Vs
ณ ป่าใหญ่แห่งหนึ่ง มีกระต่ายตัวหนึ่งมั่นใจในความเร็วของฝีเท้าตัวเองมาก และมักพูดโม้ โอ้อวดว่าไม่มีใครเทียบเทียมได้ จนวันหนึ่ง เจ้ากระต่ายได้พบกับเต่าที่กำ ลังเดินต้วมเตี้ยมผ่านมา เมื่อเห็นดังนั้น เจ้ากระต่ายก็หัวเราะเยาะและพูดล้อเลียนว่า"นี่เจ้าเต่า มัวแต่เดินอืดอาดอย่างนี้ แล้ว เมื่อไรจะถึงบ้านกันล่ะเนี่ย ต่อให้เจ้าเดินนำ หน้าไปก่อนครึ่งวัน ข้ายังตามเจ้าทันเลย"
เจ้าเต่าได้ยินดังนั้นก็เกิดอาการไม่พอใจ เลยพูดตอบกลับไปว่า"ถึงข้าจะเดินช้า แต่ข้าก็กลับถึงบ้าน ทุกวัน ถ้าอย่างงั้นเรามาลองวิ่งแข่งกันมั้ยล่ะ แล้วข้าจะเอาชนะเจ้าให้ดู" กระต่ายเห็นว่าเจ้าเต่าท้าแข่งอย่างนั้นก็ตอบตกลง พร้อมกับพูดไปอย่างขำ ๆ ว่า"ฮ่า ฮ่า ฮ่า โถ... เจ้าเต่า เชื่องช้าอย่างเจ้าน่ะเหรอ จะมาชนะกระต่ายที่รวดเร็วอย่างข้าได้ ไม่มีทางหรอก"
เมื่อถึงวันแข่งขัน เจ้ากระต่ายได้วิ่งออกจากจุดเริ่มต้นไปด้วยความเร็วเต็มฝีเท้า แซงหน้าเจ้าเต่าไป ไกล และเมื่อหันหลังกลับไปดูก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าเต่า เลยคิดว่าคงอีกนานกว่าเจ้าเต่าจะเดินมา ถึง จึงนึกในใจว่า"งั้นข้าของีบเอาแรงสักหน่อยดีกว่า ยังไงก็ชนะอยู่แล้ว"แล้วไม่นานเจ้ากระต่ายก็ เผลอหลับไป
ส่วนเจ้าเต่าก็ยังคงเดินต้วมเตี้ยม ๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อยย่อท้อ เดินมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงเส้น ชัย ด้านกระต่ายที่นอนอยู่แถวนั้นก็สะดุ้งตื่นขึ้น เห็นรอยเท้าเต่าที่พื้นก็รีบวิ่งตามไป แต่ก็ไม่ทันเสีย แล้ว เพราะเมื่อเจ้ากระต่ายวิ่งมาถึงเส้นชัยก็พบว่าเจ้าเต่าที่ตัวเองเคยสบประมาทไว้นั้นได้เดินเข้าเส้น ชัย เป็นผู้ชนะในการแข่งขันครัั้งนี้
เหตุการณ์นี้ทำ ให้เจ้ากระต่ายรู้สึกเสียใจมากที่ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับเจ้าเต่า เพียงเพราะความประมาท ของตัวเองนั่นเอง... นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า : หากเราใช้ชีวิตอย่างประมาทก็อาจเป็นหนทางที่นำ มาสู่ความพ่ายแพ้ได้ ดังเช่นเจ้ากระต่ายตัวนี้ที่ประมาทเลินเล่อ คิดว่าตัวเองวิ่งได้เร็ว กว่า จึงชะล่าใจ ไม่คิดที่จะพยายามหรือวิ่งแข่งให้สำ เร็จ จนสุดท้ายก็โดนเจ้าเต่าวิ่งแซงเข้าเส้นชัยไปในที่สุด เช่นเดียวกันกับการเรียน หากเด็ก ๆ หลงคิดว่าตัว เองเก่งแล้ว จึงไม่ขยันตั้งใจอ่านหนังสือ เพื่อนที่เขามีความขยันและมีความพยายามมากกว่า ก็อาจมีผลการเรียนที่ดีกว่าเราได้