มหาเวสสันดรชาดกกณั ฑ์มัทรี
จัดทาโดย
นางสาวธนพรพรรณ เลศิ ลกั ษณ์ปรีชา
เสนอ
อาจารยอ์ ัจฉรา แดงอนิ ทวัฒน์
คานา
หนังสือเลม่ เล็กฉบบั นจี้ ัดทำขน้ึ เพ่อื ประกอบกำรเรยี นวชิ ำ
ท๓๒๑๐๑ ภำษำไทย เร่อื งมหำเวสสันดรชำดกกัณฑม์ ัทรี ในเน้ือหำ
ประกอบด้วยประวัติผแู้ ตง่ ลักษณะคำประพันธ์ ทม่ี ำ เนอ้ื เร่อื ง
คณุ คำ่ ตำ่ งๆที่ได้รับจำกเนอื้ หำ นับเป็นเร่อื งทใ่ี ห้ประโยชน์อยำ่ งยิ่ง
โดยเฉพำะกำรแสดงถึงควำมรักควำมผูกพนั ของผเู้ ป็นแม่ท่ีมีตอ่ ลูก
ผู้จัดทำได้พยำยำมคน้ ควำ้ และคัดสรรควำมรู้พร้อมท้งั สอดแทรก
แนวคดิ ประสบกำรณส์ ่วนตวั ไว้ในควำมเรยี ง และกำรแตง่ ร่ำยยำว
ควำมกตัญญู หวังเป็นอย่ำงยิ่งวำ่ หนังสือเลม่ เลก็ ฉบับน้ีคงมีประโยชน์
แกผ่ ู้ทีไ่ ด้ศึกษำบำ้ งพอสมควร ขอขอบคณุ มำ ณ โอกำสนี้
ธนพรพรรณ เลศิ ลกั ษณ์ปรชี ำ
ผจู้ ดั ทำ
ก
สารบญั ก
ข
หน้ำ ๑
๑
คำนำ ๑
สำรบัญ ๒
ควำมรู้ทั่วไปเกย่ี วกบั เน้ือเร่อื ง ๓
๓
ประวัตผิ ้แู ต่ง ๔
ท่มี ำ ๕
ลกั ษณะคำประพนั ธ์ ๗
ตวั ละคร ๗
พระเวสสนั ดร ๘
พระนำงมัทร ี ๙
เร่อื งย่อ ๑๐
คุณค่ำของเร่อื ง ๑๑
ดำ้ นเนือ้ หำ ๑๒
ดำ้ นวรรณศลิ ป์
ด้ำนสงั คม ข
กำรนำขอ้ คดิ ทไ่ี ด้จำกเร่อื งไปใช้
แต่งคำประพันธ์ประเภทร่ำยยำว
แหล่งที่มำ
คคววาามมรรู้ททู้ วั่ ่ัวไไปปเเกกยี่ ีย่ ววกกับับเเนนอ้ื อื้ เเรรอื่ อื่ งง
ปปรระะววัตตั ผิ ผิ แู้ แู้ ตต่ง่ง
เจ้ำพระยำพระคลงั (หน) เกดิ ในชว่ งปลำยสมยั อยธุ ยำ
รับรำชกำรในสมัยสมเด็จพระเจ้ำตำกสนิ กรุงธนบรุ ี โดยมีบรรดำศกั ดเ์ิ ป็น
หลวงสรวชิ ิต ในรัชสมัยสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟำ้ จฬุ ำโลกมหำรำช ได้รับกำร
แตง่ ตง้ั ใหเ้ ป็นพระยำพิพฒิ โกษำ กอ่ นจะเลือ่ นมำเป็นเจำ้ พระยำพระคลงั
เสนำบดีจตุสดมภ์กรมท่ำ ซ่ึงนอกจำกผลงำนดำ้ นรำชกำรแล้ว
เจำ้ พระยำพระคลงั (หน) ยงั มผี ลงำนด้ำนกำรประพนั ธจ์ ำนวนมำก
ททมี่ ี่มาา
มำจำกร่ำยยำวมหำเวสสนั ดรชำดก ซึง่ เป็นชำดกเร่อื งทีย่ ่งิ ใหญท่ ส่ี ดุ
โดยกลำ่ วถึงเร่อื งรำวของพระโพธสิ ตั วซ์ ง่ึ เสวยพระชำตเิ ป็นพระเวสสนั ดร
เดมิ แต่งเป็นภำษำบำลี ตอ่ มำมกี ำรแปลเป็นภำษำไทยในสมัยกรุงสโุ ขทัย
ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนำถ โปรดเกล้ำฯให้แต่งมหำชำตคิ ำหลวงข้ึน
เพือ่ ใช้สำหรับเทศน์ แตเ่ น้อื ควำมคอ่ นขำ้ งยำว จงึ เกิดมหำชำติสำนวนใหม่
เรยี กว่ำ มหำชำติกลอนเทศน์ หรอื ร่ำยยำวมหำเวสสนั ดรชำดก ต่อมำในสมัย
พระบำทสมเด็จพระจลุ จอมเกลำ้ ฯโปรดเกลำ้ ฯใหม้ กี ำรจดั พมิ พ์
เป็นฉบบั ของหลวง ๒ ฉบับ คือฉบบั หอพระสมดุ วชิรญำณ
และฉบับกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร ๑
ลลกั กั ษษณณะะคคาาปปรระะพพันนั ธธ์ ์
มหำเวสสันดรชำดก กณั ฑม์ ัทรี มลี กั ษณะคำประพันธแ์ บบร่ำยยำว
โดยหนง่ึ บทจะมกี ่วี รรคกไ็ ด้ สว่ นใหญจ่ ะนิยมแตง่ ๕ วรรคขน้ึ ไป
แต่ละวรรคมจี ำนวนคำ ๖-๑๐ คำ และใชค้ ำสร้อย ซ่ึงจะมกี ไ็ ด้หรอื ไมม่ กี ็ได้
ฉันทลักษณ์ของร่ำยยำว จะมีกำรบังคบั เฉพำะคำสดุ ทำ้ ย
ของวรรคก่อนหน้ำจะสมั ผัสกับคำที่ ๑ ถึงคำที่ ๕ ของวรรคถดั ไป เชน่
“...จึง่ ตรัสว่ำโอ้โอเ๋ วลำปำนฉะนเี้ อย่ จะมิดกึ ดน่ื จวนจะสน้ิ คนื คอ่ นรุ่ง
ไปเสียแลว้ หรอื กระไรไม่รู้เลย พระพำยรำเพยพัดมำร่เี ร่อื ยอยู่เฉ่อื ยฉวิ ...”
จดุ เดน่ ของร่ำยยำวมหำเวสสนั ดรชำดก คอื กำรมีคำถำบำลีข้ึนต้น
เช่น “...อมิ ำตำ โปกขฺ รณี รมฺมำ เจำ้ เคยมำประพำสสรงสนำนในสระศรี
โบกขรณตี ำแหน่งนอกพระอำวำส นำงเสด็จลลี ำสไปเทีย่ วเวยี นรอบ
จงึ่ ตรัสว่ำน้ำเอย๋ เคยเป่ ียมขอบเป็นไร…”
๒
ตตวั วั ลละะคครร
พพรระะเเววสสสสนั นั ดดรร
เป็นตัวละครหลกั ของร่ำยยำวมหำเวสสนั ดรชำดก
เป็นพระโอรสของ พระเจ้ำกรุงสัญชัยและพระนำงผสุ ดแี ห่งเมืองสีพี
พระเวสสันดรมักจะบรจิ ำคทำนด้วยวธิ ตี ่ำง ๆ มำตงั้ แตเ่ ด็ก
ตอ่ มำเมอ่ื อภเิ ษกกับพระนำงมทั รี และมีลกู ช่อื พระกณั หำ และพระชำลี
พระองค์ไดต้ ้งั โรงทำนจำนวนมำก และบรจิ ำคช้ำงปัจจัยนำเคนทร์
ซึ่งเป็นช้ำงเผือกค่บู ำ้ นคู่เมอื งให้กับทูตของเมอื งอนื่ ที่มำขอช้ำงเชือกนี้
ทำใหช้ ำวเมืองไม่พอใจจงึ เรยี กร้องใหพ้ ระเจ้ำกรุงสญั ชยั เนรเทศ
พระเวสสันดรออกจำกเมือง พระเวสสันดร พระนำงมทั รแี ละลูก ๆ
จึงตอ้ งออกจำกเมืองไปอยู่ในป่ำ ซง่ึ พระเวสสันดรได้บำเพญ็ เพียรภำวนำ
ประพฤติพรหมจรรย์อย่ใู นอำศรม
กำรที่พระเวสสนั ดรบำเพญ็ บำรมีโดยกำรบรจิ ำคทำนอยู่เป็นนจิ
แสดงถึงควำมเป็นผู้มจี ิตใจดีงำม มีควำมเมตตำกรุณำและกำรอดทน
อดกล้ันอำรมณ์โกรธได้ ซึ่งสง่ ผลดีต่อตนเองคือทำให้ไมว่ ้ำว่นุ ใจ
แต่ถึงอย่ำงไรพระองคก์ ย็ ังคงมคี วำมปรำรถนำเหมอื นกบั บคุ คลทัว่ ไป
๓
พพรระะนนาางงมมทั ัทรรี ี
เป็นตวั ละครประกอบมชี อ่ื เรยี กต่ำงๆกนั เชน่ นำงแก้วกัลยำณี
พระยอดเยำวอนงค์องค์อัคเรศรำชนำรี พระยพุ ยงเยำวดี เป็นต้น
พระนำงมทั รี เป็นพระรำชธดิ ำแหง่ กษัตรยิ ์มัทรำช อภิเษกสมรสกบั
พระเวสสันดร มพี ระโอรสชอ่ื พระชำลี และมีพระธดิ ำช่อื พระกณั หำ
พระนำงตำมเสดจ็ พระเวสสันดรไปยงั เขำวงกต แมจ้ ะถูกพระเจ้ำ
กรุงสญชัยทัดทำน แต่ด้วยควำมจงรักภกั ดีต่อพระสวำมีพระนำง
กไ็ ม่ทรงยินยอม เมอ่ื พระนำงมทั รตี ำมเสด็จไปเขำวงกต
พระนำงไดป้ รนนบิ ัติรับใชแ้ ละทำตำมหนำ้ ที่อยำ่ งไม่ขำดตกบกพร่อง
พระนำงมัทรเี ป็นแมท่ ่ปี ระเสรฐิ ของลกู และเป็นภรรยำทีด่ ขี อง
สำมี คือมคี วำมอ่อนน้อม นอบนอ้ ม และอดทน เป็นภรรยำแมแ่ บบ
ผ้มู ีลกั ษณะเป็นกัลยำณมติ รของสำมสี นบั สนนุ เป้ำหมำยชีวติ อันประเสรฐิ
ท่พี ระสวำมีได้ตัง้ ไว้ เช่น ปฏิบตั ิดูแลเร่อื งข้ำวปลำอำหำร และมคี ุณธรรม
สำคัญคือ ซอื่ ตรง จงรักภักดี และหนักแน่นต่อสำมี
๔
เเรรื่อื่องงยย่อ่อ
พระนำงมทั รฝี ันร้ำยวำ่ มบี ุรุษมำทำร้ำย จงึ ขอใหพ้ ระเวสสันดร
ทำนำยฝันให้ แตพ่ ระนำงกย็ งั ไมส่ บำยพระทยั กอ่ นเขำ้ ป่ำ พระนำง
ฝำกพระโอรสกบั พระธดิ ำกบั พระเวสสนั ดรใหช้ ว่ ยดูแล หลงั จำกนนั้
พระนำงมทั รกี ็เสด็จเขำ้ ป่ำเพอื่ หำผลไม้มำปรนนิบัติพระเวสสนั ดรและ
สองกมุ ำร ขณะทีอ่ ยูใ่ นป่ำ พระนำงพบวำ่ ธรรมชำตผิ ดิ ปกตไิ ป
จำกทีเ่ คยพบเห็น เช่น ต้นไมท้ ่เี คยมีผลกก็ ลำยเป็นตน้ ทีม่ ีแตด่ อก
ตน้ ท่เี คยมีก่งิ โน้มลงมำใหพ้ อเกบ็ ผลไดง้ ่ำย กก็ ลับกลำยเป็นตน้ ตรงสงู
เก็บผลไมถ่ งึ ท้งั ทอ้ งฟ้ำกม็ ดื มิด ขอบฟ้ำเป็นสีเหลืองให้รู้สึกหวั่นหวำด
เป็นอยำ่ งย่ิง ไมค้ ำนทีเ่ คยหำบแสรกผลไมก้ ็พลัดตกจำกบ่ำ ไม้ตะขอ
ที่ใชเ้ กี่ยวผลไมพ้ ลดั หลุดจำกมือ ยงิ่ พำให้กังวลใจ บรรดำเทพยดำ
ท้งั หลำยต่ำงพำกันกงั วลว่ำ หำกนำงมัทรกี ลบั ออกจำกป่ำเร็วและ
ทรำบเร่อื งที่พระเวสสนั ดร ทรงบรจิ ำคพระโอรสธดิ ำเป็นทำน กจ็ ะตอ้ ง
ออกตำมพระกมุ ำรคืนจำกชชู ก พระอนิ ทร์จงึ ส่งเทพบรวิ ำร ๓ องค์
แปลงกำยเป็นสตั วร์ ้ำย ๓ ตวั คอื รำชสีห์ เสือโคร่ง และเสอื เหลอื ง
ขวำงทำงไม่ใหเ้ สดจ็ กลบั อำศรมไดต้ ำมเวลำปกติ เม่อื ล่วงเวลำดึกแลว้
จงึ หลกี ทำงให้พระนำงเสดจ็ กลับอำศรม
๕
เร่อื งย่อ (ต่อ)
เรอ่ื งย่อ (ต่อ)
เมื่อพระนำงเสดจ็ ถงึ อำศรม ไม่พบสองกุมำรก็เศร้ำโศกเสยี พระทัย
เท่ยี วตำมหำและคร่ำครวญ พระเวสสนั ดรทรงเหน็ พระนำงเศร้ำโศก
จงึ หำวธิ ตี ัดควำมทุกขโ์ ศก ด้วยกำรแกลง้ กล่ำวหำนำงว่ำคิดนอกใจ
คบหำกบั ชำยอน่ื จงึ กลบั มำถงึ อำศรมในเวลำดกึ เพรำะทรงเกรงวำ่
ถ้ำบอกควำมจรงิ ในขณะทีพ่ ระนำงกำลังโศกเศร้ำหนักและกำลังอ่อนล้ำ
พระนำงจะเป็นอนั ตรำยได้ ในท่สี ดุ พระนำงมัทรที รงคร่ำครวญหำลกู
จนสน้ิ สตไิ ป คร้ันเม่อื ฟ้ ืนขน้ึ พระเวสสนั ดรทรงเล่ำควำมจรงิ วำ่
พระองคไ์ ด้ประทำนกมุ ำรท้งั สองแกช่ ชู กไปแลว้ ดว้ ยเหตผุ ลที่จะ
ทรงบำเพ็ญทำนบำรมี พระนำงมทั รจี ึงทรงคอ่ ยหำยโศกเศร้ำ
และทรงอนโุ มทนำในกำรบำเพ็ญทำนบำรมขี องพระเวสสันดรดว้ ย
๖
คคณุ ุณคคา่ ่าขขอองงเเรรอ่ื ่ืองง
ดดา้ ้านนเเนน้อื อื้ หหาา
รูปแบบ ของมหำเวสสันดรชำดก กัณฑ์มทั รี
แตง่ ด้วยคำประพันธป์ ระเภทร่ำยยำว นำดว้ ยคำภำษำบำลที ่อนหนงึ่
แลว้ แตง่ ดว้ ยร่ำยยำวมคี ำบำลแี ทรก เป็นกำรใชร้ ูปแบบคำประพนั ธ์
ได้เหมำะสมกบั สำระสำคญั ซ่งึ จะทำใหผ้ ูอ้ ำ่ นมคี วำมซำบซง้ึ
ในควำมรักของผูเ้ ป็นแมไ่ ดอ้ ย่ำงดีย่ิง
สำระสำคญั เป็นกำรแสดงควำมรักของแมท่ ี่มีต่อลูกว่ำเป็น
ควำมรักท่ีย่งิ ใหญ่ กำรพลัดพรำกจำกลกู ย่อมนำควำมทกุ ข์โศก
มำสู่แมอ่ ย่ำงยำกท่จี ะหำสง่ิ ใดเปรยี บได้
โครงเร่อื ง มกี ำรวำงโครงเร่อื งไดด้ ีโดยผกู เร่อื งให้เทพบุตร
๓ องค์ นิรมติ กำยเป็นสตั วร์ ้ำยมำขวำงนำงมทั รไี ว้ ไมใ่ หก้ ลับอำศรม
ไดท้ นั เวลำทีพ่ ระเวสสนั ดรจะให้ทำนสองกุมำรกับพรำหมณช์ ชู ก
เม่ือนำงกลับมำแลว้ ไมพ่ บสองกุมำรกโ็ ศกเศร้ำเสยี พระทัยจนสลบไป
ต่อมำภำยหลังไดท้ รงทรำบว่ำพระเวสสันดรทรงใหท้ ำนสองกมุ ำร
แก่พรำหมณ์ชชู ก นำงมัทรกี ค็ ลำยควำมเศร้ำโศกพระทยั
และเต็มพระทยั อนโุ มทนำในบุตรทำนของพระเวสสนั ดร
๗
ดดา้ ้านนววรรรรณณคคดดี ี
ลีลำกำรประพันธ์
กำรเล่นเสียง เป็นลกั ษณะเดน่ ของวรรณศลิ ป์ใน
ร่ำยยำวมหำเวสสันดรชำดก กัณฑม์ ัทรนี ี้ คอื มีท้งั กำรเล่นเสียงพยญั ชนะ
สัมผัสสระ และกำรเล่นคำซ้ำ อำทิ กำรเล่นเสียงสมั ผัสสระ
เช่น “...แตล่ กู รักทงั้ คู่ไปอย่ไู หนไม่เหน็ เลย...”
กำรเล่นคำ
เชน่ “...ทรงพระสรวลสำรวลร่ำระร่นื เรงิ รบี รับเอำขอคำน...”
รสวรรณคดี
พโิ รธวำทงั ควำมโกรธ เสียดสี ตอนทพ่ี ระเวสสนั ดรกล่ำวบรภิ ำษ
พระนำงมทั รที ก่ี ลับมำถงึ อำศรมจนมืดค่ำ
สัลลำปังคพิสยั เป็นบท ในกัณฑ์มัทรนี ี้ บทของพระนำงมัทรี
จะเป็นสัลปังคพสิ ัยเกือบหมด อันแสดงถงึ ควำมเศร้ำโศก คร่ำครวญ
ต่อพระกุมำรเป็นหนกั หนำและทงั้ ต่อพระเวสสนั ดรด้วย
กำรใช้ภำพพจน์
กำรใช้ภำพพจน์อปุ มำ เช่น
“...ทรงพระพกั ตร์ผิวผอ่ งดจุ เนอ้ื ทองไม่เทียมสี...”
กำรใชภ้ ำพพจนแ์ บบอุปลกั ษณ์ เชน่
“...ท้งั แปดทิศกม็ ืดมัวมดิ มวั มนทกุ หนแหง่ ท้งั ขอบฟ้ำก็ดำด
แดงเป็นสำยเลอื ด...”
กำรใช้ภำพพจนแ์ บบสัทพจน์ เชน่
“...ท้งั จกั จั่นพรรณลองไนเรไรร้องอยู่หร่งิ ๆ ระเร่อื ยโรย...
๘
ดดา้ ้านนสสงั ังคคมม
สภำพชีวติ และสงั คมไทยสมัยก่อนผหู้ ญิงต้องพงึ่ สำมี
ดูแลปรนนิบัตลิ กู และสำมี แตป่ ัจจุบนั ผู้หญิงทำงำนท้งั ในบำ้ นและ
นอกบ้ำน
ค่ำนยิ มของสงั คมไทยผหู้ ญงิ จะตอ้ งซ่อื สัตย์จงรักภักดี
ตอ่ ผูเ้ ป็นสำมี ไม่ประพฤติตนนอกใจให้เสือ่ มเสยี รวมท้ังสำมีดว้ ย
ครอบครัวจะไดม้ คี วำมสงบสุข
คติกำรเลีย้ งดูลกู ผ้หู ญงิ สมัยก่อนจะต้องอบรมเล้ียงดูลูก
ด้วยตนเองอยำ่ งทะนุถนอม เพรำะถือว่ำเป็นที่พง่ึ ในวนั ข้ำงหน้ำ
ลูกจะได้เลี้ยงดบู ดิ ำมำรดำดว้ ยควำมกตญั ญูเช่นกนั
ควำมเช่ือบำงประกำร เช่น เร่อื งเทพยดำ ลำงบอกเหตุ
ควำมเชอื่ ในผลบุญกศุ ลทีท่ ำ
ประเพณีนยิ ม ไดแ้ ก่ กำรเห่กล่อมลูก ประเพณีงำนศพ
ประเพณีกำรออกบวช
๙
การนาขอ้ คดิ ิดททีไ่ ี่ไดด้จจ้ าากกเเรรอ่ื อ่ื งงไไปปใใชช้ ้
ควำมรักของแม่ท่มี ตี ่อลูก เห็นไดจ้ ำกควำมหว่ งและควำมเศร้ำ
เมอ่ื พระนำงมัทรไี ม่เจอลูกอยู่ในอำศรม สะท้อนให้เหน็ วำ่ ลกู เป็น
แก้วตำดวงใจของพ่อแมท่ ่ไี ม่วำ่ ยคุ สมยั ไหน ควำมรักแบบไม่มีเงือ่ นไข
ของพ่อแม่นัน้ ไมเ่ คยเปลยี่ นแปลงไปตำมกำลเวลำ ข้ำพเจ้ำจงึ ขออธบิ ำย
โดยอ้ำงองิ จำกประสบกำรณ์ของตวั เอง ซ่งึ อำจเป็นแนวทำงใหผ้ ู้อ่ำน
นำไปปรับใช้ในชีวติ ประจำวนั ขำ้ พเจ้ำไดร้ ับกำรสัง่ สอนจำกมำรดำ
เสมอ ว่ำใหเ้ ป็นคนกตญั ญู รู้จักบุญคญุ โดยมำรดำของข้ำพเจ้ำได้
แสดงเป็นแบบอยำ่ งเสมอมำ ทำ่ นเชอื่ ฟังคำสง่ั สอนของบดิ ำมำรดำ
มำรดำข้ำพเจ้ำดูแลบดิ ำมำรดำอยำ่ งไม่ขำดตกบกพร่อง แมก้ ระท่ัง
ท่ำนท้ังสองเสยี ชวี ติ มำรดำของข้ำพเจ้ำก็ยังไดพ้ ำข้ำพเจ้ำไปทำบุญ
อุทศิ บญุ กุศลให้คุณตำและคณุ ยำยอยเู่ สมอ ทำใหข้ ้ำพเจ้ำเขำ้ ใจและ
รู้สกึ ซำบซง้ึ ในบญุ คุณของมำรดำ และคณุ ตำคณุ ยำยเป็นอย่ำงมำก
ขำ้ พเจำ้ จึงมีคตกิ บั ตัวเองเสมอ วำ่ ข้ำพเจ้ำจะทำใหม้ ำรดำมคี วำมสุข
และภำคภมู ใิ จทีเ่ ลี้ยงดูข้ำพเจำ้ มำ
๑๐
พรพะรคะคณุ ุณแแมมต่ ต่ อ้ อ้ งงททดแแททนน
พระคณุ แม่ยง่ิ ใหญส่ ดุ คณำนับ เป็นผู้ใหไ้ มค่ ดิ รับอทุ ิศทุกส่งิ อย่ำง
เฝ้ำแลลูกใหห้ ำ่ งภยนั ตรำย แม้นชีพวำยก็ยอมใหเ้ จำ้ แกว้ ตำ คณุ น้สี ุดจะหำสง่ิ ใด
มำแทนเทียบ เปรยี บดงั มหำสมทุ รพื้นพสธุ ำ ยำมนีแ้ มแ่ กช่ รำลงทุกคนื วนั
ลูกนี้ขออภิวนั ทต์ อบแทน แมน้ ในชำตินรี้ ่ำงกำยจะดบั สิ้นมลำยไป กค็ งทดแทน
พระคุณแม่ไม่หมดนแี้ ล
๑๑
แแหหลลง่ ง่ ททมี่ ี่มาา
ขวญั ตำ ทวสี ขุ . (๒๕๖๔). มหำเวสสนั ดรชำดก (รูปภำพออนไลน์).
สบื ค้น ๑๐ กนั ยำยน ๒๕๖๔, จำกhttps://human.yru.ac.th/thai-
ba/page/247
ธรมำนพ กนฺตสโี ล. (๒๕๖๑). สถำนท่ีและบทบำทของตวั ละครในเร่อื ง
มหำเวสสนั ดรชำดก (ออนไลน์). สบื ค้น ๑๐ กันยำยน ๒๕๖๔, จำก
https://www.stou.ac.th/offices
อรุณทิพย์ ผงทอง. (๒๕๖๑). มหำเวสสนั ดรชำดก กัณฑม์ ทั รี (ออนไลน์).
สืบค้น ๑๐ กนั ยำยน ๒๕๖๔, จำก https://6232arunthipp.word-
press.com
Narongsak. (๑๕๕๙). เวสสนั ดรชำดก (ออนไลน์). สบื คน้ ๑๐ กนั ยำยน
๒๕๖๔, จำก http://maistdsru.blogspot.com/2016/05/blog-
post_97.html
Polipo pongpang. (๒๕๖๒). ร่ำยยำวมหำเวสสนั ดรชำดก กัณฑ์ มทั รี
(รูปภำพออนไลน์). สบื คน้ ๑๐ กนั ยำยน ๒๕๖๔, จำก https://ima-
ge.app.goo.gl/wVb4z2UBTENZMnQF6
Thanyarat Khotwanta. (๒๕๖๓). มหำเวสสนั ดรชำดก กัณฑ์มทั รี
ชัน้ มธั ยมศึกษำปีท่ี 5 วชิ ำภำษำไทย (ออนไลน์). สบื คน้ ๑๐ กันยำยน
๒๕๖๔, จำก https://blog.startdee.com
๑๒