The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ลิลิตมั้ยจ้ะ-จิงอยู่้้้้้้

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jeongpomhpam, 2022-11-27 12:29:59

โครงงานลิลิตพระลอ

ลิลิตมั้ยจ้ะ-จิงอยู่้้้้้้

โครงงานภาษาไทย

การจดั ทำหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (e – book ) ส่งเสรมิ การอ่านวรรณคดไี ทย
ช่อื หนังสอื ความงดงามของพระลอและมาตรฐานความงามในสมัยอยธุ ยา

ผูจ้ ัดทำ

๑. นายอนันตญ โสดาจันทร์ ห้อง ม.๔/๘ เลขท่ี ๘
๒. นายวชิ ติ พงษ์ กันยามา หอ้ ง ม.๔/๘ เลขท่ี ๑๖
๓. นางสาวฐิตริ ัตน์ ยามประโคน หอ้ ง ม.๔/๘ เลขที่ ๒๙
๔. นางสาววรณัฎฐ์ ถงึ ประชา หอ้ ง ม.๔/๘ เลขท่ี ๓๑
๕. กรกญั ญา เหลาผา ห้อง ม.๔/๘ เลขท่ี ๓๓

ครูทีป่ รกึ ษาโครงงาน

นางกรรณกิ าร์ พลพวก

โรงเรยี นเบ็ญจะมะมหาราช อำเภอเมอื งอบุ ลราชธานี จงั หวดั อบุ ลราชธานี

รายงานนเี้ ป็นสว่ นประกอบโครงงานวชิ า ท๓๑๑๐๒ ภาษาไทย
ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๔
วนั ท่ี ๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๕





หวั ข้อโครงงาน ความงดงามของพระลอและมาตรฐานความงามในสมยั อยธุ ยา

ผู้จดั ทำ ๑. นายอนนั ตญ โสดาจนั ทร์ ห้อง ม.๔/๘ เลขท่ี ๘

๒. นายวิชิตพงษ์ กนั ยามา ห้อง ม.๔/๘ เลขท่ี ๑๖

๓. นางสาวฐิติรัตน์ ยามประโคน หอ้ ง ม.๔/๘ เลขที่ ๒๙

๔. นางสาววรณฎั ฐ์ ถึงประชา หอ้ ง ม.๔/๘ เลขท่ี ๓๑

๕. กรกญั ญา เหลาผา หอ้ ง ม.๔/๘ เลขที่ ๓๓

ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔

ครทู ีป่ รึกษาโครงงาน .นางกรรณิการ์ พลพวก

โรงเรยี นเบ็ญจะมะมหาราช

ปีพ.ศ. ๒๕๖๕

บทคัดย่อ

โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความงดงามของพระลอและมาตรฐานความงาม
ในสมัยอยุธยาในระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย รายวิชาภาษาไทย ซึ่งได้ศึกษาค้นคว้าจาก
แหล่งเรียนรู้หลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็น หนังสือ จากงานวิจัยและจากเว็บไซต์ ได้รู้ว่าจาก
การศึกษาบทชมความงามในลิลิตพระลอนั้นพบว่าได้รับอิทธิพลมาจากเรื่อง ไตรภูมิกถาเปน็
ส่วนใหญ่ซึ่งมีทั้งลักษณะของการนำไปเปรียบกับตัวละครในเรื่องไตรภูมิกถาบ้างหรือมี
ลักษณะของการใช้ความเปรียบที่ปรากฏส่วนเหมือนหรือคล้ายคลึงกันบ้าง ซึ่งชมความงาม
ในที่น้ีมิได้กล่าวเฉพาะแต่รูปร่างของตวั ละครเทา่ นั้นแต่ผู้เขียนหมายรวมถึงองค์ประกอบของ
ความงามนั้นด้วย กล่าวคือ ท่าทางงาม กิริยางาม ถ้าพูดถึงความงามแล้วเป็นเรื่องนามธรรม
ไม่มีตัวตนเป็นสิ่งที่เราจับต้องไม่ได้สัมผัสได้เพียงแค่ความรู้สึกเท่านั้น ไม่มีกฎตายตัว ดังน้ัน
ความงามจึงเป็นเรื่องเฉพาะของบุคคลและการจะมองว่างามหรือไม่งามนั้นก็เกี่ยวข้องกับ
รสนยิ ม เพราะรสนยิ มถือเปน็ สิง่ ที่กวีต้องคำนึงถึง



กติ ติกรรมประกาศ

โครงงานรายวิชาภาษาไทย เรื่องลิลิตพระลอ ซึ่งศึกษาเรื่องความงดงามของพระลอและมาตรฐานความ
งามในสมัยอยุธยา เปน็ อกี หน่งึ โครงการท่ีช่วยให้นักเรียนเกิดการเรยี นรู้อย่างกวา้ งขวาง เกิดความสามัคคีและ
ความรบั ผิดชอบในกลมุ่ และสามารถต่อยอดในการศึกษาในครั้งถัดๆไป

การจัดทำโครงงานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี จากการศึกษาค้นคว้า และแหล่งอ้างอิงต่างๆ ขอขอบคุณ
นกั เรยี นในกลมุ่ ทุกคนที่ให้ความรว่ มมือและความช่วยเหลือให้โครงงานสำเร็จลุล่วงไดเ้ ป็นอยา่ งดี

คณะผจู้ ัดทำ



สารบญั

บทคดั ย่อ ............................................................................................................................................... ก
กิตติกรรมประกาศ ................................................................................................................................. ข
สารบญั ………………………………….………………………………………………………………………………………………..ค

บทท่ี ๑ บทนำ......................................................................................................................................๑
ท่มี าและความสำคัญของโครงงาน.....................................................................................................๑
วตั ถุประสงค์......................................................................................................................................๑
สมมุติฐานของการศึกษา ...................................................................................................................๑
ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้า ...........................................................................................................๒

บทที่ ๒ เอกสารและงานวิจัยทีเ่ กย่ี วข้อง................................................................................................๓
บทท่ี ๓ การดำเนินการโครงงาน........................................................................................................๑๔
บทท่ี ๔ ผลการศกึ ษาและอภิปรายผลการศกึ ษา...............................................................................๑๖
บทที่ ๕ สรปุ ผลการศึกษา .................................................................................................................๑๗



บทท่ี ๑
บทนำ

ท่ีมาและความสำคัญของโครงงาน
การศกึ ษาวิชาภาษาไทยมปี ระโยชน์ชว่ ยพัฒนาทักษะสื่อสารในชีวิตประจำ ภาษาไทยเปน็ เคร่ืองมือใน

การดำเนนิ ชวี ิตประจำวนั การศกึ ษา รวมถงึ การทำงาน
หลกั สูตรสาระการเรยี นรู้วิชาภาษาไทย สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม กำหนดมาตรฐาน

ท ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณค่าและนำมา
ประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจริง และระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๔ ภาคเรยี นท่ี ๒ กำหนดสาระการเรียนรเู้ รื่อง วรรณคดี
สมัยสุโขทัย ให้นักเรียนได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ความรู้เก่ียวกับวัฒนธรรม สภาพสังคม และ
เหตุการณ์บ้านเมือง ควบคู่กันไปกับวิวัฒนาการของวรรณคดีในสมัยสุโขทัย อีกทั้งช่วยเพิ่มความเข้าใจและ
ความซาบซง้ึ ในคุณค่าของวรรณคดี

กลมุ่ ขา้ พเจ้าได้รบั มอบหมายให้ศึกษาค้นควา้ เร่ือง ความงดงามของพระลอและมาตรฐานความงามใน
สมัยอยุธยา ซ่ึงได้พจิ ารณาร่วมกนั แลว้ เห็นวา่ ควรนำเสนอในรปู แบบหนังสอื อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (e – book) เพราะ
สามารถอ่านได้ทุกท่ี สามารถใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์สรา้ งสรรค์หนังสอื ทีม่ ีสสี นั ภาพ เสียง ท่ีน่าสนใจ ไม่นา่
เบื่อหน่ายได้ และยังมีประโยชน์ ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้เพือ่ ส่งเสริมการอ่านวรรณคดี ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งได้
ฝึกการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม รู้จักการประสานงานร่วมกันที่ดี ฝึกทักษะการใช้ภาษา หรือการใช้คำในการ
แตง่ เร่ือง รวมถงึ ฝึกทกั ษะการเทคโนโลยี ความคดิ สรา้ งสรรค์ และจนิ ตนาการได้เปน็ อยา่ งดี
วัตถปุ ระสงค์

๑. จัดทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e – book) ประกอบการเรียนเร่ือง วรรณคดีสมยั สุโขทัย
๒. เชิญชวนผู้สนใจอา่ น อย่างน้อย ๒๐ คน
๓. ผู้อ่านมีความพึงพอใจต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e – book) ที่จัดทำขื้น อยู่ในระดับดี – ดี

มาก
สมมตุ ิฐานของการศกึ ษา

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e – book) ส่งเสริมการอ่านวรรณคดีไทย มีความสวยงาม เนื้อหาสาระดี
สนุกสนาน นา่ สนใจ ช่วยการเรียนรเู้ รอื่ ง วรรณคดสี มัยสโุ ขทัย



ขอบเขตของการศกึ ษาคน้ คว้า
๑. เน้ือหาของหนงั สืออิเล็กทรอนกิ ส์ (e – book) เปน็ เน้อื หาเกีย่ วกบั วรรณคดีสมัยสโุ ขทัย เร่ือง
ความงดงามของพระลอและมาตรฐานความงามในสมยั อยุธยา
๒. ระยะเวลาจดั ทำ ตง้ั แต่ ๙ พฤศจกิ ายน ๒๕๖๕ - ๙ ธันวาคม ๒๕๖๕

เชิญชวนผสู้ นใจอ่านและสรุปรายงานผลการจดั ทำโครงงาน พฤศจกิ ายน - ธันวาคม ๒๕๖๕
นำเสนอโครงงานภาษาไทยในชัน้ เรยี น ธันวาคม ๒๕๖๕



บทที่ ๒
เอกสารและงานวจิ ัยท่ีเก่ียวข้อง

ในการศึกษาวิจัยเรื่อง ได้ศึกษาค้นคว้าเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง โดยนาเสนอตามรายละเอียด
ดังหวั ขอ้ ตอ่ ไปนี้

๑. เน้ือเรอ่ื งของลลิ ิตพระลอ
๒. ผ้แู ตง่ และปีทีแ่ ต่ง
๓. บทชมความงามของพระลอ
๔. เปรยี บเทียบกับความงามในสมัยอยุธยา
๕. การจำลองหน้าตาโดยใช้ปญั ญาประดษิ ฐ์

๑. เน้อื เรอ่ื งของลลิ ิตพระลอ
ลิลิตพระลอ เป็นลิลิตโศกนาฏกรรมความรัก ที่แต่งขึ้นอย่างประณีตงดงาม มีความไพเราะของ

ถ้อยคำ และเตม็ ไปด้วยสนุ ทรียศาสตร์ พรรณนาเรอื่ งด้วยอารมณท์ ห่ี ลากหลาย ใชก้ วโี วหารอย่างยอดเย่ียม ใน
การบรรยายเนื้อเรื่อง ที่มีฉากอย่างมากมาย หลากหลายอารมณ์ โดยมีแก่นเรื่องแบบรักโศก หรือ
โศกนาฏกรรม และแฝงแง่คิดถึงสัจธรรมของชีวิต ลิลิตพระลอนี้เคยถูกวิจารณ์อย่างเผ็ดร้อนจากนักวรรณคดี
บางกลุ่ม เนื่องจากเชื่อว่าเป็นวรรณกรรมที่มอมเมาทางโลกีย์ ลิลิตพระลอที่ได้รับยกย่องจากวรรณคดี
สโมสร เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๔๙ ให้เป็นยอดแห่งลลิ ติ

ท้าวแมนสรวงเปน็ กษัตริย์ของเมืองแมนสรวง พระองค์มีพระมเหสีทรง พระนามว่า “ นาฏบุญเหลือ ”
ทั้งสองพระองค์มีพระโอรสมีพระนามว่า “ พระลอดิลกราช ” หรือเรียกกันสั้น ๆ ว่า “ พระลอ ” มีกิตติศัพท์
เปน็ ท่รี ำ่ ลือกันวา่ พระองคน์ ้ันทรงเปน็ ชายหนุม่ รูปงามไปทวั่ สารทิศจนไปถงึ เมืองสรอง ( อ่านวา่ เมืองสอง ) ซ่ึง
เป็นเมืองที่ถูกปกครองโดยท้าวพิชัยวิษณุกร พระองค์มีพระนามว่า “ พรดาราวดี ” และพระองค์ทรงมี
พระธดิ าผู้เลอโฉมถึงสองพระองค์พระนามว่า “ พระเพื่อน ” และ “ พระแพง ”

พระเพื่อนและพระแพงได้ยินมาว่า พระลอเป็นชายหนุ่มรูปงาม ก็ให้ความสนใจอยากจะได้ยล พี่เลี้ยง
ของพระเพื่อนและพระแพงคือนางรื่น และนางโรยสังเกตเห็นความปรารถนาของนายหญิงของตนก็เข้าใจใน
พระประสงค์ สองพี่เลี้ยงจึงอาสาจะจัดการให้นายของตนนั้นได้พบกับพระลอ โดยการส่งคนไปขับซอในนคร
แมนสรวง และในขณะที่ขับซอนั้นจะไห้นักดนตรีพร่ำพรรณนาถึงความงามของเจ้าหญิงทั้งสอง ใน
ขณะเดียวกันน้นั พ่เี ลีย้ งท้ังสองก็ไดไ้ ปหาปเู่ จ้าสมิงพราย เพือ่ ทจี่ ะให้ช่วยทำเสนห่ ใ์ ห้พระลอหลงใหลในเจ้าหญิง
ทัง้ สอง



เมื่อพระลอต้องมนต์ก็ทำใหใ้ คร่อยากที่จะได้ยลพระเพือ่ นและพระแพงเป็นย่ิงนัก พระองค์เกิดความคลั่ง
ไคล้ไหลหลงจนไม่เป็นอันทำอะไรแม้แต่กระทั่งเสวยพระกระยาหาร พฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของพระองค์ ได้ทำ
ให้พระราชชนนีสงสัยว่าจะมีผีมาเข้ามาสิงสู่อยู่แต่ถึงแม้ว่าจะหาหมอผีคนไหนมาทำพิธีขั บไล่ก็ไม่มีผลอันใด
พระลอก็ยงั คงมีพฤตกิ ารณ์อยา่ งเดมิ อยู่

เพื่อที่จะได้ยลเจ้าหญิงทั้งสอง พระลอจึงทูลลาพระราชชนนีออกประพาสป่า แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงก็
คือ เพื่อที่จะได้ไปยลเจ้าหญงิ แห่งเมืองสรองน่ันเอง จากนั้นพระลอก็ออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมอื งสรองพร้อมคน
สนิทอีก ๒ คน คือ นายแก้ว กับนายขวัญ พร้อมกับไพร่พลอีกจำนวนหนึ่ง ทั้งหมดต้องเดินผ่านป่าผ่าดง
จนกระทงั่ มาพบแม่นำ้ สายหนึ่งมชี ือ่ วา่ “ แมน่ ำ้ กาหลง ”

และท่ีแมน่ ำ้ กาหลงน้ีเอง ทีพ่ ระลอไดต้ ้งั อธษิ ฐานว่าหากตนเองได้รอดกลับมานำ้ จะใสและไหลตามปรกติ
แต่หากตอ้ งตายให้นำ้ กลายเป็นสีเลอื ดและไหลผดิ ปรกติ หลังจากคำอธษิ ฐานนั้น แม่น้ำกเ็ ปล่ียนเปน็ สีแดงเลือด
ในทันทีและไหลเวียนวนผิดปกติ เมื่อพระลอเห็นดังน้ันก็รู้ได้ว่าจะมีเร่ืองร้ายรออยูเ่ บื้องหน้าของพระองค์ แต่ก็
ไม่ได้ทำให้พระองค์เกิดความย่อท้อที่จะได้พบกับเจ้าหญิงที่พระทัยของพระองค์เรียกร้องแต่อย่างใด ถึงแม้ว่า
พระองค์นน้ั จะไมเ่ คยพบนางเลย แต่พระองคค์ ลงั่ ไคล้ไหลหลงในตัวนางทง้ั สองเปน็ ยิง่ นกั

ส่วนเจ้าหญิงทั้งสองรอการเดินทางมาของเจ้าชายรูปงามไม่ได้ และเกรงว่ามนต์เสน่ห์ของปู่เจ้าสมิง
พรายจะไม่เห็นผล จึงได้ขอร้องให้ปู่เจ้าสมิงพรายช่วยเหลืออีกครั้ง โดยให้ช่วยเนรมิตไก่งามขึ้นตัวหนึ่งให้มี
เสยี งขนั ทไ่ี พเราะ ทั้งสองพระองค์คิดวา่ ไก่ตัวน้ันจะต้องทำให้พระลอสนพระทยั และติดตามมาจนถึงเมืองสรอง
อย่างแนน่ อน

และแล้วเหตุการณ์ก็เป็นไปตามที่เจ้าหญิงสองคาดไว้ พระลอได้ตามไก่เนรมิตไปจนถึงพระราชอุทยาน
และได้พบกับเจ้าหญิงทั้งสองซึ่งกำลังทรงสำราญอยู่ ในทันทีที่ทั้งสามได้พบกันก็เกิดความรักใคร่กันในบัดดล
และก็เปน็ เวลาเดียวกบั ที่นายแก้วกับนายขวัญ ได้ตกหลมุ รกั ของนางรน่ื และนางโรยผู้ซ่ึงเปิดหัวใจต้อนรับชาย
หนุ่มทั้งสองโดยไม่รีรอเช่นกัน ปรากฏว่าพระลอและบ่าวคนสนิทของพระองค์ลักลอบเข้าไปอยู่ในพระตำหนัก
ชัน้ ในซงึ่ เปน็ ท่ีประทบั ของเจ้าหญงิ ทัง้ สอง

อย่างไรก็ตาม ความลับนี้ได้ถกู เปิดเผยเขา้ จนได้ เมื่อข่าวได้ไปถงึ พระกรรณของพระราชาจึงไดเ้ สดจ็ มา
ไต่สวนในทนั ที และเมอ่ื พระลอกราบทูลให้ทรงทราบเร่ือง พระองค์ก็ทรงกริ้วเปน็ ยิ่งนัก แต่ก็ทรงเข้าพระทัยใน
ความรักของคนทง้ั สาม และทรงจดั พิธอี ภิเษกสมรสให้ทัง้ สามพระองค์ทนั ที

ด้วยการอ้างเอาพระราชโองการของพระราชโอรสของพระนางคอื ท้าวพระพิชัยวิษณุกร พระเจ้าย่าจึง
ส่งั ใหท้ หารลอ้ มพระลอและไพรพ่ ลเอาไว้ ในขณะท่พี ระลอกับไพรพ่ ลไดต้ ่อสู้เอาชีวิตรอด พระนางก็ส่ังให้ทหาร
ระดมยงิ ธนูเข้าใส่ ลูกธนทู ีพ่ ุ่งเขา้ หาพระองคแ์ ละไพร่พลประดจุ ดังหา่ ฝนกไ็ ม่ปานจงึ ทำใหไ้ ม่อาจจะต้านทานไว้
ได้อกี ต่อไป



และเพื่อที่ปกป้องชีวิตของชายคนรักพระเพื่อนกับพระแพงจึงเข้าขวางโดยใช้ตัวเองเป็นโล่กำบังให้
พระลอ ทั้งสามจึงต้องมาสิ้นพระชนม์ในอ้อมกอดของกันและกันท่ามกลางศพของบ่าวไพร่ ณ ที่ตรงนั้นเอง
ทนั ใดน้ันทัง้ สองเมอื งกต็ อ้ งตกอย่ใู นความวปิ โยคต่อการจากไปของทงั้ สามพระองค์ผู้บูชาในรักแท้

๒. ผู้แตง่ และปที ี่แต่ง
ทัง้ เรือ่ งผู้แต่งและปีทีแ่ ต่ง ไมป่ รากฏหลักการหรือข้อความระบุทช่ี ัดเจน แต่อาจอาศัยเนื้อเร่ืองท่ีระบุ
ถึงสงครามระหว่างไทยและเชียงใหม่มาเป็นจุดอ้างอิง ซึ่งเดิมนั้นเชื่อว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยสมเด็จพระ
นารายณม์ หาราช (พ.ศ. ๒๑๙๙-๒๒๓๑) แตไ่ มป่ รากฏหลกั ฐานชดั เจน และเป็นที่ถกเถยี งกันมาจวบจนปัจจุบัน
นักวิจารณ์วรรณคดีส่วนใหญ่ลงความเห็นว่า ลิลิตพระลอแต่งข้ึนในสมยั อยุธยาแน่ และเชื่อว่าเป็นไปได้มากท่ี
จะแต่งข้ึนกอ่ นสมัยสมเดจ็ พระนารายณ์ เน่ืองจากหนงั สอื สอนภาษาไทย “จนิ ดามณี” ทแ่ี ตง่ โดยพระโหราธิบดี
ในสมัยสมเดจ็ พระนารายณ์ ไดค้ ดั เอาโคลงลลิ ติ พระลอบทท่วี า่

เสียงฦๅเสียงเลา่ อา้ ง อนั ใด พี่เอย
เสียงยอ่ มยอยศใคร ทว่ั หลา้
สองเขอื พี่หลบั ใหล ลมื ตน่ื ฤๅพี่
สองพีค่ ิดเองอ้า อยา่ ได้ถามเผอื ฯ

มาใช้เป็นแบบโคลง ๔ เพราะเอกโทตรงตามตำราหมดทุกแห่ง นอกจากหนังสือจินดามณี ยังมีเค้า
เงื่อนอย่างอื่นเป็นที่สังเกต คือ หนังสือบทกลอนแต่งครั้งกรุงศรีอยุธยา (ว่าตามตัวอย่างที่ยังมีอยู่) ในช่วง
ตอนต้นนับแตร่ ัชกาลสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถมาชอบแตง่ ลิลิตกันเป็นพื้นมีลิลิตโองการแช่งนํ้าพระพิพัฒน
สัตยา ลิลิตเรื่องยวนพ่าย และลิลิตเรื่องพระลอเป็นตัวอย่างสำนวนทันเวลากันทั้ง ๓ เรื่อง แต่การกวีนิพนธ์
ตอนกลางและปลายกรุงศรีอยุธยา ไม่ปรากฏว่ามีการแต่งลิลิตเรื่องใดเลย ดังนั้นจึงมีหลักฐานน่าเชื่อว่า ลิลิต



พระลอ เป็นวรรณคดที ่ีแต่งใน กรงุ ศรอี ยุธยาตอนต้น ราวในระหวา่ ง พ.ศ. ๑๙๙๑ จนถงึ พ.ศ. ๒๐๒๖[1] แต่ยัง
มีบางท่านเสนอเวลาที่ใหม่กว่านั้น ว่าน่าจะแต่งขึ้นในสมัยต้นกรุงรัตนโกสินทร์ แต่ยังมีผู้คล้อยตามไม่มากนัก
เนื่องจากไมม่ หี ลกั ฐานสนับสนุน
นักวรรณคดมี กั จะยกโคลงทา้ ยบทมาเป็นหลักฐานพจิ ารณาสมัยที่แต่ง ดงั นี้

จบเสรจ็ มหาราชเจ้า นพิ นธ์

ยอยศพระลอคน หนงึ่ แท้

พ่เี ล้ยี งอาจเอาตน ตายก่อน พระนา

ในโลกนสี้ ุดแล้ เลิศล้ำคงุ สวรรค์ฯ

จบเสร็จเยาวราชเจา้ บรรจง

กลอนกลา่ วพระลอยง ยงิ่ ผู้

ใครฟงั ยอ่ มใหลหลง ฤๅอิ่ม ฟังนา

ดเิ รกแรกรักชู้ เหิ่มแทร้ กั จริงฯ

จากโคลงข้างบน มีผู้เสนอว่า “มหาราช” คือกษัตริย์ เป็นผู้แต่ง และ “เยาวราช” เป็นผู้เขียน
(บันทึก) และสันนิษฐานว่า ผู้แต่งน่าจะเป็น สมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๒ (พระเชษฐา) และผู้เขียน คือ สมเด็จ
พระบรมราชาธิราชที่ 4 (พระอาทิตยวงศ์) และคาดว่าน่าจะแต่งเมือ่ พ.ศ. ๒๐๓๔-๒๐๗๒[2]อย่างไรก็ตาม นัก
วรรณคดีบางท่าน เสนอว่า น่าจะอยู่ในสมัยสมเด็จพระไชยราชาธิราช (พ.ศ. ๒๐๗๗-๒๐๘๙) เนื่องจากเป็น
สมัยที่มีสงครามระหว่างไทยกับเชียงใหม่ และเป็นสมัยแรกท่ีมีการใช้ปืน (ปืนไฟ) ในการรบ[3]ภาษาสำนวนใน
ลลิ ิตพระลอ อา่ นเข้าใจได้งา่ ยกว่าวรรณกรรมเร่อื งอ่นื ๆ ในสมัยอยุธยา แตก่ ็ยงั มศี พั ท์ยาก และศัพทโ์ บราณอยู่
บา้ ง ด้วยเหตนุ ้ีจงึ เปน็ เหตุให้นกั วิจารณ์บางท่านเสนอวา่ ลิลิตพระลอแต่งในสมัยรัตนโกสินทร์

๓. บทชมความงามของพระลอ
ถ้าพูดถึง “ ความงาม ” แล้วเป็นเรื่องนามธรรม ไม่มีตัวตน เป็นสิ่งที่เราจับต้องไม่ได้สัมผัสได้

เพียงแคค่ วามรู้สึกเท่านนั้ ไมม่ กี ฏเกณฑต์ ายตัว ดังน้นั ความงามจึงเปน็ เรือ่ งเฉพาะของบคุ คลและการจะมองว่า
งามหรือไม่งามนัน้ ก็เกยี่ วข้องกับรสนยิ ม เพราะรสนยิ มถือเปน็ ส่งิ ทกี่ วตี อ้ งคำนงึ ถงึ



รสนิยมในเรื่องการชมความงามที่มีอยู่ในศิลปะวรรณคดีไทย ได้มีผู้แสดงทรรศนะไว้
ดงั นี้

ประสิทธ์ิ กาพย์กลอน ( ๒๕๑๘, หน้า๑๙๔ ) กล่าวว่า อันความงามที่จะกล่าวถึงนี้ถ้าจะให้ใกล้
กับตัวเราก็ต้องกล่าวถึงความงามของงมนุษย์ก่อน แต่ความงามอย่าง “มนุษย์ ” ไม่ใช่ความงามตาม
แบบอย่างศิลปะไทย เพราะศิลปะไทยไม่ถ่ายทอดเอาแบบอย่างตามธรรมชาติมาโดยตรงแต่กลับกลั่นกรอง
แก้ไขและประดิษฐ์ขึ้นใหม่ เช่นความงามที่จิตรกรได้วาดขึ้น ก็ตรงกับความงามที่กวีพรรณนา แต่บางทีกวีก็
พรรณนาอย่างกวา้ งขวางเสียจนกระท่ังวาดภาพออกมาไมไ่ ด้ เพราะเป็นนามธรรมมากกว่าเปน็ รูปธรรม บาง
ทีกวีก็พรรณนาไว้ราวกับภาพยนตร์ คือผ่านวูบเข้ามาแล้วคลี่คลายออกไปในทันทีทันใด ความงามอาจอยู่
ตอนที่กำลังเปลี่ยน ซึ่งจิตรกรเองก็หมดปัญญา แต่อย่างไรก็ตามไม่ใช่ว่ามนุษย์จะงามเลิศเลอไปยิ่งกว่าสัตว์
บางอย่าง เพราะปรากฏว่า เม่ือกวจี ะกลา่ วถงึ ความงามใหเ้ ป็นท่ซี าบซึ้งตรึงใจแล้ว กย็ ังเอาความงามของสัตว์
มาเปรียบเทยี บ[1]

จากการศึกษาบทชมความงามใน “ ลิลิตพระลอ” นั้นพบว่าได้รับอิทธิพลมาจากเรื่องไตรภูมิ
กถาเป็นส่วนใหญ่ซึ่งมีทั้งลักษณะของการนำไปเปรียบกับตัวละครในเรื่องไตรภูมิกถาบ้าง หรือมีลักษณะของ
การใช้ความเปรียบที่ปรากฏสว่ นเหมือนหรือคล้ายคลึงกันบ้าง ซึ่งการชมความงามในที่นี้มิได้กล่าวเฉพาะแต่
รูปรา่ งของตัวละครเทา่ นน้ั แต่ผ้เู ขียนหมายรวมถงึ องคป์ ระกอบความงามน้ันด้วย กลา่ วคอื ท่าทางงาม กิริยา
งามดัง จะอธิบายรายละเอยี ดตอ่ ไปนี้

ในการชมความงามของตัวละครเร่ือง ลิลติ พระลอ น้นั กวีมกั ยกคำมากล่าวเปรียบเทียบได้อย่าง
ชนิดที่เรียกว่า งามครอบจักวาล เลยทีเดียวอันเนื่องมาจากอิทธิพลเรื่องไตรภูมิกถาที่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ
จักรวาลวิทยาหรือโลกศาสตร์ ซึ่งกวีได้นำความงามมาเปรียบเทียบถึงพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่ในหมู่เทวดา และ
นางอปั สร (ประทับอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ) ความงามที่เป็นเลิศในสามโลก( สวรรค์ มนุษย์ และบาดาล
) พระวรกายอันงดงามดังชายและผูห้ ญงิ ในอุตรกุรุทวีป ( เป็นหนงึ่ ในทวีปทั้ง ๔ อย่ลู อ้ มรอบ ๔ ทศิ เป็น ที่อยู่
ของพวกมนุษย์ ) ความงามทเ่ี ปรียบเทียบกับพระอาทิตย์ และดวงจันทร์ ( ระบบสุรยิ จกั รวาล) ความ
งามที่เปรียบกับไกรสรและราชสีห์ ( เป็นสัตวใ์ นวรรณคดีทง่ี ามทง้ั รูปร่าง กริ ยิ าอาการ เสียง และมพี ละกำลัง
มาก ) จะยกตวั อย่างประกอบให้ปรากฏชดั ในแตล่ ะสว่ นดังนี้

พระอินทรผ์ เู้ ป็นใหญใ่ นหมเู่ ทวดา และนางอปั สร ( ประทบั อยใู่ นสวรรคช์ น้ั ดาวดงึ ส์ )

กล่าวถึงโฉมของพระลอที่งดงามเปรียบดังพระอินทร์เสด็จลงมาจากฟ้า เพื่อมาแสดงพระองค์

ในแผ่นดินนีใ้ หค้ นได้ชื่นชม ดงั ความว่า

รอยรปู อนิ ทร์หยาดฟา้ มาอ่าองค์ในหล้า

แหล่งให้คนชม แลฤๅ



เปรียบเทียบโฉมขบวนพระลอ ตอนออกชมจันทร์ว่า ควาญช้างเหมือนพระอินทร์ที่เสด็จลงมา

ประทบั ช้างทรงบนสวรรค์ พศิ ดูแล้วเหมือนลอยลมมาจากฟ้า ดงั ความวา่

สองขอยอยศไท้ มหิมา

ดูด่งั องค์อมรา สหู่ ล้า

พาหนุดจุ คเชนทรา จอมเทพ เปรยี บฤๅ

พลด่งั พลหยาดฟ้า แหลง่ หล้าสรรเสริญ

ในโคลงบทเดียวกันนี้นอกจากเปรียบพระลอ กับพระอินทร์แล้ว ยังมีการเปรียบเทียบความงาม

ของช้างทรงของพระลอวา่ เหมือนชา้ งทรงของพระอินทร์อีกดว้ ย

เปรียบเทียบโฉมอันงดงามของพระเพอ่ื นพระแพงวา่ งามราวกับนางอปั สรบรวิ ารของพระ

อนิ ทร์ ดงั ความวา่

โฉมสองเหมือนหยาดฟา้ ลงดิน

งามเง่ือนอัปสรอนิ ทร์ สู่หล้า

อย่าคดิ อย่าควรถวิล ถึงยาก แลนา

ชมยะแย้มท่วั หน้า หนอ่ เทา้ บุญมี

เปรียบเทียบการแตง่ กาย และกิริยาของพระเพอ่ื นพระแพง ขณะขึ้นช้างทรงวา่ งามดุจ

นางฟ้า ดังความวา่

คืนเข้าในปราสาท เสร็จสองราชเสด็จสรง

แล้วสองทรงพระปรดั ผดั พักตรด์ ุจดวงเดือน

เกล้าเกศเหมือนสาวสวรรค์ นงุ่ แพรพรรณลายเลศิ

พรายพริ้งเพรศิ ประไพ สไบสมบรู ณบ์ รรจง

ทรงเคร่ืองเสรจ็ ยรู ยาตร ลีลาศดุจอัปสร

ความงามท่เี ปน็ เลศิ ในสามโลก ( สวรรค์ มนษุ ย์ และบาดาล )

เปรียบเทียบความงามของพระลอน้ันว่า สามารถประกวดความงามชนะเลศิ ทง้ั สามโลกได้ ดงั

ความวา่

โฉมผจญสามแผ่นแพ้ งามเลิศงามล้วนแล้

รูปตอ้ งจติ ใจ บารนี

ลือขจรในแหลง่ หล้า ทุกทวั่ คนเทย่ี วคา้

เลา่ ลว้ นยอโฉม ท่านแล



ความงามทเ่ี ปรยี บเทียบกับพระอาทติ ย์ ดวงจนั ทร์ และดวงเดอื น( ระบบสรุ ิยจกั รวาล)

เปรียบเทียบโฉมของพระลอว่า โฉมงามราวพระอาทิตย์ ลอยเด่นอยู่บนฟา้ และโฉมงามราวดวง

จันทรล์ อยอยู่บนฟ้าทา่ มกลางหมู่ดาวรายล้อม ดังความว่า

พระองคโ์ อภาสเพยี้ ง ศศธิ ร

เสด็จดุจเดือนขจร แจ่มฟ้า

ดวงดาวดาษอัมพร เรียงเรยี บ

ดูดจุ พลเจา้ หล้า รอบล้อมเสด็จโดย

เปรยี บเทียบรอยย้ิมของพระลอว่า เวลายิ้มพระโอษฐ์งามราวเขียนยามยิม้ ก็งามช่ืนใจราวกับดวง

จนั ทร์มาลอยอย่ขู า้ งหนา้ ดังความว่า

พระโอษฐง์ ามยิ่งแต้ม ศศอิ ยูเ่ ยยี วยะแยม้

พระโอษฐโ์ อง้ ามตรู บารนี

ความงามท่ีเปรียบกับไกรสรและราชสหี ์ (เป็นสตั ว์ในวรรณคดีทีง่ ามทั้งรปู ร่าง กิรยิ าอาการ เสียง และมี

พละกำลงั มาก )

กล่าวเปรียบเทียบพระลอว่าอกงามดงั อกของไกรสร ดงั ความว่า

พิศดูคางสะสม พิศศอกกลมปานกลงึ

สองไหล่พึงใจกาม อกงามเง่ือนไกรสร

พระกรกลงวงคช นวิ้ สลวยชดเล็บทิศ

ประเสรฐิ สรรพสรรพางค์ แตบ่ าทางคส์ ุดเกลา้

พระเกศงามล้วนเท้า พระบาทไท้งามสม สรรพนา

กลา่ วเปรียบเทยี บลีลาการเสดจ็ ของพระลอจากที่ประทับเพ่ือหาพระเพื่อนพระแพงวา่ งามดุจ

ราชสีห์ออกจากถำ้ ดงั ความวา่

พระลอลีลาศคลอ้ ย ไคลคลา
งามดุจสหี ลีลา จากถำ้
สองนางอยู่คอยหา เหน็ ราชมานา
ลกุ แลน่ รับแลลำ้ หยาดฟา้ ลงดิน

กวีที่แต่งบทร้อยกรองชมความงามของตัวละคร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระลอ ที่เป็นตัวละครเอก
ของเรื่องนัน้ ปรากฏความงดงามด้วยความเปรียบตามอย่างอิทธพิ ลท่ีได้รบั จากเรือ่ งไตรภูมิกถาเห็นได้อย่างชดั

๑๐

เชน ดังนั้นการชมความงามนั้นจึงมีความวิจิตรเหนือมนุษยธรรมดา ประกอบกับมีคุณลักษณะปรากฏตาม
รสนิยมของศลิ ปะการชมความงามของตัวละครในวรรณคดีไทย กลา่ วคือ เปรยี บเทียบกบั อมนษุ ย์ และสตั วใ์ น
วรรณคดีด้วยเหตุนี้โฉมของพระลอนั้นจึงงดงามติดตรึงใจผู้อ่านอยู่ไม่รู้วาย แม้ในการละคร และเพลงก็รับ
อทิ ธพิ ลจากการชมความงามของพระลอ จึงกลา่ วไดว้ ่า “ พระลอ ” คือผคู้ รองความเป็นอมตะแห่งความงาม

๒. เปรยี บเทียบกับความงามในสมยั อยธุ ยา
รูปร่าง สาวชาวบา้ นในผู้หญิงอยธุ ยา รูปรา่ งตอ้ งทว้ มใหญ่ ทว้ มขนาดไหน กม็ คี ตวิ า่ “ชา้ งงามอยใู่ นป่า” หญิง
ชาวบ้านที่ต้องดูแลบ้านช่องและปกป้องตัวเอง แต่ไม่ใช่ว่าสาวอยุธยาจะสวยบึกบึนเสียทั้งหมด บรรดาสตรี
ไฮโซและเซเลบล้วนแต่เอวบางร่างน้อยทัง้ ส้ิน ขณะที่ผู้ชายอยุธยาไม่ได้ล่ำบกึ ใหญ่โตไปทุกคนเช่นกัน บุคคล
ชั้นนำโดยเฉพาะพระเจ้าแผน่ ดิน ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีพระวรกายใหญ่โต และนั่นก็ไม่ใช่ลักษณะที่สง่า
งามในสังคมอยธุ ยา ตามหลกั ฐานภาพวาดของชาวต่างชาตทิ เี่ ขา้ มาในแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราชน้ัน
ลักษณะที่ถือว่าสง่างามคือ พระวรกายสมส่วนไม่เล็กไม่ใหญ่ สรุปว่าชนชั้นนำทั้งชายหญิงที่ว่างามดั่งเทพ จึง
ไม่มีรปู ร่างใหญโ่ ต ทั้งขนบวัฒนธรรมในอดตี ร่างกายใหญ่โตเป็นร่างกายของอสรู

สีผิว แต่เดิมคนกรุงศรีผิวสีคล้ำเข้มนั้นถือว่าสวยว่าหล่อ ความนิยมนี้เป็นอิทธิพลที่ได้มาจากเขมร พระพุทธ
สำคัญในขณะนั้นอย่างหลวงพ่อแก่วัดธรรมิกราชก็ยังทำให้ผิวองค์พระสีดำเข้ม แต่เมื่อมีชาวตะวันตกเดิน
ทางเข้ามาในกรุงศรีอยธุ ยา คนอยุธยาก็ได้รับรู้ค่านิยมอ่ืนๆ เพิ่มเข้ามา เมื่อถึงคริสต์ศตวรรษที่ ๑๗ ความนิยม
ผิวขาวเปน็ ความงามในอดุ มคติก็แพรห่ ลาย แต่สผี ิวของชนช้ันทีแ่ สดงถงึ บุญญาธกิ ารยงั เป็นสเี หลอื งทอง

ฟัน ไม่ใช่แค่มีฟันเรียงเป็นระเบียบแคน่ ั้นพอ มนุษย์อยุธยายังต้องมีฟันสีดำด้วยจะจึงจัดว่า “ฟันสวย” สีของ
ฟันยังบอกถึงวัยวุฒิอีกด้วย ฟันยิ่งดำ ก็ยิ่งถือว่าเป็นผู้ใหญ่ สำหรับมนุนย์อยุธยาถ้าใครฟันขาว เป็นไปได้ ๒
อยา่ ง คอื หนึง่ เปน็ เด็ก หรอื เป็นผี

ผม การติดต่อค้าขายกับจีน ทำให้ได้รับคติเรื่องความงามจากจีนมาด้วย สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ “การไว้ผม
ยาว” ทั้งในหญิงและชาย หากเป็นผู้ชายผมที่ยาวจะม้วนขึ้นมัดไว้บนศีรษะ แต่เมื่ออารยธรรมอิสลามและ
คริสต์เข้ามา ก็เริ่มมีความนิยมผมสั้นเกิดขึ้น การไว้ผมยาวกลายเป็นสิ่งฟุ่มเฟื่อยและยุ่งยากในการดูแลรักษา
สำหรับคนทั่วไป คงเหลือแต่ชนชั้นนำที่ยังคงนิยมไว้ผมยาว ต่อมาผมยาวก็กลายเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่บอกความ
แตกต่างระหวา่ งไพร่กับเจ้า

๑๑

รอยสัก เป็นความนิยมเฉพาะผู้ชาย นอกจากการสักยันต์ลงเลขเพื่อความอยู่ยงคงกระพัน เพราะต้องป้องกัน
ภยั จากอาวธุ ตา่ งๆ ในการรบ หรอื โจรปลน้ ทั้งหลาย การสักเพอื่ แสดงถงึ สังกดั ของบุคคลนั้น ไมว่ า่ จะเป็นสังกัด
กรมกองทีท่ ำงานอย,ู่ สังกดั มูลนาย เพราะฉะน้นั ผวิ กายของชายชนชั้นนำส่วนใหญ่จึงไมม่ ีการสัก

อวัยวะเพศ ขนาดและรูปรา่ งของอวัยวะเพศชายเป็นความเชื่ออย่างหน่ึงในอุษาคเนย์ สำหรับมนุษย์อยุธยาใน
บันทึกของม้าฮวน-ราชทูตจีนสมัยราชวงศ์หยวน ที่เคยเดินทางเข้ามาสมัยอยุธยาตอนต้นกล่าวว่า ผู้ชายที่มี
อายุ ๒๐ ปี ขนึ้ ไปจะมีการผา่ ตดั และฝงั ดีบุก, เงนิ , มกุ , ทอง ฯลฯ (ตามสถานะทางสังคม) ลงในอวัยวะเพศของ
ตน เพอื่ กระต้นุ ใหเ้ กิดกจิ กรรมทางเพศมากขึ้น

หนา้ ตาของชาวพระนครศรอี ยธุ ยาสมยั ก่อนเป็นอยา่ งไร?

อธบิ ายยาก แตม่ ีข้อหนา้ สังเกตวา่ ควรคลา้ ยพระพักตร์พระพุทธเจ้ารปู แบบ “อ่ทู อง” คอื หน้าเหลี่ยม ริมฝีปาก
หนา เป็นต้น ประเด็นน้ีมีขอ้ ยนื ยนั อย่ใู นบันทึกของลาลูแบรบ์ อกวา่

“วงหน้าของชาวสยามทั้งชายและหญิง กระเดียดไปข้างรูปขนมเปียกปูน (หรือข้าวหลามตัด) มากกว่าที่จะ
เป็นรูปไข่ ใบหน้ากว้าง ผายไปทางเหนือโหนกแก้ม แล้วทันใดกถ็ ึงหน้าผากอันแคบ รวมเข้าเป็นรูปมนเหมือน
ปลายคาง อนึ่งนัยน์ตาซึ่งหางตาค่อนข้างจะยกสูงขึ้นไปข้างบนนั้นเล็ก และไม่สู้แจ่มใสไวแววนัก และตาขาว
ซ่ึงควรจะขาวน้นั กอ็ อกเหลอื ง ๆ

แก้มของพวกเขานั้นตอบ ค่าที่โหนกแก้มสูงเกินไปนั่นเอง ปากนั้นกว้าง ริมฝีปากซีด ๆ และฟันดำ ผิวนั้น
หยาบ สีน้ำตาลปนแดง”

ที่ลาลูแบร์บอกว่าชาวบ้านยุคอยุธยาทั้งผู้หญิงและผู้ชายฟันดำทั้งนั้น ข้อนี้เป็นรสนิยมของผู้คนยุคนั้นอย่าง
แทจ้ รงิ ว่าเปน็ สเน่ห์อย่างยิ่ง ดงั มกี าพย์โคลงนริ าศธารโสกของเจา้ ฟ้ากุ้ง ยกยอ่ งหญงิ งามต้องมีฟนั ดำอย่างสีนิล
ดงั น้ี

พิศฟันรันเรียงเรียบ เปน็ ระเบยี บเปรียบแสงนลิ
พาทีพ่ีได้ยิน ลิ้นบก่ ระด้างชา่ งเจรจา
เรยี มถวลิ
ชมทนั ตร์ ันเรยี บร้ิว ย่องย้อย
ระเบยี บเรยี บแสงนลิ

๑๒

พาทพี ่ีฟงั ยิน พจนาตถ์
ลน้ิ เล่หเ์ สนาะเพราะถ้วย กล่าวเกลี้ยงเสียงใสฯ

ทีว่ า่ ฟนั ดำอย่างสีนิลนีไ้ มใ่ ช่ยอ้ มสีดำ แตเ่ พราะกนิ หมากกนิ พลูเป็นประจำ นยิ มเคย้ี วหมากพลกู ันตั้งแต่
รุ่นสาวรุ่นหนุ่มจนถึงแก่เฒ่า ประเพณีเคี้ยวหมากเคี้ยวพลูจนฟันดำเป็นวิถีชีวิตดั้งเดิมมาแต่ยุคดึกดำบรรพ์
ทีเดียว มีเอกสารจีนโบราณบันทกึ ว่าราวสองพันปมี าแล้ว กลุ่มชนพวกหนึ่งในภูมิภาคอุษาคเนย์นิยมให้ฟนั ดำ
ชาวอยธุ ยายกยอ่ งคนมใี บหใู หญ่ด้วยเช่ือวา่ อายยุ ืน ลาลแู บร์รู้สกึ ประหลาดทช่ี าวสยามในอยุธยามีใบหูใหญ่ จึง
เขยี นบนั ทึกวา่

“ชาวสยามนัน้ มีจมูกส้นั และปลายมน และใบหนู น้ั ใหญก่ วา่ ใบหูของพวกเรา คนมีใบหูใหญ่มากเทา่ ไร ก็ยิ่งเป็น
ที่ยกย่องกันมากขึ้นเท่านั้น ด้วยว่าเป็นรสนิยมของชาวต่างชาติบ้างบูรพทิศ สังเกตได้จากตุ๊กตากระเบื้องหรือ
วัสดุอย่างอื่นที่ได้มาจากภูมิภาคนั้นเถิด แต่การนิยมมีใบหูใหญ่นี้ยังมีทรรศนะแตกต่างกันอยู่ในหมู่ชาว
ตะวันออก ลางพวกก็นิยมดึงติ่งหูให้ยืดยาวลงมาโดยมิได้เจาะติ่งหูด้วยหมุดให้กว้าง ๆ ขึ้น โดยเพิ่มขนาดให้
ใหญ่ขึ้นไปทีละน้อย ในประเทศลาวนั้นนิยมเบิกหูกันให้กว้างจนแทบว่าจะเอากำปั้น (poing ) ยัดเข้าไปได้
และติ่งหูนั้นย้อยยืดลงมาจรดบ่า ชาวสยามมีใบหูใหญ่กว่าของพวกเราเล็กน้อย แต่ก็เป็นไปโดยธรรมชาติ หา
ไดม้ กี ารดดั แปลงไม่”

๑๓

๓. การจำลองหนา้ ตาโดยใชป้ ัญญาประดษิ ฐ์
การจำลองหนา้ ตาผ่านปัญญาประดษิ ฐ์ผ่าน www.Artbreeder.com กำหนดหวั หลักใหป้ ระ
ปัญญาประดิษฐ์ ได้แก่ ชาวเอเชีย , ผมยาว , ด้ังโดง่ , หน้าผากกว้าง , ตายกสูง , ริมฝปี ากซีด ,ปากกวา้ ง ,
ผิวคลำ้ หรือเหลือง ได้ผลลัพธด์ ังนี้

๑๔

บทที่ ๓
การดำเนินการโครงงาน

การทำโครงงานภาษาไทยเรอ่ื ง ความงดงามของพระลอและมาตรฐานความงามในสมยั อยุธยา มีวธิ ีการ
ศกึ ษาดงั นี้

๑. วธิ ีการดำเนินงาน
๑.๑ กำหนดหวั เรอ่ื งท่ีจะศึกษา

เรอื่ ง ความงดงามของพระลอและมาตรฐานความงามในสมัยอยุธยา
๑.๒ การรวบรวมขอ้ มูล

รวบรวมข้อมูล ๒ วธิ ีคอื การเก็บรวบรวมข้อมูลจากเอกสารกบั หนังสอื เรียน และ ข้อมูลจากเวบ็ ไซต์บน
อินเตอรเ์ นต็
๒. เครือ่ งมอื ที่ใชใ้ นการทำโครงงาน

๑ สมดุ บันทกึ
๒ ปากกา
๓ หนังสือเรยี น ม.๔
๔ คอมพวิ เตอร์ / อนิ เตอร์เนต็
๓. การเกบ็ รวบรวมข้อมูล
๑ หนังสือเรียน ม.๔
๒ รวบรวมข้อมลู จากเอกสาร/อนิ เตอร์เนต็
๔. การวิเคราะห์ขอ้ มลู
เชื่อมโยงข้อมลู จากหลกั ฐานตา่ ง ๆ ให้สัมพันธ์กัน แล้วสรุปออกมาเป็นรปู แบบการเปรยี บเทียบ
๕. แผนการปฏิบัติโครงงาน
ข้นั ตอนการวางแผนเตรียมการ
-เลอื กหัวเร่อื งทจี่ ะศกึ ษา เสนอแนวคดิ ของสมาชกิ กล่มุ วางแผนการทำงาน และมอบหมายงานให้สมาชิก

ข้นั ตอน/กจิ กรรม ระยะเวลา ผู้รบั ผดิ ชอบ จำนวน
เงิน

ขัน้ ตอนการวางแผนเตรยี มการ ๘ - ๙ พ.ย. นายวิชิตพงษ์ กนั ยามา
๒๕๖๕ นางสาวฐติ ิรัตน์ ยาประโคน

๑๕

-เลือกหัวเร่ืองที่จะศึกษา เสนอแนวคิดของ
สมาชิกกลุ่ม วางแผนการทำงาน และ
มอบหมายงานใหส้ มาชิก

ขน้ั ดำเนินการ ๑๐ - ๑๓ นายอนนั ตญ โสดาจนั ทร์
-รวบรวมข้อมูลที่เก่ียวข้องกับหัวเร่ืองที่จะ พ.ย. ๒๕๖๕ นายวิชติ พงษ์ กันยามา
ศกึ ษา นางสาวฐติ ิรตั น์ ยามประโคน
-ประเมนิ คุณคา่ ของหลกั ฐานท่คี ้นคว้ามาได้ นางสาววรณัฎฐ์ ถึงประชา
ว่าเปน็ หลักฐานท่แี ท้จรงิ เพยี งใด นางสาวกรกญั ญา เหลาผา
-ตรวจสอบข้อมลู วา่ มีความสมบูรณ์เพียงใด
มีจุดมุ่งหมายเบ้ืองตน้ อย่างไร นายอนันตญ โสดาจนั ทร์
นายวชิ ติ พงษ์ กนั ยามา
ขน้ั สรปุ และประเมินผล ๑๔ พ.ย -๙ นางสาวฐิตริ ตั น์ ยามประโคน
นางสาววรณัฎฐ์ ถึงประชา
-เรยี บเรียงหรือการนำเสนอนำขอ้ มูลทงั้ หมด ธ.ค๒๕๖๕ นางสาวกรกัญญา เหลาผา

มารวบรวมและเรยี บเรียง นำไปจัดทำให้

เปน็ รปู แบบ ebook และนำเสนอใหต้ รงกับ

ประเดน็ อธิบายอย่างมรี ะบบและมคี วาม

สอดคล้องตอ่ เน่ือง เปน็ เหตเุ ปน็ ผล มีขอ้

โตแ้ ย้งหรอื สนบั สนนุ ผลการศึกษา โดย

ข้อมูลตอ้ งมีนำ้ หนกั และถูกต้อง

๑๖

บทท่ี ๔
ผลการศึกษาและอภิปรายผลการศกึ ษา

การจดั ทำหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e – book) ส่งเสริมการอา่ นวรรณคดไี ทย ชอ่ื หนงั สอื ความงดงาม

ของพระลอและมาตรฐานความงามในสมยั อยุธยา โดยมีวัตถปุ ระสงค์จดั ทำหนังสืออเิ ล็กทรอนกิ ส์

(e – book) ประกอบการเรยี นเรือ่ ง วรรณคดีสมยั อยธุ ยาตอนต้น และเชญิ ชวนผู้สนใจอา่ น อยา่ งน้อย ๒๐

คน ผอู้ ่านมีความพึงพอใจต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (e – book) ที่จดั ทำข้ืน อยูใ่ นระดบั ดี – ดมี าก

สรปุ ผลการจดั ทำได้ ดงั น้ี

๑. หนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์ (e – book) เรอ่ื งความงดงามของพระลอและมาตรฐานความงามในสมยั

อยธุ ยา มีเน้ือหาจำนวน ๑๗ หนา้ มีภาพประกอบสวยงาม

๒. นำเสนอและเชญิ ชวนผู้สนใจอา่ น มีผู้อา่ นจำนวน ๒๐ คน

๓. ผู้อ่านมีความพงึ พอใจ ดังน้ี

ระดับปรับปรุง จำนวน ๐ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ ๐

ระดับพอใช้ จำนวน ๓ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๑๕

ระดับดี จำนวน ๘ คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ ๔๐

ระดบั ดีมาก จำนวน ๙ คน คดิ เปน็ ร้อยละ ๔๕

๑๗

บทที่ ๕
สรุปผลการศกึ ษา

โครงงานการจัดทำหนังสอื อิเลก็ ทรอนิกส์ ( e–book ) สง่ เสริมการอา่ นวรรณคดไี ทย เร่อื งความงดงาม
ของพระลอและมาตรฐานความงามในสมัยอยุธยา และนำเสนอ เชิญชวนผูอ้ ่าน มีผู้สนใจรว่ มอ่านหนังสือ
จำนวน ๒๐ คน โดยผ้อู ่านมคี วามพงึ พอใจต่อหนงั สอื ที่จัดทำอยู่ในระดบั ดี

ประโยชน์ทีไ่ ด้รับ

๑. ได้หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ ( e–book ) สง่ เสรมิ การอา่ นวรรณคดไี ทย ประกอบการเรยี นร้เู รอื่ ง
วรรณคดสี มยั อยุธยาตอนต้น

๒. ไดฝ้ ึกการทำงานเป็นหมู่คณะ
๑. ฝึกทักษะการใชภ้ าษาไทย
๒. ฝกึ ทักษะการใช้เทคโนโลยี
๓. ฝกึ ความคิดริเรมิ่ สรา้ งสรรค์และจินตนาการ

ข้อเสนอแนะ

ควรศึกษาเรอื่ ง เนือ้ หา ทีไ่ ดร้ ับอยา่ งละเอียด มีหนงั สือหรือเว็บไซต์ทใี่ หศ้ ึกษาเนอ้ื หา เปรียบเทียบ จาก
หลายสำนัก การวางแผนการทำงาน ควรวางแผนการทำงานไวอ้ ยา่ งละเอียด กำหนดเวลาในการทำงานเพ่อื ให้
ทำให้สำเร็จกอ่ นเวลาท่กี ำหนด ตรวจสอบดูผลงาน หากมีข้อผดิ พลาดควรแกไ้ ขทันที

๑๘

บรรณานุกรม

มหาวิทยาลัยเชยี งใหม่. สมดุ ไทยดำ เสน้ หรดาล. อักษรไทย. ภาษาไทย. เอกสารเลขท่ี 17078 (2)
“พระลอลิลติ ”. ศนู ย์สนเทศภาคเหนอื สำนักหอสมดุ

มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. สมุดไทยดำ เสน้ หรดาล. อกั ษรไทย. ภาษาไทย. เอกสารเลขท่ี S. 27 (1)
“ลลิ ติ พระลอ เล่ม 4”. หอสมุดสำนักฝร่งั เศสแหง่ ปลายบูรพทศิ (École française d'Extrême-Orient) กรงุ
ปารสี ประเทศฝรง่ั เศส. สมดุ ไทย ดำ เส้นหรดาล. อกั ษรไทย. ภาษาไทย.

สรณา.(2559).ลิลติ พระลอ.สบื คน้ 15 พฤศจิกายน 2565.จาก
https://www.museumthailand.com/en/3538/storytelling

กำพล จำปาพันธ.ุ์ มนุษยอ์ ยุธยา ประวตั ศิ าสตร์จากขา้ วปลา หยุกยา ตำรา SEX, สำนักพิมพ์มติชน
ตุลาคม 2563.สือบคน้ 18 พฤศจิกายน 2565.จาก https://www.matichonbook.com/p/ sex.html

มนุษย์ (สมยั ) อยุธยา ต้องแบบไหนถงึ หลอ่ สวย ดดู ี มคี ลาส.สบื ค้นเมื่อ 20 พฤศจกิ ายร 2565.จาก
https://www.silpa-mag.com/culture/article_56187

๑๙

ภาคผนวก

• ภาพการจัดทำหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ( e–book ) สง่ เสรมิ การอ่านวรรณคดไี ทย
• ผลงานหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ( e–book ) สง่ เสรมิ การอ่านวรรณคดีไทย
• แบบประเมินหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ( e–book ) ส่งเสรมิ การอ่านวรรณคดีไทย

๒๐

แบบประเมินหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ ( e–book ) ส่งเสริมการอา่ นวรรณคดีไทย

ชอ่ื หนังสอื ความงดงามของพระลอและมาตรฐานความงามในสมยั อยธุ ยา

คำชแี้ จง การประเมินมี ๕ ด้าน ดงั นี้

๑. ดา้ นรูปเล่ม รูปเล่มสวงยงาม ดงึ ดดู ใจ จำนวนหนา้ เหมาะสม ส่วนประกอบของหนังสือครบถ้วน

๒. ดา้ นการจดั ภาพ ภาพประกอบเหมาะสม สวยงาม สอดคลอ้ งกับเร่อื ง ช่วยให้เขา้ เรอ่ื ง จดั วางภาพและ

ข้อความเหมาะสม

๓. ดา้ นการดำเนนิ เร่ือง ตวั ละครเหมาะสมกับเรอ่ื ง ดำเนินเร่ืองชวนตดิ ตามโดยตลอด คำเนินเรื่องต่อเนือ่ งเหมาะสม

๔. ด้านเน้อื หา เหมาะกบั วยั นักเรียนชัน้ มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย มีความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ และไดร้ บั

ความรเู้ ร่ืองวรรณคดไี ทยท่ไี ด้รบั มอบหมาย

๕. ด้านภาษา ขนาดตัวอักษรเหมาะสมกบั วัยคนอา่ น ชดั เจน อ่านงา่ ย ภาษาสุภาพเหมาะสมกบั วยั

๖. ชอ่ งทางการเขา้ อา่ น ช้แี จงช่องทางการเข้าอ่าน ผ้อู ่านสามารถเข้าอา่ นไดง้ า่ ย สะดวก รวดเร็ว

ระดับ ดีมาก ให้ ๕ คะแนน

ระดบั ดี ให้ ๔ คะแนน

ระดับ ปานกลาง ให้ ๓ คะแนน

ระดบั พอใช้ ให้ ๒ คะแนน

ระดับ ปรบั ปรงุ ให้ ๑ คะแนน

สรุปผลตามฐานนิยม คือ หาตัวท่ีซ้ำกันมากท่สี ดุ ว่าส่วนใหญ่อยใู่ นระดับใด

ที่ ช่ือ สกุล ชน้ั ระดบั ความคิดเห็น สรปุ ผล
๑ น.ส.ธนั ยพร ศรไชย
รูปเล่ม การจัด การ ดา้ น ด้าน ชอ่ ง อยูใ่ น

(๕) ภาพ ดำเนิน เน้ือหา ภาษา ทางการ ระดับ

(๕) เร่อื ง (๕) (๕) เขา้ อ่าน

(๕) (๕)

๔/๑๗ ๔ ๕ ๔๕๓ ๕ ๔.๓

๒ นางสาวฐิตาภรณ์ โขงเขตต์ ๔/๑๗ ๔ ๔ ๕๕๔ ๕ ๔.๘

ใ นางสาวกชพร สิมารกั ษ์ ๔/๑๗ ๕ ๓ ๕๔๕ ๔ ๔.๓

๔ นางสาวศรัณยาภัทร์ เถาว์ ๔/๑๗ ๓ ๔ ๕๓๕ ๔๔

โท

๒๑

๕ นางสาวณัฐชา สามทอง ๔/๙ ๕ ๔ ๔๔๕ ๕ ๔.๕
๖ นางสาวฐิตริ ตั น์ โมฬีชาติ ๔/๙ ๕ ๔ ๕๕๕ ๕ ๔.๘
๗ นางสาวลดาดล อินถาเครือ ๔/๘ ๔ ๕ ๕๔๔ ๕ ๔.๕
๘ นายสกุ ฤษฎิ์ เพชราภา ๔/๘ ๕ ๕ ๔๔๓ ๔ ๔.๒
๙ นายภมู ิพฒั น์ พิมพ์บุญมา ๔/๘ ๔ ๔ ๓๕๔ ๕ ๔.๒
๑๐ นางสาวเบญญาภา ลำงาม ๔/๘ ๔ ๔ ๕๓๔ ๔ ๔.๒
๑๑ นายวีรภทั ร จนั ทพันธ์ ๔/๘ ๓ ๔ ๕๕๕ ๕ ๔.๕
๑๒ นางสาววีร์สดุ า สัตยซ์ ่ือ ๔/๘ ๕ ๔ ๔๕๓ ๕ ๔.๓
๑๓ นายธีรพนธ์ ลานนท์ ๔/๑๑ ๕ ๔ ๕๕๔ ๔ ๔.๕
๑๔ นางสาวธิตญาภา มง่ิ ขวัญ ๔/๑๖ ๔ ๕ ๕๔๕ ๕ ๔.๖
๑๕ นางสาวพิสนิ ี พรมวงศ์ ๔/๓ ๔ ๔ ๕๔๕ ๔ ๔.๓
๑๖ นางสาวภคมน สนณกลุ ๔/๑๓ ๕ ๕ ๔๕๕ ๔ ๔.๖
๑๗ นางสาวญาณิศา พรสวุ รรณ ๔/๑๒ ๓ ๔ ๔๓๔ ๔ ๔.๖
๑๘ นางสาวอัญชญั สุวรรณ ๔/๓ ๕ ๔ ๕๕๔ ๕ ๔.๖
๑๙ นางสาวพทุ ธรักษ์ สลี ามน ๔/๗ ๕ ๕ ๔๕๔ ๓ ๔.๓
๒๐ นางสาวพชิ ญ์สนิ ี สีหารัตน ๔/๑๒ ๔ ๔ ๓๔๕ ๔๔


Click to View FlipBook Version