The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการสอน อรนิสา กาใจใส เลขที่๑๙ หมู่เรียนD๗

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Ornnisa Kajaisai, 2022-05-16 01:31:02

แผนการสอนอรนิสา กาใจใส เลขที่๑๙ หมู่เรียนD๗

แผนการสอน อรนิสา กาใจใส เลขที่๑๙ หมู่เรียนD๗

แผนการจัดการเรยี นรู้
ประกอบคลปิ วิดีโอการสอน

เรอ่ื ง การอา่ นออกเสยี งร้อยแกว้
ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒

แผนการจดั การเรียนรู้
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย

ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๒

เสนอ
ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร. พชั รีภรณ์ บางเขยี ว

จัดทำโดย
นางสาวอรนิสา กาใจใส
เลขท่ี ๑๙ รหัส ๖๒๘๑๑๒๔๐๔๙ หมู่เรียน D๗

รายงานนเี้ ป็นสว่ นหน่งึ ของวิชา วทิ ยาการจัดการเรียนรู้
รหัสวชิ า ๑๑๙๐๓๐๑ คณะครุศาสตร์
ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๔

มหาวิทยาลัยราชภัฏบา้ นสมเด็จเจ้าพระยา

แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๑ เรือ่ ง การอ่านรอ้ ยแก้ว

กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาไทย รายวิชาภาษาไทย

ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ ๒ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ ๑ หลักการอา่ นวรรณคดแี ละวรรณกรรม เวลา ๒ ชัว่ โมง

๑. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้วี ดั
มาตรฐาน ท ๑.๑ ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปัญหา

ในการดำเนนิ ชีวติ และมีนสิ ยั รกั การอา่ น
ท ๑.๑ ม.๒/๑ อ่านออกเสยี งบทร้อยแก้วและรอ้ ยกรองได้ถูกต้อง

๒. จุดประสงค์การเรียนรสู้ ่ตู ัวชว้ี ดั
๑. บอกความหมายการอา่ นออกเสยี งร้อยแก้ว (k)
๒. บอกหลกั เกณฑ์ในการอ่านบทรอ้ ยแกว้ ไดถ้ ูกต้อง (P)
๓. อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วได้ถกู ตอ้ งและสอดคล้องกับเนอ้ื เร่ืองทอี่ ่าน (A)

๓. สาระสำคญั
การอ่านออกเสียงเป็นการสื่อสารที่สำคัญ เพราะเป็นการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความรู้สึก และ

อารมณ์ของผู้อ่านไปยังผู้ฟัง ผู้ที่อ่านออกเสียงได้ดี ย่อมต้องรู้หลักในการอ่าน และมีทักษะในการอ่าน จึงจะ
สามารถอ่านได้ถูกต้อง คล่องแคล่วและน่าฟัง ดังนั้นหากรู้หลักการอ่านและมีทักษะในการอ่าน ย่อมจะทำให้
การสอ่ื สารเกิดสัมฤทธผิ์ ล

๔. สาระการเรยี นรู้ ๔) ทักษะการต้งั เกณฑ์
๔.๑.ความรู้ (K) ๕) ทักษะการประเมนิ
- ความหมายของร้อยแก้ว ๖) ทักษะการนำความรู้ไปใช้
- หลักการอา่ นออกเสียงร้อยแก้ว
- การอา่ นออกเสียงร้อยแก้ว
๔.๒.ทักษะ/กระบวนการ(P)
๑) ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ
๒) ทกั ษะการวิเคราะห์
๓) ทักษะการจำแนกประเภท
๔.๓ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (A)
๑) มีวินยั
๒) รกั ความเปน็ ไทย

๕. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น
ความสามารถในการสอ่ื สาร
- มที กั ษะในการอ่านรอ้ ยแกว้
ความสามารถในการคิด
- ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์
ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
- กระบวนการปฏบิ ัติ

๖. สาระการเรยี นรู้สกู่ ารบรู ณาการ
การอ่านออกเสียงบทร้อยแก้วต้องอ่านให้ชัดเจน และเหมาะสมกับประเภทของสารที่อ่านน้ัน

รวมถงึ เน้อื เรอ่ื งด้วย ไมว่ ่าจะเปน็ บทความหรือบทโฆษณาต้องอ่านให้ถูกต้องตามอักขรวิธี มีจงั หวะในการอ่าน
ใชน้ ำ้ เสียงสอดคลอ้ งกับลักษณะของสินค้า บรกิ าร และกล่มุ เปา้ หมายที่เปน็ ผู้ฟัง

๗. การจัดกจิ กรรมการเรยี นการสอน (ชวั่ โมงที่ ๑)
ข้นั นำ
๑. ครสู นทนากับนักเรียนเรื่องการอ่านออกเสยี งในชวี ิตประจำวันวา่ สว่ นใหญ่จะไม่อ่านออก

เสียงมีแต่อ่านในใจ เพื่อความรวดเร็ว แต่ถ้าอ่านออกเสียงก็เป็นในบางครั้ง บางโอกาสเท่านั้น เช่น อ่านนิทาน
ใหน้ ้องฟัง อ่านเพ่อื สอบเอาคะแนน เปน็ ตน้

ข้ันสอน
๒. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เรื่องการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว เพื่อจะได้ทราบพ้ืน

ฐานความรู้เดิมของนักเรียนในการเรียนเรื่องการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ซึ่งใช้แบบทดสอบปรนัย ชนิด
เลือกตอบ ๔ ตัวเลือก จำนวน ๒๐ ขอ้

๓. เสรจ็ แลว้ ส่งครตู รวจแจ้งคะแนนไมต่ อ้ งเฉลย
๔. นักเรียนอ่านออกเสียงร้อยแก้วเรื่องสรา้ งวัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ใหเ้ ป็นนักอ่าน พร้อมๆ กัน
จากกิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ี ๑ (ขอ้ ความท่ยี ังไมไ่ ด้แบง่ วรรคตอน)

ขนั้ สรปุ
๕. ใหน้ กั เรียนแสดงความคดิ เหน็ ในประเด็นตอ่ ไปนี้
- ความแตกต่างในดา้ นความไพเราะ
- ความแตกตา่ งในดา้ นความถูกต้อง
- ความแตกตา่ งในด้านความคล่องแคล่ว

(ชัว่ โมงที่ ๒)
ขนั้ นำ
๖. นักเรยี นศกึ ษา ใบความรู้ ที่ ๑ เรอื่ ง หลักการอ่านออกเสยี ง ความหมายรอ้ ยแก้ว หลกั การ
อา่ นออกเสยี งรอ้ ยแก้ว สรปุ ใจความสำคัญลงสมดุ จดงาน
ขัน้ สอน
๗. นักเรียนและครูร่วมกันอภิปรายความจำเป็นของการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว แล้วสรุป

หลักการ โดยครูเพิ่มเติมข้อสรุปของนักเรียนซึ่งพิจารณาในด้านจังหวะ วรรคตอน การใช้สายตา น้ำเสียง
อารมณ์ และบคุ ลกิ ภาพ

๘. นักเรียนจับคู่กันอ่านออกเสียงร้อยแก้วเรื่องสร้างวัฒนธรรมคนรุ่นใหม่ให้เป็นนักอ่าน
พร้อมๆ กันจากกจิ กรรมการเรียนร้ทู ่๑ี ซึ่งครไู ดท้ ำเครอ่ื งหมายการเวน้ วรรคแล้ว

๙. นักเรียนเลือกบทร้อยแก้วจาก กิจกรรมที่ ๒ และกิจกรรมที่ ๓ และเลือก เพียงกิจกรรม
เดียว เพ่อื ฝกึ อ่านนอกเวลา

๑๐. นักเรียนอ่านออกเสียงร้อยแก้วหน้าชั้นเรียน เพื่อนๆ ช่วยกันประเมินผลโดยใช้ แบบ
ประเมินผลการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว สลับกันให้คะแนน นักเรียนจะได้รู้ถึงความสามารถของตนเองในการ
อ่านออกเสยี งร้อยแกว้ นำไปปรบั ปรงุ แก้ไขใหด้ ีขนึ้ ต่อไป

ขั้นสรุป
๑๑. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่องการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว เพื่อจะได้ทราบว่า

นักเรียนได้รับความรู้จากการเรียนเรื่องการอ่านออกเสียงร้อยแก้ว ใช้แบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ ๔
ตวั เลอื ก จำนวน ๒๐ ขอ้
๘. การจดั บรรยากาศเชงิ บวก

ใหน้ กั เรียนได้แสดงความสามารถในการอ่านออกเสียง เรยี นรู้และสังเกตการอ่านของผู้อื่น แล้วนำมา
ประยกุ ตใ์ ชก้ ับตนเอง

๙. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
สอ่ื การเรยี นรู้

- แบบทดสอบกอ่ นเรียน
- ใบความรู้
- กิจกรรมการเรยี นร้ทู ี่ ๑,๒,๓

แหลง่ การเรยี นรู้
- ส่ือตา่ ง ๆ เชน่ วทิ ยุ โทรทัศน์ อนิ เทอร์เน็ต

๑๐. การวดั และการประเมนิ ผล

จุดประสงค์การเรียนรู้ ช ิ ้ น ง า น / วธิ กี ารประเมนิ เครื่องมือการ ผปู้ ระเมนิ เกณฑ์การ
ประเมนิ
สู่ตวั ชว้ี ดั ภาระงาน ประเมนิ รอ้ ยละ ๖๐
ผา่ นเกณฑ์
บอกความหมายการ - นักเรียนทำ แบบทดสอบ ครูผสู้ อน
ระดบั คุณภาพ
อ่านออกเสียงรอ้ ยแกว้ แบบทดสอบก่อน กอ่ นเรียน ๙-๑๒ ผ่าน
เกณฑ์
เรยี น
ร้อยละ ๖๐
อ่านออกเสียงบทร้อย - นกั เรยี นอ่านออก แบบประเมินการ ครผู ้สู อน ผา่ นเกณฑ์

แก้วได้ถูกต้องและ เสียงบทร้อยแก้ว อ่านบทร้อยแก้ว

สอดคล้องกับเนื้อเรื่อง

ทีอ่ ่าน

บอกหลักเกณฑ์ในการ - นักเรยี นทำ แบบทดสอบ ครผู ู้สอน

อ ่ า น บ ท ร ้ อ ย แ ก ้ ว ไ ด้ แบบทดสอบ หลังเรียน

ถูกตอ้ ง หลังเรียนเรียน

แบบทดสอบกอ่ นเรยี น – หลังเรียน
เรอ่ื งการอ่านออกเสยี งร้อยแก้ว

คำชแี้ จง ให้นักเรียนเลอื กคำตอบที่ถกู ต้องทส่ี ดุ เพียงคำตอบเดยี ว

๑. ขอ้ ใดหมายถึงการอ่านออกเสียง ๙. ขอ้ ใดอ่านถกู ต้องตามความหมายกระดูกมนษุ ย์
ก. การเปลง่ เสียงตามตวั หนังสอื
ข. การออกเสียงให้ดัง ก.โครง (โคง) ข. โคลง(โค-ลง)
ค. การอา่ นหนงั สือ
ง. การใช้เสียงในการอ่านหนังสือ ก. โคง (โคง) ข. โคลง(โคง)

๒. องค์ประกอบของการอ่านออกเสียงมีอะไรบา้ ง ๑๐. เติมคำใดจงึ จะถกู ต้อง “ห้ามตดิ ปา้ ยประ...........
ก. ผู้ส่งสาร ข. สาร ค. ผู้รบั สาร ง. ถกู ทุกขอ้
ก. ประกาศ ข. ประกาส
๓. “สาร” คือข้อใด
ก. ข้อความท่อี า่ น ข. ผอู้ า่ น ค. ผูฟ้ ัง ง. การอ่าน ค. ประกาด ง. ประกาจ

๔. หลักในการอ่านออกเสียงข้อใดไม่ใช่ ๑๑. งานเขียนร้อยแก้วประเภทใดม่งุ เน้นเสนอเน้ือหา
ก. ความเขา้ ใจบทอา่ น ข. การยืนหรอื การนงั่
ค. การถอื บทอ่าน ง. สมาธิ ขอ้ เท็จจรงิ ทกุ ข้อ

๕. หลกั ในการอ่านออกเสยี งข้อใดไมใ่ ช่ ก. นิทาน เรือ่ งส้ัน
ก. การใช้น้ำเสียง ข. การเว้นวรรคให้ถูกต้อง
ค. พยญั ชนะ ร และ ล ง. การหายใจ ข. บทความ นวนิยาย

๖. ขอ้ ใดไมค่ วรปฏิบัติในการอ่านหนังสือ ค. บทความ คมั ภรี ์ศาสนา
ก. ไม่ควรอ่านหนงั สือก้มหนา้
ข. สบตาผ้ฟู งั เป็นระยะ ๆ ง. จดหมายเหตุ นยิ ายองิ พงศาวดาร
ค. ควรเปล่ียนสายตาขา้ งซ้ายบ้าง ขวาบ้าง
ง. เคี้ยวหมากฝรั่ง ๑๒. การอา่ นให้เกิดจินตภาพ ควรปฏิบตั อิ ยา่ งไร

๗. การเว้นวรรคตอนมีความสำคัญอยา่ งไร ก. อา่ นเนน้ คำท่ีสำคญั และคำท่ีต้องการใหเ้ กดิ จนิ ตภาพ
ก. เว้นวรรคผดิ ความหมายจะเปลย่ี น
ข. เว้นวรรคผดิ ความหมายไม่เปล่ียน ข. อ่านให้ถกู ต้องตามอักขรในภาษาไทย
ค. การเวน้ วรรคไม่มีความสำคญั
ง. ไมม่ ีข้อใดถูก ค. อ่านจากพจนานุกรมบัณฑิตยสถาน

๘. ขอ้ ใดอา่ นเว้นวรรคถกู มีความหมายถึงฐานะ “รวย” ง. อ่านออกเสยี งใหด้ ังกงั วานจนผูฟ้ งั เกดิ จินตภาพ
ก. อาจารย์ฟอง/สนานสวมแว่นตา/กรอบทองเหลืองวาววับ
ข. อาจารยฟ์ องสนาน/สวมแว่นตากรอบทอง/ เหลืองวาววบั ๑๓. การอา่ นออกเสยี งต้องการเน้นหรือเพิ่มน้ำหนักของเสียง
ค. อาจารย/์ ฟองสนาน/สวมแว่นตากรอบทองเหลืองวาววับ
ง. อาจารยฟ์ องสนาน/สวมแว่นตากรอบทองเหลอื ง/วาววบั ควรใช้เครอื่ งหมายใดกำกับ

ก. เคร่อื งหมาย / ข. เครอ่ื งหมาย //

ค. เคร่อื งหมาย _ ง. เคร่ืองหมาย /_

๑๔. ขอ้ ใดเปน็ ลักษณะเดน่ ของการอ่านแบบพรรณนา

ก. การอ่านที่เนน้ นำ้ หนกั ของเสยี ง

ข. การอ่านท่ที ำใหผ้ ู้ฟงั เกิดอารมณค์ ลอ้ ยตาม

ค. การอา่ นทลี่ ากเสียงช้าๆ และไวห้ างเสยี ง

ง. การอา่ นที่ทำใหเ้ กิดเสยี งโศกเศรา้ กลับเป็นเสยี งปกติ

๑๕. การอา่ นคำใหเ้ ออ้ื สัมผัสในเพอ่ื เพิ่มความไพเราะเป็นการ

อ่านในข้อใด

ก. ไม่มีกษัตรยิ ์ครองปฐพี อ่านวา่ ปะ-ถะ-พี

ข. ข้าอุตสา่ หม์ าเคารพอภิวันท์ อา่ นว่า อะ-พ-ิ วัน

ค. บุญบันดาลดวงจิตพระธิดา อ่านวา่ พระ-ท-ิ ดา

ง. คดิ ถึงบาทบพิตรอดศิ ร อ่านว่า อะ-ดดิ -สอน

๑๖. กาพยย์ านี ๑๑ ข้อใดแบ่งการอา่ นวรรคตอนในการอา่ นได้ ๑๘. การอ่านดว้ ยนำ้ เสยี งหนกั แน่น สัน้ กระชับ เหมาะ
การอา่ นเน้ือความในลักษณะใด
ถกู ต้อง
ก. เน้อื ความประเภทส่ังสอน
ก. นาวา/แน่นเปน็ ขนัด// ล้วนรูปสตั ว/์ แสนยากร// ข. เนื้อความประเภทตดั พอ้ ต่อวา่
ค. เนอ้ื ความประเภทแสดงอารมณ์กลัว
เรือริ้ว/ทิวธงสลอน// สาครล่นั /ครั่นครน้ื ฟอง// ง. เน้อื ความประเภทแสดงอารมณ์โกรธ
๑๙. การอา่ นคำประพนั ธ์ประเภทใด สามารถฝกึ อา่ นได้
ข. พระเสด็จโดย/แดนชล ทรงเรือตน้ /งามเฉดิ ฉาย งา่ ยมากที่สดุ
ก. อา่ นบทเจรจา
กิ่งแก้ว/แพรว้ พรรณราย พายอ่อนหยับ/จับงามงอน ข. อ่านรอ้ ยแก้ว
ค. อา่ นกลอนสวด
ค. ตับเหลก็ /ลวกหล่อนต้ม// เจอื น้ำส้ม/โรยพริกไทย ง. อา่ นทำนองเสนาะ
๒๐. เสียงของกลอนจะไพเราะข้ึนอยกู่ บั ข้อใด
โอชา/จะหาไหน// ไมม่ ี/เทียบเปรยี บ/มือนาง// ก. สมั ผสั ใน
ข. สมั ผัสนอก
ง. เหน็ นวลครวญ/ครุน่ คดิ // กำเรบิ จิต/วาบหวัน่ ไหว// ค. จำนวนคำ
ง. การใชภ้ าพจน์
ไปได้ก/็ จะไป// โอบเอวอ้มุ /พุ่มพวงพยุง/

๑๗. การอา่ นรอ้ ยกรองประเภทใดทมี่ ีการแบง่ วรรคตอนแตกตา่ ง

จากข้ออนื่

ก. โคลงกระทู้

ข. กลอนสักวา

ค. กลอนสุภาพ

ง. กลอนหก

เฉลย
๑. ก ๒. ง ๓. ก ๔. ง ๕. ง ๖. ง ๗. ก ๘. ข ๙. ก ๑๐. ก
๑๑. ง ๑๒. ก ๑๓. ค ๑๔. ข ๑๕. ง ๑๖.ก ๑๗. ก ๑๘.ง ๑๙.ข ๒๐. ก

กจิ กรรมท่ี ๑
ตวั อย่างข้อความอ่านออกเสียงรอ้ ยแกว้
สรา้ งวฒั นธรรมคนร่นุ ใหมใ่ ห้เป็นนกั อ่าน

ในปัจจุบันกล่าวกันว่าเรากำลังอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์ หรือเรียกอีกอย่างว่าโลกไร้พรมแดน แต่จะเรียกอย่างไรก็
ตามเถิด การอ่าน ก็เป็นกระบวนการสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคนในทศวรรษนี้ เพราะโลกของการศึกษา
มิไดจ้ ำกัดอยูภ่ ายในห้องเรียน ทม่ี ลี ักษณะรูปทรงสีเ่ หล่ียมเเคบๆ เท่านั้น เเต่ขอ้ มลู ข้าวสารสารสนเทศต่างๆ ได้
ย่อโลกให้เล็กลงเท่าที่เราอยากรู้ได้รวดเร็ว ในชั่วลัดนิ้วมือเดียวอย่างที่คนโบราณกล่าวไว้ จะมีสื่อให้อ่านอย่าง
หลากหลายให้เลอื ก ท้ังส่อื สิ่งพมิ พท์ ีเ่ ราค้นุ เคย ไปจนสือ่ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ทเี่ รียกว่า "อินเทอรเ์ น็ต" เพราะการต่อสู้
รกุ รานกันของมนุษย์ยุคใหม่ จะใชข้ อ้ มูล สติ ปญั ญา และคณุ ภาพของคนในชาติ มากกว่าการใช้กำลังอาวุธเข้า
ประหัตประหารกัน หากคนในชาติด้อยคุณภาพ ขาดการเรียนรู้ จะถูกครอบงำทางปัญญาได้ง่ายๆ จากสื่อ
ต่างๆ จากชาติที่พัฒนาเเล้ว หากคนไม่อ่านหนังสือ ก็ยากที่จะพัฒนาสติปัญญา และความรู้ได้ โดยเฉพาะ
ประเทศที่กำลังพัฒนา จะต้องทุ่มเทให้คนมีนิสัยรักการอ่าน มีทักษะในการอ่าน และพัฒนาวิธีการอ่านให้เป็น
นักอา่ นทด่ี ี นกั อ่านท่ีดจี ะมภี ูมิคุม้ กนั การครอบงำทางปัญญาได้เปน็ อย่าง ร้เู ทา่ กันและสามารถแกแ้ ละ
สามารถแกป้ ญั หาได้

ชาตกิ ้าวไกลด้วยคนไทยรักการอ่าน : มานพ ศรีเทยี ม

สร้างวฒั นธรรมคนรุ่นใหม่ให้เป็นนกั อ่าน

ในปัจจบุ นั กล่าวกนั ว่า/ เรากำลังอยู่ในยุคโลกาภิวัฒน์ หรอื เรยี กอีกอยา่ งว่าโลกไร้พรมแดน// แต่จะ
เรียกอย่างไรก็ตามเถิด/ การอ่าน/ ก็เป็นกระบวนการสำคัญอย่างยิ่งในการพัฒนาคนในทศวรรษนี/้ เพราะโลก
ขอการศึกษา/ มิได้จำกัดอยู่ภายในห้องเรียน/ ที่มีลักษณะรูปทรงสี่เหลี่ยมเเคบๆ เท่านั้น/ เเต่ข้อมูลข้าวสาร
สารสนเทศตา่ งๆ /ไดย้ อ่ โลกให้เล็กลงเทา่ ทเี่ ราอยากร้ไู ด้รวดเรว็ / ในชัว่ ลัดนวิ้ มอื เดยี วอย่างทค่ี นโบราณกล่าวไว้/
จะมีสื่อให้อ่านอย่าหลากหลายให้เลือก/ ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ที่เราคุ้นเคย/ ไปจนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ที่เรียกว่า
"อินเทอร์เน็ต" เพราะการต่อสู้รุกรานกันของมนุษย์ยุคใหม่/ จะใช้ขอ้ มูล/ สติ/ ปัญญา/ และคุณภาพของคนใน
ชาติ/ มากกว่าการใช้กำลังอาวุธเข้าประหัตประหารกัน// หากคนในชาติด้อยคุณภาพ/ ขาดการเรยี นรู/้ จะถูก
ครอบงำทางปัญญาได้ง่ายๆ / จากสื่อต่างๆ จากชาติที่พัฒนาเเล้ว หากคนไม่อ่านหนังสือ/ ก็ยากที่จะพัฒนา
สติปญั ญา และความรไู้ ด้/ โดยเฉพาะประเทศที่กำลงั พัฒนา/ จะตอ้ งทมุ่ เทให้คนมีนิสัยรักการอ่าน/ มีทักษะใน
การอ่าน/ และพัฒนาวธิ ีการอา่ นใหเ้ ป็นนกั อ่านที่ด/ี / นกั อ่านทด่ี จี ะมภี มู คิ มุ้ กนั การครอบงำทางปัญญาไดเ้ ป็น
อยา่ ง/ รูเ้ ท่ากนั คน และสามารถแกป้ ัญหาได้ดี

ชาติก้าวไกลดว้ ยคนไทยรักการอา่ น : มานพ ศรเี ทยี ม

เครอ่ื งหมาย / หมายถึง การหยดุ เวน้ ชว่ งจงั หวะส้ันๆ
เครื่องหมาย // หมายถงึ การหยดุ เว้นชว่ งจังหวะที่ยาวกวา่ เครื่องหมาย /
เคร่อื งหมาย ____ หมายถึง การเน้น การเพิ่มนำ้ หนักของเสียง

แบบประเมินการอา่ นออกเสียงรอ้ ยแก้ว

ถกู ตอ้ ง การแบ่งวรรค ออกเสียง การใชน้ ้ำเสยี ง จังหวะลลี าใน รวม ๒๐

เลขท่ี ชือ่ -สกลุ ตามอกั ขรวธิ ี ตอน ชดั เจน การอ่าน คะแนน

๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๔ ๓ ๒ ๑ ๒๐



















๑๐

...

เกณฑก์ ารคดั สินระดับคุณภาพ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน ดมี าก
๑๗-๒๐ ดี
๑๓-๑๖ พอใช้
๙-๑๒
๕-๘ ปรบั ปรุง

ลงชอื่ นางสาวอรนิสา กาใจใส ผู้ประเมิน

.........../................./...........

เกณฑก์ ารคัดสินระดบั คุณภาพ ระดบั คุณภาพ
ชว่ งคะแนน ดมี าก
๑๗-๒๐ ดี
๑๓-๑๖ พอใช้
๙-๑๒
๕-๘ ปรับปรุง

๑๑. บนั ทึกผลหลังการสอน

๑๑.๑สรปุ ผลการเรยี นการสอน

...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................

๑๑.๒ ปญั หา/อปุ สรรค

...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................

๑๑.๓ แนวทางแกไ้ ข /แนวทางการพัฒนา

...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................

ลงชอ่ื นางสาวอรนิสา กาใจใส

(.....................................................)

ครูผู้สอน


Click to View FlipBook Version