The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pimmada.ana, 2021-01-12 03:00:47

annualreport63

annualreport63

คานา

สถาบนั วิจัยวทิ ยาศาสตร์สาธารณสขุ เปน็ หนํวยงานในสงั กัดกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
มีภารกิจหลักตามกฎหมายคือ ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และพัฒนาองค์ความร๎ูและเทคโนโลยีทางห๎องปฏิบัติการด๎าน
สุขภาพ และด๎านชันสูตรโรค ได๎แกํ แบคทีเรีย ไวรัส เช้ือรา พาราสิต โรคทางพันธุกรรม พิษวิทยา ชีวเคมี การตรวจ
วิเคราะหผ์ ลิตภณั ฑก์ าจัดพาหะนาโรค การให๎บริการการทดสอบความชานาญห๎องปฏิบัติการ และการให๎บริการเชื้อ/
สารมาตรฐาน เป็นต๎น มีความสาคัญตํอการสร๎างขีดความสามารถในการตอบสนองตํอโรคและภัยสุขภาพทาง
ห๎องปฏิบัติการของประเทศและสมรรถนะหลักของประเทศ ด๎านการพัฒนานวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์การแพทย์
รวมทัง้ ไดร๎ บั การจัดตัง้ เป็นห๎องปฏิบัตกิ ารอ๎างอิงดา๎ นวทิ ยาศาสตร์การแพทยแ์ ละสาธารณสุขในระดบั ภูมภิ าคและระดบั
สากล มีความสาคัญตํอการสร๎างขีดความสามารถในการตอบสนองตํอโรคและภัยสุขภาพทางห๎องปฏิบัติการของ
ประเทศ และสมรรถนะหลักของประเทศ ด๎านห๎องปฏิบัติการสาธารณสุข ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก
บทบาทของหอ๎ งปฏิบัตกิ ารอ๎างอิงระดับชาติ ครอบคลุมการตรวจวิเคราะห์เพ่ือการอ๎างอิง การเฝูาระวังและสอบสวน
โรคและการระบาด การพัฒนาสมรรถนะหลักด๎านหอ๎ งปฏิบัติการของประเทศ

การดาเนินงานในรอบปี 2563 นอกเหนือจากภารกิจตามพันธกิจปกติที่มีความก๎าวหน๎าโดยลาดับแล๎ว
สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขยังได๎ดาเนินโครงการและงานตําง ๆ ทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ
โดยมงํุ เนน๎ การพฒั นาการตรวจวินิจฉัยทั้งด๎านโรคติดเชื้อและโรคไมํติดเช้ือ พัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพ พัฒนาศักยภาพ
หอ๎ งปฏิบัติการเครอื ขาํ ย การเฝูาระวังการเปล่ียนแปลงสายพันธ์ุของเชื้อกํอโรค การเตรียมความพร๎อมห๎องปฏิบัติการ
ทดสอบความเป็นพิษวิทยาระบบชนิดเฉียบพลันในสัตว์ทดลอง การจัดทาข๎อมูลพันธุกรรมเชิงโมเลกุลและจีโนมส์
ต๎นแบบของเห็ดพิษเพ่ือการพฒั นานวัตกรรมทางการแพทย์ การมสี วํ นรวํ มดาเนินงานวาระความมนั่ คงด๎านสขุ ภาพโลก
ชุดกิจกรรม Detect 1 National Laboratory System รวมถึงการเฝูาระวังเช้ือด้ือยาต๎านจุลชีพ เช้ือไข๎หวัดใหญํ เป็นต๎น
โดยเฉพาะการดาเนนิ งานภายใตส๎ ถานการณ์การแพรรํ ะบาดของโรคโควดิ -19 ตามท่ีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ได๎รับ
มอบหมายจากกระทรวงสาธารณสุขให๎เป็นหนํวยงานหลักดูแลภาพรวมงานด๎านห๎องปฏิบัติการ กรณีโรคปอดอักเสบ
จากเชือ้ ไวรัสโคโรนาสายพันธ์ุใหมํ 2019 โดยสถาบนั วิจยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ เป็นหนวํ ยงานท่ีรับผิดชอบด๎านการ
ตรวจหาเช้ือโควิด-19 ทางห๎องปฏิบัติการที่มีประสิทธิภาพ และด๎วยความรํวมแรงรํวมใจของทุกสํวน ความเสียสละ
และทํุมเทปฏิบัติหน๎าท่ีทั้งในภาวะปกติและในกรณีเกิดการระบาดของโรคตํางๆ มีสํวนชํวยให๎การสร๎างสรรค์ผลงาน
นวตั กรรมเกิดประโยชนท์ งั้ ตํอประชาชนและระบบการแพทยแ์ ละสาธารณสุขของประเทศ

รายงานประจาปี 2563 น้ี จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเผยแพรํถึงหน๎าที่ความรับผิดชอบ การแบํงสํวน
ราชการ พร๎อมทั้งแสดงผลการปฏิบัติงานในรอบปีงบประมาณ 2563 จึงหวังเป็นอยํางยิ่งวํารายงานประจาปีฉบับน้ี
จะเป็นประโยชนต์ ํอหนวํ ยงานท่เี กย่ี วขอ๎ งและผู๎ทีส่ นใจนาไปใช๎ไดต๎ ามสมควร และขอบคณุ เจา๎ หนา๎ ท่ีทกุ ฝุายท่ีเก่ียวขอ๎ ง
ซ่ึงไดร๎ ํวมกันปฏิบัตหิ น๎าท่ีและภารกิจตาํ ง ๆ ที่ได๎รับมอบหมายจนสาเรจ็ ลลุ ํวงไปดว๎ ยดีตามวตั ถุประสงค์

(นายแพทย์บลั ลงั ก์ อุปพงษ)์
ผ๎อู านวยการสถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข iii

สารบญั

หน้า

คานา............................................................................................................................. .......................... iii
สารบัญ.................................................................................................................................................... iv
ผงั โครงสรา้ ง............................................................................................................................. ............... vi
แผนทตี่ ้งั website QR code................................................................................................................ vii
ทาเนยี บผบู้ ริหาร และหวั หนา้ กลมุ่ /ฝ่าย/งาน สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตร์สาธารณสขุ .......................... viii
บทที่ 1 วิสัยทัศน์ พันธกิจ บทบาทหนา้ ท่ี.............................................................................................. 1
บทท่ี 2 ผลการดาเนนิ งาน ประจาปงี บประมาณ 2563........................................................................ 3

2.1 งานวิจัย................................................................................................................................. 3
2.2 งานบริการ ตรวจวนิ จิ ฉยั /ยนื ยัน การประเมนิ คุณภาพชดุ ตรวจ............................................ 11
2.3 การดาเนนิ งานด๎านระบบคณุ ภาพ......................................................................................... 32

2.3.1 การทดสอบความชานาญทางหอ๎ งปฏบิ ัติการ.................................................................... 33
2.3.2 การสอบเทยี บเคร่ืองมือ.................................................................................................. 39
2.4 การดาเนินการฝุายบรหิ ารท่ัวไป............................................................................................ 41
2.5 ผลงานวิจยั ตีพมิ พ์ในวารสาร.................................................................................................. 49
2.6 ผลงานและบุคลากรที่ได๎รับรางวัล......................................................................................... 82
2.7 การจดั ประชมุ /อบรม/สัมมนา/ฝึกงาน/ดูงาน........................................................................ 85
บทที่ 3 เร่ืองเลา่ ....................................................................................................................................... 92
3.1 ผลการดาเนนิ งานตามคารบั รองการปฏบิ ัตริ าชการ ประจาปงี บประมาณ 2563................... 92
3.1.1 ระดับความสาเร็จของการพฒั นาศักยภาพหอ๎ งปฏบิ ตั ิการเครือขาํ ย

เพือ่ การเฝาู ระวังเชอื้ ดอื้ ยาตา๎ นจลุ ชพี ……………………………………………….…………………... 95
3.1.2 ระดับความสาเรจ็ การเตรียมความพรอ๎ มห๎องปฏิบัตกิ ารทดสอบความเปน็ พิษวทิ ยาระบบชนดิ

เฉยี บพลนั ในสตั ว์ทดลอง (Acute systemic toxicity) สอดคล๎องกบั มาตรฐาน OECD GLP…. 100
3.1.3 ระดบั ความสาเรจ็ ของโครงการพันธุกรรมเชิงโมเลกลุ และจโี นมสต์ น๎ แบบของเหด็ พิษเพือ่ การ

พฒั นานวัตกรรมทางการแพทย.์ ...................................................................................... 102
3.2 เรอื่ งเลําจากห๎องปฏบิ ัตกิ ารตรวจ “โควิด-19”....................................................................... 104

3.2.1 ถอดรหสั พันธกุ รรมเช้ือไวรสั โคโรนา 2019 ทง้ั จีโนม”...สู่ชดุ ตรวจวินิจฉัยโรคโควดิ 19…..... 104
3.2.2 มาตรฐานความปลอดภัยทางห๎องปฏิบตั กิ าร..................................................................... 109
3.2.3 การพัฒนาเครอื ขาํ ยหอ๎ งปฏิบัตกิ ารตรวจโรคโควดิ -19..................................................... 111
3.2.4 การบรหิ ารจัดการข๎อมูลทางหอ๎ งปฏิบตั กิ าร....................................................................... 112

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ iv

สารบญั

หน้า

3.3 เรื่องเลาํ จากงานบริหาร........................................................................................................... 114
3.3.1 คุณธรรมและความโปรํงใสการดาเนนิ งานของหนํวยงานภาครัฐ.......................................... 114
3.3.2 การพัฒนาคณุ ธรรม จรยิ ธรรม……………………………………………………………………….......... 118
- คนดีตน๎ แบบกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ ประจาปงี บประมาณ 2563……………….….….… 120

3.4 เรื่องเลาํ เรา๎ พลัง ประจาปี 2563………………………………………………….…………...……………….. 123
3.4.1 แคํนี้กห็ ายเหนือ่ ย…………………………………………………………………………….……….………… 123
3.4.2 ฟาู หลงั ฝนยํอมสวยงามเสมอ……………………………………………………………………….……..… 125

3.5 เรือ่ งเลําจากการจดั การความรู๎ของ สวส. ประจาปี 2563…………………………………….…………. 126
3.6 เรื่องเลําจากผลงานทีไ่ ดร๎ ับรางวัล…………………………………………………………………..…….……… 128

3.6.1 รางวัลผลงานวชิ าการวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2563.......................................................... 128
3.6.2 Best Paper Award ………………………………………………………......................................... 131
บทท่ี 4 ความร้สู ปู่ ระชาชน 2563............................................................................................................. 135
บทที่ 5 บทบาท สวส. ในเวทีโลก 2563…………………………………………………………..….……………….……… 136
5.1 Global Health Security Agenda: GHSA……………………………………………….……………….… 136
5.2 Polio Surveillance and Emergency response………………………………………………………. 138
บทที่ 6 ภาพกจิ กรรม…………………………..………………………………………………………………….….…….………… 139
ภาคผนวก
คาส่งั แตงํ ตง้ั คณะทางานจดั ทาหนงั สอื รายงานประจาปี 2563....................................................... 159

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ v

สายบงั คบั บญั ชา ผงั โครงสรา้ ง
ผงั โครงสรา้ งอธบิ ดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

รองอธบิ ดีกรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ท่กี ากับดูแล

ผู้อานวยการสถาบันวิจัยวทิ ยาศาสตร์สาธารณสขุ

รองผอู้ านวยการสถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ

ฝา่ ยบริหารทว่ั ไป กลุ่มไวรสั วิทยาทางการแพทย์ กลมุ่ กีฎวทิ ยาทางการแพทย์
 ฝุายไวรัสระบบทางเดินหายใจ  ฝาุ ยชวี วทิ ยาและนิเวศวิทยา
กลมุ่ พัฒนาคณุ ภาพและวชิ าการ  ฝาุ ยไวรัสระบบทางเดินอาหาร  ฝุายศึกษาควบคุมแมลงโดยใชส๎ ารเคมี
 กลมุํ พฒั นาคุณภาพและวิชาการ  ฝุายไวรัสระบบประสาทและระบบ  ฝาุ ยศกึ ษาควบคุมแมลงทางชวี วธิ ี
 สานักงานพฒั นาระบบคณุ ภาพห๎องปฏบิ ัตกิ าร  ฝุายพิพธิ ภณั ฑแ์ มลงอนกุ รมวธิ านและ
 ฝุายวิเทศสมั พันธ์ ไหลเวียนโลหติ
 ศูนย์ประสานงานความรวํ มมอื ทางวชิ าการ  ฝาุ ยอาโบไวรัส สนบั สนุนงานกฎี วทิ ยา
 ฝาุ ยไวรัสกอํ มะเรง็
กลมุ่ สัตวท์ ดลอง  ฝุายไวรสั ตบั อกั เสบ กลมุ่ เชือ้ ราวิทยาและพาราสติ วิทยา
 ฝุายเช้ือราวทิ ยา
สานักงานความปลอดภยั และสขุ ภาพบคุ ลากร กลุม่ ภูมิคุม้ กันวทิ ยา  ฝาุ ยพาราสิตและสตั วร์ งั โรค
 ฝาุ ยปฏบิ ตั กิ ารด๎านเชือ้ อนั ตรายสูงและ
ศูนยท์ ดสอบความชานาญหอ้ งปฏิบตั ิการ กลุ่มวนิ ิจฉัยโรคกลาง
ภูมิคุ๎มกนั วทิ ยา  หนํวยวนิ ิจฉยั โรคกลาง
สานกั งานคณะกรรมการดูแลการเลี้ยงและ  ฝุายเลปโตสไปโรสสี เมดิออยโดสสี และ บรู  ฝาุ ยทรพั ยากรกลางทาง
ใชส้ ัตวท์ ดลอง
เซลโลสสิ ห๎องปฏบิ ัติการ
 ฝุายริกเกต็ เซีย  ฝุายจลุ ทรรศน์อเิ ลก็ ตรอน
 ฝาุ ยปฏบิ ัตกิ ารดา๎ นเช้อื ถาํ ยทอดทางการ ให๎  ศนู ย์ประสานงานการตรวจวเิ คราะห์

เลอื ด และเฝูาระวงั โรคทางห๎องปฏบิ ัติการ
 ฝุายสนบั สนนุ ห๎องปฏิบัติการ
กลมุ่ แบคทีเรยี ทางการแพทย์
 ฝาุ ยแบคทีเรียทั่วไป กลุ่มพษิ วิทยาและชวี เคมี
 ฝาุ ยเช้อื ซาลโมเนลลําและชกิ เกลลาํ  ศนู ยพ์ ษิ วทิ ยา
 ฝุายแบคทีเรียลาไส๎
 ฝุายมัยโคแบคทเี รีย
 ฝุายแบคทเี รยี ไร๎อากาศ
 ฝาุ ยตรวจวินจิ ฉยั แบคทีเรียทางการแพทย์

กลุ่มพนั ธุกรรมทางคลนิ กิ
 ฝุายโลหติ วิทยา

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข vi

แผนที่ต้งั WEBSITE QR CODE

สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ
กรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์
พิกดั 13.853837, 100.530181

http://nih.dmsc.moph.go.th

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ vii

ทาเนียบผู้บริหารและหัวหน้ากลุ่ม/ฝ่าย/งาน

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข

ตาแหน่ง ช่อื -สกลุ หมายเลขโทรศพั ท์

นายแพทยบ์ ัลลังก์ อุปพงษ์ สานักงาน ภายใน มือถือ

ผู๎อานวยการ 0 2951 0000-11, 0 2591 1912 99354-5 08 1973 1544
08 5917 0044
รองผ๎อู านวยการ ดร. เกรยี งศกั ด์ิ ฤชุศาศวัต 0 2951 0000-11 99313 08 9318 4596
08 7009 7196
รองผอู๎ านวยการ นางสาวนันทวรรณ เมฆา 0 2951 0000-11 99302
08 6043 5791
รองผู๎อานวยการ ดร. อุรญุ ากร จันทรแ์ สง 0 2951 0000-11 99238
-
ฝา่ ยบริหารทัว่ ไป นางประคอง ศรบี รรทดั ทอง 0 2951 0000-11,0 2581 5449, 99200 -
หวั หนา๎ ฝาุ ยบรหิ ารท่ัวไป นางชนนั ท์ภัสส์ พรหมขัตแิ ก๎ว 0 2598 9865 08 6043 5791

- หัวหนา๎ งานสารบรรณ 0 2951 0000-11, 0 2589 3408 99215 08 9768 8697
-
- หวั หนา๎ งานการเจา๎ หน๎าที่ นางสาวปิ่นดารา เทพสงิ หท์ อง 0 2951 0000-11 99695
08 1371 0960
- หวั หน๎างานพัสดแุ ละการเงนิ นางประคอง ศรีบรรทดั ทอง 0 2951 0000-11,0 2581 5449, 99200 08 1371 0960
- หัวหน๎างานยานพาหนะ นายดารงฤทธิ์ วนิ จิ 0 2598 9865 08 9770 1144
08 1812 1715
0 2951 0000-11, 0 2589 9860 99249 08 9896 9617

- หัวหน๎างานธุรการ นายวินยั บางสดุ 0 2951 0000-11 99328 08 9318 4596
08 9318 4596
กลุ่มพัฒนาคณุ ภาพและวชิ าการ นางสาวนภวรรณ เจนใจ 0 2951 0000-11, 0 2591 0343 99259 08 9494 8658
หวั หนา๎ กลมํุ พฒั นาคุณภาพและวชิ าการ 08 3021 4197
08 3021 4197
หัวหน๎าฝาุ ยวิเทศสมั พันธ์ นางสาวนภวรรณ เจนใจ 0 2951 0000-11, 0 2591 0343 99259 08 1801 6039
08 9890 3342
หวั หน๎าสานกั งานพฒั นาระบบคุณภาพห๎องปฏบิ ัตกิ าร ดร. สริ ิพรรณ แสงอรณุ 0 2951 0000-11, 0 2965 9729 99149

หวั หน๎าศูนย์ประสานความรวํ มมอื ทางวชิ าการ นางสาวสุพชิ ฌาย์ เตมิ เสรีกุล 0 2951 0000-11 99242

หัวหนา๎ สานกั ความปลอดภยั และสขุ ภาพบคุ ลากร นายรติกร กณั ฑะพงศ์ 0 2951 0000-11 99207

กลมุ่ วนิ ิจฉยั โรคกลาง นางสาวนนั ทวรรณ เมฆา 0 2951 0000-11 99302
หวั หน๎าศูนยป์ ระสานงานการตรวจวิเคราะหแ์ ละ นางสาวนันทวรรณ เมฆา 0 2951 0000-11 99302
เฝูาระวงั โรคทางหอ๎ งปฏบิ ตั กิ าร
หวั หนา๎ หนํวยวนิ จิ ฉัยโรคกลาง

หัวหนา๎ ฝาุ ยทรพั ยากรกลางทางหอ๎ งปฏบิ ัติการ นางสาวอจั ฉรียา อนกุ ูลพิพัฒน์ 0 2951 0000-11 99312

หัวหน๎าฝาุ ยสนับสนนุ ห๎องปฏิบตั กิ าร นางทิพมาศ สุทธวิ ราคม 0 2951 0000-11 99441

- หวั หน๎างานเตรยี มอาหารเลีย้ งเช้อื นางทิพมาศ สุทธวิ ราคม 0 2951 0000-11 99441

- หวั หนา๎ งานเตรยี มเครอื่ งมือปลอดเชอื้ นายนภา ปฐมโยธนิ 0 2951 0000-11 99222

หัวหนา๎ ฝาุ ยจลุ ทรรศน์อิเลก็ ตรอน นายชัยวฒั น์ พลู ศรกี าญจน์ 0 2951 0000-11 99250

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสุข viii

กลุ่มไวรสั วิทยาทางการแพทย์ ดร. พิไลลกั ษณ์ 0 2951 0000-11 99305 08 1751 8634
หวั หน๎าฝาุ ยไวรัสกอํ มะเรง็ อคั คไพบูลย์ โอกาดะ

หัวหนา๎ ฝาุ ยระบบทางเดนิ หายใจ ดร. พิไลลักษณ์ 0 2951 0000-11 99305 08 1751 8634
อคั คไพบลู ย์ โอกาดะ

หัวหน๎าฝาุ ยระบบทางเดนิ อาหาร นายรติกร กัณฑะพงศ์ 0 2951 0000-11 99207 08 9896 9617
0 2951 0000-11 99312 08 6895 7798
หัวหนา๎ ฝาุ ยระบบประสาทและระบบไหลเวยี นโลหติ นางอจั ฉริยา ลกู บวั 0 2951 0000-11 99313 08 5917 0044
0 2951 0000-11 99313 08 5917 0044
หวั หนา๎ ฝาุ ยอาโบไวรสั ดร. เกรียงศกั ดิ์ ฤชุศาศวตั

หัวหน๎าฝาุ ยไวรัสตบั อกั เสบ ดร. เกรยี งศกั ดิ์ ฤชุศาศวตั

กลุม่ ภูมิคมุ้ กนั วิทยา 0 2951 0000-11 99185 08 3899 9844
หวั หนา๎ ฝาุ ยปฏบิ ัตกิ ารดา๎ นเชอื้ ถาํ ยทอดทางการใหเ๎ ลือด ดร. สุภาพร สุภารกั ษ์ 08 9770 1144

หวั หน๎าฝาุ ยปฏิบัตกิ ารด๎านเช้ืออันตรายสงู และภมู คิ ๎มุ กัน ดร. สริ พิ รรณ แสงอรณุ 0 2951 0000-11, 0 2965 9729 99149
วทิ ยา

ฝาุ ยเลปโตสไปโรสสิ เมลอิ อยโดสิสและบรูเซลโลสิส ดร. วชั รี สายสงเคราะห์ 0 2951 0000-11 99446 08 9483 4927
0 2951 0000-11 99437 08 5063 2674
หัวหนา๎ ฝาุ ยริกเก็ตเซีย นายเดชา แปงใจ

กล่มุ แบคทเี รยี วิทยาทางการแพทย์ ดร. พไิ ลลกั ษณ์ 0 2951 0000-11 99305 08 1751 8634
หัวหน๎าฝาุ ยตรวจวินจิ ฉัยแบคทเี รียทางการแพทย์ อคั คไพบูลย์ โอกาดะ

หัวหนา๎ ฝาุ ยมยั โคแบคทเี รยี ดร. เบญจวรรณ เพชรสขุ ศริ ิ 0 2951 0000-11, 02580 1593, 99617, 99535 09 4626 4040
0 2580 1567

นางสาวจณศิ รา ฤดีอเนกสิน 0 2951 0000-11, 02580 1593, 99536 09 5252 3475
(ตงั้ แตํวนั ท่ี 12 พฤษภาคม 2563) 0 2580 1567
ดร. วนั ทนา ปวีณกติ ติพร
หัวหน๎าฝาุ ยแบคทีเรยี ทั่วไป ดร. ปยิ ะดา หวังรํุงทรพั ย์ 0 2951 0000-11 99302 08 7705 9541
นายชัยวัฒน์ พูลศรีกาญจน์ 0 2951 0000-11 99302 09 0954 9613
หัวหน๎าฝาุ ยแบคทเี รยี ไรอ๎ ากาศ 0 2951 0000-11 99250 08 9890 3342
นางสาวศรีวรรณา หทั ยานานนท์
หัวหนา๎ ฝาุ ยทดสอบยนื ยนั เชอื้ ซาลโมเนลลาและ 0 2951 0000-11 99417, 99411 08 9045 7039
ชิกเกลลา

หัวหนา๎ ฝาุ ยแบคทเี รียลาไส๎

กลมุ่ เชื้อราวิทยาและพาราสติ วิทยา นายเดชา แปงใจ 0 2951 0000-11 99437 08 5063 2674
หัวหนา๎ ฝาุ ยพาราสิตและสตั ว์รงั โรค นางสาวนันทวรรณ เมฆา 0 2951 0000-11 99302 08 9318 4596

หวั หน๎าฝาุ ยเช้อื ราวทิ ยา

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ ix

กลุม่ กีฏวิทยาทางการแพทย์ ดร. จกั รวาล ชมภูศรี 0 2951 0000-11 99244 08 1925 1224
หวั หน๎าฝาุ ยชวี วทิ ยาและนิเวศวทิ ยา นางสาวพรรณเกษม แผํพร 0 2951 0000-11 99236 08 5920 9868
ดร. อรุ ญุ ากร จนั ทร์แสง 0 2951 0000-11 99238 08 7009 7196
หัวหน๎าฝาุ ยควบคมุ แมลงโดยใช๎สารเคมี ดร. จติ ติ จนั ทร์แสง 0 2951 0000-11 99231, 99243 08 1566 6283

หัวหนา๎ ฝาุ ยศกึ ษาควบคุมแมลงทางชวี วธิ ี

หวั หนา๎ ฝาุ ยพพิ ิธภณั ฑ์แมลงและอนกุ รมวิธานและ
สนบั สนุนงานกีฏวทิ ยา

กลุ่มพนั ธุกรรมทางคลนิ กิ นางสาวนภวรรณ เจนใจ 0 2951 0000-11, 0 2591 0343 99259 08 1371 0960
หวั หน๎ากลมํุ พันธุกรรมทางคลินกิ นางสาวสาวติ รี ดว๎ งเรอื ง 08 0443 1194
หวั หนา๎ ฝาุ ยโลหิตวทิ ยา 0 2951 0000-11 99325 08 1744 3876
08 7690 0070
ศนู ยพ์ ษิ วิทยา นางสาวดุษฎี พลภัทรพิเศษกุล 0 2951 0000-11 99720 08 1830 8360

กลุม่ สตั ว์ทดลอง สพ.ญ. ดร. นวขนิษฐ์ สัจจานนท์ 0 2951 0000-11 99230

สานกั งานการดแู ล การเลี้ยงและใช๎สตั วท์ ดลอง ดร. บุษราวรรณ ศรีวรรธนะ 0 2951 0000-11 99701
ของสถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ x

บทท่ี 1 วิสยั ทัศน์ พันธกิจ บทบาทหนา้ ที่

วสิ ยั ทศั น์

สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตร์สาธารณสุข เป็นห้องปฏิบัติการอ้างอิงของประเทศ ด้านวิทยาศาสตร์
การแพทย์และสาธารณสุข ในการสร้างสรรคอ์ งคค์ วามรแู้ ละนวตั กรรม เพ่อื สุขภาพทีด่ ขี องประเทศ

พันธกิจ

ตามราชกิจจานุเบกษา เลมํ 126 ตอนที่ 98 ก หนา๎ 74 ลงวันท่ี 28 ธนั วาคม พ.ศ. 2552 กฎกระทรวง
แบํงสวํ นราชการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสขุ พ.ศ. 2552 มดี งั น้ี

1. ศึกษา วเิ คราะห์ วจิ ยั และพัฒนาองค์ความรูแ๎ ละเทคโนโลยีทางห๎องปฏบิ ตั ิการ
ด๎านสุขภาพ ดา๎ นชนั สูตรโรค และดา๎ นเทคโนโลยชี ีวภาพทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุข

2. พฒั นาระบบและกาหนดมาตรฐานการตรวจวิเคราะหท์ างหอ๎ งปฏิบตั ิการดา๎ นสุขภาพ
ดา๎ นชันสูตรโรค และดา๎ นเทคโนโลยีชวี ภาพทางการแพทยแ์ ละสาธารณสุข

3. เป็นหอ๎ งปฏบิ ตั กิ ารอา๎ งองิ ดา๎ นสขุ ภาพ ดา๎ นชนั สูตรโรค และดา๎ นเทคโนโลยชี วี ภาพทางการแพทย์
และสาธารณสขุ

4. เป็นศูนยข์ ๎อมลู ด๎านสุขภาพ ดา๎ นชันสตู รโรค และด๎านเทคโนโลยชี วี ภาพทางการแพทย์และสาธารณสุข

5. พัฒนาคณุ ภาพห๎องปฏบิ ตั กิ าร สนับสนนุ ดา๎ นวชิ าการและถํายทอดทอดเทคโนโลยีด๎านการชันสูตรโรค
แกํห๎องปฏิบัติการเครือขําย ห๎องปฏิบัติการภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงการถํายทอด
เทคโนโลยชี ีวภาพทางการแพทย์และสาธารณสุข เพื่อการผลิตผลิตภัณฑ์ระดับอุตสาหกรรมอยํางครบ
วงจร

6. ดาเนนิ การตามกฎหมายวาํ ด๎วยเช้ือโรคและพิษจากสัตว์ และกฎหมายอืน่ ทีเ่ ก่ียวข๎องและ
เป็นศนู ยก์ ลางขอ๎ มลู เกยี่ วกับเช้อื โรคและพิษจากสัตว์

7. ปฏิบัติงานรวํ มกบั หริอสนบั สนุนการปฏบิ ัติงานของหนํวยงานอื่นทเ่ี กยี่ วขอ๎ งหรือทีไ่ ด๎รบั มอบหมาย

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 1

บทบาทหน้าที่

1. วิจัยและพัฒนา องค์ความร๎ู ผลิตภัณฑ์ ชีวภัณฑ์ด๎านการแพทย์และสาธารณสุข เพ่ือการวินิจฉัย
ปอู งกัน ควบคุม และรกั ษาโรค

2. วิเคราะห์ทางห๎องปฏิบัติการ และประเมินเทคโนโลยี เพ่ือตอบสนองการระบาดของโรคอุบัติใหมํ
โรคขา๎ มพรมแดน และโรคที่เกดิ จากภยั พบิ ัติ

3. พัฒนาระบบเฝาู ระวังเชิงรุกทางห๎องปฏิบตั ิการของโรคท่ีเปน็ ปัญหาสาธารณสขุ และแจง๎ เตอื นภัย

4. พัฒนาคุณภาพและเครือขํายห๎องปฏิบัติการ รวมทั้งกาหนดมาตรฐานวิธีวิเคราะห์ด๎านการแพทย์
และสาธารณสขุ

5. เป็นศูนยข์ ๎อมูลของเชอ้ื โรคและพาหะนาโรค ด๎วยเทคโนโลยีสารสนเทศและสารสนเทศภูมิศาสตร์
ด๎านสาธารณสขุ

6. เปน็ ศูนยเ์ ก็บรกั ษาจลุ ินทรยี ์ แมลง และตวั อยํางทางการแพทย์

7. ดาเนนิ การตามพระราชบญั ญัติเช้อื โรคและพษิ จากสตั ว์ และกฎหมายอน่ื ท่ีเกยี่ วข๎อง

8. ปฏิบัติงานหรือสนับสนุนการปฏิบัติงานรํวมกับหนํวยงานอื่นท่ีเก่ียวข๎องทั้งในและตํางประเทศ
เพ่ือรองรบั การเขา๎ สปํู ระชาคมอาเซียน

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 2

บทท่ี 2 ผลการดาเนนิ งาน
ประจาปีงบประมาณ 2563

2.1 งานวจิ ัย

งานวจิ ัยของสถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตร์สาธารณสุข

คณะทางานตดิ ตามและประเมินผลโครงการวิจัย

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข ได๎การดาเนินงานวิจัย ซึ่งเป็นภารกิจหลักตาม
ยุทธศาสตร์ มงํุ วจิ ยั พัฒนาเพือ่ การเปน็ ห๎องปฏบิ ัติการอ๎างองิ การพัฒนาวิธีการตรวจ ชุดทดสอบและผลิตภัณฑ์
เพ่ือการควบคุมปูองกันโรคและประยุกต์ใช๎เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมในการวินิจฉัยโรค เพื่อให๎เกิดประโยชน์แกํ
ประชาชนและองค์กร และศึกษาด๎านระบาดวิทยา การเฝูาระวังโรคและประเมินความเสี่ยง เพื่อการปูองกัน
โรคและแจ๎งเตือนภัยสุขภาพ ในปี 2563 ได๎การดาเนินโครงการวิจัยทั้งสิ้น 37 โครงการ โดยแบํงเป็น
1) โครงการวจิ ยั ที่ได๎รบั เงินจัดสรรด๎านการวิจัยและพฒั นา เปน็ โครงการชุด จานวน 7 ชุด และมีโครงการวิจัย
เด่ียว 9 โครงการ 2) โครงการตามตัวช้ีวัดคารับรองการปฏิบัติราชการ เป็น โครงการวิจัยเดี่ยว 1 โครงการ
3) โครงการเฝูาระวัง เตือนภัยสุขภาพ เป็น โครงการชุด จานวน 1 ชุด และมีโครงการวิจัยเด่ียว 4 โครงการ
และ 4) โครงการภายใต๎ โครงการบูรณาการ 2 โครงการยํอย นอกจากน้ีมี 5) โครงการที่ดาเนินการโดยได๎รับ
เงินทุนวจิ ัยจากหนวํ ยงานภายนอก หรือดาเนินการโดยไมใํ ชง๎ บประมาณอยูํ 12 โครงการ

คณะทางานติดตามและประเมินผลโครงการวิจัย รํวมกับ กลุํมพัฒนาคุณภาพและวิชาการ
ไดด๎ าเนนิ การติดตามและประเมนิ ผลโครงการวิจยั จากขอ๎ มลู รายงานวิจัย มีการรายงานผลประเมินรายไตรมาส
ทาให๎เกิดการสนับสนุนการดาเนินงานวิจัยให๎มีคุณภาพ และเป็นต๎นแบบท่ีดี ดังนั้นทางสถาบันฯได๎คัดเลือก
โครงการที่มีผลปฏิบัติงานดีเดํนประจาปี 2562 ซึ่งโครงการมีผลดาเนินงานวิจัยสาเร็จตามแผนงาน มี
ผลงานวิจัยท่ีดีเยี่ยม รายงานวิจัยมีคุณภาพ มีการเผยแพรํ สร๎างองค์ความรู๎ หรือผลงานวิจัยสามารถนาไปใช๎
ประโยชน์ได๎ จากรายงานฉบบั สมบรณู ์ โครงการวจิ ัยทีม่ ีปฏิบัติงานวจิ ยั ยอดเยี่ยม (Best practice) มจี านวน 2
โครงการ ได๎แกํ 1) โครงการพัฒนาผลิตภัณฑ์ สเปรย์สมุนไพรกาจัดยุงลายบ๎านที่ต๎านทานตํอสารเคมีกาจัด
แมลง ผ๎ูรับผิดชอบโครงการ ดร. จักรวาล ชมพูศรี และ คณะ ระยะเวลาโครงการ 1 ปี (2562) 2) โครงการ
รูปแบบของการควบคุมวัณโรคในกลํุมบุคลากรทางการแพทย์โดยตรวจการติดเช้ือระยะแรก และ ติดตาม
ผลการรักษาแบบปูองกันโดยใช๎ T-SPOT.TB test ผ๎ูรับผิดชอบโครงการ ดร. เบญจวรรณ เพชรสุขศิริ และคณะ
ระยะเวลาโครงการ 2 ปี (2561-2562)

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 3

แม๎จะอยํูในสถานการณ์ การระบาดของ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 ท่ัวโลก รวมท้ังประเทศไทย
การดาเนินงานวิจัยของสถาบันฯ ในปีงบประมาณ 2563 โครงการวิจัยสํวนใหญํดาเนินการ ได๎ตามแผนงาน
มกี ารสงํ รายงานประจาปีจานวน 25 ฉบบั และ รายงานฉบับสมบรณู ์ 24 ฉบบั ตามกาหนดเวลา มีการเผยแพรํ
ผลงานในการประชุมวิชาการตํางๆ รวม 59 เร่ือง โดยแบํงเป็น 1) ตีพิมพ์ในวารสาร 22 เรื่อง เป็นวารสาร
ตํางประเทศ 20 เรื่อง และวารสารภายในประเทศ 2 เรือ่ ง 2) นาเสนอด๎วยโปสเตอร์ 30 เรื่อง เป็นการนาเสนอ
ในตํางประเทศ 6 เร่ือง และภายในประเทศ 24 เร่ือง 3) นาเสนอด๎วยวาจา 7 เร่ือง ในการประชุมวิชาการ
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ คร้ังท่ี 28 นอกจากน้ียังมีผลงานวิจัยท่ีเผยแพรํในวารสารซึ่งรวบรวมบทคัดยํอไว๎
ในหนังสอื รายงานนี้ จานวน 22 เรื่อง (รายละเอียดข๎อ 2.5)

ผลงานวิจยั ได๎รับรางวัลรวม 4 เร่ือง ในการประชุมวิชาการวิทยาศาสตร์การแพทย์ครั้งที่ 28 ประจาปี
2563 และ International Conference on Advancement in Health Sciences Education and
Professions: Synergy and Reform for Better Health (iHSEP2019) in Cerebration of the Royal
Coronation Ceremony ได๎แกํ 1) เรื่อง การถอดรหัสพันธุกรรมเปูาหมายแบบเน็กซ์เจนเนอเรช่ันเพ่ือ
ตรวจสอบยีน POPB และยีนอะมานิติน 2) Evaluation of herbal aerosol spray against insecticide-
resistant strains of Aedes aegypti, vector of dengue and Zika viruses 3) Development of
B–Soy starter for biolarvicide production for control of Culex quinquefasciatus mosquito
larvae และ 4) ความชุกและการแยกเช้ือ Candida species ในผ๎ูปุวยอุจจาระรํวงเฉียบพลันและกลุํม
ควบคมุ ในประเทศไทย

นอกจากนี้ เรอื่ ง กรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทยก์ ับการพัฒนา เครอื ข่ายห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์
โรค โควดิ -19 เพ่ือรับมือการระบาดในประเทศไทย ได๎รับรางวัลชนะเลิศ บูธนิทรรศการดีเดํนระดับกรมและ
เขตสุขภาพ จากการงานประชุมวิชาการกระทรวงสาธารณสุข กับการเปลี่ยนแปลงสูํยุค New Normal
ประจาปี 2563 และ รางวัล Silver Award ในงานมหกรรมงานวิจัยแหํงชาติ 2563 (Thailand Reseach
Expo 2020): วจิ ัยเพือ่ พฒั นาประเทศสํูความมั่งคง มัง่ ค่ัง ยงั่ ยืน (รายละเอยี ด ขอ๎ 2.6)

ดังน้ันวิธีการตรวจตํางๆ สามารถนาไปใช๎ประโยชน์ในการตรวจวิเคราะห์ทางห๎องปฏิบัติการ
ชํวยวินิจฉัยโรค สนับสนุนการควบคุมและปูองกันโรค สนับสนุนการเลือกใช๎ยาอยํางเหมาะสม แจ๎งเตือนภัย
สุขภาพ ลดความเส่ียง ผลงานสํวนหนึ่งเป็นนวัตกรรม เป็นองค์ความรู๎ ท่ีสามารถอ๎างอิงหรือพัฒนาตํอยอดได๎
เชํน การจดสิทธิบัตร ๑ เรื่อง คือ ชุดไพรเมอร์ (primers) และโพรบ (probes) สาหรับการตรวจสอบเชื้อ
ซีเวยี ร์ แอคควิ เรสไปราทอรี ซนิ โดรม โคโรนาไวรัส 2 (severe acute respiratory syndrome coronavirus
2 หรือ SARS-CoV-2) ซึ่งกอํ โรคตดิ เชอื้ โควิค 19 (Coronavirus Disease 2019 หรือ COVID-19) เป็นตน๎

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 4

โครงการวจิ ัยของสถาบันวิจยั วิทยาศาสตร์สาธารณสขุ

* แผนงานบูรณาการการวิจยั และนวัตกรรม

โครงการ: องคค์ วามร๎ู งานวจิ ัยพัฒนาและนวัตกรรมด๎านวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ทีม่ ีความเป็นเลิศ

1. วจิ ัยประยกุ ตด์ ๎านวิทยาศาสตร์การแพทย์
จานวน 14 โครงการ/ ชุดโครงการวิจัย

ลาดับ โครงการ ผรู้ ับผดิ ชอบ ระยะเวลา

1 ชดุ โครงการวจิ ยั การพฒั นานวัตกรรมควบคมุ ยงุ ลายและ นายจักรวาล ชมพศู รี 3 ปี (ปีงบ 2563-
ยงุ ลายดือ้ ยาพาหะไข๎เลอื ดออกและไขซ๎ กิ า และคณะ 2565)
นายจักรวาล ชมพศู รี
1.1 โครงการย่อยท่ี 1 การพฒั นาผลติ ภณั ฑส์ เปรย์อดั ก๏าซกาจัด และคณะ 3 ปี (ปีงบ 2563-
ยงุ ลายและยุงลายด้ือยาพาหะไขเ๎ ลอื ดออกและไขซ๎ กิ า นายภูเบศร์ ยะอัมพันธ์ 2565)
และคณะ
1.2 โครงการยอ่ ยที่ 2 การพฒั นานวตั กรรมควบคมุ ยุงลายและ ดร.วนั ทนา ปวณี กติ ตพิ ร 3 ปี (ปงี บ 2563-
ยุงลายด้อื ยาพาหะไขเ๎ ลือดออกและไขซ๎ กิ า และคณะ 2565)

2 โครงการการทานายความไวตํอยา colistin และระบาด ดร.เบญจวรรณ เพชรสขุ ศิริ 3 ปี (ปงี บ 2562-2564)
วทิ ยาระดบั โมเลกุลของเช้อื กลมํุ Enterobacteriaceae และคณะ
และ non-fermenters ท่ดี อื้ ยากลุํม carbapenems 2 ปี (ปีงบ 2563-2564)
นางสาวณฐั กานต์ หนูรนุํ
3 การเพิม่ ประสทิ ธภิ าพการตรวจหาเชือ้ วัณโรคอยาํ งงํายดว๎ ย และคณะ 1 ปี (ปงี บ 2563)
ชดุ ตรวจ in-house loop-mediated isothermal
amplification และการประเมินการใช๎งานในพืน้ ท่ี นางสาวอรพรรณ ศรีพิชยั 3 ปี (ปงี บ 2563-2565)
และคณะ
4 การพฒั นาและตรวจสอบความถกู ตอ๎ งวธิ วี เิ คราะหส์ าร นางสาวมาลินี จติ ตกานต์พชิ ย์ 4 ปี (ปีงบ 2562-2565
metabolites ของสารเคมีกาจดั แมลงกลมํุ Pyrethroid ใน และคณะ
ปัสสาวะด๎วยวธิ ี GC-MS/MS 2 ปี (ปงี บ 2563-2564)
นางสาวธนัสภา ธนเดชากลุ
5 การดื้อยาปฏิชวี นะของเช้อื แคมไพโลแบคเตอรแ์ ละฤทธขิ์ อง และคณะ 2 ปี (ปีงบ 2562-2563)
สารสกดั สมุนไพรในการต๎านเชอ้ื แคมไพโลแบคเตอร์
นางสาวอรสิ รา โปษณเจรญิ 1 ปี (ปีงบ 2563)
6 ชดุ โครงการวิจยั การวจั ยั และตรวจติดตามเช้อื กอํ โรคอุบตั ิ และคณะ
ใหมํ อบุ ตั ซิ า้ เพอ่ื ปอู งกันภัยสุขภาพและภัยด๎านความมนั่ คง
ของประเทศ นายอธวิ ฒั น์ ปรมิ สริ ิคุณาวฒุ ิ
และคณะ
6.1 โครงการย่อยที่ 1 การพัฒนาวิธี multiplex realtime PCR
เพอ่ื ตรวจหาเชื้อไข๎หวัดใหญํทด่ี ้อื ตอํ ยากลํมุ
neuraminidase inhibitor (NAI)

6.2 โครงการยอ่ ยที่ 2 การพัฒนาการตรวจ Banna virus ใน
ตวั อยํางผูป๎ วุ ยโรคไขส๎ มองอักเสบ

6.3 โครงการยอ่ ยที่ 3 การพฒั นาวิธี Real Time RT-PCR เพอ่ื
ตรวจวนิ จิ ฉัยไวรสั พษิ สุนัขบ๎า

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 5

ลาดบั โครงการ ผู้รับผดิ ชอบ ระยะเวลา

7 ชดุ โครงการวจิ ัย การพฒั นาเทคโนโลยเี พื่อการตรวจ นางสาวปิยะดา หวังรงุํ ทรัพย์ 3 ปี (ปงี บ 2563-2565)

วเิ คราะหเ์ ช้อื กํอโรคอุจจาระรํวงในตัวอยํางอาหารและน้า : และคณะ 3 ปี (ปงี บ 2563-2565)
2 ปี (ปงี บ 2563-2564)
การพัฒนาวธิ ีการตรวจดว๎ ยเทคนคิ Real time PCR และ 3 ปี (ปงี บ 2563-2565)

การพฒั นาชดุ ตรวจแบบรวดเร็วในรูปแบบ 2 ปี (ปีงบ 2563-2564)
3 ปี (ปงี บ 2563-2565)
immunochromatographic strip test (P1000) 3 ปี (ปงี บ 2563-2565)
2 ปี (ปีงบ 2562-2563)
7.1 โครงการย่อยที่ 1 พฒั นาวธิ ี Multiplex real time RT- นางสาวรัตนา ตาเจริญเมอื ง 2 ปี (ปงี บ 2562-2563)

PCR เพ่อื ใช๎ในการตรวจหาไวรัสโนโรในอาหารและน้า และคณะ 3 ปี (ปงี บ 2561-2563)
3 ปี (ปงี บ 2561-2563)
7.2 โครงการย่อยที่ 2 การพัฒนาวธิ ีตรวจวิเคราะหเ์ ช้อื นางสาวชุติมา จติ ตประสาท 3 ปี (ปีงบ 2561-2563)

Campylobacter spp. แบบรวดเรว็ ด๎วยเทคนิค real-time ศีล

PCR และคณะ

7.3 โครงการยอ่ ยท่ี 3 การพฒั นาวิธีตรวจวเิ คราะหเ์ ชื้อกอํ โรค นางสาวศรีวรรณา หัทยานา

Vibrio cholerae และ Vibrio parahaemolyticus ท่ี นนท์

สร๎างสารพษิ ในตัวอยํางอาหารพรอ๎ มบรโิ ภคทมี่ อี าหารทะเล และคณะ

เปน็ สํวนประกอบ ดว๎ ยวิธี Multiplex Real-Time PCR

Assay

7.4 โครงการย่อยที่ 4 การพฒั นาและประเมนิ ประสิทธิภาพวิธี นางสาววราวรรณ วงษ์บตุ ร

ตรวจวินจิ ฉยั เชื้อกํอโรคอุจจาระรวํ งจากตัวอยํางอาหารและ และคณะ

นา้ โดยวิธี Real-time PCR panel assay

7.5 โครงการยอ่ ยท่ี 5 การพัฒนาและประเมนิ ความใชไ๎ ด๎ชุด นางพไิ ลลกั ษณ์ อคั คไพบูลย์

ทดสอบอิมมโู นโครมาโทกราฟสี าหรบั เช้ือ Escherichia coli โอกาดะ

O157 และ Shiga toxins และคณะ

8 การวจิ ัยและพัฒนานวตั กรรมทางหอ๎ งปฏบิ ัตกิ ารเพ่อื นางสาวสาวติ รี ด๎วงเรือง

สนับสนนุ การควบคุมและปอู งกนั โรคธาลสั ซเี มียและกลมํุ และคณะ

อาการดาวน์

9 ชดุ โครงการวิจยั การวจิ ยั และตรวจติดตามเชื้อกอํ โรคอุบตั ิ นางสาวมาลินี จติ ตกานต์

ใหมํ อุบัติซ้าเพือ่ ปอู งกันภยั สขุ ภาพและภัยด๎านความมน่ั คง พิชย์และคณะ

ของประเทศ

9.1 โครงการยอ่ ย การศึกษาการตดิ เช้อื รวํ มกนั ระหวาํ งเช้ือ นางสาววราวรรณ วงษ์บตุ ร

แบคทีเรยี กอํ โรคอุจจาระรํวงกบั เชอื้ Candida spp. ทแี่ ยก และคณะ

ได๎จากผป๎ู ุวยอจุ จาระรวํ งเฉยี บพลนั ทเ่ี ขา๎ รับการรกั ษาใน

โรงพยาบาลและการศกึ ษา ปจั จัยพยากรณโ์ รค รวํ มกบั การ

วิเคราะหข์ ๎อมูล Metagenomic

10 ชดุ โครงการวิจยั การศึกษาวิจัยเพอื่ คน๎ หาตัวบงํ ชคี้ วามเสย่ี ง นางพิไลลักษณ์ อคั คไพบูลย์

ในการเกิดโรค Noncommunicable diseases โอกาดะ

(NCDs)(P1000) และคณะ

10.1 โครงการยอ่ ยท่ี 1 การวิเคราะหไ์ มโครไบโอมในผปู๎ ุวย นางพไิ ลลกั ษณ์ อคั คไพบลู ย์

โรคมะเร็งลาไส๎ใหญแํ ละทวารหนกั และกลมํุ ควบคมุ โอกาดะ

และคณะ

10.2 โครงการยอ่ ยท่ี 2 การศกึ ษาการแสดงออกของ miRNA ใน นางพิไลลักษณ์ อัคคไพบูลย์

ผู๎ปุวยมะเรง็ ปากมดลกู ท่ีเกดิ จากการติดเชอ้ื HPV โอกาดะ

และคณะ

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 6

ลาดับ โครงการ ผรู้ ับผดิ ชอบ ระยะเวลา

11 ชดุ โครงการวจิ ัย ศูนย์ความรวํ มมอื การวจิ ยั โรคตดิ ตํออุบัติ นายเกรียงศักดิ์ ฤชุศาศวตั 5 ปี (ปงี บ 2559-2563)
ใหมํและอุบัตซิ ้าระหวํางประเทศไทยและประเทศญ่ีปุน และคณะ 5 ปี (ปีงบ 2559-2563)

11.1 โครงการยอ่ ย การตรวจหาและจาแนกเชื้อสาเหตขุ องโรค นางพิไลลักษณ์ อัคคไพบูลย์ 5 ปี (ปงี บ 2563-2567)

อจุ จาระรวํ งในผู๎ปุวยทเี่ ขา๎ รับการรกั ษาในโรงพยาบาลใน โอกาดะ 2 ปี (ปีงบ 2563-2564)
1 ปี (ปีงบ 2563)
ประเทศไทยโดยวธิ ีทางอณชู ีววทิ ยา/จีโนมิกส์ และการ และคณะ

พัฒนาวธิ ตี รวจวนิ ิจฉัยโรคชนิดใหมํ

12 การพฒั นาชดุ ตรวจวิธี Multiplex PCR และ LAMP สาหรับ นางสาวศิริพร จันทรโ์ รจน์

ตรวจหาเช้อื Salmonella spp. ในอาหารและสิ่งแวดล๎อมที่ และคณะ

เก่ียวขอ๎ งกบั มนุษยใ์ นประเทศไทย

13 พฒั นาการตรวจวินิจฉยั เชอื้ ไวรสั ซกิ าดว๎ ยวิธี Loop นายภทั ร วงษ์เจริญ

mediated isothermal amplification (LAMP) และคณะ

14 โครงการพนั ธกุ รรมเชงิ โมเลกลุ และจโี นมสต์ ๎นแบบของเหด็ นายสทิ ธิพร ปานเมํน

พษิ เพอื่ การพฒั นานวัตกรรมทางการแพทย์ และคณะ

โครงการ: องค์ความรู๎ งานวิจัยพฒั นาและนวตั กรรมดา๎ นวิทยาศาสตร์การแพทยท์ มี่ คี วามเป็นเลิศ
ทางวชิ าการ

2. วจิ ัยพื้นฐานด๎านวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์
จานวน 4 โครงการ

ลาดบั โครงการ ผู้รบั ผดิ ชอบ ระยะเวลา

1 ชุดโครงการวิจัย การ พฒั นาวิธีการตรวจวนิ จิ ฉยั โรคเลป นางเบญจวรรณ เพชรสขุ ศริ ิ 2 ปี (ปงี บ 2563-2564)

โตสไปโรสสิ (Leptospirosis) และเมลอิ อยโดสิส และคณะ 2 ปี (ปงี บ 2563-2564)
2 ปี (ปีงบ 2563-2564)
(Melioidosis) และโรคแกลนเดอร์ส (Glanders) ดว๎ ยวิธี
2 ปี (ปงี บ 2563-2564)
Loop-mediated isothermal amplification (LAMP) 2 ปี (ปีงบ 2562-2563)

1.1 โครงการย่อยท่ี 1 พัฒนาวธิ กี ารตรวจวนิ จิ ฉัยโรคเลปโตสไป นางสาววชั รี สายสงเคราะห์

โรสสิ (Leptospirosis)ด๎วยวิธี Loop mediated และคณะ

isothermal amplification method (LAMP)

1.2 โครงการย่อยที่ 2 การพัฒนาและประเมินวธิ ีการตรวจ นางเบญจวรรณ เพชรสขุ ศริ ิ

วินจิ ฉยั โรคเมลิออยโดสสิ (Melioidosis) และโรคแกลน และคณะ

เดอรส์ (Glanders) ดว๎ ยวิธี Loop-mediated isothermal

amplification (LAMP)

3 การศึกษาความใช๎ไดร๎ ะหวาํ งหอ๎ งปฏบิ ตั ิการของเซลล์ นายมาสเกยี รติ บุญยฤทธิ์

เพาะเลี้ยงกระจกตา 3 มติ ติ ํอการทดสอบการกํอระคาย และคณะ

เคอื งตํอดวงตาท่ีทดแทนการใชส๎ ตั ว์ทดลอง

4 โครงการพฒั นาห๎องปฏิบตั กิ ารทดสอบการแพ๎ การทดสอบ นางสาวนวขนษิ ฐ์ สัจจานนท์

พิษวทิ ยาเฉียบพลันในสตั ว์ทดลองของผลิตภณั ฑส์ ขุ ภาพ และคณะ

ตามมาตรฐาน OECD GLP

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 7

3. โครงการวิจัย/โครงการ เงินทุนวจิ ยั /เงนิ ทนุ จากหนํวยงานภายนอก

จานวน 1 โครงการ

ลาดบั โครงการ ผูร้ ับผิดชอบ ระยะเวลา

1 การประเมินการสมั ผสั จลุ นิ ทรยี ์กอํ โรคใน Biofilm ที่ นายเกรียงศักด์ิ ฤชศุ าศวัต 1 ปี (ปงี บ 2563)
สัมพนั ธก์ บั ชนดิ และอายุทํอประปา และคณะ

4. โครงการวจิ ยั อื่นที่ไมใํ ช๎งบประมาณประจาปี
จานวน 12 โครงการ

ลาดับ โครงการ ผรู้ บั ผดิ ชอบ ระยะเวลา

1 โครงการเฝูาระวงั โรคทม่ี อี าการทางสมองและระบบ นายอธวิ ัฒน์ ปรมิ สริ คิ ณุ าวุฒิ 1 ปี (ปีงบ 2563)
ประสาทในประเทศไทย และคณะ

2 โครงการการตรวจวเิ คราะหเ์ ชือ้ ไวรัสและเช้อื แบคทเี รยี กอํ นางสาวโศภติ า กาหลง 1 ปี (ปงี บ 2563)

โรคระบบทางเดนิ หายใจ 26 ชนดิ และคณะ

3 ชดุ โครงการวจิ ัย โครงการพฒั นาตัวอยาํ งควบคุมคณุ ภาพ นางสาวสภุ าพร สุภารกั ษ์ 1 ปี (ปีงบ 2563)

สาหรบั หอ๎ งปฏิบตั ิการตรวจการตดิ เชอ้ื ทางการให๎เลอื ด และคณะ

3.1 โครงการย่อยที่ 1 โครงการพฒั นาตัวอยํางควบคุมคณุ ภาพ นางสาวเพทาย อํุนผล 2 ปี (ปงี บ 2563-2564)

แบบ Multi-marker สาหรบั การตรวจแอนตบิ อดีตํอเช้อื เอช และคณะ

ไอวี (anti-HIV), แอนติบอดีตํอเชอื้ ไวรัสตบั อักเสบซี (anti-

HCV) ไวรสั ตบั อกั เสบบี (HBsAg) และแอนติบอดตี ํอเชื้อ

Treponema pallidum (anti-TP) สาหรบั ห๎องปฏบิ ตั ิการ

ตรวจคดั กรองโลหติ บรจิ าค

3.2 โครงการยอ่ ยที่ 2 โครงการพฒั นาตัวอยํางควบคมุ คณุ ภาพ นางสาวสริ ลิ ดา พิมพา 2 ปี (ปีงบ 2563-2564)

สาหรับการตรวจ anti-HCV โดยชดุ ตรวจรวดเร็ว สาหรบั และคณะ

หอ๎ งปฏิบตั ิการตรวจวนิ ิจฉัยเช้อื ถํายทอดทางเลือด

3.3 โครงการย่อยท่ี 3 ตัวอยํางควบคมุ คุณภาพการทดสอบเอช นายสทุ ธวิ ฒั น์ ลาไย 2 ปี (ปีงบ 2563-2564)

ไอวี พี24 แอนติเจน สาหรบั ชุดตรวจเอชไอวรี นํุ ที่ 4 แบบ และคณะ

รวดเร็ว สาหรบั ห๎องปฏิบัติการตรวจวนิ ิจฉยั เช้ือถาํ ยทอด

ทางเลือด

4 ประสทิ ธภิ าพการเสรมิ ฤทธข์ิ องไพเพอรโ์ รนลิ บิวทอกไซด์ นางสาวสนุ ัยนา สทา๎ นไตรภพ 1 ปี (ปงี บ 2563)

รํวมกบั สารเดลตา๎ เมทรนิ ทม่ี ีตํอพฤติกรรมการหลกี หนีและ และคณะ

อัตราการตายของยงุ ลายบา๎ น

5 การพฒั นาวิธเี ตรยี มตัวอยํางเลอื ดเพือ่ จาแนกเช้อื แบคทเี รยี นางสาวฉตั รทพิ ย์ เครอื หงษ์ 1 ปี (ปงี บ 2563)

โดยตรงดว๎ ย MALDI-TOF MS และคณะ

6 การพัฒนาการเรยี นรูข๎ องเครือ่ งอตั โนมตั เิ พือ่ ชํวยวินิจฉัยโรค นายขันธท์ วิ า ชยั ราช 1 ปี (ปีงบ 2563)

ระบบทางเดินหายใจเบ้อื งตน๎ ดว๎ ยการใช๎ Machine และคณะ

learning

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 8

ลาดบั โครงการ ผรู้ บั ผดิ ชอบ ระยะเวลา

7 การประเมินความใชไ๎ ดว๎ ธิ ีตรวจเชอื้ Bacillus cereus และ นางสาวนงลกั ษณ์ สาย 1 ปี (ปงี บ 2563)
Bacillus thuringiensis ดว๎ ยเทคนิค Multiplex PCR ประดิษฐ์
เทยี บกับวิธีมาตรฐาน และคณะ 1 ปี (ปีงบ 2563)
นางสาวสุภาพร สภุ ารักษ์ 1 ปี (ปงี บ 2563)
8 โครงการเฝูาระวงั อุบัตกิ ารณ์การตดิ เชือ้ เอชไอวรี ายใหมํ ใน และคณะ 1 ปี (ปีงบ 2563)
กลํุมหญงิ ตง้ั ครรภ์และกลํมุ พนกั งานบริการหญิง นางสิรพิ รรณ แสงอรุณ 1 ปี (ปีงบ 2563)
และคณะ
9 การเฝาู ระวังเชือ้ เอชไอวดี อ้ื ยาตา๎ นไวรสั อนิ ทเี กรสในผต๎ู ดิ นางสริ ิพรรณ แสงอรณุ 2 ปี (ปงี บ 2562-2563)
เช้ือเอชไอวกี ํอนรับการรกั ษาในประเทศไทย และคณะ
นางสาวรินทรล์ ภสั อรรถเธยี ร
10 การเฝาู ระวงั เช้อื ไวรสั เอชไอวดี ้ือยาในผูป๎ ุวยท่ไี ดร๎ ับยาตา๎ น ไชย
ในประเทศเนปาล และคณะ

11 ระบาดวิทยาของเช้ือรากํอโรค และเชอื้ แบคทีเรียในกลุมํ นายเกรียงศักดิ์ ฤชศุ าศวัต
aerobic actinomycetes จากตวั อยํางผู๎ปุวยที่สงํ ตรวจ และคณะ
วินจิ ฉยั หรอื ตรวจยนื ยนั ทสี่ ถาบนั วิจยั วทิ ยาศาสตร์
สาธารณสขุ ในปี 2560-2563

12 การประเมนิ ชดุ การตรวจวนิ จิ ฉัยแบบรวดเร็วทาง
ห๎องปฏิบัติการ (โดยเทคนคิ ฟูลออเรสเซนต์อิมมนู เอสเส)
และการนาไปใช๎ประเมนิ ในพืน้ ท่มี กี ารตดิ เช้ือไวรสั เดงก่ี

5. โครงการอ่นื ๆ :

จานวน 4 โครงการ

ลาดับ โครงการ ผรู้ บั ผดิ ชอบ ระยะเวลา

1 โครงการวณั โรคสนับสนุนการยุติวณั โรค เบญจวรรณ เพชรสุขศริ ิ 1 ปี (ปีงบ 2563)
และคณะ 1 ปี (ปงี บ 2563)

2 การธารงภารกจิ ห๎องปฏิบตั ิการเครอื ขํายขององคก์ าร รตั นา ตาเจรญิ เมือง 7 ปี (ปงี บ 2558-2564)
2 ปี (ปีงบ 2562-2563)
อนามัยโลก เพอ่ื เปน็ ศูนย์กลางขอ๎ มูลอา๎ งอิงดา๎ นเชื้อไวรสั กอํ และคณะ
1 ปี (ปงี บ 2563)
โรคทเ่ี ปน็ ปญั หาสาคญั ของประเทศและภยั ตอํ ความมั่นคง

ด๎านสุขภาพโลก

3 โครงการพัฒนาศกั ยภาพหอ๎ งปฏิบตั กิ าร วนั ทนาปวีณกิตตพิ ร

เครือขํายและเฝาู ระวงั เช้ือดื้อยาตา๎ นจลุ ชีพ (Lab Network และคณะ

Capacity Building and AMR)

4 การประเมินชุดการตรวจวนิ จิ ฉัยแบบรวดเรว็ ทาง นายเกรียงศักด์ิ ฤชศุ าศวตั

ห๎องปฏบิ ัติการ (โดยเทคนคิ ฟลู ออเรส เซนต์อมิ มนู เอสเส) และคณะ

และการนาไปใชป๎ ระเมนิ ในพนื้ ทมี่ กี ารติดเช้ือไวรสั เดงกี ณ

โรงพยาบาลกาแพงเพชร, โรงพยาบาลคลองขลงุ ,

โรงพยาบาลคลองลาน, โรงพยาบาลพรานกระตาํ ยและ

โรงพยาบาลขาณุวรลักษบุรี

5 โครงการผลติ ชุดตรวจโรคไขฉ๎ หี่ นู นางพิไลลักษณ์ อัคคไพบลู ย์

โอกาดะ

และคณะ

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 9

6. โครงการเฝาู ระวังและประเมินความเส่ยี ง (Surveillance)

จานวน 5 โครงการ

ลาดบั โครงการ ผูร้ ับผดิ ชอบ ระยะเวลา

1 ชดุ โครงการวิจยั การศึกษา Whole genome ของเช้อื ไวรสั นางพิไลลักษณ์ โอกาดะ 4 ปี (ปีงบ 2563-2566)

กอํ โรคกลมํุ อาการทางเดนิ หายใจเฉียบพลนั รนุ แรง และคณะ 2 ปี (ปงี บ 2563-2564)
4 ปี (ปงี บ 2563-2566)
กลํุมอาการไข๎ออกผ่ืนจากเช้อื หดั กลํุมอาการอุจจาระรวํ ง 2 ปี (ปงี บ 2563-2564)
3 ปี (ปีงบ 2563-2565)
และอาหารเป็นพษิ
1 ปี (ปงี บ 2563)
ด๎วยเทคนิค Next generation sequencing 2 ปี (ปีงบ 2563-2564)
2 ปี (ปงี บ 2563-2564)
1.1 โครงการยํอยที่ 1 การศึกษา Whole genome ของเชอ้ื รัตนา ตาเจรญิ เมือง

ไวรัสกํอโรคอุจจาระรวํ งและอาหารเป็นพิษ ดว๎ ยเทคนิค และคณะ

Next-generation sequencing

1.2 โครงการยอํ ยท่ี 2 การศึกษา Whole genome ของไวรสั พชั ชา อินคาสืบ

หัดทพี่ บในประเทศไทยชํวงปี พ.ศ. 2558 ถึง 2565 ดว๎ ย และคณะ

เทคนิค Next-generation sequencingประเทศไทย

1.3 โครงการย่อยท่ี 3 การศกึ ษาเชือ้ อบุ ัติใหมํในผู๎ปวุ ยติดเช้อื นางสาวสิรภิ าภรณ์ ผุยกัน

ระบบทางเดนิ หายใจเฉียบพลนั รุนแรงดว๎ ยวิธี Next- และคณะ

generation sequencing

2 การศกึ ษาระบาดวิทยาระดับโมเลกุลของไวรัสโนโรและโรทา นางสาวรัตนา ตาเจรญิ เมือง

ในผู๎ปุวยอจุ จาระรวํ ง ในกรุงเทพมหานคร อดุ รธานี และ และคณะ

เพชรบรู ณ์ ในปี พ.ศ. 2563

3 การเฝาู ระวงั ยงุ พาหะโรคไข๎เลอื ดออก ไขซ๎ กิ า และชิคนุ กนุ นายจติ ติ จันทร์แสง

ยา เพอ่ื การเตือนภยั สขุ ภาพ และคณะ

4 การเฝาู ระวงั เชื้อกลมุํ ฟลาวไิ วรัส (Flavivirus) ในตวั อยาํ ง นายภานุกจิ กณั หาจนั ทร์

ผู๎ปวุ ยจากโรงพยาบาลราชบุรี และคณะ

โรงพยาบาลลาปาง และโรงพยาบาลคลองขลุง

5 โครงการเฝาู ระวงั การตดิ เชือ้ โรคสตั ว์สูํคน รกิ เกต็ เซยี คิวฟี นายสัตวแพทย์เดชา แปงใจ

เวอร์ บารโ์ ทเนโลซสิ ในกลุมํ ผปู๎ ุวยไข๎ไมํทราบสาเหตุ ใน และคณะ

พนื้ ท่ีเขตสุขภาพภาคภาคเหนอื ตะวนั ออกเฉยี งเหนือ และ

ภาคกลาง

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 10

2.2 งานบรกิ าร ตรวจวินจิ ฉยั /ยนื ยัน การประเมิน
คุณภาพชุดตรวจ

2.2.1 การตรวจวนิ ิจฉัยแบคทเี รีย ต.ค.62 ถึง ก.ย.63
ส่งตรวจ ผลบวก ร้อยละ
ลาดับ รายการทดสอบ
444 232 52.25
1 ตรวจวนิ ิจฉยั เช้อื กํอโรคในระบบทางเดนิ อาหาร 104 9 8.65
2 ตรวจวินจิ ฉัยเชอื้ กํอโรคในระบบทางเดนิ หายใจ 32 17 53.13
3 ตรวจวินจิ ฉัยเชอ้ื กอํ โรคในระบบอืน่ ๆ
4 การตรวจวเิ คราะหเ์ ช้ือแบคทีเรยี กอํ โรคดว๎ ยวิธี 13 13 100

MALDI-TOF MS 7 7 100
5 การตรวจวเิ คราะห์เชื้อแบคทีเรียในผลติ ภัณฑช์ วี ภาพ

2.2.2 การตรวจวิเคราะห์/ยืนยันเช้อื แบคทีเรีย เชื้อรา

ลาดับ รายการทดสอบ ต.ค.62 ถงึ ก.ย.63
ส่งตรวจ ผลบวก ร้อยละ
1 การตรวจหาเช้อื Campylobacter spp. ดว๎ ยเทคนคิ การ
เพาะเล้ยี งเช้อื และทดสอบความไวของเชื้อตํอยาต๎านจลุ ชพี 4 4 100

2 การตรวจหาเช้อื แบคทเี รียไร๎อากาศ ด๎วยเทคนิคการ 12 5 41.66
เพาะเลย้ี งเชือ้

3 การตรวจยืนยันเชื้อ Campylobacter spp. 3 3 100
51 51 100
4 การตรวจยืนยันเชือ้ แบคทเี รียไรอ๎ ากาศ 1 3 33.33

5 การตรวจวิเคราะหผ์ ลิตภัณฑ์ตาม พรบ. เชือ้ โรคและพษิ จาก 22 18 81.81
สัตว์ (เชอื้ แบคทเี รียไร๎อากาศ)
2 9.09
6 การตรวจยืนยนั เชื้อ Vibrio cholerae 1 4.55
- Vibrio cholerae non O1/non O139/non 1 4.55
O141
- Vibrio cholerae O139
- Vibrio cholerae O1, El Tor, Hikojima
- ไมํใชเํ ชอ้ื Vibrio, Aeromonas และ
Plesiomonas

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 11

ลาดับ รายการทดสอบ ต.ค.62 ถงึ ก.ย.63
ส่งตรวจ ผลบวก ร้อยละ
7 การตรวจยนื ยนั เชือ้ Vibrio parahaemolyticus ในระดบั
Serotype 4
- Vibrio parahaemolyticus O4:KUT 2 50.00
- Vibrio parahaemolyticus O2:K3 1 25.00
- Vibrio parahaemolyticus O10:KUT 1 25.00

8 การตรวจยืนยันเชือ้ Vibrio, Aeromonas และ 3
Plesiomonas ในระดับ Species 2 66.67
- Vibrio cholerae non O1/non O139/non 1 33.33
O141
- Aeromonas veronii bv. sobria 2
1 50.00
9 การตรวจหาสารพนั ธุกรรม (Hemolysin genes) ของเชือ้
Vibrio parahaemolyticus ด๎วยเทคนคิ duplex PCR 1 50.00
- Vibrio parahaemolyticus O4:KUT
ผลการตรวจ Hemolysin genes ดว๎ ยเทคนคิ duplex 400
PCR 8
1. thermostable direct hemolysin gene:
positive 7 87.50
2. thermostable direct hemolysin-related 1 12.50
hemolysin gene: negative
- Vibrio parahaemolyticus O2:KUT
ผลการตรวจ Hemolysin genes ด๎วยเทคนคิ duplex
PCR
1. thermostable direct hemolysin gene:
negative
2. thermostable direct hemolysin-related
hemolysin gene: negative

10 การตรวจยนื ยันเชือ้ Escherichia coli O157:H7

11 การตรวจวินิจฉัยเช้ือ Diarrheagenic Escherichia coli
- Escherichia coli non O157:H7, non-EAEC,

non-EIEC, non-EPEC, non-ETEC, non-STEC
- ไมํใชํเช้ือ Escherichia coli

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ 12

ลาดับ รายการทดสอบ ต.ค.62 ถงึ ก.ย.63
สง่ ตรวจ ผลบวก ร้อยละ
12 การตรวจยืนยนั เชอ้ื Shiga toxin-producing Escherichia
coli (จากผปู๎ วุ ย) 5 00

13 การตรวจยืนยันเชื้อ Staphylococcus aureus 4
- Methicillin-susceptible Staphylococcus 2 50.00

aureus (MSSA) 2 50.00
- ไมํใชํเชอื้ Staphylococcus aureus 44

14 การตรวจหาสารพนั ธุกรรม (Enterotoxin genes) ของเช้ือ 4 9.09
Staphylococcus aureus ดว๎ ยเทคนิค multiplex PCR
- Methicillin-susceptible Staphylococcus 2 4.55
aureus (MSSA) ตรวจพบยีนที่ควบคมุ การสร๎าง
Staphylococcal Enterotoxin ชนดิ A 7 15.91
- Methicillin-susceptible Staphylococcus
aureus (MSSA) ตรวจพบยีนที่ควบคมุ การสร๎าง 1 2.27
Staphylococcal Enterotoxin ชนดิ B
- Methicillin-susceptible Staphylococcus 4 9.09
aureus (MSSA) ตรวจพบยนี ท่คี วบคมุ การสรา๎ ง 23
Staphylococcal Enterotoxin ชนิด C
23 100
15 - Methicillin-resistant Staphylococcus 43 38 88.7
aureus (MRSA) ตรวจไมํพบยนี ทคี่ วบคมุ การสร๎าง 263 257 97.72
Staphylococcal Enterotoxin ชนดิ A, B, C, D และ E 10 10 100
- ไมใํ ชํเช้ือ Staphylococcus aureus
4 3 75
16 การตรวจวนิ ิจฉยั เชื้อแบคทเี รียเรืองแสงกลมุํ
Photobacterium และ Vibrio 440 395 89.77
- Photobacterium phosphoreum 0 00

17 การตรวจวนิ ิจฉยั เช้อื ราประเภทยสี ต์

18 การตรวจวนิ ิจฉัยเชือ้ ราประเภทโมลด์

19 การตรวจวินิจฉยั เช้อื Nocardia และ aerobic
actinomycetes

20 การตรวจจลุ ินทรียใ์ นผลติ ภณั ฑ์ชีวภาพ (รายการทดสอบยํอย:
การตรวจวเิ คราะห์เชือ้ ราในผลติ ภณั ฑช์ ีวภาพ)

21 การตรวจยืนยันเชอ้ื Salmonella

22 การตรวจยนื ยนั เช้อื Shigella

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 13

ลาดับ รายการทดสอบ ต.ค.62 ถงึ ก.ย.63
ส่งตรวจ ผลบวก รอ้ ยละ
23 การตรวจเช้อื แบคทเี รียกํอโรคไอกรน ด๎วย วิธี PCR
97 38 39.2
24 การตรวจเช้ือแบคทีเรยี กํอโรคเยอื่ หุม๎ สมองอักเสบ ดว๎ ย 4 3 75
เทคนิค PCR
---
25 การตรวจเชื้อแบคทีเรียกํอโรค Pneumonia ดว๎ ยวิธี PCR ---

26 การตรวจเชอ้ื แบคทเี รยี กํอโรค Atypical pneumonia ใน 3,083 249 8.1
ตัวอยํางผ๎ปู ุวย ด๎วยวธิ ี PCR 176 159 90.3
750 718 95.7
27 การตรวจแยกและยนื ยันเชือ้ Legionella spp. 192 173 90.1

28 การตรวจยนื ยันเช้อื แบคทเี รยี แกรมบวก 1 1 100.00
170 29 17.06
29 การตรวจยนื ยันเช้อื แบคทีเรียแกรมลบ 151 16 10.59
22 7 31.82
30 การตรวจยืนยนั เชอ้ื แบคทีเรยี แกรมลบกลุมํ glucose- 623 133 21.35
nonfermentative gram‐negative bacill 3 1 33.33
5 1 20.00
31 การตรวจวิเคราะหโ์ รคเร้ือนด๎วยวิธี Nucleic acid 56 20 35.71
amplification

32 การตรวจวิเคราะห์วณั โรคด๎วยวิธี PCR
33 การตรวจเชื้อวณั โรคและเช้ือมยั โคแบคทเี รยี อ่ืน โดยเพาะ

เล้ียงบนอาหารเลี้ยงเชอื้ ทีเ่ ตรียมจากไขํ
34 การตรวจเชื้อวณั โรคและเชื้อมยั โคแบคทีเรียอนื่ โดยการ

เพาะเลย้ี งเช้ือแบบไดผ๎ ลเรว็ ดว๎ ย MGIT 960 System
35 การตรวจการติดเชอื้ วณั โรคโดยตรวจสารอนิ เตอร์เฟอรอน

แกมมา
36 การตรวจวิเคราะหเ์ ช้ือวณั โรคและวัณโรคดื้อยาดว๎ ย Real-

time PCR
37 การตรวจวิเคราะห์เช้ือวณั โรคและเชื้อวณั โรคดื้อยาด๎วย

เทคนคิ Line probe assay
38 การตรวจวิเคราะห์เชอ้ื วัณโรคและเชอ้ื วัณโรคด้ือยา

rifampicin ดว๎ ย Xpert MTB/RIF

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 14

2.2.3 การตรวจวนิ ิจฉยั ทางนา้ เหลือง ต.ค.62 ถึง ก.ย.63

ลาดับ รายการทดสอบ ส่งตรวจ ผลบวก ร้อยละ
113 2 1.77
1 การตรวจยนื ยันโรคเลปโตสไปโรสิสดว๎ ยวธิ ี MAT (งาน
บรกิ าร) 82 5 6.09

2 การตรวจยืนยันโรคเลปโตสไปโรสิสด๎วยวธิ ี MAT (สนับสนุน 284 9 3.17
โครงการวิจยั )
401 10 2.49
3 การตรวจวนิ ิจฉยั โรคเลปโตสไปโรสสิ ด๎วยวธิ ี IFA-IgM & IgG
(งานบรกิ าร) 6 0 0.00

4 การตรวจวนิ ิจฉัยโรคเลปโตสไปโรสิสด๎วยวธิ ี IFA-IgM & IgG 214 12 5.61
(สนบั สนนุ โครงการวิจัย)
6 0 0.00
5 การตรวจโรคเลปโตสไปโรสิสด๎วยวิธี PCR
6 การตรวจโรคเมลิออยโดสสิ ดว๎ ยวธิ ี IFA-IgM & IgG 72 9 12.5
7 การตรวจโรคเมลอิ อยโดสิสดว๎ ยวธิ ี IHA
8 การตรวจวโรคบรูเซลโลซิสทางภูมคิ มุ๎ กันวิทยา 96 5 5.21
1 1.04
9 การตรวจวินิจฉัยโรคสครบั ไทฟัส ด๎วยเทคนิค IFA

10 การตรวจวินิจฉยั โรคมิวรีนไทฟัส ดว๎ ยเทคนิค IFA

2.2.4 การตรวจวินิจฉัยเช้ือไวรัส

ลาดบั รายการทดสอบ ต.ค.62 ถงึ ก.ย.63
ส่งตรวจ ผลบวก รอ้ ยละ
1 การตรวจหาแอนติบอดีตํอไวรัสเดงกี โดยวิธี ELISA โดยใช๎
Tissue cultured antigen 262 68 25.95

2 การตรวจหาไวรสั เดงกี โดยวิธี Reverse Transcription- 000
Polymerase Chain Reaction (RT-PCR)
55 23 41.82
3 การตรวจจาแนกชนิดของไวรัสเดงกี โดยใช๎ชุดตรวจ
abTESTM DEN5qPCR II Kit 133 18 13.53

4 การตรวจหาแอนติบอดีตํอไวรัสเจอีและเดงกี ในผ๎ูปุวยไข๎ 715 394 55.10
สมองอักเสบ โดยวิธี Antibody Capture ELISA
508 277 54.53
5 การตรวจหาแอนติบอดีชนิด IgM ตํอเชื้อไวรัสชิคุนกุนยา
โดยวิธี Antibody Capture ELISA

6 การตรวจหาไวรัสชิคุนกุนยา โดยวิธี Reverse

Transcription-Polymerase Chain Reaction

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ 15

ลาดับ รายการทดสอบ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63

7 การตรวจสารพันธุกรรมของเชื้อไวรัสซิกาด๎วยวิธี Real- ส่งตรวจ ผลบวก รอ้ ยละ
Time RT-PCR 590 1 0.17

8 การตรวจหา Anti-Zika IgM ดว๎ ยชดุ ตรวจ EUROIMMUN 443 0 0

9 การตรวจหา Anti-Zika IgG ด๎วยชุดตรวจ EUROIMMUN 295 107 36.27

10 การตรวจจาแนกเชอ้ื ไวรัสเดงกี ชคิ นุ กนุ ยาและซิกา ดว๎ ยวธิ ี 3 2 66.67
multiplex real time RT-PCR
27 0 0
11 การตรวจหาสารพนั ธุกรรมของเช้ือไวรสั ตบั อักเสบ เอ ด๎วย
เทคนคิ RT-PCR 68 18 26.47

12 การตรวจหาแอนตเิ จนตํอไวรัสตับอักเสบ ดว๎ ยเทคนิค ELFA 88 4 4.55
– Anti-HAV Total
98 44 44.90
13 การตรวจหาแอนติเจนตํอไวรัสตับอักเสบ ด๎วยเทคนิค ELFA
- HBsAg 697 175 25.11
94 57 60.64
14 การตรวจหาแอนบอดีตํอไวรัสตับอักเสบ ด๎วยเทคนิค ELFA 14 11 78.57
– Anti HBs
74 15 20.27
15 ตรวจหาแอนติบอดีชนดิ IgM ตํอไวรสั หัดดว๎ ยเทคนิค ELISA
177 127 71.75
16 ตรวจหาแอนติบอดชี นดิ IgG ตํอไวรสั หัดดว๎ ยเทคนิค ELISA 522 28 5.36

17 ตรวจหาแอนตบิ อดีตํอไวรสั หดั ด๎วยเทคนคิ NT ในกรณี 52 42 80.77
สงสัยโรคไข๎สมองอักเสบ(SSPE)
50 7 14.00
18 การแยกเช้ือและตรวจพิสูจนเ์ ชื้อไวรสั หดั ด๎วยเทคนิค Cell 13 3 23.00
culture
21 13 61.90
19 ตรวจหาสายพันธ์ไวรัสหัด ดว๎ ยเทคนิค sequence
20 5 25.00
20 ตรวจหาแอนตบิ อดชี นิด IgM ตอํ ไวรสั หดั เยอรมันด๎วย
เทคนิค ELISA

21 ตรวจหาแอนติบอดีชนดิ IgG ตอํ ไวรัสหัดเยอรมนั ด๎วย
เทคนคิ ELISA

22 ตรวจหาสายพันธ์ไวรัสหดั เยอรมนั ดว๎ ยเทคนคิ sequence

23 ตรวจหาแอนตบิ อดีชนดิ IgM ตอํ ไวรัสคางทมู ดว๎ ยเทคนิค
ELISA

24 ตรวจหาแอนตบิ อดีชนิด IgG ตอํ ไวรัสคางทูมดว๎ ยเทคนคิ
ELISA

25 การแยกเช้ือและตรวจพิสจู นเ์ ชื้อไวรสั คางทูมด๎วยเทคนิค
Cell culture

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 16

ลาดบั รายการทดสอบ ต.ค.62 ถงึ ก.ย.63
สง่ ตรวจ ผลบวก รอ้ ยละ
26 ตรวจหาสายพนั ธ์ไวรสั คางทูมด๎วยเทคนิค sequence
20 8 40.00
27 การตรวจหาไวรสั พษิ สุนขั บ๎าด๎วยเทคนคิ IFA 4 3 75.00
73 4 5.48
28 การตรวจหาสารพนั ธุกรรมไวรัสพิษสุนัขบา๎ ดว๎ ยเทคนิค
96 59 61.46
Nested RT-PCR
763 94 12.32
29 การตรวจหาแอนตบิ อดตี ํอไวรัสพษิ สนุ ัขบา๎ ดว๎ ยเทคนคิ
24 24 100
RFFIT
500
30 ตรวจแยกเชอ้ื และพสิ จู นเ์ ช้อื ไวรัสโปลโิ อโดยวิธี Isolation
และ Real-time RT-PCR 41 1 2.44
000
31 จาแนกสายพันธุ์โรคโปลิโอที่แยกเชือ้ ไดโ๎ ดยวธิ ี Real-time
RT-PCR 1 1 100

32 การตรวจไวรัสเอนเตอโรอืน่ ๆ โดยวิธี Isolationและพสิ ูจน์ 40 10 25
เชอ้ื โดยวิธี micro-NT
59 0 0
33 การตรวจโรคจากไวรัสกลุํมเอนเตอโร โดยวิธี RT-PCR 00 0
34 การตรวจทางน้าเหลืองไวรสั เอนเตอโรอน่ื ๆ โดยวธิ ี micro-
55 4 7.27
NT 300
35 ตรวจโรคมือ เทา๎ และปากจากไวรสั เอนเตอโร 71 โดยวิธี
000
Isolation และพสิ ูจน์เชือ้ โดยวธิ ี micro-NT
36 ตรวจโรคมือ เทา๎ และปากจากไวรัสกลมํุ เอนเตอโร โดยวธิ ี 100
78 11 14.10
RT-PCR
37 การตรวจทางน้าเหลืองโรคมือ เทา๎ ปาก โดยวธิ ี micro-NT 7 7 100

38 การตรวจไวรสั คอกซากี โดยวิธี Isolationและพสิ จู นเ์ ชื้อ
โดยวิธี micro-NT

39 การตรวจทางนา้ เหลือง Coxsackie B โดยวธิ ี Micro-NT

40 ตรวจโรคตาแดงจากไวรัสโดยวิธี Isolation และพิสูจนเ์ ช้อื
โดยวิธี PCR

41 การตรวจทางนา้ เหลือง โรคตาแดงจากไวรสั โดยวิธี Micro-
NT

42 การตรวจโรคอจุ จาระรํวงจากไวรสั โรทา โดยวิธี PAGE

43 การตรวจโรคอุจจาระรํวงจากไวรสั โรทา/ไวรัสโนโร โดยวธิ ี
PCR

44 การตรวจหาแอนติบอดตี ํอไวรัสไข๎หวัดใหญํ ชนดิ Aและ
ชนิด B ดว๎ ยเทคนคิ HI

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 17

ลาดบั รายการทดสอบ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63
สง่ ตรวจ ผลบวก รอ้ ยละ
45 การตรวจหาสารพนั ธกุ รรมไวรสั ไขห๎ วัดใหญแํ ละไขห๎ วัดนก
ด๎วยเทคนิค Realtime RT-PCR 300
2 1 50
46 การตรวจหาแอนติบอดตี ํอไวรัสเฮอรป์ สี ์ ซิมเพลก็ ซ์ 104 89 85.58
(HSV-1,HSV-2) ด๎วยเทคนคิ NT 27 10 37.04
20 3 15
47 การตรวจหาแอนตบิ อดี ชนดิ IgG ตํอไวรสั สุกใส ไวรสั งสู วดั 17 8 47.06
(VZV) ด๎วยเทคนคิ ELISA 17 1 5.88
500
48 การตรวจหาแอนตบิ อดี ชนดิ IgM ตํอไวรัสสุกใส ไวรสั งูสวัด 44 1 2.27
(VZV) ดว๎ ยเทคนิค ELISA 000

49 การตรวจหาแอนติบอดชี นดิ IgM ตอํ ไวรัสเฮอร์ปีส์ ซิม 27 14 51.85
เพล็กซ์ (HSV) ด๎วยเทคนคิ ELISA
3 1 33.33
50 การตรวจหาแอนติบอดี ชนิดIgM ตํอไวรสั ไข๎หวัดใหญํชนดิ
A ดว๎ ยเทคนิค ELISA 36 0 0

51 การตรวจหาแอนตบิ อดี ชนดิ IgM ตอํ ไวรสั ไขห๎ วัดใหญํชนิด 000
B ดว๎ ยเทคนคิ ELISA
1646 149 9.05
52 การตรวจหาแอนติบอดี ชนดิ IgM ตํอไวรสั อะดโิ น ดว๎ ย 54 50 92.59
เทคนิค ELISA

53 การตรวจหาสารพันธกุ รรมไวรัสเฮอร์ปสี ์ ซมิ เพลก็ ซ์ (HSV)
ดว๎ ยเทคนิค PCR

54 การตรวจหาไวรสั ระบบทางเดินหายใจ (ไวรัสไข๎หวดั ใหญํ,
ไวรัสพาราอนิ ฟลเู อ็นซําไวรัส,ไวรสั อะดิโนและไวรสั อาร์เอส)
ดว๎ ยเทคนคิ cell culture

55 การตรวจสารพนั ธกุ รรมไวรัสไขห๎ วัดใหญํ ดว๎ ยเทคนคิ Real
time RT-PCR (งานบริการ)

56 การตรวจหาสารพนั ธกุ รรมของไวรสั อารเ์ อส ด๎วยเทคนคิ
Real time RT-PCR

57 การตรวจหาสารพันธุกรรมไวรสั โรคทางเดนิ หายใจ
ตะวันออกกลาง (MERS-CoV) ดว๎ ยเทคนคิ Real time
PCR

58 การตรวจหาสารพนั ธกุ รรมไวรัสไขห๎ วัดใหญแํ ละไข๎หวัดนก
สายพันธุ์ H5, H7 ดว๎ ยเทคนคิ Real time PCR

59 ตรวจคดั กรองมะเร็งปากมดลูกดว๎ ย HPV DNA test

60 การตรวจเอชไอวีด้ือยาต๎านไวรัส(ตวั อยาํ งจากประเทศ
เนปาล)

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 18

2.2.5 การตรวจวนิ ิจฉยั พาราสติ

ลาดบั รายการทดสอบ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63
สง่ ตรวจ ผลบวก รอ้ ยละ
1 ตรวจไขํพยาธิลาไส๎โดยวธิ ี MIF
10 8 80
2 ตรวจอจุ จาระโดยการย๎อมสี modified acid fast 00 0
4 4 100
3 ตรวจมาลาเรยี (Malaria) /
ฟิลาเรีย(Filaria) โดยการย๎อมสี Giemsa 60 0

4 ตรวจ Pneumocystis jiroveci pneumonia (PCP) โดยการ 20 3 15
ย๎อมสี TBO และ Giemsa
24 6 25
5 ตรวจหาแอนติบอดีตอํ เช้ือ Toxoplasma gondii ด๎วยวิธี
Latex agglutination 28 6 21.42

6 ตรวจหาแอนติบอดชี นดิ IgG ตํอเชอื้ Toxoplasma gondii 73 7 9.58
โดยวิธี ELISA
134 0 0
7 ตรวจหาแอนตบิ อดชี นิด IgM ตอํ เชือ้ Toxoplasma gondii
โดยวธิ ี ELISA 30 0

8 การตรวจพยาธิลาไส๎ ดว๎ ยเทคนคิ Concentration technique

9 ตรวจ Cryptosporidium, Giardia จากตวั อยํางน้า โดยวธิ ปี ั่น
Concentration method และย๎อมสี modified acd fast

10 ตรวจ ปลาส๎ม แหนม โดยวิธี compression (Trichinoscope)
และวธิ ี digestion

2.2.6 การตรวจวินจิ ฉยั พันธุกรรมทางคลินกิ

ลาดบั รายการทดสอบ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63
สง่ ตรวจ ผลบวก ร้อยละ
1 การตรวจหาความผดิ ปกติของยนี ธาลสั ซเี มยี โดยการวเิ คราะห์
ลาดับการเรยี งตวั ของสารพันธกุ รรม 75 55 73.33

2 การตรวจวินจิ ฉัย α-thalassemia 1 (ชนิด SEA และชนิดไทย) 79 18 22.78

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ 19

2.2.7งานบริการทดสอบด้านสตั วท์ ดลอง ต.ค.62 ถึง ก.ย.63

ลาดบั รายการทดสอบ สง่ ตรวจ ผลบวก รอ้ ยละ
20 3 15
1 การทดสอบการระคายเคอื งทางผวิ หนงั เบ้อื งต๎นดว๎ ยวธิ ี
primary skin irritation test ตามมาตรฐาน ISO17025 12 0 0

2 การทดสอบการแพท๎ างผวิ หนงั ดว๎ ยวธิ ี Closed patch test 60 0
ตามมาตรฐาน ISO17025

3 การตรวจวนิ ิจฉยั Botulinum toxin ในตวั อยํางผป๎ู วุ ยกรณี
ระบาด

2.2.8 งานทดสอบประสิทธภิ าพ ผลติ ภัณฑ์ และกาจดั แมลงการแพทย์

ลาดับ รายการทดสอบ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63
สง่ ตรวจ ผลบวก รอ้ ยละ
1 การทดสอบประสิทธภิ าพวัตถุมีพิษประเภท (ยาจุดกนั ยงุ ,
electric vaporizer mat/liquid) 51 51 100
22 15 68.18
2 การทดสอบประสิทธิภาพวตั ถุมพี ิษฉีดพนํ ประเภท (Oil
formula โดยวิธี Space spray, ชนิดกระป๋องอดั แก๏ส 98 72 73.47
(Aerosol) กาจัดแมลงบนิ (ยุง/แมลงวนั ))
83 74 89.16
3 การทดสอบประสทิ ธิภาพวัตถมุ พี ิษกาจัดแมลงคลานชนดิ 99 96 96.97
Aerosol ดว๎ ยวิธี (contact poison test, residual test)
และชนดิ Water solubel formula ดว๎ ยวิธี (contact 000
poison test, residual test) 26 24 92.31
11 7 63.64
4 การทดสอบประสทิ ธิภาพวตั ถุมีพิษกาจัดแมลงบนิ ดว๎ ยวธิ ี
(contact poison test, residual test)

5 การทดสอบประสิทธภิ าพวตั ถุมพี ิษกาจัด/ยับย้งั การเจรญิ
ของตวั ออํ นแมลงในสภาพจาลองธรรมชาติ (กาจดั ลูกนา้ ,
ยับยง้ั การเจริญของลูกน้า, ยับยัง้ การเจรญิ ของหนอน
แมลงวัน)

6 การทดสอบประสทิ ธิภาพวัตถุมีพษิ กาจดั ยุง ชนิดชุบมงุ๎

7 การทดสอบประสิทธิภาพวตั ถมุ ีพิษฉีดพนํ กาจดั แมลงบิน
ประเภท (cold fogger, Thermal fogger)

8 การทดสอบประสทิ ธภิ าพวัตถุมพี ิษกาจดั แมลง ประเภท
เหยอื่ พิษ/ผงโรย/ชอลก์ กาจัดแมลงสาป/แมลงวัน

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 20

ลาดบั รายการทดสอบ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63
สง่ ตรวจ ผลบวก ร้อยละ

9 การทดสอบศักยภาพของเครื่องฉดี พํนสารเคมกี าจัดแมลง 18 18 100

เครอื่ งพํนประเภทหว้ิ ประเภทสะพายหลงั และประเภทติด

รถ (VMD/FR)

10 การทดสอบประสทิ ธภิ าพของผลิตภณั ฑ์กาจดั แมลงแบบก่ึง 8 8 100

ภาคสนาม Semifield

11 การวเิ คราะห์คําความแรงของสารออกฤทธิใ์ นแบคทีเรยี / 3 2 67

ผลติ ภณั ฑ์แบคทีเรียกาจัดลูกน้ายงุ ลาย

12 การทดสอบความคงทนของแบคทเี รยี /ผลติ ภณั ฑ์แบคทีเรยี 2 2 100

กาจดั ลูกน้า

13 การทดสอบประสิทธภิ าพของผลติ ภณั ฑ์ปอู งกนั ยงุ ตํอยงุ 136 80 58.8

กลางวนั ในห๎องปฏบิ ัติการ

14 การทดสอบประสิทธภิ าพของผลติ ภัณฑ์ปอู งกันยุงตํอยุง 43 32 74.4

กลางคืนในห๎องปฏิบัตกิ าร

15 การทดสอบประสิทธภิ าพของผลติ ภัณฑ์ไลแํ มลงวนั ในตู๎ 10 2 20

Peet Grady Chamber

16 การทดสอบประสทิ ธิภาพของผลติ ภณั ฑไ์ ลแํ มลงสาบในต๎ู Peet 9 1 11.1

Grady Chamber

17 การทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภณั ฑไ์ ลยํ งุ กลางวนั / 11 2 18.2

กลางคืน (กงึ่ ภาคสนาม) ชนดิ ชบุ เคลือบสาร

18 การทดสอบประสิทธิภาพของผลิตภณั ฑไ์ ลํยุงกลางวัน / 9 2 22.2

กลางคืน (กึ่งภาคสนาม) ชนดิ ไอระเหย

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 21

2.2.9 การตรวจวเิ คราะห์ทางพิษวทิ ยา (สารพิษ โลหะพิษ ฯลฯ)

ลาดับ รายการทดสอบ สง่ ตรวจ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63 ร้อยละ
ผลบวก 100

1 การทดสอบประสิทธภิ าพ 10 10 22.5
ผลติ ภัณฑ์กาจดั มดในบา๎ นเรือน
ประเภทเหยอ่ื พิษ 0.0

2 การทดสอบประสิทธิภาพ 40 9 11.1
ผลิตภณั ฑก์ าจดั มดในบา๎ นเรือน
ประเภทฤทธส์ิ มั ผสั 45.71
35.09
3 การทดสอบประสทิ ธิภาพ 4 0 64.91
ผลิตภัณฑก์ าจัดมดในบา๎ นเรือน 2.59
ประเภทฤทธต์ิ กค๎าง 53.37
78.95
4 การทดสอบประสิทธิภาพ 9 1 21.05
ผลติ ภณั ฑก์ าจัดมดในบ๎านเรือน
ประเภทสารไลํ 2.63
2.63
5 การตรวจหาสารพิษไมํทราบ 35 16 48.00
ชนดิ 51.00
12.50
6 การตรวจสารพษิ และสณั ฐาน 57 - สารพษิ กลมํุ amanitins 20 0
วิทยาในตวั อยาํ งเห็ด
และ muscarine
7 การตรวจวิเคราะห์ alcohol
ด๎วยเทคนคิ GC/GC- - สัณฐานวิทยา 37
Headspace
386 - ไมํเกนิ ระดบั ที่กฎหมายกาหนด 10
8 การตรวจวเิ คราะหร์ ะดบั
เอนไซมโ์ คลนี เอสเตอเรสด๎วย - เกินระดบั ท่ีกฎหมายกาหนด 206
เทคนิค UV/VIS
Spectrometry 19 - อยูํในระดับปกติ 15
- ไมํอยใํู นระดบั ปกติ 4
9 การตรวจวิเคราะหป์ รอทใน
ปัสสาวะด๎วยเทคนิค AAS 38 - อยํูในระดับปกติ 1
- ไมอํ ยใํู นระดบั ปกติ 1

10 การตรวจวเิ คราะห์สารหนูด๎วย 200 - อยใูํ นระดบั ปกติ 96
เทคนิค ICP-MS - ไมํอยูํในระดับปกติ 102

11 การตรวจวเิ คราะหต์ ะก่วั ดว๎ ย 8 - อยใูํ นระดบั ปกติ 1
เทคนคิ AAS - ไมอํ ยูํในระดบั ปกติ 0

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 22

ลาดับ รายการทดสอบ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63
ส่งตรวจ ผลบวก ร้อยละ
12 การตรวจวิเคราะห์ตัวอยํางควบคุมคุณภาพ
- การตรวจวเิ คราะหแ์ อลกอฮอล์ ในเลอื ด 8 8 100
- การตรวจวิเคราะหต์ ะกว่ั แคดเมยี ม แมงกานีส 36 36 100
และปรอทในเลือด
- การตรวจวิเคราะหป์ รอทและสารหนูในปัสสาวะ 24 24 100
- การตรวจวเิ คราะห์สังกะสแี ละทองแดงในซรี ัม 24 24 100
- Creatinine 12 12 100

2.2.10 การประเมินคณุ ภาพชุดตรวจการตรวจวเิ คราะห์ทางชีวเคมี

ลาดับ รายการทดสอบ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63
ส่งตรวจ ผลบวก ร้อยละ
1 การประเมินคุณภาพชดุ ตรวจเอชไอวี กํอนจาหนําย
ในตลาด (Pre-marketing) 10 9 90.00
10 10 100.00
2 การประเมินคณุ ภาพชดุ ตรวจเอชไอวี หลังจาหนาํ ย 197 120 60.9
ในตลาด (Post-marketing) 76 68 89.5

3 การตรวจวเิ คราะหเ์ ชือ้ ไวรัสและเชอ้ื แบคทีเรียกํอ 7 7 100
โรคระบบทางเดินหายใจ 26 ชนิด

4 การประเมินคุณภาพชดุ ตรวจหาสารพันธกุ รรมเชอื้
ไวรสั โคโรนา 2019 (SARS-CoV-2) ด๎วยเทคนคิ
Real-time RT-PCR

5 การตรวจสณั ฐานวิทยาดว๎ ยเทคนคิ จลุ ทรรศน์
อเิ ลก็ ตรอน
แบบสอํ งกราด (SEM)

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ 23

2.2.11 งานสนับสนนุ หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร การใหบ้ รกิ ารทางห้องปฏิบัตกิ ารอืน่ ๆ

ลาดบั รายการทดสอบ ต.ค.62 ถึง ก.ย.63

1 การใหบ้ รกิ ารทางห้องปฏิบัติการอ่ืนๆ (เชน่ การใหบ้ ริการ จานวน (ตวั อย่าง) ผลบวก
ยงุ สายพนั ธ์ุมาตรฐาน 6 สายพนั ธ์ุ การจาแนกชนิดแมลง
เป็นตน้ ) 516 ครั้ง 0
การใหบ๎ รกิ ารยุงสายพนั ธ์ุมาตรฐาน 6 สายพันธุแ์ กํหนํวยงาน
ภายในกรมวทิ ยาศาสตรก์ ารแพทย์ (196,235 ตัว)

2 การใหบ๎ รกิ ารยงุ สายพนั ธ์ุมาตรฐาน 6 สายพันธุ์แกํหนํวยงาน 49 ครง้ั 0
ภายนอกกรมวทิ ยาศาสตร์การแพทย์ (20,050 ตัว)

3 การจาแนกชนิดแมลงทม่ี ีความสาคญั ทางการแพทย์โดยใช๎ 17 ตัวอยําง 0
ลักษณะภายนอกเป็นหลัก

4 การใหบ๎ ริการสายพันธุ์เชอ้ื จุลินทรยี ์ 3 สายพนั ธุ์ 0

5 การทดสอบความชานาญทางห๎องปฏบิ ตั กิ ารด๎านการตรวจ 52 หอ๎ งปฏิบตั ิการ 0
วนิ จิ ฉัย α-thalassemia 1 ชนดิ SEA และชนิดไทย

6 การทดสอบความชานาญดา๎ นการตรวจหาความผิดปกติของ 24 ห๎องปฏิบัตกิ าร 0
ยนี Beta-thalassemia

7 การเปรียบเทยี บผลระหวาํ งห๎องปฏิบัติการด๎านตรวจหา 9 ห๎องปฏบิ ัตกิ าร 0
ปรมิ าณสารชีวเคมี (Quadruple test)

2.2.12 การผลติ และจาหน่ายชุดทดสอบและผลติ ภณั ฑ์ แกส่ ่วนราชการและ
หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารเอกชน

ลาดบั รายการทดสอบ จานวน (ชดุ )
440
1 ตัวอยํางควบคุมคุณภาพสาหรับการตรวจเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี และ
ไวรสั ตับอกั เสบซี โดยใช๎เครอ่ื งอตั โนมตั ริ ะบบปิด 322
689
2 ตวั อยาํ งควบคมุ คณุ ภาพสาหรับการตรวจเอชไอวี โดยชดุ ตรวจรวดเรว็
3 ตัวอยํางควบคุมคุณภาพสาหรับการตรวจเอชไอวี ไวรัสตับอักเสบบี และ

ไวรสั ตบั อักเสบซี โดยวิธี Nucleic Acid Testing

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 24

รายงานสถานการณโ์ รคหัด ปงี บประมาณ 2561 – 2563

ระยะเวลาตง้ั แตํวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ถึง 30 กันยายน 2561 ข๎อมูลจากฐานข๎อมูลโครงการกาจัดหัด
กรมควบคมุ โรค พบวาํ มีตวั อยํางจากผูป๎ ุวยไขอ๎ อกผน่ื หรือสงสยั หดั สํงตรวจทางหอ๎ งปฏิบัตกิ าร

กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ในฐานะเป็นห๎องปฏิบัติการเครือขําย
จานวนท้ังสิ้น 2,138 ราย เสียชีวิต 2 ราย เป็นผู๎ปุวยที่ได๎รับการยืนยันทางห๎องปฏิบัติการ 1,057 ราย
(ร๎อยละ 49.4) พบผู๎ปุวยแยกตามกลุํมอายุ ได๎แกํ ผู๎ปุวยอายุน๎อยกวํา 1 ปี จานวน 148 ราย (ร๎อยละ 13.5)
กลุํมอายุ 1-4 ปี จานวน 171 ราย (ร๎อยละ 16.2) กลํุมอายุ 5 – 9 ปี จานวน 83 ราย (ร๎อยละ 7.9) กลุํมอายุ
10-19 ปี จานวน 144 ราย (ร๎อยละ 13.6) กลุํมอายุ 20-29 ปี จานวน 298 ราย (ร๎อยละ 28.2) กลํุมอายุ 30-
39 ปี จานวน 193 ราย (ร๎อยละ 18.3) และ กลุํมอายุต้ังแตํ 40 ปีข้ึนไป จานวน 20 ราย (ร๎อยละ 1.9)
โดยจังหวัดท่ีพบผ๎ูปุวยสะสมมากท่ีสุด 5 อันดับ ได๎แกํ จังหวัดเชียงใหมํ จานวน 193 ราย (ร๎อยละ 18.3)
จงั หวดั ยะลา จานวน 164 ราย (ร๎อยละ 15.5) จังหวดั ชลบุรี จานวน 73 ราย (ร๎อยละ 6.9) จังหวัดสมุทรสาคร
จานวน 51 ราย (รอ๎ ยละ 4.8) และจังหวัดสุพรรณบุรี 49 ราย (ร๎อยละ 4.6) ผู๎ปุวยสํวนใหญํไมํเคยได๎รับวัคซีน
หรอื ไมํแนํใจวาํ เคยได๎รับวัคซีนมากอํ น จานวน 869 ราย (รอ๎ ยละ 82.2) สายพันธ์ุไวรัสหัดท่ีพบ ได๎แกํ สายพันธ์ุ
B3, D8 และ H1

51% 49% Measles positive
Non-measles

รูปท่ี 1 แสดงร๎อยละผ๎ูปุวยยนื ยนั โรคหัดจากตัวอยํางสํงตรวจทงั้ หมดที่ไดร๎ บั ในปงี บประมาณ 2561

(1 ตลุ าคม 2560 ถึง 30 กันยายน 2561)

ในปีงบประมาณ 2562 (ต้ังแต่วนั ที่ 1 ตลุ าคม 2561 ถึง 30 กันยายน 2562) พบวํา มีตัวอยํางจาก
ผู๎ปุวยไข๎ออกผื่นหรือสงสัยหัด สํงตรวจทางห๎องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์
การแพทย์ ทงั้ สิน้ 9,750 ราย เสียชีวิต 33 ราย เป็นผ๎ูปุวยโรคหัดท่ีได๎รับการยืนยันทางห๎องปฏิบัติการ 5,076 ราย
(ร๎อยละ 52.1) พบผ๎ูปุวยแยกตามกลุํมอายุ ได๎แกํ ผู๎ปุวยอายุน๎อยกวํา 1 ปี จานวน 850 ราย (ร๎อยละ 16.7)
รองลงมาคือ กลํุมอายุ 1-4 ปี จานวน 1,449 ราย (ร๎อยละ 28.5) กลํุมอายุ 5–9 ปี จานวน 709 ราย (ร๎อยละ

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 25

14.0) กลุํมอายุ 10-19 ปี จานวน 636 ราย (ร๎อยละ 12.5) กลุํมอายุ 20-29 ปี จานวน 859 ราย (ร๎อยละ
17.0) กลุํมอายุ 30-39 ปี จานวน 489 ราย (ร๎อยละ 9.6) และ กลํุมอายุต้ังแตํ 40 ปีข้ึนไป จานวน 84 ราย
(ร๎อยละ 1.7) โดยจังหวัดท่ีพบผู๎ปุวยสะสมมากที่สุด 5 อันดับแรก ได๎แกํ จังหวัดปัตตานี จานวน 1,137 ราย
(ร๎อยละ 22.4) จังหวัดยะลา จานวน 874 ราย (ร๎อยละ 17.2) จังหวัดนราธิวาส จานวน 736 ราย (ร๎อยละ
14.5) จังหวัดสงขลา จานวน 412 ราย (ร๎อยละ 8.1) และจังหวัดเชียงใหมํ จานวน 224 ราย (ร๎อยละ 4.4)
ผู๎ปุวยสํวนใหญํไมํเคยได๎รับวัคซีนหรือไมํแนํใจ วําเคยได๎รับวัคซีนมากํอน จานวน 4,336 ราย (ร๎อยละ 85.4)
สายพันธ์ไุ วรัสหดั ท่ีพบ ไดแ๎ กํ สายพนั ธุ์ B3, D8 และ H1

48% 52% Measles positive

Non-measles

รูปท่ี 2 แสดงรอ๎ ยละผู๎ปุวยยนื ยันโรคหดั จากตวั อยาํ งสงํ ตรวจทัง้ หมดท่ีไดร๎ ับในปงี บประมาณ 2562

(1 ตุลาคม 2561 ถึง 30 กนั ยายน 2562)

ในปีงบประมาณ 2563 (ต้งั แตว่ ันที่ 1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2563) พบวํา มีตัวอยํางจาก
ผ๎ูปุวยไข๎ออกผ่ืนหรือสงสัยหัด สํงตรวจทางห๎องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และศูนย์วิทยาศาสตร์
การแพทย์ ท้งั สนิ้ 3,275 ราย เสียชวี ติ 2 ราย เป็นผู๎ปุวยโรคหัดที่ได๎รับการยืนยันทางห๎องปฏิบัติการ 1,104 ราย
(ร๎อยละ 33.7) พบผู๎ปุวยแยกตามกลุํมอายุ ได๎แกํ ผู๎ปุวยอายุน๎อยกวํา 1 ปี จานวน 220 ราย (ร๎อยละ 19.9)
กลุํมอายุ 1-4 ปี จานวน 239 ราย (ร๎อยละ 21.6) กลํุมอายุ 5–9 ปี จานวน 92 ราย (ร๎อยละ 8.3)
กลุํมอายุ 10-19 ปี จานวน 132 ราย (ร๎อยละ 12.0) กลุํมอายุ 20-29 ปี จานวน 230 ราย (ร๎อยละ 20.8)
กลํุมอายุ 30-39 ปี จานวน 169 ราย (ร๎อยละ 15.3) และ กลุํมอายุต้ังแตํ 40 ปีขึ้นไป จานวน 22 ราย (ร๎อยละ 2)
โดยจังหวัดที่พบผ๎ูปุวยสะสมมากท่ีสุด 5 อันดับแรก ได๎แกํ จังหวัดนราธิวาส จานวน 215 ราย (ร๎อยละ 19.5)
จังหวัดปัตตานี จานวน 204 ราย (ร๎อยละ 18.5) จังหวัดชลบุรี จานวน 109 ราย (ร๎อยละ 9.9) จังหวัดยะลา
จานวน 75 ราย (รอ๎ ยละ 6.8) จงั หวดั ระยอง จานวน 61 ราย (ร๎อยละ 5.5) และจังหวัดภูเก็ต จานวน 61 ราย
(ร๎อยละ 5.5) ผู๎ปุวยสํวนใหญํไมํเคยได๎รับวัคซีนหรือไมํแนํใจวําเคยได๎รับวัคซีนมากํอน จานวน 920 ราย
(รอ๎ ยละ 83.3) สายพนั ธ์ุไวรสั หัดทพ่ี บ ได๎แกํ สายพนั ธ์ุ A1(สายพันธ์ุวคั ซนี ), B3 และ D8

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 26

34%

Measles positive
Non-measles

66%

รูปที่ 3 แสดงรอ๎ ยละผป๎ู ุวยยืนยนั โรคหัดจากตัวอยํางสงํ ตรวจท้งั หมดที่ไดร๎ ับในปงี บประมาณ 2563
(1 ตุลาคม 2562 ถึง 30 กันยายน 2563)

450

400

350

300

250

200

ราย 150

100

50

0
40 44 48 52 3 7 11 15 19 23 27 31 35 39 43 47 51 2 6 10 14 18 22 26 30 34 38 42 46 50 1 5 9 13 17 21 25 29 33 37

22506170 22501681 22501692 2205260 3

Measles Negative

รูปที่ 4 กราฟแสดงจานวนผูป๎ วุ ยยนื ยันโรคหดั ทางห๎องปฏบิ ัตกิ ารจาแนกตามวนั เร่มิ ปวุ ยรายสปั ดาห์
(ขอ๎ มูลตงั้ แตํวันที่ 1 ตุลาคม 2560 ถึง 30 กันยายน 2563)

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 27

สถานการณโ์ รคไขห้ วัดใหญ่

การเฝูาระวังโรคไข๎หวัดใหญํจากการตรวจหาเชื้อไข๎หวัดใหญํทางห๎องปฏิบัติการในกลุํมผู๎ปุวยอาการ
คล๎ายไข๎หวัดใหญํ โดยความรํวมมือระหวํางกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และกรมควบคุมโรค ในปีงบประมาณ
2563 ระหวํางเดือนตุลาคม 2562 ถึง กันยายน 2563 จานวน 2,505 ตัวอยําง พบผู๎ติดเชื้อไข๎หวัดใหญํ
จานวน 508 ตัวอยําง คิดเป็นร๎อยละ 20.2 ในจานวนเชื้อไข๎หวัดใหญํทั้งหมดจาแนกเป็นไข๎หวัดใหญํชนิด
A/(H1N1)pdm09 จานวน 344 ตัวอยําง (ร๎อยละ 13.7) เชื้อไข๎หวัดใหญํชนิด A/(H3N2) จานวน 121 ตัวอยําง
(รอ๎ ยละ 4.8) และไขห๎ วัดใหญํชนิด B จานวน 43 ตัวอยําง (ร๎อยละ 1.7) พบวํา ตุลาคม 2562 – มกราคม 2563
เร่ิมพบเช้ือไข๎หวัดใหญํชนิด A/H1N1pdm09 เพ่ิมขึ้น และเช้ือไข๎หวัดใหญํชนิด B มีแนวโน๎มลดลงในปี 2563
การเฝูาระวังเชื้อไวรัสไข๎หวัดใหญํทางห๎องปฏิบัติการ ได๎รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 โดย
จานวนผ๎ูปุวยน๎อยกวําในชํวงเวลาเดียวกันของปีที่ผํานมาประมาณร๎อยละ 50 และอัตราการติดเช้ือไข๎หวัดใหญํ
ลดลงจากปีท่ีแล๎วซึ่งสูงถึงร๎อยละ 36.35 รวมถึงสัดสํวนของชนิดไข๎หวัดใหญํซึ่งในปีน้ี พบเป็นเชื้อไข๎หวัดใหญํ
ชนิด A/(H1N1)pdm09 ตาํ งจากชํวงเดียวกันของปีท่ีแล๎วซึ่งพบการระบาดของไข๎หวัดใหญํชนิด B นอกจากนี้
ยังไมํพบผลบวกไข๎หวัดใหญํจากตัวอยํางผ๎ูปุวยนับต้ังแตํสัปดาห์ที่ 16 (19 – 25 เมษายน 2563) เป็นต๎นมา
จนถงึ สปั ดาหท์ ี่ 35 (30 สิงหาคม – 5 กันยายน 2563) ในสปั ดาห์ท่ี 36 (6 กนั ยายน - 12 กันยายน 2563) เริ่ม
พบผลบวกเป็นเชื้อไข๎หวัดใหญํชนดิ A/H1N1pdm09 ดังแสดงในรูปที่ 1

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 28

จากการศึกษาสายพันธุ์ไวรัสไข๎หวัดใหญํด๎วยการทดสอบคุณสมบัติทางแอนติเจนด๎วยวิธี HI การ
วิเคราะห์และยืนยันสายพันธุ์ไข๎หวัดใหญํ ด๎วยวิธี gene sequencing พบสายพันธุ์เชื้อไข๎หวัดใหญํสํวนใหญํ
ยังคงคล๎ายคลึงกับสายพันธุ์วัคซีนที่กระทรว งสาธารณสุขฉีดให๎กลุํมเปูาหมาย โดยเชื้อในกลํุม
A/(H1N1)pdm09 มคี วามคล๎ายคลงึ กบั สายพนั ธ์ุ A/Brisbane/02/2018 ร๎อยละ 100 เชื้อ A/(H3N2) มีความ
คล๎ายคลึงกับสายพันธุ์ A/South Australia/34/2019 ร๎อยละ 100 สํวน B คล๎ายคลึงกับสายพันธุ์
B/Washington/02/2019 (Victoria lineage) ร๎อยละ 100

จากความผิดปกติของจานวนผ๎ูปุวยและอัตราการติดเช้ือที่ลดลงอยํางมากต้ังแตํเดือนเมษายนเป็นต๎น
มา อาจมีผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด 19 เนื่องจากมาตรการของทางภาครัฐ เชํน การปิดสถาน
การศึกษา การปิดสถานบริการ การงดจัดประชุมการหลีกเล่ียงไปยังพ้ืนท่ีเส่ียง การรักษาระยะหําง การสวม
หน๎ากากอนามัย ทาให๎อัตราการติดเชื้อไข๎หวัดใหญํลดลง อยํางไรก็ตามหลังจากมีการผํอนปรนมาตรการของ
ทางภาครัฐ การเฝูาระวังเชอ้ื ไขห๎ วดั ใหญยํ ังเป็นส่ิงจาเป็นที่ต๎องดาเนินการอยํางตํอเนื่องตํอไป เพ่ือการปูองกัน
และควบคมุ โรคได๎อยํางมีประสิทธิภาพ

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 29

การแพรก่ ระจายของเชอ้ื Salmonella Enteritidis และ Salmonella Typhimurium
ในปี พ.ศ. 2563

Salmonella spp. (ซัลโมเนลลา หรือ ซาลโมเนลลา) เป็นแบคทีเรียกํอโรคทางเดินอาหารที่มักพบ
บํอยวําเป็นสาเหตุหลักของการปนเปื้อนทั้งในวัตถุดิบ และอาหารพร๎อมบริโภค โดยเฉพาะอยํางยิ่งสัตว์ปีก
เชํนไกํ ตลอดจนไขํ และผลิตภัณฑ์ สาหรับการควบคุม ปูองกันโรคนี้ในประเทศไทย ในระดับฟาร์มเลี้ยงสัตว์
มีเกณฑ์ที่เข๎มงวดวําต๎องไมํมีสายพันธุ์ของ Salmonella Enteritidis และ Salmonella Typhimurium
ทั้งในไกํไขํ และไกํเนื้อ เนื่องจากเช้ือทั้งสองสายพันธุ์มีความรุนแรงในการกํอโรคมากกวําสายพันธุ์อื่น ทั้งยังมี
อัตราการดื้อยาต๎านจุลชีพสูงกวําอีกด๎วย

การทดสอบยืนยันเช้ือซัลโมเนลลาในระดับสายพันธุ์ (ซีโรวาร์) ในตัวอยํางเช้ือบริสุทธิ์ที่เครือขําย
ห๎องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ รวมถึงบริษัทเอกชนสํงตรวจ พบเป็น Salmonella Enteritidis
จานวน 15 ตัวอยําง เป็นลาดับที่ 6 จากทั้งหมด 44 ซีโรวาร์ คิดเป็นร๎อยละ 3.8 (15/397) สาหรับแหลํงท่ี
ตรวจพบเชื้อน้ีเรยี งตามลาดับ คือ อาหาร ผู๎ปุวย และสิ่งแวดลอ๎ ม โดยมีสดั สํวนการตรวจพบตามภาพที่ 1

ผู้ปว่ ย
27%

อาหาร
60% สงิ่ แวดลอ้ ม

13%

ภาพที่ 1 การแพร่กระจายของ Salmonella Enteritidis ในอาหาร ผู้ป่วย และส่งิ แวดลอ้ ม

ขณะท่ี Salmonella Typhimurium พบ 4 ตัวอยําง เป็นลาดับท่ี 15 จากท้ังหมด 44 ซีโรวาร์
คิดเป็นร๎อยละ 1 (4/397) สาหรับแหลํงที่ตรวจพบเช้ือคือ อาหาร และผ๎ูปุวย โดยมีสัดสํวนการตรวจพบตาม
ภาพที่ 2

ผปู้ ่วย
25%

อาหาร
75%

ภาพที่ 2 การแพรก่ ระจายของ Salmonella Typhimurium ในอาหาร และผูป้ ว่ ย

การตรวจยนื ยนั ทาให๎พบความแตกตาํ งของการแพรํกระจายของเช้ือท้ังสองซีโรวาร์อยํางชัดเจน สํงผล
ตํอมาตรการควบคุม และปอู งกันโรค ทตี่ อ๎ งปรับใหส๎ อดคล๎องกบั แหลงํ ท่ีพบเชอ้ื

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 30

วิเคราะหส์ ถานการณ์แนวโนม้ ของโรคในปที ผี่ ่านมา/ : ไวรัสโรทา

ไวรัสโรทา (Rotavirus) มี 7 group คือ A,B,C,D,E,F และ G ซ่ึงไวรัสโรทา Group A เป็นไวรัสท่ีเป็น
สาเหตขุ องโรคอจุ จาระรวํ งเฉยี บพลัน (Acute gastroenteritis) อาการมักรุนแรงในเด็กเล็กโดยเฉพาะเด็กอายุ
ต่ากวํา 5 ปี การติดตอํ เปน็ แบบ foecal oral route ระยะฟักตัว 1 - 2 วัน มอี าการไข๎ ปวดท๎อง อาเจียน และ
ถํายเป็นน้า มักหายได๎เองภายใน 3 – 8 วัน และเน่ืองจากมีหลายสายพันธุ์จึงสามารถเกิดโรคได๎หลายครั้ง
ในผ๎ูปุวยท่ีมีอาการรุนแรงมากจาเป็นต๎องเข๎ารับการรักษาท่ีโรงพยาบาลเน่ืองจากมีอาการขาดน้า หากรับการ
รักษาไมํทันหรือไมํเหมาะสม อาจเกิดภาวะช็อกและอาจเสียชีวิตได๎ ปัจจุบันไวรัสโรทาน้ีมีวัคซีนปูองกันได๎
แล๎วแตเํ น่อื งดว๎ ยคณุ สมบัตขิ องไวรัสโรทาทมี่ ยี นี มากถึง 11 จีโนม จงึ ทาใหเ๎ กิดการผสมข๎ามยีนกันในแตํละจีโนม
(Re-assortment) เกดิ เป็นสายพันธใุ์ หมไํ ด๎งําย

จากข๎อมูลการเฝูาระวังของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขสายพันธุ์ที่กํอโรคเปลี่ยนแปลงใน
แตลํ ะชวํ งปี คอื ซีโรทัยป์ G1 พบระหวํางปี พ.ศ. 2536 จนถึงปี 2542 จากนั้นในปี พ.ศ. 2543 จนถึงปี 2546
เป็นซีโรทัยป์ G9 และกลับมาเป็นซีโรทัยป์ G1 อีกครั้งในปี พ.ศ. 2546 จนถึงปี 2550 หลังจากนั้นไมํมี
การศึกษาเพ่ิมเติมเนื่องจากไมํมีตัวอยํางสํงตรวจ ปี พ.ศ. 2559 – 2562 จากตัวอยํางสํงตรวจมากกวํา 700
ตวั อยําง พบวําสาเหตุจากไวรัสโรทา คิดเป็นร๎อยละ 30 - 40 ซีโรทัยป์สาคัญท่ีพบวําเป็นสาเหตุของโรค ได๎แกํ
G3P[8] และ G2P[4] ท้ังนี้แนวโน๎มของซีโรทัยป์ท่ีนําจะเป็นสาเหตุของโรคอุจจาระรํวงจากไวรัสโรทา
ประกอบด๎วย G3P[8] และ G1P[6] และ G2P[4] จะเห็นได๎วําซีโรทัยป์ G3P[8] ยังคงเป็นสาเหตุของโรคมา
อยํางตอํ เน่อื งจนถึงปัจจบุ ัน กลํุมอายขุ องผปู๎ ุวยท่ใี หผ๎ ลบวกพบในเดก็ เล็กอายุต่ากวํา 5 ปี เป็นสํวนใหญํ ดังน้ัน
จงึ ควรนาเด็กไปรับวัคซีนปูองกันไวรัสโรทาเพ่ือปูองกันไมํให๎เกิดโรคหรือมีอาการไมํรุนแรงหากเกิดโรคอุจจาระ
รํวง

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ 31

2.3 การดาเนนิ งานด้านระบบคณุ ภาพในภาพรวม

สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตร์สาธารณสุขยงั คงมีเปูาหมายและความมุํงมั่น ท่ีจะตอบสนองตํอความต๎องการ
และความคาดหวังของผใ๎ู ช๎บรกิ ารอยาํ งตอํ เนื่อง เพือ่ ความพงึ พอใจของผ๎ใู ช๎บริการ

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข มีการดาเนินการให๎สอดคล๎องกับระบบคุณภาพหน่ึงเดียวของ
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ตามมาตรฐาน ISO 9001 รวมท้ัง การบริหารจัดการห๎องปฏิบัติการตาม
มาตรฐานสากล ISO 15189, ISO/IEC 17025, ISO/IEC 17043, ISO 17034, ISO 15190, AAALAC
Laboratory Animal Care และ OECD GLP Good Laboratory จะเห็นได๎วําการดาเนินงานด๎านระบบ
คณุ ภาพท่มี ีมาตรฐานหลากหลาย ทั้งด๎านวิชาการและบริหารจัดการ จาเป็นต๎องอาศัยความรํวมแรงรํวมใจกัน
ของบคุ ลากรทุกภาคสํวนของสถาบันฯ ให๎การดาเนินงานให๎เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยมีสานักงานพัฒนา
ระบบคณุ ภาพห๎องปฏิบตั ิการ เปน็ หนวํ ยงานกลางในการประสานงานกบั ห๎องปฏิบตั ิการตาํ งๆ

ในปีงบประมาณ 2563 สถาบันฯ ในฐานะหนํวยงานรับผิดชอบหลักกระบวนการการตรวจวิเคราะห์
ทางห๎องปฏิบัติการ ดาเนินกิจกรรมท่ีรับผิดชอบในสํวนของการทบทวนเอกสารคุณภาพระดับกรมประจาปี
work manual (WM) รวม 2 ฉบับ และเอกสารคุณภาพระดับหนํวยงาน quality procedure (QP) และ
work instruction (WI) รวม 14 ฉบับ ในระบบจัดการเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ (Smart DI) รับผิดชอบรวบรวม
ข๎อมูลสาหรับการจดั ทาแผนบรหิ ารความเสีย่ งระดับกรมประจาปี และในเดือนสงิ หาคม 2563 รวํ มรับการตรวจ
ประเมินระบบคุณภาพจาก บริษัท URS (United Registration of Systems) ถึงแม๎ สถาบันฯ ไมํได๎รับ
มอบหมายใหเ๎ ป็นหนํวยงานหลักด๎านการตรวจวิเคราะห์ แตกํ ท็ าหนา๎ ท่ีสนับสนุนข๎อมลู ด๎านคณุ ภาพทเ่ี กยี่ วขอ๎ ง

นอกจากการดาเนนิ งานดังกลาํ ว สถาบนั ฯ ได๎มีการขอตํออายุการรับรองความสามารถห๎องปฏิบัติการ
มาตรฐาน ISO/IEC 17025 จานวน 31 รายการทดสอบ ขยายขอบขําย 2 รายการทดสอบ และมีรายการ
ทดสอบท่ีเปลี่ยนแปลงการดาเนินระบบคุณภาพ จากมาตรฐาน ISO 15189 เป็น ISO/IEC 17025 อีกจานวน
3 รายการทดสอบ ตามข๎อเสนอของสานักมาตรฐานห๎องปฏิบัติการ ในสํวนของการให๎บริการแผนทดสอบ
ความชานาญห๎องปฏิบัติการ (PT Provider) ตามมาตรฐาน ISO/IEC 17043 ปัจจุบันเปิดให๎บริการ 21 แผน
ซ่ึงในปี 2563 ได๎รับการรับรองความสามารถผ๎ูจัดโปร แกรมทดสอบความชานาญห๎องปฏิบัติการ
จากกรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการแลว๎ รวมท้ังสนิ้ 11 แผน โดยมีแผนการขยายขอบขํายการรับรองเพิ่มข้ึนในแตํละปี
อยาํ งชัดเจน

จากข๎อมูลสรุปผลการดาเนินการตามวัตถุประสงค์คุณภาพ รอบ 12 เดือน ของสถาบันฯ ด๎าน
ผลิตภัณฑ์และกระบวนการ มี 2 นวัตกรรมที่ดาเนินการสาเร็จตามเปูาหมาย และผลการดาเนินงาน ได๎ให๎
ความสาคญั กบั ผใู๎ ช๎บรกิ ารและการพัฒนาบุคลากร ผลสาเรจ็ เปน็ ไปตามเปาู หมาย ซึ่งท้ังหมดนี้ เป็นความพร๎อม
เพรียงและความรวํ มมือของบุคลากรทง้ั องค์กร ในการพฒั นาความสามารถหอ๎ งปฏิบัติการ ให๎มีความสอดคล๎อง
กับมาตรฐาน ตามความต๎องการและความคาดหวังของผ๎ูใช๎บริการท้ังภายในและภายนอก หรือผู๎มีสํวนได๎
สํวนเสยี ซง่ึ เป็นไปตามนยิ ามของคาวาํ การบริหารจดั การระบบคุณภาพโดยสมบูรณ์

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 32

2.3.1 การทดสอบความชานาญทางห้องปฏิบตั ิการด้านการแพทย์และ
สาธารณสุข

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข เป็นห๎องปฏิบัติการอ๎างอิงของประเทศไทย มีภารกิจให๎ความ
ชํวยเหลือเครือขํายห๎องปฏิบัติการในการทดสอบความชานาญ การทาหน๎าท่ีเป็นผ๎ูดาเนินแผนทดสอบความ
ชานาญเพ่ือให๎สมาชิกห๎องปฏิบัติการเกิดความมั่นใจในรายงานผลการตรวจวิเคราะห์ สามารถทวนสอบความ
ถกู ต๎องในการตรวจวเิ คราะห์ อันประกอบดว๎ ย คน วธิ ีการตรวจ เทคนิคที่ใช๎ น้ายา เครื่องมือ และรวมถึงระบบ
บริหารจัดการภายในหอ๎ งปฏบิ ัติการ ซง่ึ การเปดิ บรกิ ารแผนทดสอบความชานาญของสถาบัน ด๎วยเหตุผลความ
จาเป็นของประเทศไดแ๎ กํ ความตอ๎ งการของห๎องปฏบิ ัตกิ ารในการเขา๎ รํวมการทดสอบเพ่ือยื่นขอการรับรองตาม
มาตรฐานสากล เชื้อสายพันธ์ุที่นามาเตรียมเป็นวัตถุทดสอบเป็นสายพันธุ์ท่ีระบาดมากในประเทศไทยมีความ
แตกตาํ งจากประเทศอืน่ ๆ หรือยงั ไมํมีแผนทดสอบความชานาญเปิดให๎บรกิ ารมากํอน เปน็ ตน๎

แผนทดสอบความชานาญท่ีเปิดบริการมีท้ังหมด 20 แผน ตามรายละเอียดในตาราง ในปีน้ีมีแผนใหมํ
เปิดบริการเพิ่มขึ้นหนึ่งแผนคือ การตรวจสารพันธุกรรมไวรัส SARS-CoV-2 หัวใจสาคัญของการทดสอบความ
ชานาญ คอื การดาเนนิ งานตอ๎ งรกั ษาความเปน็ กลาง มีมาตรฐาน โปรํงใสและรักษาความลับให๎กับสมาชิก แนว
ทางการดาเนินงานจึงได๎ปฏิบัติตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17043 ท้ังทางด๎านวิชาการและด๎านบริหาร
จัดการ แผนท่ีผํานการรับรองแล๎วมีจานวน 10 แผน และมีแผนท่ีจะขอการรับรองเพิ่มอีก 8 แผนในปีน้ี
ยกตัวอยํางประโยชน์จากการดาเนินแผนทดสอบความชานาญทางการแพทย์และสาธารณสุข นาไปสูํการ
พฒั นาห๎องปฏิบตั กิ ารในภาพรวมของประเทศไทย

แผนทดสอบความชานาญการตรวจสารพันธุกรรมไวรัส SARS-CoV-2 ด๎วยวิธี real time PCR เป็น
แผนใหมํเปิดบริการรอบแรกในเดือนกรกฎาคม 2563 เป็นความรํวมมือระหวํางสามหนํวยงานคือฝุายไวรัส
ระบบทางเดินหายใจ ฝุายปฏิบัติการด๎านเชื้ออันตรายสูงฯ สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุขและกอง
ทดสอบความชานาญ กรมวิทยาศาสตรก์ ารแพทย์ ในรอบแรก มีสมาชิกห๎องปฏิบัติการสมัครจานวน 197 แหํง
จัดสํงตัวอยํางวัตถุทดสอบจานวน 6 ตัวอยําง ผลการดาเนินงานพบวํา ห๎องปฏิบัติการรายงานผลถูกต๎อง
ท้ังหมด จานวน 183 แหํง (ร๎อยละ 92.9) รายงานผลผิดท้ังหมด 14 แหํง (ร๎อยละ 7.1) ในจานวนนี้แบํงเป็น
รายงานผลผิดไมํเกินหนึ่งตัวอยําง จานวน 8 แหํง และรายงานผลผิดมากกวําหนึ่งตัวอยําง จานวน 6 แหํง
เนอ่ื งจากการตรวจสารพันธุกรรมไวรัสนี้ ด๎วยวิธี real time PCR เก่ียวข๎องกับการเลือกใช๎ชุดสกัดตัวอยําง ชุด
นา้ ยา real time PCR (ท้ังชุดน้ายาสาเร็จรูปและวิธีท่ีพัฒนาข้ึน) การเก็บตัวอยําง เคร่ืองreal time PCR และ
ความสามารถของผปู๎ ฏิบัตงิ าน การรายงานผลผิดจึงอาจจะมสี าเหตุจากปจั จยั ดงั กลาํ ว

ข๎อมูลปี 2563 แผนทดสอบความชานาญการตรวจวินิจฉัยเช้ือไวรัสไข๎หวัดใหญํ ด๎วยวิธี RT-PCR
มีจานวนสมาชกิ 17 แหํง ประกอบด๎วยห๎องปฏิบัติการท้ังภาครัฐและเอกชน โดยเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์
กับห๎องปฏิบัติการอ๎างอิง ศูนย์ไข๎หวัดใหญํแหํงชาติ และเป็นห๎องปฏิบัติการเครือขํายขององค์การอนามัยโลก
ซึ่งดาเนินการโดยฝุายไวรัสระบบทางเดินหายใจ มีการจัดสํงวัตถุทดสอบ 1 รอบตํอปี ผลการประเมินพบวํา
สมาชกิ จานวน 17 แหํงรายงานผลถกู ต๎องร๎อยละ 100

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสขุ 33

แผนทดสอบความชานาญการตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสไข๎หวัดใหญํและไข๎หวัดนก ด๎วยวิธี RT-PCR มี
จานวนสมาชิก 17 แหํงประกอบด๎วยห๎องปฏิบัติการจากภาครัฐ โดยเปรียบเทียบผลการวิเคราะห์กับ
ห๎องปฏิบัติการอ๎างอิง มีการจัดสํงวัตถุทดสอบ 2 รอบตํอปี เดือนพฤษภาคมและธันวาคม ผลการประเมินใน
รอบที่ 1 สมาชกิ รายงานผลถกู ต๎องตรงกับคาํ เปูาหมายร๎อยละ 100

แผนทดสอบความชานาญการตรวจวินิจฉัยโรคหัด และหัดเยอรมันด๎วยเทคนิค ELISA มีจานวน
สมาชิก 13 แหํง มีการจัดสํงวัตถุทดสอบ 1 รอบตํอปี โดยเปรียบเทียบผลการตรวจวิเคราะห์กับ
ห๎องปฏิบัติการอ๎างอิงการตรวจวินิจฉัยโรคหัดและหัดเยอรมัน ขององค์การอนามัยโลก ในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต๎ ซ่ึงดาเนินการโดยฝุายไวรัสระบบประสาทและระบบไหลเวียนโลหิต ผลการประเมินพบวํา
สมาชิกทุกแหํง จานวน 13 แหํงรายงานผลถูกต๎องร๎อยละ 100 ท้ังแผนการตรวจวินิจฉัยโรคหัด และหัด
เยอรมนั ดว๎ ยเทคนิค ELISA

แผนทดสอบความชานาญการตรวจสารพันธุกรรมไวรัสเดงกีวิธี RT-PCR มีสมาชิกจานวน 35 แหํง
จดั สํงวัตถทุ ดสอบ 2 รอบตอํ ปี รอบละ 6 ตัวอยําง ผลการประเมิน รายงานผลถูกต๎องท้ังหมด รอบท่ี 1/2563
และ 2/2563 ร๎อยละ 94.3 และ 88.6 ตามลาดบั ความพึงพอใจของสมาชกิ อยูํท่ีร๎อยละ 91 แผนทดสอบความ
ชานาญนี้ ไดร๎ บั การรับรอง ISO/IEC 17043 จากกรมวิทยาศาสตรบ์ ริการเป็นท่เี รียบร๎อยแล๎ว

แผนทดสอบความชานาญการตรวจสารพนั ธุกรรมไวรัสชิคุนกนุ ยาวิธี RT-PCR มีสมาชิกจานวน 27 แหํง
จัดสํงวัตถุทดสอบ 2 รอบตํอปี รอบละ 3 ตัวอยําง ผลการประเมินพบวํา สมาชิกรายงานผลถูกต๎องท้ังหมด
รอบที่ 1 และ 2 รอ๎ ยละ 96.2 และ 100 ตามลาดบั ความพงึ พอใจของสมาชิกตํอการใหบ๎ ริการเทํากับ ร๎อยละ 90

แผนทดสอบความชานาญการตรวจสารพันธุกรรมไวรัสซิกาวิธี RT-PCR มีสมาชิกจานวน 29แหํง
จดั สํงวตั ถทุ ดสอบ 2 รอบตอํ ปี รอบละ 5 ตัวอยําง ผลการประเมินทัง้ 2 รอบ พบวาํ สมาชิกรายงานผลถูกต๎อง
ทงั้ หมด ร๎อยละ 100 ความพงึ พอใจของสมาชกิ ตํอการให๎บริการเทาํ กบั ร๎อยละ 91

แผนทดสอบความชานาญการตรวจวินิจฉัยโรคติดเช้ือริกเก็ตเซีย ด๎วยวิธี IFA ดาเนินการเต็มรูปแบบ
ของแผนทดสอบความชานาญในปี พ.ศ. 2558 มีสมาชิกห๎องปฏิบัติการจานวน 13 แหํง ผลการดาเนินการ
พบวํา ความชานาญในการอํานผลของบุคลากร อายุการใช๎งานของกล๎องจุลทรรศน์ฟลูออเรสเซนต์ และการ
เลือกใช๎ชุดน้ายาสาเร็จรูปและพัฒนาเอง อาจมีผลกระทบตํอการตรวจวิเคราะห์ นอกจากนี้ผู๎ดาเนินแผน
มเี ปูาหมายจะขอการรบั รองมาตรฐาน ISO/IEC 17043 ภายในปี 2564

แผนทดสอบการตรวจเชือ้ แบคทเี รียดอื้ ยาตา๎ นจลุ ชพี (สาหรับสมาชิกในประเทศไทย) มีจานวนสมาชิก
100 แหํง ประกอบดว๎ ยห๎องปฏบิ ตั กิ ารโรงพยาบาลเครือขํายโครงการ NARST และศนู ย์วิทยาศาสตร์การแพทย์
มีการจดั สํงวตั ถทุ ดสอบ 2 รอบตํอปี ผลการประเมนิ ในรอบท่ี 1 มีสมาชิกตอบกลับจานวน 90 แหํง และรอบท่ี 2
มีสมาชิก 87 แหํง โดยสมาชิกรายงานผลถูกต๎องตรงกับคําเปูาหมายร๎อยละ 83 และ 70 ตามลาดับ เน่ืองจาก
เชื้อบางสายพันธุ์ที่สํงให๎กับโรงพยาบาลอาจจะมีความยากในการตรวจวินิจฉัยและทางโรงพยาบาล ไมํมีวิธี
ทดสอบความไวตํอยากบั เชือ้ นัน้

แผนทดสอบความชานาญการตรวจวินิจฉัย Alpha-thalassemia ชนิด SEA และชนิดไทย และแผน
ทดสอบความชานาญด๎านการตรวจวินิจฉัยความผิดปกติของยีน Beta- thalassemia มีจานวนสมาชิก 51
แหํง และ 25 แหํง แผนแรกจัดสํงวัตถุทดสอบชนิด DNA ความถี่ 3 รอบตํอปี ผลการประเมินห๎องปฏิบัติการ
สมาชิกสํวนใหญํรายงานผลถูกต๎องตรงกับคําเปูาหมาย และแผนท่ีสองจัดสํงวัตถุทดสอบชนิด DNA ความถ่ี 2
รอบตํอปี ผลการประเมินห๎องปฏิบัติการสมาชิกรายงานผลถูกต๎องตรงกับคําเปูาหมายร๎อยละ 91.6 และ 100
ตามลาดับ ความพงึ พอใจของห๎องปฏบิ ตั กิ ารสมาชิกในภาพรวมมากกวําร๎อยละ 90

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 34

แผนทดสอบความชานาญทางห๎องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์ด๎านพิษวิทยา ดาเนินการโดยศูนย์
พิษวิทยา จานวน 3 แผน มีผลการดาเนินการ ดังน้ี 1) แผนทดสอบความชานาญการวิเคราะห์โลหะในเลือด
(ตะก่ัว แคดเมียม แมงกานีส) มีสมาชิกจานวน 34 แหํง จัดสํงวัตถุทดสอบ 3 รอบตํอปี รอบละ 4 ตัวอยําง
มีสมาชิกรายงานผลตามชนิดโลหะท่ีสมัคร ร๎อยละ 85 – 96 จากการประเมินความสามารถของสมาชิกพบวํา
ผลการประเมนิ ในแตํละรอบอยใูํ นเกณฑน์ ําพอใจ ร๎อยละ 67 – 92 2) แผนทดสอบความชานาญการวิเคราะห์
ระดับโคลีนเอสเตอเรสในซีรัมหรือพลาสมา และอะซิติลโคลีนเอสเตอเรสในเลือด มีสมาชิกจานวน 14 แหํง
จัดสํงวัตถทุ ดสอบ 1 รอบตํอปี (ซรี ัม 2 ตัวอยําง และเลอื ด 2 ตวั อยําง) จากผลการประเมิน พบวํา สมาชิกมีผล
การประเมินความสามารถการวิเคราะห์ระดับโคลีนเอสเตอเรสในซีรัมหรือพลาสมา อยํูเกณฑ์นําพอใจร๎อยละ
81.8 – 100 จากสมาชิก 11 แหํง สํวนผลการประเมินการวิเคราะห์ระดับอะซิติลโคลีนเอสเตอเรสในเลือด
พบวํา สมาชิกมีผลการประเมินความสามารถอยูํเกณฑ์นําพอใจร๎อยละ 100 จากสมาชิก 6 แหํง 3) แผน
ทดสอบความชานาญการตรวจวิเคราะห์ด๎านพิษวิทยา มีสมาชิกจานวน 22 แหํง จัดสํงวัตถุทดสอบ จานวน 3
ตัวอยาํ ง 1 รอบตํอปี มีสมาชกิ ตรวจวเิ คราะห์และรายงานผลกลับ 21 แหํง จากการประเมินความสามารถทาง
ห๎องปฏบิ ัติการของสมาชกิ พบวาํ สมาชกิ มีผลประเมินความสามารถอยํูในเกณฑ์นําพอใจ จานวน 15 แหํง คิด
เปน็ ร๎อยละ 71.4

จากผลการดาเนินการที่กลําวมา การเข๎ารํวมการทดสอบความชานาญจะเป็นประโยชน์ตํอสมาชิก
หอ๎ งปฏิบัติการ ชํวยติดตามความถูกต๎องและให๎ความเช่ือม่ันในการรายงานผล ผู๎รับบริการได๎รับผลการตรวจ
วิเคราะห์ที่ถูกต๎องและนําเช่ือถือ นอกจากน้ีจะเห็นได๎วําผ๎ูดาเนินแผนมีความมุํงมั่นที่จะพัฒนาและปรับปรุง
แผนทดสอบความชานาญ โดยเน๎นในเรื่อง การลดคําใช๎จํายในการดาเนินงาน เพื่อไมํให๎เป็นภาระกับสมาชิก
มากเกินไป เน๎นการผลิตและตรวจสอบวัตถุทดสอบให๎มีคุณภาพ มีปริมาณเพียงพอและมีความหลากหลาย
ครอบคลุมตํอความตอ๎ งการของสมาชกิ อีกท้ังมีการขอการรับรองตามมาตรฐานสากล ISO/IEC 17043 เพ่ือให๎
สมาชกิ มัน่ ใจในการดาเนนิ งานมคี ุณภาพบนหลักวิชาการ

ตารางรายละเอียดแผนทดสอบความชานาญทางดา้ นการแพทยแ์ ละสาธารณสขุ

รายละเอียด (ชื่อแผน) เทคนิคการตรวจ เปิดรบั ผู้รับผดิ ชอบ อีเมล์

สมัคร [email protected]

การตรวจเอชไอวีซโี รโลยีแหงํ ชาติ* serology ม.ิ ย.–ต.ค. ดร. สุภาพร สภุ ารักษ์

การตรวจหาปริมาณเช้ือเอชไอวี molecular ม.ิ ย.–ต.ค. ดร. สภุ าพร สภุ ารกั ษ์ [email protected]
ในกระแสเลือด* ม.ิ ย.–ก.ย. ดร. สุภาพร สุภารกั ษ์ [email protected]
ม.ิ ย.–ก.ย. ดร. สุภาพร สภุ ารักษ์ [email protected]
การตรวจภูมคิ ุม๎ กันไวรสั ตับอักเสบ serology
ซี*

การตรวจ HbA1c แหํงชาติ* chemistry

การตรวจหาเช้ือเอชไอวีดื้อยาต๎าน Genotypic พ.ย. ดร.สิริพรรณ แสงอรุณ [email protected]
ไวรสั * testing
ม.ค.-มี.ค. ดร. พิไลลักษณ์ อัคคไพบูลย์ [email protected]
(sequencing) โอกาดะ

การตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสไข๎หวัด RT-PCR
ใหญํและไขห๎ วดั นก*

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 35

รายละเอยี ด (ช่ือแผน) เทคนคิ การตรวจ เปิดรบั ผ้รู ับผิดชอบ อีเมล์
สมัคร
การตรวจวินิจฉัยเชื้อไวรัสไข๎หวัด RT-PCR ดร. พิไลลักษณ์ อัคคไพบูลย์ [email protected]
ใหญ*ํ Routine ม.ค.-ม.ี ค. โอกาดะ [email protected]
การวเิ คราะหโ์ ลหะในเลือด* UV-VIS นางสาวดุษฎี พลภัทรพิเศษ [email protected]
ต.ค.–พ.ย. กุล
การวิเคราะห์ระดับโคลีนเอสเตอ spectrophotometry นางสุจิตรา สิกพันธ์ [email protected]
เรสในซีรัมหรือพลาสมา และอะซิ ก.พ.–มี.ค.
ติลโคลีนเอสเตอเรสในเลือด Routine นางสาวศิริวรรณ ลือดัง
การตรวจวิเคราะหด์ า๎ นพษิ วทิ ยา† ก.พ.–มี.ค.

การตรวจสารพันธุกรรมไวรัส RT-PCR ต.ค.-ธ.ค. นางสาวศิริรัตน์ แนมขุนทด [email protected]
เดงกี* ต.ค.-ธ.ค. นางสาวศิริรัตน์ แนมขุนทด [email protected]
ต.ค.-ธ.ค. นางสาวศิริรัตน์ แนมขุนทด [email protected]
การตรวจสารพันธุกรรมไวรัสชิคุน RT-PCR
กุนยา†

การตรวจสารพันธกุ รรมไวรัสซกิ า† RT-PCR

การตรวจวนิ จิ ฉยั Alpha – Routine ต.ค.-พ.ย. นางสาวสาวิตรี ด๎วงเรือง [email protected]
thalassemia 1 ชนดิ SEA และ ต.ค.-พ.ย. นางสาวสาวิตรี ด๎วงเรือง [email protected]
ชนดิ ไทย* Routine นางชลลดามีทรัพย์ [email protected]
การตรวจหาความผิดปกติของยีน ม.ค. ดร. วันทนา ปวีณกิตติพร [email protected]
Beta - thalassemia† IFA พ.ย.
การตรวจวนิ จิ ฉยั โรคติดเชื้อริกเกต ดร. วันทนา ปวีณกิตติพร [email protected]
เซยี † เพาะเช้ือ ทดสอบ ม.ค.
การตรวจเชื้อแบคทีเรียดื้อยาต๎าน ทางชีวเคมแี ละ นางอัจฉริยา ลูกบัว [email protected]
จุลชีพ(สาหรับสมาชิกในประเทศ ทดสอบความไวตอํ พ.ย.-ธ.ค.
ไทย) † ยาปฏิชวี นะ
Culture,
External Quality Assessment biochemical
Scheme for Bacterial test and
Identification and antimicrobial
Susceptibility Testing (ASEAN susceptibility
and SEARO members) test
ELISA
การตรวจวินจิ ฉัยโรคหดั †

การตรวจวนิ จิ ฉัยโรคหดั เยอรมัน† ELISA พ.ย.-ธ.ค. นางอัจฉริยา ลูกบัว [email protected]

*ได๎รับการรับรอง ISO/IEC 17043
†พร๎อมขอรบั การรับรอง

ข๎อมูลเพม่ิ เติม http://pt.dmsc.moph.go.th/home

รายงานประจาปี 2563 | สถาบันวจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 36

วันที่ 5-7 กุมภาพนั ธ์ 2563 จดั อบรมเชิงปฏิบตั ิการ เรือ่ ง “การพัฒนาสมรรถนะห๎องปฏิบัตกิ ารเครือขํายเชื้อ
และระบบเฝูาระวังเชื้อดื้อยาตา๎ นจุลชพี ” ณ โรงแรมริชมอนด์ สไตลชิ คอนเวนชั่นโฮเทล จ.นนทบุรี

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ัยวทิ ยาศาสตรส์ าธารณสุข 37

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ 38

2.3.2 การสอบเทียบเครือ่ งมือวทิ ยาศาสตร์ ประจาปี 2563

การดาเนินงานของคณะทางานจัดการสอบเทียบ ทวนสอบเครื่องมือวิทยาศาสตร์ของสถาบันวิจัย
วิทยาศาสตร์สาธารณสุข มีวัตถุประสงค์เพื่อกาหนดแนวทางการจัดการสอบเทียบ ทวนสอบเคร่ืองมือ ให๎
เป็นไปตามแผนปฏิบัติการด๎านระบบควบคุมคุณภาพของสถาบันฯ ซึ่งที่ผํานมานับต้ังแตํเร่ิมการดาเนินงาน
เน๎นการฝึกอบรมให๎ความรู๎ การใช๎งาน การบารุงรักษาและการสอบเทียบ เครื่องมือวิทยาศาสตร์พ้ืนฐาน แตํ
เนื่องจากการสอบเทียบเคร่ืองมือวิทยาศาสตร์ตามเกณฑ์มาตรฐาน ISO 15189 ได๎กาหนดให๎เคร่ืองมือต๎อง
ได๎รับการสอบเทียบโดยหนํวยงานบริการสอบเทียบท่ีได๎รับรองความสามารถตามมาตรฐาน ISO 17025
ห๎องปฏิบัติการของสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สาธารณสุข จึงมีคําใช๎จํายในการสอบเทียบจานวนสูงมาก
เนื่องจากมีเคร่ืองมือหลายชนิด แตํละชนิดมีจานวนหลายเคร่ือง ด๎วยงบประมาณท่ีจากัด ประกอบกับสานัก
มาตรฐานห๎องปฏิบัตกิ ารได๎จัดทาคูํมือมาตรฐานการปฏิบัติงานเร่ืองนโยบายและหลักเกณฑ์การยอมรับผลการ
สอบเทยี บเครอื่ งมือวิทยาศาสตร์ ขึ้นในปพี .ศ. 2560 ซ่งึ ไดก๎ ลําวถงึ เกณฑก์ ารยอมรบั ผลการสอบเทียบเครื่องมือ
วิทยาศาสตร์ที่ดาเนินการสอบเทียบเอง (In-house Calibration) ที่สาคัญไว๎หลายประการ ได๎แกํ วัสดุอ๎างอิง
และเครื่องมือในการสอบเทียบท่ีสามารถสอบกลับไปยังคํามาตรฐานสากลได๎ ห๎องปฏิบัติการสอบเทียบมี
สภาพแวดลอ๎ มที่ควบคมุ ใหเ๎ หมาะสมกบั การปฏิบตั งิ าน มีวิธปี ระมาณคําความไมํแนํนอนของเครื่องมือและคําท่ี
ได๎จากการสอบเทียบ และบุคลากรท่ีทาการสอบเทียบต๎องผํานการอบรมตามมาตรฐานการสอบเทียบเฉพาะ
เคร่ืองมอื แตํละชนดิ ด๎วยปจั จัยดงั กลาํ ว คณะทางานจดั การสอบเทียบ ทวนสอบเคร่อื งมือวิทยาศาสตร์ จึงได๎มุํง
เปูาในการพัฒนาเจ๎าหน๎าท่ีในแตํละกลํุม/ฝุาย/งานให๎ได๎รับการอบรมการสอบเทียบเครื่องมือพื้นฐานเชํน ไป
เปตอัตโนมัติ เทอร์โมมิเตอร์ ตู๎อบเพาะเช้ือ เคร่ืองชั่ง pH meter ท่ีไมํต๎องอาศัยความรู๎ทางเทคนิคท่ีซับซ๎อน
การฝึกอบรมได๎รับเกยี รติจากวทิ ยากรท่ีมคี วามรู๎ ความเชี่ยวชาญในแตํละเครื่องมือจากหลายสถาบันท้ังภาครัฐ
และเอกชน การสร๎างนักสอบเทียบทีมีคุณภาพ มีมาตรฐานจึงนับเป็นความสาเร็จของหนํวยงานท่ีนอกจากจะ
ชํวยให๎องค์กรประหยัดงบประมาณท่ีมีอยูํอยํางจากัด ยังสร๎างความเชื่อม่ันตํอบุคลากรในการใช๎เครื่องมือที่
ได๎รับการสอบเทียบจากวิธีและเจา๎ หนา๎ ทส่ี อบเทียบทมี่ มี าตรฐาน อีกด๎วย

การตรวจสอบเครอื่ งมือวัดระหว่างการใชง้ าน (Intermediate checks) โดยใช้ Ice point

เทอร์โมมิเตอร์ เป็นเครื่องมือวัดอุณหภูมิที่ห๎องปฏิบัติการใช๎เป็นจานวนมาก ติดตั้งเพ่ือวัดคําอุณหภูมิ
การใชง๎ านประจาเคร่ืองมือท่ีควบคุมอุณหภมู ิประเภทตํางๆ เชํน ต๎อู บเพาะเช้ือ อาํ งนา้ ควบคมุ อุณหภูมิ ตู๎เย็น ตู๎
แชํแข็ง เทอร์โมมิเตอร์ที่ใช๎งานสํวนมากคือประเภท Liquid-in-glass thermometer และ Digital
thermometer แม๎วําจะใช๎งานงําย ไมํมีความซับซ๎อน แตํการสอบเทียบเทอร์โมมิเตอร์ อาจมีข๎อจากัดด๎าน
เคร่ืองมือมาตรฐานที่จะนามาใช๎สอบเทียบ รวมท้ังสภาวะการดาเนินงาน จุดสอบเทียบหรือคําการใช๎งานท่ี
แตกตํางกันในแตํละเคร่ืองมือ ดังนั้น การกาหนดจุด 0 oC หรือการใช๎ Ice point เป็นจุดการตรวจสอบ
เทอร์โมมิเตอร์ระหวํางการใช๎งาน (Intermediate checks) ซ่ึงวิธีน้ีเป็นท่ียอมรับ มีมาตรฐาน และยังงํายตํอ
การเตรียมและการดาเนินงาน จึงเป็นทางเลือกที่ดีในการยืดระยะเวลาการสอบเทียบเทอร์โมมิเตอร์ออกไป
สามารถลดคําใช๎จํายในการสอบเทียบเทอร์โมมิเตอร์ได๎ และยังคงสร๎างความเชื่อม่ันวําการวัดคําอุณหภูมิมี
ความถูกตอ๎ งตลอดการใชง๎ าน

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วทิ ยาศาสตรส์ าธารณสขุ 39

คณะทางานฯ กาหนดการตรวจสอบเครือ่ งมอื วัดอุณหภูมโิ ดยวิธี Ice point ปลี ะ 2 คร้งั (มีนาคม และ
สิงหาคม 2563) โดยให๎ทุกห๎องปฏิบัติการนาเทอร์โมมิเตอร์ท่ีได๎รับการสอบเทียบที่ 0 oC มาวัดคําความ
ผิดพลาดที่การอํานอุณหภูมิที่จุด Ice point ซ่ึงถือวําเป็นคํามาตรฐานท่ีเตรียมได๎เองได๎งํายจากน้าแข็ง
นอกจากน้ีผู๎ใช๎งานยังได๎ฝึกทักษะในการตรวจสอบเครื่องมือวัดอุณหภูมิในระหวํางท่ีใช๎งาน กํอนที่จะถึงรอบ
ของการสอบเทียบ ประเมินผลทีได๎หาแนวโน๎มเพื่อขยายระยะเวลาสอบเทียบเทอร์โมมิเตอร์ โดยในปัจจุบัน
คณะทางานได๎ขยายระยะเวลาการสอบเทียบเทอร์โมมิเตอร์หากได๎รับการตรวจสอบเครื่องมือวัดอุณหภูมิโดย
วิธี Ice point เป็น 1 คร้ังตํอ 2 ปี (ตามข๎อกาหนดมาตรฐานของ NATA) สามารถสอบเทียบเทอร์โมมิเตอร์
จานวน 236 เคร่ือง ชํวยลดคําใช๎จํายได๎ประมาณ 141,600 บาท (ปีเว๎นปี) ซ่ึงถึงแม๎วําการตรวจสอบ
เทอรโ์ มมิเตอร์ระหวํางการใช๎งานโดยวธิ ี Ice point จะชํวยลดคําใช๎จํายไดป๎ เี วน๎ ปี แตํก็นับเป็นการเร่ิมต๎นที่ดีใน
การวางแผนเพ่ือขยายเวลาเพ่มิ เตมิ ได๎ หากมขี ๎อมลู การทา Ice point อยํางตอํ เนอื่ ง

การสอบเทียบไปเปตอตั โนมัติ

คณะทางานฯเริ่มจัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ ให๎ความร๎ูการสอบเทียบไปเปตอัตโนมัติ ตามมาตรฐาน
ISO 8655 เพื่อให๎บุคลากรได๎ทราบถึงหลักการ ข้ันตอนการสอบเทียบ และการประเมินผล ซึ่งกวําจะ
ดาเนินการจนสามารถสอบเทียบได๎เองน้ัน บุคลากรต๎องผํานการประเมินความสามารถท่ีจะสอบเทียบไปเปต
อัตโนมัติได๎ คือ ผํานการอบรมตามจานวนช่ัวโมงท่ีกาหนดโดยวิทยากรผู๎เชี่ยวชาญปีละ 1 ครั้ง ซ่ึงจะอบรม
หลกั การใช๎งานท่ัวไป การสอบเทียบ การคานวณคําความไมํแนํนอนของการวัด การใช๎เครื่องช่ังความละเอียด
สูงและโปรแกรมสาเร็จรุปสาหรับการสอบเทียบ จนผํานการประเมินและผู๎ที่ผํานการทดสอบความสามารถจะ
ได๎รับใบรับรองความสามารถ มีอายุ 2 ปี ซึ่งในแตํละฝุายจะมีผ๎ูท่ีทดสอบผํานและสามารถสอบเทียบไปเปต
อัตโนมัติอยํางน๎อยฝุายละ 1 คน มีหน๎าที่รับผิดชอบสอบเทียบไปเปตอัตโนมัติในฝุายของตัวเองปีละ 1 คร้ัง
และสงํ ผลการสอบเทียบให๎คณะทางานฯ ตรวจสอบผล และออกใบรับรองตํอไป

ผลจากการดาเนินการในปีงบประมาณ 2563 มีบุคลากรรุํนท่ี1และ2 ท่ีผํานหลักสูตรและได๎รับการ
รับรองเพื่อสอบเทียบไปเปตอัตโนมัติ จานวน 37 คน และดาเนินการสอบเทียบไปเปตอัตโนมัติ จานวน 243
เครื่อง ซึ่งแสดงให๎เห็นวําการสอบเทียบเองภายในหนํวยงานน้ัน จะชํวยลดคําใช๎จํายได๎เป็นอยํางมาก (คําสอบ
เทียบเฉล่ีย 1 เครื่อง ราคา 1,000 บาท) อีกท้ังยังเป็นการสร๎างให๎บุคลากรมีทักษะการสอบเทียบท่ีมีความ
ชานาญ นอกเหนือไปจากงานทางห๎องปฏิบัติการ ท้ังน้ีการดาเนินการทา In-house calibration ไปเปต
อัตโนมัติ อาจมีข๎อจากัดเรื่องอุปกรณ์และสถานท่ี ซึ่งแตํละฝุายต๎องลงระบบจองวันเพ่ือสอบเทียบลํวงหน๎ากับ
คณะทางานฯ ดังน้ันทางกลุํม/ฝุาย/งาน จึงควรวางแผนการดาเนินการและกาหนดชํวงเวลาใช๎ห๎องปฏิบัติการ
สอบเทียบไปเปตอัตโนมตั ใิ หเ๎ หมาะสม

คณะทางานจัดการสอบเทียบ ทวนสอบเคร่ืองมือวิทยาศาสตร์ จึงได๎มุํงเปูาในการพัฒนาเจ๎าหน๎าที่ใน
แตํละกลํุม/ฝุาย/งานให๎ได๎รับการอบรมการสอบเทียบเคร่ืองมือพ้ืนฐานเชํน ไปเปตอัตโนมัติ เทอร์โมมิเตอร์
ตู๎อบเพาะเชื้อ เครื่องช่ัง pH meter ที่ไมํต๎องอาศัยความรู๎ทางเทคนิคที่ซับซ๎อน การฝึกอบรมได๎รับเกียรติจาก
วทิ ยากรที่มคี วามรู๎ ความเช่ียวชาญในแตลํ ะเคร่ืองมือจากหลายสถาบันทั้งภาครัฐและเอกชน การสร๎างนักสอบ
เทียบทีมีคุณภาพ มีมาตรฐานจึงนับเป็นความสาเร็จของหนํวยงานที่นอกจากจะชํวยให๎องค์กรประหยัด
งบประมาณท่ีมอี ยูอํ ยํางจากัด ยังสร๎างความเช่ือม่ันตํอบุคลากรในการใช๎เคร่ืองมือที่ได๎รับการสอบเทียบจากวิธี
และเจา๎ หน๎าท่ีสอบเทยี บทีม่ มี าตรฐานตอํ ไป

คณะทางานจัดการสอบเทยี บ
ทวนสอบเครอ่ื งมือวิทยาศาสตร์ของสถาบันวจิ ัยวิทยาศาสตร์สาธารณสขุ

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 40

2.4 การดาเนินการฝ่ายบรหิ ารทวั่ ไป

รายงานวิเคราะห์ผลการจดั ซ้อื จดั จ้างประจาปงี บประมาณ พ.ศ. 2563

สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์สารณสุข ได๎จัดทารายงานการวิเคราะห์ผลการจัดซื้อจัดจ๎าง ประจาปี
งบประมาณ 2563 เพื่อให๎เป็นไปตามแนวทางการประเมินคุณธรรมและความโปรงใสในการดาเนินงานของ
หนํวยงานภาครัฐ ตลอดจนเป็นแนวทางปฏิบัติเพื่อแก๎ไขปรับปรุงและพัฒนาการปฏิบัติงานให๎ดียิ่งขึ้น
มีรายละเอียด ดังน้ี

1. ผลการดาเนินงานในภาพรวม
ในปีงบประมาณ 2563 สถาบันฯ ได๎ดาเนินการจัดซื้อจัดจ๎าง เงินงบประมาณและเงินบารุง

รวมท้ังส้ินเป็นเงนิ 149,330,699.66 บาท

ตารางท่ี 1 แสดงร๎อยละเงินงบประมาณและเงินบารงุ จาแนกตามหมวด

หมวด เงนิ งบประมาณ เงินบารงุ รวม ร้อยละ
78.43
งบดาเนนิ งาน 78,449,995.59 71,936,330.93 150,386,326.52 21.57
100
งบลงทุน 10,773,310.71 30,591,766.00 41,365,076.71

รวม 89,223,306.30 102,528,096.93 191,751,403.23

แผนภูมแิ สดงรอ้ ยละเงินงบประมาณและเงนิ บารงุ

21.57 งบดาเนินงาน 78.43%
78.43 งบลงทนุ 21.57%

รายงานประจาปี 2563 | สถาบนั วจิ ยั วิทยาศาสตรส์ าธารณสุข 41


Click to View FlipBook Version