The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ :: ครูปริศนา อาจหาญ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jummy.prisana, 2022-09-19 10:03:11

แผนการจัดการเรียนรู้ Active Learning

แผนการจัดการเรียนรู้ :: ครูปริศนา อาจหาญ

แผนการจัดการเรียนรู้

รายวชิ าวทิ ยาศาสตร์ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3

หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 6 อากาศรอบตัว เรือ่ ง การใช้ประโยชนจ์ ากลมและ เวลา ๔ ชว่ั โมง

ความเสียหายทเี่ กดิ จากลม

ผู้จัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ นางสาวปริศนา อาจหาญ โรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ศิ

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วัด
มาตรฐาน ว 3.2 เข้าใจองค์ประกอบและความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลงภายในโลก

และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทั้งผลต่อสิ่งมีชีวิตและ
สง่ิ แวดลอ้ ม

ว 3.2 ป.3/3 อธบิ ายการเกิดลมจากหลกั ฐานเชิงประจักษ์
ว 3.2 ป.3/4 บรรยายประโยชน์และโทษของลมจากขอ้ มลู ที่รวบรวมได้

2. สมรรถนะทาง ICT
ICA 1 การเขา้ ถึง ประเมิน และจัดการขอ้ มลู และสารสนเทศ

3. สาระสำคัญ
ลม คอื อากาศที่เคลอื่ นท่ี เกิดจากความแตกตา่ งกันของอณุ หภมู อิ ากาศบริเวณทีอ่ ยใู่ กล้กัน โดยอากาศบริเวณ

ทมี่ ีอณุ หภมู ิสงู จะลอยตัวสูงข้ึน อากาศบรเิ วณทม่ี ีอณุ หภูมติ ่ำกวา่ จะเคลือ่ นเข้าไปแทนที่ ลมสามารถนำมาใช้เป็นแหล่ง
พลงั งานทดแทนในการผลิตไฟฟ้าและนำไปใช้ประโยชน์

ลมที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงอาจทำให้เกิดอันตรายและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้ เราจึงควร
ศึกษาถึงความเสียหายท่ีเกดิ จากลมและวิธีปฏบิ ตั ติ นให้ปลอดภัยจากลมที่มคี วามเรว็ สูง

4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. สืบค้นข้อมูลและบรรยายประโยชนแ์ ละโทษของลมได้ (K)
2. เปรยี บเทยี บอากาศแต่ละบรเิ วณได้ (P)
3. สอื่ สารและนำความรเู้ รอื่ งประโยชน์และความเสยี หายที่เกดิ จากลม ไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ (P)
4. มีความสนใจใฝร่ ู้หรืออยากรอู้ ยากเห็นและทำงานร่วมกับผอู้ ่ืนอยา่ งสรา้ งสรรค์ (A)
5. พอใจในประสบการณก์ ารเรียนรู้ทเ่ี ก่ยี วกับวทิ ยาศาสตร์ (A)

5. สาระการเรยี นรู้
สมบัติของอากาศ
- การใช้ประโยชน์จากลมและความเสียหายท่ีเกดิ จากลม

6. การบรู ณาการปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
๑. ความพอประมาณ : สามารถนำวสั ดเุ หลอื ใช้ท่ีมอี ยรู่ อบตัว มาสรา้ งสรรคเ์ ป็นของเล่น ของใช้ได้
๒. ความมเี หตผุ ล : สามารถเลอื กใช้วสั ดทุ ่ีนำมาประดษิ ฐ์ไดเ้ หมาะสม และเกดิ ประโยชนส์ ูงสุด

๓. ความมภี มู คิ ุ้มกัน : ได้เรยี นรู้เก่ยี วกับอันตรายที่เกิดจากลม การใชป้ ระโยชน์จากลม
ในชวี ิตประจำวนั และรจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ปน็ ประโยชน์

๔. ความรคู้ ่คู ุณธรรม : นำความรใู้ นวชิ าวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี บรู ณาการกบั วิชาคณติ ศาสตร์
ศลิ ปะ และวศิ วกรรม มาประยกุ ต์ใชใ้ นการประดิษฐผ์ ลงานจากวัสดเุ หลอื ใช้
ใหเ้ กิดประโยชนแ์ ละค้มุ คา่ เสริมสรา้ งความรอบคอบ มคี วามอดทน
ในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานใหส้ ำเรจ็

7. การบรู ณาการการเรยี นรู้ STEAM Education
1. S : Science วิทยาศาสตร์ : การใชป้ ระโยชนจ์ ากลม, แรงท่ีกระทำตอ่ วัตถุ
2. T : Technology เทคโนโลยี : การสืบค้นข้อมลู เก่ียวกับวา่ ว, วสั ดอุ ปุ กรณ์ทใี่ ชใ้ นการประดษิ ฐ์วา่ ว
3. E : Engineering วิศวกรรมศาสตร์ : การออกแบบและการประดิษฐว์ า่ ว
4. M : Mathematics คณิตศาสตร์ : รูปเรขาคณิต, การวัด
5. A : Arts ศิลปะ : การวาดภาพระบายส,ี การตกแตง่ วา่ ว

๘. ช้นิ งานหรอื ภาระงาน

1. เขยี นสรปุ ความรใู้ นรูปแบบแผนผังความคดิ

2. ชิน้ งานประดิษฐ์เครอ่ื งวดั ทศิ ทางลมและเครอ่ื งวดั ความเรว็ ลมอย่างงา่ ย

๙. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
 ข้ันนำเข้าส่บู ทเรียน

1. นักเรียนดกู งั หนั ลมที่ครเู ตรยี มไว้ แล้วถามคำถามนักเรยี น ดังน้ี

- กังหนั หมุนไดอ้ ย่างไร (แนวตอบ มีลมพดั )
- นักเรียนรู้จักพายุหรอื ไม่ (แนวคำตอบ รจู้ กั )
- พายุคอื อะไร (แนวคำตอบ ลมทมี่ ีความเร็วสงู ซ่งึ อาจกอ่ ให้เกดิ ความเสยี หายตอ่ สงิ่ มีชวี ติ และสิ่งแวดลอ้ ม)
2. นกั เรียนรว่ มกนั ตอบคำถามและแสดงความคิดเหน็ เก่ยี วกับคำตอบ เพอ่ื เชอื่ มโยงไปสกู่ ารเรียนรู้เรอื่ ง

ประโยชน์และความเสยี หายท่เี กดิ จากลม

 ข้ันจดั กิจกรรมการเรยี นรู้

จดั กิจกรรมการเรยี นรู้โดยใชก้ ระบวนการสืบเสาะหาความรู้รว่ มกับแบบกลบั ดา้ นชน้ั เรียน ซ่งึ มขี ัน้ ตอนดังน้ี

1. ขนั้ สรา้ งความสนใจ

1.1 ครแู ละนักเรียนดขู า่ วเก่ยี วกับพายุฤดูรอ้ นจากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ ทางอนิ เตอรเ์ น็ต แลว้ ถามคำถามนักเรยี น
ดงั นี้

- พายุแตกต่างจากลมอยา่ งไร (แนวคำตอบ พายมุ ีความเรว็ ลมสูงกวา่ ลมมาก)
- พายกุ ่อใหเ้ กดิ ความเสยี หายอยา่ งไร (แนวคำตอบ ทำใหต้ น้ ไม้หักหรือโคน่ และทำใหห้ ลังคาปลิวไปจากตวั
บา้ น)
1.2 นกั เรยี นรว่ มกนั อภิปรายหาคำตอบเกีย่ วกบั คำถามตามความคดิ เหน็ ของแต่ละคน

2. ข้นั สำรวจและคน้ หา

2.1 นักเรยี นศกึ ษาเร่อื งประโยชน์และความเสียหายท่เี กดิ จากลม จากใบความร้หู รอื ในหนังสือเรยี น โดย
ครูช่วยอธบิ ายให้นักเรยี นเข้าใจว่า ลมทเ่ี คลอื่ นที่ดว้ ยความเร็วสูงเรียกว่า พายุ ซ่ึงพายอุ าจทำใหเ้ กดิ อันตรายและความ
เสียหายตอ่ ชวี ติ และทรัพย์สนิ ได้

2.2 นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน จากนั้นช่วยกันสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์และความ
เสยี หายทีเ่ กิดจากลม จากแหล่งข้อมูลตา่ งๆ แลว้ บนั ทึกข้อมูลลงในสมุด (ICA 1)

2.3 นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันอภิปรายและสรุปข้อมูลที่ได้จากการสืบค้น แล้วนำข้อมูลมาจัดทำใน
รปู แบบตา่ งๆ ลงในกระดาษ A 4 พร้อมตกแตง่ ใหส้ วยงาม

2.4 ครคู อยแนะนำชว่ ยเหลอื นักเรียนขณะปฏิบัติกจิ กรรม โดยครเู ดินดรู อบๆ หอ้ งเรียนและเปดิ โอกาสให้
นกั เรียนทกุ คนซักถามเมื่อมปี ัญหา

3. ข้ันอธบิ ายและลงข้อสรปุ

3.1 นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ นำเสนอผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมหนา้ ห้องเรยี นเพ่อื แลกเปลี่ยนขอ้ มลู กับเพอื่ นกลมุ่ อ่ืน

ภายในชนั้ เรยี น

3.2 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันอภิปรายผลจากการปฏิบัตกิ ิจกรรม โดยใช้แนวคำถาม เช่น

- ประโยชน์จากลมในการทำกิจกรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจำวันของเรามีอะไร (แนวคำตอบ การเลน่ วา่ ว
การเดนิ เรือ การผลติ กระแสไฟฟา้ )

- ลมทีเ่ คลื่อนท่ีด้วยความเร็วสูงก่อใหเ้ กิดความเสียหายลกั ษณะใด (แนวคำตอบ ทำให้ตน้ ไมห้ ักหรือโค่น
ทำใหห้ ลงั คาบา้ นปลวิ ไปจากตัวบา้ น และทำใหก้ ระจกแตก)

- ยกตัวอยา่ งวธิ ปี ฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภยั จากลมที่เคล่อื นที่ดว้ ยความเรว็ สูง (แนวคำตอบ ไม่ออกนอกบ้าน
หรอื ออกไปอยใู่ นทีก่ ลางแจ้ง)
3.3 ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรปุ ผลจากการปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยครเู น้นใหน้ กั เรียนเข้าใจวา่ ประโยชน์จากลม
ในการทำกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจำวนั ของเรามีหลายอย่าง เชน่ การใชล้ มเปน็ พลงั งานทดแทนในการผลติ
กระแสไฟฟา้ การออกเดินเรอื ของชาวประมง การเลน่ วา่ ว เป็นต้น หากลมทเ่ี คล่อื นทดี่ ว้ ยความเร็วสูงอาจทำใหเ้ กดิ
อนั ตรายและความเสยี หายตอ่ ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ได้ เราจงึ ควรศกึ ษาถงึ ความเสียหายทเ่ี กดิ จากลมและวธิ ปี ฏิบตั ิตนให้
ปลอดภัยจากลมทีม่ ีความเรว็ สูง
4. ข้นั ขยายความรู้

4.1 ครูทบทวนบทเรียนและอธิบายเพมิ่ เตมิ เกยี่ วกบั การเกดิ ลม ประโยชน์และความเสยี หายทีเ่ กิดจากลม

โดยใหน้ ักเรียนดู PowerPoint เร่อื ง อากาศรอบตวั ประกอบการเรยี นรู้ จากนน้ั ครถู ามคำถามนักเรยี นเปน็ รายบุคคล

เพ่อื ตรวจสอบความรคู้ วามเขา้ ใจของนักเรียนหลังจากการเรยี น
** นักเรยี นสามารถเรียนร้ยู ้อนหลังหรอื ทบทวนความรู้เพิม่ เตมิ ไดท้ างชอ่ ง YouTube : Jummy Prizza Channel

โดยคลิก Link : https://www.youtube.com/watch?v=eLDuFXV2yUo ) (ICA 1) และอา่ นทบทวนเนอื้ หา

เพมิ่ เติมไดจ้ ากหนงั สอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ (E – Book) ธนาคารความรวู้ ิชาวทิ ยาศาสตร์ “อากาศรอบตวั ” โดยคลิก Link :

http://online.anyflip.com/ropwz/toih/mobile/index.html หรอื สแกน QR Code ท่คี รสู ่งใหใ้ นกลุ่มไลน์

ห้องเรียนวชิ าวทิ ยาศาสตร์ (ICA 1)

4.2 นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั ทำกจิ กรรมเสริมความรู้ โดยการศึกษาข้อมูลเพมิ่ เติมเกย่ี วกบั การประดษิ ฐ์

“วา่ ว” จากแหล่งขอ้ มูลต่างๆ (ICA 1)

4.3 นกั เรียนออกแบบและลงมือประดษิ ฐว์ า่ วโดยใช้วสั ดุเหลือใชห้ รอื วสั ดุต่างๆ ที่นักเรยี นมีอยู่ท่ีบ้าน เชน่

แก้วน้ำพลาสติก, ไมไ้ อศกรมี , ช้อนพลาสติก, กระดาษสตี า่ งๆ, ลวด, ดินน้ำมัน แล้วนำเสนอผลงานหน้าหอ้ งเรียน

5. ข้นั ประเมนิ

5.1 นกั เรียนรว่ มพิจารณาวา่ จากหวั ข้อที่เรยี นมาและการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม มีจดุ ใดบ้างทีย่ ังไมเ่ ข้าใจหรอื ยงั มี

ข้อสงสยั ถ้ามี ครูชว่ ยอธิบายเพม่ิ เติมใหน้ ักเรียนเข้าใจ

5.2 ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ เกยี่ วกบั ประโยชนท์ ไี่ ดร้ บั จากการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม และการนำ

ความรทู้ ีไ่ ด้ไปใชป้ ระโยชน์

5.3 ทดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี นโดยการใหต้ อบคำถาม และตรวจผลงานของนกั เรยี น
 ข้นั สรปุ

ครูและนักเรยี นรว่ มกันสรุปเกยี่ วกับประโยชนแ์ ละความเสยี หายทีเ่ กิดจากลม โดยร่วมกนั เขยี นเปน็ แผนที่
ความคิดหรือผงั มโนทัศน์

๑๐. สอื่ และแหลง่ การเรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าพน้ื ฐานวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3
2. PowerPoint “อากาศรอบตวั ” และ Link Clip VDO ในช่อง YouTube : Jummy Prizza Channel

3. หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์ (E – Book) ธนาคารความรวู้ ิชาวิทยาศาสตร์ “อากาศรอบตวั ”

๔. วสั ดุ – อุปกรณ์ ท่ีใชใ้ นการทำกิจกรรม
๕. ห้องสมดุ
๖. อินเตอร์เนต็

1๑. การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ดา้ นความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
และจติ วทิ ยาศาสตร์ (A)
1. ประเมนิ ทักษะกระบวนการ
1. ซักถามความร้เู รือ่ งการใช้ 1. ประเมินเจตคตทิ าง ทางวิทยาศาสตร์โดยใชแ้ บบวดั ทกั ษะกระบวนการทาง
วิทยาศาสตร์
ประโยชน์จากลมและความเสยี หาย วิทยาศาสตรเ์ ป็นรายบคุ คล 2. ประเมนิ ทักษะการคิดโดยการสังเกตการทำงานกลุ่ม
3. ประเมินทกั ษะการแก้ปญั หาโดยการสังเกตการ
ทีเ่ กดิ จากลม โดยการสังเกตและใชแ้ บบวดั ทำงานกลุม่
4. ประเมินพฤติกรรมในการปฏิบัติกิจกรรมเปน็
2. ตรวจชิน้ งานหรอื ภาระงานของ เจตคตทิ างวิทยาศาสตร์ รายบุคคลหรอื รายกลุ่มโดยการสังเกตการทำงานกลุ่ม

กิจกรรมฝกึ ทกั ษะระหวา่ งเรยี น 2. ประเมินเจตคติตอ่

วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ รายบคุ คล

โดยการสงั เกตและใชแ้ บบวัด

เจตคตติ ่อวทิ ยาศาสตร์

1๒. บันทึกผลหลังการสอน

1๒.1 สรปุ ผลการเรยี นการสอน

นักเรยี นจำนวน ...........คน

ผา่ นจดุ ประสงค์การเรียนรู้ ...........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................................

ไม่ผ่านจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ ...........คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ.................................

ดงั นี้

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

..............................................................................................................................................................................

1๒.2 ปญั หา/อปุ สรรค
(ผลการประเมินทีไ่ ม่เป็นไปตามจุดประสงค์สตู่ วั ชว้ี ัด คุณลกั ษณะหรือสมรรถนะของผเู้ รยี น)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
1๒.3 แนวทางแกไ้ ข/แนวทางการพฒั นา
(แนวทางการแกป้ ญั หา/พัฒนานักเรียนให้ได้ ตามตวั ชวี้ ดั คณุ ลักษณะ หรอื สมรรถนะของผูเ้ รียน)
..............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .....................................................
(นางสาวปรศิ นา อาจหาญ)
ตำแหน่ง ครู

ความเหน็ ของหวั หนา้ สถานศึกษา/ผู้ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย
แผนการจดั การเรียนรู้ของ นางสาวปริศนา อาจหาญ สรปุ ผล ดงั น้ี
1. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่
 นำไปใช้ได้จริง
 ควรปรบั ปรุงกอ่ นนำไปใช้ (ระบุ) .....................................................................................................
................................................................................................................................................................
2. การจดั กิจกรรมการเรยี นรู้
 มกี ิจกรรมการเรียนรู้ท่ีหลากหลาย สอดคลอ้ งกบั ศกั ยภาพของผ้เู รียน
 เน้นการคดิ
 มีการบูรณาการ
 ฝกึ ทกั ษะการปฏิบตั ิจรงิ
 มีการสร้างองค์ความรดู้ ว้ ยตนเอง
3. ขอ้ เสนอแนะอนื่ ๆ

ความเห็นรองผอู้ ำนวยการโรงเรียนแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอุทศิ ความเหน็ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นแก้วอินทร์สธุ าอุทิศ
……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………

ลงชอื่ ....................................................... ลงชอ่ื .......................................................
(นางสาวสริ นิ ทร์ โกมลสุทธ์ิ) (นายสนุ ทร ประชารงุ )

รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนแก้วอินทร์สธุ าอุทิศ ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นแกว้ อนิ ทรส์ ธุ าอทุ ศิ


Click to View FlipBook Version