Diary สำหรับอีบุ๊ค

๔๓

สำนักสงฆส์ รุ นิ ทร์ประชาสรรค์ ตง้ั อยูบ่ ้านเลขท่ี ๒๐๐ หมูที่
๘ ตำบลลานขอ่ ย อำเภอปา่ พะยอม จงั หวดั พทั ลุง มจี ำนวนทด่ี ี ๑๘
ไร่ โดยมีอาณาเขต ทิศเหนือจดถนน ทิศตะวันออกจดถนน ทิศใต้
จดที่ดินของนางสาวละเมียด ทองคำแก้ว ทิศตะวันตกจดที่ดินของ
นายชุมพล ทิพสงคราม สำหนักสงฆ์สุรินทร์ประชาสรรค์ได้รับ
บริจาคที่ดินในการสร้างโดยนายหมา ทองคำแก้วและนายนรณ สง
ขาว ให้กับพระมหาสุรินทร์ เพื่อสร้างสำนักสงฆ์ เมื่อปีพุทธศักราช
๒๕๒๗
แหลง่ เรียนรู/้ โรงเรยี น/ห้องสมุดชุมชน

โรงเรียนที่ตั้งอยู่ในตำบลลานข่อยมีจำนวน ๘ แห่ง แยก
ออกเปน็ ดังนี้

• ศูนยพ์ ัฒนาเด็กเล็กจำนวน ๒ แห่ง ไดแ้ ก่
1. ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เล็กเทศบาลตำบลลานข่อย(มาดน่งั )

๔๔

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลลานข่อย(มาด
นั่ง) ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ ๗ ตำบลลานข่อย อำเภอป่า
พะยอม จังหวัดพัทลุง มีบุคลากร จำนวน ๓ คน และ
จำนวนนกั เรียน ๖๔ คน
2. ศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ เลก็ บ้านทุ่งชมุ พล

๔๕

ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กบ้านทุ่งชุมพล ตั้งอยู่ในพื้นท่ี
หมู่ที่ ๓ ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพทั ลุง มี
บคุ ลากร จำนวน ๔ คนและจำนวนนกั เรยี น ๘๙ คน
• โรงเรยี นประถมศึกษาจำนวน ๕ แหง่ ได้แก่
1. โรงเรยี นบา้ นลานข่อย ตั้งอยู่ในพ้นื ที่ หมู่ที่ ๑ ตำบลลาน
ขอ่ ย อำเภอปา่ พะยอม จังหวดั พทั ลุง

ประวตั คิ วามเปน็ มา
ทุ่งลาน เดิมเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งอยู่ในหมู่ที่ ๒ ตำบล

ลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นหมู่ท่ี
๑ ตำบลลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง สมัยก่อนเป็นท่ี
อาศยั ของโจรผรู้ ้ายซึ่งหลบหนีการจบั กุมเจ้าหน้าท่ี พื้นท่ีดังกล่าวอยู่
หา่ งไกลชมุ ชน สถาพเป็นปา่ กวา้ งและเดินทางไปมาไม่สะดวกเพราะ
ไม่มีถนน ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๔๙๕ ได้มีราษฎรจากอำเภอหัว

๔๖

ไทร อำเภอเชียรใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราชและจากอำเภอระ
โนด อพยพเข้ามาประกอบอาชีพในการทำไร่ ทำสวน เป็นจำนวน
มาก ประกอบกับเวลานั้นได้มีโรงเลื่อยเกิดขึ้นในอำเภอชะอวด
เจ้าของโรงเลื่อยได้กรุยทางเป็นถนนเพื่อให้เพื่อรถบรรทุกไปได้
สะดวก สัตว์ป่าที่เคยชุกชุมหลบหนีไป ทำให้การทำไร่ทำสวนของ
ชาวบ้านได้ผลเป็นที่น่าพอใจ จึงชักชวนญาติพ่ีน้องเข้ามารับรอง
ที่ดินทำกินมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีราษฎรมากขึ้นก็เกิดความต้องการ
ให้ลูกหลายได้เรียนหนังสือ จึงคิดสร้างโรงเรียน โดยมอบหมายให้
นายนัต ชูขุนนำ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ ๒ ตำบลเกาะเต่า อำเภอป่า
พะยอม จังหวัดพัทลุง ขอที่ดินนายกขวัญแก้ว เพื่อใช้เป็นที่ต้ัง
โรงเรียนและได้ช่วยกันสร้างอาคารชั่วคราวขึ้น ๑ หลัง ขนาด ๓
ห้องเรียน หลังคามุงสังกะสีฝาไม้ไผ่สาน เสร็จแล้วทำคำร้องขอขอ
จัดตั้งโรงเรียน วันที่ ๑๕ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๐๖ ทาง
ราชการได้มอบหมายให้นายสิลาช ถาวรโรจน์ ศึกษาธิการอำเภอ
ควนขนุน นายเยือง ทองมาก ประธานกลุ่มพายัพและครูจำนวน
หลายท่าน มาทำพิธีเปิดโรงเรียนบ้านลานข่อยขึ้นและได้แต่งตั้งให้
นายพ่วง เทพทอง ครูใหญ่โรงเรียนบ้านป่าพะยอม มารักษาการใน
ตำแหน่งครูใหญ่ ไปพลางก่อนและปฏิบัติหน้าที่อยู่เพียงคนเดียว
เมื่อวันที่ ๑๕ เดือนสิงหาคม พุทธศักราช ๒๕๐๗ ทางราชการได้ส่ง
ตัวนายไชยขันธ์ มุสโกภาส ครูโรงเรียนบ้านโดนคลาน มาทำการ
สอนเพิ่มอีก ๑ คน ขณะนั้นมีครู ๒ คน นักเรียน ๖๗ คน เปิดทำ
การสอนตั้งแต่ชั้น ประถมศึกษาปีที่ ๑ – ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
วนั ท่ี ๒๔ เดอื นมิถุนายน พุทธศกั ราช ๒๕๐๘ ทางราชการได้ส่งตัว

๔๗

นายสถิต คงหอม มาสอนแทนนายไชยขันธุ์ มุสโกภาส ซึ่งย้ายกลับ
ภูมิลำเนา เริ่มเปิดสอนชั้นประถมศึกษาตอนปลายในปีการศึกษา
๒๕๑๘ โดยไมบ่ งั คบั นักเรียน

ปัจจุบันโรงเรียนบ้านลานข่อยมีจำนวนบุคลากร จำนวน
๑๕ คน และจำนวนนกั เรยี นจำนวน ๒๒๘ คน

วิสยั ทัศน์

โรงเรียนบ้านลานข่อยจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีความรู้ มี
คุณธรรม จริยธรรม ดำรงชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ตามมาตรฐานการศึกษา

พนั ธกจิ

๑. จัดให้มีระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในโรงเรียน
และดำเนินการพัฒนาผู้เรียนครู ให้มีคุณภาพตาม
มาตรฐานการศึกษา

๒. จัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และบูรณา
การตามความเหมาะสม

๓. จัดให้มีการนิเทศที่เป็นระบบ กำหนดปฎิทนิ และเปา้ หมาย
ท่ชี ัดเจน

๔. จัดให้มีการใช้แหล่งเรยี นรู้ ภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นท่ีหลากหลาย
ทง้ั ในและนอกสถานศึกษา

๕. จัดกิจกรรมการเรียรู้ที่หลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนได้พัฒนา
ตนเองตามศักยภาพ มีทักษะ กระบวนการคิด สามารถ

๔๘

แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง และมีความสามารถในการนำ
เทคโนโลยี มาใช้ใหเ้ ป็นประโยชน์ตอ่ การเรียนรู้
๖. จดั กิจกรรมเพ่อื พัฒนาครูให้สามารถจัดการเรยี นการสอนท่ี
เน้นผูเ้ รยี นเป็นสำคญั
๗. จัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มี
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพยี ง
๘. จัดให้มีกิจกรรมเสริมการเรียนรู้ เพื่อให้ผู้เรียนได้ฝกึ ปฏิบตั ิ
จริง มีทักษะ และรักการทำงานมีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพ
สจุ รติ

2. โรงเรียนบ้านทุง่ ชุมพล ตงั้ อยู่ในพ้ืนที่ หมทู่ ่ี ๓ ตำบลลาน
ขอ่ ย อำเภอป่าพะยอม จงั หวดั พัทลงุ

๔๙

ประวตั ิความเป็นมา

ในปีพุทธศักราช ๒๕๑๖ กระทรวงมหาดไทยโดยกรม
ประชาสงเคราะห์ได้ส่งเจ้าหน้าที่มายังหมู่ที่ ๗ ตำบลเกาะเต่า
อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง ปัจจุบันแยกเป็นหมู่ที่ ๑ ตำบลลาน
ข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง เพื่อจัดสรรที่ดินรกร้างว่าง
เปล่า จัดตั้งนิคมสร้างตนเองควนขนุน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนมีทีด่ นิ
เป็นกรรมสิทธิ์ ถูกต้องตามกฎหมาย ทำให้ราษฎรอพยพเข้ามาอยู่
หนาแน่นขึ้นในเขตบ้านทุ่งชุมพล บ้านควนแมงภู่ บ้านห้วยเรียน
บ้านลำกุม ซึ่งก่อนหน้าการจัดตั้งนิคมสร้างตนเองควนขนุน เด็กใน
บริเวณนี้ต้องเดินทางไปเรียนหนังสือที่โรงเรียนบ้านลานข่อย
ประมาณ ๘-๑๕ กิโลเมตร

ปพี ุทธศักราช ๒๕๑๗ ราษฎรในพื้นทีน่ ำโดยนายถวิล หมัด
ขาว ได้คิดที่จัดสร้างโรงเรียนขึ้น เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของ
เด็กๆ ที่ต้องเดินทางไกล โดยการประสานงานกับทางนิคมสร้าง
ตนเองควนขนนุ เพ่ือของบประมาณ ซง่ึ ทางกรมประชาสงเคราะห์ได้
จัดสรรมาให้สร้างอาคารเรียนกึ่งถาวร ๑ หลัง ๒ ห้องเรียน พร้อม
วัสดุ ครุภัณฑ์ สำหรับที่ดิน นายถวิล หมัดขาว บริจาคจำนวน ๑๐
ไร่ นายหวัง หมดั ขาว บรจิ าค ๓ ไร่ ๒ งาน รวมเน้อื ที่ ๑๓ ไร่ ๒ งาน
ซง่ึ มอี าณาเขต ดังนี้

ทิศเหนือ จดถนนประชาสงเคราะห์ ๑

ทิศตะวนั ออก จดถนนสาธารณะ

๕๐

ทิศใต้ จดถนนประชาสงเคราะห์

ทิศตะวันตก จดที่ดนิ นายจรัส มเี สน

วันที่ ๑๗ เดือนพฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๑๗ ได้เปิดทำ
การสอนครัง้ แรก

ปัจจุบันโรงเรียนบ้านทุ่งชุมพลมีจำนวนบุคลากร จำนวน
๑๗ คน และจำนวนนักเรียนจำนวน ๒๔๗ คน

วสิ ยั ทัศน์

นักเรียนโรงเรียนบ้านทุ่มชุมพล มีคุณภาพและคุณธรรม
ชีวิตตามมาตรฐานสถานศึกษา กำหนดภายใต้ระบบดูแลช่วยเหลือ
นักเรียนที่ดี มีการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม ยึดหลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพยี ง และนกั เรยี นมีทักษะท่ีจำเปน็ ในศตวรรษที่ ๒๑

พันธกิจ

๑. จัดการเรียนรู้โดยผู้เรียนเป็นสำคัญตามมาตรฐานของ
หลักสูตร

๒. ส่งเสรมิ และพัฒนาครูสู่มาตรฐานวชิ าชพี
๓. สร้างความตระหนักเพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัด

การศึกษา
๔. โรงเรียนเปน็ ศูนย์กลางดา้ นเทคโนโลยี
๕. จดั กจิ กรรมอนรุ ักษว์ ัฒนธรรมและประเพณีท้องถนิ่

๕๑

3. โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ ๔ ตำบล
ลานขอ่ ย อำเภอป่าพะยอม จงั หวดั พทั ลงุ

ประวตั คิ วามเป็นมา
โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ ตั้งอยู่หมู่ที่ ๔ ตำบลลานข่อย

อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง สร้างเมื่อพุทธศักราช ๒๕๒๒ เดิม
ชื่อ โรงเรียนนิคมสร้างตนเองควนขนุน ๒ โดยนายปลื้ม เสียงดัง
หวั หนา้ นคิ มสร้างตนเองควนขนุน พรอ้ มด้วยคณะกรรมการหมูบ้าน
บ้านห้วยน้ำดำ ได้ร่วมกันคิดและขอความร่วมมือจากหมู่บ้าน
ใกล้เคียง โดยขอบริจาคที่ดินเพื่อเป็นที่ตั้งของโรงเรียน ซึ่งมีผู้
บริจาคที่ดนิ ดงั นี้

๕๒

๑. นายเผยี น จนั ทร์มี บรจิ าคที่ดิน ๔ ไร่
๒. นายสวา่ ง พงศาปาน บริจาคที่ดนิ ๑ ไรเ่ ศษ
๓. นายสวุ รรณ จนั ทร์มี บริจาคทด่ี นิ ๑ ไร่เศษ
๔. นายจรูญ ทองคง บรจิ าคท่ดี นิ ๑ ไรเ่ ศษ

จากนั้นได้มีผู้มีจิตศรัทธาบริจาคเงินซื้อที่ดินเพิ่มเติมอีก
ตามลำดับ จนถึงขณะนี้มีที่ดินจำนวน ๑๗ ไร่ ๑งาน ๒๑ ตารางวา
มอี าณาเขตดังนี้

ทิศเหนอื จดถนนประชาสงเคราะห์

ทศิ ใต้ จดห้วยนำ้ ดำ

ทิศตะวนั ออก จดที่ดนิ ของนายจรูญ ทองคง

ทิศตะวันตก จดที่ดินของนายสวา่ ง พงศาปาน และนาย
ผนั จนั ทร์มี

การเรียนการสอน เปิดสอนตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๒๒ โดย
มีนายอำนวย ศรีรักษ์ เป็นผู้รักษาการในตำแหน่งครูใหญ่ โดยเปิด
สอนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มีนักเรียน ๒๒ คน และเปิดขยายปี
การศึกษาละ ๑ ชั้น จนถึงช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ ในปีการศึกษา
๒๕๒๗

ปัจจุบันโรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำมีจำนวนบุคลากร จำนวน
๑๔ คน และจำนวนนกั เรียนจำนวน ๒๓๖ คน

๕๓

วิสยั ทัศน์

โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ เป็นโรงเรียนคุณภาพ ครูจัดการ
เรียนรแู้ บบมืออาชีพ นักเรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาข้ัน
พ้ืนฐาน มีคณุ ธรรมจริยธรรม นอ้ มนำหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
มาสู่การปฏบิ ตั ิ

พันธกิจ

๑. จดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนทีย่ ดึ ผู้เรยี นเป็นสำคญั
๒. พัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ คู่คุณธรรม ปลูกฝังให้นักเรียน

สามารถดำรงตนยึดมน่ั ในหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๓. พัฒนาครใู ห้เป็นครูมอื อาชีพ
๔. บรหิ ารจดั การสถานศกึ ษาภานใตห้ ลกั ธรรมาภบิ าล
๕. จัดสภาพแวดล้อมภายในโรงเรียนใหเ้ อือ้ ตอ่ การเรยี นรู้
๖. จัดระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อสนับสนุนการบริหาร

จัดการและการจดั การเรียนรู้

๕๔

4. โรงเรียนบ้านถ้ำลา ตั้งอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ ๙ ตำบลลาน
ขอ่ ย อำเภอปา่ พะยอม จงั หวดั พัทลงุ

ประวตั คิ วามเปน็ มา
โรงเรยี นบ้านถำ้ ลา ต้งั อยหู่ มู่ที่ ๕ ตำบลลานขอ่ ย อำเภอปา่

พะยอม จงั หวดั พัทลงุ ผ้ดู ำเนนิ การจัดต้งั ได้แก่ นาย ธวัช โพธิสุทหร
รองผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง และนายพิเชษฐ์ ปุรินทราภิบาล
ร่วมกันจัดตั้งในปีพุทธศักราช ๒๕๒๖ ทั้งสองได้มาครูวงราชการที่
ตำบลลานข่อย ได้ทราบถึงความเดือดร้อนของนักเรียนในเขตพื้นที่
หมู่ที่ ๔ และหมูที่ ๕ ว่าเด็กเหล่านี้ต้องเดินทางไกลไปโรงเรียนเกิน
กว่า ๖ กิโลเมตร ประกอบกับเป็นทางทุรกันดาร ดังนั้นบุคคลท้ัง
สองได้รับปากกับผู้นำหมู่บ้านและประชาชนในเขตพื้นที่ว่าจะ
ประสานงานกับทางจังหวัดให้จัดตั้งพื้นที่ดังกล่าว เพื่อการศึกษา
ของบุตรหลานต่อไป ดังนั้นประชาชนและผู้นำในท้องถิ่นได้ร่วมกัน
บริจาคท่ีดินทีค่ รอบครองเป็นทีต่ ้งั อาคารเรียน ดงั ตอ่ ไปนี้

๕๕

๑. นายผอม หลินมา บริจาคให้ จำนวน ๕ ไร่
๒. นายเอยี ด เพชรสง บรจิ าคให้ จำนวน ๔ ไร่
๓. นายขัน เรืองแก้ว บริจาคให้ จำนวน ๓ ไร่
๔. นายเชย แปนชมุ บรจิ าคให้ จำนวน ๓ ไร่
๕. นายจติ ร เพชรสง บรจิ าคให้ จำนวน ๒ ไร่

รวมเนื้อที่ที่ได้รับบริจาคทั้งหมด ๑๘ ไร่ เนื้อที่ดินพร้อม
ราษฎร ในเขตพื้นที่หมู่ที่ ๓ และหมู่ที่ ๕ จึงพร้อมใจกันบริจาคเงิน
จดั สร้างอาคารเรียนชั่วคราว จำนวน ๑ หลงั เปน็ เงนิ ๕,๐๐๐ บาท
มาจากของประชาชน ๓,๐๐๐ บาท และเงินจัดสรรจากสภาตำบล
ลานขอ่ ย จำนวน ๒,๐๐๐ บาท

ปัจจุบันโรงเรียนบ้านถ้ำลามีจำนวนบุคลากร จำนวน ๑๐
คน และจำนวนนกั เรียนจำนวน ๑๐๒ คน

วิสยั ทัศน์

ภายในปี 2564 โรงเรียนบ้านถ้ำลา พัฒนาผู้เรียนตาม
มาตรฐานการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน บนพน้ื ฐานของคณุ ธรรม บริหารงาน
แบบมีส่วนร่วม จัดกระบวนการสอนเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ น้อมนำ
หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง เปน็ โรงเรียนมคี ณุ ภาพ

พนั ธกจิ

๑. จดั กิจกรรมพัฒนาผลสมั ฤทธิ์ทางวิชาการของผ้เู รียน

๕๖

๒. ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะที่สังคมพึง
ประสงค์

๓. ส่งเสริมให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการจัด
การศกึ ษา

๔. พัฒนาครูสู่ครูมืออาชีพที่จัดกระบวนการสอนเน้นผู้เรียน
เปน็ สำคัญ

๕. จัดกิจกรรมส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะการดำรงชีวิตตาม
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

๖. พฒั นาระบบประกันคุณภาพภายในใหม้ ปี ระสิทธิผล

5. โรงเรียนบ้านห้วยสีเกษร ตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ที่ ๗ ตำบล
ลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จงั หวัดพทั ลงุ

๕๗

ประวตั ิความเปน็ มา

โรงเรียนห้วยศรีเกสร ได้จัดตั้งขึ้นด้วยเพราะเหตุราษฎร
บ้านห้วยกรวดเหนือ บ้านห้วยหลุด บ้านห้วยศรีเกษร และบ้าน
ใกล้เคียงประมาณ ๗๐ ครัวเรือน ต้องส่งบุตรหลานไปเรียนท่ี
โรงเรียนบ้านห้วยกรวด ซึ่งห่างไปทางทิศใต้ประมาณ ๕ กิโลเมตร
และมีคลองห้วยกรวดแบ่งกั้นเป็นอุปสรรคในการเดินไปกลับ และ
โรงเรียนบ้านลานข่อยก็ห่างออกไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
ประมาณ ๖ กโิ ลเมตร ซึง่ ไกลเกินไปสำหรับนักเรียนเดินทางไปกลับ
ราษฎรภายใต้การนำของนายปลื้ม เสียงดัง ผู้ปกครองนิคมสร้าง
ตนเองควนขนุน นายเจริญ แป้นย้อย และนายไสว จันทร์มณี
ร่วมกันปรึกษาหารือหรือชักนำราษฎรเพื่อหาสถานที่ตั้ง โดย
เบ้ืองต้น มีผู้อุทิศทีด่ นิ จำนวน ๖ ราย รวมเนือ้ ท่ี ๘ ไร่

๑. นายถาวร ทองชว่ ย อุทิศทีด่ นิ จำนวน ๒ ไร่
๒. นายแปลก ชูปาน อุทิศทีด่ ิน จำนวน ๒ ไร่
๓. นายไสว จนั ทรม์ ณี อุทศิ ทีด่ นิ จำนวน ๑ ไร่
๔. นายสวา่ ง แสงเกลี้ยง อุทศิ ท่ดี นิ จำนวน ๑ ไร่
๕. นายเพยี ร เรืองนนุ่ อุทศิ ท่ีดิน จำนวน ๑ ไร่
๖. นายเคลอื่ น ยกเล็ก อทุ ศิ ที่ดิน จำนวน ๓ งาน

ราษฎรรว่ มมือกนั สละเงนิ ท้ังสน้ิ ๑,๕๐๐ บาท ซื้อที่ดินของ
นายเพียร เรืองนุ่น เพิ่มเติมอีก ๓ ไร่ ๒ งาน ๕๖ ตารางวา แล้วจึง
เสนอเรื่องราวจัดตั้งโรงเรียนไปยัง สำนักงานประถมศึกษาอำเภอ

๕๘

ควนขนุน สำนกงานประถมศึกษาจังหวัดพัทลุง อนุมัติให้ทำการ
เรียนการสอนตั้งแต่ปีการศึกษา๒๕๒๖ เป็นต้นมา โดยราษฎรได้
สร้างอาคารเรียนชั่วคราวขึ้น ๑ หลัง ขนาด ๓ ห้องเรียน กว้าง ๗
เมตร ยาว๑๒ เมตร เสาไม้กลม หลังคามุงจาก ฝาไม้ขัดแตะ สิ้น
คา่ ใชจ้ ่ายประมาณ ๓,๐๐๐ บาท เปิดทำการสอนเปน็ ปฐมฤกษ์ เมื่อ
วนั ท่ี ๖ เดือนพฤษภาคม พทุ ธศักราช๒๕๒๖ โดยมีนายเปรม สทุ ธา
เวศ นายอำเภอควนขนุ น เป็นประชาชน

วนั ที่ ๑๖ เดอื นพฤษภาคม พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ โรงเรียนได้
ดำเนินการถ่ายโอนการจัดการศึกษาจากสำนักงานเขตพื้นท่ี
การศึกษาประถมศึกษาพัทลุงเขต ๑ มาสังกัดเทศบาลตำบลลาน
ขอ่ ย

ปัจจบุ นั โรงเรยี นบ้านห้วยศรีเกสรมีจำนวนบุคลากรจำนวน
๑๒ คน และจำนวนนกั เรียน จำนวน ๔๙ คน

วิสัยทศั น์

โรงเรียนบ้านห้วยศรีเกษรส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการจัด
การศึกษาอย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ก้าวทัน
เทคโนโลยี นอ้ มนำปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

พนั ธกิจ

๑. สง่ เสรมิ การมีส่วนรว่ มของผ้เู กย่ี วขอ้ งในการจดั การศกึ ษา

๕๙

๒. พัฒนาคุณภาพการจัดการการศึกษาให้เป็นไปตาม
มาตรฐานการศึกษา

๓. พัฒนาจัดหาสื่อ แหล่งเรียนรู้ เทคโนโลยี และอาคาร
สถานท่ี เหมาะสม พอเพยี งและทนั สมัย

๔. ส่งเสริมบริหารจัดสรรและการเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพยี ง

๕. พัฒนาคณุ ภาพผูบ้ รหิ าร ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา

• โรงเรียนมธั ยมศึกษาจำนวน ๑ แห่ง ได้แก่
1. โรงเรียนนิคมควนขนนุ วิทยา ตัง้ อยูใ่ นพน้ื ที่ หมูท่ ี่ ๑

ตำบลลานข่อย อำเภอปา่ พะยอม จังหวดั พัทลุง

๖๐

ประวัตคิ วามเป็นมา

โรงเรียนนิคมควนขนุนวิทยา เป็นโรงเรียนมัธยมศึกษา
ระดับตำบล ตั้งอยู่เลขที่ ๖ หมู่ที่ ๑ ตำบลลานข่อย อำเภอป่า
พะยอม จังหวัดพัทลุง ได้รับอนุมัติให้จัดตั้งเมื่อวันที่ ๑๗ เดือน
เมษายน พุทธศักราช ๒๕๓๓ กรมสามัญศึกษาอนุมัติให้รับนักเรียน
เป็นสหศกึ ษาจำนวน ๒ หอ้ งเรียน

ในปีการศึกษา ๒๕๓๓ เปิดทำการสอนเม่ือวันที่ ๑๐ เดือน
พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๓๓ โดยใช้อาคารเรียนโรงเรียนบ้าน
ลานข่อย สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ
เปน็ ทที่ ำการชว่ั คราว

โรงเรียนนิคมควนขนุนวิทยา ขอจัดตั้งมาตั้งแต่ปี
พุทธศักราช ๒๕๒๖ แต่เรื่องก็เงียบหายไปในปีพุทธศักราช ๒๕๓๓
ประชาชนตำบลลานข่อย ไดท้ ำเรื่องเสนอผา่ นนายสานนั ท์ สพุ รรณ
ชนะบรุ ี สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรจงั หวัดพัทลุง โดยนายสานันท์ ได้
ติดต่อประสานงานกับกรมสามัญศึกษา กรมสามัญศึกษาได้มอบให้
คณะกรรมสามญั ศกึ ษาจังหวดั พัทลงุ ดำเนนิ การและได้มอบหมายให้
นายครื้น แก้วนุ้ย ซึ่งเป็นคณะกรรมการสามัญศึกษาจังหวัดพัทลงุ
ติดต่อประสานงานกับนิคมสร้างตนเองควนขนุน เพื่อให้ใช้ที่ดินใน
การจัดตั้งโรงเรียนซึ่งทางนิคมควนขนุนได้มอบที่ดินให้จำนวน ๒๖
ไร่ ใช้เป็นที่จัดตั้งโรงเรียน เมื่อวันที่ ๔ เดือนกันยายน พุทธศักราช
๒๕๓๓ สามัญศึกษาจังหวัดพัทลุง ได้แต่งตั้งให้นายพล ยกขุน

๖๑

อาจารย์ใหญ่โรงเรียนป่าพะยอมพิทยาคมรักษาการในตำแหน่ง
ครูใหญ่ โดยมอบหมายให้นายครื้น แก้วนุ้ย ในฐานะกรมสามัญ
ศึกษาจังหวัดพัทลุง เป็นผู้ดูแลแทนผู้รักษาการ ระยะแรกทาง
จังหวัดขอครูผู้สอนจากโรงเรียนบ้านลานข่อยสังกัดสำนักงาน
คณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ มาทำการสอน ๔
ตำแหน่ง วันที่ ๒๐ สิงหาคม ๒๕๓๓ กรมสามัญศึกษาแต่งตั้งนาย
ครื้น แก้วนุ้ย อาจารย์ ๑ โรงเรียนอุดมวิทยายน มารักษาการใน
ตำแหน่งครูใหญ่เปิดโรงเรียนวันแรกมีนักเรียนมาลงทะเบียนเรียน
๙๐ คน โรงเรียนได้เปิดเรียนและได้ย้ายตั้งอยู่ที่ปัจจุบันโดยได้รับ
ความอนุเคราะห์จากนิคมสร้างตนเองควนขนุน เพิ่มเติมอีก ๑๒ ไร่
๔๗ ตารางวา รวมเนื้อที่ของโรงเรียนทั้งหมด ๓๘ ไร่ ๔๗ ตารางวา
ปัจจุบันเปิดสอนระดับ ม.๑ - ม.๖ ตั้งอยู่เลขที่ ๖ หมู่ที่ ๑ ตำบล
ลานข่อย อำเภอป่าพะยอม จังหวัดพัทลุง สังกัดเขตพื้นที่การ
มัธยมศึกษาเขต ๑๒

ปัจจุบันโรงเรียนนิคมควนขนุนวิทยา มีจำนวนบุคลากร
จำนวน ๒๐ คน และมีจำนวนนกั เรียน จำนวน ๓๒๖ คน

วสิ ยั ทศั น์

ภายในปี 2565 โรงเรียนนิคมควนขนุนวิทยาเป็น
สถานศึกษาที่มีคุณภาพบนพื้นฐานการมีส่วนร่วม รักษ์ท้องถิ่น เน้น
คณุ ธรรม น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

๖๒

พนั ธกจิ

๑. พฒั นานักเรียนให้มีคุณธรรมนำความรู้ สำนึกรักษ์ทอ้ งถ่นิ
๒. พัฒนานกั เรยี นให้มีคณุ ภาพตามเกณฑม์ าตรฐานชาติ
๓. ส่งเสริมและสนับสนุนให้ครูและบุคลากรทางการศึกษามี

คุณภาพตามเกณฑม์ าตรฐานวชิ าชีพ
๔. พฒั นาระบบการบรหิ ารจัดการให้มีคุณภาพ เน้นการมีส่วน

รว่ มโดยยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง

๖๓

ส่วนท่ี ๕ การวเิ คราะหศ์ กั ยภาพของชุมชน

สงิ่ ทีช่ มุ ชนทำไดด้ ี(จุดแขง็ )

การประเมินศักยภาพทางยุทธศาสตร์ ด้านจุดแข็งเป็นการ
ประเมินจุดเด่นหรือจุดแข็งของเทศบาลตำบลลานข่อยที่จะ
ดำเนินการให้จุดยืนบรรลุผลสัมฤทธิ์ ซึ่งจากการวิเคราะห์จุดแข็ง
พบว่ามี ดังนี้

1) มีแหลง่ ผลิตยางพารา
2) ตั้งอยู่กึ่งกลางระหว่างพื้นที่ ๓ จังหวัด(พัทลุง

นครศรีธรรมราช และตรัง) เชื่อมโยงกับจังหวัดท่ีเป็น
ศนู ยก์ ลางการคา้ และการทอ่ งเทยี่ ว
3) แหล่งเรยี นรู้ภมู ปิ ญั ญาท้องถิ่นมีปราชญช์ าวบ้าน
4) ทรัพยากรทางการท่องเที่ยวของตำบลลานข่อยมีศักยภาพ
ทางดา้ นนเิ วศธรรมชาตแิ ละภมู ิปัญญาฯ
5) มีสินค้าและผลิตภัณฑ์ชุมชนที่เป็นเอกลักษณ์จากภูมิ
ปัญญาและวัฒนธรรมของตำบลที่โดดเด่นและมีศักยภาพ
พัฒนาทางการตลาด
6) มีสถาบันการศึกษาครอบคลุมบุคลากรทางการศึกษามี
เพียงพอและมีศกั ยภาพ
7) ตำบลลานข่อยใหค้ วามสำคญั ในการศึกษา

๖๔

8) ระบบสุขภาพในเชิงพื้นที่มีความเข้มแข็งในการสร้างเสริม
สุขภาพและมภี าคีเครือข่ายอสม.มศี กั ยภาพเข้มแข็ง

9) ตำบลลานข่อยเป็นสังคมการเกษตรมีความผูกพันและเอ้ือ
อาทร

10) มีพนื้ ท่ีปา่ ทเ่ี ป็นแหล่งต้นน้ำ
11) ตำบลลานข่อยเป็นเมืองเกษตรและเป็นเกษตรรายย่อยท่ี

ไมไ่ ดท้ ำใหเ้ กิดปัญหาต่อส่ิงแวดล้อม
12) พื้นที่ตำบลลานข่อยไม่มีอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ส่งผล

กระทบต่อสิ่งแวดล้อม

สิ่งทีช่ ุมชนต้องพัฒนา(จุดอ่อน)

การประเมนิ ศักยภาพตามยุทธศาสตร์ ดา้ นจดุ ออ่ นเป็นการ
ประเมินจุดด้อยในการดำเนินการให้จุดยืนไม่บรรลุผลสัมฤทธิ์ซ่ึง
จากการวเิ คราะห์จุดออ่ นจุดวา่ มี ดงั น้ี

1) ขาดตลาดรวบรวมสินค้าเกษตร
2) ขาดการแปรรูปสนิ คา้ ทางการเกษตรเพื่อสร้างมูลค่า
3) ขาดการลงทุนในอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากการเกษตรใน

โครงการขนาดใหญ่
4) สว่ นใหญเ่ ป็นเกษตรกรรายยอ่ ยอำนาจต่อรอง
5) ขาดแคลนแรงงานในการภาคเกษตร
6) ขาดการพัฒนาองค์ความรู้และเทคโนโลยี
7) ประชากรทางเกษตรกรลดลงโดยเฉพาะคนรนุ่ ใหม่

๖๕

8) ผลผลติ ตอ่ ไร่ต่ำ
9) แหล่งท่องเที่ยวขาดการบริหารการจัดการที่ดีและการ

เชอื่ มโยงเครอื ขา่ ยดา้ นการท่องเทย่ี วทม่ี ศี ักยภาพ
10)ชุมชนและประชาชนผู้ประกอบการและบุคลากรท่องเที่ยว

ขาดความรู้ความเข้าใจในการบริหารจัดการท่องเที่ยวที่มี
คุณภาพและทักษะการทอ่ งเทยี่ วเชงิ สากล
11)ระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการท่องเที่ยวของตำบลลาน
ข่อยไม่เป็นระบบและไม่สามารถให้บริก าร แต่
กลมุ่ เปา้ หมายอย่างท่ัวถงึ
12)ที่พักและการบริการท่องเที่ยวยังไม่มีความหลากหลาย
ขนาดมาตรฐานและไมเ่ พียงพอ
13)ขาดบุคลากรทำงานดา้ นการพฒั นาดา้ นการท่องเทีย่ วแบบ
บรู ณาการ
14)ความตอ้ งการแรงงานที่มฝี ีมอื มีนอ้ ย
15)ขาดบคุ ลากรทมี่ คี วามเชียวชาญทางด้านภาษาต่างประเทศ
และเทคโนโลยีสมัยใหม่ในการเพิ่มประสิทธิภาพการเรียน
รู้สึก
16)ข า ด ก า ร ร ่ ว ม ม ื อ จ า ก ป ร ะ ช า ช น ใ น ก า ร อ น ุ ร ั ก ษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติ
17)มีการใช้สารเคมีในภาคการเกษตรก่อให้เกิดความเสื่อม
โทรมของทรัพยากรธรรมชาติ
18)ขาดความตระหนักในการใช้พยากรณธ์ รรมชาตทิ ำให้มีการ
บุกรุกปา่ เพื่อทำการเกษตรกรรมโดยเฉพาะพืชเศรษฐกิจ

๖๖

19)การมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่อการ
อนุรกั ษท์ รัพยากรธรรมชาตนิ ้อย

20)ขาดการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพทำให้น้ำไม่
เพยี งพอต่อการเกษตร

21)ก า ร ม ี ส ่ ว น ร ่ ว ม ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ต ่ อ ก า ร อ น ุ ร ั ก ษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติน้อย

โอกาสของชมุ ชน

การประเมินศักยภาพทางยุทธศาสตร์ ด้านโอกาสเป็นการ
ประเมินศักยภาพภายนอกที่ส่งเสริมให้การดำเนินการให้จุดยืน
บรรลผุ ลสำเรจ็ ซึง่ จากการวเิ คราะห์โอกาสพบว่ามี ดังนี้

1) การเขา้ สู่ AEC
2) นโยบายของภาครฐั เอื้อต่อการพัฒนา
3) นโยบายรัฐบาลส่งเสริมการนำพลังงานทดแทนมาใช้เช่น

การนำมลู สัตว์สุกรทำก๊าซชีวภาพ
4) จงั หวัดใกลเ้ คยี งสงขลามีอุตสาหกรรมต่อเนื่องและสามารถ

เปน็ แหลง่ ขนส่งสนิ คา้ สู่ตลาดชายแดน
5) นโยบายรัฐแผนพฒั นาชาตแิ ละของจังหวัดให้การสนับสนุน

ด้านการท่องเทยี่ ว
6) เส้นทางคมนาคมสะดวกและมีแหล่งท่องเที่ยวในอำเภอ

และจังหวัดใกล้เคียงและภูมิภาคให้สามารถเชื่อมโยงการ
ท่องเทย่ี วกบั ตำบลอ่ืนๆรวมถึงจังหวดั ภมู ภิ าคได้

๖๗

7) การเป็น AEC เป็นโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาท่องเที่ยว
ในตำบลลานข่อยเพิม่ ขน้ึ สามารถสร้างรายไดเ้ พ่ิมขึ้น

8) การพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ทำให้ประชาชนสามารถ
เข้าถงึ แหล่งเรียนรไู้ ด้สะดวกรวดเร็วยง่ิ ขึน้

9) นโยบายสรา้ งหลกั ประกนั สขุ ภาพเพอ่ื ต่อการทำงาน
10)รัฐบาลสนบั สนุนใหโ้ อกาสทางการศกึ ษา
11)นโยบายการกระจายอำนาจสูท่ ้องถ่นิ
12)ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นช่องทาง

แสวงหาความรู้ได้สะดวกหลากหลายมากขึ้นมีการ
แลกเปล่ียนความรทู้ ้งั ภายในและตา่ งประเทศ
13)การเปิดเสรีของประชาคมอาเซียนร่วมตลาดแรงงานมาก
ขึ้นมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และสามารถใช้เป็น
เครอื ข่ายพัฒนาได้
14)ภายในการสง่ เสรมิ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
15)ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรอาหารปลอดภัยและ
ความมั่นคงด้านอาหารมีผลต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทำ
ให้ผู้เกี่ยวข้องกับประชาชนให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์
ทรพั ยากรธรรมชาตมิ ากข้ึน
16)มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสามารถนำมาใช้เพ่ือ
เพมิ่ ประสทิ ธิภาพการบริหารจดั การทรพั ยากรธรรมชาติ
17)แนวโน้มการทำการเกษตรสีเขียวและกระแสการอนุรักษ์
สิ่งแวดล้อมมีมากขึ้นราชาเศรษฐกิจพอเพียงเกษตรอาหาร
ปลอดภัยและความมั่นคงทางด้านอาหารมีผลต่อการ

๖๘

อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทำให้ผู้เกี่ยวข้องกับประชาชนให้
ความสำคัญต่อการรกั ษาทรพั ยากรธรรมชาตมิ ากขน้ึ
18)มีความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสามารถนำมาใช้เพ่ือ
เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ

อปุ สรรคและความทา้ ทาย

การประเมินศักยภาพทางยุทธศาสตร์ ด้านอุปสรรคเป็น
การประเมินปัจจัยภายนอกที่คุกคามการดำเนินการให้จุดยืนได้
บรรลุผลสมั ฤทธ์ซิ ึ่งจากการวเิ คราะหอ์ ุปสรรคพบวา่ มี ดงั นี้

1) ภยั ธรรมชาติการประปาส่วนภูมิภาคอาจทำใหเ้ กิดผลิตทาง
การเกษตรเสียหาย

2) ปัจจยั การผลิตมีแนวโน้มราคาสูงขน้ึ
3) ผลผลิตทางการเกษตรใกล้เคียงกับผลผลิตทางการเกษตร

กบั จังหวดั อืน่ ทำใหม้ ีการแย่งกันขายสนิ ค้า
4) เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติมากขึ้นและรุนแรงอย่างต่อเน่อื ง
5) ความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศส่งผลกระทบต่อ

จำนวนนกั ท่องเที่ยวลดลง
6) ภาวะเศรษฐกิจตกตำ่ และการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมันสง่ ผล

ต่อจำนวนนกั ทอ่ งเทยี่ วลดลง
7) อทิ ธพิ ลของกระแสโลกาภวิ ตั น์ส่งผลต่อคา่ นิยมพฤติกรรมท่ี

ไมเ่ หมาะสมในกลมุ่ เด็กและเยาวชน

๖๙

8) การขัดแย้งทางความคิด/การใช้ความรุนแรงในการ
แก้ปญั หา

9) บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขมีน้อย
10)มีความเปล่ยี นแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลต่อภาวะน้ำท่วม

และภัยแลง้
11)มีการละเมิดกฎหมายเพื่อแสวงหาทรัพยากรธรรมชาติ

เนอื่ งจากขาดการบงั คบั ใช้กฎหมายทม่ี ีประสิทธิภาพ

๗๐

อา้ งองิ

สัมภาษณ์ นายบญุ เลิศ เส้งรอด, นายกเทศบาลลานข่อย,วนั ท่ี ๑๒
เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2564.

สัมภาษณ์ นางสาวกิ่งดาว หนูเซ่ง,โรงเรียนบ้านลานข่อย,วันที่ 4
เดอื นสงิ หาคม พ.ศ.2564.

สัมภาษณ์ นางยุพดี สิทธิศักด์ิ,โรงเรียวัดทุ่งชุมพล, วันท่ี4 เดือน
สงิ หาคม พ.ศ.2564.

สัมภาษณ์ นางสาวยุภาวดี มีเสน,โรงเรียนบ้านถ้ำลา,วันท่ี4 เดือน
สิงหาคม พ.ศ.2564.

สัมภาษณ์ นางเพชรรัตน์ เอกจิตต์,โรงเรียนบ้านห้วยน้ำดำ,วันที่ ๕
เดอื นสิงหาคม พ.ศ.2564.

สัมภาษณ์ นายชวิณ บัวบาน,โรงเรียนเทศบาลลานข่อย),วันที่ ๕
เดือนสงิ หาคม พ.ศ.2564.

สัมภาษณ์ นายธีระชยั คล้ายแกว้ ,ผู้ใหญบ่ ้านหมู่ท๑ี่ ,วันที่ ๑๐ เดือน
กันยายน พ.ศ.2564.

สัมภาษณ์ นางสาวกาญจนา อุตะมัง,ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่๓ ,วันท่ี
๑๐ เดือนกนั ยายน พ.ศ.2564.

๗๑

สัมภาษณ์ นายสุวิทย์ ช่วยแก้ว,ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่๔,วันที่ ๑๐ เดือน
กันยายน พ.ศ.2564.

สมั ภาษณ์ นางอไุ ร มะชยั ,ผชู้ ่วยผูใ้ หญบ่ ้านหมู่ท่ี ๕,วนั ท่ี ๑๑ เดือน
กันยายน พ.ศ.๑๕๖๔.

สัมภาษณ์ นายประภาส บุญชนะ,กำนันหมู่ที่ ๑๐,วันที่ ๑๑ เดือน
กันยายน พ.ศ.๒๕๖๔.

สัมภาษณ์ นายโยธิน เขาไข่แก้ว,ล่องแก่งหนานมดแดง,วันที่ ๑๗
เดือนกนั ยายน พ.ศ.2564.

สัมภาษณ์ นายนิพล เกื้อชู,ล่องแก่งหนานท่าส้าน,วันที่ ๑๗ เดือน
กันยายน พ.ศ.2564.

สัมภาษณ์ นายพิทักษ์ ชูถนอม,สำนักสงฆ์สุรินทร์ประชาสรรค์),
วนั ที่ ๒๐ เดือนกันยายน พ.ศ.2564.

แผนพัฒนาทอ้ งถ่ิน(พ.ศ.๒๕๖๑-๒๕๖๕)เทศบาลตำบลลานขอ่ ย

น้ำตกหนานปลิว สืบค้นวันที่ ๒๐ กรกฎาคม๒๕๖๔ เข้าถึงได้จาก
(https://www.lankoi.go.th/news/doc_download/201704
21155103_2.pdf)

วัดลานข่อย สืบค้นวันที่ ๒๐ กรกฎาคม๒๕๖๔ เข้าถึงได้จาก
(https://www.lankoi.go.th/news/doc_download/201704
21155103_2.pdf)

๗๒

วัดทุ่งชุมพล สืบค้นวันที่ ๒๐ กรกฎาคม๒๕๖๔ เข้าถึงได้จาก
(https://www.lankoi.go.th/news/doc_download/201704
21155103_2.pdf)

อ่างเก็บน้ำห้วยน้ำใส สบื ค้นวนั ที่ ๒๐ กรกฎาคม๒๕๖๔ เข้าถงึ ได้
จาก
(https://www.lankoi.go.th/news/doc_download/201704
21155103_2.pdf)

โรงเรียนนิคมควนขนุนวิทยา สืบค้นวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔
เขา้ ถงึ ไดจ้ าก (https://nkkw.thai.ac/)

ล่องแก่งชมดาว สืบค้นวันที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๔ เข้าถึงได้จาก
(https://www2.edtguide.com/index.php/www/review/46
3059/longkangchomdaw-phatthalung)

หตั ถกรรมงานไม้ ลานขอ่ ย สืบค้นวันท่ี ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๔
เขา้ ถงึ ได้จาก
(https://www.lankoi.go.th/album_otop/view.php?album_
id=6)

ผ้าทอนคิ มลานข่อย สืบคน้ วันท่ี ๑๔ สงิ หาคม ๒๕๖๔ เข้าถึงไดจ้ าก
(https://www.m-
culture.go.th/phatthalung/ewt_dl_link.php?nid=216

๗๓

ภาคผนวก

ทวี่ า่ การเทศบาลตำบลลานข่อย(หลงั ใหม่)

ทา่ นนายกขณะปฎบิ ัติหน้าท่ี

๗๔

โรงเรียนบ้านถำ้ ลา

๗๕

โรงเรยี นบ้านทุง่ ชุมพล

โรงเรยี นบ้านลานขอ่ ย

๗๖

โรงเรียนบา้ นห้วยนำ้ ดำ

๗๗

โรงเรยี นเทศบาลลานข่อย(ห้วยศรีเกสร)
สำนักสงฆส์ รุ ินทร์ประชาสรรค์

โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล ๒ แห่ง

๗๘

วดั ลานขอ่ ย
วัดทงุ่ ชมุ พล
ล่องแก่งหนานท่าสา้ น

๗๙

ลอ่ งแก่งชมดาว

น้ำตกหนานปลิว

๘๐

ล่องแก่งหนานมดแดง

๘๑

โครงการอ่างเกบ็ นำ้ หว้ ยนำ้ ใสอนั เนอ่ื งมาจากพระราชดำริ
หน่วยบรกิ ารประชาชนตำบลลานขอ่ ย
ที่ตั้งหนึง่ ตำบลหนึง่ ผลติ ภัณฑ์

82

ขอบคณุ คะ่