รปู แบบการจัดกจิ กรรม
การเรียนรู้ โดยใช้
เทคนคิ STAD
เรอื่ ง หน้า
คานา ก
สารบัญ ข
ความหมายของวิธกี ารสอนแบบ STAD 1
การจดั การเรียนรู้แบบ STAD 1
ขั้นตอนการจดั การเรยี นร้แู บบ STAD 1
ประโยชนแ์ ละข้อจากัดของวิธีการจัดการเรยี นรู้ แบบ STAD 2
บทบาทผ้สู อนในการจัดการเรียนรู้แบบ STAD 3
บทบาทผู้เรียนในการจดั การเรยี นรู้แบบ STAD 3
ลักษณะสาคญั ของการสอนแบบ STAD 3
สรปุ การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้แบบ STAD 4
ตัวอย่างแผนการจดั การเรียนร้แู บบ STAD สือ่ การเรียนรู้ 5-13
บรรณานกุ รม 14
คานา
หนงั สือเลม่ นจ้ี ัดข้นึ เพื่อเป็นส่วนหนง่ึ ของรายวิชาทกั ษะและเทคนิคการสอน รหสั วชิ า 5002614
เพ่อื ให้ไดศ้ ึกษาหาความรใู้ นเร่ืองการจดั การเรยี นรโู้ ดยใช้เทคนิค STAD และไดศ้ กึ ษาอยา่ งเขา้ ใจเพอ่ื เป็น
ประโยชนก์ บั การเรยี นรู้
ผูจ้ ดั ทาขอขอบพระคุณอาจารย์ ดร.รัชกร ประสีระเตสัง ทีค่ อยใหค้ าแนะนาในการจัดทาหนงั สอื เล่มน้ี
จยสาเร็จไปไดด้ ว้ ยดี
ผู้จัดทาหวังวา่ หนังสือเลม่ นี้จะเป็นประโยชนก์ ับผ้อู า่ น หรอื นักเรียน นักศกึ ษา ทก่ี าลังหาขอ้ มูลเร่ืองน้ี
อยหู่ ากมขี อ้ แนะนาหรือข้อผดิ พลาดประการใด ผูจ้ ัดทาขออภยั มา ณ ทีนด้ี ้วย
คณะผจู้ ัดทา
ความหมายของวธิ สี อน แบบ STAD
1. ความหมาย
การจัดการเรยี นรแู้ บบ STAD หมายถึง รูปแบบการจัดการเรยี นการสอนแบบรว่ มมือกันเป็นการเรียนรู้
อีกรูปแบบหน่ึง ที่มีช่ือเต็มว่า Student Teams Achievement Divisions เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการ
สอน ซึ่งกาหนดใหน้ ักเรียนทีม่ คี วามสามารถแตกต่างกัน ทางานร่วมกันเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน ซ่งึ ประกอบด้วย
นักเรียนทีเ่ รยี นเกง่ 1 คน นกั เรียนทีเ่ รยี นปานกลาง 2-3 คน และนักเรียนทเี่ รยี นออ่ น 1 คน
2. การจดั การเรียนรู้
เทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือกันแบบ STAD (Student Teams Achievement Divisions) เป็นหนึ่ง
ในเทคนิคการเรียนรู้แบบร่วมมือ พัฒนาขึ้นโดย โรเบิร์ต อี สลาวิน เพ่ือเป็นทางเลือกหนึ่งสาหรับการเรียนเปน็
กลุ่ม โดยมีจุดประสงค์หลักเพ่ือจูงใจให้ผู้เรียนมีความกระตือรือร้น กล้าแสดงออกและช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน
ในการทาความเข้าใจเน้ือหาวิชาต่างๆ ซ่ึงเทคนิคนี้สามารถใช้ได้กับทุกวิชา เป็นวิธีท่ีเน้นความสาคัญของการ
เรียนเป็นกลุ่ม ช่วยฝึกทักษะทางสังคม โดยผู้เรียนจะต้องสร้างสัมพันธภาพระหว่างผู้เรียนด้วยการใช้ความคิด
ร่วมกัน แลกเปลี่ยนประสบการณ์และเหตุผลทาให้ได้รับรู้อารมณ์และความรู้สึกนึกคิดของสมาชิกในกลุ่ม
ตลอดจนฝกึ การเรยี นรูแ้ ละฝึกความรับผิดชอบต่อสว่ นร่วมเพื่อความสาเร็จของกลมุ่ ทาให้ผู้เรยี นมองเห็นคณุ ค่า
ของการร่วมมอื
3. ขัน้ ตอนการจดั การเรยี นรู้
1. การเตรียมการ
ครูต้องเตรียมการจัดกลุ่มผู้เรียน ซึ่งแต่ละกลุ่มควรประกอบด้วยสมาชิก 4 คน เป็นผู้ท่ีมีความสามารถ
ทางการเรียนสูง 1 คน ปานกลาง 2 คนและอ่อน 1 คน ครูควรจัดกลุ่มให้มีความสมดุลกันโดยใช้ข้อมูลจาก
คะแนนการทดสอบ หรือผลการเรียนเดิม หรือขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของผู้สอน ครูควรจัดกลุ่มให้ผู้เรียนเอง
เพราะถ้าครูใหผ้ ู้เรยี นจัดกลมุ่ เอง ผเู้ รียนจะเลือกอยกู่ ลมุ่ เดียวกับผ้ทู ่ชี อบพอสนิทสนมกันเท่านัน้
2. การจดั กิจกรรมการสอน
การสอนนั้นเริ่มต้นด้วยการนาเข้าสู่บทเรียน เป็นการเร้าความสนใจของผู้เรียนให้อยากรู้อยากเห็น
อยากเรียน เป็นการเข้าสู่การนาเสนอบทเรียน ครูควรจะบอกผู้เรียนถึงส่ิงท่ีเรียนว่าคืออะไร มีความสาคัญ
อย่างไร ครูควรทบทวนส้ันๆ เกี่ยวกับทักษะหรือข้อมูลท่ีผู้เรียนรู้อยู่แล้วกระตุ้นให้ผู้เรียนอยากเห็นด้วยการ
สาธิต การใช้อุปกรณ์ประกอบการอธบิ าย หรือยกตัวอย่างปัญหาในชีวติ จรงิ ครูจัดทาเอกสารสรุปเก่ียวกับการ
เรยี นเป็นกล่มุ ใหแ้ ต่ละกลุ่ม
3. การทางานเป็นกลุม่
ครูใหเ้ วลาในการตัง้ ช่อื กล่มุ กอ่ นทคี่ รจู ะแจกใบงานและกระดาษคาตอบ หลงั จากนนั้ ให้ผู้เรยี นลงมือ
ปฏิบตั ิดว้ ยตนเองโดยการศึกษาใบงานร่วมกันกับเพื่อนสมาชกิ เปิดโอกาสใหส้ มาชกิ ในกลุ่มได้แลกเปล่ียนความ
คิดเห็น อธิบายโต้ตอบโดยใช้หลักประชาธิปไตย โดยท่ีสมาชิกในกลุ่มจะต้องเรียนรู้เนื้อหาน้ันๆ ให้เข้าใจและ
ช่วยกนั ทาใบงาน ทา ใหเ้ กิดความรับผิดชอบรว่ มกนั ในการทา ใหเ้ พ่อื นสมาชกิ ทกุ คนเขา้ ใจในบทเรยี น อีกทั้งยงั
ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้องของคาตอบกอ่ นนาส่งครู บทบาทของครคู อื สังเกตการณ์และประเมินพฤติกรรม
การทางานกลุ่ม และให้ความชว่ ยเหลือเมื่อจาเป็น นอกจากน้ีครอู าจมกี ารซักถามสมาชิกในกลุ่มเพือ่ ตรวจสอบ
ความเขา้ ใจเก่ียวกบั สิง่ ท่เี รียนรู้รว่ มกนั
4. การทดสอบ
การทดสอบหลังจากการทางานเป็นกลุ่ม เปน็ การทดสอบรายบคุ คลว่า ผู้เรยี นไดร้ ับความรมู้ ากนอ้ ย
เพียงใด หลงั จากทาแบบทดสอบเสร็จสามารถแลกเปล่ียนกระดาษคาตอบกับเพอื่ นเพ่อื ตรวจสอบ และเกบ็
สะสมคะแนนไว้เมอ่ื เรยี นจบบทเรยี นแลว้
5. การตระหนักถึงความสาเร็จของกลมุ่
การตระหนักถึงความสาเร็จของกลุ่ม มีวัตถุประสงคเ์ พื่อช้ีให้เห็นถึงคะแนนของแต่ละบุคคลท่ีมกี าร
เพ่ิมขึ้นทันทีที่ผู้สอนคานวณคะแนนของผู้เรียนแต่ละคน ก็จะชี้ถึงคะแนนของแต่ละคนท่ีเพิ่มขึ้น และจัดทา
คะแนนกลุ่ม มีการให้รางวัลหรือประกาศนียบัตรชมเชยให้กับกลุ่มท่ีทาคะแนนสูงๆ จะช่วยให้ผู้เรียนเช่ือมโยง
กนั ระหวา่ งการทาคะแนนของตนใหด้ ีทส่ี ุดกับตระหนักถึงความสาเรจ็ ของกลุ่ม และไดร้ ับรางวลั ซ่งึ เป็นแรงจูงใจ
ในการเรียนท่ีดีด้วยจากการศกึ ษาขน้ั ตอนการจัดการเรยี นรู้แบบรว่ มมือโดยใช้เทคนคิ
4. ประโยชน์และขอ้ จากัด
ประโยชน์
1. ผ้เู รียนมีความเอาใจใส่รบั ผิดชอบตนเองและกลุ่มร่วมกับเพอื่ นสมาชิก
2. ส่งเสริมให้ผู้เรียนทีม่ ีความสามารถตา่ งกันไดร้ ว่ มมือกนั เรยี นรู้
3. ส่งเสริมให้ผู้เรยี นผลดั กนั เป็นผู้นา ผู้เรยี นได้ฝึกและเรียนรู้ทกั ษะทางสงั คม
4. ผ้เู รียนมีความตืน่ เตน้ สนุกกบั การเรียนรู้
ขอ้ จากัด
1. ถ้าผู้เรยี นขาดความรบั ผิดชอบจะสง่ ผลให้งานกลุ่มและการเรียนรู้ไมป่ ระสบความสาเร็จ
2. เปน็ วิธที ี่ผู้สอนจะต้องเตรียมการและดแู ลเอาใจใส่เปน็ อย่างดีจงึ จะไดผ้ ลทาใหผ้ สู้ อนมีภาระงานเพิ่ม
มากขึน้
5. บทบาทครู
บทบาทของผ้สู อนกบั การเรียนรู้ แบบร่วมมือเทคนคิ STAD
1. จัดผเู้ รยี นเป็นกลมุ่ ย่อยกล่มุ ละ 4-5 คน โดยใหส้ มาชิกในกลมุ่ มีความสามารถแตกตา่ งกัน
2. ให้ผเู้ รียนจดั ท่ีนง่ั เป็นกล่มุ โดยมีช่องว่างระหวา่ งกลมุ่ ท่ีผสู้ อนสามารถเดนิ ดูการทางานของกลุ่ม ได้
3. ชีแ้ จงบทบาทของผเู้ รียน เกยี่ วกับวิธกี ารเรียนรแู้ บบรว่ มมือเทคนิค STAD และกิจกรรมภายในกลมุ่
4. สร้างบรรยากาศท่ีเสริมสร้างการแลกเปล่ียนความคิดเห็น เช่น ยกย่อง ชมเชยตามโอกาสท่ี
เหมาะสม
5. เป็นท่ปี รึกษาของทกุ กลมุ่ ยอ่ ย ติดตามความก้าวหน้าในการเรยี นร้ขู องกลุม่ และสมาชิกในกลุ่ม
6. เป็นผูก้ าหนดวา่ ผู้เรียนควรอยใู่ นกลมุ่ เดิมนานเท่าใด
6. บทบาทผ้เู รียน
บทบาทของผ้เู รียนกบั การเรยี นรู้ แบบร่วมมือเทคนคิ STAD
1. สมาชิกในกลมุ่ ตอ้ งมคี วามไวว้ างใจซง่ึ กนั และกัน
2. ทกุ คนตอ้ งพัฒนาให้สามารถส่อื ความหมายไดด้ ี
3. สมาชกิ แตล่ ะคนจะต้องได้รับมอบหมายหน้าท่คี วามรบั ผิดชอบ
4. ทุกคนต้องให้เกียรติและรับฟังความคิดเห็นของสมาชิกในกลุ่มสามารถวิจารณ์ความคิดเห็น ของ
เพื่อนได้ แต่ไมว่ ิจารณ์ตัวบคุ คลและควรวจิ ารณใ์ นลักษณะทีท่ าให้ชัดเจนขึน้
5. ทุกคนรับผิดชอบการเรยี นร้ดู ้วยตนเองและสมาชกิ ในกลมุ่
7. ลักษณะสาคัญ
ลักษณะสาคัญในการเรียนการสอนตามรูปแบบ STAD เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ซ่ึง
กาหนดให้นักเรียนที่มีความสามารถแตกต่างกัน ทางานร่วมกันเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน ซ่ึงประกอบด้วย
นักเรียนที่เรียนเก่ง 1 คน นักเรียนที่เรียนปานกลาง 2-3 คน และนักเรียนท่ีเรียนอ่อน 1 คน ประกอบด้วย 4
ขั้นตอน ดงั นี้
1. ครูอธิบายงานที่ต้องทาในกลมุ่ ลักษณะการเรียนภายในกลุ่มกฎกติกาข้อตกลงในการทางานกล่มุ
2. ครูเป็นผู้กาหนดกลุ่มโดยผู้เรียนจะได้รับมอบหมายให้อยู่ในกลุ่มคละเพศคละความสามารถ ในกลุ่ม
หนง่ึ จะมสี มาชิกจานวน 4 – 5 คน
3. หลังจากที่ผู้สอนได้สอนเน้ือหาตามบทเรียนแล้ว มีการมอบหมายใบงาน/แบบฝึกหัดให้ ผู้เรียนได้
ศกึ ษาด้วยกนั ในกลุ่มของตนเอง
4. มกี ารประเมินในสิ่งทผ่ี ู้เรยี นได้เรยี นไป โดยทดสอบคะแนนเป็นรายบคุ คล
8. สรุป
จากการศึกษาวิธกี ารจัดการเรยี นรู้แบบร่วมมือ เทคนิคกลุ่มผลลัพธ์ (stad )จะเห็นได้ว่าเป็นการจัดการ
เรยี นรู้ท่ีให้นกั เรียนเรยี นเป็นกลุ่ม เปดิ โอกาสใหน้ กั เรยี นประสบผลสาเร็จในการเรียนมีปฏิสมั พันธ์กนั ในกลุ่มทา
ให้นักเรียนช่วยเหลือกันในขณะเรียน ซักถามปัญหากันอย่างอิสระคนเก่งสามารถอธบิ ายให้เพื่อนในกลุ่มเขา้ ใจ
และนักเรียนสามารถอภิปรายถงึ คาตอบที่ไดจ้ ากการอ่านภาษาองั กฤษได้ ซึ่งการอ่านเนือ้ เรื่องภาษาองั กฤษเป็น
ปัญหากับนักเรียนหลายคนเน่ืองจากไม่ใชภ่ าษาของตนเองและมีเจตคตไิ ม่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษทาให้ไม่อยาก
เรียน ซ่ึงการใช้เทคนิค STAD ทาให้เห็นความพยายามของนักเรียนแต่ละคนในการหาคาตอบจากปัญหา
เดียวกัน ความกระตือรือร้นในการทางานกลุ่ม จะทาให้เกิดความก้าวหน้าทีละน้อย และประสบการณ์ ท่ีมีค่า
ด้ังน้ันจะเห็นได้ว่าการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือน้ันมีความหมายมากกว่าแค่การเอานักเรียนมารวมกันทางาน
เป็นกลุ่มย่อยเท่าน้ัน แต่เป็นการเรียนรู้รว่ มกันเพอ่ื กลุ่มและส่วนรวมโดยการช่วยเหลือซ่ึงกันและกนั เห็นคุณค่า
ของความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล
แผนการจัดการเรยี นรู้ โดยใชเ้ ทคนิค STAD
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
เรอ่ื ง วธิ กี ารอ่านจับใจความ เรือ่ ง Julia’s routine โดยใช้เทคนคิ STAD เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง
ผสู้ อน………………………………………………………………………….วันท่ที าการสอน…………………………………….
สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
ทักษะการอา่ นนั้นมีความสาคัญเปน็ อย่างมาก ซ่ึงการอ่านจับใจความสาคญั อา่ นบทความแลว้ ตอบ
คาถาม จะชว่ ยใหผ้ เู้ รยี นเกดิ กระบวนการคดิ วเิ คราะห์ สามารถเข้าใจในเรอ่ื งท่ีอ่าน และได้ฝกึ ทกั ษะทางภาษา
ทาให้เกดิ ความสนกุ สนาน อีกทั้งผ้เู รียนสามารถนาความรู้ไปประยกุ ต์ใชก้ บั ทกั ษะอ่นื ๆไดใ้ นชีวิตประจาวนั
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
มาตรฐานการเรียนรู้ ต 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสรา้ งความรแู้ ละความคิด เพือ่ นาไปใชต้ ดั สนิ ใจ
แกป้ ญั หาในการดาเนนิ ชีวติ และมีนิสัยรกั การอา่ น
ตวั ชวี้ ดั ต 1.1 ป.3/2 อ่านออกเสียงคา สะกดคาอา่ นกลมุ่ คาประโยค และบทพูดเขา้ จังหวะ (chant)
งา่ ยๆ ถูกตอ้ งตามหลักการอ่าน
จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1. นกั เรียนบอกหลักการอ่านจบั ใจความโดยใช้เทคนคิ STAD ได้ (K)
2. นกั เรยี นเขยี นวธิ กี ารอา่ นจบั ใจความโดยใชเ้ ทคนคิ STAD ได้ (P)
3. นกั เรยี นต้งั ใจฟงั ครูผู้สอน มีความกระตือรือรน้ ในการเรยี น (A)
สาระการเรยี นรู้
วธิ ีการอา่ นจับใจความ โดยใชเ้ ทคนิค STAD
กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขนั้ นาเขา้ ส่บู ทเรยี น (10 นาที)
1. ครูต้งั คาถามกระตนุ้ ความคิด เช่น “เราอ่านเร่ือง Julia’s routine” “เราจะมีวธิ กี ารอา่ นอยา่ งไร
ที่จะสามารถจดจาเรือ่ ง Julia’s routine ได้อยา่ งยาวนาน”
2. ครเู กริ่นนาถงึ วิธีการอา่ นจบั ใจความแบบ STAD ให้นักเรยี นฟงั
ขนั้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน (40นาท)ี
1. ครแู จกใบความรเู้ ร่ือง “วิธีการอ่านจบั ใจความ เรื่อง Julia’s routine โดยใชเ้ ทคนคิ STAD” ให้
นกั เรยี นอ่านสารวจครา่ วๆ
2. ครอู ธิบายเนอื้ หาจากใบความรเู้ รอ่ื ง “วธิ กี ารอ่านจับใจความ เรอื่ ง Julia’s routine ให้นกั เรียนฃ
ฟัง โดยใช้เทคนคิ STAD” ใหน้ กั เรยี นฟงั ว่าประกอบดว้ ยอะไรบา้ งพร้อมยกตัวอยา่ งประกอบขัน้ ตอนดงั นี้
ขนั้ ตอนการจัดการเรยี นรวู้ ิธสี อน แบบร่วมมือเทคนิค STAD หมายถึง รปู แบบการจดั การ
เรียนการสอนแบบร่วมมือกันเรียนรู้อีกรูปแบบหนึ่งท่ีมี ช่ือเต็มว่า (Student Teams Achievement
Divisions) เป็นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ซ่ึงกาหนดให้ นักเรียนท่ีมีความสามารถแตกต่างกัน ทางาน
ร่วมกันเป็นกลุ่มๆ ละ 4-5 คน ซึ่งประกอบด้วยนักเรียนท่ีเรียน เก่ง 1 คน นักเรียนที่เรียนปานกลาง 2-3 คน
และนกั เรียนทีเ่ รยี นอ่อน 1 คน ซึ่งมขี ัน้ ตอนการจดั การเรียนรู้ ดงั นี้
1. ขั้นนาเสนอเนอ้ื หา โดยการทบทวนพื้นฐานความรูเ้ ดิม จากนนั้ ครูสอนเนือ้ หา เรือ่ ง
Julia’s routine กับนกั เรียนกลุ่มใหญท่ ้ังชนั้
2. ข้ันปฏิบตั กิ ิจกรรมกลมุ่ โดยนักเรยี นในกลุ่ม 4-5 คน รว่ มกนั ศึกษากลุม่ ยอ่ ยนกั เรยี นเก่ง
จะอธิบายให้นกั เรียนอ่อนฟังและชว่ ยเหลือซ่งึ กนั และกนั ในการทากิจกรรมศึกษา Handout 1 และ ใหน้ ักเรยี นแต่
ละกลมุ่ จบั กลมุ่ กนั อา่ นบทความและช่วยกนั แปลเนื้อเรอ่ื ง ใน Handout 2 แล้วทาแบบฝกึ หดั ในใบกิจกรรมที่ 1
หลงั จากนนั้ ครูจะแจกประโยคให้แตล่ ะกลมุ่ รบั ผิดชอบ แตล่ ะกลมุ่ ไดป้ ระโยคไหนใหอ้ ่านและแปลประโยคน้นั ให้
เพื่อนในหอ้ งฟงั โดยแยกหวั ข้อแบง่ กันศึกษาและสรปุ เน้อื หาร่วมกนั
3. ขน้ั ทดสอบย่อย นกั เรยี นแตล่ ะคนจะทาแบบทดสอบด้วยตนเอง ไมม่ ีการช่วยเหลอื กนั
4. คิดคะแนนความก้าวหน้าแตล่ ะคน และของกลุ่มย่อย ครตู รวจผลการสอบของนักเรยี น
โดยคะแนนท่ีนักเรียนทาได้ในการทดสอบจะถือเป็นคะแนนรายบุคคล แล้วนาคะแนนรายบุคคลไปแปลงเป็น
คะแนนกลมุ่
5. ชมเชย ยกย่อง บคุ คลหรือกลุ่มท่ีมีคะแนนยอดเยย่ี ม นกั เรียนคนใดทาคะแนนได้ดีกวา่
ครัง้ ก่อน จะไดร้ บั คาชมเชยเป็นรายบคุ คล และกลมุ่ ใดทาคะแนนได้ดกี วา่ ครงั้ ก่อนจะได้รับคาชมเชยทั้งกลุ่ม มงุ่
ให้ผู้เรียนได้ตั้งฝึกคาถาม แสวงหาคาตอบด้วยตัวเอง ช่วยเหลือแบ่งปันความรู้จึงเหมาะแก่การพัฒนา
ความสามารถอ่านจบั ใจความของผู้เรยี น
3. หลังจากทคี่ รอู ธิบายเสรจ็ แล้วใหน้ กั เรียนซกั ถามข้อสงสัย
4. ครูให้นักเรียนเขยี นแผนผงั ความคดิ เกย่ี วกับ “วธิ กี ารอา่ นจบั ใจความ เรื่อง Julia’s routine โดย
ใช้เทคนคิ STAD” ลงในสมดุ
ขนั้ สรปุ (10นาท)ี
1. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรปุ ผลการเรยี นรู้เรอ่ื ง วธิ กี ารอา่ นจบั ใจความ เรือ่ ง Julia’s
routine ให้ โดยใช้เทคนคิ STAD”
สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้
1. ใบความร้เู ร่ือง “วิธกี ารอา่ นจบั ใจความ โดยใช้เทคนิค STAD”
2. ใบความรเู้ รอื่ ง “Julia’s routine”
3. ใบความรู้เรอื่ ง “บัตรอา่ นคา”
4. ใบความรู้เร่อื ง “สรปุ ใจความสาคญั เรอื่ ง Julia’s routine”
5. ใบกจิ กรรมที่ 1
6. ใบกจิ กรรมท่ี 2
การวดั ผลและประเมนิ ผล
1. วิธีการวดั และการประเมินผล
สงั เกตพฤติกรรมการเรยี นรู้
ตรวจสมุด
สังเกตพฤตกิ รรมการเรยี นรู้
2. เครือ่ งมือวดั และการประเมินผล
แบบประเมินพฤตกิ รรม
แบบประเมินสมดุ
3. เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล
มพี ฤตกิ รรมการเรยี นรผู้ า่ นเกณฑ์ ระดับดี
ผ่านเกณฑ์ 5 คะแนนขน้ึ ไป
มีพฤตกิ รรมการเรยี นรู้ผา่ นเกณฑ์ ระดบั ดี
บนั ทึกผลหลังกระบวนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
ผลการเรยี นรทู้ ีเ่ กดิ ขึ้นกบั ผเู้ รยี น
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ปัญหา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
ลงชอ่ื ………………………………………………………ผู้ออกแบบ
(………………………………………………………)
แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้
คาชแ้ี จง : สังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งว่างทต่ี รงกบั ระดับคะแนน
ที่ ช่ือ-สกุล ความต้งั ใจ ความสนใจ การรับฟงั ความ การให้ รวม
ของผู้รบั การ ในการ กระตอื รอื ร้น ความ รบั ผิดชอบ ความ 15
ประเมิน เรยี น ในการ คดิ เหน็ รว่ มมือใน คะแนน
ทางาน การทา
กจิ กรรม
ลงชอื่ ………………………………………………………ผูป้ ระเมนิ
(………………………………………………………)
…………/……………………/…………….
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน
ปฎบิ ัตหิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสม่าเสมอให้ 3 คะแนน
ปฎบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครั้งให้ 2 คะแนน
ปฎิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้ังให้ 1 คะแนน
เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ
ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ
13-15 ดีมาก
10-12 ดี
7-9 พอใช้
0-6 ปรบั ปรงุ
ท่ี ช่อื -นามสกลุ แบบประเมนิ สมดุ การประเมนิ หมาย
รวม ผ่าน ไม่ผ่าน เหตุ
สรุปความรู้ได้ ูถกต้อง
(5 คะแนน)
ความสวยงาม
(3 คะแนน)
ตรงเวลา
(2 คะแนน)
ลงชอื่ ………………………………………………………ผปู้ ระเมิน
(………………………………………………………)
…………/……………………/…………….
ใบความรูเ้ รือ่ ง “วิธีการอา่ นจับใจความ โดยใช้เทคนิค STAD”
1. ขั้นนาเสนอเนือ้ หา โดยการทบทวนพ้ืนฐานความรูเ้ ดมิ จากนน้ั ครสู อนเน้อื หา เร่อื ง
Julia’s routine กับนักเรยี นกล่มุ ใหญ่ทงั้ ชั้น
2. ข้นั ปฏบิ ัติกิจกรรมกลมุ่ โดยนักเรยี นในกลุ่ม 4-5 คน รว่ มกนั ศกึ ษากลุม่ ย่อยนักเรียนเกง่
จะอธิบายใหน้ ักเรียนอ่อนฟังและชว่ ยเหลอื ซึ่งกนั และกนั ในการทากจิ กรรมศึกษา Handout 1 และ ใหน้ ักเรยี นแต่
ละกลุม่ จบั กลุ่มกันอ่านบทความและชว่ ยกนั แปลเนื้อเรื่อง ใน Handout 2 แลว้ ทาแบบฝึกหัดในใบกจิ กรรมที่ 1
หลังจากนนั้ ครูจะแจกประโยคใหแ้ ตล่ ะกลุม่ รับผิดชอบ แต่ละกลมุ่ ได้ประโยคไหนให้อ่านและแปลประโยคนน้ั ให้
เพอื่ นในห้องฟงั โดยแยกหัวขอ้ แบง่ กนั ศกึ ษาและสรปุ เน้ือหารว่ มกนั
3. ขนั้ ทดสอบย่อย นักเรยี นแตล่ ะคนจะทาแบบทดสอบดว้ ยตนเอง ไมม่ ีการช่วยเหลือกัน
4. คดิ คะแนนความก้าวหนา้ แตล่ ะคน และของกลมุ่ ย่อย ครูตรวจผลการสอบของนักเรยี น
โดยคะแนนที่นักเรียนทาได้ในการทดสอบจะถือเป็นคะแนนรายบุคคล แล้วนาคะแนนรายบุคคลไปแปลงเป็น
คะแนนกลุม่
5. ชมเชย ยกยอ่ ง บุคคลหรอื กลมุ่ ที่มคี ะแนนยอดเย่ียม นกั เรยี นคนใดทาคะแนนไดด้ ีกว่า
ครง้ั ก่อน จะไดร้ บั คาชมเชยเปน็ รายบุคคล และกลุ่มใดทาคะแนนไดด้ กี วา่ ครัง้ กอ่ นจะไดร้ ับคาชมเชยท้ังกลุ่ม มุ่ง
ให้ผู้เรียนได้ต้ังฝึกคาถาม แสวงหาคาตอบด้วยตัวเอง ช่วยเหลือแบ่งปันความรู้จึงเหมาะแก่การพัฒนา
ความสามารถอา่ นจบั ใจความของผเู้ รยี น
ใบความรู้เรอ่ื ง “Julia’s routine”
Julia cooks in the morning. She feeds the fish in the morning. She goes grocery shopping in
the morning. She washes the dishes in the evening. She sweeps the floor in the evening.
She watch TV at night.
ใบความรเู้ รอ่ื ง “บตั รอ่านคา”
cooks feeds the fish
ทาอาหาร ใหอ้ าหารปลา
goes grocery washes the dishes
shopping ล้างจาน
ไปซ้อื ของ
watch TV
sweeps the floor ดูทวี ี
กวาดพนื้
Routine
กจิ วัตรประจาวัน
ใบความรเู้ ร่อื ง “สรปุ ใจความสาคัญ เรื่อง Julia’s routine”
Julia cooks in the morning. She feeds the fish in the morning. She goes grocery
shopping in the morning. She washes the dishes in the evening. She sweeps the
floor in the evening. She watch TV at night.
จูเลยี ทาอาหารในตอนเชา้ เธอให้อาหารปลาในตอนเช้า เธอไปซ้อื ของในตอนเช้า เธอลา้ งจานในตอน
เยน็ เธอกวาดพ้ืนในตอนเยน็ เธอดูทีวตี อนกลางคนื
ใบกิจกรรมท่ี 1 เรื่อง Julia’s routine
Direction: Read the passage and answer the questions.
Example: When does she cooks?
in the morning.
1. When does she feeds the fish?
………………………………………………………………………………………………………
2. When does she goes grocery shopping?
………………………………………………………………………………………………………
3. When does she washes the dishes?
………………………………………………………………………………………………………
4. When does she sweeps the floor
………………………………………………………………………………………………………
5. When does she watch TV?
………………………………………………………………………………………………………
ใบกิจกรรมที่ 2 เรอ่ื ง Julia’s routine
Direction: Read the passage and choose “True” (T) or “False” (F).
Ex. ……T…… Julia cooks in the morning.
……………She feeds the fish in the morning.
……………She goes grocery shopping in the morning.
……………She washes the dishes in the morning.
……………She sweeps the floor in the morning.
……………She watch TV at night.
บรรณานุกรม
https://sites.google.com/site/khunkrunong/3-1
ประภัสรา โคตะขุน.
[Online] https://sites.google.com/site/prapasara/khorngsrang-wicha.
การจัดการเรียนรู้แบบแบ่งกลมุ่ ผลสมั ฤทธ์ิ (STAD).
การจัดการเรยี นรแู้ บบร่วมมือแบบรูปแบบ STAD
(Student Teams-AchievementDivision).
http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=free4u&month=12-
2010&date=21&group=60&gblog=59.
เสนอ
ดร. รัชกร ประสรี ะเตสัง
รายวชิ า
เทคนคิ และวธิ ีการสอน
ผจู้ ดั ทา
นางสาวจรรยา เลียงวฒั นชยั รหสั นักศกึ ษา 611505103 หมู่เรยี นที่ 1
นางสาววาสนา งบไธสง รหสั นกั ศึกษา 611505221 หมเู่ รียนที่ 2
ชัน้ ปที ่ี 4 สาขาวชิ าภาษาองั กฤษ คณะครุศาสตร์