The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nun_2088, 2022-02-22 00:38:03

คู่มือจัดการที่พักโฮมสเตย์

คู่มือโฮมสเตย์

Keywords: การจัดการที่พัก

Health HomeStay

คำนำ

นักศึกษาคณะบริหารธุรกิจและเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาการ
จัดการท่องเที่ยวและการบริการ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราช
มงคลอีสาน วิทยาเขตขอนแก่น ได้จัดดำเนินการพัฒนาศักยภาพ
โฮมสเตย์ Healthy Homestay โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและ
พัฒนาโฮมสเตย์ที่ได้มาตรฐาน และมีความพร้อมในการให้บริการด้าน
สุขภาพแก่ผู้มารับบริการและ นักท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเป็นการยก
ระดับการบริหารจัดการ โฮมสเตย์ให้มีศักยภาพในการพัฒนาที่พัก ให้
เป็นการท่องเที่ยว คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่า คู่มือฉบับนี้ จะมี
ประโยชน์ต่อผู้ประกอบการโฮมสเตย์เป็นอย่างยิ่ง

คณะผู้จัดทำ

สารบัญ หน้า

เรื่อง 1
2
ความหมายโฮมสเตย์ 2
1. สำรวจบ้าน บริเวณชุมชน 3
-ความสะอาดของบ้าน
2. ศึกษาข้อกฎหมายให้พร้อม 3
และจดทะเบียนให้ถูกต้อง
-ขั้นตอนการขอใบอนุญาต 4
ประกอบกิจการโฮมสเตย์ 5
- เอกสารและหลักฐานประกอบ
3. ทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้ดี 5
ยุคนี้ออนไลน์สำคัญที่สุด 5
4. โฮมสเตย์คือ “วิถีชีวิต”
5. พร้อมปรับเพื่อความสะดวกสบาย 6
แต่ไม่ใช่บริการเต็มรูปแบบ 6
6. เข้าใจวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี 6
7. โตไปด้วยกันทั้งชุมชน ไม่ยืนหนึ่งเพียงผู้เดียว
8. ประชาสัมพันธ์และสร้างความแตกต่างในแบบตัวเอง

1

คู่มือการทำโอมสเตย์

โฮมสเตย์ หมายถึง การท่องเที่ยวรูปแบบหนึ่ง ที่นักท่องเที่ยวจะ
ต้องพักรวมกับเจ้าของบ้านชายคาเดียวกัน โดยมีห้องพักหรือพื้นที่ใช้สอย
ภายในบ้านเหลือสามารถนำมาดัดแปลงให้นักท่องเที่ยวได้พักชั่วคราว ซึ่งมี
จำนวนไม่เกิน ห้อง มีผู้พักรวมกันไม่เกิน 20 คนโดยมีค่าตอบแทน และจัด
บริการสิ่งอำนวยความสะดวกตามสมควร อันมีลักษณะเป็นการประกอบ
กิจการเพื่อหารายได้เสริม ซึ่งเป็นไปตามบทนิยามคำว่า “โรงแรม” แห่งพระ
ราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 และได้ขึ้นทะเบียนกับกรมการท่องเที่ยว
ตามหลักเกณฑ์ที่กรมการท่องเที่ยวกำหนด
“โฮมสเตย์ธุรกิจเล็ก ๆ ที่แบ่งปันที่พักให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่าง
ประเทศให้เข้าพัก นับเป็นอีกธุรกิจที่น่าสนใจและน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง
ส่วนหนึ่งเนื่องจากรัฐบาลพยายามผลักดันอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวให้
เติบโต เพราะอุตสาหกรรมนี้เป็นหนึ่งในรายได้หลักของประเทศในปัจจุบัน”

2

1. สำรวจบ้าน บริเวณชุมชน
สิ่งที่ควรจะทำคือ สำรวจบริเวณบ้านและตัวบ้านเสียก่อนว่าแต่ละส่วน

จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงอย่างไร ส่วนไหนแขกเข้าได้ ส่วนไหนเป็นพื้นที่ส่วนตัว
ของคุณ หลังจากนั้นต้องสำรวจบริเวณชุมชนของคุณก่อนว่ามีจุดแข็ง จุด
ดึงดูดอะไรบ้าง รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดของคุณที่น่าสนใจ เพราะ
ข้อมูลเหล่านี้สำคัญมากหากคิดจะเปิดโฮมสเตย์
- ความเต็มใจของสมาชิกในครอบครัวต่อการรับผู้มาเยือน
- ชุมชนมีสภาพแวดล้อมที่ดี
- ที่นอน หรือเตียงนอน
- ห้องน้ำสะอาด
- มีความปลอดภัย

ความสะอาดของบ้าน
- บ้านพักควรมีอากาศที่สามารถถ่ายเทได้สะดวก แสงสว่างสามารถส่องเข้ามา
ถึงปราศจากความชื้นไม่มีกลิ่นอับ
- มีหลังคาที่สามารถกันน้ำได้ดี ภายในห้องพักต้องได้รับการทำความสะอาดเป็น
ประจำ
- ต้องมีการเปลี่ยนผ้าปูที่นอน และอุปกรณ์ส่วนตัวสำหรับแขกทุกครั้งหรือเมื่อ
มีแขกคนใหม่เข้ามาพัก
- ต้องหมั่นกำจัดแมลงที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอยู่เสมอ
- ห้องน้ำจะเป็นห้องที่แขกจะมาร่วมใช้ด้วย ดังนั้นต้องเตรียมอุปกรณ์ทำความ
สะอาดส่วนตัวสำหรับแขก (กรณีที่แขกไม่ได้เตรียมมา) และจะต้องมีการ
ทำความสะอาดเป็นประจำ
- หมั่นดูแลสภาพแวดล้อมของบ้านพักอยู่เสมอ

3

2. ศึกษาข้อกฎหมายให้พร้อมและจดทะเบียนให้ถูกต้อง
ก่อนจะเป็นโฮมสเตย์ต้องศึกษาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจให้ดีจะได้ไม่
เกิดความผิดพลาดที่คาดไม่ถึง ขณะเดียวกันก็ควรที่จะไปแจ้งจดทะเบียนโฮม
สเตย์ของคุณกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เรียบร้อยเสียก่อน อย่าลืมว่าโฮม
สเตย์ก็คือการทำธุรกิจรูปแบบหนึ่ง การจดทะเบียนให้ถูกต้องนอกจากคุณจะ
ดำเนินธุรกิจอย่างสบายใจแล้ว หากเกิดสิ่งไม่คาดฝันขึ้นมา คุณยังมีกฎหมาย
คุ้มครอง

ขั้นตอนการขอใบอนุญาตประกอบกิจการโฮมสเตย์
หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขในการยื่นคำขอ และในการพิจารณาอนุญาต
ผู้ใดประสงค์จะยื่นคำขอแบบหนังสือแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม จะต้อง
เป็นสถานที่พักที่มีจำนวนห้องพักในอาคารเดียวกันหรือหลายอาคารรวมกันไม่
เกินสี่ห้อง และมีจำนวนผู้พักรวมกันไม่เกินยี่สิบคน ซึ่งจัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการ
ที่พักชั่วคราวสำหรับคนเดินทางหรือบุคคลอื่นใดโดยมีค่าตอบแทน อันมี
ลักษณะเป็นการประกอบกิจการเพื่อหารายได้เสริม และได้แจ้งให้นายทะเบียน
ทราบตามแบบที่รัฐมนตรีกำหนด
ผู้ที่จะขอรับแบบหนังสือแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม ตามกฎกระทรวง
กำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551 จะต้องมี
คุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังนี้
- มีสัญชาติไทย
- มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์
- มีภูมิลำเนาหรือถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย
- ไม่เป็นบุคคลคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
- ไม่เคยได้รับโทษจำคุกโดยคำพิพากษาถึงที่สุดให้จำคุก เว้นแต่เป็นโทษ
สำหรับความผิดที่ได้กระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
- ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักใช้ใบอนุญาต
- ไม่เคยถูกเพิกถอนใบอนุญาต หรือเคยถูกเพิกถอนใบอนุญาตโดยเหตุอื่นที่
มิใช่เหตุตาม (6) แต่เวลาได้ล่วงพ้นมาแล้วไม่น้อยกว่าสามปี
(ทั้งนี้ จะมีการแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้ยื่นคำขอทราบภายใน 7 วันนับแต่วันที่
พิจารณาแล้วเสร็จ)

4

เอกสารและหลักฐานประกอบ
- บัตรประจำตัวประชาชน สำเนาจำนวน 1 ฉบับ (เอกสารยืนยันตัวตน)
- สำเนาทะเบียนบ้าน สำเนาจำนวน 1 ฉบับ (เอกสารยืนยันตัวตน)
- หนังสือแจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมตามกฎกระทรวงกำหนดประเภทและ
หลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ. 2551 เอกสารต้นฉบับจำนวน 1
ฉบับ
- หลักฐานแสดงความเป็นเจ้าของอาคาร หรือหนังสือแสดงความยินยอมให้ใช้
อาคารหรือสถานที่ที่ขออนุญาตประกอบกิจการพาณิชย์ในกรณีที่อาคารหรือ
สถานที่นั้นเป็นของผู้อื่น สำเนาจำนวน 1 ฉบับ เช่น (เอกสารเพิ่มเติม)
-หนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่ดินที่จะใช้เป็นที่ตั้งของ
สถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม สำเนาจำนวน 1 ฉบับ
- แผนที่แสดงที่ตั้งของสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรม เอกสารต้นฉบับจำนวน 1
ฉบับ (เอกสารเพิ่มเติม)
7.รูปถ่ายขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูป
สามารถขอออกหนังสือ แจ้งสถานที่พักที่ไม่เป็นโรงแรมได้ที่เขต
กรุงเทพมหานคร ยื่นคำขอได้ที่ ส่วนรักษาความสงบเรียบร้อย 3 สำนักการ
สอบสวนและนิติการ กรมการปกครอง (วังไชยา) ถนนนครสวรรค์ เขตดุสิต
กรุงเทพมหานคร โทร 02-3569559 ต่างจังหวัด ยื่นคำขอได้ที่ ที่ว่าการอำเภอ
ที่สถานที่พักนั้นตั้งอยู่
*** ไม่มีค่าธรรมเนียมใด ๆ ทั้งสิ้น
*** หากไม่จดแจ้งจะมีความผิด ฐานประกอบธุรกิจโรงแรมโดยไม่มีใบอนุญาต
ตาม พ.ร.บ. โรงแรม พ.ศ. 2547

5

3. ทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ให้ดี ยุคนี้ออนไลน์สำคัญที่สุด
เมื่อเตรียมสถานที่ เตรียมทุกอย่างพร้อมแล้ว ก็ถึงคราวต้องประชาสัมพันธ์
โฮมสเตย์เพื่อเรียกแขก และวิธีการที่ดีสุดคือการตลาดออนไลน์เท่านั้นจึงจะมี
ประสิทธิภาพมากที่สุดที่ให้ลูกค้ารู้จัก ทำออนไลน์ให้เป็นแล้วสิ่งที่ทำจะเติบโต

4. โฮมสเตย์คือ “วิถีชีวิต”
โฮมสเตย์เป็นมากกว่าที่พัก เพราะสิ่งที่ผู้มาเยือนต้องการมากกว่าโรงแรมคือ
การได้มาสัมผัสวิถีชีวิตที่เจ้าของบ้านเป็น ไม่ใช่ปรับแต่งหรือสร้างขึ้นเพื่อเอาใจ
นักเดินทาง เสน่ห์ของวิถีดังกล่าวคือ ผู้พักแรมจะรู้สึกว่าเหมือนมาพักบ้านอีก
หนึ่งหลัง มีอาหารประจำถิ่นให้ได้ชิมในแบบที่ไม่ผ่านการปรับจนเสียรูปแบบ
ดั้งเดิม มีขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรมของชุมชนที่เป็นอัตลักษณ์ให้ได้
เรียนรู้

5. พร้อมปรับเพื่อความสะดวกสบาย แต่ไม่ใช่บริการเต็มรูปแบบ
การท่องเที่ยวชุมชนกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น แม้ระยะหลังไม่ได้เคร่งครัด
ว่า ผู้พักแรมต้องนอนหลังเดียวกับเจ้าบ้าน แต่เพื่ออำนวยความสะดวกสบาย
จึงมีการแบ่งพื้นที่พักผ่อนของแต่ละคนให้ชัดเจน มีห้องน้ำและเครื่องนอนที่
สะอาดรองรับ แต่บริการนั้นไม่จำเป็นต้องครบวงจรเหมือนที่พักประเภทอื่น ดัง
นั้น สิ่งที่เจ้าบ้านต้องรับมือคือ การสื่อสารกับผู้เข้าพักอย่างเข้าอกเข้าใจ และ
ชักชวนให้ลองมาพบประสบการณ์ชีวิตที่แตกต่างในระยะสั้นระหว่างการท่อง
เที่ยว ไม่เสริมแต่งความสะดวกจนไม่ทำให้วิถีชีวิตท้องถิ่นไม่เหลือเค้าเดิม

6

6. เข้าใจวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณี
ยิ่งคนที่จากบ้านไปนาน สิ่งที่ต้องทำการบ้านอย่างหนักคือ เข้าใจสังคมขนาด
เล็กในชุมชนนั่นว่าแต่ก่อนมีวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีเป็นอย่างไร และ
ปัจจุบันมีการเคลื่อนเปลี่ยนหมุนเวียนไปอย่างไรแล้วบ้าง อะไรคือแก่นแท้และ
เสน่ห์ที่คนในชุมชนยังรักและช่วยกันสืบสานให้ดำรงอยู่ต่อไป เพื่อที่คุณจะได้
ถ่ายทอดเรื่องราว สาธิต หรือพร้อมให้คำแนะนำหากผู้เข้าพักต้องการรับรู้เรื่อง
ราวหรือร่วมทำกิจกรรมเพิ่มเติม

7. โตไปด้วยกันทั้งชุมชน ไม่ยืนหนึ่งเพียงผู้เดียว
หากิจกรรมที่เป็นวิถีปกติและเอื้ อให้คนในชุมชมเข้ามามีส่วนร่วมให้มากที่สุด
ร่วมหารือและแลกเปลี่ยนระหว่างคนในชุมชนด้วยกันเอง การรับฟังไม่ใช่เพื่อติ
แต่เพื่อก่อให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนาชุมชนให้มีความเข้มแข็งและโตไป
พร้อมกัน อาจมีการตั้งเป็นคณะกรรมการชุมชนหรือวิสาหกิจชุมชนขึ้นมา เพื่อ
รักษามาตรฐานโฮมสเตย์ให้คู่ขนานไปกับการรักษาวิถีของชุมชน

8. ประชาสัมพันธ์และสร้างความแตกต่างในแบบตัวเอง
หากชุมชนนั้นไม่มีการรวมกลุ่มทำโฮมสเตย์อย่างแข็งแกร่ง การสร้างการรับรู้
ของตัวเองที่ดีที่สุด นั่นคือ “เป็นตัวของตัวเอง” เก็บรักษาเอกลักษณ์ของตัว
เอง ทำให้ผู้เข้าพักรู้สึกเหมือนได้พักบ้านอีกหลังที่สะอาดและปลอดภัย พร้อม
เข้าถึงวิถีชีวิตวัฒนธรรมและประเพณีแบบไม่มีอะไรปิดกั้น ที่ผ่านมามีโฮมสเตย์
จำนวนไม่น้อยที่สร้างชื่อเสียงมาได้โดยไม่ต้องเสียเงินทำการตลาด เพียงแค่ผู้
พักแรมประทับใจจนนำไปบอกเล่าเรื่องราวดีๆ แม้วิธีนี้อาจต้องใช้เวลานาน และ
อาศัยความคงเส้นคงวาเป็นเครื่องพิสูจน์ แต่นี่แหละคือ วิธีการทำโฮมสเตย์ได้
อย่างยั่งยืนมากที่สุด


Click to View FlipBook Version