The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน

กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น

โรงเรยี นวชั รวทิ ยา
สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 41

สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน

กรอบแนวคดิ กจิ กรรมพัฒนาผเู รยี น

ความเปนมา

พระราชบัญญัติการศึกษาแหงชาติ พ.ศ.2542 กําหนดแนวการจัดการศึกษา โดยยึดหลักวาผูเรียน
ทุกคนมีความสามารถเรียนรูและพัฒนาตนเองได และถือวาผูเรียนมีความสําคัญที่สุด กระบวนการจัด
การศึกษาตองสงเสริมใหผูเรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มศักยภาพ โดยจัดเน้ือหาสาระและ
กิจกรรมใหสอดคลองกับความสนใจและความถนัดของผูเรียน คํานึงถึงความแตกตางระหวางบุคคล ฝกทักษะ
กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ ประกอบกับมีการเปล่ียนแปลงของสังคมและเทคโนโลยี
กอใหเกิดท้ังผลดีและผลเสียตอการดําเนินชีวิดในปจจุบันของบุคคล ทําใหเกิดความยุงยากซับซอนมากยิ่งขึ้น
จําเปนตองปรับเปล่ียนวิถีการดําเนินชีวิตใหสามารถดํารงชีวติ อยูในสังคมไดอยางมีคุณคา มีศักด์ิศรี มีความสุข
บนพ้นื ฐานของเศรษฐกจิ พอเพยี งอยา งย่ังยืน

จากจุดมุงหมายของหลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน มุงพัฒนาคนไทยใหเปนมนุษยท่ีสมบูรณ เปนคนดี
คนเกง และอยรู ว มในสังคมอยา งมคี วามสุข บนพน้ื ฐานของความเปนไทยนนั้ นอกจากการพฒั นาผูเรียนทุกคน
ใหมีความรูท่ีเปนพื้นฐานสําคัญไดกําหนดไวในโครงสรางกลุมสาระการเรียนรู 8 กลุม แลวหลักสูตรยังได
กําหนดกิจกรรมพัฒนาผูเรียนไวในโครงสรางดวย โดยมุงสงเสริมการพัฒนาผูเรียนเพ่ิมเติม จากกลุมสาระการ
เรียนรู 8 กลุม ใหผูเรียนรูจักตนเองคนพบความสามารถ ความถนัด ของตนเองเพื่อการพัฒนาใหเต็มศักยภาพ
เห็นคุณคาในการประกอบสัมมาชีพ ใหเปนผูมีระเบียบวินัย ศีลธรรม จริยธรรม รูจักบทบาทหนาท่ีความรับผิดชอบ
การบําเพ็ญประโยชนใหชุมชน สังคม ประเทศชาติ และการดํารงชีวิตไดอยางมีความสุข ซึ่งจําเปนตองอาศัยความรวมมือ
จากทุกสวนในสงั คม ท้ังพอ แม ผปู กครอง ชุมชน และภูมปิ ญญาทอ งถ่ิน

ดวยเหตุดังกลาวขางตนการจัดกิจกรรมพัฒนาผูเรียนจะตองมีการพัฒนาและปรับปรุงใหเหมาะสม
โดยการมุงเนนกิจกรรมที่ผูเรียนเปนผูปฏิบัติจริงดวยการศึกษา วิเคราะห วางแผน ปฏิบัติตามแผน การทํางานเปนกลุม
ประเมนิ ผลและปรับปรุงพัฒนาอยา งตอเนอ่ื งตามลักษณะความพรอม ความตอ งการ และความเปนไปไดป ฏิบัติ
ตามดุลยพินจิ ของสถานศึกษาและมีการกาํ กบั ดูแล
หลกั การ

กิจกรรมพฒั นาผเู รยี นมีหลกั การสาํ คญั ดงั น้ี
มีการกําหนดเปาหมายของการจัดกิจกรรมท่ีชัดเจน เปนรูปธรรม และครอบคลุมผูเรียนทุกคน เปน
กิจกรรมท่ีผูเรียนไดพัฒนาตนเองอยางรอบดานเต็มตามศักยภาพตามความสนใจ ความถนัด ความตองการ
และความเหมาะสมกับวัยและวุฒิภาวะเปนกิจกรรมที่ปลูกฝงและสงเสริมจิตสํานึกในการบําเพ็ญตนใหเปน

ประโยชนตอสังคมในลักษณะตางๆ ท่ีสอดคลองกับวิถีชีวิต ประเพณี และวัฒนธรรมอยางตอเนื่อง และ
สม่ําเสมอเปนกิจกรรมท่ียึดหลักการมีสวนรวม โดยเปดโอกาสใหครู พอ แม ผูปกครอง ผูนําชุมชน ปราชญ
ชาวบาน องคก ร และหนว ยงานอ่ืน มีสว นรว มในการจดั กจิ กรรม
เปา หมาย

การจัดกิจกรรมพัฒนาผูเรียนมุงพัฒนาผเู รยี นใหเกิดสมรรถนะสําคัญ 5 ประการ ไดแก ความสามารถ
ในการส่ือสาร ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกปญหา ความสามารถในการใชทักษะชีวิต และ
ความสามารถในการใชเทคโนโลยี และคุณลักษณะอันพึงประสงค 8 ประการ ไดแก รักชาติ ศาสน กษัตริย ซื่อสัตยสุจริต
มีวินัย ใฝเรียนรู อยูอยางพอเพียง มุงม่ันในการทํางาน รักความเปนไทย และมีจิตสาธารณะ ตามหลักสูตรแกนกลาง
การศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551
แนวการจัดกิจกรรม

สถานศกึ ษาจัดใหผ ูเรยี นทกุ คนเขา รว มกจิ กรรม โดยมแี นวการจัดกิจกรรม ดังนี้
ใหผเู รยี นปฏบิ ัติกจิ กรรมดว ยความสมัครใจใหผเู รียนไดปฏิบัติกิจกรรมผานประสบการณที่หลากหลาย
ฝก การทํางานทส่ี อดคลองกับชีวติ จริง ตลอดจนสะทอ นความรู ทกั ษะ และประสบการณข องผเู รยี นจัดกิจกรรม
อยางสมดุลทั้ง 3 กิจกรรม คือ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพื่อสังคมและ
สาธารณประโยชน มีความสมดุลในการจัดกิจกรรมรายบุคคล และกิจกรรมกลุม รวมทั้งมีการจัดกิจกรรมใน
และนอกสถานศึกษาจัดกิจกรรมโดยใหผูเรียนเปนผูดําเนินการ โดยมีการสํารวจและใชขอมูลประกอบการ
วางแผนอยางเปนระบบ เนน การคดิ วเิ คราะหแ ละใชความคดิ สรางสรรคในการดาํ เนนิ กจิ กรรมใชกระบวนการมี
สว นรวมและการเรยี นรแู บบรวมมอื มากกวาเนน การแขงขนั บนพนื้ ฐานการปฏิบัตติ ามวิถีประชาธิปไตย
ขอบขา ยกิจกรรมพฒั นาผูเ รยี น
สถานศึกษาสามารถจัดกจิ กรรมพัฒนาผูเ รยี นไดหลากหลายรูปแบบ และวธิ กี ารโดยมีขอบขา ย ดังน้ี
เปนกิจกรรมที่สงเสริมการเรียนรู 8 กลุมสาระการเรียนรู ใหกวางขวางลึกซ้ึงยิ่งขึ้น ในลักษณะ
กระบวนการเชิงบูรณาการโดยยึดหลักคุณธรรมจริยธรรม ตลอดจนสามารถบูรณาการระหวาง กิจกรรมแนะ
แนว กิจกรรมนักเรียน และกิจกรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชนเปนกิจกรรมท่ีตอบสนองความสนใจ
ความถนัด และความตองการของผูเรียน ตามความแตกตางระหวางบุคคล เนนการใหผูเรียนเห็นคุณคาของ
วิชาความรู อาชีพ และการดําเนินชีวิตที่ดีงาม ตลอดจนเห็นแนวทางในการศึกษาตอและการประกอบอาชีพ
เปน กจิ กรรมท่ีปลูกฝงและสง เสริมจิตสาํ นกึ การทาํ ประโยชนต อสังคมในลักษณะตา งๆ สนบั สนุนคา นยิ มท่ีดีงาม
และเสริมสรา งคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค ตามหลกั สตู รแกนกลางขั้นพ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 เปน กิจกรรมท่ี
ฝกการทํางานและการใหบริการดานตา งๆ ท้ังที่เปนประโยชนตอตนเองและตอสวนรวม เพื่อเสริมสรางความมี
น้ําใจ ความเอื้ออาทร ความเปน พลเมอื งดี และความรบั ผดิ ชอบตอ ตนเอง ครอบครัว และสงั คม

วสิ ัยทศั น พันธกิจ เปาประสงค กลยทุ ธ
โรงเรยี นวัชรวทิ ยา จงั หวัดกําแพงเพชร

วิสัยทศั น
มุงมั่นพัฒนาผเู รยี นสมู าตรฐานสากล โดยการจัดการเรยี นรู การบรหิ ารจดั การดว ยระบบคณุ ภาพและ

ความรวมมือของภาคเี ครอื ขา ย
พันธกจิ

1. สงเสริมและพัฒนาผูเรียนใหมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสพฐ.และเกณฑโรงเรียน
มาตรฐานสากล

2. สงเสริมและพัฒนาครใู หเ ปนไปตามมาตรฐานวชิ าชพี ครสู ูมาตรฐานสากล
3. พัฒนาการบริหารจดั การดวยระบบคุณภาพเพ่ือความเปนเลิศ โดยเนน หลกั การกระจายอํานาจสู
การเปนโรงเรียนมาตรฐานสากล
4. สง เสรมิ ใหชมุ ชนมีสว นรว มในการจัดการศึกษา
เปาประสงค
1. นักเรียนไดเรียนรูอยางมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสพฐ.และเกณฑโรงเรียน
มาตรฐานสากล
2. ครูและบคุ ลากรทางการศึกษาไดร ับการพัฒนาตามมาตรฐานวิชาชีพครสู มู าตรฐานสากล
3. โรงเรียนมกี ารบรหิ ารจัดการดว ยระบบคุณภาพ
4. สถานศึกษาเปน ที่ยอมรบั ของชุมชน
กลยุทธ
1. ผูเรียนมีคณุ ภาพตามเกณฑมาตรฐานการศึกษาของ สพฐ. และเกณฑโ รงเรียนมาตรฐานสากล
2. ครูและบุคลากรมีคุณภาพตามมาตรฐานวิชาชีพสมู าตรฐานสากล
3. การบริหารจัดการดวยระบบคุณภาพสมู าตรฐานสากล
4. ชุมชนเขม แขง็ โรงเรยี นกาวไกล

โครงสรางการบรหิ ารระบบกจิ กรรมพฒั นาผูเรยี น
โรงเรยี นวัชรวทิ ยา จงั หวดั กําแพงเพชร

นายไพชยนต ศรมี วง
ผูอาํ นวยการโรงเรียนวัชรวทิ ยา

นายวิเชยี ร ยอดนิล
รองผอู ํานวยการกลมุ บรหิ ารงานวิชาการ

นางเพลนิ ใจ ประสารศรี นายแสงทอง นอยเกิด นางสาวศศิธร ตระกลู พาณชิ ย นางวีรวรรณ ไพรสงิ ห
กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมลกู เสอื เนตรนารี กิจกรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน
กิจกรรมชมุ นมุ

Flow Chart ระบบกิจกรรมพฒั นาผูเ รยี น
โรงเรียนวชั รวิทยา จงั หวัดกาํ แพงเพชร

จดั ตัง้ กจิ กรรมพัฒนาผูเรยี น (P)
วางแผนการจัดกิจกรรม (P)

จดั กิจกรรมตามแผน (D)

ประเมินผลการจดั กจิ กรรม (C)

บรรลวุ ัตถุ N ปรับปรุงแกไข (A)
ประสงค ?

Y

สรุปรายงานผล

กิจกรรมแนะแนวโรงเรยี นวัชรวิทยา
1. ดานบุคลากร มีจํานวน 3 คน ดงั น้ี

นางเพลินใจ ประสารศรี นางวรี วรรณ ไพรสิงห นางมาลนิ ี อินจนั ทร
ครูชํานาญการพเิ ศษ ครูชํานาญการพเิ ศษ ครชู ํานาญการพิเศษ
หัวหนางานแนะแนว เจา หนาที่แนะแนว เจา หนาท่แี นะแนว

2. ดานการจดั การเรียนการสอน
จัดการเรียนการสอนทุกหองเรยี นต้ังแตระดับช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 1 – 6 สปั ดาหล ะ 1 ช่ัวโมง

20 ช่ัวโมง/ภาคเรียน และ 40 ชวั่ โมง/ป โดยแบง หนาท่คี วามรับผดิ ชอบคนละ 2 ระดับ ดังน้ี
2.1 นางเพลินใจ ประสารศรี สอนระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที่ 1 และ 6
2.2 นางวรี วรรณ ไพรสงิ ห สอนระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปท่ี 3 และ 5
2.3 นางมาลินี อินจนั ทร สอนระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 2 และ 4
วิธกี ารจดั การเรียนการสอนเนนผูเรยี นเปนสาํ คัญ ดว ยวิธีการสอนทีห่ ลากหลายเพอ่ื ใหน ักเรยี นมี

สมรรถนะและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคต ามที่หลกั สูตรกําหนดไว แนวการจดั กจิ กรรมแนะแนวตามหลกั สูตร
แกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐานพทุ ธศักราช 2551

3. ดานขอบขา ยการแนะแนวมีสาระสําคัญ 3 ดาน ดงั น้ี
3.1 ดานการศึกษา เปนการชว ยเหลือนกั เรยี นใหร จู กั โลกกวา งทางการศกึ ษา รูจกั วิธกี ารเรยี นท่ดี ี

พฒั นาการเรียนใหเ ต็มตามศักยภาพ รจู กั เลอื กวชิ าเรยี นและวางแผนการศกึ ษาตอ

3.2 ดา นอาชพี เปนกระบวนการชว ยเหลือนักเรยี นใหร ูจักตนเองและโลกของอาชีพอยางหลากหลาย
การเลอื กอาชพี ใหส อดคลองตามความถนัด ความสามารถ ความสนใจ มเี จตคติทีด่ ตี อการทาํ งานและอาชีพ
สจุ รติ

3.3 ดา นสวนตวั และสงั คม เปนกระบวนการชวยเหลอื นักเรียนใหร จู ักและเขา ใจตนเอง รักและเหน็
คุณคา ในตนเองและผูอ่ืน มีอารมณม ่นั คง มีมนุษยส ัมพนั ธท่ีดี เขาใจสิง่ แวดลอ ม ปฏิบัติตนเปน สมาชิกทดี่ ขี อง
ครอบครวั โรงเรียน สังคม เพื่อปรบั ตวั อยใู นสังคมอยางมีความสขุ

4. ดานบริการ มีขอบขา ยงาน 5 บริการ ซง่ึ มคี วามสมั พนั ธเ ก่ียวขอ งกนั อยางเปน กระบวนการ ดังนี้
4.1 บรกิ ารศกึ ษาขอมลู ของนกั เรียนเปน รายบคุ คล เปน การเกบ็ ขอมูลนักเรยี นเพ่มิ เตมิ จากระบบการ

ดูแลชว ยเหลอื นักเรยี นที่โรงเรียนวัชรวทิ ยาไดด ําเนินการอยางเปนระบบตอเนื่องครบ 100 เปอรเซ็นตอยแู ลว

เชน จากการสังเกตพฤติกรรม การสมั ภาษณ การทาํ แบบทดสอบบุคลิกภาพทสี่ อดคลองกับอาชีพ การศึกษา

รายกรณี เปน ตน

4.2 บรกิ ารสนเทศ เปนบริการใหความรู ขา วสาร และขอมูลทงั้ 3 ดาน ผานชอ งทางตาง ๆ เชน
ปา ยนิเทศ เอกสาร สอื่ อเิ ลก็ ทรอนิกส บุคคลสาขาอาชีพตาง ๆ ศษิ ยเกา หนว ยงานหรือสถาบันการศึกษาตาง ๆ

ท่ีเขามาแนะแนว จดั ปฐมนเิ ทศ ปจฉมิ นเิ ทศ ทัศนศึกษาเยย่ี มชมสถาบนั อุดมศึกษา

4.3 บริการใหคาํ ปรกึ ษา เปน กระบวนการชวยเหลอื นักเรยี นเพือ่ ใหเขา ใจและยอมรบั ตน รคู วามตอ งการของ
ตนเอง ใชค วามสามารถที่มีอยูจ ดั การปญหาและสามารถตัดสนิ ใจแกป ญ หาของตนเองได จัดใหคําปรกึ ษาแบบ
รายบคุ คลและรายกลมุ และจัดใหคาํ ปรึกษาผา นนักเรียนเพื่อนทป่ี รึกษาประจํากลมุ ยอยหรือกลุม เพ่อื นสนิท
โดยนักเรยี นเพ่อื นท่ปี รึกษา (YC) จะไดร บั การอบรมใหม ีทกั ษะเบื้องตน ในการใหค าํ ปรกึ ษา วธิ ปี ระสานและสงตอ
เพือ่ นใหค รแู นะแนว ครทู ป่ี รึกษา และบคุ คลทเ่ี กีย่ วของ นอกจากนี้ยังมบี ริการใหคาํ ปรึกษาทกุ พักกลางวนั ที่
หอ ง YC โดยมีเวรวนั ละ 2 คน

4.4 บรกิ ารจัดวางตัวบุคคล เพ่ือชว ยเหลอื นกั เรยี นตามแตกรณที ี่สมควรใหค วามชว ยเหลือเพื่อ
สงเสริมพฒั นาการตามศักยภาพทง้ั ดานการศึกษา การประกอบอาชีพ จดั แนะแนวการศึกษาตอและอาชีพ
โดยโดยสถาบันการศึกษา จากรุน พศี่ ิษยเกา จากบคุ คลที่ยาสนใจหลากหลายอาชีพ จัดบริการดาน
ทนุ การศึกษา ทนุ กูยืมกองทนุ เพ่อื การศึกษา จัดนักเรียนเลือกวิชาเรียน/แผนการเรียน จัดนกั เรยี นเขา คาย
หาความสอดคลองกับความรูความสามารถและอาชพี ทเ่ี หมาะสม

4.5 บริการติดตามผล เปน การตดิ ตามผลงานแตล ะดานและการพฒั นาของนกั เรียน โดยเฉพาะอยาง
ยิ่งนกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที่ 3 และ ชน้ั มัธยมศึกษาปท ี่ 6 ท่ตี อ งการศึกษาดว ยวิธกี ารสงั เกต สอบถาม

สมั ภาษณ การติดตอทางโซเชยี ลมีเดีย เพ่ือนําผลจากการติดตามมาใชในการปรับปรุงการใหบริการใหด ยี ิ่งข้ึนตอไป

เปา หมายของกิจกรรมมดี งั นี้
1. การประเมนิ ผลการเรียนวิชากจิ กรรมแนะแนวของนกั เรียนในทกุ ระดบั ช้นั มีผลการเรยี น “ผา น”

กจิ กรรมแนะแนวไมต าํ่ กวารอยละ 95
2. นกั เรยี นโรงเรียนวัชรวิทยาไดรับบรกิ ารแนะแนวอยางทั่วถงึ จากชองทางตา ง ๆ เชน ช่ัวโมงเรียน

แนะแนว หอ งบริการแนะแนว หอ งบริการใหคาํ ปรึกษา จากการจดั กจิ กรรมแนะแนวการศึกษาตอ อาชีพ

สว นตัว และสังคม ไมต ่ํากวารอยละ 90
3. นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปท่ี 3 ศกึ ษาตอสายสามัญไมต่ํากวา รอ ยละ 70 และศกึ ษาตอ สายอาชพี ไม

เกินรอ ยละ 30
4. นกั เรียนช้ันมัธยมศึกษาปท ี่ 6 ศึกษาตอระดับอดุ มศึกษาไมต่ํากวา รอยละ 80 และศึกษาตอ ดานอนื่ ๆ

ไมเ กินรอยละ 20
5. นกั เรียนทสี่ มัครขอกยู ืมเงินทุนเพ่ือการศกึ ษาไดรับการสนับสนุนใหกยู มื ผานการคัดเลือกไมต ่าํ กวา

รอยละ 60
6. นักเรียนท่ีสมคั รขอรบั ทนุ ประเภททวั่ ไปผา นการคดั เลือกและไดรบั ทนุ ไมต่ํากวา รอ ยละ 60

5. ผลงาน
1. นกั เรียนช้นั มัธยมศกึ ษาทาํ แบบวดั บคุ ลิกภาพเพ่ือการศกึ ษาตอ และเพื่อการเลือกอาชพี
ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปท่ี 1-3 ไดร อยละ 89.26
กลุมท่สี นใจลาํ ดับที่ 1 กลมุ วทิ ยาศาสตร
กลุมท่ีสนใจลําดบั ท่ี 2 กลุมบริการสงั คม
กลุมท่สี นใจลําดับที่ 3 กลมุ ชางเทคนิค
ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปท่ี 4-6 ไดร อยละ 92.63
กลมุ ที่สนใจลําดบั ท่ี 1 กลมุ บริการสังคม
กลุมทส่ี นใจลําดับที่ 2 กลุมภาษา
กลุม ท่สี นใจลําดับที่ 3 กลมุ วิทยาศาสตร
2. นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปท ี่ 3 และ ชน้ั มัธยมศึกษาปท่ี 6 ทาํ ID Plan วางแผนการศึกษาและอาชพี
คิดเปน รอ ยละ 100
3. นกั เรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที่ 1-6 ทําแบบวดั เจตคตทิ ด่ี ีตออาชีพสจุ รติ คิดเปน รอยละ 100

4. ปการศึกษา 2559 2560 2561 นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 3 สามารถเขา ศกึ ษาตอไดร อยละ 98.37/
99.16/99.71 ตามลาํ ดับ

5. ปการศึกษา 2559 2560 2561 นกั เรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปที่ 6 สามารถเขา ศกึ ษาตอไดร อยละ 98.57/
90.48/95.52 ตามลาํ ดับ

6. ปก ารศึกษา 2559 2560 2561 นกั เรียนไดร บั ทุนการศึกษาจํานวนทุน 170/172/167 ทุน ตามลําดบั

7. ปก ารศึกษา 2559 นกั เรียนไดรับรางวลั เหรียญทองระดบั ภาคปการศกึ ษา 2560 2561 นกั เรียนไดร ับ
รางวัลเหรียญทองระดับชาติ จากการแขงขันกิจกรรมนักเรยี นเพ่ือนทีป่ รึกษา ระดับช้ันมธั ยมศึกษาตอนตน

8. ปก ารศกึ ษา 2559 นักเรียนไดร บั รางวลั เหรียญทองระดับภาคปการศกึ ษา 2560 2561 นักเรียนไดร ับ
รางวลั เหรียญทองระดบั ชาติ จากการแขง ขนั กจิ กรรมนักเรียนเพ่ือนท่ปี รึกษา ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาตอนปลาย

กิจกรรมชุมนุม/ชมรม

1. กจิ กรรมลกู เสือเนตรนารี ประกอบด้วยบคุ ลากร หัวหน้างาน จานวน 1 คน ครปู ฏิบตั ิกจิ กรรมคือครู
ทป่ี รกึ ษาทุกห้องเรยี น ห้องเรียนละ 2 คน ในระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนต้นมีจานวน 27 หอ้ งเรยี น รวม
จานวนบคุ ลากรท้ังส้นิ 93 คน

นางสาวศศิธร ตระกูลพาณชิ ย์
หวั หนา้ กิจกรรมชมุ นมุ /ชมรม
2. จานวนนักเรยี นทเ่ี ข้าร่วมชมุ นมุ /ชมรม (วชิ าการและนันทนาการ)

ขอ้ มูลจานวนนกั เรียนท่เี ขา้ รว่ มชุมนมุ /ชมรม (วชิ าการและนนั ทนาการ) ปีการศกึ ษา 2559 – 2561

จำนวนนกั เรียนท่เี ข้ำร่วมชุมนุม/ชมรม
(วิชำกำรและนันทนำกำร)

1400
1200 1154 1182 1193

1000

จำนวนนักเ ีรยน 800 683 616 552 วิชาการ
600 นนั ทนาการ

400 2561

200

0 2560
2559 ปกี ำรศกึ ษำ

สรุปผลจานวนนกั เรียนที่เขา้ รว่ มชมุ นมุ /ชมรม (วชิ าการและนันทนาการ) ปีการศกึ ษา 2559 – 2561

จานวนนักเรียนท่ีเข้าร่วมชุมนุม/ชมรม (วิชาการและนันทนาการ) ปีการศึกษา 2559 จานวนทั้งหมด
1,837 คน ได้เข้าร่วมชุมนุม/ชมรม (วิชาการ) จานวน 1154 คน คิดเป็นร้อยละ 62.82 และชุมนุม/ชมรม
(นนั ทนาการ) จานวน 683 คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 37.18

จานวนนักเรียนที่เข้าร่วมชมุ นุม/ชมรม (วิชาการและนันทนาการ) ปีการศึกษา 2560 จานวนท้ังหมด
1,798 คน ได้เข้าร่วมชุมนุม/ชมรม (วิชาการ) จานวน 1182 คน คิดเป็นร้อยละ 65.74 และชุมนุม/ชมรม
(นนั ทนาการ) จานวน 616 คน คิดเป็นรอ้ ยละ 34.26

จานวนนักเรียนที่เข้าร่วมชุมนุม/ชมรม (วิชาการและนันทนาการ) ปีการศึกษา 2560 จานวนทั้งหมด
1,745 คน ได้เข้าร่วมชุมนุม/ชมรม (วิชาการ) จานวน 1193 คน คิดเป็นร้อยละ 68.37 และชุมนุม/ชมรม
(นนั ทนาการ) จานวน 552 คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 31.63

3. ประโยชน์ทไ่ี ดร้ ับจากชมุ นมุ /ชมรม (วชิ าการและนันทนาการ)
ชุมนุม/ชมรม (วิชาการ) ได้สนับสนุนการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ใน 8 กลุ่มสาระ เป็นกิจกรรมที่
สง่ เสรมิ ผู้เรียนให้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ การคดิ วิเคราะห์ สังเคราะห์ดา้ นวิชาการในรายวชิ าต่าง ๆ ชมุ นุม/ชมรม
(วชิ าการ) เป็นกิจกรรมทีใ่ ห้ผู้เรียนไดเ้ รียนรู้เชงิ วิชาการที่นอกเหนือจากห้องเรยี น ส่งเสรมิ ให้ผูเ้ รียนได้พัฒนาใน
ด้านตา่ งๆ ดังนี้
1. ชุมนุม/ชมรม พัฒนาด้านความรู้เพ่ือนาไปใชใ้ นการสอบต่างๆ ทบทวนความรู้ ติวข้อสอบ เทคนิคที่
สามารถนาไปใช้ในการสอบได้ อาทิเช่น ชุมนุมความถนัดทางคณิตศาสตร์ ม.6, ความถนัดทางฟิสิกส์ ม.6,
ความถนัดทางเคมี ม.6, ความถนัดทางภาษาจีน ม.6, ความถนัดทางภาษาอังกฤษ ม.6, ความถนัดทาง
ภาษาไทย ม.6, ติว gat, Pisa พาเพลินและgat pat เป็นต้น ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้พัฒนาทางด้าน ภาษา เพ่ือให้
ผู้เรียนสามารถนาไปปรับใช้ในชีวิตประจาวนั ได้อยา่ งมคี วามสขุ
2. ชุมนุม/ชมรม พัฒนาด้านความรู้ ความสามารถ ในทักษะด้านภาษา อาทิเช่น รักภาษา เฮฮา
ภาษาไทย พัฒนาภาษาอังกฤษ ม.1, เรียนรู้ภาษาจีนจากซีรีย์, ภาษาพาศิลป์, English Tour, English Trip,
English games เปน็ ต้น
3. ชุมนุม/ชมรม พัฒนาด้านความสามัคคี ฝึกความอดทน อาทิเช่น นักศึกษาวิชาทหารชั้นปีที่ 1,
นักศกึ ษาวชิ าทหารชัน้ ปที ี่ 2, นักศกึ ษาวิชาทหารช้ันปีที่ 3 เปน็ ตน้
4. ชมุ นมุ /ชมรม พฒั นาความสามารถด้านเทคโนโลยี อาทเิ ชน่ It, Electric เป็นต้น
ชุมนุม/ชมรม (นันทนาการ) ได้สนับสนุนให้ผู้เรียนได้เกิดความผ่อนคลาย เป็นชุมนุมที่มีความ
สนุกสนานและแฝงด้วยความรู้ กิจกรรมทาให้ผู้เรียนได้มีความสุขในการเรียนมากข้ึน ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้
พฒั นาในด้านตา่ งๆ ดังนี้

1. ชุมนุม/ชมรม พัฒนาด้านกีฬา ผู้เรียนเกิดความสุขและมีร่างกายสุขภาพแข็งแรง อาทิเช่น เรารัก
กีฬา, โยคะรกั ษส์ ุขภาพ, กฬี าไทย, ฟุตบอล, ฟตุ ซอล, บาสเก็ตบอล เป็นต้น

2. ชุมนุม/ชมรม เพ่ือพัฒนาสังคม และจิตใจ เป็นกิจกรรมที่มุ่งสร้างเสริมนิสัยการทาประโยชน์เพ่ือ
สังคม ช่วยให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตัวเอง อาทิเช่น บาเพ็ญประโยชน์, จิตอาสา, สาธารณกุศลจิต, To Be
Number One, Y.C. ม.ตน้ , ม.ปลาย เป็นต้น

3. ชุมนุม/ชมรม เพ่ือการส่งเสริมการประกอบอาชีพ เป็นกิจกรรมท่ีส่งเสริมประสบการณ์ ใช้เวลาว่าง
ให้เป็นประโยชน์ อาทิเช่น เดก็ สรา้ งงาน, อาชพี อสิ ระ, ชา่ งคิด ช่างทา, หารายไดร้ ะหวา่ งเรียน เป็นต้น

4. ชุมนุม/ชมรม เพ่ือส่งเสริมการแสดงออกของผู้เรียน ทาให้ผู้เรียนเกิดความกล้าแสดงออกในส่ิงท่ี
ถูกต้อง อาทิเช่น ร้อง เล่น เต้น วาด, ดนตรีสากล, การแสดงละครจีน, มัคคุเทศก์น้อย, ราจีน, นาฎศิลป์, รา
จนี , เพลงสากล เป็นตน้

4. กิจกรรมชุมนมุ /ชมรม
นักศึกษาวชิ าทหาร

วงโยธวาทติ

ภาษาจีน
ชมรมกีฬาบาสเกตบอล
ชมรมฟตุ บอล

ชมรมภาษาไทย

ชมรมหอ้ งสมดุ

3. คา่ เป้าหมายของชุมนมุ /ชมรม
1. นกั เรียนเขา้ ร่วมกิจกรรมชมุ นุม/ชมรม ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6

ปกี ารศกึ ษา 2559 จานวนนักเรียน 1,837 คน ตง้ั เปา้ หมายไวร้ อ้ ยละ 100
ปกี ารศึกษา 2560 จานวนนักเรยี น 1,798 คน ต้งั เปา้ หมายไว้รอ้ ยละ 100
ปกี ารศึกษา 2561 จานวนนกั เรยี น 1,745 คน ตัง้ เป้าหมายไว้รอ้ ยละ 100

ตาราง แสดงการเปรยี บเทียบคา่ รอ้ ยละของนกั เรียนทเ่ี ข้ารว่ มกจิ กรรมชมุ นมุ /ชมรม กบั ค่าเป้าหมายทีต่ ้งั คา่ ไว้

ปกี ารศึกษา 2559 – 2561

ร้อยละของนกั เรียนที่เข้ำรว่ มกิจกรรมชมุ นุม/ชมรม

ระดบั ชน้ั ปีกำรศึกษำ 2559 ปีกำรศกึ ษำ 2560 ปกี ำรศกึ ษำ 2561

คำ่ เปำ้ หมำย ร้อยละท่ีได้ ค่ำเป้ำหมำย ร้อยละที่ได้ คำ่ เปำ้ หมำย รอ้ ยละที่ได้

ม.1 100 100 100 100 100 100

ม.2 100 100 100 100 100 100

ม.3 100 100 100 100 100 100

ม.4 100 100 100 100 100 100

ม.5 100 100 100 100 100 100

ม.6 100 100 100 100 100 100

เฉลี่ยรวม 100 100 100 100 100 100

แผนภูมิ แสดงการเปรียบเทียบภาพรวมของค่าร้อยละของนักเรียนที่เข้าร่วมกิจกรรมชุมนุม/ชมรมกับค่า
เป้าหมายทตี่ ้งั ไว้ ปกี ารศกึ ษา 2559 – 2561

120
100100 100100 100100

100

80

60

40

20

0 2560 2561
2559
คา่ เป้าหมาย ร้อยละทไ่ี ด้

กจิ กรรมลูกเสือเนตรนารี

1. กจิ กรรมลูกเสือเนตรนารี ประกอบดว ยบคุ ลากร หัวหนางาน จํานวน 1 คน ครูปฏิบตั ิกิจกรรมคือครู
ทป่ี รกึ ษาทุกหองเรียน หองเรียนละ 2 คน ในระดับช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน มีจาํ นวน 27 หอ งเรยี น รวม
จํานวนบคุ ลากรทัง้ สน้ิ 93 คน

นายแสงทอง นอ ยเกดิ
หวั หนา กิจกรรมลูกเสือเนตรนารี

2. การจดั กิจกรรมลูกเสือเนตรนารมี จี าํ นวนนกั เรียนทเ่ี ขารว ม ดังน้ี

700 657 632 616
600 436 429
500 457
400 2560 2561
300 ชาย หญงิ
200
100

0
2559

3. ผลการปฏิบัติงานการจดั กิจกรรมลกู เสอื เนตรนารีประจําปก ารศึกษา 2559 - 2561
กิจรรมลกู เสือเนตรนารชี นั้ ม.1

กิจรรมลูกเสือเนตรนารีช้ัน ม.2

กจิ รรมลูกเสอื เนตรนารีช้นั ม.3
กจิ กรรมวนั สถาปนาคณะลูกเสือแหง ชาติ (1 กรกฎาคม ของทกุ ป)

กจิ กรรมวนั สมเดจ็ พระมหาธีรราชเจา (25 พ.ย. ของทกุ ป)

4. ผลงานลกู เสือเนตรนารี

การสง เสรมิ ศกั ยภาพดา นความเปนเลศิ ของผเู รียน
การสง เสรมิ กจิ กรรมแขง ขนั ลูกเสอื เนตรนารี ระดบั ชาติ ปก ารศึกษา 2559

วนั /เดอื น/ป รายการแขงขัน หนวยงานที่จดั รางวลั ทีไ่ ดร ับ หลกั ฐาน

23 ม.ค.2560 การสอบคดั เลือกผูแทนลูกเสือไทย สาํ นกั การลูกเสือ ยุว นายธนภูมิ อึง้ ชยั พงษ หนงั สือท่ี ศธ.
เขารว มงานชมุ นุมลกู เสอื นานาชาติ กาชาดและกิจการ 0204/325
ณ สหรฐั อเมริกา นกั เรียน นักเรียนช้นั ม.3/8 และนาย
วชิ ญภาส นอยเกดิ นกั เรียน ลว 23 มกราคม
(2017 Nation Scout Jamboree) กระทรวงศกึ ษาธิการ ชน้ั ม.3/8
2560
ผา นการคดั เลือก

เพอ่ื เปนคณะผูแทนฯ

เขา รว มงานชุมนุมลูกเสือ
นานาชาติ

ณ สหรฐั อเมรกิ า

การสงเสรมิ กิจกรรมแขง ขนั ลกู เสอื เนตรนารี ระดบั ชาติ ปการศกึ ษา 2560

วนั /เดอื น/ป รายการแขง ขนั หนว ยงานทจ่ี ดั รางวัลทไ่ี ดรบั หลกั ฐาน

23 ก.พ.2561 การคัดเลือกลูกเสือ เนตรนารี สํานกั การลูกเสือ เดก็ หญิงภทั ฌมิ าพร ทพิ ย ประกาศสาํ นัก
เพือ่ เปน ตวั แทนลกู เสือไทย
เขา รวมชุมนมุ ลูกเสือนานาชาติ ยุวกาชาดและกจิ การ พิมาน ช้ัน ม.3/9และ การลูกเสอื
Norjam 2018 ครง้ั ที่ 15 นกั เรยี น
เด็กหญงิ ปาณสิ รา โรจนพฒั ยุวกาชาดและ
กระทรวงศึกษาธิการ นกุล ชน้ั ม.2/7 ปการศึกษา กจิ การนกั เรยี น
2560 ผานการคดั เลือก

ณ ประเทศองั กฤษ เปนตวั แทนลูกเสอื ไทย ฯ

คาเปาหมายของชุมนุม/ชมรม

1. นักเรียนเขารวมกิจกรรมชมุ นมุ /ชมรม ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปที่ 1 – 6

ปการศึกษา 2559 จาํ นวนนกั เรยี น 1,114 คน ต้งั เปา หมายไวร อยละ 100

ปการศกึ ษา 2560 จํานวนนกั เรยี น 1,068 คน ตงั้ เปา หมายไวรอยละ 100

ปการศกึ ษา 2561 จาํ นวนนกั เรยี น 1,045 คน ตง้ั เปาหมายไวร อ ยละ 100

ตาราง แสดงการเปรียบเทียบคา รอ ยละของนกั เรียนทเี่ ขารว มกิจกรรมชุมนมุ /ชมรม กบั คา เปา หมายทตี่ ั้งคา ไว

ปการศึกษา 2559 – 2561

รอยละของนักเรยี นทีเ่ ขารวมกิจกรรมชุมนุม/ชมรม

ระดบั ชัน้ ปก ารศกึ ษา 2559 ปการศกึ ษา 2560 ปการศกึ ษา 2561

คาเปา หมาย รอยละท่ีได คา เปา หมาย รอยละทไ่ี ด คา เปาหมาย รอยละทไ่ี ด

ม.1 100 100 100 100 100 100

ม.2 100 100 100 100 100 100

ม.3 100 100 100 100 100 100

เฉล่ียรวม 100 100 100 100 100 100

แผนภูมิ แสดงการเปรียบเทียบภาพรวมของคารอยละของนักเรียนที่เขารวมกิจกรรมชุมนุม/ชมรมกับคา
เปาหมายท่ตี ั้งไว ปก ารศึกษา 2559 – 2561

120
100 100100 100100 100100

80

60

40

20

0 2560 2561
2559
คาเปา หมาย รอ ยละทไี่ ด

กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณะประโยชน
1. กจิ กรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณะประโยชน ประกอบดวยบคุ ลากร หวั หนางาน จํานวน 1 คน

ครูปฏบิ ัติกิจกรรมคือครทู ี่ปรึกษาทุกหองเรยี น หอ งเรียนละ 2 คน ในระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาตอนตน มีจาํ นวน 27
หอ งเรยี น ในระดับชน้ั มัธยมศึกษาตอนปลายจาํ นวน 19 หองเรียน รวมบคุ ลากรท้ังสิ้น 93 คน

นางวีรวรรณ ไพรสงิ ห
ครูชาํ นาญการพิเศษ
หัวหนา งานกิจกรรมเพื่อสงั คมและสาธารณะประโยชน

2. การปฏิบตั ิกิจกรรมนักเรียนและครทู ่ปี รึกษาจะตกลงรวมกันในการเลอื กวิธีปฏบิ ตั ิกจิ กรรม สถานที่
เวลา วัสดอุ ุปกรณ และอืน่ ๆ ตามความเหมาะสมโดยเนน กิจกรรมอาสาพัฒนา มีจิตสาธารณะหรือกจิ กรรม
สรา งสรรคสังคมใหอยรู วมกันอยางมีความสขุ

3. การปฏบิ ัติกิจกรรมแตล ะระดบั ชน้ั จะแบงออกเปน 2 ภาคเรียน
ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน ปฏิบัติกจิ กรรมภายในโรงเรียน โดยแบงเปน

ภาคเรียนที่ 1 จาํ นวน 8 ช่ัวโมง ภาคเรยี นที่ 2 จาํ นวน 7 ชว่ั โมง ตลอดหลักสตู รมธั ยมศึกษาตอนตน (ม.1-3)
รวมทงั้ สนิ้ 45 ช่ัวโมง

ระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ปฏิบตั ิกจิ กรรมภายนอกโรงเรยี น โดยแบงเปน
ภาคเรยี นที่ 1 จํานวน 10 ชัว่ โมง ภาคเรียนท่ี 2 จํานวน 10 ช่วั โมง ตลอดหลกั สตู รมัธยมศึกษาตอนปลาย
(ม.4-6) รวมทั้งส้นิ 60 ชั่วโมง

4. ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมแตล ะคร้ังตองมผี รู ับรองผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมโดยครูทีป่ รึกษา บุคคล
หนวยงาน หรือองคกรท่ีไปปฏิบตั กิ ิจกรรม เมื่อสน้ิ ภาคเรยี นครทุ ป่ี รกึ ษาและนักเรียนรว มกนั สรุปรายงานผล
การปฏิบัตกิ ิจกรรมเปน รปู เลมสง หัวหนา งาน เพื่อใหหัวหนา งานสรุปเปน ภาพรวมระดับโรงเรียนตอ ไป

5. ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรม ในปการศึกษา 2559 2560 และ 2561 พบวา ครูทปี่ รึกษาและนักเรียน
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมไดรอยละ 100

6. การสมคั รจิตอาสา 904 ของโรงเรียนวัชรวทิ ยา มจี าํ นวนทง้ั สน้ิ 290 คน
จาํ นวนจติ อาสาครู 15 คน จํานวนจิตอาสานักเรยี น 305 คน

แสดงภาพนักเรียนรับพระราชทานหมวกและผ้าพนั คอจติ อาสาพระราชทาน 904

แสดงภาพนักเรยี นระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนตน้ ทาํ กิจกรรมจติ อาสาภายในโรงเรยี น

แสดงภาพนักเรยี นระดับช้ันมัธยมศกึ ษาตอนปลายทาํ กิจกรรมจติ อาสาภายนอกโรงเรียน

แสดงภาพนักเรยี นระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาตอนตน้ -ปลาย ทาํ กจิ กรรมจติ อาสาตอ่ ชุมชน


Click to View FlipBook Version