The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรม ม.2 หน่วย3_ศิลาจารึกหลักที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรม ม.2 หน่วย3_ศิลาจารึกหลักที่ 1

ภาษาไทยวรรณคดีและวรรณกรรม ม.2 หน่วย3_ศิลาจารึกหลักที่ 1

ภาษาไทย (วรรณคดแี ละวรรณกรรม)
ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒
กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาไทย

๓หน่วยการเรียนรู้ท่ี

๓หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี
ศิลาจารกึ หลกั ที่ ๑

ตัวช้วี ัด

• สรปุ เน้อื หาวรรณคดีและวรรณกรรมท่อี า่ น
• วเิ คราะห์วรรณคดแี ละวรรณกรรมท่อี า่ น พรอ้ มยกเหตุผลประกอบ
• อธิบายคุณคา่ ของวรรณคดแี ละวรรณกรรมทอี่ า่ น
• สรุปความรู้และขอ้ คดิ จากการอา่ นเพ่ือประยุกตใ์ ช้ในชีวติ จริง

ฉนั ชอบจดบันทกึ ประจาวันลงในสมุด ฉนั ชอบจดลงในแทบ็ เลต็

แล้วสมัยทย่ี ังไม่มกี ระดาษ
หรอื แทบ็ เลต็ คนในอดตี
เขาจดบันทึกกนั ท่ไี หนนะ?

ความสาคญั ของวรรณคดี

ความเป็นมาของศิลาจารึกหลักที่


สมยั สโุ ขทัย พ่อขุนรามคาแหงมหาราช ทรงบันทึกเร่ืองราวต่าง ๆ ลงบนแท่งศิลาสี่เหลี่ยม
๔ ด้าน โดยใช้ตัวอักษรไทยที่ทรงประดิษฐ์ข้ึนจากตัวอักษรขอมหวัดและอักษร
ไทยเดมิ

สมยั รัตนโกสนิ ทร์ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพบศิลาจารึก ณ วัดราชาธิวาส
เมื่อครั้งยังทรงผนวชอยู่ จึงโปรดเกล้าฯ ให้ชะลอมาไว้ท่ีกรุงเทพฯ และทรง
พระราชอุตสาหะอ่านศิลาจารึกแล้วนาออกเผยแพร่เป็นพระองค์แรกและ
ทรงอธิบายถ้อยคาในจารึกเป็นภาษาอังกฤษ ต่อมาจึงมีนักวิชาการพยายาม
ตรวจสอบคาอธบิ ายเพม่ิ เตมิ และแปลเปน็ ภาษาฝรง่ั เศสเผยแพร่แก่บคุ คลทส่ี นใจ

พระราชประวัติผทู้ รงพระราชนิพนธ์

พอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช

❖ ทรงเป็นกษัตรยิ อ์ งคท์ ี่ ๓ ในราชวงศ์พระรว่ ง แหง่ อาณาจกั ร
❖ สทโุรขงทชยั่วยพระราชบิดากระทายุทธหัตถีกับขุนสามชนเจ้าเมืองฉอด

จนไดร้ ับพระราชทานพระนามว่า “พระรามคาแหง”

❖ ทรงได้รับการยกย่องเป็น “มหาราช” เพราะพระปรีชาสามารถ
ท้ังในด้านการรบ การปกครอง ศาสนา การเกษตร และการ
อุตสาหกรรม ทสี่ าคัญ คอื ทรงประดิษฐ์อกั ษรไทยและโปรดเกล้าฯ
ใหจ้ ารึกอกั ษรไทยลงไวบ้ นแท่งศิลา

ลกั ษณะคาประพันธ์

เปน็ ร้อยแกว้ มีสมั ผสั เป็นบางตอน เช่น
“ในน้ามปี ลา ในนามขี ้าว”
ใช้คาไทยแทแ้ ละคาภาษาถิน่ เหนือ “ใครจักใครค่ ้ามา้ ค้า ใครจกั ใครค่ ้าเงอื นคา้ ทองคา้ ”
เปน็ สว่ นมาก มีคาเขมร บาลีและ
สันสกฤตปนบ้างเลก็ น้อย

แต่งเป็นประโยคส้นั ๆ งา่ ย ๆ
ไม่ซบั ซ้อน ไดใ้ จความชัดเจน

ลักษณะคาประพันธ์

เปรียบเทยี บตัวอักษรไทยสมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราชกบั ตวั อกั ษรไทยในปัจจบุ นั

ลักษณะคาประพนั ธ์

ลักษณะการเขียนในศิลาจารกึ

๑. ตัวอกั ษรเขียนจากซ้ายไปขวาและอ่านจากซ้ายไปขวา
๒. การวางตาแหน่งพยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ มีหลกั เกณฑ์ ดังน้ี

เขียนพยญั ชนะและสระอยบู่ นบรรทดั เดยี วกนั
วรรณยุกตแ์ ละนฤคหิตอยูบ่ นพยญั ชนะ ถา้ มีทงั้ วรรณยกุ ต์และนฤคหิตให้เขียนต่อกัน
สระส่วนใหญไ่ วห้ นา้ พยญั ชนะ เว้นสระอะ อา อา ทไ่ี วห้ ลงั พยัญชนะ
สระอะ เมอ่ื มีตวั สะกดใช้ตวั สะกดซอ้ นกัน เชน่ ขบบ คอื ขับ, วงง คือ วัง
สระอวั เมอื่ ไมม่ ตี ัวสะกด ใช้ -วว เช่น หวว คอื หัว

ลักษณะคาประพนั ธ์

ลักษณะการเขียนในศิลาจารึก

๑. ตัวอักษรเขียนจากซา้ ยไปขวาและอ่านจากซา้ ยไปขวา
๒. การวางตาแหน่งพยัญชนะ สระ และวรรณยกุ ต์ มหี ลกั เกณฑ์ ดังน้ี

สระอือและสระออ ไมใ่ ช้ อ เคยี ง เช่น ชื่ คือ ชอ่ื , พ่ คือ พ่อ
สระเอีย ใช้ ย เมื่อมีตัวสะกด เชน่ รยง คอื เรยี ง
ถ้าไม่มีตวั สะกด ใช้ - ยย เชน่ มียย คอื เมีย
ใช้ นฤคหิต แทนสระอา เชน่ บเรือ คือ บาเรอ
ใช้ นฤคหิต แทน ม เมื่อเปน็ ตัวสะกด เชน่ พน อ่านวา่ พะ-นม
ไม้ไตค่ ไู้ มม่ ีใช้ ใหใ้ ช้รปู เอกแทน เชน่ กด่ ี คือ ก็ดี

ลักษณะคาประพันธ์

ลักษณะการเขียนในศิลาจารกึ

๓. วรรณยกุ ตท์ ่ใี ชม้ เี พียงรปู เอกและรูปโทเท่านนั้

วรรณยุกตร์ ปู เอกใช้ | เหมือนปจั จบุ ัน เช่น พ่ คอื พอ่
วรรณยกุ ต์รูปโท ใช้ + แทนรปู วรรณยุกต์ เช่น ได๋ คอื ได้

๔. ตวั พยญั ชนะสมัยพอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช ไม่มตี วั ฌ ฑ ฒ ฬ ฮ
๕. ตวั เลขไทยไมม่ เี ลข ๓ ๖ ๘ ๙
๖. ตวั อกั ษรไทยสมยั พ่อขุนรามคาแหงมหาราชมกี ารเปล่ียนแปลงแกไ้ ขรูปและวิธเี ขยี นหลายคร้งั

บางรูปอาจเปล่ียนไปมาก บางรูปยังมีเคา้ ของรูปเดมิ อยจู่ นเปน็ รปู อกั ษรปัจจบุ นั

เร่อื งยอ่ ตอนที่ ๑ ตอนท่ี ๒

ตงั้ แต่บรรทัดที่ ๑-๑๘ เริม่ จากบรรทดั ที่ ๑๘ ดา้ นท่ี ๑
ด้านที่ ๑ กลา่ วถึง รวมดา้ นที่ ๒ ทั้งหมด
พระราชประวัติ
จนถงึ บรรทดั ท่ี ๑๑ ของด้านที่ ๓
พ่อขุนรามคาแหงมหาราช กล่าวถงึ เหตุการณต์ า่ ง ๆ

ตอนที่ ๓ ขนบธรรมเนียมของอาณาจกั รสโุ ขทยั

เร่มิ จากบรรทัดท่ี ๑๒ การสรา้ งวัดพระศรีรตั นมหาธาตุ
ด้านที่ ๓ จนจบดา้ นท่ี ๔ เมอื งศรสี ัชนาลยั
กล่าวถงึ พระเกียรติของ
พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช การสรา้ งพระแทน่ มนังคศลิ าบาตร
และการประดิษฐต์ วั อักษรไทย

สมยั พอ่ ขนุ รามคาแหง

ศลิ าจารกึ

ดา้ นที่ ๑

ศลิ าจารกึ

ดา้ นที่ ๒

ศลิ าจารกึ

ดา้ นที่ ๓

ศลิ าจารกึ

ดา้ นที่ ๔

ตวั อยา่ ง คาอา่ นศิลาจารกึ หลกั ท่ี ๑

พ่อกูช่ือศรีอินทราทิตย์ แม่กูช่ือนางเสือง พี่กูช่ือบานเมือง ตูพี่น้องท้อง
เดยี วหา้ คน ผูช้ ายสาม ผู้ญีงโสง พ่ีเผือผู้อ้ายตายจากเผือเตียมแต่ยังเล็ก เมื่อกู
ขนึ้ ใหญไ่ ด้สิบเก้าเข้า ขุนสามชนเจา้ เมืองฉอดมาท่เมอื งตาก พ่อกไู ปรบขุนสาม
ชน หวั ซ้ายขุนสามชนขับมา หัวขวาขุนสามชนเกลื่อนเข้า ไพร่ฟ้าหน้าใสพ่อกู
หนีญญ่ายพายจแจ้น กูบ่หนี กูข่ีช้างเบกพล กูขับเข้าก่อนพ่อกู กูต่อช้างด้วย
ขนุ สามชนตนกพู งุ่ ชา้ งขุนสามชนตัวช่ือมาสเมือง แพ้ ขุนสามชนพ่ายหนี พ่อกู
จึ่งขึ้นชื่อกูช่ือพระรามคาแหงเพื่อกูพุ่งช้างขุนสามชน เมื่อชั่วพ่อกู กูบาเรอแก่
พ่อกู กูบาเรอแกแ่ มก่ ู กูได้ตัวเนื้อตัวปลา กูเอามาแก่พ่อกู กูได้หมากส้มหมาก
หวาน อนั ใดกินอรอ่ ยกนิ ดี กูเอามาแกพ่ ่อกู กูไปตหี นงั วังชา้ งได้ กเู อามาแก่พ่อ
กู กไู ปท่บา้ นท่เมือง ได้ช้างได้งวง ได้ปั่วได้นาง ได้เงือนได้ทอง กูเอามาเวนแก่
พอ่ กู พอ่ กูตายยังพี่กู กูพร่าบาเรอแก่พ่ีกูดั่งบาเรอแก่พ่อกู พ่ีกูตาย จ่ึงได้เมือง
แกก่ ูทง้ั กลม เมอื่ ชัว่ พ่อขนุ รามคาแหงเมอื งสโุ ขทยั น้ีดี ในนา้ มีปลาในนามขี ้าว

(ศิลาจารกึ หลกั ท่ี ๑ : พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช)

ตวั อยา่ ง คาอา่ นศลิ าจารึกหลักท่ี ๑

เจ้าเมืองบ่เอาจกอบในไพร่ ลูท่างเพ่ือนจูงวัวไปค้า ข่ีม้าไปขายใครจักใคร่ค้า
ช้าง ค้า ใครจักใคร่ค้าม้า ค้า ใครจักใคร่ค้าเงือนค้าทองค้า ไพร่ฟ้าหน้าใส ลูก
เจา้ ขุนผูใ้ ดแล้ ล้มตายหายกว่า เหย้าเรือนพ่อเชื้อเสื้อคามัน ช้างขอลูกเมียเยีย
ข้าว ไพร่ฟา้ ขา้ ไท ป่าหมากป่าพลูพ่อเชื้อมัน ไว้แก่ลูกมันสิ้น ไพร่ฟ้าลูกเจ้าขุน
ผิแลผิดแผกแสกว้างกัน สวนดูแท้แล้ จ่ึงแล่งความแก่ขาด้วยชื่อ บ่เข้าผู้ลักมัก
ผู้ซ่อน เห็นข้าวท่านบ่ใคร่พีน เห็นสินท่านบ่ใคร่เดือด คนใดข่ีช้างมาหาพา
เมืองมาสู่ช่อยเหนือเฟ้ือกู้ มันบ่มีช้างบ่มีม้า บ่มีป่ัวบ่มีนาง บ่มีเงือนบ่มีทอง
ให้แก่มัน ช่อยมันตวงเป็นบ้านเป็นเมือง ได้ข้าเสือกข้าเสือ หัวพุ่งหัวรบก็ดี บ่
ฆา่ บ่ตี ในปากประตูมกี ะดิ่งอนั ณ่งื แขวนไว้หั้น ไพร่ฟ้าหน้าปก กลางบ้านกลาง
เมือง มีถ้อยมีความ เจ็บท้องข้องใจ มันจักกล่าวเถิงเจ้าเถิงขุนบ่ไร้ไปลั่นกะดิ่ง
อนั ท่านแขวนไว้ พ่อขนุ รามคาแหงเจา้ เมืองได้

(ศิลาจารึกหลักท่ี ๑ : พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช)

คาศัพท์ คาศัพท์

เกล่ือนเขา้ ความหมาย
ขนึ้ ใหญ่
เงือน เคล่อื นทัพเขา้ เคลื่อนพลเขา้
จกอบ
เตบิ โตข้ึน มอี ายุมากขึ้น
ช่วั
ชอ่ งมันตวงเปน็ บา้ น เงิน
ภาษี
ไดข้ ้าเสอื กข้าเสือ ช่วงระยะเวลาหน่ึง
หัวพุง่ หัวรบ บฆ่ า่ บ่ตี ชว่ ยเหลอื เขาสรา้ งบ้านสรา้ งเมอื ง
จบั ขา้ ศึกไดจ้ ากการรบก็ไมฆ่ ่าไมต่ ี ไมท่ าทารณุ กรรมใด ๆ
ได้ช้างได้งวง
จบั ช้างได้

คาศพั ท์ คาศัพท์ (ตอ่ )

ไดป้ วั่ ไดน้ าง ความหมาย

ตหี นงั วังช้าง ไดบ้ ่าวไพร่ บรวิ าร ทงั้ ชายหญงิ
เตยี มแต่ (ปว่ั หมายถึง บา่ ว ชายหน่มุ , นาง หมายถงึ ผู้หญงิ )
ท่ จับช้าง คลอ้ งช้าง
ทั้งกลม ตงั้ แต่
ตี รบพงุ่ กวาดต้อน การตอ่ ส้โู ดยใช้ส่วนตา่ ง ๆ ของร่างกายเปน็ อาวธุ
บ่เขา้ ผู้ลกั มักผูซ้ ่อน ทั้งหมด ทงั้ สน้ิ
ผิดแผกแสกวา้ ง มีความยตุ ิธรรมไม่เข้าขา้ งคนผิด
หากแม้นวา่
เผอื เรา เราทง้ั เสือง

คาศัพท์ คาศัพท์ (ตอ่ )

พอ่ เช้อื เส้ือค้า ความหมาย
พุ่ง
แพ้ บิดามารดา ผู้สบื เช้ือสาย

เยยี ข้าว รบ
แล้
โสง เปน็ ภาษาถนิ่ เหนอื หมายถงึ ชนะ
ยุง้ ข้าว
หั้น จริงแท้
อนั ณ่งื สอง
เป็นภาษาถนิ่ เหนือ หมายถงึ ตรงน้นั
อนั หนง่ึ

คณุ คา่ ด้านเนอ้ื หา

ศิลาจารึกหลกั ที่ ๑

กตู ่อช้างด้วยขนุ สามชน ตนกูพ่งุ ช้างขุนสามชนตัวชอ่ื มาสเมอื งแพ้ ขนุ สามชนพ่ายหนี
พอ่ กจู ่งึ ขึ้นชือ่ กชู ่อื พระรามคาแหง เพอื่ กพู งุ่ ชา้ งขนุ สามชน...

เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่สาคัญ ท่ีแสดงใหท้ ราบวา่ อาณาจักรสโุ ขทัยมปี ฐมกษตั รยิ ์ คือ
พอ่ ขุนศรีอนิ ทราทิตย์ และมีพอ่ ขุนบานเมือง และพอ่ ขุนรามคาแหงมหาราช เปน็ กษัตรยิ ใ์ นลาดับถัดมา

นกั เรียนคิดวา่ พ่อขุนรามคาแหงมหาราชเปน็ ผจู้ ารึกศลิ าจารกึ หลกั ที่ ๑ หรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด

คณุ คา่ ดา้ นเนือ้ หา

ศิลาจารกึ หลักที่ ๑

...ในปากประตมู กี ะดิง่ อันณ่ืงแขวนไวห้ นั้ ไพรฟ่ า้
หนา้ ปก กลางบ้านกลางเมอื ง มถี อ้ ยมคี วาม เจบ็ ทอ้ ง
ข้องใจ มักจักกล่าวเถงิ เจา้ เถิงขนุ บ่ไร้ ไปลัน่ กะด่ิงอัน
ท่านแขวนไว้ พอ่ ขนุ รามเจ้าเมอื งได้ยินเรียกเมอื ถาม
สวนความแกม่ ันดว้ ยซอ่ื ไพร่ในเมอื งสุโขทัยนจี้ ึ่งชม...

ให้ความร้ดู า้ นการปกครองตามหลกั นติ ิศาสตร์ โดยสมัยพอ่ ขุนรามคาแหงมหาราชมีการปกครองแบบพอ่ ปกครองลกู
พระองค์ทรงดแู ลทุกขส์ ุขของราษฎรอยา่ งใกล้ชิด มีการส่ันกระด่งิ ประตเู พอ่ื รอ้ งเรียน โดยมพี อ่ ขนุ รามคาแหง
มหาราชทรงไตส่ วนด้วยพระองค์เอง อันเป็นกระบวนการยุติธรรมทีท่ กุ คนต่างยอมรบั

นักเรียนคดิ วา่ กระบวนการยุตธิ รรมในสมัยสโุ ขทยั มีความเท่ยี งตรงหรอื ไม่ เพราะเหตุใด

คุณค่าด้านวรรณศิลป์

ศลิ าจารึกหลกั ท่ี ๑

...ในน้ามปี ลา ในนามขี ้าว เจ้าเมืองบเ่ อาจกอบในไพร่ ลทู ่างเพ่ือนจูงวัวไปคา้ ขม่ี า้ ไปขาย...

เป็นรอ้ ยแกว้ ท่ใี ชภ้ าษาได้อยา่ งมีจงั หวะและมสี มั ผัสคล้องจอง
ทาให้สามารถจดจาไดง้ ่ายและทาใหผ้ อู้ า่ นรสู้ ึกเพลนิ เพลินและเกิดจนิ ตภาพชดั เจน

คุณคา่ ดา้ นสงั คม

ศลิ าจารึกหลกั ที่ ๑

ในน้ามปี ลา ในนามขี ้าว...ป่าพรา้ ว
ก็หลายในเมืองนี้ ป่าลางก็หลายใน
เมอื งนี้

ใครจักใครค่ า้ ช้าง คา้ ใครจักใคร่ค้า
ม้า ค้า ใครจักใคร่ค้าเงอื นคา้ ทองคา้ ...

สะทอ้ นวิถชี ีวติ ของประชาชนในสมยั สโุ ขทยั
ซง่ึ ประชาชนสว่ นใหญท่ าการเกษตร การประมงเพอื่ ดารงชวี ติ และมกี ารค้าขายเสรี

ชีวิตของประชาชนในสมัยสโุ ขทยั เหมือนปัจจุบนั หรือไม่ อยา่ งไร

คุณค่าดา้ นสงั คม

ศลิ าจารกึ หลักที่ ๑

...มพี ระขพงุ ผีเทพดาในเขาอนั นัน้ เปน็ ใหญ่กว่าทุกผใี นเมอื งนี้ ขนุ ผ้ใู ดถือเมืองสุโขทัยนี้แล้
ไหวด้ ีพลีถูก เมืองนีเ้ ที่ยง เมอื งน้ดี ี ผไิ หวบ้ ่ดี พลบี ่ถูก ผใี นเขาอัน้ บค่ มุ้ บเ่ กรง เมอื งนห้ี าย...

สะท้อนความเชือ่ เรอื่ งการนบั ถอื ผีบรรพบรุ ุษ
โดยเช่ือว่า ผีสามารถให้คณุ หรอื ใหโ้ ทษได้ ขึน้ อยู่กับการบูชาของลกู หลาน

ในท้องถน่ิ ของนักเรียนยังมีความเชอ่ื เรื่องการนับถอื ผอี ยหู่ รอื ไม่ อยา่ งไร

สรุปบทเรียน

ใจความสาคญั สิ่งที่ได้ ข้อคดิ

ศิลาจารึกหลักท่ี ๑ ตอนท่ี ๑ ความรู้ • ความกตญั ญูตอ่ บดิ า มารดา
และผูม้ ีพระคุณ
พ่อขนุ รามคาแหงมหาราชทรงเปน็ กษัตรยิ ์องคท์ ่ี ๓ • ประวัติศาสตร์ในอดีต
ของอาณาจักรสโุ ขทัย ประชาชนมกี ารค้าแบบเสรี ของประเทศไทยในสมัย • ความรกั ใคร่ผูกพันระหว่างพ่ีน้อง
สุโขทัย หรอื รัชสมยั ของ
ศิลาจารกึ หลกั ที่ ๑ ตอนที่ ๒ พ่อขนุ รามคาแหงมหาราช • การเปน็ พุทธศาสนกิ ชนที่ดี

อาณาจกั รสุโขทัยมีการสรา้ งวัด สรา้ งพระแท่น • การสืบทอดวัฒนธรรมประเพณี
และประดิษฐ์ตวั อักษรไทย อนั เปน็ หนา้ ทีข่ องทุกคน

ศลิ าจารกึ หลักท่ี ๑ ตอนที่ ๓

พอ่ ขุนรามคาแหงมหาราชทรงมพี ระปรชี าสามารถ
และขยายอาณาเขตเมอื งไดก้ ว้างไกล


Click to View FlipBook Version