ใบงานที่ 3
รูปแบบของเครือข่าย
จัดทำโดย
น.ส.ณัฐวิภา ขำรักษา สบค.1/2 รหัส 046
น.ส.นิรชา โพธิ์กลอง สบค.1/2 รหัส 054
เครือข่ายแบบบัส
(BUS TOPOLOGY )
เครือข่ายแบบบัส (bus topology) เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ด้วย
สายเคเบิ้ลยาว ต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ โดยจะมีคอนเน็กเตอร์เป็นตัวเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ และ
อุปกรณ์เข้ากับสายเคเบิ้ล ในการส่งข้อมูล จะมีคอมพิวเตอร์เพียงตัวเดียวเท่านั้นที่สามารถส่ง
ข้อมูลได้ในช่วงเวลา หนึ่งๆ การจัดส่งข้อมูลวิธีนี้จะต้องกำหนดวิธีการ ที่จะไม่ให้ทุกสถานีส่งข้อมูล
พร้อมกัน เพราะจะทำให้ข้อมูลชนกัน วิธีการที่ใช้อาจแบ่งเวลาหรือให้แต่ละสถานีใช้ความถี่
สัญญาณที่แตกต่างกัน การเซตอัปเครื่องเครือข่ายแบบบัสนี้ทำได้ไม่ยากเพราะคอมพิวเตอร์และ
อุปกรณ์ แต่ละชนิด ถูกเชื่อมต่อด้วยสายเคเบิ้ลเพียงเส้นเดียวโดยส่วนใหญ่เครือข่ายแบบบัส มัก
จะใช้ในเครือข่ายขนาดเล็ก ซึ่งอยู่ในองค์กรที่มีคอมพิวเตอร์ใช้ไม่มากนัก
ข้อดี ของการเชื่อแบบบัส คือ
1.สามารถติดตั้งได้ง่าย เนื่องจากเป็นโครงสร้าง
เครือข่ายที่ไม่ซับซ้อน
2.การเดินสายเพื่อต่อใช้งาน สามารถทำได้ง่าย
3.ประหยัดค่าใช้จ่าย กล่าวคือ ใช้สายส่งข้อมูลน้อย
กว่า เนื่องจากสามารถเชื่อมต่อกับสายหลักได้ทันที
4.ง่ายต่อการเพิ่มสถานีใหม่เข้าไปในระบบ โดย
สถานีนี้สามารถใช้สายส่งข้อมูลที่มีอยู่แล้วได้
ข้อเสียของการเชื่อแบบบัส คือ
1. ถ้ามีสายเส้นใดเส้นหนึ่งหลุดไปจากสถานีใด
สถานีหนึ่ง ก็จะทำให้ระบบเครือข่ายนี้หยุดการ
ทำงานลงทันที
2. ถ้าระบบเกิดข้อผิดพลาดจะหาข้อผิดพก
ลาดได้ยาก โดยเฉพาะถ้าเป็นระบบเครือข่าย
ขนาดใหญ่
เครือข่ายแบบดาว
( STAR TOPOLOGY )
โครงสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์แบบดาว(Star Network)
เป็นเครือข่ายที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ เข้ากับอุปกรณ์ที่เป็น จุดศูนย์กลาง
ของเครือข่าย โดยการนำสถานีต่าง ๆ มาต่อร่วมกันกับหน่วยสลับสาย
กลางการติดต่อสื่อสารระหว่างสถานีจะกระทำได้ ด้วยการ ติดต่อผ่านทาง
วงจรของหน่วนสลับสายกลางการทำงานของหน่วยสลับสายกลางจึงเป็น
ศูนย์กลางของการติดต่อ วงจรเชื่อมโยงระหว่างสถานีต่าง ๆ ที่ต้องการ
ติดต่อกัน
ข้อดีของการเชื่อมแบบดาว คือ ง่ายต่อ ข้อเสียของการเชื่อมแบบดาว คือ ต้องใช้สาย
การใช้บริการ เพราะมีศูนย์กลางอยู่ที่ สัญญาณจำนวนมาก เพราะแต่ละสถานีมีสาย
คอมพิวเตอร์แม่ข่ายอยู่เครื่องเดียว สัญญาณของตนเองเชื่อมต่อกับศูนย์กลางจึง
และเมื่อเกิดความเสียหายที่ เหมาะสมกับเครือข่ายระยะใกล้มาก กว่าการ
คอมพิวเตอร์เครื่องใดเครื่องหนึ่ง เชื่อมต่อเครือข่ายระยะไกล การขยายระบบก็
คอมพิวเตอร์เครื่องอื่นก็จะไม่มีผลกระ ยุ่งยากเพราะต้องเชื่อมต่อสายจากศูนย์กลาง
ทบอันใดเพราะใช้สายคนละเส้น ออกมา ถ้าศูนย์กลางเสียหายระบบจะใช้การ
ไม่ได้
เครือข่ายแบบวงแหวน
( RING TOPOLOGY )
แบบวงแหวน ( Ring Topology )
เป็นการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นรูป
วงแหวนหรือแบบวนรอบ โดย
สถานีแรกเชื่อมต่อกับสถาน
สุดท้าย การรับส่งข้อมูลใน
เครือข่ายจะต้องผ่านทุกสถานี
— ข้อดีของการเชื่อมแบบวงแหวน คือ ใช้สาย
สัญญาณน้อยกว่าแบบดาว เหมาะกับการเชื่อมต่อ
ด้วยสายสัญญาณใยแก้วนำแสง เพราะส่งข้อมูล
ทางเดียวกันด้วยความเร็วสูง
— ข้อเสียของการเชื่อมแบบวงแหวน คือ ถ้าสถานี
ใดเสียระบบก็จะไม่สามารถทำงานต่อไปได้จนกว่า
จะแก้ไขจุดเสียนั้น และยากในการตรวจสอบว่ามี
ปัญหาที่จุใดและถ้าต้องการเพิ่มสถานีเข้าไปจ
ทำได้ยากด้วย
เครือข่ายแบบผสม
( HYBRID TOPOLOGY )
โครงสร้างเครือข่ายแบบผสม (Hybrid Topology) คือ เป็นเครือ
ข่ายที่ผสมผสานกันทั้งแบบดาว,วงแหวน และบัส เช่น วิทยาเขต
ขนาดเล็กที่มีหลายอาคาร เครือข่ายของแต่ละอาคารอาจใช้แบบ
บัสเชื่อมต่อกับอาคารอื่นๆที่ใช้แบบดาวและแบบวงแหวน
ข้อดี
- สามารถเข้าถึงเครือข่ายที่อยู่ในระยะไกลได้
- ทำให้การสื่อสารข้อมูลมีประสิทธิภาพ
ข้อเสีย
- ดูแลระบบยาก และเสียค่าใช้จ่ายในการดูแล
รักษาสูง
- โครงสร้างมีความซับซ้อนมีรูปแบบไม่
แน่นอน
เครือข่ายแบบไร้สาย
(WIRELESS TOPOLOGY )
ระบบเครือข่ายไร้สาย
ระบบเครือข่ายไร้สาย หรือ ระบบเครือข่ายแบบ Wireless LAN
หรือ WLAN เป็นการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เป็นเครือข่ายแบบไร้สาย (ไม่
จำเป็นต้องเดินสายเคเบิ้ล) เหมาะสำหรับการติดตั้งในสถานที่ที่ไม่สะดวก
ในการเดินสาย หรือในสถานที่ที่ต้องการความสวยงาม เรียบร้อย และ
เป็นระเบียบ เช่น สนามบิน โรงแรม ร้านอาหาร เป็นต้น
ประเภทของเครือข่ายไร้สายแบ่งเป็น 4 ประเภท
1.WPAN (Wireless Personal Area Network) คือ เทคโนโลยี
การเข้าถึงไรส้ ายใน พื้นที่เฉพาะบุคคลโดยมีระยะทางไม่
เกิน10เมตรและมีอตัราการรบัส่งข้อมูลความเร็วสูงมาก(สูง
ถึง480Mbps)สาหรับการ ติดต่อสื่อสารระหว่างคอมพิวเตอร์และ
อุปกรณ์ต่อพ่วงให้สามารถรับส่งข้อมูลถึงกันได้และยังใช้สาหรับ
การรับส่งสญัญาณ
วิดีทัศน์ที่มีความละเอียดภาพสูง (high definition video signal)
เทคโนโลยีที่รองรบั คือ บลูทูธ (Bluetooth) และซิกบี (Zigbee)
เครือข่ายแบบไร้สาย
(WIRELESS TOPOLOGY )
2.WLAN (Wireless Local Area Network)
คือ เทคโนโลยี การเข้าถึงไร้สายสาหรับใช้ใน พื้นที่
เฉพาะซึ่งจะครอบคลุมระยะทางอยู่
ระหว่าง50ถึง100เมตรและมีอัตราการรับส่งข้อมูล
ความเร็วที่สูงถึงระดับ100 Mbps โดยการติดตั้ง
สถานีฐานที่เรียกว่าอุปกรณ์กระจายสัญญาณเพื่อ
ทำหน้าที่เชื่อมต่อสัญญาณระหว่างอุปกรณ์ต้นทาง
และ อุปกรณ์ปลายทาง
3.WMAN(Wireless Metropolitan Area
Network)
เป็นระบบเครือข่ายสำหรับเมืองใหญ่ๆ มี
ระบบเครือข่ายที่หลากหลายมักใช้เชื่อมต่อ
สื่อสารกันระหว่างอาคารต่างๆภายในเมือง
เครือข่ายแบบไร้สาย
(WIRELESS TOPOLOGY )
4.WWAN (Wireless Wide Area
Network)
เป็นระบบเครือขายไร้สายขนาดใหญ่
สำหรับเมืองหรือประเทศซึ่งมักมีการ
ใช้งานผ่านดาวเทียมข้ามประเทศ
ข้อดีของการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบไร้สาย
-ช่วยลดปัญหาในการติดตั้งระบบเครือข่าย
-ช่วยลดปัญหาในการวางสายระบบเครือข่าย
-ไม่ต้องใช้สายเคเบิล
-ช่วยให้เกิดความเป็นระเบียบ
ข้อเสียของการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบไร้สาย
-มีสัญญาณรบกวนสูง
-ต้องแชร์กันใช้ช่องสัญญาณคลื่นความถี่เดียวกัน
-ราคาแพงกว่าระบบเครือข่ายแบบมีสาย
-มีความเร็วไม่สูงมากนัก
เครือข่ายแบบต้นไม้
(TREE TOPOLOGY )
โครงสร้างเครือข่ายแบบต้นไม้ (TREE TOPOLOGY)
มีลักษณะเชื่อมโยงคล้ายกับโครงสร้างแบบดาวแต่จะมีโครงสร้างแบบต้นไม้
โดยมีสายนำสัญญาณแยกออกไปเป็นแบบกิ่ง ไม่เป็นวงรอบ โครงสร้างแบบนี้
จะเหมาะกับการประมวลผลแบบกลุ่มเครือข่ายแบบต้นไม้ (Tree Topology)
นั้นถือว่าเป็นโครงสร้างที่ปรับขนาดได้มากที่สุดเนื่องจากสามารถขยายได้ง่าย
ด้วยการเพิ่มเครือข่ายดาวเพิ่มเติม
ข้อดีของการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบต้นไม้
1. มีความเร็วในการสื่อสารสูง
2. สามารถรับส่งข้อมูลได้ปริมาณมาก
3. ระบบเครือข่ายมีความปลอดภัย หรือมีความ
เป็นส่วนตัว
ข้อเสียของการเชื่อมต่อเครือข่ายแบบต้นไม้
1. จำนวนสายที่ใช้ต้องมีจำนวนมาก
2. สายที่ใช้มีจำนวนมาก ทำให้สิ้นเปลืองพื้นที่