The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานการศึกษาค้นคว้า (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jiraporn Thinbuatong, 2023-08-28 22:22:48

รายงานการศึกษาค้นคว้า (1)

รายงานการศึกษาค้นคว้า (1)

2 รายงานการศึกษาค้นคว้า เรื่อง แหล่งท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน จัดท าโดย นางสาวจิราพร ถิ่นบัวตอง 6410540131027 เสนอ ผู้ช่วยศาสตราจารย์สาโรช สอาดเอยี่ม รายงานเล่มนี้เป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้า รหัสวิชา GE4005 ภาคเรียนที่ 1/2566 สาขาวิชาการสอนภาษาไทย คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลยัวิทยาเขตล้านนา


ก ค าน า รายงานเล่มน้ีเป็นส่วนหน่ึงของ วิชา ( GE ๔๐๐๕ ) เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อ การศึกษาค้นคว้า สาขาวิชาเอกการสอนภาษาไทย ช้ันปีที่๓ โดยมีจุดประสงค์ เพื่อ การศึกษาค้นคว้าหาความรู้ที่เกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้ได้ศึกษา หาความรู้ โดยได้ศึกษาผ่านแหล่งความรู้ต่าง ๆ เช่น หนังสือ ห้องสมุด และแหล่งความรู้ จากเวบ็ ไซตต์ ่าง ๆ เพื่อศึกษา ใหเ้ขา้ใจในเน้ือหาของแหล่งท่องเที่ยวจงัหวดัแม่ฮ่องสอน ผู้จัดทํารายงานได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับประวัติความเป็ นมาโดยมีเน้ือหาในเล่มน้ี พระธาตุดอยกองมูหมู่บา้นรักไทย ปางอุ๋ง พระตาํหนักปางตองอุทยานแห่งชาติถ้าํ ปลาน้าํตกผาเสื่อและบา้นจ่าโบ่เป็นตน้ ขอขอบพระคุณ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ สาโรช สอาดเอี่ยม อาจารย์ประจํารายวิชา เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้า ผู้ให้ความรู้แนวทางในการศึกษา และ ขอขอบคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ ายที่ สนับสนุน ช่วยเหลือ และให้กําลังใจ จนผลงาน ประสบผลสําเร็จในคร้ังน้ีและขอยกคุณงามความดี จงมีแด่บูรพาจารย์ บรรพบุรุษผู้ให้ ความรู้วิชาภาษาไทยทุกท่าน และท้ายน้ีหวงัว่ารายงานเล่มน้ีจะเป็นประโยชน์และให้ ความรู้พอที่จะเป็นเน้ือหาประดบัสติปัญญาแก่ท่านผูอ้่านไม่มากก็นอ้ย นางสาวจิราพรถิ่นบวัตอง ๙ สิงหาคม ๒๕๖๖


ข สารบัญ เรื่อง หน้า คํานํา ก สารบัญ ข พระธาตุดอยกองมู 1 หมู่บ้านรักไทย 2 ปางอุ๋ง 3 พระตําหนักปางตอง 4อุทยานแห่งชาติถ้าํปลา-น้าํตกผาเสื่อ 7 บ้านจ่าโบ่ 10 บรรณานุกรม 13


1 พระธาตุดอยกองมู ที่มาของภาพ https://shorturl.asia/AoKCE วัดพระธาตุดอยกองมูมีชื่อเรียกแต่เดิมว่าวัดปลายดอย เป็นพระธาตุเจดียท์ ี่สร้างข้ึนเป็น แห่งแรกของแม่ฮ่องสอน เป็ นปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองที่สําคัญมาแต่โบราณ ต่อมาจึง เปลี่ยนชื่อเป็ นวัดพระธาตุดอยกองมูตามชื่อของพระธาตุ ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่ สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่สร้างโดย จองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็ นที่บรรจุพระธาตุ ของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่งนํามาจากประเทศพม่า ส่วนพระธาตุเจดีย์องค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดย พระยาสิงหนาทราชา เจ้าเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก เป็ นวัดคู่บ้านคู่เมืองที่ สาํคญัมีองคพ์ระธาตุเจดียส์ีขาวต้งัเด่นเป็นสง่า 2 องค์ ผู้คนต่างมาไหว้สักการะ เพื่อเป็ นสิริ มงคลแก่ตนเอง บริเวณวดัสามารถมองเห็นภูมิประเทศและสภาพตัวเมืองแม่ฮ่องสอนได้ อยา่งสวยงามชดัเจน มาไดต้้งัแต่เชา้เพื่อชมพระอาทิตยข์้ึนพร้อมกบัหมอกยามเชา้จิบกาแฟ อุ่น ละมุนใจ หรือจะมาช่วงเย็นชมพระอาทิตย์ตกพร้อมบรรยากาศดีดีก็ได้เช่นกัน ที่นี่ถือเป็ นวัดศักดิ์ สิทธิ์ คู่บ้านคู่เมืองของชาวจังหวัดแม่ฮ่องสอนมาช้านาน ชื่อเดิมมีชื่อ เรียกว่า “วัดปลายดอย” ประกอบด้วยพระธาตุเจดีย์ที่สวยงาม 2 องค์ พระเจดีย์องค์ใหญ่ สร้างโดยจองต่องสู่ เมื่อ พ.ศ. 2403 เป็ นที่บรรจุพระธาตุของพระโมคคัลลานะเถระ ซึ่ ง นํามาจากประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ลักษณะเป็ นเจดีย์ทรงเครื่องแบบมอญ ประดบัลวดลายปูนป้ัน มีฐานแปดเหลี่ยมซ้อนสามช้นับริเวณฐานดา้นล่างประดบัดว้ยซุ้ม พระตามทิศท้ังแปด ซุ้มประธานมีหลงัคาประดับเรือนยอดสามยอด แต่ละยอดเป็นทรง ปราสาทซ้อนสามช้นั ประดบัลวดลายปูนป้ันสวยงาม ส่วนพระธาตุเจดียอ์งค์เล็กสร้างเมื่อ พ.ศ. 2417 โดยพระยาสิงหนาทราชา เจ้าผู้ครองเมืองแม่ฮ่องสอนคนแรก วิหารวัดพระธาตุ ดอยกองมูอยู่ติดกบัพระธาตุเจดียอ์งคใ์หญ่ซ่ึงสร้างข้ึนพร้อมกนัวิหารหลงัน้ีมีลกัษณะเป็น อาคารเปิดโล่งผงัรูปสี่เหลี่ยมผืนผา้หลงัคาซ้อนสามช้ัน มุงด้วยกระเบ้ืองไมแ้ละตกแต่ง โลหะ ฉลุลวดลายตามแบบศิลปะไทใหญ่นอกจากน้ีบริเวณวดัยงัเป็นสถานที่จัดงาน


2 เทศกาลสําคัญประจําปี หลายงานของจังหวัด เช่น วันปี ใหม่ วันสงกรานต์ วันออกพรรษาที่ จะมีการตักบาตรดาวดึงส์ อันเป็ นประเพณีที่น่าสนใจของแม่ฮ่องสอน และที่น่าสนใจไม่ แพ้กันคือ วันลอยกระทง นักท่องเที่ยวสามารถร่วมกิจกรรม ลอยกระทงสวรรค์ โดยนํา ลูกโป่งอดัแก๊สผูกติดกบักระทงเป็นการลอยกระทงข้ึนไปบนฟ้าแลว้อธิฐานขอพรเหมือน เช่นการลอยบนน้าํเหตุที่ลอยกระทงลกัษณะเช่นน้ีเนื่องจากเมืองแม่ฮ่องสอน มิไดม้ีแหล่ง น้าํมากนกัจึงไดเ้ปลี่ยนวิธีลอยกระทงแบบเดิม สามารถมาสัมผสั ประสบการณ์ลอยกระทง สวรรค์ได้ที่นี่ที่เดียว1 หมู่บ้านรักไทย ที่มาของภาพ https://shorturl.asia/SxEwm เที่ยวหมู่บ้านจีนยูนานริมทะเลสาบ บ้านรักไทยแม่ฮ่องสอน ชมวิวทิวทัศน์ของหมู่บ้านที่ โอบลอ้มทิวเขา มีอ่างเก็บน้าํกลางหมู่บา้น ในยามเชา้จะไดเ้ห็นสายหมอกลอยพลิ้วปกคลุม กลายเป็ นภาพที่งดงามหมือนฝัน ยังมีกิจกรรมล่องเรือจีนชมวิว เป็นถิ่นปลูกชาช้ันดี หลากหลายสายพนัธุ์ท้งัชายอดน้าํคา้ง ชาอู่หลง ชาอสัสัม ชาโสม ที่แต่ละร้านมีให้จิบชา ฟรีรวมท้งัอาหารจีนยนูาน ท้งัขาหมูหมนั่โถวเห็ดหอมอบซีอิ้ว ผักผักยูนนานต่าง บ้านรัก ไทย จึงเป็ นจุดท่องเที่ยวแห่งเมืองสามหมอก ที่ ที่บ้านรักไทยยังมีที่พักมากมายให้เลือก เพื่อมาพกัผ่อนสัมผสับรรยากาศของความเป็นชุมชนชาวจีนยูนนานไดแ้บบเต็มอิ่ม เป็ น สถานนที่ท่องเที่ยวที่มีความครบครัน มีกิจกรรมให้สนุกมากมาย บ้านรักไทย ต้งัอยู่ใน ตําบลหมอกจําแป่ อําเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ไม่ไกลจากปางอุ๋ง เป็ นหมู่บ้านชาวจีน ยูนนานอดีต ทหารจีนคณะชาติ (กองพล 93) ก๊กมินตงั๊เมื่อเขา้มาในหมู่บา้นจะรู้สึกเหมือน 1 Tourism authority of Thailand ( ม.ป.ป.) พระธาตุดอยกองมู [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/P9xCa


3 หลุดเขา้มาอยู่ในเมืองจีน เพราะบา้นเรือน ร้านคา้ สิ่งก่อสร้างต่างๆ ดีไซน์แบบจีนเกือบ ท้ังหมด เคยมาเที่ยวบ้านรักไทย ต้ังแต่ช่วงที่ยังไม่มีร้านค้า ที่พักมากมายขนาดน้ี บรรยากาศยงัเป็นแบบด้ังเดิม แต่ถึงแม้เวลาจะเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม สิ่งที่ชื่นชมคือ หมู่บา้นแห่งน้ียงัคงมีความเหนี่ยวแน่น ในการรักษาวฒันธรรมแบบจีนของตวัเองไวไ้ม่ เปลี่ยน โดยส่วนตวัเราชอบ บา้นรักไทย ในเวอร์ชนั่น้ีมากกว่า เพราะมีอะไรให้เที่ยวแบบ เพลิดเพลินมากข้ึน ทําให้เป็ นที่นิยมของนักท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจ ถ่ายรูปสวย จํานวนมากในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดในฤดูหนาว เส้นทางภายในหมู่บ้านค่อนข้างแคบ ช่วงเช้าและเย็นเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวและรถยนต์ ทําให้การจราจรอาจติดขัดบ้างในบาง ช่วง ส่วนช่วงเที่ยวถึงบ้านค่อนข้างเงียบสงบ2 ปางอุ๋ง ที่มาของภาพ https://shorturl.asia/paOyf ปางอุ๋ง หรือที่มีชื่อเรียกเต็มๆ ว่า โครงการพระราชดําริปางตอง 2 (ปางอุ๋ง)มีลกัษณะพ้ืนที่ เป็นอ่างเก็บน้าํขนาดใหญ่บนยอดเขาสูง ริมอ่างเก็บน้าํเป็นทิวสนที่ปลูกเรียงรายกนั ในยาม เช้าช่วงฤดูหนาว จะได้สัมผัสกับภาพอันสวยงามของไอหมอกที่ลอยเหนือทะเลสาบ เคล้า ไปกับอากาศที่หนาวเย็น ทําให้ปางอุ๋งกลายเป็ นสถานที่ท่องเที่ยวยอดฮิตแสนโรแมนติ กของแม่ฮ่องสอน ยงิ่ยามพระอาทิตยข์้ึนจะสะทอ้นผืนน้าํผา่นทิวสน และไอหมอกบางๆ ยงิ่ เป็นภาพอบอุ่นชวนฝันภายในพ้ืนที่ของปางปุ๋ง ยงัมีที่พกัสะดวกสบายใหบ้ริการหลายหลงั ชื่อวา่รวมไทยเกสตเ์ฮาส์มีท้งัแบบบา้นหลงัใหญ่ที่อยตู่ ิดริมอ่างเก็บน้าํที่สามารถมองเห็น ได้จากหน้าบ้าน ที่นี่ไม่รับจองนะคะ รับเฉพาะ W a l k i n เท่าน้นัส่วนสายแคมปปิ้ง ที่ ตอ้งการกางเตน้ท์มีพ้ืนที่กางใหอ้ยทู่ ่ามกลางทิวสน โดยสามารถวอคอินเขา้เขา้มาไดเ้ลย โซนกางเตน้ทค์ ่อนขา้งกวา้ง ต้งัอยใู่นพ้ืนที่ของอุทยานแห่งชาติถ้าํปลา น้าํตกผาเสื่อ คนละ ส่วนกับบ้านพักค่ะ โดยคิดค่ากางเต้นท์คนละ 30 บาทมีร้านอาหารและร้านกาแฟให้บริการ 2 ไปด้วยกัน ( ม.ป.ป.) บ้านรักไทย [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/D90er


4 ตลอดท้งัวนันอกจากชมบรรยากาศของสายหมอกในยามเชา้แลว้กิจกรรมอีกอยา่งหน่ึงที่ พลาดไม่ได้คือ ล่องแพไมไ้ผ่ชมวิวเคลา้สายหมอกที่ทะเลสาบปางอุ๋ง แพไมไ้ผล่าํนึงจะนงั่ ได้ 2 คน มีเส้ือชูชีพให้คิดค่าบริการลาํละ 150 บาท ระยะเวลาในการล่องแพประมาณ 30 นาทีระหวา่งที่ล่องแพ อาจไดเ้จอกบัหงส์ดาราเจา้ถิ่น ทวา่ยน้าํอยใู่นทะเลสาบล่องเรือผา่น ทิวสนและสายหมอกศาลาไมไ้ผแ่บบแพลอยน้าํอีกหน่ึงมุมนงั่เล่น ชมวิวสุดชิล นอกจากน้ี ยงัมีที่ชมวิวเป็นพ้ืนไมท้ี่ลอยเหนือน้าํใหย้นื่ถ่ายรูปสวยๆมองแพไมไ้ผ่ที่แจวผา่นไปมา ท่ามกลางไอหมอกพระอาทิตยจ์ะเริ่มส่องแสง ประมาณ 7.30 น. ถือเป็ นช่วงเวลาไฮไลท์ เพราะแสงจะส่องกระทบกบัสายหมอกไปยงัผืนน้าํอบอุ่นงดงามมากประมาณ 8 กว่า แสง จะเริ่มจา้มากข้ึน ไอหมอกเริ่มลอยมากข้ึน พอเริ่มสาย ไอหมอกเริ่มนอ้ยลง เหลือไวแ้ค่ ความประทบั ใจที่มีต่อสถานที่แห่งน้ีปางอุ๋งดินแดนสุดโรแมนติกในความทรงจํา 3 พระต าหนักปางตอง ที่มาของภาพ https://shorturl.asia/85ZOl พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีความ เป็นห่วงเรื่องปัญหาการบุกรุกทาํลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ม โดยเฉพาะอย่าง ยิ่งทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ดังจะเห็นจากการที่ท้ังสองพระองค์เสด็จทรงพระราช ดาํเนินเยี่ยมราษฎรในพ้ืนที่ทุรกนัดารทวั่ทุกภาคของประเทศไทยและมีพระราชดาํริหลาย ต่อหลายคร้ังในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้จนกระทั่งเกิดโครงการตามแนว พระราชดําริต่าง ๆ ข้ึนทุกภูมิภาคของประเทศต้ังแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน โครงการ พระราชดาํริปางตอง 4 (พระตาํหนักปางตอง) เริ่มจากพระราชกระแสรับสั่งของสมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในการเสร็จเยี่ยมราษฎรและทรงประกอบพระราชกรณีย กิจในพ้ืนที่จงัหวดัแม่ฮ่องสอน เมื่อวนัที่24-25 มีนาคม 2536 ทรงมี พระราชเสาวนีย์ “ให้ 3 Kapook ( ม.ป.ป.) ปางอุ๋ง [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/lBwvE


5 มีการปลูกป่าทดแทนมากยิ่งข้ึน โดยเฉพาะบริเวณรอบศูนยบ์ริการและพฒันาเกษตรที่สูง (ปางตอง) ซึ่งยังมีปัญหาการบุกรุกทําลายป่ าไม้ ให้มีการปลูกป่ าทดแทนตลอดสองข้างทาง ให้มีการปลูกหวาย ส่งเสริมให้กับแผนกหวาย ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอน” และ เมื่อ วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2541 ณ ศูนย์ศิลปาชีพจังหวัดแม่ฮ่องสอนในพระบรมราชินูปถัมภ์ทรง มีพระราชเสาวนีย์“ให้ดาํเนินการดูแลรักษาพนัธุ์เอ้ืองแซะ ห้ามมิให้คนเขา้ไปนาํดอกเอ้ือง แซะในป่าออกขายและให้เพิ่มจาํนวนเอ้ืองแซะคืนสู่ป่าให้มากโดยขยายพนัธุ์แลว้ส่งเสริม ให้ประชาชนนาํไปปลูกในป่าและชกัชวนใหป้ระชาชนเขา้มาร่วมดูแลและขยายพนัธุ์เอ้ือง แซะใหม้ากข้ึน” โครงการฯ ไดเ้ริ่มดาํเนินงานต้งัแต่ปีพ.ศ.2537 โดยใช้ชื่อเดิม โครงการพฒันาพ้ืนที่ตาม พระราชดําริ พระตําหนักปางตอง-ท่าโป่งแดง (กรมป่าไม้) ในพ้ืนที่โฉนดที่ดินเรือน ประทบัแรมปางตอง บริเวณป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ปายฝั่งขวา (ตอนล่าง) ในเขตอุทยาน แห่งชาติถ้าํ ปลา-น้ําตกผาเสื่อ ตาํบลหมอกจาํแป่อาํเภอเมือง จงัหวดัแม่ฮ่องสอน พิกัด 389752 E 2156884 E มีเน้ือที่5,383 ไร่ลกัษณะภูมิประเทศของพ้ืนที่โครงการฯ ส่วน ใหญ่เป็นภูเขาสูงชนัสลบักบัที่ราบเชิงเขาสภาพภูมิอากาศพ้ืนที่โครงการฯ มีความสูงจาก ระดบัน้าํทะเลปานกลางประมาณ 800-1,000 เมตร ทําให้มีอากาศหนาวเย็นตลอดปี และมี ฝนตกชุกในช่วงฤดูฝน พระตาํหนกั ปางตอง หรือ"ศูนยบ์ริการและพฒันาที่สูงปางตองตามพระราชดาํริ"ก่อต้งัข้ึน เมื่อปี พ.ศ. 2523 โดยเป็ นศูนย์บริ การและพัฒนาแห่งที่สองของโครงการพัฒนาตาม พระราชดาํริจงัหวดัแม่ฮ่องสอน มีพ้ืนที่ท้งัหมด 5,353 ไร่ต้งัอยู่ในเขตตาํบลหมอกจาํแป่ เมืองแม่ฮ่องสอน โดยใช้เป็ นสถานที่สําหรับการทดลองค้นคว้าวิจัย และสาธิตชาวไทยภูเขา ในพ้ืนที่สูง ไดแ้ก่บา้นปางตอง (ไทยใหญ่,กะเหรี่ยง) บ้านนาป่ าแปก (ม้ง,ไทยใหญ่) บ้าน ห้วยมะเขือส้ม การเพาะปลูกพืช การเล้ียงสัตวเ์มืองหนาวเพื่อส่งเสริมให้แก่ราษฎร (มง้, ไทยไหญ่) และบ้านรวมไทย (ไทยใหญ่) ที่ส่วนมากมีอาณาเขตติดขอบชายแดนพม่าการ เดินทางก็ไม่ยาก จากตัวเมืองแม่ฮ่องสอนสามารถใช้ถนนหมายเลข 1095 เส้นที่จะไปปาย ได้ หรือถ้ามาจากปายก็ใช้ทางหลวงสายเดียวกันมุ่งหน้าสู่ตัวเมืองแม่ฮ่องสอน ทางแยกเข้า บา้งหมอกจาํแป่จะอยู่ก่อนถึงอาํเภอเมือง เป็นเส้นทางเดียวกนักบัที่จะไป "ปางอุ๋ง"แหล่ง ท่องเที่ยวยอดฮิตสําหรับคนที่ชอบความโรแมนติก จากทางเข้าไปตามป้ายบอกทางบ้านรัก ไทยผ่านทางแยกบา้นแม่สอยและผ่านน้าํตกผาเสื่อข้ึนไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร ก็จะถึง ปากทางเข้าพระตําหนักปางตองการเข้าเยี่ยมชมเจ้าหน้าที่บอกว่าไม่ต้องเสียค่าเข้าชมหรือ ขออนุญาต เพียงแต่จะมีทหารเฝ้าตลอดเวลา เพราะศูนยแ์ห่งน้ีสมเด็จพระนางเจา้ฯ จะเสด็จ


6 มาทรงงานเป็ นประจํา จึงให้ทหารจากหน่วยกรมทหารราบที่ 21รักษาพระองค์ หรือทหาร เสือพระราชินี หมุนเวียนกันมาปฏิบัติการ จุดแรกเมื่อผ่านเข้าสู่เขตพระตําหนัก ไม่ควรพลาดการแวะสักการะ "ศาลทหาร เสือ"และ "ศาลมหาราช" เพื่อความเป็นสิริมงคลศาลน้ีสร้างข้ึนเพื่อถวายองค์สมเด็จพระ นเรศวรมหาราช ที่เมื่อ 400 ปี เศษที่ผ่านมา ตามบันทึกพระองค์ทรงกรีธาทัพไปตีได้เมือง "หงสาวดี"จากน้นัจะไปตีเมืองตองอูต่อแต่กองทพัยงัไม่พร้อม ขดัสนเสบียงอาหารดว้ยจึง ต้องยกทัพกลับ เดินทัพกลับมาทาง "ปางตอง" แม่ฮ่องสอน ปาย แม่มาลัย เชียงใหม่ กลับ อยุธยา ดงัน้ันจึงต้งัเป็นอนุสรณ์สถานเพื่อรําลึกถึงพระองค์ไวท้ี่นี่ในโครงการพฒันาพ้ืนที่ สูงปางตองมีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็น คอกเล้ียงสัตวห์ายากอย่าง เน้ือทรายกวางป่าละมงั่ซ่ึงลว้นแต่เป็นสัตวใ์กลสู้ญพนัธุ์สถานีแปลงพนัธุ์ไมด้อกต่าง ๆ เรือนเพาะชาํกลา้ไมเ้มืองหนาวที่ชูช่อแข่งกนับานอยา่งสวยงาม มีท้งัพนัธุ์ไทยแทแ้ละนาํเขา้ จากต่างประเทศให้ได้ศึกษากันอย่างมากมาย ส่วนทางด้านหลังโรงเพาะแนะนําให้ไปดู ปลาสเตอเจียน (ไข่ปลาคาเวียร์) ที่กาํลงัแหวกว่ายอยู่ในสระใหญ่จากน้นัเดินต่อไปบนเนิน เขาขา้มสะพานตรงลาํธารเลก็ๆ ตามบนัไดที่ทอดยาวข้ึนไปดา้นบน ผา่นซุ้มแมกไมจ้ะเห็น พระตําหนักปางตองซึ่งเป็ นที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ยามเสด็จฯ เยือนแม่ฮ่องสอน เรือนพระตาํหนกัแห่งน้ีต้งัอยู่บนเนินเขาโดดเด่นมองเห็นไดอ้ย่างชดัเจน รอบบริเวณพระ ตาํหนกัร่มรื่นดว้ยร่มเงาไมใ้หญ่ดอกไมเ้ป็นพวงระยา้ส่งกลิ่นหอมคลุง้อวดผีเส้ือที่บินว่อน อย่างสวยงาม นักท่องเที่ยวสามารถที่จะเดินข้ึนไปชมภูมิทศัน์ดา้นบนรอบ ๆ พระตาํหนัก ได้ใกล้ๆ บริเวณลานจอดเฮลิคอปเตอร์เมื่อมองลงมาด้านล่างจะเห็นทุ่งเล้ียงแกะได้ บรรยากาศไม่ต่างกบัชนบทในต่างประเทศอีกจุดหน่ึงที่น่าสนใจคือ สถานีเพาะเล้ียงสัตว์ ป่าบนเน้ือที่กว่า 150 ไร่ อยู่ในส่วนดูแลรับผิดชอบของโครงการอนุรักษ์สัตว์ป่ า โดย ส่วนมากจะเป็นสัตวป์่าที่หายากใกลจ้ะสูญพนัธุ์มีท้งัเสือลายเมฆ ไก่ฟ้า นกยูงไทย ชะนี บิตุรงค์ หมีควาย นกเงือก เป็ นต้น และที่พลาดไม่ได้คือ การชื่นชมความน่ารักของฝูงแกะ เกือบร้อยตัวอย่างใกล้ชิด โดยนักท่องเที่ยวสามารถอุ้มแกะถ่ายภาพ หรือไล่ต้อนฝูงแกะได้ อย่างสนุกสนาน นอกจากน้ียงัมีผลิตภณัฑ์จากขนแกะอย่างผา้พนัคอผา้คลุมไหล่สวย ๆ ใหเ้ลือกซ้ือกนั ในราคากนัเองดว้ย การเดินทาง การเดินทางโดยรถยนต์ จากจังหวัดเชียงใหม่ไปยังโครงการพระราชดําริปางตอง 4 (พระ ตําหนักปางตอง) สามารถเดินทางได้โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 108 ผ่านอําเภอ แม่สะเรียง ถึงอําเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เป็ นระยะทาง 355 กิโลเมตร เดินทางต่อถึง


7 โครงการพระราชดําริปางตอง 4 (พระตําหนักปางตอง) อีกประมาณ 34 กิโลเมตร โดยใช้ เวลาในการเดินทางดว้ยรถยนตจ์ากจงัหวดัเชียงใหม่ถึงโครงการฯ ประมาณ 7 ชวั่โมง และ ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1095 จากเชียงใหม่ ผ่านแยกแม่มาลัย – อําเภอปาย– อําเภอ ปางมะผ้า – อําเภอเมือง ถึงโครงการฯ ระยะทางประมาณ 250 กิโลเมตร โดยใช้เวลา ใน การเดินทางดว้ยรถยนตจ์ากจงัหวดัเชียงใหม่ถึงโครงการฯ ประมาณ 5 ชวั่โมง 4 อุทยานแห่งชาติถ า้ปลา – น ้าตกผาเสื่อ ที่มาของภาพ https://shorturl.asia/han0Z ข้อมูลทั่วไป อุทยานแห่งชาติถ้าํ ปลา-น้ําตกผาเสื่อ มีพ้ืนที่ครอบคลุมพ้ืนที่วนอุทยานถ้าํ ปลา และวน อุทยานน้ําตกผาเสื่อในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติแม่ปายฝั่งขวา ทอ้งที่อาํเภอเมืองและกิ่ง อําเภอปางมะผ้า และด้วยเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน แนวเทือกเขาจะทอดยาวตามแนวเหนือ ใต้อีกท้งัยงัเป็นแหล่งตน้น้าํลาํธาร มีเอกลกัษณ์ทางธรรมชาติคือถ้าํ ปลา-น้าํตกผาเสื่อ ที่ สวยงามเป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป เหมาะสําหรับการไปพกัผ่อนหย่อนใจอุทยาน แห่งชาติถ้าํปลา-น้าํตกผาเสื่อ มีเน้ือที่ประมาณ 488 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 305,000 ไร่ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการอุทยานแห่งชาติคร้ังที่1/2540 เมื่อวนัที่28 มกราคม 2540 เห็นชอบให้กรมป่าไมด้าํเนินการสํารวจเพื่อจดัต้งัอุทยานแห่งชาติถ้าํปลา-ผาเสื่อ โดยเสนอ ร่างพระราชกฤษฎีกากาํหนดเป็นอุทยานแห่งชาติกรมป่าไมจ้ึงไดม้ีคาํสั่งที่652/2528 เรื่อง แต่งต้งัคณะกรรมการสาํรวจพ้ืนที่เพื่อจดัต้งัอุทยานแห่งชาติลงวนัที่10 เมษายน 2538และ 4 Dnp16 mr ( ม.ป.ป.) พระต าหนักปางตอง [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/TMqxN


8 คําสั่งกรมป่าไม้ที่240/2539 ลงวันที่1 กุมภาพันธ์2539 ให้นายพินิต สุวรรณรัตน์ ดาํเนินการสํารวจขอ้มูลเพิ่มเติมในพ้ืนที่วนอุทยานถ้าํปลาและวนอุทยานน้าํตกผาเสื่อเพื่อ จดัต้งัเป็นอุทยานแห่งชาติผลการสํารวจไดร้วบรวมพ้ืนที่ที่จะจดัต้งัเป็นอุทยานแห่งชาติ จาํนวน 305,000 ไร่หรือประมาณ 488 ตารางกิโลเมตร อุทยานแห่งชาติน้ีเป็นพ้ืนที่ป่า อนุรักษ์อย่างแทจ้ริง และได้กนัพ้ืนที่หมู่บา้นหรือชุมชน ออกจากที่จะประกาศจดัต้งัเป็น อุทยานแห่งชาติแล้ว ประกอบกับทางอุทยานแห่งชาติ ได้ดําเนินการประสานงานกับ หน่วยงานอื่น อาทิเช่น ฝ่ายปกครองผูน้ ําท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด จึงไม่มีปัญหามวลชนแต่ อย่างใดและต่อมา คณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการลักลอบทําลายทรัพยากร ป่ าไม้ประจําจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้มีการประชุมเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2539 ซึ่งมีนายสม เจตน์ วิริ ยะดํารงค์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็ นประธาน มีมติเห็นชอบให้ ดาํเนินการจดัต้งัอุทยานแห่งชาติต่อมาเมื่อวนัที่23ธนัวาคม 2552อุทยานแห่งชาติถ้าํปลาน้ําตกผาเสื่อได้รับการประกาศจดัต้งัเป็นอุทยานแห่งชาติลาํดับที่116ของประเทศไทย โดยประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เล่ม 126 ตอนที่96กลงวนัที่23ธนัวาคม 2552 มีเน้ือ ที่ประมาณ 394,120 ไร่ หรือ 630.59 ตารางกิโลเมตร ลกัษณะภูมิประเทศ เป็ นแนวเทือกเขาหลายเทือกสลับเป็ นลูกคลื่นต่อเนื่องไปจนจดชายแดนพม่าทางด้านทิศ เหนือ มีความลาดชันมาก จุดสูงสุดเป็ นยอดเขาดอยลาน สูงประมาณ 1,918 เมตรจาก ระดบัน้าํทะเลอาณาเขตทิศเหนือจดรัฐฉาน สาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพพม่า ทิศใต้ จดห้วยหมากอ้ืนและหว้ยผ้ึงอาํเภอเมืองจงัหวดัแม่ฮ่องสอน ทิศตะวนัออกจดลาํน้าํของกิ่ง อําเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทิศตะวันตกจดรัฐฉาน สาธารณรัฐสังคมนิยมแห่ง สหภาพพม่า ลกัษณะภูมิอากาศ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีลักษณะภูมิอากาศแบบฝนเมืองร้อนเฉพาะฤดูกาล ฤดูฝน เริ่มต้งัแต่กลางเดือนพฤษภาคม ถึงกลางเดือนตุลาคม ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ตะวนัตกเฉียงใต้ที่พัดผ่านทะเล และมหาสมุทร ทําให้อากาศชุ่มช้ืนและมีฝนตกชุก โดยเฉพาะเดือนสิงหาคม เป็นเดือนที่มีปริมาณน้าํฝนมากที่สุดในรอบปี ฤดูหนาว เริ่มต้ังแต่เดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนกุมภาพันธ์ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุม ตะวันออกเฉียงเหนือ โดยความกดอากาศสูงจากประเทศจีนแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทําให้


9 อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง โดยเฉพาะในเดือนพฤศจิกายน ถึงเดือนมกราคมเป็ นช่วงที่ เกิดหมอกมากที่สุดประมาณ 21 -26 วัน ส่วนมากเกิดตอนรุ่งเช้า โดยมีอุณหภูมิตํ่าสุดเฉลี่ย ได้ 9.80 องศาเซลเซียส ฤดูร้อน เริ่มต้งัแต่กลางเดือนกุมภาพนัธ์ถึงกลางเดือนพฤษภาคม จะมีอากาศร้อนอบอา้วทวั่ โดยเฉพาะเดือนเมษายน จะเป็ นเดือนที่มีอากาศร้อนที่สุดในรอบปี โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ย สูงสุด 34.09 องศาเซลเซียส พืชพรรณและสัตว์ป่ า สภาพป่าในพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติถ้าํปลา-น้าํตกผาเสื่อสามารถจาํแนกออกไดเ้ป็น ป่าดงดิบ ส่วนใหญ่จะเป็นผืนป่าดิบช้ืนและป่าดิบเขา ครอบคลุมพ้ืนที่ประมาณ 35 เปอร์เซ็นต์สภาพดินค่อนขา้งลึก มีความชุ่มช้ืนสูง ชนิดไมท้ ี่สาํคญั ไดแ้ก่ยาง ประดู่ตีนเป็ด ก่อ ฯลฯ พืชพ้ืนล่างจะพบหวายขิงข่าป่าและเฟิน มากมาย ป่าสนเขา เป็นป่าที่พบในพ้ืนที่สูงประมาณ 300-1,800 เมตรจากระดบัน้าํทะเลครอบคลุม พ้ืนที่ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ลกัษณะเป็นป่าโปร่งมีท้งัสนสองใบและสนสามใบ ส่วนใหญ่ จะข้ึนปะปนอยกู่บั ป่าเตง็รัง พืชพ้ืนล่างส่วนใหญ่เป็นหญา้คา ป่าเบญจพรรณ ครอบคลุมพ้ืนที่ประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์พบตามที่ราบเชิงเขาและที่ลาดชนั ตามไหล่เขา ตลอดจนริมห้วยทางตอนเหนือและตอนกลางของพ้ืนที่จนถึงระดบัความสูง ประมาณ 1,000 เมตรจากระดับน้ําทะเล ชนิดไมท้ ี่สําคญั ได้แก่ตะแบก มะค่าโมง ประดู่ แดง ไทรและงิ้วป่า ป่ าเต็งรัง พบตามสันเขาและตามที่ลาดชันที่ระดับความสูงประมาณ 300-900 เมตรจาก ระดบัน้าํทะเลครอบคลุมพ้ืนที่ประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์สภาพดินต้ืน มีกอ้นหินโผล่กรวด และลูกรังปะปน ชนิดไมท้ี่สาํคญั ไดแ้ก่มะค่าแต้เตง็รัง ตะแบกนา เป็นตน้ จากการสํารวจสัตว์ป่าในพ้ืนที่อุทยานแห่งชาติพบไม่น้อยกว่า 408 ชนิด เช่น เลียงผา กระทิง ควายป่ า หมี เก้ง กวางป่ า หมูป่ า กระต่ายป่ า และนกนานาชนิด ฯลฯ นก 123 ชนิด สัตวเ์ล้ียงลูกดว้ยน้าํนม 30 ชนิด สัตวส์ะเทินน้าํสะเทินบก5 ชนิด สัตวเ์ล้ือยคลาน 30 ชนิด ปลาน้าํจืด 20 ชนิด แมลง 200 ชนิด


10 อุทยานแห่งน้ีมีชื่อเต็มๆ ว่าอุทยานแห่งชาติถ้าํ ปลา-น้าํตกผาเสื่อ มีพ้ืนที่ครอบคลุมท้งัวน อุทยานถ้าํ ปลา และวนอุทยานน้ําตกผาเสื่อเป็นเทือกเขาสูงสลบัซับซ้อนกัน และยงัเป็น แหล่งตน้น้าํลาํธารอีกดว้ยค่ะแต่ไฮไลทข์องที่นี่จะอยทู่ ี่ถ้าํปลาและ น้าํตกผาเสื่อ ที่สวยงาม เหมาะสําหรับการพักผ่อนหย่อนใจค่ะ ถ้าํปลา จะต้งัอยตู่รงเชิงเขา เป็นแอ่งน้าํขนาดใหญ่กวา้งประมาณ 2 เมตร ลึก 1.5 เมตร ภายในถ้าํจะมีแอ่งน้าํและมีน้าํไหลออกจากถ้าํใตอ้ยตู่ลอดเลยค่ะ เลยเป็นถ้าํที่มีความไม่ เหมือนใคร ต่างจากที่อื่นๆ เพราะในถ้าํก็ยงัมีปลาเป็นจาํนวนมากอาศยัอยู่อีกดว้ย เลยเป็น ที่มาของชื่อ ถ้าํปลา นนั่เองค่ะ ดว้ยความที่น้าํของที่นี่ค่อนขา้งจะใสสะอาด เลยทาํให้ กลายเป็นที่อยขู่อง ปลาพลวง หรือในภาษาเหนือจะเรียกวา่ ปลาพุง หรือ ปลามุง นนั่เองค่ะ ซ่ึงปลาชนิดน้ีชอบอาศยัอยตู่ามน้าํตกและธารน้าํในป่าค่ะ มีเกลด็ขนาดใหญ่จดัอยใู่นวงศ์ เดียวกบั ปลาตะเพียน และ ปลาคาร์ฟค่ะแต่ตอ้งบอกก่อนว่า ไม่สามารถจบั ปลามากินไดน้ะ คะ เพราะทานไม่ได้ค่ะ ที่ทานไม่ได้ก็เพราะว่าอาหารของปลา ก็คือผลไม้ในป่ าที่หล่นลงมา ในน้าํค่ะ ซ่ึงอาจจะมีพิษค่ะ เลยทาํใหเ้น้ือของปลามีพิษไปดว้ย และยงัมีความเชื่ออีกวา่เป็น ปลาเจา้ค่ะ ถา้ใครที่ไดร้ับประทานไป ก็จะตอ้งมีอนัเป็นไปค่ะ นอกจากน้ีบริเวณดา้นนอก ของ ถ้าํปลา ยงัมีวิวทิวทศัน์ของสภาพป่าและหนา้ผาเขาหินปูน ธรรมชาติที่สวยงดงาม มากๆ เลยค่ะ บริเวณลานจอดรถก็จะมีร้านขายอาหารไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย เป็นสถานที่ที่เหมาะแก่การพกผ่อนชมธรรมชาติเป็ นที่สุดเลยค่ะ ั ใครอยากได้บรรยากาศ เยน็ๆร่มรื่นๆแบบน้ีของแม่ฮ่องสอนก็ต้องลองมาเที่ยวกันดูนะ 5 บ้านจ่าโบ ที่มาของภาพ https://shorturl.asia/YZIW4 5 Dnp.to.th ( ม.ป.ป.) อุทยานแห่งชาติถ ้าปลา-น ้าตกผาเสื่อ [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/EmFR4


11 “ นงั่หอ้ยขาทานก๋วยเตี๋ยว พกัโฮมสเตย์จิบกาแฟ ชมทะเลหมอกและพระอาทิตยข์้ึนในยาม เช้า” น่าจะเป็นเหตุผลหลกัที่ดึงดูดใจให้นักท่องเที่ยวหลายคน นั่งรถผ่านโคง้มาพนักว่า โคง้เพื่อเดินทางมาสัมผสับรรยากาศที่ชุมชนบา้นจ่าโบ่หรือมกัเรียกกนัส้ันๆวา่บา้นจ่าโบ่ ซ่ึงเป็นชุมชนชาวเขาที่ต้ังอยู่ใน อาํเภอปางมะผา้จงัหวดัแม่ฮ่องสอน ที่นี่นอกจากจะมี ธรรมชาติที่สวยงาม ท้งัวิวภูเขา เคลา้ทะเลหมอกเรายงัไดส้ ัมผสัวิถีชีวิตชนเผ่าแบบด้งัเดิมที่ เรียบง่าย บ้านจ่าโบ่ มีที่พักในในรูปแบบบ้านและกระท่อมไม้ไผ่ให้บริการ มากล่าวคํา ทักทายบ้านจ่าโบ่ว่า A-Bo-Da-ya (อาบูดะยา) ซึ่งเป็ นภาษาของชาวลาหู่หรือมูเซอ แปลว่า สวัสดี ชุมชนบ้านจ่าโบ่ ต้งัอยู่ระหว่างอาํเภอปายและอาํเภอเมืองแม่ฮ่องสอน บนเขาสูง บริเวณ โดยรอบของหมู่บา้นเป็นเทือกเขาหินปูน ท้งัสองฝั่งถนนขนาบไปด้วยบา้นเรือนไมแ้บบ ชาวเขาด้งัเดิมชาวบา้นในชุมชนบา้นจ่าโบ่เป็นชาวลาหู่ที่ยา้ยมาจากหว้ยยาวโดยการนาํของ นายจาโบ่ ไพรเนติธรรม ชื่อของ ชุมชนจ่าโบ่ มาจากชื่อของผู้นําหมู่บ้าน คนในชุมชนล้วน เกี่ยวดองเป็นญาติกนัท้งัหมด ยงัคงใชภ้าษาและเครื่องแต่งกายแบบลาหู่ซ่ึงแบ่งออกเป็น 3 ชาติพันธุ์ย่อย คือ มูเซอดํา มูเซอแดงและมูเซอเหลือง แตกต่างกันตามความเชื่อ และการ แต่งกาย ชุมชนบ้านจ่าโบ่คือเช้ือสายมูเซอดาํซ่ึงชาวมูเซอดาํจะใช้คาํเรียกว่า “จ่า”คาํ นําหน้าเพศชาย ส่วน “นา” จะเป็ นคําเรียกผู้หญิง ส่วนเครื่องแต่งกายของชาวบ้าน ใช้สีดํา เป็ นหลักซึ่ งเป็ นสีที่สําคัญของชาวชนเผ่า ตามความเชื่อถือว่า สีดําเป็ นสีศักดิ์ สิทธิ์ สีดํา หมายถึง ตวัตน สีขาว หมายถึงลาํธารน้าํสีเหลือง หมายถึงขา้วปุ๊ก(ขา้วโพดต เป็นอาหาร ชนิดนึง) สีแดง หมายถึง เลือดหมูสีฟ้า หมายถึงถวั่พืชพรรณ ดงัน้นัเส้ือชนเผา่แต่ละตวัมี ความหมายแตกต่างกันไปตามความเชื่อของผู้เย็บที่เลือกใช้สีต่างๆ เดินเล่นชมหมู่บ้านจะ ได้เห็นความเป็นอยู่ที่แสนจะเรียบง่ายและสงบกันเอง ในขณะเดียวกันรอยยิ้มและคาํ ทกัทายอย่างเป็นมิตรคือ สิ่งที่เราไดส้ ัมผสัจากชาวบา้นที่นี่หากสังเกตตามบา้นแต่ละหลงัมี เครื่องจักสานแบบเดียวกันแขวนไว้ที่ประตูทางเข้าทุกบ้าน เป็ นเหมือนเครื่องรางอะไรซัก อย่าง สอบถามมาได้ความว่า อนัน้ีคือเครื่องกันผีและสิ่งชั่วร้ายไม่ให้เข้ามาในบ้าน คง เหมือนกบัที่เราแขวนผา้ยนัตไ์วห้นา้บา้นนนั่เอง เมื่อมาถึงบา้นจ่าโบ่จะไดเ้จอกบัก๋วยเตี๋ยว ห้อยขาบา้นจ่าโบ่ร้านข้ึนชื่อของที่นี่นอกจากจะมีก๋วยเตี๋ยวแสนอร่อยในราคาหลกัสิบ มี กาแฟให้ได้ทานแล้ว มองไปรอบๆ จะเห็นว่าต้ังอยู่ในมุมที่เหมาะเจาะมองเห็นภูเขาที่ สวยงามสลบัซับซ้อน และในเวลาเช้าร้านน้ีเต็มไปดว้ยนกัท่องเที่ยวที่มารอชมทะเลหมอก และพระอาทิตยข์้ึนบรรยากาศประมาณ 7 โมงเชา้นกัท่องเที่ยวค่อนขา้งเยอะแต่ร้านกวา้งมี ที่นงั่หลายจุด ช่วงประมาณ 8 โมงไปแลว้จะเริ่มนอ้ยลงและทะเลหมอกยงัคงอยู่ให้เราได้ ชม เมนูก๋วยเตี๋ยวร้านน้ีมีท้งัก๋วยเตี๋ยวน้าํใส ตม้ยาํรสชาติอร่อยในราคาเริ่มตน้45 บาทติด


12 กับร้านก๋วยเตี๋ยว คือ จุดชมวิวบ้านจ่าโบ่ ที่จัดทําเป็ นระเบียงไม่เล็กๆยื่นออกไป ให้ได้ ถ่ายภาพนอกจากร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา บ้านจ่าโบ่ ยังมีร้านกาแฟอีกสองร้านที่วิวสวยให้แวะ ท้งัร้านกาแฟสาวลาหู่ที่อยู่ถดัจากร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา สามารถมานั่งจิบเครื่องดื่ม ชมวิว ภูเขาและทะเลหมอกได้เช่นกัน เป็ นร้านที่ตกแต่งได้น่ารักแอบทันสมัยอีกหนึ่งร้าน คือ เด็ก ดอย คอฟฟี่ภายในร้านตกแต่งได้น่ารักเช่นกัน มานั่งเล่นช่วงเย็น ได้ชมวิวภูเขาและ บรรยากาศที่สวยงาม สั่งชาเยน็มาดื่ม รสชาติอร่อย ชาหอม รสละมุนกาํลงัดีในช่วงเวลาเชา้ เป็นอีกช่วงเวลาที่สวยงาม ไดเ้ห็นทะเลหมอกแบบใกลม้ากรวมท้งัแสงอาทิตยท์ ี่สาดส่อง ลงมา ร้านน้ีแนะนาํให้มาซักช่วง 8 – 9 โมง หลงัจากไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยวห้อยขาแลว้ก็ไดค้่ะ ช่วงเวลาน้ีแสงจะสวยพอดีและนักท่องเที่ยวกลบักับหมดแลว้วนัเสาร์อาทิตย์ร้านเปิด 6.30 น. ส่วนวนัธรรมดาร้านเปิดต้งัแต่7 โมงมาถึงบา้นจ่าโบ่ต้องพกัค้างคืน เพื่อจะได้ สัมผัสกับบรรยากาศได้แบบเต็มที่ ภายในหมู่บ้านมีที่พักให้บริการหลายแห่ง เป็ นบ้านพัก โฮมสเตย์แบบเรียบง่าย สามารถชมวิวอันสวยงามของทะเลหมอกและขุนเขาได้จากหน้าที่ พัก เราเลือกพักที่ ลานกางเต้นท์จ่าทอ &โฮมสเตย์ที่นี่ต้งัอยู่บนเนินเขาสูง ตรงขา้มกบัร้าน ก๋วยเตี๋ยวห้อยขา มีที่พกัให้บริการท้งัในรูปแบบเตน้ท์ลานกางเตน้ท์และบา้นพกัเราเลือก พกัแบบบา้นมูเซอหลงัที่3 ราคาห้องพกัคืนละ1500 บาท เป็นห้องพดัลม มีห้องน้าํในตวั เครื่องทาํน้าํอุ่น พร้อมอาหารเยน็ห้องพกัสะอาด วิวจากหนา้ห้องมองเห็นภูเขาและในยาม เช้าก็เห็นทะเลหมอก วิวเดียวกับร้านก๋วยเตี๋ยวห้อยขา แต่มองเห็นในระดับที่สูงกว่า แต่ตอน เดินข้ึนไปยงัที่พกัแอบหอบนิดนึง เพราะต้งัอยู่บนเนินเขา สามารถติดต่อจองห้องพกัได้ ทางอินบล็อกเพจ บ้านจ่าทอ โดยตรงยามเช้ามองเห็นทะเลหมอกได้จากบ้านพัก วิวดีมาก นงั่เล่น ชมวิว หนา้ห้องฟินสุด เดินเล่นสัมผสับรรยากาศวิถีชีวิตบา้นเรือนของชาวเขาแบบ ด้ังเดิม นั่งจิบกาแฟ มองวิวภูเขา คุ้มแล้วกับการเดินทางผ่านโค้งมาหลายโค้ง เพื่อมา พกัผอ่นและไดเ้ห็นวิวแบบน้ี 6 6 ไปด้วยกัน ( ม.ป.ป.) บ้านจ่าโบ่ [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/YZIW4


13 บรรณานุกรม ไปด้วยกัน ( ม.ป.ป.) บ้านจ่าโบ่ [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/YZIW4 ไปด้วยกัน ( ม.ป.ป.) บ้านรักไทย [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/D90er Dnp16 mr ( ม.ป.ป.) พระต าหนักปางตอง [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/TMqxN Dnp.to.th ( ม.ป.ป.) อุทยานแห่งชาติถ ้าปลา-น ้าตกผาเสื่อ [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/EmFR4 Kapook ( ม.ป.ป.) ปางอุ๋ง [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566 ] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/lBwvE Tourism authority of Thailand ( ม.ป.ป.) พระธาตุดอยกองมู [ สืบค้นเมื่อ 9 สิงหาคม 2566] แหล่งที่มา https://shorturl.asia/P9xCa


14


Click to View FlipBook Version