นาฏศิ ลป์
ละครยุคดั้งเดิม วิวัฒนาการละคร ละครยุคกลาง
ละะครกรีก ตะวันตก ละครศาสนา
ละครโรมัน ละครฆราวาส
ละครสมัยใหม่ ละครฟื้นฟูศิลปวิทยา
ละครแนวสัจจนิยม แนว อินเตอร์เมทซี
โอเปร่า
ธรรมชาตินิยม
ละครแนวต่อต้าน นางสาวชเนษฎ์กานต์ หวดงาม เลขที่ 30
สัจจนิยม
ละครแทรเจดี / ละครโศกนาฏกรรม ละครยุคดั้งเดิม ละครคอมเมดี / ละครสุขนาฏกรรม
(Tragedy) ละครกรีก (Comedy)
แสดงให้เห็นชีวิตตัวละครตัวเอกที่มีความน่า ให้ความรู้สึกตลกขบขัน เพราะความบกพร่อง
ยกย่องสรรเสริญ แต่ต้องดิ้นรนต่อสู้กับ ของมนุษย์ เป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น
อำนาจของชะตากรรม แม้ว่าในที่สุดจะต้อง ซึ่งเกี่ยวกับการเมือง สงครามและสันติภาพ
พ่ายแพ้และประสบหายนะ เรื่องราวของ ทัศนะเกี่ยวกับศิลปะในแง่ต่างๆ การโจมตี
ละครกรีกยุคแรกๆ เป็นการสรรเสริญและ หรือเสียดสีตัวบุคคล ฯลฯ คอมเมดีเป็นเรื่อง
ที่แต่งขึ้นใหม่มากกว่านำมาจากตำนานเช่น
เล่าเรื่องราวเทพเจ้า โดยมักนำโครงเรื่องมา
จากมหากาพย์อีเลียดและ โอดิสซี แทรเจดี
นางสาวชเนษฎ์กานต์ หวดงาม เลขที่ 30
ละครแพบูลาอาเทลลานา
ละครคอมเมดี ละครยุคดั้งเดิม เป็นละครตลกสั้นๆ ใช้ตัวละครที่
ได้รับอิทธิพลจากคอมเมดีกรีก ละครโรมัน ไม่ลึกซึ้งและมีลักษณะซ้ำกันทุก
ละครแทรเจดี เรื่อง ใช้เรื่องราวชีวิตในชนบท
ได้รับอิทธิพลจากตำนานกรีก ได้มี ได้รับอิทธิพลจากละครของ ของชาวบ้านสามัญ ละครชนิดนี้
นักเขียนบทละครชาวโรมัน ชื่อ เซ กรีกอย่างมาก และได้มีละคร ได้รับความนิยมสูงสุด
เนกา ได้เขียนบทละครที่มี ชนิดใหม่ๆ เกิดขึ้นอีกหลาย แ
พนโทมายม์
อิทธิพลต่อนักเขียนบทละครยุคต่อ ชนิด
เป็นการร่ายรำที่ใช้นักแสดงคนเดียว
มา คือ ยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา
ซึ่งเปลี่ยนบทบาทโดยการ “เปลี่ยน
หน้ากาก” มีพวกคอรัสเป็นผู้บรรยาย
มักเป็นเรื่องราวที่เคร่งเครียดและได้
จากตำนานปรัมปรา
นางสาวชเนษฎ์กานต์ หวดงาม เลขที่ 30
ละครยุคกลาง
1.ละครศาสนา แสดงเพื่อประกอบพิธีกรรม ประมาณ พ.ศ.1400 คริสตจักรทำให้ 2. . ละครฆราวาส จำแนกได้ดังนี้
ทางศาสนาเกี่ยวกับการเล่าเรื่องราวที่มีอยู่ใน ละครกลับมาฟื้นตัวอีกครั้งหนึ่ง ด้วยการ -ละครพื้นเมือง แสดงเรื่องราวผจญภัยของ
พระคัมภีร์ไบเบิล แสดงเรื่องราวของนักบุญผู้ เริ่มจัดการแสดงเป็นฉากสั้นๆ ประกอบ วีรบุรุษที่มีชื่อเสียง ซึ่งเนื้อหาในละครได้มาจาก
พลีชีพเพื่อศาสนา และยังมีละครที่เล่าเรื่อง เรื่องราวจากพระคัมภีร์ไบเบิล การแสดง ความเชื่อนอกศาสนา
ราวเกี่ยวกับคนธรรมดาที่ต้องต่อสู้กับทาง จะจัดขึ้นในโบสถ์ เรื่องราวที่แสดงเกี่ยว -ละครฟาร์ส ละครตลกที่ไม่เกี่ยวกับศาสนา
เลือกระหว่างความดีและความชั่ว กับพระเยซู และเรื่องราวในคัมภีร์ไบเบิล แสดงให้เห็นสันดานดิบของมนุษย์ที่มีแต่ความ
ในราว พ.ศ.1700 เริ่มมีการแสดงนอก เห็นแก่ได้และเป็นการใช้ไหวพริบเล่ห์เหลี่ยม
โบสถ์ แสดงโดยภาษาท้องถิ่น มี -ละครนเทอร์ลูด แสดงโดยคณะละครเร่ มัก
ฆราวาสและสมาคมอาชีพต่างๆ เป็นผู้ แสดงคั่นระหว่างงานเลี้ยงฉลอง มีทั้งเรื่องน่า
จัดการแสดง โดยได้รับการสนับสนุนจาก เศร้าและเรื่องตลก แต่ไม่เกี่ยวกับศีลธรรมทาง
ศาสนา
คริสตจักร
นางสาวชเนษฎ์กานต์ หวดงาม เลขที่ 30
ละครฟื้นฟู อินเตอร์เมทซี เป็นการแสดงสลับฉาก มักเป็นเรื่องราวจากตำนานกรีกและโรมัน ซึ่งมี
ศิลปวิทยา ปรากฏการณ์ที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษเข้าช่วย มีการใช้ดนตรีและระบำเป็นส่วนประกอบ
สำคัญ
โอเปรา คือ การรวมเอาดนตรี การขับร้องและระบำ เข้ามาไว้ในเรื่องราวที่ผูกขึ้นเป็น
ละคร โอเปรานั้นนิยมใช้การจัดฉากหรูหรา เหตุการณ์มหัศจรรย์ ที่ต้องใช้เทคนิคพิเศษ
อยู่ด้วย
นางสาวชเนษฎ์กานต์ หวดงาม เลขที่ 30
ละครสมัยใหม่
ละครสัจนิยมและแนวธรรมชาตินิยม ละครแนวต่อต้านสัจธรรม
เป็นละครแนวสมจริง บทละครไม่บิดเบือนไป 1.ละครสัญลักษณ์นิยม เป็นละครที่ใช้วัตถุหรือการกระทำที่
จากความเป็นจริงของชีวิต สะท้อนความจริงของ เป็นสัญลักษณ์ ซึ่งจะกระตุ้นและโยงความรู้สึกนึกคิดของคนดู
สังคมในยุคนั้นและให้ความสำคัญกับคนสามัญ 2. ละครเอ็กซ์เปรสชั่นนิสม์ เป็นละครที่เสนอความเป็นจริง
ตามความคิดของตัวละคร โดยใช้ฉากที่มีสภาพไม่เหมือนจริง
ใช้คำพูดที่ไม่เป็นเหตุเป็นผลนัก หรือใช้ข้อความสั้นๆ ห้วนๆ
3. ละครเพื่อสังคมหรือละครเอพิค เป็นละครที่กระตุ้นความ
สำนึกทางสังคม นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงแก้ไขสังคมให้ดีขึ้น
โดยไม่คำนึงถึงความเป็นกลางแบบธรรมชาติ
นางสาวชเนษฎ์กานต์ หวดงาม เลขที่ 30
วิวัฒนาการของ มีนิยายเรื่อง นามาโนห์รา เป็นนิยายของพวกไตหรือคนไทย
นาฏศิลป์และละครไทย ซึ่งปัจจุบันนี้ก็ยังมีอยู่ในประเทศจีนตอนใต้ในอาณาจักรน่านเจ้าเดิม
(สมัยน่านเจ้า)
มีการแสดงจำพวกระบำ เช่น ระบำหมวก ระบำนกยูง
• ระบำหมวก แต่งกายด้วยหมวกรูปทรงกรวยที่เรียกว่า“นอนล้า”
และชุดแต่งกายที่เรียกว่า“อาวหยาย”
• ระบำนกยูง รูปแบบการเคลื่อนไหวจะเป็นการเลียนแบบนกยูง
น.ส.พิชญ์สินี เกลี้ยงแก้ว เลขที่35
รับวัฒนธรรมของอินเดีย ผสมผสานกับวัฒนธรรมไทย มีการบัญญัติศัพท์ขึ้นใหม่
เพื่อใช้เรียกศิลปะการแสดงของไทย ว่า โขน ละคร ฟ้อนรำ
ระบำเทวีศรีสัชนาลัย
ระบำเทววารีศรีเมืองบางขลัง
เป็นการแสดงประเภทระบำ รำ ฟ้อน ที่มีวิวัฒนาการมาจาก
การละเล่นของชาวบ้านเพื่อพักผ่อนหย่อนใจหลักจากเสร็จงาน
ซึ่งการแสดงในยุคสมัยสุโขทัยมีดังนี้
วิวัฒนาการของ
นาฏศิลป์และละครไทย
(สมัยสุโขทัย)
น.ส.พิชญ์สินี เกลี้ยงแก้ว เลขที่35
ววิิววััฒฒนนาากกาารรขขอองง
นนาาฏฏศศิิลลปป์์แแลละะลละะคครรไไททยย
((สสมมััยยออยยุุธธยยาา))
การแสดงละครชาตรี ละครนอก ละครใน แต่เดิมเล่นเป็นละครเร่ จะแสดงตามพื้นที่ว่างโดยไม่ต้องมีโรงละคร
เรียกว่า ละครชาตรี ต่อมาได้มีการวิวัฒนาการ เป็นละครรำ เรียกว่า ละครใน ละครนอก
ละครใน แสดงในพระราชวัง จะใช้หญิงล้วน ห้ามไม่ให้ชาวบ้านเล่น เรื่องที่นิยมนำมาเล่นมี 3 เรื่อง
คือ อิเหนา รามเกียรติ์ อุณรุท
ละครนอก ชาวบ้านจะแสดง ใช้ผู้ชายล้วนดำเนินเรื่องอย่างรวดเร็ว
สมัยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่3 เป็นสมัยที่โขนเจริญรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก
น.ส.พิชญ์สินี เกลี้ยงแก้ว เลขที่35
ววิิววััฒฒนนาากกาารรขขอองง
นนาาฏฏศศิิลลปป์์แแลละะลละะคครรไไททยย
((สสมมััยยธธนนบบุุรรีี))
ตอนอนุมานเกี้ยวนางวานริน ตอนปล่อยม้าอุปการ
บทละครในสมัยอยุธยาสูญหายไป สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีหรือสมเด็จ
พระเจ้าตากสินมหาราช ทรงรวบรวมศิลปิน บทละครที่เหลือมาทรงพระราชนิพนธ์
บทบทละครเรื่องรามเกียรติ์ 5ตอน แล้วยังทรงฝึกซ้อมด้วยพระองค์เอง
ตอนท้าวมาลีวราชว่าความ ตอนทศกัณฐ์ตั้งพิธีทรายกรด
ตอนพระลักษณ์ถูกหอกกบิลพัท น.ส.พิชญ์สินี เกลี้ยงแก้ว เลขที่35
วิวัฒนาการของ
นาฏศิลป์และละครไทย
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้ าจุฬาโลก(ร.1) สมัยรัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย(ร.2)
ฟื้นฟูและรวบรวมสิ่งที่สูญหายให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น การละครเจริญถึงขีดสุด
รวบรวมตำราการฟ้อนรำเป็นหลักฐานที่สำคัญที่สุดใน เปลี่ยนแปลงการแต่งกายเป็นการแต่งยืนเครื่อง
ประวัติศาสตร์ พระราชนิพนธ์บทละครเรื่องอิเหนาได้รับการยกย่องจาก
พัฒนาโขน วรรณคดีสโมสรว่าเป็น ยอดของบทละครรำ
พระราชนิพนธ์บทละคร เรื่องรามเกียรติ์ พ.ศ.2511ยูเนสโกถวายพระเกียรติคุณแด่พระองค์
ตอนนารายณ์ปราบนนทก ให้ในฐานะบุคคลสำคัญที่มีผลงานดีเด่นทาง
วัฒนธรรม ระดับโลก
น.ส.มะลิวัลย์ คงเพ็ชร เลขที่ 36
พระบาทสมเด็จพระนั่ งเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.3) วิวัฒนาการของ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวร.4)
นาฏศิลป์และละครไทย
สมัยรัตนโกสินทร์
มีการยกเลิกละครหลวง ได้ฟื้นฟูละครหลวง
พระบรมสานุวงค์พากันฝึกหัดโขนละคร อนุญาตให้ราษฎรฝึกละครในได้
คณะละครที่มีแบบแผนในเชิงฝึกหัดและแสดงทางโขน มีการบัญญัติข้อห้ามในการแสดงละครที่มิใช่ละครหลวง
ละครถือเป็นแบบแผนในการปฏิบัติสืบต่อมาถึงปัจจุบัน 1.ห้ามฉุดบุตรชาย-หญิงผู้อื่นมาฝึกละคร
ตัวอย่างละครเช่น ละครของเจ้าพยาบดินทรเดชา ละครของเจ้า 2.ห้ามใช้รัดเกล้ายอดเป็นเครื่องประดับศีรษะ
จอมมารดาอัมพา ละครของเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้ารักขณา 3.ห้ามใช้เครื่องประกอบการแสดงที่เป็นพานทอง หีบทอง
คุณ และละครเจ้ากรับ 4.ห้ามเป่าแตรสังข์
5.หัวช้างที่เป็นอุปกรณ์ในการแสดงห้ามใช้สีเผือกยกเว้นช้าง
เอราวัณ
น.ส.มะลิวัลย์ คงเพ็ชร เลขที่ 36
วิวัฒนาการของ
นาฏศิลป์และละครไทย
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.5) สมัยรัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.6)
สภาพบ้านเมืองมีความเจริญก้าวหน้า โขน ละคร ดนตรี ปี่พาทย์เจริญถึงขีดสุด
เพราะได้รับวัฒนธรรมจากตะวันตก พระองค์ทรงเป็นราชาแห่งศิลปิน มีพระราชปณิธาน
เกิดละครดึกดำบรรพ์และละครพันทาง อันแรงกล้าที่จะทรงไว้ซึ่ง
พระองค์ทรงส่งเสริมให้เอกชนตั้งคณะละครอย่าง “ ความเป็นไทยและดนตรีปี่พาทย์”
แพร่หลาย ทรงพระราชทานบรรดาศักดิ์ให้แก่ศิลปินโขนที่มี
คณะละครที่มีชื่อเสียงแสดงได้ดี พระองค์ทรงเสด็จ ฝีมือให้เป็นขุนนาง
มาทอดพระเนตร และโปรดเกล้าให้แสดงในพระ
ราชฐาน เพื่อเป็นการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
น.ส.มะลิวัลย์ คงเพ็ชร เลขที่ 36
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว(ร.7) วิวัฒนาการของ
นาฏศิลป์และละครไทย
สมัยรัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานั นทมหิดล(ร.8)
สมัยนี้เศรษฐกิจตกต่ำ การเมืองเกิดการคับขัน ได้มี หลวงวิจิตรวาทการ อธิบดีคนแรกของกรมศิลปากรได้
การปรับปรุงระบบบริหารราชการกระทรวงวังครั้งใหญ่ ฟื้นฟูเปลี่ยนแปลงการแสดงโขนละครในรูปแบบใหม่
ให้โอนงานช่างกองวังนอก จัดตั้งโรงเรียนนาฏศิลป์ดุริยางคศาสตร์ขึ้น
กองมหรสพอยู่ในสังกัดของกรมศิลปากร การแสดงนาฏศิลป์ โขน ละครอยู่ในการกำกับดูแลของ
การช่างย้ายมาอยู่ในสังกัดของกรมศิลปากร โขนกรม กรมศิลปากร
มหรสพกระทรวงวังจึงกลายเป็นโขนกรมศิลปากร เกิดละครรูปแบบใหม่เรียกว่า ละครหลวงวิจิตรวาทการ
มีละครแนวใหม่เกิดขึ้นที่เรียกว่า ละครเพลงหรือ มีแนวคิดปลุกใจให้รักชาติ บางเรื่องเป็นละครพูด
ละครจันทโรภาส
น.ส.มะลิวัลย์ คงเพ็ชร เลขที่ 36
วิวัฒนาการของ
นาฏศิลป์และละครไทย
สมัยรัตนโกสินทร์
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช(ร.9)
โปรดเกล้าให้จัดพิธีไหว้ครู
ให้บันทึกภาพยนตร์สีส่วนพระองค์ บันทึกท่ารำเพลง
หน้าพาทย์องค์พระพิราพ ท่ารำเพลงหน้าพาทย์ของ
พระ นาง ยักษ์ ลิง
ปลูกฝังจิตสำนึกในการอนุรักษ์สืบสานสืบทอด และ
พัฒนาศิลปะการแสดงของชาติผ่านการเรียนการสอน
มีรูปแบบในการแสดงละครไทยที่หลากหลายให้
เลือกชม
น.ส.มะลิวัลย์ คงเพ็ชร เลขที่ 36
การชม วิจารณ์
และการประเมินการแสดง
น.ส.กมลขนก ตี้พั้ว เลขที่ 28
หลักการวิจารณ์การเเสดงละคร หลักการวิจารณ์การเเสดงละคร
การละคร การชม วิจารณ์ และ ตัวละคร/บทบาท/การสร้าง
การประเมินการแสดง ตัวละคร
โครงเรื่อง มี3ตอน
-ตอนต้น(เกริ่น) -ตัวละครเป็นผู้สร้างเเละดำเนินเรื่อง
-ตอนกลาง(อุปสรรค) -เล่นละครให้ผู้ชมอินไปกับบทบาท
-ตอนอวสาน(เฉลยปม)
วิจารณ์โครงเรื่อง วิจารณ์โครงเรื่อง
•เหตุการณ์ต่างๆในเรื่อง •ลักษณะตัวละคร
•ลักษณะการจบ •สิ่งดึงดูดการเเสดง
•ความน่าสนใจเเละสิ่งที่ดึงดูดของเรื่อง •การตีบทเเตกของตัวละคร
น.ส.กมลขนก ตี้พั้ว เลขที่ 28
หลักการวิจารณ์การเเสดงละคร
ภาพที่เห็น การชม วิจารณ์ เเละการประ
เมินการเเสดง
-ฉาก
-องค์ประกอบต่างๆ
วิจารณ์ น.ส.กมลขนก ตี้พั้ว เลขที่ 28
•ความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบ
•ความเหมาะสมของฉาก เครื่องแต่งกาย และ
การแต่งหน้า
•การสื่อความหมาย
การชม วิจารณ์
และการประเมินการแสดง
น.ส.กมลขนก ตี้พั้ว เลขที่ 28
การชม วิจารณ์
และการประเมินการแสดง
น.ส.กมลขนก ตี้พั้ว เลขที่ 28
จัดทำโดย
1.นางสาวกมลชนก ตี้พั้ว เลขที่28
2.นางสาวชเนษฎ์กานต์ หวดงาม เลขที่30
3.นางสาวพิชญ์สินี เกลี้ยงแก้ว เลขที่35
4.นางสาวมะลิวัลย์ คงเพ็ชร เลขที่36