๔๗ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 7 มาเล่นกันไหม ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/5 ท 1.1 ป.1/8 ท 2.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 - เล่น เป็น ลูกไก่ - เพลงกุ๊ก กุ๊ก ไก่ - เพลง “แม่งูเอ๋ย” - การเล่น “แม่งูเอ๋ย” - บทร้องประกอบการเล่น - เพลงร้องเล่น “โยกย้าย” - เรียงคำเป็นประโยค - การคัดลายมือ - การใช้คำ - การแต่งประโยค 12 5 8 โรงเรียนลูกช้าง ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 1.1 ป1/5 ท 1.1 ป.1/8 ท 2.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/4 ท 5.1 ป.1/1 - รู้จักคำ นำเรื่อง - การอ่าน บทอ่าน - การอ่านวิเคราะห์คำ - การอ่านพยัญชนะ สระ - การผันวรรณยุกต์ - การอ่านสะกดคำ - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคิด - การอ่านทบทวน - ฝึกเขียน 12 5 9 ของเธอของฉัน ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/5 ท 1.1 ป.1/8 ท 2.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 - การอ่านร้องเล่น การท่อง อาขยาน และคำคล้องจอง - การพูดและการฟัง มา เรา มา ร้องเพลงกัน และอ่าน คิด ตอบคำถาม - การแต่งประโยค - จุดเน้นการอ่านสะกดคำ - จุดเน้นการเขียนสะกดคำ 9 5
๔๘ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 10 เพื่อนรัก เพื่อนเล่น ท 2.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/4 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 - รู้จักคำ นำเรื่อง - การอ่าน บทอ่าน - การอ่านวิเคราะห์คำ - การอ่านพยัญชนะ สระ - การผันวรรณยุกต์ - การอ่านสะกดคำ - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคิด - การอ่านทบทวน - ฝึกเขียน 9 5 11 ฝนตกแดดออก ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/5 ท 1.1 ป.1/8 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 ท 5.1 ป.1/2 - การอ่านบทร้องเล่น - บทร้อยกรอง - คำคล้องจอง - คำประพันธ์ในภาษาไทย - การอ่านบทร้อยกรอง - การท่องอาขยาน - การอ่าน เขียน เรียน ร้อง - ฝึกอ่านเพิ่มเติม - มาร้องเพลงด้วยกัน - ลองเลียนเสียงอื่น ๆ 9 5 12 พูดเพราะ ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/8 ท 2.1 ป.1/1 ท 3.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 3.1 ป.1/4 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 - รู้จักคำ นำเรื่อง - การอ่าน บทอ่าน - การอ่านวิเคราะห์คำ - การอ่านพยัญชนะ สระ - การผันวรรณยุกต์ - จุดเน้นการสะกดคำ - การอ่านสะกดคำ - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคิด - การอ่านทบทวน - ฝึกเขียน - จุดเน้นการเขียน 9 5
๔๙ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 13 เรารักเมืองไทย ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 2.1 ป.1/1 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 ท 5.1 ป.1/2 - การอ่านบทร้องเล่น - บทร้อยกรอง - คำคล้องจอง - การท่องอาขยาน - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่าน เขียน เรียน ร้อง - การอ่านและการสนทนา - เด็กน่ารัก - การอ่านและการดูแลหนังสือ - จุดเน้นการเขียน 9 5 14 เกือบไป ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 2.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 - รู้จักคำ นำเรื่อง การอ่าน บทอ่าน และการอ่านวิเคราะห์ - การอ่านพยัญชนะ สระ การผันวรรณยุกต์ - จุดเน้นการอ่านสะกดคำ - อ่านคล่องร้องเล่น - จุดเน้นการเขียนสะกดคำ - การอ่านทบทวน 9 5 15 ตั้งไข่ล้มต้มไข่กิน ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 3.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/4 ท 5.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/7 ท 4.1 ป.1/3 - การอ่านบทร้องเล่น - บทร้อยกรอง - คำคล้องจอง - การท่องอาขยาน - การอ่านบทร้อยกรอง - การพูดเล่าเรื่อง - การอ่าน การสนทนา - คำบอกรูปร่าง - อ่าน เขียน เรียน ร้อง เล่น 9 5
๕๐ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 16 เพื่อนรู้ใจ ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 1.1 ป1/5 ท 1.1 ป.1/8 ท 2.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 3.1 ป.1/4 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 - รู้จักคำ นำเรื่อง - การอ่าน บทอ่าน - การอ่านวิเคราะห์คำ - การอ่านพยัญชนะ สระ - การผันวรรณยุกต์ - การอ่านสะกดคำ - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคิด - การอ่านทบทวน -ฝึกเขียน 9 5 17 แมวเหมียว ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/8 ท 2.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/2 ท 4.1 ป.1/3 ท 4.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 3.1 ป.1/4 ท 5.1 ป.1/1 ท 5.1 ป.1/2 - การอ่านร้องเล่น บทร้อยกรอง - คำคล้องจอง - การท่องอาขยาน - การพูดเล่าเรื่อง - จุดเน้นการเขียนอ่าน สะกดคำ 7 5 18 ช้างน้อยน่ารัก ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/5 ท 1.1 ป.1/8 ท 2.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 - รู้จักคำ นำเรื่อง - การอ่าน บทอ่าน - การอ่านวิเคราะห์คำ - การอ่านผันวรรณยุกต์ - การผันวรรณยุกต์ - จุดเน้นการอ่านสะกดคำ - การอ่านสะกดคำ - เครื่องหมาย สัญลักษณ์ - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคิด 8 5
๕๑ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน ท 4.1 ป.1/2 - ฝึกเขียน - ฝึกแต่งประโยค - จุดเน้นการเขียนสะกดคำ 19 กระต่ายกับเต่า ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/5 ท 1.1 ป.1/8 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/5 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 3.1 ป.1/4 ท 5.1 ป.1/1 - การอ่านออกเสียง - การอ่านนิทาน - การแสดงบทบาทสมมุติ - การเล่าเรื่อง - คำบอกรูปร่าง 7 5 20 วันสงกรานต์ ท 1.1 ป.1/3 ท 1.1 ป.1/4 ท 1.1 ป.1/5 ท 1.1 ป.1/8 ท 2.1 ป.1/1 ท 2.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/3 ท 3.1 ป.1/5 ท 4.1 ป.1/1 ท 4.1 ป.1/2 ท 1.1 ป.1/1 ท 1.1 ป.1/2 ท 2.1 ป.1/2 ท 3.1 ป.1/1 ท 3.1 ป.1/4 ท 4.1 ป.1/3 ท 5.1 ป.1/1 - รู้จักคำ นำเรื่อง - การอ่าน บทอ่าน - การอ่านผันวรรณยุกต์ - การผันวรรณยุกต์ - จุดเน้นการอ่านสะกดคำ - การอ่านสะกดคำ - ฝึกอ่านเขียนคำ ตามาตรตรา - ฝึกเขียนประโยค - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนทำ ชวนคิด - ฝึกเขียน - การแสดงบทบาทสมมุติ 8 5 รวมเวลาตลอดปีการศึกษา 200 100
๕๒ โครงสร้างรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท 12101 จำนวน 5 หน่วยกิต จำนวนเวลา 200 ชั่วโมง หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 1 น้ำใส ท 1.1 ป.2/2 ท 4.1 ป.2/1 ท 4.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/4 ท 1.1 ป.2/5 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - คำจากเรื่อง - การอ่านและสังเกตคำ - อักษร 3 หมู่ (1) - อักษร 3 หมู่ (2) - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนคิด ชวนทำ - การอ่านบทดอกสร้อย - การอ่านออกเสียงในบทเรียน ๑๕ ๗ 2 ใจหาย ท 1.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/6 ท 4.1 ป.2/1 ท 4.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/4 ท 1.1 ป.2/5 ท 5.1 ป.2/1 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - คำจากเรื่อง - สระเอียะ สระเอีย - การอ่านและสังเกตคำ - คำในแม่กน - อ่านคล่อง ร้องเล่น - ชวนคิด ชวนทำ - คำคล้องจอง - การอ่านบทร้อยกรอง ๒๐ ๗ 3 ครัวป่า ท 1.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/3 ท 1.1 ป.2/6 ท 3.1 ป.2/2 ท 3.1 ป.2/3 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/4 ท 1.1 ป.2/5 ท 2.1 ป.2/2 ท 5.1 ป.2/1 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - คำยากจากบทเรียน - สระเอือะสระเอือ - การอ่านและสังเกตคำ - คำควบกล้ำ - อ่านคล่อง ร้องเล่น ๑๕ ๗
๕๓ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน ท 3.1 ป.2/4 ท 3.1 ป.2/5 ท 4.1 ป.2/1 ท 4.1 ป.2/2 - ชวนคิด ชวนทำ - คำอ่านออกเสียง (นิทานเรื่องลากับเหยือกน้ำ) 4 กลัวทำไม ท 1.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/3 ท 1.1 ป.2/6 ท 3.1 ป.2/4 ท 3.1 ป.2/5 ท 4.1 ป.2/1 ท 4.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/4 ท 1.1 ป.2/5 ท 5.1 ป.2/1 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - คำยากจากบทเรียน - สระอึ สระอือ - การอ่านและสังเกตคำ - คำแต่งประโยค - อ่านคล่อง ร้องเล่น - ชวนคิด ชวนทำ - นิทานราชสีห์กับหนู - อ่านออกเสียง ๑๙ ๙ 5 ชีวิตใหม่ ท 1.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/3 ท 1.1 ป.2/6 ท 4.1 ป.2/1 ท 4.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/4 ท 1.1 ป.2/5 ท 4.1 ป.2/3 ท 5.1 ป.2/1 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - คำยากจากบทเรียน - สระเปลี่ยนรูป (อะ เป็น ไม้หัน อากาศ) - การอ่านอักษรนำ - การแต่งประโยค - อ่านคล่อง ร้องเล่น - ชวนคิด ชวนทำ - บทอาขยาน สักวาหวานอื่น มีหมื่นแสน 1๔ ๑๐ 6 มีน้ำใจ ท 1.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/3 ท 1.1 ป.2/6 ท 3.1 ป.2/2 ท 3.1 ป.2/7 ท 4.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/4 ท 1.1 ป.2/5 ท 2.1 ป.2/2 ท 4.1 ป.2/3 - รู้จักคำ นำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - คำยากจากบทเรียน - สระลดรูป (โอะ) - คำที่มี ห นำ 18 ๑๐
๕๔ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน ท 4.1 ป.2/2 - การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง - อ่านคล่อง ร้องเล่น - ชวนคิด ชวนทำ - บทสักวาดาวจระเข้ 7 นักคิดสมองใส ท 1.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/3 ท 1.1 ป.2/6 ท 3.1 ป.2/5 ท 4.1 ป.2/1 ท 4.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/4 ท 1.1 ป.2/5 ท 2.1 ป.2/2 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - คำกริยา - สระเปลี่ยนรูป (เอะ) เป็น (อ็) - เพลงกล่อมเด็ก - การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง - อ่านคล่อง ร้องเล่น - ชวนคิด ชวนทำ - อ่านบทเรียน ไก่แจ้แซ่เสียง ๑๓ ๗ 8 โลกร้อน ท 1.1 ป.2/2 ท 2.1 ป.2/1 ท 2.1 ป.2/3 ท 2.1 ป.2/4 ท 3.1 ป.2/4 ท 3.1 ป.2/5 ท 4.1 ป.2/4 ท 5.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/1 ท 2.1 ป.2/2 ท 2.1 ป.2/5 ท 2.1 ป.2/6 ท 4.1 ป.2/3 ท 5.1 ป.2/1 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - คำอ่าน เขียน คำยากจาก บทเรียน - สระเอือ มีตัวสะกด - การอ่านและสังเกตเสียงสระ - การอ่านและสังเกตพยัญชนะที่ ไม่ออกเสียง - อ่านคำและสังเกตสระ และ เครื่องหมายที่ไม่ออกเสียง - อ่านประโยค - อ่านคล่องร้องเล่น - อ่านบทอาขยาน ๑๘ ๗ 9 รักพ่อ รักแม่ ท 1.1 ป.2/2 ท 2.1 ป.2/3 ท 3.1 ป.2/5 ท 1.1 ป.2/1 ท 3.1 ป.2/1 ท 4.1 ป.2/3 ท 5.1 ป.2/1 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียงอ่านแจกลูก - การอ่านคิดวิเคราะห์ - สระออ ไม่มีตัวสะกด - การอ่านประโยค ๑๖ ๗
๕๕ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน - การอ่านคำที่มี ฤ ฤา - การอ่านและสังเกตคำที่มี ความหมายตรงกันข้าม - อ่านคล่องร้องเล่น - บทอาขยานรักษาป่า 10 เข็ดแล้ว ท 1.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/3 ท 1.1 ป.2/6 ท 3.1 ป.2/5 ท 4.1 ป.2/2 ท 4.1 ป.2/4 ท 5.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/4 ท 1.1 ป.2/5 ท 2.1 ป.2/2 ท 4.1 ป.2/3 ท 5.1 ป.2/1 ท 5.1 ป.2/3 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - สระลดรูป (เ-อ) - การพูดแสดงความคิดเห็น - การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง - อ่านคล่อง ร้องเล่น - ชวนคิด ชวนทำ - อ่านบทอาขยานรักษาป่า ๑๗ ๙ 11 เด็กดี ท 1.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/3 ท 3.1 ป.2/5 ท 4.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/6 ท 1.1 ป.2/4 ท 1.1 ป.2/5 ท 2.1 ป.2/2 - รู้จักคำนำเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - สระลดรูป (เ-อ) - การพูดแสดงความคิดเห็น - คำที่ใช้ไม้ยมก - การใช้เครื่องหมายวรรคตอน - อ่านคล่อง ร้องเล่น - ชวนคิด ชวนทำ ๑๓ ๑๐ 12 ชาติของเรา ท 1.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/3 ท 1.1 ป.2/5 ท 3.1 ป.2/2 ท 3.1 ป.2/3 ท 3.1 ป.2/4 ท 4.1 ป.2/2 ท 4.1 ป.2/4 ท 5.1 ป.2/2 ท 1.1 ป.2/1 ท 1.1 ป.2/4 ท 2.1 ป.2/2 ท 5.1 ป.2/1 ท 5.1 ป.2/3 - รู้จักคำนำเรื่อง คำจากเรื่อง - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - สระ รูปสระ มีตัวสะกดและ ไม่มีตัวสะกด - อ่านคล่องร้องเล่น - ชวนคิด ชวนทำ - บทอาขยานความดีความชั่ว - บทร้อยกรองเห็นผิดเป็นถูก ๒๐ ๑๐ รวมเวลาตลอดปีการศึกษา 200 100
๕๖ โครงสร้างรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท 1๓101 จำนวน 5 หน่วยกิต จำนวนเวลา 200 ชั่วโมง หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน ๑ ปฏิบัติการ สายลับจิ๋ว ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/๑ ท ๓.๑ ป.๓/๕ ท ๓.๑ ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - พยัญชนะไทย อักษร ๓ หมู่ - อ่านและสังเกตสระ, วรรณยุกต์ - พยัญชนะ ฑ - การใช้ถ้อยคำสุภาพ ๑๒ ๖ ๒ แต่เด็กซื่อไว้ ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/๑ ท ๒.๑ ป.๓/๕ ท ๒.๑ ป.๓/6 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๔.๑ ป.๓/๔ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๕.๑ ป.๓/๓ - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - ทบทวนตัวสะกด - สระเปลี่ยนรูป, สระลดรูป - อ่านเรื่องกระต่ายไม่ตื่นตูม - สำนวนไทย - การแต่งเรื่องตามจินตนาการ ๑๒ ๖ ๓ ป่านี้มีคุณ ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/๑ ท ๓.๑ ป.๓/๕ ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - มาตราตัวสะกด - ความหมายของคำ ๑๐ ๕ ๔ อาหารดี ชีวีมีสุข ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/๑ ท ๓.๑ ป.๓/๑ ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๕.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๕.๑ ป.๓/๓ ท ๕.๑ ป.๓/๔ - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - การผันวรรณยุกต์ - คำที่ประวิสรรชนีย์และไม่ประ วิสรรชนีย์ - อ่านเรื่องแม่ไก่อยู่ในตะกร้า - ท่องประถม ก กา ๑๖ ๘
๕๗ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน - มาตราแม่ ก กา, กก, กง - บทอ่านเสริม “โอ้เอ้วิหาร ราย” ๕ ทำดี... อย่าหวั่นไหว ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/๑ ท ๒.๑ ป.๓/๓ ท ๔.๑ ป.๓/๕ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๕.๑ ป.๓/๓ - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - คำคล้องจอง - กลอนสี่ ๑๐ ๕ ๖ พลังงานคือชีวิต ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๑.๑ ป.๓/6 ท ๑.๑ ป.๓/7 ท ๑.๑ ป.๓/๙ ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๔.๑ ป.๓/๕ ท ๕.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๓.๑ ป.๓/5 ท ๕.๑ ป.๓/๓ ท ๕.๑ ป.๓/๔ - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - การอ่านคำที่เป็นอักษรควบ กล้ำ - การอ่านคำที่เป็นอักษรนำ - การอ่านคำแบบเรียงพยางค์ - การอ่านคำเลียนแบบ อักษรนำ - การแต่งคำขวัญ - อ่านเรื่องเด็กเอ๋ยเด็กน้อย - การท่องจำบทอาขยาน เด็กน้อย, วิชาหนาเจ้า - มารยาทในการอ่าน ๑๘ ๙ ๗ ความฝัน เป็นจริงได้ ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/๑ ท ๒.๑ ป.๓/๕ ท ๒.๑ ป.๓/๖ ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๒.๑ ป.๓/๒ - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - คำที่มี ฤ ฤา - คำที่ใช้ บัน บรร - คำที่ใช้ รร (ร หัน) - การเขียนเรื่องตามจินตนาการ ๑๔ ๗ ๘ ภูมิใจภาษาไทย ของเรา ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๑.๑ ป.๓/4 ท ๑.๑ ป.๓/9 ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๓.๑ ป.๓/5 ท ๕.๑ ป.๓/๓ - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - คำพ้อง ๑๔ ๗
๕๘ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน ท ๒.๑ ป.๓/๕ ท ๓.๑ ป.๓/๑ ท ๓.๑ ป.๓/4 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๔.๑ ป.๓/6 ท ๕.๑ ป.๓/๑ - คำที่มีตัวอักษรไม่ออกเสียง - ภาษาถิ่น - อ่านเรื่องลูกแกะของซาฟียะห์ - การแต่งนิทาน - การอ่านบทร้อยกรอง ๙ คิดไป รู้ไป ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๑.๑ ป.๓/6 ท ๑.๑ ป.๓/9 ท ๓.๑ ป.๓/๑ ท ๓.๑ ป.๓/4 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๓.๑ ป.๓/2 ท ๓.๑ ป.๓/5 ท ๕.๑ ป.๓/3 - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - เครื่องหมายทัณฑฆาต - การเล่าเรื่องจากการฟังและ การอ่าน - มารยาทในการอ่าน ๑๒ ๖ ๑๐ นอกเมือง... ในกรุง ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/5 ท ๒.๑ ป.๓/6 ท ๓.๑ ป.๓/๑ ท ๓.๑ ป.๓/4 ท ๓.๑ ป.๓/6 ท ๕.๑ ป.๓/๑ ท ๕.๑ ป.๓/2 ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๒.๑ ป.๓/2 ท ๓.๑ ป.๓/5 ท ๔.๑ ป.๓/2 ท ๕.๑ ป.๓/๓ - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - คำนาม - การพูดและเขียนบรรยาย - อ่านเรื่องกาเหว่าที่กลางกรุง - เพลงกล่อมเด็ก - มารยาทในการฟัง ดู และพูด - มารยาทในการเขียน ๑๒ ๖ ๑๑ ส่งข่าว... เล่าเรื่อง ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/4 ท ๒.๑ ป.๓/6 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๔.๑ ป.๓/2 - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - คำสรรพนาม - การเขียนจดหมายลาป่วย ลากิจ - มารยาทในการเขียน ๑๐ ๕ ๑๒ ประชาธิปไตย ใบเล็ก ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๑.๑ ป.๓/4 ท ๑.๑ ป.๓/6 ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๓.๑ ป.๓/2 ท ๔.๑ ป.๓/2 - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - คำกริยา ๑๒ ๖
๕๙ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน ท ๓.๑ ป.๓/4 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๕.๑ ป.๓/๑ ท ๕.๑ ป.๓/๓ - คำที่ใช้ อำ, อัม, ใอ, ไอ, ไอย, อัย - อ่านเรื่องธนูดอกไม้กับเจ้าชาย น้อย - การอ่านทำนองเสนาะ - นิทานพื้นบ้าน ๑๓ ของดีในตำบล ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๑.๑ ป.๓/๘ ท ๒.๑ ป.๓/6 ท ๓.๑ ป.๓/3 ท ๔.๑ ป.๓/4 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๔.๑ ป.๓/2 - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - คำวิเศษณ์ - การตั้งคำถามและตอบคำถาม - การเขียนอวยพร - การอ่านข้อมูลจากแผนที่ ๑๒ ๖ ๑๔ ธรรมชาติ เจ้าเอย ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/6 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๔.๑ ป.๓/4 ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๒.๑ ป.๓/2 ท ๓.๑ ป.๓/5 - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - ประโยคเพื่อการสื่อสาร - การเขียนแสดงความรู้สึก นึกคิด ๑๒ ๖ ๑๕ เล่นคำทาย ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/6 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๔.๑ ป.๓/3 ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๒.๑ ป.๓/2 - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - การเขียนแผนภาพโครงเรื่อง - สำนวนไทย - การใช้พจนานุกรม ๑๒ ๖ ๑๖ บันทึก ความหลัง ท ๑.๑ ป.๓/๒ ท ๑.๑ ป.๓/๓ ท ๒.๑ ป.๓/3 ท ๒.๑ ป.๓/6 ท ๓.๑ ป.๓/4 ท ๔.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๑ ท ๑.๑ ป.๓/๕ ท ๒.๑ ป.๓/2 - การอ่านออกเสียง - การอ่านเสริมบทเรียน - ตอบคำถามในบทเรียน - การใช้เครื่องหมายต่างๆ - การบันทึกเหตุการณ์ ประจำวัน - การเขียนบันทึก ๑๒ ๖ รวมเวลาตลอดปีการศึกษา ๒๐๐ ๑๐๐
๖๐ โครงสร้างรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท 14101 จำนวน 4 หน่วยกิต จำนวนเวลา 160 ชั่วโมง หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 1 ขนมไทยไร้ เทียมทาน ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท 3.๑ ป.๔/2 ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การเขียนแผนภาพความคิด - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง 6 5 2 ออมไว้กำไร ชีวิต ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท 2.1 ป.4/3 ท 2.1 ป.4/7 ท 2.1 ป.4/8 ท ๔.๑ ป.๔/๕ ท ๔.๑ ป.๔/๖ ท ๕.๑ ป.๔/1 ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๕.๑ ป.๔/๔ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - บอกความหมายของสำนวน - ท่องจำบทอาขยานบทหลัก การผจญภัยของสุดสาคร 13 7 3 ผักสมุนไพร ใบหญ้ามีคุณค่า ทั้งนั้น ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๔.๑ ป.๔/๑ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน 7 6
๖๑ หน่วยที่ ชื่อหน่วย การเรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน ๓ (ต่อ) ผักสมุนไพร ใบหญ้ามีคุณค่า ทั้งนั้น - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - มาตราตัวสะกด - คำประวิสรรชนีย์และไม่ประ วิสรรชนีย์ - คำที่ใช้ไม้ยมก 4 ภูมิใจมรดกโลก ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๔.๑ ป.๔/๑ ท ๔.๑ ป.๔/๖ ท ๕.๑ ป.๔/๑ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๒ ท ๕.๑ ป.๔/๔ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - คำที่มีอักษรควบ - คำที่มีอักษรนำ - คำที่มีไม้ทัณฑฆาต - อักษร 3 หมู่ - คำเป็น คำตาย - วรรณคดีน้ำผึ้งหยดเดียวก่อ เหตุ 13 7 5 ชีวิตที่ถูกเมิน ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๔.๑ ป.๔/๑ ท ๔.๑ ป.๔/๔ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๒ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - ชนิดของคำ - คำสรรพนาม คำกริยา 7 6
๖๒ หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 5 (ต่อ) ชีวิตที่ถูกเมิน - คำวิเศษณ์ - ประโยคสื่อสาร 6 โอม! พินิจมหา พิจารณา ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป ๔/๔ ท ๑.๑ ป.๔/๕ ท ๑.๑ ป.๔/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๒.๑ ป.๔/๒ ท ๓.๑ ป.๔/๓ ท ๔.๑ ป.๔/๒ ท ๕.๑ ป.๔/๔ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน 13 6 6 (ต่อ) โอม! พินิจมหา พิจารณา ท ๒.๑ ป.๔/2 ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๒.๑ ป.๔/๔ ท ๓.๑ ป.๔/๒ ท ๕.๑ ป.๔/๒ - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - การแสดงความคิดเห็นเชิง วิจารณ์ - การแยกข้อเท็จจริงและ ข้อคิดเห็น - การสรุปเรื่อง - การเว้นวรรค - เครื่องหมายวรรคตอน - การเขียนย่อหน้า - การเขียนแผนภาพความคิด - มารยาทในการเขียน - อ่านออกเสีบงวรรณคดีเรื่อง ระบำสายฟ้า 7 แรงพิโรธจาก ฟ้าดิน ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๒.๑ ป.๔/๘ ท ๔.๑ ป.๔/๑ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๒.๑ ป.๔/๒ ท ๔.๑ ป.๔/๒ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - การคัดลายมือตัวบรรจง 5 7
๖๓ หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน - คำพ้องรูป คำพ้องเสียง คำ พ้องความหมาย - มารยาทในการเขียน 8 ไวรัสวายร้าย ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๒.๑ ป.๔/๑ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๒.๑ ป.๔/๗ ท ๒.๑ ป.๔/๘ ท ๕.๑ ป.๔/1 ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๒.๑ ป.๔/๒ ท ๕.๑ ป.๔/๔ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - การเขียนเรียงความ - มารยาทในการเขียน - อ่านวรรณคดี เรื่องเล่าจาก พัทลุง 11 5 9 สนุกสนานกับ การเล่น ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๒.๑ ป.๔/๕ ท ๒.๑ ป.๔/๘ ท ๔.๑ ป.๔/๔ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๔.๑ ป.๔/๒ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - ประโยค - การเขียนจดหมาย 5 6 10 หนูเอยจะบอก ให้ ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๒.๑ ป.๔/๒ ท ๓.๑ ป.๔/๓ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง 15 7
๖๔ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 10 (ต่อ) หนูเอยจะบอก ให้ ท ๒.๑ ป.๔/๔ ท ๒.๑ ป.๔/๖ ท ๕.๑ ป.๔/๑ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๕.๑ ป.๔/๓ - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - การบันทึกความรู้ - การเขียนย่อความ - การเลือกหนังสืออ่าน - อ่านออกเสียงวรรณคดี เรื่อง ดวงจันทร์ของลำเจียก 11 คนดีศรี โรงเรียน ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๕ ท ๑.๑ ป.๔/๗ ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๓.๑ ป.๔/๔ ท ๓.๑ ป.๔/๕ ท ๓.๑ ป.๔/๖ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๓.๑ ป.๔/๓ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - การพูดแนะนำตัว การพูด สนทนา การพูดโน้มน้าวใจ การ พูดโต้แย้ง 9 6 12 สารพิษใน ชีวิตประจำวัน ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๑ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๒.๑ ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๑ ท ๓.๑ ป.๔/๔ ท ๓.๑ ป.๔/๖ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๒.๑ ป.๔/๒ ท ๓.๑ ป.๔/๓ ท ๕.๑ ป.๔/๔ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อ นำไปใช้ในชีวิตจริง - การโฆษณา - วรรณคดีเรื่อง ห้องสมุดป่า 16 6
๖๕ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 13 อย่างนี้ดีควร ทำ ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๓.๑ ป.๔/๑ ท ๓.๑ ป.๔/๒ ท ๓.๑ ป.๔/๖ ท ๕.๑ ป.๔/1 ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๓.๑ ป.๔/๓ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อนำไปใช้ใน ชีวิตจริง - การฟังและการดู - มารยาทการฟังและการดูในที่ สาธารณะ - การอ่านกราฟ 7 6 14 กระดาษนี้มี ที่มา ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๕ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๒.๑ ป.๔/๔ ท ๒.๑ ป.๔/๖ ท ๒.๑ ป.๔/๘ ท ๓.๑ ป.๔/๔ ท ๓.๑ ป.๔/๕ ท ๔.๑ ป.๔/๕ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๒.๑ ป.๔/๒ ท ๓.๑ ป.๔/๓ ท ๕.๑ ป.๔/๔ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อนำไปใช้ใน ชีวิตจริง - การเขียนรายงาน - การพูดรายงาน - วรรณคดีเรื่อง เที่ยวเมืองพระร่วง - บทอาขยานหลัก สยามานุสสติ -บทอาขยานบทเลือก ไทยรวมกำลัง ตั้งมั่น 15 6 15 รักที่คุ้มภัย ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๑.๑ ป.๔/๘ ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ ท ๒.๑ ป.๔/๒ ท ๓.๑ ป.๔/๓ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ 8 7
๖๖ หน่วยที่ ชื่อหน่วย มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ จำนวน ชั่วโมง น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน ท ๔.๑ ป.๔/๓ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๔.๑ ป.๔/๗ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อนำไปใช้ใน ชีวิตจริง - ภาษาพูด ภาษาเขียน - ภาษาถิ่น - คำที่มาจากภาษาต่างประเทศ - การใช้พจนานุกรม - คำสุภาพ 16 ธรรมชาตินี้ มีคุณ ท 1.1 ป.4/2 ท 1.1 ป.4/3 ท ๒.๑ ป.๔/๓ ท ๒.๑ ป.๔/๘ ท ๔.๑ ป.๔/๔ ท ๔.๑ ป.๔/๕ ท ๕.๑ ป.๔/๒ ท ๑.๑ ป.๔/๑ ท ๑.๑ ป.๔/๖ - การอ่านออกเสียงในบทเรียน - การอ่านออกเสียง - การอ่านคิดวิเคราะห์ - การอ่านจับใจความ - การอ่านบทร้อยกรอง - การอ่านในใจ - การตอบคำถามในบทเรียน - ข้อคิดจากการอ่านเพื่อนำไปใช้ใน ชีวิตจริง - คำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง - การแต่งคำประพันธ์ - คำราชาศัพท์ - คำที่ใช้กับพระสงฆ์ 10 7 รวมเวลาตลอดปีการศึกษา 160 100
๖๗ โครงสร้างรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท 15101 จำนวน 4 หน่วยกิต จำนวนเวลา 160 ชั่วโมง หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ระหว่างทาง ปลายทาง 1 ครอบครัว พอเพียง (กำเนิดผิดพ้น คนทั้งหลาย) ท 1.1 ป 5/2 ท 1.1 ป 5/4 ท 1.1ป.5/8 ท 2.1ป.5/6 ท 3.1ป.5/1 ท 4.1ป.5/4 ท 5.1 ป 5/1 ท 5.1 ป 5/2 ท 5.1 ป 5/3 ท 1.1ป.5/๑ ท 3.1ป.5/1 ท 5.1ป5/4 - การอ่านจับใจความ - การพูดและการเขียนแสดง ความคิดเห็น - สรุปเรื่องจากวรรณคดีหรือ วรรณกรรม - คุณค่าของวรรณคดีและ วรรณกรรม - ท่องจำบทอาขยาน - มายาทในการอ่าน 12 8 2 คนละไม้คน ละมือ ท 1.1ป.5/7 ท 1.1ป.5/8 ท 4.1ป.5/1 ท 1.1ป.5/๑ ท 1.1ป.5/3 - คำบุพบท - เครื่องหมายวรรคตอน - การอ่านร้อยแก้ว - มารยาทในการอ่าน 7 5 3 ภัยเงียบ (กระเช้าของ นางสีดา) ท 1.1ป.5/8 ท 4.1ป.5/5 ท 4.1ป.5/7 ท 5.1ป.5/1 ท 5.1ป.5/2 ท 5.1ป.5/3 ท 1.1ป.5/1 ท 4.1ป.5/2 - ประโยคและส่วนประกอบ ของประโยค - สำนวนที่เป็นสุภาษิต - คำภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทย 12 6 4 ประธิปไตย ใบกลาง ท 1.1ป.5/8 ท 2.1ป.5/4 ท 2.1ป.5/9 ท 4.1ป.5/1 ท 1.1ป.5/5 - คำเชื่อม (คำสันธาน) - การย่อความ - การฟังและการอ่านงานเขียน ประเภทโน้มน้าวใจ 10 5 5 ร่วมแรง ร่วมใจ (วิชาเหมือน สินค้า) ท 1.1ป.5/4 ท 1.1ป.5/6 ท 2.1ป.5/3 ท 1.1ป.5/5 ท 5.1ป.5/4 - แผนภาพโครงเรื่อง - การอ่านข่าวสารทางราชการ - คำอุทาน 12 8
๖๘ หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก ระหว่างทาง ปลายทาง คะแนน 5 (ต่อ) ร่วมแรง ร่วมใจ (วิชาเหมือน สินค้า) ท 4.1ป.5/9 ท 4.1ป.5/1 ท 5.1ป.5/1 ท 5.1ป.5/2 ท 5.1ป.5/3 - ท่องจำบทอาขยาน 6 จากคลองสู่ห้อง แอร์ ท 2.1ป.5/3 ท 2.1ป.5/8 ท 2.1ป.5/9 ท 1.1ป.5/๑ ท 2.1ป.5/2 - เรียงความ - การเขียนเชิงจิตนาการ 10 5 7 ดั่งหยาดทิพย์ ชโลมใจ (พ่อค้าจากเมาะ ตะมะ) ท 1.1ป.5/6 ท 4.1ป.5/4 ท 5.1ป.5/1 ท 5.1ป.5/2 ท 5.1ป.5/3 ท 1.1ป.5/๑ - คำราชาศัพท์ - การใช้พจนานุกรม 12 6 8 ก้าวให้ไกล แล้ว ไปให้ถึง ท 1.1ป.5/4 ท 2.1ป.5/5 ท 2.1ป.5/6 ท 2.1ป.5/9 ท 3.1ป.5/2 ท 3.1ป.5/3 ท 3.1ป.5/5 ท 1.1ป.5/5 ท 3.1ป.5/1 - การคิดวิเคราะห์ในการรับสาร - การพูดและเขียนแสดงความ คิดเห็นเชิงวิเคราะห์ - การเขียนบันทึกการอ่าน 7 5 9 ชีวิตมีค่า (ตนเป็นที่พึ่ง แห่งตน) ท 1.1ป.5/3 ท 2.1ป.5/5 ท 2.1ป.5/9 ท 5.1ป.5/1 ท 5.1ป.5/2 ท 5.1ป.5/3 ท 1.1ป.5/๑ ท 5.1ป.5/4 - จดหมายถึงพ่อแม่ ญาติผู้ใหญ่ หรือ ผู้ปกครอง - อักษรย่อ - ท่องจำบทอาขยาน 12 8 10 ปลอดภัยไว้ ก่อน ท 3.1ป.5/4 ท 3.1ป.5/5 ท 4.1ป.5/3 ท 3.1ป.5/1 - ภาษาพูด ภาษาเขียน - ภาษาถิ่น- การพูดรายงาน การศึกษาค้นคว้าจากการฟัง การดู และการสนทนา 10 6
๖๙ หน่วยที่ ชื่อหน่วยการ เรียนรู้ มาตรฐาน/ตัวชี้วัด สาระสำคัญ เวลา (ชั่วโมง) น้ำหนัก คะแนน ระหว่างทาง ปลายทาง 11 หน้าต่างที่เปิด กว้าง (คบคนพาล พาลพาไปหา ผิด) ท 1.1ป.5/7 ท 1.1ป.5/8 ท 4.1ป.5/7 ท 5.1ป.5/1 ท 5.1ป.5/2 ท 5.1ป.5/3 ท 1.1ป.5/๑ ท 5.1ป.5/4 - การเลือกหนังสืออ่าน - โครงงาน 12 8 12 ภาษาจรรโลงใจ ท 2.1ป.5/9 ท 4.1ป.5/6 ท 4.1ป.5/7 ท 2.1ป.5/2 - กาพย์ยานี 11 7 5 13 สายน้ำ สาย ชีวิต ท 1.1 ป 5/2 ท 1.1 ป 5/4 ท 1.1 ป 5/8 ท 3.1ป.5/2 ท 1.1ป.5/๑ ท 1.1 ป 5/5 - การอ่านร้อยกรอง - การตั้งคำถามและตอบคำถาม 7 6 14 รู้ไว้ได้ประโยชน์ (เหตุการณ์ใน บ้านสวน (ผู้รู้ดี เป็นผู้เจริญ) ท 2.1ป.5/7 ท 2.1ป.5/9 ท 5.1ป.5/1 ท 5.1ป.5/2 ท 5.1ป.5/3 ท 1.1ป.5/3 ท 2.1ป.5/2 ท 5.1ป.5/4 - การเขียนแนะนำ - การกรอกแบบรายการ - ความหมายโดยนัย 12 6 15 ผลกระทบ ท 2.1ป.5/1 ท 2.1ป.5/8 ท 2.1ป.5/9 ท 4.1ป.5/7 ท 1.1ป.5/๑ -สำนวน -การคัดลายมือ 6 5 16 วิถีชีวิตไทย (ด้วยไทยล้วน หมายรัก สามัคคี) ท 3.1ป.5/5 ท 5.1ป.5/1 ท 5.1ป.5/2 ท 5.1ป.5/3 ท 2.1ป.5/2 ท 5.1ป.5/4 - การเขียนคำอวยพร - มารยาทในการฟัง การดู และ การพูดสนทนา - การท่องจำบทประพันธ์ 12 8 รวมเวลาตลอดปีการศึกษา 160 100
๗๐ โครงสร้างรายวิชา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รายวิชา ภาษาไทย รหัสวิชา ท 16101 จำนวน 4 หน่วยกิต จำนวนเวลา 160 ชั่วโมง หน่วย ที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ ชั่วโมง น้ำหนัก คะแนน ระหว่างทาง ปลายทาง ๑ จากผาแต้มสู่ อียิปต์ ท ๑.๑ ป.๖/๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๑.๑ ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๒.๑ ป.๖/๓ ท ๔.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๕ -การอ่านวัน เดือน ปี แบบไทย -ตัวเลขไทย - พยางค์ และคำ -ข้อคิดจากเรื่องที่อ่าน - นำความรู้ ความคิดจากการอ่าน และการฟัง ไปใช้ในชีวิตประจำวัน ๙ ๕ ๒ ควายข้าวและ ชาวนา ท ๑.๑ ป.๖/๒ ท ๒.๑ ป.๖/๙ ท ๔.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ - อักษร ๓ หมู่ - คำเป็น คำตาย - การผันวรรณยุกต์ - ความหมายของคำ - การเขียนสื่อสาร ๑๐ ๘ ๓ อ่านป้ายได้ สาระ ท ๑.๑ ป.๖/๒ ท ๑.๑ ป.๖/๓ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๑.๑ ป.๖/๘ ท ๔.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๒ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๔ - ระบุลักษณะของประโยค - กลุ่มคำ วลี - ประโยคสามัญและ ส่วนประกอบ ของประโยค - ภาษาพูด - ภาษาเขียน ๖ ๕ ๔ กทลีตานี ท ๑.๑ ป.๖/๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๑.๑ ป.๖/๙ ท ๔.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๔ - วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของ คำในประโยค - ระบุลักษณะของประโยค - คำนาม - คำสรรพนาม - คำกริยา ๙ ๘
๗๑ หน่วย ที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ ชั่วโมง น้ำหนัก คะแนน ระหว่างทาง ปลายทาง ๕ ละครย้อนคิด ท ๑.๑ ป.๖/๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๔ ท ๔.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ - เขียนเรียงความ - ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิง เหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู - วิเคราะห์ชนิดและหน้าที่ของ คำในประโยค - ระบุลักษณะของประโยค - คำวิเศษณ์ - คำบุพบท - ประโยคเพื่อการสื่อสาร ๑๕ ๖ ชมรมคนรัก วรรณคดี (วรรณคดี) ท ๓.๑ ป.๖/๒ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ๖ กลอนกานท์ จากบ้านไทย ท ๑.๑ ป.๖/๒ ท ๑.๑ ป.๖/๘ ท ๑.๑ ป.๖/๙ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๔.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๒ ท ๕.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๒ ท ๔.๑ ป.๖/๕ ท ๔.๑ ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๒ ท ๕.๑ ป.๖/๔ - คำเชื่อม - คำอุทาน - ท่องจำบทอาขยานตามที่ กำหนด และบทร้อยกรองที่มี คุณค่าตามความสนใจ - การอ่านกาพย์ยานี ๑๑ - การอ่านกลอนเสภา ๑๓ ๘ การเดินทาง ของพลาย น้อย (วรรณคดี) ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๒ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๓ ๗ กว่าแผ่นดิน จะกลบหน้า ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๓.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๓ ท ๓.๑ ป.๖/๔ ท ๓.๑ ป.๖/๕ ท ๓.๑ ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๖ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๓.๑ ป.๖/๕ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๔.๑ ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๔ - การพูด - การวิเคราะห์สำนวนไทย - คำพังเพย - สุภาษิตไทย ๗ ๕ ๘ ไม้งามในสวน แก้ว ท ๑.๑ ป.๖/๒ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๑.๑ ป.๖/๘ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ - ประโยครวม - ประโยคซ้อน - คำประพันธ์ประเภทร้อยแก้ว ๑๑ ๕
๗๒ หน่วย ที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ ชั่วโมง น้ำหนัก คะแนน ระหว่างทาง ปลายทาง ท ๑.๑ ป.๖/๙ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๔.๑ ป.๖/๕ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๓ ท ๕.๑ ป.๖/๔ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๔.๑ ป.๖/๕ - คำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง - ประเภทของกลอน นักสืบทอง อิน (วรรณคดี) ท ๑.๑ ป.๖/๒ ท ๒.๑ ป.๖/๓ ท ๓.๑ ป.๖/๒ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๓ ๙ ครื้นเครง เพลงพื้นบ้าน ท ๑.๑ ป.๖/๒ ท ๑.๑ ป.๖/๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๑.๑ ป.๖/๖ ท ๑.๑ ป.๖/๘ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๓.๑ ป.๖/๓ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๔.๑ ป.๖/๕ - เพลงพื้นบ้าน - ความหมายของประโยค - ข้อความที่เป็นโวหาร - การอ่านงานเขียนเชิงอธิบาย - การอ่านคำสั่ง - การดูสื่อต่าง ๆ ๗ ๘ ๑๐ ช้อนกลาง สร้างสุขภาพ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๒.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๙ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๓.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๓ ท ๓.๑ ป.๖/๔ ท ๓.๑ ป.๖/๕ ท ๓.๑ ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๓ ท ๕.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๓.๑ ป.๖/๓ ท ๔.๑ ป.๖/๔ - การพูดแสดงความคิดเห็นเชิง วิจารณ์ - การพูดปฏิเสธหรือโต้แย้ง - การสรุปความ - การย่อความ ๗ ๘
๗๓ หน่วย ที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ ชั่วโมง น้ำหนัก คะแนน ระหว่างทาง ปลายทาง ๑๑ สวยร้าย สายลับ ท ๑.๑ ป.๖/๗ ท ๒.๑ ป.๖/๑ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๒.๑ ป.๖/๓ ท ๒.๑ ป.๖/๘ ท ๒.๑ ป.๖/๙ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๒ ท ๔.๑ ป.๖/๔ - การเขียนและการคัดลายมือ - การพัฒนาการเขียน - การเขียนตามจินตนาการและ สร้างสรรค์ - การอ่านแผนที่ แผนผัง ๑๐ ๖ ๑๒ สี่ศิษย์พระ ดาบส ท ๒.๑ ป.๖/๘ ท ๓.๑ ป.๖/๓ ท ๓.๑ ป.๖/๔ ท ๓.๑ ป.๖/๕ ท ๓.๑ ป.๖/๖ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๓ ท ๕.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๓.๑ ป.๖/๓ ท ๓.๑ ป.๖/๕ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๕.๑ ป.๖/๔ - การเขียนโฆษณา - พูดแสดงความรู้ความเข้าใจ จุดประสงค์ของเรื่องที่ฟังและดู - พูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผล และ น่าเชื่อถือ - การเจรจาต่อรอง - การพูดโต้วาที - ตั้งคำถามและตอบคำถามเชิง เหตุผลจากเรื่องที่ฟังและดู - วิเคราะห์ความน่าเชื่อถือจาก การฟังและดูสื่อโฆษณาอย่างมี เหตุผล - มีมารยาทในการฟัง การดู และการพูด ๙ ๘ ๑๓ หนึ่งใน ประชาคม ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๒.๑ ป.๖/๖ ท ๒.๑ ป.๖/๙ ท ๔.๑ ป.๖/๓ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๔.๑ ป.๖/๖ - การสืบค้นข้อมูลจากสื่อ อิเล็กทรอนิกส์ - คำที่มาจากต่างประเทศ - การเขียนจดหมาย - จดหมายกิจธุระ ๑๒ ๕ ๑๔ เสียแล้วไม่ กลับคืน ท ๑.๑ ป.๖/๓ ท ๑.๑ ป.๖/๔ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๑.๑ ป.๖/๗ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ - การดู การฟัง และอ่านข่าว - การพูดสนทนา - การพูดโทรศัพท์ - การอ่านกราฟ ๑๑ ๕
๗๔ หน่วย ที่ ชื่อหน่วย มาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ ชั่วโมง น้ำหนัก คะแนน ระหว่างทาง ปลายทาง ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๓.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๓ ท ๓.๑ ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๒ - การอ่านแผนภูมิ อย่าชิงสุก ก่อนห่ามไม่ งามดี (วรรณคดี) ท ๑.๑ ป.๖/๘ ท ๓.๑ ป.๖/๒ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๓ ๑๕ นิทานแสน สนุก ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๒.๑ ป.๖/๗ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๒ ท ๕.๑ ป.๖/๓ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๕.๑ ป.๖/๒ - แยกข้อเท็จจริงและข้อคิดเห็น จากเรื่องที่อ่าน ดู และฟัง - มีมารยาทในการอ่าน - เขียนสื่อสารโดยใช้คำได้ ถูกต้อง ชัดเจน และเหมาะสม - กรอกแบบรายการ ๑๔ ๕ ศึกสายเลือด (วรรณคดี) ท ๑.๑ ป.๖/๒ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ๑๖ พ่างเพี้ยง พสุธา ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๓.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๔ ท ๓.๑ ป.๖/๖ ท ๔.๑ ป.๖/๒ ท ๑.๑ ป.๖/๑ ท ๑.๑ ป.๖/๕ ท ๒.๑ ป.๖/๒ ท ๓.๑ ป.๖/๑ ท ๔.๑ ป.๖/๒ ท ๔.๑ ป.๖/๔ ท ๕.๑ ป.๖/๒ - ใช้คำได้เหมาะสมกับกาลเทศะ และบุคคล - คำราชาศัพท์ - การศึกษาค้นคว้า - เล่านิทานพื้นบ้านท้องถิ่น ตนเองและนิทานพื้นบ้านของ ท้องถิ่นอื่น ๑๐ ๕ สมุดมิตรภาพ (วรรณคดี) ท ๑.๑ ป.๖/๒ ท ๕.๑ ป.๖/๑ ท ๕.๑ ป.๖/๓ ท ๕.๑ ป.๖/๔ รวมเวลาตลอดปีการศึกษา ๑๖๐ ๑๐๐
๗๕ สื่อ/แหล่งเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้เป็นเครื่องมือส่งเสริมสนับสนุนการจัดการกระบวนการเรียนรู้ ให้ผู้เรียนเข้าถึงความรู้ ทักษะกระบวนการ และคุณลักษณะตามมาตรฐานของหลักสูตรได้อย่างมีประสิทธิภาพ สื่อการเรียนรู้มี หลากหลายประเภท ทั้งสื่อธรรมชาติ สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยี และเครือข่าย การเรียนรู้ต่างๆ ที่มีใน ท้องถิ่น การเลือกใช้สื่อควรเลือกให้มีความเหมาะสมกับระดับพัฒนาการ และลีลาการเรียนรู้ที่หลากหลาย ของผู้เรียน การจัดหาสื่อการเรียนรู้ ผู้เรียนและผู้สอนสามารถจัดทำและพัฒนาขึ้นเอง หรือปรับปรุงเลือกใช้อย่าง มีคุณภาพจากสื่อต่างๆ ที่มีอยู่รอบตัวเพื่อนำมาใช้ประกอบในการจัดการเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมและสื่อสาร ให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ โดยสถานศึกษาควรจัดให้มีอย่างพอเพียง เพื่อพัฒนาให้ผู้เรียน เกิดการเรียนรู้ อย่างแท้จริง สถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้มีหน้าที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ควรดำเนินการดังนี้ 1. จัดให้มีแหล่งการเรียนรู้ ศูนย์สื่อการเรียนรู้ ระบบสารสนเทศการเรียนรู้ และเครือข่ายการเรียนรู้ ที่มีประสิทธิภาพทั้งในสถานศึกษาและในชุมชน เพื่อการศึกษาค้นคว้าและการแลกเปลี่ยนประสบการณ์การ เรียนรู้ ระหว่างสถานศึกษา ท้องถิ่น ชุมชน สังคมโลก 2. จัดทำและจัดหาสื่อการเรียนรู้สำหรับการศึกษาค้นคว้าของผู้เรียน เสริมความรู้ให้ผู้สอน รวมทั้ง จัดหาสิ่งที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาประยุกต์ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ 3. เลือกและใช้สื่อการเรียนรู้ที่มีคุณภาพ มีความเหมาะสม มีความหลากหลาย สอดคล้อง กับวิธีการเรียนรู้ ธรรมชาติของสาระการเรียนรู้ และความแตกต่างระหว่างบุคคลของผู้เรียน 4. ประเมินคุณภาพของสื่อการเรียนรู้ที่เลือกใช้อย่างเป็นระบบ 5. ศึกษาค้นคว้า วิจัย เพื่อพัฒนาสื่อการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียน 6. จัดให้มีการกำกับ ติดตาม ประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพเกี่ยวกับสื่อและการใช้สื่อ การเรียนรู้เป็นระยะๆ และสม่ำเสมอ ในการจัดทำ การเลือกใช้ และการประเมินคุณภาพสื่อการเรียนรู้ที่ใช้ในสถานศึกษา ควรคำนึงถึง หลักการสำคัญของสื่อการเรียนรู้ เช่น ความสอดคล้องกับหลักสูตร วัตถุประสงค์การเรียนรู้ การออกแบบ กิจกรรมการเรียนรู้ การจัดประสบการณ์ให้ผู้เรียน เนื้อหามีความถูกต้องและทันสมัยไม่กระทบความมั่นคง ของชาติ ไม่ขัดต่อศีลธรรม มีการใช้ภาษาที่ถูกต้อง รูปแบบการนำเสนอที่เข้าใจง่าย และน่าสนใจ
๗๖ แนวทางการจัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัด มาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดเป็นสิ่งที่กำหนดให้รู้ว่าผู้เรียนต้องรู้อะไร และทำอะไรได้ซึ่ง การจัดการเรียนรู้ที่ส่งผลต่อ คุณภาพของผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา และมีความสุขได้นั้นครูผู้สอนต้องศึกษาและวิเคราะห์สิ่งที่กำหนดไว้เพื่อให้เกิดกับ ผู้เรียนในมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดของแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ ซึ่งกำหนดกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ประกอบด้วย ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปะ การงานอาชีพและเทคโนโลยี และภาษาต่างประเทศ ฉะนั้นการจัดการเรียนรู้ให้ส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียนสูงสุดตามมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดครูผู้สอนต้อง มีความเข้าใจใน มาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้ชัดเจนก่อนนำไปออกแบบการจัดการเรียนรู้และวางแผนการ จัดการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้ที่นำสู่การพัฒนาสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน การจัดการเรียนรู้ที่นำไปสู่การพัฒนาสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนเป็นสิ่งที่ครูผู้สอนต้องคำนึง ถึงในกระบวนการจัดการเรียนรู้ครูผู้สอนต้องศึกษาและวิเคราะห์ให้รู้ว่าในแต่ละมาตรฐานการเรียนรู้ตัวชี้วัดจะนำพาผู้เรียน ให้เกิดสมรรถนะสำคัญของผู้เรียนที่กำหนดให้ไว้ ๕ ประการได้อย่างไรซึ่งสมรรถนะดังกล่าวประกอบด้วยความสามารถ ในการสื่อสารความสามารถในการคิดความสามารถในการแก้ปัญหาความสามารถในการใช้ทักษะชีวิตและความสามารถ ในการใช้เทคโนโลยีซึ่งสมรรถนะดังกล่าวจะเกิดขึ้นกับการสั่งสมประสบการณ์การจัดการเรียนรู้และได้รับการพัฒนา อย่างต่อเนื่องผ่านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ การจัดการเรียนรู้เพื่อไปสู่การพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่กำหนดไว้ทั้ง ๘ ประการแท้จริงคือมาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัดด้านคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ที่กำหนดไว้ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้แต่ที่กำหนดไว้ เป็นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานพุทธศักราช ๒๕๕๑ เนื่องจากต้องการเน้นย้ำ ให้เกิดขึ้นจนเป็นนิสัยสอดคล้องตามสภาพสังคมปัจจุบันครูผู้สอนสามารถนำไปพัฒนาผู้เรียนได้โดยสอดแทรกไปกับ การจัดกระบวนการเรียนรู้นอกจากนี้ยังสามารถพัฒนาผู้เรียนให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ผ่าน์กิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในสถานศึกษาและนอกสถานศึกษาด้วยการออกแบบกิจกรรมให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติบ่อยๆอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัย สำหรับคุณลักษณะอันพึงประสงค์สามารถพัฒนาเพิ่มเติมจาก ๘ คุณลักษณะที่หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ กำหนดไว้ได้ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับจุดเน้นของเขตพื้นที่การศึกษาสถานศึกษาและกลุ่มสาระการเรียนรู้ การวิเคราะห์มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดที่นำมาเป็นเป้าหมายการจัดการเรียนรู้ในแต่ละหน่วยการเรียนรู้ จะช่วยให้รู้ว่ามาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดมีความสัมพันธ์กันอย่างไร ตัวชี้วัดใดเป็นหลักตัวชี้วัดใดเป็นตัวเสริม/สนับสนุน ตัวชี้วัดใดควรเรียนซ้ำเพื่อให้เกิดทักษะกับผู้เรียน ตัวชี้วัดใดมีความยากง่าย ความซับซ้อนตัวชี้วัดใดควรเรียนก่อนเรียนหลัง
๗๗ หรือช่วงเวลาใด ซึ่งช่วยให้ครูผู้สอนเห็นการเชื่อมโยงของมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดที่กำหนดจุดเน้นที่ต้องพัฒนาผู้เรียน และสามารถจัดกิจกรรมการเรียนรู้และการวัดและประเมินผลให้เชื่อมโยงสัมพันธ์กันซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของหน่วย การเรียนรู้ที่มีมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมายดังแผนภาพที่ ๑ ต่อไปนี้ แผนภาพที่ ๑ แสดงความสัมพันธ์ของหน่วยการเรียนรู้อิงมาตรฐาน การจัดการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียน การจัดการเรียนรู้เป็นกระบวนการสำคัญในการนำหลักสูตรสู่การพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุตามเป้าหมายครูผู้สอน จึงควรให้ความสำคัญและการสรรหากระบวนการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้/ ตัวชี้วัดทั้ง ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ นำพาให้ผู้เรียนเกิดสมรรถนะสำคัญและคุณลักษณะอันพึงประสงค์การจัดกระบวนการเรียนรู้ที่ดีผู้เรียนควรได้มี ส่วนร่วมในการออกแบบกิจกรรม/กระบวนการเรียนรู้ความแตกต่างระหว่างผู้เรียนพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องกับพัฒนาการ ทางสมองและมุ่งเน้นความรู้คู่คุณธรรมจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญมีความหลากหลายทันสมัยเหมาะสมกับ วัยของผู้เรียนธรรมชาติของวิชาให้ผู้เรียนค้นคว้าหรือเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ตามความสนใจใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย เปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้ลงมือปฏิบัติจริงโดยมีครูผู้สอนเป็นผู้อำนวยความสะดวกทั้งนี้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้ให้หลักการที่สำคัญในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ไว้ดังนี้
๗๘ ๑. การจัดกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ การจัดกิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ เป็นการจัดกิจกรรมที่ยึดหลักการว่าผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้ได้ โดยการจัดวิธีการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับความสามารถของผู้เรียนแต่ละคนให้สามารถพัฒนาตนเองได้ การจัดกิจกรรม การเรียนรู้ควรเป็นสิ่งที่มีความหมายต่อผู้เรียนให้ผู้เรียนมีความสุขในการเรียนรู้ได้ลงมือศึกษาค้นคว้าคิดแก้ปัญหา และปฏิบัติงานเพื่อสร้างความรู้ได้ด้วยตนเองโดยมีครูผู้สอน เป็นผู้ส่งเสริมสนับสนุนจัดสถานการณ์ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ ๒. การจัดการเรียนรู้ที่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล การจัดการเรียนรู้ควรให้ความสำคัญของความแตกต่างระหว่างผู้เรียน มีพัฒนาการทางด้านร่างกายอารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญาการจัดการเรียนรู้ต้องส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ค้นพบและแสดงออกถึงศักยภาพของตนเองครูผู้สอน จึงควรมีข้อมูลผู้เรียนเป็นรายบุคคลสำหรับใช้ในการวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ และนำไปพัฒนาผู้เรียนให้เหมาะสม กับความแตกต่างของผู้เรียน ๓. การจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการทางสมอง การจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับการพัฒนาการทางสมองเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มุ่งเน้นให้ผู้เรียนได้รับ การพัฒนาได้อย่างเหมาะสมกับการทำงานของสมองการเชื่อมโยงวงจรสมองพัฒนาการทางอารมณ์ซึ่งจะส่งผลให้ผู้เรียน มีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ ทำงานและอยู่ร่วมกับผู้อื่นอย่างมีความสุข โดยใช้ประสบการณ์ตรงด้านร่างกาย ที่เป็นรูปธรรม ข้อเท็จจริง และทักษะด้านต่างๆที่ปรากฏในชีวิตจริงตามธรรมชาติเป็นเครื่องมือในการจัดการเรียนรู้ ให้สอดคล้องกับพัฒนาการทางสมอง ๔. การจัดการเรียนรู้ที่เน้นคุณธรรมจริยธรรม การจัดการเรียนรู้คุณธรรม จริยธรรม ด้วยการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการคุณธรรม จริยธรรม ได้รับรู้เกิดการยอมรับ เห็นคุณค่าและพัฒนาอย่างต่อเนื่องจนเป็นลักษณะนิสัยที่ดี
๗๙ การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ แนวทางการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ตัวชี้วัดระหว่างทาง ตัวชี้วัดปลายทาง เพื่อใหการจัดการเรียนการสอนและการวัดและประเมินผลเกิดความยืดหยุนคลองตัวและผูเรียนไดเขาถึง องคความรูใหม่ ๆ ในการพัฒนาตนเองที่ตอบสนองกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมโลก กำหนดแนวทางการวัดและ ประเมินผลการเรียนรูตัวชี้วัดระหวางทางตัวชี้วัดปลายทางดังนี้ ๑. การวัดและประเมินผลการเรียนรูตัวชี้วัด ระหวางทางและตัวชี้วัดปลายทางตัวชี้วัดระหวางทางและตัวชี้วัด ปลายทางที่สถานศึกษานําไปใชในการกําหนดโครงสรางรายวิชาการออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรูและการวัดและ ประเมินผลการเรียนรูใหผูเรียนไดรับการพัฒนาใหบรรลุ คุณภาพตามตัวชี้วัดที่กําหนดดําเนินการไดดังนี้ ๑.๑ ตัวชี้วัดระหวางทางเปนตัวชี้วัดที ่ใชในการจัดกิจกรรมการเรียนรูและเนนการประเมินในระหวาง การจัดกิจกรรมการเรียนรูที่เปนการประเมินเพื่อพัฒนาผูเรียนเปนหลัก (Formative Assessment) ผานมโนทัศนของ การประเมินเพื่อพัฒนาการเรียนรู(Assessment for learning)และการประเมินขณะเรียนรู้(Assessment as learning) ดวยวิธีการประเมินที่หลากหลายโดยเน นการวัดและประเมินผลแบบไม เปนทางการ(Informal Assessment) เชน การสังเกตพฤติกรรม การสอบปากเปลา การพูดคุย การใชคําถาม การเขียน สะทอนการเรียนรูการประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน เปนตน การวัดและประเมินผลแบบไมเปนทางการ (Informal Assessment) เปนการไดมาซึ่งขอมูล ผลการเรียน รูที่เนนผูเรียนเปนรายบุคคลจากแหลงขอมูลหลากหลายที่ผูสอนเก็บรวบรวมตลอดเวลาวิเคราะหขอมูล ศึกษาความพรอมและพัฒนาการของผูเรียนปรับการเรียนการสอนใหเหมาะสมและแกไขปญหาการเรียนรูของผูเรียน ลักษณะของขอมูลที่ไดนอกเหนือจากตัวเลขหรือขอมูลเชิงปริมาณแลว อาจเปนขอมูลบรรยายลักษณะพฤติกรรมที่ผูสอน เฝาสังเกตหรือผลการเรียนรูใน ลักษณะคําอธิบายระดับพัฒนาการจุดแข็ง จุดออนหรือปญหาของผูเรียนที่พบ จากการสังเกตสัมภาษณหรือวิธีการอื่นๆ ขอมูลที่ไดจะเปนประโยชนในการพัฒนาการเรียนรูของผูเรียน เปนรายบุคคล ชวยใหผูสอนเขาใจพฤติกรรมของผูเรียนไดเปนอยางดีและเปนวิธีการที่ยืดหยุนตามสถานการณและบริบทของครูผูสอน ๑.๒ ตัวชี้วัดปลายทาง เปนตัวชี้วัดที ่ใชในการจัดกิจกรรมการเรียน รูโดยเนนที่การประเมิน ผลลัพธ สุดทายที่ตองการใหเกิดกับผูเรียน (Summative Assessment) ดวยวิธีการที่หลากหลายเนนการวัดและประเมินผลแบบ เปนทางการ (formal Assessment) เชน การประเมินการปฏิบัติการประเมินแฟมสะสมงาน การประเมินดวยแบบทดสอบ การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน เปนตน การเก็บขอมูลดังกลาวใชในการวัดและประเมินที่ไดผลเปนคะแนนและนําไปใช ในการเปรียบเทียบ เชน เปรียบเทียบระหวางกอนเรียนและหลังเรียนเพื่อดูพัฒนาการหรือใชเพื่อประเมินผลสัมฤทธิ์ เมื่อสิ้นสุดการสอนในแตละหนวยการเรียนรูหรือรายวิชาวิธีการและเครื่องมือที่ใชเก็บรวบรวมขอมูลผลการเรียนรู แบบเปนทางการ
๘๐ อัตราส่วนคะแนน เก็บคะแนนระหว่างปีการศึกษา หลังเรียนจบหน่วยการเรียนรู้ คิดจากสัดส่วนคะแนนสอบกลางปีการศึกษากับสอบปลายปีการศึกษา สรุปปลายปี เป็นการประมวลผลคะแนนจาก สอบกลางปี 40 % สอบปลายปี 60 % คะแนนสอบกลางปี : คะแนนสอบปลายปี = 60 : 40 รายการวัดผลและประเมินผล คะแนน มีการวัดและประเมินผล ดังนี้ 1. คะแนนระหว่างปีการศึกษา 1.1 วัดโดยใช้แบบทดสอบ 1.2 วัดทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ (เลือกวัดตามแผนการจัดการเรียนรู้) 1.2.1 ภาระงานที่มอบหมาย - การทำใบงาน/แบบฝึกหัด/สมุดงาน - การร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ 1.2.2 แฟ้มสะสมงานภาษาไทย 1.2.3 สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1.3 วัดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาไทย 2. คะแนนสอบกลางปีการศึกษา : วัดและประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบ 3. คะแนนสอบปลายปีการศึกษา : วัดและประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบ 100 100 100 รวม 300 นำผลคะแนนรายการวัดผลและประเมินผลมาคำนวณเพื่อตัดสินผลการเรียน ดังนี้ วิธีการคำนวณ คะแนน *เทียบคะแนนระหว่างปีการศึกษา (100 ÷ 100) × 60 = 60 คะแนน หรือ(คะแนนที่ได้ ÷ 100) × 60 = 60 คะแนน 60 ** การวัดผลและประเมินผลปลายทาง (กลางปีการศึกษา) (100 ÷ 100) × 40 = 40 คะแนน หรือ(คะแนนที่ได้ ÷ 100) × 40 = 40 คะแนน 40 *** การวัดผลและประเมินผลปลายทาง (ปลายปีการศึกษา) (100 ÷ 100) × 60 = 60 คะแนน หรือ(คะแนนที่ได้ ÷ 100) × 60 = 60 คะแนน 60 ****สรุปการวัดผลและประเมินผลปลายทาง (** + ***) × 40 ÷ 100 = 40 คะแนน 40 รวมเวลาตลอดปีการศึกษาและคะแนนตัดสินผลการเรียน (* + ****) = 100 100
๘๑ เกณฑ์การวัดผลประเมินผล 1. การวัดและประเมินผลโดยใช้แบบทดสอบ ๑.๑ เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบเลือกตอบ พิจารณาจากความถูกผิดของการเลือกตอบ ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผิดให้ ๐ คะแนน ๑.๒ เกณฑ์การให้คะแนนแบบทดสอบแบบถูกผิด พิจารณาจากความถูกผิดของคำตอบ ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผิดให้ ๐ คะแนน ๑.๓ เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบแบบเติมคำ พิจารณาจากความถูกผิดของคำตอบ ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผิดให้ ๐ คะแนน ๑.๔ เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบจับคู่ พิจารณาจากความถูกผิดของการจับคู่ จับคู่ถูกให้ ๑ คะแนน จับคู่ผิดให้ ๐ คะแนน ๑.๕ เกณฑ์ให้คะแนนแบบทดสอบเปรียบเทียบ พิจารณาจากความถูกผิดของการเปรียบเทียบ เปรียบเทียบถูกได้ ๑ คะแนน เปรียบเทียบผิดให้ ๐ คะแนน ๑.๖ เกณฑ์การให้คะแนนแบบทดสอบแบบเขียนตอบ พิจารณาจากคำตอบในภาพรวมทั้งหมด โดยกำหนด ระดับคะแนนเป็น ๕ ระดับ ดังนี้ ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 4 ตอบได้ถูกต้อง สามารถอธิบายเหตุผลได้ชัดเจน แสดงแนวคิดเชิงเปรียบเทียบ 3 ตอบได้ถูกต้อง สามารถอธิบายเหตุผลได้อย่างชัดเจน 2 ตอบได้ถูกต้อง สามารถอธิบายเหตุผลได้เป็นบางส่วน แต่ยังไม่อย่างชัดเจน 1 ตอบได้ถูกต้อง แต่ไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ 0 ตอบไม่ถูกต้อง และไม่สามารถอธิบายเหตุผลได้ ๑.๗ เกณฑ์การให้คะแนนแบบทดสอบแบบต่อเนื่อง (๑) เกณฑ์การให้คะแนนแบบทดสอบแบบต่อเนื่องที่กำหนดสถานการณ์ พิจารณาจากความถูกผิดของคำตอบ ตอบถูกให้ ๑ คะแนน ตอบผิดให้ ๐ คะแนน (๒) เกณฑ์การให้คะแนนแบบทดสอบต่อเนื่องสองขั้นตอน โดยกำหนดระดับคะแนนเป็น 3 ระดับ ดังนี้ ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 2 เลือกคำตอบและบอกเหตุผลประกอบถูกต้อง 1 เลือกคำตอบถูกต้อง แต่บอกเหตุผลประกอบไม่ถูกต้อง หรือ เลือกคำตอบไม่ถูกต้อง แต่บอกเหตุผลประกอบได้สอดคล้องกับคำตอบที่เลือก 0 เลือกคำตอบและบอกเหตุผลประกอบไม่ถูกต้อง
๘๒ ๑.๘ เกณฑ์การให้คะแนนแบบทดสอบแสดงวิธีทำ โดยกำหนดระดับคะแนนเป็น ๕ ระดับ ดังนี้ ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 4 คำตอบถูกต้องและแสดงคฃวิธีทำที่มีประสิทธิภาพ โดยแสดงถึงการคิดอย่างเป็นระบบ และการวิเคราะห์ 3 คำตอบถูกต้องและแสดงวิธีทำถูกต้องสมบูรณ์ 2 คำตอบถูกต้อง แต่แสดงวิธีทำถูกต้อง 1 คำตอบถูกต้อง มีการแสดงวิธีทำ แต่ยังไม่สมบูรณ์ 0 คำตอบไม่ถูกต้อง และแสดงวิธีทำไม่ถูกต้อง 2. การวัดและประเมินผลดานทักษะ/กระบวนการ/สมรรถนะ 2.๑ ภาระงานที่มอบหมาย ไดแก่ ใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะกํานดเกณฑ การประเมินผล การทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะเปน ๔ ระดับ ดังนี้ ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 4 (ดีมาก) - ทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะครบถวนและเสร็จตามกําหนดเวลา - ทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะไดถูกตอง - แสดงลําดับขั้นตอนของการทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะชัดเจน เหมาะสม 3 (ดี) - ทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะครบถวนและเสร็จตามกําหนดเวลา - ทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะไดถูกตอง - สลับขั้นตอนของการทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะหรือไมระบุขั้นตอน ของการทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะ 2 (พอใช้) - ทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะครบถวนแตเสร็จหลังกําหนดเวลาเล็ก นอย - ทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะขอไมถูกตอง - สลับขั้นตอนของการทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะหรือไมระบุขั้นตอน ของการทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะ 1 (ปรับปรุง) - ทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะไมครบถวนหรือไมเสร็จตามกําหนดเวลา เล็ก - ทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะไมถูกตอง - แสดงลําดับขั้นตอนของการทําใบงาน/แบบฝกหัด/แบบฝกทักษะไม สัมพันธกับ โจทยหรือไมแสดงลําดับขั้นตอน
๘๓ ๒.๒ ด้านทักษะกระบวนการทางภาษาไทย เป็นการวัดความสามารถของผู้เรียนครอบคลุมประเด็นที่ต้อง ประเมิน ดังนี้ 2.1 การอ่าน การอ่านออกเสียงคำ ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คำประพันธ์ชนิด ต่าง ๆ การอ่าน ในใจเพื่อสร้างความเข้าใจ และการคิดวิเคราะห์สังเคราะห์ความรู้จากสิ่งที่อ่าน เพื่อนำไป ปรับใช้ในชีวิตประจำวัน 2.2 การเขียน การเขียนสะกดตามอักขรวิธีการเขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคำและรูปแบบต่าง ๆ ของ การเขียน ซึ่งรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่างๆ การเขียนตามจินตนาการ วิเคราะห์วิจารณ์ และ เขียนเชิงสร้างสรรค์ 2.3 การฟัง การดูและการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูดลำดับเรื่องราวต่างๆ อย่างเป็นเหตุเป็นผล การพูดในโอกาสต่างๆ ทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ และการพูด เพื่อโน้มน้าวใจ 2.4 หลักการใช้ภาษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้องเหมาะสมกับ โอกาสและบุคคล การแต่งบทประพันธ์ประเภทต่างๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศในภาษาไทย 2.5 วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาข้อมูล แนวความคิด คุณค่า ของงานประพันธ์ และความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทำความเข้าใจบทเห่ บทร้องเล่นของเด็ก เพลงพื้นบ้านที่เป็น ภูมิปัญญาที่มีคุณค่าของไทย ซึ่งได้ถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม 2.6 ขนบธรรมเนียมประเพณี เรื่องราวของสังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพื่อให้เกิด ความซาบซึ้งและภูมิใจ ในบรรพบุรุษที่ได้สั่งสมสืบทอดมาจนถึงปัจจุบัน ๒.๓ ด้านกระบวนการกลุ่ม การร่วมกิจกรรมการเรียนรู้ส่วนใหญ่มอบหมายภาระงานเป็นกลุ่ม กำหนดเกณฑ์การประเมินผลการร่วม กิจกรรมกลุ่มการเรียนรู้ ดังนี้ หัวข้อการประเมิน คะแนน ดีมาก(4) ดี(3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 1. การวางแผนการ ทำงาน มีส่วนร่วมในการ วางแผนการทำงาน และเสนอวิธีแก้ปัญหา หรือทางเลือกในการ ดำเนินงานอื่นๆได้ และสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ได้จริง มีส่วนร่วมในการ วางแผนการทำงาน และเสนอวิธีแก้ปัญหา หรือทางเลือกในการ ดำเนินงานอื่นๆได้ มีส่วนร่วมในการ วางแผนการทำงาน มีส่วนร่วมใน การวางแผนการ ทำงานน้อย
๘๔ หัวข้อการประเมิน คะแนน ดีมาก(4) ดี(3) พอใช้ (2) ปรับปรุง (1) 2. ความรับผิดชอบต่อ งานที่ได้รับมอบหมาย ทำงานที่ได้รับ มอบหมายอย่าง สมบูรณ์ และภายใน เวลาที่กำหนด ทำงานที่ได้รับ มอบหมายอย่าง สมบูรณ์ แต่ส่งช้ากว่า เวลาที่กำหนด ทำงานที่ได้รับ มอบหมายไม่สมบูรณ์ แต่ส่งภายในเวลาที่ กำหนด ทำงานที่ ได้รับมอบหมาย ไม่เสร็จสมบูรณ์ และส่งช้ากว่า เวลาที่กำหนด 3. ความร่วมมือในการ ทำงาน ให้ความร่วมมือใน การทำงานดีมาก ให้ความร่วมมือใน การทำงานดี ให้ความร่วมมือ ในการทำงานปาน กลาง ให้ความ ร่วมมือในการ ทำงานน้อย 4. มีส่วนร่วมในการ แสดงความคิดเห็น แสดงความ คิดเห็นได้ชัดเจนมาก และสามารถนำไป ประยุกต์ใช้ได้เป็น อย่างดีมาก แสดงความคิดเห็น ได้ชัดเจนและสามารถ นำไปประยุกต์ใช้ได้ดี แสดงความ คิดเห็นค่อนข้างน้อย และไม่สามารถนำไป ประยุกต์ใช้ได้ปาน กลาง แสดงความ คิดเห็นน้อย 5. การรับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น รับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่นเป็น อย่างมาก และ สามารถสรุป เสนอ ทางเลือกในการแก้ไข ปัญหาได้ดีมาก รับฟังความคิดเห็น ของผู้อื่นอย่างมาก และระบุจุดแข็งจุดอ่อนของหลักฐาน โต้แย้งได้ดี รับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่นปาน กลาง รับฟังความ คิดเห็นของผู้อื่น น้อย รวม 5 ข้อ 20 คะแนน
๘๕ 2.4 การประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน กำหนดเกณฑ์การตัดสินเป็นดีเยี่ยม ดีผ่าน และไม่ผ่าน และความหมายของแต่ละระดับ ดังนี้ ระดับคุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน 3 (ดีเยี่ยม) ผู้เรียนปฏิบัติตนตามสมรรถนะจนเป็นนิสัย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อประโยชน์สุขของ ตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมินระดับดีมากจำนวน 3-5 สมรรถนะ และไม่มี สมรรถนะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่าระดับดี 2 (ดี) ผู้เรียนมีสมรรถนะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เพื่อให้เป็นการยอมรับของสังคมโดยพิจารณาจาก 1) ได้ผลการประเมินระดับดีมาก จำนวน 1-2 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับดีหรือ 2) ได้ผลการประเมินระดับดีมาก จำนวน 2 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับพอใช้หรือ 3) ได้ผลการประเมินระดับดีจำนวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับผ่าน 1 (ผ่าน) ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนด โดยพิจารณาจาก 1) ได้ผลการประเมินระดับพอใช้จำนวน 4-5 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับพอใช้ หรือ 2) ได้ผลการประเมินระดับดีจำนวน 2 สมรรถนะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับผ่าน 0 (ไม่ผ่าน) ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยพิจารณาจากผล การประเมินระดับต้องปรับปรุง ตั้งแต่ 1 สมรรถนะ เกณฑ์การให้คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติสม่ำเสมอ ให้3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติบ่อยครั้ง ให้2 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้1 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติน้อยครั้ง ให้0 คะแนน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 13 – 15 ดีเยี่ยม (3) 9 – 12 ดี (2) 5 – 8 ผ่าน (1) ต่ำกว่า 5 ไม่ผ่าน (0)
๘๖ ชื่อ..................................................นามสกุล.................................................ชั้น........... ....เลขที่............... คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน และขีด ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0) 1. ความสามารถ ในการสื่อสาร 1.1 มีความสามารถในการรับ-ส่งสาร 1.2 มีความสามารถในการถ่ายทอดความรู้ ความคิด ความเข้าใจของตนเอง โดยใช้ภาษาอย่างเหมาะสม 1.3 ใช้วิธีการสื่อสารที่เหมาะสม มีประสิทธิภาพ 1.4 เจรจาต่อรองเพื่อขจัดและลดปัญหาความ ขัดแย้งต่าง ๆ ได้ 1.5 เลือกรับและไม่รับข้อมูลข่าวสารด้วยเหตุผล และถูกต้อง สรุปผลการประเมิน รวม....... คะแนน ระดับ...................... 2. ความสามารถ ในการคิด 2.1 มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ 2.2 มีทักษะในการคิดนอกกรอบอย่างสร้างสรรค์ 2.3 สามารถคิดอย่างมีวิจารณญาณ 2.4 มีความสามารถในการสร้างองค์ความรู้ 2.5 ตัดสินใจแก้ปัญหาเกี่ยวกับตนเองได้อย่าง เหมาะสม สรุปผลการประเมิน รวม....... คะแนน ระดับ...................... 3. ความสามารถ ในการแก้ปัญหา 3.1 สามารถแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ 3.2 ใช้เหตุผลในการแก้ปัญหา 3.3 เข้าใจความสัมพันธ์และการเปลี่ยนแปลงใน สังคม แบบการประเมินสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
๘๗ สมรรถนะด้าน รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไม่ผ่าน (0) 3.4 แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการ ป้องกันและแก้ไขปัญหา 3.5 สามารติดสินใจได้เหมาะสมตามวัย สรุปผลการประเมิน รวม....... คะแนน ระดับ...................... 4. ความสามารถ ในการใช้ทักษะ ชีวิต 4.1 เรียนรู้ด้วยตนเองได้เหมาะสมตามวัย 4.2 สามารถทำงานกลุ่มร่วมกับผู้อื่นได้ 4.3 นำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน 4.4 จัดการปัญหาและความขัดแย้งได้เหมาะสม 4.5 หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ที่ส่งผล กระทบต่อตนเอง สรุปผลการประเมิน รวม....... คะแนน ระดับ...................... 5. ความสามารถ ในการใช้ เทคโนโลยี 5.1 เลือกและใช้เทคโนโลยีได้เหมาะสมตามวัย 5.2 มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี 5.3 สามารถนำเทคโนโลยีไปใช้พัฒนาตนเอง 5.4 ใช้เทคโนโลยีในการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 5.5 มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี สรุปผลการประเมิน รวม....... คะแนน ระดับ...................... ลงชื่อ...................................................................ผู้ประเมิน
๘๘ 3. การประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ การประเมินผลคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ประเมินโดยใช้แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ กำหนด เกณฑ์ในการประเมินดังนี้ ระดับคุณภาพ เกณฑ์การให้คะแนน 3 (ดีเยี่ยม) ผู้เรียนปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป็นนิสัย และนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อประโยชน์สุข ของตนเองและสังคม โดยพิจารณาจากผลการประเมินทั้ง 9 คุณลักษณะ คือ ระดับ 3 จำนวน จำนวน 5 - 8 คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ำกว่าระดับ 2 2 (ดี) ผู้เรียนมีคุณลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์เพื่อให้เป็นการยอมรับของสังคมโดย พิจารณาจาก 1) ได้ผลการประเมิน ระดับ 3 จำนวน 1-4 คุณลักษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับ 2 หรือ 2) ได้ผลการประเมิน ระดับ 3 จำนวน 4 คุณลักษณะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับ 1 หรือ 3) ได้ผลการประเมิน ระดับ 2 จำนวน 5-8 คุณลักษณะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับ 1 1 (ผ่าน) ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่สถานศึกษากำหนด โดยพิจารณาจาก 1) ได้ผลการประเมิน ระดับ 1 จำนวน 4-5 คุณลักษณะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับ 1 หรือ 2) ได้ผลการประเมิน ระดับ 1 จำนวน 4 คุณลักษณะ และไม่มีสมรรถนะใดได้ผล การประเมินต่ำกว่าระดับ 1 0 (ไม่ผ่าน) ผู้เรียนรับรู้และปฏิบัติได้ไม่ครบตามเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด โดยพิจารณาจากผล การประเมิน ระดับต้อง 0 ตั้งแต่ 1 คุณลักษณะขึ้นไป เกณฑ์การให้คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติสม่ำเสมอ ให้3 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติบ่อยครั้ง ให้2 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติบางครั้ง ให้1 คะแนน - พฤติกรรมที่ปฏิบัติน้อยครั้ง ให้0 คะแนน
๘๙ ชื่อ..................................................นามสกุล.................................................ชั้น........... ....เลขที่............... คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียน และขีด ลงในช่องที่ตรงกับคะแนน คุณลักษณะ รายการประเมิน ระดับคุณภาพ ดีเยี่ยม ดี ผ่าน ไม่ผ่าน (3) (2) (1) (0) 1.รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี และเป็นประโยชน์ต่อ ทางโรงเรียน 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถือ ปฏิบัติตามหลัก ศาสนา 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามที่ โรงเรียนจัดขึ้น 2. ซื่อสัตย์ สุจริต 2.1 ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง และเป็นจริง 2.2 ปฏิบัติในสิ่งที่ถูกต้อง 3. มีวินัย รับผิดชอบ 3.1 ปฏิบัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ ของ โรงเรียน 3.2 มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ใน ชีวิตประจำวัน 4. ใฝ่เรียนรู้ 4.1 รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ และนำไปปฏิบัติได้ 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม 4.3 เชื่อฟังคำสั่งสอนของบิดา - มารดา ครู 4.4 ตั้งใจเรียน 5. อยู่อย่างพอเพียง 5.1 ใช้ทรัพย์สินและสิ่งของของโรงเรียนอย่างประหยัด 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัดและรู้คุณค่า 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 6. มุ่งมั่นในการทำงาน 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทำงานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคเพื่อให้งานสำเร็จ 7. รักความเป็นไทย 7.1 มีจิตสำนึกในการอนุรักษณ์วัฒนธรรมและภูมิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8. มีจิตสาธารณะ 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทำงาน 8.2 รู้จักการดูแลรักษาทรัพย์สินสมบัติและสิ่งแวดล้อมของ ห้องเรียนและโรงเรียน 9. มารยาทงาม น้ำใจดี มีความรับผิดชอบ 9.1 ปฏิบัติตนตามมารยาทไทย 9.2 มีน้ำใจเอื้อเฟื้อเพื่อแผ่ผู้อื่น 9.3 มีความรับผิดชอบต่อภาระงานที่ได้รับมอบหมาย ระดับคุณภาพตามเกณฑ์การประเมินในหลักสูตรรายชั้น ลงชื่อ.........................................................ผู้ประเมิน แบบการประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
๙๐ 4. เกณฑ์การตัดสินผลการเรียน 4.1 เกณฑ์การตัดสินระดับผลการเรียน ระดับผลการเรียน ความหมาย ช่วงคะแนน 4 ผลการเรียนดีเยี่ยม 80 – 100 3.5 ผลการเรียนดีมาก 75 – 79 3 ผลการเรียนดี 70 – 74 2.5 ผลการเรียนค่อนข้างดี 65 – 69 2 ผลการเรียนปานกลาง 60 – 64 1.5 ผลการเรียนพอใช้ 55 – 59 1 ผลการเรียนผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำ 50 – 54 0 ผลการเรียนต่ำกว่าเกณฑ์ 0 – 49 4.2 เกณฑ์การตัดสินผลการเรียน ร และ มส. (1) ตัดสินผลการเรียน ร หมายถึง รอการตัดสินและยังตัดสินผลการเรียนไม่ได้เนื่องจาก ผู้เรียนไม่มีข้อมูลผลการเรียน ในรายวิชาครบถ้วน ได้แก่ ไม่ได้วัดผลกลางภาคเรียน / ปลายภาคเรียน ไม่ได้ส่งงานที่มอบหมายให้ทำ ซึ่งงานนั้น เป็นส่วนหนึ่งของการตัดสินผลการเรียน หรือมีเหตุสุดวิสัยที่ทำให้ประเมินผลการเรียนไม่ได้ (2) ตัดสินผลการเรียน มส. หมายถึง ผู้เรียนไม่มีสิทธิเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากผู้เรียนมีเวลาเรียนไม่ถึงร้อยละ 80 ของเวลาเรียนทั้งหมด และไม่ได้รับการผ่อนผันให้เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน
๙๑ อภิธานศัพท์ กระบวนการเขียน กระบวนการเขียนเป็นการคิดเรื่องที่จะเขียนและรวบรวมความรู้ในการเขียน กระบวนการเขียน มี ๕ ขั้น ดังนี้ ๑. การเตรียมการเขียน เป็นขั้นเตรียมพร้อมที่จะเขียนโดยเลือกหัวข้อเรื่องที่จะเขียนบนพื้นฐานของประสบการณ์ กำหนดรูปแบบการเขียน รวบรวมความคิดในการเขียน อาจใช้วิธีการอ่านหนังสือ สนทนา จัดหมวดหมู่ความคิด โดยเขียน เป็นแผนภาพความคิด จดบันทึกความคิดที่จะเขียนเป็นรูปหัวข้อเรื่องใหญ่ หัวข้อย่อย และรายละเอียดคร่าวๆ ๒. การยกร่างข้อเขียน เมื่อเตรียมหัวข้อเรื่องและความคิดรูปแบบการเขียนแล้ว ให้นำความคิดมาเขียน ตามรูปแบบที่กำหนดเป็นการยกร่างข้อเขียน โดยคำนึงถึงว่าจะเขียนให้ใครอ่าน จะใช้ภาษาอย่างไรให้เหมาะสมกับเรื่อง และเหมาะกับผู้อื่น จะเริ่มต้นเขียนอย่างไร มีหัวข้อเรื่องอย่างไร ลำดับความคิดอย่างไร เชื่อมโยงความคิดอย่างไร ๓. การปรับปรุงข้อเขียน เมื่อเขียนยกร่างแล้วอ่านทบทวนเรื่องที่เขียน ปรับปรุงเรื่องที่เขียนเพิ่มเติมความคิด ให้สมบูรณ์ แก้ไขภาษา สำนวนโวหาร นำไปให้เพื่อนหรือผู้อื่นอ่าน นำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงอีกครั้ง ๔. การบรรณาธิการกิจ นำข้อเขียนที่ปรับปรุงแล้วมาตรวจทานคำผิด แก้ไขให้ถูกต้อง แล้วอ่านตรวจทานแก้ไข ข้อเขียนอีกครั้ง แก้ไขข้อผิดพลาดทั้งภาษา ความคิด และการเว้นวรรคตอน ๕. การเขียนให้สมบูรณ์ นำเรื่องที่แก้ไขปรับปรุงแล้วมาเขียนเรื่องให้สมบูรณ์ จัดพิมพ์ วาดรูปประกอบ เขียนให้สมบูรณ์ด้วยลายมือที่สวยงามเป็นระเบียบ เมื่อพิมพ์หรือเขียนแล้วตรวจทานอีกครั้งให้สมบูรณ์ก่อนจัดทำรูปเล่ม กระบวนการคิด การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน เป็นกระบวนการคิด คนที่จะคิดได้ดีต้องเป็นผู้ฟัง ผู้พูด ผู้อ่าน และผู้เขียน ที่ดี บุคคลที่จะคิดได้ดีจะต้องมีความรู้และประสบการณ์พื้นฐานในการคิด บุคคลจะมีความสามารถในการรวบรวมข้อมูล ข้อเท็จจริง วิเคราะห์ สังเคราะห์ และประเมินค่า จะต้องมีความรู้และประสบการณ์พื้นฐานที่นำมาช่วยในการคิดทั้งสิ้น การสอนให้คิดควรให้ผู้เรียนรู้จักคัดเลือกข้อมูล ถ่ายทอด รวบรวม และจำข้อมูลต่างๆ สมองของมนุษย์จะเป็นผู้บริโภค ข้อมูลข่าวสาร และสามารถแปลความข้อมูลข่าวสาร และสามารถนำมาใช้อ้างอิง การเป็นผู้ฟัง ผู้พูด ผู้อ่าน และผู้เขียนที่ดี จะต้องสอนให้เป็นผู้บริโภคข้อมูลข่าวสารที่ดีและเป็นนักคิดที่ดีด้วย กระบวนการสอนภาษาจึงต้องสอนให้ผู้เรียนเป็นผู้รับรู้ ข้อมูลข่าวสารและมีทักษะการคิด นำข้อมูลข่าวสารที่ได้จากการฟังและการอ่านนำมาสู่การฝึกทักษะการคิด นำการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน มาสอนในรูปแบบ บูรณาการทักษะ ตัวอย่าง เช่น การเขียนเป็นกระบวนการคิดในการ วิเคราะห์ การแยกแยะ การสังเคราะห์ การประเมินค่า การสร้างสรรค์ ผู้เขียนจะนำความรู้และประสบการณ์สู่การคิด และแสดงออกตามความคิดของตนเสมอ ต้องเป็นผู้อ่านและผู้ฟังเพื่อรับรู้ข่าวสารที่จะนำมาวิเคราะห์และสามารถแสดง ทรรศนะได้
๙๒ กระบวนการอ่าน การอ่านเป็นกระบวนการซึ่งผู้อ่านสร้างความหมายหรือพัฒนา การตีความระหว่างการอ่านผู้อ่านจะต้องรู้หัวข้อ เรื่อง รู้จุดประสงค์ของการอ่าน มีความรู้ทางภาษาที่ใกล้เคียงกับภาษาที่ใช้ในหนังสือที่อ่าน โดยใช้ประสบการณ์เดิมเป็น ประสบการณ์ทำความเข้าใจกับเรื่องที่อ่าน กระบวนการการอ่านมีดังนี้ ๑. การเตรียมการอ่าน ผู้อ่านจะต้องอ่านชื่อเรื่อง หัวข้อย่อยจากสารบัญเรื่อง อ่านคำนำให้ทราบจุดมุ่งหมาย ของ หนังสือ ตั้งจุดประสงค์ของการอ่านจะอ่านเพื่อความเพลิดเพลินหรืออ่านเพื่อหาความรู้ วางแผนการอ่านโดยอ่านหนังสือ ตอนใดตอนหนึ่งว่าความยากง่ายอย่างไร หนังสือมีความยากมากน้อยเพียงใด รูปแบบของหนังสือเป็นอย่างไร เหมาะกับ ผู้อ่านประเภทใด เดาความว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เตรียมสมุด ดินสอ สำหรับจดบันทึกข้อความหรือเนื้อเรื่องที่สำคัญ ขณะอ่าน ๒. การอ่าน ผู้อ่านจะอ่านหนังสือให้ตลอดเล่มหรือเฉพาะตอนที่ต้องการอ่าน ขณะอ่านผู้อ่านจะใช้ควา มรู้จาก การอ่านคำ ความหมายของคำมาใช้ในการอ่าน รวมทั้งการรู้จักแบ่งวรรคตอนด้วย การอ่านเร็วจะมีส่วนช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจ เรื่องได้ดีกว่าผู้อ่านช้า ซึ่งจะสะกดคำอ่านหรืออ่านย้อนไปย้อนมา ผู้อ่านจะใช้บริบทหรือคำแวดล้อมช่วยในการตีความหมาย ของคำเพื่อทำความเข้าใจเรื่องที่อ่าน ๓. การแสดงความคิดเห็น ผู้อ่านจะจดบันทึกข้อความที่มีความสำคัญ หรือเขียนแสดง ความคิดเห็น ตีความ ข้อความที่อ่าน อ่านซ้ำในตอนที่ไม่เข้าใจเพื่อทำความเข้าใจให้ถูกต้อง ขยายความคิดจากการอ่าน จับคู่กับเพื่อนสนทนา แลกเปลี่ยนความคิดเห็น ตั้งข้อสังเกตจากเรื่องที่อ่าน ถ้าเป็นการอ่านบทกลอนจะต้องอ่านทำนองเสนาะดังๆ เพื่อฟังเสียง การอ่านและเกิดจินตนาการ ๔. การอ่านสำรวจ ผู้อ่านจะอ่านซ้ำโดยเลือกอ่านตอนใดตอนหนึ่ง ตรวจสอบคำและภาษา ที่ใช้สำรวจโครงเรื่อง ของหนังสือเปรียบเทียบหนังสือที่อ่านกับหนังสือที่เคยอ่าน สำรวจและเชื่อมโยงเหตุการณ์ในเรื่องและการลำดับเรื่อง และ สำรวจคำสำคัญที่ใช้ในหนังสือ ๕. การขยายความคิด ผู้อ่านจะสะท้อนความเข้าใจในการอ่าน บันทึกข้อคิดเห็น คุณค่าของเรื่อง เชื่อมโยง เรื่องราวในเรื่องกับชีวิตจริง ความรู้สึกจากการอ่าน จัดทำโครงงานหลักการอ่าน เช่น วาดภาพ เขียนบทละคร เขียนบันทึกรายงานการอ่าน อ่านเรื่องอื่นๆ ที่ผู้เขียนคนเดียวกันแต่ง อ่านเรื่องเพิ่มเติม เรื่องที่เกี่ยวโยงกับเรื่องที่อ่าน เพื่อให้ได้ความรู้ที่ชัดเจนและกว้างขวางขึ้น การเขียนเชิงสร้างสรรค์ การเขียนเชิงสร้างสรรค์เป็นการเขียนโดยใช้ความรู้ ประสบการณ์ และจินตนาการในการเขียน เช่น การเขียน เรียงความ นิทาน เรื่องสั้น นวนิยาย และบทร้อยกรอง การเขียนเชิงสร้างสรรค์ผู้เขียนจะต้องมีความคิดดีมีจินตนาการดี มีคลังคำอย่างหลากหลาย สามารถนำคำมาใช้ในการเขียนต้องใช้เทคนิคการเขียน และใช้ถ้อยคำอย่างสละสลวย
๙๓ การดู การดูเป็นการรับสารจากสื่อภาพและเสียง และแสดงทรรศนะได้จากการรับรู้สาร ตีความ แปลความ วิเคราะห์ และประเมินคุณค่าสารจากสื่อ เช่น การดูโทรทัศน์ การดูคอมพิวเตอร์ การดูละคร การดูภาพยนตร์ การดูหนังสือการ์ตูน (แม้ไม่มีเสียงแต่มีถ้อยคำอ่านแทนเสียงพูด) ผู้ดูจะต้องรับรู้สาร จากการดูและนำมาวิเคราะห์ ตีความ และประเมินคุณค่า ของสารที่เป็นเนื้อเรื่องโดยใช้หลักการพิจารณาวรรณคดีหรือการวิเคราะห์วรรณคดีเบื้องต้น เช่น แนวคิดของเรื่อง ฉากที่ประกอบเรื่องสมเหตุสมผล กิริยาท่าทาง และการแสดงออกของตัวละครมีความสมจริงกับบทบาท โครงเรื่อง เพลง แสง สี เสียง ที่ใช้ประกอบการแสดงให้อารมณ์แก่ผู้ดูสมจริงและสอดคล้องกับยุคสมัยของเหตุการณ์ที่จำลองสู่บท ละคร คุณค่าทางจริยธรรม คุณธรรม และคุณค่าทางสังคมที่มีอิทธิพลต่อผู้ดูหรือผู้ชม ถ้าเป็นการดูข่าวและเหตุการณ์ หรือ การอภิปราย การใช้ความรู้หรือเรื่องที่เป็นสารคดี การโฆษณาทางสื่อจะต้องพิจารณาเนื้อหาสาระว่าสมควรเชื่อถือได้หรือไม่ เป็นการโฆษณาชวนเชื่อหรือไม่ ความคิดสำคัญและมีอิทธิพลต่อการเรียนรู้มาก และการดูละครเวที ละครโทรทัศน์ ดูข่าว ทางโทรทัศน์จะเป็นประโยชน์ได้รับความสนุกสนาน ต้องดูและวิเคราะห์ ประเมินค่า สามารถแสดงทรรศนะของตนได้อย่างมี เหตุผล การตีความ การตีความเป็นการใช้ความรู้และประสบการณ์ของผู้อ่านและการใช้บริบท ได้แก่ คำที่แวดล้อมข้อความ ทำความเข้าใจข้อความหรือกำหนดความหมายของคำให้ถูกต้อง พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕ ให้ความหมายว่า การตีความหมาย ชี้หรือกำหนดความหมาย ให้ความหมายหรืออธิบาย ใช้หรือปรับให้เข้าใจเจตนา และความมุ่งหมายเพื่อความถูกต้อง การเปลี่ยนแปลงของภาษา ภาษาย่อมมีการเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา คำคำหนึ่งในสมัยหนึ่งเขียนอย่างหนึ่ง อีกสมัยหนึ่งเขียนอีกอย่างหนึ่ง คำว่า ประเทศ แต่เดิมเขียน ประเทษ คำว่า ปักษ์ใต้ แต่เดิมเขียน ปักใต้ ในปัจจุบันเขียน ปักษ์ใต้ คำว่า ลุ่มลึก แต่ก่อนเขียน ลุ่มฦก ภาษาจึงมีการเปลี่ยนแปลง ทั้งความหมายและการเขียน บางครั้งคำบางคำ เช่น คำว่า หล่อน เป็นคำสรรพนาม แสดงถึงคำพูด สรรพนามบุรุษที่ ๓ ที่เป็นคำสุภาพ แต่เดี๋ยวนี้คำว่า หล่อน มีความหมายในเชิงดูแคลน เป็นต้น การสร้างสรรค์ การสร้างสรรค์ คือ การรู้จักเลือกความรู้ ประสบการณ์ที่มีอยู่เดิมมาเป็นพื้นฐานในการสร้างความรู้ ความคิดใหม่ หรือสิ่งแปลกใหม่ที่มีคุณภาพและมีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม บุคคลที่จะมีความสามารถในการสร้างสรรค์จะต้องเป็นบุคคล ที่มีความคิดอิสระอยู่เสมอ มีความเชื่อมั่นในตนเอง มองโลกในแง่ดี คิดไตร่ตรอง ไม่ตัดสินใจสิ่งใดง่ายๆ การสร้างสรรค์ของ มนุษย์จะเกี่ยวเนื่องกันกับความคิด การพูด การเขียน และการกระทำเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งจะต้องมีการคิดเชิงสร้างสรรค์เป็น พื้นฐาน
๙๔ ความคิดเชิงสร้างสรรค์เป็นความคิดที่พัฒนามาจากความรู้และประสบการณ์เดิม ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานของการพูด การเขียน และการกระทำเชิงสร้างสรรค์ การพูดและการเขียนเชิงสร้างสรรค์เป็นการแสดงออกทางภาษาที่ใช้ภาษาขัดเกลาให้ไพเราะ งดงาม เหมาะสม ถูกต้องตามเนื้อหาที่พูดและเขียน การกระทำเชิงสร้างสรรค์เป็นการกระทำที่ไม่ซ้ำแบบเดิมและคิดค้นใหม่แปลกไปจากเดิม และเป็นประโยชน์ ที่สูงขึ้น ข้อมูลสารสนเทศ ข้อมูลสารสนเทศ หมายถึง เรื่องราว ข้อเท็จจริง ข้อมูล หรือสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่สามารถ สื่อความหมายด้วยการพูดบอก เล่า บันทึกเป็นเอกสาร รายงาน หนังสือ แผนที่ แผนภาพ ภาพถ่าย บันทึกด้วยเสียงและภาพบันทึกด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เป็นการเก็บเรื่องราวต่างๆ บันทึกไว้เป็นหลักฐานด้วยวิธีต่างๆ ความหมายของคำ คำที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารมีความหมายแบ่งได้เป็น ๓ ลักษณะ คือ ๑. ความหมายโดยตรง เป็นความหมายที่ใช้พูดจากันตรงตามความหมาย คำหนึ่งๆ นั้น อาจมีความหมายได้หลาย ความหมาย เช่น คำว่า กา อาจมีความหมายถึง ภาชนะใส่น้ำ หรืออาจหมายถึง นกชนิดหนึ่ง ตัวสีดำ ร้อง กา กา เป็น ความหมายโดยตรง ๒. ความหมายแฝง คำอาจมีความหมายแฝงเพิ่มจากความหมายโดยตรง มักเป็นความหมายเกี่ยวกับความรู้สึก เช่น คำว่า ขี้เหนียว กับ ประหยัด หมายถึง ไม่ใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย เป็นความหมายตรง แต่ความรู้สึกต่างกัน ประหยัดเป็น สิ่งดี แต่ขี้เหนียวเป็นสิ่งไม่ดี ๓. ความหมายในบริบท คำบางคำมีความหมายตรง เมื่อร่วมกับคำอื่นจะมีความหมายเพิ่มเติมกว้างขึ้น หรือแคบ ลงได้ เช่น คำว่า ดี เด็กดี หมายถึง ว่านอนสอนง่าย เสียงดี หมายถึง ไพเราะ ดินสอดี หมายถึง เขียนได้ดี สุขภาพดี หมายถึง ไม่มีโรค ความหมายบริบทเป็นความหมายเช่นเดียวกับความหมายแฝง คุณค่าของงานประพันธ์ เมื่อผู้อ่านอ่านวรรณคดีหรือวรรณกรรมแล้วจะต้องประเมินงานประพันธ์ ให้เห็นคุณค่าของงานประพันธ์ ทำให้ ผู้อ่านอ่านอย่างสนุก และได้รับประโยชน์จาการอ่านงานประพันธ์ คุณค่าของงานประพันธ์แบ่งได้เป็น ๒ ประการ คือ ๑. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ถ้าอ่านบทร้อยกรองก็จะพิจารณากลวิธีการแต่ง การเลือกเฟ้นถ้อยคำมาใช้ได้ไพเราะ มีความคิดสร้างสรรค์ และให้ความสะเทือนอารมณ์ ถ้าเป็นบทร้อยแก้วประเภทสารคดี รูปแบบการเขียนจะเหมาะสมกับ เนื้อเรื่อง วิธีการนำเสนอน่าสนใจ เนื้อหามีความถูกต้อง ใช้ภาษาสละสลวยชัดเจน การนำเสนอมีความคิดสร้างสรรค์
๙๕ ถ้าเป็นร้อยแก้วประเภทบันเทิงคดี องค์ประกอบของเรื่องไม่ว่าเรื่องสั้น นวนิยาย นิทาน จะมีแก่นเรื่อง โครงเรื่อง ตัวละครมีความสัมพันธ์กัน กลวิธีการแต่งแปลกใหม่ น่าสนใจ ปมขัดแย้งในการแต่งสร้างความสะเทือนอารมณ์ การใช้ถ้อยคำสร้างภาพได้ชัดเจน คำพูดในเรื่องเหมาะสมกับบุคลิกของตัวละครมีความคิดสร้างสรรค์เกี่ยวกับชีวิตและสังคม ๒. คุณค่าด้านสังคม เป็นคุณค่าทางด้านวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณี ศิลปะ ชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์ และคุณค่าทางจริยธรรม คุณค่าด้านสังคม เป็นคุณค่าที่ผู้อ่านจะ เข้าใจชีวิตทั้งในโลกทัศน์และชีวทัศน์ เข้าใจการดำเนิน ชีวิตและเข้าใจเพื่อนมนุษย์ดีขึ้น เนื้อหาย่อมเกี่ยวข้องกับการช่วยจรรโลงใจแก่ผู้อ่าน ช่วยพัฒนาสังคม ช่วยอนุรักษ์สิ่งมี คุณค่าของชาติบ้านเมือง และสนับสนุนค่านิยมอันดีงาม โครงงาน โครงงานเป็นการจัดการเรียนรู้วิธีหนึ่งที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนเรียนด้วยการค้นคว้า ลงมือปฏิบัติจริง ในลักษณะของการ สำรวจ ค้นคว้า ทดลอง ประดิษฐ์คิดค้น ผู้เรียนจะรวบรวมข้อมูล นำมาวิเคราะห์ ทดสอบเพื่อแก้ปัญหาข้องใจ ผู้เรียนจะนำ ความรู้จากชั้นเรียนมาบูรณาการในการแก้ปัญหา ค้นหาคำตอบ เป็นกระบวนการค้นพบนำไปสู่การเรียนรู้ ผู้เรียนจะเกิด ทักษะการทำงานร่วมกับผู้อื่น ทักษะการจัดการ ผู้สอนจะเข้าใจผู้เรียน เห็นรูปแบบการเรียนรู้ การคิดวิธีการทำงานของ ผู้เรียน จากการสังเกตการทำงานของผู้เรียน การเรียนแบบโครงงานเป็นการเรียนแบบศึกษาค้นคว้าวิธีการหนึ่ง แต่เป็นการศึกษาค้นคว้าที่ใช้กระบวนการทาง วิทยาศาสตร์มาใช้ในการแก้ปัญหา เป็นการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนมีเหตุผล สรุปเรื่องราวอย่างมีกฎเกณฑ์ ทำงานอย่างมี ระบบ การเรียนแบบโครงงานไม่ใช่การศึกษาค้นคว้าจัดทำรายงานเพียงอย่างเดียว ต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลและมีการ สรุปผล ทักษะการสื่อสาร ทักษะการสื่อสาร ได้แก่ ทักษะการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน ซึ่งเป็นเครื่องมือของการส่งสารและการรับ สาร การส่งสาร ได้แก่ การส่งความรู้ ความเชื่อ ความคิด ความรู้สึกด้วยการพูด และการเขียน ส่วนการรับสาร ได้แก่ การรับความรู้ ความเชื่อ ความคิด ด้วยการอ่านและการฟัง การฝึกทักษะการสื่อสารจึงเป็นการฝึกทักษะการพูด การฟัง การอ่าน และการเขียน ให้สามารถรับสารและส่งสารอย่างมีประสิทธิภาพ ธรรมชาติของภาษา ธรรมชาติของภาษาเป็นคุณสมบัติของภาษาที่สำคัญ มีคุณสมบัติพอสรุปได้คือ ประการที่หนึ่ง ทุกภาษาจะ ประกอบด้วยเสียงและความหมาย โดยมีระเบียบแบบแผนหรือกฎเกณฑ์ในการใช้ อย่างเป็นระบบ ประการที่สอง ภาษามีพลัง ในการงอกงามมิรู้สิ้นสุด หมายถึง มนุษย์สามารถใช้ภาษา สื่อความหมายได้โดยไม่สิ้นสุด ประการที่สาม ภาษาเป็นเรื่องของ การใช้สัญลักษณ์ร่วมกันหรือสมมติร่วมกัน และมีการรับรู้สัญลักษณ์หรือสมมติร่วมกัน เพื่อสร้างความเข้าใจตรงกัน ประการที่สี่ ภาษาสามารถใช้ภาษาพูดในการติดต่อสื่อสาร ไม่จำกัดเพศของผู้ส่งสาร ไม่ว่าหญิง ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ สามารถ ผลัดกันในการส่งสารและรับสารได้ ประการที่ห้า ภาษาพูดย่อมใช้ได้ทั้งในปัจจุบัน อดีต และอนาคต ไม่จำกัดเวลาและ
๙๖ สถานที่ ประการที่หก ภาษาเป็นเครื่องมือการถ่ายทอดวัฒนธรรม และวิชาความรู้นานาประการ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ แนวคิดในวรรณกรรม แนวคิดในวรรณกรรมหรือแนวเรื่องในวรรณกรรมเป็นความคิดสำคัญในการผูกเรื่องให้ ดำเนินเรื่องไปตามแนวคิด หรือเป็นความคิดที่สอดแทรกในเรื่องใหญ่ แนวคิดย่อมเกี่ยวข้องกับมนุษย์และสังคม เป็นสารที่ผู้เขียนส่งให้ผู้อ่าน เช่น ความดีย่อมชนะความชั่ว ทำดีได้ดีทำชั่วได้ชั่ว ความยุติธรรมทำให้โลกสันติสุข คนเราพ้นความตายไปไม่ได้เป็นต้น ฉะนั้นแนวคิดเป็นสารที่ผู้เขียนต้องการส่งให้ผู้อื่นทราบ เช่น ความดี ความยุติธรรม ความรัก เป็นต้น บริบท บริบทเป็นคำที่แวดล้อมข้อความที่อ่าน ผู้อ่านจะใช้ความรู้สึกและประสบการณ์มากำหนดความหมายหรือความ เข้าใจ โดยนำคำแวดล้อมมาช่วยประกอบความรู้และประสบการณ์ เพื่อทำ ความเข้าใจหรือความหมายของคำ พลังของภาษา ภาษาเป็นเครื่องมือในการดำรงชีวิตของมนุษย์ มนุษย์จึงสามารถเรียนรู้ภาษาเพื่อการดำรงชีวิต เป็นเครื่องมือของ การสื่อสารและสามารถพัฒนาภาษาของตนได้ภาษาช่วยให้คนรู้จักคิดและแสดงออกของความคิดด้วยการพูด การเขียน และการกระทำซึ่งเป็นผลจากการคิด ถ้าไม่มีภาษา คนจะคิดไม่ได้ ถ้าคนมีภาษาน้อย มีคำศัพท์น้อย ความคิดของคนก็จะ แคบไม่กว้างไกล คนที่ใช้ภาษาได้ดีจะมีความคิดดีด้วย คนจะใช้ความคิดและแสดงออกทางความคิดเป็นภาษา ซึ่งส่งผลไปสู่ การกระทำ ผลของการกระทำส่งผลไปสู่ความคิด ซึ่งเป็นพลังของภาษา ภาษาจึงมีบทบาทสำคัญต่อมนุษย์ ช่วยให้มนุษย์พัฒนาความคิด ช่วยดำรงสังคมให้มนุษย์อยู่ร่วมกันในสังคมอย่างสงบสุข มีไมตรีต่อกัน ช่วยเหลือกัน ด้วยการใช้ภาษาติดต่อสื่อสารกัน ช่วยให้คนปฏิบัติตนตามกฎเกณฑ์ของสังคม ภาษาช่วยให้มนุษย์เกิดการพัฒนา ใช้ภาษา ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น การอภิปรายโต้แย้ง เพื่อนำไปสู่ผลสรุป มนุษย์ใช้ภาษาในการเรียนรู้ จดบันทึกความรู้ แสวงหาความรู้ และช่วยจรรโลงใจ ด้วยการอ่านบทกลอน ร้องเพลง ภาษายังมีพลังในตัวของมันเอง เพราะภาพย่อม ประกอบด้วยเสียงและความหมาย การใช้ภาษาใช้ถ้อยคำทำให้เกิดความรู้สึกต่อผู้รับสาร ให้เกิดความจงเกลียดจงชังหรือเกิด ความชื่นชอบ ความรักย่อมเกิดจากภาษาทั้งสิ้น ที่นำไปสู่ผลสรุปที่มีประสิทธิภาพ ภาษาถิ่น ภาษาถิ่นเป็นภาษาพื้นเมืองหรือภาษาที่ใช้ในท้องถิ่น ซึ่งเป็นภาษาดั้งเดิมของชาวพื้นบ้านที่ใช้พูดจากันในหมู่เหล่า ของตน บางครั้งจะใช้คำที่มีความหมายต่างกันไปเฉพาะถิ่น บางครั้งคำที่ใช้พูดจากันเป็นคำเดียว ความหมายต่างกันแล้วยัง ใช้สำเนียงที่ต่างกัน จึงมีคำกล่าวที่ว่า “สำเนียง บอกภาษา” สำเนียงจะบอกว่าเป็นภาษาอะไร และผู้พูดเป็นคน ถิ่นใด อย่างไรก็ตามภาษาถิ่นในประเทศไทยไม่ว่าจะเป็นภาษาถิ่นเหนือ ถิ่นอีสาน ถิ่นใต้สามารถสื่อสารเข้าใจกันได้ เพียงแต่สำเนียงแตกต่างกันไปเท่านั้น