The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานสรุปโครงการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รุ่นที่ 4

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Mind Nachcha, 2023-09-21 02:54:57

รายงานสรุปโครงการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รุ่นที่ 4

รายงานสรุปโครงการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รุ่นที่ 4

หน้า | 46 ประเมินผลลัพธ์การฝึกอบรม วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 เกณฑ์ในการแปรผลค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 ระดับน้อยที่สุด 1.50 - 2.50 ระดับน้อย 2.51 - 3.50 ระดับปานกลาง 3.51 - 4.50 ระดับมาก 4.51 - 5.00 ระดับมากที่สุด ตารางที่ 13 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ ผศ.คมกริช ธนะเพทย์ รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ของความ พึงพอใจ ระดับการ ประเมิน 5 4 3 2 1 1.ความสอดคล้องของเนื้อหาวิชากับ วัตถุประสงค์ของการจัดอบรม 16 16 3 0 0 4.37 87.43 มาก 2.ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการ บรรยายหัวข้อนี้ 12 20 3 0 0 4.26 85.14 มาก 3.ความรอบรู้ของวิทยากร วิธีการ นำเสนอ และเอกสารประกอบการ บรรยาย 13 17 5 0 0 4.23 84.57 มาก 4.วิทยากรเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับ เวลา 10 16 9 0 0 4.03 80.57 มาก 5.วิทยากรเปิดโอกาสให้ซักถามและ ตอบคำถามได้ชัดเจน 10 17 8 0 0 4.06 81.14 มาก 6.เนื้อหาของหัวข้อการอบรมเป็น ประโยชน์ต่อท่าน 10 19 6 0 0 4.11 82.29 มาก 7.ท่านสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการ อบรมในหัวข้อนี้ไปใช้ประโยชน์และ/ หรือ ประยุกต์ใช้ได้จริง 9 18 8 0 0 4.03 80.57 มาก 8.ความพึงพอใจในภาพรวมของ วิทยากร 10 23 2 0 0 4.23 84.57 มาก 9.ความพึงพอใจในภาพรวมของวิชา 10 19 5 1 0 4.09 81.71 มาก รวม 4.16 83.11 มาก


หน้า | 47 ตารางที่ 13 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ ผศ.คมกริช ธนะเพทย์ โดยรวมอยู่ ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.16 และร้อยละของความพึงพอใจ เท่ากับ 83.11 สรุปผลการฝึกอบรมวันที่ 25 พฤษภาคม 2566 (ระบบออนไลน์) วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 -16.00 น. ได้ดำเนินการบรรยาย หัวข้อ “การจัดการทำ งบประมาณเพื่อการจัดการผังเมืองและพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ” โดย วิทยากรบรรยายจากกองพัฒนาและส่งเสริม กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (นายเจษ เสียงลือชา) ประมวลภาพการฝึกอบรม


หน้า | 48 ประเมินผลลัพธ์การฝึกอบรม วันที่ 25 พฤษภาคม 2566 เกณฑ์ในการแปรผลค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 ระดับน้อยที่สุด 1.50 - 2.50 ระดับน้อย 2.51 - 3.50 ระดับปานกลาง 3.51 - 4.50 ระดับมาก 4.51 - 5.00 ระดับมากที่สุด ตารางที่ 14 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ นายเจษ เสียงลือชา รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ของความ พึงพอใจ ระดับการ ประเมิน 5 4 3 2 1 1.ความสอดคล้องของเนื้อหาวิชากับ วัตถุประสงค์ของการจัดอบรม 16 15 4 0 0 4.34 86.86 มาก 2.ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการ บรรยายหัวข้อนี้ 10 21 4 0 0 4.17 83.43 มาก 3.ความรอบรู้ของวิทยากร วิธีการ นำเสนอ และเอกสารประกอบการ บรรยาย 11 12 12 0 0 3.97 79.43 มาก 4.วิทยากรเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับ เวลา 11 22 2 0 0 4.26 85.14 มาก 5.วิทยากรเปิดโอกาสให้ซักถามและ ตอบคำถามได้ชัดเจน 11 22 2 0 0 4.26 85.14 มาก 6.เนื้อหาของหัวข้อการอบรมเป็น ประโยชน์ต่อท่าน 13 22 0 0 0 4.37 87.43 มาก 7.ท่านสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการ อบรมในหัวข้อนี้ไปใช้ประโยชน์และ/ หรือ ประยุกต์ใช้ได้จริง 13 21 1 0 0 4.34 86.86 มาก 8.ความพึงพอใจในภาพรวมของ วิทยากร 15 19 1 0 0 4.40 88.00 มาก 9.ความพึงพอใจในภาพรวมของวิชา 13 22 0 0 0 4.37 87.43 มาก รวม 4.28 85.52 มาก


หน้า | 49 ตารางที่ 14 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ นายเจษ เสียงลือชา โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.28 และร้อยละของความพึงพอใจ เท่ากับ 85.52 สรุปผลการฝึกอบรมวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 (ระบบออนไลน์) วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.00 -12.00 น. ได้ดำเนินการบรรยาย หัวข้อ “ประเด็นหัวข้อ ทักทวงโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานจากหน่วยตรวจสอบและแนวทางแก้ไขปัญหาที่เหมาะสม ” โดย วศ.สมบูรณ์ แพทย์รัตน์ ประมวลภาพการฝึกอบรม


หน้า | 50 ประเมินผลลัพธ์การฝึกอบรม วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 เกณฑ์ในการแปรผลค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 ระดับน้อยที่สุด 1.50 - 2.50 ระดับน้อย 2.51 - 3.50 ระดับปานกลาง 3.51 - 4.50 ระดับมาก 4.51 - 5.00 ระดับมากที่สุด ตารางที่ 15 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ วศ.สมบูรณ์ แพทย์รัตน์ รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ของความ พึงพอใจ ระดับการ ประเมิน 5 4 3 2 1 1.ความสอดคล้องของเนื้อหาวิชากับ วัตถุประสงค์ของการจัดอบรม 28 7 0 0 0 4.80 96.00 มากที่สุด 2.ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการ บรรยายหัวข้อนี้ 22 13 0 0 0 4.63 92.57 มากที่สุด 3.ความรอบรู้ของวิทยากร วิธีการ นำเสนอ และเอกสารประกอบการ บรรยาย 25 10 0 0 0 4.71 94.29 มากที่สุด 4.วิทยากรเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับ เวลา 26 9 0 0 0 4.74 94.86 มากที่สุด 5.วิทยากรเปิดโอกาสให้ซักถามและ ตอบคำถามได้ชัดเจน 24 11 0 0 0 4.69 93.71 มากที่สุด 6.เนื้อหาของหัวข้อการอบรมเป็น ประโยชน์ต่อท่าน 23 11 1 0 0 4.63 92.57 มากที่สุด 7.ท่านสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการ อบรมในหัวข้อนี้ไปใช้ประโยชน์และ/ หรือ ประยุกต์ใช้ได้จริง 24 10 1 0 0 4.66 93.14 มากที่สุด 8.ความพึงพอใจในภาพรวมของ วิทยากร 27 8 0 0 0 4.77 95.43 มากที่สุด 9.ความพึงพอใจในภาพรวมของวิชา 25 10 0 0 0 4.71 94.29 มากที่สุด รวม 4.70 94.10 มากที่สุด


หน้า | 51 ตารางที่ 15 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ วศ.สมบูรณ์ แพทย์รัตน์ โดยรวมอยู่ ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.70 และร้อยละของความพึงพอใจ เท่ากับ 94.10 สรุปผลการฝึกอบรมวันที่ 26 พฤษภาคม 2566 (ระบบออนไลน์) วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 -16.00 น. ได้ดำเนินการบรรยาย หัวข้อ “หลักการใช้อำนาจ ของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ตามกฎหมายว่าด้วยการผังเมือง” โดย อ.วรรณวีร์ บุญยฤทธิ์ ประมวลภาพการฝึกอบรม


หน้า | 52 ประเมินผลลัพธ์การฝึกอบรม วันที่ 26 พฤษภาคม 2566 เกณฑ์ในการแปรผลค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 ระดับน้อยที่สุด 1.50 - 2.50 ระดับน้อย 2.51 - 3.50 ระดับปานกลาง 3.51 - 4.50 ระดับมาก 4.51 - 5.00 ระดับมากที่สุด ตารางที่ 15 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ อ.วรรณวีร์ บุญยฤทธิ์ รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ของความ พึงพอใจ ระดับการ ประเมิน 5 4 3 2 1 1.ความสอดคล้องของเนื้อหาวิชากับ วัตถุประสงค์ของการจัดอบรม 24 11 0 0 0 4.69 93.71 มากที่สุด 2.ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการ บรรยายหัวข้อนี้ 9 26 0 0 0 4.26 85.14 มาก 3.ความรอบรู้ของวิทยากร วิธีการ นำเสนอ และเอกสารประกอบการ บรรยาย 15 18 2 0 0 4.37 87.43 มาก 4.วิทยากรเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับ เวลา 8 25 2 0 0 4.17 83.43 มาก 5.วิทยากรเปิดโอกาสให้ซักถามและ ตอบคำถามได้ชัดเจน 10 25 0 0 0 4.29 85.71 มาก 6.เนื้อหาของหัวข้อการอบรมเป็น ประโยชน์ต่อท่าน 12 22 1 0 0 4.31 86.29 มาก 7.ท่านสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการ อบรมในหัวข้อนี้ไปใช้ประโยชน์และ/ หรือ ประยุกต์ใช้ได้จริง 12 22 1 0 0 4.31 86.29 มาก 8.ความพึงพอใจในภาพรวมของ วิทยากร 15 20 0 0 0 4.43 88.57 มาก 9.ความพึงพอใจในภาพรวมของวิชา 12 23 0 0 0 4.34 86.86 มาก รวม 4.35 87.05 มาก


หน้า | 53 ตารางที่ 15 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ อ.วรรณวีร์ บุญยฤทธิ์โดยรวมอยู่ ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.35 และร้อยละของความพึงพอใจ เท่ากับ 87.05 สรุปผลการฝึกอบรมวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 (ระบบออนไลน์) วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เวลา 09.00 -12.00 น. ได้ดำเนินการบรรยาย หัวข้อ “การป้องกันและ บริหารจัดการปัญหาภัยพิบัติและสภาวะวิกฤตเพื่อความอยู่รอดของเมือง” โดย ผศ.ดร.อมร บุญต่อ ประมวลภาพการฝึกอบรม


หน้า | 54 ประเมินผลลัพธ์การฝึกอบรม วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เกณฑ์ในการแปรผลค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 ระดับน้อยที่สุด 1.50 - 2.50 ระดับน้อย 2.51 - 3.50 ระดับปานกลาง 3.51 - 4.50 ระดับมาก 4.51 - 5.00 ระดับมากที่สุด ตารางที่ 16 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ ผศ.ดร.อมร บุญต่อ รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ของความ พึงพอใจ ระดับการ ประเมิน 5 4 3 2 1 1.ความสอดคล้องของเนื้อหาวิชากับ วัตถุประสงค์ของการจัดอบรม 28 7 0 0 0 4.80 96.00 มากที่สุด 2.ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการ บรรยายหัวข้อนี้ 21 14 0 0 0 4.60 92.00 มากที่สุด 3.ความรอบรู้ของวิทยากร วิธีการ นำเสนอ และเอกสารประกอบการ บรรยาย 23 12 0 0 0 4.66 93.14 มากที่สุด 4.วิทยากรเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับ เวลา 21 14 0 0 0 4.60 92.00 มากที่สุด 5.วิทยากรเปิดโอกาสให้ซักถามและ ตอบคำถามได้ชัดเจน 23 12 0 0 0 4.66 93.14 มากที่สุด 6.เนื้อหาของหัวข้อการอบรมเป็น ประโยชน์ต่อท่าน 25 10 0 0 0 4.71 94.29 มากที่สุด 7.ท่านสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการ อบรมในหัวข้อนี้ไปใช้ประโยชน์และ/ หรือ ประยุกต์ใช้ได้จริง 25 10 0 0 0 4.71 94.29 มากที่สุด 8.ความพึงพอใจในภาพรวมของ วิทยากร 27 8 0 0 0 4.77 95.43 มากที่สุด 9.ความพึงพอใจในภาพรวมของวิชา 27 8 0 0 0 4.77 95.43 มากที่สุด รวม 4.70 93.97 มากที่สุด


หน้า | 55 ตารางที่ 16 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ ผศ.ดร.อมร บุญต่อ โดยรวมอยู่ใน ระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.70 และร้อยละของความพึงพอใจ เท่ากับ 93.97 สรุปผลการฝึกอบรมวันที่ 27 พฤษภาคม 2566 (ระบบออนไลน์) วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เวลา 13.00 -16.00 น. ได้ดำเนินการบรรยาย หัวข้อ “การออกแบบ นโยบายการพัฒนาเมือง และโครงสร้างพื้นฐานด้วยเครื่องมือ Design Thinking and Project Design” โดย ผศ.ดร.อมร บุญต่อ ประมวลภาพการฝึกอบรม


หน้า | 56 ประเมินผลลัพธ์การฝึกอบรม วันที่ 27 พฤษภาคม 2566 เกณฑ์ในการแปรผลค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 ระดับน้อยที่สุด 1.50 - 2.50 ระดับน้อย 2.51 - 3.50 ระดับปานกลาง 3.51 - 4.50 ระดับมาก 4.51 - 5.00 ระดับมากที่สุด ตารางที่ 17 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ ผศ.ดร.อมร บุญต่อ รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ของความ พึงพอใจ ระดับการ ประเมิน 5 4 3 2 1 1.ความสอดคล้องของเนื้อหาวิชากับ วัตถุประสงค์ของการจัดอบรม 19 16 0 0 0 4.54 90.86 มากที่สุด 2.ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการ บรรยายหัวข้อนี้ 15 19 1 0 0 4.40 88.00 มาก 3.ความรอบรู้ของวิทยากร วิธีการ นำเสนอ และเอกสารประกอบการ บรรยาย 20 14 1 0 0 4.54 90.86 มากที่สุด 4.วิทยากรเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับ เวลา 15 17 3 0 0 4.34 86.86 มาก 5.วิทยากรเปิดโอกาสให้ซักถามและ ตอบคำถามได้ชัดเจน 17 16 2 0 0 4.43 88.57 มาก 6.เนื้อหาของหัวข้อการอบรมเป็น ประโยชน์ต่อท่าน 16 17 2 0 0 4.40 88.00 มาก 7.ท่านสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการ อบรมในหัวข้อนี้ไปใช้ประโยชน์และ/ หรือ ประยุกต์ใช้ได้จริง 17 17 1 0 0 4.46 89.14 มาก 8.ความพึงพอใจในภาพรวมของ วิทยากร 16 18 1 0 0 4.43 88.57 มาก 9.ความพึงพอใจในภาพรวมของวิชา 16 19 0 0 0 4.46 89.14 มาก รวม 4.44 88.89 มาก


หน้า | 57 ตารางที่ 17 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ ผศ.ดร.อมร บุญต่อ โดยรวมอยู่ใน ระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 และร้อยละของความพึงพอใจ เท่ากับ 88.89 สรุปผลการฝึกอบรมวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.00 -12.00 น. ได้ดำเนินการบรรยาย หัวข้อ “หลักและกฎหมายวิธี ปฏิบัติทางปกครองในการบริหารจัดการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน” โดย วิทยากรจากสำนักงานศาล ปกครอง (คุณสุรเชษฐ์ มโนมัยกิจ) ประมวลภาพการฝึกอบรม


หน้า | 58 ประเมินผลลัพธ์การฝึกอบรม วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เกณฑ์ในการแปรผลค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 ระดับน้อยที่สุด 1.50 - 2.50 ระดับน้อย 2.51 - 3.50 ระดับปานกลาง 3.51 - 4.50 ระดับมาก 4.51 - 5.00 ระดับมากที่สุด ตารางที่ 18 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ คุณสุรเชษฐ์ มโนมัยกิจ รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ของความ พึงพอใจ ระดับการ ประเมิน 5 4 3 2 1 1.ความสอดคล้องของเนื้อหาวิชากับ วัตถุประสงค์ของการจัดอบรม 20 15 0 0 0 4.57 91.43 มากที่สุด 2.ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการ บรรยายหัวข้อนี้ 16 17 2 0 0 4.40 88.00 มาก 3.ความรอบรู้ของวิทยากร วิธีการ นำเสนอ และเอกสารประกอบการ บรรยาย 19 16 0 0 0 4.54 90.86 มากที่สุด 4.วิทยากรเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับ เวลา 12 18 5 0 0 4.20 84.00 มาก 5.วิทยากรเปิดโอกาสให้ซักถามและ ตอบคำถามได้ชัดเจน 15 16 4 0 0 4.31 86.29 มาก 6.เนื้อหาของหัวข้อการอบรมเป็น ประโยชน์ต่อท่าน 16 18 1 0 0 4.43 88.57 มาก 7.ท่านสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการ อบรมในหัวข้อนี้ไปใช้ประโยชน์และ/ หรือ ประยุกต์ใช้ได้จริง 20 13 1 1 0 4.49 89.71 มาก 8.ความพึงพอใจในภาพรวมของ วิทยากร 17 18 0 0 0 4.49 89.71 มาก 9.ความพึงพอใจในภาพรวมของวิชา 14 19 2 0 0 4.34 86.86 มาก รวม 4.42 88.38 มาก


หน้า | 59 ตารางที่ 18 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ คุณสุรเชษฐ์ มโนมัยกิจ โดยรวมอยู่ ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.42 และร้อยละของความพึงพอใจ เท่ากับ 88.38 สรุปผลการฝึกอบรมวันที่ 3 กรกฎาคม 2566 วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เวลา 13.00 -16.00 น. ได้ดำเนินการบรรยาย หัวข้อ “กฎหมายว่าด้วยการ จัดรูปที่ดินและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง” โดย อ.พิชญ์ณัชชา ศรีหิรัญรัตน์ ประมวลภาพการฝึกอบรม


หน้า | 60 ประเมินผลลัพธ์การฝึกอบรม วันที่ 3 กรกฎาคม 2566 เกณฑ์ในการแปรผลค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 ระดับน้อยที่สุด 1.50 - 2.50 ระดับน้อย 2.51 - 3.50 ระดับปานกลาง 3.51 - 4.50 ระดับมาก 4.51 - 5.00 ระดับมากที่สุด ตารางที่ 19 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ อ.พิชญ์ณัชชา ศรีหิรัญรัตน์ รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ของความ พึงพอใจ ระดับการ ประเมิน 5 4 3 2 1 1.ความสอดคล้องของเนื้อหาวิชากับ วัตถุประสงค์ของการจัดอบรม 21 14 0 0 0 4.60 92.00 มากที่สุด 2.ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการ บรรยายหัวข้อนี้ 16 18 1 0 0 4.43 88.57 มาก 3.ความรอบรู้ของวิทยากร วิธีการ นำเสนอ และเอกสารประกอบการ บรรยาย 17 18 0 0 0 4.49 89.71 มาก 4.วิทยากรเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับ เวลา 16 11 7 1 0 4.20 84.00 มาก 5.วิทยากรเปิดโอกาสให้ซักถามและ ตอบคำถามได้ชัดเจน 17 17 1 0 0 4.46 89.14 มาก 6.เนื้อหาของหัวข้อการอบรมเป็น ประโยชน์ต่อท่าน 17 18 0 0 0 4.49 89.71 มาก 7.ท่านสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการ อบรมในหัวข้อนี้ไปใช้ประโยชน์และ/ หรือ ประยุกต์ใช้ได้จริง 19 15 0 1 0 4.49 89.71 มาก 8.ความพึงพอใจในภาพรวมของ วิทยากร 20 15 0 0 0 4.57 91.43 มากที่สุด 9.ความพึงพอใจในภาพรวมของวิชา 21 14 0 0 0 4.60 92.00 มากที่สุด รวม 4.48 89.59 มาก


หน้า | 61 ตารางที่ 19 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ อ.พิชญ์ณัชชา ศรีหิรัญรัตน์ โดยรวมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.48 และร้อยละของความพึงพอใจ เท่ากับ 89.59 สรุปผลการฝึกอบรมวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เวลา 09.00 -12.00 น. และ 13.00 – 16.00 น. ได้มีการนำเสนอ Project/ โครงการ/นโยบาย ของผู้เข้าอบรมที่ทางวิทยากรได้มอบหมายไว้ เพื่อนำไปต่อยอดกับเทศบาลของตนเอง โดย มี อ.พิชญ์ณัชชา ศรีหิรัญรัตน์ ผศ.ดร.ปนายุ ไชยรัตนานนท์ และ อ.มนต์ทวี จิระวัฒน์ทวี ประมวลภาพการฝึกอบรม


หน้า | 62


หน้า | 63 ประเมินผลลัพธ์การฝึกอบรม วันที่ 4 กรกฎาคม 2566 เกณฑ์ในการแปรผลค่าเฉลี่ย 1.00 - 1.50 ระดับน้อยที่สุด 1.50 - 2.50 ระดับน้อย 2.51 - 3.50 ระดับปานกลาง 3.51 - 4.50 ระดับมาก 4.51 - 5.00 ระดับมากที่สุด ตารางที่ 20 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ อ.พิชญ์ณัชชา ศรีหิรัญรัตน์ ผศ.ดร.ปนายุ ไชยรัตนานนท์ และ อ.มนต์ทวี จิระวัฒน์ทวี รายละเอียด ระดับความพึงพอใจ ค่าเฉลี่ย ร้อยละ ของความ พึงพอใจ ระดับการ ประเมิน 5 4 3 2 1 1.ความสอดคล้องของเนื้อหาวิชากับ วัตถุประสงค์ของการจัดอบรม 21 13 1 0 0 4.57 91.43 มากที่สุด 2.ความเหมาะสมของเวลาที่ใช้ในการ บรรยายหัวข้อนี้ 18 16 1 0 0 4.49 89.71 มาก 3.ความรอบรู้ของวิทยากร วิธีการ นำเสนอ และเอกสารประกอบการ บรรยาย 21 14 0 0 0 4.60 92.00 มากที่สุด 4.วิทยากรเสนอเนื้อหาเหมาะสมกับ เวลา 22 9 4 0 0 4.51 90.29 มากที่สุด 5.วิทยากรเปิดโอกาสให้ซักถามและ ตอบคำถามได้ชัดเจน 22 13 0 0 0 4.63 92.57 มากที่สุด 6.เนื้อหาของหัวข้อการอบรมเป็น ประโยชน์ต่อท่าน 27 8 0 0 0 4.77 95.43 มากที่สุด 7.ท่านสามารถนำสิ่งที่ได้รับจากการ อบรมในหัวข้อนี้ไปใช้ประโยชน์และ/ หรือ ประยุกต์ใช้ได้จริง 32 3 0 0 0 4.91 98.29 มากที่สุด 8.ความพึงพอใจในภาพรวมของ วิทยากร 24 11 0 0 0 4.69 93.71 มากที่สุด 9.ความพึงพอใจในภาพรวมของวิชา 29 6 0 0 0 4.83 96.57 มากที่สุด รวม 4.67 93.33 มากที่สุด


หน้า | 64 ตารางที่ 20 ความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการบรรยาย ของ อ.พิชญ์ณัชชา ศรีหิรัญรัตน์ ผศ.ดร.ปนายุ ไชยรัตนานนท์ และ อ.มนต์ทวี จิระวัฒน์ทวีโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.67 และร้อยละของความพึงพอใจ เท่ากับ 93.33 **************************************************


หน้า | 65 แบบสรุปข้อมูลการศึกษาดูงานต่างประเทศ ณ ประเทศมองโกเลีย และ สาธารณรัฐเกาหลี โครงการอบรมหลักสูตรการบริหารจัดการผังเมือง และโครงสร้างพื้นฐาน ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รุ่นที่ 4


หน้า | 66 แบบสรุปข้อมูลการศึกษาดูงานในต่างประเทศ หลักสูตรการบริหารจัดการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รุ่นที่ 4 สำหรับผู้บริหารและบุคลากรขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในเขตพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ชื่อสถานที่ศึกษาดูงานจุดที่ 1 : ประเทศเกาหลีใต้ 1. สรุปความสำคัญของหน่วยงานหรือสถานที่พอสังเขป ประเทศเกาหลีใต้หรือชื่อทางการ “สาธารณรัฐเกาหลี” เป็นประเทศที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก พื้นที่ครอบคลุมครึ่งส่วนใต้ของคาบสมุทรเกาหลี โดยในปี พ.ศ.2565 มีจำนวนประชากรอยู่ที่ 51,628,117 คน และมีรายได้หลักของประเทศที่ได้มาจากสินค้าประเภทสินค้าอุตสาหกรรมหนักและเทคโนโลยีระดับสูง เช่น เรือเดินสมุทร รถยนต์ เครื่องจักร สินค้าประเภทอิเล็กทรอนิกส์ และเครื่องมือสื่อสาร 2. หัวข้อและเนื้อหาสาระของการศึกษาดูงาน 2.1 สะพานอินชอน เมืองซองโด ประเทศเกาหลีใต้ 2.2 คลองซองกเยซอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ 2.1 สะพานอินชอน เมืองซองโด ประเทศเกาหลีใต้ เมืองอินชอน เป็นเมืองที่ตั้งของท่าอากาศยานนานาชาติอินชอน ที่มีสะพานอินชอนเป็นทางเชื่อม สำคัญ โดยมีโครงสร้างของสะพานที่ขึงเสริมคอนกรีต (Reinforced Concrete Cable-stayed Bridge) ซึ่งถูก ก่อสร้างในทะเล ทำให้โครงสร้างของสะพานมีความสูงและความโค้งไปตามทะเล เพื่อเชื่อมไปสู่เมืองชองโดและ กรุงโซล เพื่อให้การจราจรในเมืองนั้นมีความสะดวกรวดเร็วมากขึ้น และสะพานแห่งนี้ยังได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในสถาปัตยกรรมสำคัญของโลกด้วย ภาพที่ 1 – ส่วนหนึ่งของสะพาน Incheon จากสนามบินฯ สู่เมืองซองโด


หน้า | 67 เมืองซองโด ถือได้ว่าเป็นเมืองธุรกิจใหม่ ซึ่งเป็นเมืองใหม่ที่ถูกสร้างขึ้นจากการถมทะเล ได้จัดตั้งขึ้นเพื่อให้เป็น เขตธุรกิจสากล (International Business District : IBD) หรือเรียกได้ว่าเป็น “ย่านธุรกิจระหว่างประเทศ” ที่ มีบริษัทต่างชาติ บริษัทข้ามชาติ เข้ามาตั้งบริษัทในบริเวณพื้นที่ของเมืองนี้ รวมถึงการที่ในเมืองนี้นั้นมีพื้นที่สี เขียวและสวนสาธารณะ Songdo Central Park ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากการออกแบบของสวน Central Park ใน New York ซึ่งทำให้เป็นส่วนหนึ่งของการวางผังเมืองให้มีพื้นที่สีเขียวในบริเวณย่านใจกลางธุรกิจ ระหว่างประเทศก็ว่าได้ ซึ่งจะเห็นได้จากการออกแบบอาคารที่ทันสมัยและประหยัดพลังงาน เช่น ตึก Posco และนอกจากนี้ เมืองซองโดยังมีได้การบริหารจัดการรูปแบบการเดินทางที่หลากหลาย เช่น รถจักรยานไฟฟ้า ที่ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ให้สมกับเป็นเมืองอัจฉริยะ (Songdo Smart City) ภาพที่ 2 - ภาพมุมกว้างบริเวณสวนสาธารณะ Songdo Central Park . ภาพที่ 3 – ภาพจากอีกมุมของสวนสาธารณะ Songdo Central Park


หน้า | 68 ภาพที่ 4 - จักยานไฟฟ้าสาธารณะ ส่วนหนึ่งของการสัญจรของผู้คนในเมืองซองโด 2.2 คลองซองเกซอน กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ กรุงโซล เมืองหลวงของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งมีข้อมูลประชากรในปี 2566 มีจำนวนประชากรอยู่ที่ 9,659,322 คน ซึ่งเขตที่มีประชากรมากที่สุดในกรุงโซล คือ เขตซงพา (Songpa) รองลงมาเป็น เขตกังซอ (Gangseo) และเขตคังนัม (Gangnam) ซึ่งถ้าหากสังเกตจากภาพที่ 5 จะเห็นได้ว่า กรุงโซลเป็นเขตที่มีพื้นที่ ขนาดใหญ่และติดกับแม่น้ำฮัน และในกรุงโซลยังเป็นเมืองที่มีผู้อาศัยที่เป็นชาวต่างชาติ อยู่ถึง 245,229 คน ซึ่ง จากกราฟในภาพที่ 6 จะเห็นได้ว่าจำนวนประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองตั้งแต่ปี 2557 – 2566 นั้นมีแนวโน้มที่ ลดลงอย่างต่อเนื่อง เนื่องมาจากราคาที่อยู่อาศัยในเมืองพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว ซึ่งเป็นราคาที่เกินกว่าระดับ ความสามารถในการซื้อของผู้คนที่อาศัยอยู่ในเมืองจะซื้อได้ และส่วนมากผู้อยู่อาศัยที่เป็นครอบครัวต้องการ อาศัยในเมืองที่มีขนาดเล็กกว่าและอยู่ในบริเวณชานเมืองมากกว่า เนื่องจากต้องการหนีความวุ่นวายจากในตัว เมืองนั้นเอง ภาพที่ 5 - จำนวนประชากรในกรุงโซล จำแนกตามเขตต่างๆ ในกรุงโซล


หน้า | 69 ภาพที่ 6 - กราฟแสดงจำนวนประชากรผู้อยู่อาศัยในกรุงโซล ตั้งแต่ปี 2577 -2566 การขนส่งสาธารณะ ในกรุงโซล มีระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมด 3 ระบบ ได้แก่ รถบัส รถไฟฟ้าใต้ดิน และแท็กซี่ โดย รถบัส (Bus) จะมีการกำหนดสีของรถตามเส้นทางการเดินรถที่ให้บริการ เช่น สีแดง (Rapid Bus) จะ เป็นเส้นทางการเดินรถที่วิ่งตามรอบเมืองและบริเวณจุดศูนย์กลางของเมือง เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการ เดินทางให้กับผู้คนที่ต้องการเดินทางแบบอื่นนอกจากการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล และสำหรับนักท่องเที่ยวที่ ต้องการจะสำรวจรอบเมือง เป็นต้น รถไฟฟ้าใต้ดิน (Subway) จะมีการกำหนดเส้นทางการเดินรถและสถานีที่เชื่อมกันอย่างครอบคลุม โดยจะมีการแบ่งประเภทของบัตรโดยสารที่เป็นทั้งแบบจ่ายต่อครั้ง และแบบแพ็คเกจที่จ่ายตามระยะทาง แท็กซี่ (Taxi) จะมีการกำหนดาคาต่อระยะทางไว้อย่างชัดเจน ซึ่งจะมีการจำแนกประเภทแท็กซี่ตาม ขนาดของรถ และจะมีการแบ่งอัตราค่าโดยสารที่เป็นอัตราค่าบริการสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไว้อย่าง ชัดเจนเช่นกัน ซึ่งราคาค่าบริการก็จะมีความแตกต่างกันไปตามแต่ละพื้นที่ของเมือง ภาพที่ 7 – แผนผังเส้นทางและสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินในกรุงโซล


หน้า | 70 การจัดการเมืองและสถานที่ต่างๆ ในกรุงโซล จากการศึกษาดูงานในพื้นที่โดยรอบของเมืองและสถานที่สำคัญต่างๆของกรุงโซล ผู้เข้าอบรมจะเห็น ได้ถึงการจัดการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานในด้านต่างๆของเมืองอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งจะสังเกตได้จาก เทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ผู้ที่อาศัยอยู่เมืองมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และยัง พร้อมรองรับกับการเข้ามาของนักท่องเที่ยว การเติบโตของเมืองในอนาคต และยังเสริมสร้างความสามารถทาง กาแข่งขันในทุกมิติให้กับเมืองอีกด้วย ตัวอย่างของการจัดการเมืองและสถนที่ต่างๆ เช่น - Bukchon Hanok Village เป็นหมู่บ้านที่มีสถาปัตยกรรมเก่าแก่ในยุคสมัยก่อน ซึ่งยังเป็นบ้านที่ยัง มีผู้คนอาศัยอยู่ในปัจจุบัน ทางการเกาหลีจึงได้มีการจัดการและขอความร่วมมือนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมหมู่บ้าน งดใช้เสียง เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ - คลองซองกเยซอน (Chepnggyecheon) เดิมที่ใกล้คลองซองเกซอนนั้น มีชุมชนแออัด ทำให้เกิด มลพิษและมีปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมเป็นจำนวนมาก แต่ต่อมาทางการได้มีการพัฒนาเขตพื้นที่และทำการบำบัด น้ำเสีย แก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมต่างๆโดยรอบ จนทำให้ในปัจจุบันคลองซองเกซอนนั้นเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน ของคนกรุงโซลและยังเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับนักท่องเที่ยวอีกด้วย ภาพที่ 8 - คลองซองกเยซอน ภาพที่ 9 – ภาพอีกมุมของคลองซองกเยซอน


หน้า | 71 3. ความเชื่อมโยงกับหลักสูตร กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ถือได้ว่าเป็นเมืองตัวอย่างในการจัดการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐาน ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งผู้เข้าอบรมนั้นสามารถนำตัวอย่างของการจัดการผังเมืองที่ได้จากการศึกษาดูงานมา ประยุกต์ใช้กับการกำหนดแนวทางการพัฒนาเมืองได้ เนื่องจากประเทศเกาหลีใต้นั้นตั้งอยู่ในภูมิภาคที่ใกล้เคียง กับประเทศไทย และยังมีประเด็นปัญหาที่คล้ายคลึงกัน เช่น ราคาที่อยู่อาศัยในเมืองพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ดังนั้น ทางผู้เข้าอบรมจึงสามารถที่จะนำกรณีศึกษาและความรู้ที่ได้จากการศึกษาดูงานในครั้งนี้ไปใช้ใน การแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้ตามพื้นที่ของตน เพื่อใช้สำหรับการปรับใช้กับการวางแผนและกำหนดแนวทางพัฒนา โครงสร้างพื้นฐาน ทั้งในด้านของระบบขนส่งสาธารณะ สาธารณูปโภค และการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ ประชาชนในอนาคต 4. ประโยชน์ที่ได้รับจากการศึกษาดูงานและการนำไปปรับใช้กับ อปท. จากการศึกษาดูงานในสถานที่สำคัญต่างๆแล้ว ทางผู้เข้าอบรมจะเห็นได้ถึงการจัดการผังเมืองและ โครงสร้างพื้นฐานในมิติต่างๆของประเทศเกาหลีใต้ ทั้งในกรุงโซลและย่านเศรษฐกิจสากลของประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งทำให้เกิดการเปิดโลกทัศน์ใหม่ๆ ได้แลกเปลี่ยนมุมมอง ทัศนคติ ได้เรียนรู้การพัฒนาเมืองในปัจจุบันและใน อนาคต การวางระบบผังเมืองให้ทันสมัย ซึ่งสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับบริบทของเทศบาลนครนนทบุรีได้ใน มิติต่างๆ อาทิเช่น ตัวอย่างของคลองซองกเยซอน ที่สามารถนำมาเป็นต้นแบบของการฟื้นคืนคลองโบราณ สร้างพื้นที่แบ่งปันให้คนเมือง ซึ่งสามารถนำไปใช้เป็นแนวคิดในการแก้ไขปรับปรุงภูมิทัศน์ในพื้นที่แหล่งเสื่อม โทรมที่อยู่ในเขตเทศบาลนครนนทบุรี เพื่อลดการก่อมลพิษ และปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมให้กับเทศบาลนคร นนทบุรี เพื่อเปลี่ยนให้เทศบาลนครนนทบุรีเป็นเมืองน่าอยู่ มีสิ่งแวดล้อมที่ดี ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และนอกจากนี้ ยังได้ตัวอย่างแนวคิด แนวนโยบายด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในการพัฒนาพื้นที่ที่สำคัญ ด้านระบบกาคมนาคมและการขนส่งมวลลชน และปัจจัยของความสำเร็จในเรื่องของการบริหารจัดการผังเมือง และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของเมืองในประเทศเกาหลีใต้ ที่ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชาชนนั้นมี คุณภาพมากขึ้นและยังมีการเปลี่ยนแปลงในด้านต่างๆไปในทิศทางที่ดีอีกด้วย รวมถึงการได้รับแนวคิดจากการ ทำโครงการเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆที่อยู่ภายใต้อำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มี บทบาทสำคัญในการวางผังเมืองและการบริการสาธารณะในรูปแบบต่างๆ โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ใน การบริหารจัดการเมือง เพื่อเป็นการพัฒนาเมืองไปสู่เมืองแห่งอนาคต *************************************************


หน้า | 72 ชื่อสถานที่ศึกษาดูงานจุดที่ 2 : ประเทศมองโกเลีย 1. สรุปความสำคัญของหน่วยงานหรือสถานที่พอสังเขป ประเทศมองโกเลีย ตั้งอยู่ในทวีปเอเชีย มีพรมแดนทางเหนือติดกับประเทศรัสเซีย และทางใต้ติด กับประเทศจีน ภูมิประเทศส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูง ภูเขา ทุ่งหญ้า และไม่มีภูมิประเทศที่อาณาเขตติดกับทะเล มี จำนวนประชากรอยู่ที่ 3,353,470 คน โดยประมาณ มีเขตการปกครอง ที่แบ่งออกเป็น 21 จังหวัดรวมเมือง หลวง โดยประเทศมองโกเลียมีเมืองหลวงชื่อว่า “Ulaanbaatar” ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุด ในประเทศ โดยประชากรส่วนใหญ่ของประเทศจะประกอบอาชีพปศุสัตว์ เนื่องจากภูมิประเทศเอื้อต่อการ ประกอบอาชีพและง่ายต่อการเลี้ยงดู 2. หัวข้อและเนื้อหาสาระของการศึกษาดูงาน 2.1 บริบทและสภาพแวดล้อมของเมือง 2.2 ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์และการออกแบบสถาปัตยกรรม 2.1 บริบทและสภาพแวดล้อมของเมือง หลักคิดการพัฒนาเมืองและการจัดวางโครงสร้างพื้นฐานของการ ออกแบบผังเมืองและสถาปัตยกรรมของเมืองหลวงยุคใหม่ ณ เมืองหลวงอูลานบาตอร์ ผู้เข้าอบรมได้รับฟังการบรรยายเกี่ยวกับบริบทและสภาพแวดล้อมของเมือง หลักคิดการพัฒนาเมือง และกาจัดวางโครงสร้างพื้นฐานการออกแบบผังเมืองและสถาปัตยกรรมเมืองหลวงยุคใหม่อูลานบาตอร์ โดย Mr.Nyamdeleg Usukhbayar ตำแหน่ง 1. Person in Change of Ulaanbaartar Municipal planning 1. Advisor to Mayor Ulannbaartar 3. General Manager of Mongol Line Construction and Urban Planning Company Ltd. โดยข้อมูลที่ได้รับฟังจากการบรรยาย มีรายละเอียดดังนี้ Mr. Nyamdeleg Usukhbayar และท่านนายกเทศมนตรีนครนนทบุรี


หน้า | 73 1. ข้อมูลทั่วไป เมืองหลวงอูลานบาตอร์ ตั้งอยู่ในกรุงอูลานบาตอร์ (Ulan Bator) ซึ่งเดิมชื่อว่า “Urga” หรือ “Niislel Khureheh” ซึ่งเป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดในประเทสมองโกเลีย ซึ่งกรุงอูลานบาตอร์มี อาณาเขต อยู่ที่ 1,350 ตารางกิโลเมตร โดยเมืองนี้มีภูเขาล้อมรอบ 4 ลูก ได้แก่ ภูเขา Bogdkhaan, ภูเขา Bayanzurkh, ภูเขา Songino Khairkhan และ ภูเขา Chingeltei Khairkhan โดยในเมืองนี้มีประชากรอยู่ ประมาณ 1.553 ล้านคน กรุงอูลานบาตอร์เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมของประเทศมองโกเลีย มีโรงงานผลิตที่ สำคัญ ได้แก่ โรงงานปูนซีเมนต์ โรงงานเหล็กและอิฐ โรงงานรองเท้าและเครื่องนุ่งห่ม งานซ่อมแซมยานพาหนะ และโรงงานแปรรูปอาหาร 2. วิวัฒนาการการพัฒนาเมืองหลวงอูลานบาตอร์ ในช่วงแรกของเมืองหลวง มีการตั้งถิ่นฐานในใจกลางหุบเขา โดยมีรูปแบบที่อยู่อาศัยเป็นแบบกระโจม หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “เกอร์” โดยในสมัยก่อนเมืองที่มีการสร้างที่อยู่อาศัยแบบกระโจมจะมีชื่อเรียกว่า “URGOO” และ “NOMIN KHUREE” ก่อนที่ต่อมาจะมีการสร้างอาคารบ้านเรือนให้เป็นที่อยู่ประจำ ทำให้ เกิดการเรียกชื่อเมืองใหม่ว่า “IKH KHUREE” และ “NIISLEL KHUREE” และในปัจจุบันได้มีการพัฒนาที่อยู่ อาศัยและการจัดรูปผังเมืองและยังมีการเจริญเติบโตทางโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัยมากขึ้น ทำให้มีการเปลี่ยน ชื่อเมืองหลวงอีกครั้งเป็น “ULAANBAATAR” เมืองหลวงในปัจจุบันนั้นเอง 3. องค์ประกอบทางด้านกฎหมายและการพัฒนาเมืองที่สำคัญ เมืองหลวงอูลานบาตอร์ได้มีกฎหมายและประเด็นการพัฒนาเมืองที่สำคัญ ดังนี้ 3.1 นโยบายและแผนพัฒนาเมือง 3.2 กฎหมายผังเมือง 3.3 กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเมือง ซึ่งได้มีการกำหนดแผนแม่บทการพัฒนาเมืองในด้านต่างๆ ดังนี้ ยุทธศาสตร์การพัฒนาสีเขียว ยุทธศาสตร์การพัฒนาเศรษฐกิจ ระบบที่พักอาศัยของคนในเมือง ราคาที่พักอาศัยของคนในเมืองที่จับต้องได้ โครงการที่พักอาศัยของทหารผ่านศึก การจัดการความเสี่ยงเรื่องอุทกภัย เนื่องจากปัจจุบัน เมืองอูลานบาตร์ นั้นมีประชากรอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้เกิดความหนาแน่นที่สูง URGOO ปี 1639-1651 NOMIIN KHUREE ปี 1651-1706 IKH KHUREE ปี 1706-1911 NIISLEL KHUREE ปี 1912-1921 ULAANBAATAR ปี 1924-present


หน้า | 74 4. รูปแบบการวางผังเมืองของเมืองอูลานบาตอร์ เมืองอูลานบาตอร์ เป็นเมืองหลวงที่ขยายตัวอย่างรวดเร็วโดยไม่มีการวางแผน ซึ่งนำไปสู่ปัญหา การจราจรที่ติดขัด ทำให้เกิดปัญหาให้การวางโครงสร้างผังเมืองอย่างหนัก จนทำให้นายกเทศมนตรีของกรุง อูลานบาตอร์นั้นได้ออกกฎหมายออกมาว่า “ห้ามออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารใหม่ ยกเว้น โรงเรียน จนถึง ปี 2583” ซึ่งผังเมืองของอูลานบาตอร์นั้น ได้มีผู้เชี่ยวชาญออกมาพูดว่า “เป็นการลอกเลียนแบบ” ผังเมือง สไตล์โซเวียต ที่ต้องการตั้งที่ทำงานให้ห่างไกลเขตที่พักอาศัย แต่กลับกลายเป็นว่าตอนนี้ที่ทำงานนั้นเข้ามาใกล้ จัตุรัสหลักของเมือง ทำเกิดปัญหาการจราจรที่ติดขัด ซึ่งหลังจากที่นายกเทศมนตรีได้ประกาศออกกฎหมาย ห้ามออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารใหม่นั้น ทางการมองโกเลียก็ได้เริ่มมีการปรับแผนการวางผังเมืองใหม่ เพื่อ ลดปัญหาการจราจรติดขัดในปัจจุบัน 5. ปัญหาโดยภาพรวมของเมืองหลวงอูลานบาตอร์ 1. ไม่มีการวางแผนการใช้ที่ดินในพื้นที่ของเกอร์ ซึ่งทำให้ที่ดินมีปริมาณที่เพิ่มมากขึ้น 2. มีปัญหาด้านสภาพแวดล้อม เนื่องจากมีประชาชนอาศัยอยู่ในเมืองเป็นจำนวนมาก 3. มีการผลักดันคนที่อาศัยในรูปแบบเกอร์ ให้มาอาศัยอยู่ในเมือง ทำให้ที่อยู่อาศัยไม่เพียงพอ ภาพเมืองอูลานบาตอร์ ที่ได้ขนานนามว่า “ป่าคอนกรีต”


หน้า | 75 6. การขยายตัวของเมืองในอนาคต ปี 2030 จากแผนการขยายตัวของเมืองในปัจจุบัน จะเห็นได้ว่ามีการกระจุกตัวและมีความหนาแน่นของเมืองที่ อยู่ในพื้นที่เดียว คือ ใจกลางเมือง ซึ่งเมืองอูลานบาตอร์มีแผนการขยายตัวของเมืองไปสู่เมืองที่ทันสมัยในหลาย ศูนย์กลางของประเทศ เพื่อลดความแออัดของเมือง ปัจจุบัน แผนการขยายตัวของเมือง


หน้า | 76 2.2 ศิลปวัฒนธรรมที่เป็นอัตลักษณ์โดดเด่นและการออกแบบสถาปัตยกรรม รวมถึงการอนุรักษ์ศิลปะทาง วัฒนธรรม ที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับประเทศมองโกเลีย 2.2.1 อนุสาวรีย์เจงกิสข่าน อุทยานแห่งชาติ Chinggis Khaan Statue Complex เป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว และสันทนาการ ซึ่งมีสถานที่ ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง คือ “พระบรมรูปทรงม้าเจงกิสข่าน” (Equestrian Statue of Genghis Khan) ซึ่งเป็น รูปปั้นขี่ม้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นรูปปั้นที่เจงกิสข่านอยู่บนหลังม้า และหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ซึ่งหันไป ทางบ้านเกิดของเขา ขนาดของรูปปั้นมีความสูงอยู่ที่ 40 เมตร ไม่รวมฐานด้านล่างที่มีความสูงเท่ากับอาคาร สองชั้นสูง 10 เมตร รูปปั้นจะถูกปกคลุมไปด้วยสแตนเลส ที่มีน้ำหนักกว่า 250 ตัน ซึ่งอนุสาวรีย์ได้มีพิธีเปิด อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 26 กันยาย ค.ศ.2008 ในส่วนของบริเวณชั้นที่สอง ในส่วนของพิพิธภัณฑ์ซึ่งได้มีการจัดแสดงนิทรรศการถาวรเกี่ยวกับ ประวัติศาสตร์มองโกเลีย ตั้งแต่ยุคสำริดจนถึงจักรวรรดิมองโกล ในศตวรรษที่ 13 – 14 เพื่อบอกเล่าเรื่องราว วิถีชีวิตของชาวมองโกเลีย รวมไปถึงวัฒนธรรมประเพณี และการทำฟาร์มแบบดั้งเดิม ซึ่งในแต่ละห้องจะมีการ จัดแสดงหุ่นขี้ผึ้ง ที่ถูกปั้นขึ้นด้วยความประณีต เสมือนจริงที่ถูกตกแต่งด้วยเสื้อผ้าและเครื่องประดับ รวมไปถึง การจัดแสดงวัตถุโบราณ ที่เป็นเครื่องมือใช้สอยในชีวิตประจำวัน และยังมีสิ่งข้องที่เกี่ยวกับวัฒนธรรมประเพณี ต่างๆ ได้แก่ เกอร์, เข็มขัด, หัวเข็มขัด, มีด, สัตว์ศักดิ์สิทธิ์, เครื่องมือโบราณ, ไม้กางเขน และลูกประคำ และ นอกเหนือจากการถ่ายรูป จากด้านนอกอาคารแล้ว ยังสามารถที่จะเดินขึ้นไปยังจุดสูงสุดอย่างชั้นดาดฟ้าซึ่งจะ


หน้า | 77 เป็นจุดที่อยู่บนหัวของม้า ที่เป็นลานชวิวที่มีเอกลักษณ์ในเรื่องของการออกแบบสถาปัตยกรรม และรวมไปถึง การอนุรักษ์ศิลปะทางวัฒนธรรมที่สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้แก่ประเทศมองโกเลียได้อย่างมาก 2.2.2 อุทยานแห่งชาติกอร์เทเรลจ์ (Gorkhi Terelj National Par) อุทยานแห่งชาติกอร์เทเรลจ์ เป็นหนึ่งในอุทยานแห่งชาติที่เป็นพื้นที่คุ้มครองแห่งชาติ โดยรัฐสภามี มติในปี ค.ศ.1993 ตามด้วยมติของรัฐบาลในปี ค.ศ.1994 เพื่อปกป้องภูมิทัศน์ทางธรรมชาติ ด้วยการควบคุม การท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสม และมีบริเวณที่เป็นเขตคุ้มครองที่เรียกว่า “เขตอนุรักษ์คานเคนตีอิ” (Khan Khentii Strictly Protected Area) โดยอุทยานแห่งนี้อยู่ห่างจากเมือง อูลานบาตอร์ไปทางตะวันออกประมาณ 60 กิโลเมตร โดยเขตอุทยานจะมีภูมิทัศน์ที่สวยงาม สำหรับเหมาะกับ การเดินชมธรรมชาติ มีลำธารไหลผ่านที่มาจากแม่น้ำทูอูล (Tuul River) โดยภายในอุทยานเป็นที่อยู่อาศัยของ สัตว์ป่าและนกมากกว่า 250 สายพันธุ์ รวมถึงสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์อีกด้วย นอกจากนี้ ผู้เข้าอบรมยังได้เรียนรู้ วิธีชีวิตของชาวมองโกเลียที่อาศัยอยู่ในเกอร์ ซึ่งมีพื้นที่อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติที่ดำรงชีพด้วยการทำปศุสัตว์


หน้า | 78 และยังได้เข้าเยี่ยมชมมรดกทางวัฒนธรรมวัดอารียาบาล (Aryapala Temple) สถาปัตยกรรมแบบ ทิเบต โดยภายในวัดมีห้องโถงขนาดใหญ่ที่ถูกตกแต่งด้วยผ้าทังก้าที่มีสีสันสวยงาม และโดดเด่นด้วยองค์ พระพุทธรูปสีทองที่ประดิษฐานอยู่ตรงกลาง รวมทั้งภาพวาดปรัชญาพุทธศาสนา 220 ชิ้น ที่แสดงถึงความเชื่อ ที่แตกต่างของศาสนาและปรัชญาของพุทธศาสนา 2.2.3 จัตุรัสซัคบาทาร์ จัตุรัสซัคบาทาร์ หรือ จัตุรัสเจงกีสข่านสแควร์ เป็นจัตุรัสสาธารณะขนาดใหญ่ จัตุรัสแห่งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสำคัญ ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม และศูนย์กลางในการจัดกิจกรรมทาง วัฒนธรรมต่างๆในใจกลางเมืองอูลานบาตอร์ ซึ่งบริเวณโดยรอบของจัตุรัส ประกอบไปด้วยอาคารรัฐบาล, พิพิธภัณฑ์, สถานที่ท่องเที่ยว และรูปปั้นอนุสาวรีย์ของบุคคลสำคัญ รวมไปถึงการเป็นสถานที่สำหรับจัดงานพิธี สำคัญต่างๆของรัฐ คอนเสิร์ต นิทรรศการ และกิจกรรมทางวัฒนธรรม พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์มองโกเลีย และอนุสาวรีย์สามข่านผู้ยิ่งใหญ่แห่งจักรวรรดิมองโกล


หน้า | 79 2.2.4 อนุสรณ์สถานทหารผ่านศึกไซซาน อนุสรณ์สถานทหารผ่านศึกไซซาน เป็นอนุสรณ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงทหารพันธมิตร มองโกเลียและโซเวียต ที่ได้เสียชีวิตลงในสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งอนุสรณ์สถานแห่งนี้ ตั้งอยู่บนเนินเขาบอกด์ ข่าน ที่เป็นสถานที่ที่นิยมสำหรับการชมวิวทิวทัศน์ของเมืองอูลานบาตอร์ ซึ่งจะอยู่ในหุบเขาเบื้องล่าง รวมถึงมี แม่น้ำทูอูลที่ไหลผ่านเมือง ทำให้สามารถเห็นการวางผังเมืองของเมืองอูลานบาตอร์ในมุมสูงได้ และนอกจากนี้ ระหว่างที่ขึ้นไปชมอนุสรณ์สถานนั้นยังมีศูนย์ค้าปลีกที่มีสิ่งบันเทิงมากมาย เช่น สินค้าพื้นเมือง หรือร้านอาหาร ที่หลากหลาย ซึ่งถือได้ว่าเป็นการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวอีกด้วย 2.2.5 พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติมองโกเลีย พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์แห่งชาติมองโกเลีย ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2516 เป็นพิพิธภัณฑ์ที่ใหญ่ ที่สุดในประเทศ ปัจจุบันได้มีการเก็บรักษาวัตถุโบราณไว้เป็นจำนวนมาก โดยวัตถุโบราณที่มีแสดงให้เห็นจะเป็น ประวัติศาสตร์ในช่วงของเอเชียกลางและประวัติศาสตร์มองโกเลีย โดยจะเริ่มตั้งแต่ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ จนถึงช่วงสิ้นศตวรรษที่ 20 โดยภายในพิพิธภัณฑ์ได้แบ่งห้องจัดแสดงออกเป็น 10 ห้อง ได้แก่ ห้องแสดง ประวัติศาสตร์มองโกเลียยุคโบราณ ห้องแสดงเสื้อผ้าและเครื่องประดับชาวมองโกเลียสมัยก่อน ห้องแสดง จักวรรดิมองโกเลีย ห้องแสดงวัฒนธรรมดั้งเดิมมองโกเลีย ห้องแสดงวิถีชีวิตของชาวมองโกลโบราณ ห้องแสดง ประวัติศาสตร์มองโกเลียในช่วงศตวรรษต่างๆ รวมถึงการวิวัฒนาการทางการเมืองของมองโกเลีย


หน้า | 80 3. ความเชื่อมโยงกับหลักสูตร เมืองหลวงอูลานบาตอร์ถือเป็นเมืองตัวอย่างในการจัดการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ที่ผู้เข้าร่วมหลักสูตรสามารถนำตัวอย่างได้จากการศึกษาดูงานมาประยุกต์ใช้กับการกำหนดแนว ทางการพัฒนาเมืองในแต่ละพื้นที่ได้ เนื่องจากเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคใกล้เคียงกับประเทศไทย และมี ประเด็นปัญหาที่คล้ายคลึงกัน เช่น เรื่องของการวางผังเมืองที่เป็นไปได้ยาก จากการอาคารก่อสร้างที่เพิ่มมาก ขึ้น ปัญหาอุทกภัยที่ยังไม่สามารถจัดการได้อย่างทั่วถึง เป็นต้น ดังนั้นจึงสามารถนำกรณีศึกษามาใช้เป็น แนวทางในการแก้ปัญหาต่างๆ นำมาใช้ในการวางแผนและกำหนดแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งด้าน ระบบการขนส่งสาธารณะ สาธารณูปโภค และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชากร และยังเพื่อเป็นแนวทาง ในการวางผังเมืองให้มีความเป็นระเบียบมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้ จากการศึกษาดูงานในประเทศมองโกเลีย ยังสามารถนำมาเป็นบทเรียนในการจัดวางผังเมืองในอนาคตของเทศบาลนครนนทบุรีได้อีกด้วย 4. ประโยชน์ที่ได้รับตากการศึกษาดูงานและการนำไปปรับใช้ จากการศึกษาดูงานสถานที่สำคัญในประเทศมองโกเลียและรับฟังการบรรยาย ทำให้ผู้เข้าอบรม ได้เห็นถึงการจัดการผังเมืองและโครงสร้างพื้นฐานในมิติตต่างๆ โดยเมืองอูลานบาตอร์ เป็นเมืองที่มีความเจริญ ที่สุดของประเทสมองโกเลีย เป็นแหล่งรวมความบันเทิง ตึกสูง อาร์ตแกลเลอรี่ แหล่งรวมแฟชั่นสมัยใหม่ และ ความทันสมัยทันกระแสโลกยุคปัจจุบัน แต่ก็ยังการผสมผสานของวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมที่มีความเป็น เอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ผนวกกับวัฒนธรรมระหว่างเอเชียและยุโรปเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดทั้งความเหมือนและต่าง ของบริบทในแหล่งต่างๆของเมือง และจากการฟังบรรยายบริบทของเมืองหลวงอูลานบาตอร์ และได้มีการ เยี่ยมชมสถานที่ต่างๆของประเทศมองโกเลียแล้วนั้น ทำให้ผู้เข้าอบรมได้รับรู้ถึงองค์ความรู้ต้นแบบ และ แนวทางการบริหารจัดการเมือง การออกแบบผังเมือง การวางระบบโครงสร้างพื้นฐาน เช่น การออกแบบพื้นที่ สาธารณะที่เป็นจัตุรัสแห่งศูนย์รวมกิจกรรมและศูนย์รวมทางประวัติศาสตร์ที่สร้างมูลค่าของการท่องเที่ยว และ


หน้า | 81 การพัฒนาพื้นที่สาธารณะที่ประชาชนสามารถเข้าถึงได้และประชาชนยังสามารถใช้ประโยชน์ได้อีกด้วย และ จากการถอดบทเรียนปัจจัยความสำเร็จและปัญหาของประเทศมองโกเลียผ่านการศึกษาดูงานและการเยี่ยมชม สถานที่ต่างๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับพื้นที่ของเทศบาลนครนนทบุรี ในการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและการ จัดการมลพิษ การวางผังเมืองที่เป็นระบบและการขยายตัวของเมืองจากใจกลางเมืองไปยังพื้นที่หลากหลาย เพื่อลดปัญหาความแออัด และเพื่อให้เกิดการผสมผสานวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม และการอนุรักษ์มรดกทาง วัฒนธรรมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับคนในชุมชนอีกด้วย ******************************************************


หน้า | 82 ภาพกิจกรรมพิธีปิดโครงการอบรม และมอบวุฒิบัตร หลักสูตรการบริหารจัดการผังเมืองและ โครงสร้างพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รุ่นที่ 4


หน้า | 83


หน้า | 84


หน้า | 85


หน้า | 86


หน้า | 87


หน้า | 88


หน้า | 89


หน้า | 90


หน้า | 91


หน้า | 92


หน้า | 93


หน้า | 94


หน้า | 95


Click to View FlipBook Version