The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เสนอ ครู สินีนาถ ชื่นจิตต์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by khemchira328, 2022-09-08 09:39:09

ประเภทของละครไทย

เสนอ ครู สินีนาถ ชื่นจิตต์

ประเภทของละครไทย

ละค



คือ รูปแบบการแสดงที่ดำเนินเรื่องราว เป็น
ศิลปะที่อาจเกิดจากการนำภาพจากจินตนาการ
ประสบการณ์หรือเรื่องราวต่าง ๆ มาผูกเป็นเรื่อง
มีเหตุการณ์เชื่อมโยงเป็นตอนๆ ตามลำดับ โดย
ดำเนินเรื่องราวจากผู้แสดงเป็นผู้สื่อความหมาย

ต่อผู้ชม
ละครไทยเป็นละครที่มีรูปแบบการแสดงหลาย
ลักษณะวิวัฒนาการตามยุคสมัยจัดประเภทละคร
ไทยได้เป็น 2 ประเภท คือละครรำ และ ละครที่

พัฒนาขึ้นใหม่

ละครรำ แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
คือ

1.ละครรำแบบดั้งเดิม
( ละครรำโบราณ ) ได้แก่ ละคร
ชาตรี ละครนอก และละครใน



2. ละครรำแบบปรับปรุง
ได้แก่ ละครดึกดำบรรพ์ ละคร
พันทาง และละครเสภา

ละครรำแบบดั้งเดิม
( ละครรำโบราณ ) ได้แก่

1.ละครชาตรี ถือว่า เป็นต้นแบบของ
ละครรำ

•นิยมใช้ ผู้ชายแสดง มีตัวละคร
3 ตัว คือ ตัวพระ ตัวนาง และเบ็ดเตล็ด
( เป็นตลก , ฤษี ฯลฯ )

•เรื่องที่เล่นคือ “ มโนห์รา ” ตอน จับ
นางมโนห์รามาถวายพระสุธน

•การแสดงเริ่มด้วยการบูชาครูเบิกโรง
ผู้แสดงออกมารำซัดไหว้ครู โดยร้องเอง
รำเอง ตัวตลกที่นั่งอยู่เป็นลูกคู่เมื่อร้องจบ
จะมีบทเจรจาต่อ

2.ละครนอก ดัดแปลง มาจากละคร ชาตรี เป็น
ละครที่เกิดขึ้นนอกพระราชฐาน เป็นละครที่คน
ธรรมดาสามัญนิยมเล่นกัน

•ผู้แสดงเป็นชายล้วน ไม่มีฉากประกอบ นิยม
เล่นกันตามชนบทท่ารำและเครื่องแต่งกายไม่
ค่อยพิถีพิถัน

•เรื่องที่ใช้แสดงละครนอกเป็นเรื่องจักร ๆ วงศ์
ๆ เช่น สังข์ทอง มณีพิชัย ไกรทอง สังข์ศิลป์ชัย
โม่งป่า พิกุลทอง การะเกด เงาะป่า ฯลฯ

•การแสดงดำเนินเรื่องรวดเร็ว โลดโผน ในบาง
ครั้งจะพูดหยาบโลน มุ่งแสดงตลก ใช้ภาษา
ตลาด และไม่คำนึงถึงขนบธรรมเนียมประเพณี

3.ละครใน เป็นละครไทย ที่พระมหา
กษัตริย์ทรงดัดแปลงมาจากละครนอก

•ผู้แสดงใช้ผู้หญิงแสดงล้วน และแสดง
ในพระราชฐานเท่านั้น การแสดงละครไทย
ในมีความประณีตวิจิตรงดงาม ท่ารำต้อง
พิถีพิถันให้มี ความอ่อนช้อย เครื่องแต่ง
กายสวยงาม บทกลอนไหเราะ สำนวนสละ
สลวยเหมาะสมกับท่ารำ เพลงที่ใช้ขับร้อง
และบรรเลงต้องไพเราะ ช้า ไม่ลุกลน

•เรื่องที่ใช้แสดงมี 3 เรื่อง คือ อิเหนา
รามเกียรติ์ และอุณรุท

ละครรำแบบปรับปรุง
ได้แก่

1. ละครดึกดำบรรพ์
เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 นำแบบ

อย่างมาจากละครโอเปร่า (Opera)
ของยุโรป ลักษณะการแสดงละคร
ดึกดำบรรพ์ คือ ผู้แสดงร้องและรำ
เอง ไม่มีการบรรยายเนื้อร้อง ผู้ชมต้อง
ติดตามฟังจากการร้องและบทเจรจา
ของผู้แสดง

2. ละครพันทาง
เกิดหลังละครดึกดำบรรพ์ เป็นละครรำ

แบบละครนอกผสมละครในมีศิลปะของ
ชาติต่าง ๆ เข้ามาปะปนตามท้องเรื่อง ทั้ง
ศิลปะการร้อง การรำ และการแต่งกาย
ผสมกับศิลปะไทย โดยยึดท่ารำไทยเป็น
หลัก

นิยมแสดงเรื่องที่เกี่ยวกับต่างชาติ เช่น
พระอภัยมณี ขุนช้างขุนแผน พระลอ
ราชาธิราช สามก๊ก พญาน้อย ฯลฯ จึงมีลีลา
ของต่างภาษาตามท้องเรื่อง

3.ละครเสภา
เป็นละครที่ดำเนินเรื่องด้วยการรำ

ประกอบบทร้องและบทขับเสภา มีเครื่อง
ประกอบจังหวะพิเศษคือ “ กรับเสภา ” เรื่อง
ที่นิยมแสดง มักจะนำมาจากนิทานพื้นบ้าน
เช่น เรื่องขุนช้างขุนแผน ไกรทอง หรือเรื่อง
จากบทพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ ๖ เช่น
เรื่องพญาราชวังสัน สามัคคีเสวก

ละครที่พัฒนาขึ้น
ใหม่ ได้แก่

1.ละครร้อง
เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ดำเนิน

เรื่องด้วยการร้อง ไม่มีท่ารำ ผู้แสดง
จะต้องร้องเอง เรื่องที่นิยมแสดงคือ
ตุ๊กตายอดรัก สาวเครือฟ้า ขวดแก้ว
เจียระไน เป็นต้นแบบของละคร
เพลง เป็นละครแบบใหม่ที่ได้รับ
อิทธิพลมาจากตะวันตก แบ่งได้2
ประเภท คือละครร้องล้วน ๆและ
ละครร้องสลับพูด

2. ละครสังคีต
คล้ายละครร้อง ต่างกันที่ละคร

สังคีตถือบทร้องและบทเจรจาเป็น
สำคัญ เท่ากัน จะตัดอย่างใดอย่าง
หนึ่งออกไม่ได้ และเป็นต้นแบบของ
ละครอิงประวัติศาสตร์

3.ละครพูด
ดำเนินเรื่องด้วยการพูด ไม่มการร้อง ผู้

แสดงพูดเอง เป็นต้นแบบของละครวิทยุ
ละครเวที เป็นละครแบบใหม่ที่ได้รับ
อิทธิพลจากตะวันตก แบ่งได้เป็น 2
ประเภท คือ ละครพูดล้วน ๆและละครพูด
สลับรำ

จัดทำโดย

น.ส.เขมจิรา บุญเกิด
เลขที่11 ชั้นม.6/1
เสนอ
ครู สินีนาถ ชื่นจิตต์
รหัสวิชา ศ33205
ปีการศึกษา2565

โรงเรียนกุยบุรีวิทยา


Click to View FlipBook Version