The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แบบฝึกหัดวิชาประวัติศาสตร์ ป.3-1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by earth_28061998, 2021-11-24 20:35:40

แบบฝึกหัดวิชาประวัติศาสตร์ ป.3-1

แบบฝึกหัดวิชาประวัติศาสตร์ ป.3-1

แบบฝกึ หดั รายวชิ าประวัตศิ าสตร์
ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓

ชอ่ื ................................นามสกลุ ........................................
ชนั้ ..................... เลขท.่ี .............
ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔
โรงเรียนเทศบาล ๒ หนองบวั

สังกดั สำนักการศกึ ษาเทศบาลนครอบุ ลราชธานี

ใบงานท่ี 1 ช่อื .........................................................
ชั้น.................... เลขท่ี...................

วิชาประวัตศิ าสตร์ เรือ่ ง ทมี่ าของศกั ราช

คำชี้แจง ให้นักเรยี นตอบคำถามเรอื่ งทม่ี าของศกั ราชให้ถกู ตอ้ ง พร้อมตกแตง่ ใหส้ วยงาม

1.พุทธศักราช เริม่ นบั เม่ือใด ?
ตอบ ....................................................................................................................

2.คริสตศ์ ักราช เรม่ิ นับเมือ่ ใด ?
ตอบ ......................................................................................................................

3. ฮจิ เราะห์ศักราช นิยมใชใ้ นประเทศท่ีนับถือศาสนาอะไร
ตอบ .......................................................................................................

4. พุทธศกั ราชหา่ งจากคริสต์ศักราชกป่ี ี
ตอบ ……………………………………………………………………………………………

5. พ.ศ. 2555 เทียบเป็น ค.ศ. ท่ีเท่าไหร่
ตอบ ………………………………………………………………………………………..

ใบความรู้ที่ 1
วชิ าประวัติศาสตร์ เรอ่ื ง ทมี่ าของศกั ราช

ศกั ราชหรอื คำบอกปที ี่เหน็ ในปฏิทินไทย สว่ นใหญ่จะมีอยู่ 2 ศกั ราช คือ พทุ ธศักราช หรือ พ.ศ. และ
คริสตศ์ กั ราช หรือ ค.ศ.

พทุ ธศักราช หรอื พ.ศ. เปน็ ศักราชทน่ี ยิ มใชใ้ นประเทศทน่ี ับถือพระพุทธศาสนา โดยประเทศไทยเริ่มนบั ปี
ทพ่ี ระพุทธเจา้ เสดจ็ ปรนิ ิพพาน (ตาย) ครบ 1 ปี เป็น พ.ศ. 1

คริสต์ศกั ราช หรอื ค.ศ. เป็นศักราชทนี่ ยิ มใชใ้ นโลกตะวนั ตก ซง่ึ นบั ถือครสิ ต์ศาสนา โดยเริ่มนับปที ี่พระ
เยซปู ระสูติ (เกิด) เปน็ ค.ศ. 1

นอกจากนี้ ในประเทศไทยมีผู้นับถือศาสนาอสิ ลาม จงึ มกี ารใชศ้ กั ราชของศาสนาอสิ ลามด้วย เรยี กวา่
ฮจิ เราะห์ศักราช หรอื ฮ.ศ. ซ่ึงนยิ มใชใ้ นประเทศท่นี บั ถือศาสนาอสิ ลาม โดยเรม่ิ นับปที ท่ี ่านนบมี ุฮัมมดั กระทำ
ฮิจเราะห์ (การอพยพโยกยา้ ย) คือ ออกจากเมอื งเมกกะไปยังเมืองเมดนี า เปน็ ฮ.ศ. 1

พระพุทธศาสนากำเนดิ กอ่ นคริสต์ศาสนา 543 ปี ดังน้ัน ในการเทียบพุทธศกั ราชใหเ้ ป็นคริสต์ศักราช
ใหล้ บด้วย 543 เชน่ พ.ศ. 2564 – 543 เทา่ กับ ค.ศ. 2021

พ.ศ. 1000
หมายความว่า พระพุทธเจา้
เสดจ็ ปรินพิ พานไปแล้ว 1000 ปีค่ะ

ใบงานท่ี 2 ช่อื .........................................................
ชั้น.................... เลขท่.ี ..................
วิชาประวัติศาสตร์
เร่อื ง วธิ ีการเทียบศักราชแบบตา่ ง ๆ

คำชี้แจง โยงเส้นจับคูศ่ ักราชทีส่ มั พันธก์ ันให้ถูกต้อง

พ.ศ.๒๕๔๓ ค.ศ.๑๒๖๙

พ.ศ.๒๓๑๐ ค.ศ.๔๓

พ.ศ.๑๘๑๒ ค.ศ.๑๗๖๗
พ.ศ.๗๙๕ ค.ศ.๑๔๕๖

พ.ศ.๒๔๒๑ ค.ศ.๒๐๐๐

พ.ศ.๕๘๖ ค.ศ.๒๕๒

พ.ศ.๑๙๙๙ ค.ศ.๑๘๙๕
พ.ศ.๒๔๓๘ ค.ศ.๑๘๗๘

ใบความรู้ที่ 2

วชิ าประวัตศิ าสตร์ เรือ่ ง วิธกี ารเทยี บศักราชแบบตา่ ง ๆ

การใช้ศักราชที่แตกต่างกนั อาจทำให้เกดิ ความสับสนได้ ดงั นั้นจงึ ควรระบใุ ห้ชดั เจนว่าปที ี่เราใชเ้ ปน็ พ.ศ.
หรอื ค.ศ. นอกจากนี้ การร้วู ิธีเทียบศกั ราชจะช่วยให้เราทราบวา่ พ.ศ. ใด ตรงกับ ค.ศ. ใด

1.การเทียบพุทธศักราชเป็นครสิ ต์ศักราช
พระพทุ ธศาสนากำเนิดก่อนครสิ ตศ์ าสนา 543 ปี ดงั นั้น ในการเทยี บพทุ ธศกั ราชให้เป็นครสิ ตศ์ กั ราช ให้
ลบดว้ ย 543 เชน่ พ.ศ. 2551-543 เท่ากบั ค.ศ. 2008
2.การเทียบคริสตศ์ ักราชเปน็ พทุ ธศกั ราช
ถ้าตอ้ งการทราบวา่ ค.ศ. นี้ตรงกบั พ.ศ. ใด ให้บวกด้วย 543 เชน่ ค.ศ. 2000 + 543 ตรงกบั พ.ศ. 2543

การเปล่ียน พ.ศ. เป็น ค.ศ. พ.ศ. xxxx – 543 = ค.ศ. xxxx
การเปล่ยี น ค.ศ. เปน็ พ.ศ. ค.ศ. xxxx + 543 = พ.ศ. xxxx

3.ตวั อย่างการเทียบศักราชในชวี ติ ประจำวนั ในชวี ิตประจำวัน เราเห็นการใช้ พ.ศ. และ ค.ศ. ปนกนั ใน
สือ่ ต่าง ๆ เชน่ ปฏิทิน หนงั สอื พมิ พ์ ป้ายโฆษณา หากศึกษาเรอ่ื งราวต่าง ๆ ทัง้ เร่ืองทเี่ กีย่ วขอ้ งกับตัวเรา ครอบครัว
ของเรา โรงเรยี น และชมุ ชนของเราแล้ว การรับรวู้ า่ เร่อื งท่ีสำคัญ ๆ นั้นเกดิ เมอื่ ปีศกั ราชใด ชว่ ยให้เราเข้าใจ
เร่อื งราวท่ีเกิดไดช้ ัดเจนยง่ิ ขนึ้ และเรียงลำดับเรื่องราวทีเ่ กิดข้นึ กอ่ นหลังไดถ้ ูกต้อง

ตัวอยา่ งการเทียบศกั ราชในชีวิตประจำวันของเรา

พ.ศ. ตรงกบั ค.ศ. เรอื่ งราวหรือเหตุการณ์สำคญั ทเ่ี กิดขน้ึ

2543 2000 ปเี กิดของเรา

2546 2003 คณุ ย่าเสยี ชวี ิต/เข้าเรียนท่ีโรงเรยี นอนุบาล

2547 2004 นอ้ งชายเราเกดิ

2548 2005 น้ำท่วมโรงเรยี นตอนอนุบาล 3

2549 2006 ไฟไหมร้ า้ นค้าที่ตลาดใกลบ้ า้ น/อาคารใหม่ของโรงเรียนสรา้ งเสร็จ

2550 2007 นัง่ รถไฟไปเท่ียวเชียงใหม่กบั พ่อแมแ่ ละน้องชาย/ไปเยย่ี มคุณตาทต่ี ่างจังหวัด

2551 2008 พอ่ ยา้ ยไปทำงานทจ่ี ังหวดั ศรีสะเกษ/มีผู้อำนวยการโรงเรยี นคนใหม่

2552 2009 พอ่ ยา้ ยกลับมาทำงานทีจ่ ังหวัดอบุ ลราชธานี ครอบครัวไดอ้ ย่ดู ว้ ยกัน

ใบงานที่ 3 ช่อื .........................................................
ชัน้ .................... เลขท่ี...................

วชิ าประวัตศิ าสตร์ เร่อื ง เรอ่ื งราวสำคัญของโรงเรียนและชุมชน

คำช้ีแจง ให้นกั เรยี นบันทกึ ข้อมลู เก่ียวกับเหตกุ ารณส์ ำคัญต่าง ๆ ทเี่ กดิ ขนึ้ ในโรงเรียนลงในตารางต่อไปนี้

พ.ศ. เหตกุ ารณส์ ำคัญของโรงเรยี น..............................................

..........................................................................................................................................
…………………… ............................................................................................................................. .............

…………………………………………………………………………………………………………………………..

..........................................................................................................................................
…………………… ..........................................................................................................................................

…………………………………………………………………………………………………………………………..

..........................................................................................................................................
…………………… ............................................................................................................................. .............

…………………………………………………………………………………………………………………………..

..........................................................................................................................................
…………………… ..........................................................................................................................................

…………………………………………………………………………………………………………………………..

..........................................................................................................................................
…………………… ..........................................................................................................................................

…………………………………………………………………………………………………………………………..

ใบความรู้ที่ 3

วชิ าประวัติศาสตร์ เรอื่ ง เรอื่ งราวสำคญั ของโรงเรยี นและชมุ ชน

การรู้จกั วิธกี ารค้นคว้าเร่อื งราวตา่ ง ๆ โดยใชห้ ลกั ฐานที่มีความเกีย่ วข้องและน่าเชอ่ื ถือ ทำใหเ้ รื่องราวท่เี รา
ค้นคว้ามคี วามถกู ตอ้ งและนา่ เชอื่ ถอื การค้นคว้าและเรยี นรู้เรื่องราวสำคญั ของโรงเรยี นและชมุ ชน ทำใหเ้ รารูจ้ ัก
ชุมชนและโรงเรยี นของเรามากขนึ้ ทำใหเ้ กิดความรู้สกึ ผกู พันและรสู้ กึ ภาคภูมใิ จในชมุ ชนของเรา

ในการคน้ หาเรื่องราวที่เกย่ี วข้องกบั โรงเรียนและชุมชนของเรามีวธิ ี ดังน้ี
1.ตั้งคำถาม เช่น โรงเรยี นต้ังข้ึนเมื่อใด มีเหตุการณส์ ำคัญอะไรบ้าง สถานทส่ี ำคัญของชมุ ชนคอื ทใ่ี ด
ประเพณสี ำคัญของชมุ ชนคอื อะไร
2.รวบรวมหลกั ฐาน หลักฐานท่ีใหข้ ้อมูลเก่ียวกบั โรงเรยี นและชมุ ชน เชน่

1.หลักฐานทเ่ี ปน็ ตวั หนังสือ แบง่ เป็น หนังสือประวตั ิโรงเรยี น หนงั สอื รุน่ หนังสือประจำปีของ
โรงเรียน หนังสอื ประวัตชิ ุมชน หนงั สอื แนะนำสถานทสี่ ำคัญ หนังสอื เหลา่ น้บี อกเลา่ เรอ่ื งราวสำคัญในช่วงเวลา
ตา่ ง ๆ ทำใหเ้ ราเหน็ ความเปล่ียนแปลง เช่น ชมุ ชนขยายตวั ในปใี ด โรงเรยี นสร้างตกึ ใหมเ่ พราะมนี กั เรียนมากข้ึน

2.หลักฐานท่ีไม่ใช่ตวั หนังสือ เช่น สถานที่สำคญั เชน่ วดั อนสุ าวรีย์ พพิ ิธภัณฑ์ รูปปน้ั บุคคล
เชน่ ผกู้ ่อตั้งโรงเรยี น พระสงฆ์ท่ไี ด้รบั ความนบั ถือ เจ้าเมือง บุคคลสำคัญในทอ้ งถนิ่ ภาพถ่าย เช่น ภาพถ่ายของ
โรงเรยี นและชมุ ชนในช่วงเวลาตา่ ง ๆ สงิ่ ของเครอ่ื งใชใ้ นสมัยต่าง ๆ ทีไ่ ด้เก็บไวใ้ นวัด โรงเรยี น พพิ ธิ ภณั ฑ์

การเรยี นร้เู หตกุ ารณ์สำคญั ของชมุ ชนและโรงเรยี นทำใหเ้ ราเหน็ ความต่อเน่ืองของการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ
ทำให้ทราบว่าเหตุการณ์ใดเกิดกอ่ นเกิดหลงั และทราบได้ว่าเหตุการณต์ า่ ง ๆ มคี วามเกยี่ วข้องกันอยา่ งไร รวมทั้ง
ทำให้เราเกิดความภาคภูมิใจในชมุ ชนและโรงเรยี นของเราอีกดว้ ย

ตัวอยา่ ง เรื่องราวสำคัญของโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว จังหวัดอบุ ลราชธานี

พ.ศ. เหตกุ ารณ์สำคญั

2524 กระทรวงมหาดไทยไดต้ รากฤษฎีกา ขยายเทศบาลเมืองอบุ ลราชธานี สภาเทศบาลและคณะเทศมนตรี ได้ออกสำรวจ
การจัดตัง้ โรงเรยี นเทศบาลแหง่ ใหม่ (แหง่ ท่ี 2)

2525 ชาวคมุ้ วดั พระธาตุหนองบวั ประมาณ 400 ครอบครัว ไดร้ ว่ มกันลงชอื่ รอ้ งขอเทศบาลใหจ้ ดั ต้ังโรงเรยี นขึน้ ในบริเวณ
ชมุ ชนวัดพระธาตุหนองบัว ซ่งึ เปน็ ชุมชนใหม่ และประชาชนเรม่ิ หนาแนน่ ขน้ึ

เทศบาลเมอื งอบุ ลราชธานไี ด้รับอนมุ ตั ิจากกรมการปกครอง ใหจ้ ดั ตงั้ โรงเรียนเทศบาลแห่งที่ 2 จากนนั้ ก็ได้สำรวจที่ดนิ

2528 ทีจ่ ะก่อสร้างจนไดท้ ีด่ นิ จำนวน 5 ไร่ 2 งาน อยตู่ รงข้ามกบั วัดพระธาตุหนองบัว ด้านหลงั ตดิ กับหนองบัว

และสภาเทศบาลอนมุ ตั ิงบประมาณ

2529 เริ่มดำเนินการก่อสร้างอาคารเรยี นในเดือนสงิ หาคม

2530 เปิดเรียน วนั ท่ี 1 พฤษภาคม ตง้ั แต่ระดับชัน้ เดก็ เลก็ ถงึ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 จำนวน 8 หอ้ งเรยี น ครู 9 คน
ศกึ ษานเิ ทศก์ช่วยสอน 1 คน ภารโรง 2 คน จำนวนนักเรยี น 234 คน

ใบงานที่ 4 ช่ือ.........................................................
ชน้ั .................... เลขท่ี...................

วชิ าประวตั ิศาสตร์ เร่ือง การลำดับเรื่องราวตามเวลา

คำชี้แจง ใหน้ กั เรียนเรยี งลำดับเหตุการณส์ ำคัญทเี่ กิดขน้ึ ในโรงเรยี นโดยใช้เสน้ เวลา (Timeline)

เสน้ เวลา (Timeline)
แสดงลำดับเหตกุ ารณส์ ำคญั ของ....................................................

ใบความรู้ที่ 4

วิชาประวตั ศิ าสตร์ เร่ือง การลำดบั เร่อื งราวตามเวลา

การเรียบเรียงเรอื่ งราวสำคญั ของชุมชนและโรงเรียน โดยมีการเรยี งลำดบั ตามปี ทำให้เราเห็นไดอ้ ย่าง
ชัดเจนว่าเหตุการณใ์ ดเกดิ ก่อนเกดิ หลงั และเหตุการณ์เหล่านน้ั มีความสัมพนั ธ์ต่อเน่ืองกันอย่างไรดังตัวอยา่ ง
ต่อไปน้ี

เหตุการณ์สำคญั ของโรงเรียนเทศบาล 2 หนองบัว จังหวัดอบุ ลราชธานี

พ.ศ. เหตุการณส์ ำคัญ

2524 กระทรวงมหาดไทยไดต้ รากฤษฎกี า ขยายเทศบาลเมอื งอุบลราชธานี สภาเทศบาลและคณะเทศมนตรี ไดอ้ อกสำรวจ
การจดั ตง้ั โรงเรยี นเทศบาลแหง่ ใหม่ (แหง่ ที่ 2)

2525 ชาวคุ้มวดั พระธาตหุ นองบัวประมาณ 400 ครอบครัว ไดร้ ว่ มกันลงชอ่ื ร้องขอเทศบาลใหจ้ ัดต้ังโรงเรยี นขน้ึ ในบรเิ วณ
ชุมชนวดั พระธาตุหนองบัว ซ่งึ เปน็ ชมุ ชนใหม่ และประชาชนเริม่ หนาแน่นข้ึน

เทศบาลเมอื งอุบลราชธานไี ด้รบั อนุมตั ิจากกรมการปกครอง ใหจ้ ดั ตงั้ โรงเรยี นเทศบาลแห่งที่ 2 จากนนั้ กไ็ ดส้ ำรวจที่ดนิ

2528 ที่จะกอ่ สรา้ งจนไดท้ ่ีดิน จำนวน 5 ไร่ 2 งาน อยตู่ รงข้ามกบั วัดพระธาตหุ นองบัว ดา้ นหลงั ตดิ กับหนองบัว

และสภาเทศบาลอนุมตั ิงบประมาณ

2529 เรมิ่ ดำเนนิ การกอ่ สรา้ งอาคารเรยี นในเดือนสิงหาคม

2530 เปดิ เรยี น วันที่ 1 พฤษภาคม ตง้ั แตร่ ะดับชัน้ เดก็ เลก็ ถึงช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 6 จำนวน 8 หอ้ งเรียน ครู 9 คน
ศกึ ษานิเทศก์ช่วยสอน 1 คน ภารโรง 2 คน จำนวนนกั เรยี น 234 คน

2563 เปดิ เรียนถงึ ระดับชน้ั ม.6 มีครู 67 คน นกั เรยี น 1,397 คน

จากเหตกุ ารณด์ ังกลา่ ว นำมาเรียงลำดับโดยใชเ้ ส้นเวลา (Timeline) ไดด้ งั นี้

เปดิ เรยี นถงึ ระดับชัน้ ม.6 2563
มีครู 67 คน นักเรยี น 1,397 คน
วันที่ 9 มนี าคม เป็นวันสถาปนาโรงเรยี น
เร่มิ ดำเนนิ การกอ่ สร้างอาคารเรียน
ในเดอื นสงิ หาคม 2530 เปิดเรียนวันที่ 1 พฤษภาคม
ตั้งแตร่ ะดบั ชนั้ เดก็ เล็ก ถึง ป.6
ชาวค้มุ วดั พระธาตหุ นองบวั
ไดล้ งชื่อรอ้ งขอเทศบาลให้จดั ตัง้ โรงเรียน มีครู 9 คน นกั เรยี น 234 คน

ในบริเวณชมุ ชน 2529

2528 เทศบาลเมอื งอบุ ลราชธานไี ด้อนุมตั ิ
2525 ให้จดั ตัง้ โรงเรียนในทด่ี ินอยตู่ รงข้าม
วัดพระธาตหุ นองบัว ดา้ นหลงั ติดกบั หนองบัว

2524 เทศบาลเมอื งอุบลราชธานีออกสำรวจ
การจัดต้ังโรงเรยี นเทศบาลแห่งใหม่ (แหง่ ที่ 2)

เส้นเวลา (Timeline)
แสดงลำดับเหตุการณ์สำคัญของ โรงเรียนเทศบาล 2 หนองบวั (ปีพุทธศักราช)

ใบงานท่ี 5 ชื่อ.........................................................
ชน้ั .................... เลขท.่ี ..................

วชิ าประวัติศาสตร์ เรอื่ ง ปจั จัยท่มี ผี ลตอ่ การตง้ั ถน่ิ ฐานและพฒั นาการของชมุ ชน

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นเติม ภ ลงหน้าขอ้ ท่ีเป็นปัจจัยทางด้าน ภูมศิ าสตร์ ในการตงั้ ถน่ิ ฐานของ และเติม ส ลงหน้าข้อ

ที่เป็นปจั จัยทางดา้ น สังคม ในการตั้งถิน่ ฐานของชุมชน

....................... 1.มแี มน่ ้ำไหลผา่ นตลอดสาย
....................... 2.มีถนนตัดผา่ นชมุ ชน
....................... 3.มอี ากาศอบอุ่น ไม่ร้อนจัดหรอื หนาวจดั เกนิ ไป
....................... 4.มีความเจรญิ ทางด้านเทคโนโลยี
....................... 5.มคี วามปลอดภัยในการดำรงชีวติ จากโจรผู้รา้ ย
....................... 6.อยใู่ กลก้ ับสถานท่ีทำงานหรือโรงเรยี น
....................... 7.อยใู่ กล้บริเวณชายฝ่งั ทะเล
....................... 8.อยู่ใกล้กับแหลง่ ธรรมชาติ
....................... 9.อยูใ่ กล้กับสถานรกั ษาพยาบาล
....................... 10.มพี ืน้ ดนิ อดุ มสมบรู ณ์ ทำให้เพาะปลูกได้ผลผลติ ดี

ใบความรู้ท่ี 5

วชิ าประวตั ิศาสตร์ เรอื่ ง ปัจจัยทม่ี ผี ลตอ่ การตงั้ ถนิ่ ฐานและพัฒนาการของชุมชน

การตั้งถิ่นฐานและการดำรงชีวิตของผู้คนในแต่ละช่วงเวลามีความแตกต่างกัน และขึ้นอยู่กับปัจจัย
หลายประการ ซงึ่ เราอาจแบง่ กวา้ ง ๆ ได้ 2 ปัจจยั คอื ปจั จยั ทางภมู ศิ าสตรแ์ ละปจั จัยทางสังคม

ปัจจัยทางภูมิศาสตร์ ได้แก่ สภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ ทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีผลกระทบ
ต่อการดำรงชีวิต วิถีชีวิต และการประกอบอาชีพ เช่น คนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ใกล้แหล่งน้ำ พื้นดินมีความอุดม
สมบูรณ์มักประกอบอาชีพเกษตรกรรม คนที่อาศัยอยู่ริมแม่น้ำ ริมทะเล มักประกอบอาชีพประมงหรือเพาะเลี้ยง
สัตวน์ ้ำ

ปัจจัยทางสังคม เป็นปัจจัยทางด้านสภาพแวดล้อมอื่น ๆ ที่เกิดจากการสร้างสรรค์ของผู้คนในสงั คม เชน่
ปัจจัยทางเชื้อชาติ คนที่มีเชื้อชาติเดียวกัน มักจะตั้งถิ่นฐานในบริเวณที่มีคนเชื้อชาติเดียวกันอาศัยอยู่
ด้วยความรู้สึกผูกพันใกล้ชิด เปรียบเสมือนเป็นเครือญาติและสามารถปฏิบัติกิจกรรมหรือแสดงออกตามลักษณะ
ของเชื้อชาตไิ ดต้ ามรปู แบบของตน บางคนเลอื กตั้งถน่ิ ฐานจากปจั จัยด้านความเจริญทางเทคโนโลยี เช่น ต้ังถิ่นฐาน
ใกล้กับศูนย์กลางการเผยแพร่ความรู้ บางคนเลือกตั้งถิ่นฐานในพื้นที่ใกล้กับสถาบันการศึกษา บางคนเลือกตั้ง
ถิ่นฐานในบริเวณที่มีความพร้อมด้านสาธารณูปโภค มีความสะดวกในการเดินทาง หรือบางคนเลือกตั้งถิ่นฐานใน
บรเิ วณที่มีความปลอดภยั สงู

ใบงานที่ 6 ช่อื .........................................................
ชัน้ .................... เลขที่...................

วิชาประวตั ศิ าสตร์
เรื่อง ลกั ษณะสำคัญของวัฒนธรรมประเพณแี ละวัฒนธรรมชุมชนทเ่ี กี่ยวเนอื่ งกับภูมิศาสตร์

คำช้แี จง ให้นกั เรียนยกตัวอย่างวฒั นธรรมประเพณแี ละวัฒนธรรมชุมชนท่เี ก่ยี วเนอื่ งกับภมู ศิ าสตร์ท่ีกำหนดให้

1.ชมุ ชนทต่ี ง้ั อย่รู ิมแม่น้ำ

………………………………………………………………………………………………………………


2.ชุมชนทีม่ ลี กั ษณะภูมปิ ระเทศเปน็ ชายฝง่ั ทะเลสวยงาม
……………………………………………………………………………………………………………

3.ชุมชนที่ต้งั อย่ใู นพ้นื ท่ที ม่ี คี วามแหง้ แล้ง
………………………………………………………………………………………………………

4.พน้ื ท่ที ่ีเปน็ เทือกเขา
…………………………………………………………………………………………………

ใบความรู้ที่ 6

วิชาประวัตศิ าสตร์
เร่ือง ลกั ษณะสำคัญของวัฒนธรรมประเพณแี ละวฒั นธรรมชุมชนทีเ่ กีย่ วเน่ืองกับภมู ิศาสตร์
วัฒนธรรมประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชนที่เกี่ยวเนื่องกับสภาพภูมิประเทศ สภาพภูมิอากาศ
ทรัพยากรธรรมชาติ คือ สภาพแวดล้อมที่อยู่รอบ ๆ ตัว มีผลกระทบต่อการดำรงชีวิต วิถีชีวิต และการประกอบ
อาชีพ จึงทำให้คนไทยในอดีตมีอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการเกษตรกรรม โดยเฉพาะการทำไร่ทำนา ทำให้มีลักษณะ
วัฒนธรรมประเพณีที่มีลักษณะแบบสังคมเกษตรกรรม ความอุดมสมบูรณ์เป็นเรื่องสำคัญ การทำนาอาศัยน้ำจาก
แหล่งน้ำธรรมชาติเป็นหลัก เช่น แม่น้ำลำคลอง จึงมีประเพณีที่คล้ายคลึงกันโดยเกี่ยวข้องและให้ความสำคัญ
กบั นำ้ เช่น การร้องเพลงเรอื ประเพณแี ข่งเรือ ประเพณที ำขวัญขา้ ว
พื้นที่เทือกเขา มีป่าไม้มาก ที่ราบมีน้อยซึ่งจะอยู่ระหว่างหุบเขา และมีแม่น้ำไหลผ่าน การเพาะปลูก
บริเวณเทือกเขาจึงมีลักษณะการเพาะปลูกแบบขั้นบันได มีประเพณีที่เกี่ยวข้องกับธรรมชาติ เช่น พิธีเลี้ยงผีขุนน้ำ
ให้คุม้ ครองแหล่งน้ำให้มีน้ำไหลตลอดปีใหเ้ พยี งพอต่อการเพาะปลูกตลอดฤดูกาล
พื้นที่ที่ราบสูง มีความแห้งแล้งในบางพื้นที่ พื้นดินส่วนใหญ่เป็นดินปนทราย ไม่กักเก็บน้ำ ชาวบ้านเลือก
ทำนาในที่ลุ่มใกล้หนองน้ำ พืชที่ปลูกก็จะเลือกพืชที่ทนแล้งได้ดี เช่น ปอ มันสำปะหลัง ประเพณีที่เกี่ยวข้องจึงมี
ลักษณะอำนวยให้เกิดความอดุ มสมบูรณ์ ขอใหฝ้ นตก เชน่ ประเพณบี ญุ บงั้ ไฟ ประเพณแี หน่ างแมว
พื้นที่ที่มีลักษณะเป็นคาบสมุทร ที่มีทะเลขนาบทั้งด้านตะวันตกและด้านตะวันออก ตั้งอยู่ในเขตมรสุม
ซึ่งมีฝนตกชุกตลอดทั้งปี มีภูเขาและป่าไม้อุดมสมบูรณ์ มักประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทั้งทำนา ทำสวนผลไม้
สวนกาแฟ สวนปาล์มน้ำมัน สวนยางพารา และการประมง ลักษณะวัฒนธรรมประเพณีบางส่วนมีลักษณะของ
ความบันเทิงที่เกี่ยวข้องกับภูมปิ ระเทศ เช่น การแข่งเรอื ที่ต่อขึ้นอย่างมีเอกลักษณป์ ระจำถิ่น เช่น เรือกอและ และ
เปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วท่ีสวยงาม
นอกจากนี้ ลักษณะทางภูมิศาสตร์ทำให้วิถีชีวิตของผู้คนต้องมีความสอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศและ
ภมู ิอากาศ เชน่ บา้ นเรอื นทอ่ี าศัยในพ้ืนทร่ี าบลุ่มใกลแ้ หล่งนำ้ จะปลกู บา้ นท่ีมใี ต้ถุนสงู เพ่ือป้องกนั น้ำท่วม
คนในแต่ละชุมชนมีการสร้างสรรค์วัฒนธรรมด้านอาหารให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อม เช่น ชุมชน
ที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ มีความอุดมสมบูรณ์ ชาวบ้านคิดค้นวิธีเก็บรักษาอาหาร โดยนำปลานานาชนิดมาคลุกเคล้ากับ
เกลือและรำขา้ วหรือขา้ วคั่วแลว้ นำไปบรรจุลงไห เรียกว่า ปลารา้ สามารถเก็บไวร้ ับประทานไดน้ านเปน็ ปี ๆ
สภาพภูมิศาสตร์มีผลทำให้ชุมชนแตล่ ะพื้นที่ของประเทศไทยมวี ฒั นธรรมประเพณีและวัฒนธรรมชุมชนที่
แตกต่างกันตามลักษณะภูมิประเทศ ภูมิอากาศ และทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งมีอิทธิพลต่อการประกอบอาชีพและ
วิถกี ารดำเนินชวี ิตของผู้คนในแต่ละท้องถ่นิ

ใบงานท่ี 7 ชือ่ .........................................................
ชั้น.................... เลขที.่ ..................

วิชาประวัตศิ าสตร์ เรื่อง ลักษณะสำคญั ของวัฒนธรรมประเพณีและวฒั นธรรมชุมชน
ท่เี ก่ยี วเนอ่ื งกบั ศาสนาและความเชื่อ

คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง

1.บอกวฒั นธรรมประเพณีที่เกี่ยวเนือ่ งกับพระพทุ ธศาสนาท่ีนักเรยี นรจู้ ัก
............................................................................................................................. ..............

2.บอกวฒั นธรรมประเพณีที่เก่ยี วเนือ่ งกบั วฒั นธรรมจีนท่ีนักเรียนรู้จกั
............................................................................................................................. ..............

3.บอกวัฒนธรรมประเพณที ่เี กย่ี วเนือ่ งกับอาชีพเกษตรกรรมทีน่ ักเรยี นรูจ้ ัก
............................................................................................................................. ..............

4.บอกวฒั นธรรมประเพณีทเ่ี ก่ียวเนื่องกับศาสนาและความเช่อื ในชุมชนของนกั เรยี น
............................................................................................................................. ..............

ใบความรู้ท่ี 7

วชิ าประวตั ศิ าสตร์ เร่ือง ลักษณะสำคญั ของวัฒนธรรมประเพณแี ละวฒั นธรรมชุมชน
ทีเ่ กีย่ วเนือ่ งกับศาสนาและความเชื่อ

ความเชื่อและศาสนามีความสำคัญกับผู้คนมาตั้งแต่อดีต และทำให้เกิดการสร้างสรรค์ประเพณีและ
วัฒนธรรมขึ้น โดยลักษณะสำคัญของวัฒนธรรมประเพณแี ละวัฒนธรรมชมุ ชนที่เกี่ยวเนื่องกับศาสนาและประเพณี
ของคนไทยมลี กั ษณะท่แี ตกตา่ งกันตามการนับถือศาสนาและส่งิ ศักด์สิ ทิ ธิ์ รวมถึงการนบั ถอื วญิ ญาณของบรรพบรุ ุษ

สังคมไทยมีความเชื่อดั้งเดิมที่เกี่ยวข้องกับศาสนาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามธรรมชาติที่สามารถดลบันดาล
ให้เกิดความสุข ความเจริญ และความสมบูรณ์ให้กับตนเอง ท้องถิ่น บ้านเมือง หรือดลบันดาลให้เกิดความสุขต่อ
วิถีชีวิตความเป็นอยู่พื้นฐาน ความเชื่อดั้งเดิมในเรื่องผีสางเทวดาและความเชื่อทางศาสนา ทำให้มีการสร้างสรรค์
วัฒนธรรมประเพณีขึ้น โดยเฉพาะพระพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ ในการประกอบพิธีตา่ ง ๆ จะมีความเชื่อ
เหลา่ นอ้ี ยดู่ ว้ ย เช่น การทำบญุ บา้ น การบายศรสี ขู่ วัญ การเซ่นไหวผ้ บี ้านผเี รือน

นอกจากน้ี ดนิ แดนประเทศไทยยังมีชาวจีนอพยพเข้ามาอยูเ่ ป็นจำนวนมาก จงึ ทำให้มปี ระเพณีที่เก่ียวกับ
วัฒนธรรมจีนหลายอยา่ ง เชน่ การกนิ เจ การไหว้บรรพบุรุษ

วัฒนธรรมประเพณีที่เกีย่ วข้องกับอาชีพเกษตรกรรม ชาวนามีความเชื่อว่าแมโ่ พสพเป็นเทวดาที่ดแู ลข้าว
หากตอ้ งการให้ข้าวในนาของตนเจริญงอกงาม ก็จะมีการเซน่ สรวงบูชาแม่โพสพ รวมถงึ การทำขวญั ข้าว

ลกั ษณะสำคัญของวัฒนธรรมประเพณแี ละวฒั นธรรมของชุมชนทเี่ ก่ียวเนอ่ื งกับศาสนาและความเช่อื ทำให้
เกิดการสร้างสรรค์ประเพณีที่เป็นลักษณะร่วมกันของสังคมไทย และบางความเชื่อก็เป็นลักษณะเฉพาะหรือ
ประจำถิ่น โดยมีจุดประสงค์ คือ เพื่อสร้างความสุขและความสบายใจให้กับคนในท้องถิ่นนั้น ๆ ซึ่งสอดคล้องกับ
หลักศาสนาและความเช่อื ของชมุ ชน

ใบงานท่ี 8 ชอื่ .........................................................
ช้ัน.................... เลขท่.ี ..................

วชิ าประวัตศิ าสตร์ เร่ือง ลักษณะสำคัญของวัฒนธรรมประเพณแี ละวฒั นธรรมชุมชน
ทเ่ี กีย่ วเน่อื งกับความเปน็ มาทางประวัตศิ าสตร์

คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นอ่านข้อความต่อไปนี้แล้วตอบคำถามใหถ้ กู ต้อง

งานสดุดีวรี กรรมพระประทุมวรราชสรุ ยิ วงศ์ (เจ้าคำผง)
ณ ทุ่งศรเี มือง จ.อบุ ลราชธานี ซง่ึ จังหวดั อบุ ลราชธานี ร่วมกบั สว่ นราชการ
รัฐวิสาหกิจ ส่วนท้องถิ่น มลู นธิ เิ จา้ คำผง ภาคเอกชน และประชาชนชาวจงั หวดั
อุบลราชธานี รว่ มจดั งานขึน้ เพือ่ เผยแพรเ่ กยี รตคิ ุณพระประทุมวรราชสุริยวงศ์
(เจา้ คำผง) ในฐานะผู้ก่อตง้ั เมืองอุบลราชธานี แสดงออกถงึ ความกตญั ญตู ่อบรรพบรุ ษุ
และสรา้ งความรักความสามัคคี มจี ติ อาสา และวนั รำลึกแห่งความดีชาวอบุ ลราชธานี

1.ขอ้ ความขา้ งตน้ กลา่ วถึงเรอื่ งใด

..........................................................................................................................

2.ผลงานสำคัญของพระประทุมวรราชสุริยวงศ์ คืออะไร

..........................................................................................................................

3.เมอ่ื นกั เรียนอา่ นข้อความข้างต้นแล้วรู้สึกอย่างไร

..........................................................................................................................

4.บอกวฒั นธรรมประเพณที ่เี กี่ยวเนอ่ื งกบั ความเปน็ มาทางประวัติศาสตร์มา 1 ขอ้

..........................................................................................................................

ใบความรู้ท่ี 8

วิชาประวตั ศิ าสตร์ เรอ่ื ง ลักษณะสำคัญของวัฒนธรรมประเพณีและวฒั นธรรมชุมชน
ท่ีเก่ยี วเน่ืองกับความเปน็ มาทางประวตั ศิ าสตร์

ชมุ ชนท่ีมกี ารต้ังถิน่ ฐานมาตง้ั แต่อดีต มักมเี รื่องราววัฒนธรรมหรอื ประเพณีที่สืบเนื่องมาจากเหตุการณใ์ น
สมยั อดตี เชน่ การจดั งานเผาเทียนเล่นไฟ ทีอ่ ทุ ยานประวัติศาสตรส์ โุ ขทยั เพื่อสบื ทอดประเพณีตามทป่ี รากฏใน
หลักศลิ าจารกึ หลักท่ี 1 ซง่ึ กล่าวถึงงานเผาเทียนเล่นไฟวา่ เป็นงานรน่ื เรงิ ของกรุงสุโขทัย

การจดั งานวนั สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ท่เี มืองพัทยา จังหวัดชลบรุ ี และท่ีจังหวัดจันทบุรี เนื่องใน
วนั คล้ายวนั ปราบดาภิเษกข้ึนครองราชยข์ องสมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช เพ่ือรำลึกถึงวีรกรรมการกอบกู้
เอกราชของกรงุ ศรีอยุธยา

อ่านเพม่ิ เตมิ ความรู้

งานสดดุ ีวีรกรรมพระประทุมวรราชสุรยิ วงศ์ (เจา้ คำผง)
ณ ทงุ่ ศรเี มือง จ.อุบลราชธานี ซึ่งจงั หวัดอุบลราชธานี รว่ มกับสว่ นราชการ
รัฐวสิ าหกจิ สว่ นทอ้ งถิ่น มลู นธิ ิเจา้ คำผง ภาคเอกชน และประชาชนชาวจงั หวัด
อบุ ลราชธานี รว่ มจดั งานขนึ้ เพ่อื เผยแพร่เกียรติคุณพระประทุมวรราชสรุ ิยวงศ์
(เจ้าคำผง) ผู้ก่อตั้งเมืองอุบลราชธานี แสดงออกถึงความกตัญญูตอ่ บรรพบุรษุ
และสรา้ งความรักความสามคั คี มจี ติ อาสา และวนั รำลกึ แห่งความดีชาวอบุ ลราชธานี

ใบงานที่ 9 ชื่อ.........................................................
ช้นั .................... เลขท.่ี ..................

วชิ าประวัติศาสตร์ เร่ือง ลักษณะสำคญั ของวัฒนธรรมประเพณแี ละวฒั นธรรมชุมชน
กบั การผสมผสานทางวัฒนธรรมกบั ชนชาติตา่ ง ๆ

คำช้แี จง ให้นักเรยี นบอกวฒั นธรรมประเพณขี องชมุ ชนกบั การผสมผสานทางวฒั นธรรมกบั ชนชาตติ า่ ง ๆ ลงใน
ช่องว่างให้ถูกตอ้ ง

ชุมชนชาวจีน ชุมชนคนไทยเช้ือสายอินเดยี

...................................................................... ......................................................................
...................................................................... ......................................................................
...................................................................... ......................................................................
..................................................................... .....................................................................

วฒั นธรรมประเพณีของชุมชน
กบั การผสมผสานวฒั นธรรมชนชาตติ ่าง ๆ

ชมุ ชนชาวมอญ

......................................................................
......................................................................
......................................................................
.....................................................................

ใบความรู้ที่ 9

วิชาประวตั ศิ าสตร์ เรื่อง ลักษณะสำคญั ของวัฒนธรรมประเพณีและวัฒนธรรมชุมชน
กบั การผสมผสานทางวัฒนธรรมกบั ชนชาตติ ่าง ๆ

สังคมไทยเป็นสังคมเป็นสังคมที่มีความหลากหลายทางชาติพันธุ์ เนื่องจากในสมัยโบราณดินแดนไทยเปน็
ดนิ แดนท่มี ผี ู้คนอพยพเข้ามาต้ังถิ่นฐานจำนวนมาก เกดิ การอยรู่ วมกันของผู้คนที่มีพืน้ ฐานความคิด และความเชื่อที่
แตกต่างกัน โดยแต่ละกลุ่มชนต่างก็มีลักษณะวัฒนธรรมเฉพาะของตนเอง ตามความเชื่อและสิ่งที่ปฏิบัติ
สืบทอดกนั มา เชน่

ชาวจีนที่อพยพเข้ามาในดินแดนไทยตั้งแต่สมัยอยุธยา ได้นำวัฒนธรรมของตนเองติดมาด้วย ทำให้
วัฒนธรรมของชาวจีนเผยแพร่อยู่ในสังคมไทย เช่น ชุมชนชาวประมงเชื้อสายจีนจะตั้งศาลเจ้ามาทับทิม มีพิธีบูชา
เพื่อขอโชคลาภหรือขอให้ปลอดภัยในการออกเรือหาปลา ส่วนคนไทยเชื้อสายจีนยังได้รักษาประเพณีตรุษจีน ซึ่ง
หมายถงึ เทศกาลปีใหม่ของชาวจีน จะมกี ารทำพิธไี หว้เจ้า เคารพสงิ่ ศกั ดสิ์ ิทธิ์ตามความเช่ือและกราบไหว้บรรพบุรุษ
มีการจัดเตรียมอาหารสำหรับไหว้เจ้า และรับประทานร่วมกันในครอบครัว นอกจากนี้ วัฒนธรรมด้านอาหารของ
ชาวจีน เช่น กว๋ ยเต๋ียว บะหมี่ เกยี๊ ว เปน็ อาหารจีนทีไ่ ด้รับความนยิ มทัว่ ไปในสังคมไทย

นอกจากนี้ บางชุมชน เช่น ภูเก็ต หาดใหญ่ ที่มีชาวตะวันตกและชาวจีนอพยพเข้าไปอาศัยอยู่ด้วยกัน จึง
ทำให้วฒั นธรรมเกิดการผสมผสาน เช่น ลกั ษณะของบา้ นเรือนทร่ี บั อิทธิพลมาจากบ้านของชาวจีนและชาวตะวันตก
ท่เี รียกว่า อาคารแบบชิโนโปรตกุ สี

ชุมชนคนไทยเชื้อสายอินเดีย ชาวอินเดียเข้ามาเกี่ยวข้องและผสมผสานกับสังคมไทยเป็นเวลายาวนาน
ชาวอินเดียในสมัยโบราณมีความเกี่ยวข้องกับราชสำนัก ในฐานะผู้เชี่ยวชาญในพิธีพราหมณ์ และชาวอินเดีย
บางส่วนก็เปน็ พอ่ ค้าเข้ามาตั้งถ่นิ ฐานในดินแดนไทย มีการตงั้ ชุมชนและการแสดงออกทางวฒั นธรรม เชน่ การสร้าง
เทวรูปของเทพเจา้

ชุมชนชาวมอญ คนไทยเชื้อสายมอญอาศัยอยู่กระจายเกือบทุกพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณภาคกลาง
เชน่ คนไทยเชอ้ื สายมอญท่จี งั หวดั นนทบรุ ี ปทุมธานี สมทุ รปราการ คนไทยเชอื้ สายมอญมปี ระเพณีของตนเอง เช่น
ประเพณีสงกรานต์ที่พระประแดง หรือ วัฒนธรรมด้านอาหารของชาวมอญ เช่น ข้าวแช่ ซึ่งเป็นอาหารที่ใช้สังเวย
ทวยเทพในเทศกาลสงกรานต์ ปัจจบุ ันกเ็ ปน็ อาหารทคี่ นไทยนิยมรับประทานเพอื่ ช่วยคลายร้อนในฤดรู ้อน

ลักษณะสำคัญของวัฒนธรรมประเพณีและวัฒนธรรมของชุมชนกับการผสมผสานทางวัฒนธรรมกับชน
ชาติต่าง ๆ มีลักษณะที่ยังคงเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแต่ละเชื้อชาติ เพื่อรักษาขนบธรรมเนียมตามบรรพบุรุษ
ขณะเดยี วกนั กจ็ ะผสมผสานกบั ความเชอื่ ของคนไทยจนกลายเปน็ ส่วนหน่ึงของวัฒนธรรมไทยทหี่ ลากหลาย

ใบงานท่ี 10 ชอ่ื .........................................................
ชน้ั .................... เลขท.ี่ ..................

วชิ าประวัติศาสตร์ เร่อื ง ความเหมือนและความแตกต่างของวัฒนธรรมของชมุ ชน

คำชี้แจง ใหน้ ักเรยี นทำเคร่ืองหมาย / ลงหนา้ ขอ้ ความทถี่ ูก และทำเครื่องหมาย X ลงหนา้ ข้อความท่ีผดิ

....................... 1.ประเพณีวัฒนธรรมที่เกีย่ วกับข้าว เชน่ การทำขวัญขา้ ว
....................... 2.ชุมชนในภาคใตน้ ยิ มรบั ประทานข้าวเหนียว
....................... 3.ชมุ ชนท่ีอยใู่ นพนื้ ที่แหง้ แล้งมักมปี ระเพณขี อฝน เชน่ ประเพณีบญุ บั้งไฟ
....................... 4.ประเพณที ่ีทำเพื่อแสดงความเคารพตอ่ แหล่งน้ำ เชน่ การไหลเรือไฟ
....................... 5.คนไทยมีความเชือ่ พนื้ ฐานดั้งเดิมเรือ่ งผีสางเทวดาและศาสนา
....................... 6.การตัง้ ศาลพระภูมิเปน็ การปฏิบัตติ ามความเชอ่ื ของศาสนาอสิ ลาม
....................... 7.ประเพณกี ารละเลน่ ทีเ่ กยี่ วกบั นำ้ เช่น ประเพณีว่งิ ควาย
....................... 8.ประเพณที ีม่ เี ฉพาะถ่นิ เชน่ ประเพณีตักบาตรดอกไม้ จงั หวดั สระบุรี
....................... 9.คนไทยมีความเชอ่ื ทางพระพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์
....................... 10.คนไทยนยิ มปลกู ขา้ วและรับประทานขา้ วเปน็ อาหารหลัก

ใบความรู้ท่ี 10

วิชาประวตั ิศาสตร์ เรือ่ ง ความเหมือนและความแตกตา่ งของวัฒนธรรมของชุมชน

ชุมชนแตล่ ะแหง่ มีวัฒนธรรมชุมชนทเี่ ปน็ วถิ กี ารดำเนนิ ชวี ิตของคนในชมุ ชน ซงึ่ ชมุ ชนแต่ละแห่งกจ็ ะมี
วฒั นธรรมท้งั ทีเ่ หมือนและแตกต่างกนั ขน้ึ อยู่กบั ปจั จยั ดา้ นตา่ ง ๆ ดงั น้ี

ปจั จัยทางภูมิศาสตร์ ปจั จัยทางภูมิศาสตร์สง่ ผลใหพ้ น้ื ท่ที ีม่ ีลกั ษณะเหมือนกนั มวี ัฒนธรรมของชมุ ชนท่ี
คลา้ ยคลึงกัน เชน่ พน้ื ท่ีราบ มีดนิ และแหลง่ น้ำทส่ี มบรู ณ์ ทำใหม้ ีการทำนาและมีประเพณวี ฒั นธรรมที่เก่ียวกบั ข้าว
เช่น การทำขวัญข้าว ในจงั หวัดสุพรรณบุรี จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์

คนไทยมีการปลูกขา้ วและรบั ประทานข้าวเป็นอาหารหลกั แต่ละชมุ ชนอาจนยิ มรับประทานข้าวท่แี ตกต่าง
กนั เช่น บางชุมชนนยิ มรบั ประทานข้าวเจา้ แต่ชุมชนในจังหวดั ทางภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนือหรอื ภาคเหนือนยิ ม
รบั ประทานข้าวเหนียว บางชมุ ชนท่อี ยใู่ นพื้นทแ่ี ห้งแลง้ มักมีประเพณีขอฝน เพ่ือใหฝ้ นตกต้องตามฤดูกาล เช่น
ประเพณีบญุ บั้งไฟ จงั หวัดยโสธร และประเพณแี ห่นางแมว แตใ่ นพ้ืนที่ทไ่ี ม่แห้งแล้ง อย่ใู กลแ้ หล่งนำ้ จะมีประเพณี
เพื่อแสดงความเคารพตอ่ แหล่งนำ้ เชน่ ประเพณีไหลเรือไฟ การแขง่ เรือ

ปัจจยั ทางศาสนาและความเชือ่ ในดา้ นศาสนาและความเชื่อนนั้ คนไทยมพี ้ืนฐานดั้งเดิมในเรอ่ื งผสี าง
เทวดาและความเช่อื ทางศาสนา โดยเฉพาะพระพทุ ธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ ในการประกอบพิธตี ่าง ๆ เช่น
การทำบญุ บา้ นจะมีพธิ ีสงฆ์ทางพระพทุ ธศาสนา มกี ารดูฤกษ์ยามและการตง้ั ศาลพระภูมิตามความเช่อื ในศาสนา
พราหมณ์ และมีการเซน่ ไหวผ้ ีบา้ นผเี รือน ซง่ึ แตล่ ะชมุ ชนกม็ ีประเพณที างศาสนาทง้ั ทเ่ี หมือนและแตกตา่ งกนั หรอื
เป็นประเพณีที่มีเฉพาะทอ้ งถ่ิน เช่น ประเพณตี ักบาตรดอกไมใ้ นวนั เข้าพรรษา จงั หวดั สระบรุ ี ประเพณีไหลเรอื ไฟ
จงั หวดั นครพนม


Click to View FlipBook Version