The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ผลของการเปรียบเทียบทิงเจอร์ไอโอดีนและสารสกัดจากใบสาบเสือในการรักษาแผลสะดือลูกสุกรebook.

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pattanyatorn55, 2021-07-11 19:53:36

ผลของการเปรียบเทียบทิงเจอร์ไอโอดีนและสารสกัดจากใบสาบเสือในการรักษาแผลสะดือลูกสุกรebook.

ผลของการเปรียบเทียบทิงเจอร์ไอโอดีนและสารสกัดจากใบสาบเสือในการรักษาแผลสะดือลูกสุกรebook.

ปัญหาพเิ ศษ

ผลของการเปรียบเทียบทงิ เจอร์ไอโอดีนและสารสกดั จากใบสาบเสือในการ
รักษาแผลสะดือลกู สุกร

Results of comparison of Iodine Tincture and Eupatorium odoratum
Linn Leaves Extracts on Umbilical Cord Wound Healing in Piglets

นางสาววิลาสินี เจริญยงิ่

นางสาวธญั ญธร ชยั ชานาญ

นายดนุพร จนั ทะกลุ

หลกั สูตรวทิ ยาศาสตรบัณฑิต สาขาสัตวศาสตร์
คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

ปี การศึกษา 2563

1

ปัญหาพเิ ศษ

ผลของการเปรียบเทยี บทิงเจอร์ไอโอดีนและสารสกดั จากใบสาบเสือในการ
รักษาแผลสะดือลูกสุกร

Results of comparison of Iodine Tincture and Eupatorium odoratum
Linn Leaves Extracts on Umbilical Cord Wound Healing in Piglets

นางสาววิลาสินี เจริญยงิ่

นางสาวธญั ญธร ชยั ชานาญ

นายดนุพร จนั ทะกุล

หลกั สูตรวทิ ยาศาสตรบณั ฑิต สาขาสัตวศาสตร์
คณะเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธัญบุรี

ปี การศึกษา 2563

2

ใบรับรองปัญหาพเิ ศษ

เร่ือง

ผลของการเปรียบเทียบทิงเจอร์ไอโอดีนและสารสกดั จากใบสาบเสือในการรักษาแผลสะดือลูกสุกร
Results of comparison of Iodine Tincture and Eupatorium odoratum Linn Leaves Extracts on Umbilical

Cord Wound Healing in Piglets

โดย

นางสาววลิ าสินี เจริญยงิ่
นางสาวธญั ญธร ชยั ชานาญ
นายดนุพร จนั ทะกุล
ไดร้ ับความเห็นชอบโดย

..................................................... ประธานท่ีปรึกษา วนั ท่ี........./ ........./ .........

(อาจารยช์ าติชาย โยเหลา)

..................................................... กรรมการท่ีปรึกษา วนั ที่........./ ........./ .........

(อาจารยอ์ ชิรา ผดุงฤกษ)์

..................................................... ประธานหลกั สูตร วนั ที่........./ ........./ .........

(ผศ.ดร.สมจิตร ถนอมวงศว์ ฒั นะ)

3

ผลของการเปรียบเทียบทิงเจอร์ไอโอดีนและสารสกดั จากใบสาบเสือในการรักษาแผลสะดือลูกสุกร

วลิ าสินี เจริญยง่ิ ธญั ญธร ชยั ชานาญ และดนุพร จนั ทะกุล

บทคดั ย่อ
คคคคคคคการศึกษาการใช้สารสกัดจากใบสาบเสือคร้ังน้ีมีวตั ถุประสงค์เพ่ือเปรียบเทียบทิงเจอร์

ไอโอดีนและสารสกดั จากใบสาบเสือในการรักษาแผลสะดือลูกสุกรใช้แผนการทดลองแบบ T-Test มี 2
ทรีตเมน้ ท์ คือทิงเจอร์ไอโอดีนและสารสกดั จากใบสาบเสือใช้ในลูกสุกรท้งั หมด 84 ตวั และแม่สุกร 8 ตวั
พบว่าระยะเวลาที่แผลหายบวม 1.86±0.70 และ 2.38±0.18 วนั ระยะเวลาการเชื่อมติดของแผล 3.24±0.38
และ 3.10±0.63 วนั ระยะเวลาการตกสะเกด็ ของแผล 3.51±0.37 และ 3.68±0.45 วนั ระยะเวลาการหายของ
แผล 4.09±0.62 และ4.08±0.74วนั ตามลาดบั จากการตดั สายสะดือลูกสุกรที่รักษาดว้ ยทิงเจอร์ไอโอดีน
และสารสกดั จากใบสาบเสือพบวา่ สารสกดั จากใบสาบเสือมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากบั ทิงเจอร์ไอโอดีน
แสดงใหเ้ ห็นวา่ สารสกดั จากใบสาบเสือสามารถใชแ้ ทนทดแทนทิงเจอร์ไอโอดีนได้

คาสาคญั : สุกร สารสกดั จากใบสาบเสือ

คณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลยั เทคโนโลยีราชมงคลธญั บุรี ปทุมธานี

4ก

Results of comparison of Iodine Tincture and Eupatorium odoratum Linn Leaves Extracts on
Umbilical Cord Wound Healing in Piglets

Vilasinee Charoenying Tanyatorn Chaichamnarn Dhanuphon Janthakun

ABSTRACTS

This study aims to compare the application of iodine tincture and eupatorium odoratum l. leaves
extracts in umbilical cord wound treatment. Eighty four piglets and eight sows were assigned to two
treatments groups: iodine tincture, and eupatorium odoratum l. leaves using T- Test experiment plan. It
was found that the duration of swollen wound healing was 1.86±0.70 and 2.38±0.18 days. The wound
closure period was 3.24±0.38 and 3.10±0.63 days. The wound scab duration was 3.51±0.37 and 3.68±0.45
days. The wound healing period was 4.09±0.62 and 4.08±0.74 days, respectively. After cutting the
umbilical cords, found that piglets treated with eupatorium odoratum l. leaves extract was as effective as
those treated with iodine tincture and by that eupatorium odoratum l. leaves extract is recommended to
be used as a substitution for iodine tincture.

Keywords: Sow, Piglet, Eupatorium odoratum Linn Leaves Extracts

Department of Animal Science, Faculty of Agricultural Technology, Rajamangala University of Technology
Thanyaburi

ข5

กติ ติกรรมประกาศ

การทาปัญหาพิเศษน้ีประสบความสาเร็จไดอ้ ย่างดีตอ้ งขอขอบพระคุณอาจารยช์ าติชาย โยเหลา และ
อาจารยอ์ ชิรา ผดุงฤกษ์ อาจารยท์ ่ีปรึกษาการทาปัญหาพิเศษท่ีให้คาปรึกษาในการดาเนินงานตลอดจน
ตรวจการแกไ้ ขปัญหาพิเศษน้ีใหส้ าเร็จลลุ ่วงไดอ้ ยา่ งสมบรู ณ์

ขอขอบพระคุณว่าท่ีร้อยตรี ผศ.ดร.สมจิตร ถนอมวงศ์วฒั นะท่ีให้คาปรึกษาในการทาปัญหาพิเศษ
ฉบบั น้ีใหส้ มบรู ณ์ยง่ิ ข้นึ

ขอขอบคุณเจา้ หนา้ ท่ีประจาแผนกคอกสุกรท่ีไดใ้ หค้ าปรึกษาและช่วยเหลือในดา้ นการเล้ียงและดา้ น
การทาคลอดสุกร ท่ีแผนกสุกร สาขาสัตวศาสตร์ คณะเทคโนโลยกี ารเกษตร มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าช
มงคลธญั บุรี ท่ีเอ้ือเฟ้ื อสถานที่ในการทาปัญหาพิเศษในคร้ังน้ีสาเร็จลลุ ่วงดว้ ยดี สุดทา้ ยน้ี

ขอขอบคุณ คุณพ่อ คุณแม่ ที่ให้ทุนสาหรับการศึกษาเป็ นขวญั และกาลงั ใจในการทาปัญหาพิเศษทา
ใหส้ ามารถผา่ อปุ สรรคจนสาเร็จลลุ ว่ งไปไดด้ ว้ ยดี รวมถึงเพ่ือนท่ีใหก้ ารช่วยเหลือและใหก้ าลงั ใจมาตลอด

คณะผดู้ าเนินการ

ค6

สารบญั เร่ือง หน้า
เรื่อง

บทคดั ยอ่ ข
ABSTRACT ค
กิตติกรรมประกาศ ง
สารบญั จ
สารบญั ตาราง จ
สารบญั ภาพ
บทนา 1
คคคคคคคความเป็ นมาและที่มาของปัญหา 2
การตรวจเอกสาร 15
วตั ถปุ ระสงคข์ องการศึกษา
อุปกรณ์และวธิ ีการศึกษา 15
คคคคคคคอุปกรณ์15 16
คคคคคคควิธีการศึกษา 17
สารที่ใชใ้ นการรักษาแผล 17
ขอบเขตของการศึกษา 17
ระยะเวลาที่ทดลอง 18
ผลการทดลอง 18
วิจารณ์ผลการศึกษา 20
สรุปผลการศึกษา 21
ขอ้ เสนอแนะ 22
เกสารอา้ งอิง 23
ภาคผนวก

ง7

สารบญั ตาราง หนา้
เร่ือง
19
ตารางท่ี 1 ลกั ษณะการหายของแผลจาการตดั สายสะดือลกู สุกรท่ีไดร้ ับ
ยาทิงเจอร์ไอโอดีนและสารสกดั จากใบสาบเสือ 24
ตารางภาคผนวกที่ 1 ระยะเวลาที่แผลหายบวม (วนั ) 25
ตารางภาคผนวกที่ 2 ระยะเวลาการเช่ือมติดของแผล (วนั ) 26
ตารางภาคผนวกที่ 3 ระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผล (วนั ) 27
ตารางภาคผนวกที่ 4 ระยะเวลาที่แผลหาย (วนั )
หนา้
สารบัญภาพ 11
11
เร่ือง 32
ภาพที่ 1 ตน้ และใบสาบเสือ 33
ภาพท่ี 2 ดอกและผลสาบเสือ
ภาคผนวกท่ี 1 ข้นั ตอนการค้นั น้าใบสาบเสือ
ภาคผนวกที่ 2 ข้นั ตอนการการดาเนินการทดลอง

จ8

บทนา
ความสาคัญและท่มี าของปัญหา

การรักษาบาดแผลที่เกิดจากการตดั สายสะดือของลูกสุกรโดยทวั่ ไปใชท้ ิงเจอร์ไอโอดีนใส่บริเวณ
บาดแผล เพื่อป้องกนั แมลงวนั วางไข่ แต่ทิงเจอร์ไอโอดีนมีส่วนประกอบของแอลกอฮอลแ์ อลกอฮอล์จะ
ระคายเคืองต่อเน้ือเยือ่ ของบาดแผลหรือแผลสด นอกจากน้ีทิงเจอร์ไอโอดีน ยงั เป็นสารเคมีที่ตอ้ งนาเขา้
จากต่างประเทศ ในแต่ละปี ประเทศไทยตอ้ งสูญเสียเงินตราต่างประเทศเป็ นจานวนมาก เพ่ือนาเขา้ ยา
ประเภทต่างๆ ในขณะท่ีสมุนไพรเป็นทรัพยากรและภูมิปัญญาท่ีมีอยใู่ นสังคมไทย สมุนไพรหลายชนิดมี
สรรพคุณรักษาแผล ห้ามเลือด ยบั ย้งั หรือฆ่า เช้ือจุลินทรีย์ และมีความเป็นไปไดท้ ่ีจะนามาใชท้ ดแทนยา
จากต่างประเทศ ถา้ มีการศึกษาและพฒั นาอยา่ งจริงจงั ในสาบเสือเป็นวชั พืชชนิดหน่ึงที่พบกระจายอยู่ใน
ทุกภาคของประเทศไทย (จรูญ, 2549) การใช้ประโยชน์ใบสาบเสือในการรักษาแผลสด สมานแผล แก้
อกั เสบ ห้ามเลือด ตน้ สาบเสือ แกบ้ วม ดูดหนอง โดยมีสาร 4,5,6,7-tetramethoxyflavone และแคลเซียม ที่
พบในใบทาให้เลือดแข็งตวั เร็วข้ึน สารสกดั ท่ีไดจ้ ากการสกดั ด้วยคลอโรฟอร์มและอะซิโตนมีผลยบั ย้งั
เช้ือแบคทีเรีย Staphylococus aureus และ Bacillus subtilis ซ่ึงเป็ นสาเหตุให้เกิดหนอง โดยมีวิธีการใช้คือ
ใชใ้ บสดหรือตน้ สด ลา้ งสะอาด ตาละเอียด ค้นั น้าใส่แผล (นนั ทวนั และอรนุช, 2543) การศึกษาเพอ่ื พฒั นา
และใช้ประโยชน์จากภูมิปัญญาทอ้ งถิ่นโดยการใช้สารสกดั จากใบสาบเสือเป็ นยารักษาบาดแผล โดย
สาบเสือจะเป็นแนวทางหน่ึง ในการลดการใชส้ ารเคมีทีอาจก่อให้เกิดอนั ตรายกบั ตวั ผปู้ ฏิบตั ิ นอกจากน้ียงั
เป็นการกาจดั วชั พืชและเพิ่มมูลค่าของสาบเสือ ดงั น้นั การศึกษาคร้ังน้ีจึงมีวตั ถุประสงค์ เพ่ือศึกษาการใช้
สารสกดั จากใบสาบเสือ ซ่ึงเป็ นสมุนไพรในทอ้ งถ่ินท่ีมีการนามาใช้ในการรักษาบาดแผลของมนุษยม์ า
นานแลว้ มาใช้ รักษาบาดแผลจากแผลสะดือลูกสุกร หรือบาดแผลที่เกิดจากการจดั การฟาร์ม ซ่ึงจะทาให้
ทราบขอ้ มูลประกอบการตดั สินใจในการใชส้ าบเสือเป็นยารักษาบาดแผลในลูกสุกร ใชเ้ ป็นขอ้ มลู พ้ืนฐาน
และเป็นแนวทางในการนาสาบเสือไปใชใ้ นอุตสาหกรรมการเล้ียงสัตวต์ ่อไป (จรูญ, 2549)

1

การตรวจเอกสาร
คคคการเลยี้ งสุกรในประเทศไทย

คคคคคคคประเทศไทยเป็ นประเทศท่ีมีการเล้ียงสุกรเป็ นระยะเวลายาวนานแลว้ โดยการเล้ียงสุกรตาม
ชนบทท่ีห่างไกลตวั เมืองยงั คงมีรูปแบบการเล้ียงคลา้ ยคลึงกบั การเล้ียงในอดีต คือ ลกั ษณะการเล้ียงเป็น
การเล้ียงแบบปล่อยตามบา้ น อาหารที่ใชเ้ ล้ียงหาไดต้ ามครัวเรือน เช่น เศษอาหาร เศษผกั และหยวกกลว้ ย
เป็ นต้น นอกจากน้ี ยงั มีอาจมีการปล่อยให้สุกรออกไปขุดคุ้ยหากินหัวเผือก หัวมัน และอื่น ๆ ตาม
ธรรมชาติและสัญชาตญาณ นอกจากจะถกู เล้ียงไวเ้ พอ่ื เป็นผชู้ ่วยในการกาจดั เศษเหลือตา่ ง ๆ จาก ครัวเรือน
แลว้ สุกรยงั ถกู นามาเป็นอาหารในโอกาสหรือเทศกาลสาคญั ต่าง ๆ สุกรท่ีนิยมนามาเล้ียงส่วนใหญจ่ ะเป็น
เพศเมีย เพราะสามารถใหล้ ูกไวเ้ ล้ียงต่อไปไดอ้ ีก นอกจากการเล้ียงแบบปล่อยอิสระแลว้ ในระยะขุนสุกร
อาจมีการเล้ียงแบบขงั รวมภายในคอก คอกละประมาณ 5-6 ตวั ไปจนถึง 50-100 ตวั อาหารท่ีใชเ้ ล้ียงสุกร
ยงั เป็ นอาหารที่หาไดต้ ามพ้ืนบา้ นทวั่ ไปซ่ึงมีโภชนะไม่ครบถว้ นตามความตอ้ งการของสุกรโดยเฉพาะ
โปรตีน จึงทาใหส้ ุกรมีอตั ราการเจริญเติบโตไมด่ ี ส่งผลใหไ้ ดผ้ ลผลิตนอ้ ย (วนั ดี, 2546)

คคคการสุขาภบิ าลฟาร์ม

คคคคคคคการสุขาภิบาลฟาร์มสุกร การสุขาภิบาลฟาร์มสุกรเป็ นการจดั การเพื่อให้สุกรท่ีเล้ียงอยู่อย่าง
สบายปลอดภยั จากเช่ือโรคต่างๆ การสุขาภิบาลฟาร์มสุกรท่ีถูกสุขอนามยั มนั จะช่วยเพ่ิมประสิทธิภาพใน
การผลิต สุกร กล่าวคือ ทาให้สุกรมีการเจริญเติบโตอยา่ งสมวยั และยงั ทาให้ตน้ ทุกการผลิตลดลง เช่น ค่า
ยา สาหรับสุกร และค่าไฟฟ้า ไดเ้ ป็นอยา่ งดี การสุขาภิบาลฟาร์มสุกร คือ การทาความสะอาดคอกสุกร ควร
ทาความสะอาดคอกวนั โดยการเลือกรูปแบบในการทาความสะอาดให้เหมาะสมกบั ฤดูกาลในการเล้ียง
สาหรับในฤดูร้อนน้นั รูปแบบในการทาความสะอาดนอกจากจะตอ้ งเก็บและลา้ งทาความสะอาด คอกดว้ ย
น้าแลว้ ยงั ตอ้ งอาบน้าใหก้ บั สุกรดว้ ยและวนั ท่ีมีอากาศร้อนอบอา้ วมากอาจตอ้ งอาบน้าถึง 2 คร้ัง คือ ช่วง
เชา้ ประมาณ 10 นาฬิกาและช่วงบ่ายประมาณ 13-14 นาฬิกา สาหรับในฤดูฝนสภาพอากาศโดยทว่ั ไปจะมี
ความสูงอยแู่ ลว้ วนั ที่ฝนตกอาจทาความสะอาดเพียงการเก็บมลู สุกรออกจากคอก แตส่ าหรับวนั ที่ฝนไม่ตก
ควรทาความสะอาดดว้ ยการลา้ งคอกและอาบน้าสุกร เช่น ปกติสาหรับในฤดูหนาวเพื่อป้องกนั ไม่ให้สุกร
เจ็บป่ วยเนื่องจากอณุ หภูมิของร่างกายที่ลดลงควรทาความสะอาดดว้ ยการเก็บมลู สุกรออกจากคอกและลา้ ง
คอกดว้ ยน้ายาฆา่ เช้ือโรคเดือนละคร้ังเพ่ือป้องกนั โรค การระบายน้าเสียออกจากฟาร์มสุกร (วษิ ณุ, 2551)

2

คคคสายพนั ธ์ุสุกร

คคคคคคคDouglas et al., (2015) รายงานวา่ สุกรพนั ธุ์ดูร็อคเจอร์ซี ลกั ษณะประจาพนั ธุ์ คือ สีน้าตาลแดง หู
ปรกเป็นสุกรขนาดใหญ่ แขง็ แรง ปรับตวั เขา้ กบั สภาพแวดลอ้ มไดด้ ี เล้ียงง่าย โตเร็ว อตั ราการเจริญเติบโต
(ADG) 850 กรัมต่อวันประสิทธิภาพการเปลี่ยนอาหาร (FCR) 2.50 ความหนาไขมันสันหลัง1.10
เซนติเมตร
คคคคคคคสุกรพนั ธุ์แลนดเ์ รซ ลกั ษณะประจาพนั ธุ์ คือ มีสีขาว หูปรก ลาตวั ยาว มีซ่ีโครงมากถึง 16-17 คู่
สุกร ปกติมีกระดูกซ่ีโครง 15-16 คู่ หนา้ ยาว โตเต็มที่ 200-250 กิโลกรัม ให้ลูกดกเฉล่ีย 9-10 ตวั เล้ียงลูก
เก่ง หยา่ นมเฉล่ีย 8-9 ตวั มีขอ้ เสียคือ ออ่ นแอ มกั จะมีปัญหาเรื่องขาอ่อน ขาไม่ค่อยแข็งแรง แกไ้ ขโดยตอ้ ง
เล้ียงดว้ ยอาหารท่ีมีคุณภาพดี พนั ธุ์แลนด์เรซเหมาะท่ีใชเ้ ป็ นสายแม่พนั ธุ์ มีอตั ราการเจริญเติบโต (ADG)
มากกวา่ 800 กรัมต่อวนั ประสิทธิภาพการเปล่ียนอาหาร (FCR) ต่ากวา่ 2.50 ความหนาไขมนั สนั หลงั นอ้ ย
กวา่ 1.20 เซนติเมตร ใหล้ กู หยา่ นมตอ่ แมต่ อ่ ปี 15 ตวั ข้นึ ไป เตา้ นมสม่าเสมอ มีความสามารถในการเป็นแม่
ท่ีดีเล้ียง ลกู เก่ง
คคคคคคคสุกรพนั ธุ์ลาร์จไวท์ ลกั ษณะจะมีขนและหนงั สีขาวตลอดลาตวั บางตวั อาจจะมีจุดสีดาปรากฏท่ี
ผิวหนังบา้ ง จมูกยาว หูต้งั หัวโต ลาตวั ยาว แคบลึก ไหล่โต แต่สะโพกไม่โตเห็นเด่นชัดนัก สามารถ
เจริญเติบโตเร็ว ลูกดก เล้ียงลูกเก่ง ตวั ผูโ้ ตเต็มท่ีมีน้าหนัก 250 ถึง 300 กิโลกรัม ตวั เมียมีน้าหนัก 150 ถึง
220 กิโลกรัม ลกั ษณะเด่น ประจาพนั ธุ์ มีหูต้งั ชดั เจน มีลาตวั ยาวเด่นชดั ขาแข็งแรง เตา้ นมสม่าเสมอ มี
ความสามารถในการเป็นแม่ท่ีดี เล้ียงลกู เก่ง เหมาะใชเ้ ป็น สายแม่พนั ธุ์ เล้ียงงา่ ย ไม่ตอ้ งการการดูแลพิเศษ

คคคปัจจัยทมี่ ผี ลต่อการเจริญเติบโตด้านอาหาร

คคคคคคคอาหารแม่สุกรอาหารโดยการให้อาหารแม่สุกรอุม้ ทอ้ งใหอ้ าหารโปรตีนประมาณ 15-16 % แม่
สุกรจะต้งั ทอ้ งประมาณ 114 วนั โดยมีโปรแกรมให้อาหารดงั น้ี คือ ให้อาหารแม่สุกรสาวทดแทนวนั ละ 2
กิโลกรัมจากนน่ั ใหอ้ าหารแมส่ ุกรวนั ละ 1.5-2 กิโลกรัมหลงั จากผสมพนั ธุ์ เมื่อแมส่ ุกรต้งั ทอ้ ง 0-90 วนั ให้
อาหารวนั ละ 2 กิโลกรัม แม่สุกรต้งั ทอ้ ง 90-108 วนั ให้อาหารวนั ละ 2-2.5 กิโลกรัม (ข้ึนอยู่กบั สภาพแม่
สุกรอว้ นหรือผอมดว้ ย) แม่สุกรต้งั ทอ้ ง 108-114 วนั ให้อาหารวนั ละ 1-1.5 กิโลกรัม (เมื่อต้งั ทอ้ งได้ 108
วนั ใหย้ า้ ยเขา้ คอกคลอด) และการใหอ้ าหารแม่สุกรหลงั คลอดให้อาหารโปรตีนประมาณ 16% ทาไดโ้ ดย
หลงั จาก คลอดลูกแลว้ 0-3 วนั ให้อาหารวนั ละ 1-2 กิโลกรัม เมื่อแม่คลอดลูก 3-14 วนั ให้อาหารวนั ละ 2-
3.5 กิโลกรัม และเมื่อครบ 14 วนั ข้นึ ไปใหอ้ าหารเตม็ ท่ีเทา่ ที่แม่สุกรจะกินอาหารได้ หรือประมาณวนั ละ 4-
6 กิโลกรัม ใน กรณีที่แม่สุกรมีลูก 7 ตวั ข้ึนไป (Patience et al., 2001)

3

คคคคคคคอาหารลกู สุกร ลกู สุกรกินนมเป็นส่วนใหญ่ แต่มีการเสริมอาหารเสริม ไฮโกรพรีวีน ซ่ึงเป็น
อาหารผงเพือ่ แกป้ ัญหาลูกหมวู ยั ออ่ นมีน้าหนกั นอ้ ยเป็นอาหารผงนาไปผสมน้าอนุ่ ในอตั รา 1 : 3 กวนป่ัน
ใหเ้ ขา้ กนั จนเหลวเป็นโจก๊ อาหารไม่มีการตกตะกอนแยกช้นั สามารถนาไปใชเ้ ล้ียงลูกสุกรไดต้ ้งั แต่วยั
แรกเกิด (Patience et al., 2001)

คคคการเลยี้ งและการดแู ลแม่สุกร

คคคคคคคสุกรสาวเจริญเติบโตในลกั ษณะเช่นเดียวกนั กบั สุกรหนุ่ม เม่ือมีอายมุ ากข้ึนปริมาณของไข่ที่ตก
จากรังไข่จะเพ่ิมข้ึน ทาให้ปริมาณลูกที่คลอดมีจานวนมาก จนกระทง่ั แม่สุกรมีอายุประมาณ 15 เดือน
ปริมาณไขท่ ่ีตกก็จะคงท่ี โดยปกติจะผสมพนั ธุส์ ุกรสาว เมื่อมีอายไุ ดร้ าว 7-8 เดือน หรือมีน้าหนกั ราว 110-
115 กิโลกรัม (สาหรับสุกรพนั ธุ์พ้ืนเมืองประมาณ 80-90 กิโลกรัมข้ึนอยู่กบั ชนิดของสุกรพนั ธุ์พ้ืนเมือง
ดว้ ย) การผสมพนั ธุ์แม่สุกรที่มีขนาดเลก็ หรือมีอายุนอ้ ยอยู่ จะทาใหอ้ ายุการใชง้ านของแม่สุกรตวั น้ันส้ัน
ลง และจานวนลูกที่ไดก้ ็นอ้ ยดว้ ย เน่ืองจากการตกไข่จากรังไข่มีนอ้ ย การผสมพนั ธุ์แม่สุกรควรกะเวลาให้
พอดี กบั ระยะการตกไข่ เพราะจะทาให้ไดผ้ ลดีกวา่ การผสมในเวลาอื่น (วาทิตต,์ 2557)
คคคคคคคแม่สุกรส่วนใหญ่จะกลบั เป็นสัด อีกภายใน 3-7 วนั หลงั การหย่านม แม่สุกรแสดงการเป็ นสัด
นานประมาณ 48-72 ชว่ั โมง (สุกรสาวนานประมาณ 36-60 ชว่ั โมง) การตกไข่เกิดข้นึ ประมาณช่วงกลาง ๆ
ของการเป็ นสัด แต่ไข่จะไม่ตกพร้อมกนั ทีเดียวท้งั หมด การผสมสุกรสาวหรือแม่สุกรควรผสมซ้า หรือ
ผสมคร้ังท่ีสอง โดยทิ้งระยะให้ห่างจากคร้ังที่หน่ึงประมาณ 12 ชวั่ โมงเป็ นอย่างนอ้ ย ปกติการผสมพนั ธุ์
สุกรมกั ทาในตอนเชา้ และเยน็ เพราะอากาศไม่ร้อน ไม่ควรผสมพนั ธุ์สุกรขณะท่ีป่ วย หรือหลงั การฉีด
วคั ซีนใหม่ ๆ วิธีดงั กลา่ วน้ีจะช่วยใหก้ ารผสมพนั ธุไ์ ดผ้ ลดีข้นึ และเพิม่ ลกู ตอ่ คอกใหม้ ากข้ึน(วาทิตต,์ 2557)

คคคการเลยี้ งและการดูแลแม่สุกรระหว่างการอ้มุ ท้อง

คคคคคคค(วาทิตต์, 2557) ไดร้ ายงานว่าสุกรตวั เมียท่ีไม่ไดร้ ับการผสมพนั ธุ์ หรือผสมไม่ไดผ้ ล จะกลบั
เป็นสัดอีกระหว่างทุก ๆ 18-24 วนั หรือโดยเฉลี่ยประมาณ 21 วนั แต่ถา้ ผสมไดผ้ ลก็จะไม่กลบั เป็นสัดอีก
เลยตลอดการอมุ้ ทอ้ ง เม่ือสุกรตวั เมียไดร้ ับการผสมแลว้ ก็ไม่จาเป็นตอ้ งใหอ้ าหารเพ่ิมมากข้ึนอีก การเล้ียง
ดูในช่วงน้ีควรปฏิบตั ิดงั น้ี
คคคคคคคคคคคการจดั คอกสาหรับแม่สุกรระยะที่แม่สุกรอุม้ ทอ้ งควรแยกมาเล้ียงในคอกขงั เด่ียว เพราะ
นอกจากจะควบคุมการให้อาหารไดแ้ ลว้ ยงั ช่วยป้องกนั ไม่ใหเ้ กิดการทะเลาะวิวาทกบั สุกรตวั อ่ืน ซ่ึงอาจ
ทาใหแ้ ม่สุกรแทง้ ลกู ได้

4

คคคคคคคคคคคการใหอ้ าหารแบ่งเป็น 2 ช่วง คือ
คคคคคคคคคคคคคคคคคช่วงอุม้ ทอ้ งระยะตน้ ต้งั แต่เร่ิมผสมพนั ธุ์จนถึงอุม้ ทอ้ งได้ 84 วนั ในช่วงน้ีไม่
จาเป็นตอ้ งใหอ้ าหารมากนกั เพราะลูกในทอ้ งเติบโตชา้ มาก ควรใหก้ ินประมาณตวั ละ 1.5-1.8 กิโลกรัมต่อ
วนั กเ็ พียงพอแลว้ สาหรับสุกรพ้นื เมือง กต็ อ้ งลดลงตามส่วน
คคคคคคคคคคคคคคคคคช่วงอมุ้ ทอ้ งระยะหลงั (อมุ้ ทอ้ ง 84-104 วนั ) ในช่วงน้ีลูกสุกรในทอ้ ง มีอตั ราการ
เจริญเติบโตสูงมาก ตอ้ งการอาหารมาก จาเป็นตอ้ งเพิ่มอาหารให้แก่แม่สุกรเป็นวนั ละ 2.5-3 กิโลกรัมต่อ
วนั (ประมาณ 2.5% ของน้าหนกั ตวั
คคคคคคคคคคคตรวจการต้งั ทอ้ ง
คคคคคคคคคคคคคคคคคหลงั จากวนั ผสมพนั ธุ์ประมาณ 21 วนั และ 42 วนั ควรตรวจดูการเป็ นสัดของ
สุกรตวั เมีย หากสุกรไมแ่ สดงอาการเป็นสัด กลา่ วไดว้ า่ สุกรผสมติดและต้งั ทอ้ งแตถ่ า้ สุกรแสดงอาการเป็น
สัดอีก ก็ให้ผสมพนั ธุ์สุกรตวั น้นั ใหม่ สุกรตวั ใดผสมแลว้ ยงั ไม่ต้งั ทอ้ งติดต่อกนั 3 คร้ัง ใหค้ ดั สุกรตวั น้ัน
ออกจากฝงู เพอื่ จาหน่ายตอ่ ไป

คคคการเลยี้ งดูแม่สุกรก่อนคลอด

คคคคคคควาทิตต์, (2557) ไดร้ ายงานการทาความสะอาดคอกคลอด ควรทาความสะอาดไวล้ ่วงหนา้ ให้
เรียบร้อย ก่อนท่ีจะนาแม่สุกรเขา้ คอกคลอด ประมาณหน่ึงสัปดาห์ หรือนานกว่าน้ีก็ได้ เพื่อลดโอกาสที่
โรคและพยาธิจะเกิดข้ึนใหม้ ีนอ้ ยท่ีสุด ซ่ึงโรคและพยาธิน้ีจะติดต่อถึงลูกไดม้ าก เน่ืองจากลูกสุกรพยายาม
หาทางไปกินนมจากแม่ภายหลงั ท่ีคลอดไดไ้ ม่ก่ีวินาที ลูกสุกรจึงอาจติดโรคและพยาธิเหลา่ น้ีไดจ้ ากคอกที่
สกปรก การทาความสะอาดคอกคลอด จะใชผ้ งซกั ฟอก หรือโซดาไฟลา้ งกไ็ ด้ แลว้ ใชน้ ้าสะอาดลา้ งให้ทวั่
อีกคร้ัง เมื่อคอกแห้งแลว้ จึงใชย้ าฆ่าเช้ือโรคชนิดใดชนิดหน่ึงผสมน้าเจือจางตามคาแนะนาแลว้ ฉีดพ่นให้
ทวั่ บริเวณคอก
คคคคคคคการถ่ายพยาธิแม่สุกร ก่อนถึงกาหนดคลอด 7-14 วนั ควรถา่ ยพยาธิแมส่ ุกรโดยเฉพาะหมูท่ีเล้ียง
แบบปลอ่ ยลงแปลง หรือเล้ียงในคอกที่มีพ้ืนเป็นดิน วิธีการใชย้ าถา่ ยพยาธิใหด้ ูจากฉลากท่ีติดมากบั ยาชนิด
น้นั ๆ
คคคคคคคการทาความสะอาดแม่สุกร ปกติท้งั แม่สุกร และสุกรสาว จะอุม้ ทอ้ งนานประมาณ 114 วนั เมื่อ
อุม้ ทอ้ งได้ 109 วนั ควรยา้ ยสุกรเหล่าน้ันไปยงั คอกคลอด อาบน้าด้วยสบู่ใช้แปรงท่ีมีขนแข็ง ถูให้ทวั่
บริเวณร่างกาย โดยเฉพาะตามพ้ืนทอ้ ง ลาตวั และบริเวณเตา้ นม วธิ ีน้ีจะกาจดั ไขพ่ ยาธิ และสิ่งสกปรกท่ีติด
มากบั ตวั สุกรออกไป

5

คคคคคคคการให้อาหารและน้าแม่สุกร อาหารที่ให้แม่สุกรในช่วงก่อนคลอดน้ีควรจะเป็ นอาหาร ช่วย
ระบายอยา่ งอ่อน ๆ ท้งั น้ีเพื่อหลีกเลี่ยงการเกิดอาการทอ้ งผกู ของแมส่ ุกรช่วงน้ีผูเ้ ล้ียงอาจเพิ่มอาหารที่มีเย่อื
ใยสูงลงในอาหารแมส่ ุกรได้ ราขา้ ว หรือจะใหห้ ญา้ สด เช่น หญา้ ขนกไ็ ด้

คคคการดแู ลแม่สุกรระหว่างคลอด

คคคคคคคการจดั เตรียมวสั ดุรองพ้นื สาหรับลูกสุกร ควรจดั เตรียมไวล้ ว่ งหนา้ ก่อนแมส่ ุกรจะคลอดหน่ึงวนั
หรือสองวนั วสั ดุที่รองพ้ืนที่ควรจดั เตรียมไว้ ไดแ้ ก่ ฟางขา้ ว หญา้ แห้ง หรือกระสอบท่ีสะอาดและแห้ง
วสั ดุรองพ้ืนช่วยป้องกนั ขาและเตา้ นมของลูกสุกร ที่เพ่ิงคลอดไม่ให้ไดร้ ับอนั ตรายจากพ้ืนคอกที่หยาบ
แขง็ และยงั ช่วยใหค้ วามอบอนุ่ แก่ลูกสุกรอีกดว้ ย (วาทิตต,์ 2557)
คคคคคคคการจดั เตรียมเครื่องมือเครื่องใชใ้ นการปฐมพยาบาลลูกสุกรที่คลอดออกมา เคร่ืองมือเคร่ืองใชท้ ี่
ตอ้ งเตรียมไวร้ ะหวา่ งสุกรกาลงั คลอด มีดงั น้ี
คคคคคคคคคคคผา้ แหง้ ที่สะอาด 2-3 ผนื สาหรับเชด็ ตวั ลกู สุกรท่ีคลอดออกมาใหม่ ๆ
คคคคคคคคคคคคมี สาหรับตดั เข้ยี วและหางลูกสุกร
คคคคคคคคคคคดา้ ยผกู สายสะดือ
คคคคคคคการใหอ้ าหารแม่สุกร ถา้ เป็นไปไดช้ ่วงก่อนคลอด 12 ชว่ั โมง และหลงั คลอด 12 ชว่ั โมง ไมต่ อ้ ง
ใหอ้ าหารเลย นอกจากน้าสะอาดอยา่ งเดียว
คคคคคคคการช่วยเหลือลูกสุกร เมื่อคลอด ลูกสุกรเมื่อคลอดออกมาใหม่ ๆ ควรจะช่วยทาความสะอาด
เชด็ ร่างกายลูกสุกรให้แหง้ ดว้ ยผา้ ท่ีสะอาด เอาเยอื่ บาง ๆ ท่ีห่อหุม้ ตวั ลกู สุกรออก โดยเฉพาะเย่อื ที่หุ้มส่วน
จมูกและปาก ควรเช็ด และลว้ งเสมหะออกจากปากเสียก่อนโดยเร็ว หลงั คลอดไม่ควรขงั ลูกสุกรไว้ ควร
ปล่อยให้กินนมไดเ้ ลย น้านมแม่เม่ือแรกคลอดน้ี มีประโยชน์ต่อลูกสุกรมาก และจะมีอยเู่ พียง 2-3 วนั หลงั
คลอดเทา่ น้นั

คคคการเลยี้ งดูแม่สุกรระหว่างการให้นม

คคคคคคคควรให้อาหารเดิมแก่แม่สุกร(อาหารท่ีให้แม่สุกรตอนใกลค้ ลอด) ภายหลงั ตลอดต่อไปอีก
ประมาณ 3-5 วนั จึงคอ่ ยเปล่ียนเป็นอาหารสูตรใหม่ (วาทิตต,์ 2557)
คคคคคคคอาหารสูตรใหม่ท่ีใหแ้ ก่แม่สุกรระหวา่ งการใหน้ ้านม ควรมีโปรตีนและพลงั งาน ไมน่ อ้ ยกวา่ ใน
อาหารสาหรับแมส่ ุกรระหวา่ งการอมุ้ ทอ้ ง ท้งั น้ีเพอ่ื ช่วยในการผลิตน้านม
คคคคคคคการให้อาหารควรเริ่มให้แต่น้อย วนั ถดั ไปค่อยเพ่ิมจานวนอาหารที่ให้กินมากข้ึนไปเรื่อย ๆ
เทา่ ท่ีแมส่ ุกรจะสามารถกินได้ เช่น แมส่ ุกรมีลูก 10 ตวั อาหารที่ใหแ้ มส่ ุกรกินเตม็ ท่ีประมาณ 5 กิโลกรัม

6

คคคคคคคการเพิ่มอาหารให้แม่สุกรกินเร็วเกินไป อาจทาให้ลูกสุกรเกิดข้ีขาวได้ ถา้ เกิดกรณีเช่นน้ีผูเ้ ล้ียง
ควรลดจานวนอาหารที่ใหแ้ ม่สุกรลง

คคคการเลยี้ งและการดูแลลกู สุกรหลงั คลอด

คคคคคคควิษณุ, (2551)ไดร้ ายงานการเล้ียงและการดูแลลูกสุกร ต้งั แต่หลงั คลอด ไปจนถึงหย่านมนบั ได้
วา่ เป็นช่วงท่ีมีความยงุ่ ยากมากกวา่ ช่วงอ่ืน ๆ เป็นช่วงท่ีมีการสูญเสียลกู สุกรมากท่ีสุด โดยเฉลี่ยประมาณ 2
ตวั ตอ่ คอก ซ่ึงอาจเกิดเนื่องจากถกู แม่ทบั ตาย ทอ้ งร่วงอยา่ งแรง อดอาหาร โลหิตจาง และเสียเลือดมากทาง
สายสะดือเม่ือคลอด อยา่ งไรกต็ ามการสูญเสียลกู สุกรในช่วงน้ี ส่วนใหญเ่ นื่องมาจากการดูแลไม่ดีมากกวา่
สาเหตุอื่น ๆ ดงั น้นั เพ่อื ลดการสูญเสียลกู สุกรในช่วงน้ี ผเู้ ล้ียงควรเตรียมการดูแลสุกร ดงั น้ี
คคคคคคคการใหค้ วามอบอุ่น
คคคคคคคคคคคสุกรที่มีอายุต่ากว่า 3 วนั กลไกที่ควบคุมอุณหภูมิภายในร่างกายยงั ไม่ทางาน จึงไม่
สามารถปรับตวั ใหเ้ ขา้ กบั ความผนั แปรของอุณหภูมิภายนอกได้ ลูกสุกรแรกเกิดที่ถกู ความหนาวเยน็ มาก ๆ
หรือเป็นเวลานาน ๆ อณุ หภมู ิของร่างกายจะลดลง จะเป็นผลใหล้ กู สุกรตวั น้นั ตายได้
คคคคคคคการป้องกนั ลมโกรก
คคคคคคคคคคคไม่ควรปล่อยใหล้ ูกสุกรถูกลมโกรก เช่น ให้ลูกสุกรอยู่ในคอกที่โปร่งมาก หรือมีพ้ืนไม้
ระแนง เพราะจะทาใหล้ ูกสุกรเจ็บป่ วยไดง้ า่ ย บริเวณสาหรับลูกสุกรแรกคลอดหลบั นอน ควรมีที่กาบงั ลม
ไวป้ ระมาณ 3-5 วนั จะช่วยให้ลูกหมูไม่ถูกลมโกรกมากนกั อย่างไรก็ตาม คอกลูกสุกรก็ไม่ควรปิ ดทึบ
เพราะจะทาใหอ้ ากาศถ่ายเทไม่สะดวก เวลาคอกเปี ยกช้ืนจะแห้งยาก ทาให้เกิดเช้ือโรค ลูกสุกรจะเจ็บป่ วย
ไดง้ ่ายเช่นกนั
คคคคคคคการรักษาความสะอาดคอก
คคคคคคคคคคคคอกที่ใช้เล้ียงลูกสุกรควรทาความสะอาดอยู่เป็ นประจา พ้ืนคอกตลอดจนบริเวณท่ีลูก
สุกรนอน ควรจะแห้งและสะอาดอยู่เสมอ ถา้ จาเป็ นท่ีจะตอ้ งลา้ งทาความสะอาด เนื่องจากคอกสกปรก
ควรขงั ลูกสุกรเอาไวก้ ่อน อยา่ ปลอ่ ยออกมาใหต้ วั เปี ยกน้า ลูกสุกรอาจจะหนาวส่ัน และเจ็บป่ วยได้ เม่ือเห็น
วา่ คอกแหง้ พอสมควรดีแลว้ จึงปล่อยลูกสุกรตามเดิม
คคคคคคคการตดั สายสะดือ
คคคคคคคคคคคก่อนอ่ืนควรมดั สายสะดือ เพ่ือป้องกนั เลือดออกหลงั ตดั ควรตดั ให้เหลือสายสะดือยาว
ประมาณ 3-4 เซนติเมตร เมื่อลูกสุกรยืนข้ึนสายสะดือจะไดไ้ ม่ติดพ้ืนคอกจากน้ันเช็ดแผลที่ตดั แลว้ ด้วย
ทิงเจอร์ไอโดดีน สายสะดือเป็นสาคญั ท่ีเช้ือโรคจะเขา้ สู่ตวั ลกู สุกรได้ การเจบ็ ป่ วย เช่น ลูกสุกรขาเจ็บหรือ
ตาย อาจจะมาจากการละเลยการปฏิบตั ิติดงั กล่าว

7

คคคคคคคการตดั ฟันและการตดั หาง
คคคคคคคคคคคควรตดั ภายหลงั ที่ลูกสุกรคลอดไดม้ าเกิน 24 ชว่ั โมง การตดั ฟันและหางน้ี ควรทาพร้อม
กนั ท้งั น้ีเพ่ือหลีกเล่ียงการจบั ตอ้ งลกู สุกรหลายๆ คร้ัง
คคคคคคคการตดั หาง
คคคคคคคคคคคปัญหาเร่ืองลกู สุกรกดั หางกนั มกั จะเน่ืองมาจากการเล้ียงลูกสุกรแบบขงั คอก และเล้ียงไว้
คอกละจานวนมาก ผูเ้ ล้ียงอาจจะตดั หางลกู สุกรทิ้งเสียต้งั แต่ยงั เลก็ ได้ ควรตดั ใหเ้ หลือ เพียง ¼ นิ้ว ไม่ควร
ทากบั สุกรที่โตแลว้ ในกรณีที่เกิดปัญหาการกดั หางกนั ก็สามารถแกไ้ ขโดยการผกู โซ่หรือยาง ห้อยไวใ้ น
คอก เพือ่ ใหห้ มูไดก้ ดั เล่น
คคคคคคคการป้องกนั โรคโลหิตจาง
คคคคคคคคคคคโรคโลหิตจางในลูกสุกรมกั เกิดจากการขาดธาตุเหลก็ ท้งั น้ี เพราะลูกสุกรมีความตอ้ งการ
ธาตุเหล็กมากเกินกว่าที่ไดร้ ับจากน้านมแม่ เน่ืองจากลูกสุกรมีการเจริญเติบโตท่ีรวดเร็ว และธาตุเหล็กท่ี
เก็บสารองในตวั ลูกสุกรที่เกิดใหม่ มีอยจู่ านวนนอ้ ย เพ่ือป้องกนั โรคน้ีผูเ้ ล้ียงควรฉีดธาตุเหลก็ ใหล้ ูกสุกร
ประมาณ 2 คร้ัง คร้ังแรกเม่ือลูกสุกรอายไุ ด้ 3 วนั คร้ังถดั ไปเมื่อลกู สุกรมีอายไุ ด้ 2-3 สปั ดาห์
คคคคคคคการตอนลูกสุกรตวั ผู้
คคคคคคคคคคคลูกสุกรตวั ผูท้ ี่ไม่เก็บไวท้ าพนั ธุ์จะตอนเม่ืออายุเท่าใดก็ได้ แต่ท่ีเหมาะคือ เมื่ออายุได้ 2
หรือ 3 สัปดาห์ ในช่วงน้ีอนั ตรายจากการตอนมีนอ้ ยกว่าช่วงท่ีลูกสุกรโตแลว้ เพราะจบั ลูกสุกรไดง้ ่ายกว่า
และแผลก็จะหายเร็วกวา่ ดว้ ย
คคคคคคคการหดั ใหก้ ินอาหารแหง้
คคคคคคคคคคคก่อนลูกสุกรหยา่ นมอยา่ งสมบูรณ์ เมื่อลูกสุกรมีอายุได้ 1 หรือ 2 สัปดาห์ ควรหัดให้กิน
อาหารบา้ ง ลูกสุกรท่ีเคยให้กินอาหารต้งั แต่เล็ก โดยทวั่ ไปเมื่อหย่านม จะเรียนรู้การกินอาหารไดเ้ ร็วกว่า
พวกท่ีไมเ่ คยหดั เลย

คคคการเจริญเติบโตก่อนหย่านม

คคคคคคคการเจริญเติบโตก่อนหยา่ นมส่วนใหญจ่ ะเป็นลูกสุกรตวั เมียจะมีน้าหนกั สูงกวา่ ลูกสุกรตวั ผู้
เพราะ น้าหนกั แรกเกิดส่วนใหญต่ วั เมียจะมีน้าหนกั มากกวา่ ทาใหแ้ ขง็ แรกกวา่ มีความสามารถในการแยง่
ชิงเตา้ นม ของแม่ และลกู สุกรตวั ผใู้ นการเล้ียงสุกรเพื่อนาไปขนุ จะตอ้ งมีการตอนจึงทาใหล้ ูกสุกรตวั ผกู้ ิน
น้านมไดน้ อ้ ยลง ในช่วงเวลาวนั แรก ๆ ท่ีไดต้ อนน้ีเป็นสาเหตุที่ใหน้ ้าหนกั หยา่ นมของลูกสุกรเพศเมียมี
น้าหนกั สูงกวา่ ท่ีสถิติ จากสาเหตทุ ่ีกล่าวมาส่งผลใหน้ ้าหนกั หลงั หยา่ นมมีน้าหนกั ตามเกณฑเ์ พื่อส่งขาย
หรือเล้ียงสุกรขนุ ได้ อยา่ งมีประสิทธิภาพเป็นไปตามเกณฑท์ ่ีกาหนด (Patience et al., 2001)

8

คคคการเลยี้ งดสู ุกรหลงั หย่านม

คคคคคคควิษณุ,(2551) ไดร้ ายงานการหยา่ นมลูกสุกรจะเร็วหรือชา้ น้นั นอกจากจะข้นึ อยกู่ บั ความสมบูรณ์
ของลูกสุกรแลว้ ยงั ข้ึนอยูก่ บั ความสามารถของผเู้ ล้ียง และคุณภาพของอาหารที่ใชเ้ ล้ียงลูกสุกรดว้ ยผเู้ ล้ียง
สุกรในบ้านเรานิยมหย่านมลูกสุกรท่ีอายุระหว่าง 3-6 สัปดาห์ ลูกสุกรที่หย่านมเม่ืออายุยงั น้อย หรือ
น้าหนักตวั นอ้ ย มกั จะอ่อนแอถา้ การเล้ียงดูไม่ดีพอ อาจทาให้ลูกสุกรแคระแกร็นหรืออาจถึงตายได้ การ
เล้ียงดูลูกสุกรในระยะน้ีจึงปฏิบตั ิดงั น้ี
คคคคคคคการหยา่ นมลกู สุกร
คคคคคคคคคคคใหถ้ ือน้าหนกั เป็นเกณฑ์ ลูกสุกรควรมีน้าหนกั ไม่ต่ากว่า 5 กิโลกรัมเมื่อหย่านม และไม่
ควรขงั ลูกสุกรท่ีมีขนาดและน้าหนกั ไล่เลี่ยกนั เกินกวา่ 20 ตวั ไวใ้ นคอกเดียวกนั (ข้ึนอยกู่ บั ขนาดของคอก
ดว้ ย) เน่ืองจากคอกจะสกปรกมาก และบางตวั ก็กินอาหารไม่ทนั ตวั อ่ืนๆ
คคคคคคคการรักษาความสะอาด
คคคคคคคคคคคเนื่องจากลูกสุกรในช่วงน้ีเป็นโรคไดง้ ่าย ความสะอาดจึงเป็นสิ่งสาคญั ที่ไม่ควรระวงั ให้
มาก รางอาหาร รางน้า ตลอดจนคอกสุกรตอ้ งสะอาดอย่เู สมอ พ้ืนคอกไม่ควรปล่อยให้เปี ยกแฉะ ดงั น้ัน
คอกตอ้ งมีการถา่ ยเทอากาศไดด้ ี แต่ตอ้ งไม่โกรกตวั ลูกสุกรมากนกั
คคคคคคคการใหอ้ าหารและน้า
คคคคคคคคคคคควรให้อาหาร ลกู สุกรบอ่ ยๆ คร้ังละนอ้ ยๆ จะช่วยใหล้ ูกสุกรกินอาหารไดม้ ากข้ึน อาหาร
ที่เปี ยก เหม็นอบั ควรทิ้งไป น้าสะอาดตอ้ งมีให้ลูกสุกรไดก้ ินตลอดเวลาการขาดน้า จะทาให้ลูกสุกรกิน
อาหารนอ้ ยลง หรือไม่กินอาหารเลย
คคคคคคคการถ่ายพยาธิ
คคคคคคคคคคคหลงั จากลกู สุกรหยา่ นมไดร้ าว 2-3 สัปดาห์ ควรใหล้ กู สุกรกินยาถา่ ยพยาธิ ลูกสุกรท่ีพบวา่
มีพยาธิควรถา่ ยซ้าอีกคร้ัง
คคคคคคคการฉีดวคั ซีน
คคคคคคคคคคคหลงั จากลูกสุกรหยา่ นมแลว้ ราว 3-4 สัปดาหข์ ้นึ ไป ผเู้ ล้ียงสามารถฉีดวคั ซีนใหก้ บั ลกู สุกร
ได้ ท้งั น้ีข้นึ อยกู่ บั ความสมบูรณ์ของลกู สุกร และควรฉีดวคั ซีนกบั ลกู สุกรท่ีสมบรู ณ์เทา่ น้นั ลูกสุกรหลงั ฉีด
วคั ซีนแลว้ ควรตอนก่อนการฉีดวคั ซีนอยา่ งนอ้ ย ไม่ต่ากว่า 10 วนั หรือหลงั การฉีดวคั ซีนประมาณสัก 1
เดือน

9

คคคการจัดการน้าหนกั แรกเกดิ ของลกู สุกร

คคคคคคคVaclavkova et al.,(2012) รายงานเก่ียวกบั อิทธิพลของน้าหนักแรกเกิดท่ีมีต่อการเจริญเติบโต
ของลูกสุกร พบว่าลูกสุกรท่ีมีน้าหนกั แรกเกิดนอ้ ยจะมีการเจริญเติบโตต่ากว่าลูกสุกรท่ีมีน้าหนกั แรกเกิด
สูง นอกจากน้ีลูกสุกรท่ีมีน้าหนกั แรกเกิดนอ้ ยจะเสียเปรียบลกู สุกรท่ีมีขนาดใหญก่ วา่ เพราะสัดส่วนพ้ืนที่
ผิวของร่างกายเมื่อเทียบกบั น้าหนกั ตวั จะมากกวา่ จึงทาใหม้ ีการสูญเสียความร้อนไดม้ ากกว่า และจะตาย
ดว้ ย ความหนาวเยน็ ไดง้ ่าย ลูกสุกรที่มีขนาดเลก็ เม่ือแรกคลอดจะมีพลงั งานสะสมในร่างกายนอ้ ย ซ่ึงจะทา
ให้ ลูกสุกรปรับตวั เขากบั สภาพอากาศที่อุณหภูมิต่ากวา่ ระดบั เหมาะสมไดไ้ มด่ ี สิ่งที่จะเกิดข้ึนตามมาอีกก็
คือ ลูกสุกรที่มีน้าหนกั แรกเกิดนอ้ ย จะเสียเปรียบพวกมีน้าหนกั แรกเกิดมากเมื่อตอ้ งต่อสู้แยง่ ชิงเตา้ นม ใน
ชวั่ โมงการใหน้ ม แม่จะนอนให้นมเป็นเวลาเพียงไม่นาน ด้งั น้นั จึงเป็นการยากสาหรับลูกท่ีตวั เล็กจะแย่ง
ชิงเตา้ นมได้ จากสาเหตุเหลา่ น้ีจึงทาใหล้ กู สุกรที่น้าหนกั แรกเกิดนอ้ ยส่งผลใหไ้ ดร้ ับสารอาหารจากแม่นอ้ ย
และภูมิคุม้ กนั ท่ีนอ้ ยทาใหน้ ้าหนกั หยา่ นมนอ้ ยตาม

งานวจิ ัยทเ่ี กยี่ วข้องกบั สาบเสือ
คคคสาบเสือ

คคคคคคคสาบเสือเป็นวชั พืชชนิดหน่ึงท่ีพบกระจายอยใู่ นทุกภาคของประเทศไทย มีช่ือวิทยาศาสตร์ คือ
Eupatorium odoratum Linn. ช่ือวงศ์ compositae ชื่อท่ีเรียกในประเทศไทยได้แก่ ฝรั่งเหาะ ฝร่ังรุกที่
(สุพรรณบุรี) ผดั คราด บ้านร้าง (ราชบุรี) หญา้ ดงร้ัง หญา้ พระสิริไอสวรรค์ (สระบุรี) หญ้าดอกขาว
(สุโขทยั ระนอง) หญา้ เลาฮา้ ง (ขอนแก่น) สะพงั (เลย) มงุ้ กระตา่ ย (อุดรธานี) หญา้ ลืมเมือง (หนองคาย)มน
ทน (เพชรบรู ณ์) เบญจมาศ (ตราด), หมาหลง (ชลบรุ ี-ศรีราชา) พายพั พาท้งั หญา้ เมืองวาย นองเสง้ เปรง เซ
โพกวย ซิพูก่ยุ (เชียงใหม่) ชีโพแกวะ่ เชโพแกวะ่ (แมฮ่ ่องสอน) ราเคย (ระนอง) ยส่ี ุ่นเถ่ือน (สุราษฎร์ธานี)
(นนั ทวนั และอรนุช, 2543)

คคคลกั ษณะทางพฤกษาศาสตร์

คคคคคคคตน้ สาบเสือ จดั เป็ นวชั พืชท่ีมีถ่ินกาเนิดในแถบอเมริกากลาง โดยมีเขตแพร่กระจายต้งั แต่ทาง
ตอนใตข้ องรัฐฟลอริดาไปจนถึงทางตอนเหนือของประเทศอาร์เจนตินา และระบาดทวั่ ไปในเขตร้อนทวั่
ทุกทวีป (ยกเวน้ การระบาดเขา้ ไปในทวีปออสเตรเลีย ซ่ึงจะพบไดเ้ พียงเลก็ นอ้ ยเท่าน้นั ในช่วง 10 ปี ที่ผา่ น
มา) โดยจดั เป็นพรรณไมล้ ม้ ลุก เป็นพืชท่ีแตกกิ่งกา้ นสาขามากจนเหมือนทรงพุ่ม กิ่งกา้ นและลาตน้ จะปก
คลุมไปดว้ ยขนนุ่มออ่ น ๆ มีลาตน้ สูงประมาณ 1-2 เมตร (สกนธ์, 2559)

10

คคคคคคคใบเป็นใบเด่ียวออกจากลาตน้ ท่ีขอ้ แบบตรงกนั ขา้ ม ใบมีสีเขียวออ่ น ลกั ษณะของใบคลา้ ยรูปรี
ทรงรูปสามเหล่ียม ปลายใบแหลม ฐานใบกวา้ ง ใบเรียวสอบเขา้ หากนั มีขอบใบหยกั ที่ใบเห็นเส้นชดั เจน
3 เสน้ ผิวใบท้งั สองดา้ นมีขนอ่อนปกคลมุ ใบและกา้ นเม่ือนามาขย้จี ะมีกลิ่นแรงคลา้ ยกล่ินสาบเสือ
(สกนธ์, 2559) ดงั ภาพท่ี 1

ภาพท่ี 1 ตน้ และใบสาบเสือ
ที่มา: สกนธ์ รัตนโกศล (2559)
คคคคคคคดอก ออกเป็นช่อ มีสีขาวหรือสีฟ้าอมม่วง มีดอกยอ่ ยประมาณ 10-35 ดอก โดยดอกวงนอกจะ
บานก่อนดอกวงใน ท่ีกลีบดอกหลอมรวมกนั เป็นหลอด (สกนธ์, 2559)
คคคคคคคผล เป็นผลขนาดเลก็ มีรูปร่างคลา้ ยรูปหา้ เหลี่ยม มีสีน้าตาลหรือสีดา มีหนามแขง็ บนเสน้ ของผล
ท่ีปลายผลมีขนสีขาว ช่วยพยงุ ใหผ้ ลและเมลด็ สามารถปลิวตามลมได้ (สกนธ์, 2559) ดงั ภาพท่ี 2

ภาพที่ 2 ดอกและผลสาบเสือ
ที่มา: สกนธ์ รัตนโกศล (2559)

11

คคคองค์ประกอบทางเคมขี องสาบเสือ

คคคคคคคPisutthanan et al., (2005)ไดท้ าการศึกษาองคป์ ระกอบทางเคมีและฤทธ์ิทางชีวภาพของสาบเสือ
โดยการตรวจสอบฤทธ์ิทางชีวภาพของสารสกดั จากตน้ สาบเสือ พบว่าสารสกดั หยาบ ท่ีละลายในตวั ทา
ละลายไดคลอโรมีเทนของส่วนใตด้ ินของตน้ สาบเสือมีฤทธ์ิฆ่าปรสิตที่ก่อใหเ้ กิดโรคมาลาเลีย ในขณะที่
สารสกดั หยาบจากส่วนเน้ือดินท่ีละลายในตวั ทาละลายชนิดเดียวกนั มีฤทธ์ิฆ่าเช้ือไวรัสก่อโรคเริมที่ปาก
เม่ือทาการแยกสารสกดั จากการสกดั ส่วนเหนือดินที่มีฤทธ์ิฆ่าเช้ือไวรัสก่อโรคเริมพบว่าสามารถแยกสาร
สกดั กลุ่มฟลาโวนอยด์ชนิดใหม่ได้ 1 ชนิด คือ 5,7-dihydroxy-6,4´-dimethoxyflavanone และสารอ่ืนใน
กลุ่มเดียวกนั อีก 14 ชนิดโดยในจานวนน้ีพบว่าสารที่แยกไดใ้ นจานวน 6 ชนิดเป็นสารท่ีพบเป็ นคร้ังแรก
ในพืชชนิดน้ีได้แก่5-hydroxy-7,4´-dimethoxyflavone,5-hydroxy-6,7,4´-trimethoxyflavanone, 5,7,3’,4’-
trimethoxyflavanone,3,5,4’-trihydroxy-7-methoxyflavanone,5,7,3’-trihydroxy-5’-methoxyflavanone
และ 3,5,7-trihydroxy-4’- methoxyflavanone

คคคคุณสมบัตขิ องสาบเสือ

คคคคคคคสรรพคุณของสาบเสือเป็นสมุนไพรที่ใชใ้ นการหา้ มเลือดมาต้งั แต่สมยั โบราณ โดยใชใ้ บสดขย้ี
ปิ ดปากแผล ใบรักษาแผลสด สมานแผล แกอ้ กั เสบ ห้ามเลือด ลาตน้ แกบ้ วม ดูดหนอง ใบตาผสมกบั ปูน
พอกหา้ มเลือด ตาปิ ดแผลเป็นยาสมานแผล ตา้ นเช้ือแบคทีเรีย ตา้ นเช้ือมยั โคแบคทีเรีย ตา้ นเช้ือรา รบกวน
การกินของแมลงไลแ่ มลงฆ่าตวั อ่อนของแมลงหา้ มเลือดกระตนุ้ การแขง็ ตวั ของเลือด ทาใหห้ ลอดเลือดหด
ตวั กระตุน้ กลา้ มเน้ือเรียบหดเกร็งจบั กบั อนุมลู อิสระลดการอกั เสบ (นนั ทวนั และอรนุช, 2543)

คคคฤทธ์ิทางเภสัชวทิ ยาสาบเสือ

คคคคคคคสรรพคุณของใบสาบเสือวา่ มีฤทธ์ิทางเภสัชวิทยา โดยทาใหเ้ ลือดหยุดไหล สมานแผล ตา้ นการ
อกั เสบ ตา้ นเช้ือจุลชีพ ช่วยใน การห้ามเลือด รักษาแผลสด แผลเป่ื อย แกอ้ กั เสบ และแกร้ ิดสีดวงทวาร ใบ
สาบเสือแบบสดและแบบแห้งสามารถหา้ มเลือดในผปู้ ่ วยที่มีบาดแผลฉีกขาดของ เน้ือเย่อื และหลอดเลือด
ฝอยได้เร็วกว่าการใช้ผา้ กอซอย่างเดียวประมาณ 10-15 นาที ท้งั น้ีข้ึนอยู่กับขนาดและความลึก ของ
บาดแผล โดยนาใบสดมาลา้ งให้สะอาด จากน้ันนามาขย้ี หรือโขลกให้ละเอียดแลว้ พอกที่แผลสดทนั ที
เน่ืองจากใบของสาบเสือมีส่วนประกอบของน้ามนั หอมระเหย เทอร์พีนสเตียรอยด์ คูมาริน และฟลาโว
นอยดห์ ลายชนิด สาระสาคญั เหล่าน้ีจะไป ออกฤทธ์ิที่ผนงั เส้นเลือดทาให้เส้นเลือดหดตวั และกระตุน้ สาร
ท่ีทาให้เลือดแข็งตวั ได้เร็วข้ึน นอกจากน้ียงั มีแคลเซียมท่ีช่วยให้เลือดหยุดไหลอีกดว้ ย ล่าสุดสานักงาน
ขอ้ มูลสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล ไดท้ าการวิจยั พบว่า ใบสาบเสือมีฤทธ์ิตา้ นการ
อกั เสบ ช่วยลดน้าตาลในเลือด และป้องกนั การเกิดตอ้ กระจกซ่ึงเป็นอาการแทรกซอ้ นที่อาจจะเกิดข้ึนจาก
โรคเบาหวานได้ (มรุธชั , 2557)

12

คคคกลไกลการเกดิ ประโยชน์ต่อการป้องกนั และรักษา

คคคคคคคสารสกัดจากใบมีฤทธ์ิต้านเช้ือ psaudornonas aeruginosa และ staphylococcus faecalis

(lrobi,1997) สารสกัดจากก่ิงและใบด้วยคลอโรฟอร์มและอะซิโตน มีผลยบั ย้งั การเจริญเติบโตของเช้ือ
แบคทีเรีย staphylococcus aureus และbacillus subtilis (ภาควิชาพฤกษศาสตร์, 2538) อ้างโดย จรูญ
(2549)ไดก้ ล่าวว่า สารสกดั จากก่ิงและใบดว้ ยคลอโรฟอร์มและอะซิโตนสามารถยบั ย้งั การเจริญเติบโต
ของ staphylococcus aureus , bacillus subtilis และ Escherichia coli (จรูญ, 2549) ได้กล่าวว่า สารสกัด
ดว้ ย ethanol สามารยบั ย้งั การเจริญเติบโตของ bacillus subtilis และ Escherichia coli สารสกดั ที่ละลายตวั
ทาละลายไดคลอโรมีเทนมีฤทธ์ิฆ่าเช้ือไวรัสก่อโรคเริมที่ปากนอกจากน้ีน้ามนั หอมระเหยท่ีสกดั ไดจ้ ากใบ
สามารถยบั ย้งั การเจริญเติบโตของ staphylococcus aureus และ Escherichia coli

คคคคคคคTriratana et al., (1991) กล่าวว่าสาบเสือช่วยในการห้ามเลือดทาให้เลือดหยุดไหลเร็วข้ึน

สามารถลดระยะเวลาการไหลของเลือด ลดระยะเวลาของการแขง็ ตวั ของเลือดจากการทดลองใชส้ ารสกดั
ใบสาบเสือดว้ ยน้าในรูปของแห้งความเขม้ ขน้ ร้อยละ 2.55 และ6.5W/V กระตุน้ การแข็งตวั ของเลือดคน
ปกติพบว่าสารสกดั สามเสือทุกความเขม้ ขน้ สามารถทาให้ความหนืดของเลือดเพิ่มข้ึนถา้ ความหนืด ของ
เลือดเพิ่มข้ึนเร็วจะทาให้ระยะเวลาท่ีใช้ในการแข็งตวั ของเลือดส้ันลง (ประดิษฐ์ และรุ่งเกียรติ, 2540)
สอดคลอ้ งกบั การศึกษาของ (ภูษิต และคณะ, 2528) ใชใ้ บสาบเสือขย้ปี ิ ดปากแผลของหนู ท่ีถูกกรีดฝ่ าเทา้
พบว่า สาบเสือสามารถลดระยะเวลาต้งั แต่เลือดไหลถึงเลือดหยุดไหล blooding time และในขบวนการ
coagulation เสือทาใหข้ า้ ระยะเวลาการแขง็ ตวั ของเลือด (prothombin time) ลดลงทาให้ plasma แขง็ ตวั ได้
แคลเซียมในใบสาบเสือมีผลต่อการห้ามเลือดโดยของเหลวท่ีสกดั จากใบมีผลต่อ hepatotropic สามารถ
ยบั ย้งั hydrated collagen lattice contraction จาก normal human dermal fibroblasts ในประเทศเวียดนามมี
การใชข้ องเหลวที่สกดั จากใบสาบเสือเป็นข้ีผ้ึงในการรักษา บาดแผลของเหลวที่สกดั จากใบสาบเสือมีผล
ในการแข็งตัวของเลือดซ่ึ งช่วยเสริ มการเปล่ียนแปล งของเน้ื อเยื่อในกระบวนการสมานแผลเซ ล ล์
Fibroblasts และ endothelial (keratinocytes) มีบทบาทในการหายของบาดแผลเซลลท์ ้งั 2 ชนิดถูกใช้ใน
การศึกษาอิทธิพลของสารสาบเสือในห้องปฏิบัติการเสื่อมมีผลช่วยเร่งปฏิกิริ ยา activated partial
thrombopkstin time (APTT) ทาใหเ้ ลือดเกิดการแขง็ ตวั ไดเ้ ร็วข้ึน จากการคน้ ควา้ ส่วนใหญ่จะพบในมนุษย์
(Debashisha et al., 2010) ไดท้ าการศึกษาและให้ความสนใจในการผลิตยาเพ่ือรักษาอาการป่ วยของโรค
ต่างๆในประเทศท่ีกาลงั พฒั นาผูค้ นส่วนใหญ่มกั ป่ วยเป็ นโรคหอบ โรคโลหิตจาง โรคปอดอกั เสบ และ
โรคขาดสารอาหารในเดก็ ซ่ึงมีการรักษาทางกายภาพทางเคมีเพื่อทาใหป้ ระสิทธิภาพของการรักษาดีข้ึนได้
เล็งเห็นพืชสมุนไพรท่ีเป็ นภูมิปัญญาท้องถิ่นจึงนามาศึกษาในโรคโดยศึกษาสารสกัดจากสาบเสือ
Chromolaena odorata ท่ีสกดั ดว้ ย methanolic acid พบวา่ ประสิทธิภาพเทียบเท่ากบั การรักษาทางกายภาพ
และทางเคมี มีการพฒั นาการใช้สมุนไพรสาบเสือเพ่ือห้ามเลือดในรูปแบบแผ่นแปะเป็ นการศึกษาก่ึง

13

ทดลอง Quasi experimental research และสารวจ Survey research โดยมีวตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษากรรมวิธี
การสกดั สารสาคญั จากใบสาบเสือในแผน่ แปะพฒั นาสร้างสรรคร์ ูปแบบเภสัชภณั ฑส์ าหรับแผน่ แปะและ
ศึกษาความพึงพอใจต่อรูปเภสัชภณั ฑใ์ นการหา้ มเลือดและรักษาบาดแผลในกลุ่มตวั อยา่ งเพ่ือเป็นแนวทาง
ในการนาเภสัชภณั ฑท์ ่ีไดไ้ ปทดลองใชก้ บั บาดแผลจริงในมนุษยต์ ่อไปในอนาคตและเป็นแนวทางในการ
ศึกษาวิจยั และพฒั นารูปแบบแผ่นแปะให้ไดม้ าตรฐานต่อไป ใบสาบเสือ Chromolaena odorata Linn. ที่
บา้ นทาสะอาด ตาบล คาสร้างเท่ียง อาเภอ สามชยั จงั หวดั กาฬสินธุ์ โดยเก็บในช่วงเดือนพฤศจิกายน ซ่ึง
เป็ นช่วงท่ีสมุนไพรเจริญเติบโตได้เต็มที่ มีใบที่ไม่แก่และไม่อ่อนจนเกินไปหรือท่ีเรียกว่า ใบเพสลาด
นามาลา้ งทาความสะอาดและตากให้แหง้ ดว้ ยลมเป็นเวลา 3 วนั จากน้นั นามาเขา้ ตูอ้ บท่ีอุณหภูมิ 60 องศา
เซลเซียส เป็ นเวลา 30 นาที นาใบสาบเสือท่ีอบแลว้ ไปบดละเอียดด้วยโกร่งบด จากน้ันนาไปสกัด
สาระสาคญั ดว้ ยวิธีการหมกั โดนใชเ้ อทานอล ethanol 95% อตั ราส่วนเอทานอลต่อใบสาบเสือบดละเอียด
5:1 เป็นเวลา 12 ชว่ั โมงนาสาระสาคญั ที่ไดก้ กั เก็บในแผ่นแปะนาเภสัชภณั ฑใ์ นรูปแบบแผ่นแปะท่ีไดอ้ อก
สารวจความพึงพอใจโดยใชแ้ บบสอบถาม มีประชากรคือ นิสิตแพทยแ์ ผนไทยประยุกต์ช้นั ปี ท่ี1และ2
คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหาสารคามกล่มุ อย่างเป็นกลุ่มประชากรท้งั หมดคือนิสิตแพทยแ์ ผนไทย
ประยกุ ตช์ ้นั ปี ที่ 1และ 2 ทกุ คน จานวน 67 คนซ่ึงทกุ คนใหค้ วามร่วมมือในการตอบแบบสอบถามวิเคราะห์
ขอ้ มูลพ้นื ฐานโดยใชส้ ถิติร้อยละวิเคราะหข์ อ้ มลู ความพึงพอใจต่อแผน่ แปะสาบเสือห้ามเลือดโดยใช้ สถิติ
ค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานนิสิตแพทย์แผนไทยประยุกต์ ช้ันปี ท่ี1และ2 คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลยั มหาสารคามมีความพึงพอใจต่อแผ่นแปะสาบเสือหา้ มเลือด และสอดคลอ้ งกบั (อุไรพร และ
สาคร, 2551) ไดศ้ ึกษาการเตรียมแผนยาผสมสารสกดั จากใบสาบเสือที่เหมาะสาหรับการนาไปใช้ห้าม
เลือดและป้องกนั การติดเช้ือของบาดแผลในคนโดยนาผงสาบเสือ แห้งมาสกดั ดว้ ยน้าหรือ ethanol 95%
ลานาสารสกดั ไปทดสอบฤทธ์ิในการกระตุน้ การแขง็ ตวั ของเลือดยบั ย้งั การเจริญของเช้ือ Staphylococcus
aureus พบว่าสารสกัดด้วยน้าสามารถกระตุ้นการแข็งตัวของเลือดได้ท้ังทาง extrinsic และ intrinsic
pathway และมีฤทธ์ิดีกว่าสารสกัดดว้ ย ethanol 95% เมื่อนาแผ่นซับแผลและแผ่นไฮโดรเจลท่ีผสมสาร
สกดั ดว้ ยน้าของใบสาบเสือที่ความเขม้ ขน้ 20 และ 50mg/ml ตามลาดบั มาทดสอบฤทธ์ิกระตุน้ การแขง็ ตวั
ของเลือด พบวา่ แผน่ ยาท้งั สองชนิดสามารถลดเวลาการแขง็ ตวั ของเลือดในหลอดทดลองได้

14

วัตถุประสงค์ของการศึกษา

คคคคคคค เพื่อเปรียบเทียบการใชท้ ิงเจอร์ไอโอดีน กบั สารสกดั จากใบสาบเสือเพื่อดูระยะเวลาที่แผลหาย
บวม ระยะเวลาการเชื่อมติดของแผล ระยะเวลาการตกสะเกด็ ของแผล และระยะเวลาท่ีแผลหาย

อุปกรณ์และวิธีการศึกษา
อปุ กรณ์

คคคคคคค1 ไซลิงและเขม็ ฉีดยา
คคคคคคค2 ผา้ แหง้ ที่สะอาดสาหรับเชด็ ตวั ลกู สุกร
คคคคคคค3 กรรไกรตดั สายสะดือ
คคคคคคค4 ดา้ ยผกู สายสะดือ
คคคคคคค5 ปากกาเคมี
คคคคคคค6 ถาดใส่อุปกรณ์
คคคคคคค7 น้ายาฆา่ เช้ือ
คคคคคคค8 คีมตดั เข้ยี ว
คคคคคคค9 เขยี งไม้
คคคคคคค10 ครก
คคคคคคค11 มีด
คคคคคคค12 ผา้ ขาวบาง
คคคคคคค13 ขวดสเปรย์
คคคคคคค14 สาบเสือ
คคคคคคค15 ทิงเจอร์ไอโอดีน

15

วิธีการศึกษา

1. แผนการทดลอง
คคคคคคคใชแ้ ผนการทดลอง Z-Test เปรียบเทียบโดยใชแ้ บบรวมกล่มุ มี 2 ทรีตเมนท์ ทรีตเมนทล์ ะ 13 ซ้า
(ตวั ) ทรีตเมนทห์ ลงั การตดั สายสะดือลูกสุกร ไดแ้ ก่
คคคคคคคทรีตเมนทท์ ่ี 1 รักษาแผลสะดือดว้ ยสาบเสือ(เปรียบเทียบ)
คคคคคคคทรีตเมนทท์ ี่ 2 รักษาแผลสะดือดว้ ยทิงเจอร์ไอโอดีน

2. การเตรียมการทดลอง

คคค1. การเตรียมคอก
คคคคคคคคทาความความสะอาดพ้นื คอกและรางอาหารโดยการขดั และลา้ งดว้ ยน้าเปล่าใหส้ ะอาด และนา
ยาฆา่ เช้ือมาฉีดพ่นใหท้ วั่ บริเวณซองคลอด
คคค2. การเตรียมสตั วท์ ดลอง
คคคคคคคคทาความสะอาดแม่สุกรท่ีอมุ้ ทอ้ งนานประมาณ 114 วนั เมื่ออมุ้ ทอ้ งได้ 109 วนั ควรยา้ ยแม่สุกร
เหล่าน้ัน ไปยงั คอกคลอด อาบน้าดว้ ยสบู่ ใชแ้ ปรงที่มีขนแข็ง ถูให้ทว่ั บริเวณร่างกาย โดยเฉพาะตามพ้ืน
ทอ้ ง ลาตวั และบริเวณเตา้ นม วธิ ีน้ีจะกาจดั ไข่พยาธิ และสิ่งสกปรกท่ีติดมากบั ตวั แมส่ ุกรออกไป
คคค3. การจดั การและการเล้ียงสัตวท์ ดลอง
คคคคคคคคนาอาหารสัตวผ์ สมสาเร็จรูป ชนิดเมด็ สูตร396 โปรตีน16 % ใหแ้ ม่สุกร 2 คร้ังตอ่ วนั ช่วงเชา้
เวลา 06.00 น. และช่วงเยน็ 15.00 น.
คคค4. การเตรียมการสกดั น้าจากใบสาบเสือ
คคคคคคค4.1 เก็บและคดั เลือกใบสาบเสือท่ีสมบูรณ์ไม่เป็ นโรคโดยเก็บใบสาบเสือในสัดส่วนที่เท่ากนั
ระหวา่ งใบออ่ นและใบแก่
คคคคคคค4.2 นาใบสาบเสือมาลา้ งใหส้ ะอาดดว้ ยน้ายาฆ่าเช้ือ แลว้ ผ่งึ ลมทิ้งใหแ้ หง้
คคคคคคค4.3 ชง่ั น้าหนกั ใบสาบเสือ 100 กรัม
คคคคคคค4.4 นาใบสาบเสือมาหนั่ ขนาด 1 เซนติเมตร
คคคคคคค4.5 นาใบสาบเสือที่ห่ันแลว้ ตาดว้ ยครกหินจนละเอียดแลว้ สกดั น้าจากใบสาบเสือโดยใชผ้ า้ ขาว
บางเพอื่ แยกส่วนของเหลวและกากออกจากกนั
คคคคคคค4.6 นาน้าสกดั จากใบสาบเสือใส่ในขวดแลว้ นามาฉีดพน่ ใส่แผลสะดือลกู สุกร

16

3.วิธกี ารทดลอง
คคคคคคค3.1การจดั การลูกสุกรเมื่อคลอด ใชผ้ า้ ท่ีสะอาดเช็ดตวั ลูกสุกรให้แห้ง ควกั เอาน้าเมือกในปาก
และในจมกู ออก
คคคคคคค3.2 ก่อนทาการตดั สายสะดือลูกสุกรให้ทาการเช็คว่าสายสะดือมีความเหนียวพร้อมให้ตดั หรือ
ยงั ถ้าพร้อมให้นาลูกสุกรมาทาการตัดสายสะดือโดยใช้ด้ายผูกสายสะดือให้ห่างจากพ้ืนท้อง 10
เซนติเมตร แลว้ ตดั สายสะดือ
คคคคคคค3.3 เม่ือทาการตดั สายสะดือเสร็จแลว้ ใหน้ ายารักษาแผลตามที่กาหนดไวใ้ นขอ้ 1.1 ใช้ฉีดพน่ วนั
ละ 2 คร้ัง เชา้ -เยน็ จนกวา่ แผลจะหาย
4.การบนั ทึกข้อมูล
คคคคคคค4.1 การบวมของแผล โดยมีการบนั ทึกระยะเวลาการบวมของแผล(วนั ) หลงั จากการมดั สาย
สะดือ
คคคคคคค4.2 การเช่ือมติดของแผล โดยมีการบนั ทึกระยะเวลาการเชื่อมติดของแผล(วนั ) โดยพิจารณาจาก
วนั แรกของการตดั สายสะดือจนถึงวนั ท่ีแผลเช่ือมติดกนั ท้งั หมด
คคคคคคค4.3 การตกสะเก็ด โดยมีการบนั ทึกระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผล(วนั ) โดยเร่ิมนบั ต้งั แต่วนั ท่ี
บาดแผลเริ่มตกสะเก็ดจนถึงวนั ท่ีบาดแผลตกสะเก็ดหลุดออกจนหมด
คคคคคคค4.4 วนั ท่ีแผลหาย เกณฑ์ลกั ษณะของแผลท่ีหายสนิทคือ สะดือไม่มีการบวม ไม่มีการติดเช้ือ
ผิวหนงั เชื่อมติดสนิท

สารท่ีใช้ในการรักษาแผล

คคคคคคค1 ทิงเจอร์ ไอโอดีนท้งั หมด 15 มิลลิลิตร ใชเ้ ฉลี่ยตวั ละ 1 มิลลิลิตร
คคคคคคค2 น้าค้นั จากใบสาบเสือ 15 มิลลิลิตร ใชเ้ ฉล่ียตวั ละ 1 มิลลิลิตร

ขอบเขตของการศึกษา

คคคคคคคสถานท่ีทาการวิจัย คือ พ้ืนท่ีคอกสุกร สาขาสัตวศาสตร์ คณะเทคโนโลยีการเกษตร
มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลธญั บรุ ี

ระยะเวลาท่ีทดลอง

คคคคคคคเร่ิมทาการทดลอง วนั ท่ี 7 เมษายน พ.ศ. 2562 – 23 มิถุนายน พ.ศ. 2562

17

ผลการทดลองและวจิ ารณ์ผลการศึกษา

คคคคคคคผลจากการทดลองการใชส้ ารสกดั จากใบอ่อน ใบแก่ และใบรวม ของสาบเสือรักษาบาดแผล
จากการตดั สายสะดือลูกสุกรเปรียบเทียบกบั การรักษาท่ีใชโ้ ดยทวั่ ไปในฟาร์มสุกร คือ ทิงเจอร์ไอโอดีน
ลักษณะที่ใช้ในการบ่งช้ีถึงการหายของแผลหลงั การตัดสายสะดือลูกสุกรคือ จากการทดลองพบว่า
ระยะเวลาที่แผลหายบวมมีความแตกต่างทางสถิติ(P<0.05) เน่ืองจากทิงเจอร์ไอโอดีนมีค่าเฉล่ีย 1.86 และ
สาบเสือมีค่าเฉล่ีย 2.38 พบว่าระยะเวลาที่แผลหายบวมของทิงเจอร์ไอโอดีนมีการหายของแผลดีกว่า
สาบเสืออย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติ ซ่ึงไม่สอดคลอ้ งกบั (จรูญ, 2549) รายงานว่าการบวมของบาดแผลการ
บวมของบาดแผลหลงั การตอนเฉลี่ยของกลุ่มลูกสุกรที่ไดร้ ับทรีตเมนทเ์ ปรียบเทียบสารสกดั หยาบจากใบ
อ่อนของสาบเสือสารสกดั หยาบจากใบแก่ของสาบเสือและสารสกดั หยาบจากใบรวม (ใบอ่อน + ใบแก่)
เทา่ กบั 5.06 4.56 4.42 และ 4.44 วนั ตามลาดบั พบวา่ การบวมของบาดแผลหลงั การตอนเฉลี่ยของกลุ่มลูก
สุกรท่ีไดร้ ับทรีตเมนท์เปรียบเทียบคือใชย้ าทิงเจอร์ไอโอดีนที่บาดแผลหลงั การตอนมีระยะเวลาการบวม
ของบาดแผลสูงกว่ากล่มุ สุกรที่ไดร้ ับทรีตเมนทส์ ารสกดั หยาบจากใบอ่อนของสาบเสือสารสกดั หยาบจาก
ใบแก่ของสาบเสือและสารสกัดหยาบจากใบรวมอย่างมีนัยสาคญั ทางสถิติการเชื่อมติดของบาดแผล
ระยะเวลาการเช่ือมติดของแผลพบวา่ ระยะเวลาการเช่ือมติดไม่มีความแตกตา่ งทางสถิติ(P>0.05) เน่ืองจาก
ทิงเจอร์ไอโอดีนมีค่าเฉลี่ย 3.24 และสาบเสือมีค่าเฉล่ีย 3.10 พบว่าระยะเวลาการเชื่อมติดของแผลไม่มี
ความแตกตา่ งกนั ทางสถิติ ซ่ึงไม่สอดคลอ้ งกบั (จรูญ, 2549) รายงานการเช่ือมติดของบาดแผลการเชื่อมติด
ของบาดแผลหลงั การตอนเฉล่ียของกลมุ่ ลกู สุกรที่ไดร้ ับทรีตเมนทเ์ ปรียบเทียบสารสกดั หยาบจากใบอ่อน
ของสาบเสือสารสกดั หยาบจากใบแก่ของสาบเสือและสารสกดั หยาบจากใบรวมเท่ากบั 8.91 8.16 7.91
และ 7.94 วนั ตามลาดบั พบว่าการเช่ือมติดของบาดแผลหลงั การตอนเฉลี่ยของกลุ่มลูกสุกรท่ีไดร้ ับทรีต
เมนทเ์ ปรียบเทียบคือใชย้ าทิงเจอร์ไอโอดีนท่ีบาดแผลหลงั การตอนมีระยะเวลาการเช่ือมติดของบาดแผล
ช้ากว่ากลุ่มสุกรท่ีได้รับทรี ตเมนท์สารสกัดหยาบจากใบอ่อนของสาบเสือสารสกัดหยาบจากใบของ
สาบเสือและสารสกดั หยาบจากใบรวมอย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติ ระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผลพบวา่
ระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผลมีความแตกต่างทางสถิติ(P<0.05) เน่ืองจากทิงเจอร์ไอโอดีนมีค่าเฉลี่ย
3.51 และสาบเสือมีค่าเฉล่ีย 3.68 พบว่าระยะเวลาการตกสะเก็ดของทิงเจอร์ไอโอดีนมีการหายของแผล
ดีกวา่ สาบเสืออย่างมีนยั สาคญั ทางสถิติ ระยะเวลาการหายของแผลพบว่าระยะเวลาการหายของแผลไม่มี
ความแตกต่างทางสถิติ(P>0.05) เนื่องจากทิงเจอร์ไอโอดีนมีค่าเฉล่ีย 4.09 และสาบเสือมีค่าเฉล่ีย 4.08

18

พบว่าระยะเวลาการหายของแผลไม่มีความแตกต่างกันทางสถิติสอดคลอ้ งกบั (จรูญ, 2549) รายงานว่า
สาบเสือช่วยในการห้ามเลือดทาให้เลือดหยุดไหลเร็วข้ึนสามารถลดระยะเวลาการไหลของเลือดลด
ระยะเวลาของการแข็งตวั ของเลือดไดอ้ ย่างมีนยั สาคญั (ประดิษฐ์ และรุ่งเกียรติ2540) จากการทดลองใช้
สกดั จากใบสาบเสือดว้ ยน้าในรูปผงแหง้ ความเขม้ ขน้ 2.55% และ 6.5 W/V กระตุน้ การแขง็ ตวั ของเลือด
คนปกติพบวา่ สารสกดั สาบเสือทุกความเขม้ ขน้ สามารถทาให้ความหนืดของเลือดเพิ่มข้ึนอยา่ งมีนยั สาคญั
ทางสถิติ
ตารางที่ 1 ลกั ษณะการหายของแผลจาการตดั สายสะดือลกู สุกรที่ไดร้ ับยาทิงเจอร์ไอโอดีนและสารสกดั
จากใบสาบเสือ

ตวั ช้ีวดั ทิงเจอร์ไอโอดีน สาบเสือ zt

ระยะเวลาท่ีแผล n ̅ n ̅ t 0.05 0.01
หายบวม (วนั ) 40 1.86±0.70 43 2.38±0.18 4.6**
3.24±0.38
ระยะเวลาการ 40 43 3.10±0.63 1.23 ns
เช่ือมติดของแผล 3.51±0.37
(วนั ) 1.65 2.33
4.09±0.62 43 3.68±0.45 1.91*
ระยะเวลาการตก 40
สะเก็ดของแผล
(วนั )

ระยะเวลาการหาย 40 43 4.08±0.74 0.068 ns
ของแผล(วนั )

หมายเหตุ * significant

** Highly significant

19

สรุปผลการศึกษา

คคคคคคคสารสกดั จากใบสาบเสือ สามารถใชใ้ นการรักษาแผลสะดือของลูกสุกรไดเ้ ทียบเท่ากบั ทิงเจอร์
ไอโอดีน
คคคคคคค1.ระยะเวลาที่แผลหายบวม(วนั ) หลงั การตดั สายสะดือลูกสุกรดว้ ยทิงเจอร์ไอโอดีน มีระยะเวลา
การหายบวมของแผลไดผ้ ลท่ีดีกวา่ สาบเสือ
คคคคคคค2.ระยะเวลาการเช่ือมติดของแผล(วนั ) หลงั จากการตดั สายสะดือลูกสุกรดว้ ยทิงเจอร์ไอโอดีน
และสาบเสือ มีระยะเวลาการเช่ือมติดของแผลมีผลเทียบเทา่ กนั
คคคคคคค3.ระยะเวลาการตกสะเก็ดของแผล(วนั ) หลงั การตดั สายสะดือลูกสุกรดว้ ยทิงเจอร์ไอโอดีน มี
ระยะเวลาการตกสะเกด็ ของแผลไดผ้ ลท่ีดีกวา่ สาบเสือ
คคคคคคค4.ระยะเวลาการหายของแผล(วนั ) หลงั จากการตดั สายสะดือลูกสุกรดว้ ยทิงเจอร์ไอโอดีนและ
สาบเสือ มีระยะเวลาการเชื่อมติดของแผลมีผลเทียบเท่ากนั

ข้อเสนอแนะ

คคคคคคค1.จากการทดลองพบว่าสารสกดั หยาบของใบสาบเสือที่เหลือใชจ้ ากการแยกสารสกดั ควรจะมี
การนาสารสกดั หยาบท่ีเหลือไปใชป้ ระโยชนใ์ นการรักษาแผล
คคคคคคค2.ควรมีการคิดคน้ การเก็บรักษาคุณภาพของสารสกดั จากใบสาบเสือใหอ้ ยไู่ ดน้ านข้นึ
คคคคคคค3.ควรมีการพฒั นาผลิตภณั ฑ์สารสกัดจากใบสาบเสือให้มีความหลากหลายสะดวกต่อการ
นาไปใชง้ าน

20

เอกสารอ้างองิ

จรูญ สินทวกี ลุ . 2549. การใชส้ าบเสือรักษาบาดแผลตอนสุกร. คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
การเกษตร มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลลา้ นนา. ลาปาง. 1-55.

โชติ พ้นื ชมพู ธิติมา สิทธิวรนนั ท์ ยวุ ดี วงษก์ ระจ่าง และ วงศส์ ถิต ฉว่ั กลุ . 2535. ฤทธ์ิในการหา้ มเลือด
และตา้ นเฮพาริน. โครงการพิเศษ ปริญญาเภสัชศาสตร์บณั ฑิต คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลยั มหิดล,
กรุงเทพฯ.

ธเนศ ณ สงขลา และ กิติศกั ด์ิ คชินทร์โรจน.์ 2559. ผลของน้าหนกั แรกเกิด ขนาดครอก และลาดบั การ
คลอดต่ออตั ราการเจริญเติบโตก่อนหยา่ นมและน้าหนกั หยา่ นมของลูกสุกร. ภาควิชาสัตวศาสตร์
คณะทรัพยากรธรรมชาติ มหาวิทยาลยั สงขลานครินทร์. 13-14.

นนั ทวนั บุญยะประภศั ร และ อรนุช โชคชยั เจริญพร. (บรรณาธิการ). 2543. สมนุ ไพรพ้ืนบา้ น.
มหาวทิ ยาลยั มหิดล. กรุงเทพฯ. 450-460.

ประดิษฐ์ วิเศษวงษา และ รุ่งเกียรติ ทกั ษิณธรรม. 2540. การศึกษาฤทธ์ิของสาบเสือต่อความหนืดของ
เลือดขณะแขง็ ตวั . โครงการพเิ ศษ ปริญญาเภสชั ศาสตร์บณั ฑิต คณะเภสัชศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั มหิดล,
กรุงเทพฯ. 3-6.

ภษู ติ จิระวานิตย์ ศรีอทุ ยั เจริญกรวิจิตร ยวุ ดี วงษก์ ระจ่าง เพญ็ โฉม พ่งึ วชิ า และ ปราณี ใจอาจ. 2528.
ผลของใบสาบเสือต่อการหา้ มเลือด. โครงการพิเศษ ภาควชิ าสรีรวทิ ยา คณะเภสชั ศาสตร์
มหาวิทยาลยั มหิดล. กรุงเทพฯ.

มรุธชั รัตนปรารมย์ (บรรณาธิการ). 2557. สาบเสือสมุนไพรขา้ งทางหา้ มเลือด สมานแผล แก้
บาดทะยกั . 60-61.

วาทิตต์ ทรวดทรง. 2557. ความเป็นไปไดใ้ นการลงทุนธุรกิจฟาร์มสุกรแบบเบด็ เสร็จครบวงจร.
วิทยานิพนธห์ ลกั สูตรปริญญาศิลปศาสตรมหาบณั ฑิต สาขาวิชา
การจดั การภาครัฐและภาคเอกชนบณั ฑิต วทิ ยาลยั มหาวทิ ยาลยั ศิลปากร, กรุงเทพมหานคร.

วนั ดี ทาตระกูล. 2546. สุกรและการผลิตสุกร. พมิ พค์ ร้ังท่ี 1. มหาวิทยาลยั เชียงใหม่. เชียงใหม่.
วษิ ณุ วาสนกมล. 2551. การวิเคราะห์เปรียบเทียบการลงทุนของฟาร์มสุกรพนั ธุฟ์ าร์มสุกรขนุ และฟาร์ม

สุกรแบบครบวงจร. ปริญญาบริหารธุรกิจมหาบณั ฑิต, นครปฐม.
สกนธ์ รัตนโกศล. 2559. สาบเสือ. เขา้ ไดจ้ าก https://mgronline.com/south/detail/9590000126717.

Douglas, S .L., O. Szyszka, K. Stoddart, S. A. Edwards, and L. Kyriazakis. 2015. Animal and

management factors influencing grower andfinisher pig performance and efficiency

21

in European systems. Animal. 2015. (7): 1210-1220.

Pisutthanan, N., Liawruangrath, S., Bremner, B. and Liawruangrath., B., 2005. Chemical Constituents
and Biological Activities of Chromolaena odorata. Chiang Mai University, Chiang Mai. 2005.

Rawee Dee. 2559. สาบเสือ. (ออนไลน์). เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://www.winnews.tv/news/6530
Triratana T. R. Suwannuaks and W. Naengchomnong. 1991. Effect of of Eupatprium oderatum on

Blood coagulation. J. Med Assoc. Thai. 74(5): 283-287.
Vaclavkova, e., P. Danek, and M. Rozkot. 2012. The influence of piglet birth weight on growth

performance. research in pig breeding. 2012. 6.

22

ภาคผนวก

23

ตารางภาคผนวกที่ 1 ระยะเวลาท่ีแผลหายบวม (วนั )

ทิงเจอร์ไอโอดีน สาบเสือ

ลูกสุกร แม่สุกร แมส่ ุกร แม่สุกร แม่สุกร 1 แม่สุกร แม่สุกร แมส่ ุกร แม่สุกร

5901 47 5906 01 5912 42 48

1 00222123

2 20032220

3 22232220

4 02333224

5 323-3333

6 012-2223

7 220-2334

8 303- -323

9 422- -233

10 3 2 2 - - 3 2 3

11 3 0 0 - - 2 3 3

12 2 - 2 - - 2 2 3

13 - - 0 - - - - -

คา่ เฉล่ีย 2 1.08 1.61 2.75 2.28 2.25 2.33 2.66

24

ตารางภาคผนวกท่ี 2 ระยะเวลาการเช่ือมติดของแผล (วนั )

ทิงเจอร์ไอโอดีน สาบเสือ

ลูกสุกร แมส่ ุกร แมส่ ุกร แม่สุกร แมส่ ุกร 1 แมส่ ุกร แมส่ ุกร แมส่ ุกร แมส่ ุกร

5901 47 5906 01 5912 42 48

1 33333334

2 43343334

3 43343334

4 43544336

5 435-4544

6 333-4334

7 434-3546

8 434- -534

9 433- -344

10 4 3 3 - - 5 3 4

11 4 3 3 - - 3 4 4

12 4 - 3 - - 3 3 4

13 - - 3 - - - - -
คา่ เฉล่ีย 3.83 3 3.46 3.75 3.42 3.66 3.33 4.33

25

ตารางภาคผนวกที่ 3 ระยะเวลาการตกสะเกด็ ของแผล (วนั )

ทิงเจอร์ไอโอดีน สาบเสือ

ลกู สุกร แม่สุกร แม่สุกร แมส่ ุกร แมส่ ุกร 1 แมส่ ุกร แมส่ ุกร แม่สุกร แมส่ ุกร

5901 47 5906 01 5912 42 48

1 23332334

2 32342234

3 33342334

4 33443335

5 434-3443

6 223-2323

7 334-2445

8 434- -434

9 433- -344

10 4 3 3 - - 4 3 3

11 4 3 3 - - 3 4 4

12 3 - 2 - - 2 2 3

13 - - 2 - - - - -

ค่าเฉลี่ย 3.25 2.81 3.15 3.75 2.28 3.16 3.16 3.83

26

ตารางภาคผนวกท่ี 4 ระยะเวลาท่ีแผลหาย (วนั )

ทิงเจอร์ไอโอดีน สาบเสือ

ลกู สุกร แมส่ ุกร แม่สุกร แม่สุกร แมส่ ุกร 1 แม่สุกร แม่สุกร แมส่ ุกร แมส่ ุกร

5901 47 5906 01 5912 42 48

1 54335334

2 54345334

3 54345334

4 54545336

5 545-5544

6 543-5334

7 545-5546

8 545- -534

9 543- -344

10 5 4 3 - - 5 3 4

11 5 4 3 - - 3 4 4

12 5 - 3 - - 3 3 4

13 - - 3 - - - - -

คา่ เฉล่ีย 5 4 3.61 3.75 5 3.66 3.33 4.33

27

ตารางที่ 1 ระยะเวลาที่แผลหายบวม
Z = ̅1− ̅2

√ 12 + 22

1 2

= 1.86−2.38

√0.47002+0.41382

= 1.86−2.38

√04.409+0.40332

= 0.52
√0.0122+0.00074

= 0.52
√0.0129

= .

.

= 4.6

28

ตารางท่ี 2 ระยะเวลาการเชื่อมติดของแผล
Z = ̅1− ̅2

√ 12 + 22

1 2

= 3.24−3.10

√0.43082+0.46332

= 3.24−3.10

√0.41044+0.43396

= 0.14
√0.0036+0.0092

= 0.14
√0.0128

= .

.

= 1.23

29

ตารางท่ี 3 ระยะเวลาการตกสะเกด็ ของแผล
Z = ̅1− ̅2

√ 12 + 22

1 2

= 3.51−3.68

√0.43072+0.44352

= 3.51−3.68

√0.41036+0.42302

= 0.17
√0.0034+0.0046

= 0.17
√0.008

= .

.

= 1.91

30

ตารางท่ี 4 ระยะเวลาการหายของแผล
Z = ̅1− ̅2

√ 12 + 22

1 2

= 4.09−4.08

√0.46022+0.47342

= 4.09−4.08

√0.43084+0.45347

= 0.01
√0.0096+0.0127

= 0.01
√0.022

= .

.

= 0.068

31

ภาคผนวกท่ี 1 ข้นั ตอนการค้นั น้าใบสาบเสือ

ก.เตรี ยมสาบเสือท่ีไม่เป็ นโรค ข.นาสาบเสือลา้ งดว้ นน้ายาฆ่า

ค.นาสาบเสือพ่ึงลมใหแ้ หง้ ง.หน่ั ใบสาบเสือดว้ ยมืดบนเขยี ง

จ.ตาใบสาบเสือดว้ ยครก ฉ.ค้นั น้าใบสาบเสือโดยใชผ้ า้ ขาวบาง
เพ่ือแยกกากออก

32

ช.นาสาบเสือมากรอกใส่ขวดสเปรย์

ภาคผนวกที่ 2ข้นั ตอนการการดาเนินการทดลอง

ก.ทาการเช็ดตวั ลูกหมทู ่ีพึงคลอดใหส้ ะอาดและ ข.นาลกู หมูท่ีกกแลว้ มาทาการวดั
สะดือลูกหมูไปกก ประมาณ 10 นาที ดือห่างจากตวั ลูกหมู 1 นิ้ว

ค.แลว้ ทาการมดั สะดือลูกสุกรใหแ้ น่น ง.เมื่อมดั เสร็จแลว้ ใหท้ าการวดั จาก
ตรงท่ีมดั ลงมา 1 นิ้ว

33

จ.ทาการตดั สายสะดือ ฉ.ทาการตดั เค้ียวลูกสุกร

ช.ทาการวดั หางลูกสุกร 1.5 นิ้ว ซ.ทาการตดั หางที่วดั แลว้

ฌ. เสร็จแลว้ ทาการใส่ยาที่เตรียมไว้

34

35


Click to View FlipBook Version