พันธะเคมี
คำนำ
สื่อฉบับนี้ทำขึ้นเพื่อที่จะศึกษาเกี่ยวกับ
เรื่องพันธะเคมี ซึ่งพันธะเคมีจะเเบ่งเป็น
3 ประเภทคือ พันธะโลหะ พันธะไอออนิก
และพันธะโคเวเลนต์
สารบัญ
หน้า เรื่อง
1 พันธะเคมี
2 พันธะโลหะ
6
9 พันธะไอออนิก
พันธะโคเวเลนต์
พันธะเคมี คือ แรงยึดเหนี่ยวที่เกิดขึ้นระหว่างอะตอมหรือกลุ่มของอะตอม
เพื่อเกิดเป็นกลุ่มที่เสถียรและเป็นอิสระในระดับโมเลกุล ลักษณะเฉพาะที่
สำคัญของพันธะเคมีในโมเลกุลคือจะปรากฏในบริเวณระหว่างนิวเคลียสของ
อะตอม ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงพลังงานจนอยู่ในช่วงที่เหมาะสม ซึ่งอาจจะ
เกิดเป็นพันธะโคเวเลนต์พันธะไอออนิก หรือพันธะโลหะ
1
1 พันธะโลหะ
พันธะโลหะ หมายถึง แรงยึดเหนี่ยวที่ทำให้อะตอมของโลหะ อยู่ด้วยกันในก้อนของ
โลหะ โดยมีการใช้เวเลนต์อิเล็กตรอนร่วมกันของอะตอมของโลหะ โดยที่เวเลนต์
อิเล็กตรอนนี้ไม่ได้เป็นของอะตอมหนึ่งอะตอมใดโดยเฉพาะ เนื่องจากมีการเคลื่อนที่
ตลอดเวลา ทุกๆอะตอมของโลหะจะอยู่ติดกันกับอะตอมอื่นๆ ต่อเนื่องกันไม่มีที่สิ้น
สุด จึงทำให้โลหะไม่มีสูตรโมเลกุล ที่เขียนกันเป็นสูตรอย่างง่าย หรือสัญลักษณ์ของ
ธาตุนั้นเอง
2
สมบัติของพันธะโลหะ 3
นำความร้อนได้ดี
นำไฟฟ้ าได้
รีดเป็ นแผ่นได้ง่าย
ดึงเป็นเส้นยาว ๆ ได้โดยไม่ขาดง่าย
จุดหลอมเหลวสูง
มีความเป็ นมันวาว
เชื่อมต่อกันได้
การที่โลหะมีพันธะโลหะจึงทำให้โลหะมีสมบัติทั่วไป ดังนี้
1. โลหะเป็นตัวนำไฟฟ้ าที่ดี เพราะอิเล็กตรอนเคลื่อนที่ได้ง่าย
2. โลหะมีจุดหลอมเหลวสูง เพราะเวเลนต์อิเล็กตรอนของอะตอมทั้งหมดในก้อนโลหะ
ยึดอะตอมไว้อย่างเหนียวแน่น
3. โลหะสามารถตีแผ่เป็นแผ่นบางๆได้ เพราะมีกลุ่มเวเลนต์อิเล็กตรอนทำหน้ าที่ยึด
อนุภาคให้เรียงกันไม่ขาดออกจากกัน
4. โลหะมีผิวเป็นมันวาว เพราะกลุ่มอิเล็กตรอนที่เคลื่อนที่โดยอิสระมีปฏิกิริยาต่อแสง
จึงสะท้อนแสงทำให้มองเห็นเป็ นมันวาว
5. สถานะปกติเป็นของแข็ง ยกเว้น Hg เป็นของเหลว
6. โลหะนำความร้อนได้ดี เพราะอิเล็กตรอนอิสระเคลื่อนที่ได้ทุกทิศทาง
4
พันธะโลหะ (Metallic bonding) เป็นพันธะภายในโลหะซึ่งเกี่ยวข้องกับ การเคลื่อน 5
ย้าย อิเล็กตรอน อิสระระหว่างแลตทิซของอะตอมโลหะ ดังนั้นพันธะโลหะจึงอาจ
เปรียบได้กับเกลือที่หลอมเหลว อะตอมของโลหะมีอิเล็กตรอนพิเศษเฉพาะในวง
โคจรชั้นนอกของมันเทียบกับคาบ (period) หรือระดับพลังงานของพวกมัน
อิเล็กตรอนที่เคลื่อนย้ายเหล่านี้เปรียบได้กับทะเลอิเล็กตรอน(Sea of Electrons)
ล้อมรอบแลตจทิชขนาดใหญ่ของไอออนบวก
พันธะโลหะเทียบได้กับพันธะโควาเลนต์ที่เป็น นอน-โพลาร์ ที่จะไม่มีในธาตุโลหะบริ
สุทธ์ หรือมีน้ อยมากในโลหะผสม ความแตกต่าง อิเล็กโตรเนกาทิวิตีระหว่างอะตอม
ซึ่งมีส่วนในปฏิกิริยาพันธะ และอิเล็กตรอนที่เกี่ยวข้องในปฏิกิริยาจะเคลื่อนย้ายข้าม
ระหว่างโครงสร้างผลึกของโลหะ พันธะโลหะเขียนสูตรทางเคมีไม่ได้ เพราะไม่ทราบ
จำนวนอะตอมที่แท้จริง อาจจะมีเป็นล้านๆ อะตอมก็ได้
พันธะโลหะเป็นแรงดึงดูดไฟฟ้ าสถิต (electrostatic attraction) ระหว่างอะตอม หรือ
ไออนของโลหะ และ อิเล็กตรอนอิสระ(delocalised electrons) นี่คือเหตุว่าทำไม
อะตอมหรือชั้นของมันยอมให้มีการเลื่อนไถลไปมาระหว่างกันและกันได้ เป็นผลให้
โลหะมีคุณสมบัติที่สามารถตีเป็ นแผ่นหรือดึงเป็ นเส้นได้
2 พันธะไอออนิก
พันธะไอออนิก(Ionic bond) คือ แรงยึดเหนี่ยวที่เกิดใน
สาร โดยที่อะตอมของธาตุที่มีค่าพลังงานไอออไนเซชัน
ต่ำ ให้เวเลนต์อิเล็กตรอนแก่อะตอมของธาตุที่มีค่า
พลังงานไอออนไนเซชันสูง กลายเป็นไอออนที่มีประจุ
บวกและประจุลบ เมื่อไอออนทั้งสองเข้ามาอยู่ใกล้กันจะ
เกิดแรงดึงดูดทางไฟฟ้ าที่แข็งแรงระหว่างประจุไฟฟ้ าตรง
ข้ามเหล่านั้น ทำให้ไอออนทั้งสองยึดเหนี่ยวกันด้วย
พันธะเคมีที่เรียกว่า “พันธะไอออนิก
6
เนื่องจากโลหะมีค่าพลังงานไอออไนเซชันต่ำ และอโลหะมีค่าพลังงานไอออไน
เซชันสูง ดังนั้นพันธะไอออนิกจึงเกิดระหว่างธาตุโลหะ และอโลหะได้ดี กล่าว
คือ อะตอมของโลหะให้เวเลนต์อิเล็กตรอนกับอะตอมของอโลหะ แล้วเกิด
ไอออนบวกของโลหะ และไอออนลบของอโลหะ ไอออนทั้งสองจะส่งแรงดึงดูด
ระหว่างประจุบวกและลบ เกิดเป็นพันธะไอออนิก
และการที่โลหะให้เวเลนต์อิเล็กตรอนแก่อโลหะ เพื่อปรับให้มีเวเลนต์
อิเล็กตรอนเป็นแปด แบบก๊าซเฉื่อย ส่วนอโลหะรับเวเลนต์อิเล็กตรอนมานั้นก็
เพื่อปรับตัวเองให้เสถียรแบบก๊าซเฉื่อยเช่นกัน ไอออนบวกกับไอออนลบจึง
ดึงดูดกันด้วยแรงดึงดูดระหว่างประจุไฟฟ้ าเกิดเป็นสารประกอบไอออนิก
7
8
3 พันธะโคเวเลนต์
ประเภทของสารประกอบโคเวเลนต์
การเกิดสารประกอบโคเวเลนต์
เกิดจากอะตอมของอโลหะทำปฏิกิริยากับอะตอมของอโลหะโดยอะตอม
ของอโลหะจะนำอิเล็กตรอนวงนอกมาใช้ร่วมกันเป็นคู่ ๆเพื่อให้อยู่สภาวะ
ที่เสถียร และจะอยู่เป็นโมเลกุลชัดเจนว่า1โมเลกุลมีกี่อะตอม
9
สารประกอบโคเวเลนต์ แบ่งเป็น 2 ประเภท
1. Homonuclear molecule (โมเลกุลของธาตุ) หมายถึงสารประกอบโคเวเลนต์ที่ใน
หนึ่ งโมเลกุลประกอบด้วยอะตอมของธาตุชนิดเดียวกันมายึดกันด้วยพันธะโคเวเลนต์
เช่น H2, O2,Br2 ,N2 ,F2 ,Cl2เป็นต้น
2. Heteronuclear molecule (โมเลกุลของสารประกอบ) หมายถึง สารประกอบโคเว
เลนต์ที่ในหนึ่งโมเลกุลประกอบด้วยธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป มายึดกันด้วยพันธะโค
เวเลนต์ เช่น HCl , CH4, H2O , H2SO4 ,HClO4เป็นต้น
10
สมบัติของสารประกอบโคเวเลนต์
สารประกอบโคเวเลนต์ มีสมบัติดังนี้
1. มีสถานะเป็นของแข็ง ของเหลว หรือแก๊ส เช่น
- สถานะของเหลว เช่น น้ำเอทานอลเฮกเซน
- สถานะของแข็ง เช่น น้ำตาลทราย (C12H22O11),แนพทาลีนหรือลูกเหม็น (C10H8)
- สถานะแก๊ส เช่น แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2),แก๊สมีเทน (CH4),แก๊สโพรเพน (C3H8)
2. มีจุดหลอมเหลวต่ำ หลอมเหลวง่ายเนื่องจากมีแรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลที่ไม่แข็งแรงสามารถถูก
ทำลายได้ง่าย
3. มีทั้งละลายน้ำและไม่ละลายน้ำ เช่น เอทานอลละลายน้ำ แต่เฮกเซนไม่ละลายน้ำ
4.สารประกอบโคเวเลนต์ไม่นำไฟฟ้ าเนื่องจากมีประจุไฟฟ้ าเป็นกลาง และอิเล็กตรอนทั้งหมดถูกใช้เป็น
อิเล็กตรอน
คู่ร่วมพันธะระหว่างอะตอม ทำให้ไม่มีอิเล็กตรอนอิสระช่วยนำไฟฟ้ า แต่ยกเว้นในสารประกอบโคเวเลนส์ที่
มีสภาพขั้วแรงมาก เช่น HCI, HBr, H2SO4 11
12
13
อ้างอิง
สมุดรายวิชาเคมี
w.w.w.google.com
14