชน เสริมสร้างเศรษฐกิจฐานรากให้เข้มแข็ง ภาพที่ 2 ยายคำปาว คะสุวรรณ์เจ้าของแบรนด์ สวนผักยายปาว 3) ผู้นำของสวนผักยายปาว นายประสิทธิ์พันธ์โบว์ผู้ประสานงานหลักและการตลาด ตำแหน่ง: ประธาน Young Smart Farmer จังหวัดขอนแก่น และประธานวิสาหกิจกลุ่มปลูกผักปลอดสารบ้านหนองหญ้าข้าวนก ตำบล หนองแวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น อายุ: 43 ปี
5 การศึกษา: ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงสถาบันเทคโนโลยีราช มงคลอีสานวิทยาเขตนครราชสีมาสาขาวิชาช่างกลการเกษตร ที่อยู่: บ้านเลขที่ 82 ม. 6 บ้านหนองหญ้าข้าวนก ตำบลหนอง แวง อำเภอพระยืน จังหวัดขอนแก่น 40320 เบอร์โทรศัพท์: 090 270 9788 Facebook: ประสิทธิ์พันธ์โบว์ Page: สวนผักยายปาว ภาพที่ 3 คุณประสิทธิ์ พันธุ์โบว์ และคุณศศิธร คะสุวรรณ สองคู่ขวัญสู่ผู้ประกอบการธุรกิจผัก 4) แนวความคิดในการทำสวนผักยายปาว แนวความคิดในการทำเกษตร: ปรับเปลี่ยนการปลูกพืชเชิงเดี่ยว เช่น อ้อย มันสำประหลัง มาพัฒนาสวนตนเองและกลุ่ม ให้เป็นเกษตร ต้นแบบสร้างรายได้ให้เกิดในชุมชน พัฒนาเทคโนโลยีการทำเกษตรด้วย ระบบ IOT การเกษตรและนำความรู้ไปถ่ายทอดให้คนในชุมชนและผู้ที่ สนใจได้เข้ามาศึกษาดูงานศึกษาดูงาน
6 พืชที่เด่นประจำสวนผักยายปาว: กวางตุ้งดอก ผักบุ้ง ผักกาดหอม คื่นฉ่าย แมงลัก โหระพา คะน้า อ้อยสุพรรณบุรี50 มะขามเทศหวาน มะม่วง ฝรั่ง หน่อไม้บงหวาน แตงโมอินทรีย์ ฯลฯ แรงงานที่ใช้เป็นคนในชุมชนและมีการจ้างงานตามช่วงอายุกผัก และการล้างบรรจุผัก ปัจจุบัน มี 3 คน พื้นที่ทำการเกษตรทั้งหมดประมาณ: 30 ไร่ และสมาชิกในชุมชนต่างๆ ภาพที่4 ป้ายชี้บอกทางไปสวนผักยายปาว 5) เครือข่ายผลิตผักปลอดสารพิษ สวนผักยายปาวมีเครือข่าย 4 กลุ่ม ดังนี้ 1. กลุ่มปลูกผักบ้านหนองหญ้าข้าวนก พื้นที่ 40 ไร่ 2. กลุ่มปลูกผักบ้านหนองโพธิ์พื้นที่ 35 ไร่ 3. กลุ่มปลูกผักบ้านหนองแวงหนองจิกโนนตุ่น พื้นที่ 10 ไร่ 4. มีเกษตรกรรายย่อยที่มีน้ำบาดาลในที่ดินตนเอง 40 ราย 25 ไร่
7 ภาพที่ 5 เครือข่ายผลิตผักปลอดสารพิษ ภาพที่ 6 พื้นที่ปลูกวิสาหกิจชุมชนผักปลอดสารพิษ
8 ภาพที่ 7 สมาชิกวิสาหกิจชุมชนผักปลอดสารพิษ
9 กลุ่มปลูกผักปลอดสารพิษบ้านหนองหญ้าข้าวนก กลุ่มปลูกผักปลอดสารได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อ ปี2558 กลางเดือน พฤษภาคม โดยการได้งบประมาณระบบน้ำสูบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ จากศูนย์มีชัย-บ้านไผ่ มูลนิธิโคคาโคลาประเทศไทย ทีมงานของอาจารย์ ไกรเลิศ ทวีกุล โดยมีกิจกรรมและเทคโนยีต่างๆดังนี้ 1. ถังกักเก็บน้ำ ขนาด 20 คิว และท่อวางตามจุดแปลงผัก เพื่อเก็บน้ำ รายแปลงและมีมิเตอร์วัดน้ำทุกแปลง พร้อมระบบสูบน้ำด้วยพลังงาน แสงอาทิตย์ และพาไปดูงาน มีการอบรม มีการปรับปรุงดิน มีกองทุน กลุ่ม รวมมูลค่า 1,000,000 บาท ที่ทางธุรกิจเอกชนและ เอ็นจีโอ มา ช่วยเหลือด้วยการเชื่อมโยงของอาจารย์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ภาพที่ 8 ศูนย์มีชัยบ้านพร้อมมูลนิธิโคคา โคลา ประเทศไทยและ มหาวิทยาลัยขอนแก่นให้การสนับสนุน 2. ในโครงการปลูกผักปลอดสารรพิษนี้ ชาวบ้านได้ช่วยกันในการวาง แปลนปลูกผัก การวางท่อน้ำ นำทีมโดย แม่ทองม้วน วิรักษา และได้รับ
10 การสนับสนุนอุปกรณ์จาก พ่อบัวลา วิรักษา และใช้แรงงานจากชาวบ้าน ช่วยกัน 3. หลังจากมีระบบน้ำมาชาวบ้านที่สนใจปลูกผักก็มาลงชื่อ เพื่อใช้ในการ บริหารจัดสรรพื้นที่เพาะปลูก มีชาวบ้านลงชื่อจำนวน ประมาณ 80 คน และเริ่มต้นลงมือเพาะปลูกทำแปลงผักในช่วงปลายเดือน ตุลาคม 2558 หลังจากนั้นด้วยความแห้งแล้ง และดินใหม่ที่ยังไม่มีแร่ธาตุอาหารในดินที่ เหมาะสำหรับเพาะปลูก จึงทำให้หลายๆคนท้อถอย เหลือสมาชิกที่ยังใจสู้ และหาแนวทางเพื่อทำให้พืชผักโตได้อยู่ ประมาณ 30 คน มีการปรับปรุง ดินโดยการใช้ดินข้างนอกมาถม เพื่อปรับปรุงดินปรุงดินให้เหมาะแก่การ เพาะปลูกผัก ใส่แกลบ ใส่ปุ๋ยคอก หลังจากนั้นชาวบ้านก็ใช้พื้นที่ในการ ปลูกผักในช่วงปลายฝนจนกระทั้งสิ้นสุดหน้าหนาว ซึ่งเป็นช่วงที่อากาศ เหมาะสำหรับการปลูกผัก ดูแลง่าย โตเร็ว หรือการใช้เวลาหลังการเก็บ เกี่ยวจากการทำนา ต่อมาได้งบสนับสนุนจากทางด้าน อบต หนองแวง ใน ด้านอุปกรณ์เพาะปลูก เมล็ดพันธ์พืชผัก แต่ทางกลุ่มผู้ปลูกผักเห็นสมควร ใช้งบนั้นมาใช้ในการปรับปรุงเส้นทางการเดินทางมาสวน โดยการเทพื้น ด้วยหินลูกรัง ชาวบ้านใช้พื้นที่เพาะปลูกเฉพาะช่วงปลายเดือน ตุลาคม จนถึง สิ้นเดือน เมษายน ของทุกปีในการเพาะปลูก ตั้งแต่ปี 2564 เป้นต้น มา มีตลาดส่งตลอด สมาชิกกจึงมีการปลูกผักตลอดปีส่งผลให้มีรายได้ 3.500-4.000 บาทต่อสมาชิกต่อปี เมื่อช่วงเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2561 คุณประสิทธิ์ พันธ์โบว์ได้เข้า ร่วมประชุมกลุ่มนาแปลงใหญ่ที่ หอประชุมอำเภอพระยืน ในการประชุม วันนั้นมี ผู้จัดการผ่ายหาวัตถุดิบของห้างโลตัส โลตัส (คุณเปรม) มาพูดถึง ความต้องการผักของ เทสโก้โลตัส หลังจากประชุมเสร็จ หลายคนมีความ
11 สนใจ แต่คิดว่าตนเองทำไม่ได้ ปัญหาคือ 1) หน้าฝนผักจะโตไหม 2) หน้า ร้อน จะทำได้หรือไม่คุณประสิทธิ์ จึงปรึกษากับครอบครัวว่ามีความสนใจ และจะทำเป็นแนวทางให้ชาวบ้าน ถ้าเราทำสำเร็จ ชาวบ้านถึงจะกล้าทำ ตาม จึงได้ศึกษาแนวทาง และติดต่อไปทาง คุณเปรมและเข้าไปติดต่อขอ เป็นเครือข่ายกับ บ้านโนนเขวาซึ่งเป็นศูนย์แพ็คและส่งผักให้กับเทสโก้ โลตัส ได้รับออเดอร์ ผักคะน้ามาทดลอง 100 กิโลกรัม ในราคา กิโลกรัม ละ 16 บาท นายประสิทธิและครอบครัวจึงได้เริ่มต้นการทำโรงเรือน ปรุง ดิน เพื่อปลูก หลังจากผักโต พร้อมได้ไปติดต่อขอรับรองมาตรฐานผัก GAP กับทาง สำนักวิจัยและพัฒนาที่ 3 ขอนแก่น ผลออกมาปรากฏว่าผักได้มาตรฐานจึงสามารถตัดผักส่งทางโลตัส ได้และต่อมาได้หารือกับทางการตลาดของโลตัส เรื่องการให้ออเดอร์ผัก และชนิดผัก พอได้ออเดอร์มานายประสิทธิได้ปรึกษากับครอบครัวถ้าออ เดอร์เยอะ กลุ่มทำไม่ไหว ต้องรวมกลุ่ม ได้ปรึกษาแม่ทองม้วน วิรักษา ว่า ต้องการเชิญชวนชาวบ้านปลูกผักเพื่อส่ง เทสโก้โลตัส จึงได้นัดประชุมกัน ว่าใครสนใจ และได้เชิญทางการตลาดของโลตัสมาพูดคุยกับชาวบ้าน ถึง แนวทางและวิธีการต่างๆเริ่มส่งผักในนามกลุ่มครั้งแรกเมื่อ 9 กรกฏาคม 2561 และทำต่อมาจนปัจจุบันมีการเติบโตเรื่อยๆ และได้จดทะเบียนเป็น วิสาหกิจกลุ่มปลูกผักปลอดสารขึ้นเมื่อปี2562พร้อมได้เป็นแหล่งแลก เปลี่ยน ความรู้ของนักศึกษา มหาวิยาลัยขอนแก่น และสถาบันการศึกษา ต่างๆ รวมถึงหน่วยราชการอื่นๆ พร้อมเป็นที่รวมตัวของชาวสวนในการ แลกเปลี่ยนความรู้กัน ช่วยเหลือกัน ภายในกลุ่ม ใครมีธุระเพื่อนๆสมาชิกก็ จะช่วยกันดูแลให้ ตัดผักขายให้กัน สิ่งเหล่านี้ได้ก่อให้เกิดรายได้และความ สามัคคีของคนในชุมชม ใน ปี2564 ที่ผ่านมา ได้ส่งผัก จำนวน 8,900
12 กิโลกรัม และมีรายได้เข้าสู่ชุมชนประมาณ 380,000 บาท ยังไม่รวมกับ รายได้ที่สมาชิกขายในชุมชนและตลาดท้องถิ่นอื่นๆ 6) ผักที่ปลูกได้ทั้งปีและการผลิตต่อเดือนของสวนผักยายปาว ( ผ่าน มาตรฐาน GAP ) 1. ผักกวางตุ้งดอก อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 2. ผักกวางตุ้งใบ อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 3. ผักกวางตุ้งไต้หวัน อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 4. ผักกาดหอม อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 5. ผักบุ้ง อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 6. คะน้า อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 7. ใบกระเพา อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 8. ใบโหระพา อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 9. ตะไคร้ อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 10. คืนฉ่าย อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 11. ผักชีลาว อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 12. ผักชีฝรั่ง (ผักชีใบเลื่อย) อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 13. ผักชีไทย (ผักหอมป้อม) อัตราผลิตต่อเดือน 1,000 กิโลกรัม 7) แหล่งน้ำและระบบการให้น้ำของสวนผักยายปาว 1. ได้ขุดบ่อบาดาล สูบด้วยพลังงาน Solar cell 2. นำน้ำบาดาลลงบ่อดิน เพื่อปรับปรุงคุณภาพ 3. สูบผ่านระบบกรองสู่ถังพัก และรดพืชผัก 4. มีระบบควบคุมให้น้ำด้วยดิจิทัล 5. ระบบน้ำที่ให้คือ ระบบพ่นหมอก สปริงเกอร์และใช้สายยางรด
13 ภาพที่ 9 ระบบการให้น้ำของสวนผักยายปาวและสมาชิกวิสาหกิจชุมชน 8) หน่วยงานที่ให้การสนับสนุนงบประมาณ และอุปกรณ์ 1. คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น: สนับสนุนด้าน วิชาการ งบดำเนินงาน ประสานหน่วยงาน 2. CAT Telcom: สนับสนุนด้าน digital technology 3. สำนักงานเกษตรอำเภอพระยืน: สนับสนุนด้านโรงเรือนปลูกผัก วิชาการ 4. ทุนส่วนตัว และกู้จากสถาบันการเงิน: สมทบระบบน้ำ ซื้อรถห้อง เย็น โรงล้าง บรรจุผัก 5. ศูนย์มีชัย-บ้านไผ่และมูลนิธิโคคาโคล่า แห่งประเทศไทย สนับสนุนระบบน้ำใช้พลังงานแสงอาทิตย์
14 ภาพที่ 10 ระบบน้ำที่หน่วยงายต่างๆให้การสนับสนุนกลุ่มปลูกผักและ สวนผักยายปาว
15 9) สินทรัพย์ของสวนผักยายปาว 1. ระบบดิจิทัลในการให้น้ำ 2. แปลงผักยกโต๊ะ 3. โรงเรือน 2 หลัง 4. เครื่องหีบน้ำอ้อยสด 5. บ้านพัก และศาลาเรียนรู้ 6. ระบบน้ำบาดาล ระบบ Solar cell และบ่อน้ำ 7. รถยนต์รถยนต์ส่วนบุคคล รถไถเดินตาม 8. โรงล้าง คัด บรรจุ ผ่านมาตรฐาน GMP 9. รถห้องเย็น ภาพที่ 11 โรงล้างผักผ่านมาตรฐาน GMP
16 ภาพที่ 12 ถุงบรรจุผักที่ห้าง Makro เห็นชอบ ภาพที่ 13 รถห้องเย็นส่งผักขึ้นห้าง 10) สถาบันการเงินที่ประสานงานในการขอสินเชื่อ 1. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2. ธนาคารออมสิน 3. สหกรณ์เครดิตยูเนียนพระยืน จำกัดฃ 4. ธนาคารกสิกรไทย
17 ภาพที่ 14 สถาบันการเงินที่สวนผักยายปาวประสานงานในการขอสินเชื่อ 11) จากเกษตรกรก้าวสู่ผู้ประกอบการรายย่อย ต้นปี 2565 คุณประสิทธิ์พันธุ์โบ และทีม Young smart farmer หอการค้าจังหวัดขอนแก่น รวมทั้งนักวิชาการมหาวิทยาลัยขอนแก่น ได้ไป ศึกษาดูงาน โรงบรรจุผัก คัดผัก แปลงผักปลอดสาร โรงงานปุ๋ยหมัก ของ คุณสมเกียรติลำพันแดง อำเภอเมือง จังหวัดสระบุรีที่รู้จักกันในนาม “สมเกียรติผักอร่อย” ซึ่งทาง คุณสมเกียรติเล่าว่า ได้รับผักจากสมาชิก
18 รอบ ๆ สระบุรีและทางภาคเหนือ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย เข้ามาล้าง คัดแยกบรรจุที่โรงงานของตนเอง และส่งผักเข้าห้าง Makro 5 จังหวัด ได้แก่ สระบุรีลพบุรีนครนายก ปทุมธานีปราจีนบุรีนอกจากนี้คุณ สมเกียรติมีแปลงผักของตนเอง รวมทั้งโรงเรือนเพาะทานตะวันงอก ส่งออกสู่ตลาดทั่วไปด้วย เมื่อคุณประสิทธิ์พันธุ์โบ ได้กลับมาจึงมีแนวคิดที่จะขับเคลื่อน และพัฒนาตนเองเป็นผู้ประกอบการที่มีการบรรจุผักและส่งตลาดตามห้าง ต่าง ๆ จึงได้ปรึกษาครอบครัว ซึ่งประกอบด้วย ภรรยา พ่อตา แม่ยาย ได้รับผลการหารือที่ดีคือ ตกลงให้เดินหน้าทำตามแนวคิดดังกล่าว ขณะเดียวกันได้หาตลาดส่งผักสดคือ Makro และ CP ram แต่ตลาดระบุ ไว้ว่าต้องมีโรงล้าง โรงบรรจุผักในมาตรฐาน GMP และมีรถห้องเย็นในการ ส่งผักด้วย ภาพที่ 15 จดทะเบียนพานิชย์
19 ต่อมา เมื่อเดือนพฤษภาคม 2555 ได้มีการสร้างโรงล้าง โรงบรรจุ ผักข้างบ้านอยู่อาศัยเน้นการต่อเติมออกมา มีระบบน้ำ ห้องเย็น ห้องล้าง ห้องบรรจุผัก ห้องพักผัก และห้องสุขาตามมาตรฐาน GMP หลังจากสร้าง เสร็จก็ได้ผ่านมาตรฐานโรงล้าง โรงบรรจุผัก G M P โดยใช้งบประมาณ 300,000 บาท เป็นงบจากผลกำไรที่ได้จากการลงทุนปลูกผักส่งตลาด เงิน จากการลงทุนในการทำสวนผัก ทำโรงเรือน โต๊ะปลูก เจาะน้ำบาดาล Solar cell ระบบดิจิทัลรดน้ำผัก ยืมจาก ธกส. มา 700,000 บาท ในการที่จะส่งผักเข้าสู่โรงงานผลิตอาหารแปรรูป CP ram (ผลิต อาหารกล่องสู่ร้าน 7-11 ในภาคอีสาน รวมทั้งห้าง Macro) ได้กำหนดว่า ผักที่จะส่งต้องบรรทุกด้วยรถห้องเย็นเท่านั้น ทางคุณประสิทธิ์จึงได้หารือ กับครอบครัวอีกครั้งในการที่จะซื้อรถห้องเย็นมือสองในราคา 280,000 บาท ซึ่งใช้เงินจากการขายรถคันเดิม และเงินของแม่ยายสมทบ จนได้รถห้องเย็น 1 คัน ในการดำเนินงานด้านการซื้อมาขายไป การดำเนินงานงาน การ จ้างแรงงาน ยังคงต้องการงบประมาณอยู่จำนวนหนึ่ง ประมาณ 200,000 ถึง 300,000 บาท จึงได้ติดต่อกับสถาบันการเงินต่าง ๆ ซึ่งคุณประสิทธิ์ได้ เข้าร่วมกับโครงการวิจัยการสร้างการสร้างกลไกทางการเงินใหม่เพื่อ ยกระดับและเพิ่มการกระจายตัวของเศรษฐกิจสีเขียวในระดับพื้นที่ โดยได้ ร่วมสัมมนา ประชุมและแสดงมุมมองในระบบการเงิน และการจัดการกับ รวมถึงแสดงเจตนารมย์ในการที่จะเข้าถึงแหล่งทุนจากสถาบันการเงิน เจ้าหน้าที่สถาบันการเงินใด้ลงพื้นที่เยี่ยมเยือน เสนอแนะ และช่วยแนะนำ พร้อมเข้าสู่สถาบันแหล่งทุน
20 ภาพที่ 16 การบรรจุผักส่ง Marko ภาพที่ 17 แผงตลาดจริงหน้าร้าน Tops ใน Central KhonKaen
21 12) ทำไมจึงสนใจขอรับสินเชื่อจาก ธกส. คุณศศิธร คุสุวรรณ ภรรยาคุณประสิทธิ์ ที่ช่วยดูแลการลงทุน ระบบการจัดการ ระบบการจ้างงาน และการเตรียมผลิตภัณฑ์ได้ให้ข้อมูล ว่ามีพนักงานของสถาบันการเงินเข้ามาพูดคุยและให้ข้อเสนอแนะหลาย ธนาคาร ดังเช่น 1. ธนาคารกสิกรไทย มานำเสนอผลิตภัณฑ์แต่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำ ประกัน 2. ธนาคารออมสิน มานำเสนอผลิตภัณฑ์เสนอให้กู้ 1 ล้านบาท มี หลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้ผ่อน ชำระรายเดือนหรือใช้กองทุน บสย. (บริษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนดย่อม) ค้ำประกัน ซึ่งผู้กู้จะต้องจ่ายค่าธรรมเนียม บสย. ที่ค่อนข้างแพงแพง อีก อย่างคุณประสิทธิ์ติดยังติดบัญชีเครดิตยูโร 3. ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้มีพนักงานมา เสนอผลิตภัณฑ์และเสนอทางออกเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินเชื่อเดิมที่ ยังค้างชำระอยู่ว่าจะสามารถกู้ยืมสินเชื่อใหม่ได้อย่างไร คุณศศิธร คะสุวรรณ์ได้ให้ข้อมูลอีกว่าทุกสถาบันการเงินมีความ ประสงค์ที่จะสนับสนุนโครงการนี้ด้วยด้วยมีโครงการวิจัยดังกล่าวได้มา ช่วยขับเคลื่อนพร้อมสนับสนุน มีผู้บริหารธนาคาร ธกส. กับนักวิจัยและที่ ปรึกษาของโครงการ ได้ลงมาช่วยเสนอแนะด้านการจัดทำเอกสารการเงิน การลงทุน การสร้างแบรนด์และในที่สุดทางครอบครัวได้เลือกเสนอขอ สินเชื่อจาก ธกส. ด้วยเคยยืมเงินมาลงทุนทำการผลิตผักแล้ว และทาง ธกส. เปลี่ยนปรับโครงการสินเชื่อเดิมด้วยการขยายสินเชื่อในวงเงิน 1,000,000 ล้านบาท จากเดิม 7000,000 บาท อีกอย่างสินทรัพย์ที่ค้ำ
22 ประกันก็อยู่กับ ธกส. แต่ทางสวนผักยายปาวขอเสนอยืมมาอีก 200,000 บาท โดยมาทุนหมุนเวียนซื้อผักจากสมาชิกและค่าดำเนินการ ภาพที่ 18 หัวหน้าโครงการวิจัยไปพบผู้บริหาร ธกส. ระดับ จังหวัดขอนแก่น ภาพที่ 19 คุณประสิทธิ์ พันธุ์โบว์ ร่วมนำเสนอแนวทางกลไกการเงิน ใหม่ที่ ธนาคารแห่งประเทศไทย ขอนแก่น คุณศศิธร คะสุวรรณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทางธนาคารออมสินเสนอ มาก็น่าสนใจ ซึ่งผู้บริหารธราคารออมสินกับนักวิจัยและที่ปรึกษาของ โครงการ ได้ลงมาช่วยแต่งตัวให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงสถาบัน
23 การเงินได้แต่เงื่อนไขบางอย่างไม่เหมาะสมกับการดำเนินธุรกิจของสวน ผักยายปาว เช่น ต้องชำระคืนทุกเดือน ภาพที่ 20 ทีมงานผู้บริหารธนาคารออมสินและที่ปรึกษาโครงการวิจัย ลงพื้นที่ให้คำปรึกษา ในเดือนกรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมา ธุรกิจโรงล้างและบรรจุผักสด ของสวนผักยายปาว มีรายได้ 280,000 บาท มีผลกำไรประมาณ 100,000 บาท และมีห้างสรรพสินค้าเข้ามาพูดคุยเกี่ยวกับการขอเป็นตลาดรับซื้อผัก ปลอดสารให้แต่ทางสวนผักยายปาวยังไม่ได้ตอบรับและทำ MOU ด้วย เนื่องจากยังติดสัญญาเดิมกับ Makro and CP ram และยังส่งผักได้ไม่ ครบตามที่คู่ค้าต้องการ ในอนาคต หากธุรกิจนี้เติบโตได้ดีเช่นปัจจุบัน คาด ว่าจะมีการขยายขนาดธุรกิจโดยจะขยายโรงล้าง บรรจุผักไปอยู่แห่งใหม่ ที่ ห่างจากชุมชนเพื่อลดความเสี่ยงของน้ำล้างผักไหลผ่านชุมชน รวมถึงมีการ รับพนักงานเพิ่มรับผักเพิ่ม ส่งเสริมให้สมาชิกปลูกผักตามความต้องการ ของตลาดมากขึ้น รวมถึงมีห้องเย็นเพิ่มมากขึ้น อีกอย่างห้าง Makro ใน ตัวเมืองของตัวเมืองขอนแก่นจะเปิดสาขาที่ 3 ด้านทิศเหนือของตัวเมือง
24 ขอนแก่น หากส่งได้ครบทั้ง 3 สาขาจะให้ขยายการส่งผักไปจังหวัดอื่น ๆ อีกต่อไป ในเดือนสิงหาคม 2556 จะรับพนักงานเพิ่มอีก 1 คนรวมเป็น 3 คน และได้แต่งตั้ง 1 คน เป็นผู้จัดการโรงงานตามรูปแบบที่ Makro เสนอแนะ พร้อมได้พาไปดูงานที่ Makro แล้ว ในอนาคตที่วางไว้คือจะ สร้างโรงล้างบรรจุใหม่ ใช้งบประมาณ 1.8 ถึง 2.2 ล้านบาท และจัดซื้อรถ เย็นอีก 1 คันประมาณ 300,000 – 350,000 บาท ซึ่งเมื่อถึงช่วงเวลานั้น จะได้หารือกับสถาบันการเงินต่างๆ ต่อไป 13) แผนต่อไปในอนาคต โดยกิจกรรมที่ต้องสอดคล้องกับ ความเหมาะสมของช่วงเวลา 1. สร้างโรงเรือน 1 โรง พร้อมโต๊ะปลูก และระบบน้ำ และเปิดรับสมาชิก ผลิตผักเพิ่ม 2. ขอรับตรวจวัดมาตรฐาน GAP ผักให้ครบทุกชนิดตามตลาดต้องการ 3. ปรับปรุงห้องเย็นผักให้สมบูรณ์ 4. แสวงหาเงินทุนสำรองสำหรับรับซื้อผักเงินสดจากสมาชิก และทุน ดำเนินการ 5. ส่งเสริมให้สมาชิกปลูกผักคุณภาพเพิ่มขึ้นอีกตามตลาดต้องการและให้ เกษตรกรมีรายได้ดี 6. เจาะน้ำบาดาลเพิ่มพร้อมระบบสูบน้ำด้วย Solar cell ให้เพียงพอ พื้นที่ปลูก 7. จัดจ้างแรงงานประจำเพิ่ม พร้อมพัฒนาทักษะการล้าง บรรจุตรงตาม ตลาดต้องการ
25 8. สร้างบรรจุภัณฑ์ผักให้ที่เด่นชัดตอบโจทย์ตลาด 9. ส่งผักปลอดสารพิษให้ได้เป้าหมายตาม MOU แล้วจะเพิ่มการส่งตาม สาขาของห้างที่เปิดใหม่ 10. การขอจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล เช่น บริษัท ห้างหุ้นส่วนจำกัด ภาพที่ 21 น้ำบาดาลพร้อมระบบสูบน้ำด้วย Solar cell 14) รูปแบบกลไกการเงินของสวนผักยายปาว นี่คือตัวอย่างหนึ่งของการขับเคลื่อน ส่งเสริมและพัฒนาการปลูก ผักปลอดสารพิษ โดยร่วมวางแผนในการพัฒนาและแสวงหาแหล่งน้ำ การ ผลิตที่ได้คุณภาพและออกสู่ตลาดสม่ำเสมอ และแหล่งตลาดที่มั่นคง โดยเฉพาะการสร้างคนในชุมชนทำการตลาดให้สวนของตนเองและกลุ่มให้ เกิดอย่างชัดเจน เช่น สวนผักยายปาว แห่งบ้านหนองหญ้าข้าวนก ซึ่ง รูปแบบกลไกการเงินของสวนผักยายปาว ดังภาพในหน้าถัดไป
26ภาพที่ 22รูปแบบกลไกการเงินของสวนผักยายปาวในการเข้าถึงสถาบันการเงิน S