คู่มอื นกั ศึกษา
ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2565
กศน.ตาบลเขาชะงุ้ม
โครงสรา้ งหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551
***หมายเหตุ*** วิชาเลือกแตล่ ะระดับสถานศกึ ษาตอ้ งจดั ใหผ้ เู้ รียน เรยี นรจู้ ากการทาโครงงานจานวนอยา่ งน้อย 3 หน่วยกิต
การลงทะเบียนรายวชิ า
การลงทะเบยี นเรียนตามโครงสรา้ งหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั การศึกษาข้ันพ้ืนฐานพุทธศักราช
2551 ให้ลงทะเบยี นเรยี นเป็นรายวชิ าและตามจานวนหน่วยกติ ในแตล่ ะภาคเรียนดงั นี้
1. ระดับประถมศกึ ษา ลงทะเบียนเรียนท้ังหมด ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต ใหล้ งทะเบยี นเรียนได้ภาค
เรยี นละไมเ่ กนิ 14 หน่วยกติ
2. ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น ลงทะเบยี นเรยี นทง้ั หมด ไม่นอ้ ยกว่า 56 หน่วยกิต ให้ลงทะเบียนเรยี นได้
ภาคเรียนละไม่เกิน 16 หนว่ ยกิต
3. ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย ลงทะเบียนเรยี นทั้งหมด ไม่น้อยกวา่ 76 หนว่ ยกิต ใหล้ งทะเบยี นเรยี น
ไดภ้ าคเรยี นละไมเ่ กิน 20 หน่วยกติ
วธิ กี ารจัดการเรยี นรู้
วิธกี ารเรียนรู้ตามหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 จะมวี ธิ ี
เดียว คอื “วิธีเรียน กศน.” ท่สี ามารถจดั การเรยี นรู้ได้หลายรูปแบบ เชน่
- การเรียนรแู้ บบพบกลุม่
- การเรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
- การเรยี นรูแ้ บบทางไกล
- การเรยี นรู้แบบชนั้ เรยี น
- การเรยี นรู้แบบอื่นๆ
ซ่ึงในแต่ละรายวชิ า ผู้เรียนสามารถเลอื กเรียนรปู แบบใดรูปแบบหน่งึ หรือหลายรูปแบบกไ็ ด้ แต่ทง้ั นต้ี ้องข้ึนอยู่
กับความพร้อมของสถานศกึ ษาด้วย
การจัดกระบวนการเรียนรู้
1. การจดั กระบวนการเรียนรู้ โดยมีคร/ู ผูร้ ู้/ ผเู้ ชยี่ วชาญในเนื้อหานั้น ๆ เปน็ ผู้ถ่ายทอดเน้ือหา ในการ
ถา่ ยทอดเน้อื หาของครูต้องเปิดโอกาสให้ผู้เรียนซักถาม แสดงความคิดเห็นได้ โดยเพ่ิมการเขียนถาม/ตอบ หลงั
การบรรยาย รวมทง้ั มีการจดั โอกาสให้ฝึกในห้องปฏบิ ตั กิ าร และจัดเวลาการให้คาปรกึ ษา
2. การจัดกระบวนการปฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งผ้เู รยี นกับครู และผเู้ รยี นกับผู้เรยี น โดยกระตนุ้ ใหผ้ ู้เรยี นตอบ
พรอ้ มกบั ใชก้ จิ กรรมลกั ษณะทเี่ น้นการสือ่ สาร เช่น กิจกรรมคู่ กิจกรรมกล่มุ และการจัดท่นี ่งั ในชน้ั เรียนต้อง
เหมาะสม เออื้ ต่อการดาเนนิ กิจกรรม
3. การจดั ให้มกี ารปรับบทบาทผ้เู รยี น ใชก้ ารแบ่งผู้เรยี นเปน็ กลมุ่ เล็ก ๆ โดยทีแ่ ต่ละกลมุ่ จะไดร้ ับ
มอบหมายงานให้ปฏบิ ตั ิ ในการจัดการเรียนการสอนครูจะสอดแทรกกิจกรรม 3 ลกั ษณะ คอื กจิ กรรมทเี่ นน้
การให้ผ้เู รยี นได้รับขอ้ มูล/ขอ้ เทจ็ จริง กจิ กรรมทีใ่ หผ้ ู้เรยี นเรียนร้ดู ้วยการไดล้ งมือปฏิบตั ิ/สังเกต และกจิ กรรม
การสะท้อนการเรียนรรู้ ่วมกนั ระหวา่ งผ้เู รยี นและครู
4. การติดตามและชว่ ยเหลือผ้เู รยี น โดยอาจใช้กระบวนการตดิ ตามช่วยเหลอื โดยเพอ่ื น/กลุ่มเพอ่ื น จัด
ให้มีการปรึกษาหารือกันระหวา่ งครูกับผูเ้ รียน ใชผ้ ู้ชว่ ยสอน ใชร้ ะบบหวั หนา้ กล่มุ ผ้เู รยี น ใชแ้ ฟม้ สะสมผลงาน
ใช้การเรียนแบบทีม ใช้ e-mail, discussion boards และ internet เปน็ ตน้
การเรียนรู้แบบตา่ ง ๆ ดงั กลา่ วขา้ งต้น สถานศกึ ษาและผู้เรยี นจะร่วมกันกาหนด โดยในแต่ละรายวชิ า
จะเลอื กการเรยี นรู้แบบใดแบบหนึง่ หรอื หลายแบบก็ได้ ขึน้ อยู่กบั ความยากง่ายของเนื้อหาในรายวิชานนั้ ๆ โดย
ให้สอดคล้องกับวถิ ชี วี ติ และการทางานของผูเ้ รียน รวมท้งั ขึ้นอยูก่ ับความพร้อมของสถานศกึ ษาดว้ ย และ
สถานศกึ ษาสามารถจดั ใหม้ ีการสอนเสรมิ ได้ในทุกรูปแบบการเรยี นรู้ เพิม่ เตมิ เต็มความรู้ใหบ้ รรลุมาตรฐานการ
เรียนรู้
สอ่ื
3.1 สอ่ื วชิ าเลือกบงั คับกลุ่มพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั จัดทาต้นฉบับ
3.2 สื่อรายวิชาเลือกเสรี สถานศกึ ษาจดั ทาหลักสตู รรายวิชาเลอื กเสรี แล้วเสนอใหค้ ณะกรรมการของ
สานกั งาน กศน.จังหวดั พิจารณา ตรวจสอบสอดคล้องของรายวชิ ากบั โปรแกรมการเรียน สอดคล้องกับ
มาตรฐานของกลุ่มสาระในแต่ละระดับการศึกษาจากนนั้ สานักงานกศน.จงึ ขอรหัสรายวชิ าเลือกจากระบบโปรแกรมรายวชิ า
เลอื ก ทง้ั น้ี
ไม่อนุญาตให้พัฒนารายวิชาเลือกทเ่ี รียนไดท้ ุกระดบั การศึกษา
3.3 รูปแบบของสื่อ มี 2 รปู แบบ คอื แบบชดุ วชิ าและแบบเรียนปลายเปิดโดยใหพ้ ิจารณา
ตามธรรมชาติของวิชา
3.4 การจดั ทาสื่อเสรมิ การเรยี นรู้ กลมุ่ พัฒนาการศกึ ษานอระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และ
ศูนยเ์ ทคโนโลยที างการศึกษา ร่วมกันผลติ สอื่ เสริมการเรยี นรู้ในเน้อื หาท่ียาก เพ่ือเสริมความรคู้ วามเข้าใจใน
การเรียนรายวิชาตา่ งๆ
การเทยี บโอนผลการเรยี น
การเทียบโอนผลการเรยี นเป็นเคร่อื งมอื ในการเช่อื มโยงผลการเรียนรู้ทหี่ น่วยงานต่าง ๆ รว่ มจัดการ
ศึกษาและเชอื่ มโยงผลการเรยี นรู้จากวิธกี ารเรยี น ทีห่ ลากหลาย รวมทง้ั จากการประกอบอาชพี และ
ประสบการณ์ต่างๆและเป็นกลไกสาคัญในการสง่ เสรมิ ใหบ้ ุคคลมกี ารเรยี นรอู้ ย่างตอ่ เน่ืองตลอดชวี ิตเมื่อบุคคล
ตระหนกั และรบั รวู้ ่าสิ่งที่ไดเ้ รียนรูม้ าน้นั สามารถนามาเพิ่มคุณค่าโดยการเทยี บโอนเป็นผลการเรยี น นบั เป็น
ผลพลอยไดจ้ ากการเรียนรู้ นอกเหนือจากการนาส่ิงที่ได้เรียนรู้นั้นไปแก้ไขปัญหาในการประกอบ
อาชพี พัฒนาการทางานให้ดีขึน้ หรือแม้กระทั่งการนาสิ่งที่ไดเ้ รียนรนู้ ั้นไปใชใ้ นการดาเนินชีวติ ประจาวัน
หลกั การ
การเทยี บโอนผลการเรยี นมหี ลกั การ ดังน้ี
1. หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศักราช 2551 เปน็ หลกั สูตรที่
เปิดโอกาสให้ผูเ้ รียนสามารถเทียบโอนผลการเรียนได้
2. การเทยี บโอนผลการเรยี นตอ้ งสามารถเทยี บโอนผลการเรียนทีผ่ ู้เรยี นสะสมไว้ ทัง้ จากการศึกษา
ในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย การศกึ ษาอาชีพหรือประสบการณ์การทางาน
3. เป็นการเชือ่ มโยงการศึกษาทั้งสามรูปแบบ เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้เกดิ การศึกษาตลอดชีวิต
4. เปน็ การกระจายอานาจให้สถานศกึ ษาในการเทยี บโอนผลการเรยี น โดยสถานศึกษาจะต้องจดั ให้
บคุ ลากรหรือเจา้ หน้าท่ี ทาหน้าทีใ่ ห้คาแนะนาและดาเนินการให้มีการเทยี บโอนผลการเรียน
5. วธิ ีการและหลกั เกณฑ์การเทยี บโอนผลการเรียนต้องได้มาตรฐานชดั เจนสมเหตสุ มผลเชื่อถอื ได้
โปรง่ ใสและยุตธิ รรม
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพอื่ เปดิ โอกาสให้ผ้ทู ่อี อกจากการศึกษาในระบบ หรอื นอกระบบรวมท้ังผู้ทเี่ รียนรู้ตามอัธยาศยั
สามารถเทียบโอนผลการเรยี นรเู้ ขา้ สู่หลกั สตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน
พุทธศกั ราช 2551
2. เพื่อเปดิ โอกาสใหม้ ีการศึกษาอยา่ งต่อเนื่อง ท้งั ในระดับการศึกษาเดยี วกันหรือระดบั ท่ี
สงู ขึ้น
ขอบข่ายการเทยี บโอนผลการเรยี น
แนวทางการเทยี บโอนผลการเรยี น ตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขนั้
พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 จดั ทาขึ้นเปน็ แนวทางใหส้ ถานศกึ ษาใช้ในการเทียบโอนผลการเรียน ระหว่าง
รปู แบบการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศยั ระหวา่ งหลกั สูตรของหนว่ ยงาน
ตา่ ง ๆ เข้าสู่ หลักสตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศักราช 2551 มขี อบข่าย
ดงั น้ี
1. การเทียบโอนผลการเรยี นจากหลักสูตรท่ีจัดการศกึ ษาเป็นระดับประถม มัธยมศึกษาตอนตน้ และ
ตอนปลายหรือเทียบเทา่
เปน็ การเทยี บโอนผลการเรยี นจากหลักฐานการศกึ ษา ท่ีออกให้โดยสถานศึกษาของรัฐและ
เอกชน ที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรที่กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้ หรอื ให้การรับรอง และจดั ระดบั
การศึกษาเป็นระดบั ประถมศึกษา มธั ยมศึกษาตอนต้น และมธั ยมศึกษาตอนปลาย หรือเทยี บเทา่ ตาม
หลกั สูตร ทั้งที่จดั ในรูปแบบการศึกษาในระบบและการศึกษานอกระบบ
2. การเทยี บโอนผลการเรียนจากการศกึ ษาต่อเนอื่ ง
เป็นการเทียบโอนผลการเรียนจากการเรียนในหลกั สูตรระยะสน้ั หรือหลักสูตรฝึกอบรมท่จี ดั ขึ้น
ตามความต้องการของกลุม่ เป้าหมายตา่ ง ๆ
3. การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์กลมุ่ เป้าหมายเฉพาะ
เปน็ การเทียบโอนความรแู้ ละประสบการณจ์ ากการเป็นทหารกองประจาการ อาสาสมคั ร
สาธารณสขุ ผนู้ าท้องถิ่น และแรงงานไทยท่ผี ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมอื แรงงานแห่งชาตแิ ละกลุ่มเปา้ หมาย
อืน่ ๆ ทไี่ ด้ทาข้อตกลงรว่ มกนั
4. การเทยี บโอนผลการเรยี นจากหลกั สูตรต่างประเทศ
เปน็ การเทียบโอนผลการเรียนจากการศกึ ษาหลกั สูตรต่างประเทศ ทมี่ หี น่วยงานทเี่ ก่ยี วข้องของ
ประเทศนนั้ ๆ ให้การรบั รองมาตรฐานการจดั การศึกษา หรือผลการเรยี นจากหลักสูตรของโรงเรยี นนานาชาติ
ในประเทศไทยทกี่ ระทรวงศึกษาธกิ ารประกาศเทยี บความรู้
5. การเทียบโอนผลการเรียนจากการประเมนิ ความรแู้ ละประสบการณ์
เปน็ การเทียบโอนผลการเรียน โดยใช้วิธกี ารประเมินความรแู้ ละประสบการณ์ของผ้เู รียน ซึง่ มีการ
เรียนรูจ้ ากการศึกษาตามอัธยาศยั การประกอบอาชีพ การทางาน โดยอาจมหี ลักฐานเชิงประจกั ษจ์ ากการ
ทางาน หลกั ฐานอนื่ ๆทเ่ี ก่ียวขอ้ งหรือไมม่ ีหลกั ฐานก็ได้
คุณสมบตั ิทั่วไปของผ้ขู อเทียบโอนผลการเรียน
1. ต้องไม่เปน็ นกั เรียนหรอื นักศึกษา ในระดบั ประถมศกึ ษาและระดับมัธยมศึกษาหรือระดับท่ี
เทียบเทา่ ของสถานศึกษาอ่ืน
2. ตอ้ งขน้ึ ทะเบียนเปน็ นกั ศกึ ษาตามหลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษาขัน้ พื้นฐาน
พุทธศกั ราช 2551
วธิ ีการเทยี บโอนผลการเรยี น
การเทียบโอนผลการเรยี นมี 2 วิธี คือ
วิธที ี่ 1 การพจิ ารณาจากหลักฐานการศึกษา
1.1 การพิจารณาหลักฐานการศกึ ษาจากหลักสูตรท่ีจัดการศกึ ษาเป็นระดับ เปน็ การตรวจสอบ
หลกั สตู รผลการเรยี นในรายละเอียดเกย่ี วกบั ระดับหรือชน้ั ปีทเ่ี รยี นจบมา รายวชิ าท่ีเรยี น ผลการเรยี น ความ
ถกู ต้องของหลักฐาน โดยหลักฐานการศึกษาท่นี ามาเทยี บโอนผลการเรียนตอ้ งเป็นหลักฐานทอ่ี อกโดย
สถานศึกษาของรัฐ หรือเอกชนทีไ่ ด้รบั การรบั รองมาตรฐาน หรือวิทยฐานะทางการศึกษา
1.2 การพิจารณาหลกั ฐานจากการศึกษาต่อเน่ือง เปน็ การตรวจสอบรายละเอยี ดเกี่ยวกบั
หลักสูตร เนอื้ หาวิชาท่ศี กึ ษา จานวนช่วั โมง หนว่ ยงานทจี่ ดั เพอื่ พจิ ารณาเทียบโอนให้สอดคลอ้ งกับรายวิชา
ตามหลักสตู ร ซึ่งต้องไดร้ บั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการเทยี บโอนผลการเรยี นของสถานศกึ ษา
วิธีท่ี 2 การประเมินความร้แู ละประสบการณ์ เปน็ การวดั ตรวจสอบและประเมินผลการเรยี นรู้
และประสบการณ์ของผเู้ รยี นท่เี กิดจากการประกอบอาชีพ การทางาน จากการเรียนรูต้ ามอัธยาศยั โดยใช้
เครอ่ื งมือประเมนิ ท่หี ลากหลาย เชน่ แบบทดสอบ แบบสมั ภาษณ์ การปฏบิ ัติจรงิ เป็นต้น
การเทยี บโอนผลการเรยี นจากหลักฐานการศึกษา มีขอบขา่ ยดงั นี้
1. การเทยี บโอนผลการเรยี นจากหลกั สูตรการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2544
(ในระบบ) เขา้ สู่หลักสตู รการศกึ ษานอกระบบระดับการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
2. การเทียบโอนผลการเรียนจากหลักเกณฑแ์ ละวิธีการจดั การศึกษานอกโรงเรียนตามหลกั สูตร
การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พุทธศักราช 2544 (นอกระบบ) เข้าสู่หลกั สูตรการศกึ ษานอกระบบระดับการศึกษา
ขน้ั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551
3. การเทียบโอนผลการเรยี นจากหลักสตู รประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.)
พุทธศกั ราช 2545 เข้าสู่หลักสตู รการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน พุทธศักราช 2551
4. การเทียบโอนผลการเรยี นจากหลกั สูตรอืน่ ๆ ทกี่ ระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศใช้
หลกั เกณฑ์การเทียบโอนผลการเรยี นจากหลกั ฐานการศกึ ษาหลกั สตู รท่จี ดั การศึกษาเป็นระดบั
1. คณะกรรมการเทยี บโอนผลการเรยี นของสถานศึกษา ศกึ ษา วิเคราะห์หลักสูตรของสถานศึกษาท่ี
ผเู้ รยี นนาหลักฐานการศึกษามาเทียบโอนผลการเรียน แล้วจัดทาตารางวเิ คราะหห์ ลักสตู รเพื่อใชใ้ นการเทยี บ
โอนผลการเรียน
2. การพจิ ารณาเทียบโอนให้พจิ ารณาจาก
2.1 ระยะเวลาและระดับชัน้ ทผ่ี ู้ขอเทียบโอนเรยี นผา่ นมา
2.2 รายวชิ า/ หมวดวชิ า ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวงั ตวั ชว้ี ดั ของรายวชิ าหรอื คาอธิบายรายวิชา
ระหว่างรายวชิ าทน่ี ามาเทยี บโอนกับรายวิชาที่รบั เทยี บโอน ตอ้ งมีความสอดคลอ้ งกนั ไมน่ ้อยกวา่ รอ้ ยละ 60
2.3 จานวนหนว่ ยกิตของรายวิชา/หมวดวชิ าทีน่ ามาเทยี บโอน ต้องไมน่ ้อยกวา่ จานวนหนว่ ยกติ
ในรายวิชาท่รี บั เทยี บโอนผลการเรยี น หากรายวชิ าทน่ี ามาเทยี บโอนผลการเรียนมีจานวนหน่วยกิตน้อยกวา่
จานวนหน่วยกติ ในรายวิชาทีร่ ับเทยี บโอนผลการเรียน อาจนารายวิชาอ่นื ท่อี ยู่ในสาระและมาตรฐาน
เดยี วกัน มานับรวมให้ได้จานวนหน่วยกติ เท่ากบั หรอื มากกวา่ จานวนหน่วยกติ ในรายวิชาทีร่ ับเทียบโอนผล
การเรยี น
2.4 ไม่รับเทยี บโอนรายวิชา/ หมวดวิชาทมี่ ีค่าระดับผลการเรยี นเปน็ 0 ร มส
3. ให้เทียบโอนผลการเรียนได้ทั้งรายวิชาบังคบั และรายวชิ าเลือก โดยนับรวมกันแล้วตอ้ งไม่เกนิ
จานวนหนว่ ยกติ ทก่ี าหนดในแต่ละระดับการศึกษา
ระดับประถมศกึ ษา เทียบโอนได้ไมเ่ กนิ 36 หนว่ ยกติ
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เทยี บโอนไดไ้ ม่เกิน 42 หนว่ ยกติ
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย เทยี บโอนได้ไมเ่ กิน 57 หนว่ ยกิต
4. การใหค้ ่าระดบั ผลการเรยี นจากการเทยี บโอน
4.1 ผลการเรยี นเปน็ รายวิชา ใหใ้ ช้คา่ ระดับผลการเรยี นตามทป่ี รากฏในหลกั ฐานการศกึ ษา
ท่ีนามาเทียบโอน ถ้าผลการเรียนในหลกั สตู รเดมิ มากกว่า 1 รายวิชานามาเทยี บโอนกับหลกั สูตรการศึกษา
นอกระบบระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ได้ 1 รายวชิ า ใหน้ าคา่ ระดับผลการเรียนของ
รายวชิ าท่ขี อเทียบโอนมาเฉลี่ยหากมจี ุดทศนิยมใหป้ รับทศนยิ มตามหลักการทางคณติ ศาสตร์ เพื่อบนั ทึกผล
การเรียนตอ่ ไป
4.2 ผลการเรยี นเป็นหมวดวิชา ใหใ้ ชค้ ่าระดบั ผลการเรยี นของหมวดวิชาเป็นค่าระดับผล
การเรยี นในรายวิชาทเ่ี ทียบโอนได้
5. หวั หนา้ สถานศกึ ษา พจิ ารณาอนุมัติผลการเทียบโอน
การวัดผลประเมนิ ผลการเรยี น
การวดั และประเมินผลการเรียนตามหลักสตู รการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน
พุทธศกั ราช 2551 มี 2 ลกั ษณะไดแ้ ก่
1. การวดั และประเมินผลรายวิชา สถานศึกษาดาเนินการประเมนิ ผลรายวิชาดังนี้
1.1. การวัดและประเมนิ ผลก่อนเรียน เป็นการตรวจสอบความรู้ ทักษะและความพรอ้ มตา่ ง ๆ
ของผเู้ รยี นเพอ่ื เปน็ ข้อมลู พ้นื ฐานในการจดั กระบวนการเรยี นรู้ให้เหมาะสมกับสภาพความพรอ้ มและความรู้
พ้นื ฐานของผูเ้ รียน
1.2. การวัดและประเมนิ ผลระหว่างภาคเรยี น สถานศกึ ษาดาเนนิ การประเมนิ ผลระหว่างภาค
เรียนเพอื่ ทราบความกา้ วหน้าท้ังดา้ นความรู้ ทักษะ เจตคติ และพฤติกรรมการเรียนการร่วมกจิ กรรมและ
ผลงาน อนั เป็นผลมาจากการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ รายละเอยี ดของคะแนนระหว่างภาค ประกอบด้วย
1) การใหค้ วามร่วมมือกับสถานศกึ ษา หมายถึง การทผ่ี ูเ้ รยี นมสี ว่ นร่วมใน
กิจกรรมต่างๆ ของสถานศกึ ษา เชน่ การร่วมเดินรณรงคต์ ่อต้านยาเสพตดิ การเข้ารว่ มในวนั สาคญั ร่วม
กิจกรรมของสถานศึกษา เปน็ ตน้
2) ผลงานท่ีกาหนดเป็นร่องรอยในแฟ้มสะสมงาน
3) การแสดงออกและการมสี ่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ หมายถึง การร่วมอภิปรายการ
ช่วยงานกลมุ่ การตอบคาถาม
1.3. การวัดผลประเมนิ ผลปลายภาคเรียน มวี ัตถุประสงค์เพ่ือทราบผลการเรยี นรโู้ ดยรวมของ
ผูเ้ รยี นในแตล่ ะรายวิชา โดยใชเ้ คร่ืองมือ เช่น แบบทดสอบปรนัย แบบทดสอบอัตนยั แบบประเมนิ การปฏิบตั ิ
เปน็ ตน้
การวัดและประเมนิ ผลปลายภาคเรยี นนน้ั ผูเ้ รยี นที่จะผ่านการประเมินรายวิชาใด จะตอ้ งเข้าสอบปลาย
ภาคเรยี นและมคี ะแนนปลายภาคเรียนรวมกบั คะแนนระหว่างภาคเรียนผ่านเกณฑ์ข้นั ต่าตามเกณฑท์ ี่
สานกั งาน กศน. กาหนด
1.4 การตัดสนิ ผลการเรยี นรายวิชา
การตดั สนิ ผลการเรยี นรายวชิ า ให้นาคะแนนระหวา่ งภาคเรียนมารวมกบั คะแนนปลายภาค
เรียน และจะต้องได้คะแนนไม่นอ้ ยกวา่ ร้อยละ 50 จึงจะถือวา่ ผา่ นการเรียนในรายวชิ านน้ั
ท้ังนี้ ผู้เรยี นต้องเข้าสอบปลายภาคเรยี นด้วย แล้วนาคะแนนไปเปรยี บเทียบกับเกณฑ์ที่กาหนด
โดยให้ค่าระดบั ผลการเรยี นเป็น 8 ระดับ ดังนี้
ไดค้ ะแนนร้อยละ 80-100 ให้ระดับ 4 หมายถงึ ดีเยย่ี ม
ได้คะแนนร้อยละ 75-79 ให้ระดับ 3.5 หมายถึง ดีมาก
ไดค้ ะแนนร้อยละ 70-74 ให้ระดบั 3 หมายถึง
ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 65-69 ให้ระดบั 2.5 หมายถงึ ดี
ได้คะแนนรอ้ ยละ 60-64 ใหร้ ะดับ 2 หมายถงึ ค่อนขา้ งดี
ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 55-59 ให้ระดบั 1.5 หมายถึง ปานกลาง
ไดค้ ะแนนร้อยละ 50-54 ให้ระดบั 1 หมายถึง
ได้คะแนนรอ้ ยละ 0-49 ให้ระดับ 0 หมายถงึ พอใช้
ผา่ นเกณฑข์ ัน้ ต่าที่กาหนด
ต่ากวา่ เกณฑ์ขน้ั ตา่ ท่ีกาหนด
เกณฑ์การจบหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551
1. ผา่ นเกณฑก์ ารประเมินการเรียนรูร้ ายวชิ าในแตล่ ะระดับการศึกษา ตามโครงสรา้ งหลกั สูตร
1.1. ระดบั ประถมศึกษา ไม่น้อยกว่า 48 หน่วยกิต
1.2. ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น ไมน่ ้อยกว่า 56 หน่วยกิต
1.3. ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลายไม่นอ้ ยกวา่ 76 หนว่ ยกติ
2. เข้าร่วมกิจกรรม และผ่านกจิ กรรมพฒั นาคุณภาพชีวิต ( กพช) ไมน่ ้อยกว่า 200 ช่ัวโมง
3. ผา่ นการประเมนิ คุณธรรม ในระดับพอใชข้ ึน้ ไป
4. เข้ารบั การประเมินคุณภาพการศึกษานอกระบบระดับชาติ ( สอบ N Net)