บทที่ 8 การใช้ซอฟต์แวร์ระบบช่วยในการท างาน ครูชนนิกานต์ บุญยะประทีป
การใช้ซอฟต์แวร์ระบบช่วยในการท างาน โปรแกรมอรรถประโยชน์ ซอฟต์แวร์ที่ท าหน้าที่เฉพาะอย่าง เพื่อจัดการงาน พื้นฐานและบริการต่าง ๆ เช่น การจัดเรียงข้อมูล (sort) การรวมแฟ้มข้อมูลที่จัด เรียงล าดับแล้วเข้าด้วยกัน (merge) หรือย้ายข้อมูลจากอุปกรณ์รับหนึ่งไปยังอุปกรณ์หนึ่ง รวมทั้งสามารถจัดการกับฮาร์ดแวร์โดยตรง โปรแกรมอรรถประโยชน์ส่วนใหญ่จะถูก รวมอยู่ในระบบปฏิบัติการอยู่แล้ว สามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท ดังต่อไปนี้ โปรแกรมอรรถประโยชน์ส าหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility programs) โปรแกรมอรรถประโยชน์อื่นๆ (Standalone utility programs) 1 2
การใช้ซอฟต์แวร์ระบบช่วยในการท างาน 1. โปรแกรมอรรถประโยชน์ส าหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility programs) เป็นโปรแกรมที่ติดตั้งมาพร้อมระบบปฏิบัติการอยู่แล้ว อ านวยความสะดวกในการท างาน ร่วมกับฮาร์ดแวร์ ตัวอย่างโปรแกรม มีดังนี้ 1.1 โปรแกรมจัดการไฟล์ (file manager) เป็นโปรแกรมที่ ออกแบบมาเพื่อช่วยจัดการไฟล์ เช่น การคัดลอกแฟ้มข้อมูล เปลี่ยนชื่อแฟ้มข้อมูล ลบแฟ้มข้อมูล การเรียกใช้งาน โปรแกรมต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก นอกจากนี้ ระบบปฏิบัติการ รุ่นใหม่ ๆ ได้เพิ่มความสามารถการแสดงไฟล์เป็นรูป ภาพเหมือนจริง (image view) ท าให้การใช้งานมีความ สะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ที่มาภาพ https://notebookspec.com/ ภาพที่ 1 โปรแกรมจัดการไฟล์
โปรแกรมอรรถประโยชน์ส าหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility programs) 1.2 โปรแกรมยกเลิกการติดตั้งโปรแกรม (uninstaller) เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการน าโปรแกรมและส่วนประกอบ ของโปรแกรมที่ติดตั้งไว้ใน ระบบออกจากเครื่อง คอมพิวเตอร์ ส่วนใหญ่บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์จะติดตั้ง โปรแกรมยกเลิกการติดตั้งโปรแกรมไว้ เป็นส่วนหนึ่ง ของโปรแกรมประยุกต์อยู่แล้ว ที่มาภาพ https://software.thaiware.com/ ภาพที่ 2 โปรแกรมยกเลิกการติดตั้งโปรแกรม
1.3 โป รแ ก รม แส กน ดิส ก์ ( diskcanner) เป็นโปรแกรมช่วยตรวจสอบความเสียหายหรือ ข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับฮาร์ดดิสก์ คือ เมื่อใช้ ฮาร์ดดิสก์เป็นเวลานาน มักเกิดส่วนที่เสีย หาก ที่เรียกว่า bad sector ส่งผลให้การ ท างานของฮาร์ดดิสก์ช้าลง ท าให้การบันทึก หรือเขียนข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ยากขึ้น ดังนั้น ผู้ใช้สามารถใช้โปรแกรมดังกล่าวตรวจสอบ ฮาร์ดดิสก์ เพื่อค้นหาส่วนที่เสียหาย ไฟล์ที่มี ข้อผิดพลาด และซ่อมแซมส่วนที่เสียหายได้ โปรแกรมอรรถประโยชน์ส าหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility programs) ที่มาภาพ; https://m.thaiware.com/ ภาพที่ 3 โปรแกรมแสกนดิสก์
1.4 โปรแกรมจัดเรียงพื้นที่จัดเก็บข้อมูลของฮาร์ดดิสก์ (disk defragmenter) เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการจัดเรียง ข้อมูลให้เป็นระเบียบ ช่วยให้เข้าถึงข้อมูลในฮาร์ดดิสก์ได้ อย่างรวดเร็ว กล่าวคือ เมื่อมีการเรียกใช้งานฮาร์ดดิสก์ของ คอมพิวเตอร์นั้นบ่อยๆ ไฟล์จะถูกจัดเก็บกระจัดกระจาย ไม่ เป็นระเบียบ และไม่ได้อยู่เป็นกลุ่มก้อนเดียวกัน เมื่อ ต้องการเรียกใช้อีกภายหลังจะท าให้เวลาในการดึงข้อมูล นั้นๆ ช้าลง นั่นเอง โปรแกรมดังกล่าวจึงช่วยจัดเรียงไฟล์ ต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบ โปรแกรมอรรถประโยชน์ส าหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility programs) ที่มาภาพ; https://notebookspec.com/ ภาพที่ 4 โปรแกรมอรรถประโยชน์
1.5 โปรแกรมรักษาหน้าจอ (screen saver) เป็นโปรแกรมส าหรับรักษา และช่วยยืดอายุการใช้งานจอภาพของคอมพิวเตอร์ กล่าวคือ การเปิด จอภาพของคอมพิวเตอร์ให้ท างานและปล่อยทิ้งไว้ให้แสดงภาพเดิมโดยไม่ มี การเคลื่อนไหวใด ๆ เป็นเวลานาน จะท าให้เกิดรอยไหม้บนสารเรือง แสงที่ฉาบผิวจอ และไม่สามารถลบออกไปได้ ถ้าปล่อยทิ้งไว้นานจะส่งผล ให้อายุการใช้งานของหน้าจอคอมพิวเตอร์สั้นลง ในการใช้โปรแกรม ดังกล่าวผู้ใช้สามารถตั้งค่าระยะเวลาให้โปรแกรมตรวจสอบ และเริ่ม ท างานได้ หากไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ของภาพ เช่น5 นาที หรือ 10 นาที เป็นต้น เมื่อเราขยับเมาส์ หรือเริ่มที่จะท างานใหม่ โปรแกรมนี้จะ ปิดอัตโนมัติ โปรแกรมอรรถประโยชน์ส าหรับระบบปฏิบัติการ (OS utility programs) ที่มาภาพ; https://ihowto.tips/wp-content/ ภาพที่ 5 โปรแกรมอรรถประโยชน์
โปรแกรมอรรถประโยชน์อื่นๆ (Standalone utility programs) 2. โปรแกรมอรรถประโยชน์อื่นๆ (Standalone utility programs) 2.1 โปรแกรมบีบอัดไฟล์ (file compression utility) เป็นโปรแกรมที่บีบ อัดไฟล์ที่มีขนาดใหญ่ให้มีขนาดเล็กลง ไฟล์ที่ได้จากการบีบอัดไฟล์เรียกว่า ซิปไฟล์ (zip file) ที่มาภาพ; https://support.skyslope.com/hc/article _attachments/115013036227/zip_files.png
โปรแกรมอรรถประโยชน์อื่นๆ (Standalone utility programs) การบีบอัดข้อมูล 1. เลือกไฟล์หรือโฟลเดอร์หลายๆไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการซิป คลิกด้วยเมาส์ซ้ายพร้อมกับกดปุ่ม Ctrl บนแผงแป้นอักขระค้างไว้ จนกระทั่งได้ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการซิปครบตามจ านวน 2. คลิกเมาส์ขวาที่ไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการซิปอันใดอันหนึ่ง ของกลุ่มไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ต้องการลดขนาด 3. เลือกค าสั่ง Send to และ Compressed (zipped) Folder 4. ผลลัพธ์ที่ได้จะพบข้อมูลที่ถูกซิป ซึ่งมีรูปร่างคล้ายโฟลเดอร์มี ซิปรูดหรือตู้มีลิ้นชัก ที่มาภาพ: https://computernetworkingweb.wordpress.com
โปรแกรมอรรถประโยชน์อื่นๆ (Standalone utility programs) การขยายข้อมูล 1. คลิกเมาส์ขวาที่โฟลเดอร์ซึ่งซิปไว้ 2. เลือกค าสั่ง Extract files 3. วินโดวส์จะแสดงต าแหน่งที่เก็บไฟล์ที่ขยายแล้ว ถ้าต้องการเปลื่ยนต าแหน่งที่เก็บให้คลิกที่ไดเร็กทอรีทรี 4. คลิกปุ่มค าสั่ง Ok 5. ผลลัพธ์ที่ได้ คือไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่ขยายแล้ว ที่มาภาพ: https://1skidka.com/page.php?id=6528
การใช้ซอฟต์แวร์ระบบช่วยในการท างาน 2.2 โปรแกรมป้องกันไวรัส (anti virus program) การใช้งานคอมพิวเตอร์ ที่มีผู้ใช้หลายคนหรือใช้ระบบเครือข่าย มักเจอปัญหาไวรัสคอมพิวเตอร์ ซึ่ง ไวรัสเป็นโปรแกรมที่ผู้ไม่ประสงค์ดี พัฒนาขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น บูตระบบช้าลง ไม่สามารถเรียกใช้โปรแกรมได้สมบูรณ์ ท าให้ คอมพิวเตอร์ค้าง (Hang) หรือมีข้อความขึ้นบนหน้าจออัตโนมัติได้เอง เพื่อ สร้างความร าคาญ ก่อกวนการท างานของผู้ใช้ เป็นต้น ดังนั้น บริษัทผู้ผลิต ซอฟต์แวร์จึงได้พัฒนาโปรแกรมขึ้นเพื่อค้นหาและก าจัดไวรัส คอมพิวเตอร์ หรือที่เรียกว่า โปรแกรมป้องกันไวรัส ที่มาภาพ; https://askbobrankin.com/ free-antivirus-software.jpg
การใช้ซอฟต์แวร์ระบบช่วยในการท างาน การตรวจสอบไวรัสคอมพิวเตอร์ ไวรัสคอมพิวเตอร์เป็นซอฟต์แวร์ชนิดหนึ่งที่สามารถท าส าเนาตนเอง แล้วแพร่กระจายผ่าน การดาวน์โหลดข้อมูล การโอนย้ายข้อมูล การเปิดสื่อบันทึกข้อมูล ต่าง ๆ หรือการส่งไปรษณีย์ อิเล็กทรอนิกส์ จากคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งไปยังคอมพิวเตอร์อีกเครื่องหนึ่ง แล้วสร้างความเสียหาย ให้แก่ระบบคอมพิวเตอร์ ไวรัสคอมพิวเตอร์ที่พบเป็นประจ า เช่น ม้าโทรจัน (Trojan) หนอน (warms) ซอฟต์แวร์ สอดแนม (spyware) การป้องกันไวรัสคอมพิวเตอร์ด้วยการตรวจสอบไวรัสที่มากับข้อมูลจากแหล่ง ต่างๆ เช่นอุปกรณ์บันทึกข้อมูล เว็บไซต์ทางอินเทอร์เน็ต แล้วท าการก าจัดไวรัสคอมพิวเตอร์นั้นด้วย ซอฟต์แวร์ตรวจสอบและก าจัดไวรัสที่มีประสิทธิภาพ จะช่วยลดความเสียหายที่เกิดกับระบบ คอมพิวเตอร์ได้
การใช้ซอฟต์แวร์ระบบช่วยในการท างาน ลักษณะอาการของคอมพิวเตอร์ที่แสดงถึงการมีไวรัส • ใช้เวลานานผิดปกติในการเรียกซอฟต์แวร์ขึ้นมาท างาน • ปุ่มค าสั่งต่างๆใหญ่ขึ้น • วันเวลาของซอฟต์แวร์เปลี่ยนไป • ข้อความที่ปกติไม่ค่อยได้เห็นกลับถูกแสดงขึ้นมาบ่อยๆ • เกิดตัวอักษรหรือข้อความประหลาดบนหน้าจอ • เครื่องส่งเสียงออกทางล าโพงโดยไม่ได้เกิดจากซอฟต์แวร์ที่ใช้งานอยู่ • แผงแป้นอักขระท างานผิดปกติหรือไม่ท างานเลย • ขนาดของหน่วยความจ าที่เหลือลดน้อยกว่าปกติ โดยหาเหตุผลไม่ได้ • ไฟล์แสดงสถานการณ์ท างานของดิสก์ติดค้างนานกว่าที่เคยเป็น
การใช้ซอฟต์แวร์ระบบช่วยในการท างาน ลักษณะอาการของคอมพิวเตอร์ที่แสดงถึงการมีไวรัส • เครื่องท างานช้าลง • เครื่องบูตตัวเองโดยไม่ได้สั่ง • ระบบหยุดท างานโดยไม่ทราบสาเหตุ ที่มาภาพ: https://computernetworkingweb.wordpress.com
การใช้ซอฟต์แวร์ระบบช่วยในการท างาน เมื่อมีอาการดังกล่าวต้องตรวจสอบไวรัสคอมพิวเตอร์ทันทีโดยมีขั้นตอน ดังนี้ 1. ดับเบิลคลิกที่ปุ่มค าสั่งของซอฟต์แวร์ตรวจสอบไวรัสที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ 2. คลิกปุ่มค าสั่ง Computer scan แล้วเลือกตรวจสอบไวรัสคอมพิวเตอร์ทั้งหมดทุกไฟล์ทุก โฟลเดอร์ (Smart scan) หรือ เลือกตรวจสอบไวรัสเฉพาะที่ต้องการ (Custom scan) 3. ถ้าเลือกตรวจสอบไวรัสจากสื่อบันทึกข้อมูลที่ก าลังน าข้อมูลเข้าเครื่องคอมพิวเตอร์ให้ใช้ เมาส์คลิกลงในช่องว่างหน้าไดร์ฟที่น าเข้าข้อมูล แล้วคลิกปุ่มค าสั่ง SCAN ขณะซอฟต์แวร์แอนทีไวรัสก าลังตรวจสอบไวรัส หากต้องการหยุดการตรวจสอบไวรัสชั่วคราว ให้ คลิกปุ่มค าสั่ง Pause หรือถ้าต้องการหยุดการตรวจสอบไวรัสทั้งหมดทันทีให้คลิกปุ่มค าสั่ง Stop
การใช้ซอฟต์แวร์ระบบช่วยในการท างาน เมื่อท าการตรวจสอบไวรัสแล้วพบว่ามีไวรัส จะปรากฏจ านวนไวรัสที่พบ หากซอฟต์แวร์ ตรวจสอบไวรัสคอมพิวเตอร์ มีข้อมูลของไวรัสที่พบ จะท าการก าจัดให้โดยอัตโนมัติ แต่หากไม่มีข้อมูล ไวรัสดังกล่าวจะยังคงอยู่ จึงต้องท าการปรับปรุง (update) ซอฟต์แวร์ ตรวจสอบไวรัสอยู่เสมอ เพื่อให้ ก าจัดไวรัสคอมพิวเตอร์ใหม่ๆได้ ซอฟต์แวร์ตรวจสอบไวรัสมีมากมายหลายซอฟต์แวร์ให้เลือกใช้ เช่น ESET NOD32 Antivirus, Norton, Kaspersky, McAfee, AVG เป็นต้น ที่มาภาพ: https://www.manager.bg
บรรณานุกรม ปรัชญนันท์นิลสุข, และคณะ, ผู้เรียบเรียง. (2559). เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. กรุงเทพมหานคร : บริษัท พัฒนาคุณภาพวิชาการ จ ากัด. อารียา ศรีประเสริฐ, และคณะ. (2559). เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. กรุงเทพมหานคร : บริษัท อักษรเจริญทัศน์ จ ากัด. อ านวย เดชชัยศรีและณัฐกานต์ ภาคพรต.(2558). เทคโนโลยีสารสนเทศ ม.2. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ส านักพิมพ์วัฒนาพานิช จ ากัด. ธนาวุฒิ ประกอบผล (2555). เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ม.2. กรุงเทพมหานคร : บริษัท ซัคเซส มีเดีย จ ากัด. ศิริลักษณ์ อิทธิประเวศน์. (2560). เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.sathukit.ac.th/datacom2/about.htm (วันที่ค้นข้อมูล : 18 ธันวาคม 2560).
บรรณานุกรม (ต่อ) วริณศิญา พงษ์เกษ(2561). เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://sites.google.com/a/patum.ac.th/kru-picnic/kha-xthibay-raywicha/it-m-2/unit-3- internet (วันที่ค้นข้อมูล : 22 มกราคม 2561). จตุพร วงค์ไชย(2561). เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : https://jatupornweb.wordpress.com/computer-2 (วันที่ค้นข้อมูล : 22 มกราคม 2561) ศิริรัตน์ พิมณาคุณ (2561). การสื่อสารข้อมูลและเครือข่ายคอมพิวเตอร์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.ks.ac.th/kroorung/index.html (วันที่ค้นข้อมูล : 24 มกราคม 2561). เสาวนีย์ ตาค า(2561).เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก : http://www.krunana.net (วันที่ค้นข้อมูล : 25 มกราคม 2561) . .